พ่อมดไอยคุปต์ by ด๋ง (MAN STUDIO)
วิลเลี่ยมเป็นชายหนุ่มชาวอังกฤษวัย 25 ปี เขาเป็นผู้หนึ่งที่ศึกษาเรื่องราวของอียิปต์โบราณมาเป็นเวลานานจนช่ำชอง เขาสามารถพูดและเขียนภาษาอียิปต์ได้ อีกทั้งยังอ่านตัวอักษรฮีโรกราฟิคออกอีกด้วยวิลเลี่ยมเดินทางมายังกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ด้วยความรักในประวัติศาสตร์ และหลงใหลในศิลปกรรมอันงดงามตระการตา แต่แล้วเขากลับต้องมาพบกับเหตุการณ์ประหลาดที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้น และเป็นไปได้
ภายในห้องน้ำของพิพิธภัณฑ์กรุงไคโร วิลเลี่ยมได้พบกับตัวอักษรประหลาดจารึกไว้บนผนัง มันเป็นตัวอักษรฮีโรกราฟิคที่แปลว่า "พ่อมดแห่งไนล์" เขาเผลอไปอ่านมันด้วยเสียงอันดังและทันใดกันนั้น พลันบังเกิดกลุ่มควันสีม่วงพวยพุ่งขึ้นทางด้านหลังเขา วิลเลี่ยมหันกลับไปมองอย่างฉับพลัน ครั้นควันจางลง เขาก็ได้พบกับชาวอียิปต์ผู้หนึ่งยืนอยู่
ชายผู้นั้นอยู่ในวัยกลางคน เขาสวมชุดเสื้อคลุมสมัยโบราณที่ถักทออย่างสวยงามราวกับนักบวช ชายผู้นี้มีชื่อว่า "เฮมุส" เขาเป็นพ่อมดผู้มีคาถาอาคมแก่กล้า วิลเลี่ยมจ้องมองเขาราวกับต้องมนต์สะกด เขาตกอยู่ในภวังค์และทำตามที่เฮมุสว่าทุกอย่างราวกับเป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์
"เจ้าเอ่ยนามข้า เจ้าพบเห็นข้า เจ้าเป็นทาสข้า"
พ่อมดเฮมุสค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้าหาวิลเลี่ยม ริมฝีปากอันกล้าแข็งแห่งจอมขมังเวทย์บรรจงจูบไซร้ไปตามใบหน้าอันหล่อเหลาของเด็กหนุ่มชาวอังกฤษผู้นี้อย่างช้า ๆ และนุ่มเนิบ ริมฝีปากทั้งสองบดเสียดเข้าหากันอย่างเร่าร้อน สภาพของวิลเลี่ยมในขณะนี้ไม่ต่างอะไรจากตุ๊กตาที่ถูกจัดท่วงท่าให้เป็นไปตามที่อีกฝ่ายต้องการ
เฮมุสเลื่อนฝ่ามือของเขามาลูบไล้เรือนร่างของวิลเลี่ยมอยู่ครู่ก่อนจะผละใบหน้าจากการพรมจูบพลางว่า
"ข้าจะพาเจ้าไปยังยุคสมัยที่แสนไกลโพ้น"
พ่อมดสะบัดชายผ้าคลุมปกปิดร่างเขาและวิลเลี่ยม บัดดลพลันเกิดควันสีม่วงพวยพุ่งขึ้นมาปกคลุม ครั้นควันจางลงร่างทั้งสองก็พลันหายวับไป
เฮมุสพาวิลเลี่ยมย้อนอดีตกลับไปสู่โลกยุคโบราณเมื่อ 5,000 ปีก่อน สู่สมัยที่อาณาจักรอียิปต์เจริญรุ่งเรืองและมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งที่นั่นวิลเลี่ยมเพิ่งจะพบความจริงว่า เฮมุสเป็นพ่อมดผู้มีคาถาอาคมแก่กล้า และเป็นหวาดเกรงของผู้คน
วิลเลี่ยมถูกเฮมุสจับมัดติดไว้บนแท่นบูชา เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายส่วนหนึ่งส่วนใดได้ นอกจากศีรษะเท่านั้น ภายในห้องแห่งนี้มีเทวรูปหินขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ทางด้านหนึ่่ง มีกลิ่นควันจากการเผาไหม้เครื่องหอมบางอย่างโชยคลุ้งไปทั่วห้อง
เฮมุสออกไปนอกห้องแห่งนี้ เขาเดินออกจากวิหารอันใหญ่โต เพื่อไปเข้าเฝ้าองค์ฟาโรห์ผู้ยิ่งใหญ่
วิลเลี่ยมเหลียวมองซ้ายขวา เขาเหลือบไปเห็นบุคคลผู้หนึ่งกำลังซ่อนตัวอยู่อีกด้านหนึ่งของเสาหิน ด้วยความที่เขาพูดภาษาอียิปต์ได้ ดังนั้นวิลเลี่ยมจึงตะโกนออกไปว่า
"เฮ้ ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ ออกมาเถอะ"
ครู่หนึ่่ง ชายหนุ่มร่างสูงสง่าใบหน้าคมสันก็ค่อย ๆ เดินออกมาอย่างช้า ๆ เขาอยู่ในชุดเครื่องแต่งกายอย่างทหารอียิปต์สมัยโบราณ รูปร่างเขาดูดีมาก
"คุณพูดภาษาเราได้เหรอ" ชายผู้นั้นยิ้ม
วิลเลี่ยมยิ้มตอบเขา
"ครับ"
ชายผู้นั้นแนะนำตัวเองกับวิลเลี่ยม เขาชื่อ "ไซรัส" เป็นทาสรับใช้ของพ่อมดเฮมุส ไซรัสเล่าให้วิลเลี่ยมฟังว่า ตนเองถูกเฮมุสจับตัวมาแต่เล็ก ๆ เขาถูกบังคับให้ร่วมรักกับเฮมุสแทบทุกวันที่มันเกิดความต้องการขึ้นมา วิลเลี่ยมถามไปว่า ทำไมเขาถึงไม่หนี ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า
"หนีไปก็ตาย มันสามารถไปได้ทกที ตามที่มันต้องการ"
ไซรัสค่อย ๆ เดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ วิลเลี่ยม เขาย่อตัวลงใกล้ ๆ พลางยกมือขึ้นลูบไล้เรือนกายของวิลเลี่ยมอย่างช้า ๆ ไซรัสว่าวิลเลี่ยมหน้าตาดีมาก เขารู้สึกชื่นชอบมาในทันทีที่เห็น
วิลเลี่ยมยิ้มตอบไซรัส เขาอ้อนวอนขอให้ไซรัสปล่อยตัวเขาให้เป็นอิสระ ซึ่งก็ได้รับคำตอบจากไซรัสว่า
"ข้าจะช่วยท่าน"
วิลเลี่ยมและไซรัสพากันหลบหนี ทั้งคู่วิ่งลัดเลาะไปตามห้องหับต่าง ๆ จนกระทั่งออกสู่อุทยานใหญ่ ไซรัสบอกวิลเลี่ยมว่าจะพาเขาไปยังสถานที่หนึ่ง เมื่อวิ่งมาได้สักระยะ พวกเขาก็มาหยุดพักเหนื่อยอยู่ที่ข้างลำธารสายเล็ก ๆ ไซรัสบอกว่าที่นี่ไม่ค่อยมีผู้ใดผ่านไปมา เราสามารถจะหยุดพักได้ชั่วระยะหนึ่ง
ไซรัสจ้องมองวิลเลี่ยมอย่างคลั่งไคล้อีกครั้ง ซึ่งชายหนุ่มชาวอังกฤษผู้นี้ก็รู้ซึ้งถึงความต้องการของหนุ่มชาวอียิปต์ ในที่สุดทั้งสองก็ร่วมผสานความต้องการนั้น ไซรัสโอบกอดเรือนร่างของวิลเลี่ยมไว้แนบแน่นก่อนจะบรรจงจูบตามใบหน้าและเรียวคางอย่างหิวกระหาย บทรักของเขานั้นเร่าร้อนและรุนแรง ร่างกายเขานั้นแข็งแกร่งและเปี่ยมไปด้วยพลัง เพียงแค่นี้วิลเลี่ยมก็ตกอยู่ในห้วงแห่งไฟเสน่หา ฝ่ามืออันกล้าแกร่งแห่งชายหนุ่มชาวอียิปต์ลูบไล้ เคล้นคลึงไปตามสัดส่วนแห่งความเป็นชายของวิลเลี่ยมอย่างลุ่มหลง วงแขนอันบึกบึนโอบรัดวิลเลี่ยมอย่างอบอุ่น
"มันหายตัวหนีไปได้เสียก่อน" วิลเลี่ยมว่า
"เราต้องจู่โจมตอนที่มันเผลอ" แจ็คบอก
"มีอยู่วิธีหนึ่ง เราต้องทำลายเทวรูปข้าบนเพราะเฮมุสมันถอดหัวใจของมันไว้ในศีรษะเทวรูปนั้น เราต้องทำลายมัน" ไซรัสกล่าว
ทั้งหมดรีบตรงไปยังห้องโถงชั้นบนของวิหารทันที พวกเขาวิ่งรี่ไปตามบันไดหินแล้วลัดเลาะไปตามทางเดินอย่างว่องไว จนกระทั่งถึงห้องโถงใหญ่นั้น เทวรูปหินขนาดยักษ์ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่เบื้องหน้าของพวกเขา
ทั้งสามรีบปืนขึ้นไปบนเทวรูปใหญ่ พวกเขาตรงไปยังส่วนศีรษะและเอากระปุกใบหนึ่งมาได้ ภายในกระปุกใบนั้นบรรจุหัวใจของพ่อมดเฮมุสไว้
เบื้องล่างพ่อมดพลัดปรากฎกายขึ้นอย่างฉับไว มันกางมือข้างหนึ่งออกไปข้างหน้า บังเกิดพลังดึงดูดกระปุกหัวใจในมือวิลเลี่ยมให้พุ่งลงมาอยู่ในมือของพ่อมดเฮมุส มันหัวเราะลั่นออกมาคราหนึ่งก่อนจะกางมืออีกข้างหนึ่งออกไป พลันบังเกิดลำแสงสีดำสนิทพุ่งตรงขึ้นไปหมายทำลายล้างพวกของวิลเลี่ยม แต่...บุคคลทั้งสามหายตัวไปอย่างฉับพลัน ลำแสงนั้นเข้าปะทะเทวรูปอย่างจัง
เสียงคำรามได้ดังสนั่นกึกก้องไปทั่วทั้งวิหาร ตัวอาคารหินสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นอย่างน่าหวาดกลัว เทวรูปเริ่มทรุดตัวลงสู่เบื้องล่างอย่างช้า ๆ
วิลเลี่ยม ไซรัสและแจ็คปรากฎกายขึ้นที่อีกฝากหนึ่งของวิหาร ไซรัสและวิลเลี่ยมต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตน
"นี่อะไรกัน พวกเราหายตัวได้หรือนี่" ไซรัสว่า
แจ็คบอกว่า เป็นเพราะเครื่องย้ายมวลสารที่เขานำติดตัวมาด้วยเท่านั้น มันเป็นวิทยาการอันล้ำยุคของโลกอนาคต
พ่อมดเฮมุสตรงมายังบุคคลทั้งสามอีกครั้งและพยายามจะส่งพลังทำลาย แต่ด้วยแรงสั่นสะเทือนจากเทวรูป ทำให้พื้นวิหารทรุด ไอร้อนจากบ่อน้ำมันเดือดที่เบื้องล่างพุ่งขึ้นมายังผลให้เฮมุสเซถลาจนกระปุกหัวใจกระเด็นไปอีกทาง
ไซรัสรับฉวยโอกาสกระโดดรับกระปุกนั้นไว้ได้อย่างว่องไวก่อนที่มันจะตกลงไปยังเบื้องล่าง แต่พ่อมดเฮมุสกลับใช้พลังดึงดูดร่างไซรัสไปจับกุมไว้
แผ่นหินที่เฮมุสยืนอยู่พลันแตกออกและแยกเป็นรอยกว้าง ร่างของไซรัสและเฮมุสร่วงหล่นลงสู่บ่อน้ำมันเดือด ไซรัสยื่นกระปุกหัวใจของเฮมุสออกไปแล้วเปิดฝาก่อนจะเทสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา
"โอ...ไม่..." พ่อมดเฮมุสร้องลั่น และในทันทีที่หัวใจของมันสูญสลายไปในน้ำมันเดือด ร่างกายของเฮมุสก็พลันแตกกระจายออกเป็นเสี่ยง ๆ อย่างน่าสยดสยอง
แจ็คและวิลเลี่ยมวิ่งลงมาตามบันไดวน เขามองเห็นร่างไซรัสหล่นลงสู่เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว แจ็คเล็งเครื่องย้ายมวลสารไปยังร่างของไซรัสก่อนจะกดปุ่มสีแดง บัดดลไซรัสก็หายวับไปก่อนจะถึงผิวน้ำมันเดือดเพียงไม่กี่ฟุต
ไซรัสปรากฎกายขึ้นข้าง ๆ วิลเลี่ยม ซึ่งวิลเลี่ยมก็โผกอดไซรัสไว้อย่างแนบแน่น ริมฝีปากของทั้งคู่บดเสียดกันอย่างเร่าร้อนก่อนที่แจ็คจะบอกให้ทุกคนรีบหนี เพราะเทวรูปขนาดใหญ่ได้เคลื่อนลงมาแล้วอย่างช้า ๆ
เครื่องย้ายมวลสารได้ทำงานขึ้นอีกครั้ง เพื่อนำพาบุคคลทั้งสามออกจากวิหารแห่งนั้นก่อนที่เทวรูปจะหล่นลงมาและกวาดบันไดหินถล่มทลายลงสู่บ่อน้ำมันเดือดไปพร้อมกัน
วิลเลี่ยม ไซรัสและแจ็คยืนอยู่บนหุบเขาอันเป็นที่กักขังบรรดาชายหนุ่มจากทุกยุคทุกสมัย ทั้งสามจ้องมองดูภาพการถล่มทลายของวิหารขนาดยักษ์ด้วยจิตใจอันสั่นสะท้าน เปลวไฟลุกโชติช่วงไปทั่วบริเวณวิหาร มันเป็นการสิ้นสุดความเลวร้ายของพ่อมดผู้โฉดเขลาแห่งดินแดนไอยคุปต์
แจ็คจัดการส่งตัวเหล่าชายหนุ่มจากทุกสารทิศให้กลับสู่ยุคและห้วงเวลาเดิมที่พวกเขามาและเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย วิลเลี่ยมก็โผเข้ากอดไซรัสอีกครั้ง ทั้งคู่บรรจงจูบลากันอย่างดูดดื่มด้วยน้ำตานองหน้า ไซรัสได้มอบกระปุกหัวใจของเฮมุสซึ่งภายในว่างเปล่าให้กับวิลเลี่ยม และในไม่ช้าร่างของวิลเลี่ยมและแจ็คก็หายวับไปในทันที
โลกปัจจุบัน วิลเลี่ยมปรากฎกายขึ้นในห้องน้ำของพิพิธภัณฑ์กรุงไคโร ตัวอักษรประหลาดที่จารึกไว้บนผนังนั้นได้หายไปหมดแล้ว
วิลเลี่ยมเดินออกจากห้องน้ำมาและผ่านแท่นตั้งแจกันดินเหนียวใบหนึ่งซึ่งเป็นของโบราณ เขาหยุดดูแจกันใบนั้นอยู่ครู่หนึ่งและพบว่าบนแจกันวาดเป็นภาพแปลก ๆ แต่เลือนรางมาก ดูแล้วคล้ายกับรูปพ่อมดเฮมุส ทั้งยังเป็นรูปของไซรัส แจ็คและวิลเลี่ยมเองอีกด้วย เขายิ้มก่อนจะหยิบกระปุกในมือขึ้นมาดู ลักษณะกระปุกคล้ายกับแจกันใบนั้นมากทีเดียว ต่างกันก็แต่ตรงรูปภาพที่วาด
วิลเลี่ยมเก็บกระปุกใบนั้นไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง เขาเดินออกจากพิพิธภัณฑ์แห่งนั้นไป โดยไม่ทันได้รู้เลยว่ากระปุกนั้นส่องประกายสีม่วงออกมาคราหนึ่ง ความร้อนแผ่ซ่านจากกายถึงกาย เรียวปากจากชายหนุ่มบรรจงมอบความสุขให้แก่กันอย่างดุเดือด ไซรัสเลื่อนริมฝีปากมายังสัดส่วนอันเย้ายวนของวิลเลี่ยมก่อนจะหยิบยื่นความสุขสำราญให้ ลีลารักของหนุ่มชาวอียิปต์ผู้นี้นั้นดูแปลกพิสดาร เขาดูชำนิชำนาญและช่ำชองในเรื่องนี้เป็นพิเศษ
ในไม่ช้าเรือนร่างของวิลเลี่ยมก็สั่นสะท้าน กล้ามเนื้อทุกส่วนสัดเกร็งแน่น เขาร้องครวญครางออกมาคราหนึ่งก่อนจะปล่อยหยาดหยดแห่งความสุขให้ไหลอาบนองไปทั่วใบหน้าของไซรัส
ภายในห้องโถงของวิหารใหญ่ พ่อมดเฮมุสเดินเข้ามาในห้องพลันพบกับแท่นบูชาที่ว่างเปล่าก็บังเกิดความโกรธสุดขีด เขาแผดเสียงร้องออกมาก่อนจะรีบออกจากวิหารไป พ่อมดวิ่งไปตามทางในอุทยานเพื่อติดตามหาตัววิลเลี่ยม ชายหนุ่มผู้ซึ่งเขาลักพาตัวมาจากโลกปัจจุบัน
ภายหลังจากที่ช่วงเวลาแห่งความหฤหรรษ์ผ่านพ้นไป ไซรัสก็พาวิลเลี่ยมมายังหุบเขาแห่งหนึ่ง เขาบอกกับวิลเลี่ยมว่า ที่หุบเขาแห่งนี้มีที่ซ่อนซึ่งถูกสร้างเป็นห้องลับ พ่อมดเฮมุสได้ใช้เป็นที่กักขังคน
ทั้งสองเดินลงบันไดหินไปยังเบื้องล่าง ตามทางนั้นมีคบเพลิงจุดให้แสงสว่างเป็นระยะ สายลมอันเย็นฉ่ำเคลื่อนจากเบื้องล่างขึ้นมาปะทะเรือนกายแห่งชายหนุ่มทั้งสอง
ไซรัสเล่าให้วิลเลี่ยมฟังอีกว่า เฮมุสจะเดินทางไปตามยุคสมัยต่าง ๆ ของโลก เพื่อลักพาตัวชายหนุ่มรูปงามที่เขาชื่นชอบมากักขังไว้ที่นี่ ชายหนุ่มเหล่านี้ถูกจับตัวมาจากสถานที่และห้วงเวลาที่ต่างกัน จึงทำให้สถานที่นี้เป็นที่รวมของผู้คนจากทุกชาติ ทุกภาษา และทุกยุคสมัย
ทั้งสองเดินเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ ภายในล้วนอีกทึกไปด้วยเสียงผู้คนนับร้อย พวกเขาถูกขังอยู่ในห้องขังซึ่งเรียงรายกันอยู่หลายสิบห้อง ทั้งหมดหันมามองยังไซรัสและวิลเลี่ยม
วิลเลี่ยมจ้องมองผู้คนเหล่านั้นอย่างตกตะลึงและไม่เชื่อในสายตา เพราะที่นี่มีทั้งคนจากยุคหินที่แต่งกายด้วยชุดหนัง มีชายหนุ่มซึ่งแต่งกายด้วยชุดนักรบโรมันและชาวอเมริกันในชุดคาวบอย บางห้องก็เป็นซามูไรจากญี่ปุ่น และชาวจีนในสมัยราชวงศ์หมิง
ไซรัสบอกว่าเฮมุสเลี้ยงดูผู้ชายเหล่านี้อย่างดีด้วยอาหารตามแต่ละชาติของพวกเขา มันจะหมุนเวียนเอาตัวชายหนุ่มแต่ละคนไปเสพสุขอย่างสำราญทุก ๆ วัน ซึ่งหลังจากที่เฮมุสกอบโกยความต้องการพึงพอใจแล้ว มันก็จะสังหารชายหนุ่มคนนั้นเพื่อนำโลหิตไปบูชายันต์เทวรูปใหญ่ในห้องโถงของวิหาร ด้วยเหตุนี้เองมันจึงต้องแสวงหาคนใหม่อยู่เรื่อย ๆ เพื่อมาแทนคนเก่า ๆ ที่ต้องถูกฆ่าไป
วิลเลี่ยมฟังเรื่องราวที่ไซรัสเล่าจนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
"เราต้องหยุดมัน" ไซรัสเอ่ย
ทันใด พ่อมดเฮมุสก็พลันปรากฎกายขึ้นในบัดดล เสียงหัวเราะของมันสั่นสะท้านไปทั่ว ยังผลให้กรวดหินจากเพดานพลอยร่วงหล่นลงมาไม่หยุด ชายหนุ่มทุกคนภายในห้องขังต่างถอยฉากกันไปด้วยความเกรงกลัว
"ใครจะหยุดใครกันแน่" เฮมุสกล่าวจบพลันสะบัดชายผ้าคลุมคราหนึ่งพลันบังเกิดฝุ่นควันสาดเข้าใส่ที่หน้าของวิลเลี่ยมและไซรัส
ครู่หนึ่งทั้งคู่ก็สลบสไลไม่ได้สติไปในทันที เฮมุสพาตัวทั้งสองกลับสู่ห้องโถงในวิหาร โดยฉับพลัน มันเตรียมการณ์บางอย่างไว้ในใจแล้ว
ร่างของไซรัสและวิลเลี่ยมถูกวางให้นอนราบอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ ซึ่งปูลาด้วยผ้าขนสัตว์อันหนานุ่ม เฮมุสค่อย ๆ ปลดเสื้อผ้าที่ติดกายของทั้งคู่ออก เผยให้เห็นสัดส่วนอันน่าชวนมองของทั้งสองคน พ่อมดผู้โฉดชั่วถอยมานั่งยังเก้าอี้สีทองเพื่อรอคอยการฟื้นคืนสติของไซรัสและวิลเลี่ยม
สายตาอันดุดันแห่งพ่อมดเฮมุสชำเลืองมองเรือนกายอันเย้ายวนของชายหนุ่มทั้งสองด้วยจิตใจอันคุกรุ่นไปด้วยไฟปรารถนา
วิลเลี่ยมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ ตามด้วยไซรัส ทั้งคู่ต่างตกตะลึงเป็นอย่างยิ่งที่ร่างกายตัวเองนั้นเปล่าเปลือย เฮมุสส่งเสียงอันแหบพร่ามาว่า
"ถ้าไม่อยากตาย จงร่วมรักกันให้ข้าดู"
ไซรัสและวิลเลี่ยมจ้องมองหน้ากันอยู่ครู่ และแล้วทั้งสองก็จำต้องทำตามที่พ่อมดปรารถนาทุกอย่าง
บทรักอันหอมหวานได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง พ่อเฮมุสเฝ้ามองดูอย่างใจจดใจจ่อ สายตาทั้งคู่ของเขาจ้องมองดูทุกส่วนสัดแห่งชายหนุ่มทั้งสอง ลีลาอันบรรเจิดดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ราวกับไม่มีทีท่าจะหยุด เรือนกายทั้งคู่สอดประสานกันอย่างนุ่มนวลและได้จังหวะ ริมฝีปากของพวกเขาบดเสียดกันอย่างเร่าร้อนและรุนแรง เพลิงเสน่หาภายในกายคุกรุ่นเมื่อพวกเขาผลัดเปลี่ยนกันมอบความสุขให้แก่กัน
พ่อมดเฮมุสลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมายังไซรัสและวิลเลี่ยม โดยหมายจะร่วมรักร่วมเสน่หากับบุคคลทั้งสอง ไฟราคะครอบคลุมจิตใจแห่งพ่อมดโฉดจนเขาไม่ทันระวังตน ไซรัสและวิลเลี่ยมได้ฉวยโอกาสทำร้ายร่างกายเฮมุส แล้วหลบหนีไป พ่อมดทรุดกายลงด้วยความเจ็บปวดเนื่องเพราะโดนจู่โจมตรงจุดสำคัญ
ชายหนุ่มทั้งสองวิ่งออกจากห้องแห่งนั้นก่อนจะสวมเสื้อผ้าอย่างว่องไว แล้ววิ่งลงไปยังใต้วิหาร พวกเขาวิ่งไปตามบันไดหินซึ่งทอดยาวลงไปและวนไปรอบ ๆ บ่อน้ำมันเดือด ไซรัสเล่าให้ฟังว่าน้ำมันนี้เฮมุสจะใช้ในพิธีบูชายันต์ มันมีส่วนผสมของไขมันสัตว์และมนุษย์
"มาทางนี้เร็ว" ไซรัสฉุดวิลเลี่ยมเข้าไปยังช่องทางหนึ่งซึ่งมุ่งสู่ด้านใน เขาบอกว่ามันเป็นทางลับเพื่อหลบหนีออกจากวิหารแห่งนี้
ทันใด ที่เบื้องหน้าของบุคคลทั้งคู่ พลันปรากฎอณูบางอย่างรวมตัวกันขึ้นเป็นชายผู้หนึ่งยืนถือปืนอิเลคโทคนิคส์อันทันสมัย วิลเลี่ยมและไซรัสต่างตกใจกับภาพที่ปรากฎนั้น
"อย่ากลัวผม ผมชื่อแจ็ค ผมมาจากโลกอนาคต" ชายผู้นั้นตอบ เขาสวมเสื้อผ้าอันรัดกุมเป็นมันวาว แลดูทะมัดทะแมงราวกับนักรบอวกาศในภาพยนตร์
แจ็คเล่าให้ทั้งสองฟังว่า เขามีเครื่องข้ามเวลา เขาสามารถจะเดินทางไปยังช่วงเวลาหรือยุคสมัยใดก็ได้ เขายังบอกอีกว่า เมื่อหลายวันก่อน พ่อมดเฮมุสได้เดินทางไปยังโลกอนาคตแล้วสะกดจิตเขาก่อนจะลักพาตัวมาที่นี่ มันบังคับให้เขาปรนนิบัติมันทุกอย่าง จนกระทั่งมันพึงพอใจ จากนั้นมันก็จับเขาไปขังไว้ในห้องชั้นบนสุดของวิหารแห่งนี้ โดยที่มันไม่รู้เลยว่าเขานั้นมีเครื่องข้ามเวลาติดตัวมาด้วย
"ผมรีบกลับไปเอาเครื่องมือบางอย่างมา เพื่อจะกำจัดมัน" แจ็คบอก
"ไม่มีผู้ใดฆ่ามันได้ มันไม่มีวันตาย" ไซรัสว่า
"แต่ก็น่าจะลองดู" แจ็คกระชับปืนที่ถือมาแน่น เขาบอกทั้งสองว่า "นี่คือเครื่องสลายสสาร เราจะใช้มัน"
ทันใดนั้น หมอกควันสีม่วงก็พลันพวยพุ่งขึ้น ครั้นควันจางลง พ่อมดเฮมุสก็ปรากฎกายยืนอยู่ มันเดินตรงเข้ามาอย่างช้า ๆ
"พวกคุณถอยไป" แจ็คว่าจบไซรัสและวิลเลี่ยมก็ถอยห่างออกมา
แจ็คเล็งปืนไปยังร่างของเฮมุส และในทันทีที่ลำแสงสีแดงออกจากปากกระบอกปืน ร่างเฮมุสก็หายวับไป ลำแสงพุ่งพลาดไปปะทะผนังหินจนเกิดปฏิกิริยาสูญสลายเป็นช่องโหว่ในบัดดล
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ อยากอ่านตอ ขอบคุณครับผม{:5_130:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณครับ ขอบคุนคับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคถณึับ ขอบคุณครับ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณครับ สนุกดี