Ice-Cold โพสต์ 2011-4-20 00:27:58

เศรษฐกิจพอเพียง

สุวรรณ กันภัย"เศรษฐกิจพอเพียง" ที่ควรเอาอย่าง    " ถ้าวันพรุ่งนี้ หรือวันต่อๆ ไป หากโลกนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้ เราจะนึกถึงอะไร...หรือนึกถึงใคร "            
            จั่วหัวไว้แบบนี้ ไม่ใช่ว่าผมอยากจะกลับไปใช้ชีวิตแบบย้อนยุคนะครับ เพียงแต่เป็นหนึ่งในหลายๆ ความประทับใจต่อบุคคลที่ผมพานพบและคิดว่าน่าจะเป็นสาระและมุมมองในอีกแง่หนึ่งบนกับโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีในวันนี้ ก็เท่านั้นเองครับ ...
          บ่ายของวันหนึ่ง หากดูตามปฏิทินก็คงจะย่างเข้าสู่วสันตฤดูแล้ว แต่อุณหภูมิของโลกยังดูเหมือนจะไม่ไยดีกับวันเวลาของปฏิทินที่ถูกกำหนดขึ้นโดยมนุษย์ เพื่ออาศัยกลไกของธรรมชาติในการดำรงอยู่ของชีวิตที่ไม่จีรัง
          ผมบึ่งรถไปตามถนนลาดยางจากอำเภอศีขรภูมิมุ่งหน้าสู่อำเภอสนม จุดหมายปลายทางที่ห่างกันเพียง ๓๐ ก.ม.ทิวทัศน์สองข้างทางที่เป็นท้องทุ่งเริ่มมีสีเขียวของหญ้าที่ระบัดใบ หลังจากท้องฟ้าประพรมความชุ่มฉ่ำพอให้คลายร้อน
          ชาวนาบางส่วนที่ขยันทำมาหากิน จับจอบเสียมที่วางไว้หลายเดือนมาปรับแต่งคันนาเตรียมกักเก็บน้ำเพื่อรอฝนใหญ่ที่จะมาถึงในวันข้างหน้า
          สองข้างทางที่ดูโปร่งตา เริ่มหนาทึบไปด้วยไม้ใหญ่ เมื่อเข้าสู่เขตอำเภอสนม ผมแวะซื้อยาเส้นจำนวนหนึ่งเพื่อนำไปฝากผู้ที่ผมกำลังจะไปผม


            ผ่านถนนคอนกรีตในตัวเมืองที่บ่งบอกถึงการทำงานของผู้มีส่วนรับผิดชอบได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะไปที่ไหนในชนบท

             สังคมไทยเป็นอย่างนี้มานมนาน ... และอาจจะเป็นแบบนี้อีกนาน
          จากถนนคอนกรีตกลายเป็นถนนดิน ผ่านป่าทึบที่เปรียบเสมือนแหล่งอาหารของชุมชน รถจักรยานที่สวนมามีผักปังเต็มตะกร้า
          ในรัศมีไม่กี่มากน้อยเท่านั้นที่เห็น และแหล่งอาหารนั้นกำลังหดหายไปตามวัฏฏะของโลก
          ห่างจากหมู่บ้านไม่ไกลนัก ท่ามกลางท้องนาที่ว่างเปล่า หากใครมาพบเห็นจะต้องสะดุดตากับความเขียวขจี บนพื้นที่ประมาณ ๙ ไร่ ของลุงสุวรรณ กันภัย เกษตรกรผู้ทรหด ที่ถือเป็นตำนานที่ยังคงมีชีวิตอยู่

      
         แม้อากาศโดยทั่วไปในยามนี้จะร้อนปานใด หากแต่ย่างเข้าไปในบริเวณ "ไร่นา-สวนผสม" ของลุงสุวรรณแล้วเราจะรู้สึกถึงความแตกต่างแม้จะไม่มากนัก แต่ก็สัมผัสได้

...เย็นกาย เย็นตา และเย็นใจ...
            ทางเดินขนาดสองคนเดินเคียงกันได้ จากปากทางเข้าสู่บ้านของลุง ดูสะอาดตา ตลอดสองข้างทางดาษดาไปด้วยพรรณไม้หลากชนิด ทั้งไม้ผลและผักสวนครัว
          ในส่วนที่จัดแบ่งไว้ทำนา ข้าวในนาสูงราวศอก ขณะที่ผ่านมานั้น เกือบ ๙๙ เปอร์เซ็นต์ยังไม่ทำอะไรกับผืนนา คงเป็นเวลาเดียวกันกับข้าวในนาของลุงสุวรรณและครอบครัวตั้งท้อง โดยที่ชาวนาส่วนใหญ่กำลังลงกล้ากัน
          ลานข้างๆ กระท่อมหลังน้อยของลุงสุวรรณกลายเป็นห้องรับแขกกลางทุ่งไปโดยปริยาย ป้าคำตันคู่ชีวิตของลุงกำลังนั่งห่อใบตองเพื่อทำขนมตาลกับหลานสาว
         "จำผมได่บ่ป้า" ผมยกมือไหว้ทักทายพร้อมกับส่งของฝากที่มีชื่อเสียงของอำเภอศีขรภูมิ ..กาละแม
         "นี่ยาเส้นของลุง ลุงไปไสละ"
         ป้าทักทายอย่างเป็นกันเอง แม้ครั้งสุดท้ายที่มาเยือนจะผ่านไปเกือบปีแล้วก็ตาม
         "ผมว่าจะแวะมาขอมะกรูดป้าไปสระผมนะครับ" ครั้งที่แล้ว ป้าเก็บมะกรูดถุงใหญ่ให้ผม เพื่อให้ผมเอาไป "สระผม" เพราะเห็น "ผม" ของผม ดูอาวุโสเกินวัย
          และนับแต่นั้นมาเกือบปีแล้วที่ผม "สระผม" ด้วยมะกรูด อย่างต่อเนื่องมากระทั่งทุกวันนี้ แรกๆ ก็ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ แต่ผมก็ลองใช้กระทั่งแน่ใจว่า มะกรูด ทำให้ "ผม" ของผมดีขึ้นจริงๆ ที่แน่ๆ ผมไม่เคยมีรังแคและไม่เคยคันศีรษะเลยตั้งแต่ใช้มะกรูดสระผม
          ใช้แบบสดๆ บีบน้ำใส่ "ผม" และเอาเปลือกถูให้ทั่วศีรษะ หรือจะต้มทั้งลูกแล้วปั่นเก็บไว้ก็ได้
          ไม่ใช่ว่าผมจะกลับไปสู่ยุคอดีตนะครับ แต่ผมลองใช้แล้วไม่เสียหลาย อีกทั้งบ้านผมเองก็มีต้นมะกรูดที่ออกผลทั้งปีหากที่เก็บมาหมดแล้ว ผมก็จะไปเก็บ "ยาสระผม" มาใช้
          ใช้แรกๆ ผมไม่ทราบว่ามันจะเป็นอย่างไรหรอกครับ มีอยู่หนหนึ่งผมไปเยี่ยมเพื่อนพ้องน้องพี่ที่มูลนิธิพัฒนาอีสานพวกเขาถามผมว่า "ไปย้อมผมมาเหรอ" ทำไมไม่หงอกแล้ว
          ผมก็อธิบายให้ฟังและอีกหลายคนที่ไม่เจอะหน้าค่าตาก็ทักแบบเดียวกัน จนผมต้องกลับไปสำรวจดู "ศีรษะ" ตัวเองใหม่
          เรื่องนี้ผมเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง หลายคนสนใจ แม้กระทั่งเพื่อนที่เป็นนายแพทย์อยู่ที่สุรินทร์นี่ยังขอไปทดลองใช้เลย
          ลุงสุวรรณกับป้าคำตันนี่แหละที่แนะนำผม และหากใครได้เห็น "ผม" ของทั้งสองท่านนี้ จะดำสนิทเลยครับ ป้าเล่าให้ฟังว่าก็เก็บดอกอัญชันหน้ากระท่อมนั่นแหละมาใช้ด้วย
          ทักทายกันตามสมควร ผมกับป้าเดินไปหาลุงสุวรรณที่มาผักผ่อนท้ายสวนกับหลานชาย ป้าตะโกนเรียกจนลุงตื่น พลอยให้หลานชายที่หลับอุตุตื่นขึ้นมาด้วย
          ผมยกมือไหว้ขอโทษขอโพยลุง เลยไปถึงหลานชายด้วย ที่มารบกวนเวลาพักผ่อน
          "น่าอิจฉานะลุง" ผมกล่าวด้วยใจจริง ลุงเชื้อเชิญให้ผมขึ้นมานั่งบนเถียงนาน้อยด้วยกัน
          ลุงเล่าให้ฟังว่า เพิ่งมีนักเรียนจากโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง มาเยี่ยมเยียนดูงานเร็วๆ นี้เอง ตั้งหลายรุ่นแล้ว ...

ลุงสุวรรณมีความรู้ทางการศึกษาในระบบแค่ป.๔ และเคยผ่านงานกุลีในเหมืองแร่ที่ปักษ์ใต้กว่า ๖ ปี ก่อนจะมาทำงานในโรงงานย่านสมุทรปราการและในเมืองหลวงอีกหลายปี ในวัยหนุ่ม
          กระทั่งตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับป้าคำตันเมื่อ ๓๐ ปีที่แล้ว และนำคู่ชีวิตไปทำงานที่กรุงเทพฯ ด้วยความมุงานและเป็นคนจริงของลุงสุวรรณทำให้เป็นที่ชื่นชอบของนายจ้าง ทำให้ลุงทำงานหนักขึ้นไปอีก เพื่อส่งเงินมายังบ้าน
          สุดท้ายก็รู้ตัวว่าสุขภาพย่ำแย่ จึงตัดสินใจลาออกเพื่อมุ่งหน้าสู่อาชีพของบรรพบุรุษ กับทุนรอนไม่กี่พันบาทผนวกกับที่นาที่พ่อตายกให้ส่วนหนึ่ง
          แรกๆ ลุงก็ทำนาเหมือนกับชาวนาทั่วๆ ไป ทำไปทำมาก็มีแต่หนี้สิน เลยเปลี่ยนวิถีใหม่หันมาทำแบบผสมผสานแต่ไม่มีทฤษฎี เรียกว่า
"ทำหา" ว่างั้นเถอะ

          เป็นใครก็ต้องอ้าปากค้างหรือหาว่าลุงเสียสติ เมื่อรู้ว่าสระน้ำ บ่อน้ำ ที่ในผืนนาทั้งหมดนั้น ลุงขุดด้วยมือของลุงเองทั้งสิ้นด้วยหวังจะใช้นำในบ่อเพื่อรดพืช ผักที่ปลูกไว้
          ในไร่นา-สวนผสมของลุงสุวรรณ แบ่งเป็นเนื้อที่ปลูกข้าว ๒ ไร่ มีสระน้ำขนาดใหญ่ ๓-๔ บ่อ มีต้นมะนาวที่ให้ผลผลิตทั้งปีกว่า ๑๐๐ ต้น ชมพู่กว่า ๑๐๐ ต้น พืช ผักสวนครัว อาทิ หอม ยี่หร่า สาระแหน่ กะเพรา โหระพา ฯลฯ สารพัดชนิดรวมถึงปลาในสระ ทั้งหมดนี้กินได้ไม่รู้จบ

ผมประทับประโยคหนึ่งที่ลุงตอบคำถามว่า
"ลุงใช้อะไรเลี้ยงปลาในสระ" ลุงตอบว่า
"ลุงไม่ได้เลี้ยงปลา ปลาเลี้ยงลุง"

             จากนาเชิงเดี่ยวในปี ๒๕๑๖ อีก และกว่า ๕ ปีที่มุ "ทำหา" (ทำไปเรื่อยเปื่อย) กระทั่งทุกวันนี้ สิ่งที่ลุงสุวรรณกับป้าคำตัน "ทำหา" นั้นกลับกลายเป็นทรัพย์สินที่เก็บกินไม่รู้หมด ลูกหญิง-ชาย ที่ไปทำงานในเมืองหลวงก่อนก็ถูกเรียกกลับมาช่วย "ทำหา" ลุงสุวรรณสร้างบ้านหลังงามให้ลูกบนผืนนานั้นเอง
          ทุกวันนี้ นอกจากจะทำในสิ่งที่ลุงรักแล้วและอาศัยอยู่ในกระท่อมหลังน้อยที่ปราศจากเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ซึ่งในครัวป้าคำตันยังคงใช้ฟืนที่เก็บจากไร่นานั่นเองในการหุงหาอาหาร
          แม้จะมีความรู้แค่ ป.๔ ลุงสุวรรณ แต่ลุงยังทำหน้าที่เป็นวิทยากรในด้านการทำเกษตรแบบพอเพียง ให้กับหน่วยงานราชการ, เกษตรกรทั้งไทยและต่างประเทศรวมถึงผู้ที่สนใจในอาชีพนี้อีกด้วย


          ด้วยการศึกษาเพียง ป.๔ ลุงสุวรรณยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคทั้งหลายกระทั่งประสบผลสำเร็จในชีวิตทำให้ผมทึ่งและน้อมรับ ยอมรับในความสามารถ หากเทียบกับคนที่มีการศึกษาสูงแล้ว (ถ้าหากเอาปริญญาเป็นตัวตั้ง--รวมทั้งผมด้วย) ลุงสุวรรณสมควรที่จะได้รับการยกย่องให้เป็นครูของแผ่นดิน
         
          แน่นอนที่สุด ใบประกาศเกียรติคุณและเกียรติยศที่คนจบป.๔ อย่างลุงสุวรรณได้รับทั้งในระดับท้องถิ่นและในระดับประเทศย่อมแสดงให้เห็นว่าคุณค่าของคนนั้น ไม่ได้อยู่ที่การศึกษาเสมอไป
          ลุงสุวรรณ ป้าคำตัน สระน้ำและต้นไม้ในสวนของลุงสอนผมหลายๆ อย่าง รวมทั้งหลักธรรมในการดำเนินชีวิต การพึ่งพาอาศัยกันของสิ่งมีชีวิต ที่อยู่กันอย่างสมดุลและเอื้อต่อกัน

เกียรติ ชื่อเสียง ลาภ ยศ สรรเสริญ ทั้งหลายเป็นเพียงสิ่งสมมุติเท่านั้น
               ยกมือไว้ร่ำราพร้อมกับมะกรูดถุงใหญ่ ขากลับผมแวะซื้อลูกปลานิล เอาไปปล่อยในสระที่บ้านสวนศีขรภูมิ ...

         ...
         ผมนึกถึงเรื่องลุงสุวรรณ ขณะดูทีวีเห็นข่าวรถไฟใต้ดินในประเทศไทยจะเปิดใช้ในช่วงต้นปีหน้า
นึกถึงความเจริญของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้ผมได้ไปเห็นแค่เสี้ยว
         นึกถึงตอนตัวเองนั่งรถไฟฟ้าลอดใต้อุโมงค์ใต้น้ำจาก Oak Land ไป ซานฟรานซิสโก ... นึกถึงหลายอย่างที่พานพบ ...
         ผมตั้งคำถามเล่นๆ ให้กับตัวเอง


"นับแต่พรุ่งนี้ ถ้าโลกไม่มีไฟฟ้า -- ใครจะอยู่ได้โดยไม่เดือนร้อนเลย"

yellow2550 โพสต์ 2011-4-23 22:38:58

ไม่ยักรู้ว่ามีสาระเหมือนกันนะ
ถ้าไฟไม่มีเรานั่นแหละที่จะแย่
จะเจอกันได้อย่างไร..ลงแดงตายพอดี{:5_139:}

ภูตะวัน โพสต์ 2011-4-26 12:36:54

ขอบคุนมากมาย คับกับสาระดีๆๆมีประโยชน์

Shuto โพสต์ 2011-4-26 16:25:23

ขอบคุณคับบ

yellow2550 โพสต์ 2011-4-26 18:00:50

ต้นฉบับโพสต์โดย station5 เมื่อ 2011-4-20 01:27 static/image/common/back.gif
สุวรรณ กันภัย"เศรษฐกิจพอเพียง" ที่ควรเอาอย่าง    " ถ้า ...

แล้วจะเล่นเนตยังไงครับ:dizzy:

mini1 โพสต์ 2011-4-28 23:01:33

ผมว่าจริงๆแล้วเศรษฐกิจพอเพียงมีข้อดีมากๆ

แต่คนชอบไปยึดติดว่ามันเป็นโบราณปลูกทุกอย่างเองหมดไม่มีน้ำไม่มีไฟไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก

แต่จริงๆแล้วผมว่าเศรษฐกิจพอเพียงสอนให้เราใช้ชีวิตให้พอเพียงกับสิ่งที่มีมากกว่าอ่ะครับ

ประมาณว่าไม่ต้องพยายามอยากได้โดยการกู้หนี้ยืมคนอื่นอะไรงี้อ่ะครับ

yellow2550 โพสต์ 2011-4-29 01:02:21

ต้นฉบับโพสต์โดย station5 เมื่อ 2011-4-20 01:27 static/image/common/back.gif
สุวรรณ กันภัย"เศรษฐกิจพอเพียง" ที่ควรเอาอย่าง    " ถ้า ...

จริงครับ คำว่าพอเพียง ก็แค่ว่า พอใจในสิ่งที่ตนเองมี
เท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่าต้องอยู่อย่างยากจน หรือถึงกับว่า
ปลูกข้าวกินเอง แบบนี้ไม่เข้าใจใน ปรัชญานี้ครับ
ก็อยู่แบบที่เป้นล่ะครับ มีมากก็อยู่แบบมาก
มีน้อยก็อยู่แบบน้อยไม่ดิ้นรนจนทำให้เป็นทุกข์
อยากจนไม่รู้จักคำว่าพอ โลภกันจนเกิดความวุ่นวายไปหมด
กอบโกยเข้าหาแต่ตนเองคำว่าแบ่งปัน เอื้อเฟื้อไม่รู้จัก
มันก็มีแต่ความวุ่นวายแบบที่เราเห็นๆแหล่ะครับ
.....
คำว่าพอเพียงคำเดียว ที่ช่วยได้

yellow2550 โพสต์ 2011-6-2 19:04:20

ตอบกระทู้ station5 ตั้งกระทู้

ยินดีด้วยครับ
กระทู้ของคุณได้รับการเลือก
ในการเป็นสุดยอดนักโพส
ประจำห้อง บอกเล่าเรื่องซึ้งๆแง่คิดดีๆครับ

Ice-Cold โพสต์ 2011-6-2 19:10:07

ตอบกระทู้ yellow2550 ตั้งกระทู้

ห้าๆๆๆจิงหรอคับบ อิอิขอบคุณคราฟพี่ยุ่น

Ice-Cold โพสต์ 2011-6-2 19:51:35

ตอบกระทู้ yellow2550 ตั้งกระทู้

โหวตที่ไหนหรอไม่รุ้อ่า อิอิ

yellow2550 โพสต์ 2011-6-3 11:53:56

ตอบกระทู้ station5 ตั้งกระทู้

รบกวน ตอบ ในกระทู้รางวัลนักโพส
เพื่อรอรับรางวัลด้วยครับ

TiwiT โพสต์ 2011-6-3 22:24:08

ขอบคุณครับ

hugna69 โพสต์ 2011-6-13 08:19:50

ไปดูที่บ้านผมนะครับ ชาวบ้านอยู่อย่างพอเพียงยังหาปูปลากินอยู่เลย เห็นแล้วอยากกลับไปที่อดีตคงมีความสุขน่าดูครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: เศรษฐกิจพอเพียง