ไอ้มั่น ไอ้ทอง ตอน 8
เวลาล่วงเลยผ่านมานานหลายวัน ไอ้มั่นยังคงพักอยู่ที่เรือนของไอ้ทองอยู่เพราะเมียของไอ้มั่นยังคงไม่หายแพ้ท้อง
ส่วนไอ้ทองเองก็ติดใจในรสของน้ำควยของพี่เขยของตนเองจนแทบจะอยากจะดื่มกินน้ำควยสด ๆ ของไอ้มั่นทุกวัน
ตัวไอ้มั่นเอง เมื่อได้รับความเสียวจากชายหนุ่มหุ่นกำยำอย่างไอ้ทอง ก็คงไ่ปฏิเสธความเงี่ยนที่ได้จากการดูดลำควยจากปากไอ้ทอง
เมื่อทั้งสองอยู่เรือนพร้อมกัน ก็ปลดเปลื้องโจงกระเบน ตัวเปลือยอยู่ร่วมกันอย่างไปกระดากใจอะไร เพราะทั้งสอง ทั้งดูดอมลำควย
ของกันและกันมาหลายครั้งแล้ว แต่มีเพียงแค่ครั้งเดียวที่ไอ้เกิดความเสียวและความเงี่ยนจนปล่อยให้ไอ้ทองสอดใส่ควยเข้าไป
ในรูทวารของตนเอง
เมื่อยามรุ่งเช้าของวันใหม่ ไอ้มั่นที่นอนหงายเปลือยกายแผ่อยู่ ถึงไอ้มั่นจะอายุย่าง 30 ปีแล้ว แต่การออกรบและการทหารยังคงทำให้ไอ้มั่น
ร่างกายกำยำเนื้อตัวเต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่น กล้ามหน้าอก และกล้ามท้องที่เป็นลอนชัด ถึงแม้ไอ้มั่นจะถูกรีดน้ำควยออกทุกวัน
แต่ทุกเช้าควยของไอ้มั่นก็จะแข็งโด่ขึ้นมาตลอด ส่่วนไอ้ทองก็นอนหลับข้าง ๆ ไอ้มั่น ไอ้ทองนอนในท่าคว่ำและแน่นอนอยู่แล้วว่า
ทั้งสองคนนี้นอนเปลือยกายอยู่รวมกันตลอดเวลา ไอ้ทองนอนดิ้นจนขาอีกข้างไปก่ายอยู่ที่ตัวของไอ้มั่น ควยของไอ้ทองที่แข็ง
ไม่ต่างจากไอ้มั่นบดเบียดอยู่ติดกับลำตัวของไอ้มั่น ขาของไอ้ทองทับไปที่ลำควยของไอ้มั่นอย่างพอดีจนดึงรั้งหนังที่ห่อหุ้ม
หัวควยของไอ้มั่นอยู่จนถอกลงมาเห็นหัวควยสีแดงก่ำอย่างชัดเจน ถ้าหากใครเดินเข้ามาเห็นทั้งสองคนนอนในตอนนี้
คงอดสงสัยไม่ได้แน่ว่าเพราะเหตุใด พี่เขยและน้องเมียถึงได้สนิทแนบกันถึงเพียงนี้
" ไอ้ทอง ตื่นเถิด " ไอ้มั่นใช้มือลูบต้นขาของไอ้ทองที่ผ่านทับตัวของตัวเองอยู่
" เช้าแล้วรึพี่มั่น " ไอ้ทองงัวเงีย บิดขี้เกียจแล้วใช้ควยของตนเองถูไถไปตามสีข้างของไอ้มั่น
" เอ็งตื่นเถิด เช้าแล้ว วันนี้ข้าต้องไปพบท่านแม่ทัพที่เรือน "
" พี่มั่นก็ไปเถิด ข้าจักนอนต่อเสียหน่อย "
" ข้าจักไปได้เยี่ยงไร เอ็งยังนอนทับข้าอยู่เช่นนี้ "
" ข้าชอบนอนกอดพี่มั่นนี่จ๊ะ "
" เอ็งลุกเถิด แลไปเอาโจงกระเบนของข้าที่ท่าน้ำมาให้ข้าด้วย "
" จ๊ะพี่ "
แล้วไอ้ทองก็ลุกขึ้นมา เดินไปที่ท่าน้ำทั้ง ๆ ที่ควยของไอ้ทองยังคงแข็งโด่แบบนั้น ไอ้ทองหยิบโจงกระเบนของไอ้มั่นพาดบ่า
แล้วเดินกลับมาเพื่อเอาโจงกระเบนให้กับไอ้มั่น แต่ก็ได้สังเกตุเห็นว่า มีชายหนุ่มรูปงาม ผิวงามดั่งลูกของขุนนางสูงศักดิ์
ต่างกับสีผิวของไอ้ทองที่คล้ำเพราะตรากตรำงานหนัก ชายหนุ่มรูปงามผู้นั้นยืนชะเง้อคออยู่ที่บันไดหน้าเรือนของไอ้ทอง
" เอ็งมาหาผู้ใดรึ " ไอ้ทองเดินไปที่บันได โดยที่ลืมตัวว่าตนเองไม่ได้ผูกโจงกระเบน ทำให้เห็นควยที่แข็งโด่และหุ่นกันกำยำอย่างเต็มตา" ไอ้มั่นอยู่ที่นี่รึไม่ " ชายผู้ที่ยืนอยู่หน้าเรือน จ้องมองที่หุ่นของและควยที่แข็งโด่ของไอ้ทองไม่วางตา
" พี่มั่นอยู่ในเรือน ข้าจักไปบอกให้ว่าท่านมาพบ ว่าแต่ท่านชื่อเสียงเรียงนามว่าเช่นไร "
" ข้าคือขุนพัน เอ็งช่วยไปบอกไอ้มั่นด้วยเถิดว่าข้ามาพบ "
แล้วไอ้ทองก็เดินควยแกว่งเข้าไปหาไอ้มั่นในเรือน
" พี่มั่น ขุนพันมาพบพี่ ตอนนี่รออยู่ที่หน้าเรือน "
" ขุนพันมาพบข้างั้นรึ "
แล้วไอ้มั่นจึงรีบผู้โจงกระเบนแล้วเดินไปหาขุนพันที่หน้าเรือน
ขุนพัน เป็นนายทหารที่อยู่ในกองทัพเดียวกันกับไอ้มั่น ซึ่งขุนพันและขุนมั่นเป็นขุนพลที่นำกองกำลังออกรบร่วมกันมาหลายครั้งหลายครา
และทั้งสองคนก็เป็นขุนศึกที่คอยรับใช้ท่านแม่ทัพและออกศึกเพื่อปกป้องสยามนับครั้งไม่ถ้วน
" ไอ้ขุนพัน เอ็งมาหาข้าถึงนี่เชียวรึ " ไอ้มั่นเดินไปหาขุนพันที่หน้าเรือน ใช้มือจับไปที่กล้ามแขนอันกำยำของขุนพัน
ถึงแม้ขุนพันจะออกรบมาหลายครั้ง แต่ผิวกายยังคงงามดั่งผู้มีอันจะกิน กล้ามแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม กล้ามท้องที่เป็นลอน
และกล้ามหน้าอกแน่น ไรขนที่ขึ้นโผล่พ้นชายขอบโจงกระเบนมาจนถึงสะดือ ทำให้ไอ้มั่นไม่อาจละสายตาจากหุ่นล่ำของขุนพันได้
ถึงแม้หุ่นของขุนพันจะไม่กำยำเท่าไอ้มั่นแต่มัดกล้ามก็แน่นไม่ต่างจาก มัดกล้ามของไอ้มั่นแม่แต่น้อย
" ข้าไปหาเอ็งที่เรือน เมียเอ็งบอกว่า เอ็งมาอยู่ที่เรือนนี้ ข้าจึงมาหาเอ็งเพื่อไปพบท่านแม่ทัพกับเอ็ง "
" ถ้าเช่นนั้น เอ็งไปรอข้าที่ท่าน้ำ ข้าจักพายเรือไปที่เรือนท่านแม่ทัพ แต่ขอข้าไปล้างหน้าเสียก่อน "
" เช่นนั้นข้าจักไปรอเอ็งที่ท่าน้ำ เอ็งเร่งไปเถิด ถ้าหากสายท่านแม่ทัพจักรอนาน "
แล้วขุนพัรก็เดินไปที่ท่าน้ำที่ไอ้มั่นและไอ้ทองใช้เป็นสถานที่ในการปฏิบัติกิจกามหลายต่อหลายครั้ง ขุนพันยืนรออยู่ที่ท่าน้ำ
จึงสังเกตุเห็นรอยน้ำเลอะเป็นคราบอยู่ตามพื้นไม้ที่ท่าน้ำ คราบน้ำนั้นพุ่งออกมาเป็นสาย และมีบางจุดที่ยังคงยังไม่แห้ง
พอให้เห็นว่าคราบน้ำที่เลอะอยู่ตามท่าเรือมีความเหนียวและข้นถึงเพียงใด แต่ขุนพันก็ไม่ได้ใส่จักกับคราบน้ำนั้นนัก
เพราะจิตใจเร่งรีบอย่างไปพบท่านแม่ทัพเพื่อคุยเรื่องกิจการบ้านเมือง เมื่อไอ้มั่นมาถึงท่าน้ำทั้งสองคน
จึงเดินทางไปพบท่านแม่ทัพที่เรือน
เมื่อถึงเรือนท่าแม่ทัพ ไอ้มั่นเทียบท่าเรือของตนไว้ที่ท่าน้ำของเรือนท่านแม่ทัพ
ไพร่หนุ่มหุ่นกำยำสองคน เดินมาแล้วคุกเข่าลงต่อหน้าขุนศึกทั้งสองที่ยืนอยู่ที่ท่าน้ำ
" พวกท่านทั้งสองมาพบท่านแม่ทัพหรือขอรับ " ไพร่หนุ่มคนหนุ่งเอ่ยถามขึ้นมา
" พวกข้ามาพบท่านแม่ทัพ เอ็งไปบอกท่านด้วยเถิดว่า ขุนพันและขุนมั่นมาขอเข้าพบ " ขุนพันตอบ
" ขอรับ "
แล้วไพร่หนุ่มคนนั้นจึงเดินหายเข้าไปในเรือนสักครู่ แล้วเดินกลับออกมาใหม่
" ท่านแม่ท่านให้พวกท่านทั้งสองเข้าพบได้ "
แล้วไพร่หนุ่มทั้งสองคน จึงคลานเข้าเข้าไปหาขุนพันและขุนมั่น ปลดโจงกระเบนของทั้งสองคนออก แล้วพับเก็บไว้
ทำให้ตอนนี้ขุนพันและขุนมั่น ยืนตัวเปล่าเปลือยโชว์หุ่นกำยำอยู่ที่ท่าน้ำของเรือนท่านแม่ทัพ ไพร่หนุ่มทั้งสองนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้า
ควยของขุนศึกทั้งสอง ควยของขุนศึกมั่นถึงแม้จะอ่อนตัวอยู่ แต่มันก็ห้อยยาวลงมาตรงหว่างขา รวมทั้งไวงไข่ที่ห้อยยานอยู่
ต่อหน้าไพร่หนุ่ม ส่วนลำควยของขุนศึกพันที่อ่อนตัวก็มีขนาดไม่ต่างจากลำควยของไอ้มั่นเลยแม้แต่น้อย หมอยที่ดกและฟู
ขึ้นเต็มรอบลำควยและพวงไข่ แต่เพราะลำควยที่อวบยาวทำให้มันโผล่พ้นดงหมอยนั้นออกมาอย่างชัดเจน ถึงแม้ขุนพันจะมี
ผิวกายที่เนียนงามแต่ลำควยกลับสำคล้ำดั่งลำควยที่ใช้งานมาจนหนักหน่วง
" บนเรือนมีใครอย่หรือไม่ " ไอ้มั่นเอ่ยถามไพร่ทั้งสอง
" ท่านแม่ทัพให้ทุกคนลงไปจากเรือนแล้วขอรับ ในเพลามีเพียงพวกข้าสองคนและท่านแม่ทัพขอรับ "
" งั้นก็ดีแล้ว " ไอ้มั่นตอบ
แล้วขุนศึกทั้งสองจึงเดินไปพบท่านแม่ทัพในเรือนด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า ไม่มีอาภรใด ๆ ติดตัว
" พวกข้าสองคนมาแล้วขอรับท่านแม่ทัพ " ขุนพันกล่าวทักท่านแม่ทัพ แล้วทั้งสองคนจึงนั่งคุกเข่าลง
ทำให้ควยที่อวบยาวของทั้งสองห้อยอยู่ตรงหว่างขา เพราะลำควยที่อวบและยาว จึงทำให้ปลายควยของทั้งสองยาว
จนเกือบจดพื้นเรือนของท่านแม่ทัพ
ท่านแม่ทัพที่นั่งอยู่บนแหย่งไม้สักทอง มองไปที่ขุนศึกทั้งสองที่ร่างกายเปลือยเปล่า เผยให้เห็นทั้งกล้ามทองและกล้ามอกแน่น
รวมทั้งลำควยและพวงไข่ที่ห้อยยานอยู่หว่างขา
" ข้อจักขออภัยพวกเอ็งทั้งสอง ที่ต้องให้ขุนศึกผู้เกียรติอย่างพวกเอ็งเปลือยกายต่อหน้าข้าเยี่ยงนี้ "
" พวกข้าไม่ติดใจอันใด และพร้อมทำ ถ้าหากทำให้ท่านแม่ทัพสบายใจ "
" ขอบใจพวกเอ็งมาก ถ้าไม่เป็นเพราะไอ้ไส้ศึกเลวระยำที่มันแฝงกายมารอบทำร้ายข้า พวกเอ็งไม่ต้องทำการเสียเกียรตืเยี่ยงนี้ "
" ท่านแม่ทัพอยากพบพวกข้าทั้งสองเพราะเหตุอันใดขอรับ " ขุนพันเอ่ยถามท่านแม่ทัพ
" เพลานี้ สายข่าวได้แจ้งมาว่า พวกพม่ากำลังระดมไพร่พลแลสะสมอาวุธ ข้าจักมีงานด่วนให้พวกเอ็งทั้งสองทำ "
" งานอันใดหรือขอรับท่านแม่ทัพ "
" ข้าจักให้ขุนพันไปสอดแนบที่พม่าโดยเร็วที่สุด ส่วนขุนมั่นเตรียมตัวเพื่อระดมไพร่พลหากข่าวที่พม่าเตรียมออกศึกเป็นจริง "
" ถ้าเช่นนั้น ข้าจักออกเดินทางใหเร็วที่สุด " ขุนพันรับคำสั่ง
" ส่วนข้าจักระดมชายหนุ่มชาวบ้านมาฝึกการบเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมการรบขอรับ " ขุนมั่นรับคำสั่ง
" ดี งั้นพวกเอ็งก็ไปจัดการภารกิจของพวกเอ็งเถิด "
" ขอรับ "
แล้วทั้งสองจึงเดินออกมาที่ท่าน้ำด้วยเนื้อตัวที่เปลือยเปล่า ไพร่หนุ่มทั้งสองจัดการผูกโจงกระเบนให้กับขุนศึกทั้งสอง
แล้วขุนพันและไอ้มั่นจึงพายเรือกลับมาถึงเรือนของไอ้ทองในช่วงเวลาพลบค่ำ
" ไอ้มั่น ข้าจักออกเดินทางในพบลค่ำนี้ ข้าจักขอดื่มกินน้ำควยของเอ็งได้หรือไม่ "
" เอ็งมิต้องถามข้าหรอก ข้าให้เอ็งกินน้ำควยของข้าได้เหมือนทุกครา "
" ขอบใจเอ็งมาก ถ้าหากได้ดื่มกินน้ำควยของเอ็ง ข้าคงมีกำลังเดินทางทั้งคืน "
" นอกจากน้ำควยของข้า เอ็งต้องการน้ำควยอีกหรือไม่ ข้าจักหาให้เอ็งเพิ่มเติมได้ "
" ถ้าหากข้าได้ดื่มกินน้ำควยอีกสักคนเพิ่มข้าคงมีกำลังอีกมาก แลเอ็งจะไปนำทหารคนใดมาให้ข้าดื่มกินน้ำควยรึ ระแวกนี้ไม่มีนายทหารสักคน "
" ข้าจักให้เอ็งดื่มกินน้ำควยของไอ้ทอง มันยังหนุ่มแน่น น้ำควยเยอะนักแล "
" ไอ้ทองงั้นรึ เอ็งเคยดื่มกินน้ำควยของไอ้ทองแล้วงั้นรึไอ้มั่น แลไอ้ทองรู้เรื่องการดื่มกินน้ำควยไอ้เยี่ยงไร "
" ไอ้ทองได้ดื่มกินน้ำควยของข้าทุกวัน ข้าเองก็ได้ได้ดื่มกินน้ำควยไอ้ทองทุกวันเช่นกัน เอ็งไม่ต้องห่วงดอกไอ้พัน "
แล้วไอ้มั่นจึงจับมือของขุนพันมาวางไว้ที่ลำควยของตนเองที่กำลังขยายตัวอยู่ภายใต้ผ้าโจงกระเบน
....................
ติดตามเรื่องเก่าได้ที่นี่ครับ
ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับผม{:5_130:} ขอบคุณครับ อยากให้ท่านแม่ทัพร่วมด้วยจัง ขอบคุณมากครับรอติดตามต่อไปครับ ขอบคุณมากครับ สุดยอดครับ คุ้มค่าที่รอ โอ ชักสนุกกว่าเดิม ทรีซัมด้วย สนุกดีครับชอบมาก ขอบคุณครับ ขอบคุณ {:5_120:}ขอบคุนครับ{:5_119:} ชอบมากกก ขอบคุนครับ ขอบคุณคับ ค่ ค่ารอยากเป็นไอ้ทองยิ่งนะจะได้มีทหารหนุ่มมากินน้ำควย สนุกมากเลยครับ ขอบคุณครับ{:5_118:} เล่าสนุก ๆ แบบนี้ มาต่ออีกเรื่อย ๆ นะครับ ขอบคุณมากๆครับ