"ความทรงจำ...ไม่เคยเลือน" คุณเอ๋/CT จากบอร์ด palm ครับ กระทู้ที่ 30
ตอนที่ 60
เช้าวันเสาร์อพาร์ตเมนท์ค่อนข้างเงียบ ทุกห้องคงยังนอนอยู่ พี่โด่งไขกุญแจเขเช้าห้องเบาๆ ทันทีที่เปิดประตูห้อง ลมแทบจับห้องรกมากหนังสือพิมพ์วางอยู่ไปทั่วทุกมุมห้อง เสื้อผ้าก็ยังไม่ซัก ไหนจะขวดเบียร์ที่ระเบียงอีก ห้องน้ำก็เปื้อนเป็นคราบดำๆที่พื้น จานข้าวกินแล้ววางกองสุมกันอยู่
"พี่โด่งอะไรเนี่ย" มองไปบนที่นอนก็รก
"ขอโทษทีพักนี้ฉลองกันทุกวัน เมื่อคืนก็เพิ่งกินกันมันหนาวก็เลยกินเหล้ากัน" พี่โด่งเดินเก็บกวาด เราเดินไปจัดการเก็บขวดเหล้าขวดเบียร์หลังห้องใส่ถุงออกไปทิ้ง แล้วก็ล้างจานเก็บเพราะมันเริ่มส่งกลิ่นแล้ว หน้างอไม่พูดไม่จาพี่โด่งเก็บของในห้องแต่ดูเหมือนยิ่งเก็บก็จะยิ่งรก ย้ายจากตรงโน้นก็ไปกองตรงนี้ ของมันเยอะจริงๆ ล้างถ้วยเสร็จก็จัดการซักผ้าต่อ โยนผ้าลงถังตั้งเวลา เสร็จก็ต้องเก้บเตียงดูแล้วตัวเองเหมือนซูเปอร์วูแม่น เราอยู่ไม่ได้แน่ถ้ารกอย่างนี้ เปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ พี่โด่งมาเดินทำเกะกะเราก็ไล่ให้ไปดูโทรทัศน์ จัดการเก็บกวาดห้องนอนเสร็จ ก็ต่อที่หน้าทีวี วีดีโอที่เช่ามาดูวางระเกะระกะนอกกล่อง ปัดฝุ่นที่ชั้นทีวีแล้วจับตลับเทปใส่กล่องตามชื่อมัน เราค้อนพี่โด่งหลายที กวาดบ้านเสร็จฝุ่นเพียบ เอาม็อบมาถูสองรอบ พอดีผ้าก็ซักเสร็จ หยิบผ้าไปตาก แล้วก็ซักผ้าห่มผ้าปูที่นอนที่รื้อเมื่อกี๊ สุดท้ายก็คือห้องน้ำ นั่งขัดห้องน้ำอยู่นาน อุปกรณ์ก็มีพร้อมหมดวันละห้านาทีสิบนาทีก็ไม่ทำแล้วรับแขกกันยังไงนี่ ตู้เย็นก็มีแต่ของเหลือที่ไม่ได้เอาไปทิ้ง เอนี่พี่โด่งเป็นอะไรเหมือนไม่ใส่ใจห้องเลย เสร็จเอาเกือบบ่ายหหิวจนแสบท้อง เจ้าของห้องนอนหลับปุ๋ยอยู่ที่โซฟา
"พี่โด่ง หิวข้าว" เราเขย่าตัวแก แกไม่ยอมตื่นเราก็ต้องลงไปซื้อข้าวหน้าอพาร์ทเมนท์ขึ้นมากินบนห้อง เทกับข้าวจัดโต๊ะเสร็จก็ต้องปลุกให้กินข้าว
"บอกให้มาหา แล้วก็มานอน" พี่โด่งหลับจริงๆ เรานั่งกินข้าวคนเดียวอย่างเหงาๆ พี่โด่งคงหนักจริงๆเมื่อคืนเราเชื่อสายตาแล้วว่าแกดูเหมือนจะฉุขึ้นเล็กน้อย กินข้าล้างจานเสร็จก็อาบน้ำ เราเหนื่อยในที่สุดก็นอนหลับอยู่ที่พื้นหน้าระเบียงหลัง
"เอ๋" พี่โด่งมาปลุก "มานอนทำไมที่พื้น ไปนอนบนเตียงสิ"
"นอนนี่แหละเย็นดี" เราหลับตานอนต่อพี่โด่งอุ้มเราขึ้นเดินไปที่เตียงนานแล้วที่ไม่มีใครอุ้ม เตี่ยอุ้มครั้งสุดท้ายก็ตอนนั่งดูทีวีจนหลับตอนนี้เตี่ยคงอุ้มไม่ไหวแล้ว วางเราบนเตียงพี่โด่งก็นอนทับลงมาลูบหน้าเรา
"บ้านก็ไม่เก็บอยู่ได้ยังไง"
"รอให้เมียมาเก็บ"
"โอ๊ย เมียที่ไหนจะมาเก็บให้ ใครเห็นก็วิ่งหนีหมดแหละ" เราหลับตาต่อเพราะเมื่อยจริงๆ อดนอนบนรถยังมมาเจองานหนักอีก
"เมียมาแล้วนี่ คิดถึงผัวมั๊ย" แกซุกหน้าที่ซอกคอตัวพี่โด่งหนักกว่าเดิม
"เมื่อกี๊ พี่โด่งพูดว่าไงนะ ใครเมีย" เรามองค้อน
"ก็นอนทับอยู่นี่ไง"
"ไม่เป็นหรอกเมีย ผัวอะไรไม่รู้ทิ้งขว้าง ได้แล้วก็เอาไปปล่อยที่บ้าน" เรามองหน้าพี่โด่ง แกจูบเราเบา
"เหนื่อยมั๊ย"
"เหนื่อยมาก เห็นหน้าพี่ก็หายเหนื่อยแล้ว พี่เป็นไงบ้าง" พี่โด่งพลิกตัวลงนอนข้างๆ แล้วจับมือเรา
"ไม่รู้ส่งเอ๋แล้วพี่ก็ทำงานวันหยุดก็กลับไปนอนกับแม่ ชุดทำงานก็จ้างคนซัก ตกเย็นก็กินเหล้า"
"พี่เป็นอะไรเหรอ" เราพลิกตัวแนบหน้าที่อกเหมือนเคย
"คิดถึงเอ๋มั๊ง"
"ไม่เชื่อ คิดถึงทำไมไม่โทรหาบ่อยๆ"
"พี่สับสนว่า พี่ชอบผู้ชายด้วยกันรึเปล่า แต่แล้วพี่ก็ลืมไปว่าเอ๋เป็นผู้ชายทุกทีที่พี่โทรไปหา"
"พี่โด่งคิดอย่างนั้นเหรอ"
"ฮื่อ" เรานอนกอดพี่โด่งแน่นขึ้น
"พี่โด่งจะบังคับตัวเองทำไม พี่อยากทำอะไรก็ทำสิ ไม่เห็นต้องหลอกตัวเองเลยว่าใช่ไม่ใช่ พี่ตอบตัวเองให้ได้สิว่าพี่คิดอะไรต้องการอะไร อย่าเอาคำว่าผู้ชายผู้หญิงมาวัดเอ๋เลย เอ๋ลำบากใจที่จะฟัง" เราพูดได้เป็นวรรคเป็นเวรคงเพราะอ่านนิยายมาก เราชอบชีวิตของนิราจากใบไม้ที่ปลิดปลิวมาก เลยซึมซับความรู้สึกนึกคิดมาเยอะ แต่พี่โด่งไม่ใช่อาของเรา เรานิ่งกันไปทั้งคู่ไม่รู้ว่าพูดแรงเกินไปรึเปล่าเห็นพี่แกเงียบไปก็เลยพลิกตัวหันหลังให้แล้วหลับตานอนต่อ ทั้งห้องเงียบไปอึดใจก่อนพี่โด่งจะลุกขึ้นไปห้องน้ำ อาบน้ำอยู่นาน เราเองก็คิดว่าพูดอะไรผิดนอกจากพูดในสิ่งที่อยู่ในใจออกไปเท่านั้นถ้าหากพูดไปแล้วสิ่งที่ตั้งใจไว้จะเปลี่ยนไปคงไม่น่าเสียใจ เวลาห่างกันนานเหมือนกันมันพอที่ทำให้เราซึมซับกับความผิดหวังจนชินซะแล้ว เรื่องของเรากับพี่โด่งเรามองไม่ออกว่ามันจะดำเนินไปถึงไหน เหมือนกับเราเอาใจไปผูกไว้กับเขา และก็ดูเหมือนเขาอยากจะผูกใจเราไว้แต่ตัวเขาเองกลับมีเรื่องของความใช่ไม่ใช่มาคั่นไว้อีก พี่โด่งจัดการกับตัวเองเสร็จแล้วก็ลงมานอนข้างๆอีกที
"เมื่อคืนไม่ได้อาบน้ำ ไปล้างมาแล้ว แกจับมือเราไปจับเคแก"
เราพลิกตัวกลับอีกครั้งมองมือของตัวเองที่กุมลำของพี่โด่งอยู่ พี่โด่งดันเอวขึ้นเหมือนเตือน ก่อนที่จะจับหัวเราลงไปซุกที่ท่อน เราเลียที่ปลายช้าๆทักทายกับมันก่อนก่อนที่จะอมมันเข้าไปทีละนิด พี่เพลินคงนึกว่าเราไม่เคยดูดผู้ชายแกแนะนำให้อมเข้าไปให้ลึกที่สุดก่อนที่จะใช้ลิ้นตวัดไปมาในปาก เราทำตามถ้าเคไม่ยาวก็คงทำได้ง่ายแต่เคพี่โด่งมันยาว ทำได้ไม่นานก็เหมือนจะสำลักย้ำลายตัวเอง พี่โด่งดึงกางเกงเราออก
"ไหนดูสิ ยกเครื่องใหม่รึยัง แกตันเข้ามาแล้วมันบาดระริก
โคนพี่โด่งใหย่กว่าปลายถึงปลายจะเข้าง่ายแต่โคนก็ทำให้จุก พี่โด่งโยกเราท่าเดียวคือดันเข้าแรงๆจนแกเสร็จ ดึงมันออกแล้วก็นอนหงาย
เราไม่รู้สึกอะไรเลย คงเป็นเพราะเหนื่อย หรือเครียดกับความคิดตัวเองก็ไม่รู้ พี่โด่งเองก็เหมือนดูออก
"พี่ขอโทษนะที่ทำให้เอ๋ไม่สบายใจ"
"ไม่มีอะไรหรอกพี่" พี่โด่งเอานิ้วก้อยมาเกี่ยวกับเรา
"สัญญาว่าจะไม่ทำให้งอนอีก รักพี่มั๊ย"
เราซุกหน้าที่อกปลือยแกอีกครั้ง
"รักที่สุด" เราบอกไปจากใจจริงของเรา
แต่ฉันยังนึกหวั่นเสมอ รักเธอเลือนเหมือนม่านบังตา บางวันฉันเฝ้าคอยหา เหนื่อยอุราพาให้อาวรณ์.......
ตอนที่ 61
"เมื่อไหร่นะพี่โด่งจะรักเอ๋เหมือนที่เอ๋รักพี่" เราถามกับพี่โด่งเบาๆใกล้ๆหูของแก ไม่มีคำตอบจากปากของพี่เขา มีเพียงสายตาที่มองมา ซึ่งไม่อาจคาดเดาอะไรได้เลยสักนิด ความรู้สึกนั้นยังคงคุกรุ่นต้องการคำตอบจากปากพี่โด่ง จากใจเบื้องลึกของแกเท่านั้น
พี่โด่งมีเพียงสัมผัสเบาๆที่ไหล่ของเราเท่านั้น หากเป็นปัจจุบันแล้วเรามีคำตอบให้กับคำถามในวัยเด็กแล้ว ผู้ชายไม่สามารถบอกรักกับกระเทยหรอก ความรู้สึกที่เขามอบให้ได้คือความรู้สึกที่ดีเท่านั้น เหมือนกระเทยเป็นที่สงบ เป็นดินแดนแห่งความลับที่บางครั้งเขาอยากจะปลีกตัวมาพักผ่อน ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใข่แฟน ธรรมชาติของผู้ชายคงเป็นเหมือนกันหมดไม่อยากจะรู้สึกอ้างว้างและเหงาต่อหน้าผู้หญิงและเพื่อน กระเทยบางครั้งก็เป็นที่พักพิงใจของเขาได้บ้างก็เท่านั้น
เราทั้งคู่ออกจากบ้านเข้ากรุงเทพฯ ขับรถวนรอบสนามหลวงแล้วออกไปยังเยาวราช พี่โด่งจอดรถแถวที่ใกล้ร้านอาหารข้างทางแล้ว พาเราเดิน เยาวราชตอนนั้นไม่เหมือนตอนที่เตี่ยพามา แถวนั้นเราเรียกไม่ถูกจำได้ว่าเตี่ยจะมากับอาแปะเพื่อซื้อของที่ วรจักรแล้วแวะดูหนังที่โรงหนังกรุงเกษม กลางคืนก็จะพักที่โรงแรมไทเป เรานั่งกินข้าวกันพี่โด่งดูขรึมไปนิด เราเหลียวมองไปรอบๆร้านอาหารมากมาย มีแต่สิ่งที่น่าสนใจทั้งนั้น
"พี่โด่ง" เราเรียกความรู้สึกกลับคืนมานี่เรามาหาเขามาตามหาหัวใจตัวเองแล้วทำไมจะต้องเอาเรื่องอื่นมาทำให้หมดสนุกเนี่ย เราเรียกพี่โด่งให้กลับมาเป็นคนเดิมของเรา แกทำหน้าเหรอหรา พี่โด่งใจลอยไปถึงไหนนะ
"คิดอะไรอยู่เหรอ" เราลุกออกจากที่นั่งเดินดูโน่นดูนี่อยู่นานกว่าจะขึ้นรถ
"พี่โด่ง เอ๋ขอโทษนะ ที่อาจจะพูดอะไรบ้าๆออกไป" พี่โด่งละสายตาจากถนนเล้วหันมามอง
"เอ๋พูดอะไรไม่ดี เรื่องอะไรครับ คิดมากน่า พี่ไม่เป็นอะไรหรอก" แกขับรถไปเรื่อยๆแล้วลดความเร็วตอนข้ามสะพานพุทธ คนยืนเป็นระยะพร้อมคันเบ็ดยาวๆ ตกปลากันแปลกๆนะคนกรุงเทพฯนี่ รถมาถึงอพาร์ทเม้นท์ พี่โด่งอาบน้ำเสร็จก็เปิดทีวี รอเราอาบน้ำเสร็จต่อจากแก สภาพห้องดูน่าอยู่กว่าเมื่อเช้า
"พี่โด่ง ไม่เอาอย่าเงียบแบบนี้สิ พี่เป็นอะไร"
"ไม่ได้เป็นอะไร"แกยังคงสนใจหน้าจออยู่
"พรุ่งนี้เราจะทำอะไรกันดีพี่" เรานอนหนุนตักแกที่โซฟา
"เอ๋จะไปไหนหล่ะ"
"ไม่รู้ พี่โด่งพาเที่ยวหน่อยสิ"
"ไปไหนดี" แกทำท่าใช้ความคิด "ไปเที่ยววัดพระแก้วมั๊ย"
"ไปบ่อยแล้ว เอ๋ไม่ได้มาทัศนศึกษานะพี่" เราซุกหน้าลงที่เป้าแก แกก็แกล้งเอามือกดหัวเราไว้ตรงนั้นจนหายใจไม่ออก
เราพลิกกลับมาหนอนหงายเหมือนเดิม แล้วดูทีวีด้วยกัน "ง่วงแล้ว" เราหลับไปบนตักของพี่โด่ง มารู้สึกตัวก็ถูกอุ้มมาวางที่เตียง
"ตัวหนักไม่ใช่เล่นนะเรา" พี่โด่งนอนลงข้างๆ เอามือเราวางไว้บนอก หลับรวดเดียวจนถึงเช้า
ตอนที่ 62
"พี่โด่ง พรุ่งนี้ออกเดินทางกี่โมงพี่"
"หกโมงเช้า ต่างคนต่างไปแล้วไปเจอกันที่เชียงใหม่เลย"
"พวกเพื่อนพี่ไปกันยังไง"
"ไปรถตู้ของเจ้าของบ้าน พวกนั้นอยุ่เคาน์เตอร์คงต้องปิดบัญชีเสร็จก่อนแล้วจะตามมา สิ้นปีจะยุ่งมาก" แกอธิบาย "
"แล้วพี่ไม่ต้องช่วยเขาเหรอ"
"พี่อยู่ธุรการไม่ต้องวุ่นกับพวกนั้น ขับรถไปรอดีกว่า มีเอ๋มาด้วยอย่างนี้ไม่ต้องรอใครแล้ว เวลาเจอเพื่อนพี่แล้วอย่าแรดนะ"
"บ้าพี่โด่งใครแรด" เราเถียง แรดตรงไหนวะ
"ห้ามงอน แล้วก็ทำตัวให้เป็นปกติด้วย"
"พี่ว่าเอ๋ผิดปกติเหรอ" เรามองหน้าพี่โด่งอีกที "เอ๋คงเก็บความเป็นกระเทยไม่มิดมั๊งพี่"
"ไม่ได้ห้ามขนาดนั้น แต่ว่าเอาเป็นว่าให้ลดลงนิดนึงนะครับ"
พี่โด่งลูบหัวเราเล่น
"พี่โด่งสบายใจรึยัง" เราถามแกอีกครั้ง
"พี่ไม่ได้เป็นอะไรนี่"
"จริงเหรอ" เราเอามือไปลูบที่เคแก "แล้วทำไมเช้านี้น้องไม่ตื่นหล่ะ" ลูบไปตามลำช้าๆบีบเบาๆ
"เห็นมั๊ยกวนจนน้องตื่นแล้ว" เคพี่โด่งพองตัวขึ้นแล้วกระดกอยู่ในกางเกง "เอ๋ดูน้องหน่อย" พี่โด่งยกขาชันขึ้นข้างนึงน้องชายโผล่ออกมาจากขากางเกงใส่นอนบานๆ แกกระดกมันเล่นพร้อมกับรูดมันเล่น หันหน้ามามองเราแล้วยกตัวถอดกางเกง ออกไป เรานอนอยู่ข้างล่างพี่โด่งลุกขึ้นคร่อมที่หน้า แต่ยังไม่ให้เราดูดแกจับมันตีที่ปากเราแรงๆหลายที
"เมื่อวานพูดไม่ดี ต้องตี" แกดีดเคกับปากเราหลายทีมือของเราบีบก้นแน่นๆของพี่โด่งเล่น กลิ่นอ่อนๆจากปลายเคมันเร้าใจจนน้ำลายสอ พี่โด่งยังคงแกล้งเราต่อด้วยการจับมันถูไปทั้งหน้าเรา แล้วแกก็ลุกจากเตียงเราตามจะไปจับ
พี่โด่งวิ่งเข้าห้องน้ำ "เดี๋ยวๆ ปวดเยี่ยว"
"เซ็งเลย" พี่โด่งล้างเคอย่างดี แต่เล่นยังไงก็ไม่ลุก พี่โด่งหัวเราะ
"อด" แกหันหน้ามาทำหน้าทะเล้นใส่ "สมน้ำหน้าเมื่อคืนอยากนอนหลับเอง"
"พี่ทำไมไม่ปลุกหล่ะ"
"ปลุกทำไม พี่จัดการไปแล้วนี่ตอนกลางวัน ใครอยากได้อีกก็ต้องอยู่รอ" เราก็งอนขึ้นมาอีก หันหลังให้ เตียงขยับเล็กน้อยพี่โด่งคงนอนเขย่าตัวเล่น เราคิดไปอย่างนั้นก็เลยหลับตานอนต่อ จนเคลิ้มๆไปแล้ว รู้สึกว่ามือพี่โด่งกำลังรูดกางเกงเราออก มันคุ้นกันแล้วเรานอนคว่ำเพราะกลัวแกจะมาจับน้องเราเหมือนกัน พี่โด่งตีหัวเบา "ตื่นๆ " เราแกล้งนอนต่อ "ง่วง" พี่โด่งไม่ว่าอะไรนอกจากขยับตัวเรามาที่กลางเตียง แล้วนอนทับลงมา เรารู้สึกถึงการล่วงล้ำมันเจ็บพอดู
"พี่โด่ง เจ็บอีกแล้ว เอาออกเถอะ"
"ไม่เอา นอนเฉยๆ"
"เฉยได้ไงก็มันเจ็บ"
"เข้าไปจนหมดลำแล้วเพิ่งบอกว่าเจ็บ" แกนอนทับลงมาจูบแก้มเรา "แล้วดันพรวดเข้ามาจนสุด "โอย"
"พี่โด่งโกหก"
"เอาน่า เอาน่า หมดแล้วจริง" แสบก้นจังเลยแต่สักพักมันก็กลายเป็นความเสียว เจ็บ แสบ เสียว สามรสเลย
"นอนนิ่งเลยนะ"พี่โด่งพูดอยู่ข้างๆหู "ชอบละสิ" พี่โด่งคว้านเป็นวงข้างใน มันเหมือนกับอะไรดิ้นอยู่ในตัวเรากล้ามเนื้อเหมือนถูกรบกวน พี่โด่งก้มหน้าก้มตาซอยได้สักพักก็ดึงออกเอาเคมาถูกับร่องก้นแล้วก็กระตุกไปมา น้ำหยดแรก กระทบที่แก้มก้นแล้วหยดต่อมาก็ละเลงอยู่ที่หลัง พี่โด่งยังคงเอาปลายกดไปตามตัวเราอยู่ เราเสียวจนซึมไปแล้ว
พี่โด่งเดินจูงมือเราเข้าห้องน้ำแล้วล้างที่หลังให้เราก็ฟอกเค แก จนสะอาดทั้งคู่ ทำท่าว่าจะกินงูพี่โด่ง พี่โด่งดันตัวไว้ "อย่าเพิ่งเลย เจ็บปลายอยู่" พี่โด่งเดินแก้ผ้าอยู่ในห้องจนสาย ค-ยแกว่งไปแกว่งมาต่อหน้าเรา อยู่อย่างนั้นเหมือนแกยั่ว เรากำลังนอนอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่พื้น ก็มานั่งชันเข่าที่หน้า เคอยู่ในระดับสายตาเราพอดี พอเราจะจับแกก็ลุกขึ้น แล้วก็มานอนทับเราทำทีเป็นกระเด้า เราก็หันหลังไปมอง พี่โด่งก็หยุดทำแล้วลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้า
"ไปกินข้าวกันเอ๋" เราแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเลยลงไปรอที่รถ อพาร์ทเม้นท์เล็กๆอย่างนี้คงรู้จักกันหมด หนุ่มหล่อหลายคนเดินผ่านจนต้องมองตาม คันขึ้นมาอีกแล้ว พี่พงษ์เดินลงมาพร้อมหนุ่มหน้าใส เราได้แต่ยืนมองที่รถ จนเด็กหนุ่มเดินไปแล้ว พี่พงษ์ก็เดินมาหาที่รถ
"มาตั้งแต่เมื่อไหร่" แกเดินมาทัก
"เมื่อวาน"
"มิน่า ไอ้โด่งปิดห้องเงียบเลย "
"คนที่ลงมากับพี่ ใครเหรอหล่อจัง"
"หล่อ แล้วมีเงินซื้อรึเปล่า" เรางงในคำตอบของแก
"ทำไมต้องซื้อด้วย" เด็กบ้านนอกอย่างเราไม่ทันกับสิ่งที่แกพูด
"กินของฟรีนะแหละดีแล้ว ทำงานแล้วค่อยซื้อกิน" แกพูดเป็นนัยๆ "ไอ้โด่งก็แปลก เราอยู่ใกล้ๆ ไม่ยักชวนเราเลย หล่อนอยู่ไกลจะตายชักกลับชวน มีอะไรดียะ"พี่โด่งเดินตามมาแล้ว
"ก็ไม่มีอะไรนี่ " เราตอบไปตามเรื่อง พี่โด่งเดินมาถึงรถพี่พงษ์ก็คว้าหมับที่เป้าพี่โด่งไม่ยักหลบ พี่พงษ์ก็บีบเบาๆอญุ่นาน เรางงในความสัมพันธ์ของทั้งคู่
"ไปไหนกันรูปหล่อ" แกเอามือออกแล้วถาม
"พาเมียไปกินข้าว" พี่โด่งตอบพี่เพลิน
"อ้าวงั้นก็ต้องให้แนไปด้วยสิ ก็เมียเหมือนกัน"
"อย่างแกเรียกว่าทำบุญโว๊ย" พี่โด่งพูดเสร็จก็เดินหัวเราะ ขึ้นรถประจำที่คนขับ เรายืนเซ่ออยู่เป็นนาน มองตามหลังพี่พงษ์ไป พี่โด่งบีบแตรเรียกเราขึ้นรถ รถออกจากอพาร์ทเม้นท์แล้ว คำพูดของพี่เพลินก็ก้องเข้ามาในหู "เอ๋ ต้องระวังตัวบ้างนะ ผู้ชายเราไม่รู้หรอกว่ามั่วรึเปล่า ถ้าเอ๋ป้องกัน อย่างน้อยเราก็ระวังตัวได้ในระดับหนึ่ง ไม่ใช่ผัวใช่เมียกัน โรคยังไม่มียารักษานะ น้องพี่มันบอกแล้วนี่เมืองไทยก็เจอเยอะแล้วด้วย เจ๊ละเกลียดจริงๆ ไอ้โรคบ้านี่ทำไมมันมาเกิดกับพวกเราก่อนนะ" ความรู้ของเรากับพี่เพลินก็เป็นไปตามข่าวที่หนังสือพิมพ์นำเสนอเท่านั้น ว่าพวกรักร่วมเพศเป็นตัวแพร่เชื้อ บางส่วนก็คงถูก เพราะพฤติกรรมมั่วอย่างที่น้องพี่เพลินเล่าให้ฟัง แล้วหันไปมองหน้าคนขับ แล้วพี่โด่งมั่วรึเปล่านะ ส่วนเราเราคิดว่าเรามั่วอย่างแน่นอน อยู่กันสองคนไม่ได้คิดอะไร ถ้าไม่เจอพี่โด่งกับพี่พงษ์ แสดงต่อกันอย่างนี้เรารู้สึกกลัวกระเทยด้วยกันขึ้นมา แล้วนี่พี่พงษ์กับพี่โด่งไปถึงขั้นไหนแล้ว และเราจะทำยังไงดีนี่ หมดสนุกเลย
"เป็นอะไร"
"พี่โด่งมีอะไรกับพี่พงษ์แล้วเหรอ" เราถามโดยไม่หันไปมองหน้า
"เชื่ออีพงษ์มัน แค่เมาหลับแล้วมันแอบดูดพี่ไปทีเดียวก็คุยเป็นวรรคเป็นเวร"
"แต่พี่โด่งก็ไม่ได้ปฏิเสธ ตอนที่เขาจับเล่นนี่"
"เพื่อนกัน ก็ให้มันจับอย่างนี้ทุกวันแหละ ไม่เอาหรอก ถามอย่างนี้กลัวอะไรอยู่ใช่มั๊ย" เราหันหน้าไปมอง บรรยากกาศจะพาให้หมดสนุกอีกแล้ว "พี่โด่งหันหน้ามามอง ตั้งแต่มีเรื่องโรคบ้านี่ พี่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวเหมือนก่อน อยากทีก็ต้องใส่ถุงป้องกัน ข่าวก็มาทุกวัน มีเอ๋นี่แหละที่พี่มีอะไรด้วยเป็นเรื่องเป็นราว สำคัญว่าเรานะมั่วหรือเปล่า" เรารู้สึกสะอึก พูดไม่ออก ส่ายหน้าโกหก
"ถ้าเอ๋ไม่สบายใจด้วยเรื่องแค่นี้ เราก็ไม่ต้องยุ่งกันอีกก็ได้นะครับ เที่ยวๆกันแล้วก็แยกย้ายกันกลับ" เราเชื่อใจพี่โด่งแต่ตัวเราเราไม่เชื่อใจตัวเอง
"ว่าแต่เอ๋จะทนได้เหรอ อยู่กับพี่ทุกวัน แบบนี้ของมันเคยๆกันแล้วนี่" พี่โด่งพูดยาวกว่าทุกที
"งั้นก็ใส่ถุงสิพี่"
"โอยไม่มันหรอก ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่ต้องเอากันเลย" พี่โด่งหน้าตายังคงราบเรียบไม่มีอะไรผิดปกติที่สีหน้าและแววตา
"เราไม่ไว้ใจพี่แล้วละสิ เสียดายที่พี่ไว้ใจเอ๋นะ" พี่โด่งหันหน้ามามองอีกครั้ง เราเอนหน้าไปพิงที่ไหล่แก
"เอ๋ไม่ได้คิดขนาดนั้น เอ๋แค่กลัวเท่านั้นเอง" จูบที่ไหล่แกเบา พี่โด่งละมือจากพวงมาลัยข้างนึงมาลูบที่ผม
"พี่คิดว่าพี่ชอบเอ๋แล้วนะ อยู่ใกล้ๆแล้วมีความสุขดี ถึงเอ๋จำไม่ใช่ผู้หญิง พี่คิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาอะไร ถ้าเราจะคบกันไปแบบนี้ เพราะถึงเวลาของมันแล้วก็คงจะแยกย้ายกันไปเอง"
"เอ๋ก็คิดอย่างนั้นแหละ อีกไม่นานพี่ก็มีครอบครัว เอ๋ก็ต้องโตขึ้นทุกวัน" เราพูดเบาๆ
"คิดได้ก็ดีแล้ว จะได้ไม่เสียใจตอนที่พี่ไปอยู่กับคนอื่น ตอนนี้พี่มีเวลาให้เราเต็มที่ คิดเอาเองว่าต้องการอะไรนะครับ"
รถจอดที่ร้านอาหารเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา เราเลือกที่นั่งที่ติดกับแม่น้ำ บรรยากาศดีมาก แสงแดดส่องกระทบกับผิวน้ำเป็นประกาย เรือข้ามฝาก เรือหางยาวแล่นผ่านไปมา บนผืนน้ำ พี่โด่งทานอาหารช้าๆพร้อมกับมองหน้าเราบ่อยครั้ง แกดูแลเราดีจนเรารู้สึกว่าเราเองต่างหากที่ไม่ดี นึกแล้วเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมาช่วงห่างจากพี่โด่ง ผู้ชายกี่คนที่ผ่านมาในระหว่างสี่ห้าเดือน พี่แขก หนุ่ย พี และขาประจำ ..ตั้ม
ล่าสุดก็รถทัวร์มหาสนุก พัฒน์ เราคิดว่าตัวเองสกปรกเหลือเกินไม่คู่ควรกับความดีของพี่โด่งเลยสักนิด
"กินสิเอ๋ กับข้าวอร่อยดีนะร้านนี้พี่มาบ่อย"
"พี่โด่ง เอ๋ขอโทษนะ"
"เฮ้ยนี่ขอโทษกันกี่ครั้งแล้วตั้งแต่มาเนี่ย ทำอะไรผิดเหรอ ดีแล้วที่คุยกับแบบนี้ นี่ละผู้ชายเขาคุยกัน จะมาอ้ำอึ้งเหมือนผู้หญิงกว่าจะเคลียร์กันได้ ดีแล้วละเอ๋ พูดออกมาตรงๆจะได้คุยกันได้ทกเรื่อง เอ้าๆกินข้าวเร็ว " ค่อยกินข้าวได้ขึ้นมา เรายิ้มออก พี่โด่งชวนคุยเรื่องสนุกๆจนความหดหู่เมื่อกี๊มันมลายหายไปจนสิ้น
...หากดวงใจฉันมีปีกบิน เหลิงลอยเมฆินทร์ได้ดังฝัน จะอยู่ไหนไม่เคยหวั่น ฉันบินมาพลันอยู่ใกล้เธอ แต่บัดนี้เราห่างกันสุดกู่ เธอคงไม่รู้ว่าฉันพร่ำเพ้อ ค่ำเช้าทุกวันฉันเฝ้ามองเหม่อ คร่ำครวญถึงเรียกเธอหาเธอเรื่อยมา
...เฝ้าแต่ครวญเสียงเพลงฝากลมเพื่อคลายทุกข์ตรมท่วมอุรา ฝากกระซิบถึงเธอว่าทุกคำสัญญาจดจำมั่น.........
....อีกไม่ช้าคงกลับมาสู่เคลียคลอชื่นชู้เหมือนดังใฝ่ฝัน ยิ่งคิดคราใดฉันยังใจหวั่น..........หากเธอแปรผันฉันคงขาดใจ
......ยิ่งคิดคราใดฉันยังใจหวั่น..........หากเธอแปรผันฉันคงขาดใจ
เราฮัมเพลงนี้ตามร้านอาหาร เตี่ยมีแผ่นของจิตติมา เจือใจที่บ้าน รู้สึกชอบเหมือนกัน เปิดบ่อยจนร้องเป็น พี่โด่งมองหน้าแล้วเขินสายตาเรา หลบสายตาอมยิ้มมองไปที่แม่น้ำแทน..............
.
ขอบคุณครับผม{:5_130:} ขอบคุณครับผม ขอ บคุนนะ ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณครับ รอต่อนะครับ สนุกมากครับ ขอบคุนครับ ยินดีจ๊าดนักเจ้า ขอบคุณครับ ขอบคุณมากนะครับ{:5_125:} ขอบคุณมากเลยนะครับ {:5_146:}
หน้า:
[1]