"ความทรงจำ...ไม่เคยเลือน" คุณเอ๋/CT จากบอร์ด palm ครับ กระทู้ที่ 31
63
"พี่โด่งจะไปไหนเหรอฮะ" เราถามเมื่อพี่แกขับรถผ่านสนามหลวง
"จะพาไปไหว้พระ" บ่ายแก่แล้ว รถขับไปเรื่อยๆ วันเสาร์ถนนโล่งเกือบห้าโมงเย็น พี่โด่งก็พาเรามาถึงอยุธยา ไหว้พระอยู่หลายวัด แต่ที่ชอบมากที่สุดคือวัดชัยวัฒนาราม เราเดินไปรอบๆ บริเวณโบราณสถานแห่งนั้นในตอนใกล้จะมืด แสงแดดยามโพล้เพล้ทำให้ดูขลัง เหมือนมีความสงบวังเวงหากแต่เปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอิบใจจนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้ ยิ่งเมื่อมาอ่านเรือนมยุราในพลอยแกมเพชร อีกหลายปีต่อมาทำให้เห็นภาพวันนั้นชัดเจนมากขึ้น คุณพระนายไปไกลจากนกยูงแล้ว เรายังวนเวียนอยู่ในเรือนมยุราของเราอยู่อย่างนี้ ไม่สามารถเปิดเงื่อนเวลาออกมาหาพระนายคนนี้ได้อีกเลย พี่โด่งเดินนำไปดูตามทุกซอกทุกมุมของประวัติศาสตร์
"พี่ยังไม่ได้บอกเอ๋เลยว่า พี่ไปเรียนเป็นมัคคุเทศน์มานะ" แกอธิบายประวัติศาสตร์อยุธยาได้เป็นฉากๆ ทำให้เราอินนึกว่าตัวเองเป็นนางในกำลังเดินห่มสไบเฉิดฉายอยู่ไปมา ณ บริเวณนั้นพร้อมองครักษ์หนุ่มรูปงาม อารักขาอยู่ใกล้ๆ
"พี่อาจจะลาออกจากงาน ไปเป็นไกด์พาฝรั่งเที่ยวสักวัน"
"แล้วมันมั่นคงเหรอพี่" เราถามพี่โด่ง
"อยู่ธนาคารมั่นคงก็จริง แต่ชีวิตไม่มีสีสัน ยิ่งอยู่ธุรการอย่างพี่มันก็ทำไปเรื่อยๆ ไม่โตหรอก พวกรุ่นพี่ในออฟฟิศก็แก่ๆทั้งนั้น พี่อยากใช้ชีวิตอิสระมากกว่า งานที่ทำก็ไม่ใช่ว่าชอบนัก กินเงินเดือนไปวันๆ สิ้นปีก็พอจะยิ้มออกตอนรับโบนัสเท่านั้นแหละ แต่ต้องหาอะไรทำเท่านั้น ไม่งั้นต้องขอเงินแม่ใช้นะสิ" พี่โด่งใช้เงินเก่งพอตัวเพราะแค่ที่พาเราไปโน่นมานี่ก็จ่ายไปเยอะเหมือนกัน เงินเดือนพนักงานธนาคารคงไม่มากพอที่จะใช้จ่ายได้อย่างนี้ ถ้าไม่มีแบ็คที่ดีจากครอบครัว รถที่ใช้แม่ก็ซื้อให้
"แล้วเอ๋ เรียนจบอยากทำอะไรหล่ะ" ยังไม่ได้เรียนเลยก็ถามอนาคตแล้ว อนาคตที่วาดไว้มันเขวตั้งแต่เอ็นท์ไม่ติดแล้ว
"คงขายของที่บ้านมั๊ง เรียนให้จบแล้วไปช่วยพ่อแม่ขายของ" ตอนนั้นสมองตื้อยังมองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง และยังแปลกใจว่ามายืนอยู่ที่ปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อมองกลับไปดูมีหลายอย่างเกิดขึ้นกับชีวิตสิบกว่าปีกับการทำงานหนัก กับการทิ้งความฝันหลายๆอย่าง ทุกวันนี้ที่เป็นอยู่มันก็คุ้มค่าพอตัว
"พี่โด่งจะออกจากงานจริงเหรอ"
"ฮื่อ ไม่นานหรอก พี่ทำงานมาสามปีแล้ว ตั้งแต่เรียนจบทำงานก็มีคนฝากให้ เขาจ้างไปเตะบอลมากกว่า ไม่ค่อยได้ทำอย่างอื่น บางทีเสาร์อาทิตย์ก็ไปช่วยเพื่อนที่เขาเป็นไกด์ นะ พาทัวร์จีนเที่ยววัดพระแก้ว เที่ยววัง เที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวก ถึงมีเงินพิเศษมาใช้ไง"
"แล้วพี่เลิกเตะบอลล์แล้วเหรอ"
"มันเป็นฤดูนะ ปีนี้ตกรอบก็เลยเหนื่อยน้อยหน่อย"
"เอ๋ เรียนภาษาอังกฤษเยอะๆนะ" พี่โด่งบอก"บ้านเราเดี๋ยวนี้ใช้ภาษาเยอะ" พี่โด่งแนะนำเหมือนเป็นพี่ชายที่แสนดี
"ขับรถกลับถึงอพาร์ทเม้นท์เกือบสามทุ่ม ปาร์ตี้ที่ห้องพี่พงษ์แผดเสียงดังลั่น อพาร์ทเม้นท์เงียบไปเยอะเพราะคนเริ่มกลับบ้านต่างจังหวัดกันเยอะแล้ว เราชะโงกหน้าไปมองในห้องพี่พงษ์ ผีอย่างเรานั่งกันอยู่หลายคน ในนั้นก็มีหนุ่มๆที่อยู่ในอพาร์ทเม้นท์เดียวกัน ล้อมวงเหล้ากันอยู่ พี่พงษ์กระวีกระวาดเดินออกมา
"โด่ง เอ๋ กินเหล้ากัน ฉลองปีใหม่ล่วงหน้าหน่อยเร้ว" มือถือแก้วเหล้าออกมาชวนด้วย "พี่โด่ง ชนกันหน่อย" เสียงหนุ่มร่วมอพาร์ทเม้นท์ตะโกนออกมา "มาเอ๋ เข้ามานั่งก่อน" พี่พงษ์ลากแขนเราเข้าไปข้างใน "วี๊ดวิ๊ว" เด็กหนุ่มผิวปากใส่เรา พี่โด่งกับเรานั่งอยุ่คนละฝั่ง พี่พงษ๋กระแซะตัวเข้าใกล้ๆพี่โด่ง ตอนนี้พี่โด่งถูกขนาบข้างด้วยสองสาวรุ่นใหญ่
"นี่น้องเอ๋" พี่พงษ์ แนะนำให้เรารู้จักทุกคน และแนะนำพี่โด่งกับเพื่อนสาว "และนี่โด่งแฟนชั้น"
"แฟนหล่อนะยะ" เพื่อนสาวกรี๊ดกร๊าด
"อ้าวแล้วผมหล่ะพี่พงษ์" หนุ่มที่นั่งข้างๆเราแย้ง
"อุ๊ย มาเรียกอะไรพงษ์ น่าเกลียด เรียกพัชนีสิคะ" พี่พงษ์ถ้าจะเมามากจนเปลี่ยนชื่อ พี่โด่งนั่งขำหากแต่ก็จิบเหล้าไปเรื่อยๆ เพื่อนพี่พงษ์ก็อยู่ในวัยทำงานเป็นพวกหัวโปกเหมือนเรา เพียงแต่จริตจะก้านเยอะเรากับพี่เพลินยังสู้ไม่ได้เลย กับกระเทยเมืองหลวงนี่ดูแล้วต้องฝึกอีกเยอะ พี่เพลินกินไปก็โอบเอวพี่โด่งไป
"คิดได้ยังไงชื่อพัชนี เนี่ย" หนุ่มคนเดิมยังถามต่อ
"ก็พัดอีชนีทั้งหลายออกจากผู้ชายนะสิ"
"ชะนี คืออะไรพี่" ศัพท์ใหม่ไม่เคยได้ยิน
"ชะนี ก็คือผู้หญิงไง" เพื่อนพี่พงษ์ที่นั่งติดกับเราบอก
"แล้วทำไมถึงเรียกชะนี" เราก็ยังสงสัยอีก
"ก็เวลามันร้องไง ผัวผัวผัว อีพวกนี้มันร้องหาผัวตลอด ก็เลยเรียกมันชะนี" เหรอ เราเองก็ไม่เคยได้ยินชะนีร้องแต่ก็พอเข้าใจ
"โด่งขายกสิคะ" เพื่อนพี่พงษ์ที่นั่งติดกับพี่โด่งอีกข้างชนแก้วแล้วกระดกเฮือก มือแกวางที่ต้นขาพี่โด่งแล้วลูบเบาๆ พี่โด่งก็เป็นใจยกถาม
"อีนี่" พี่พัชนีปัดมือเพื่อนออกจากขาพี่โด่ง "อย่ามาปาดหน้าเค๊กนะ" โอยพูดอะไรกันนี่ ฟังไม่รู้เรื่อง หนุ่มข้างๆยังเป็นวัยรุ่นถัดไปอีกสองสามคนก็รุ่นเดียวกัน "ชนครับ น้องเอ๋" เราชนแก้วแล้วยก "หมดเลยนะ" สบายอยู่แล้ว เราชอบกินเร่งในตอนแรกให้หัวเชื้อติด แล้วค่อยผ่อนทีหลังเพราะถ้าหากจิบๆแล้วมันจะเมาเร็ว พี่โด่งยังคงสนุกสนานกับคุณพัชนีอย่างลืมตัว พี่ที่นั่งติดกับเรายื่นแก้วไปชนกับพี่โด่ง แล้วท้ากันให้หมดแก้ว ของกล้วยๆสำหรับพี่โด่งอยู่แล้ว "เก่งค่า เก่ง นี่น้องเอ๋ กินซะมั่งยุงไข่แล้ว"
"เอ๋ยังเด็กกินได้ไม่เยอะหรอก" พี่โด่งมองหน้าแล้วยกแก้วเหล้ามองหน้าเรา "เด็กอะไรมีผัวแล้วนี่" เราหน้าชาที่พี่พงษ์พูดมากลางวงเหล้า
"อ้าวงั้นผมก็อกหักสิ" หนุ่มข้างๆหันมามองหน้าตอนที่เรายกแก้วเหล้าประชดพี่โด่ง
"มีผัวก็มีชู้ได้ ปีนต้นงิ้วสนุกดี"เราพูดเหมือนให้พี่โด่งฟังเพราะรู้สึกหึงสองนางที่นั่งขนาบข้างมากพี่โด่งก็ไม่ยักสนใจนอกจากพูดตอบกลับมาว่า
"โดนผัวเตะแล้วทิ้งจะรู้สึก"
"อุ๊ยซาดิสม์จัง ชอบจังเลย"พี่พงษ์แนบหน้าทีไหล่ เพลงลูกทุ่งจากเครื่องเสียงคงเป็นเพลงที่พี่พงษ์ชอบ
"ชาตินี้ที่รักเราคงรักกันไม่ได้......" พี่พงษ์ลุกขึ้นทำมิวสิคประกอบ...ฉันรักเธอยิ่งกว่าใครๆ เธอจะรู้หรือไม่ว่าใจฉันมั่นเสมอ...พร้อมเอามือมาจับที่หน้าพี่โด่งให้หันไปมอง.....เพราะเธอมีคู่อยู่แล้วเธออย่ามารัก แม้หากชาติหน้ามีรักขอเป็นคนรักคนแรกของเธอ.......เพลงจบก็นั่งคลอเคลีย หนุ่มในวงเริ่มเมาขึ้นเพื่อนพี่พงษ์ที่นั่งข้างเราลุกไปห้องน้ำแล้วมาแทรกนั่งติดกับเขาแทนเราลูบแขนลูบขาผู้ชาย บางทีก็เอามือล้วงเข้าไปในกางเกง "อย่าพี่เดี๋ยวมันลุก" เขาแกล้งตีมือเบาๆ หากแต่ก็ปล่อยให้ล้วงอยู่อย่างนั้น เริ่มนัวเนียกันแล้วผู้ชายห้า กระเทยสาม ไม่รวมเรากับพี่โด่ง พัชนี หันไปหยอกหนุ่มที่นั่งข้างเหมือนเพื่อน เหลืออีกนางที่ยังคุยกับพี่โด่งอยู่ เรามองหน้าพี่โด่งเพราะอยากกลับห้องแล้ว พี่โด่งลุกไปเข้าห้องน้ำนางนั้นก็ทำท่าจะเดินเข้าไปด้วยแต่แกปิดประตูทัน เจ้าหล่อนก็มานั่งที่เดิมกระฟัดกระเฟียด ...
"ไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องเดินทางไกล" พี่โด่งขอตัวแล้วเดินไปเปิดประตู พี่พงษ์ก็ทำมิวสิคอีก ..สี่ในสี่ห้องหัวใจฉันให้คุณหมด หมดไม่มีเหลืออยู่..ทำหน้าตาหวานซึ้งพี่โด่งเอาแกะมือแกออกจากการเกาะกุมแล้วเดินออกไปเปิดประตูห้อง เราก็ลุกตาม เพื่อนพี่พงษ์มองค้อนตามพี่โด่ง
"เอ๋ ไปนะพี่ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนฮะ" คนที่อยากเป็นชู้โบกมือให้ "ยินดีครับน้องเอ๋" เหตูการณืจากนั้นคงจะนัวเนียกันชุลมุนแน่ เพราะบางคนนอนหงายที่เตียงพี่พงษ์แล้ว เราปิดประ๖ห้องพี่พงษ์เบาๆ แล้วผลักประตูเข้าห้องปิดเบาๆ พี่โด่งไม่เปิดไฟ เราคลำหาสวิตช์ไฟ แล้วก็มีมือมาอุดปากในความมืด ยกตัวเราลอยขึ้นมาเดินฝ่าความมืดแล้วดยนลงเตียง ถอดเสือผ้าเราออกอย่างเร็ว "พี่โด่งเล่นอะไร"
"เอ๋พี่เงี่ยน" พี่โด่งแทงผิดแทงถูกอยู่นาน ลมหายใจหอบแรงมากกว่าจะเอาเข้าไปได้ แกกดเราเร็วๆนานมาก กัดที่ต้นขอมือที่บีบนมเราแรงจนแทบจะหลุดติดมือ จูบปากก็ขบไปที่หน้า เราไม่เจ็บเหมือนเมื่อก่อนแต่กลับรู้สึกมันคล้อยตาม เราก็ตีก้นแกแรงๆตอบ ขบปากพี่โด่งกลับเหมือนกัน ท่อนล่างพี่โด่งยังทำงานต่อเนื่องลูกสูบฟาดที่แก้มก้นจนร้อน เหงื่อเหนียวๆบริเวณไข่ทำให้อบอุ่นมาก
"อา อา" พี่โด่งพอใจที่เรารุนแรงกับแกตอบ แกจับเราลุกขึ้นแล้วตัวแกก็เอนลงที่ที่นอนแทน เรานั่งบดสะโพกกระแทกกระทั้นตามอารมณ์ของแก พี่โด่งสวนมาแรงๆเหมือนกัน มือทั้งสองทั้งสองของเราบีบแน่นที่บ่าทั้งสองข้างแรงจนเหมือนเล็บจะจิกลงบนเนื้อแก พี่โด่งตีทีต้นขาเราพร้อมบิดไปด้วยเมาจนตัวชาไม่รู้สึกเจ้บ นั่งโยกจนเหนื่อยก็โน้มตัวลงให้พี่โด่งแทนสวนขึ้นมาเอง เราดุดที่ต้นคอของพี่โด่งแรงจนแกหดคอหนี ทำนบมันทะลักเข้ามาในรูแล้วจนไหลย้อยเปรอะหน้าขาพี่โด่งเปียกแฉะกันทั้งคู่ถอนตัวออก แล้วลากกันเข้าห้องน้ำ อาบน้ำด้วยกัน เรายืนจูบกันแรงๆใต้ฝักบัวอยู่นานเหมือนไม่รู้สึกอิ่มในรสรัก เวลาเมานี่ร่วมรักได้อย่างถึงรสชาดมากที่สุดเลย ...เราทั้งคู่นอนแก้ผ้ากอดกันแน่นใต้ผ้าห่มอย่างมีความสุขเหลือคณานับ.................
64
เราตื่นขึ้นมาก่อนพี่โด่งชะโงกดูแกยังหลับอยู่ ความสุขที่ล้นทะลักเมื่อคืน ตื่นเช้ามากลับโหยหามันอีกจนได้ อยากจะลักหลับพี่โด่งจัง นั่งชั่งใจสักพักก็เลิกผ้าห่มขึ้นจนถึงเอว น้องพี่โด่งยังนอนหลับสนิทเหมือนพี่ชายเห็นแล้วน้ำลายสอ เราชอบเคแกตอนที่มันสงบมากกว่า ชอบจับเล่นแต่ไม่อยากให้มันตื่น อยู่ด้วยกันก็จะจับเล่นทุกคืน จนหลับ ขยับขาพี่โด่งให้กางออก แล้วนอนคว่ำหน้าลงไปส่วนนั้น เอาจมูกซุกไซ้ไปมาทั้งพวง จับมันพาดขึ้นแล้วศูดดมที่ไข่ใบโต กลิ่นเหงื่อสาบๆกระตุ้นอารมณ์เราจนกระเจิงไปหมดแล้ว จับเคพลิกไปพลิกมาตรวจตราอย่างละเอียดอย่างกับไม่เคยเห็นมาก่อน เราได้แต่สูดดมเหมือนเด็กติดทินเนอร์อยู่อย่างนั้น แล้วต้องเขินเมื่อพี่โด่งขยับขาเด้งเข้าใส่หน้า
"เออ เล่นเข้าไป" พี่โด่งตื่นแล้ว แกเอามือกุมมันไว้แต่ไม่มิดส่วนปลายยังโผล่อยู่
"พี่โด่งเอามือออกฎ เราพยายามแกะมือ แต่พี่โด่งไม่ยักเล่นด้วย พลิกตัวนอนเอามือสอดไว้ระหว่างขาเหมือนกลัวใครล่วงล้ำ เราพยายามจับตัวแกหงายแต่แกขืนตัว เรางอนก็เลยลุกจากที่นอน
"ไม่เล่นก็ได้" พูดเสร็จก็เดินเข้าห้องน้ำ กำลังอาบน้ำก็มีเสียงก็อกแก็กที่หน้าประตู เอากันขนาดนี้ถ้าให้แก้ผ้าต่อหน้าพี่โด่งเราก็ยังอายอยู่ดี
"พี่โด่งอย่าเพิ่งเข้ามา ขออาบน้ำก่อน" ห้องน้ำไม่มีกลอยพี่โด่งหาอะไรมาบิดที่กุญแจรูตันด้านนอกประตูก็เปิดจนได้ เรารีบคว้าผ้าขนหนูมาห่อตัว แล้วเบี่ยงตัวหลยให้แกเดินเข้ามา
"ทำอะไร ช่วยตัวเองอยู่เหรอ" แกเดินกำเคที่แข็งโด่ แล้วยืนแอ่นฉี่ที่โถหันข้างให้เราเห็นอย่างชัดเจน จนสุดก็สะบัดแรงๆ พร้อมยักคิ้วให้เรา จากนั้นก็เปดฝักบัวฟอกสบู่รูดเข้ารูดออกต่อหน้าเรา ทั้งยังผิวปากกวนอีก เรางี้น้ำลายกลืนน้ำลายเลย แต่ก็ยังต้องวางฟอร์มเพราะยังงอนอยู่
"เสร็จยัง จะอาบน้ำต่อ" แกยังมองหน้ากวนๆอีก
"ยังไม่เสร็จ มานี่เลยตัวแสบ" แกคว้าแขนเราออกจากห้องน้ำ ผลักให้นอนหงายบนเตียงแล้วยืนคร่อมที่หน้าเรา
"ดูด" พูดเหมือนกัดฟัน เราหันหน้าหนีแกก็จับคางเราไว้ "ดูดไม่ดูด" มือบีบที่คางจนเราต้องอ้าปากแลบลิ้นเลียเบาๆ ที่ปลายวนตามหัวและรอยแยก
"ไม่มันเลย ดูดดีๆสิเอ๋ ทำปากห่อๆด้วย" พี่โด่งกดสะโพกอยุ่บนหน้าเราจนเราสำลักดันตัวแกออก
"ไม่ไหวพี่โด่ง มันลึกถึงคอหอยแล้ว" พี่โด่งทิ่งตัวลงนอนจับเคตั้งอวดสายตาเราอีก เราลุกขึ้นนั่งคร่อม จับมันจ่อแล้วกดสะโพกลงไป "อี๋" เราหลับตาปี๋พอนั่งจนมิดโคน
"เป็นไง" เราโน้มตัวไปกอดแก
"พี่โด่ง ทำไมเช้านี้แข็งจังเลย"
"เมื่อคืนไม่อิ่ม เช้าเลยหิวอีก" ช่วงบ่างเรายังกดเนิบๆ พี่โด่งเหมือนไม่สะใจ ก็ดันตัวเรานอนแล้วเอาขาเราพาดไว้ที่บ่าขย่มตัวแรงๆ จนเราจุก
"พี่โด่ง แรงอีก แรงอีก" คราวนี้พี่โด่งเอาเราไม่อยู่แล้ว เรากระเจิงไปตามแรงพี่โด่ง สองมือทุบตีที่เตียง "โอ๊ย โอ๊ย" เราสะบัดหน้าไปมา ทั้งเหนื่อยทั้งมัน
"เสร็จแล้วเอ๋ เสร็จแล้ว" แกดึงออกเสียงมันดังเหมือนเปิดขวดโซดา จับเคมาจ่อที่ปากกระตุกสองสามที ยางขาวก็ไหลออกมา เราดูดแรงๆจนมันไหลลงคอ พี่โด่งบิดตัวพยายามจะดันหัวเราออก แต่เรากอดแกไว้แน่น ก้นแน่นของพี่โด่งถูกเราบีบไว้แน่นไม่ยอมปล่อย พี่โด่งร้องเสียงหลงเมื่อเราดูดแรงกว่าเดิมอีก
"โอยๆ มันส์มากเลยเอ๋" นอนหงายเคเป็นมันเลื่อมเพราะน้ำลาย เราลุกขึ้นนุ่งผ้าขนหนู เดินเข้าห้องน้ำ ไม่เข็ดแฮะยังเดินตามมาอีก จูบกันใต้ฝักบัวเหมือนเมื่อคืนอีก ทั้งกัดทั้งขบ พี่โด่งรู้สึกจะพอใจทุกครั้งที่เรารุนแรงตอบ
เดินลงมาขึ้นรถก็เจอพี่พงษ์นั่งหน้าเสียอยู่หน้าอพาร์ทเมนท์
"เป็นอะไรวะ" พี่โด่งเดินเข้าไปถาม
"ไอ้เด็กเวรที่เพื่อนฉันพามานะสิ หยิบทองฉันลงมาด้วย นี่วิ่งตามก็ไม่ทัน"
พี่โด่งชะโงกมองตาม "รู้จักมันมั๊ยหล่ะ"
"อีเพื่อนบอกว่าอยู่แถวบ้านมัน มันจิกมาให้ เงินก็ให้แล้วแท้ๆ ไอ้เราก็มัวแต่อาบน้ำ มันก็ค้นห้องใหญ่เลย ชั้นได้ยินเสียงกุกกัก ก็รีบออกมา กำลังแต่งตัวมันก็บอกว่า ผมกลับแล้วนะ แล้วมันก็รีบวิ่งลงมาชั้นนึกขึ้นได้ว่าเก็บทองไว้ในตู้เสื้อผ้า เจ็บใจจริงๆ ที่วิ่งตามไม่ทัน" พี่พงษ์เสียดายของจนพูดออกมาไม่หยุด พี่พงษ์เดินหน้าเมื่อยกลับห้องไปแล้ว
เรารู้สึกเห็นใจแกจริงๆ
พี่โด่งขับรถไปเรื่อยๆ เรามองภูเขาสองข้างทางอย่างไม่นึกเบื่อ เราแวะกินข้าวที่สุโขทัย แล้วขับวนดูเมืองเก่าก่อนจะขับต่อไปเชียงใหม่ แวะเติมน้ำมันเรารีบจ่ายเงิน พี่โด่งทำหน้างง แกหยิบค่าน้ำมันในกระเป๋ามาคืน เราไม่รับ
"ให้เอ๋ออกช่วยพี่บ้างนะ เกรงใจพี่โด่ง" พี่โด่งหยิบเงินจากกระเป๋าทั้งหมดแล้วยัดใส่มือเรา
"ให้เอ๋ทำไม"
"ใช้ด้วยกัน นะ จะได้ไม่ต้องแย่งกันจ่ายอีก"
"ก็หารกันก็ได้นี่พี่โด่ง เอ๋เกรงใจพี่" เราย้ำอีกที
"เกรงใจอะไร เงินผัวก็เหมือนเงินเมีย" เราไม่เชื่อหู
"พี่พูดอะไรนะ" พี่โด่งไม่ตอบหากแต่หูแดง "ไม่ได้ยินเมื่อกี๊พี่พูดว่าอะไร" เราขยับไปหาใหล้ๆพร้อมจะคืนเงินให้แก
"ผัวให้แล้วยังไม่เอาอีก" หูฝาดแน่ๆเลยเรา พี่โด่งเขินจนไม่มองหน้าเราอีก เราก็อมยิ้มไปเท่านั้น เอียงหน้าชิดหน้าต่างยิ้มกับตัวเองอย่างมีความสุข
มาถึงเชีบงใหม่ก็ค่ำแล้ว แถมยังหลงทางอยู่แถวคูเมืองวนกันหลายรอบกว่าจะเจอไนท์ กินข้าวเย็นกันก็เดินชอปปิ้งได้ของนิดหน่อย หาโรงแรมไม่ได้เลยพี่โด่งหน้างอเพราะง่วงส่วนเราก็ล้า
"เอาไงดี เอ๋นอนในรถกันเถอะคืนนี้"
"จะแข็งตายมั๊ยพี่"
"ไม่หรอก เดี๋ยวดึงผ้าใบกระบะลงมาลมก็ไม่เข้าแล้ว" พี่โด่งยังขับรถวนอยู่
"เอ๋รอในรถนะ เดี๋ยวพี่เข้าไปถามก่อนว่ามีห้องมั๊ย" พี่โด่งวิ่งเข้าไปในโรงแรม เรานั่งมองแกวิ่งเข้าไปด้วยความรู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก...............
65
กรุ๊ปทัวร์เชียงใหม่มากันเต็มรถตู้ เรานัดเจอกันที่กาดหลวงคืนที่ผ่านมาเรากับพี่โด่งต้องนอนในรถด้วยกันเพราะหาโรงแรมไม่ได้หน้าเทศกาลโรงแรมเต็มทุกที่ทีเข้าไปถาม เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด ถึงบ้านเพื่อนแกที่หางดงก็อาบน้ำกินนอนพักกันงีบนึงก่อนที่จะไปเที่ยวดอยสุเทพกัน ฟวกพี่ผู้หญิงดูสนอกสนใจพฤติกรรมของเราเป็นพิเศษ ทุกคนยิ่งแปลกใจเมื่อพี่โด่งแนะนำว่าเป็นญาติห่างๆ เราเองก็ต้องเก็กชงทุกครั้งที่คุยกับพวกเขาไม่อยากให้สาวแตก ไว้หน้าพี่โด่งด้วย ไหว้พระธาตุเสร็จก็แวะดูโน่นดูนี่ไปตามทาง จนเย็นก็แวะกินอาหารเมือง ตั้งใจกันว่าพรุ่งนี้จะไปดอยอินพทนนท์ เรานั่งรถกับพี่โด่งสองคนไปตลอดทางเหมือนแตกกลุ่มมีบ้างที่พวกเพื่อนมานั่งเหยียดแข้งเหยียดขาที่กระบะหลัง เพราะนั่งรถตู้นานๆมันเมื่อยแต่เราไม่เปิดโอกาสให้ใครมานั่งที่ประจำเราหรอก ตกกลางคืนพวกผู้หญิงก็รบเร้าให้พาไปเที่ยวในเมือง เราไม่อยากไปก็เลยนอนเล่นที่บ้านเพราะไปมาแล้วเมื่อคืน พี่โด่งก็ขอตัวเพราะอยากจะพัก พ่อแม่เจ้าของบ้านนอนกันแต่หัวค่ำ สมาชิกรถตู้เฮละโลกันเข้าเมืองหมด
"อ้าวเอ๋ไม่ไปกับเขาละ" พี่โด่งเปิดประตูมาเจอเรานอนอ่านการ์ตูนในห้อง
"ขี้เกียจ นึกว่าพี่ไปด้วย" เราเองก็แปลกใจเหมือนกัน
"เมื่อย ขับรถนานๆ แล้วเมื่อคืนก็ไม่ได้นอน ไงสนุกมั๊ย"
พี่โด่งเอาขาก่ายมาทับก้นเราที่นอนคว่ำอยู่บนฟูกบางๆ
"สนุกดี เพื่อนพี่คุยสนุกทุกคนเลย" เราวางหนังสือลง
"พี่จะนอนแล้ว เอ๋ปิดไฟนะ" เราลุกไปปิดไฟแล้วคล้มตัวลงนอนที่เดิมสอดตัวเข้าผ้านวม อากาศเย็นแต่ก็ยังดีกว่าภูกระดึงเยอะ พี่โด่งตะแคงข้างมากอดเราซุกตัวอยู่ในวงแขนแกไม่อยากจะทำอะไรเพราะมันไม่ใช่ที่ทางของพวกเรา
"ยังหัวค่ำอยู่เลย เอ๋จะนอนแล้วเหรอ"
"แล้วจะให้ทำอะไรหล่ะพี่" เราจูบคางแกเบาๆ
"ดูดให้หน่อยสิ" พี่โด่งกระซิบ
"ไหนว่าเมื่อย"
"เมื่อยด้วยเงี่ยนด้วย หรือว่าไม่อยาก"พี่โด่งรุก
"เดี๋ยวเพื่อนพี่กลับมา พอดีรู้หมด"
"ทันอยู่แล้ว มัวแต่พูดอยู่ได้เร็วพี่ถอดกางเกงแล้วนะ" เรามุดเข้าไปในผ้าห่มขยุกขยิกปากอยู่กับเคแก พี่โด่งไม่ยักหดเหมือนอากาศ เลียปลายและไข่เบาๆ ก่อนจะโยกหัวอย่างเร็วพร้อมชักช่วย ไม่นานพี่โด่งก็กดหัวเราไว้กับป่าหญ้าของแกฉีดน้ำเข้ามาในปากเราน้ำเหนียวๆไหลลงคอช้าๆ กลืนค่อนข้างลำบาก อมไว้จนมันเหี่ยวค่อยคลายออก พี่โด่งใส่กางเกงเหมือนเดิม เราลงไปบ้วนปากแปรงฟันอีกรอบก็กลับมานอน พี่โด่งหลับไปแล้วคนอะไรเงี่ยนบ่อยเหลือเกินเรานึกในใจ แต่เราก็ชอบนะ
"เฮ้ยพี่น้องคู่นี้รักกันดีหว่ะ" กลุ่มผู้ชายแยกมานอนรวมกับพวกเราเปิดไฟเห็นพี่โด่งนอนก่ายเราอยู่ พี่โด่งก็ขยับตัวลุกขึ้นส่วนเราอายจนต้องแกล้งหลับ
"มันหนาวนี่หว่า" แกงัวเงียตอบ"ไปกันถึงไหนวะ กลับดึกเลย" แวะไปกินเบียร์กันต่อแก้หนาว" ห้องโล่งๆปูที่นอนไว้สำหรับห้าคน "น้องมึงหลับแล้วเหรอวะ" เจ้าของบ้านมาชะโงกดูที่หัวเรา
"นอนแล้ว"
"มันเป็นกระเทยรึเปล่า" ยังจะสงสัยอะไรกันเนี่ย
"ไม่มั๊ง เด็กพ่อแม่มันหวง ก็เป็นยังงี้แหละ ถามทำไมวะ นอนได้แล้วกูแสบตา " เราทำทีเป็นเหมือนจะตื่นพี่เขาก็ดับไฟทันที แกมาเบียดข้างๆตัวเรา ส่วนอีกสามคนนอนถัดไปจากพี่โด่ง เหม็นกลิ่นเบียร์มาก เราพลิกตัวหนีลมหายใจนั้นนอนหันหน้าเข้าหาพี่โด่งแทน พี่โด่งเอาแขนให้หนุนเหมือนเคยจนหลับ กลางดึกก็รู้สึกตัวเพราะพี่เจ้าของบ้านนอนกอดเราแน่น เราเบียดตัวหนีจนทำให้พี่โด่งตื่นแกกระซิบถามเบาๆ
"เป็นอะไร"
"เพื่อนพี่เบียดมา" พี่โดงลูบหัว"นอนนิ่งๆแล้วกันแกลุกขึ้นวดันตัวเพื่อนแกออกจากเรา แล้วล้มตัวลงนอนต่อ เหมือนโดนแกล้งเจ้าของบ้านยังไม่ยอมหยุดยุ่งกับตัวเราจากเบียดเฉยกลายเป็นลูบคลำแล้วทำเสียงอืออาเหมือนหลับสนิท เรากลั้นใจลุกขึ้นนั่งเพราะรำคาญ ข้ามตัวพี่โด่งไปนอนอีกฝั่งนึง กว่าจะหลับได้ก็ข่มตาอยู่นาน
"เอ๋ หลับสบายมั๊ย" ตื่นเช้ามาเจ้าของบ้านยังมีหน้ามาถามอีก "เมื่อคืนพี่ฝันว่าได้นอนกับสาว กอดซะแน่น ตื่นมากลายเป็นไอ้โด่งไปได้" หนุ่มเหนือผิวสวยแกล้งแหย่
"นี่พี่วง เห็นหน้าละอ่อนเป็นไม่ได้เลยนะ ผู้ชายก็ไม่เว้น"
"อีน้องอย่าว่าปี้จายจะอี้นะ" พี่วงทำเป็นพูดภาษาเหนือตอบโต้พี่ผู้หญิง พวกเรานั่งกินกาแฟกันตอนตีห้า กะจะไปดอยแต่เช้า รถตู้นำทางไปแล้วเรากับพี่โด่งก็ขับตาม
"เมื่อคืนเป็นอะไรเหรอ นอนดิ้นจนพี่พลอยไม่หลับด้วย"
"หนีพี่วง ก็มาเจออีกคนนึงก่ายอยู่นั่นแหละ กางแขนกางขาทับจนหนัก" เราหน้างอเพราะนอนไม่พอ
"พี่โด่งไม่เห็นดิ้นอย่างนี้เลย เอ๋ว่าเขาแกล้งเอ๋มากกว่า เห็นเป็นกระเทยก็เลยอยากจะหยอกมั๊ง"
"คิดมากนา พี่เขาคงนอนกันแบบนี้แหล่ะ" พี่โด่งมองตามรถตู้ไปเรื่อยๆ นานร่วมสองชั่วโมงกว่าจะถึง เรางีบหลับไปตื่นมาอีกทีรถกำลังไล่ระดับและเลี้ยวเข้าสู่สูงสุดยอดแดนสยาม ทะเลหมอกอยู่เบื้องหน้า เย็นยะเยือก หนาวจนแก้มสั่นระริก ภูเขาที่อยู่เบื้องหน้าลดหลั่นเป็นระดับทั้งที่สายแล้วแต่ยังไม่มีแสงแดดเลย มีเพียงแสงสว่างเท่านั้น พี่โด่งโอบไหล่ยืนมองด้วยกันกับเรา
"เราน่าจะมากันสองคนนะพี่"
"ไว้คราวหน้าสิ ดีมั๊ย พี่ขับไปรับเอ๋ที่บ้านแล้วมากันเอง ปีนี้ต้องพึ่งเจ้าถิ่นก่อนเพราะไม่เคยมา"
ลงมาข้างล่างแล้วอากาศเป็นอีกแบบร้อนมาก แดดหน้าหนาวสว่างจ้าจนแสบตา ขับรถเที่ยวกันต่อในเมือง พรุ่งนี้จะเลยไปแม่ฮ่องสอนกันต่อ เที่ยวกันให้คุ้มไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลย...............
คืนวันที่31 พวกเรานั่งเคาน์ดาวน์กันอยู่หน้ากองไฟที่แม่ฮ่องสอน ทุกคนกระโดดดีใจกับเพื่อนร่วมทางทีมอื่นฉลองกันอย่าสนุกสนาน
"Happy New Year " เราทั้งคู่ชนแก้วกันพร้อมส่งสายตาที่บอกความนัยกันได้ดี จนเวลาผ่านมันใหม่มาถึงตีหนึ่งจึงแยกย้ายกันเข้านอนในเต๊นท์ เป็นครั้งแรกที่ได้นอนกับพี่โด่งสองคนตั้งแต่มาเที่ยวเหนือ เรารู้สึกเป็นลุขอย่างมาก จูบปากพี่โด่ง สอดลิ้นเข้าไปช้าๆพี่โด่งกระหวัดลิ้นตอบแล้วดันตัวเราให้นอนทับอยู่ข้างบน ใต้ผ้าห่มผืนนั้นมีแต่ความอบอุ่นอบอวลไปหมด
"อยากให้เวลาหยุดแค่นี้จังเลย" เราบอกพี่โด่งเบาๆ
"ทำไมหล่ะ"
"จะได้อยู่ด้วยกันนานนานไง"
"นี่ก็นานแล้ว" พี่โด่งลูบตัวเราเรานอนหนุนที่อกของแกจนเช้า................................
.
ขอบคุณครับผม{:5_130:} ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณครับ รอต่อนะครับ สนุกมากครับ ขอบคุณนะ ขอบคุณมากๆครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับฃ
ขอบคุนครับ ยินดีจ๊าดนักเจ้า ขอบคุณครับผม{:5_146:} ขอบคุณครับ ขอบคุณมากนะครับ{:5_143:} ขอบคุณมากเลยนะครับ {:5_146:}
หน้า:
[1]