คืนฝนตก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย mon-mon เมื่อ 2018-2-7 20:56วันนี้ก็อีกเช่นกันที่ผมกลับจากที่ทำงานและอาบน้ำอาบท่าแล้ว ผมก็จัดแจงใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น สวมรองเท้าลงจากบ้านวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปในซอยใกล้ ๆ บ้าน ซึ่งเป็นซอยที่เปลี่ยวพอสมควร รถราก็ไม่ค่อยมีวิ่งเท่าไหร่ นาน ๆ จะโผล่มาให้เห็นสักคัน ส่วนมากก็จะเป็นพวกมอเตอร์ไซต์เท่านั้นที่วิ่งเข้ามา ผมวิ่งเข้าซอยไปเรื่อย ๆ ความมืดก็เริ่มเข้ามาเยือน แต่ก็ไม่น่ากลัวนัก เพราะมีแสงไฟตามเสาไฟฟ้าที่ให้ความสว่าง แต่ก็ไม่มากนัก อากาศก็เริ่มที่จะเย็นลง ท้องฟ้าก็มีเฆมก้อนใหญ่น้อยปกคลุมไปทั่วบริเวณที่ผมวิ่งอยู่ แต่ผมก็ยังวิ่งเรื่อย ๆ สักครู่เม็ดฝนก็เริ่มหล่นลงมาจากท้องฟ้าทีละเม็ดสองเม็ดจนหนักขึ้น ผมเห็นว่าฝนชักจะลงหนาเม็ดขึ้นแล้ว จึงหันหลังกลับ และก็วิ่งเหยาะ ๆ มาเรื่อย ๆ เสื้อกล้าม กางเกงกีฬาสีขาวที่ทำจากผ้าร่มก็เปียกจนแนบเนื้อแทบจะเห็นรูปร่าง แต่ก็ยังดีที่ซอยนี้ไม่ค่อยมีรถ ผมจึงวิ่งอย่างสบายใจ
ในขณะที่ผมกำลังวิ่งอยู่นั้น แสงไฟจากรถยนต์ก็สาดส่องมาที่ตัวผม สักครู่ก็มีรถยนต์วิ่งตามไฟออกมาจากทางโค้ง และค่อย ๆ แล่นมาจนเกือบจะถึงผมและก็ชะลอ ในขณะที่ผมเข้าไปใกล้รถคันนั้น ผมมองเข้าไปในรถยนต์คันนั้น ก็พบชายหนุ่มสองคนอยู่ในรถ พอผมเข้าไปใกล้ คนขับรถก็ไขกระจกและชะโงกหน้าออกมาถามว่า
"น้องเปียกหมดแล้ว บ้านอยู่ที่ไหนล่ะ พี่จะไปส่งที่บ้านเอาไหม" ผมตอบว่า
"ไม่เป็นไร ขอบคุณครับ บ้านผมอยู่อีกซอยหนึ่ง วิ่งไปเดี๋ยวก็ถึงแค่นี้เอง" แต่ชายหนุ่มคนดังกล่าวก็ไม่ละความพยายามที่จะชวนผมขึ้นรถของแกให้ได้ จนชายอีกคนหนึ่งซึ่งนั่งมาด้วยที่ด้านหลังพูดเสริมมาอีกว่า
"ขึ้นมาเถอะ เดี๋ยวพี่จะไปส่ง น่านะ กลัวอะไรหรือ พี่ไม่เอาไปขายหรอก เพียงแต่อยากรู้จักกันเท่านั้น เพราะเห็นมาวิ่งทุกวัน" เมื่อถูกชวนหนัก ๆ เข้า ผมก็ใจอ่อนและที่สำคัญ 2 หนุ่มนี้ก็หน้าตาดี คนหนึ่งผิวขาว จมูกโด่ง หน้าตาคล้าย ๆ คนจีน ส่วนอีกคนหนึ่งผิวค่อนข้างคล้ำ มีหนวด หน้าตาคมสัน ทำให้ผมตัดสินใจขึ้นรถของคนทั้งสองอย่างไม่ต้องลังเลใจ ทันทีที่ประตูรถเปิดออก ผมก็ก้าวเข้าไปในรถยนต์คันนั้น และหลังจากที่ผมนั่งเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มที่นั่งเบาะหลังก็บอกกับผมว่า
"ถอดเสื้อออกสิ เดี๋ยวเป็นหวัดนะ" และหันหน้าไปบอกกับเพื่อนที่ขับมาด้านหน้าว่า
"แอ็ด ช่วยลดแอร์ลงหน่อย เดี๋ยวน้องแกจะไม่สบายเอา" ผมก็บอกว่า
"ไม่เป็นไรครับพี่ ไม่ต้องลดแอร์ก็ได้" แต่พี่ที่นั่งอยู่ข้างหลังก็ยังบอกว่า
"ไม่เป็นไรไม่ได้สิ เดี๋ยวถ้าน้องไม่สบายไปจะลำบากนะ เปียกมาทั้งตัวแบบนี้ กางเกงนั้นก็ถอดออกด้วยก็ได้ ไม่ต้องอายพี่หรอก ผู้ชายเหมือนกัน" พอพี่คนที่นั่งข้างหลังบอกให้ผมถอดกางเกงออก ผมก็รู้ได้ทันทีว่าสองคนนี้ต้องเป็นเกย์แน่นอน ใจหนึ่งก็อยากจะเล่นด้วย แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าจะสู้เขาได้หรือ ผมคนเดียว แต่พี่นี่ตั้งสองคน จะไหวหรือเปล่า และในที่สุดผมก็ตัดสินใจว่าเป็นไงเป็นกัน ถอดก็ถอด เมื่อผมคิดดังนั้น ผมจึงถอดกางเกงกีฬาออกและถามพี่ที่นั่งคู่กับผมว่า
"ต้องถอดกางเกงในด้วยหรือเปล่าครับ" ผมก็ได้รับคำตอบว่า
"ถอดออกก็ได้ ถ้าอายก็เอาเสื้อนี่ปิดไว้" พอแกพูดจบ แกก็ถอดเสื้อแขนยาวออกส่งมาให้ผม
"นี่เสื้อใส่ไว้ซะ" พอพี่คนนั้นส่งเสื้อมาให้ผม ผมก็ถอดกางเกงในออก และเปิดกระจกเอามือบิดน้ำที่เปียกกางเกงออกและหมุนกระจกขึ้นเหมือนเดิม
"เดี๋ยวไปที่บ้านพี่ก่อนก็แล้วกัน" พี่ที่อยู่ด้านหลังพูด
"เออ พี่ยังไม่รู้เลยว่าน้องชื่ออะไร" พี่คนเดิมถามผม
"ผมชื่อเอ็มครับ แล้วพี่ล่ะครับ ผมยังไม่รู้เลยว่าชื่ออะไร" ผมบอกกับพี่คนนั้นและถามชื่อของเขาต่อ
"พี่ชื่อพัฒน์ แล้วคนที่อยู่ด้านหน้าชื่อแอ็ด" ผมพยักหน้ารับรู้
"น้องเอ็มออกกำลังกายวิ่งแบบนี้มานานแล้วหรือ หุ่นถึงได้ดีขนาดนี้ พี่สิแย่ พุงโย้เลย" พี่พัฒน์พูดพร้อมกับเอามือมาลูบที่หน้าอกผมที่เปลือยเปล่า และลามลงมาที่หน้าท้องของผม และมาหยุดที่ท่อนเนื้อของผมที่ชูชันภายใต้เสื้อที่ห่อหุ้มอยู่ พี่พัฒน์ค่อย ๆ บรรจงจับมันและลูบเบา ๆ ผมมองหน้าพี่พัฒน์และพี่พัฒน์ก็ยิ้มให้ผม
"ไหนพี่ขอดูหน่อยได้ไหม" ท่าทางพี่พัฒน์ดูเหมือนจะมีอารมณ์มาก แกเลิกเสื้อที่คลุมท่อนล่างของผมขึ้น และจับท่อนเนื้อของผมรูดเข้าออก 2-3 ที แล้วแกก็ละมือออกไปปลดตะขอกางเกงแกที่สวม พร้อมทั้งรูดซิปกางเกง แกค่อย ๆ ควักเอาท่อนลำของแกออกมา ท่อนลำของพี่พัฒน์สวยมาก สีแดงระเรื่อ ไม่มีหนังหุ้มเลย ขนาดก็ไม่ใหญ่โตมากนัก แต่อาศัยว่าจะยาวหน่อย
"ทำอย่างไรของพี่ถึงจะเท่าของเอ็มบ้างล่ะ ดูซิของพี่แค่นี้เอง พี่อยากให้ใหญ่ ๆ ยาว ๆ เหมือนของเอ็มบ้าง" พี่พัฒน์ถามผม
"ขนาดของพี่นี่ก็ดีแล้วนี่ครับ ถ้าใหญ่อย่างผมนี่หาคู่เล่นจะยากสักหน่อย เพราะคนกลัวเจ็บ" ผมตอบพี่พัฒน์
"ไม่ยากหรอก พี่ชอบ ใหญ่อย่างนี้มีอารมณ์ดีออก" สักครู่รถยนต์คันที่พวกเรานั่งมาก็จอดที่หน้าทาวเฮ้าส์
"ไป ไปที่ในบ้านดีกว่า" พี่พัฒน์บอกให้ผมลงเข้าไปในบ้าน พอรถจอดสนิทผมก็ดึงเสื้อคลุมลงมาไว้ที่เดิม และใส่กางเกงกีฬาตัวที่เปียกอยู่วิ่งฝ่าสายฝนที่ตกลงมาอย่างมืดฟ้ามัวดินและเดินตามพี่พัฒน์และพี่แอ็ดเข้าไปในทาวเฮ้าส์ พอเข้าไปในทาวเฮ้าส์แล้ว พี่พัฒน์ก็ถอดกางเกงขายาวออกเหลือแต่กางเกงในตัวจิ๋วตัวเดียว พุงของแกยื่นพองาม ส่วนพี่แอ็ดก็เอาน้ำมาให้ผมดื่ม และส่งยาให้ผมเม็ดหนึ่ง ผมถามว่า
"ยาอะไรหรือพี่" พี่แอ็ดตอบว่า
"อ๋อ ยาแก้ไข้หวัดน่ะ กินไว้ก่อนเดี๋ยวเผื่อจะเป็นไข้หวัดขึ้นมา" ผมรับยาเม็ดนั้น พร้อมยกแก้วน้ำมาดื่มกับยา พี่แอ็ดบอกผมว่า
"ตามสบายนะ ไม่ต้องมาเกรงใจกัน อาบน้ำก่อนไหม" ผมตอบว่า
"ก็ดีครับ" พี่แอ็ดพาผมไปที่ห้องน้ำ พอผมอาบน้ำเสร็จก็ออกมา สักครู่พี่แอ็ดและพี่พัฒน์ก็ผลัดกันเข้าไปอาบน้ำจนเสร็จ และออกมาที่ผมนั่งอยู่ที่โซฟา พี่พัฒน์หอมแก้มผมและพูดว่า
"รู้หรือเปล่าว่าพี่สองคนสนใจเอ็มมาตั้งนานแล้ว อยากรู้จักด้วยและอยากมีอะไรกันด้วย พี่กับแอ็ดเป็นแฟนกันมานานแล้ว แต่เรื่องบนเตียงนั้น เดี๋ยวนี้แทบไม่มีเลย ดูมันจืดชืด พอดีเห็นเอ็มนี่หน้าตาดี เราสองคนจึงพ้องต้องกันว่าอยากจะมีเซ็กซ์ด้วย รังเกียจพี่สองคนหรือเปล่า" ผมตอบว่า
"ไม่รังเกียจครับ ถ้ามีสิ่งใดที่ผมทำได้ ผมยินดีที่จะช่วยพี่ทั้งสองคนอย่างเต็มที่ครับ" หลังจากที่ผมทานยาได้สักครู่ ความรู้สึกว่าอยากจะร่วมรักก็มีมากขึ้นแทบระงับอารมณ์ไม่อยู่ ผมดึงผ้าเช็ดตัวของผมออก และล้มตัวลงนอนยาวตามโซฟา พี่พัฒน์ตรงเข้ามาประกบปากผม เราสองคนดูดดื่มกันอยู่สักครู่ พี่แอ็ดก็ค่อย ๆ เอามือมาลูบที่ท่อนเนื้อของผมที่กำลังชูชันอย่างเต็มที่ และใช้ปากสวมเข้าไป ผมถึงกับผงกหัวเพราะความเสียวสะท้าน พี่แอ็ดเล่นท่อนเนื้อของผมอย่างชำนาญงาน
ส่วนพี่พัฒน์ก็กำลังเพลินกับส่วนบนของผม ผมพลิกร่างของพี่พัฒน์ให้ลงไปอยู่ข้างล่างแทรกตัวเข้าไปในหว่างขา และเอาท่อนเนื้อดุนร่องก้นของแก พี่พัฒน์แยกขาออกทันทีด้วยสัญชาตญาณ ผมทราบได้ทันทีว่า พี่พัฒน์พร้อมแล้วที่จะให้ผมรุกล้ำอธิปไตยของตัวเอง ผมใช้ท่อนเนื้อของผมค่อย ๆ จับจ่อไปที่รูและค่อย ๆ ดัน แต่ด้วยความที่มันทั้งใหญ่ ทั้งยาว ท่อนเนื้อของผมจึงไม่สามารถล่วงล้ำเข้าไปได้ จนพี่แอ็ดซึ่งรู้ดีว่าผมกำลังจะทำอะไร แกจึงเดินไปหยิบเควายที่ลิ้นชักตู้มาส่งให้ผม
เมื่อพี่แอ็ดเห็นผมมัวง่วนกับพี่พัฒน์อยู่นั้น แกก็เอาเควายมาทาที่ท่อนเนื้อของผม และที่ประตูหลังของพี่พัฒน์ ผมจับพี่พัฒน์ให้นอนคว่ำหน้าลง และค่อย ๆ บรรจงแทงท่อนเนื้อลงไปที่ประตูหลังของพี่พัฒน์ ประตูของพี่พัฒน์ปิดแน่นไม่ยอมให้ท่อนเนื้อของผมผ่านเข้าไปง่าย ๆ แต่ด้วยความพยายาม ผมจึงสามารถนำท่อนเนื้อที่ปูดโปนเข้าไปในประตูหลังของพี่พัฒน์ด้วยความลำบาก
แต่ในที่สุด ท่อนเนื้อทั้งท่อนก็ล่วงล้ำเข้าไปจนหมด พี่พัฒน์ดิ้นเบา ๆ หน้าตาบิดเบี้ยว กัดฟันแน่น ปากก็ซี้ดอยู่ตลอดเวลา ด้วยประตูหลังของพี่พัฒน์ที่ฟิตแน่นจนผมเกือบจะหลั่งออกมาด้วยความกระสันเต็มที่ เพียงครู่เดียวประตูหลังของพี่พัฒน์ก็เริ่มคลายความแน่นลงและตอดตุบ ๆ จนใจผมแทบจะขาด พอผมหายเสียวสะท้าน ผมก็เริ่มซอยเข้าออกจนลืมตัว ฝนข้างนอกยังไม่ยอมที่จะหยุดง่าย ๆ เช่นเดียวกับพวกเราทั้งสามคนก็คงยังนัวเนียกันอยู่อย่างนั้น จนผมรู้สึกตัวว่าที่หลังบ้านของผมมีผู้บุกรุกอยู่หลังบ้าน พี่แอ็ดนั่นเองที่บุกรุก พี่แอ็ดเอาเคยายมาทาที่หลังบ้านของผมจนชุ่มโชกและก็ค่อย ๆ เอาแท่งทวนแหย่เข้าไปทีละน้อย จนส่วนหัวของแท่งเนื้อนั้นผลุบเข้าไป ความเจ็บบวกกับความเสียว แต่ประการหลังมีมากกว่า ผมจึงปล่อยให้แท่งเนื้อเข้าไปจนหมด พี่แอ็ดเอาแท่งเนื้อแช่ไว้สักครู่ จึงเริ่มออกแรงกระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วง จนผมแทบไม่ต้องออกแรงกับพี่พัฒน์เลย ผมกลายเป็นแซนวิชที่มีพี่พัฒน์อยู่ด้านหน้าและมีพี่แอ็ดอยู่ด้านหลัง เราสามคนประกบอยู่อย่างนั้นจนนานแสนนาน และพี่แอ็ดก็ถามผมว่า
"เอ็ม ใกล้หรือยัง" ผมบอกว่า
"ใกล้แล้ว พี่พัฒน์ล่ะจวนหรือยัง" พี่พัฒน์ก็บอกว่า
"พี่ก็ใกล้แล้ว เร็ว ๆ หน่อย ออกแรงอีกหน่อย" พี่แอ็ดจึงกระแทกอย่างแรงเร็ว จนในที่สุดประตูหลังของพี่พัฒน์ก็รัดท่อนเนื้อของผมอย่างแรงและบีบรัดอย่างเป็นจังหวะพร้อมกับเสียงซี้ดลึก ๆ
พอพี่พัฒน์เสร็จ ท่อนเนื้อของผมก็เริ่มที่จะเสียวและมันก็พ่นน้ำใส่เข้าไปในหลังบ้านของพี่พัฒน์จนหมด และก็เป็นเวลาเดียวกับที่พี่แอ็ดก็หายใจฟี้ด ฟ้าดและแกก็กดแท่งเนื้อของแกจนมิด และก็กระตุกแรง ๆ 2-3 ทีและแกก็ฟุบลงกับแผ่นหลังของผม
หลังจากที่เราสามคนจบเกมส์ในครั้งนั้นแล้ว ผม พี่แอ็ด พี่พัฒน์ก็พร้อมใจกันเข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดให้แก่กันและกัน จนไอ้ท่อนเนื้อของผมมันแข็งขึ้นมาอีก พวกเราจึงออกจากห้องน้ำใส่กางเกงแพรคนละตัวและมานั่งคุยกันที่โซฟา ผมจึงทราบว่าพี่แอ็ดเป็นคนที่เริ่มเกมส์นี้ก่อนโดยมีจุดมุ่งหมายที่ผม พี่พัฒน์บอกให้ผมนอนค้างที่บ้านของแก แต่ผมบอกว่าเดี๋ยวทางบ้านเป็นห่วง แต่พี่แอ็ดบอกว่าให้ผมโทรไปบอกทางบ้านว่าคืนนี้ไม่กลับบ้าน จะนอนที่บ้านเพื่อนซึ่งผมก็ตกลง คืนนั้น ผมก็เลยนอนค้างที่บ้านของพี่ทั้งสอง และคืนนั้นทั้งผม พี่พัฒน์ พี่แอ็ด ก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย เราเล่นกันทั้งคืน จนพี่พัฒน์หลุดปากออกมาว่า
"พี่ว่าแล้ว นี่แหละอยากเอายาปลุกเซ็กซ์ให้กินดีนัก" ผมรู้ทันทีว่าพี่แอ็ดเอายามาให้ผมกินและบอกว่าเป็นยาแก้ไข้ ที่ไหนได้เป็นยาปลุกเซ็กซ์นี่เอง เมื่อผมรู้ดังนั้นเป้าหมายผมจึงเปลี่ยนไปที่พี่แอ็ดแทนพี่พัฒน์ ผมเล่นท่าอยู่ทั้งคืนจนรุ่งเช้าของวันใหม่ ผมจึงขอตัวกลับบ้านและให้สัญญากับพี่ทั้งสองว่าจะมาหาทุกวัน
ขอบคุณครับผม{:5_130:} ขอบคุณครับ อะไรมันจะง่ายขนาดนั้น..วันหลังต้องแวะไปวิ่งด้วยแล้วล่ะ..อิอิ ขอบคุณครับ สนุกมากเลยคับ มาเล่าต่อนะคับ อยากฟังเรื่องเสียวๆของพี่สามคนต่อ ผมว่าต้องมีเรื่องเสียวอีกเยอะแน่ๆ{:5_120:}{:5_119:} ได้ผัวใหม่-เมียใหม่ในคราวเดียว
{:5_129:}{:5_129:}{:5_129:}{:5_129:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณข่ะ, สุดยอดไปเลย สุดยอดไปเลย ขอบคุณครับผม ขอบคุณครับ เสียวคับ ขอบคุณครับ ดีจัง น่าอิจฉา ขอบคุณครับ อยากออกไปวิ่งตอนดึกๆจัง