"ความทรงจำ...ไม่เคยเลือน" คุณเอ๋/CT จากบอร์ด palm ครับ กระทู้ที่ 8
### เช้าวันถัดมานาจมาโรงเรียนสาย หมดชั่วโมงเรียนคาบแรกแล้วถึงโผล่ เพื่อนในห้องบ้างก็นหนังสือ บ้างก็วิ่งไล่ตีกันเหมือนเด็ก ชั่วโมงนี้อาจารย์ลาป่วย จึงเป็นสุขยิ่งนักสำหรับปลายเทอมอย่างนี้ ไอ้วัฒน์นั่งที่ขอบหน้าต่างเหนือโต๊ะของมัน เรานั่งหน้ามันต้องคอยหลบเวลามันเขวี้ยงกระดาษก้อนเล็กๆใส่หัว ไอ้นกเป็นตัวเสริม บางทีมันก็เป็นเอามากถึงกับเอาก้อนหระดาษมายัดปากเราพร้อมกับนิ้ว...เอ้าดูดซะ ..พวกเพื่อนผู้ชายที่มันรู้เรื่องเราบ้างคอยหันมาเฮกันเป็นระยะ ดีที่พวกผู้หญิงไม่รู้เรื่อง นาจ เดินมาพร้อมทักทายเพื่อนๆ ...โอ้โห เพื่อนเรา เดี๋ยวนี้คบกับเด็กในตลาดจนตื่นสายเลยเหรอวะ ..ไอ้วัฒน์แซวไปคนละทาง..นาจไม่สนใจแล้วมานั่งที่โต๊ะ...ไอ้วัฒน์ยังคงเป็นคนก่อกวนความสงบของคนอื่น คราวนี้มันหันไปสนใจ อ้อยสาวตัวเล็กสุดของห้อง พร้อมคู่หู ...เมื่อคืนกลับตอนไหน...นาจถามเราเบาๆเหมือนไม่อยากให้ใครได้ยิน..เรามองหน้าแต่ไม่พูดอะไร เพราะกำลังสนใจการบ้านของชั่วโมงที่แล้วอยู่ เขาเห็นเราทำการบ้านจึงลอกเราเหมือนเคย..ช่างเรียนง่ายจริงๆ ไอ้วัฒน์เดินมาเมื่อไหร่ไม่ได้สังเกต มันจับหัวเราชิดกันแล้วหัวเราะ นาจเหมือนอารมณ์เสียจึงด่ามัน แล้วก็เดินออกจากห้องไป..เขาหายไปจนออดขึ้นชั่วโมงใหม่จึงกลับมานั่งที่...เป็นอะไร..เราถาม..เปล่า..เราหันไปมองหน้าเขาและเขาก็ไม่มีอะไรอย่างที่ตอบจริงๆ อยู่ในสภาพอย่างนั้นจนเลิกเรียน..เอ๋ไปส่งที่บ้านหน่อยสิ...ไอ้นกพูดกับเราตอนเลิกเรียนไอ้วัฒน์หนีไปส่งสาวแล้วทิ้งไอ้นกให้กลับเอง บ้านพวกมันไกลกว่าบ้านของนาจ ..ก็ได้..เราซ้อนนก แล้วไปเจอนาจยืนกำลังจะเดินออกหน้าประตูโรงเรียน นกเอาหนังสือตีไหล่นาจ เมื่อเราขับรถไปถึงประตู...เฮ้ยไปไหนวะนาจถาม...ไปส่งนก ..เออไปด้วยสิขี้เกียจเดิน..ซ้อนสามขับไม่ไหวกลัวล้ม ไม่ใช่ดัดจริต ไอ้นกจึงเปลี่ยนมาเป็นคนขับ โดยมีเรานั่งกลางถัดมาเป็นนาจ ..น้องเอ๋อย่าแทงพี่ข้างหลังนะ..ไอ้นกบอกเมือออกรถ เราหยิกเอวมันแล้วมันก็หัวเราะชอบใจ ไอ้นกไม่จอดส่งชาติหากแต่ขับไปจนถึงบ้านพักมันเลย ส่งมันเสร็จ นาจก็ขอขับเอง เขาไม่ได้เลี้ยวกลับหากแต่ขับต่อไปเรื่อยๆ ..จะไปไหน..อยากขี่รถเล่น..นาจขับรถไม่เร็วมาก หน้าหนาวค่อนข้างจะมืดเร็ว..ทำไมตื่นสาย เราถาม..หมดแรง เสียน้ำ..เราเห็นข้างทางไม่มีคนก็เลยกอดเอวเขาแล้วซบหน้าที่หลังเข้า...เอ๋เดี๋ยวคนเห็น..เขาปราม เราจึงนั่งเหมือนเดิมไม่พูดอะไร เขาขับรถไปเรื่อยๆแล้วไปจอดที่ข้างสะพานข้ามคลองเล็กๆ ..เมื่อกี๊ทำอะไร ไม่ชอบนะที่ทำประเจิดประเจ้อ..เขาดุเรา..อ้าว..เราร้อง นึกว่าเล่นด้วยซะอีก เราไม่พูดอะไร นาจนั่งมองน้ำในห้วยเหมือนใช้ความคิด ...เป็นอะไร..กำลังใช้ความคิด..เราไม่ชอบความเงียบอย่างนี้มันอึดอัด ..พรุ่งนี้วันเสาร์ ไปไหนรึเปล่า..เราถามเขา..ทำไม..ก็ถามไปงั้นแหละ ..จะกลับรึยัง
...ยังไม่อยากกลับ
...แล้วมีปัญหาอะไร ถึงไม่อยากกลับ
...เบื่อหน้าคนแถวนั้น เอ๋พาไปไหนทีสิ ไปส่งเราที่บ้านไอ้วัฒน์แล้วกัน ไปหาเหล้ากินดีกว่า
เด็กสมัยนั้นก็กินเหล้ากันเป็นแล้วทั้งนั้น ยกเว้นเรามั๊ง
เรารู้สึกไม่สนุกและอึดอัด นาจเดินเข้าบ้านไอ้วัฒน์ไปแล้ว แต่เราก็ยังหงุดหงิดไม่หายที่เรื่องกลายเป็นแบบนี้ แล้วนี่เมื่อคืนมันคืออะไร...
###น้องเอ๋..ช่วยปลอบไอ้นาจหน่อยสิ มันกำลังอกหัก..ไอ้นกบอกเราในวันถัดมา...
เรื่องอะไร..อกหักแล้วมาพาลคนอื่น..เรานึกในใจ..
ใครว่ากูอกหัก..นาจเถียง ..
อ้าวแล้วไอ้ขี้เมาตัวไหนวะ ไปคร่ำครวญที่บ้านกู แม่งเสียเงินค่าเหล้าไปหลายบาท น้องเอ๋มีให้ยืมมั๊ย..นกก็พูดเล่นอย่างนั้นเอง เพราะฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ขัดสนอะไร....
งกฉิบหาย พูดเรื่องเงินแล้วเงียบเลยนะ...นกกัดเรา..
ให้ยืมก็ต้องคิดดอก..
เออเดี๋ยวส่งไอ้นาจไปขัดดอก..ไอ้นกยื่นหน้ามาใกล้ๆ เราก็อาศัยจังหวะมันเผลอ ก็ล็อคคอมันไว้แล้วกระซิบข้างหู..แล้วพี่นกหล่ะ ไม่มาขัดเองเหรอ เนี่ยรอจนสนิมขึ้นแล้ว..ไอ้นกหน้าแดงเพราะเราแกล้งมันกลางห้องที่พวกผู้หญิงนั่งคุยกันอยู่ แต่ผู้หญิงจะมองเห็นเฉพาะด้านไอ้นก เพราะตัวมันบังเราอยู่ เราเลียที่ติ่งหูอย่างคุ้นเคยที่นึง ไอ้นก สะดุ้ง เหลียวมองไปรอบๆเพราะกลัวสาวเห็น ว่าไปแล้วก็นึกอยากไอ้นกขึ้นมาแต่เสียดายที่พักนี้ไม่มีโอกาส...
เล่นเหี้ยอะไรกัน...นาจผลักหัวเรา
..นี่เจ็บนะ...พออาจารย์เข้าห้องพวกเราก็สลายตัว..นาจยังบ่นพึมพำ..ดีแต่เล่นพอเอาจริงไม่ได้เรื่อง ..เราหันไปมองหน้าเขาทันที นาจยักคิ้วเหมือนล้อแล้วมองลงที่เป้ากางเกงตัวเองเรามองตาม....นาจเอามือลูบเป้ากางเกงไปมา แล้วทำให้ช่วงนั้นมันตึงดูเป็นรูปเป็นรอย ..ใจเราสั่นระริก..อำนาจ กับ CT (ขอใช้นามแฝง) คุยอะไรกัน..เสียงอาจารย์ดังมาจากหน้าห้อง เพื่อนผู้หญิงหันมาหัวเราะคิกๆ..นาจหลบหน้าลง ส่วนเราก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่กลัวหรอก เพื่อนแม่..อาจารย์ก็สอนไปเรื่อยๆ แล้วก็เดินมาที่โต๊ะเรา อาจารย์แกก็ออกสาวๆแนวเดียวกับเรา...แกหยิกที่เอวเราหนึ่งที แล้วพูดเบาๆ เดี๋ยวนี้ดื้อใหญ่นะเรา คอยดูเถอะ จะสอบตก..
โถ จารย์ อย่าว่าน้องเอ๋เลยครับ..ไอ้วัฒน์หันมาทำหน้าหล่อ อ้อนวอน แต่เราว่ามันชอบแกล้งอาจารย์มากกว่าเพราะมันรู้ว่าอาจารย์ชอบเด็กนักเรียน ถึงขั้นอยู่ด้วยกัน...อาจารย์ค้อนแล้วก็เดินไปสอนต่อ พออาจารย์เดินไปหยุดที่โต๊ะมันเหมือนจะเอาหนังสือตี มันก็ทำทีเป็นหลบ อาจารย์แจกค้อนอีกวง ก่อนจะเดินผ่าน พออาจารย์ผ่าน ไอ้วัฒน์ก็ทะลึ่งไปจับก้นแก แล้วทำเสียง ปี๊บ ปี๊บ เหมือนบีบแตร เราก็ขำแต่ไม่กล้าหัวเราะ อาจารย์รีบปาดมาบิดหูไอ้วัฒน์อย่างแรง จนมันร้องลั่น ทุกคนในห้องก็ฮากันใหญ่
กว่าจะหมดคาบนั้น กลุ่มเราก็เป็นจุดศูนย์กลางของห้อง ทั้งเพื่อนผู้ชายผู้หญิง คอยหันมามองเรากับนาจ บ่อยๆ นาจทำเฉยแล้วมองไปนอกหน้าต่าง ..ชั่วโมงเรียนถัดมา เราก็เลิกยุ่งกับเขา สักพักก็มีมือมาสะกิดที่กระเป๋ากางเกง เราปรายตามอง นาจพยายามยัดกระดาษใส่กางเกงเรา..เราพยายามไม่ให้ผิดสังเกต แล้วค่อยๆคลี่ออกอ่านอย่างระมัดระวังว่าเพื่อนแถวถัดไปจะเห็น
..เย็นนี้ ไปหาที่บ้านหน่อย หกโมง.. พี่นาจ
ลืมบอกไปว่าตั้งแต่วันนั้นเวลาที่คุยกับเรา เขาจะชอบแทนตัวว่าพี่ แต่ถ้านับจริงๆแล้วเขาก็เป็นพี่เราสองปี เราอ่านเสร็จก็เก็บไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม แล้วหันไปมองเขา เขาทำทีเป็นสนใจเรียน หากแต่มุมปากก็อมยิ้มกวนๆ ตามสไตล์...เราได้แต่..งงและไม่แน่ใจ มันจะแกล้งอะไรรึเปล่าวะ..ถามตัวเองอย่างนั้น แล้วก็ต้องอดใจรอ ตอนเย็น ...
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็รีบทำการบ้าน แม่กับพี่เลี้ยงทำกับข้าวเสร็จก็เรียกลูกๆ ไปกินข้าว..แม่เดี๋ยวเอ๋กลับมากินนะ ไปหาเพื่อนก่อน...แล้วนี่จะไปไหนมืดแล้ว...ไม่ดึกหรอก นะแม่นะ...เออ เออ รีบกลับหล่ะ เดี๋ยวดึกมันหนาว แล้วไม่ยอมอาบน้ำอีก..แม่ตีหัวเบาๆ ใจมันเร็วกว่ารถ ทำไมทางมันไกลจังเลยนะ กว่าจะไปถึงบ้านนาจ ก็มืดแล้ว บ้านเงียบและมืด เราจอดรถแล้วเดินเข้าไป มองหาก็ไม่มีใครอยู่ ...นาจ อยู่รึเปล่า..เงียบไม่มีเสียงตอบ เรารีรอสักพัก เอาไงดีนี่ นึกโกรธขึ้นมาทันที จะแกล้งทำไมวะเนี่ย..บ่นพึมพำก็เดินออกจากบริเวณนั้นแล้วไปที่รถอย่างหัวเสีย กำลังจะติดเครื่อง นาจก็เดินออกมาจากข้างบ้าน ถอดเสื้อพาดที่ไหล่ใส่กางเกงกีฬาขาสั้น ...ให้มาหาทำไม มาแล้วก็ไม่อยู่..ไปเตะตะกร้อมา...มีอะไรเหรอ..เราถามแต่ก็ติดเครื่องเรียบร้อย ..จะรีบไปไหน ...ก็หิวข้าวจะไปกินข้าว..พี่ก็หิวพาไปกินโต้รุ่งหน่อยสิ...ดีเหมือนกัน อยากกินขนมหวานพอดี นาจขึ้นซ้อนท้ายแล้วใส่เสื้อ...มาถึงโต้รุ่ง ..นังนากำลังเดินเข้ามากับพี่แขก แฟนมันพอดี จะหลบก็หลบไม่ได้ ..นังนาเดินเข้ามาทัก เอ๋มากินข้าวเหรอ ดีจังเลยนั่งด้วยกันนะ เรามองหน้านาจแล้วทำหน้าเอ๋อ ..นาจบอก..ดีๆ จะได้มีเพื่อนคุย..พี่แขกเทคแคร์นังนาอย่างดี ว่าไปแล้วพี่แขกนี่น่าเอามากๆ สูงผิวคล้ำ ตาคม อู๊ยหล่อ นังนามันชอบเขามาตั้งแต่ประถมแล้ว ตามจีบจนได้ เพื่อนเราเป็นคนสวยแต่พอดีนิสัยมันห่ามๆ จึงไม่มีใครกล้าจีบ ทั้งมาเป็นเพื่อนซี้เราอีกผู้ชายเลยกลัว เพราะนังนามันชอบให้เราเป็นไม้กันหมา เวลาผู้ชายมาจีบ หน้าที่ของเราคือคอยก่อกวนให้ผู้ชายอาย ข้าวเย็นวันนั้นอร่อย ทุกคนสนุกสนานกัน..อ้าวสองทุ่มแล้วพี่กลับนะนา..พี่แขกเป็นรุ่นพี่ที่น่ารัก เลี้ยงน้องๆ นามันก็อ้อยอิ่งไม่ยอมลุก..อีนี่ก็ขับรถไปกับเขาสิ กูจะกลับแล้ว ไม่ต้องห่วงกูหรอก เราบอกมันเมื่อ สองหนุ่มทั้งคู่เดินไปรอที่รถ พี่แขกขับรถมาอีกคัน ...เอ๋ นาจเป็นแฟนมึงเหรอ...ปล่าว เราตอบมันแล้วรู้สึกว่าหน้าชาชาพิกล...เออน่าแล้วค่อยคุยกัน..
เราแยกกับนา ที่ตลาดโต้รุ่ง เราค่อยๆขับรถออกไป ถนนแถวหน้าโรงเรียน มีเสาไฟฟ้าเป็นระยะ พอมีแสงสว่าง ไม่มีอะไรน่ากลัว ...นาจจับเอวเราแล้วขยับมาชิดจนเรารู้สึกอุ่นที่แผ่นหลัง เป้าเขาก็แนบกับก้นเราพอดี เราลองเอามือด้านที่ไม่ได้จับคันเร่งไปข้างหลังแล้วบีบเคเขานอกกางเกงสองสามที นาจยิ่งชิดมามากกว่าเดิม ทุลักทุเลเหมือนกัน เราค่อยๆล้วงมือเข้าไปในขากางเกง แต่ไม่ค่อยถนัดจึงได้แต่ลูบๆคลำๆนอกกางเกงใน นาจไซ้ซอกคอจนเราขนลุก เราก็บ้าหันหน้าไปจูบปากกับเขาทันที แสงไฟจากรถที่สวนมาทำให้ต้องรีบผละออกจากกัน แหม...ขัดจังหวะ คราวนี้ไม่กล้าแล้วเพราะถนนเริ่มมืดกว่าเดิม เราเร่งเครื่องเร็วขึ้น แล้วบิดจนถึงบ้าน เด็กๆที่อยู่กับนาจ กลับมาจากเล่นกีฬาหมดแล้ว นั่งโขกหมากรุกกันที่หน้าบ้าน ..ไปไหนมาพี่นาจ อ้าวพี่เอ๋มาโว๊ย..หนึ่งในนั้นรู้จักเราเพราะเป็นนักกีฬาโรงเรียน ตอนแข่งกีฬาสี เคยขาเคล็ด เราช่วยนวดให้ เพราะเราเป็นหน่วยสวัสดิการ ตอนนั้นบรรยากาศเป็นใจ นวดจนเด็กค-ยลุกได้ ทั้งๆที่เจ็บขา เด็กก็ได้แต่มองเป้าตัวเองที่มันกระดก เราหล่ะอายจริงๆไม่รู้อารมณ์มันเตลิดได้ไง ทั้งๆที่ปฐมพยาบาลแท้ๆ...อ้าวเป็นอะไร ..เราถามเด็ก พร้อมเอามือจับเป้าที่กระดกเขาก็จับมือเราไว้ เราก็ล้วงเข้าไปเลย..อย่าพี่..น้องพยายามจะหลบ..หน้าด้านเหมือนตอนอยู่กับไอ้ตั้ม.. โอ้โฮ เด็กบ้าอะไรเนี่ย ค-ยใหญ่เกินเด็กไอ้น้องก็ไม่พูดอะไร นอกจากเสียว เรารูดจนมันลื่น เสียงนังนาก็ดังมาจากด้านหลัง เอ๋ น้องเขาดีขึ้นยัง..อีบ้าเอ๊ย เรานึกด่ามันในใจ ...น้องเขาก็พลิกตัวหันข้างเข้าฝาแกล้งทำเป็นหลับ ..หลับแล้ว..เราตอบนังนาอย่างหัวเสีย อุ๊ยมาต่อคะนอกเรื่องไปหน่อย
น้อง มอห้าทักทายเราอย่างคุ้นเคย เอ๋ขึ้นมานี่หน่อย...นาจเดินนำเราไปหลังบ้าน แล้วขึ้นข้างบน เด็กๆอยู่ข้างล่างกันหมด อำนาจดันเราชิดฝาทั้งๆที่ยืนแล้วจูบปากเราอย่างแรง มือเราว่างก็ล้วงไปสำเร็จโทษน้องชายของเขาอย่างแรงเช่นกัน..จูบกันได้สักพักก็รู้สึกไม่ปลอดภัย..
เรากลับก่อนดีกว่า เดี๋ยวเด็กมันจะสงสัยกัน..เราดันตัวนาจออก จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อ กางเกง แล้วใส่ผ้าข้าวม้าค-ยของเขายังแข็งตัวส่ายไปมา..เรารู้สึกว่าไม่กล้าทำ เพราะกลัวคนจะมาเห็น
..เรากลับนะ
นาจพยักหน้า แล้วแหวกผ้าขาวม้า สาวเคให้เราดูสองสามที ..ฝันถึงมันหน่อยนะ....น้องเอ๋
บ้า เราเดินผ่านวงหมากรุก หน้าบ้าน..กลับแล้ว...
พี่เอ๋ วันนี้ปวดขาจังเลย รุ่นน้องตัวแสบแซวมาตอนเราติดเครื่อง เราค้อน แล้วโต้กลับ ...จะให้นวดอีกเมื่อไหร่หล่ะ หมอว่างนะจ๊ะ...เด็กๆเฮลั่น....
คืนนั้นกว่าจะข่มตาหลับลงได้ โอกาสดีๆอย่างนี้จะมีอีกเมื่อไหร่ ..อีโง่ เราได้แต่ด่าตัวเองก่อนจะหลับไป
เจอกันที่โรงเรียนตอนเช้า นาจก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นยังคงวางฟอร์มเฉย ไม่สนใจเรา เรายอมรับว่าไม่ค่อยเข้าใจนักว่าการว่าทำไมดูเป็นคนละคนกับเมื่อวาน เพิ่งมาได้คำตอบเมื่อตอนอยู่กันตามลำพัง...ไม่อยากให้คนรู้ เอ๋ก็ทำตัวเฉยๆแล้วกัน..เราก็เฉยไปเลย ดีไม่สนใจก็ไม่เป็นไร เราก็หันไปเล่นกับไอ้นกแทน พักหลังนี้ไอ้นกขยันเรียนมากขึ้น น้องเอ๋พ่อเราอยากให้สอบเอ็นท์ แล้วก็สอบครุทายาท...นกถามขึ้นมาตอนที่อาจารย์ ติดบอร์ด วันขายใบสมัครเอนทรานซ์ ..เดี๋ยวเราให้พี่เราซื้อมาให้...ญาติที่เรียนในจังหวัดเอาใบสมัครมาให้ นกก็มาสนิทกับเราเหมือนเดิมเพราะต้องปรึกษากันตลอด แม้แต่เรื่องเรียน เราห่างจากนาจหลายวันเหมือนกัน เพราะมันไม่มีอะไรคืบหน้า ซึ่งเขาเฉยเกินไปทั้งๆที่นั่งคู่กัน เรายังไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับเขา มันอาจจะอยู่ที่ขั้นความชอบ แต่พอมาอยู่ใกล้ๆ นกเราก็เขวอีก ไม่รู้เป็นไง...นาจชอบคุยกับวัน แฟนเก่าของนกซึ่งก็เป็นเพื่อนผู้หยิงในห้อง ประวัติของวันก็ถึงขั้นติดดาวเหมือนกันในเรื่องผู้ชาย มีข่าวกระเซ็นกระสายมาเป็นระยะ แต่ไม่ใข่เรื่องของเราเราก็ไม่ควรจะพูดถึง ...งานประจำปีอำเภอมาถึงอีกครั้ง ถ้านับจากนี้ไปก็เหลืออีกสี่เดือนเราก็จะจบ มอ.หก
เดือนธันวาคม เพื่อนๆเข้ากลุ่มกันอ่านหนังสือเพื่อนที่สอบติดโควต้ามาช่วยกันติวตอนเลิกเรียน เราเองก็อยู่ในกลุ่มนั้นนึกแล้วเห็นใจนกมันเหมือนกัน ที่เริ่มต้นช้ากว่าคนอื่น เราเองก็ยังแย่ในวิชาฟิสิกส์ และเคมี โดยเฉพาะฟิสิกส์นั้นแอพพลายสูตรไม่ได้เลย รู้สึกไม่มั่นใจ เตี่ยกับแม่ก็คาดหวังในตัวเรามากเหมือนกัน ติวหลายวันก็รู้สึกล้าทั้งแก๊งค์ก็ยกพวกไปดูหนังกันบ้าง ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันแบบไปเช้าเย็นกลับ มีความสุขดี ทุกคนก็สนิทกันมากขึ้น ช่วงนี้นาจหายไปจากกลุ่ม แต่เขายังคงวนเวียนมาหานังวัน ที่กำลังกิ๊กกันอยู่บ้าง
เอ๋เห็น วันมั๊ย...เขาทักเราเมื่อกลุ่มติวเลิก
วัน ไม่ได้มาติววันนี้ กลับตั้งแต่เลิกเรียนแล้ว..เราเองไม่อยากพูดความจริงเพราะ วัน กลับไปกับไอ้วัฒน์ตั้งแต่เลิกเรียนแล้ว เพื่อนไอ้วัฒน์ที่ไปเรียนเตรียมทหาร มาติดพันวัน โดยที่นาจไม่รู้ได้ยังไง เราเองก็แปลกใจ
แล้วนี่เอ๋ จะกลับเหรอ..นาจพูดแก้เก้อ
กลับแล้ว นารออยู่ที่โรงรถ...แล้วพูดแล้วเดินออกมาทันที นาจคงเดินตาม เราเองไม่รู้ว่าเป็นยังไงเหมือนกัน ความรู้สึกที่อยู่ก้นบึ้งพยายามจะถมมันลงไป กลับขุ่นขึ้นมาอีก เราเดินไปเรื่อยๆ จนถึงโรงรถ เห็นนา ยืนคุยกับพี่แขก อยู่แถวๆนั้น พี่แขกเรียนจบปีที่แล้ว แต่ยังไม่ไปเรียนต่อเพราะต้องช่วยกิจการฟาร์มวัวนมที่บ้าน เพราะพ่อที่ป็นสัตวแพทย์กำลังลงทุนด้านนี้ จึงต้องทุ่มเทเวลาให้มันซึ่งพี่แขกเองก็เข้าใจ เราทักทายทั้งคู่แล้วขอตัว เพื่อนที่ดีย่อมไม่ขัดขวางความสุขของเพื่อน..นาจยืนดักอยู่ที่ประตูโรงรถ ซึ่งตอนนั้นก็เย็นมากแล้ว...
ไปส่งหน่อยสิ....เขาบอก แล้วก็ขึ้นซ้อนท้ายทันที
เอ๋เป็นอะไรเนี่ย พักนี้ไม่ค่อยได้คุยกัน...แปลกคนตัวเองที่ตีตัวออกห่างเอง ไหงมาถาม
ไม่เป็นไรนี่ เห็นบอกไม่ให้ยุ่ง กลัวคนรู้ ก็แค่นั้น...เราพยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด
แต่เอ๋หลบพี่นี่...จริงเหรอ
หรือว่าไอ้นก...
นกไม่เกี่ยว เรื่องเราสองคน เราไม่รู้ว่านาจเล่นอะไรอยู่ เหมือนหมาหยอกไก่ไปวันๆ เราทำตัวไม่ถูก..พูดแล้วเราก็เงียบ รถถึงบ้านพอดี
ขึ้นไปข้างบนหน่อย วันนี้พวกนั้นกลับบ้านหมดแล้ว พี่อยู่คนเดียว...นาจบอก แล้วจูงมอเตอร์ไซค์เข้าข้างใน
เราเดินตามเขาขึ้นชั้นบน นาจเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าเราอย่างไม่อาย เขาใส่กางเกงบอลตัวเดียวไม่ใส่กางเกงใน
แล้วมานั่งใกล้ๆ เปิดกระเป๋านักเรียนเอาแบบฝึกหัดมาทำ.เราก็ต้องช่วยอธิบายเวลาเขาติด จนเขาทำเสร็จ
อากาศหน้าหนาวยามโพล้เพล้ มันดูเยือกเย็น ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง เรายืนมองไปนอกหน้าต่าง เห็นทุ่งนา เห็นตึกเรียน แล้วรู้สึกเหงาๆพิกล อีกไม่กี่วันเวลาทั้งหมดในวัยเด็กก็จะจบลงที่โรงเรียนแห่งนี้ หกปีที่เรียนที่นี่กำลังจะหมดลงเช่นกัน อำนาจยืนกอดเราจากข้างหลัง มันอุ่นดี
คิดอะไร...
คิดเรื่องอนาคต ว่าเรียนจบแล้วจะเป็นไง...
เราหันหน้ากลับมา เรามองหน้ากัน นาจยื่นหน้ามาแล้วจูบเรา เราสนองตอบทันที เหมือนความเหงานั้นมลายไปเพราะความอบอุ่นจากการสัมผัสกันอย่างนี้ เรายืนจูบกันนิ่งและนาน ไม่มีคำพูดใดๆนอกจากการแสดงออกทางกาย กางเกงอำนาจหลุดติดมือเราแล้ว แก่นกายของเขาอยู่ในปากเรา นาจบิดตัวเกร็ง มือกดหัวเราตามจังหวะ เขาเด้งสวนอย่างออกรสชาด ...พอก่อนเดี๋ยวแตก
นาจกดเรานอนแทน แล้วเราก็จูบกันอีกครั้ง....
เอ๋ เคยถูกเอารึยัง...ไม่กล้าตอบได้แต่มองหน้าเขา แสงไฟจากภายนอก จับที่หน้าเขาทำให้น่ามองกว่าปกติ เขาก้มหน้าลงจูบเราอีกครั้ง
นาจค่อยๆปลดกระดุมเสื้อ แล้วนอนทับซุกไซ้เรา จนถึงขอบกางเกงนักเรียน เขาค่อยๆปลด เราอายก็รีบนอนคว่ำ
ไม่ดูดหรอก อายทำไม ..เราไม่ตอบแต่ไม่ยอมหันกลับมา
นาจรูดกางเกงเราออกช้าๆ ทั้งตัวนอกตัวใน ร่างกายเราเปลือยเปล่าทั้งคู่ นาจนอนก่ายเราจากข้างหลัง เคแข็งเต็มที่อุ่นๆ ถูไถอยู่ที่ก้นเรา นาจกระซิบเบาๆ
เอ๋ เอากันนะ..เขาพูดตรงๆเขาจับเรานอนคว่ำ แล้วขึ้นทาบทับ เชื่อมั๊ยว่าไม่มีหล่อลื่นสักนิด นาจค่อยๆดัน เรากัดฟันแน่นมือจิกที่หมอนเจ็บก็กัดหมอน เคค่อยๆหลุดไปทีละนิด ทีละนิด
..ฝืดดีจัง..นาจร้องอูยเมื่อมันหลุดเข้าไปทั้งลำ เขาแช่ไว้สักพัก แล้วคว้านเป็นวงข้างใน เรารู้สึกเหมือนว่าข้างในมันบิดเป็นคลื่น เราไม่กังวลเรื่องความสะอาด เพราะพี่เพลินสอนเทคนิคมากับไอ้ตั้มแล้ว
นาจโยกได้สักพักแล้วหยุด ..เพราะเห็นเรานิ่ง
เจ็บเหรอเอ๋ ...เขาหอมแก้มเราทีนึง..จะค่อยๆทำนะ..เราโยกไปเรื่อยๆ จากเจ็บเป็นเสียว ข้างในเราก็เหมือนต้อนรับสิ่งแปลกปลอมอย่างเต็มใจ..นาจโหมแรงขึ้นแรงขึ้น เรารู้สึกปั่นป่วนเหมือนข้างล่างเริ่มแฉะแล้ว แต่ไม่ใช่น้ำแตก นาจทั้งโยกทั้งคว้านสลับกัน และก็ดันเข้ามาสุดแรง ก่อนจะนอนทับลงมาแร้อมกับฉีดหัวเชื้อ เข้าตัวเราอย่างแรง นาจคามันไว้อย่างนั้น แล้วค่อยๆดึงออก
...แสบ เราร้องอูย ใส่เสื้อฝ้าแล้วลงไปล้างตัว เหงื่อโทรมทั้งคู่ เอ๋อาบน้ำให้หน่อย เราใส่ผ้ากางเกงในอาบน้ำให้เขา พอถึงไอ้ตัวแสบ ก็จับมันล้างนอกล้างในอย่างดี พอเขาอาบเสร็จเราก็ไล่เขาออกไปแล้วทำความสะอาดตัวเอง.
น้ำที่ฉีดเข้าไปมันทำให้เราแสบซะยิ่งกว่าเมื่อกี๊อีก นึกถามตัวเองในใจว่า ทำไมมันไม่เลิกเจ็บสักที เพราะความรู้เรื่องอย่างนี้ไม่ค่อยมีมากเหมือนสมัยนี้ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็ไปนั่งเคลียคลอกับเขาอีกร่วมชั่วโมง ก่อนจะกลับนาจบอกว่า...เป็นเหมือนเดิมนะเอ๋ อย่าทำเฉยกับพี่อีก..เราพยักหน้า แล้วจูบลาเขาเบาๆ.... พรุ่งนี้วันเสาร์มานอนเป็นเพื่อนหน่อยนะ....นาจบอก ไม่อยากจากไปเลย..แต่พรุ่งนี้ก็ได้เจอกันแล้ว...
**เช้าวันเสาร์เราต้องช่วยที่บ้านขายของที่ตลาดตามปกติ จนเก็บร้านก็เย็น
แม่วันนี้เอ๋ไปนอนบ้านเพื่อนนะ...เราบอกแม่ตอนเก็บร้าน
ทำไมต้องไปนอนหล่ะ..แม่ซัก..มีธุระคุยกันนะแม่ ได้รึเปล่า..แม่มองหน้าเหมือนจับผิด..จะหนีเที่ยวรึเปล่า เอ๋..ไม่หรอกแม่ บ้านเพื่อนก็อยู่แถวโรงเรียน จะไปทำการบ้านกันด้วย ...เราพยายามหาข้ออ้าง..แล้วสายๆเอ๋ก็มาเปลี่ยนแม่ไปนอนกลางวันเหมือนเดิมแหละ..แม่จะต้องงีบในร้านตอนบ่ายทุกวัน ช่วงไปโรงเรียน เตี่ยก็จะเฝ้าร้านแทน แม่ชอบให้เราค้าขาย ..เอาก็ได้ เดี๋ยวก็เรียนจบแล้ว...เรากอดแม่อย่างดีใจ..ซึ่งก็ไม่รู้ดีใจอะไรนักหนา กลับบ้านอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณซะเลี่ยม ลงทุนซื้อสบู่กลิ่นใหม่ๆ ชะโลมออเดอโคโลญจ์ ที่พี่สาวซื้อมาฝาก ส่องกระจกหลายครั้ง ผมค่อนข้างยาวแล้วทำให้หน้าดูแปลกๆ เราให้โอไปส่งที่ท่ารถสามล้อเครื่อง เป้สะพายหลังบรรจุหนังสือเรียน ชุดใส่สำหรับพรุ่งนี้ สบู่ยาสีฟัน เครื่องประทินผิว เป็นกระเทยนี่มันเรื่องมากจริงๆ เราหยิบขนมขบเคี้ยวที่บ้านมาด้วยหลายอย่าง.พี่เอ๋จะไปกี่วัน เราชะงักเมื่อโอถาม..วันเดียว..แล้วทำไมต้องหอบหิ้วอะไรขนาดนี้ ยังกะไปเข้าค่ายลูกเสือ..เราไม่ตอบน้อง...สามล้อเครื่องขับไปเรื่อยๆ เรามองข้างทางอย่างอารมณ์ดี เราไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง และเมื่อไหร่ นี่เราชอบนาจแล้วหรือ เราถามตัวเองไปตลอดทาง ในใจก็คิดว่า ป่านนี้เขาทำอะไรอยู่ รถจอดที่หน้าบ้าน คนแถวนั้นมองเราอย่างแปลกหน้า เราต้องรีบเดินเข้าไปในบ้าน แล้วสำรวจตัวเองอีกครั้งที่กระจกพกใบจิ๋ว หน้าก็ไมได้แต่ง ใส่เสื้อยืด กางเกงขายาวธรรมดานี่นา ไม่ค่อยมั่นใจเลย บ้านของนาจไม่ได้ล็อคกุญแจ เราเดินอ้อมมาที่ด้านหลัง แล้วขึ้นไปรอที่ข้างบน แต่แปลกใจที่นาจไม่อยู่ ตอนนั้นก็เริ่มเย็นแล้ว แล้วนี่เขาไปไหน ใจเริ่มกระวนกระวาย เดินสำรวจไปทั่วห้อง เอาแล้วสิ..สมัยนั้นยังไม่มีมือถือไม่งั้นคงต้องโทรเช็คก่อนแล้ว..นี่ไปไหนเนี่ย..เรารอจนมืด ข้าวเย็นก็ยังไม่ได้กิน บ้านพักก็ไม่มีทีวีดู มีเพียง วิทยุทรานซิสเตอร์ รับเอฟเอ็มก็ไม่ได้ หมุนไปคลื่นไหนก็มีแต่ข่าว แล้วนี่เราจะกลับดีมั๊ย ..ชั่งใจอยู่นาน..นาฬิกาข้อมือบอกเวลาทุ่มนึง ถ้ากลับตอนนี้คงจะพอโบกรถสามล้อเครื่องไปตลาดได้ เอหรือจะรออีกหน่อย เราไม่อยากเสียเที่ยวไหนๆก็ขอแม่แล้ว เดินลงไปหาอะไรกินดีกว่า...ถัดไปสองสามหลังมีร้านขายของคงมีอะไรให้กินบ้าง...ไปถึงร้านก็ขาอ่อนทันที นาจนั่งกินเหล้าอยู่กับน้องมอ.ห้าคนที่เราเคยเล่นค-ยเขาตอนกีฬาสี แล้วไหนว่าอยู่คนเดียว ..นาจหันมามองหน้าเรา
ทำไมเพิ่งมา...
.
ขอบคุณครับผม{:5_130:} ขอบคุณครับผม ขอบคุณนะ ได้เสียวกันแล่ว ^^ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณครับ รอต่อนะครับ ขอบคุณนะครับ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับผม
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุนครับ ยินดีจ๊าดนักเจ้า ขอบคุณนะครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับผม{:5_116:} ขอบคุณมากนะครับ {:5_146:} ขอบคุณนะครับ
หน้า:
[1]
2