เด็กชายต้ากับพวกพี่ๆ กระทู้ที่ 9
.
.นึกในใจดีนะที่มันไม่โป่งพองออกมาจิงๆ ดีที่แกนุ่งกางเกงในกันไว้
ไม่งั้นแกจะต้องยืนอยู่ข้างหลังผม จนละครเลิกแน่ๆ อิอิ "ต้าอย่าไปไหนไกลล่ะ เดินเล่นอยู่แถวๆนี้นะ พี่จะไปช่วยหลวงพี่ทำงานในโบสถ์ เมื่อกี้ขอแลกงานกับ เณรเนียง ให้เณรเนียงไปช่วยงานบนศาลา กับเณรนันท์ เณรชา และเณรหมิง ส่วนพี่จะช่วยหลวงพี่มหา ดูแลงานในโบสถ์ จะได้ดูแลต้าด้วย " "อืมม... ไปทำงานเหอะ ไม่ต้องห่วงหรอก ไม่หนีไปไหนหรอกน่า " พูดเสร็จแกก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร ก่อนจะพูดสั้นๆว่า "งั้นเดี๋ยวพี่ ไปดูในโบสถ์ก่อนละกัน " ผมพยักหน้างึกๆ แล้วรีบหันกลับไปดูละครที่กำลังสนุก แล้วแกก็เดินหายเข้าไปในโบสถ์ ช่วงนี้เห็นเด็กๆรุ่นราวคราวเดียวกับผม กำลังหัวเราะชอบใจขณะที่นางยักษ์แต่งหน้า แต่งตัว น่ากลัวมาก กำลังกระทืบเท้าโมโหโกรธา แล้วก็กำลังแผดเสียงตวาด (น่าจะเล่นเรื่อง ' พระอภัยมณี ' หรือไงเนี่ย )มัวเสียสมาธิ ช่วงพี่ชินเข้ามา ขัดจังหวะ เลยทำให้ดูไม่ต่อเนื่อง นึกเคืองในใจเล็กๆแต่มาคิดดูอีกทีก็ช่างเหอะ แกคงเป็นห่วงเราจิงๆ อ่ะแหละ คราวนี้ตั้งใจดูเต็มที่เนื่องจากไม่มีคน กวนใจแล้ว (ผมนึกขำ ในใจคนเดียว หือ เสียดาย.....ที่เรามาอยู่ในร่างเณร ถ้าเป็นไอ้ต้าเด็กบ้านๆนะ ป่านนี้กระโดดไปนั่ง หน้าเวทีร่วมกับเด็กๆ พวกนั้นแล้ว และก็อดคิดถึงแม่กับยายไม่ได้ อยากให้แกมาดู เพราะเค้าชอบดูลิเกกัน แถวบ้านนอกอ่ะ ) ช่วงนี้ก็ล่วงเลยมาเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงได้ ที่ผมยืน ใต้แสงแดดเปรี้ยงเกือบ 40 องศา ช่วงสงกรานต์พอดี พี่ชินก็มาวนเวียนเกือบจะทุกครึ่งชั่วโมง พี่นันท์มาดู 2 ครั้งรู้ว่าอยู่ใกล้พี่ชินก็คลายกังวล ไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ ช่วงนี้เกือบบ่าย3 โมงเย็น ละครก็ใกล้เลิกแล้ว คนดูก็ทยอยพาลูกพาหลาน เดินกลับกันไปบ้างแล้ว ผมรู้สึกเวียนหัวหน้ามืด คล้ายจะเป็นลม มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว คล้ายจะเป็นไข้อ่ะไม่รู้เป็นไร คอแห้ง ผมเริ่มเอามือสองข้างประสานกัน วางไว้ บนกำแพงโบสถ์ ซึ่งสูงประมาณหน้าอกผมแล้วก็เอาหัว ปักลงไป พาดไว้บนแขน เหมือนคนหมดแรงอ่ะ ตอนนั้นในใจคิดกลัวพี่ชิน จะต่อว่า เพราะแกมาเตือน ตั้งหลายครั้งแล้วแต่ผมดื้อผมไม่เชื่อแก ผมจึงไม่กล้าบอกแก ผมเห็นท่าไม่ดีพยายามพยุงตัวเอง เดินกลับหอรวมของผม ด้วยความอ่อนระโหยโรยรา ถ้าใครเห็นผมตอนนั้น ต้องตกใจแน่เลย เพราะหน้าซีดปากสั่น หนาวๆ ร้อนๆ เหมือนกับจะล้มให้ได้ พอพยุงร่างตัวเองกลับมาถึงหอได้ ผมก็ล้มตัวลงนอน หยิบผ้าห่มมาห่ม ทั้งที่อากาศช่วงนั้นร้อนจัด แต่ผมมีความรู้สึกหนาวอ่ะ จะเป็นด้วยฤทธิ์ไข้หรือง่วงนอน ก็ไม่แน่ใจ ผมก็ผลอยหลับไปคนเดียว บนหอรวม ท่ามกลางความเงียบเหงา ความว่างเปล่าอ้างว้างเดียวดาย เพราะทุกคน อยู่ข้างล่างกำลังขมักเขม้นช่วยกันเตรียมงาน ซึ่งรุ่งขึ้นจะเป็น วันพระใหญ่ ! ผมผลอยหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ต้องสะดุ้งตกใจตื่น ( แต่ยังลืมตาไม่ขึ้น ) เพราะมีเสียงพูดจากันดังอื้ออึง ไปทั่วบริเวณหอนอน บ้างกำลังเถียงกันโยนความผิดให้กัน ระเบ็งเซ็งแซ่ไปหมด พร้อมมีมือของทั้งพี่ชิน กับพี่นันท์ กำลังลูบหัว ลูบหน้า คลำแขนคลำทั่วตัว เอามืออังหน้าผาก และก็น่าจะเป็นเสียงพี่นันท์พูดขึ้นว่า...... "เนี่ยมันเป็นอาการไข้ ของคนเป็นหวัดแดด เพราะต้าแกยังเด็ก ไปยืนตากแดดอย่างนั้นนานๆก็ไม่ไหว อย่าว่าแต่เด็ก เท่าเณรต้าเลย ผู้ใหญ่อย่างเราถ้าตากแดดนานๆก็มีสิทธิ์ไข้ขึ้น ได้เหมือนกัน " ทุกคนนิ่งไปซักพักก่อนจะได้ยินเสียง พี่นันท์พูดขึ้นว่า.... "ผมย้ำ บอกกับเณร ไม่ใช่เหรอว่า ดีแล้ว ที่เณรแลกงาน กับเณรเนียง แล้วไปช่วยงานในโบสถ์จะได้ฝากดูแล เณรต้าด้วย " เณรนันท์ต่อว่าเณรชิน "ผมผิดเอง ที่ดูแลเณรต้าไม่ดี ผมออกมาดูแก ตั้งหลายครั้ง เห็นแกก็กำลังยืนดูละครก็นึกว่าแก คงไม่เป็นอะไร เลยไม่ได้เข้าไปกวนกลัวแกจะรำคาญผมก็เลยไม่ได้คิดอะไร " เณรชินพูดค่อยๆ "แล้วเณรจะให้คน ไปบอก โยมแม่ โยมพ่อ เณรต้ามั้ย " ? เณรชินถามความเห็นเณรนันท์ "ยังไม่ต้องอ่ะ เดี๋ยวโยมจะตกใจ ถ้ารู้ว่า หัวแก้ว หัวแหวน เขาไม่สบาย เดี๋ยวก็ไม่เป็นอันขายของพวกเราจะพลอย โดนตำหนิไปด้วย ว่าดูเณรต้ากันยังไง โตๆ กันแล้ว โยมเขาอุตสาห์ฝากฝังและ เราก็รับปาก เป็นมั่นเป็นเหมาะว่าไม่ต้องเป็นห่วงจะดูแลต้าอย่างดี ต้าก็เหมือนน้อง เหมือนนุ่ง ผมอ่ะ...นะถ้าป่วยแทนได้ จะขอป่วยซะเอง แล้วให้น้องมันหาย " พี่นันท์พูด "เดี๋ยวให้กินยา นอนพักผ่อนเต็มที่ รอดูอาการพรุ่งนี้ ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยปรึกษากันอีกที " เณรนันท์เสริม (ขณะนั้นถึงแม้ผม จะยังลืมตาไม่ขึ้น แต่ก็แอบปลื้ม และ ซึ้งใจที่สุดที่ได้ยินเช่นนั้น แต่ก็แอบเสียใจและ สงสารพี่ชินลึกๆ ที่เราเป็นตัวต้นเหตุ ให้คนทั้งสอง ที่รักผมและผมก็รักพวกเขา ต้องเถียงกัน เพราะความดื้อรั้น ของเราจิงๆ ) "ถ้างั้นเดี๋ยวเณร ไม่ต้องไปไหนนะ เฝ้าอยู่แถวนี้ จนกว่าเณรต้าจะตื่น อย่าเปิดพัดลมเดี๋ยวผมจะไปซื้อยาที่ร้านขายยาในตลาด เดี๋ยวจะวานให้นุ มันขี่รถไปส่ง " เณรนันท์สั่งเณรชิน "ไปเถอะเณร ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวผมอยู่ดูแล เณรต้าเอง " พี่ชินหันไปรับปากกับพี่นันท์เป็นมั่นเหมาะ หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ยิน เสียงใครอีกเลย........ ทุกอย่างกลับมาเงียบสงบ เหมือนเดิม เข้าใจว่าทุกคนคงจะรีบกลับ ลงไปเตรียมงานกันต่อ เพราะพรุ่งนี้เป็นวันพระ สักพักผมมีความรู้สึก เหมือนมีคนกำลัง ใช้ผ้าชุบน้ำ อุ่นๆ มาเช็ดใบหน้า ลำตัวแบบนุ่มนวล เหมือนกลัวผมจะตื่น พอเสร็จจากการเช็ดตัวรู้สึกมีมือขวา ของพี่ชิน ประคองที่ใบหน้า ลูบไปมา แผ่วเบา ขณะเดียวกันผมมีความรู้สึก คล้ายมีน้ำหยด รดบนแก้ม 2 - 3 หยด ในความรู้สึกตอนนั้นคิดว่า น้ำจากผ้า ที่เช็ดตัว กระเด็นใส่ แต่ไม่ได้ยินเสียงบิดน้ำแล้วมือแก ก็ประคองหน้าผมอยู่ แล้วน้ำอะไรกระเด็นใส่เราล่ะ กว่าจะรู้ว่า มันคือน้ำอะไร เสียงพี่ชินพูดเสียงแบบสั่นเครือ เหมือนคนร้องไห้ ข้างๆหูว่า.... "ต้า...พี่ ...ขอ...โทษ...นะ... อย่า...โกรธ...พี่...นะ พี่รักต้านะคับ คนเก่งหายเร็วๆ ต่อไปนี้พี่จะไม่ดุ ไม่ว่าต้าเลย พี่จะดูแล ไม่ให้คลาดสายตาเลย ต้าอยากได้อะไรอยากไปเที่ยวไหน บอกพี่นะ...." "ต้าต้องเข้มแข็งนะคับ เดี๋ยวคนเก่ง ก็หายแล้ว รอเณรนันท์ แกกำลังไปตลาดไปซื้อยามา ให้พระเอกนะคับ " หลังจากสิ้นเสียงคล้ายเสียงลูกผู้ชาย อกสามศอก สะอื้นในลำคอ น้ำตาแกก็หยดอีกแหมะ สองแหมะ ลงบนหน้าผม แกรีบเอานิ้วปาดน้ำตา แกออก จากหน้าผม ก่อนจะนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ ไม่ห่างไปไหน ทั้งๆที่ผมไม่มีแรง แม้แต่จะ พลิกตัว กระดุก กระดิกไม่ได้ มันสั่นๆหนาวๆ ยังไงไม่รู้ แต่พอได้ยินแกพร่ำพรรณาข้างหู เด็กชายวัย 11 อย่างผมถึงจะยังดูเป็นเด็ก แต่ก็อดซาบซึ้งไม่ได้ เพราะพี่ทั้งสองเหมือนคน ในครอบครัว บางครั้งรู้สึกว่าสนิทกับพี่ชินและ พี่นันท์ มากกว่าพ่อแม่ ตัวเองซะอีก น้ำตาผมซึมออกมาเอง มันค่อยๆไหล ย้อยลงไป หยดแหมะแถวๆใบหู เพราะผมนอนหงาย พี่ชินเห็นผมร้องไห้แกก็เอาผ้าชุบน้ำ เช็ดบริเวณใบหน้า และก้มลงมาหอมหน้าผาก แบบเอ็นดู หนึ่งฟอด ผมเอามือโอบมือแก แกนอนตะแคง ลงข้างๆผม เอามือขวามากอดไว้หลวมๆ ผมก็เอามือซ้าย ขึ้นมาวางทับมือแก รู้สึกอบอุ่นมากช่วงนี้ไม่เคยคิด เรื่องอกุศลเลย
. ขอบคุณครับ ต่อๆมันมาก ขอบคุณครับ ชอบ ขอบคุณคับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากๆ นะครับ ^^ ขอบคุณครับ ต้าน่ารักมีแต่คนรัก ขอบคุณครับ สนุกดีครับ สงสารเณรชินเลยครับ ขอบคุณครับ เกาหลีมาเลย ขอบคุณครับเรื่องนี้สนุกจริงๆ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ