[คิดไปเอง] บทที่ 21.6 "บทสรุป" [25/03/2560]
[วันอังคารที่ 24 มกราคม 2555]ช่วงนี้เป็นช่วงสัปดาห์ท้ายๆของเทอม ปวช.3 อย่างพวกผมต้องเร่งปั่นวิชาโครงการกัน ผมลืมบอกไปเลยว่าผมเสนอหัวข้อผ่านไปเมื่อหลายเดือนแล้ว ชื่อหัวข้อผมคือ เครื่องช่วยฟังพร้อมฟัง MP3 ได้ และก็มีเรื่องกดดันจากที่บ้านด้วยเพราะพ่อแม่ให้ผมไปสมัครสอบที่ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สจล. ผมสมัครและ ปริ้นใบสมัครสอบมาเรียบร้อยแล้วด้วย แต่ด้วยความที่ผมไม่อยากไปสอบจึงยืนกรานจะต่อ ปวส. ลูกเดียวเลยครับ เพราะในใจผมอยากอยู่กับตันต่อจึงเลือกต่อ ปวส. อีกอย่างเกรดเฉลี่ยผมถึงตามเกณฑ์ที่เทคนิควางไว้ ยังไงผมก็ได้โควตาไม่ต้องสอบครับ สุดท้ายพ่อแม่ผมก็ยอม
[เทคนิค]
หลังจากเมื่อวานที่ผมบอกป้าไปว่าผมชอบตัน และผมก็รู้ด้วยว่าตันได้ยิน วันนี้มาเรียนตันก็ยังคุยเล่นกับผมเหมือนเดิมปกติ ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าตันไม่ได้รังเกลียดผม
“อินอาจารย์บุญทันเรียกมึงให้เข้าไปพบที่ห้องอะ” กิ๊ฟเดินมาบอกผม ซึ่งตอนนี้พวกผมนั่งเล่นกันอยู่แถวๆแผนก
“โอเคๆ” พูดจบผมก็เดินขึ้นแผนกไปหาอาจารย์บุญทัน
“อาจารย์สวัสดีครับ” ผมสวัสดีอาจารย์
“อื้ม เข้ามาก่อนสิอนิรุทธ์”
“อาจารย์เรียกหาผมมีอะไรหรอครับ”
“พอดีมีโควตาจากคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ที่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ส่งมาขอเด็กแผนกเราที่มีผลการเรียน 2.75 ขึ้นไป 2 คน ทีนี้มีกลุ่ม 2 เอาไปแล้ว 1 คน แต่ยังเหลืออีก 1 ที่ เธอสนใจไหม” อาจารย์พูด
ครั้งนี้ผมลังเลเพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมมันคืออนาคต และคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ก็เป็นคณะที่ผมใฝ่ฝันจะเรียนเพราะผมอยากเป็นครูช่าง อีกอย่างมันเป็นโควตาไม่ต้องไปแย่งสอบตรงกับเขา แต่อีกใจนึงผมไม่อยากหายไปจากตันผมอยากอยู่กับตันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมไม่รู้จะตอบว่าอะไรดีจึงยืนเงียบอยู่สักพัก
“ว่าไงอนิรุทธ์” อาจารย์พูดเพื่อขอคำตอบจากผม
“ผมขอต่อ ปวส. นะครับอาจารย์ ตอนนี้ผมยังไม่พร้อม ผมอยากศึกษาวิชาช่างแผนกเราให้มากกว่านี้ครับ จบ ปวส. ผมถึงจะไปต่อ ป.ตรีครับอาจารย์” ผมตอบ
“แต่โอกาสดีๆมันไม่ได้มาบ่อยนะอนิรุทธ์ จบ ปวส. ไปต่อครุศาสตร์อีกตั้ง 5 ปี มันเสียเวลานะ” อาจารย์พูดย้ำ
“ครับ....ผมตัดสินใจจะต่อ ปวส. ครับอาจารย์” ผมตอบอาจารย์ อาจารย์ทำหน้าอย่างเสียดาย
“ติดสาวหรือป่าวเนี่ยอนิรุทธ์” อาจารย์แซวผมอย่างไม่เต็มใจแซวเท่าไหร่
“ผมไม่ได้ติดสาว ผมติดผู้ชายครับอาจารย์” ผมตอบไปอย่างไม่คิดอะไร เพราะหลังจากที่ผมบอกชอบตันกับป้าไป วันนี้ผมก็สารภาพกับเพื่อนทุกคน เพื่อนๆก็ตกใจกันยกใหญ่ คือมันอาจจะดูแปลกใช่ไหมครับที่ผมทำแบบนั้น แต่ผมเป็นคนแบบนั้นจริงๆครับ ทำอะไรไม่ค่อยคิด พูดอะไรออกไปก็ไม่คิด คิดอย่างเดียวว่าทุกคนต้องรับได้อยู่แล้ว ผมมองโลกในแบบนั้นมาตลอด
“เฮ่ย!!! จริงหรือป่าวเนี่ยอนิรุทธ์” อาจารย์บุญทันพูดพร้อมกับถอดแว่นสายตาออก แล้วทำหน้าตกใจใส่ผม
“จริงครับอาจารย์ ผมก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกเหล่านี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงนะครับ แต่ผมชอบอภินันท์ครับอาจารย์ ชอบมานานแล้วด้วยครับ” ผมบอกความรู้สึกทุกอย่างให้อาจารย์บุญทันผู้เป็นที่ปรึกษาของผมฟังทั้งหมด
“อนิรุทธ์....เรื่องที่เธอจะเป็นอะไรนั้นอาจารย์ไม่ขัดขวางหรอกนะ เพราะลูกศิษย์ก็คือลูกศิษย์ แต่เธอรู้อะไรไหม ในทางพุทธศาสนานั้นเขามักจะบอกว่าเกิดเป็นผู้ชายนับว่าโชคดีเพราะอะไรเธอรู้ไหม” อาจารย์พูด
“ไม่รู้ครับอาจารย์”
“นั่นก็เพราะผู้ชายมีโอกาสได้บวช เพื่อบรรลุธรรมถึงขั้นนิพพานได้อย่างไรละ เธอนับว่าโชคดีมากนะที่เกิดเป็นลูกผู้ชาย” พูดจบ อาจารย์บุญทันก็หยิบย่ามพระที่พับอยู่บนหิ้งพระของห้องแล้วส่งให้ผม ผมก็รับไว้อย่างไม่เข้าใจความหมาย และไม่รู้ว่าอาจารย์ให้มาทำไมด้วย ผมคลี่ย่ามออกมองดูมีลายปักเป็นรูปดอกบัวใต้รูปปักคำว่า ทำดีได้ดี
“ลองไปคิดดูให้ดีๆก็แล้วกัน.....”
“ครับ” ผมรับคำอย่าง งงๆ แล้วก็เดินออกนอกห้องไป
วันนี้หลังเลิกเรียนผมแวะไปหอน๊อตเช่นเคย คงไม่ต้องบอกนะครับว่าอะไรจูงใจให้ผมไป 555+
[หอน๊อต]
มาถึงผมก็สวัสดีป้า ส่วนน๊อต มั่น บิ๊ก รีบแต่งตัวไปทำงาน KFC ก็คงเหลือ ผม ชัย ตัน และป้า เมื่อเพื่อนออกไปทำงานผมก็นั่งเล่นเกมกับชัยสองคน ส่วน ป้ากับตันก็นอนเล่นบนเตียง
“เออ อินซักเสื้อผ้าให้ตันหน่อยสิลูก” ป้าพูด พร้อมกับหยิบเสื้อกับกางเกงของตันมาให้ผม
“ครับๆ ผมขอเล่นเกมตานี้จบก่อนนะครับ”
“จ้า ต้องแบบนี้สิถึงจะสมกับที่เป็นเมียตันเขา” ป้าพูด คือผมไม่ชอบให้ใครมาพูดว่าผมเป็นเมียนะครับ เอาตรงๆผมก็เป็นผู้ชายปกตินี่แหละครับ เพียงแค่ชอบผู้ชายด้วยกันเฉยๆ
เล่นเกมจบผมก็เอาเสื้อผ้าตันไปสักในห้องน้ำ ผมซักไปสักพักป้าก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับโยนเสื้อในแก
“อันนี้ของแม่ผัว แม่ฝากซักด้วยนะลูก” ป้าพูดจบก็ปิดประตูห้องน้ำให้
ผมก็ก้มหน้าก้มตาซักไป ผมเป็นคนที่ซักผ้าด้วยมือเปล่าไม่เป็นนะครับ ปกติอยู่ที่บ้านผมจะซักเครื่อง ครั้งนี้ไม่รู้จะซักยังไงผมเลยเอาแปรงขัดในห้องน้ำนั่นแหละมาขัดเสื้อผ้าและเสื้อในป้าเขา ในใจหวนนึกไปถึงแม่ของตัวเอง เกิดมายังไม่เคยซักเสื้อผ้าให้พ่อแม่เลย แล้วป้าคนนี้แกเป็นใครทำไมเราถึงซักให้เขาได้ คิดไปคิดมาก็นึกว่าเอาเถอะ เพื่อตันผมทำได้หมด คิดดังนั้นผมจึงก้มหน้าก้มตาซักต่อไป
ซักเสร็จเดินออกมาก็ไม่เห็นป้ากับชัยแล้ว ไม่รู้ออกไปไหนมีเพียงตันนอนหลับอยู่ ผมจึงเอาเสื้อผ้าตันกับเสื้อในป้าไปตากที่ระเบียง ตอนออกไปผมเห็นป้านั่งหันหลังคุยอะไรกับชัยก็ไม่รู้ครับเพราะผมไม่ได้ยินตรงบันไดทางลง แต่ผมก็ไม่ได้สนอะไรเดินเข้ามานั่งเล่นเกมต่อ สักพักชัยก็เดินเข้ามาแล้วบอกผมว่าป้าเรียกผมให้ออกไปข้างนอกหน่อย ผมก็เดินออกไปหาป้าครับ
“อิน”
“ครับแม่”
“ตันรู้แล้วนะว่าเราชอบหนะ” ป้าพูด ผมไม่แปลกใจหรอกครับ ผมว่าตันคงรู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
“ครับ”
“แม่ลองถามเขาแล้วนะ ตันมันก็บอกไม่ได้รังเกลียดอะไรเรา” ป้าพูดคำนี้ผมรู้สึกใจชื้นมากเลยครับ
“แม่ขอบใจนะที่คอยดูแลตันตลอดเวลา แต่รู้ใช่ไหมว่ะตันกับแอนคบกันอยู่ แล้วสักวันเขาก็ต้องแต่งงานกัน”
“ครับ ผมรู้ครับผมจะอยู่แบบนี้แหละครับ ผมไม่คิดจะครอบครองอยู่แล้วครับ แค่ตันรู้สึกดีและไม่รังเกลียดผมก็พอแล้วครับ” คำพูดที่ผมตอบอาจจะดูเหมือนผู้ใหญ่เข้าใจโลก แต่จริงๆแล้วผมตอบไปแบบนั้นแหละครับ ซึ่งผมยังไม่เข้าใจว่าความรักจริงๆแล้วมันมีอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านี้ทั้งทางบวกและลบ
ป้าแกก็เงียบๆไม่พูดอะไร
“เออ อินจะกลับบ้านตอนไหนหรอ”
“เดี๋ยวอีกสักพักก็จะกลับแล้วละครับ”
“อื้ม ถ้ากลับตอนไหนบอกแม่นะ แม่จะเดินไปส่ง”
“ครับๆ”
“เข้าไปเล่นเกมต่อเถอะลูก แล้วเรียกชัยออกมาให้ที”
“ครับๆ” พูดจบผมก็เดินเข้าไปในห้องเรียกชัยออกไปหาป้า ส่วนผมก็นั่งเล่นเกม
นั่งเล่นไปสักพัก ผมนึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้มีการบ้านวิชาภูมิเศรษฐศาสตร์อยู่ ซึ่งเรียนกับอาจารย์สุดใจ ยังจำอาจารย์สุดใจ กันได้อยู่ใช่ไหมครับ ผมจึงหยิบสมุดของตันที่อยู่ในกระเป๋าออกมาทำให้ ขณะที่ตันหลับอยู่ ผมมองดูตันที่นอนหลับอย่างมีความสุข ในใจก็คิดไว้ว่าตัวเราจะอยู่ช่วยเหลือ คอยดูแล และมอบสิ่งดีๆให้คนคนนี้ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ทำเสร็จผมก็นั่งเล่นเกมต่อ แล้วชัยกับป้าก็เดินเข้ามา
“อ่าวชัย มานั่งเล่นด้วยกันดิ เล่นคนเดียวเบื่อๆว่ะ” ผมชวน
“เอาเลยๆกูขอออกไปดูดบุหรี่ก่อน”
“โอเคๆ”
“เดี๋ยวๆ อินมึงหยิบบัตร ATM กูบนที่นอนให้ที” ชัยพูดผมก็หยิบให้ แล้วมันก็เดินออกไปข้างนอก
“แม่ครับผมจะกลับแล้วนะครับ” ผมบอกกับป้าพร้อมกับปิดเครื่องเกมและสะพายกระเป๋า
“อ่าว อินจะกลับแล้วหรอ” ตันตื่นมาพอดีครับ
“ใช่ๆ เออนี่การบ้านของอาจารย์สุดใจ กูทำให้เสร็จแล้วนะอยู่ในกระเป๋าอะ”
“โอเค ขอบใจมาก”
“ปะเดี๋ยวแม่ไปส่ง”
ผมเดินออกจากหอมากับป้า เดินคุยไปตามทางเรื่อยๆ สักพักป้าแกก็บ่นเหนื่อยขอนั่งพักแปบนึง แกนั่งอยู่หน้าร้านอะไรสักอย่างนี่แหละครับ นั่งหน้าร้านเขาคงไม่ว่าอะไร เพราะตอนนั้นร้านเขาดึงประตูปิดไปแล้ว
“อิน แม่มีเรื่องจะรบกวนหน่อยหนะลูก”
“อะไรหรอครับแม่”
“ตอนนี้เงินแม่หมดแล้ว เพราะต้องจ่ายให้ตันไปเทคนิคทุกวัน อีกอย่างตั้งแต่แม่มานอนอยู่หอน๊อต แม่ก็ไม่ได้ไปทำงานหลายวันแล้วลูก แต่เดี๋ยวอีกไม่กี่วันเงินเดือนแม่ก็จะออกแล้วแหละ ถ้ายังไงแม่ขอยืมอิน 500 บาท ได้ไหมลูก แล้วพอเงินเดือนแม่ออกแม่จะคืนให้ ถ้าอินรักตันจริงๆขอให้เห็นแก่ตันหน่อยนะลูก แม่ไม่อยากให้ตันรู้ว่าแม่ยืมเงินอิน กลัวตันจะโกรธแม่หนะ” ป้าพูด ตอนนั้นผมสงสารป้ามาก และก็สงสารตันด้วยกลัวตันจะไม่มีมีเงินไปเรียน พอดีตอนนั้นผมมีเงินค่ากิจกรรมอยู่ 700 กว่าบาท ไอ้เงินกิจกรรมที่ว่านี่เป็นเงินที่คนในห้องช่วยกันจ่าย ทำกิจกรรมชมรมวิชาชีพ เป็นกิจกรรมนึงที่ต้องทำทุกเทอมครับ ผมจึงหยิบออกมาให้ป้าโดยไม่คิดอะไร คิดเพียงว่าตันมีความสุขผมก็พอใจแล้ว
“ขอบใจมากนะลูก แม่ไม่ผิดหวังเลยที่คิดให้เราช่วยหนะ” ป้าพูดขอบคุณผมใหญ่เลย
“ไม่เป็นไรครับแม่ อะไรที่ช่วยตันได้ผมพร้อมจะช่วยครับ”
.
.
.
.
.
.
ขอบคุณครับผม{:5_130:} สนุกมากครับ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับที่ติดตามอ่านกันมาโดยตลอด ขอบคุณนะครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]