ภูตะวัน โพสต์ 2011-4-21 18:57:00

ปวด เจ็บ แน่นหน้าอก นำไปสู่โรคร้ายอะไรบ้าง

ปวด เจ็บ แน่นหน้าอก นำไปสู่โรคร้ายอะไรบ้าง
http://img.kapook.com/image/health/Pain/chest%20pain.jpg


อาการปวด เจ็บ แน่นหน้าอก อาจนำไปสู่โรคร้ายอะไรได้บ้าง (Slim up)
ที่มาจาก : โรงพยาบาลพญาไท1

          เจ็บแน่นหน้าอก นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของคนไทย รองจากมะเร็งและอุบัติเหตุ (ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขปี 49-50)

          ผู้ป่วยจะมีอาการจุกเสียดแน่นตรงกลางหน้าอก อึดอัด หายใจไม่สะดวกเหมือนมีอะไรมีบีบรัด หรือกดทับ อาจปวดร้าวไปที่คอ แขนซ้าย หรือกราม ร่วมกับอาการคลื่นไส้ เหงื่อออกท่วมตัว อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่ออกกำลังกาย และดีขึ้นเมื่อพักหรืออมยาใต้ลิ้น ถ้าหลอดเลือดหัวใจตีบมาก อาการแน่นหน้าอกอาจรุนแรง และอาการไม่ดีขึ้น แม้หยุดพักหรืออมยาใต้ลิ้น เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน หัวใจอาจหยุดเต้นอย่างกะทันหันหรือเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน


http://img.kapook.com/image/icon/145112453.gifพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg มีประวัติสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg อายุที่เพิ่มขึ้น

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg เพศชายจะมีความเสี่ยงมากกว่าเพศหญิง ซึ่งเพศหญิงวัยหมดประจำเดือนจะมีโรคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg ภาวะไขมันในเลือดสูง

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg ความดันโลหิตสูง

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg การสูบบุหรี่

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg โรคเบาหวาน

         
http://img.kapook.com/image/icon/145112453.gifเราจะป้องกันโรคหัวใจได้อย่างไร

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg หยุดสูบบุหรี่ หากท่านสูบบุหรี่ต้องหยุดสูบทันที หรือหากคิดจะสูบบุหรี่ก็ให้เลิกความคิดนี้ การหยุดสูบบุหรี่จะเป็นการป้องกันโรคหัวใจได้ดี การสูบบุหรี่ไม่ว่าจะเป็น บุหรี่ไร้ควัน หรือบุหรี่ที่มีนิโคตินต่ำ หรือซิการ์ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg สำหรับท่านที่ไม่ได้สูบบุหรี่หากท่านอยู่ใกล้ชิดกับคนที่สูบบุหรี่ ท่านอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจเหมือนคนที่สูบบุหรี่ เนื่องจากเป็นผลจากการสูบบุหรี่มือสอง

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg บุหรี่มีสารเคมีมากกว่า 4,800 ชนิด ซึ่งเป็นอันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบได้ง่าย

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg บุหรี่จะทำให้หัวใจท่านทำงานมากขึ้น เนื่องจากเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงตีบ หัวใจเต้นเร็ว และความดันโลหิตเพิ่มขึ้น

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg ผู้หญิงสูบบุหรี่ร่วมกับการกินยาคุมกำเนิด จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจเพิ่มขึ้น

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg ข่าวดีสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ หากท่านหยุดสูบบุหรี่ ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจจะลดลงอย่างรวดเร็ว โดยประมาณว่าจะเหมือนคนปกติใน 1 ปี การออกกำลังกาย ทุกท่านทราบว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่มีเพียงจำนวนไม่มากที่ออกกำลังกาย การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยลดการเกิดโรคหัวใจได้ 1 ใน 4 หากร่วมกับปรับพฤติกรรมอื่นจะช่วยลดการเกิดโรคหัวใจได้มากขึ้น

http://img.kapook.com/image/icon/145112453.gifผลดีของการออกกำลังกาย

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg ทำให้หัวใจแข็งแรง

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg ควบคุมน้ำหนักไม่ให้ขึ้น

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg ลดระดับความดันโลหิต

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg ลดโอกาสเกิดโรคเบาหวานและไขมันในเลือด

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg แนะนำให้ออกกำลังกายปานกลางวันละ 30-40 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน หากไม่สามารถออกกำลังกายดังกล่าวได้ ท่านสามารถออกกำลังกายโดยการทำงานบ้านเพิ่ม เช่น การทำสวน การล้างรถ การเดินไปตลาด การขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟต์

http://img.kapook.com/image/icon/145112453.gifการรับประทานอาหารสุขภาพ หลักการรับประทานอาหารสุขภาพง่าย ๆ มีดังนี้

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg หลีกเลี่ยงอาหารมันบางชนิดที่มีผลเสียต่อหัวใจ เช่น ไขมันอิ่มตัว (Saturated far), Tran fatty acid ได้แก่ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว ไขมันจากสัตว์ เครื่องในสัตว์ กุ้ง ปลาหมึก ไก่ทอด พิซซ่า กล้วยแขก เนย มาการีน

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg ให้รับประทานผักและผลไม้เพิ่มขึ้น เพราะผักและผลไม้จะช่วยป้องกันหลอดเลือดของท่าน

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg รับประทานปลาเพราะเนื้อปลามี Omega-3 fatty acid

          http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/heart03.jpg หมั่นตรวจสุขภาพ ท่านที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ โรคอ้วน หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจหรือท่านที่อายุมากกว่า 35 ปี โดยไม่มีความเสี่ยง ให้ท่านได้รับการตรวจ

                http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/arrow_pink.gif ความดันโลหิต

                http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/arrow_pink.gif ระดับไขมันในเลือด

                http://img.kapook.com/image/icon/cs_icon/arrow_pink.gif ระดับน้ำตาล

               ซึ่งเป็นการตรวจประจำปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตรวจสมรรถภาพหัวใจโดยการเดินสายพาน (EST) หรือเมื่อแพทย์สงสัยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ แพทย์จะตรวจร่างกาย ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง ตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการเดินสายพาน หรือาจใช้เครื่องมือที่มีเทคโนโลยีสูง เช่น 64-slice CT Scan หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI ซึ่งผู้ป่วยอาจได้รับการตรวจเพียงบางอย่าง หรือหลายอย่างเพื่อที่จะวินิจฉัยให้ได้ว่า มีหลอดเลือดหัวใจตีบหรือไม่ และควรวางแผนการรักษาอย่างไร

          การรักษานั้นขึ้นอยู่กับระยะและความรุนแรงของโรค เช่น หากไม่รุนแรงนักสามารถรักษาหายได้ด้วยยา วิธีการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน หรืออาจใช้การผ่าตัด Bypass

          การตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจละทำบอลลูนหลอดเลือดหัวใจ (CAG&PCI) ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอก และตรวจพบว่า มีความผิดปกติของคลื่นหัวใจผิดปกติหรือการตรวจสมรรถภาพหัวใจ ด้วยการเดินสายพานทำให้สงสัยว่าอาจมีสภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบหรือตัน

          การตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจ เป็นวิธีการตรวจที่สำคัญในการวินิจฉัยหลอดเลือดหัวใจตีบ และยังทำการรักษาต่อด้วยการทำบอลลูนหลอดเลือดหัวใจ ตรงตำแหน่งที่ตีบได้ด้วย โดยจะสามารถบอกถึงข้อมูลตำแหน่งของหลอดเลือดหัวใจตีบ ที่บริเวณใดและตีบกี่เส้น (เส้นเดียวหรือมีหลายเส้น) และตีบกี่เปอร์เซนต์ และยังดูการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจห้องซ้ายได้ด้วย โดยจะใช้เวลาในการตรวจวินิจฉัยเพียง 15-20 นาที และเป็นข้อมูลบอกถึงแนวทางการรักษาด้วยยา (ในกรณีที่ตีบไม่มาก) บอลลูน หรือการผ่าตัดและการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยได้ต่อไป

          ผู้ป่วยบางรายที่ทำการตรวจด้วยวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล สามารถมาตรวจตอนเช้าและนอนพักพื้นประมาณ 6-8 ชม. ก็สามารถกลับบ้านได้ และมาพบแพทย์ในวันรุ่งขึ้น เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เค โพสต์ 2011-4-21 19:19:40

ขอบคุณครับผม{:5_130:}

~♥TerMRuK♥~ โพสต์ 2011-4-23 00:57:58

ขอบคุณมากครับ

SLeePiNgFoReSt โพสต์ 2011-4-23 02:02:32

ขอบคุณมากครับ

TiwiT โพสต์ 2011-5-7 23:55:16

ขอบคุณครับ

B-all โพสต์ 2011-7-2 23:13:30

ขอบคุนครับ สำหรับเกร็ดสุขภาพดีๆ ^^
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ปวด เจ็บ แน่นหน้าอก นำไปสู่โรคร้ายอะไรบ้าง