ผีห่วงลูก
น้าพิมเป็นโศกนาฏกรรมสะเทือนใจที่สุดของบ้านเรา!บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่ครับ อยู่กันครบเลยทั้งคุณตาคุณยาย พ่อแม่ผมกับน้าริวที่เพิ่งแต่งกับน้าพิมได้ปีกว่าๆ มานี่เอง
น้าพิมเป็นผู้หญิงน่ารัก เธอตัวเล็กและเตี้ยกว่าผมที่อายุ 14 ซะอีก แถมใจดีมาก แต่เธอมีโรคประจำตัว ผมก็เรียกไม่ถูกว่าโรคอะไร รู้แต่มันเกี่ยวกับระบบเลือด เมื่อน้าพิมตั้งท้องและคลอดน้องพลอยออกมา พวกเราทุกคนก็ดีใจมาก คุณยายบอกว่าเจเนอเรชั่นใหม่เอี่ยมคือสมาชิกครอบครัวรุ่นหลานอย่างผมนี่ มีผมเป็นคนแรก น้องพลอยเป็นคนที่สอง ตอนผมเกิดก็ดีใจกันทั้งบ้านอย่างนี้แหละ
ดีใจได้ไม่นานก็เกิดเรื่องน่าเศร้าที่สุดในโลก นั่นคือน้าพิมเป็นไข้เลือดออกครับ!
ฟังแล้วใจคอหายหมด ทุกคนเป็นห่วงมาก คุณตาบอกผมว่าไข้เลือดออกนี่ถ้าเป็นกับเด็กยังดีกว่าเป็นกับผู้ใหญ่! เพราะในผู้ใหญ่น่ะพิษสงของโรคจะรุนแรงและมีโอกาสตายได้สูงมาก...น้าพิมก็ เป็นหนึ่งในนั้น!
ตอนเธอตายผมไม่ได้เข้าไปดูหรอกครับ ได้ยินแต่พวกผู้ใหญ่คุยกันว่าน่าสงสารมาก เลือดเธอไหลทะลักทลายออกมาทั้งทางตา จมูก ปาก...บ้านผมไม่เคยมีใครตายเลยครับ น้าพิมเป็นญาติคนแรกที่อยู่บ้านนี้และตายลง ผมสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่น่ากลัวพิลึก ตอนกลางวันน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ตกกลางคืนมันน่าขนลุกมาก มองไปทางไหนก็วังเวงและหดหู่เต็มที
ราวๆ ห้าโมงเย็นผมรีบกลับจากโรงเรียน ไปงานศพน้า พิมที่วัด คนมากันเยอะทั้งญาติและเพื่อนๆ น้ำตาท่วมเลยล่ะครับ เพราะเธอตายทั้งที่ยังไม่ถึงวัยอันควร ไม่รู้จะด่วนรีบตายไปทำไม? ผมพูดเล่นน่ะครับ น้าพิมเองน่ะต้องยังไม่อยากตายแน่ๆ เลย เธอกำลังมีความสุขมาก
ที่สำคัญเธอเพิ่งมีลูกอ่อน น้องพลอยอายุได้สี่เดือน
เธอเป็นผีแม่ลูกอ่อน! ผมไม่ได้พูดเองนะ แต่ได้ยินคนในงานศพแอบพูดกัน...เขาว่าเธอต้องห่วงลูกห่วงผัวมากๆ เชียวล่ะ!
ผมได้ยินแล้วขนลุก เสียวไส้สยองขวัญเอามากๆ อย่าลืมว่าผมอยู่บ้านเดียวกับน้าพิมนะ! เดี๋ยวจบงานศพก็ต้องกลับบ้าน ที่มองไปทางไหนก็กลัวว่าจะเห็นน้าพิมยืนอยู่! ถ้าเป็นงั้นจริงๆ ผมช็อกตายแน่
ยังไม่ทันถึงวันเผาเลยครับ พี่ฟางคนเลี้ยงน้องพลอยก็น้ำตานองหน้ามาขอลาออกกับคุณยาย
"หนูไม่ไหวค่ะ...หนูเห็นคุณพิมเรื่อยเลย" เธอพูดโดยไม่คิดเลยว่าผมที่อยู่ตรงนั้นจะอกสั่นขวัญหาย...ในที่สุดคุณยายก็ ต้องปล่อยพี่ฟางไป แล้วหาคนเลี้ยงใหม่กันวุ่นวายน่าดู
ทุกคืนผมนอนฟังด้วยใจระทึก แน่ใจว่าได้ยินเสียงน้าพิมเดินไปมาอยู่ตรงทางเดินหน้าห้อง...จริงๆ แล้วเธอเดินไปทั่วบ้าน ทำไมผมรู้ว่าเป็นเธอเหรอครับ? ก็เพราะเธอเป็นคนเดียวที่ใส่รองเท้าแตะทำด้วยผ้านุ่มๆ รูปตุ๊กตาเดินอยู่ในบ้านเราน่ะสิ เวลาเดินจะดังแปะๆๆ ผมจำไม่ผิดหรอก เผลอๆ ยังเคยได้ยินเธอกระแอมกระไอและหัวเราะล้อน้องพลอย...ผมกลัวชะมัดเลย ได้แต่นอนคลุมโปง
น้าริวเล่าให้คนในบ้านฟังว่า หลังจากเผาศพน้าพิมแล้ว เขาเห็นน้าพิมในห้องนอนบ่อยมาก!
ตอนกลางคืนน้าริวจะเอาน้องพลอยมานอนด้วย ทั้งตื่นชงนมและตื่นมาเห่กล่อมเวลาน้องพลอยร้องโยเย น้าริวเหนื่อยมาก บางคืนแม่ผมสงสารก็จะไปช่วยดูแล...แม่เองก็รู้สึกว่าน้าพิมอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา...แม้จะกลัว แม่ก็ยังพูดออกมาค่อยๆ ว่า อย่าห่วงลูกเลย ไปสู่สวรรค์เถอะ! แม่และทุกคนจะดูแลน้องพลอยอย่างดีที่สุด
คืนหนึ่งแม่ช่วยรับน้องพลอยมาเลี้ยงเพื่อให้น้าริวได้พัก เพราะน้าริวต้องไปทำงาน น้าริวเล่าว่าน้าพิมมานอนด้วย เห็นเป็นตัวเป็นตนเลยครับ เธอนอนเหมือนเมื่อยังมีชีวิตอยู่...ดีนะที่เหมือนคนนอนหลับ ไม่ใช่ลืมตาโพลงหรือทำอะไรน่ากลัว
น้าริวเล่าว่าพอเขาเอื้อมมือจะไปจับตัวเธอ น้าพิมก็เลือนหายไป...
น้องพลอยเองก็เถอะ ผมเห็นกับตาว่าบางวันเธอหัวเราะเหมือนกับเล่นกับใครบางคนอยู่ ผมแน่ใจว่าคนที่ผมไม่เห็นตัวนั้นคือน้าพิม!
คุณตาคุณยายบอกว่าไม่ต้องกลัว แต่ให้สงสารและสวดมนต์ให้น้าพิม แต่ผมทำใจไม่ได้เลยครับ มันกลัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่รู้ว่าน้าพิมใจดี ไม่มาหลอกผมด้วยลักษณะน่ากลัว...แต่ผมก็ขอน้าพิมว่าอย่ามาให้ผมเห็นเลย อยากได้อะไรก็มาเข้าฝัน
ใจผมยังคิดว่าน้าพิมเป็นน้าของผม เป็นสมาชิกคนหนึ่งในบ้านเราเสมอ... ไม่อ่านกลัว
หน้า:
[1]