คนเมืองคาว
"คนเมืองคาว"โดย..นายเอ็กซ์
1.
"คัท...คัท...คัท...วันนี้คุณเป็นอะไรสองภพ นี่คุณเทคมาเกือบยี่สิบครั้งแล้วนะ" ผู้กำกับรุ่นใหญ่วัยสี่สิบกว่าปีตะโกนลั่นกลางกองถ่ายด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด
"ผมขอโทษครับพี่ต้อ คือ..ผมไม่เคยเล่นบทแบบนี้มาก่อน"
"ก็ไม่เห็นต้องเล่นเลยนี่สอง เอาตัวจริงของคุณแสดงออกมาซิ แล้วทุกอย่างก็จะดีเอง" ผู้กำกับคนนั้นเดินเข้ามากระซิบข้างๆหูของชายหนุ่ม
"พี่สอง...ผมไม่มีเวลามากนะครับ...ผมมีนัด หรือว่าพี่สองอยากจะ...." เคนดาราหนุ่มไฟแรงอีกคนเดินเข้ามาต่อว่า
"เฮ้อ..ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะเคน คือพี่.."
"เอาอย่างงี้..พี่ขออีกเทคเดียวนะสอง เอาให้ผ่านไปเลย ตกลงไหม"
"ครับ..พี่ต้อ" ชายหนุ่มพยักหน้า
และการถ่ายทำละครเรื่อง "กรอบเสน่หา" ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
"5...4...3...2... แอ็คชั่น" ผู้กำกับวัยดึกตะโกนดังลั่น
"ต้น..อยากทิ้งพี่ไป อยู่กับพี่นะครับต้น"
"พี่ไอซ์...พี่ฆ่าไอ้หนึ่งเพื่อนผมทำไม ผมกลัวครับ..ผมอยู่กับพี่ไม่ได้"
"พี่ไม่ได้ตั้งใจ หนึ่งเขามารู้ความลับของเรา พี่จำเป็นต้องทำ"
"ปล่อยผมพี่ไอซ์ ผมจะไป อย่ามายุ่งกับผม"
"ไม่ได้...ต้นจะไปไหนไม่ได้ ต้นต้องอยู่กับพี่ ถ้าไม่อย่างงั้น พี่ก็จะ..."
"พี่ไอซ์..พี่ไอซ์เอาปืนขึ้นมาทำไมครับ พี่จะฆ่าผมเหรอ"
"ใช่..ถ้าแกก้าวออกไปจากบ้านของฉัน...แกตาย"
"อย่าพี่ไอซ์...อย่า...อย่า..."
"ปัง...ปัง...ปัง..."
"คัท...โอเค ผ่านครับ" เสียงผู้กำกับชื่อดังตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง
"ใช้ได้แล้วใช่ไหมครับพี่ต้อ" ชายหนุ่มเดินเข้ามาถามด้วยท่าทางดีใจ
"ก็พี่บอกแล้วไง..ให้เอาตัวจริงออกมาเล่น"
"ถ้าอย่างงั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
"สองภพ...วันนี้ไม่ไปกินเหล้าด้วยกันเหรอ"
"ไม่ละครับ..พี่ต้อ วันนี้ผมเหนื่อย ขอพักผ่อนนะครับ" ชายหนุ่มกำลังจะเดินออกไปจากกองถ่ายเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
"เดี๋ยวสอง..วันพุธนี้ คุณมีอีกสี่ซีนนะ มาให้ตรงเวลาด้วย แปดโมงเช้านะครับ"
"พี่ต้อครับ..ผมก็บอกพี่ไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ ว่าวันพุธ,พฤหัสผมไม่ว่าง"
"แต่คุณต้องว่าง..ละครจะปิดกล้องอยู่แล้ว และอีกอย่างทางช่องเขาก็เร่งพี่มาด้วย"
"ขอโทษครับ...ผมมาไม่ได้" ชายหนุ่มตอบเสียงจริงจัง
"ทำไมสอง..คุณมีปัญหาอะไร"
"ผมมีธุระที่คนเมืองคาว"
"ไอ้เมืองคาวบอย บ้าๆของคุณนั้นเหรอ"
"ครับ" ชายหนุ่มหันไปมองหน้าผู้กำกับวัยดึกอย่างไม่พอใจนัก
"สองภพ...พี่ป้อนละครให้สองแค่ปีละ2เรื่องเองนะ สองน่าจะมีเวลาให้พี่อย่างเต็มที่ หรือว่าสองมีอะไรสำคัญกว่างานที่จะต้องรับผิดชอบ" ผู้กำกับวัยกลางคนขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่มจนเขาต้องก้มหน้าลง
"แต่ผมมีเรื่องด่วนจริงๆนะครับ ที่ไร่ของผมเขากำลังต้องการผม พี่ต้อเข้าใจผมหน่อยนะครับ"
"เรื่องนั้นพี่ไม่รับทราบ...แต่ถ้าวันพุธนี้พี่ไม่เจอสองที่กองถ่าย ความลับของสองก็จะไม่เป็นความลับอีกต่อไป" ผู้กำกับจอมเฟี้ยวทิ้งประโยคสุดท้ายไว้ก่อนที่จะเดินออกไป ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนเอามือกุมขมับอยู่เพียงคนเดียว
........................
สองภพดาราหนุ่มมากความสามารถวัย30ปี เขาเป็นพระเอกละครระดับแถวหน้าของเมืองไทย แต่ตอนนี้บทบาทการแสดงของเขากำลังจะเปลี่ยนแปลงไป อย่างละครเรื่องล่าสุดที่เขารับเล่น เขาต้องรับบทเป็นตัวร้าย เป็นเกย์ฆาตกรใจโหด ตามที่ผู้กำกับวัยดึกคนนั้นบงการมา เขาไม่สามารถที่จะปฏิเสธอะไรได้เลย เพราะมีเพียงผู้กำกับคนนั้นคนเดียวในวงการมายา ที่ล่วงรู้ความลับของเขา ชายหนุ่มจึงต้องยอมทุกอย่างทั้งๆที่ใจไม่ปรารถนาเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่สองภพขับรถถึงโรงแรมที่พักเรียบร้อยแล้ว เขาอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดลำลองไม่เป็นทางการนัก เสื้อเซิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสามส่วนสีเทา หมวกแค๊ปสีน้ำเงินพร้อมกับแว่นตากันแดดเพื่ออำพรางตัวเอง ทำให้เขาดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลต่อเพศตรงข้ามมากยิ่งขึ้น ส่วนสูงเกือบ180ซม.กับใบหน้าที่เกลี้ยงเกามีหนวดเครานิดๆ จมูกโด่งเป็นสันและดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่คมกริบคู่นั้นทำเอาสาวๆใจละลายไปแล้วหลายคนที่มีโอกาสได้สบตากับเขาแม้จะเป็นเพียงแค่ระยะเวลาไม่ถึงนาทีก็ตาม ผิวสีแทนกับริมฝีปากบางๆสีชมพูอ่อนช่างทำให้เขาดูเป็นผู้ชายที่น่าสัมผัสมากยิ่งนัก
ชายหนุ่มรูปงามลงมานั่งดื่มเบียร์ที่ล๊อบบี้ชั้นล่างของโรงแรม เพื่อปลดปล่อยความเครียดจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน เขาเลือกที่จะนั่งตรงโต๊ะมุมกระจกเพื่อที่สามารถมองออกไปเห็นผู้คนภายนอกได้อย่างชัดเจน เบียร์ขวดแล้วขวดเล่าที่ผ่านลำคอทองแดงของเขาลงสู่ร่างกาย แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ผู้ชายเข้มๆอย่างเขาเมาได้เลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มสังเกตุเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงป้ายรถเมล์ตั้งแต่เบียร์แก้วแรกที่เขากระดกเข้าปากจนกระทั่งถึงตอนนี้เด็กหนุ่มคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม เวลาก็ผ่านไปร่วมห้าหกชั่วโมงแล้ว แต่เด็กหนุ่มคนนั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะไปไหนเลย จนเขาอดแปลกใจไม่ได้
ด้วยอาการมึนเล็กน้อย เขาจึงตัดสินใจเดินออกไปตรงป้ายรถเมล์ที่เด็กหนุ่มคนนั้นนั่งอยู่ โดยไม่ลืมที่จะใส่หมวกแค๊ปและแว่นตากันแดดเพื่ออำพรางตัวเอง เขาเดินวนเวียนอยู่ตรงนั้นสองสามรอบก่อนที่จะตัดสินใจเดินตรงดิ่งเข้าไปนั่งข้างๆเด็กหนุ่มคนนั้นทันที
"สวัสดีน้องชาย มีปัญหาอะไรให้พี่ช่วยไหมครับ" ประโยคแรกที่สองภพเอ่ยทักทายเด็กหนุ่ม
"ผมจะไปหาเพื่อนครับ..แต่ผมไม่รู้ว่าจะไปรถคันไหน"
"แล้วน้องจะไปที่ไหนละครับ"
"เพื่อนผมทำงานอยู่ที่พัฒน์พงศ์ครับ..ที่บาร์...boys แต่ผมไปไม่ถูก"
"น้องจะไปทำไมที่นั้น...แล้วน้องรู้ไหมว่ามันเป็นบาร์อะไร" ชายหนุ่มถามต่ออย่างไม่ลดละ
"ผมไม่รู้ว่าเป็นบาร์อะไร แต่เพื่อนผมบอกว่าที่นั้นมีงานให้ผมทำ"
"เวรกรรม...น้องไปนั่งกับพี่ในโรงแรมก่อนนะ แล้วพี่จะอธิบายให้ฟัง"
"พี่เป็นตำรวจหรือเปล่า ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนะครับ ผมแค่มาหางานทำเฉยๆ อย่าจับผมเลยครับ"
"พี่ไม่ได้เป็นตำรวจ และน้องก็ไม่ต้องกลัวพี่หรอกนะ พี่ไม่ทำอะไรเราหรอก"
เด็กหนุ่มคนนั้นเดินตามสองภพเข้ามาในโรงแรมด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆ
"นั่งก่อนครับน้อง"
".............." เด็กหนุ่มไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย
"น้องมาจากที่ไหนครับ บอกพี่ได้ไหม"
"ขอนแก่นครับ"
"ทำตัวตามสบายนะครับ..ไม่ต้องกลัวพี่"
"ครับ"
"พี่ชื่อสองภพนะครับ จะเรียกว่าพี่สองเฉยๆก็ได้ แล้วน้องละครับชื่ออะไร"
"ต่อศักดิ์ครับ"
"ครับ..ถ้าอย่างงั้นพี่เรียกต่อแล้วกันนะ"
"ครับ..ที่บ้านก็เรียกแบบนั้น"
"ต่อครับ...พี่ไม่อยากให้เราไปทำงานที่พัฒน์พงศ์เลย มันเป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยดีนัก"
"แต่เพื่อนผมบอกว่าที่นั่นมีงานเยอะ"
"แล้วต่อรู้ไหมว่าเป็นงานอะไร"
"เป็นงานบาร์...แต่ทำอะไรบ้างผมยังไม่รู้ เพื่อนไม่ได้บอก" เด็กหนุ่มตอบอย่างซื่อๆ
"มันเป็นงานไม่ดีนะครับ คือ...มันเป็นงานอย่างว่าน่ะต่อ"
"ขายตัวเหรอครับ...ไม่เอา ถ้างั้นผมไม่ไปดีกว่า"
"ต่อสนใจไปทำงานกับพี่ไหมครับ ตอนนี้ที่ไร่ของพี่ต้องการคนงานอยู่นะ"
"งานอะไรครับ..พี่สอง"
"ที่ไร่ของพี่เป็นเมืองคาวบอย เลี้ยงม้าน่ะครับ และกำลังจะเปิดรีสอร์ทด้วย"
"จริงๆเหรอครับพี่ แต่..."
"แต่อะไรครับ" สองภพยังคงถามไม่เลิก
"ผมไม่มีความรู้นะครับ ผมจบแค่ป.4"
"ไม่มีปัญหาครับ ต่อก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เก่งเอง"
"ขอบคุณพี่สองครับ.." เด็กหนุ่มดีใจจนยิ้มออก
"ไม่เป็นไรครับ...แล้วคืนนี้ต่อจะไปนอนที่ไหนล่ะ.."
"ผมยังไม่รู้เลยครับ..เดี๋ยวผมไปนอนรอพี่ที่ป้ายรถเมล์ก็ได้"
"ไม่เอา..เดี๋ยวสายตรวจมาจับนะ ไปนอนกับพี่ก็แล้วกัน พี่พักอยู่ที่นี่"
"แต่ผมเกรงใจพี่สองน่ะครับ ตัวผมสกปรก" เด็กหนุ่มก้มหน้าลง
"สกปรกก็อาบน้ำซิครับ แล้วมีเสื้อผ้ามากี่ชุดครับเนี่ย"
"ในกระเป๋ามีอีกชุดหนึ่งครับ"
"แล้วนี่ต่อกินอะไรหรือยังอ่ะ"
"ยังครับ"
"ถ้าอย่างงั้นก็หาอะไรกินก่อนแล้วกัน พี่ก็ซักจะหิวแล้ว"
"ครับผม"
............................
ต่อศักดิ์ได้เข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายจนสะอาดหมดจนบนห้องพักของสองภพ เด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กๆที่ปกผิดท่อนล่างเอาไว้เพียงผืนเดียว สองภพตาค้างทันทีที่เห็นเด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพแบบนั้น...เพราะเด็กผู้ชายที่ยืนตรงหน้าของเขาช่างรูปร่างงดงามเสียเหลือเกิน ชายหนุ่มใจสั่น...จนแทบจะอดใจไม่ไหวแต่เขาก็ต้องห้ามใจไว้
"ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าละต่อ"
"เสื้อผ้ามันเหม็นหมดเลยครับ ผมไม่กล้าใส่ ผมกลัวพี่รังเกียจ"
"มะ..มา มานี่ มาเอาเสื้อพี่ไปใส่ก่อน และเดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยไปหาซื้อกัน" สองภพเดินไปเปิดกระเป๋าเดินทางแล้วหยิบชุดลำลองออกมาส่งให้ต่อศักดิ์
"ขอบคุณครับ"
"ตอนนี้อายุเท่าไรแล้วล่ะเรา ตัวใหญ่เกือบเท่าพี่เลยนะ"
"จะสิบแปดแล้วครับพี่"
"มิน่าละ..มีแต่กล้ามเนื้อ ท่าทางจะแข็งแรง" สายตาของสองภพมองสำรวจเรือนร่างของเด็กหนุ่มไปทั่ว จนเด็กหนุ่มเริ่มมีอาการอายขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
"พี่สองครับ ผมว่า..ผมเคยเห็นพี่ในทีวีนะครับ พี่เป็นดาราใช่ไหม"
"ใช่ครับ..พี่เล่นละคร แล้วเราเคยดูละครที่พี่เล่นหรือเปล่าล่ะ หึอ.."
"ผมจำได้ว่าพี่เคยเล่นเรื่อง "ล่า" ใช่ไหมครับ เป็นตำรวจ"
"ใช่ๆ ความจำดีนี่เรา ละครเรื่องนี้นานแล้วนะ เออเอ็งเก่ง..หึ หึ"
"ผมดีใจจัง...ที่ได้มาอยู่กับดารา" เด็กหนุ่มยิ้ม
"แต่ตอนนี้พี่กำลังจะออกจากวงการบันเทิงแล้วนะ"
"อ้าว..ทำไมละครับพี่สอง"
2
(ความเดิม)
"แต่ตอนนี้พี่กำลังจะออกจากวงการบันเทิงแล้วนะ"
"อ้าว..ทำไมละครับพี่สอง"
"ไม่มีอะไรหรอก...แค่เบื่อๆว่ะ" ชายหนุ่มทำหน้าเบื่อโลกขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงคำพูดของผู้กำกับต้อ
"น่าเสียดายนะครับ" ต่อศักดิ์เดินมานั่งลงข้างๆสองภพ
"ว่าแต่เราเถอะ..เป็นไงมาไงถึงได้คิดจะมาทำงานกลางคืนแบบนั้นล่ะ หือ.."
"ก็ผมไม่มีความรู้นี่ครับพี่สอง" เด็กหนุ่มพูดเบาๆแล้วก้มหน้าลง
หนุ่มพเนจรจากแดนอีสานอย่างต่อศักดิ์คงจะไม่มีโอกาสเลือกเส้นทางดีๆในชีวิตได้มากนัก เพราะตั้งแต่เขาจำความได้ พ่อ,แม่ของเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว ทิ้งให้เขาต้องพเนจรไปเรื่อยๆ บ้างครั้งก็ไปอาศัยวัดอยู่เพื่อกินข้าวก้นบาตรประทั่งชีวิตไปวันๆ หรือไม่ก็ไปอาศัยหลับนอนตามบ้านเพื่อนบ้าง เขาจึงไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จะมีก็แต่เพียงกระเป๋าเดินทางใบเก่าๆเพียงใบเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ติดกับความโง่และความจน เขาก็คงจะมีโอกาสได้ทำงานดีๆเหมือนคนอื่น แต่โอกาสอย่างนั้นมันมีน้อยเหลือเกินสำหรับคนที่ไม่มีทางเลือกอย่างต่อศักดิ์
........................
"วันนี้ปิดกล้องแล้วใช่ไหมครับพี่ต้อ" สองภพเอ่ยปากถามผู้กำกับวัยดึกด้วยอารมณ์ไม่สู้ดีนัก
"ใช่...พี่ดีใจด้วยนะสอง" เสียงผู้กำกับประชด
"ดีใจเรื่องอะไรครับ"
"ก็ต้องดีใจกับเธอนะซิ ที่จะได้กลับไปหาคนของเธอที่ไร่คนคาวคาวนั้นไง" ผู้กำกับวัยดึกยังคงพูดประชดให้ชายหนุ่มไม่เลิก
"พี่ต้อครับ..รีสอร์ทของผมชื่อว่า "คนเมืองคาว" ที่ย่อมาจากคำว่าคาวบอย ไม่ใช่คนคาวคาวอย่างที่พี่เข้าใจนะครับ" สองภพมองหน้าผู้กำกับวัยดึกอย่างไม่พอใจ
"ก็พี่เห็นมีแต่เรื่องคาวคาว ก็เลยตั้งชื่อให้ใหม่ หึ...หึ"
"พี่ต้อพอจะมีเวลาให้ผมสักหน่อยไหมครับ...ผมมีธุระจะคุยด้วย"
"มีอะไรครับ..ว่ามาเลย" ผู้กำกับต้อหันไปมอง
"เออ...ผมจะออกจากวงการครับ ผมจะไม่รับแสดงแล้ว" ชายหนุ่มพูดเสียงจริงจัง
"เธอจะทำอย่างนั้นไม่ได้นะสอง พี่รับละครเรื่องใหม่ให้เธอแล้วนะ"
"พี่ต้อรับละครให้ผม ทั้งๆที่พี่ไม่เคยถามผมเลยสักคำว่าผมอยากเล่นไหม อย่างเรื่อง"กรอบเสน่หา"ก็เหมือนกัน พี่ก็บังคับให้ผมเล่น ทำไมพี่ทำอย่างนี้กับผมครับ" ชายหนุ่มขึ้นเสียงจ้องตาผู้กำกับเขม็ง
"อย่ามาเสียงดังกับพี่ตรงนี้นะสอง เกรงใจพี่บ้างซิ ถ้านักแสดงคนอื่นเขาเห็นสองมาตะคอกใส่หน้าพี่แบบนี้ เดี๋ยวพวกเขาก็ไม่นับถือพี่กันพอดี"
"แล้วพี่คิดว่าคนอย่างพี่มีอะไรให้น่านับถือนักเหรอครับ" สองภพยังเถียงไม่หยุด
"มานี่...ไปคุยกับฉันในรถ คนอื่นหันมามองกันหมดแล้ว ที่นี่มันกองถ่ายนะ...จะทำอะไรระวังหน่อยซิ" ผู้กำกับจอมเผด็จการลากมือชายหนุ่มไปที่รถยนต์ส่วนตัวของสองภพ แล้วผลักร่างของเขาเข้าไปในรถทันที
"ทำไมเธอถึงไม่อยากรับงานแสดงล่ะสอง" หลังจากลับตาคนผู้กำกับวัยดึกก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้กำกับจอมหื่นในทันที เขาเอามือล่วงเข้าไปในเสื้อเซิ้ตของสองภพแล้วโปรยสายตาหื่น
"พี่อย่าทำแบบนี้นะครับ เรื่องของเรามันจบไปตั้งนานแล้ว...ปล่อยผมครับ" ชายหนุ่มพยายามเบี่ยงตัวหลบและปัดมือของผู้กำกับต้อออก
"แต่พี่ยังติดใจรสสวาทของเธออยู่นะสอง ไปคอนโดพี่นะ และพี่จะไม่บังคับเธออีกแล้ว"
"ไม่ครับ...ผมไม่มีอารมณ์" สองภพปฏิเสธออกมาโดยไม่คิดมากให้เสียเวลา
"ใช่ซิ...ฉันมันแก่แล้ว ต้องไอ้เอบาร์เทนเดอร์ใช่ไหม...เธอถึงจะมีอารมณ์กับมัน" ผู้กำกับใหญ่หัวเสียที่ไม่ได้ดั่งใจ
"ผมจะมีอารมณ์เงี่ยนกับทุกคนครับ..แต่ยกเว้นพี่คนเดียว พี่ออกไปจากรถของผมได้แล้ว ผมจะกลับโรงแรม" ชายหนุ่มพูดเสียงจริงจังและดังขึ้นกว่าเก่า
"เธออยากจะลองดีกับฉันใช่ไหมสอง ถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้..." ผู้กำกับจอมหื่นคำรามเสียงดังไม่แพ้กัน
"ผมยอมพี่มามากแล้ว...มาถึงตอนนี้ผมไม่กลัวอะไรอีกแล้วล่ะครับพี่ต้อ พี่อยากจะทำอะไรก็ทำ เชิญตามสบาย"
"ได้..สองภพ ถ้าเธอต้องการแบบนั้น หึ..เธอเตรียมไสหัวออกไปจากวงการนี้ได้เลย"
"งั้นพี่ก็ไสหัวออกไปจากรถของผมได้แล้ว...ไป่" เสียงประตูรถถูกปิดดัง "ปัง"
สงครามมายาระหว่างผู้กำกับวัยดึกกับนักแสดงหนุ่มหล่อมากความสามารถกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
..........................
สองภพขับรถออกมาจากกองถ่ายนรกด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว ทำให้เขานึกอยากจะระบายความเครียดกับสิ่งที่ได้เจอในวันนี้...ชายหนุ่มหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดเบอร์ใครบ้างคน
"ฮัลโหล...ไอ้เอวันนี้มึงทำงานหรือเปล่าวะ" สองภพเริ่มสนทนาทันทีที่อีกฝ่ายรับสาย
"ใครพูดวะ" เสียงจากปลายสายตอบกลับมา
"กูเอง...สองภพ"
"อ๋อ..ไอ้นายน้อย กูนึกว่าใคร หายหัวไปเป็นเดือนเลยนะมึง งานเยอะเหรอวะ"
"ก็ยุ่งๆอยู่..วันนี้ที่ร้านมึงคนเยอะไหม กูอยากไปหามึง"
"ก็เชิญซิครับ..เดี๋ยวกูจะหาที่นั่งมืดๆให้นะ...ไอ้ดาราใหญ่"
"กูคิดถึงมึงจังเลยว่ะไอ้เอ" เสียงของเพื่อนรักช่วยให้สองภพหายเครียดได้บ้าง สีหน้าของเขาดูดีขึ้นมาทันที
"ถ้าคิดถึงกูก็แสดงว่ามึงเงี่ยนนะซิ...มาเลยเดี๋ยวกูจะช่วยให้หายเงี่ยนเอง เอ้อ..ตอนนี้ที่บาร์มีเด็กใหม่ๆเพียบเลยนะเว้ย หล่อๆทั้งนั้นเลย สนไหมวะเพื่อน"
"ไม่เอา...กูจะเอามึงคนเดียว กูรักมึงนะไอ้เอ" ชายหนุ่มพูดตามใจที่สั่ง
"ยังปากหวานเหมือนเดิมนะ...กูก็รักมึงนายน้อย"
"งั้น...เดี๋ยวเจอกันนะไอ้เอ"
...............................
ถนนสีลม ถนนสายโลกีย์กลางใจเมืองกรุงเทพฯ ผู้คนมากมายหลายหมื่นชีวิตต่างก็ต่อสู้ดิ้นรนทำมาหากินอยู่บนถนนสายนี้ตามวัฎจักรของโลก...สองภพขับรถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะมีผู้คนและรถราสันจรไปมาอยู่ตลอดเวลา จุดหมายที่ชายหนุ่มจะไปคือบาร์เกย์ชื่อดังย่านสีลมซอย4...เมื่อก่อนเขาไม่ค่อยกล้าที่จะมาแถวๆนี้ เพราะชื่อเสียงในการเป็นดารายังค้ำคอเขาอยู่ แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เพราะเขาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าเขาจะออกจากวงการมายานี้อย่างถาวร
สองภพเดินเข้าไปในบาร์เกย์ชื่อดังด้วยความมั่นใจเต็มร้อย เขาไม่เกรงกลัวต่อสายตาของใครๆเลย...สายตาหลายสิบคู่มองมาที่เขาเป็นจุดเดียว ชายหนุ่มหันไปยิ้มให้กับทุกคนที่มองเขาโดยไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
สินชัยหรือเอบาร์เทนเดอร์หนุ่มมาดเข้มวัย28ปี กำลังยืนผสมคอกเทลอยู่ในบาร์เหล้าอย่างทะมัดทะแมงด้วยลีลาที่สุดแสนจะเทห์บวกกับรูปร่างหน้าตาที่คมคายตามแบบฉบับหนุ่มใต้ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์และน่าค้นหามากยิ่งขึ้น ท่อนบนร่างกายของชายหนุ่มเปลือยเปล่ามีเพียงหูกระต่ายสีแดงผูกไว้ตรงลำคอ โชว์กล้ามหน้าอกที่แน่นตรึงและซิกแพคได้อย่างลงตัว ส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงยีนต์เอวต่ำรัดแน่นจนเป้านูนเป็นลำน่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง
"ไอ้เอ..ยุ่งอยู่หรือเปล่าวะ" สองภพเดินไปที่บาร์เหล้าแล้วตะโกนเรียกเพื่อนรักคู่เกย์
"เอ้ย..นายน้อย ทำไมมึงมาแบบนี้วะ เดี๋ยวคนจำได้นะมึง" บาร์เทนเดอร์หนุ่มหุ่นเร้าใจวางมือลงจากการผสมเหล้าแล้วส่งให้เพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆรับไปทำหน้าที่ต่อ
"กูไม่สนใจแล้วล่ะเอ ใครจะจำได้ก็ช่าง..ชีวิตเป็นของกู"
"อ้าว...นั่งลงก่อน มึงมีปัญหาอะไรวะนายน้อย กูพอจะช่วยอะไรมึงได้หรือเปล่าเพื่อน"
"ไอ้เอ..กูจะไม่เล่นละครแล้ว กูเบื่อ..." ชายหนุ่มก้มหน้าลงเล็กน้อยเมื่อพูดจบ
"มึงมีปัญหากับพี่ต้ออีกแล้วใช่ไหมวะ.."
"มึงก็ด้วย...พี่ต้อเขาขู่ว่าจะแฉเรื่องมึงกับกู"
"นายน้อย...มึงไม่ต้องห่วงกูหรอก กูทำงานแบบนี้กูไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว...แต่ทำไมเขาถึงจะแฉเรื่องของมึงล่ะ"
"ไอ้ผู้กำกับต้อมันจะให้กูไปนอนกับมัน...แต่กูไม่ไป" สองหนุ่มสบตากันด้วยความเข้าใจเกินคำว่าเพื่อน
"ไอ้เฒ่าหัวงูนี่แม่งร้ายจริงๆเลย...มึงก็ไม่น่าไปเย็ดกับมันตั้งแต่แรกแล้ว เฮ้อออ.." สินชัยกุมมือเพื่อนรักไว้แน่น
"วันนี้มึงไปนอนกับกูนะไอ้เอ..กูเงี่ยน" สองภพน้ำเสียงเปลี่ยนไปทันทีที่ได้รับไออุ่นจากมือของคนรู้ใจ
"มีเด็กใหม่ตั้งหลายคน...ไม่สนใจเหรอวะ" สินชัยชี้ไปกลางเวทีที่มีเด็กหนุ่มหลายสิบคนกำลังเต้นอโกโก้อยู่บนนั้นด้วยลีลาที่เร่าร้อนตามจังหวะดนตรี
"ไม่เอาโว้ย...กูไม่ชอบมั่วกับใคร กูจะเย็ดกับมึงคนเดียว เพราะมึงรู้ใจกูทุกอย่าง..ว่าตอนไหนกูต้องการอะไร" สองภพยักคิ้วให้เพื่อนซี้ด้วยรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก
"ได้ครับผม...คืนนี้ผมจะเย็ดนายน้อยให้สุดฝีควยเลยครับท่าน" บาร์เทนเดอร์หนุ่มทำท่ากระเด้าลมยิกๆให้เพื่อนรักดูเพื่อหวังจะให้เพื่อนรักของเขาคลายเครียดได้บ้าง
"ไอ้เอ...มึงไปอยู่ที่คนเมืองคาวกับกูเถอะนะ กูอยากให้มึงไปอยู่กับกูที่นั้น..."
"นายน้อย..ที่นั้นก็มีคนที่เขารักมึงตั้งเยอะแยะ ถ้ากูไป..กูจะไปอยู่ในฐานะอะไรของมึงวะ" สีหน้าของบาร์เทนเดอร์หนุ่มเศร้าลงทันทีเมื่อรู้ว่าเพื่อนรักคู่นอนของเขากำลังจะจากไป
"มึงก็เป็นเพื่อนกูไง เป็นเพื่อนตายของกู" สองภพสบตาสินชัยเพื่อรอคำตอบจากเขา
"เอาไว้คุยกันคืนนี้ดีกว่าว่ะ...แต่หลังจากที่กูเย็ดมึงเสร็จแล้วนะ...ดีไหมนายน้อย ฮา...ฮา.."
"ไอ้บ้า....เอ"
.........................
สองหนุ่มเพื่อนรักกลับมาถึงโรงแรมด้วยอาการเมามายอยู่มากโข สองภพเดินกอดคอสินชัยเข้าห้องพักอย่างไม่เกรงกลัวสายตาใครๆ...แต่พอพวกเขาเปิดประตูห้องเข้าไป...ก็พบกับเด็กหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ข้างในก่อนหน้านี้แล้ว
"อ้าว...ไอ้ต่อ มึงยังไม่นอนอีกเหรอวะ" สองภพเสียงอู่อี้ทักทายหนุ่มน้อยพเนจร
"ผมเป็นห่วงพี่สองครับ...พี่สองหายไปไหนมา ทำไมไม่เห็นบอกผมเลย"
"แล้วทำไมกูต้องบอกมึงด้วยล่ะ..เออ...มึงกินข้าวหรือยังวะไอ้ต่อ" ชายหนุ่มยกมือลูบหัวหนุ่มพเนจรด้วยความเอ็นดู
"ผมชอบจังครับ..ที่พี่สองพูดกับผมแบบนี้ ดูเหมือนเป็นพี่น้องกันเลยอ่ะ" หนุ่มพเนจรยิ้มแล้วพาสองภพที่อยู่ในสภาพเมาเป๋เดินไปนั่งที่โซฟา
"แล้วเมื่อก่อนกูพูดยังไงวะ กูลืมว่ะ เมาโว้ย..กูเมา"
"ไอ้ทึกนี่มันเป็นใครวะนายน้อย...เด็กใหม่มึงเหรอ" สินชัยถามแล้วนั่งลงข้างๆเพื่อนรัก
"มันชื่อไอ้ต่อ...มันจะไปทำงานกับกูที่เมืองคาวโน้น...ไอ้ต่อหวัดดีพี่เขาซะ...เพื่อนกู..เพื่อนกู"
"สวัสดีครับพี่" ต่อศักดิ์ยกมือไหว้ผู้มาเยือนอย่างสุภาพ
"เออๆๆ...หวัดดีน้อง กูชื่อเอนะเว้ย"
"พี่เอครับ..ผมว่าพี่เอพาพี่สองไปนอนก่อนดีกว่าครับ พี่แกเมามากแล้วนะ"
"เออๆๆ...ดีเหมือนกัน..ปะ..นายน้อยไปนอน" สินชัยพยุงตัวเพื่อนรักไปนอนตามคำแนะนำของหนุ่มพเนจร
..............................
กลางดึกคืนนั้น
"โอ๊ย...อ้า...เย็ดแรงๆหน่อยซิวะไอ้เอ กูเสียวตูด อ้า อ่า" สองภพกำลังถูกสินชัยกระหน่ำเย็ดรูตูดในท่ายกล้ออย่างเมามันส์จนลืมไปว่าหนุ่มน้อยพเนจรได้นอนอยู่บนโซฟาใกล้ๆกัน
"นายน้อย..มึงขึ้นขย่มควยให้กูหน่อย เหอออ...กูเหนื่อยแล้ว แม่ง..เย็ดตอนเมาแล้วน้ำแตกยากฉิบหาย เอ้อ อ่า...อ่า..." สินชัยจับตัวสองภพพลิกขึ้นข้างบนทันที ทั้งๆที่ควยมหึมาของเขาก็ยังคาอยู่ในรูตูดของดาราหนุ่ม สองภพเริ่มขย่มควยของเพื่อนรักคู่เย็ดด้วยลีลาที่ร้อนแรงจนเตียงโยก
"อ้า...เออ อย่างงั้นแหละ อ้า ขย่มแรงๆซิวะนายน้อย แม่งมันส์หัวควย อ้า...ซี๊ตตตตต เสียวลำควย อ้า.." เสียงควรญครางของสินชัยดังลั่นห้อง
"ไอ้เอ...อ้า..มึงไปอยู่เมืองคาวกับกูเถอะนะ อ่า...อ่า...โอ้ย...เสียว"
"อ้า...มึงจะให้กูไปทำไม อ้า....อ้า..ขย่มควยกูแรงๆนายน้อย อ่าาาาาาา โอ๊ย...."
"กูขาดควยมึงไม่ได้ โอ๊ย..ถ้ามึงไม่ไปอยู่กับกู แล้วใครจะเย็ดกูละ อ้า....อ่า" การสนทนาในระหว่างการเย็ดได้ดำเนินไปพร้อมๆกัน
บนโซฟาข้างๆเตียงมีดวงตาใสๆของเด็กหนุ่มพเนจร กำลังจ้องมองมาบนเตียงที่สองหนุ่มเพื่อนรักกำลังระเริงบทเย็ดกันอย่างถึงพริกถึงขิง...ท่อนเนื้อกลางลำตัวของเด็กหนุ่มได้เจริญเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว...เขาลวงมือเข้าไปงัดลำควยที่แข็งโป๊กยาวเกือบเจ็ดนิ้วออกมาชมโลกภายนอกด้วยสีหน้าแห่งความเงี่ยน หนุ่มน้อยเริ่มสาวควยตัวเองเร็วขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์ความอยากที่เห็นอยู่ตรงหน้าพร้อมกับเสียงครางเบาๆในลำคอ อ้าาา..อ่า....อ่า...โอ้ย...
"ไอ้เอ...เปลี่ยนท่าเย็ดบ้างเถอะ กูขี้เกียจขย่ม อ้า...ซี๊ต...."
"มึงจะให้กูเย็ดท่าไหนล่ะนายน้อย บอกกูเร็วๆ อ้า...เดี๋ยวน้ำเงี่ยนกูแตก อ้า...อ้าาาา" บาร์เทนเดอร์หนุ่มหุ่นเร้าใจซอยกระเด้าถี่ยิบ อัดลำควยมหึมากระแทกใส่รูตูดของเพื่อนรักจนเสียงดัง ผับ...ผับ...ผับ..ลั่นห้อง
"โอ๊ยยยย...ไม่ทันแล้วไอ้เอ น้ำกูแตกแล้ว อ้าาาาาาาา อ้าาาา" สองภพฉีดน้ำรักออกมาอย่างแรงพุ่งไปไกลจนถึงใบหน้าของเพื่อนรักคู่เย็ด
"ไอ้นายน้อย...อ้า อ้า กูแตกแล้ว เสียวหัวควยฉิบหาย อ้าาา กูไม่ไหวแล้ว อ่าาา โอ๊ย....อ่า..." บาร์เทนเดอร์หนุ่มรินรักกระเด้าเย็ดไม่ยั้งจนกระทั่งถึงจุดสุดยอดของความเสียว "อ้าาา...อ้าาาา...ออกแล้ว ออกแล้ว อ้าาาา" เขาปล่อยน้ำเงี่ยนขุ่นๆใส่ถุงยางอย่างล้นหลามในเวลาไล่เลี่ยกัน
ส่วนเด็กหนุ่มพเนจรก็จ้องมองไม่กระพริบตา หนุ่มน้อยกระทุ้งลำควยของตัวเองด้วยความเร็วถี่อย่างเมามันส์ อ้า...อ่า...อ่าาาาา...จนน้ำควยแตกทะลักไหลออกมาเต็มกางเกง...พอเสร็จสมอารมณ์หมายเป็นที่เรียบร้อย เด็กหนุ่มก็เก็บควยเข้ากางเกงโดยที่ยังมีน้ำเงี่ยนขาวขุ่นไหลเยิ้มอยู่เต็มลำควย...เขาหันหลังให้สองหนุ่มเพื่อนรักที่นอนกอดกันอยู่บนเตียงแล้วแกล้งทำเป็นหลับไม่รู้สึกตัว
3.
ทิวเขาสูงเฉียดฟ้าสลับเรียงรายกันดั่งภาพวาด เมฆหมอกบนฝากฟ้าได้ลอยล่องลงมาปกคลุมอยู่บนยอดเขา อากาศในยามเช้าบนผืนแผ่นดินเมืองเชียงใหม่ไม่ห่างจากอำเภอสันกำแพงมากนัก เป็นบรรยากาศที่หลายๆคนอยากจะขึ้นไปสัมผัสเป็นยิ่งนัก...ท่ามกลางหุบเขาและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์เหล่านั้น มีฟาร์มม้าขนาดใหญ่อยู่บนเนื้อที่เกือบพันไร่ บรรยากาศภายในฟาร์มม้าแห่งนั้นยังหอมอบอวนไปด้วยกลิ่นของกองฟางและไอดินตามแบบฉบับลูกทุ่งขนานแท้
คุณขวัญชัยหนุ่มใหญ่วัย60กว่า เป็นผู้บุกเบิกฟาร์มม้าแห่งนี้เป็นคนแรก ผู้คนในฟาร์มม้าแห่งนี้จะเรียกเขาว่า"นายใหญ่" เขามีลูกชายกับคุณขวัญเชิญด้วยกันถึงสามคน หนึ่งสยาม(นายกลาง),สองภพ(นายน้อย),สามเมือง(นายเล็ก) แต่ลูกชายทั้งสามคนของเขาก็ไม่มีใครที่อยากจะสืบทอดเจตนารมณ์ในการทำฟาร์มม้าต่อจากเขาเลยสักคนเดียว...จะมีก็แต่นายน้อยลูกชายคนกลางที่พอจะสนใจอยู่บ้างเพราะเขาได้ส่งนายน้อยไปร่ำเรียนไกลถึงอเมริกาตั้งแต่เด็ก...นายน้อยมีความสนใจคิดจะทำรีสอร์ทเมืองคาวบอยจำลองแบบมาจากรัฐเท็กซัสที่ชายหนุ่มเคยไปอาศัยอยู่มาหลายปี
ตอนนี้การก่อสร้างรีสอร์ทที่นายน้อยเป็นคนตั้งชื่อเองว่า "คนเมืองคาว" กำลังจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว บังกะโลหลายสิบหลังในรูปแบบของกระโจมอินเดียนแดง ที่อยู่ติดกับกองฟางและคอกม้าขนาดต่างๆกัน เพื่อให้แขกผู้มาพักได้สัมผัสกับไอดินกลิ่นCountryได้อย่างเต็มอิ่ม
"นี่คุณ...โทรหาไปลูกบ้างซิ ถามว่าเมื่อไรลูกจะมาสักที รีสอร์ทจวนจะเสร็จแล้วนะ" คุณขวัญเชิญเอ่ยปากถามสามีถึงลูกชายคนกลางขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่ที่บ้านซุ้มนาย
"มันคงถ่ายละครบ้าๆของมันอยู่มั่ง...เดี๋ยวมันก็มาของมันเองละน่า อย่าไปสนใจมันให้มากนักเลย...ไอ้สองมันดื้อจะตาย..คุณเองก็รู้นี่น่า"
"นายใหญ่เจ้า..ต้องการอะหยังก่อเจ้า...มะขิ่นจะไป่ในเมืองเจียงใหม่เจ้า" แม่บ้านเดินเข้ามาถามด้วยความเกรงใจ
"ไม่เอาอะไรหรอก...ขอบใจ"
"แล้วนายหญิงละเจ้า" มะขิ่นหันมาถามทางคุณขวัญเชิญอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
"ไม่ละ..เธอไปเถอะ แล้วรีบๆกลับนะมะขิ่น ฉันเป็นห่วง"
"เจ้า"
..............................
หลังจากที่สองสามีภรรยาได้รับประทานทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว คุณขวัญชัยผู้เป็นสามีก็เดินลงมาจากบ้านเพื่อจะไปดูแลงานที่คอกม้าอย่างเช่นทุกวัน แต่ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังขี่ม้ามาด้วยความเร็วจนฝุ่นตลบและกำลังจะผ่านหน้าเขาไป
"เฮ้ย..ไอ้ลีซอ เอ็งจะรีบไปไหนวะ" นายใหญ่ตะโกนถาม ผู้ที่ขี่ม้ามาด้วยความเร็วได้ชะลอลงทันที แล้วบังคับม้าให้เดินมาที่นายใหญ่ยืนอยู่
"ผมจะไปยะงานตี้ทุ่งทานตะวันคับนายใหญ่"
"แล้วทำไมเอ็งต้องรีบด้วยวะไอ้ลีซอ"
"ขอสูมาตวยคั่บ...คือผมกลัวจะยะงานบ่ทันการคับ...นายน้อยจะปิ๊กบ้านแล้วคับ"
"ถ้าอย่างงั้น เอ็งก็ไปทำงานเถอะไป"
"คับ..นายใหญ่"
ลีซอเป็นเด็กหนุ่มต่างด่าวชาวพม่า ครัวครอบของเขาได้อพยพมาอยู่เมืองไทยเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตามคำชวนของลุงคำแสงเพื่อนสนิทของพ่อเขานั้นเอง แต่ภายหลังที่ครอบครัวของหนุ่มลีซอได้เข้ามาอยู่เมืองไทยไม่นานนัก พ่อ,แม่ของเขาและเมียของลุงคำแสงก็ได้รับอุบัติเหตุในขณะที่กำลังขับรถขนของขึ้นไปขายบนดอย...รถกระบะที่ขับไปได้ประสานงากับรถสิบล้อจนทำให้ทั้งสามคนตายสยองในที่เกิดเหตุทันที ลุงคำแสงเลยต้องรับอุปการะเลี้ยงดูลีซอมาตั้งแต่อายุ5-6ขวบ...ลีซอได้เติบโตมาคู่กับภูแสงลูกชายคนเดียวของลุงคำแสง ปัจจุบันนี้ลีซอโตเป็นหนุ่มฉกรรจ์วัย23ปี ส่วนภูแสงในวัย30ปี ทั้งคู่สนิทสนมเป็นเพื่อนเล่นกับนายน้อยมาตั้งแต่เด็กๆ ก่อนที่นายน้อยจะถูกส่งตัวไปเรียนต่อที่อเมริกา..ความผูกพันธ์ของทั้งสามหนุ่ม นายน้อย,ภูแสงและลีซอ จึงมีมากกว่าคำว่าเพื่อนและนายจ้างทั่วไป ตอนนี้ทั้งภูแสงและลีซอต่างก็รักใคร่กันดั่งเป็นเสมือนพี่น้องท้องเดียวกัน แต่หัวใจที่บริสุทธิ์อีกดวงของหนุ่มลีซอได้มอบให้กับนายน้อยของเขาจนหมดสิ้นแล้ว
..............................
ทางด้านกรุงเทพฯ ได้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นกับชีวิตของสองภพและสินชัย ข่าวการเป็นคู่เกย์ของพวกเขาได้แพร่กระจายไปทั่วทุกสื่อ จากฝีมือของผู้กำกับต้อหนังสือพิมพ์ลงเป็นข่าวหน้าหนึ่งแทบทุกฉบับ ภาพลับสมัยที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ขั้นลึกซึ้งกับผู้กำกับจอมหื่นได้ออกมาแพร่หรากลางสื่ออีกครั้งนึง ตอนนี้ทั้งสองภพและสินชัยต้องเก็บตัวอยู่แต่ภายในห้องพักของโรงแรมอย่างเงียบๆ เพราะมีนักข่าวคอยจับตามองพวกเขาอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าพวกเขาจะย่างกายไปที่ไหนก็ตาม
"พี่สองจะทำอย่างไงต่อไปครับ" ต่อศักดิ์ถามชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง
"ช่างมันเถอะไอ้ต่อ..อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดว่ะ"
"นายน้อย...กูตกลงจะไปอยู่ที่เมืองคาวกับมึง" อยู่ๆสินชัยก็พูดขึ้นมา
"จริงเหรอวะไอ้เอ อย่าพูดให้กูดีใจเล่นๆนะโว้ย" ชายหนุ่มเดินเข้าไปกอดเพื่อนรักคู่นอนด้วยรอยยิ้ม
"กูไม่ได้พูดเล่น กูจะไปจริงๆ กูก็ชักจะเบื่อชีวิตที่กรุงเทพฯเหมือนกันว่ะ" สองภพเผลอตัวจูบปากเพื่อนรักไปหนึ่งที "จุ๊บ" โดยลืมไปว่ามีดวงตาใสๆของหนุ่มพเนจรจ้องมองดูอยู่ด้วยความสนใจ
"ดีครับพี่เอ...ผมจะได้มีเพื่อน"
"ไอ้ต่อ...เมื่องี้มึงเห็นอะไรหรือเปล่าวะ" สองภพถามด้วยความอาย
"เห็นครับ...ผมเห็นพวกพี่นอนเอากันบนเตียงตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้วครับ" หนุ่มพเนจรพูดออกมาพร้อมส่งแววตาที่เปื้อนยิ้มให้กับสองหนุ่มเพื่อนรักคู่เย็ด
"จริงเหรอวะไอ้ต่อ" สองภพหน้าแดง
"ก็พี่เอครางเสียงดังขนาดนั้น ผมก็เลยตื่นขึ้นมา...แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบดูนะครับ มันเห็นเองต่างหาก"
"แล้วเป็นไง...ลีลาการเย็ดของกูเด็ดถูกใจมึงหรือเปล่า อยากลองบ้างไหมล่ะ..ไอ้ต่อ" สินชัยเดินเข้าไปขย่ำเป้ากางเกงของเด็กหนุ่มอย่างมันส์มือจนลำควยเกือบเจ็ดนิ้วของเด็กหนุ่มได้เริ่มขยายเป็นข้อลำที่แข็งโป๊กอยู่ภายใต้กางเกงขาสั้น
4.
(ความเดิม)
"ก็พี่เอร้องครางเสียงดังขนาดนั้น ผมก็เลยตื่นขึ้นมา...แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบดูนะครับ มันเห็นเองต่างหาก"
"แล้วเป็นไง...ลีลาการเย็ดของกูเด็ดถูกใจมึงหรือเปล่า อยากลองบ้างไหมละ...ไอ้ต่อ" สินชัยเดินเข้าไปขย้ำเป้ากางกงของเด็กหนุ่มอย่างมันส์มือจนลำควยเกือบเจ็ดนิ้วของเด็กหนุ่มได้เริ่มขยายเป็นข้อลำที่แข็งโป๊กอยู่ภายใต้กางเกงขาสั้น
"มึงจะทำอะไรไอ้เอ...กำลังมีปัญหาอย่างงี้ มึงยังจะมีอารมณ์อีกเหรอวะ" เสียงสองภพดังขึ้นมาขัดจังหวะบาร์เทนเดอร์หนุ่มร้อนรัก
"อุ๊ย...ขอโทษว่ะนายน้อย กูลืมตัวไปหน่อย"
"ไอ้เอ..มึงมาช่วยกูคิดดีกว่าว่าเราจะหาทางออกจากโรงแรมนี้ได้ยังไง ไอ้ต่อ..มึงรีบไปจัดการกับควยของมึงในห้องน้ำซะให้เรียบร้อย แล้วออกมาจัดกระเป๋าเดินทางได้แล้ว พวกเราจะออกเดินทางไปเมืองคาวกันในตอนเช้ามืด" เสียงของชายหนุ่มดูจริงจังและน่าเกรงขามเมื่อถึงเวลาที่ควรจะทำ
สองภพหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหาเบอร์ที่ต้องการจะโทร...สินชัยนั่งอยู่ข้างๆเพื่อคอยให้คำปรึกษา
"ฮัลโหล...สาหวัดดีเจ้า ฟาร์มม้าป้อเลี้ยงขวัญชัยเจ้า" เสียงจากปลายสาย
"สาหวัดดีคับแม่ใหญ่ประจำฟาร์ม วันนี้บ่ไปแอ่วตี้เมืองเจียงใหม่ก่อ ผมจะได่พาละอ่อนหนุ่มๆฉุดไปข่มขืน ฮา ฮา" ชายหนุ่มส่งภาษาคำเมืองยอกล้อกับมะขิ่นแม่บ้านสาวใหญ่ประจำฟาร์มม้าอย่างคุ้นเคย
"น้อยน้อยฮู้อะหยังเจ้า บ่องามเน้อเจ้า" สาวใหญ่งอนขึ้นมาทันที
"ขอสูมาคับน้ามะขิ่น ผมอู้เล่นคับ ผมบ่ได่ฮู้คำเมืองมานานขนาด น้ามะขิ่นคึ้ดเติงผมก่อ"
"คึ้ดเติงนักขนาดเจ้า ตะคืนเห็นนายใหญ่อู้ถึงนายน้อยตวยเน้อ"
"หันป้อผม แถวนั้นก่อคับ" ชายหนุ่มถามถึงบิดา
"หันเจ้า...กำเดี่ยวเจ้า" แม่บ้าวัยห้าสิบกว่าเดินไปบอกนายใหญ่ให้มารับโทรศัพท์จากลูกชาย
"ไอ้เจ้าสอง...เมื่อไหร่แกจะกลับมาที่ฟาร์ม แกรู้ไหมว่าไอ้รีสอร์ทของแกมันกำลังยุ่ง มันต้องการแกมาดูแล...และฉันก็มีอะไรจะพูดกับแกด้วย" นายใหญ่ขึ้นเสียงกับลูกชายทันทีที่รับโทรศัพท์มาพูด
"ครับ..ครับพ่อ...พรุ่งนี้ตอนเจ็ดโมงเช้านะครับ ผมจะไปถึงเชียงใหม่ พ่อให้ไอ้แสงมารับผมกับเพื่อนๆที่สนามบินด้วยนะครับ"
"แล้วรถของแกล่ะ..ทำไมไม่ขับมาเอง"
"ผมขี้เกียจขับครับ ผมจะฝากรถไว้ที่โรงแรมก่อน"
"เออๆ..งั้นก็ตามใจแก แล้วพ่อจะบอกไอ้แสงให้"
"ขอบคุณครับพ่อ...สวัสดีครับ"
.......................
ภายในห้องน้ำหนุ่มน้อยพเนจร กำลังยืนมองตัวเองอยู่ในกระจกบานใหญ่ เขาเอามือลูบไล้บนหน้าอกที่เปลือยเปล่าอย่างช้าๆ หัวนมสีน้ำตาลตั้งชูชันด้วยความเงี่ยน เขาบี้หัวนมของตัวเองอย่างมันส์มือและแรงขึ้นเรื่อยๆ เงยหน้าร้องควรญครางด้วยความเสียวสะท้าน เรือนร่างของหนุ่มน้อยก็ช่างกำยำสมส่วนดีทีเดียว สมแล้วที่เขาเป็นหนุ่มลูกข้าวเหนียวขนานแท้...ช่วงหน้าอกกว้างเต่งตึงสมกับวัยแตกหนุ่มที่เพิ่งจะผ่านไปได้ไม่กี่ปี ลำควยแข็งตุงเป็นลำเขื่อนดันเป้ากางเกงขาสั้นให้เห็นอย่างชัดเจน ตรงปลายควยมีน้ำหล่อลื่นไหลออกมาจากท่อควยจนเยิ้มประหนึ่งน้ำเชื่อมที่เหนียวข้น...ส่งผลให้กางเกงขาสั้นที่หนุ่มน้อยใส่อยู่เปียกแฉะไปด้วยน้ำอยาก
ต่อศักดิ์ถอดกางเกงออกแล้วกำแท่งควยขนาดเกือบเจ็ดนิ้วไว้ในกำมือแน่น ดงหมอยของเขาก็ช่างดกดำเกินวัย เขาก้มหน้าลงไปถ่มน้ำลายใส่ปลายควยเพื่อเพิ่มความไหลลื่นให้กับหัวควยเวลาที่รูดขึ้นรูดลง...เขาเริ่มรูดหนังหุ้มหัวควยให้เปิดออก...รูดเข้า รูดออก ด้วยความเร็วถี่ขึ้นเรื่อยๆ เสียงร้องครางดังลั่นห้องน้ำ ในสมองของเขาก็จินตนาการถึงภาพที่สองภพกำลังโดนบาร์เทนเดอร์หนุ่มรินรักกระหน่ำเย็ดด้วยลีลาที่โลดโผนเร่าร้อนอยู่บนเตียงนอนเมื่อคืนก่อน
"ซี๊ตตตตต อ่า.....เย็ดพี่สองแรงๆเลยครับพี่เอ อ้า....." เขาเผลอพูดครางออกมาด้วยอารมณ์เงี่ยนจัด
"อ้าาาาาา โอ้ยยยยยย อ่า..น้ำเงี่ยนผมจะแตกแล้วครับ อ้า....ไม่ไหวแล้ว อ่าาาาาาาาอ้า อ้า อ้าาา"
เขากระทุ้งลำควยถอกเข้าถอกออกอย่างรวดเร็วจนมือเป็นระวิง...หัวควยสีแดงสดเต้นงึกๆอยู่ในอุ้งมือของตัวเอง เขากระหน่ำเย็ดมืออย่างลืมตาย ตอนนี้ตรงหัวควยของเด็กหนุ่มมีน้ำอยากใสๆไหลออกมามากมาย...เสียงกระหน่ำเย็ดมือตัวเองดัง ปั๊บๆๆๆๆๆๆ ขนหมอยหลุดติดมือออกมาหลายสิบเส้น ไม่นานนักเขาก็ถึงสวรรค์ด้วยแม่นางทั้งห้าของเขาเอง
"โอ้ยยยยยย อ่า....น้ำแตกแล้ว อ้าาาาาา"
น้ำเงี่ยนอุ่นๆสีขาวขุ่นได้กั๋นกรองออกมาจากกระโปกคู่แฝดสดๆร้อนๆ...ด้วยแรงอัดฉีดจากกระบอกของท่อควยส่งผลให้น้ำรักของเขาพุ่งกระจายไปทั่วห้องน้ำ มันพุ่งไกลจนกระเด็นไปเปื้อนกระจกที่เขาส่องอยู่เป็นดวงๆ...และทันใดนั้นเองประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกอย่างแรง...เป็นเวลาเดียวกับที่น้ำสวาทของหนุ่มน้อยกำลังพุ่งกระฉูดออกมาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย...น้ำรักสีขุ่นก็อกสองไหลออกมาจากรูเยี่ยวย้อยเป็นทางยาวจนถึงพื้น กลิ่นน้ำว่าวคาวคุ้งทั่วห้องน้ำ
"อ้า....ซี๊ตตตตตต อ้า...." ต่อศักดิ์หันไปมองที่ประตูและร้องครางออกมาครั้งสุดท้าย "โอ้ย...เสียว...อ้า...อ้าาาาาาซี๊ต...." เสียงเสียวของเด็กหนุ่มสิ้นสุดลงพร้อมเสียงพูดของใครบ้างคนดังขึ้น
"โอ้โห้....ไอ้ต่อ ทำไมน้ำเงี่ยนมึงออกมาเยอะขนาดนี้วะ มึงไม่ได้ชักว่าวมากี่เดือนแล้วเนี่ย สุดยอดเลยว่ะไอ้น้อง" สินชัยตาค้างกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า
"........." หนุ่มน้อยหน้าแดง เขาอายจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา
...............................
ภูแสงหนุ่มหล่ออีกคนของรีสอร์ท"คนเมืองคาว"วันนี้เขาแต่งตัวเนี๊ยบเป็นพิเศษด้วยเสื้อเซิ้ตลายสก๊อตสีน้ำเงินเข้มที่เพื่อนรักของเขาซื้อมาฝากจากเท็กซัส กางเกงยีนส์ลีวายรัดรูปกับรองเท้าหนังสีดำคู่นั้นทำให้เขาดูทะมัดทะแมงมากยิ่งขึ้น หัวเข็มขัดเกือกม้าขนาดใหญ่และหมวกคาวบอยสีน้ำตาลเข้ม ส่งผลให้เขาดูเป็นหนุ่มเมืองคาวบอยได้อย่างเต็มตัว...เขาขับรถJEEPออกจากฟาร์มม้าไปอย่างรวดเร็วจนถนนลูกรังตลบอบอวนไปด้วยฝุ่น
หนุ่มลีซอขี่เจ้าไผ่ทอง ม้าตัวโปรดของนายน้อยมาที่บ้านซุ้มนาย ซึ่งเป็นบ้านพักขนาดใหญ่ของครอบครัวคุณขวัญชัยอยู่ไม่ห่างจากบ้านพักคนงานมากนัก หนุ่มลีซอพาเจ้าไผ่ทองมารอคอยการกลับมาของนายน้อยสุดยอดดวงใจของเขาด้วยอาการใจจดใจจ่อ...วันนี้เขาแต่งตัวตามแบบฉบับของหนุ่มคาวบอยทั่วไป เพราะตามความต้องการของนายน้อย เสื้อเซิ้ตแขนยาวสีดำและกางเกงยีนส์สีซีตบวกกับรองเท้าบู๊ดและหมวกคาวบอยสีเดียวกับเสื้อ ทำให้เขาดูคมเข้มยิ่งขึ้นเมื่อตัดกับผิวสีขาวสะอาดแบบหนุ่มพม่าทั่วๆไป
นายใหญ่และคุณขวัญเชิญก็ลงมารอการกลับมาของนายน้อยเช่นเดียวกัน หลังจากที่ไม่ได้เห็นหน้าลูกชายคนกลางเกือบสองเดือน มะขิ่นแม่บ้านวัยดึกยืนคู่กับลุงคำแสงด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส..หนุ่มลีซอและม้าไผ่ทองก็อยู่ใกล้ๆกัน
ไม่นานนักรถJEEPคันที่ภูแสงขับไปรับนายน้อยที่สนามบินก็กลับมาถึง...ภูแสงขับรถมาด้วยความเร็วตามนิสัยของคนหนุ่มเลือดร้อนอย่างเขา รถวิ่งมาบนถนนลูกรังจนฝุ่นตลบ เขาขับมาจอดอยู่บริเวณหน้าบ้านซุ้มนาย ซึ่งอยู่ห่างจากทางเข้าฟาร์มม้าประมาณครึ่งกิโล...หลังจากที่รถจอดสนิทแล้ว หนุ่มๆทั้งสี่คนที่อยู่ในรถก็ทยอยกันลงมา แล้วยิ้มทักทายให้กับผู้ที่มายืนรอรับ...ส่วนผู้ที่มายืนรอรับก็ยิ้มให้พวกเขาด้วยความดีใจเช่นเดียวกัน ยกเว้นนายใหญ่เพียงคนเดียวที่ยืนสีหน้าบึ้งตึงอยู่ตรงนั้น
"สวัสดีครับแม่..คิดถึงแม่จังเลยครับ" สองภพเดินเข้าไปกอดมารดาด้วยท่าทางออดอ้อนเหมือนเด็กๆ "สวัสดีครับพ่อ" ชายหนุ่มเดินเข้าไปไหว้บิดาด้วยท่าทางเกรงๆ
"ละครปิดกล้องแล้วเหรอลูก" คุณขวัญเชิญถามลูกชาย
"ครับแม่...แม่ครับนี่ไอ้ต่อนะครับ มันจะมาทำงานที่รีสอร์ทของผม" ชายหนุ่มแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับต่อศักดิ์สมาชิกใหม่แห่งคนเมืองคาว "ส่วนไอ้เอทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้วนะครับ มันจะมาทำงานที่นี่เหมือนกัน" สินชัยเคยมาเที่ยวที่ฟาร์มม้าแห่งนี้กับสองภพบ่อยๆ จนคุ้นเคยกับทุกคนได้เป็นอย่างดี
"สวัสดีครับ" ต่อศักดิ์ยกมือไหว้ทุกคนด้วยความเคารพ
"สวัสครับนายใหญ่,นายหญิง" สินชัยเดินเข้าไปกราบพ่อ,แม่ของเพื่อนรักใกล้ๆ "สวัสดีครับป้ามะขิ่น,ลุงคำ" เขาไม่ลืมที่จะไหว้ผู้ใหญ่อีกสองคน
"สาหวัดดี้เจ้า" มะขิ่นยิ้มแก้มบาน
"ไหว้พระเถอะลูก" ลุงคำแสงกล่าว
"เป็นจะได่ลีซอ...สาบายดีก่อ" สองภพเดินเข้าไปกอดคอหนุ่มลีซอด้วยความสนิทสนม
"สาบายดีคับ แต่ผ่มก็คึ้ดเติงหานายน้อยนักขนาดคับ" หนุ่มพม่าในตาซื่อยิ้มให้นายน้อยของเขาด้วยความรักและบูชา "ไอ่ไผ่ท่อง มันก็คึ้ดเติงหานายน้อยคือกันคับ" สองภพเดินไปลูบหัวม้าคู่ใจของเขาด้วยความเอ็ดดู เจ้าไผ่ทองก็ดูเหมือนจะรู้ว่าเจ้านายตัวจริงของมันกลับมาแล้ว มันยกขาหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วร้องเบาๆเหมือนม้าที่แสนรู้
"ไอ้แสง...เดี๋ยวเอ็งพาเพื่อนนายน้อยไปพักที่คนเมืองคาวก่อน....ส่วนแกเจ้าสอง...ตามฉันขึ้นมาข้างบนเดี๋ยวนี้" เสียงนายใหญ่ดังลั่นกลางวงสนทนา
"ครับนายใหญ่" ภูแสงรับปากเจ้านาย แล้วพาสินชัยกับต่อศักดิ์ขึ้นรถไปที่รีสอร์ทคนเมืองคาวซึ่งอยู่ห่างจากบ้านซุ้มนายไปทางตอนเหนือประมาณครึ่งกิโล หนุ่มลีซอขี่ม้าไผ่ทองไปทางทุ่งทานตะวันเพื่อตรวจดูดอกทานตะวันที่เขากับนายน้อยเคยช่วยกันปลูกเอาไว้เป็นกิจวัตรประจำวัน
....................................
สองภพเดินตามผู้เป็นบิดาเข้าไปในห้องทำงานที่อยู่บนชั้นสองของบ้านด้วยจิตใจที่ไม่สู้ดีนัก พอสองคนพ่อลูกเข้าไปในห้องได้สักพัก...สงครามสายเลือดก็ได้เริ่มต้นขึ้น
"ไหนแกอธิบายมาซิเจ้าสอง...ว่าไอ้ข่าวพวกนี้มันหมายความว่ายังไง" ผู้เป็นพ่อโยนหนังสือพิมพ์สี่ห้าฉบับใส่หน้าของลูกชายอย่างแรง "และไหนจะข่าวทางโทรทัศน์อีก แกรู้ไหมไอ้สอง..ว่าฉันอายเขาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว"
สองภพรู้ดีกว่าผู้เป็นพ่อหมายถึงข่าวคู่เกย์ของเขากับสินชัยและผู้กำกับต้อ "เออ..คือ..ไม่มีอะไรครับพ่อ คือ..มันแค่แผนโปรโมทละครเรื่องใหม่ของผมนะครับ" เขาโกหกน้ำขุ่นๆ
"ไอ้สอง...แกคิดว่าฉันโง่เหรอ ไอ้ผู้กำกับคนนั้นมันปล่อยข่าวว่าแกจะมาเปิดรีสอร์ทเกย์ที่นี่...แล้วยังจะพาไอ้เจ้าเอคู่ขาของแกมาด้วย"
"พ่อครับ...ผมเป็นนักแสดงนะครับ มันก็ต้องมีข่าวเสียๆหายๆบ้างล่ะครับ เป็นเรื่องธรรมดาครับพ่อ"
"มันจะธรรมดาแน่ๆ ถ้าแกมีข่าวกับผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชายแบบนี้" นายใหญ่ยังตะคอกใส่หน้าลูกชาย "แกเลิกทำตัวแบบนี้สักทีเถอะเจ้าสอง เลิกวิปริตเสียที"
"พ่อ" ชายหนุ่มหน้าซีตลงทันที เมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายที่ออกมาจากปากของผู้เป็นบิดา
"ฉันจะให้แกแต่งงานกับลูกสาวของคุณสุพรรษา" อยู่ๆผู้เป็นพ่อก็พูดขึ้นมา
"อะไรนะครับพ่อ" เขาถามย้ำ
"แต่งงาน...ฉันจะให้แกแต่งงานกับหนูแดงลูกสาวของคุณสุพรรษา ได้ยินหรือยัง"
"ผมไม่แต่ง..ผมยังไม่พร้อม" ชายหนุ่มหันหลังให้ผู้เป็นพ่อทันที
"ไอ้สอง..ฉันให้ที่ดินแกไปทำรีสอร์ทตั้งหลายสิบไร่ แกได้มากกว่าพี่มากกว่าน้องของแกอีกนะ...แล้วทำไมฉันขอแกแค่นี้ แกถึงให้ฉันไม่ได้" เสียงนายใหญ่ดุดันขึ้นเรื่อยๆ
"แต่พ่อครับ เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวกันนะครับ"
"ถึงอย่างไงแกก็ต้องแต่งงานกับหนูแดง เพราะฉันไปสู่ขอเขาไว้แล้ว"
"พ่ออย่ามาบังคับผมเลยครับ...ยังไงผมก็ไม่แต่ง"
"แต่แกต้องแต่ง จะเลิกนิสัยชั่วๆอย่างงี้เสียที"
"ผมชั่วเหรอพ่อ...และทีพี่หนึ่งล่ะ ทำไมพ่อไม่ว่าพี่หนึ่งบ้าง พี่หนึ่งเขาชั่วกว่าผมอีกนะ เขาถลุงเงินพ่อไปปีๆหนึ่งไม่รู้กี่ล้านต่อกี่ล้าน ไปเรียนเมืองนอกแต่ก็ดันไปติดการพนัน แล้วเป็นไงละ...สุดท้ายพ่อก็ต้องไปรับใช้หนี้แทน ผมเสียอีกที่ไม่เคยรบกวนเงินของพ่อเลยแม้แต่บาทเดียว ผมทำงานเลี้ยงตัวเองมาตลอด แต่ผมก็ยังเป็นลูกที่ชั่วในสายตาของพ่ออยู่เสมอ ทำไมครับพ่อ" ชายหนุ่มเก็บความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้ไม่ไหว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาเริ่มมีหยาดน้ำตาไหลระรินออกมา
"ถ้าแกไม่อยากให้ฉันคิดอย่างงั้น แกก็จะต้องแต่งงานให้เร็วที่สุด"
"ยังไงผมก็ไม่แต่ง...ผมขอโทษครับพ่อ"
"แต่ฉันไปสู่ขอเขาไว้แล้ว" นายใหญ่ตะโกนลั่นบ้าน
"ถ้าอย่างงั้น...พ่อก็ให้ไอ้สามมันแต่งแทนผมซิครับ ไอ้สามมันเป็นเพลย์บอย...มันคงไม่ปฎิเสธพ่อหรอก"
"ไอ้สอง...แกก็รู้ว่าน้องยังเรียนไม่จบ"
"มันไม่ตั้งใจเรียนมากกว่า ผมว่ามันหลอกเอาเงินของพ่อไปให้สาวๆหมดละมั่ง"
"แกอย่ามานอกเรื่องกับฉันนะ แกนั้นแหละที่จะต้องแต่ง เพราะฉันไม่อยากมีลูกชายเป็นเกย์ แกเข้าใจฉันไหม" นายใหญ่จ้องตาลูกชายเขม็ง
"ผมขอตัวก่อนนะครับ...ผมเหนื่อย ผมไม่อยากคุย" ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องโดยไม่รอคำตอบของผู้เป็นบิดา
"โธ่โว้ย...ไอ้ลูกเลว ไอ้ลูกชั่ว" เสียงนายใหญ่ตะโกนด่าตามหลังมาติดๆ
ชายหนุ่มเดินลงบันไดอย่างช้าๆ พร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความน้อยใจจากคำพูดของผู้เป็นพ่อ เขามองเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดผ่านม่านน้ำตาที่กำลังไหลรินออกมา แม่ยืนรอเขาอยู่ตรงบันไดขั้นสุดท้าย เขาวิ่งลงไปกอดแม่ของเขาไว้แน่นแล้วก้มหน้าร้องไห้อยู่ตรงทรวงอกของมารดา "ฮือ....ฮือ...แม่ครับ สองทำอะไรผิด ฮือ...ฮือ..."
5.
(ความเดิม)
ชายหนุ่มเดินลงบันไดอย่างช้าๆ พร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความน้อยใจจากคำพูดของผู้เป็นพ่อ เขามองเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดผ่านม่านน้ำตาที่กำลังไหลริน แม่ยืนรอเขาอยู่ตรงบันไดขั้นสุดท้าย เขาวิ่งลงไปกอดแม่ของเขาไว้แน่น แล้วก้มหน้าร้องไห้อยู่ตรงทรวงอกของมารดา "ฮือ...ฮือ...แม่ครับ สองทำอะไรผิด ฮือ...ฮือ..."
.............................
ภูแสงขับรถพาสองหนุ่มจากกรุงเทพมาที่รีสอร์ทคนเมืองคาวตามคำสั่งของนายใหญ่ บริเวณทางเข้ารีสอร์ทมีป้ายขนาดยักษ์ที่ทำเลียนแบบมาจากเกือกม้าเขียนไว้ว่า "คนเมืองคาว" ห่างจากทางเข้าประมาณสามร้อยเมตรก็จะเป็นบ้านพักของนายน้อย บ้านไม้หลังเล็กๆสไตล์เท็กซัสที่นายน้อยเป็นคนออกแบบเอง บริเวณรอบๆบ้านหลังนั้นมีสนามหญ้าขนาดใหญ่สำหรับเอาไว้ให้ม้าวิ่งเล่น และห่างออกไปประมาณร้อยเมตรก็จะเป็นกระโจมบังกะโลสำหรับลูกค้าที่มาพัก
"ไอ้เอ...เดี๋ยวพวกมึงรอนายน้อยอยู่ที่นี่ก่อนนะเว้ย เพราะกูไม่รู้ว่านายน้อยจะให้พวกมึงไปพักที่ไหน" ภูแสงพูดหลังจากที่จอดรถหน้าบ้านพักของนายน้อยเพื่อให้สองหนุ่มลง
"เออ..ได้ แล้วมึงจะไปไหนวะไอ้แสง ไม่อยู่รอนายน้อยกับพวกกูเหรอ" สินชัยตะโกนถาม
"กูจะไปทำงานที่คอกม้าใน วันนี้มีลูกม้ามาส่งโว้ย"
"ถ้างั้นมึงก็ไปทำงานเถอะ...เดี๋ยวกูกับไอ้ต่อรอกันได้ จะอาบน้ำด้วยว่ะ แม่ง...โคตรร้อนเลย"
ภูแสงขับรถออกไปด้วยความเร็วตามนิสัยของเขา สินชัยกับต่อศักดิ์มองตามไอ้หนุ่มเลือดร้อน แล้วก็หันมายิ้มพร้อมๆกัน
"ไป..ไอ้ต่อเข้าบ้านก่อน กูอยากจะอาบน้ำ เหม็นตัวฉิบหาย"
"ครับพี่เอ" ต่อศักดิ์เดินตามเพื่อนรุ่นพี่เข้าบ้านอย่างว่าง่าย
............................
สองภพในชุดคาวบอยมาดแมนขี่ม้ามณีดินออกมาจากบ้านซุ้มนายด้วยความเร็ว จุดหมายที่เขาจะไปคือทุ่งทานตะวันบริเวณเนินเขาหลังคอกม้าใน ที่นั้นมีชายหนุ่มอีกคนที่รอเขาอยู่ด้วยความรักอันบริสุทธิ์ พอถึงที่หมายสองภพกระโดดลงจากหลังม้าด้วยความชำนาญ เขาผูกเจ้ามณีดินไว้ข้างๆกับเจ้าไผ่ทอง แล้วเดินเข้าไปหาชายหนุ่มคนนั้น
"ลีซอครับ...พี่มาแล้ว" สองภพเรียกคนรักเสียงหวาน
"นายน้อย..ผมคึ้ดว่านายน้อยซิบ่ฮักผมแล้วซะอีก" หนุ่มพม่าวิ่งเข้าไปกอดสองภพด้วยความเสน่หา
"พูดภาษากลางก็ได้นะลีซอ พี่ขี้เกียจแปลอ่ะ"
"ครับนายน้อย"
"ทำไมถึงคิดว่าพี่ไม่รักเราละ...หืออ" สองภพกอดหนุ่มพม่าไว้ด้วยความรักและเอ็ดดู เขาจับคางของชายหนุ่มให้เงยหน้าขึ้นมามองตาเขา และจูบเบาๆที่ริมฝีปากสีชมพูของหนุ่มพม่าในตาซื่อคนนั้น
"ก็นายน้อยพาพี่เอกับนายต่อมาด้วย ผมก็เลยคิดว่านายน้อยไม่รักผมแล้วซิครับ" ลีซอพูดความในใจออกมา
"พวกเขามาทำงานกับพี่ ไม่มีอะไรหรอก ไอ้เอมันก็รู้ว่าพี่รักลีซอมากแค่ไหน"
"นายน้อยยังรักผมอยู่จริงๆนะครับ"
"รักซิครับ รักมากด้วย" ชายหนุ่มตอบเขาด้วยรอยยิ้ม
"นายน้อยจะไม่กลับไปกรุงเทพฯอีกแล้วใช่ไหมครับ" ลีซอจูงมือสุดยอดดวงใจของเขาเดินไปกลางทุ่งทานตะวันสีทอง ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆในเวลาโพ้ลเพล้
"คงไม่แล้วล่ะลีซอ ตอนนี้พี่กำลังมีปัญหา" เสียงของชายหนุ่มเบาลงแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน "เฮ้อออ...."
"ผมสงสารนายน้อยจังเลยครับ"
"ลีซอ...ถ้าพี่จะแต่งงานล่ะ...ลีซอจะว่ายังไง"
"อะไรนะครับ... นายน้อยจะแต่งงาน" หนุ่มพม่าถามย้ำอีกครั้ง
"ก็พ่อนะซิ จะให้พี่แต่งงานกับหนูแดง พี่ไม่รู้จะทำอย่างไง พี่กลุ้มใจเหลือเกิน"
"นายน้อย...ผมไม่อยากให้นายน้อยแต่งงาน อย่าแต่งนะครับ" หนุ่มพม่าตาแดงขึ้นมาทันที
"พี่ก็ไม่อยากแต่งหรอกนะลีซอ แต่พ่อเขาบังคับพี่... ยังไงพี่ก็จะพยายามหาทางออกให้ได้ ลีซอไม่ต้องห่วงนะ" ชายหนุ่มปลอบใจยอดรักด้วยคำพูดที่อ่อนโยน "วันนี้ไปนอนกับพี่นะลีซอ พี่คิดถึงเราเหลือเกินรู้ไหม"
"ครับนายน้อย" กลางทุ่งทานตะวันสีทองมีชายหนุ่มสองคนยืนกอดกันอยู่ตรงนั้นด้วยความรักความเสน่หา จนตะวันลับขอบฟ้า
..........................
"เอ...เอ...ไอ้เอ..เปิดประตูหน่อย" ภูแสงตะโกนเรียกสินชัยดังลั่น
"อะไรวะ...กูจะนอน ดึกแล้วนะโว้ย"
"มึงเห็นน้องกูไหมวะ แม่ง...ยังไม่กลับบ้านเลย" ภูแสงถามด้วยเสียงกังวล
"ไอ้ลีซอมันไปนอนกับนายน้อยที่บ้านซุ้มนาย...มันไม่ได้บอกมึงเหรอ"
"ก็เออซิวะ...ถ้ามันบอกแล้วกูจะมาถามมึงทำห่าอะไรล่ะ" พอพูดจบภูแสงก็เดินออกไปอย่างหัวเสีย "พรุ่งนี้ต้องเล่นแม่งซักหน่อยแล้ว ทั้งไอ้นายน้อยกับไอ้ลีซอ ทำเหี้ยอะไรไม่เคยบอกกูเลย กูเป็นห่วงนะโว้ย...แม่งเอ้ยยย" เขาเดินบ่นด้วยความหงุดหงิด
"เสียงใครครับพี่เอ" หนุ่มพเนจรเดินงัวเงี่ยเข้ามาถาม
"ไอ้แสงนะซิ...มันมาตามหาน้องมัน"
"ใครครับน้องพี่ภูแสง"
"ไอ้ลีซอ...มันรักของมันยิ่งกว่าอะไร ทั้งๆที่ไม่ใช่น้องแท้ๆสักหน่อย กูก็งง"
"อ้าว...พี่ภูแสงกับพี่ลีซอไม่ใช่พี่น้องกันเหรอครับ"
"เออ..เดี๋ยวกูจะเล่าให้ฟังวันหลัง ไปนอนเถอะว่ะ กูง่วงแล้ว"
"ครับๆๆ แต่พี่เออย่าทำอะไรผมนะ เดี๋ยวพี่สองด่าผม" หนุ่มพเนจรเอามือปิดก้นตัวเอง แล้วก็วิ่งเข้าไปในห้องนอน
"แล้วถ้าไอ้นายน้อยมันไม่ด่าล่ะ...มึงจะยอมกูไหมไอ้ต่อ"
"ก็พี่เอกับพี่สองเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอครับ" หนุ่มน้อยทำหน้างงๆ
"ไม่ใช่เว้ย...ก็แค่เย็ดกันแก้เงี่ยนเฉยๆ ไอ้นายน้อยมันไม่ได้รักกูแบบนั้น" สินชัยกล่ำกลืนในสิ่งที่เขาพูดออกมา
"ผมไม่เข้าใจ...ผมก็เห็นพี่สอง เอ้ย..นายน้อย รักพี่เอนี่ครับ"
"กูนะรักมัน...และก็รักมานานแล้วด้วย แต่..มันไม่ได้รักกู" บาร์เทนเดอร์หนุ่มตาแดงเหมือนจะร้องไห้
"ถ้านายน้อยเขาไม่รักพี่แล้วเขารักใครล่ะครับ ผมก็เห็นเขามีพี่อยู่คนเดียว"
"ก็ไอ้ลีซอไงล่ะ... มันรักกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว"
"มิน่าล่ะ..." หนุ่มน้อยพูดขึ้นมา
"มิน่า..อะไรของมึงไอ้ต่อ"
"มิน่าล่ะ...ตอนแรกพี่เอถึงไม่อยากมาที่เมืองคาว ก็เพราะเรื่องนี้เอง...ใช่ไหมครับ"
"ใช่...ตอนแรกกูก็คิดอย่างงั้นแหละ ไม่อยากเห็นไอ้นายน้อยอยู่กับไอ้ลีซอ มันเจ็บว่ะ แต่...ถ้าไอ้นายน้อยมันมีความสุขกูก็น่าจะมีความสุขไปกับมันด้วย"
"โห้..ซึ้งว่ะ อย่างนี้ซิครับ เขาถึงเรียกว่ารักแท้ เสียสละให้คนที่เรารักมีความสุข ถึงตัวเองจะต้องเจ็บปวดก็ตาม...ผมอยากมีแฟนแบบพี่เอจังเลยครับ"
"มึงพูดมากไปแล้วไอ้ต่อ นอนได้แล้ว" สินชัยนอนหันหลังให้เด็กหนุ่ม เขาแอบอมยิ้มในคำพูดของหนุ่มน้อยพเนจรอย่างพอใจ
..................................
นายใหญ่,คุณขวัญเชิญและสองภพกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่ที่บ้านซุ้มนาย โดยมีมะขิ่นและลีซอคอยยืนรับใช้อยู่ใกล้ๆ
"อาทิตย์หน้าแกต้องทำตัวให้ว่างนะเจ้าสอง" นายใหญ่มองลูกชายคนกลางด้วยสายตาแห่งการเอาชนะ
"ทำไมเหรอครับพ่อ"
"ฉันกับแม่จะพาแกไปพบคุณสุพรรษาและหนูแดง...เรื่องงานแต่งของแก"
"คุณคะ...ก็ลูกบอกว่ายังไม่พร้อมนี่คะ ทำไมคุณต้องบังคับลูกด้วย" คุณขวัญเชิญหันไปถามผู้เป็นสามี
"แต่มันต้องพร้อม...ฉันบอกให้มันพร้อมมันก็ต้องพร้อม เข้าใจไหมเจ้าสอง" นายใหญ่ทำเสียงเข้ม
"......." ชายหนุ่มได้ยินคำสั่งประกาศิตออกมาจากปากของผู้เป็นพ่อ เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก นอกจากหันหน้าไปมองหนุ่มพม่าในตาซื่อยอดรักของเขาด้วยสายตาเศร้าๆ
"ทำไมคุณต้องบังคับลูกด้วย ฉันไม่เข้าใจ" คุณขวัญเชิญเริ่มมีปากเสียง
"ผมไม่อยากให้มันวิปริตไปมากกว่านี้ คุณไม่เห็นข่าวเน่าๆของมันเหรอ"
"แต่คุณต้องเข้าใจลูกบ้างซิ แกโตแล้วนะ อย่าไปบังคับแกเลยค่ะ ฉันขอร้อง"
"ใครบังคับอะไรใครเหรอครับคุณแม่" ทุกคนหันไปมองตามเสียงที่เข้ามาใหม่
"สามเมือง" คุณขวัญเชิญเรียกชื่อลูกชายคนเล็ก
"สวัสดีครับคุณพ่อ,คุณแม่" ชายหนุ่มวัย27ปีลูกชายคนสุดท้องของเจ้าของฟาร์มม้า เดินเข้ามากราบผู้เป็นบิดาและมารดาด้วยท่าทางออดอ้อนออเซาะ
"มายังไงล่ะลูก..ทำไมไม่โทรมาบอกพ่อก่อน จะได้ให้ไอ้แสงไปรับที่สนามบิน"
"สามก็อยากมาเซอร์ไพรส์คุณพ่อ,คุณแม่บ้างซิครับ" สามเมืองหันไปเห็นสองภพนั่งอยู่ตรงนั้น ก็อดที่จะพูดแขวะตามนิสัยของเขาไม่ได้ "ไงพี่สอง...ข่าวเกย์ดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองเชียวนะ มีผัวกี่คนแล้วล่ะ อิ..อิ"
"ไอ้สาม...หุบปากไปเลย ถ้ามึงไม่รู้เรื่องอะไร มึงอย่าพูดดีกว่า" สองภพลุกขี้นจากโต๊ะอาหารทันทีที่เห็นหน้าน้องชายตัวแสบ
"ก็ข่าวมันดัง...ผมก็แค่ถามดู ไม่เห็นต้องโมโหเลยนี่พี่สอง" สามเมืองนั่งลงที่โต๊ะอาหารในเวลาเดียวกับที่สองภพกำลังลุกขึ้น "ไอ้ลีซอ ตักข้าวให้กูหน่อย กูหิว"
"ไม่ต้องลีซอ...ไอ้สามมึงจำเอาไว้นะ ลีซอมันเป็นคนของกู มึงไม่มีสิทธิ์มาใช้คนของกู...จำไว้" สองภพจ้องตาน้องชายเขม็ง แล้วก็ลากแขนลีซอเดินออกไปอย่างไม่สนใจใคร
"ไอ้สอง..แกจะไปไหน กลับมาคุยกับฉันให้รู้เรื่องก่อน" ผู้เป็นพ่อตะโกนตามหลัง
"พ่อก็คุยกับไอ้สามลูกชายคนโปรดของพ่อซิครับ ไอ้นั้นมันหน้าหม้ออยู่แล้วนี่ เรื่องแต่งงานแค่นี้ ผมว่ามันคงไม่ปฎิเสธพ่อหรอกครับ" ชายหนุ่มหันมาตอบ
"เรื่องอะไรครับคุณพ่อ" สามเมืองถาม
"ไม่มีอะไรหรอกลูก อย่าไปสนใจเลย แล้วนี่จะมาพักกี่วันล่ะลูก"
"สามว่าจะมาอยู่สักพักหนึ่งครับคุณพ่อ จะมาดูรีสอร์ทของพี่สองเขาด้วยครับ เผื่อว่าสามจะขอที่ดินคุณพ่อไปทำรีสอร์ทกับสปาบ้างครับ"
"จะไหวเหรอลูก" คุณขวัญเชิญพูดดักขึ้นมาเพราะรู้จักนิสัยลูกชายคนเล็กดี
"โธ่..คุณแม่ครับ ก็ต้องลองดูซิครับ ทีพี่สองยังทำได้เลย แล้วทำไมสามจะทำไม่ได้...ใช่ไหมครับคุณพ่อ"
"ก็พี่เขาไปเรียนเมืองนอกทางด้านนี้มาโดยเฉพาะนะตาสาม ส่วนเราอ่ะเรียนอะไรในเมืองไทยก็ยังไม่จบสักอย่าง"
"คุณแม่รักแต่พี่สอง ไม่รักสามเลย"
"นี่ตาสาม...การลงทุนทำอะไรสักอย่าง มันต้องใช้เงินเยอะนะลูก แม่อยากให้เราเรียนให้จบซะก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องนี้อีกทีดีไหมลูก"
"ครับคุณแม่.."
.........................
ภูแสงขี่ม้าตามหลังสองภพกับลีซอมาด้วยความเร็วจนฝุ่นตลบ สองหนุ่มคู่รักบังคับม้าให้ชะลอความเร็วลงทันทีเมื่อรู้ว่าภูแสงกำลังตามหลังพวกเขามา
"ไอ้นายน้อย...มึงจะพาไอ้ลีซอไปไหนอีกวะ" ภูแสงตะโกนถามเสียงดังลั่น
"กูจะไปอยู่เมืองคาว ไอ้สามมันกลับมาแล้ว กูไม่อยากอยู่บ้านเดียวกับมัน"
"แล้วเมื่อคืนมึงพาไอ้ลีซอไปนอนด้วย ทำไมมึงไม่บอกกูก่อนวะ"
"แล้วทำไมกูต้องบอกมึงด้วยวะไอ้แสง" สองภพจ้องหน้าเพื่อนรักอย่างไม่เข้าใจ
"ก็ไอ้ลีซอมันเป็นน้องของกู" เขาพูดไม่เต็มเสียง
"อ้ายแสงคับ...ผมขอไปรับใช้นายน้อยเองคับ บ่มีอะหยังหรอกคับอ้ายแสง" หนุ่มพม่าพูดขึ้นมาเพื่อตัดปัญหา
"แต่กูเป็นห่วงมึงนะไอ้ลีซอ"
"มึงแน่ใจเหรอวะไอ้แสง ว่ามึงแค่เป็นห่วงเฉยๆ ไม่ได้คิดอย่างอื่น" สองภพสบตาภูแสงอย่างคนรู้ทัน
"คิดอะไรวะ...พูดให้ดีๆนะเว้ยนายน้อย"
"เราก็รู้ๆกันดีอยู่น่าไอ้แสง อย่าให้กูพูดดีกว่า หึ..หึ..หึ" สองภพหัวเราะในลำคออย่างผู้ชนะ
แล้วสองภพก็ควบม้าออกไปอย่างรวดเร็วโดยมีลีซอขี่ตามไปติดๆ...ปล่อยให้ไอ้หนุ่มเลือดร้อนมองตามสองหนุ่มคู่รักด้วยความจำยอม จนพวกเขาทั้งคู่ขี่ม้าไปไกลสุดลูกหูลูกตา
6.
(ความเดิม)
แล้วสองภพก็ควบม้าออกไปอย่างรวดเร็วโดยมีลีซอขี่ตามไปติดๆ ปล่อยให้ไอ้หนุ่มเลือดร้อนมองตามสองหนุ่มคู่รักด้วยความจำยอม จนพวกเขาทั้งคู่ขี่ม้าออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา ภูแสงต้องหักห้ามใจที่จะไม่ตามพวกเขาทั้งสองคนไป ถึงแม้ว่าตอนนี้หนุ่มเลือดร้อนอย่างเขาจะทรมานใจเพียงใดก็ตาม เขาตัดสินใจขี่ม้าตัวเก่งมาที่โรงฟางอย่างช้าๆ ชายหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้าทันทีที่ถึงจุดหมาย เขาเดินเข้าไปทำงานตามหน้าที่เหมือนเช่นทุกวัน....หลังจากการทำงานได้เสร็จสิ้นลง เขาเดินออกมานั่งข้างหลังโรงฟางเงียบๆคนเดียวด้วยความเศร้าที่เกาะกินในใจมานานแรมปี อยู่ๆเขานึกถึงเรื่องราวในอดีตสมัยเมื่อสิบปีที่แล้ว...ตอนนั้นเขารู้ตัวว่าเขาได้หลงรักน้องชายนอกสายเลือดอย่างลีซอจนหมดหัวใจ แต่เขาก็ไม่เคยแสดงออกให้ใครได้รับรู้...จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้รู้ความจริงว่า แท้จริงแล้วลีซอหนุ่มน้อยบริสุทธิ์ผู้ที่เขาหลงรักมานานนับสิบปี ได้มอบใจถวายชีวิตให้แก่นายน้อยผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนและเจ้านายของเขาจนหมดสิ้นแล้ว...จะเหลือก็แต่ความรักแบบฉันพี่น้องให้แก่เขาเพียงเท่านั้นเอง เหตุการณ์ในวันนั้นที่โรงฟางแห่งนี้เขายังจำได้ดีจนถึงทุกวันนี้
"พี่รักลีซอนะครับ เป็นของพี่เถอะลีซอ" เสียงของนายน้อยยังก้องกังวานอยู่ในแก้วหูของภูแสงมิเลือนลาง "แต่ผม..ผม..ผมยังละอ่อนอยู่นะคับนายน้อย" วันนั้นเขาตัดสินใจแอบดูสองหนุ่มพรอดรักกันอย่างเจ็บปวด เขาจำได้ว่าขณะนั้นลีซอมีอายุแค่เพียงสิบสี่ปี ส่วนเขาและนายน้อยกำลังเติบโตเป็นหนุ่มเต็มตัวด้วยวัยยี่สิบปีบริบูรณ์
"ยังเด็กอยู่ก็ไม่เป็นไรหรอกลีซอ เดี๋ยวพี่สอนให้ ไม่ต้องกลัวนะครับ" สองภพกอดจูบหนุ่มไร้เดียงสาอย่างลีซอไว้แน่นด้วยความหื่นของคนวัยคะนอง "ลีซอ ไม่รักพี่เหรอครับ"
"ฮักคับ...ผมฮักนายน้อยนักขนาดคับ" สองมือของสองภพปลดเปลื้องเสื้อผ้าของหนุ่มน้อยออกทีละชิ้นๆ จนเหลือแต่เนื้อตัวที่ขาวสะอาดและลำควยที่อวบอิ่มเกินเด็กอายุสิบสี่ หัวควยสีแดงบริสุทธิ์เหมือนลูกสตอเบอร์รี่ที่หอมหวานเต้นหงึกๆอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่ม...ทุกสิ่งทุกอย่างในการกระทำของสองภพตกอยู่ในสายตาของภูแสงตลอดเวลา เขามองภาพที่อยู่ข้างหน้าด้วยจิตใจที่ว้าวุ้น ภาพของเด็กหนุ่มชาวพม่าที่เขาทั้งรักทั้งห่วงใย ดูแลเอาใจใส่ทนุถนอมมาตลอดทั้งชีวิต กำลังจะถูกเพื่อนรักของเขาทำลายความบริสุทธิ์อยู่แค่เอื้อม
สองภพจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว เขาระดมจูบหนุ่มลีซอทุกซอกทุกมุมของเรือนร่างด้วยความเร่าร้อน จนหนุ่มน้อยวัยสิบสี่ครางเสียงสั่นด้วยความเสียว "อ้าาา...อ้า...อ่า อ่า " เขาผลักเด็กหนุ่มให้นอนราบลงไปกับกองฟาง แล้วล้มตัวลงทับร่างของเด็กหนุ่มด้วยความเงี่ยนเต็มพิกัด เขาไซร้ทุกซอกทุกมุมอย่างบ้าคลั่ง...ลำควยของหนุ่มพม่าในตาซื่อตั้งแข็งโด่เด่เงาวับด้วยน้ำหล่อลื่นที่ค่อยๆไหลออกมาจากท่อควย สองภพจับลำควยหกนิ้วหัวแดงแป๊ดของเด็กหนุ่มถอกเข้าถอกออกอย่างมันส์มือ จนหัวควยของหนุ่มน้อยเปียกเยิ้มไปด้วยน้ำอยาก
"อ้า...ซี๊ต....ผมเสียวนักขนาดคับนายน้อย อ่า อ่า ผมเสียวคับ"
"เดี๋ยวพี่จะทำให้ลีซอเสียวกว่านี้อีก"
สองภพจับลำควยอวบๆของหนุ่มน้อยงับเข้าปากทันที แล้วกระทุ้งเกือบสุดคอหอย...หนุ่มลีซอสะดุ้งตัวโยงร้องเสียงดังลั่นโรงฟาง "อ้าาาาาาาาาา บ่อไหวแล้วคับนายน้อย ผมเสียวควยนักขนาด อ่า...อ้า...โอ๊ย...."
"ลีซอ..ขอพี่เย็ดตูดได้ไหม อ่า อ่า พี่ยังไม่เคยเย็ดตูดซิงๆเลย" สองภพสาวลำควยของตัวเองรูดขึ้นรูดลงด้วยความมันส์แทบน้ำแตก
"ได่คับ..ได่คับนายน้อย อ้า...อ้า...ผมฮักนายน้อยคับ...อ้าาาา" พอได้ยินคำตอบรับของเด็กหนุ่ม สองภพก็ยกขาหนุ่มละอ่อนขึ้นพาดบ่าทันที
"เจ็บนิดหน่อยนะครับ อย่าเกร็งนะ อ่า...อ่า...พี่จะเอาควยใส่แล้วนะ พี่จะทำเบาๆ อ้าาาาา"
"คับ อ้า....อ้า..." ลำควยขนาดเจ็ดนิ้วครึ่งของสองภพ กำลังหมุดหายเข้าไปในรูตูดอันบริสุทธิ์ของหนุ่มน้อยไร้เดียงสาอย่างช้าๆ
"เจ็บไหมครับลีซอ..โอ๊ยยยย อ้า....โอ้ยย เข้าแล้ว อ้า อ้า เข้าแล้ว อ้าาาา"
"ผมเจ็บ...ก๊ากกก..อ้าาา." เสียงร้องซึ่งบ่งบอกถึงความเจ็บปวดออกมาจากปากของหนุ่มน้อย
"อย่าเกร็งนะ อ้า....จะมิดด้ามแล้ว โอ๊ยยยยย ฟิตจริงๆ อ้า...แน่น แน่นไปหมด ซี๊ต...."
ภูแสงซึ่งกำลังยืนแอบดูอยู่อีกทางมุมหนึ่งของโรงฟาง เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเขาเองก็มีอารมณ์เงี่ยนตามไปด้วย จนเขาเกิดความสับสนขึ้นมาในจิตใจ ว่าเขาควรจะทำอย่างไงดี เขามองภาพที่นายน้อยกำลังกระเด้าเย็ดลีซออยู่ตรงหน้า แล้วก็เอามือลูบเป้ากางเกงตัวเองไปด้วย จนตอนนี้ลำควยยักษ์ของเขาได้แข็งชูชันขึ้นมาอย่างเต็มที่ แต่เพราะเด็กหนุ่มที่กำลังถูกเย็ดอยู่ตรงนั้นคือคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจ ส่วนผู้ชายอีกคนก็เป็นทั้งเพื่อนรักและเจ้านายของเขา ซึ่งเป็นผู้มีบุญคุณต่อครอบครัวของเขามาโดยตลอด...พอคิดได้แค่นั้นน้ำตาของหนุ่มเลือดร้อนก็ตกในไปพร้อมๆกับความเงี่ยนที่กำลังจะจางหายไปด้วย
"ลีซอ หายเจ็บหรือยัง" นายน้อยในคาบของชายหนุ่มหื่นกามถามอีกครั้ง
"บ่เจ็บ...บ่เจ็บแล้วคับนายน้อย"
"ถ้าอย่างงั้น..พี่จะเย็ดแล้วนะ" นายน้อยเริ่มกระเด้าบั้นท้ายส่งลำควยเข้ารูตูดของหนุ่มน้อยช้าๆอย่างมีจังหวะ ป้าบ ป้าบ ป้าบ
"อ้า ซี๊ต.....อ้า เป็นไง ลีซอ สนุกไหม อ้า....พี่เสียวหัวควยจังเลยครับ โอ้....อ้า..."
"ผมเสียว..เสียวรูตูดนักขนาดคับนายน้อย อ้า.....อ้า.....โอ๊ยยยยย อ่าาาา"
สองภพเย็ดแรงขึ้น แรงขึ้น แรงขึ้นเรื่อยๆ จนเขาลืมไปว่าเขากำลังเย็ดอยู่กับหนุ่มน้อยบริสุทธิ์ ที่ยังไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน
"นายน้อย....ผมเสียว อ้า....โอ๊ย...อ้า ผมบ่ไหวแล้วคับ อ้าาาาาา...โอ๊ยย"
"อ้า....อีกนิดเดียวนะ ทนหน่อย น้ำเงี่ยนพี่จะแตกแล้ว อ้า.....ซี๊ต..." สองภพกระหน่ำเย็ดชุดสุดท้ายจนตัวของหนุ่มน้อยโยกไปตามแรงกระเด้า เขาจับลำควยของลีซอชักว่าวด้วยความเร็วตามจังหวะแรงเย็ด เสียงครางของทั้งคู่ดังลั่นสนั่นโรงฟาง...ภูแสงยอมรับว่าไม่สามารถทนดูต่อไปได้อีก หนุ่มเลือดร้อนต้องตัดใจ แล้วหันหลังเดินออกมาจากสถานที่แห่งนั้นด้วยความเศร้าระคนเจ็บใจ
"อ้า....ลีซอ พี่จะแตกแล้ว เสียวควยเหลือเกิน รูตูดฟิตจริงๆ อืม...อืม...อ้า อ้า..."
"นายน้อยคับ ผมเสียวขนาด อ้าาาาา โอ๊ยยยย" หนุ่มน้อยลีซอปล่อยน้ำเงี่ยนทะลักออกมาเต็มมือของสองภพ ทำให้ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ
"อ้า.....โอ่...โอ๊ย...น้ำเงี่ยนพี่แตกแล้ว อ้าาาาาาาา" สองภพอัดฉีดน้ำเงี่ยนส่งแรงกระเด้าเข้าสู่รูตูดของเด็กหนุ่มคนรักจนหมดลำควย เขาล้มตัวลงไปกอดเด็กหนุ่มด้วยความหลงใหล รักใคร่ เขาพอใจกับความรักที่หนุ่มน้อยคนนี้ได้มอบให้เขา แต่เขาหารู้ไม่ว่า...มีผู้ชายอีกคน ที่ได้รับความเจ็บปวดปางตายจากการกระทำของเขาในครั้งนี้
................................
ภูแสงยังคงนั่งอยู่ที่หลังโรงฟางซึ่งตอนนี้คนงานก็ได้กลับกันไปหมดแล้ว ภาพเหตุการณ์ในอดีตตอนที่เขาแอบดูนายน้อยกับลีซอเย็ดกันต่อหน้าต่อตาเมื่อครั้งนั้น ได้เข้ามาวนเวียนอยู่ในความทรงจำของเขาอีกครั้ง...ทำให้ตอนนี้อารมณ์ความเงี่ยนของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาทนเก็บอารมณ์เงี่ยนที่อัดแน่นอยู่ในลำควยยักษ์ไม่ไหวอีกแล้ว...ไอ้หนุ่มเลือดร้อนลุกขึ้นแก้ผ้าถอดชุดคาวบอยออกในทันที เหลือไว้เพียงหมวกคาวบอยสุดรักที่เขาใส่อยู่เป็นประจำทุกวัน เขานั่งรูดลำควยของตัวเองอยู่ตรงหลังโรงฟางอย่างสนุกมือ ลำควยหัวบานสีคล้ำขนาดสองกำมือโผล่ มันออกมาเล่นลมชมธรรมชาติด้วยความเพลิดเพลินอยู่ในกำมือของเจ้าของควย...เขารูดเข้ารูดออกด้วยความเร็ว ร้องครางด้วยความเสียว กระทุ้งลำควยสุดพลังม้าจนหัวควยถอกแล้วถอกอีก "โอ้...โอ้...อ้า..." น้ำอยากไหลออกมาเต็มหัวควยจนเปื้อนไปตามนิ้วมือของเขา ไอ้หนุ่มเลือดร้อนเอามือขึ้นมาเลียดูดกินน้ำอยากของตัวเองด้วยความกระหาย สีหน้าหื่นกามอย่างเต็มที่ "อ้า....อ่า....อู้....โอ๊ย...อ้า..." เขากระตุกลำควยชักว่าวด้วยความเร็วจนเสียงแรงกระทุ้งควยกระทบกับดงหมอยที่หนาฟูดัง ผั่บ ผับ ผับ เขาเด้งตูดขึ้นมารับจังหวะแรงกระแทกจากมือของตัวเองอย่างเมามันส์จนตูดเขาอยู่ไม่ติดพื้น ส่าย ล่อน โยกไปโยกมาด้วยความเงี่ยนอย่างหยุดไม่ได้ "อ้าาาาาาา โอ๊ยยย ไม่ไหวแล้ว อ้าาาแตก แตก แตกแล้ว อ้าาา อ้าาา" น้ำเงี่ยนแห่งแรงราคะพุ่งกระฉูดไปไกลเกือบถึงรั้วลวดหนามที่กั้นพรมแดนระหว่างไร่ เขาเลียกินน้ำเงี่ยนที่เปื้อนอยู่ตรงง่ามมือจนหมดทุกหยาดหยด แล้วใส่กางเกงในทันที ก่อนที่จะมีคนมาเห็น......ทันใดนั้น
"เฮ้ย.....ไอ้แสง มึงมานั่งทำเหี้ยอะไรแถวนี้วะ" เสียงผู้ชายนิรนามดังขึ้นมาอีกทางด้านหนึ่งของไร่ ซึ่งมีรั้วลวดหนามกั้นอยู่ระหว่างกลาง
"สวัสดีครับนายเรือรบ...เออ..ผมมานั่งพักเหนื่อยครับ" ภุแสงรีบลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงประหลาดนั้น เขาหยิบเสื้อคาวบอยขึ้นมาเช็ดน้ำเงี่ยนสีขาวขุ่นที่ยังเปื้อนอยู่ตรงหน้าท้องของเขาออกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจ้าของเสียงนิรนามจะเดินเข้ามาถึง
"ทำไมมึงต้องทำท่าตกใจขนาดนั้นด้วยวะไอ้แสง" นายเรือรบหนุ่มใหญ่วัย33ปีเป็นเจ้าของสวนลิ้นจี่มีบริเวณไร่ติดกับฟาร์มม้าของนายใหญ่เพียงแค่รั้วลวดหนามกั้น และที่สำคัญเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของนายน้อย ไม่กินเส้นกันมาตั้งแต่สมัยที่นายน้อยกลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ
"ไม่มีอะไรหรอกครับนายรบ ผมแค่หลบมาพักครับ"
"อู้งานล่ะซิไอ้เวร" หนุ่มใหญ่ทำเสียงดังเหมือนเป็นเจ้าของฟาร์มม้าซะเอง
"นายรบ..มีอะไรไหม ผมจะไปอาบน้ำแล้ว"
"กูจะมาเตือนพวกมึงว่า ให้ดูแลม้าของพวกมึงดีๆหน่อยนะโว้ย..ไอ้ม้าตัวเล็กๆที่ฟาร์มของมึงอ่ะ มันชอบหลุดออกมาเดินเหยียบไร่ของกูบ่อยๆ มันเสียหายนะโว้ย"
"ครับ...นายรบ แล้วผมจะดูแลให้ครับ"
"อย่าให้กูเห็นอีกนะเว้ย...ไม่งั้นกูจะยิงแม่งทิ้งจริงๆด้วย เสือกมาเดินเหยียบไร่ของกู ไอ้ม้าโง่"
"ครับ..ผมจะระวังไม่ให้ไอ้สีทองมันหลุดเข้าไปได้อีก มันคงยังไม่ชินกับสถานที่น่ะครับ มันเพิ่งมาใหม่" ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนัก
"กูได้ข่าวมาว่า...ไอ้สองภพ ดาราตุ๊ดมันกลับมาแล้วเหรอวะ มันเอาผัวหรือเอาเมียมาด้วยล่ะ ฮา..ฮา..ฮา.."
"อย่าเรียกเจ้านายผมอย่างนั้นครับนายรบ....ผมขอร้อง" ชายหนุ่มเดินหนีเจ้าของไร่ลิ้นจี่ด้วยความไม่พอใจ
"แล้วทำไมกูจะเรียกไม่ได้วะ...ก็มันเป็นตุ๊ดนี่หว่า" หนุ่มใหญ่ปากดียังตะโกนไล่หลังอย่างไม่ลดละ
.................................
"นายน้อย...อาทิตย์หน้ารีสอร์ทก็จะเปิดแล้วนะเว้ย กูยังไม่รู้เลยว่ามึงจะให้กูทำอะไร" สินชัยถามขึ้นมาระหว่างนั่งเล่นอยู่ที่ระเบียงบ้านพักของสองภพ ในรีสอร์ทคนเมืองคาว
"มึงรับผิดชอบที่ห้องอาหารครัวคาวบอยนะไอ้เอ กูมีคอกเทลขายด้วยนะเว้ย มึงก็ผสมเหล้าผสมเบียร์ของมึงไป...กูจะให้มึงเป็นผู้จัดการด้วย" สองภพเดินไปกอดคอเพื่อนรัก
"แล้วผมละครับพี่สอง" หนุ่มพเนจรถามบ้าง
"มึงก็ทำทั่วไปนั้นแหละไอ้ต่อ ช่วยไอ้เอที่ห้องอาหารด้วย ถ้าว่างก็ไปช่วยไอ้ลีซอเลี้ยงม้าด้วย มึงจะได้เก่งเร็วๆไงล่ะ"
"ครับผม"
"พวกมึงอยู่บ้านเดียวกับกูนี่แหละ ไม่ต้องไปอยู่บ้านพักคนงานหรอก กูกับลีซอจะนอนข้างบน ส่วนห้องข้างล่างกูยกให้พวกมึง"
"อ้าว..แล้วมึงไม่อยู่บ้านซุ้มนายเหรอวะ" สินชัยถาม
"ขี้เกียจทะเลาะกับไอ้สามว่ะ มันชอบหาเรื่องกู" ชายหนุ่มทำหน้าเบื่อระอา
"แล้วพี่ลีซอไปไหนครับพี่สอง"
"มันไปดูเจ้าสีทอง...สีทองมันไม่สบายอ่ะ" สองภพมองหนุ่มพเนจร
"ใครครับสีทอง"
"ลูกม้า...นายใหญ่เพิ่งซื้อมาจากฟาร์มอื่น พอมาถึงแม่งก็ไม่สบายเลย ที่ฟาร์มของกูก็มีลีซอกับไอ้แสงนี่แหละพอจะรู้เรื่องม้ามากกว่าคนอื่นหน่อย"
"ไอ้นายน้อย...มึงอยู่กับไอ้ลีซอแบบนี้ แล้วถ้าเวลากูเงี่ยนกูจะทำยังไงวะ" สินชัยส่งสายตาหื่นให้เพื่อนรักคู่เกย์
"ก็ชักว่าวเอาซิวะ...นั้นไง..ไอ้ต่อก็ยังว่าง" สองภพยักคิ้วไปทางหนุ่มน้อย
"มึงไม่ว่ากูนะ ถ้า...ถ้ากูจะเย็ดกับไอ้ต่อ"
"ไม่เอาพี่เอ...ผมไม่เคย...ผมกลัวเจ็บ แต่ผมช่วยพี่ ชัก..ชักว่าวได้นะครับ" หนุ่มพเนจรตอบแบบอายๆ
"ถ้างั้นมึงก็ช่วยกูชักว่าวได้น่ะซิไอ้ต่อ มามะ...กูกำลังเงี่ยน" สองภพเดินไปจูงมือหนุ่มพเนจรเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว โดยมีสินชัยเดินตามไปติดๆ
"ไม่เอาหรอกพี่สอง...เดี๋ยวพี่ลีซอด่าผม พี่ลีซอเขารักพี่สองนะ"
"กูล้อเล่นไอ้ต่อ...มึงเห็นกูเป็นคนขี้เงี่ยนเหมือนไอ้เอตั้งแต่เมื่อไรวะ"
"ก็เห็นเป็นเพื่อนกันอ่ะ ก็นึกว่าจะเหมือนๆกัน" ต่อศักดิ์นั่งลงบนโซฟาโดยมีสินชัยเดินเข้าไปนั่งข้างๆ
"ไอ้ต่อ...มึงจำไว้ให้ดีนะ สักวันหนึ่งกูจะเอามึงทำเมียให้ได้" "จุ๊บ" สินชัยกระโดดไปจูบปากหนุ่มพเนจรทีเผลอ
"พวกมึงตกลงกันไปก่อนแล้วกันนะว่าใครจะเอาใคร...กูไปหาที่รักของกูก่อนดีกว่า" สองภพเดินออกจากบ้านไปแล้วกระโดดขึ้นหลังเจ้าไผ่ทองแล้วควบออกไปด้วยความชำนาญ
7.
สองภพขี่ม้าไผ่ทองมาจากรีสอร์ทคนเมืองคาว เพื่อจะไปที่คอกม้าใน ไปดูอาการของเจ้าม้าน้อยสีทองซึ่งตอนนี้อยู่ในการดูแลของลีซอ แต่ระหว่างทางเขาได้ผ่านบ้านซุ้มนาย ชายหนุ่มมองเห็นรถตู้คันใหญ่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านพร้อมกับผู้คนอีกสามสี่คนยืนอยู่ตรงนั้น เขาบังคับม้าให้ชะลอความเร็วลงและเดินเข้าไปดูใกล้ๆ บุคคลที่เขาเห็นอยู่ข้างหน้าทำให้เขากระโดดลงจากหลังม้าในทันที
"พี่หนึ่ง...กลับมาตั้งแต่เมื่อไรครับ" สองภพเดินเข้าไปกอดหนึ่งสยามพี่ชายคนเดียวของเขา
"เฮ้ย...ไอ้สอง เป็นไงบ้างวะ หล่อเชียวนะไอ้น้อง" สองพี่น้องทักทายกันด้วยความรักและคิดถึง โดยมีสายตาของสามเมืองจ้องมองตาเขียวอยู่ตรงนั้นด้วยความอิจฉา
"ผมสบายดีครับพี่หนึ่ง...คิดถึงพี่หนึ่งจังครับ"
"ยังปากหวานเหมือนเดิมนะ...ไอ้พระเอกหนัง"
"แฮ่...แฮ่..ผมไม่ได้เป็นเล่นละครแล้วครับพี่ ว่าแต่พี่หนึ่งเถอะ...มีอะไรมาฝากน้องชายคนนี้บ้างไหมครับ"
"เนะ..ยังจะทำตัวเป็นเด็กอยู่อีก ทวงของฝากตลอดเลยนะ ไอ้ตูดหมึก" หนึ่งสยามขยี้หัวน้องชายคนกลางด้วยความหมั่นเขี้ยว โดยมีน้องชายคนเล็กยืนจ้องเขม็งอยู่ตรงนั้นด้วยความหมั่นไส้
"เข้าไปคุยกันต่อในบ้านเถอะลูก พ่อรออยู่ข้างในแล้วจ๊ะ" คุณขวัญเชิญเดินนำลูกชายทั้งสามคนเข้าบ้าน...นายใหญ่นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกก่อนหน้านี้แล้ว
หนุ่มหล่อสามพี่น้อง หนึ่งสยาม,สองภพ,สามเมือง เดินตามผู้เป็นมารดาไปอย่างว่าง่าย ทั้งสามคนนั่งลงตรงที่ประจำของตัวเอง ส่วนคุณขวัญเชิญเดินไปนั่งข้างๆสามี
"แกจะกลับมาอยู่เมืองไทยเลยหรือเปล่าเจ้าหนึ่ง หรือว่าจะมาพักชั่วคราว" ผู้เป็นพ่อเริ่มต้นสนทนา
"ผมยังไม่ทราบเลยครับคุณพ่อ..ที่ผมมาครั้งนี้ ผมตั้งใจจะมางานเปิดรีสอร์ทของเจ้าสองมันครับ"
"แล้วเมื่อไรแกจะมีครอบครัวสักทีละเจ้าหนึ่ง อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วนะเรา"
"ยังไม่เจอเนื้อคู่มั่งครับคุณพ่อ" หนึ่งสยามยิ้มให้ผู้เป็นบิดา
"พ่อก็ให้พี่หนึ่งแต่งงานกับหนูแดงแทนผมซิครับ พ่อจะได้อุ้มหลานสักที และอีกอย่าง...พ่อจะได้ไม่ต้องบังคับผมด้วย" สองภพพูดขึ้นมาอย่างทันควัน
"เจ้าสอง...ไม่มีใครแทนใครได้หรอกนะ ฉันสู่ขอหนูแดงมาให้แก...ไม่ใช่เจ้าหนึ่ง" ผู้เป็นพ่อเริ่มขึ้นเสียง
"ทั้งๆที่คุณพ่อก็รู้ว่าพี่สองเป็นกระเทย อย่างงั้นเหรอครับ หึ..หึ" สามเมืองพูดขึ้นด้วยความคะนองปาก
"ตาสามอย่าไปว่าพี่เขาอย่างงั้นซิลูก" คุณขวัญเชิญกำชับลูกชายปากดี
"ก็สามไม่ชอบพวกเกย์พวกตุ๊ดนี่ครับคุณแม่ เกิดมาเป็นผู้ชายดีๆไม่เอา แต่ดันไปเอาไม้ป่าเดียวกัน แหวะ..." น้องชายตัวแสบยังไม่ยอมสงบปากสงบคำ
"เดี๋ยวมึงจะโดนกูต่อยไอ้สาม ปากดีนักนะมึง" สองภพลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินเขัาไปหาน้องชายท่าทางเอาเรื่อง
"พวกแกอย่ามามีเรื่องกันในบ้านฉันนะ ถ้าจะต่อยกันโน่น..ไปที่คอกม้าโน้น" ผู้เป็นพ่อออกคำสั่งประกาศิต
"ไอ้สองคนนี้มันก็ทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้วนี่ครับ...คุณพ่อยังไม่ชินอีกเหรอครับ" หนึ่งสยามเดินเข้ามาห้ามน้องชายทั้งสองคนให้แยกออกจากกัน "พอๆๆ ไอ้สองใจเย็นๆ เชื่อพี่"
"ก็เพราะว่าฉันชินนะซิ...ฉันถึงได้ปล่อยให้มันกัดกันจนถึงทุกวันนี้" นายใหญ่ทำหน้าระอา
"ผมไปทำงานก่อนดีกว่าพี่หนึ่ง ยังไม่อยากต่อยปากคนตอนนี้" สองภพมองหน้าน้องชายตัวแสบแล้วเดินออกไปโดยไม่สนใจใคร "แม่ครับ..เดี๋ยวตอนค่ำๆสองจะมากินข้าวด้วยนะครับ .. ไปละพี่หนึ่ง"
"อ้าว...แล้วไม่ไปกินกับไอ้พวกคู่ขาเกย์ที่เมืองคาวหรือไงพี่สอง ฮา...ฮา...ฮา.." สามเมืองยังไม่เลิกกวนประสาทพี่ชาย
"ไอ้สาม..หุบปากเดี๋ยวนี้ อย่าให้มันมากไปนะ ยังไงเขาก็เป็นพี่แกนะ" นายใหญ่ไม่เข้าข้างลูกชายตัวดี
"ขอโทษครับคุณพ่อ"
"เจ้าหนึ่ง...ตอนนี้แกเลิกเล่นการพนันแล้วหรือยัง" ผู้เป็นพ่อหันมาถามลูกชายคนโต
"ผมเลิกเล่นตั้งนานแล้วครับคุณพ่อ" ชายหนุ่มตอบ
"ให้มันจริงเถอะพี่หนึ่ง สามเห็นพี่หนึ่งขอเงินคุณพ่อไปตั้งเยอะ พี่หนึ่งเอาไปทำอะไรหมดครับ"
"เรื่องของฉัน..ไม่เกี่ยวกับแกไอ้สาม"
"ไอ้สาม...แกจะไปทำอะไรที่ไหนก็ไป ฉันรำคาญแกเต็มทีละ" นายใหญ่หันไปว่าลูกชายคนเล็กอีกครั้ง
"ไปก็ได้...."
.......................
"เป็นไงบ้างลีซอ อาการมันดีขึ้นไหม" สองภพขี่ม้ามาดูอาการของเจ้าสีทองด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เป็นอะไรมากแล้วครับนายน้อย อาการมันดีขึ้นมากแล้วครับ" หนุ่มลีซอตอบด้วยรอยยิ้ม
"เออ...พูดภาษากลางอย่างนี้นะดีแล้ว อย่าลืมนะ..ว่าครอบครัวของพี่เป็นคนกรุงเทพฯ ภาษาที่พี่คุ้นเคยจะเป็นภาษากลางมากกว่านะครับ และอีกอย่างรีสอร์ทก็ใกล้จะเปิดแล้ว หัดพูดไว้จะได้ชินปาก เผื่อต้องพูดกับลูกค้าที่มาพัก"
"ครับนายน้อย...."
"ลีซอรักพี่หรือเปล่าครับ" สองภพกอดลีซอไว้ในวงแขนของเขา
"นายน้อยก็รู้นี่ครับว่าผมรักนายน้อยคนเดียว นายน้อยครับเดี๋ยวคนเห็น...ปล่อยผมเถอะครับ"
"ก็พี่อยากได้ยินอีกครั้งนี่ครับ...ไม่ได้เหรอ..หึ..รักพี่หรือเปล่าครับ ไม่งั้นพี่ไม่ปล่อยนะ"
"รักครับ...รักมากด้วย...รักเท่าฟ้าเลยครับ" หนุ่มลีซอเดินออกไปทางโรงฟาง...นายน้อยเดินตามไปติดๆ
"จะหนีพี่ไปไหน...ลีซอ"
"ผมอายครับ...ยังมีคนอยู่ในคอกม้า เดี๋ยวเขาเห็น"
"อ้าว...แล้วมาที่โรงฟางเนี่ยไม่อายหรือไง หรือว่าอยากจะรื้อฟื้นความหลังที่เราเคย เออ..."
"ไม่ใช่อย่างงั้นนะครับนายน้อย ผมจะมาเอาฟางใส่เกวียนไว้ก่อนครับ พรุ่งนี้อ้ายแสงจะได้ไม่ต้องเหนื่อย"
"โธ่...เราก็หลงดีใจนึกว่าอยากจะเจ๊าะแจ๊ะกับเรา ที่แท้ก็เป็นห่วงไอ้แสงนี่เอง พี่งอนแล้วนะ"
"อย่างอนซิครับ...รอคืนนี้นะ ผมไม่ได้หนีไปไหนสักหน่อย"
"ลีซอครับ..พี่ไม่อยากให้ลีซอรักพี่เท่าฟ้าเลยครับ มันเชย เชย..ยังไงไม่รู้"
"ทำไมละครับนายน้อย"
"พี่อยากให้ลีซอรักพี่เท่าชีวิตมากกว่าครับ...ได้ไหมครับ"
"ได้ครับนายน้อย" สองหนุ่มยืนกอดกันอยู่กลางโรงฟางเป็นเวลานานทีเดียว รอบๆตัวของพวกเขามีแต่ไอดินกลิ่นฟางที่หอมอบอวน พอๆกับไอแห่งความรักของพวกเขาทั้งคู่
"ไอ้แสง...ไอ้แสง....ไอ้แสงโว้ย...มึงอยู่หรือเปล่าวะ" เสียงนายเรือรบเจ้าของสวนลิ้นจี่ตะโกนดังลั่นอยู่ริมรั้วลวดหนามข้างหลังโรงฟาง สองภพกับลีซอผละออกจากกันโดยทันทีเมื่อได้ยินเสียงนรก สองหนุ่มเดินไปทางต้นเสียงพร้อมๆกัน
"มีอะไรไอ้รบ..." สองภพถามจุดประสงค์ของคู่อริทันทีที่เห็นหน้า
"อ้าว...ไอ้สอง เดี๋ยวนี้มามัดฟางเองเลยเหรอวะ เอ...หรือว่า...มึงแอบมาเล่นผัวเมียกับไอ้ลีซอวะ ห้า..ห้า...ห้า"
"มึงมีเรื่องอะไรก็ว่ามา...กูจะไปทำงานต่อ"
"ไอ้แสงไม่อยู่เหรอ" หนุ่มใหญ่ปากดีถาม
"บ่อยู่คับนาย...อ้ายแสงไปเมืองเจียงใหม่คับ...นายรบมีอะหยังอู้กับผมก็ได่คับ" ลีซอตอบคำถามด้วยความสุภาพ
"กูมีธุระจะคุยกับไอ้แสงโว้ย...ไม่เกี่ยวกับมึงไอ้กะเหรี่ยง"
"ขอสูมาคับนาย" ลีซอหน้าเสียทันทีที่โดนหนุ่มใหญ่ปากดีต่อว่าถึงกำพืด
"มึงพูดดีๆกับคนของกูหน่อยได้ไหมไอ้รบ แล้วมึงมีเหี้ยอะไรกับไอ้แสง" สองภพเดินเข้าไปประจัญหน้ากับนายเรือรบอย่างไม่เกรงกลัว
"ก็ไม่มีอะไรมาก...แต่ไม่ใช่เรื่องของมึง...ไอ้ตุ๊ด" แล้วหนุ่มใหญ่ปากดีก็เดินจากไปอย่างไม่สนใจอะไร ทิ้งให้สองภพกับลีซอมองตามด้วยความงงระคนสงสัย
"นายน้อยครับ...กลับบ้านเถอะครับ ฝนจะตกแล้ว" ลีซอจูงมือชายอันเป็นที่รักออกมาจากบริเวณนั้น
"ไอ้รบมันต้องมีเรื่องไม่ดีแน่ๆเลย...พี่ไม่สบายใจเลยลีซอ"
"คงไม่มีอะไรหรอกครับนายน้อย ผมว่านายรบอยากจะคุยเรื่องม้าสีทองมากกว่า อ้ายแสงเคยเล่าให้ผมฟังว่า เคยทะเลาะกับนายรบเรื่องนี้ครับ"
"เหรอ..งั้นก็แล้วไป"
"นายน้อยฝนตกแล้ว เราจะกลับบ้านยังไงล่ะครับ"
"ขี่ม้าตากฝนไปก็ได้..สนุกดีออกลีซอ แค่ครึ่งกิโลเอง"
"เดี๋ยวนายน้อยจะไม่สบายเอานะครับ ผมเป็นห่วง"
"ไปเถอะน่า พี่ไม่เป็นไรหรอก ขี้เกียจรอให้ฝนหยุด พี่อยากเย็ดลีซอมากกว่า หึ..หึ"
"ก็ได้ครับ..." สองหนุ่มคู่รักกระโดดขึ้นบนหลังม้าตัวเก่งด้วยความคล่องแคล้ว แล้วขี่ออกไปด้วยความเร็ว พร้อมๆกับสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง
8.
(ความเดิม)
"ก็ได้ครับ..." สองหนุ่มคู่รักกระโดดขึ้นบนหลังม้าตัวเก่งด้วยความคล่องแคล้ว แล้วขี่ออกไปด้วยความเร็ว พร้อมๆกับสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง
...................
"ไปไหนมาวะ...เปียกเป็นลูกหมาเลย" สินชัยถามสองภพเมื่อเห็นเพื่อนรักเดินเข้ามาในบ้านด้วยสภาพที่มอมแมม
"มาจากโรงฟางว่ะ กูขี้เกียจรอให้ฝนหยุด เลยขี่มาตากฝนมาเรื่อยๆ..สนุกดีเหมือนกัน"
"แล้วไอ้ลีซอของมึงหายไปไหนวะ"
"เอาม้าไปเก็บในคอก เดี๋ยวมันก็มา"
"ไอ้ต่อไปไหน" สองภพถามถึงหนุ่มน้อยพเนจร
"มันไปช่วยจัดของที่ครัวคาวบอย...มึงไปอาบน้ำก่อนซินายน้อย เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะเว้ย มึงยิ่งป่วยง่ายๆอยู่ด้วย"
"ไอ้เอ...กูถามจริงๆเถอะ มึงมีความสุขไหมวะ ที่ย้ายมาอยู่กับกูที่เมืองคาว...กูเป็นห่วงความรู้สึกของมึงนะเว้ย"
"มีซินายน้อย...แค่กูเห็นมึงมีความสุขกับคนที่มึงรัก กูก็พอใจแล้วล่ะ ถึงแม้ว่ากูจะ...จะเจ็บก็ตามที" บาร์เทนเดอร์หนุ่มเริ่มตาแดงเมื่อถูกถามถึงจุดอ่อนในหัวใจ
"ไอ้เอ...มึงเป็นเพื่อนรักของกูนะ..และมึงก็เป็นอีกคนหนึ่งที่สำคัญกับชีวิตของกู ถ้ากูทำให้มึงเจ็บกูขอโทษนะเพื่อน...แต่กูก็ขาดมึงไม่ได้ กูถึงอยากให้มึงมาอยู่กับกูที่นี่ กูเห็นแก่ตัวใช่ไหมเอ" สองภพเดินเข้าไปกอดเพื่อนรักด้วยความเข้าใจ
"มึงไม่ต้องเป็นห่วงกูหรอกนายน้อย กูสัญญาว่ากูจะไม่ทิ้งมึงไปไหน และมึงก็ไม่ได้เห็นแก่ตัวด้วย มึงอย่าลืมซิว่า..กูเป็นคนเลือกที่จะมาอยู่ที่นี่เองนะเว้ย"
หนุ่มลีซอเดินเข้ามาเห็นสองภพกับสินชัยยืนกอดกันอยู่ เขาเกิดอาการตกใจเล็กน้อยแต่เขาก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"นายน้อยไปอาบน้ำเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายนะครับ"
"ไปซิลีซอ.."
สินชัยมองตามสองหนุ่มคู่รัก เดินขึ้นไปบนบ้านพร้อมกันด้วยสายตาที่บอบช้ำและกล้ำกลืน แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้...นอกจากทำใจ
.....................................
ต่อศักดิ์เดินมาจากครัวคาวบอยซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านพักมากนัก เขามองเห็นสินชัยเพื่อนรุ่นพี่นั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียวในมุมมืดๆข้างๆบ้านพัก เด็กหนุ่มเลยเอ่ยปากถามว่า
"พี่เอ..มานั่งทำอะไรตรงนี้ครับ ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ"
"กูก็มานั่งรอมึงนะซิ...แม่ง..โคตรเหงาเลยว่ะ" บาร์เทนเดอร์หนุ่มก้มหน้าบ่งบอกถึงอาการที่กำลังเป็นอยู่
"เดี๋ยวก็ชินครับ...พี่เอเคยอยู่แต่ในกรุงเทพฯ พอมาเจอบ้านไร่อย่างนี้ก็ต้องมีเหงาบ้างละครับ"
"แล้วทำไมมึงกลับดึกจังวะ"
"พอดีผมช่วยลุงคำแสงขนของไปจัดที่บังกะโลอยู่ครับ เลยกลับช้า"
"ทีหลังมึงจะไปไหน...บอกกูด้วยนะเว้ย ให้กูไปด้วย..กูไม่อยากอยู่คนเดียว" สินชัยเดินเข้าไปกอดคอหนุ่มพเนจรอย่างรักใคร่
"อ้าว...แล้วนายน้อยละครับ...ไปไหน"
"นอนกกกับไอ้ลีซออยู่บนห้องโน้น" ชายหนุ่มตอบด้วยความน้อยใจ
"พี่เอก็ต้องเจ็บปวดอีกตามเคย ผมสงสารพี่เอจังเลยครับ"
"กูเริ่มชินแล้วล่ะไอ้ต่อ"
"แล้วเมื่อไรพี่เอจะตัดใจจากนายน้อยได้ซักทีล่ะครับ"
"เห้อออ...กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ....เข้าบ้านเถอะกันเถอะ..กูง่วงนอนแล้ว"
"ครับ..."
...................
กลางดึกคืนนั้นภายในห้องนอนของสองหนุ่มต่างวัย สินชัยนอนกระสับกระส่ายด้วยความเงี่ยนที่ไม่ได้ระบายออกมาหลายวัน ลำควยที่แข็งโป๊กจนรู้สึกปวดไปทั้วทั้งลำ ทำให้หนุ่มขี้เย็ดอย่างเขาไม่สามารถหลับตาลงได้ เขานอนบิดซ้ายบิดขวาเอามือรูดลำควยของตัวเองอยู่ภายใต้กางเกงนอนบางๆด้วยความทรมาน หนุ่มพเนจรหันมาสบตาของเขาด้วยความเห็นใจ
"พี่เอ..เงี่ยนเหรอครับ"
"ไอ้ต่อ...กูเงี่ยนมากเลยว่ะ น้ำกูไม่แตกมาหลายวันแล้ว" บาร์เทนเดอร์หนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงหื่นๆ
"แล้วทำไมพี่เอไม่ชักว่าวบ้างล่ะครับ"
"กูคิดว่าไอ้นายน้อยมันจะมาให้กูเย็ดบ้าง แต่มันก็ไม่เคยมาหากูเลย อ้า...กูรอแล้วรออีก มันก็ไม่มาให้กูเย็ดสักที โอ๊ย..."
"ก็นายน้อยเขาเย็ดกับพี่ลีซอนี่ครับ"
"กูรู้แล้วไอ้เหี้ย..ไม่ต้องมาพูดให้กูเจ็บใจได้ไหมวะ"
"อุ๊ย...ผมขอโทษครับ"
"ไอ้ต่อ...มึงช่วยดูดควยให้กูได้ไหม กูเงี่ยน...กูไม่ไหวแล้ว" ชายหนุ่มถอนกางเกงออกโชว์ลำควยมหึมาขนาดแปดนิ้วให้หนุ่มน้อยเห็นอย่างเต็มตา
"ได้..ได้ครับพี่เอ...แต่พี่เออย่าเย็ดผมนะครับ ผมกลัวเจ็บ"
"เออๆๆ ดูดควยก็พอแล้ว ดูดแรงๆนะเว้ย กูชอบแรงๆ" บาร์เทนเดอร์หนุ่มเสียงหื่นด้วยแรงเงี่ยนอย่างสุดๆ
"ครับ" หนุ่มพเนจรก้มหน้าลงไปที่ลำควยมหึมาของสินชัย กลิ่นน้ำอยากที่ไหลเยิ้มอยู่ตรงหัวควยสีแดงคล้ำลอยเข้าจมูกอย่างจัง หนุ่มน้อยเอาลิ้นตวัดเลียวนไปวนมาอยู่ตรงหัวควยบานๆของสินชัยอยู่สักพักเพื่อที่จะลิ้มรสชาดของน้ำอยาก ก่อนที่จะครอบปากลงไปเรื่อยๆ ด้วยความใหญ่ของลำควยทำให้เด็กหนุ่มหายใจแทบไม่ออก แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหวังให้เพื่อนรุ่นพี่ลืมความทุกข์ได้บ้าง
"โอ....โอ๊ย .....ซี๊ต....ดูดแรงๆหน่อยไอ้ต่อ อ้า....." ความเงี่ยนของสินชัยได้พุ่งขึ้นถึงขีดสุด เขาเอามือมากระชากกางเกงขาสั้นของเด็กหนุ่มจนขาดลิ่ว เผยให้เห็นลำควยหัวแดงสดของเด็กหนุ่มแข็งโด่รออยู่แล้ว
"ไอ้ต่อ..เอาควยของมึงหันมาทางนี้..กูจะดูดให้มึงดู อ้า...แล้วมึงก็ดูดแบบกู ฟันของมึงจะได้ไม่กัดลำควยกู"
สองหนุ่มต่างถิ่นนอนดูดควยให้กันและกันในท่า69 โดยมีสินชัยสาธิตวิธีการดูดควยที่ถูกต้องให้ต่อศักดิ์ไปในตัว หัวควยแดงสดของเด็กหนุ่มผลุบเข้าผลุบออกอยู่ในโพรงปากของบาร์เทนเดอร์หนุ่มขี้เงี่ยนจนเงาวับไปทั้งลำควย
"อ้า....อ้า....พี่เอ ผมเสียวตรงหัวควยครับพี่เอ ดูดตรงหัวแรงๆหน่อยครับ อ้า อ้า ผมเสียว โอ้..." หนุ่มน้อยวัย17ปีกว่าๆ ไม่เคยให้ใครดูดควยมาก่อนถึงกับครางลั่นห้อง "อ้าาา อ้า อ้า โอ้ยยยย เสียว อ้า อ้า" ไอ้หนุ่มน้อยเผลอกระเด้าเย็ดปากบาร์เทนเดอร์หนุ่มอย่างลืมตัว ส่วนมือของเด็กหนุ่มก็กระทุ้งลำควยมหึมาของบาร์เทนเดอร์ขี้เย็ดถอกเข้าถอกออก จนหัวควยสีคล้ำบานเบ่งอย่างเห็นได้ชัด น้ำใสๆไหลเยิ้มเต็มอุ้งมือของเด็กหนุ่ม
"มันส์ไหมวะไอ้ต่อ...กูดูดควยเก่งไหมวะ กูดูดให้มึงเต็มทีเลยนะเว้ย อ้า....โอ๊ยยยย" สินชัยคายควยของต่อศักดิ์ออกจากปากเพื่อหายใจ แล้วถามเด็กหนุ่มถึงรสชาดของการโดนดูดควยเป็นครั้งแรกในชีวิต "เสียวไหมไอ้ต่อ..."
"โคตรเสียว...เลยพี่เอ ดูดควยให้ผมอีกนะครับ อ้า...น้ำควยผมจะแตกแล้ว อ่า....ซี๊ต...."
"ไอ้ต่อ...ให้กูเย็ดมึงได้ไหมวะ กูเงี่ยน อ้า...อ้าาาาาาา"
"อย่าเพิ่งเลยครับ ผมกลัวเจ็บ อ้า...ควยพี่เอโคตรใหญ่เลยอ่ะ เอาไว้วันหลังนะครับ ให้ผมทำใจก่อน อ้า...อ้า เสียว"
"ก็ได้วะ...มึงชักว่าวให้กูเร็วๆซิ โอ้ยยย...อ้า...น้ำเงี่ยนกูจะแตกแล้วโว้ย อ้า.....โอ๊ยยยยยย. แม่งมันส์ฉิบหาย กระทุ้งควยกูแรงๆเลยไอ้ต่อ โอ๊ย อ้า....."
"พี่เอครับ...น้ำควยผมออกแล้ว อ้า.......ซี๊ต โอ้เสียว อ้า อ้า อ้า" น้ำเงี่ยนสีขาวขุ่นของเด็กหนุ่มทะลักออกมาจากท่อควยอย่างมากมาย จนเต็มอุ้งมือของสินชัยในตอนนี้
"ไอ้ต่อ...น้ำกูจะแตกแล้ว อ้า... แดกน้ำเงี่ยนให้กูหน่อย ดูดตรงหัวควยกูแรงๆ อ้า โอ่ โอ้ โอ๊ย " เด็กหนุ่มก้มลงไปงับท่อนควยมหึมาของสินชัยเข้าปากอย่างว่าง่าย น้ำรักของไอ้หนุ่มชงเหล้าไหลลงสู่ลำคอของหนุ่มน้อยพเนจรเหมือนท่อควยแตก มันทะลักล้นปากจนเขากลืนแทบไม่ทัน บางส่วนของน้ำเงี่ยนไหลย้อยออกมาตรงมุมปาก...สินชัยก้มลงไปประกบปากของต่อศักดิ์เพื่อดูดกินน้ำเงี่ยนของตัวเองอย่างหื่นกระหาย
"ไอ้ต่อ...กูชักเริ่มรักมึงแล้วว่ะ ไอ้น้องรัก" สินชัยจูบปากของเด็กหนุ่มจนน้ำรักและน้ำลายของทั้งคู่ไหลเยิ้มรวมกัน
"ตอนนี้ชีวิตของผม ก็มีแต่มีเอกับพี่สองเท่านั้นแหละครับ ผมไม่มีใครเลยนอกจากพี่ทั้งสองคน ผมรักพวกพี่ครับ"
"แล้วถ้ากูอยากได้มึงมาเป็นเมียของกูล่ะ มึงจะว่ายังไง"
"ได้ซิครับพี่เอ...พี่จะได้ตัดใจจากนายน้อยได้สักที ผมสงสารพี่นะครับ"
"จริงๆนะไอ้ต่อ มึงอย่าโกหกกูนะเว้ย"
"แต่พี่เอควยโคตรใหญ่เลย...ตูดผมต้องทะลุแน่ๆเลยครับ"
"กูก็ต้องเย็ดเบาๆซิวะ เมียซิงๆอย่างมึงอ่ะต้องถนอมหน่อยโว้ย"
"พี่เอบ้าว่ะ...ผมยังไม่ได้เป็นเมียพี่เลยนะ" หนุ่มน้อยหน้าแดง
"วันนี้ยังไม่ได้เป็น...แต่พรุ่งนี้ไม่แน่โว้ย ฮา ฮา ฮา มามะ มาให้กูหอมซะดีๆ ไอ้เสี่ยวของกู"
"ไม่เอา ไม่เอา เดี๋ยวก็หื่นอีกหรอก อย่า อิ อิ ผมจั๊กจี้ พี่เอ อย่า อิ อิ อิ "
สองหนุ่มต่างวัย นอนแก้ผ้ายอกล้อเล่นกันด้วยความรักใคร่ อยู่บนเตียงนอนอันแสนอบอุ่นของพวกเขาทั้งคู่
................................
"แอ๊นซิ่ว....สงสัยพี่จะไม่สบายซะแล้วลีซอ" สองภพพูดหลังจากนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
"เป็นเพราะนายน้อยตากฝนเมื่อวานนี้แน่ๆเลยครับ"
"ไม่เป็นไรมากหรอกน่า แค่เป็นไข้นิดหน่อย เดี๋ยวก็หายครับ" หนุ่มพม่าเดินเข้ามาจับตัวของชายคนรักด้วยความเป็นห่วง...แล้วเดินไปที่ตู้ยาประจำบ้าน
"กินยาก่อนครับนายน้อย" ลีซอส่งยาแก้ไข้ให้ชายหนุ่ม
"เดี๋ยวตอนบ่ายๆลีซอพา ไอ้เอกับเจ้าต่อ ไปซื้อเสื้อผ้าในเมืองหน่อยนะครับ อาทิตย์หน้ารีสอร์ทจะเปิดแล้ว จะได้มีชุดคาวบอยไว้ใส่กันทุกคน"
"ครับนายน้อย...ไปที่ร้านเก่าใช่ไหมครับ"
"ใช่...บอกเขาว่าพี่ให้มาซื้อเพราะเจ้าของร้านเขารู้ว่าพี่ต้องการเสื้อผ้าแบบไหน.... รีบไปรีบกลับนะครับ พี่คิดถึง"
"ได้ครับ....นายน้อยอย่าลืมกินยานะครับ แล้วถ้าจะไปคอกม้าก็เอายาติดตัวไปด้วยนะครับ...เดี๋ยวผมเอาใส่กระเป๋ากางเกงไว้ให้"
"ครับคุณเมีย"
"หึ หึ ถ้างั้นผมพาพี่เอกับเจ้าต่อ ไปซื้อเสื้อผ้าในเมืองก่อนดีกว่า...จะได้กลับมาเร็วๆ มาให้ยาม้าสีทองด้วย"
"ครับผม"
...............................
สองภพขี่ม้าไผ่ทองไปด้วยความเร็วจนฝุ่นตลบกลบทางลูกรัง เขาขี่ผ่านคอกม้าในไปทางเนินเขาหลังฟาร์มม้าซึ่งเป็นป่าไม้หนาทึบ
"ไอ้นายน้อย...มึงจะไปไหน" ภูแสงตะโกนดังลั่นฟาร์ม เมื่อเห็นเพื่อนรักของเขากำลังขี่ม้าผ่านไปด้วยความรีบร้อน
"กูจะไปตามหาไอ้น้อยสีทอง กูเห็นมันเดินหลงไปทางป่าทึบหลังเขา" ชายหนุ่มชะลอความเร็วลงแล้วหันมาตะโกนตอบอย่างรีบๆ
"เฮ้ย..อย่าไปนะเว้ย ฝนจะตกแล้ว มันอันตราย"
"กูจะไปตามไอ้สีทองกลับมาให้ได้ มันยังเล็กอยู่นะโว้ย...กูสงสารมัน มึงไม่ต้องมาห้ามกูเลย"
"แล้วไอ้ลีซอมันหายหัวไปไหน ทำไมมันไม่ดูแลม้าให้ดีๆ ไอ้เหี้ยนี่วอนซะแล้ว" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนตะโกนด่าน้องชายนอกสายเลือด
"กูใช้ให้มันไปซื้อของที่ตลาด" พอพูดจบสองภพก็ควบม้าออกไปด้วยความเร็วโดยไม่สนใจคำพูดของภูแสง
"ไอ้นายน้อย...รอกูด้วย กูไปด้วย"
"ถ้าจะไปก็รีบมาตามมานะโว้ย เดี๋ยวไม่ทันไอ้สีทอง" สองภพตะโกนออกมาโดยไม่หันหน้าไปมอง ภูแสงกระโดดขึ้นหลังม้ามณีดินแล้วขี่ตามหลังนายน้อยไปอย่างกระชั้นชิด
.............................
สองหนุ่มผูกม้าไผ่ทองกับม้ามณีดินไว้ตรงทางขึ้นเขาที่สองภพเห็นม้าน้อยสีทองเดินเข้าไป บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ป่าสงวนที่หนาทึบไม่มีผู้คนเข้าไปมากนักนอกจากเจ้าหน้าที่ดูแลป่า
"ไอ้นายน้อย...เราเดินเข้ามาลึกแล้วนะเว้ย กลับกันเถอะฝนจะตกแล้ว" ภูแสงจับแขนนายน้อยไว้ เพื่อห้ามไม่ให้ไปต่อ
"ถ้ามึงอยากกลับ มึงก็กลับไปก่อน กูจะหาไอ้สีทองให้เจอ"
"เฮ้ย..นายน้อย..ทำไมมึงตัวร้อนอย่างงี้วะ" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนกระชากเพื่อนรักให้หยุดเดิน แล้วจับรวบแขนไว้แน่น
"ปล่อยกูไอ้แสง กูจะไปตามหาม้าของกู"
"แต่มึงกำลังไม่สบายอยู่นะโว้ย...นายน้อย"
"กูไม่เป็นไร ปล่อยกูไอ้แสง" สองภพดิ้นจนหลุดจากพันธนาการแล้ววิ่งเข้าไปในป่าทึบ เพื่อมุ่งหน้าตามหาม้าน้อยสีทอง
"ทำไมมึงดื้ออย่างนี้วะ แม่งเอ้ยย" ภูแสงตะโกนร้องลั่นป่าด้วยความโมโห
"กูจะเข้าไปอีกนิดนึง เผื่อจะเจอมัน กูสงสารมัน มันกำลังไม่สบายอยู่นะโว้ย"
"ไอ้สีทองมันอาจจะหลุดเข้าไปในไร่ของนายเรือรบก็ได้ มันคงไม่ได้มาแถวนี้หรอก กลับกันเถอะ เดี๋ยวหลงป่านะเว้ย...ฝนจะตกแล้ว"
"แต่กูเห็นมันเดินมาแถวนี้ ถ้ามึงขี้ขลาด...มึงก็กลับไปก่อนไอ้แสง ไม่ต้องเป็นห่วงกู" นายน้อยยังคงดื้อไม่ลดละ
"แม่งเอ้ยยยย ไอ้บ้า ไอ้ดื้อ" ภูแสงตะโกนดังลั่นป่า แล้วก็วิ่งตามนายน้อยไปด้วยความเป็นห่วง
เมฆฝนตั้งเคล้าท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม เสียงฟ้าร้องคะนองไปทั่วผืนป่า แล้วฝนห่าใหญ่ก็สาดเทลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว สองหนุ่มเพื่อนรักวิ่งหาที่หลบฝนกันชุลมุนอยู่นานทีเดียว หนทางในป่ามืดมิดจนแทบจะมองไม่เห็นแสงอะไรเลย นอกจากท้องฟ้าที่สลัว สองหนุ่มเข้าไปยืนหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้ๆกับเนินหินที่ยื่นออกมาพอที่จะหลบฝนได้บ้าง
"กูบอกแล้วว่าอย่าเข้ามา..อย่าเข้ามา..หลงป่าจนได้ แม่งเอ้ยยย...ทำไมมึงไม่เชื่อกูบ้างวะ" ภูแสงคำรามออกมาดังลั่นโดยที่ไม่ได้หันไปมองนายน้อยของเขาเลย
"ไอ้แสง....กูหนาว" เสียงอันแผ่วเบาหลุดออกมาจากลำคอของนายน้อย ริมฝีปากของชายหนุ่มขาวซีตสั่นระริกด้วยฤทธิ์ไข้ป่า ภูแสงหันไปมองตามเสียงเรียกนั้น พร้อมๆกับร่างกายของนายน้อยก็ทรุดพรวดลงไปกองกับพื้น
9.
(ความเดิม)
"ไอ้แสง...กูหนาว" เสียงอันแผ่วเบาหลุดออกมาจากลำคอของนายน้อย ริมฝีปากของชายหนุ่มขาวซีตสั่นระริกด้วยฤทธิ์ไข้ป่า ภูแสงหันไปมองตามเสียงเรียกนั้น พร้อมๆกับร่างกายของนายน้อยก็ทรุดพรวดลงไปกองกับพื้น
"เฮ้ย..นายน้อย อย่าเป็นไรนะเว้ย" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนตะโกนเสียงดังด้วยความตกใจและวิ่งเข้ามาพยุงตัวของนายน้อยให้ลุกขึ้น เขาพานายน้อยมานั่งพิงตรงโขดหินเพื่อที่จะหลบฝน...เขามองไปรอบๆบริเวณนั้น แล้วพูดว่า "มึงรอกูอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวกูมา"
ภูแสงวิ่งผ่าสายฝนออกไปเพื่อที่จะหาสถานที่ที่พอจะหลบฝนได้ดีกว่าตรงนั้น ไม่นานนักเขาก็เจอถ้ำเล็กๆตรงเนินเขาที่อยู่ไม่ห่างไกลกันมากนัก เขาใช้ไฟฉายปากกาที่ห้อยอยู่กับพวงกุญแจส่องสำรวจภายในถ้ำ เมื่อเขาแน่ใจว่าทุกอย่างปลอดภัยดี เขาก็กลับมาพานายน้อยไปหลบฝนอยู่ในถ้ำแห่งนั้น เขาค่อยๆวางนายน้อยลงบนใบไม้ขนาดต่างๆกันที่เขาหามารองไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
"นายน้อย..อดทนหน่อยนะเว้ย หนาวไหมเพื่อน"
"หนาว...กู...นา นาว หนาว" เสียงนายน้อยร้องสั่นด้วยความหนาว
"กูจะทำไงวะ แม่งเอ้ย.."
หลังจากที่สองหนุ่มได้เข้าไปหลบฝนอยู่ในถ้ำได้ไม่นาน ฝนห่าใหญ่ที่สาดเทลงมาก็หยุดตกเหมือนกลั่นแกล้งกันชัดๆ...ฟ้าหลังฝนเริ่มสดใสขึ้นมาอีกครั้ง เดือน,ดาว ส่องสว่างเต็มท้องฟ้า จะเหลือก็เพียงอากาศที่ยังคงหนาวเย็นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว พระจันทร์ดวงโตส่องแสงร่ำไรไปยังถ้ำเล็กๆที่สองหนุ่มเพื่อนรักใช้เป็นที่หลบภัย...พอเห็นเป็นแสงสีนวลได้อย่างชัดเจน
"หนาว...กูหนาว"
"ไอ้นายน้อย...เสื้อผ้ามึงเปียกหมดเลย เดี๋ยวมึงเป็นปอดบวม มา..กูจะถอดให้"
ไอ้หนุ่มเลือดร้อนพยุงตัวเพื่อนรักให้ลุกนั่ง แล้วจัดการถอดเสื้อผ้าของนายน้อยออกจนหมด เพื่อที่จะเอามาบิดน้ำให้หมาด...ตอนนี้ร่างกายของนายน้อยนอนเปลือยเปล่าอยู่บนใบไม้สีเขียวที่ปูรองพื้นถ้ำไว้ ภูแสงเห็นร่างเปลือยที่นอนอยู่ตรงหน้า ทำให้เขาใจสั่นไม่น้อยเลยทีเดียว...เรือนร่างที่ขาวสะอาดของนายน้อยน่าสัมผัสเป็นยิ่งนัก ไอ้หนุ่มเลือดร้อนเอื้อมมือไปสัมผัสเรือนร่างนั้นด้วยความเสน่หาเกินห้ามใจ...ความเงี่ยนที่เขาต้องเก็บง่ำเอาไว้ในสันดานดิบได้ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว...สองมือของเขาลูบไล้เรือนร่างอันขาวสะอาดนั้นด้วยความหื่นที่ส่อออกมาทางดวงตาอย่างเห็นได้ชัด
"ไอ้แสง..อา เอายาในกระเป๋ากางเกงให้กูกินหน่อย กู...นาว..หนาว" เสียงของนายน้อยยังคงสั่นด้วยฤทธิ์ไข้
"ยาอะไรวะ"
"ยะ ยาแก้ไข้ ไอ้ลีซอมันใส่กระเป๋าไว้ให้ อือ อือ อือ"
"ได้ ได้ เดี๋ยวกูเอาให้" ภูแสงหันไปเอายาตามที่นายน้อยบอก "นายน้อย..กินยา" เขาป้อนยาให้เพื่อนรักพร้อมกับน้ำฝนที่หามาได้
"ไอ้แสง...กูหนาว จุดกองไฟ กู..หนาว"
"กูไม่มีไม้ขีดไฟ...จะจุดได้ยังไงวะ"
"อ้า อ้า...กอดกูหน่อย กู นาว หนาว"
ไอ้หนุ่มเลือดร้อนลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด...เพื่อที่จะถ่ายเทเอาไออุ่นจากร่างกายของเขาให้เพื่อนรัก ทันทีที่ปราการด่านสุดท้ายได้หลุดออกจากเรือนร่าง...ลำควยขนาดสองกำมือโผล่ ก็เด้งออกมาท้าทายอากาศอันหนาวเย็นอย่างไม่เกรงกลัว เขาล้มตัวลงไปนอนกอดนายน้อยทางด้านหลัง ส่งผลให้ลำควยแข็งๆที่อัดแน่นไปด้วยความเงี่ยน...เสียบเข้าไปในร่องก้นของนายน้อยได้อย่างลงตัว
"เป็นไงบ้างวะนายน้อย...ดีขึ้นบ้างไหม"
"กอดกูแน่นๆ อือ อือออ..."
"อีกสักพักมึงต้องกินยาอีกนะ...ดีนะเว้ยที่ไอ้ลีซอมันเอายาใส่กระเป๋าไว้ให้มึง" ภูแสงพูด
"ไอ้แสง กุ กู ขอโทษ"
ไอ้หนุ่มเลือดร้อนยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มนายน้อยเบาๆ...ลมหายใจอุ่นๆของเขาได้ลอยไปกระทบกับซอกคอของนายน้อย จนนายน้อยสะดุ้งด้วยความสยิวแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา...เขากอดนายน้อยเอาไว้แน่นด้วยความรักระคนสงสาร
"ฝนหยุดตกแล้วนายน้อย รอให้ฟ้าสลัวก่อนนะ กูจะพามึงออกจากที่นี่ให้ได้...ไม่ต้องห่วงนะนายน้อย"
"ขอบใจ...ไอ้แสง"
"ไม่เป็นไร" ภูแสงตอบสั้นๆ
"กูรักมึงนะไอ้แสง อือ อือ.."
"กูก็รักมีงนายน้อย"
พอไอ้หนุ่มเลือดร้อนได้ยินคำว่ารักออกมาจากปากของนายน้อย...อารมณ์ความเงี่ยนที่อัดแน่นอยู่เต็มลำควยก็ได้บังเกิดขึ้นอีกครั้งและรุนแรงยิ่งขึ้น เขาไซร้ซอกคอของนายน้อยด้วยความกระหายในรสเสน่หาอย่างลืมตัว...เขาสูดดมกลิ่นกายของนายน้อยเข้าเต็มปอดด้วยความหื่นอย่างหยุดไม่ได้
"มึงจะทำอะไรกู...ไอ้แสง" สองภพตกใจ
"เนื้อตัวมึงหอมจังเลยว่ะ ของกูจูบหน่อยนะเว้ย กูเงี่ยน...อ้าาา"
"อย่า..ไอ้แสง..กูไม่สบาย อย่า...อย่า"
ยังไม่ทันที่นายน้อยจะพูดจบ..ไอ้หนุ่มเลือดร้อนก็สอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของนายน้อยอย่างรวดเร็ว เขาดูดลิ้นกินน้ำลายของนายน้อยอย่างหิวโหย...
น้ำลายของสองหนุ่มผสมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวจนไหลย้อยออกมาจากปาก ภูแสงสวมวิญญาณหนุ่มเหนือบ้าพลังเซ็กส์...เขาเอามือขึ้นมาเช็ดน้ำลายที่กำลังไหลออกมาอย่างมากมาย แล้วเอาไปละเลงตรงลำควยผสมกับน้ำอยากที่ไหลเยิ้มอยู่ตรงรูควยก่อนหน้านี้แล้ว เขารูดลำควยของตัวเองจนเงาวาววับกระทบกับแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามา ส่งผลให้ลำควยยักษ์ดุ้นนั้นสะท้อนแสงสวยงามน่าสัมผัสดีทีเดียว
ด้วยความเงี่ยนที่บังตา..หารู้ผิดชอบชั่วดีไม่ ไอ้หนุ่มเลือดร้อนยัดลำควยขนาดสองกำโผล่หัวบานเป็นดอกเห็ด เข้าไปในรูตูดของนายน้อยด้วยความหื่นเต็มพิกัด...นายน้อยดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอาการของนายน้อยเลยแม้แต่นิดเดียว
"ไอ้แสง...อย่าทำกู กูเจ็บ อย่า อ้ากกกก..."
"นายน้อยขอกูเย็ดเถอะนะ..กูทนไม่ไหวแล้ว..ตัวมึงหอมเหลือเกิน" ชายหนุ่มกระทุ้งลำควยเข้าไปในรูตูดของนายน้อยอย่างเต็มแรงจนมิดด้าม เสียงหัวควยกระทบผนังตูดของนายน้อยดัง กึก กึก กึก
"อ้ากกกกกกกก กูเจ็บ เอาออก เจ็บบบบ"
"นายน้อย..ทนหน่อยนะเว้ย เดี๋ยวน้ำเงี่ยนกูก็แตกแล้ว อ้า อ้า ซี๊ตตตต..." ภูแสงเริ่มกระเด้ารูตูดของนายน้อยเร็วขึ้นเรื่อยๆ "ผับ ผับ ผับ"
"ไอ้แสง..มึงเย็ดกูทำไม ไอ้เหี้ย..กูจะฟ้องพ่อ โอ้ย..กูเจ็บ"
"นายน้อย...กูขอโทษ แต่กูเงี่ยน อ้าาา อ้า...กูทนไม่ไหว อ้าาาา อ่า...ตูดมึงฟิตฉิบหาย อ้า...อ้าาาาา "
"โอ้ยยย...ไอ้แสง อ้าก...ควยมึงใหญ่ เจ็บ เอาออก โอ้ย...เอาควยออก"
ไอ้หนุ่มเลือดร้อนหาฟังนายน้อยไม่ เขากระหน่ำเย็ดนายน้อยอย่างเมามันส์ ซอยยิกๆจนตัวของนายน้อยไถลไปข้างหน้าตามแรงอัดกระเด้าของเขา
"อ้า...โอ้ย....อ่า...อ้าาา น้ำเงี่ยนกูจะแตกแล้ว อ้า ทนอีกหน่อยนะนายน้อย อ่า อ่า โอ้ยยยยยย...เสียว อู๊ยยย..."
"ไอ้แสง..โอ้ย..เบาๆหน่อยซิวะ กูไม่สบายอยู่นะเว้ย อ้า...อ้า..อ้า"
"อ้าาา...มึงเริ่มเสียวแล้วใช่ไหมนายน้อย...เดี๋ยวกูจะเย็ดมึงให้เสียวกว่านี้ อ้าาาา ซี๊ต...อู๊ตต อ่าาาาาา.."
"ไม่เอา...มึงจะทำอะไรกู ไม่เอา อ้า อ้า อ้า โอ้ย..."
"มึงจับคอกูไว้แน่นๆนะนายน้อย กูจะอุ้มมึงเย็ด อ้า อ้าาาาา ชี๊ต..." ภูแสงพูดเสียงหื่น
"กูไม่มีแรง เดี๋ยวกูตก โอ้ยยย อ้า...อย่าทำกู"
นายน้อยต้องจำยอมทำตามที่ภูแสงหนุ่มเหนือพลังม้าบรรพชาการทุกอย่าง ก็เพราะลำควยขนาดคิงไซส์ของภูแสงยังคาอยู่ในรูตูดของนายน้อยยากที่จะหลุดออกมาได้ง่ายๆ หนุ่มเหนือขี้เงี่ยนอุ้มนายน้อยขึ้นมาอย่างช้าๆ เขาบอกให้นายน้อยกอดคอของเขาเอาไว้แน่นๆ...เขาอุ้มนายน้อยเดินเย็ดไปรอบๆถ้ำด้วยความมันส์อย่างสะอารมณ์
"อ้า...อ่า...ซี๊ตตตตตต โอ้..โอ้..โอ๊ย..โคตรเสียวลำควยเลยว่ะ"
"อย่าทำกู..เดี๋ยวกูตก อ้า อ้า " น้ำเสียงของนายน้อยเริ่มอ่อนแรงลงบ้างแล้ว หลังจากที่โดนภูแสงกระหน่ำเย็ดมาร่วมครึ่งชั่วโมง
"โอ๊ย...อ้า มันส์ไหมวะนายน้อย กูเสียวหัวควยฉิบหาย อ้า อ้า"
ไอ้หนุ่มเลือร้อนเดินกระเด้าเย็ดนายน้อยอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย...เขาเดินออกมานอกถ้ำโดยที่ควยยักษ์ยังคาอยู่ในรูตูดของนายน้อย เขาเดินกระเด้าไปเรื่อยๆท่ามกลางสายลมแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา...ภูแสงเย็ดนายน้อยในท่าอุ้มแตงอยู่นานทีเดียว
"ซี๊ต...อ้า เย็ดกลางแจ้งอย่างงี้ แม่งมันส์ดีว่ะ อ้า อ้า ซี๊ต..."
"ไอ้แสงกูเหนื่อย เข้าถ้ำเถอะ อ้า อ้า กูหนาว"
"ได้..ได้ กูขอโทษนายน้อย อ้า อ้า เดินไปเย็ดไป สุดยอด โอ๊ยยยย"
"ปล่อยกูลงได้แล้ว อ้า อ้า โอ้ย....." สองภพขอร้องภูแสงหลังจากที่เข้ามาในถ้ำ
"อีกแป๊บเดียว อ้า...กูชอบยืนเย็ดมากกว่า อ้า อ้า น้ำเงี่ยนกูจะแตกแล้ว อ้า อ้า ไม่ไหวแล้ว โอ้ยยยย ซี๊ตตตตต อ้า น้ำเงี่ยนแตกแล้ว อ้า อ้า" ชไอ้หนุ่มเลือดร้อนกระเด้าเย็ดชุดสุดท้ายอย่างไม่ยั้ง ในที่สุดน้ำเงี่ยนอุ่นๆก็แตกทะลักคารูตูดของนายน้อยในท่าเดินเย็ดอย่างที่เขาต้องการ...
หลังจากไฟตัณหาของซาตานที่เข้าสิงร่างของภูแสงได้มอดดับลง...เขาก็ค่อยๆวางเรือนร่างที่อ่อนแรงของนายน้อยลงบนพื้นอย่างช้าๆด้วยความสำนึกผิด
"มึงทำกูทำไมไอ้แสง ฮือ..ฮือ" สองภพหันหลังให้เพื่อนรักด้วยความโกรธระคนเสียใจ
"กูขอโทษ..กูห้ามใจตัวเองไม่ได้..กูขอโทษนายน้อย" ภูแสงคุกเข่าลงข้างๆ
ในค่ำคืนนั้นภูแสงนอนกอดสองภพเอาไว้แน่น ทั้งคู่ตกอยู่ในความเงียบ สองหนุ่มเพื่อนรักต่างก็ร้องไห้ออกมาพร้อมๆกัน...แต่น้ำตาของพวกเขาทั้งสองคนมีความหมายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ภูแสงร้องไห้ออกมาด้วยความสำนึกผิดที่ล่วงเกินต่อผู้มีพระคุณ ส่วนสองภพร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บใจที่ถูกเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
...............................
ทางด้านนายใหญ่ได้สั่งลูกน้องที่เป็นชายฉกรรจ์ร่วม50คน ช่วยกันออกตระเวณตามหาสองภพกับภูแสงอยู่ทั้งคืนโดยที่ไม่มีใครได้พักผ่อนเลยแม้แต่คนเดียว ลีซอกับสินชัยเป็นคนไปพบม้ามณีดินกับม้าไผ่ทองอยู่ตรงทางขึ้นเขา ส่วนนายใหญ่ได้พบม้าน้อยสีทองอยู่ทางเนินเขาอีกด้านนึง พวกเขาแน่ใจว่าทั้งสองภพและภูแสงต้องหลงป่าในคืนวันฟ้าคะนองนั้นอย่างแน่นอน นายใหญ่จึงขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ให้ช่วยลงสำรวจผืนป่าในบริเวณนั้น...เพื่อที่จะตามหาลูกชายคนกลาง
................................
พอฟ้าสางภูแสงได้ตื่นขึ้นมาใส่เสื้อผ้าให้สองภพและตัวเอง อาการของสองภพดีขึ้นพอสมควรเพราะได้ยาลดไข้ของลีซอช่วยเอาไว้ แต่ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่มากทีเดียว ชายหนุ่มทั้งสองเดินป่าออกมาด้วยความเงียบไม่มีเสียงพูดคุยใดๆทั้งสิ้น ภูแสงคอยสังเกตุอาการของสองภพทุกๆนาทีด้วยความเป็นห่วง
หลังจากที่ทั้งสองหนุ่มเดินป่าออกมาได้สักระยะหนึ่ง สองภพก็หมดแรงลงไปอีกครั้งเพราะฤทธิ์ไข้ป่ากำเริบ...ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างคนหมดพลัง ภูแสงเอายาแก้ไข้ให้สองภพกินอีกครั้ง แล้วจับตัวสองภพขึ้นขี่หลังเพราะเขารู้ดีว่าในเวลาอย่างนี้ไม่สามารถที่จะรออะไรได้อีกแล้ว นายน้อยของเขาต้องการหมอโดยเร็วที่สุด เพราะร่างกายของนายน้อยอ่อนแรงมากจนไม่สามารถที่จะทนต่อความหนาวได้อีกแล้ว หากปล่อยไว้นานอาจจะรุนแรงถึงชีวิตได้
ไอ้หนุ่มเลือดร้อนแบกนายน้อยไว้บนหลังแล้วออกเดินทางโดยเร็ว เขาเดินไปร้องไห้ไปตลอดทางเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อค่ำคืน...เขากระทำสิ่งที่เลวร้ายต่อผู้มีพระคุณและไม่มีทางสู้อย่างนายน้อยได้ยังไง หัวใจชั่วๆของเขาในตอนนี้สงสารนายน้อยเสียเหลือเกิน ทำไมสิ่งชั่วช้าถึงได้เข้าสิงจิตใจของเขาได้ถึงเพียงนี้ นายน้อยเป็นเพื่อนที่ดี..เป็นเจ้านายที่ดีมาตลอดทั้งชีวิต แต่สิ่งที่เขาตอบแทนให้นายน้อยก็คือความชั่วช้าอันเกิดจากแรงตัณหาราคะของตัวเขาเอง เขาจะทำยังไงถ้านายน้อยหายเป็นปรกติ..เขาจะกล้าอยู่สู้หน้ากับนายน้อยอยู่อีกหรือ นั้นคือสิ่งที่ภูแสงคิดอยู่ตลอดเวลาในระหว่างการเดินป่า
10.
(ความเดิม)
เขาจะทำยังไงถ้านายน้อยหายเป็นปรกติ เขายังจะกล้าอยู่สู้หน้านายน้อยอยู่อีกหรือ นั้นคือสิ่งที่ภูแสงคิดอยู่ตลอดเวลาในระหว่างการเดินป่า
.......................
ลุงคำแสงกับลีซอคุ้นเคยกับป่าแถวนี้เป็นอย่างดี สองพ่อลูกต่างสายเลือดจึงรับอาสาที่จะออกตามหาสองหนุ่มที่หายตัวไปในป่า..ส่วนเจ้าหน้าที่ก็กำลังระดมช่วยกันออกตามหาด้วยอีกแรง นายใหญ่พาลูกน้องกว่าสิบคนออกตระเวณตามหาแถวๆน้ำตกที่อยู่ด้านหลังรีสอร์ทคนเมืองคาว สินชัยกับต่อศักดิ์ก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย
"ป้อคำ...เดี๋ยวป้อไปกับพวกเจ้าหน้าที่เน้อ ระวังตั๋วตวยนะคับ" ลีซอตะโกนบอกลุงคำแสงให้แยกย้ายกันออกตามหา...พอพูดเสร็จหนุ่มพม่าก็วิ่งเข้าป่าไปอีกทางหนึ่งด้วยความรวดเร็ว
"แล้วเอ็งจะไปไหน...ลีซอ" ลุงคำแสงตะโกนถาม
"ผมจะไปดูทางหน้าผาคับป้อคำ"
"ระวังตัวนะลูก ทางมันชัน"
"คับป้อ" ลีซอตอบ
หนุ่มลีซอวิ่งเข้าป่าไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย ในใจของหนุ่มพม่าเป็นห่วงชายอันเป็นที่รักเสียเหลือเกิน "นายน้อย...นายน้อย นายน้อยอยู่ไหนครับ" เขาวิ่งไปตะโกนไป "อ้ายแสง...อ้ายแสงคับ"
........................
สองภพยังคงนอนหมดสติอยู่บนหลังของภูแสงด้วยความหนาว อาการของชายหนุ่มไม่ดีขึ้นแม้แต่น้อยถึงแม้ว่าจะได้ยาไปแล้วก็ตาม ภูแสงกึ่งวิ่งกึ่งเดินด้วยความกระวนกระวายใจเพราะกลัวว่านายน้อยของเขาจะเป็นอันตรายไปมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าเขาจะรีบแค่ไหน...เขาก็ยังต้องระวังหนทางที่คดเคี้ยวไปด้วยป่าไม้อันหนาทึบ เขาคุ้นเคยกับเส้นทางในป่าแห่งนี้ดีพอๆกับลีซอ...และตอนนี้เขาจำได้ว่า เส้นทางที่เขากำลังเดินอยู่ในเวลานี้ใกล้จะถึงหน้าผาแล้ว ห่างจากหน้าผาอีกประมาณครึ่งกิโล ก็จะถึงทางขึ้นเขาที่น้อยนายพาเขาวิ่งเตลิดเข้ามา
"ไอ้นายน้อย...จะถึงแล้ว กูจำทางได้แล้ว มึงอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะเว้ย ฮือ ฮือออ..." ไอ้หนุ่มเลือดร้อนสะอื้นและพูดพรรณากับตัวเองเพื่อหวังว่าจะให้นายน้อยได้ยินและตอบรับเขาบ้าง
"นายน้อย...นายน้อย...อ้ายแสง...นายน้อยครับ ผมมาช่วยแล้ว นายน้อยอยู่ไหนครับ" เสียงของหนุ่มลีซอตะโกนดังลั่นป่า จนฝูงนกกาพากันบินหนีไปด้วยความตื่นตกใจ
"ไอ้ลีซอ...กูอยู่ทางนี้...ทางนี้โว้ย" ภูแสงได้ยินเสียงน้องชาย เขาดีใจจนยิ้มออกและตะโกนตอบรับทันที
"อ้ายแสง....ผมมาช่วยแล้ว" ลีซอวิ่งไปตามเสียงอย่างรวดเร็ว
"นายน้อยไม่สบายมาก เร็วๆไอ้ลีซอ....กูอยู่ทางนี้"
ไม่นานนักทั้งสามหนุ่มก็วิ่งมาเจอกันอยู่ตรงกลางระหว่างหน้าผาพอดี ภูแสงเห็นลีซอวิ่งเข้ามา..เขาถึงกับเข่าอ่อนด้วยความหมดแรงและทรุดตัวลงไปกับพื้นทันที
"อ้ายแสง...นายน้อยเป็นอะหยัง" ลีซอตะโกนถามเมื่อเห็นอาการของชายอันเป็นที่รัก
"นายน้อยเป็นไข้ป่า หือ หือ...มึงพานายน้อยออกไปจากที่นี่เร็วๆ หือ หือออ..."
"เอานายน้อยขึ้นหลังผม" ลีซอบอก
หนุ่มพม่าคนซื่อแบกชายคนรักไว้บนหลังแล้วก็วิ่งออกไปด้วยความว่องไว โดยมีภูแสงเดินตามไปติดๆ สามหนุ่มต่างสายเลือดเดินลุยป่าลงมาจนถึงทางขึ้นเขา...ตรงที่ม้าแสนรู้ทั้งสองตัวยืนรอเจ้านายทั้งสามของมันอยู่ ลีซอพาสองภพขึ้นหลังม้าไผ่ทองและควบออกไปด้วยความเร็ว ภูแสงขี่ม้ามณีดินตามไปอย่างกระชั้นชิด
ไม่นานนักทุกคนก็ไปรวมตัวกันที่บ้านซุ้มนาย นายใหญ่เอารถตู้ออกแล้วพาลูกชายคนกลางไปส่งโรงพยาบาลทันที โดยมีคุณขวัญเชิญนั่งร้องไห้กุมมือลูกชายไปตลอดทาง หนึ่งสยามกับสามเมืองนั่งอยู่ข้างๆมารดา
"คุณแม่ครับ..เดี๋ยวสองก็ถึงโรงพยาบาลแล้วครับคุณแม่" หนึ่งสยามปลอบใจผู้ให้กำเนิด
"ทำไมต้องเข้าไปในป่าด้วยลูก อือ อือออ..ม้าแค่ตัวเดียว มันไม่มีค่าเท่ากับชีวิตของลูกหรอกนะตาสอง...อย่าเป็นอะไรไปนะลูก โธ่...ตาสองลูกแม่ ฮือ...ฮือ" มารดาร้องไห้ปานจะขาดใจ
"พี่สองเขาก็รู้ตัวว่าตัวเองกำลังไม่สบายอยู่ แล้วยังจะอวดเก่งอีก อ่อนแอชมัด...สมน้ำหน้า" ยังไม่ทันทีสามเมืองจะพูดจบก็มีเสียงดัง "โป๊ก" ลงกลางกบาลของชายหนุ่ม
"พี่หนึ่งเขกหัวผมทำไม" น้องชายตัวแสบหันไปมอง
"แกยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าพี่เขกหัวแกทำไม...หุบปาก...อย่าพูดมาก...ไม่งั้นจะโดนมากกว่านี้" หนึ่งสยามหันมาตะคอกน้อง
"อย่าทะเลาะกันเลยลูก พี่เขาไม่สบายอยู่นะตาสาม อือ อืออ" เสียงของผู้เป็นแม่ดังขึ้น
"ถ้าแกไม่รักไอ้สอง...แล้วแกเสือกตามมาทำไมไอ้สาม" นายใหญ่ตะโกนด่าสามเมืองลั่นรถ
"แล้วใครบอกว่าผมไม่รักล่ะ" สามเมืองพูดออกมาเบาๆ ทุกคนบนรถหันไปมองหน้าของชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ
........................
สินชัยกับต่อศักดิ์ก็มีอาการร้อนใจไม่แพ้กัน สองหนุ่มจึงตัดสินใจเดินไปหาลีซอกับภูแสงที่บ้านพักของลุงคำแสงเพื่อถามอาการของนายน้อย...
"ไอ้แสง..นายน้อยเป็นไงบ้างวะ" สินชัยเดินตรงเข้าไปถามที่เตียงนอนของภูแสง
"เป็นไข้ป่า"
"แล้วทำไมพี่แสงไม่ห้ามนายน้อยไม่ให้เข้าป่าละครับ" หนุ่มพเนจรเอ่ยปากถามด้วยความอยากรู้
"ไอ้นายน้อยมันดื้อจะตาย...มันเคยฟังใครที่ไหนล่ะ" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนพูดอย่างหัวเสีย
"เมื่องี้นายใหญ่โทรมาบอกว่า นายน้อยออกจากห้องฉุกเฉินแล้ว พรุ่งนี้พวกเราไปเยี่ยมกันได้" ลุงคำแสงพูดหลังจากวางสายโทรศัพท์ แล้วเดินเอายาไปให้ลูกชายกิน
"วันพูกไปเยี่ยมนายน้อยตวยกั๋นเน้ออ้ายแสง...ไปไหวก่อ" ลีซอพยุงตัวพี่ชายให้ลุกนั่งเพื่อที่จะกินยา
"กูไม่ไป" ภูแสงพูดสั้นๆแล้วก้มหน้าลง
........................
วันถัดมาหลังจากที่ทุกคนไปเยี่ยมสองภพที่โรงพยาบาล...ภูแสงเดินออกมานั่งหลังโรงฟางตรงที่ประจำของเขา ชายหนุ่มกำลังนั่งขบคิดว่าเขาควรจะทำยังไงดีกับปัญหาที่กำลังจะตามมา อยู่ๆก็มีเสียงของใครบ้างคนดังขึ้นตรงบริเวณรั้วลวดหนาม
"มึงมานั่งทำเหี้ยอะไรตรงนี้วะ ไม่ไปเยี่ยมไอ้ตุ๊ดเหรอ" นายเรือรบปากดีโผล่ออกมาตอนไหนก็ไม่รู้
"ผมไม่สบายครับนายรบ"
"แต่หน้าตาของมึงเหมือนกำลังมีปัญหา...มีอะไรหรือเปล่าวะ"
"ไม่มีอะไรครับ ผมแค่ปวดหัว" ภูแสงหันหน้าหนี
"กูไม่เชื่อ...คนอย่างมึงโรคภัยไข้เจ็บไม่ได้แดกได้ง่ายๆหรอก หนังหนายังกะควาย มึงเป็นไรวะไอ้แสง บอกกูมาเถอะ เผื่อกูจะช่วยมึงได้"
"จริงๆนะครับนายรบ"
"ก็จริงซิวะ มีเรื่องอะไร..ว่ามา" นายเรือรบรอฟังคำตอบ
"ผม...ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วครับนายรบ"
"ทำไมวะ...มึงมีปัญหากับไอ้สองเหรอ"
"ครับ"
"กูว่าแล้ว...ไอ้สองมันจะเอามึงทำผัวล่ะซิ ฮา ฮา ฮา" นายเรือรบหัวเราะอย่างสนุกในคำพูดของตัวเอง
"ไม่ใช่อย่างงั้นนะครับ แต่ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วครับ ผมเบื่อ..นายน้อย" ภูแสงกั้นใจพูด
"ถ้าอย่างงั้น...มึงมาทำงานที่ไร่ของกูก็ได้ กูชอบไอ้พวกหนังหนาอย่างมึง"
"ไม่ได้นะครับ...ผมไม่อยากอยู่ที่นี่ ผมอยากหนีไปให้ไกลๆ"
"อะไรของมึงวะไอ้แสง...มึงจะหนีไปไหน"
"ที่ไหนก็ได้ครับ...ให้มันไกลๆจากที่นี่ ผมไม่อยากเจอนายน้อย" ประโยคสุดท้ายชายหนุ่มก้มหน้าแล้วพูดอย่างไม่เต็มเสียง
"เอา...เอา...เอา..ถ้าอยากไปนักกูจะจัดให้ แล้วมึงพร้อมจะไปเมื่อไหร่"
"พรุ่งนี้ครับนายรบ"
"ไอ้เหี้ย...ใจร้อนจังนะมึง เอาวะ..ไหนๆไอ้สองมันก็ไม่ชอบขี้หน้ากูอยู่แล้ว ให้มันเกลียดอีกสักหน่อยจะเป็นไรไปวะ เอางี้...พรุ่งนี้ตอนเช้ามืดมึงมารอกูที่หน้าไร่ลิ้นจี่"
"ขอบคุณครับนายรบ"
11.
ภายในบ้านพักของลุงคำแสงในช่วงเวลาเช้ามืด...ภูแสงกำลังเก็บเสื้อผ้าสองสามชุดยัดใส่เป้ทหารอย่างรีบร้อน แต่การกระทำของเขาก็ไม่สามารถหลุดพ้นไปจากสายตาของผู้เป็นบิดาได้
"เอ็งจะไปไหนแต่เช้ามืดไอ้แสง ไม่สบายอยู่นะโว้ย"
"ฉันไม่เป็นไรแล้วจ้ะพ่อ"
"ข้าถามว่าเอ็งจะไปไหน" ผู้เป็นพ่อถามซ้ำด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น
"พ่อจ๋า...ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วพ่อ" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนน้ำตาคลอ เดินไปกอดผู้เป็นบิดาไว้แน่น
"ทำไมล่ะลูก...เป็นอะไร ใครไปทำอะไรเอ็ง"
"ไม่มีใครทำอะไรฉันหรอกพ่อ แต่ฉันจำเป็นต้องไป"
"บอกข้าได้ไหมไอ้แสง ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอ็ง" ลุงคำแสงถามเบาๆ
"ฉัน...ฉันบอกไม่ได้จ๊ะพ่อ ฮือ..ฮือ..." น้ำตาของลูกผู้ชายไหลอาบแก้ม เขาก้มลงไปกราบผู้เป็นบิดาแทบเท้า
"ไอ้แสง...แล้วเอ็งจะปล่อยให้ข้าอยู่คนเดียวเหรอลูก ข้ารักเอ็งนะไอ้แสง ข้ามีเอ็งคนเดียว...อย่าทิ้งพ่อไปเลยลูก พ่อแก่แล้วนะลูก" ชายชราลูบหัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของแกไว้ด้วยความรักและสงสาร
"ฉันก็รักพ่อนะจ๊ะ...แต่ฉันจำเป็นต้องไป ฮือ..ฮือ..ถ้าฉันไม่ไปในตอนนี้ อือออ..เราสองคนพ่อลูก อือ..อาจจะถูกนายน้อยไล่ออกไปจากบ้านก็ได้นะจ๊ะ ฉันไม่อยากให้พ่อต้องมาลำบากเพราะฉัน อือ อือ"
"แล้วทำไมนายน้อยต้องไล่เราด้วย บอกพ่อได้ไหมลูก"
"ไม่จ้ะ ฮือ...ฮือ ฉันบอกพ่อไม่ได้ แล้วฉันจะแอบมาเยี่ยมพ่อนะจ๊ะ"
"โธ่...ไอ้แสงลูกพ่อ แล้วเอ็งจะไปอยู่ที่ไหนล่ะลูก เอ็งไม่รู้จักใครเลยนี่ลูก"
"ฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปอยู่ที่ไหน แต่พ่อไม่ต้องเป็นห่วงฉันนะจ๊ะ..แล้วฉันจะโทรมาบอกพ่อทีหลัง ฉันต้องไปแล้วจ้ะพ่อ..เดี๋ยวฟ้าสาง"
"เดี๋ยวลูก..." ชายชราเดินไปเปิดลิ้นชักแล้วหยิบเงินออกมาจำนวนหนึ่ง "เก็บเอาไว้ใช้นะลูก...กลับมาหาพ่อบ้างนะไอ้แสง ฮือ..ฮือ" สองพ่อลูกเดินออกมาที่หน้าบ้าน แล้วกอดกันแน่นด้วยความรักความอาลัย
"พ่อจ๋า...ฉันรักพ่อนะจ๊ะ ฮือ ฮือ..."
"ไอ้แสงลูกพ่อ...ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองเอ็งด้วยนะลูก ฮือ ฮือ..."
"ฉันลาจ้ะพ่อ"
ชายชรายืนร้องไห้อยู่ที่หน้าบ้านเพียงลำพัง...แกมองดูลูกชายคนเดียวของแกเดินห่างออกไปจนไกลลับตา
.....................
อากาศตอนเช้ามืดในวันนี้หนาวเย็นมากทีเดียว ภูแสงยืนกอดอกอยู่ที่หน้าไร่ลิ้นจี่ของนายเรือรบ วันนี้ชายหนุ่มแต่งตัวด้วยชุดลำลองแบบทหาร เสื้อยืดสีดำกับกางเกงทหารตัวเก่งของเขา...ความสูงถึง180กว่าๆบวกกับใบหน้าอันคมเข้มแบบชายชาตรี ส่งผลให้ไอ้หนุ่มเลือดร้อนอย่างเขาดูสง่าและมีเสน่ห์ขึ้นมาในทันที.... ไม่นานนักก็มีรถกระบะสีน้ำเงินกลางเก่ากลางใหม่วิ่งมาจอดตรงหน้าเขา นายเรือรบและลูกสมุนอีกสองคนลงมาจากรถกระบะคันดังกล่าว
"รอกูนานไหมวะไอ้แสง" เจ้านายคนใหม่เอ่ยทักทาย
"ไม่นานครับนายรบ"
"นี่ไอ้มั่นกับไอ้เจต พวกมันจะพามึงไปทำงานที่โน่น" นายเรือรบแนะนำให้พวกหนุ่มๆได้รู้จักกัน
"สวัสดีครับพี่" ภูแสงยกมือไหว้ลูกสมุนทั้งสองของนายเรือรบ
"หวัดดีน้อง" ไอ้เจตรับไหว้
"เออ..สวัสดีน้อง" ไอ้มั่นก็ทำเช่นเดียวกัน
"เราจะไปที่ไหนกันครับนายรบ"
"กูไม่ได้ไปกับพวกมึงนะเว้ย...ไอ้สองคนนี้มันจะพามึงไปทำงานที่มุกดาหาร"
"มุกดาหาร" ภูแสงทวนคำเบาๆ
............................
สองภพอาการดีขึ้นมาก หลังจากได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์และพยาบาล ชายหนุ่มกำชับให้แพทย์ปิดบังอาการป่วยโดยละเอียดของเขาไว้... เพราะเขาไม่ต้องการให้คนในครอบครัวได้รับรู้เรื่องของเขากับภูแสง
"แม่ครับ...พรุ่งนี้สองคงกลับบ้านได้แล้วล่ะครับ"
"ยังไม่หายดีเลยนะลูก อยู่โรงพยาบาลอีกสักพักเถอะลูก"
"แต่สองไม่ได้เป็นอะไรแล้วครับแม่ สองหายแล้วครับ"
"ดื้อจริงๆเลยนะตาสอง" "เพี๊ยะ" คุณขวัญเชิญตีที่ต้นแขนของลูกชายเบาๆ
"ก็สองเป็นห่วงรีสอร์ทคนเมืองคาวนี่ครับ...อีกไม่กี่วันรีสอร์ทก็จะเปิดแล้ว"
"พี่หนึ่งเขาก็ดูแลให้สองอยู่นี่ลูก"
"แต่มันก็ไม่เหมือนกันอยู่ดี...สองอยากไปดูความเรียบร้อยด้วยตัวเองครับ" ชายหนุ่มยิ้มให้มารดา
"งั้นก็ตามใจ" มารดาค้อน
"ป๊อก ป๊อก ป๊อก" เสียงเคาะประตูดังขึ้น ไม่นานนักก็มีสุภาพสตรีต่างวัยสองคนเดินเข้ามาภายในห้อง
"สวัสดีค่ะคุณขวัญเชิญ...เป็นไงบ้างตาสอง" คุณสุพรรษาทักทายอย่างเป็นกันเอง
"สวัสดีครับน้าษา...ผมไม่เป็นไรแล้วครับ" สองภพไหว้สาวสูงวัย
"ไปไหนมาคะคุณษา...ถึงได้แวะมาที่นี่" คุณขวัญเชิญถาม
"แวะอะไรกันคะ...ดิฉันตั้งใจพายัยหนูแดงมาเยี่ยมว่าที่เจ้าบ่าวต่างหากล่ะคะ" ชายหนุ่มสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเมื่อถูกทักว่าเป็นเจ้าบ่าว
"สวัสดีค่ะป้าขวัญ" หนูแดงยกมือไหว้คุณขวัญเชิญ แล้วพูดต่อว่า "พี่สองใจดำจังเลยนะคะ เข้าโรงพยาบาลก็ไม่ยอมบอกหนูแดงสักคำ เชอะ...หนูแดงงอนแล้วด้วย" สาวร่างอวบวัย23ปี พูดด้วยน้ำเสียงประชดเล็กน้อย
"ผมไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับหนูแดง พรุ่งนี้ก็จะกลับบ้านแล้วครับ"
"ดีค่ะ...หนูแดงจะได้ตามไปเยี่ยมที่บ้าน อิอิอิ หนูแดงอยากไปดูสถานที่ปลูกเรือนหอของเราด้วยค่ะ"
"กรรม" ชายหนุ่มอุทานเบาๆ
"อะไรนะคะ พี่สองพูดอะไรคะ หนูแดงไม่ได้ยิน"
"เออ..เออ..ไม่มีอะไรครับ"
"น่ารักจังเลยนะคะหนุ่มสาวคุยกัน..กระหนุงกระหนิงเชียว คุณพี่คะดิฉันว่าเราลงไปหากาแฟดื่มข้างล่างกันดีกว่าค่ะ..ปล่อยให้หนุ่มสาวเขาอยู่กันตามลำพังดีกว่านะคะ.." สาวใหญ่ไฮโซจีบปากจีบคอพูด ประหนึ่งเกรงว่าลูกสาวร่างอวบจะขายไม่ออก
"ค่ะ..ค่ะ ก็ได้ค่ะ" คุณขวัญเชิญหันไปมองลูกชายด้วยความเข้าใจ แต่ก็ต้องเดินตามคุณสุพรรษาออกไปอย่างไม่เต็มใจนัก
"แม่ครับ...สอง"
"อะไรจ๊ะ..ตาสอง" คุณสุพรรษาหันมาถาม
"เออ...ไม่มีอะไรครับน้าษา" สองภพฝืนยิ้มที่มุมปาก
"งั้นเราไปกันเถอะค่ะคุณพี่..."
หลังจากที่สุภาพสตรีสูงวัยทั้งสองท่านเดินพ้นประตูไป หนูแดงก็เดินเข้ามานั่งบนเตียงข้างๆสองภพทันที เธอแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัวของชายหนุ่มอย่างเต็มที่
"พี่สองคะ...เมื่อไรพี่สองจะไปดูชุดแต่งงานกับหนูแดงสักที หนูแดงตัดเสร็จแล้วนะคะ หนูแดงอยากให้พี่สองไปดูว่าสวยถูกใจพี่สองหรือเปล่า" หญิงสาวถือโอกาสจับมือชายหนุ่มด้วยความสนิทสนม
"ไม่ต้องดูก็ได้ครับ ผมว่าหนูแดงใส่อะไรก็สวยครับ" สองภพตอบอย่างเสียไม่ได้
"ไม่ค่ะ...หนูแดงไม่ยอม พี่สองต้องไปลองชุดแต่งงานกับหนูแดงด้วยค่ะ"
"ถ้างั้นก็แล้วแต่หนูแดงเถอะครับ"
"เราไปอาทิตย์หน้าเลยนะคะ"
"แต่ผมต้องเปิดรีสอร์ทคนเมืองคาวนะครับ...เกรงว่าจะไม่ได้"
"พี่สองใจดำ หนูแดงไม่ยอม หนูแดงจะฟ้องคุณแม่" หญิงสาวทำท่าทางสะดีดสะดิ้งจนพุงกระเพื่อม
"อย่างอแงซิครับ..หนูแดงไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ เอางี้...แล้วผมจะโทรไปบอกอีกครั้งแล้วกัน" ชายหนุ่มพูดตัดความรำคาญ
สองภพได้ยินเสียงคนเปิดประตูห้องแล้วเดินเข้ามา ชายหนุ่มหันไปมองด้วยความดีใจ...เพราะเขารู้สึกรำคาญสาวร่างอวบคนนี้ซะเหลือเกิน แต่สีหน้าของเขาก็ซีตลงทันที เพราะคนที่เดินเข้ามาในครั้งนี้คือลีซอ
ภาพที่หนุ่มลีซอเห็นอยู่ข้างหน้าช่างเป็นภาพที่บาดใจของเขาเป็นอย่างยิ่ง สาวร่างอวบกำลังนั่งอยู่บนเตียงคนไข้และจับมือของสองภพเอาไว้อย่างถนุถนอม...ลีซอเดินเข้าไปอย่างช้าๆ แต่สายตาของเด็กหนุ่มก็ยังคงจ้องอยู่ที่ใบหน้าของสองภพตลอดเวลา
"ลีซอ" สองภพอุทานออกมาพร้อมกับดึงมือออกจากอุ้งมือของสาวร่างอวบ
"นายใหญ่ให้ผมเอาผลไม้มาเยี่ยมนายน้อยครับ" ลีซอวางกระเช้าผลไม้ไว้บนโต๊ะ
"ขอบใจยะ...วางไว้ตรงนั้นแหละ แล้วเธอก็ออกไปได้แล้ว ฉันจะคุยกับพี่สองต่อ" หนูแดงสำแดงฤทธิ์
"ครับ" หนุ่มพม่าก้มหน้าลง แล้วเดินออกไปอย่างช้าๆด้วยความเศร้า
"ลีซอ ลีซอ อย่าเพิ่งไป ลีซอ ฟังพี่ก่อน" สองภพตะโกนเรียกชายคนรัก แต่หนุ่มลีซอก็ไม่ได้หันหลังกลับมามอง
"พี่สองจะเอาอะไรคะ เรียกมันทำไม"
"ทำไมคุณต้องไล่คนของผมด้วย" ชายหนุ่มหันมาขึ้นเสียงกับหนูแดง
"ก็ให้มันกลับไปเลี้ยงม้าต่อซิคะ มาทำไมก็ไม่รู้ เนื้อตัวก็สกปรก เหม็นขี้ม้าจะตาย ยี้...แหวะ" สาวอวบทำท่ารังเกลียด
"หนูแดง..คุณอย่าพูดแบบนี้ให้ผมได้ยินอีก..ผมไม่ชอบ" ชายหนุ่มเสียงเข้ม
"ทำไมล่ะคะพี่สอง"
"ผมก็เป็นคนเลี้ยงม้าเหมือนกัน"
"จะเหมือนกันได้ยังไง พี่สองเป็นเจ้านาย..แต่ไอ้กะเหรี่ยงนั้น มันเป็นแค่ขี้ข้านะคะ"
"ที่ฟาร์มม้าของผมไม่มีคำว่าเจ้านายไม่มีคำว่าขี้ข้า..ทุกคนเท่ากันหมด หนูแดงครับ..ผมง่วงนอน คุณกลับไปก่อนเถอะ" ชายหนุ่มหันหน้าหนี
"พี่สอง..พี่สองใจร้าย พี่สองไล่หนูแดง ฮือออ...หนูแดงจะฟ้องคุณแม่"
"ขอโทษ...ผมต้องการพักผ่อน"
หญิงสาวร่างอวบเกินพิกัด วิ่งร้องไห้ออกไปด้วยความอายระคนเสียใจ
.......................
"นายน้อยเป็นไงบ้างวะ..ลีซอ" สินชัยถามถึงอาการของเพื่อนรัก
"หายเป็นปรกติแล้วพี่เอ เจ้าชู้ได้เหมือนเดิมแล้ว" หนุ่มพม่ากระแทกเสียงเบาๆ
"มึงเป็นอะไรของมึงไอ้ลีซอ..เจ้าชู้อะไรของมึง" สินชัยงงกับคำพูดของลีซอ
"นั้นนะซิ...พี่สองเขาอยู่โรงพยาบาล แล้วพี่สองจะไปเจ้าชู้กับใครได้ครับพี่ลีซอ" ต่อศักดิ์ถามด้วยความสงสัย
"อีชะนีอ้วน" พอพูดจบหนุ่มลีซอก็เดินขึ้นข้างบนอย่างไม่สนใจใคร ทิ้งให้อีกสองหนุ่มมองตามด้วยความงง
"ไอ้ลีซอมันเป็นอะไรวะ ชะนีที่ไหน" สินชัยหันไปพูดกับต่อศักดิ์
"ผมก็ไม่รู้ครับ ชะนีอ้วนซะด้วย"
"เวลาไอ้ลีซอมันหึง แม่งน่ารักดีนะเว้ย มึงว่าไหม..ไอ้ต่อ"
"น่ารัก...แต่อย่าไปรักนะครับ เพราะพี่ลีซอเป็นของนายน้อย"
"แล้วมึงละไอ้ต่อ..เป็นของใคร" สินชัยเดินเข้ามากอดหนุ่มน้อยด้วยความหมั่นเขี้ยว
"ผมก็เป็นของพี่เอไงครับ"
"แล้วเมื่อไหร่..มึงจะให้กูเย็ดตูดสักทีล่ะวะ ชักว่าวทุกวัน..กูเบื่อจะตายอยู่แล้วนะไอ้ที่รัก" บาร์เทนเดอร์หนุ่มร้อนรักแสดงอาการหื่นขึ้นมาทันที
"ผมให้พี่เอเย็ดคืนนี้ก็ได้ครับ แต่พี่เอต้องทำเบาๆนะ...ผมกลัวเจ็บ"
"จริงๆนะเว้ย..กูรับปากว่ากูจะเย็ดมึงอย่างถนุถนอมที่สุดเลยไอ้ต่อ ไอ้เหี้ยเอ้ยย...ดีใจฉิบหายเลย คืนนี้กูจะมีเมียแล้ว ไชโย...ไชโย" สินชัยตะโกนดังลั่นบ้าน ด้วยความคะนองปาก
"เบาๆครับพี่เอ เดี๋ยวคนในคอกม้าได้ยิน"
12.
(ความเดิม)
"จริงๆนะเว้ย..กูรับปากว่าจะเย็ดมึงอย่างถนุถนอมที่สุดเลยไอ้ต่อ ไอ้เหี้ยเอ้ยย...ดีใจฉิบหายเลย คืนนี้กูจะมีเมียแล้ว ไชโย..ไชโย" สินชัยตะโกนดังลั่นบ้านด้วยความคะนองปาก
"เบาๆครับพี่เอ เดี๋ยวคนในคอกม้าได้ยิน"
.......................
บรรยากาศภายในห้องนอนของสองหนุ่มต่างถิ่นในเวลานี้ หอมอบอวนไปด้วยกลิ่นดอกไม้ป่า แสงสว่างจากเทียนไขสี่ห้าเล่มและเงาธรรมชาติจากพระจันทร์ดวงโตได้ส่องแสงสลัวๆเข้ามาทางหน้าต่างบานเล็กๆ ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและความโรแมนติกภายในห้องนอนของสองหนุ่มมากยิ่งขึ้น สินชัยเดินเข้าไปหาหนุ่มน้อยพเนจรด้วยความรักความเสน่หา...สองหนุ่มสบตากันด้วยความรักใคร่
บาร์เทนเดอร์หนุ่มร้อนรักก้มลงไปดึงกางเกงขาสั้นของหนุ่มน้อยต่อศักดิ์ออกจากตัวอย่างช้าๆ เขาเงยหน้าขึ้นมามองและส่งสายตาอันหวานเยิ้มให้เด็กหนุ่มอยู่ตลอดเวลา เขาจับลำควยที่สะอาดและบริสุทธิ์ของเด็กหนุ่มเข้าปากอย่างชำนาญการ...เขาดูดเลียตรงหัวควยสีสดอยู่หลายรอบอย่างเอร็ดอร่อย
"ซี๊ตตต พี่เอครับ ทำเก่งจัง ผมเสียวหัวควยเหลือเกิน อ้าาา อ้าาา" หนุ่มน้อยเสียวสะท้านทรวง
"พิเศษสำหรับมึงไง อุตส่าห์จะให้กูเย็ดในวันนี้..ชอบไมล่ะ" สิยชัยเงยหน้าขึ้นมาตอบ
"อ้า...อ้า..ชอบซิครับ"
บาร์เทนเดอร์หนุ่มก้มหน้าก้มหน้าดูดดุ้นควยสะอาดด้วยความหื่นกระหาย ใบหน้าหล่อๆของเขามองหนุ่มน้อยอยู่ตลอดเวลา
"อู้ววว..อ้า พี่เอพอก่อนครับ เดี๋ยวน้ำเงี่ยนผมแตก อ่า เสียวเหลือเกิน..โอ้..โอ้ย..พี่เอแก้ผ้าซิครับ ผมอยากเห็นควยใหญ่ๆของพี่เอแล้ว" เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอยาก
สินชัยคายลำควยบริสุทธิ์ออกจากปากทันที เขาลุกขึ้นยืนแล้วดึงเสื้อกล้ามบางๆจนขาดลิ้ว กระชากกางเกงในออกจากตัวภายในเวลาไม่ถึงสิบวินาที ลำควยขนาดมหึมาสีเข้มหัวบานเบ่งมีน้ำอยากไหลเยิ้มอยู่เต็มรูควยเด้งออกมาท่าทางสายตาของเด็กหนุ่มทันที บาร์เทนเดอร์ขี้เย็ดลากแขนหนุ่มพเนจรมาที่เตียงนอน แล้วผลักร่างของหนุ่มน้อยให้ล้มลงบนเตียงอย่างแรง เขาทิ้งตัวไปบนร่างของเด็กหนุ่มในทันที...ปลายลิ้นของเขาไซร้ซอกคอและติ่งหู จนเด็กหนุ่มขนลุกซู่ ลำควยทั้งสองดุ้นบดเบียดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย น้ำอยากของทั้งคู่ไหลออกมาผสมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
"ไอ้ต่อ...กูเงี่ยนเหลือเกินว่ะ อ้า..อ้าาา"
"ผมก็เงี่ยนครับพี่เอ ซี๊ดดด อู้ววว อ่า พี่เอครับบดควยผมแรงๆหน่อยครับ อ้า..ผมเสียว"
สิยชัยดูดเลียหัวนมสีชมพูของหนุ่มพเนจรจนน้ำลายเยิ้ม เขาไซร้ขึ้นไปที่ซอกคอและสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของหนุ่มน้อยอ่อนเดียงสาด้วยความหื่นอย่างรุนแรง...สองหนุ่มต่างวัยดูดลิ้นกินน้ำลายของกันและกันด้วยความร้อนแรงท่ามกลางไฟเสน่หา
"ไอ้ต่อครับ..กูจะเย็ดมึงแล้วนะ อ้า..เงี่ยนฉิบหาย ซี๊ต..กูทนไม่ไหวแล้ว"
"ครับพี่เอ..เย็ดเลยครับ..ผมก็เงี่ยนครับ โอ๊ยยยย..อ้าาาา..อ้า"
"ไอ้ต่อครับ..มึงเอาน้ำลายของมึงมาให้กู อ้า..ควยกูใหญ่..น้ำลายกูคนเดียวไม่พอหรอก อ้าาา"
หนุ่มน้อยต่อศักดิ์อ้าปากให้สินชัยอย่างรู้งาน บาร์เทนเดอร์ขี้เย็ดเอาลิ้นไปชงในโพรงปากของหนุ่มพเนจรอยู่นานโข เขาดูดเอาน้ำลายจากช่องปากของเด็กหนุ่มออกมาจนหมดสิ้น...เขาบ้วนน้ำลายใส่ลำควยมหึมาของตัวเองจนเยิ้ม แล้วจับขาทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มยกขึ้นสูงจนเห็นรูสวาทอย่างถนัดตา ส่วนตัวเขาลงไปยืนตรงขอบเตียง แล้วค่อยๆเสียบส่วนหัวของลำควยมหึมาเข้าไปในรูตูดบริสุทธิ์ของหนุ่มน้อยอย่างช้าๆ
"เจ็บนิดเดียวนะไอ้ต่อ..กูจะค่อยๆเย็ดมึง อ้า..ฟิตฉิบหาย โอ๊ยยย แม่ง..จะเข้าได้ไหมวะ ซี๊ตตตต อ้า.."
"โอ้ย..พี่เอ โอ้ย..ผมเจ็บ อ้ากกกก ฮือ..อือ..อ๊ากกกก" เด็กหนุ่มร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดตรงรูสวาท
"ไอ้ต่อ..อย่าร้องซิวะ อ้า..เดี๋ยวก็หายเจ็บ เชื่อกู อ้า..อ้า..อ้าาา" สินชัยเห็นน้ำตาของต่อศักดิ์ไหลออกมาทำให้เขาตกใจจนหน้าซีต...เขาก้มลงไปกอดเด็กหนุ่มไว้แน่นด้วยความรักระคนสงสาร แต่ส่วนหัวของลำควยมหึมาก็ยังคาอยู่ในรูตูดของหนุ่มน้อยไม่ยอมหลุด
"หยุดร้องไห้ได้แล้วไอ้ต่อ..กูใจไม่ดีนะเว้ย กูสงสารมึง อ้าาา อ้าาา"
"แต่ผมเจ็บนี่ อืออ..อือออ"
"ครั้งแรกก็ยังงี้แหละ..กูจะเย็ดเบาๆนะครับไอ้ต่อ"
"ครับพี่เอ..ผมรักพี่เอนะครับ อือออ"
"กูรู้แล้วว่ามึงรักกู ชื่นใจเหลือเกินไอ้ที่รัก อ้า..อ้า..อ้า" สินชัยก้มลงไปหอมแก้มของเด็กหนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยว
"พี่เอเย็ดผมเบาๆนะครับ โอ้ยยย" เด็กหนุ่มกระซิบบอกอีกครั้ง
ในที่สุดบาร์เทนเดอร์หนุ่มร้อนรักก็สามารถยัดลำควยมหึมาเข้าสู่รูตูดของเด็กหนุ่มจนมิดด้าม หนุ่มน้อยหลับตาปี้ด้วยความเจ็บปวดและทรมาน...แต่เขาก็ต้องทนให้ได้ เพราะความรักที่ใจสั่งมาทำให้เขาต้องยอม
"เข้ามิดควยแล้วไอ้ต่อ อ้า..อู้ววว ฟิตฉิบหาย ควยกูจะระเบิดให้ได้ อ้า..แม่งเอ้ยย..ไม่เคยเจอรูเย็ดใครฟิตเท่ามึงเลย..อ้า...อ้า"
"ผมรักพี่เอนะครับ อ่า..อ่า..อ่า"
"กูจะแช่ควยไว้ก่อน แล้วค่อยกระเด้า มึงจะได้ไม่เจ็บมาก อ้า..อ้า..โอ๊ย"
"พี่เอ..จูบปากผมหน่อยซิครับ อ่า..โอ้ยยย"
สินชัยก้มลงบดขยี้บี้ริมฝีปากสีชมพูของเด็กหนุ่มอีกครั้งด้วยความร้อนแรงจนน้ำลายแตกฟอง เพื่อที่จะระงับความเจ็บปวดของเด็กหนุ่มลงได้บ้าง ส่วนทางลำควยเขาก็ค่อยๆกระเด้าเย็ดอย่างช้าๆ เพื่อให้รูตูดของเด็กหนุ่มขยายและเปิดกว้างมากขึ้น
"เป็นไงบ้างไอ้ต่อ อ้า..หายเจ็บหรือยังวะ"
"อ้า..อ้า..ยังเจ็บอยู่เลยครับ..ซี๊ตต..แต่มันเสียวเหมือนกันครับพี่เอ อ้า..อ้า.."
"กูจะเย็ดแรงๆแล้วนะ อ้า..เดี๋ยวมึงก็จะเสียวมากกว่านี้ อ้า..อ้า..อู้ววว"
สินชัยกระเด้าเย็ดแรงขึ้นจนต่อศักดิ์หลับตาปี้ เขาบดบั้นท้ายควงสว่านอยู่ในรูสวาทของหนุ่มน้อยอย่างเมามันส์ หลายครั้งที่เขาชักลำควยออกมาจนสุดแล้วดันเข้าไปใหม่จนมิดด้าม...เสียงหัวควยกระทบกับผนังตูดของเด็กหนุ่มดัง "กึก กึก กึก" จนเขาอดที่จะหัวเราะไม่ได้
"หึ..หึ...หึ..เสียวโว้ย..มันส์ ฮา ฮา ฮา" บาร์เทนเดอร์หนุ่มรินรักกระเด้าไปหัวเราะไป
"อ้า..พี่เอหัวเราะอะไร อ้า..อ้า"
"ก็รูตูดของมึงนะซิ แม่งโคตรเล็กเลยว่ะ..อ้า..กูยัดควยเข้าไปยังไม่สุดลำเลย อู้ววว..ก็กระแทกเหี้ยอะไรไม่รู้ดัง กึก กึก กึก ฮา ฮา มันส์ดีว่ะ ซี๊ตตตต..อ้า อ้า อ้า"
"พี่เอ..เย็ดแรงๆก็ได้ครับ ผมไม่ค่อยเจ็บแล้ว อ้าาาาา เสียว อ่า.."
"ได้ครับไอ้ที่รัก..เดี๋ยวกูจะเย็ดให้มึงติดใจในรสควยของกูไปจนวันตาย อ้า..อึด อึด..อึด" สินชัยจับตัวของเด็กหนุ่มให้อยู่ท่าก้มโค้งแล้วเสยลำควยมหึมาเข้าไปจนสุดด้าม
"อ้า..อ้า..ท่านี้เป็นไงบ้าง..โอ๊ยยยย..เสียวไหมวะไอ้ต่อ..อึด อึด อึด..อ่าาาาา.."
"อ้า..พี่เอ..ผมไม่เจ็บแล้วครับ อ้าาาา เสียว เสียวครับ อ้า..เสียวรูตูด"
"กูก็เสียวลำควยเหลือเกิน น้ำเงี่ยนมึงจะแตกหรือยังไอ้ต่อ อ้า..อ้า.."
"จะแตกแล้วพี่ โอ๊ยยยยย ผมเสียว อ้า ไม่ไหวแล้วครับ อ้าาาาา"
หนุ่มน้อยต่อศักดิ์กระทุ้งลำควยของตัวเองจนน้ำเงี่ยนแตกกระจายคามือ...ส่งผลให้รูตูดของเด็กหนุ่มขมิบถี่ยิบและตอดรัดลำควยของสิยชัยจนแทบระเบิด บาร์เทนเดอร์ขี้เงี่ยนอัดแรงกระเด้าชุดสุดท้ายส่งเข้าไปในรูเย็ดสุดพลังม้า เขาซอยควยยิกๆๆๆ จนน้ำแตกทะลักคารูสวาทของคู่เย็ด
"อ้าาาาาา..โอ๊ยยยยย น้ำเงี่ยนกูแตกแล้ว อ้าาาาอ่า อ่า อ่า มันส์ฉิบหาย อ่า อ้าาาาา"
น้ำเงี่ยนของสินชัยอัดฉีดเข้าไปในรูตูดของต่อศักดิ์จนหมดกระโปก สองหนุ่มต่างถิ่นเหงื่อแตกเต็มตัวด้วยความร้อนในรสเสน่หา พวกเขาทิ้งตัวลงบนเตียงพร้อมๆกับเสียงเหนื่อยหอบจากแรงราคะที่เพิ่งผ่านพ้นไป
......................
ภูแสงได้ออกเดินทางมากับลูกสมุนของนายเรือรบจนถึงจ.มุกดาหาร เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหน และงานที่นายเรือรบจะให้เขาทำคืองานอะไร ไอ้เจตกับไอ้มั่นพาเขามาพักที่บ้านไม้หลังเล็กๆห่างไกลจากผู้คนพอสมควร บ้านหลังนี้อยู่ติดกับทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล...สามารถมองเห็นฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน
"มึงพักอยู่กับพวกกูที่นี่..ถ้ามีงานเข้ามาแล้วกูจะบอก" ไอ้เจตเป็นผู้เริ่มต้นบทสนทนา
"งานอะไรเหรอครับพี่" ภูแสงอดที่จะถามไม่ได้
"ส่งสินค้าไปฝั่งลาว"
"สินค้าอะไรเหรอครับพี่เจต"
"แล้วมึงจะรู้ไปทำไมวะ" ไอ้มั่นพูดเสียงดังด้วยความไม่พอใจ
"ก็แค่อยากรู้"
"นายใช้ให้ทำอะไรก็ทำไปเถอะ ไม่ต้องเสือกอยากจะรู้หรอก" ไอ้เจตกำชับอีกครั้ง
ไม่นานนักก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือของไอ้เจตดังขึ้น มันเดินห่างออกไปจากวงสนทนาไกลพอสมควร...แล้วจึงรับสาย
"ครับนาย"
"เป็นไงวะ..ทุกอย่างเรียบร้อยหรือเปล่า" นายเรือรบถาม
"เรียบร้อยครับนาย..แต่ไอ้เด็กใหม่มันถามมากเหมือนกันครับ"
"มันถามอะไรวะ"
"มันถามว่าจะให้มันทำงานอะไรครับนาย"
"พวกมึงก็บอกมันซิ..ว่าส่งปลากระป๋องไปฝั่งลาว แต่อย่าให้มันรู้ความจริงนะโว้ย" นายเรือรบพูดเสียงจริงจัง
"ครับนาย..แล้วนายจะให้พวกผมส่งสินค้าเมื่อไหร่ครับ"
"พรุ่งนี้..แต่ไม่ต้องให้ไอ้มั่นไปนะเว้ย ไอ้เหี้ยมั่นหน้าแม่งเก่าแล้ว..เดี๋ยวคนจำได้ มึงไปกับไอ้แสงสองคน..แต่ถ้ามันมีปัญหามาก มึงก็จัดการมันได้เลย"
"ได้ครับนาย..ครับ สวัสดีครับ"
พอวางสายจากนายเรือรบแล้ว ไอ้เจตสมุนขี้ยาก็เดินกลับเข้ามาร่วมวงสนทนาเหมือนอย่างเดิม
"นายโทรมาบอกว่าพรุ่งนี้มีงานเว้ย ไอ้แสงมึงไปฝั่งลาวกับกู"
"ครับพี่" ภูแสงตอบรับสั้นๆ
"แล้วกูละไอ้เจต กูก็ต้องการเงินเหมือนกันนะเว้ย" ไอ้มั่นโวยวาย
"นายบอกให้มึงพักก่อน"
"อะไรวะ..แม่งพอได้เด็กใหม่ก็เขี่ยกูทิ้งเลย ไอ้เหี้ย..นายเฮงซวย" ไอ้มั่นมองหน้าภูแสงอย่างไม่พอใจ
"แต่ที่นายเขาทำก็มีเหตุผลนะเว้ย..มึงมันหน้าเก่าแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาลูกเมียมึงจะซวยไปด้วย" ไอ้เจตปลอบใจเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมยาก
"ก็ได้วะ..กูจะได้กลับไปหาลูกหาเมียกูสักที"
........................
เรือประมงขนาดไม่ใหญ่นักกำลังวิ่งข้ามทะเลสีทันดรไปในความมืด เพื่อนำสินค้าไปส่งทางฝั่งลาวตามที่ภูแสงเข้าใจ ภายในเรือมีเพียงไต๋ก๋งเรือ,ภูแสงและไอ้เจตสามคนเท่านั้น...สองหนุ่มวัยไล่เลี่ยกัน กำลังนั่งซดยาดองเหล้าอยู่ใต้ท้องเรืออย่างเป็นกันเอง โดยมีตะเกียงเจ้าพายุให้แสงสลัวๆ
"ไอ้แสง..เดี๋ยวให้ถึงฝั่งโน้นก่อน กูจะพามึงเที่ยวซ่อง รับรองปลอดภัยโว้ย..ไร้เอดส์"
"พี่เจตเที่ยวผู้หญิงบ่อยเหรอครับ" ภูแสงถาม
"ก็ทุกครั้งที่กูไป..หีหญิงลาวแม่งสะอาดอย่างนี้เลย ไม่มีกลิ่นสักนิด เลียโคตรมันส์เลยมึงเอ้ย พูดแล้วเงี่ยนว่ะ" ไอ้เจตยกนิ้วโป้งขึ้นมาเพื่อการันตีในคำพูดของตัวเอง
"พี่เจตมีเมียหรือยังครับ"
"ไม่มีโว้ย..กูไม่อยากมีเมีย กูชอบเย็ดไปเรื่อยๆ..แล้วมึงล่ะไอ้แสง" ไอ้เจตหันมาถาม
"ยังไม่มีครับ..ผมอยู่กับพ่อสองคน"
"กูว่าเรานอนเอาแรงกันก่อนเถอะว่ะ กูซักเมาแล้ว เดี๋ยวไม่มีแรงเย็ดสาวลาวเว้ย..หึ หึ หึ"
"พี่นอนก่อนเถอะครับ ผมยังไม่ง่วงเลย"
"ตามใจมึง..อีกสองชั่วโมงก็จะถึงฝั่งแล้วนะเว้ย"
หลังจากที่ไอ้เจตล้มตัวนอนไปแล้ว ก็เหลือแต่เพียงภูแสงคนเดียวที่นั่งอยู่ในความมืดใต้ท้องเรือ ไอ้หนุ่มเลือดร้อนจึงเดินขึ้นมาจากใต้ท้องเรือเงียบๆ เขาเดินไปนั่งตรงหัวเรือด้วยความวิตกกังวลในสิ่งที่เขากำลังกระทำอยู่...เขามองไปกลางทะเลที่กว้างใหญ่ด้วยจิตใจที่สับสนและวุ่นวาย เขาคิดถึงลุงคำแสงพ่อของเขาเสียเหลือเกิน เพราะตั้งแต่ออกจากบ้านมาเขายังไม่เคยโทรไปหาพ่อของเขาเลย เขารู้สึกเป็นห่วงพ่อมากทีเดียว แต่ก็ยังดีที่มีลีซออยู่อีกคน...
แล้วนายน้อยของเขาล่ะจะเป็นยังไงบ้าง...เขาสงสารนายน้อยอย่างจับใจ แต่เขาก็ยังกลัวความผิดที่ได้กระทำลงไป เขาจึงไม่กล้าอยู่สู้หน้าใครๆโดยเฉพาะนายใหญ่ น้ำตาของไอ้หนุ่มเลือดร้อนไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อเขาคิดถึงนายน้อย... เวลาผ่านนานไปร่วมสองชั่วโมง แต่เขาก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมด้วยอาการเหม่อลอย...ภูแสงต้องสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เมื่อได้ยินเสียงของผู้ร่วมเดินทางดังขึ้น
"ไอ้แสง..เตรียมตัวได้แล้ว เรือจะเทียบท่าแล้วโว้ย" ไอ้เจตตะโกนลั่น
"ครับพี่เจต"
"อย่าลืมเอากระเป๋าของนายไปด้วยนะโว้ย" ไอ้เจตกำชับ
"กระเป๋าอะไรพี่"
"ก็กระเป๋าสีดำที่มึงถือมาไงล่ะ..ไอ้โง่"
"ครับพี่..จำได้แล้วครับ"
หลังจากเรือเทียบท่าก็มีคนจากฝั่งลาวมาขนปลากระป๋องเพียงไม่กี่สิบลังไปขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ภูแสงเหลือบไปเห็นไอ้เจตกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับใครบ้างคน...ไม่นานนักไอ้เจตก็เดินเข้ามาหาเขาแล้วพูดขึ้นว่า
"ไอ้แสง..เดี๋ยวมึงเอากระเป๋าใบนี้ ไปส่งให้ผู้ชายที่นั่งอยู่ในรถกระบะคันโน้นนะโว้ย..บอกเขาว่า..ลิ้นจี่"
"อะไรนะพี่..ลิ้นจี่เหรอพี่"
"เออ..ลิ้นจี่ บอกเขาว่าลิ้นจี่"
"ครับ..ครับพี่เจต"
............................
ภูแสงกับไอ้เจตเดินทางกลับมาถึงฝั่งไทยด้วยความอ่อนล้า พวกเขาอดหลับอดนอนถึงสามวันสามคืนจากการทำงานในครั้งนี้ งานครั้งแรกของภูแสงผ่านไปด้วยดี แต่เขาก็ยังอดที่แปลกใจไม่ได้ว่า...ทำไมปลากระป๋องเพียงไม่กี่สิบลังคนลาวถึงต้องสั่งซื้อจากเมืองไทยด้วย
"ไอ้แสง..นี่เงินของมึง" ไอ้เจตยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้เพื่อนร่วมงาน
"เงินอะไรครับ"
"เงินค่าจ้างของมึง" ไอ้เจตตอบสั้นๆ
"ทำไมนายรบให้เงินเร็วจังครับ"
"ทำงานครั้งหนึ่ง ก็ได้เงินเลย ทำหลายครั้งก็ได้หลายครั้ง..แต่ถ้าไม่มีงานก็ไม่มีเงิน"
"ขอบคุณครับพี่"
"วันนี้พักผ่อนให้เต็มที่นะเว้ย อีกสองวันมีงานเข้ามาอีก"
"ครับพี่"
"กูไปนอนก่อนนะเว้ย..เย็ดกระหรี่มาสามที แม่ง..โคตรเหนื่อยเลยว่ะ แล้วมึงล่ะล่อไปกี่ทีวะ" ไอ้เจตบิดขี้เกียจ
"ผมไปนั่งรอพี่เฉยๆ..ไม่ได้ขึ้นห้องครับ"
.....................
สองวันต่อมาภูแสงกับไอ้เจตได้ออกเดินทางไปฝั่งลาวด้วยเรือลำเก่าไต๋ก๋งเรือคนเก่า ในระหว่างการเดินทางทั้งสองหนุ่มก็ได้พูดคุยกันตามประสาชายโสดโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง...ไอ้เจตมักจะบรรยายความหื่นของตัวเองให้ภูแสงฟังอย่างหมดเปลือก
"ไอ้แสง..มึงเคยเห็นควยฝังมุกหรือเปล่าวะ"
"ไม่เคยพี่"
"มึงอยากเห็นไหม" ไอ้เจตกระดกยาดองเหล้าพรวดเดียวหมดเป็ก
"ควยพี่เจตฝังมุกเหรอครับ"
"กูฝังสามเม็ดเว้ย" ไอ้เจตงัดลำควยฝังมุกออกมาจากกางเกงยีนต์อย่างรวดเร็ว
"โอ้โห้..แม่งโคตรน่ากลัวเลย มุกเม็ดใหญ่ฉิบหาย..แล้วจะเย็ดใครได้วะเนี่ย" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนตาเหลือกที่ได้เห็นลำควยฝังมุกเส้นเอ็ดปูกโปกของไอ้เจตขี้ยา
"กระหรี่แม่งหีฉีกไปหลายรายแล้วนะโว้ย โดนควยกูเข้าไปอ่ะ ฮา ฮา ฮา"
"ทำไมควยพี่แข็งวะ พี่เงี่ยนเหรอครับ"
"กูก็เงี่ยนของกูทุกวันอยู่แล้ว..แต่กูจะรอไปเย็ดกระหรี่ที่ฝั่งลาวโว้ย"
"แต่ถ้าพี่เงี่ยนจนทนไม่ไหวก็ชักว่าวก่อนก็ได้นะครับ ควยพี่แข็งมากเลย เดี๋ยวผมออกไปรอข้างนอก"
"ก็ดีเหมือนกันเว้ย..แต่มึงไม่ต้องออกไปก็ได้ กูไม่อายมึงหรอก อ้า..อ้าาาา" ไอ้เจตนั่งรูดควยตัวเองเล่นด้วยความเงี่ยนจนน้ำอยากไหลเยิ้ม
"ตามสบายครับพี่ ผมออกไปรอข้างนอกดีกว่า"
"งั้นก็ตามใจมึง..เฮ้ย.ไอ้แสงกระเป๋าของนายอยู่ไหนวะ"
"อยู่ข้างบนพี่..ไม่หายหรอก"
"ระวังให้ดี..อย่าให้หายนะเว้ย โอ้ยยย ซี๊ตตตต" ไอ้เจตนั่งชักว่าวอย่างสะอารมณ์
"ครับ" ภูแสงตอบสั้นๆ
ไอ้หนุ่มเลือดร้อนเดินขึ้นมาจากใต้ท้องเรือ แล้วเดินไปนั่งที่เก่าตรงบริเวณหัวเรือ แต่พอนั่งได้สักพักเขาก็นึกถึงกระเป๋าที่ไอ้เจตพูดถึงเมื่อครู่นี้ เขาเดินตรงไปที่กระเป๋าใบนั้นทันที...แล้วหยิบมันขึ้นมาดู ภูแสงเขย่ากระเป๋านั้นเบาๆด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าข้างในนั้นคืออะไร...เพราะเขาสงสัยมานานแล้วแต่ที่แน่ๆ มันต้องไม่ใช่ลิ้นจี่อย่างแน่นอน
ไอ้หนุ่มเลือดร้อนตัดสินใจเปิดกระเป๋าออกอย่างช้าๆ...ข้างในมีสิ่งของที่ถูกห่อไว้ด้วยกระดาษอย่างหนาแน่นอยู่หลายห่อทีเดียว เขาหยิบเอามีดพกออกมาจากกางเกงทหารตัวเก่ง...แล้วตัดสินใจกรีดลงบนห่อกระดาษนั้นอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ภูแสงเห็นในเวลานี้ทำให้เขาตาค้างในทันที ทั้งยาบ้า,ยาอี,ยาไอซ์ นับหมื่นๆเม็ดที่อยู่ในกระเป๋าใบนั้น
"มึงทำอะไร..ไอ้แสง" เสียงไอ้เจตตะโกนดังลั่นอยู่ทางด้านหลัง
"ไอ้เจต..มึงค้ายาเหรอวะ พวกมึงหลอกกูนี่หว่า" ภูแสงตะโกนโต้ตอบ
"กูไม่ได้หลอกมึง นายรบต่างหากที่หลอกมึง..กูแค่ทำตามคำสั่ง"
"ไอ้เรือรบ..อย่าให้กูกลับไปได้นะมึง กูฆ่ามึงแน่ๆ ไอ้เหี้ย.." ภูแสงคำรามด้วยความแค้น
"ไอ้แสง..ส่งกระเป๋ายาส่งมาให้กู"
"กูไม่ให้..กูไม่ต้องการเห็นคนติดยาไปมากกว่านี้"
"กูบอกให้ส่งยาส่งมาให้กู..เดี๋ยวนี้" ไอ้เจตตะโกนสุดเสียงและชักปืนขึ้นมาจากเอว เล็งไปที่ไอ้หนุ่มเลือดร้อนทันที...มันค่อยๆเดินเข้าไปหาภูแสงอย่างช้าๆ
"อย่าเข้ามานะโว้ย..ถ้ามึงเข้ามาอีกก้าวเดียว..กูจะโยนไอ้ยานรกพวกนี้ลงทะเลจริงๆด้วย" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนถอยหลังหนีไปจนถึงท้ายเรือ
"มึงจะหนีไปไหนไอ้แสง..ส่งยามาให้กูเดี๋ยวนี้" ไอ้เจตเดินเข้าไปจนใกล้ในระยะทางห่างกันไม่ถึงสามก้าว
"อย่าเข้ามานะโว้ย..กูบอกว่าอย่าเข้ามา" ในที่สุดภูแสงก็ตัดสินใจโยนกระเป๋ายานรกลงทะเลอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ไอ้เจตจะเดินเข้ามาถึง
"ไอ้สัตว์..มึงรู้ไหมว่าไอ้ยาพวกนั้นมันกี่ล้าน.."
"กูไม่รู้หรอกเว้ย แต่กูไม่อยากให้ใครติดยา พวกมึงมันคนชั่ว..ไอ้พวกพ่อค้าความตาย..ไอ้พวกสัตว์นรกส่งมาเกิด"
"มึงตายไอ้แสง..ถ้ากูไม่ฆ่ามึง นายรบก็จะฆ่ากู มึงตาย..ไอ้เหี้ย"
"ปัง" "ปัง"
เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวท่ามกลางลมทะเลที่กำลังพัดกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง...เรือนร่างของภูแสงได้กระเด็นลอยละลิ่วลงสู่กลางมหานทีสีทันดร ตามแรงอัดของวิถีกระสุน
........................
งานเปิดรีสอร์ท "คนเมืองคาว" ถูกจัดขึ้นอย่างอลังการ ผู้ที่มาร่วมงานต่างก็ใส่ชุดคาวบอยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา นายใหญ่เจ้าของฟาร์มม้ารับหน้าที่เป็นประธานเปิดงานให้แก่ลูกชายคนกลางอย่างสมศักดิ์ศรี พร้อมกับเปิดตัวว่าที่เจ้าสาวไปในเวลาเดียวกัน หนูแดงยืนเคียงคู่กับสองภพอย่างออกหน้าออกตา
"หนูแดง..ผมขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ" ชายหนุ่มหันไปบอกกับสาวร่างอวบอย่างฝืนๆ
"หนูแดงไปเป็นเพื่อนค่ะ"
"จะไปทำไมครับ..ผมจะไปขี้" แล้วชายหนุ่มก็เดินออกไปโดยไม่ฟังเสียงอะไร
"ว๊าย..หยาบคาย" สาวเจ้างอนตุ๊บป่อง...แล้วเดินไปหามารดาไฮโซ
ทางด้านสินชัยและต่อศักดิ์ก็กำลังวุ่นวายอยู่กับการเสริฟ์อาหารให้กับแขกที่มาร่วมงานอย่างครบครัน
..............................
"ลีซอ..เหนื่อยไหมครับ" สองภพแอบเดินมาหาหนุ่มพม่าหลังห้องอาหารครัวคาวบอย
"ไม่เหนื่อยครับ..แต่ผมไม่ชอบคุณหนูแดงเลยครับนายน้อย"
"ไม่มีอะไรหรอกครับ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่นะ..ยังไงพี่ก็ไม่มีทางรักใครมากกว่าลีซออยู่แล้ว"
"หมายความว่า..นายน้อยจะแต่งงานกับคุณหนูแดงจริงๆเหรอครับ" ลีซอหน้าเสีย
"ครับ"
"นายน้อย..แล้วผมล่ะครับ ผมจะอยู่ได้ยังไงถ้าผมไม่มีนายน้อย ฮือ..ฮือออ" หนุ่มพม่าโผเข้ากอดชายคนรักไว้อย่างหวงแหน
"พี่ต้องตามใจพ่อนะครับ..ท่านแก่แล้ว แต่พี่ก็มีทางออกของพี่แล้วนะ..ลีซอไม่ต้องหวงหรอก"
"ทางออกอะไรเหรอครับ"
"เอาไว้ให้พี่มั่นใจกว่านี้..แล้วพี่จะบอกลีซอนะครับ"
"ก็ได้ครับนายน้อย ผมเชื่อใจนายน้อยครับ" หนุ่มพม่ายิ้มออก
"ลีซอ..ไอ้แสงไปไหนล่ะ พี่ไม่เห็นมันตั้งหลายวันแล้วนะ แล้วทำไมมันไม่มาช่วยงานของพี่" สองภพเปลี่ยนสีหน้าทันทีเมื่อเอ่ยถึงภูแสง
"อ้ายแสง..เออ..อ้ายแสง" หนุ่มพม่าไม่กล้าพูด
"ทำไมลีซอ ไอ้แสงทำไม บอกพี่มาเดี๋ยวนี้" ชายหนุ่มเค้นเอาคำตอบ
"อ้ายแสงไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วครับ...อ้ายแสงหนีไปก่อนที่นายน้อยจะออกจากโรงพยาบาลครับ"
"ไอ้แสงหนีไป..แล้วมันไปไหน ทำไมพี่ไม่รู้ แล้วทำไมไม่มีใครบอกพี่" ชายหนุ่มยิงคำถามรัวจนลีซอหน้าซีต
"ป้อคำห้ามไว้ครับ"
"ไอ้แสง..มึงหนีกูไปทำไม" สองภพยกกำปั้นทุบกำแพงด้วยความเสียใจในสิ่งที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้
13.
(ความเดิม)
"ไอ้แสงหนีไป..แล้วมันไปไหน ทำไมพี่ไม่รู้ แล้วทำไมไม่มีใครบอกพี่" ชายหนุ่มยิงคำถามรัวจนลีซอหน้าซีต
"ป้อคำห้ามไว้ครับ"
"ไอ้แสง..มึงหนีกูไปทำไม" สองภพยกกำปั่นทุบกำแพงด้วยความเสียใจในสิ่งที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้
"ผมก็เป็นห่วงอ้ายแสงเหมือนกันครับนายน้อย" หนุ่มพม่ากอดชายคนรักเอาไว้ในอ้อมแขน
"พี่ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงทำแบบนี้..ทำไมมันต้องหนีพี่ไปด้วย"
"นายน้อยทะเลาะกับอ้ายแสงเหรอครับ"
"เออ..ไม่มีอะไรหรอกลีซอ แต่..." ยังไม่ทันที่สองภพจะพูดจบ อยู่ๆก็มีเสียงของใครบ้างคนแทรกขึ้นกลางครัน
"นึกว่าหายไปไหน..ที่แท้ก็หลบมาอยู่กับไอ้ลีซอตรงนี้เอง ปล่อยให้คนอื่นเขาตามหากันให้วุ่น" สองหนุ่มคู่รักหันไปมองตามเสียงนั้น...แล้วผละออกจากกัน
"มีอะไรไอ้สาม" สองภพถามน้องชายตัวแสบ
"ตกลงพี่สองจะเอาไอ้เด็กเลี้ยงม้าทำผัวจริงๆเหรอ หึ หึ หึ" สามเมืองเดินเข้าไปหาพี่ชายด้วยท่าทางยี่ยวนกวนประสาท
"เก็บปากไว้กินข้าวดีกว่าไอ้สาม..อย่ามายุ่งกับเรื่องของกู"
"ก็ไม่อยากจะยุ่งนักหรอก..ถ้าพี่สองไม่ได้เป็นพี่ชายของผม"
"ถ้ามึงลำบากใจนัก ก็ไม่ต้องเรียกกูว่าพี่ก็ได้ไอ้สาม"
"ไม่ได้หรอก..ยังไงเราก็เป็นพี่น้องกันนะครับ" สามเมืองเสียงเบาลง
"แต่มึงเกลียดกูไม่ใช่เหรอไอ้สาม" สองภพถามน้องชายตรงๆ
"......." สามเมืองไม่ได้พูดอะไรนอกจากมองหน้าพี่ชายอย่างสงบ
"นายน้อย,นายเล็ก ผมขอตัวไปทำงานในครัวก่อนนะครับ" หนุ่มลีซอพูดทำลายความเงียบแล้วเดินเข้าครัวไป
"มึงมีอะไร..ตามหากูทำไม" สองภพถาม
"คุณแม่ให้มาตาม..เห็นบอกจะคุยเรื่องงานแต่งของพี่สองกับยัยหนูแดง" พอสามเมืองพูดจบ สองภพก็นึกขึ้นได้ว่า เขาเองก็ต้องการจะปรึกษาเรื่องนี้กับน้องชายอยู่พอดี
"เอ้อ..ไอ้สามกูมีเรื่องจะให้มึงช่วย"
"เรื่องอะไรพี่สอง"
"คุยตรงนี้ไม่ได้ว่ะ..เดี๋ยวคืนนี้กูจะไปหามึงที่บ้านซุ้มนายก็แล้วกัน..รอกูด้วยนะเว้ย"
"โอเค..." สามเมืองตอบตกลง แต่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้
...................
สองภพกับสามเมืองเดินกลับเข้ามาในงานเลี้ยงอีกครั้ง สองหนุ่มพี่น้องเดินตรงไปที่โต๊ะของนายใหญ่ซึ่งมีคุณขวัญเชิญ,คุณสุพรรษา,หนูแดงและหนึ่งสยามนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"ไปไหนมาตาสอง" คุณขวัญเชิญถามลูกชาย
"ห้องน้ำครับแม่"
"ห้องน้ำอะไร เมื่องี้ยังเห็นยืนคุยกับไอ้ลีซออยู่หลังครัว..." สามเมืองพูดหน้าตาเฉยจนพี่ชายคู่กัดต้องทุบหลังดัง "ตุ๊บ"
"พี่สอง..ผมเจ็บนะ"
"อย่าพูดมากนะมึง" สองภพกระซิบน้องชายเบาๆ ก่อนจะลงอีก "ตุ๊บ" ที่กลางหลัง
"โอ้ย..ไม่พูดก็ได้วะ..ไอ้พี่โหด" สามเมืองหันไปมองพี่ชายอย่างเคืองๆ แล้วเดินไปหลบอยู่ข้างหลังมารดาแล้วพูดว่า "คุณแม่ครับพี่สองแกล้งสามอีกแล้วครับ"
"ทำอะไรกัน ไอ้สอง,ไอ้สาม เล่นกันเหมือนเด็กไปได้..นั่งลงได้แล้ว" นายใหญ่ออกคำสั่ง
"ครับ.." สองหนุ่มตอบรับพร้อมๆกัน
"พี่น้องคู่นี้เล่นกันน่ารักจังเลยนะคะ รูปร่างหน้าตาก็ดี..รูปหล่อทั้งคู่เลย แหม..ดิฉันอิจฉาคุณพี่จริงๆเลยค่ะ..ที่มีลูกชายน่ารักอย่างนี้" คุณสุพรรษามองไปที่สองหนุ่มด้วยความเอ็ดดู
"น่ารักอะไรกันครับน้าษา..ที่น้าษาเห็นน่ะ มันเป็นแค่ภาพลวงตาต่างหากครับ" หนึ่งสยามแซวน้องชายทั้งสองคน...แล้วก็อมยิ้ม
"ยังไงคะตาหนึ่ง..ภาพลวงตา" สาวใหญ่ถามต่อ
"ก็ไอ้สองคนนี้ซิครับ มันทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว..คุณพ่อกับคุณแม่ก็เลยต้องจับแยกให้พวกมันไปอยู่กันคนละทิศคนละทาง"
"แต่ยังไงก็ยังน่ารักอยู่ดีแหละค่ะ..น้าษาชอบ"
"คุณแม่คะ..เมื่อไหร่จะคุยเรื่องของหนูแดงสักทีล่ะคะ หนูแดงรอนานแล้วนะ" สาวร่างอวบเซ้าซี้มารดา
"ค่ะ..ค่ะ..คุณลูก คุณแม่จะคุยเดี๋ยวนี้แหละค่ะ" คุณสุพรรษาตอบลูกสาวแล้วหันไปทางผู้ใหญ่ของว่าที่เจ้าบ่าว "ว่ายังไงคะคุณพี่..เรื่องงานแต่งของตาสองกับหนูแดงที่ดิฉันหาฤกษ์มาให้"
"ฤกษ์ดีมากครับคุณสุพรรษา วันที่เก้าเดือนเก้า ผมตกลงตามนี้ครับ..ว่าไงคุณขวัญเชิญ" นายใหญ่หันไปถามภรรยา
"จะไม่ถามลูกสักหน่อยเหรอคะ" คุณขวัญเชิญหันไปมองลูกชายคนกลาง
"ตาสอง..น้าษาเขาได้ฤกษ์มาแล้ว เดือนหน้าวันที่เก้า แกต้องแต่งงานกับหนูแดง ตกลงตามนี้นะลูก" นายใหญ่หันไปบอกลูกชายเสียงเข้ม
"อีกสองอาทิตย์เองเหรอครับพ่อ" สองภพมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย
"ใช่..แกมีปัญหาอะไร" ผู้เป็นพ่อถาม
"เปล่าครับ" ชายหนุ่มฝืนยิ้ม แล้วก้มหน้าลง
"ทำไมคุณพ่อไม่บอกพี่สองล่วงหน้าก่อนล่ะครับ มาบอกกะทันหันอย่างเนี่ย ใครจะไปทำใจได้" เป็นครั้งแรกที่สามเมืองเถียงแทนพี่ชาย
"ก็มันนอนป่วยอยู่โรงพยาบาล ใครจะไปบอกมันได้..ส่วนทางนี้ผู้ใหญ่เขาก็จัดการให้มันเรียบร้อยหมดแล้ว ยังไงมันก็ต้องแต่ง" นายใหญ่พูดเสียงเด็ดขาด
สามเมืองหันไปสบตาพี่ชายด้วยความเห็นใจระคนสงสาร ในส่วนลึกของจิตใจแล้ว..เขาเองก็รักพี่ชายคนนี้อยู่มากทีเดียว แต่ที่เขาต้องทำตัวเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพี่ชายคนนี้มาโดยตลอด...ก็เพราะว่าเขาแอบอิจฉาที่สองภพมัวแต่ไปเล่นสนุกสนานกับภูแสงและลีซอ จนลืมเขาและทิ้งให้เขาอยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็กโดยไม่เคยสนใจเขาเลยแม้แต่น้อย เขาเก็บเอาความน้อยเนื้อต่ำใจในสมัยที่พี่ชายของเขาเห็นคนอื่นดีกว่าเขา..มากระทั่งจนถึงทุกวันนี้ แต่เงามืดด้านลบในจิตใจของเขากำลังจะจางหายไป...เพราะตั้งแต่วันที่สองภพเข้าโรงพยาบาลเมื่อคราวก่อน ทำให้เขารู้ตัวว่าความจริงแล้วเขาทั้งรักและเป็นห่วงพี่ชายคนนี้มากเสียเหลือเกิน...แต่การกระทำและคำพูดของเขามันช่างตรงกันข้ามกับหัวใจอย่างสิ้นเชิง
...........................
กลางดึกที่บ้านซุ้มนาย สองภพกระโดดลงจากหลังม้าไผ่ทองแล้วนำไปผูกไว้กับรั้วข้างบ้าน ชายหนุ่มค่อยๆเดินขึ้นไปบนบ้านด้วยความเงียบ เขาเดินขึ้นไปบนชั้นสามซึ่งเป็นอาณาจักรของพวกเขาสามพี่น้อง "ป็อก ป็อก ป็อก" เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ
"ทำไมมาซะดึกเลยพี่สอง..ผมจะนอนอยู่แล้วนะ" สามเมืองงอแงทันทีเมื่อเห็นพี่ชาย
"ก็ต้องรอให้พ่อ,แม่ขึ้นนอนก่อนซิวะ"
"พี่สองมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมเหรอ" สามเมืองเริ่มต้นสนทนา
"มึงสัญญากับกูได้ไหมว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร..เราจะรู้กันแค่สองคนพี่น้อง"
"บอกพี่หนึ่งได้หรือเปล่า"
"ไม่ต้องบอก..เดี๋ยวพี่หนึ่งก็จะกลับอเมริกาแล้ว" สองภพลากแขนสามเมืองมานั่งบนเตียง
"โอเค..โอเค..ไม่บอกก็ได้ มีอะไรว่ามาเลย" น้องชายตัวแสบทำตาโตด้วยความอยากรู้
"มึงยังรักกูอยู่หรือเปล่าวะไอ้สาม" สองภพกั้นใจถามเบาๆ
"ถามอะไรวะ..อย่าบอกนะว่าพี่จะเล่นตูดผม ไม่เอานะ หึ หึ หึ"
"ไอ้บ้า..กูไม่หน้ามืดขนาดนั้นหรอก มึงเป็นน้องชายกูนะเว้ย"
"แล้วพี่สองถามทำไมล่ะ"
"ก็แค่อยากรู้..เพราะเรื่องที่กูจะขอร้องมึง มันหมายถึงชีวิตของมึงด้วย..ตกลงมึงยังรักกูอยู่หรือเปล่า"
"รักซิครับ ก็พี่สอง..เป็นพี่ชายของผมนี่น่า ผมก็ต้องรักซิ มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว" สามเมืองพูดด้วยความอาย
"ขอบใจมากไอ้สาม..กูก็รักมึงมากรู้ไหม เพราะมึงก็เป็นน้องชายคนเดียวของกู"
"ตกลงพี่สองมีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ" สามเมืองถามตรงประเด็น
"เรื่องแต่งงาน...ถ้ามึงรักกูมึงต้องช่วยกูนะไอ้สาม ถ้ามึงช่วยกูได้กูจะให้มึงเป็นหุ้นส่วนคนเมืองคาวกับกู"
"จริงๆนะ..แล้วพี่สองจะให้ผมทำอะไร"
"มึงฟังกูดีๆนะไอ้สาม..คืออย่างงี้........" สองภพรวบมือน้องชายไว้แน่น และเริ่มสนทนาถึงเรื่องแผนการที่เขาทั้งสองคนจะต้องร่วมมือกัน
......................
"อุก..อุก..อุก..โอ๋..โอ้ย..หิวน้ำ ขอน้ำกินหน่อย อุก อุก..."
"อ้าว..ฟื้นแล้วเหรอพ่อหนุ่ม สลบไปหลายวันเลยนะเอ็ง" ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาตามเสียงร้องของผู้ที่ขอน้ำดื่ม แล้วประคองตัวของเขาให้ลุกนั่งพร้อมกับส่งขันน้ำดื่มไปให้
"ลุงครับ..ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" ผู้ป่วยถามด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
"ข้าออกเรือไปหาปลาแถวฝั่งโน้น..อยู่ๆเอ็งก็ลอยมาติดแห่ของข้าตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้..ข้าก็เลยช่วยเอาไว้"
"ขอบคุณมากครับลุง อุก อุก ที่ช่วยชีวิตผม..ผมจะไม่ลืมพระคุณของลุงเลยครับ" ผู้ป่วยยกมือไหว้ชายชราด้วยความซาบซี้ง
"ไม่เป็นไรลูก..คนไทยเหมือนกัน แล้วนี่เอ็งไปทำอะไรมาล่ะพ่อหนุ่ม..ถึงได้ถูกเขายิงถ่วงทะเลมาแบบนี้" ชายชราถาม
"ผมหนีพวกค้ายามาครับ..พวกมันจะฆ่าผม"
"เอ็งโชคดี..ที่ลูกกระสุนไม่โดนที่สำคัญ ข้าผ่าเอากระสุนออกให้แล้วนะ เอ็งปลอดภัยแล้วล่ะ พักอีกสักหน่อยก็คงดีขึ้น"
"ขอบคุณครับ...ผมสลบไปกี่วันครับลุง"
"ก็สองสามวัน..แล้วเอ็งชื่ออะไรล่ะพ่อหนุ่ม"
"ผมชื่อภูแสงครับ..บ้านผมอยู่เชียงใหม่" ภูแสงตอบด้วยความสุภาพ
"แล้วเอ็งมาทำอะไรแถวนี้ละลูก" ชายวัยกลางคนหันไปตักข้าวต้มและส่งให้ภูแสง "กินซะหน่อย จะได้มีแรง"
"ผมถูกหลอกมาค้ายาครับ แต่ผมรู้ตัวซะก่อน พวกมันก็เลยจะฆ่าผมปิดปาก"
"สมัยนี้มันอันตรายเหลือเกิน..อย่าไปไว้ใจใครง่ายๆอีกนะลูก"
"ลุงชื่ออะไรครับ"
"ข้าชื่อปอง..กินข้าวซะ จะได้มีแรง" ลุงปองยิ้มแห้งๆให้ไอ้หนุ่มเลือดร้อน
"ครับลุง..." ภูแสงตักข้าวต้มเข้าปากด้วยความหิว "ที่นี่ที่ไหนครับลุง"
"โขงเจียม" ลุงปองตอบสั้นๆ
"โขงเจียม อุบลฯเหรอครับ"
"ใช่..ไปอีกหน่อยก็ถึงแม่น้ำสองสีแล้ว"
"ลุงครับ..แถวนี้มีโทรศัพท์ไหมครับ" ภูแสงถาม
"เอ็งจะทำไม..รักษาตัวให้หายซะก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง"
"ผมเป็นห่วงพ่อครับลุง แกก็คงจะเป็นห่วงผมเหมือนกัน ผมอยากโทรไปหาพ่อครับ"
"ข้ามีเครื่องเก่าๆอยู่เครื่องหนึ่ง ลูกชายมันทิ้งไว้ให้ แต่ข้าไม่ค่อยได้ใช้หรอก เดี๋ยวข้าไปเอามาให้"
"ขอบคุณครับ แล้วลูกชายลุงไปไหนล่ะครับ"
"มันไปทำงานที่กรุงเทพฯ นานๆจะกลับมาสักที" ลุงปองส่งมือถือรุ่นเก่าให้ภูแสง
"แล้วลุงปองอยู่คนเดียวเหรอครับ"
"อยู่คนเดียว..เมียข้าตายไปตั้งนานแล้ว"
"ผมเสียใจด้วยครับ"
"ไหนเอ็งบอกว่าจะโทรหาพ่อของเอ็ง..รีบๆโทรซะ แล้วก็มานอนพักเอาแรงจะได้หายเร็วๆ"
"ครับลุง"
..................................
"ฮัลโหล" เสียงปลายสายของลุงคำแสง
"พ่อจ๋า..ฉันเองจ้ะพ่อ ฉันคิดถึงพ่อเหลือเกินจ้ะ พ่อสบายดีไหม" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อได้ยินเสียงผู้เป็นบิดาอีกครั้ง
"ไอ้แสง..เอ็งเป็นอย่างไงบ้างลูก ตอนนี้เอ็งอยู่ที่ไหนลูก" ลุงคำแสงเองก็ดีใจไม่แพ้กัน
"พ่อไม่ต้องเป็นห่วงฉันนะจ๊ะ..ฉันสบายดี ตอนนี้ฉันอยู่ที่โขงเจียมกับลุงปองจ้ะพ่อ"
"แล้วเอ็งจะกลับมาบ้านเมื่อไหร่ลูก"
"ฉันต้องกลับไปแน่ๆจ้ะ เพราะฉันยังมีอะไรที่จะต้องสะสาง" ภูแสงเสียงดังขึ้นจนลืมตัว
"อะไรลูก..เอ็งจะมาสะสางอะไรของเอ็ง"
"อ๋อ..ไม่มีอะไรจ้ะพ่อ..นายน้อยเป็นยังไงบ้างจ๊ะ" ภูแสงเปลี่ยนเรื่องคุย
"นายน้อยสบายดีลูก..อีกไม่กี่วันนายน้อยก็จะแต่งงานกับคุณหนูแดงแล้ว"
"แต่งงาน" ภูแสงบอกไม่ถูกกับความรู้สึกของเขาในเวลานี้ ทำไมเขาถึงรู้สึกหวงนายน้อยขึ้นมาอย่างจับใจ
"แล้วเอ็งจะกลับมางานแต่งของนายน้อยไหมวะไอ้แสง..ข้าจะได้บอกนายน้อยให้"
"ไม่กลับจ้ะ..ไม่กลับ พ่ออย่าบอกนายน้อยนะจ๊ะว่าฉันอยู่ที่ไหน" ภูแสงกำชับ
"ถ้าเอ็งไม่ให้บอก ข้าก็จะไม่บอก"
"แค่นี้ก่อนนะจ๊ะพ่อ..ฉันยืมโทรศัพท์ของลุงปองแกใช้นะจ้ะ"
"เออๆๆ..แล้วโทรมาหาพ่อบ่อยๆนะไอ้แสง"
"ฉันรักพ่อนะจ๊ะ..สวัสดีจ้ะ"
.................................
งานแต่งของสองภพกับหนูแดงถูกจัดขึ้นที่โรงแรมห้าดาวในตัวเมืองเชียงใหม่อย่างยิ่งใหญ่อลังการตามความประสงค์ของคุณสุพรรษา มีแขกมาร่วมแสดงความยินดีหลายร้อยคนทีเดียว...ท่ามกลางความวุ่นวายของงานไฮโซมีระดับ แต่อีกมุมหนึ่งของงานมีเด็กหนุ่มชาวพม่านามว่าลีซอยืนดูอยู่เงียบๆคนเดียวกับหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม เด็กหนุ่มมองเห็นป้ายบนเวทีเขียนไว้ว่า "สุขสันต์วันวิวาห์ สุพรรณี&สองภพ" เพียงแค่นี้ทำให้เขาพาลคิดไปว่านายน้อยไม่ใช่ของเขาอีกต่อไปแล้ว
"ไอ้ลีซอ..อย่าร้องไห้ซิวะ มึงไม่เชื่อใจนายน้อยของมึงแล้วเหรอ" สินชัยเดินเข้ามาปลอบหนุ่มพม่าด้วยความเป็นห่วง
"ผมเชื่อใจครับ..แต่ผมยังทำใจไม่ได้ ผมรักนายน้อยมากเหลือเกินครับพี่เอ"
"กูรู้ว่ามึงรักนายน้อย..แต่มึงลองคิดดูซิไอ้ลีซอ มึงเองยังเจ็บขนาดนี้ แล้วมึงคิดเหรอว่าไอ้นายน้อยของมึงมันจะไม่เจ็บ กูว่ามันเจ็บซะยิ่งกว่ามึงอีกนะ มันต้องแต่งงานกับคนที่มันไม่ได้รัก มันโดนบังคับนะเว้ย มึงดูหน้ามันซิ ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีความสุขเลย"
"ผมเข้าใจแล้วครับพี่เอ..ผมสงสารนายน้อยครับ" หนุ่มพม่ายิ้มทั้งน้ำตา
"เช็ดน้ำตาซะ..แล้วออกไปนั่งกับพวกกูที่โต๊ะ ถ้านายน้อยมันมองลงมาไม่เห็นมึงอยู่ตรงนั้น มันจะคิดมากนะเว้ย" สินชัยส่งผ้าเช็ดหน้าให้หนุ่มลีซอ
"ครับพี่เอ"
........................
สองภพเดินตรงมาที่โต๊ะของหนึ่งสยามและสามเมือง เขาดึงแขนของน้องชายตัวแสบออกมาจากโต๊ะทันทีด้วยท่าทางที่เป็นกังวล หนึ่งสยามมองตามน้องชายทั้งสองด้วยความสงสัยระคนแปลกใจ
"พวกแกจะไปไหนกัน ไอ้สอง,ไอ้สาม" หนึ่งสยามตะโกนถาม
"เดี๋ยวมาครับพี่หนึ่ง" สองภพหันมาตอบ
"คุณแม่ดูซิครับ..ปรกติไอ้สองคนนี้มันไม่เคยคุยกันดีๆสักครั้ง" หนึ่งสยามหันไปคุยกับคุณขวัญเชิญที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไป
"ก็ดีแล้วนี่ลูก..น้องพูดกันดีๆ เห็นแล้วแม่ก็สบายใจไปด้วย"
"แต่หนึ่งว่าไอ้สองคนนี้มันต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างแน่ๆ" หนึ่งสยามทำหน้าไม่ไว้ใจน้องชายทั้งสองคน
"คิดมากไปหรือเปล่าลูก" คุณขวัญเชิญยิ้มเย็นๆ
........................
"ทำไมมึงต้องกินเหล้าเยอะด้วยวะไอ้สาม" พอพ้นสายตาของผู้คนสองภพก็ขึ้นเสียงกับสามเมืองทันที
"ทำไมล่ะพี่สอง..กลัวแผนการอันชั่วร้ายจะไม่สำเร็จเหรอครับ"
"ก็เออซิวะ..อย่าลืมซิว่ามึงสัญญากับกูไว้แล้ว ห้ามเปลี่ยนคำพูดนะมึง"
"แล้วถ้าผมไม่ทำตามแผนการของพี่สองล่ะ" น้องชายตัวแสบส่งสายตาเจ้าเล่ห์
"ไม่ได้นะเว้ยไอ้สาม ไม่งั้นกูพังแน่" สองภพตะโกนใส่หน้าน้องชาย
"ถ้างั้นพี่สองก็พูดเพราะๆกับผมบ้างซิครับ..ตั้งแต่ผมจำความได้ พี่สองยังไม่เคยพูดเพราะๆกับผมเลย..ดีแต่พูดกับไอ้ลีซอทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่น้องของพี่สองสักหน่อย" สามเมืองตาแดงที่ตัดสินใจพูดในสิ่งที่ค้างคาอยู่ในจิตใจของเขามานานนับสิบปี
"เออ..เออ..ก็กู..เออ" สองภพอึ้งในสิ่งที่ได้ยิน ชายหนุ่มถึงกับพูดอะไรไม่ออก
"พี่สองพูดเพราะๆกับผมไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ต้องกับไอ้ลีซอคนเดียว" สามเมืองหลบสายตาของพี่ชายเมื่อรู้ว่าน้ำตาแห่งความอ่อนแอของเขากำลังจะไหลออกมา
"ไม่ใช่อย่างงั้นนะไอ้สาม..แต่กูกระดากปากโว้ย"
"ถ้าอย่างงั้นก็กระดากต่อไปเถอะ ผมก็กระดากใจที่จะช่วยพี่เหมือนกัน" สามเมืองทำท่าจะเดินออกไปจากตรงนั้น
"ก็ได้สาม..ช่วยพี่หน่อยนะน้องรัก" สองภพพูดตามหลังน้องชายเบาๆ
"ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหมครับพี่สอง"
"ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พี่จะพูดเพราะๆอย่างที่สามต้องการนะครับ" สองภพยิ้มให้น้องชาย
"สามรักพี่สองครับ" อยู่ๆน้องชายตัวแสบก็โผเข้าไปกอดพี่ชายของเขาไว้แน่นด้วยความดีใจ
"พี่ก็รักสามครับ เราอย่าทะเลาะกันอีกนะน้องรัก"
"ครับพี่สอง"
"วันนี้อย่าดื่มมากนะเรา เดี๋ยวจะเมา..งานจะไม่สำเร็จ" สองภพกำชับ
"งานของสามไม่มีพลาดอยู่แล้ว..ว่าแต่พี่สองเถอะอย่าลืมหน้าที่ของตัวเองก็แล้วกัน"
14.
(ความเดิม)
"วันนี้อย่าดื่มมากนะเรา เดี๋ยวจะเมา งานจะไม่สำเร็จ"
"งานของสามไม่มีพลาดอยู่แล้ว ว่าแต่พี่สองเถอะอย่าลืมหน้าที่ของตัวเองก็แล้วกัน"
"พี่รู้แล้วน่า"
"พี่สอง..สามว่าเรากลับไปในงานดีกว่า เจ้าบ่าวหายมานานๆแบบนี้ไม่ดีนะครับ..เดี๋ยวแม่ยายไม่ปลื้มเอานะ"
"อย่ามาแซวพี่เลย..แม่ยายใครกันแน่วะ"
.....................
สองหนุ่มพี่น้องเดินกลับเข้ามาในงานเลี้ยงด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข สองภพกับสามเมืองพูดคุยกันอย่างสนิทสนมแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหตุการณ์ทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของหนึ่งสยามมาโดยตลอด จนเขาอดที่จะแปลกใจกับพฤติกรรมของน้องชายทั้งสองคนไม่ได้
"ไปไหนกันมา..ไอ้สอง,ไอ้สาม" หนึ่งสยามถามน้องชายทั้งสอง
"ไปห้องน้ำครับพี่หนึ่ง" สามเมืองตอบแล้วก็นั่งลงที่เก่า
"พี่ว่าพวกแกแปลกๆไปนะ"
"แล้วพี่หนึ่งไม่ดีใจเหรอครับที่ผมกับไอ้สามไม่ทะเลาะกันเหมือนเด็กๆแล้ว" สองภพถามพี่ชาย
"ถ้าเป็นอย่างงั้นได้ก็ดี..คุณพ่อคุณแม่จะได้หายห่วงสักที"
"พี่สอง..หายไปไหนมาคะ ปล่อยให้หนูแดงยืนอยู่คนเดียวตั้งนาน" สาวร่างอวบวิ่งเข้ามาเกาะแขนว่าที่สามี
"ผมไปห้องน้ำมาครับ..หนูแดงนั่งพักเหนื่อยก่อนซิ เดินรับแขกมาทั้งวันแล้วนะ" สองภพลุกขึ้นเลื่อนเก้าอี้ให้เจ้าสาวนั่งข้างๆ
"ขอบคุณค่ะ..พี่หนึ่ง,พี่สามคะวันนี้หนูแดงสวยไหมคะ" เจ้าสาวร่างอวบโปรยยิ้มไปรอบโต๊ะ
"สวยมากครับ" หนึ่งสยามตอบ แต่สามเมืองได้แต่อมยิ้ม
"ดื่มไวน์หน่อยนะครับ" สองภพส่งแก้วไวน์ให้เจ้าหล่อน
"จะดีเหรอคะพี่สอง..วันนี้เป็นวันมงคลของเรานะ หนูแดงไม่อยากเมาค่ะ"
"ยิ่งเป็นวันมงคลซิครับยิ่งต้องดื่ม..ฉลองกันหน่อยนะครับหนูแดง" สามเมืองพูดแล้วหันไปยิ้มกับสองภพอย่างรู้ทัน หนึ่งสยามมองน้องชายทั้งสองอย่างไม่ไว้ใจ
"ชนแก้วกันหน่อยครับ..พี่หนึ่งด้วยครับ" สองภพยกแก้วไวน์ขึ้น
"โชคดีครับหนูแดง..พี่หวังว่าคืนนี้น้องสะใภ้ของพี่คงจะมีความสุขนะครับ" หนึ่งสยามพูดด้วยรอยยิ้มเรียบๆ
"พี่หนึ่งอ่ะ..พูดอะไรก็ไม่รู้หนูแดงอายนะ" สาวร่างอวบเผลอตัวยกไวน์ดื่มจนหมดแก้ว
....................
"พี่เอ..ทำไมนายน้อยไม่เดินมาโต๊ะเราบ้างครับ" ต่อศักดิ์ถามหลังจากที่เห็นนายน้อยเดินควงเจ้าสาวไปทั่วทุกโต๊ะรอบงาน
"มันคงจะเทคแคร์พวกแขกก่อนล่ะมั่ง..เดี๋ยวมันก็มาน่า" สินชัยหันไปพูดกับแฟนหนุ่ม
"ไม่มาก็ดีแล้ว..ผมไม่อยากเห็นคุณหนูแดง ดูซิเมาเป็นหมูเชียว..ทุเรศ" ลีซอพูดเสียงกระแทก
"อะไรของมึงวะ..เมาเป็นหมู เขามีแต่เมาเหมือนหมาเว้ย หึ หึ หึ" สิยชัยหัวเราะ
"ก็คุณหนูแดงอ้วนเหมือนหมูนี่ครับพี่เอ"
"พี่ลีซอหึงนายน้อยเหรอครับ" ต่อศักดิ์ถาม
"ไม่ได้หึง..แต่..."
"แต่มันเป็นภาพที่บาดใจใช่ไหมวะ..ไอ้ลีซอ"
"ผมไม่อยากเห็นครับพี่เอ" หนุ่มลีซอก้มหน้าลง
"เออ..กูเข้าใจ แต่มึงต้องเข้มแข็งนะเว้ย กูเชื่อว่าไอ้นายน้อยมันรักมึงคนเดียว"
"ทำไมพี่เอคิดอย่างงั้นล่ะครับ"
"ขนาดกูหลงรักมันมาตั้งนาน มันยังไม่เคยสนใจกูเลย..มึงต้องเชื่อใจมันนะเว้ย..ลีซอ"
"ครับพี่เอ" ลีซอตอบสั้นๆ
"ลุงคำแสงมาแล้ว ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้วนะครับ" ต่อศักดิ์เตือนลีซอและสินชัยเมื่อเห็นลุงคำแสงกำลังเดินเข้ามาใกล้
"นายน้อยเป็นยังไงบ้างวะ หล่อหรือเปล่า ข้าอยากเห็น ไหนล่ะ..นายน้อยอยู่ไหน" ชายชรานั่งลงข้างๆลีซอแล้วชะเง้อคอมองหานายน้อย
"มันกำลังรับแขกอยู่ครับลุง..ที่รีสอร์ทเป็นยังไงบ้างครับ" สินชัยถาม
"เรียบร้อยดีลูก"
"ลุงคำได้ข่าวพี่แสงบ้างไหมครับ หายไปนานแล้วนะ" ต่อศักดิ์ถาม
"ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันไปอยู่ที่ไหน" ชายชราเงียบไปสักพักก่อนที่จะตอบ
"ผมคิ้ดเติงหาอ้ายแสงนักขนาดคับป้อคำ ตะวานก็ฝันถึงอ้ายแสงตวยคับ" หนุ่มพม่ากอดพ่อบุญธรรมไว้แน่นเมื่อพูดถึงพี่ชายนอกสายเลือด
"ไอ้แสงมันรักเอ็งมากนะไอ้ลีซอ อีกไม่นานมันก็จะคงกลับมาหาเอ็ง" ชายชราลูบหัวลีซอเบาๆด้วยความรักและเอ็ดดู
........................
"ตาสามจะไปไหนลูก" คุณขวัญเชิญถามลูกชายคนเล็กเมื่อเห็นเขากำลังจะเดินออกไปจากงานเลี้ยง
"สามจะไปกินเหล้าต่อกับเพื่อนๆครับคุณแม่" ชายหนุ่มหันมาตอบ
"แล้วไม่อยู่ส่งตัวพี่สองเข้าห้องหอก่อนเหรอลูก"
"ไม่ล่ะครับ..สามไปกินเหล้าดีกว่า"
"ช่างมันเถอะคุณ ปล่อยมันไปเถอะ..ไอ้นี่มันแสบ" นายใหญ่หันไปพูดกับภรรยา
"ระวังตัวนะลูก อย่ากลับบ้านดึกนะจ๊ะ"
"สามกลับเช้าครับคุณแม่ ฮา ฮา ฮ่า" แล้วสามเมืองก็เดินหัวเราะร่าออกไป
"ไอ้ลูกคนนี้" นายใหญ่บ่นเบาๆ
"คุณดูลูกสะใภ้ของคุณซิคะ เมาไม่ได้เรื่องเลย" คุณขวัญเชิญสะกิดให้นายใหญ่ดูหนูแดงซึ่งกำลังนั่งกระดกไวน์อยู่ข้างๆสองภพด้วยอาการเมามาย
"คุณลูกคะ..อย่าดื่มมากซิคะ ไม่งามเลยค่ะ" คุณสุพรรษาเดินเข้ามากระซิบลูกสาวเบาๆ
"ก็หนูแดงมีความสุขนี่คะ..คุณแม่ขาาาาาา" สาวร่างอวบลากเสียงยาวจนโต๊ะข้างๆหันมามอง
"ไม่เป็นหรอกครับน้าษา น่ารักดีครับ ผมชอบ หึ หึ หึ" สองภพกั้นใจกอดหนูแดงไว้ในอ้อมแขน
"ไม่นะคะ..ไม่เรียกน้าษาค่ะ ต้องเรียกว่าคุณแม่ษาซิคะ" สาวใหญ่ค้อน
"ครับผม..คุณแม่ษาครับ"
"น่ารักมากค่ะ..หนูแดงนี่ช่างโชคดีจริงๆเลยที่ได้สามีน่ารักอย่างตาสอง คุณแม่ษาดีใจมากค่ะ"
"จะโชคดีพ้นคืนนี้หรือเปล่าวะ" หนึ่งสยามพูดเบาๆในลำคอ
"อะไรนะคะตาหนึ่ง..ว่าอะไรนะคะ" สาวใหญ่หันไปถาม
"เออ..ไม่มีอะไรครับน้าษา คือว่าผมเมาแล้วอ่ะครับ..อยากกลับบ้านครับ"
"ได้กฤษ์ส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอพอดีเลยค่ะ..พวกเราเตรียมตัวกันดีกว่านะคะ" คุณสุพรรษายิ้มเชื้อเชิญญาติทางฝ่ายเจ้าบ่าว
........................
ห้องหอของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในค่ำคืนนี้ก็คือห้องสวีทในโรงแรมหรูนั้นเอง แผนการของสองภพกับสามเมืองเป็นไปอย่างราบรื่นโดยที่ไม่มีใครสงสัยเลยนอกจากหนึ่งสยามเพียงคนเดียว หลังจากการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอเรียบร้อยแล้ว สองภพก็ดำเนินแผนการขั้นต่อไปโดยทันที
"หนูแดงครับ...มานั่งดื่มเป็นเพื่อนผมก่อนนะครับ ผมกำลังมีความสุขครับ" ชายหนุ่มทำเสียงอ้อน
"แต่หนูแดงเมาแล้วนะคะพี่สอง..แล้วหนูแดงก็ร้อนด้วย หนูแดงอยากถอดชุดเจ้าสาวออกค่ะ"
"มาดื่มต่ออีกหน่อยนะครับ..แล้วเราค่อยถอดเสื้อผ้าพร้อมๆกันไม่ดีเหรอครับ" ชายหนุ่มทำหน้าทะเล้นให้สาวร่างอวบจนเจ้าหล่อนอ่อนระทวย
"ว๊าย..พี่สองพูดน่าเกียจ หนูแดงอายนะคะ"
"ไม่ต้องอายหรอกครับ อีกหน่อยเราก็จะเป็นผัวเมียกันแล้วนะ"
"พี่สองอ่ะ..ก็ได้ค่ะหนูแดงจะดื่มเป็นเพื่อน"
ไวน์ขวดแล้วขวดเล่าที่สองภพตั้งใจจะมอมหนูแดงให้เมามายตามแผน แต่สาวเจ้าดูท่าทางจะคอแข็งเสียเหลือเกิน
"พี่สองคะ อ่า..หนูแดงว่าเราไปนอนกันเถอะค่ะ หนูแดงอยากทำรักกับพี่สองแล้วค่ะ นะคะ นะคะ" เพราะความเมาทำให้สาวร่างอวบกล้าพูดได้ถึงขนาดนี้
"หนูแดงเมาแล้วเหรอครับ"
"ค่ะ"
"ผมว่าหนูแดงไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนดีกว่า..เดี๋ยวผมจะจัดที่นอนรอนะ" ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเลห์
"ก็ได้ค่ะ..เดี๋ยวหนูแดงมานะคะ อ้วก..อ้วก..อ่า..." สาวอวบเดินโซเซเข้าห้องน้ำตามความต้องการของสองภพ ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองก็เมาเหมือนกันแต่ทุกอย่างที่วางไว้ต้องเป็นไปตามแผน เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหาสามเมืองในทันที
"ฮัลโหล..มาได้แล้วครับน้องรัก ทุกอย่างเป็นไปตามแผนครับ"
"โอเค..ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับพี่สอง โอ๋..โอ๋" สามเมืองมีน้ำเสียงออแอ้
ไม่นานนักก็มีเสียงเคาะประตูเบาๆ "ป๊อก ป๊อก ป๊อก" สองภพเดินไปเปิดประตูให้น้องชายด้วยความใจร้อน
"อือหือ..แกไปกินเหล้าที่ไหนมาวะ ทำไมเมาอย่างงี้ แล้วจะทำอะไรได้เหรอเนี่ย เห้อออ.." สองภพโวยวายเมื่อเห็นท่าทางของน้องชายเมาเกินกว่าที่คิด
"ผมไหวเพ่..รับรองผมจะเย็ดอีอ้วนให้สุดฝีมือเล้ยยย"
"พูดเบาๆซิวะ เดี๋ยวเขาได้ยิน"
"ก็ได้..ก็ได้ ขอโทษพี่ เมาเว้ยยย.."
สองภพลากแขนน้องชายเข้ามาในห้องอย่างทุลักทุเล แล้วอยู่ๆสองหนุ่มพี่น้องก็เดินสะดุดขากันเองโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้พวกเขาทั้งคู่หกล้มลงไปกองอยู่กับพื้นในสภาพที่สามเมืองนอนทับบนร่างของสองภพอย่างแรง ใบหน้าอันหล่อเหลาของสองหนุ่มชนกันอย่างจัง ริมฝีปากของสามเมืองประกบลงบนปากบางๆของพี่ชายด้วยความบังเอิญ
สองหนุ่มพี่น้องจ้องมองตาของกันและกันด้วยจิตใจที่หวั่นไหว แล้วอยู่ๆสามเมืองก็ค่อยๆสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของพี่ชายอย่างนุ่มนวล สองภพหลับตาเคลิ้มพร้อมกับกอดน้องชายของเขาไว้อย่างลืมตัว สามเมืองดูดปากของพี่ชายด้วยความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ...สองพี่น้องดูดกินน้ำลายของกันและกันอย่างเมามันส์จนกระทั่งเสียงในห้องน้ำเงียบลง สองภพได้สติผลักร่างของสามเมืองจนกระเด็นออกไป
"แกจูบพี่ทำไมไอ้สาม" สองภพเอามือปิดปากตัวเองด้วยความตกใจ
"ก็สามอยากจูบนี่ครับ ปากพี่สองหวานจัง ขอสามจูบอีกนะ" สามเมืองคลานเข้ามาหาพี่ชาย
"ไม่ได้นะสาม เราเป็นพี่น้องกันนะเว้ย"
"ไม่เห็นเป็นไรเลยพี่สอง เราก็อย่าบอกใครซิครับ..สามรักพี่สองนะครับ"
"ไม่เอา..สาม แกกำลังจะทำให้พี่เป็นบ้ารู้ไหม เรารักกันไม่ได้นะเว้ย โอ้ย..ทำไมต้องเป็นอย่างงี้ด้วยวะ"
"ความรักมันเลือกได้เหรอครับพี่สอง สามรักพี่สองมานานแล้วนะ..ตอนนั้นสามกลัวบาปสามถึงยอมทรมานอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้สามไม่กลัวอะไรอีกแล้วครับ ขอให้สามได้มีพี่สองก็พอ" สามเมืองสารภาพความในใจ
"แต่เราเป็นพี่น้องกันนะสาม"
"สามรู้ครับ..แต่สามห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้ สามขอโทษครับ" ชายหนุ่มก้มหน้าลง
"แล้วแผนการที่เราวางไว้ล่ะครับ..เราจะทำยังไง"
"ไม่ต้องห่วงนะครับ..สามเต็มใจช่วยพี่สองครับ"
"ถ้าอย่างงั้นก็ถอดเสื้อผ้าออกนะสาม..ก่อนที่หนูแดงจะออกมา"
"แต่พี่สองต้องอยู่ด้วยนะครับ ถ้างั้นสามไม่ทำ"
"แต่สามต้องปลอมตัวเป็นพี่นะ แล้วพี่จะอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง" สองภพถามน้องชาย
"สามมีวิธีครับ"
"วิธีอะไร"
"เอายานี้ให้ยัยหนูแดงกิน รับรองยัยหนูผีจำอะไรไม่ได้แน่ๆ"
"โอเค..ครับ งั้นก็ถอดเสื้อผ้าออกซิสาม เร็วๆครับ"
"พี่สองถอดให้สามซิครับ" สามเมืองอ้อนพี่ชายที่รัก
สองภพเดินเข้าไปถอดเสื้อผ้าให้น้องชายจนเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน เขาผลักร่างของน้องชายให้ขึ้นไปบนเตียงนอนอย่างรวดเร็ว แล้วชายหนุ่มก็ถอดชุดเจ้าบ่าวออกจากร่างกาย..เขาวางมันไว้ข้างๆเตียงเพื่อแสดงว่าผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคือตัวเขาเอง เขาปิดไฟให้สลัวและหอบเสื้อผ้าของสามเมืองไปเก็บไว้ในตู้เสื้อ ก่อนที่ชายหนุ่มจะวิ่งไปหลบอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง..บนเรือนร่างของเขามีเพียงกางเกงในสีดำแค่ตัวเดียว
"พี่สองหลับแล้วเหรอคะ" สาวร่างอวบเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูพันกายอย่างรวกๆ
"ยังครับ" สามเมืองดัดเสียงเป็นพี่ชายได้อย่างแนบเนียบ
"ว๊าย..พี่สองแก้ผ้าแล้วเหรอ"
"ครับ"
"ถ้าอย่างงั้น..หนูแดงก็พร้อมที่จะเป็นเมียพี่สองแล้วค่ะ" แล้วเจ้าหล่อนก็ค่อยๆคลานขึ้นเตียง
"แต่หนูแดงต้องดื่มไวน์แก้วนี้ให้หมดก่อนนะครับ" สามเมืองยื่นแก้วไวน์ที่ผสมยาบางอย่างให้หญิงสาว
"หนูแดงเมาแล้วนะคะพี่สอง"
"ยังไม่เห็นเมาเลย อีกแก้วเดียวนะครับ"
"ก็ได้ค่ะ..เอ..ทำไมเสียงพี่สองแปลกๆไปละคะ"
"สงสัยผมจะดื่มมากไปหน่อยน่ะครับ"
"ถ้างั้นหนูแดงดื่มแก้วนี้ แล้วเรานอนกันนะคะ"
"ครับ"
หนูแดงนอนแก้ผ้าแผ่หราอยู่กลางเตียงเพื่อรอให้สามเมืองที่หล่อนคิดว่าเป็นสองภพลงมือเย็ดได้อย่างสะดวก สามเมืองกับลำควยขนาดพอดีมือปกคลุมไปด้วยดงหมอยอันดกดำยัดใส่ปากหญิงสาวอย่างรวดเร็วด้วยความเงี่ยนที่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขากระเด้าปากของหล่อนอยู่นานนับสิบนาทีจนเจ้าหล่อนคายควยออกจากปากแล้วพูดขึ้นว่า
"พี่สองคะ..เสียบที่รูของหนูแดงเถอะค่ะ หนูแดงหิวค่ะ อาา"
"ครับ"
สามเมืองกดลำควยเข้ารูหีของสาวร่างอวบอย่างว่าง่าย เขากระเด้าเย็ดอย่างชำนาญจนสาวร่างอวบร้องควรญครางด้วยความสะใจในอารมณ์
"อ่า ว้า อ้า พี่สองขาแรงๆเลยค่ะ หนูแดงเสียว อา อา"
"ได้ครับ..ผมจะเย็ดให้หนูแดงลืมโลกเลยครับ อ้า อู้ววววว โอ้ยยยย อ่า..."
"หนูแดงเมา หนูแดงมองไม่เห็นหน้าพี่สองเลยค่ะ อ่า อ่า แรงๆ อ้า เสียวค่ะ หนูแดงเสียว ว้ายยย อ้า อ้า..แรงๆค่ะ"
"พี่สอง..พี่สอง ออกมาได้แล้วครับ อ้า อ้า อ้า" สามเมืองตะโกนเรียกพี่ชายพร้อมๆกับส่ายบั้นท้ายกระเด้าเย็ดหนูแดงไปด้วย
สองภพเดินควยชี้โด่ออกมาจากมุมมืด ชายหนุ่มเดินมาหยุดตรงด้านหลังของน้องชายตัวแสบ สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าในเวลานี้คือร่องตูดขาวๆอวบๆของน้องชายที่กำลังกระเด้าเย็ดรูหีของสาวอวบอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนสาวเจ้าก็ได้แต่นอนแผ่หราควรญครางสะลึมสะลือด้วยฤทธิ์ยาเมา
"มันส์ไหมวะสาม" สองภพลูบตูดน้องชายเบาๆ
"มันส์ครับ..อ้า..แต่ถ้าได้เย็ดตูดจะมันส์กว่านี้ อ้า...อ้า โอ้ย..."
"น้ำเงี่ยนจะแตกหรือยังสาม" สองภพลูบไล้เรือนร่างของน้องชายด้วยความเสน่หาเกินห้ามใจ
"ยังไม่แตกง่ายๆหรอกครับ..ควยสามอึด อ่า อ่า บางทีเย็ดเป็นชั่วโมงน้ำเงี่ยนยังไม่แตกเลยครับ ซี๊ตตต อ้า อ้า..."
"แล้วหนูแดงเป็นไงบ้าง อ้า..." สองภพรูดควยตัวเองเบาๆ
"เมายาไปแล้วครับพี่"
"เย็ดให้น้ำเงี่ยนแตกในรูหีเลยนะสาม ทำให้หนูแดงท้องให้เร็วที่สุด พวกเราจะได้ไม่ต้องทำแบบนี้อีก"
"ครับพี่สอง...สามจะเย็ดให้น้ำแตกคารูหีเลยครับ โอ้ย....อ้า..ซี๊ตตตต อ้า..แต่พี่สองต้องช่วยสามนะครับ อ้า อ้า"
"จะให้พี่ช่วยอะไรน้องรัก" สองภพเอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดเหงื่อตามร่องตูดและแผ่นหลังให้น้องชาย
"พี่สองจูบปากสามหน่อย อ้า อ้า สามอยากกินน้ำลายพี่สองครับ"
"ได้ครับสาม"
สองภพเดินขึ้นไปบนเตียงแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าของน้องชายอย่างว่าง่าย เขาเอามือลูบไล้ใบหน้าอันหล่อเหลาและเกลี้ยงเกาของสามเมืองอย่างรักใคร่ก่อนที่จะสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของน้องชายด้วยความแรงหื่น
ส่วนสามเมืองก็กระหน่ำเย็ดรูหีของหนูแดงอย่างสุดพลัง เขาดูดลิ้นกินน้ำลายของพี่ชายอย่างเมามันส์ จนน้ำลายไหลเยิ้มล้นออกมานอกปากของทั้งคู่ เขาดันตัวพี่ชายให้ลุกขึ้นอย่างช้าๆ ลำควยขนาดเจ็ดนิ้วปกคลุมไปด้วยแพรหมอยที่ดกดำของพี่ชายลอยเด่นอยู่ตรงหน้า ยังไม่ทันที่สองภพจะรู้ตัว เขาก็งับลำควยที่เยิ้มไปด้วยน้ำอยากของพี่ชายเข้าปากอย่างรวดเร็ว
"อ้า..สามทำอะไร ดูดควยพี่ทำไม อ้า อ้า"
"โอ้ย..ควยพี่สองสวยจังเลยครับ อ้า สามขอดูดหน่อยนะครับ อ้า อ้า" สามเมืองกระเด้าเย็ดหีเมียพี่ชายพร้อมๆกับดูดควยของพี่ชายไปด้วย
"ได้ครับ..ถ้าสามอยากดูด..ดูดเลยครับ อ้า อ้า พี่เสียวหัวควย ดูดแรงครับ อ้า อ้า โอ้ยยย"
"อ้า พี่สองครับ น้ำเงี่ยนสามจะแตกแล้ว โอ้ยยยยย อ้าาาาาา แตกแล้วครับ อ้าาาา อ้าาาา" สามเมืองฉีดน้ำเงี่ยนเข้ารูหีของสาวร่างอวบจนหมดกระโปก
"สามครับ..น้ำเงี่ยนพี่ก็จะแตกแล้วเหมือนกัน อ้า อ้า ดูดควยพี่แรงๆน้องรัก อ้า ซี๊ตตตต อ้า ไม่ไหวแล้วสาม ออกแล้ว อ้าาาาา โอ้ยยยย" แล้วน้ำเงี่ยนของสองภพแตกทะลักในโพรงปากของน้องชายอย่างล้นหลาม สามเมืองได้ลิ้มรสชาติน้ำรักของผู้ชายเป็นครั้งแรกในชีวิต และที่สำคัญผู้ชายคนนั้น...คือพี่ชายของเขาเอง
"น้ำเงี่ยนพี่สองอร่อยจังเลยครับ"
"ให้พี่ชิมบ้างซิ" สองภพก้มจูบปากน้องชายเพื่อที่จะดูดกินน้ำรักของตัวเองที่ยังคงเหลืออยู่ในโพรงปากของสามเมือง
15.
(ความเดิม)
"น้ำเงี่ยนพี่สองอร่อยจังเลยครับ"
"ขอพี่ชิมบ้างซิ" สองภพก้มจูบปากของน้องชายเพื่อที่จะดูดกินน้ำรักของตัวเองที่ยังคงเหลืออยู่ในโพรงปากของสามเมือง
"พี่สองไปอาบน้ำกันเถอะครับ" สามเมืองจูงมือพี่ชายเข้าห้องน้ำโดยไม่รอคำตอบ
"แล้วหนูแดงล่ะสาม"
"ปล่อยให้มันนอนอย่างงั้นแหละครับ..อีกหลายชั่วโมงกว่ามันจะรู้สึกตัว"
สองหนุ่มพี่น้องเข้ามายืนอยู่ใต้ฝักบัวเดียวกัน สามเมืองถูสบู่ให้พี่ชายไปทั่วทั้งเรือนร่างด้วยความรักใคร่ระคนหลงใหล
"สาม..เราทำแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ สามไม่กลัวตกนรกเหรอครับ"
"สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจครับพี่สอง ถึงสามไม่ทำแบบนี้สามก็ต้องตกนรกทั้งเป็นอยู่ดี ขอให้สามได้ขึ้นสวรรค์บ้างนะครับพี่สอง ถึงแม้ว่าสวรรค์ของสามจะต้องแลกด้วยความบาปก็เถอะ..สามยอมครับ"
"สามรักพี่มานานหรือยังครับ" สองภพถามน้องชายตรงๆ
"รักมานานแล้วครับ"
"แล้วทำไมเมื่อก่อนสามถึงทำท่าทางรังเกียจพี่ล่ะ"
"สามไม่รู้..แต่สามไม่ได้เกลียดพี่สองนะครับ..สามแค่ไม่อยากเห็นพี่สองอยู่กับใคร..โดยเฉพาะไอ้ลีซอ"
"แต่สามก็รู้นี่..ว่าพี่กับลีซอรักกันมานานแล้ว"
"สามจะยอมให้มันคนเดียว..แต่คนอื่นสามไม่ยอมนะ" สามเมืองเสียงเข้ม
"พี่ก็รักสามมากนะครับ แต่ความรักของพี่..มันไม่ใช่อย่างที่สามเข้าใจ"
"สามรู้ครับ..." ชายหนุ่มก้มหน้าลง
"สามเป็น..เออ..เป็นไบฯเหรอครับ"
"สามไม่รู้..แต่ตอนที่อยู่กรุงเทพฯสามไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายนะครับ พี่สองเป็นผู้ชายคนแรกของสามครับ"
"สามอย่าไปบอกเรื่องนี้กับใครนะ มันเป็นเรื่องไม่ดี ถ้าคนอื่นเขารู้ว่าเราสองคนพี่น้องมีอะไรกัน มันจะ..."
"ครับพี่สอง..สามจะไม่บอกใครหรอกครับ เราจะรู้กันแค่สองคน"
.......................
ภูแสงได้อาศัยอยู่กับลุงปองมาร่วมสองเดือนแล้ว ตอนนี้เขาสามารถช่วยงานชายชราได้แทบทุกอย่าง เขาเรียนรู้การทำงานได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็น การออกเรือหาปลา การหมักปลาร้า การทำปลาแห้ง หรือแม้กระทั่งขับรถไปส่งปลาแห้งตามร้านค้าต่างๆในตัวเมือง
"วันนี้ลุงจะออกหาปลาที่ไหนครับ" ภูแสงถามในขณะที่เขากำลังนั่งเย็บแห่
"ข้าว่าจะไปแถวแม่น้าสองสี เห็นคนเขาลือกันว่าแถวนั้นปลาชุมนัก"
"เดี๋ยวผมขับเรือให้นะลุง"
"ก็เอาซิ..เออ..ไอ้แสงเอ็งได้โทรศัพท์ไปหาพ่อเอ็งบ้างไหมวะ"
"ผมโทรไปบ่อยๆครับลุง พ่อรู้ว่าผมอยู่ที่นี่กับลุง"
"เออ..ดีแล้วล่ะลูก"
"ผมเย็บแห่เสร็จแล้วครับ เราไปออกเรือหาปลากันเถอะลุง เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน"
"ไปซิลูก..."
..................
บนโต๊ะอาหารหรูที่บ้านซุ้มนาย สมาชิกภายในบ้านกำลังนั่งรับประทานอาหารกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา อยู่ๆหนูแดงก็พูดขึ้นว่า
"ทุกคนคะ..หนูแดงมีเด็กค่ะ" สาวร่างอวบโปรยยิ้มไปรอบๆโต๊ะ
"อะไรนะลูก..หนูแดงตั้งท้องเหรอลูก" คุณขวัญเชิญถามลูกสะใภ้อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
"ค่ะคุณแม่..หนูแดงซื้อแถบมาตรวจหลายครั้งแล้ว ประจำเดือนของหนูแดงก็ไม่มาเกือบสี่อาทิตย์แล้วนะคะ"
"แล้วทำไมเพิ่งมาบอกล่ะลูก" นายใหญ่ยิ้มหน้าบาน
"หนูแดงอยากให้มั่นใจเสียก่อนค่ะคุณพ่อ"
"จริงๆเหรอครับหนูแดง" สองภพถาม แล้วหันไปยิ้มให้สามเมืองซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ
"จริงคะพี่สอง..พี่สองจะได้เป็นพ่อคนแล้วนะ"
"พี่ดีใจด้วยนะครับหนูแดง..ไอ้สองแกแน่มาก" หนึ่งสยามแสดงความยินดีกับน้องสะใภ้แล้วหันไปพูดกับสองภพด้วยน้ำเสียงแปลกๆ
"คุณพ่อ,คุณแม่คะ..หนูแดงขอกลับบ้านสักสี่ห้าวันนะคะ หนูแดงคิดถึงคุณแม่ษาค่ะ..นะคะพี่สอง"
"ไปซิครับ..ฝากสวัสดีแม่ษาด้วยนะ" สองภพตอบ..สาวร่างอวบลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารแล้วเดินออกไป
"ขับรถดีๆนะครับหนูแดง" สามเมืองแอบเป็นห่วงลูกของเขา
"ระวังตัวนะลูก..กำลังท้องกำลังไส้" คุณขวัญเชิญพูดตามหลัง
"ค่ะคุณแม่"
"เก่งนี่หว่าไอ้สอง..เวลาแค่สองเดือนหนูแดงก็ตั้งท้องแล้ว อย่างงี้ซิวะ..ไอ้ลูกพ่อ พวกชาวบ้านแถวนี้มันจะได้เลิกนินทากันสักทีว่าแกเป็นตุ๊ดเป็นเกย์" นายใหญ่เดินมาลูบหัวลูกชายอย่างดีใจ แล้วก็เดินขึ้นข้างบนด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม
"สาม..แกดีใจไหม" สองภพหันไปถามน้องชาย
"ดีใจซิครับพี่สอง..ลูกสาม เอ้ย..หลานสามนี่ครับ"
"เดี๋ยวแม่เอากาแฟขึ้นไปให้คุณพ่อก่อนนะจ๊ะ" คุณขวัญเชิญเดินออกไป
"พวกแกสองคน..กำลังมีอะไรปิดบังพี่อยู่หรือเปล่า" หนึ่งสยามมองน้องชายทั้งสองแล้วเค้นเอาความจริง
"อะไรครับพี่หนึ่ง..ไม่มีอะไรหรอกครับ" สองภพหน้าซีตลงเล็กน้อยเมื่อเห็นพี่ชายท่าทางเอาจริง
"ไม่มีอะไรจริงๆครับพี่หนึ่ง" สามเมืองพูดย้ำ
"แล้วทำไมพักนี้พี่เห็นพวกแกไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ไปรีสอร์ทก็ไปพร้อมกัน กลับก็กลับพร้อมกัน ไอ้สองก็ไม่ได้ไปนอนที่เมืองคาวเหมือนแต่ก่อน แล้วพวกแกจะไม่ให้พี่สงสัยได้ยังไงวะ"
"แหม..พี่หนึ่งก็คิดมากไปได้ ผมแค่ไปสอนงานให้ไอ้สามครับ..มันจะมาเป็นหุ้นส่วนกับผม เผื่อผมไม่อยู่ไอ้สามมันจะได้ดูแลเมืองคาวแทนผมได้" สองภพแก้ตัวไปต่างๆนาๆ
"คุณพ่อ,คุณแม่รู้เรื่องที่พวกแกจะหุ้นกันหรือยัง" หนึ่งสยามยังคงสงสัย
"สามไม่ให้บอกเองครับพี่หนึ่ง สามกลัวคุณพ่อ,คุณแม่จะว่าเอาอ่ะครับ" สามเมืองพยายามหาทางออก
"หึ..หึ..ให้มันจริงเถอะ..อย่านึกว่าพี่ไม่รู้นะว่าพวกแกกำลังทำอะไรกันอยู่..สงสารคุณพ่อ,คุณแม่บ้าง" แล้วหนึ่งสยามก็เดินออกไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ปล่อยให้น้องชายทั้งสองคนนั่งหน้าซีตอยู่ที่โต๊ะอาหาร
.....................
สองภพขี่ม้าไผ่ทองมาที่กระโจมบังกะโล๗ เพื่อมาหาลุงคำแสงกับลีซอซึ่งทั้งสองกำลังทำความสะอาดอยู่ในนั้น ชายหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้าด้วยอารมณ์ไม่สู้ดีนัก เขาเดินเข้าไปในกระโจมบังกะโลด้วยความร้อนใจ
"ลุงคำ..บอกผมมาได้แล้วว่าไอ้แสงมันหายไปไหน" ชายหนุ่มพูดเสียงดังฟังชัดจนลีซอและลุงคำแสงหันมามองด้วยท่าทางตกใจ
"ผมบอกไม่ได้ครับนายน้อย..ไอ้แสงมันห้ามไว้"
"แต่ลุงต้องบอกผมเดี๋ยวนี้...ลุงรู้ไหมว่าฟาร์มม้าของเรากำลังจะแย่เพราะขาดไอ้แสงไป ลีซอมันดูแลคนเดียวไม่ไหวหรอก ลุงก็เห็นว่าม้าของเราล้มป่วยไปตั้งหลายตัว ไม่มีใครรู้จักนิสัยม้าพวกนั้นได้ดีเท่ากับไอ้แสง เพราะมันเลี้ยงของมันตั้งแต่เล็กๆมันรู้ใจม้าทุกตัว บอกผมมาเถอะครับว่าไอ้แสงอยู่ไหน ผมไม่ต้องการเห็นม้าล้มตายไปมากกว่าอีกแล้ว"
"ป้อคำ..บอกนายน้อยไปเถอะคับ ผมก็อยากให้อ้ายแสงปิ๊กบ้านคับ" ลีซอเดินไปเกาะแขนพ่อบุญธรรม
"มันอยู่ที่โขงเจียมตรงแม่น้ำสองสีครับนายน้อย..ตามมันมาให้เจอนะครับ" ลุงคำแสงตัดสินใจพูดออกไปด้วยความจำเป็น
"ขอบคุณมากครับลุง..ผมจะตามหาลูกชายของลุงกลับมาให้ได้ครับ" สองภพเดินเข้าไปกราบชายชราที่หน้าอก แล้วชายหนุ่มก็เดินออกไปโดยมีลีซอเดินตามมาด้วย
"วันนี้นายน้อยจะมานอนที่เมืองคาวหรือเปล่าครับ" ลีซอถามชายคนรัก
"พี่ยังมาไม่ได้ครับลีซอ..ตอนนี้หนูแดงกำลังท้องพี่ไม่อยากให้พ่อ,แม่สงสัย"
"ก็ไหนนายน้อยเคยบอกกับผมว่าจะไม่มีอะไรกับคุณหนูแดงยังไงครับ...แล้วทำไม...ถึงท้อง" หนุ่มพม่าเสียงสั่น
"พี่ไม่ได้ผิดคำพูดหรอกครับ เชื่อพี่นะลีซอ..คงอีกไม่นานพี่จะกลับมาอยู่กับลีซอเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ขอเวลาให้พี่หน่อยนะครับ"
"ผมรักนายน้อย..ผมอยากอยู่กับนายน้อย"
"พี่ก็รักลีซอครับ แต่ตอนนี้ลีซอต้องอดทนนะครับ คนดีของพี่"
"ครับ" ลีซอกอดชายคนรักไว้แน่นด้วยความรักจนหมดหัวใจ
บรื้อ....บรื้ออออ... อี๊ต...เสียงมอเตอร์ไซต์ชอปเปอร์คันใหญ่วิ่งเข้ามาจอดใกล้ๆกับสองหนุ่มคู่รักยืนอยู่
"นึกว่าหายไปไหน..ที่แท้ก็แอบมาหาไอ้เด็กเลี้ยงม้านี่เอง" สามเมืองพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า
"พี่ไม่ได้แอบนะสาม พี่ก็มาของพี่ทุกวันอยู่แล้ว"
"แต่ทุกครั้งที่มา..พี่สองก็ชวนสามมาด้วยนี่ครับ แล้วทำไมครั้งนี้ไม่บอกสาม" สามเมืองทำตาเขียวใส่ลีซอจนเด็กหนุ่มต้องก้มหน้าลงแล้วเดินออกไปอย่างช้าๆ ถึงแม้ว่าหนุ่มพม่าจะไม่เข้าใจในคำพูดของสามเมืองก็เถอะ
......................
ในระหว่างที่หนูแดงกลับไปเยี่ยมบ้านสี่ห้าวัน สามเมืองมักจะแอบเข้าไปหาสองภพที่ห้องนอนในช่วงเวลากลางคืนอยู่เสมอ แต่เขาหารู้ไม่ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดได้ตกอยู่ในสายตาของหนึ่งสยามมาโดยตลอด วันนี้ก็เช่นเดียวกันสามเมืองได้ย่องเข้าไปหาสองภพเหมือนอย่างเคย ในขณะที่สองหนุ่มพี่น้องกำลังระเริงรักกันอยู่บนเตียงอย่างถึงพริกถึงขิง หนึ่งสยามได้แอบไปเอากุญแจสำรองจากห้องทำงานของนายใหญ่แล้วไขประตูห้องนอนของสองภพเข้าไปอย่างเงียบๆ...พี่ชายคนโตตกตะลึ่งกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า น้องชายทั้งสองคนของเขากำลังผลัดกันดูดควยให้กันและกันอย่างเอร็ดอร่อยในท่า69
"ไอ้สอง,ไอ้สาม ทำไมทำแบบนี้วะ" หนึ่งสยามตะโกนลั่นห้อง
"พี่หนึ่ง" สองภพอุทานออกมาพร้อมๆกับหัวควยสีชมพูของสามเมืองได้หลุดออกจากปากของชายหนุ่มทันที
"พี่หนึ่ง" สามเมืองหน้าเปลี่ยนสีจากสวรรค์เป็นนรกในบัดดล
"ทำไมพวกแกถึงทำแบบนี้..พี่เสียใจจริงๆ" พี่ใหญ่พยายามพูดด้วยสติ
"พี่หนึ่ง..ผมขอโทษ พี่หนึ่งอย่าบอกใครนะครับ ผมขอร้อง" สองภพลุกขึ้นจากเตียงในสภาพเปลือยเปล่าและลงไปนั่งคุกเข่าขอร้องพี่ชายอยู่กับพื้น
"พี่หนึ่ง..สามผิดเองครับ" สามเมืองก็ทำเช่นเดียวกัน
"อันที่จริง..พี่ก็เห็นเรื่องแบบนี้มาเยอะแล้วนะ แต่นึกไม่ถึงว่ามันจะเกิดขึ้นกับพวกแกทั้งสองคน"
"พี่หนึ่ง..อย่าบอกพ่อกับแม่นะครับ ผมไม่อยากให้ท่านเสียใจ ฮือ..ฮือ" สองภพเกาะขาพี่ชายไว้แน่น
"พี่หนึ่งครับ..สามรักพี่สอง สามขอให้พี่สองทำแบบนี้เองครับ พี่สองไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าพี่หนึ่งจะเกลียดพี่หนึ่งเกลียดสามนะครับ สามมันเลว สามขอโทษ ฮือ..ฮือออ" สามเมืองก้มหน้าร้องไห้ด้วยความสำนึกผิด
"ถ้าพวกแกรักกันจริงๆ พี่จะไปว่าอะไรได้ แต่ขออย่างเดียว..อย่าทำให้ใครเดือดร้อนก็แล้วกัน" หนึ่งสยามเอามือลูบหัวน้องชายทั้งสองคน แล้วก็เดินออกไปด้วยสีหน้าปรกติ ทำให้สองภพและสามเมืองอดที่จะแปลกใจไม่ได้
......................
"เคยเห็นผู้ชายในรูปนี้ไหมครับ"
"บ่เคยเห็นคับ"
"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มเดินต่อไปเรื่อยๆแล้วก็ถามชาวบ้านไปตลอดทาง "น้าครับ..เคยเห็นคนในรูปนี้ไหมครับ"
"บ่คับ" เสียงปฎิเสธผ่านเข้าหูเขาเป็นร้อยๆรอบ แต่เขาก็ยังเดินต่อไปอย่างไม่ลดละ
"ลุงครับ..เคยเห็นผู้ชายในรูปนี้ไหมครับ"
"บ่เคยเห็นซักเทื่อเด้อ"
"ครับ..ขอบคุณครับ"
ชายหนุ่มหยุดพักเหนื่อยอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยความอ่อนล้า เขาทำอย่างนี้มาสามวันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เจอคนที่เขาตามหาเลย เขานั่งอยู่ตรงนั้นด้วยความอ่อนใจ แล้วสักพักเขาก็มองไปเห็นรถขายอาหารแห้งกำลังผ่านมา เขาเดินตรงเข้าไปทันทีแล้วพูดว่า
"สวัสดีครับน้า..คือผมมาตามหาเพื่อนนะครับ แต่ไม่รู้ว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหน น้าเคยเห็นผู้ชายในรูปนี้ไหมครับ" ชายหนุ่มถามด้วยความหวังอีกครั้ง
"บักนี้..มันหลานอ้ายปองแมนบ่อีนาง" ผู้ที่ถูกถามหันไปถามหญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
"แม่นจ๊ะ"
"แล้วบ้านเขาอยู่ที่ไหนครับ" ชายหนุ่มถามต่อด้วยความหวังขั้นต่อไป
"พูลเด้อ..ย่างไปให้ถึงสี่แยกแล่วก็เลี้ยวขวาเด้อ" ผู้ที่ถูกถามชี้เส้นทางพร้อมกับอธิบายไปด้วย
"ขอบคุณมากครับ"
"บ่เป็นหยังบักหล้า"
..........................
"ไอ้แสง" สองภพตะโกนดังลั่นเมื่อได้เจอคนที่เขาเดินตามหามาตลอดสามวัน
"นายน้อย" ภูแสงหันมาตามเสียงพร้อมกับๆกระจาดปลาแห้งได้ร่วงหล่นจากมือของเขาในทันที
"ไอ้แสง..มึงหนีกูมาทำไม ทำไมมึงทำแบบนี้วะ" สองภพเดินเข้าไปกอดเพื่อนรักด้วยความคิดถึง
"นายน้อย..มึงไม่โกรธกูเหรอ กูมันเลว กูมันชั่วช้าเหลือเกิน "
"ช่างมันเถอะไอ้แสง กูลืมมันไปหมดแล้ว มึงเป็นเพื่อนตายของกู...มึงอย่าหนีกูอีกเลย กูรักมึงนะ ฮือ..อืออ" น้ำตาของสองภพไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
"ไอ้นายน้อย..กูก็รักมึง รักเหลือเกิน คิดถึงมึงทุกวัน" ภูแสงกอดเพื่อนสุดที่รักของเขาเอาไว้แน่น
"กลับไปอยู่เมืองคาวกับกูนะไอ้แสง..กูมารับมึง"
"กูต้องกลับไปแน่นอน กูจะไปแก้แค้นไอ้เรือรบ ไอ้พ่อค้ายาบ้า" ภูแสงจูงมือสองภพมานั่งที่แคร์ใต้ต้นกระถิ่น
"มึงว่าไงนะ"
"ไอ้รบมันหลอกกูให้มาค้ายาบ้าที่สีทันดร แต่กูรู้ตัวก่อน พวกมันก็เลยจะฆ่ากู..ลุงปองช่วยชีวิตกูเอาไว้ กูถึงต้องอยู่ตอบแทนบุญคุณของแก"
"ไอ้รบ..แม่งชั่วกว่ากูคิดเสียอีก ไอ้เลวเอ้ยยย" สองภพคำรามในลำคอ
"นายน้อย..ถ้ากูจะกลับไปเมืองคาว กูขอพาลุงปองไปด้วยได้ไหม กูไม่อยากทิ้งแกไว้คนเดียว แกแก่แล้วสงสารแกว่ะ"
"ได้ซิไอ้แสง ลุงปองมีบุญคุณกับมึง ก็เหมือนกับแกมีบุญคุณกับกูด้วยนะ"
"ขอบใจนายน้อย" ภูแสงจับมือสองถพขึ้นมาสูดดมด้วยความชื่นใจ "กูรักมึงเหลือเกิน ไอ้นายน้อยของกู"
"มึงอย่าหนีกูไปไหนอีกนะไอ้แสง มึงรู้ไหม..ม้าที่มึงเลี้ยงอ่ะ มันจะตายกันหมดแล้วนะเว้ย พวกมันคงคิดถึงมึง"
"พวกเอ็งไปกันเถอะ ไม่ต้องห่วงข้า ข้าอยู่ของข้าได้" ลุงปองเดินเข้ามาสมทบ
"สวัสดีครับลุงปอง" สองภพยกมือไหว้
"แต่ลุงมีบุญคุณกับผมนะครับ ผมไม่อยากทิ้งให้ลุงอยู่คนเดียว"
"ไอ้แสงเอ้ย..ตั้งแต่เอ็งอยู่กับข้า เอ็งก็ช่วยทำงานทุกอย่างไม่เคยบ่นสักคำ ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก ข้าจะอยู่รอลูกชายของข้าที่นี่ ถ้าเอ็งคิดถึงข้าเอ็งก็มาหาข้าก็ได้นี่ลูก"
"ลุงไปอยู่กับพวกผมเถอะครับ...ส่วนเรื่องลูกชายของลุง ผมจะแจ้งให้เขาทราบทีหลัง" สองภพชวนอีกครั้ง
"ไม่เอาล่ะพ่อหนุ่ม ข้าชินกับการอยู่ที่นี่แล้วล่ะ ข้าไม่ไปไหนหรอก"
"ถ้าผมไปแล้ว..ผมจะมาเยี่ยมลุงปองบ่อยๆนะครับ" ภูแสงกล่าว
..................
หลังจากการส่งยาบ้าที่สีทันดรได้ล้มเหลวลง ไอ้เจตต้องหนีจากการตามล่าของแกงค์ยาบ้าทางฝั่งลาวอย่างหัวซุกหัวซุน มันหนีมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไร่ลิ้นจี่ของนายเรือรบอย่างหมาจนตรอก
"มึงต้องเก็บตัวอยู่ที่นี่อีกสักพัก จนกว่าเรื่องจะเงียบ" นายเรือรบพาไอ้เจตมาซ่อนตัวที่กระท่อมหลังสวน ซึ่งอยู่ติดกับฟาร์มม้าของนายใหญ่
"ผมว่าเรื่องเงียบแล้วล่ะครับนาย ขอผมไปทำงานเถอะครับ"
"แล้วเรื่องไอ้แสงล่ะ..มึงแน่ใจเหรอว่ามันตายห่าไปแล้ว"
"แน่นอนครับนาย ผมยิงมันตกทะเลไปกับมือ ไม่รอดแน่ๆครับนาย"
"ไอ้เหี้ยนี่แสบ..ทำให้กูเสียรายได้ไปเป็นล้าน ตายเสียได้ก็ดี...แล้วทำไมยังไม่มีใครพบศพมันวะ"
"ศพมันคงโดนปลาตอลหมดแล้วล่ะนาย..แล้วนายจะให้ผมเริ่มทำงานเมื่อไห่รครับ"
"ถ้ามึงอยากจะทำนัก อีกสองวันเริ่มงานได้เลย"
"ที่ไหนครับนาย"
"สามเหลี่ยมทองคำ แต่คราวนี้มึงต้องขึ้นไปรับยากับพ่อค้ารายใหญ่" นายเรือรบจ้องหน้าลูกสมุน
"ได้ครับนาย"
"อย่าให้พลาดนะมึง เพราะครั้งนี้เป็นยาชุดพิเศษหลายแสนเม็ดทีเดียว ถ้าพลาดอีก..กูเอามึงตาย" นายเรือรบพูดเสียงจริงจัง
"ครับนาย..ไม่พลาดแน่นอนครับ"
16.
(ความเดิม)
"อย่าให้พลาดนะมึง เพราะครั้งนี้เป็นยาชุดพิเศษหลายแสนเม็ดทีเดียว ถ้าพลาดอีก...กูเอามึงตาย" นายเรือรบพูดเสียงจริงจัง
"ครับนาย...ไม่มีพลาดแน่นอนครับ"
....................
ก่อนออกเดินทางกลับเชียงใหม่ภูแสงได้พาสองภพขับรถเล่นไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่เขาพอจะรู้จักในโขงเจียมไม่ว่าจะเป็น เสาเฉลียง,ผาแต้ม,น้ำตกแสงจันทร์หรือแม้กระทั่งภูผาหิน สองหนุ่มเพื่อนรักสนุกสนานและมีความสุขกันมากทีเดียว ภูแสงพานายน้อยของเขาออกตระเวนลุยเที่ยวตามแบบฉบับลูกผู้ชายอย่างเขา นายน้อยเองก็รู้สึกจะชอบการท่องเที่ยวแบบนี้อยู่มากเหมือนกัน เพราะมันไม่มีพิธีรีตองใดๆให้ยุ่งยาก ค่ำที่ไหนก็นอนที่นั้น และในค่ำคืนนี้สองหนุ่มได้จอดรถนอนค้างคืนอยู่ที่ชายฝั่งแม่น้ำมูลตรงศาลาข้างทางอันเงียบสงบ
บรรยากาศในค่ำคืนนี้ก็ช่างเป็นใจเสียเหลือเกิน พระจันทร์กระจ่างฟ้าส่องสว่างสวยงามราวกับภาพวาด ดาวประจำเมืองสุกสวาวใสสดอยู่เคียงข้างพระจันทร์ดวงโตดวงนั้น สองภพเหลือบไปเห็นภูแสงกำลังนอนหลับอยู่ เขาจึงค่อยๆเดินออกมาจากรถอย่างช้าๆ ชายหนุ่มเดินไปยืนอยู่กลางศาลาข้างทางและมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเขาสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดอย่างเต็มที่ ในขณะที่เขากำลังใจลอยคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย อยู่ๆก็มีแขนอันแข็งแรงทรงพลังเข้ามาโอบกอดตัวของเขาไว้
"ใส่เสื้อก่อนนะนายน้อย...เดี๋ยวมึงจะหนาว ที่นี้ลมมันแรง" ภูแสงเอาเสื้อทหารตัวเก่งมาห่มให้นายน้อยของเขาและโอบกอดเบาๆ
"อ้าว...กูนึกว่ามึงหลับซะอีก"
"กูจะหลับได้ยังไงละ กูต้องอยู่ดูแลมึง"
"แต่มึงเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะเว้ย..ไปพักผ่อนเถอะ กูอยู่คนเดียวได้"
"กูไม่ได้เหนื่อยสักหน่อย...ให้กูอยู่เป็นเพื่อนนะนายน้อย" ภูแสงกอดนายน้อยเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
"งั้นก็ตามใจมึง....ไอ้แสงมึงคิดอย่างไงกับกูกันแน่วะ บอกกูได้มั้ย" สองภพหันมาสบตาของภูแสงเพื่อรอคำตอบ แต่ร่างกายของเขาก็ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของภูแสง
"ตั้งแต่วันที่กูทำร้ายมึงในป่า...กูบอกตรงๆว่ากูก็รู้สึกสับสนเหมือนกันวะ เมื่อก่อนกูไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับมึงเลยนะนายน้อย แต่พอเกิดเรื่องขึ้น..กูสงสารมึงมาก กูเป็นห่วงมึงเหลือเกิน กูคิดถึงมึงทุกลมหายใจ...กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจของกู มึงช่วยบอกกูหน่อยได้ไหมนายน้อย..ว่ากูควรจะทำอย่างไงดี"
"มึงไม่ต้องทำอะไรหรอกไอ้แสง...แค่มึงอยู่เป็นเพื่อนกูไปจนวันตายก็พอแล้ว...กูขอแค่นี้..ขอแค่มึงอย่าหนีกูไปไหนอีก ได้ไหมวะ ได้ไหมไอ้แสง"
"กูสัญญา..ว่ากูจะไม่หนีมึงไปไหนอีกนอกเสียจากความตายที่จะมาพรากกูไปจากมึง...กูรักมึงเหลือเกินไอ้นายน้อย"
สองภพประกบริมฝีปากของภูแสงเบาๆเพื่อแสดงให้รู้ว่าเขาเองก็มีใจให้กับไอ้หนุ่มเลือดร้อนคนนี้อยู่ไม่น้อยทีเดียว ภูแสงตอบสนองนายน้อยด้วยรสจูบที่เข้มข้นเหมือนนิสัยของเขา เขาสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของนายน้อยอย่างหื่นกระหาย จนนายน้อยตกใจและผลักตัวเขาออกไป
"อย่าทำแบบนี้เลยไอ้แสง...กูลำบากใจนะโว้ย"
"มึงไม่ได้รักกูใช่ไหมนายน้อย"
"ไม่ใช่อย่างงั้นนะเว้ย...เห้อออออ.." สองภพถอนหายใจด้วยความจุกอกจนแทบระเบิด
"แล้วอะไรละวะ"
"มึงก็รู้ว่ากูรักอยู่กับลีซอ...และกูก็แต่งงานแล้วนะ กูไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นวายไปมากกว่านี้"
"กูเข้าใจแล้ว...กูขอโทษ" ภูแสงหันหน้าหนีและกำลังจะเดินไปที่รถ
"เดี๋ยว...ไอ้แสง" สองภพคว้าข้อมือของภูแสงเอาไว้แล้วพูดขึ้นว่า "มึงสัญญากับกูก่อนได้ไหม...ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย"
"ได้ซินายน้อย...กูสัญญาว่ากูจะไม่ขออะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว" ภูแสงเข้ามากอดจูบนายน้อยด้วยความเร่าร้อนของไฟเสน่หาที่มีอยู่ทุกอณูขุมขนในร่างกายของชายหนุ่มในเวลานี้
"มึงจะเย็ดกูตรงนี้เลยเหรอไอ้แสง" สองหนุ่มต่างก็ช่วยกันถอดเสื้อออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วด้วยความหื่นกระหายและแรงเงี่ยนจนเกินคำบรรยาย
"เย็ดตรงนี้แหละดีแล้ว...ให้ฟ้าดินเป็นพยานว่ากูจะรักมึงไปจนวันตาย" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนพูดออกมา
สองภพนั่งคลุกเข่าแล้วจับลำควยขนาดสองกำมือโผล่ของภูแสงเข้าปากด้วยความยากลำบาก ชายหนุ่มดูดลำควยดุ้นนั้นได้แค่ครึ่งเดียว เพราะมันใหญ่เกินกว่าที่ปากของเขาจะงับได้หมด
"ทำไมควยมึงใหญ่จังวะ...กูดูดไม่ไหว อ้า...อ่า.."
"มึงเลียตรงหัวควยก็พอนายน้อย...แดกน้ำอยากของกูให้หมด...ซี๊ตตต ดูดแรงๆ โอ้ยยย"
"ไอ้แสงมึงดูดควยให้กูบ้างซิวะ....กูก็เงี่ยนนะโว้ย อ้า.." สองภพลุกขึ้นยืนแล้วกดตัวของภูแสงให้ก้มลงไปที่ลำควยขนาดเจ็ดนิ้วของเขา
ภูแสงจับลำควยของนายน้อยเข้าปากอย่างรวดเร็วด้วยความเงี่ยน เขาเลียตรงหัวควยอยู่นานก่อนที่จะงับเข้าปากไปทั้งดุ้น เขาดูดกินน้ำอยากของนายน้อยจนหมดท่อควยอย่างเอร็ดอร่อย ไอ้หนุ่มเลือดร้อนจับตัวของนายน้อยหันหลังแล้วดันให้ไปติดกับขอบศาลา เขาค่อยๆเอานิ้วแทงเข้าไปในรูตูดของนายน้อยเพื่อเป็นการเปิดทางให้แก่ลำควยของเขา
"โอ้ย...อ้า...อู้วววววว กูเสียววะไอ้แสง อ้า อ้า อ่าาาาา" นายน้อยร้องครวญครางดังลั่น "แทงเข้าไปลึกๆ อ้าาา กูเสียว"
"ตูดมึงสวยจังเลยไอ้นายน้อย โอ้..โคตรขาวเลยวะ อ่า...กูทนไม่ไหวแล้ว.." ภูแสงเอาลิ้นแยงเข้าไปแทนนิ้วเขาละเลงอยู่นานจนน้ำลายเยิ้ม แล้วเขาก็เอานิ้วแทงเข้าไปอีกรอบสลับกับการเลียกันจนรูตูดของนายน้อยขยายเปิดกว้างจนเห็นได้ชัด
"ไอ้แสง...มึงจะเย็ดก็เย็ดซักทีซิวะ กูเงี่ยนจะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะ อ้า อ้า"
"กูจะเย็ดเดี๋ยวนี้แหละ...อ้า.โอ้ย"
"เย็ดเบาๆก่อนนะเว้ย..อ้าาาา..คราวที่แล้วที่มึงเย็ดกูในป่า...ตูดกูฉีกเลยมึงรู้ไหม อ้า..หมอต้องให้ยาแก้อักเสบกูกินเป็นอาทิตย์เลยนะเว้ยกว่าจะหาย อ้าก...ค่อยๆยัดซิวะ ไอ้ควยยักษ์...โอ้ยยย กูเจ็บนะโว้ย..."
"จะเข้าหมดลำควยแล้วนายน้อย อ้า....ฟิต..ฟิตฉิบหาย ซี๊ตตตตต อ่าาาา"
"อ้า...เข้าหมดหรือยัง ซี๊ตตตต" สองภพหันหน้ามาถาม
"โอ้...อ้าาา...เข้าหมดแล้ว กูเสียวลำควยจนน้ำแทบแตก อ้าาาา"
"ค่อยๆกระเด้าก่อนนะเว้ย รอให้กูหายเจ็บก่อนแล้วค่อยเย็ดแรงๆ อ้า..."
ภูแสงเริ่มกระเด้าเบาๆตามที่นายน้อยบอก ทุกครั้งที่เขาเสียบลำควยเข้าไปในรูตูดของนายน้อย ชายหนุ่มรู้สึกเสียววาบไปทั้งลำควย เพราะรูตูดของนายน้อยทั้งขมิบทั้งตอดลำควยของเขาอยู่ตลอดเวลาจนเขาทนความเสียวไม่ไหว น้ำเงี่ยนของเขาได้แตกทะลักออกมาก่อนเวลาอันควร
"โอ้ยยยยย...น้ำเงี่ยนกูแตกแล้ว อ้าาาาา แตกแล้ว ซี๊ตตตตต" ภูแสงร้องลั่นด้วยความเสียว
"อ้าาา...ทำไมเร็วจังวะไอ้แสง....กูกำลังเสียวอยู่เลย อ้า..ไอ้เหี้ย...ไม่ได้เรื่องเลยมึง อ้าาาา เย็ดเป๊ปเดียวเอง อ้า"
"แต่กูยังไม่หายเงี่ยนเลยนายน้อย อ้า...ซี๊ตตต ให้กูเย็ดต่ออีกยกนะครับ ควยกูยังแข็งอยู่เลยนายน้อย อ้า"
ไอ้หนุ่มเลือดร้อนชักลำควยที่เปื้อนไปด้วยน้ำเงี่ยนจนแฉะเยิ้มออกมาดูอย่างภูมิใจ แต่เขาก็ยังไม่หายอยากจากไฟราคะที่กำลังสุมอยู่ในลำควยอันแข็งโป๊กของเขาในเวลานี้ เขายัดลำควยเข้าไปในรูตูดของนายน้อยอีกครั้งทีเดียวจนมิดด้าม แล้วซอยยิกๆด้วยความเมามันส์ โยกซ้ายโยกขวาควงสว่านบดขยี้รูสวรรค์ของนายน้อยอยู่นานร่วมสิบนาที ก่อนที่เขาจะกระเด้าอย่างสุดพลังจนขาของนายน้อยสั่นระริก
"อ้า...ไอ้แสง...กูเสียวรูตูด ทำไมมึงเย็ดเก่งจังวะ โอ้ย โอ้ย อ้า" สองภพร้องครวญครางอย่างลืมอาย
"กูรักมึงไอ้นายน้อย...กูจะขอเย็ดมึงคนเดียวในโลก อ้าาา กูจะไม่เย็ดใครอีกแล้ว..กูจะเย็ดมึงคนเดียว....โอ้ย..กูเสียวลำควยเหลือเกิน อ้า อ้า อ้า" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนกระเด้าไปพูดไป สายตาของเขามีแต่ความหื่นในรสกามาอย่างเห็นได้ชัด
"ไอ้แสงกูไม่ไหวแล้ว น้ำกูจะแตกแล้ว อ้าาาาา ซี๊ตตตต ชักว่าวให้กูหน่อย อ้าาา" ภูแสงเอื้อมมือไปจับลำควยของนายน้อยแล้วกระทุ้งอย่างเอาเป็นเอาตายตามจังหวะแรงกระเด้าเย็ดของเขา
"โอ้ย...นายน้อย..น้ำเงี่ยนกูจะแตกอีกแล้ว อ้า อ้าาาา" นายน้อยเอามือจับขอบศาลาเอาไว้แน่นเพื่อรับแรงกระแทกจากไอ้หนุ่มพลังม้า
"กูเสียวเหลือเกิน...เย็ดกูแรงๆ โอ้ยยย น้ำกูแตกแล้ว อ้าาาาาาา อ้าาาาา" นายน้อยพ่นน้ำรักอุ่นๆออกมาเต็มมือของภูแสงมีบางส่วนที่พุ่งออกไปนอกศาลาและไหลย้อยไปกับพื้น
"โอ้ยยยยยย กึก กึก อ้า แตกแล้ว อ้าาาาา" ภูแสงได้ฉีดน้ำเงี่ยนเข้าไปในรูตูดของนายน้อยอีกครั้งอย่างล้นหลาม ชายหนุ่มหอบเหนื่อยเหงื่อเต็มตัว แล้วเขาก็ซบลงไปบนแผ่นหลังของนายน้อยด้วยความรักความเสน่หาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
...................
ภูแสงกับสองภพกลับมาถึงบ้านของลุงปองในตอนสายๆของอีกวัน ชายหนุ่มทั้งสองเห็นผู้เฒ่ากำลังตากปลาแห้งอยู่คนเดียว ทั้งสองหนุ่มก็วิ่งเข้าไปช่วยชายชราในทันที ภูแสงรับกระจาดปลาแห้งมาจากมือของลุงปองแล้วทำหน้าที่แทน ส่วนสองภพพาลุงปองเดินมานั่งที่แคร่ไม้ไผ่ใต้ต้นกระถิ่น
"ไปเที่ยวไหนกันมาละพ่อหนุ่ม" ชายชราหันมาถามสองภพ
"ไปหลายที่ครับลุง...ไอ้แสงมันพาผมไปจนทั่ว"
"แล้วเมื่อคืนทำไมพวกเอ็งไม่กลับมานอนที่บ้านละลูก...ไปนอนที่ไหนกันวะ...ข้ารอเปิดประตูให้ แต่พวกเอ็งก็ไม่มาซักทีข้าเลยเข้านอนก่อน"
"ขอโทษครับลุง..พวกเราไปนอนแถวๆแม่น้ำมูลกันครับ" ภูแสงเดินเข้ามาตอบแล้วนั่งลงข้างๆลุงปอง
"ผมก็ขอโทษนะครับที่ทำให้ลุงเป็นห่วง" สองภพพูด
"ไม่เป็นไรลูก...พวกเอ็งปลอดภัยมาก็ดีแล้ว ที่ข้าเป็นห่วงน่ะเพราะรถของข้ามันไม่ค่อยดีมันเก่ามากแล้ว กลัวพวกเอ็งจะไปเกิดอุบัติเหตุกัน"
"ลุงปองครับ...พวกผมต้องกลับเชียงใหม่แล้วนะครับ ผมเป็นห่วงลุงนะครับ" ภูแสงจับมือของชายชราเอาไว้
"ไม่ต้องห่วงข้าหรอก...เอ็งกลับไปทำงานของเอ็งเถอะไอ้แสง"
"ลุงก็เหมือนพ่อคนที่สองของผม ลุงช่วยชีวิตผมไว้ ผมจะไม่ลืมบุญคุณของลุงเลยครับ"
"ข้าก็ขอให้เอ็งปลอดภัยจากไอ้พวกเดนนรกนะลูก คนดีอย่างเอ็งตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้หรอกลูก รักษาความดีเอาไว้นะลูก"
"ครับลุง" ภูแสงก้มลงไปกราบเท้าของชายชราผู้ให้ชีวิตใหม่แก่เขา
........................
"ไอ้สัตว์เอ้ย...ระยำแล้วมึง ถ้ากูเจอมึง..กูจะฆ่ามึงไอ้เหี้ยเจต แม่งทำเอากูฉิบหายไปหลายสิบล้าน"
นายเรือรบตะโกนดังลั่นบ้านหลังจากที่ได้ดูข่าวทางโทรทัศน์ เรื่องการทลายแกงค์ค้ายาข้ามชาติที่สามเหลี่ยมทองคำ เพราะยาบ้าชุดพิเศษหลายแสนเม็ดที่เขาให้ไอ้เจตไปรับก็ถูกหางเลขไปอย่างเต็มๆ เขาจ้องมองโทรทัศน์ด้วยความโมโหจนหน้าเขียว ภาพในโทรทัศน์เป็นภาพที่ตำรวจจับคนร้ายได้หลายสิบคน เขาพยายามมองหาไอ้เจตแต่ก็ไม่มีแม้แต่เงาของไอ้เจตอยู่ในกลุ่มคนร้ายนั้นเลย
.........................
ที่บ้านลุงคำแสงในเวลารุ่งอรุณ ชายชรากำลังนั่งกินข้าวอยู่กับลีซอ ก่อนที่พวกเขาจะออกไปทำงานตามหน้าที่
"พ่อจ๋า...ฉันกลับมาแล้วจ๊ะ" ภูแสงวิ่งเข้าไปหาผู้เป็นพ่อแล้วก้มลงกราบที่ตัก นายน้อยเดินตามหลังมาด้วย
"ไอ้แสงลูกพ่อ...ข้านึกอยู่แล้วว่าสักวันเอ็งต้องกลับมา ข้าคิดถึงเอ็งไอ้แสง" ลุงคำแสงดึงตัวลูกชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความรัก
"อ้ายแสง...ให่ผมกอดตวยคับ ผมคิ้ดเติงหาอ้ายแสงนักขนาดคับ" หนุ่มลีซอวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายด้วยอีกคน
"แล้วไม่คิดถึงพี่เหรอครับลีซอ" สองภพมองลีซอด้วยรอยยิ้ม
"บ่อคับ" หนุ่มลีซอตอบสั้นๆแล้วนั่งกินข้าวต่อ สองภพเดินเข้าไปจับแขนหนุ่มพม่าแล้วจูงมาจนลับตาของลุงคำแสง
"เป็นอะไรอีกครับ..งอนพี่เรื่องอะไร"
"นายน้อยไปไหนไม่เคยบอกผมเลย...คนในฟาร์มรู้กันหมด มีแต่ผมคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย...ถ้าพี่เอกับไอ้ต่อไม่บอกผมก็คงจะไม่รู้"
"ก็พี่กลัวลีซอจะขอตามไปด้วยนี่ครับ พี่ก็เลยไม่ได้บอก พี่ขอโทษนะครับ"
"แล้วทำไมนายน้อยไม่อยากให้ผมไปด้วยละครับ...อ้ายแสงเป็นพี่ชายผมนะ"
"ถ้าลีซอไป...แล้วใครจะดูแลม้าละครับ พวกคนงานก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรนัก อย่าโกรธพี่เลยนะครับ....พี่พาอ้ายแสงของลีซอกลับมาแล้วนะ ไม่ยอมขอบคุณพี่แล้วยังมาโกรธพี่อีก ใจดำจัง...ว้า...คืนนี้ว่าจะไปนอนที่"คนเมืองคาว"ซะหน่อย หึ...แฟนโกรธซะแล้ว ไม่ไปดีกว่า เชอะ..."
"ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป...เชิญนายน้อยไปนอนกอดกับคุณหนูแดงตัวอ้วนๆให้สบายเถอะ...ผมนอนกับพี่เอกับไอ้ต่อก็ได้"
"มีชู้เหรอครับ..มานี่..มาให้พี่ตรวจร่างกายซะดีๆ" สองภพรวบตัวของหนุ่มพม่ามากอดไว้ด้วยความหมั่นเขี้ยว
"แอะ..แอะ อย่านะนายน้อย เดี๋ยวลุงคำเห็น อย่า.." ลีซอพยายามดิ้นหนีแต่ก็ดิ้นไม่หลุด จนกระทั่งมีเสียงของใครบ้างคนดังขึ้น
"กูจะไปบ้าน"ซุ้มนาย"มึงจะไปกับกูไหมนายน้อย หรือว่ามึงอยากจะพรอดรักกับไอ้ลีซอก็เชิญ...ตามสบายเพื่อน" ภูแสงเดินเข้ามาโดยที่สองหนุ่มไม่ทันเห็น
"กูไปด้วย...ลีซอตอนสายๆเจอกันที่คนเมืองคาวนะครับ"
"ครับนายน้อย"
.......................
"หายไปไหนมาไอ้แสง..." นายใหญ่ถามด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน
"ผมไปต่างจังหวัดมาครับ...ผมขอโทษครับนายใหญ่,นายหญิง ที่ผมไม่ได้บอกใคร"
"แล้วทำไมเธอถึงไม่บอกใครละ มีปัญหากับใครหรือเปล่านายแสง" คุณขวัญเชิญถาม
"ไม่มีครับนายหญิง" ภูแสงก้มหน้าสำนึกผิด
"แกเห็นคนในบ้านนี้เป็นหัวหลักหัวตอหรือไงวะ..นึกจะไปก็ไป นึกจะมาก็มา" หนึ่งสยามไม่พอใจ
"คืออย่างงี้ครับพ่อ...ผมทะเลาะกับไอ้แสงตอนที่เราไปหลงป่าด้วยกัน ผมโมโหมัน..ผมก็เลยไล่มันไปครับ" สองภพแก้ตัวแทนเพื่อนรัก
"นายน้อย.." ภูแสงพูดในลำคอแล้วหันมามองเพื่อนรักด้วยความซึ้งใจ
"ถ้าอย่างงั้นก็แล้วไป ทีหลังก็อย่าทำให้มันโมโหอีกนะไอ้แสง แกก็รู้ว่าไอ้สองมันดื้อไม่ฟังใครง่ายๆหรอก" นายใหญ่พูด
"ครับ..นายใหญ่"
"ไอ้สอง...พ่อกับแม่จะไปอเมริกากับพี่หนึ่งซักสองอาทิตย์ แกอยู่ทางนี้กับไอ้สามสองคนช่วยกันดูแลทุกอย่างแทนพ่อกับแม่ด้วยนะ"
"ครับพ่อ...แล้วจะออกเดินทางกันเมื่อไรครับ"
"วันมะรื่น" หนึ่งสยามตอบ
"อ้าว...ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องเลยละครับพ่อ" สองภพหันไปถามผู้เป็นบิดา
"ก็แกมัวแต่ไปแรดที่ไหนมาละ ลูกเมียก็ไม่สนใจ..."
"ผมก็ไปตามไอ้แสงไงครับ"
"ไอ้แสงมาก็ดีแล้ว..ข้าจะได้หายห่วงไปอีกแรง ข้าฝากฟาร์มม้าไว้ด้วยนะไอ้แสง" นายใหญ่หันไปพูดกับภูแสง
"ไม่ต้องเป็นห่วงครับนายใหญ่ ผมจะดูแลให้ครับ"
"แล้วนี่ไอ้สามไปไหนครับ..แม่" สองภพหันไปถามคุณขวัญเชิญ
"ก็พาเมียแกไปฝากท้องยังไงละ" หนึ่งสยามตอบแทนมารดาด้วยสายตาที่รู้ทันน้องชาย จนสองภพต้องหลบสายตาของเขาโดยทันที
"ถ้าแม่ไม่อยู่สองต้องดูแลหนูแดงให้ดีๆนะลูก อย่าปล่อยให้หนูแดงไปไหนมาไหนคนเดียว เดี๋ยวจะหกล้มลงไปจะเป็นอันตรายต่อลูกของสองนะจ๊ะ....ตาหนึ่งขึ้นไปช่วยแม่จัดกระเป๋าเดินทางได้แล้วลูก"
"ครับคุณแม่...." หนึ่งสยามกำลังจะเดินตามผู้เป็นมารดาขึ้นไปชั้นบน แต่ก็มาหยุดตรงที่สองภพนั่งอยู่แล้วกระซิบเบาๆว่า "พี่รู้ว่าเด็กในท้องของหนูแดงไม่ใช่ลูกของแก"
17.
(ความเดิม)
"ครับคุณแม่..." หนึ่งสยามกำลังจะเดินตามผู้เป็นมารดาขึ้นไปชั้นบน แต่มาหยุดตรงที่สองภพนั่งอยู่แล้วกระซิบเบาๆว่า "พี่รู้ว่าเด็กในท้องของหนูแดงไม่ใช่ลูกของแก"
.....................
ในห้องอาหารครัวคาวบอยมีลูกค้ากำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ประมาณ4-5โต๊ะ สินชัยกำลังยืนผสมคอกเทลอยู่ในบาร์เหล้าอย่างทะมัดทะแมง วันนี้ชายหนุ่มอยู่ในชุดคาวบอยสุดเทห์เช่นเดียวกับต่อศักดิ์ซึ่งกำลังวุ่นวายอยู่กับการเสริฟ์อาหารให้ลูกค้าอย่างคล่องแคล้วว่องไว
"ไอ้ต่อ...คอกเทลของโต๊ะ9" สินชัยตะโกนบอกต่อศักดิ์เบาๆ
"พี่เอ...เมื่อกี้โต๊ะ9 เขาถามหานายน้อยด้วยแหละ"
"มึงอยากรู้มั้ย..ว่าพวกมันเป็นใคร"
"ใครเหรอพี่เอ" หนุ่มพเนจรรับแก้วคอกเทลมาวางไว้บนถาด
"ก็ไอ้ผู้กำกับต้อไง...มันเคยทะเลาะกับนายน้อยเรื่องข่าวเกย์ของพวกกูตอนอยู่กรุงเทพไงละ มึงจำไม่ได้เหรอว่ะ"
"เออ..จำได้แล้วครับ...และอีกคนหนึ่งใครง่ะพี่"
"ไอ้เคน...ผัวใหม่มัน" สินชัยตอบแต่สายตาของเขาก็ยังคงมองไปที่โต๊ะของผู้กำกับต้ออย่างไม่ลดละ
"เดี๋ยวผมเอาเหล้าไปเสริฟ์ก่อนนะครับ"
ต่อศักดิ์เดินเอาคอกเทลมาเสริฟ์ให้ผู้กำกับต้อและคู่ขาใหม่ตามหน้าที่ของเขา
"น้อง...รีสอร์ทคนเมืองคาวเนี่ยมีที่ไหนสวยๆบ้างครับ ช่วยแนะนำพวกพี่หน่อยซิ" เคนดาราหนุ่มไฟแรงถามต่อศักดิ์
"มีหลายที่ครับผม...ไร่ทานตะวัน,น้ำตกเมืองคาว หรือถ้าพี่อยากจะเที่ยวชมฟาร์มม้า เราก็มีม้าไว้บริการฟรีครับ" หนุ่มพเนจรตอบอย่างสุภาพ
"เจ้าของรีสอร์ทไม่อยู่เหรอน้อง พี่มารอตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ" ผู้กำกับต้อถาม
"นายน้อยไปต่างจังหวัดครับ...ไม่ทราบว่ากลับมาหรือยัง...ผมขอตัวก่อนนะครับ" แล้วต่อศักดิ์ก็เดินออกมา
.....................
ป็อกๆๆ...เสียงเคาะประตูห้องของหนึ่งสยามดังขึ้น ชายหนุ่มกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ บนร่างกายของเขามีผ้าขนหนูพันส่วนล่างไว้เพียงผืนเดียว ทันทีที่เขาเปิดประตูห้องออกไปเขาก็ถูกแรงผลักจากด้านนอกดันตัวให้เข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว
"เมื่อเช้าที่พี่หนึ่งพูดกับผมข้างล่าง...พี่หนึ่งหมายความว่ายังไงครับ" สองภพเริ่มบทสนทนาด้วยความร้อนใจ
"ก็หมายความอย่างที่พี่พูดนั้นแหละ"
"ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี" สองภพดึงมือพี่ชายให้มานั่งลงบนเตียงส่วนตัวเขาเดินไปนั่งตรงโซฟาที่อยู่มุมห้อง
"แกไม่ใช่พ่อของเด็กที่อยู่ในท้องยัยหนูแดงนะซิ"
"พี่หนึ่งเอาอะไรมาพูด...ถ้าหนูแดงไม่ได้ท้องกับผมแล้วหนูแดงจะท้องกับใคร"
"ไอ้สามยังไงละ" หนึ่งสยามพูดเสียงจริงจังจนสองภพหน้าชา
"พี่หนึ่งรู้ได้ยังไง...อย่ามาลักไก่ผมเลยดีกว่า" ชายหนุ่มหน้าซีตเป็นไก่ต้ม
"พี่สงสัยพวกแกมานานแล้ว...ตั้งแต่วันแรกที่แกแต่งงานนั้นแหละ วันนั้นไอ้สามมันก็หายไปทั้งคืน พอกลับมาบ้านมันก็คลุกคลีอยู่กับแกตลอดเวลา"
"ผมก็บอกพี่ไปแล้วไงว่าเราคุยกันเรื่องงาน"
"แต่คงจะไม่ใช่กลางดึกแน่ๆ...ทำไมพวกแกมึงกล้าทำเรื่องเลวๆแบบนี้วะ"
"ทำไมพี่หนึ่งคิดอย่างงั้นละครับ...พี่หนึ่งไปเห็นอะไรมาครับ"
"แกอย่าลืมซิว่าระเบียงห้องนอนของเราสามคนมันอยู่ติดกัน...พี่แอบเห็นแกกับไอ้สามใส่ชุดนอนเหมือนกันไม่มีผิด แล้วไอ้สามก็เดินเข้าไปในห้องนอนของแกในตอนกลางคืน...ไม่ต้องให้พี่บอกต่อไปนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นในห้องของแก ถึงตอนนี้แกคงจะรู้ดีมากกว่าพี่แน่ๆ"
"พี่หนึ่งรู้...พี่หนึ่งครับ..ผมขอโทษ พี่หนึ่งอย่าบอกพ่อกับแม่นะครับ" สองภพคลุกเข่าอ้อนวอนพี่ชาย
"แกทำอย่างนี้มานานหรือยังวะ..ไอ้สอง"
"ก็ทุกอาทิตย์ครับ...ตั้งแต่หลังแต่งงาน" สองภพก้มหน้าลง
"แล้วทำไมหนูแดงเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยวะ"
"เออ..ผมปิดไฟครับ...แล้วผมก็เอายาคลายเครียดผสมลงในเครื่องดื่มให้หนูแดงดื่ม ผมขอโทษครับพี่หนึ่ง"
"พวกแกนี่มันเลวจริงๆเลยนะ"
"พี่หนึ่งก็รู้ว่าผมเป็นเกย์ ผมไม่ชอบผู้หญิง...และผมก็ไม่อยากให้พ่อผิดหวังในตัวผม"
"พี่เข้าใจ...แล้วแกคิดเหรอว่าความลับมันจะมีในโลก"
"มีซิครับ...ถ้าเราสามคนพี่น้องไม่บอกเรื่องนี้กับใคร นะครับพี่หนึ่ง..อย่าบอกใครนะครับ สงสารผมเถอะครับ ผมไหว้ละ...พี่หนึ่งจะให้ผมทำอะไรผมยอมทุกอย่าง ผมขอแค่อย่างเดียวพี่หนึ่งอย่าบอกเรื่องนี้ให้พ่อกับแม่รู้นะครับ..ไม่อย่างงั้นผมกับไอ้สามตายแน่ๆ"
"แล้วเรื่องที่แกมีอะไรกับไอ้สามละ...มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่" หนึ่งสยามเค้นเอาคำตอบ
"คืนวันแต่งงานครับ" สองภพพูดเบาๆ
"เหลวไหลจริงๆ...แต่เรื่องนั้นมันไม่สำคัญเท่ากับเรื่องของหนูแดงหรอก...ถ้าคุณพ่อ,คุณแม่รู้ว่าพวกแกสลับตัวกันเหมือนกับดาวพระศุกร์...พวกแกจะทำยังไงวะ"
"พี่หนึ่งก็อย่าบอกท่านซิครับ...เพราะยังไงแล้วลูกของหนูแดงก็เป็นหลานของท่านอยู่ดี"
"แกคิดอย่างงั้นจริงๆเหรอสอง...เห้ออ.." หนึ่งสยามมองน้องชายด้วยความลำบากใจแล้วก็พูดขึ้นว่า "เอาละ...ไหนๆพี่ก็จะไปเมืองนอกแล้ว พี่จะไม่ยุ่งกับเรื่องของแก...แต่แกก็ต้องสัญญากับพี่ก่อนว่าจะไม่ทำเรื่องชั่วๆแบบนี้อีก"
"ผมสัญญาครับพี่หนึ่ง" สองภพไหว้ลงที่ตักของพี่ชาย
"เมื่อวานพี่ไปทำงานที่คนเมืองคาวแทนแก...รู้ไหมว่าไปพี่เจอใครมา"
"ใครเหรอครับ" สองภพถาม
"เขาบอกว่า..เขาชื่อต้อ เป็นผู้กำกับละคร แล้วเขามีเรื่องงานจะมาคุยกับแกด้วยนะ"
"ไอ้กระเทยแก่" สองภพคำรามในลำคอ
"เขาแฉเรื่องของแกให้พี่ฟังด้วยละ หึ หึ"
"มันว่าอะไรผมครับ...พี่หนึ่ง"
"เขาบอกว่าแกน่ะเจ้าชู้...และเขาก็ฟันแกมาแล้วด้วย ไม่เว้นแม้กระทั่งคนแก่เลยเหรอวะไอ้สอง" หนึ่งสยามลูบหัวน้องชายอย่างเอ็ดดู
"ก็ตอนนั้นผมเมานี่น่า" สองภพอายหน้าแดง
.......................
สองภพอยู่ในชุดคาวบอยสุดหล่อ ชายหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้าไผ่ทองด้วยความชำนาญ แล้วเดินตรงดิ่งเข้าไปในห้องอาหารครัวเมืองคาวในทันที
"เป็นไงบ้างไอ้เอ..กูไม่อยู่สามสี่วัน ลูกค้าดีไหมวะ"
"สุดยอดเลยเพื่อน..บังกะโลแม่งเต็มทุกหลังเลยวะ อาหารก็ขายดีด้วยนะโว้ย" สินชัยเดินมากอดคอเพื่อนรัก
"ไอ้เอ..ไอ้พี่ต้อมันมาทำไมวะ" สองภพกระซิบถามเบาๆ
"ไม่รู้แม่ง...มันนั่งกับไอ้เคนอยู่ตรงโน้นไง" สินชัยชี้ไปที่โต๊ะของผู้กำกับต้อและเคนที่อยู่ในมุมสุดของร้าน สองภพเดินเข้าไปต้อนรับศัตรูเก่าด้วยท่าทางกวนๆ
"พี่มาทำไม..." ชายหนุ่มถาม
"อ้าว...สอง นั่งลงก่อนซิพี่มีเรื่องจะคุยด้วย" ผู้กำกับวัยดึกพูดด้วยอาการดีใจอย่างเห็นได้ชัด
"ไม่ละ...ผมยืนดีกว่า"
"เธอยังไม่หายโกรธพี่อีกเหรอ...พี่ขอโทษนะสอง"
"ขอโทษๆๆ ทำผิดทีไรก็ขอโทษทุกที ผมเบื่อคำๆนี้เต็มทีแล้ว...พี่มีธุระอะไรก็ว่ามาเลย..ผมไม่ค่อยมีเวลา"
"สวัสดีครับพี่สอง" เคนกล่าวทักทายเพราะเห็นว่าสองภพกำลังอารมณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก
"สวัสดีเคน...เป็นไงชอบคนเมืองคาวมั้ยครับ"
"ชอบมากครับพี่สอง...พี่สองเก่งจังครับ ทำบรรยากาศเมืองคาวบอยเหมือนที่เมืองนอกไม่มีผิดเลยครับ"
"แล้วนี่ไปเที่ยวไหนกันมาบ้างหรือยังครับ"
"ยังเลยพี่..นั่งรอพี่มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ" เคนตอบ
"ไปที่น้ำตกเมืองคาวซิ...อากาศเย็นสบายดี เล่นน้ำก็ได้นะ รีสอร์ทของพี่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ"
"ผมอยากไปเที่ยวน้ำตกครับ..แต่ผมยังไม่รู้จักทางเลยอ่ะ พี่สองให้คนพาผมไปได้มั้ยครับ"
"ได้ซิ...รอเดี๋ยวนะ" สองภพหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาใครบางคน "ไอ้ต่อ..เดี๋ยวมึงพาคุณเคนไปเที่ยวน้ำตกเมืองคาวหน่อยนะเว้ย ขี่ม้ากูไปก็ได้"
"ครับนายน้อย" หนุ่มพเนจรตอบรับแล้วหันไปมองสินชัยที่ยืนอยู่ในบาร์เหล้า
"พี่สองครับ..พี่ต้อเขามาดีนะครับ คุยกันดีๆนะ อย่าโกรธกันเลยครับพี่" เคนกล่าวแล้วก็เดินออกไปพร้อมกับต่อศักดิ์
"นั่งลงก่อนซิสอง" ผู้กำกับวัยดึกชวนให้ชายหนุ่มนั่งอีกครั้ง
"มีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับพี่ต้อ" สองภพถามหลังจากที่นั่งลง
"สองมีชื่อเข้าชิงรางวัลโทรทัศน์ทองคำสาขานักแสดงนำชายในปีนี้ด้วยนะ"
"เข้าชิงเรื่องอะไรเหรอครับ...ผมไม่ได้เล่นละครมาเกือบปีแล้วนะพี่"
"ก็เรื่อง"กรอบเสน่หา"ที่สองเล่นไว้เป็นเรื่องสุดท้ายยังไงละ"
"เป็นไปได้ยังไงพี่...ก็เรื่องนั้นพี่ให้ผมเล่นเป็นตัวโกงไม่ใช่เหรอ"
"ถึงจะเป็นตัวโกงแต่บทก็เด่นกว่าพระเอกอีกนะ เดี๋ยวนี้เขาวัดกันที่บทบาทการแสดงครับ ทางผู้ใหญ่เขาเห็นว่าสองเล่นได้ดี เขาเลยเสนอชื่อสองเข้าไปชิงรางวัลและก็ติดหนึ่งในห้าด้วยนะ"
"จริงๆเหรอครับ..พี่ต้อ" ชายหนุ่มยิ้มออก
"พี่บอกแล้วไง..ว่าคนอย่างพี่ไม่มีทางฆ่าสองแน่นอน"
"แต่พี่ก็ฆ่าผมไปแล้วนี่ครับ"
"ใครบอกละ...ตั้งแต่วันที่สองมีข่าวเกย์ออกมา มีแต่คนอยากจะชวนสองไปร่วมงานด้วยทั้งนั้นนะ วงการมายาก็ยังงี้แหละยิ่งมีข่าวคาวเท่าไรก็ยิ่งดังเท่านั้น...ที่นี่เชื่อพี่หรือยังละ"
"เหรอออ..." สองภพทำเสียงประชดแล้วหันหน้าหนี
"มีละครติดต่อมาสามสี่เรื่อง แต่พี่รับไว้แค่เรื่องเดียว สองอยากดูบทก่อนไหมครับ" ผู้กำกับต้อเปิดกระเป๋าแล้วหยิบบทละครส่งให้สองภพ
"ไม่ละครับ...ผมจะไม่เล่นละครอีกแล้ว"
"แต่เรื่องนี้สองได้เป็นพระเอกนะครับ และที่สำคัญเราจะยกกองมาถ่ายทำที่คนเมืองคาวด้วย...ถ้าสองตอบตกลง อีกอย่างสองจะได้โปรโมทรีสอร์ทของสองไปในตัวโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยซักสตางค์แดงเดียว ไม่ดีเหรอครับ"
"ไอ้ข้อหลังมันก็ดีอยู่หรอกครับ...แต่ไม่เอาดีกว่า พ่อผมไม่ปลื้มกับอาชีพนี้เท่าไหร่"
"เอาอย่างงี้แล้วกัน...พี่จะทิ้งบทละครไว้ให้สองก่อน ถ้าสองสนใจก็โทรหาพี่ได้ตลอดเวลานะครับ...เรื่องนี้เคนเขาก็เล่นด้วยนะ"
"แล้วผมจะลองคิดดูแล้วกันครับ"
..........................
"อย่าเล่นแบบนี้ซิครับคุณเคน..ผมเปียกหมดแล้วนะครับ" ต่อศักดิ์วิ่งหนีจากการสาดน้ำโดยฝีมือของเคนอย่างสนุกสนานตามประสาวัยรุ่น
"ลงมาเล่นน้ำตกด้วยกันเร็วๆ ไม่งั้นพี่จะสาดให้ต่อเปียกไปทั้งตัวเลย"
"ไม่เอาครับ...ผมไม่มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยน"
"ก็แก้ผ้าเหมือนพี่ซิต่อ ไม่เห็นต้องอายเลย ผู้ชายเหมือนกัน"
"คุณเคนเล่นไปเถอะครับ...ผมเล่นไม่ได้ เดี๋ยวผมต้องกลับไปทำงานครับ"
"งั้นก็ตามใจ...ต่อมาอยู่ที่นี่นานหรือยังครับ"
"ก็ตั้งแต่รีสอร์ทเปิดน่ะครับ"
"แล้วชอบไหมละ...ถ้าไม่ชอบไปอยู่กรุงเทพกับพี่ก็ได้นะ" เคนแก้ผ้าเล่นน้ำอย่างสนุกสนานเหมือนเด็กๆ
"ผมชอบที่นี้มากเลยครับ...ผมรักคนเมืองคาว ผมไม่ไปไหนหรอกครับ" ต่อศักดิ์จ้องมองรูปร่างที่ขาวสะอาดของดาราหนุ่มอย่างไม่ละสายตา
"มองอะไร..ไม่เคยเห็นคนแก้ผ้าเหรอ" เคนถาม
"พี่เคนไม่อายผมเหรอครับ"
"อายทำไม..ใครๆก็มีเหมือนกันทั้งนั้นแหละ"
"พี่เคนกลับเถอะครับ...เดี๋ยวผมต้องไปทำงานต่อ วันหลังค่อยมาใหม่นะครับ แล้วผมจะลงเล่นน้ำเป็นเพื่อน"
"ก็ได้...ก็ได้ รอพี่เดี๋ยว..ใส่เสื้อผ้าก่อน"
.................
"นายรบ...นายรบครับ ช่วยผมด้วย นายรบ..นายรบครับ" ไอ้เจตร้องตะโกนขอความช่วยเหลืออยู่ที่หน้าบ้านของนายเรือรบ พ่อค้ายานรกเดินไปเปิดประตูทันทีที่ได้ยินเสียง
"ไอ้สัตว์...มึงตาย" นายเรือรบกระชากหัวไอ้เจตอย่างแรงจนมันเซเสียหลักล้มกลิ้งลงไปกับพื้น
"นายครับ...อย่าทำอะไรผมเลยครับ ผมขอโทษครับนาย" มันยกมือไหว้ขอร้องอย่างน่าเวทนา
"มึงกลับมาทำไมวะ มึงอยากตายมากใช่ไหมไอ้เจต"
"ตำรวจตามจับผมครับนาย...ผมไม่มีที่ไป..ขอผมซ่อนตัวอยู่ที่นี่นะครับนาย"
"แล้วมึงไม่กลัวว่ากูจะฆ่ามึงเหรอวะ..ไอ้ระยำ"
"ผมรู้ว่านายไม่ทำอย่างงั้นหรอกครับ...ให้ผมหลบอยู่ที่นี่สักพักนะครับนาย"
"ได้....มึงตามกูมานี่" เสียงคำรามด้วยความเคียดแค้นหลุดออกมาจากปากของพ่อค้ายาบ้า
นายเรือรบเดินนำไอ้เจตไปที่กระท่อมท้ายไร่ โดยมีลูกสมุนเดินตามไปด้วยสามคน ภายในกระท่อมมีเพียงแคร่ไม้ไผ่กับโต๊ะเก่าๆและลังเครื่องมือเอนกประสงค์บ้างอย่าง
"พวกมึงจับมันมัดไว้ให้แน่น" พอเข้าไปในกระท่อมนายเรือรบก็สั่งให้ลูกสมุนจับตัวไอ้เจตมัดไว้กับโต๊ะทันที
"นายจะทำอะไรผม....อย่าผมเลยครับ ผมกลัวแล้ว" ไอ้เจตถูกจับให้ก้มหน้าลงกับโต๊ะโดยขาทั้งสองข้างของมันถูกมัดไว้กับขาโต๊ะอย่างแน่นหนา
"มึงทำให้กูเสียรายได้ไปหลายสิบล้าน กูไม่ฆ่ามึงทิ้งก็ดีแล้วไอ้เหี้ย"
"อย่าทำผม...ผมกลัวแล้ว อย่าทำอะไรผมเลยครับนาย อือ อือ อ่า"
นายเรือรบเดินไปหยิบลังเครื่องมือมาวางไว้ใกล้ๆ แล้วนำเอาฆ้อนกับตะปูขนาดใหญ่ออกมาจากลังใบนั้น
"กูจะทำให้มึงจดจำกูไปจนวันตาย..ไอ้เหี้ยเจต ไอ้ระยำหมา" พ่อค้ายาบ้าคำรามเหมือนสัตว์ป่าที่กระหายเลือด
"อย่าทำผม...ผมกลัวแล้ว ผมกลัวแล้ว อา อา อือ"
"พวกมึงจับนิ้วมือมันกางออก" พ่อค้ายาบ้าสั่งลูกสมุน
นิ้วมือของไอ้เจตถูกสมุนของนายเรือรบกดทับไว้แน่นทั้งห้านิ้ว มันส่งเสียงครวญครางร้องขอความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา "ช่วยด้วย..ใครก็ได้ช่วยกูด้วย ช่วยด้วย อือ อ้าาา" นายเรือรบเอาตะปูขนาดใหญ่จ่อที่นิ้วกลางของไอ้เจตผู้เคราะห์ร้าย แล้วใช้ฆ้อนตอกลงไปอย่างสุดแรงเกิด เลือดสดๆพุ่งกระฉูดออกมาทันที
"อ้ากกกกก....อย่าทำกู โอ๊ยยยย อย่า กูกลัวแล้ว อย่าทำกู" เสียงร้องของไอ้เจตไม่มีความหมายต่อพ่อค้ายาบ้าหัวใจทมิฬอย่างนายเรือรบเลยแม้แต่น้อย
"กูจะทรมานให้มึงตายทั้งเป็น ไอ้เหี้ยเจต" สีหน้าของนายเรือรบสะใจเป็นอย่างยิ่งแววตาของเขาดุร้ายเยี่ยงสัตว์ป่า
ในเวลาเดียวกันภูแสงได้ต้อนฝูงม้าไปที่คอกม้าใน ระหว่างทางที่เขากำลังจะเดินกลับบ้าน ชายหนุ่มได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากทางหลังไร่ลิ้นจี่ของนายเรือรบ เขาตัดสินใจเดินไปตามเสียงร้องนั้น และไปหยุดตรงกระท่อมท้ายไร่ เขามุดรั้วลวดหนามเข้าไปในไร่ของนายเรือรบอย่างเงียบๆ ชายหนุ่มค่อยๆย่องไปจนถึงกระท่อมแล้วเอาหูแนบฟังเสียงร้องนั้นอีกครั้ง ไม่นานนักเขาก็เจอช่องเล็กๆที่สามารถมองเข้าไปในกระท่อมได้แต่เขาก็ยังมองไม่เห็นอะไรเลยเพราะมีร่างของใครบ้างคนบังอยู่
"ผมกลัวแล้ว..นายรบ..อย่า อย่า อ่า โอ๊ย ผมเจ็บ อย่าทำผม" ไอ้เจตร้องครวญครางด้วยความทรมาน
"ยังน้อยไปสำหรับมึง..." พ่อค้ายาบ้าใช้ตะปูตอกลงบนนิ้วของไอ้เจตที่มือข้างซ้ายจนครบทั้งห้านิ้ว เลือดชั่วของคนชั่วไหลนองไปทั่วโต๊ะ
"อย่าทำกู...ไอ้เหี้ยยย อ้าาาาา กูกลัวแล้ว ช่วยกูด้วย"
"ทนอีกหน่อยนะไอ้น้อง" นายเรือรบยิ้มเยาะเย้ยอย่างสะใจ ทันใดนั้นเขาก็หยิบเอาขวานเล่มใหญ่ออกมาจากลังไม้ แล้วหันมาฟันฉับลงบนนิ้วมือข้างซ้ายของไอ้เจตผู้เคราะห์ร้ายอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ นิ้วมือของไอ้เจตทั้งห้านิ้วได้ขาดสะบันลงในทันที บางนิ้วยังเต้นกระตุกดิกๆอยู่บนโต๊ะเลือดชั่วของไอ้เจตผู้เคราะห์ร้ายพุ่งกระฉูดออกมาแทบหมดตัว
"แก้มัดมันได้แล้ว" นายเรือรบสั่งลูกสมุน "มึงออกไปให้พ้นจากไร่ของกู แล้วอย่าเสือกกลับมาให้กูเห็นหน้าอีกนะไอ้สัตว์"
ไอ้เจตถูกปลดปล่อยให้หลุดพ้นจากพันธนาการ มันล้มลงไปนอนม้วนตัวอยู่กับพื้นคลุมมือที่ด้วนกลิ้งไปกลิ้งมาแหกปากร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส "อ้ากกกก อ้ากกกกก โอ้ยยยยย อือ อือๆๆๆๆๆ"
"มึงอย่ามาเห่าหอนในไร่ของกู....เอ้ย...โยนมันออกไป" พ่อค้ายาบ้าใจทมิฬออกสั่งให้สมุนทำตาม แล้วเขาก็เดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พอนายเรือรบเดินออกไปได้ไม่นานภูแสงก็สามารถมองเห็นภายในกระท่อมได้อย่างชัดเจน เขาพยายามมองดูว่าผู้ชายที่นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นนั้นเป็นใคร จนเขาแน่ใจและอุทานออกมาว่า "ไอ้เจต"
ไอ้เจตผู้เคาระห์ร้ายถูกลูกสมุนของนายเรือรบเอามาเหวี่ยงทิ้งไว้ในป่าละเมาะข้างๆกระท่อม มันพยายามตะเกียกตะกายหาทางเอาตัวรอดตามสัญชาตญาณของมนุษย์ทุกคนที่พึ่งจะมี
"ไอ้เจต...ไอ้เจต.." ภูแสงตะโกนเสียงเรียกเบาๆ
"กูกลัวแล้ว...อย่าทำกูเลย อือ อือ ปล่อยกูไปเถอะ" ไอ้เจตก้มลงกราบกับพื้นเพราะมันนึกว่าเสียงที่มันได้ยินคือลูกสมุนของนายเรือรบ
"ไอ้เจต...กูเอง ไม่ต้องกลัวนะเว้ย กูมาช่วยมึง" ภูแสงเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
"ใครวะ..โอ้ยย"
"กูเอง...ไอ้แสง"
"ไอ้แสง...ผี..ผี..อย่ามาหลอกกูเลย ผี อ้าาก..กูกลัวแล้ว อือ อือ อือ"
"กูยังไม่ตาย...กูมาช่วยมึง" ภูแสงเดินเข้ามาพยุงตัวเพื่อนชั่วของเขาให้ลุกขึ้น
"ไอ้แสง..มึงเป็นผี กูยิงมึงตกทะเลไปแล้ว อย่ามาหลอกกู กูกลัวแล้ว ผีไอ้แสง กูกลัวแล้ว ไป ไป อ้ากก อือ อือ อ้ากกก" ไอ้เจตร้องครวญครางเหมือนคนเสียสติ
"ไอ้เจต..กูไม่ใช่ผี กูยังไม่ได้ตายโว้ย....มาทางนี้ กูมาช่วยมึง"
"หา...มึงยังไม่ได้ตายจริงๆเหรอวะ อ่า ห่า"
"ก็เออซิวะ...เร็วๆมาทางนี้ เดี๋ยวไอ้เหี้ยพวกนั้นมันกลับมาอีก ที่นี้ละมึงได้ตายแน่ๆ" ภูแสงเดินเข้านำทาง
"มึงจะหลอกกูไปฆ่าใช่มั้ย กูยังไม่อยากตาย ปล่อยกูไปเถอะไอ้แสง กูขอโทษ..อือ อือ ที่กูทำไปเพราะกูต้องทำตามคำสั่งไอ้เหี้ยรบ..กูขอโทษ"
"กูไม่ฆ่ามึงหรอกน่า...มาทางนี้เร็วๆซิโว้ย" และไอ้เจตก็เดินตามภูแสงไปอย่างไม่มีทางเลือก
....................
ภูแสงพาไอ้หนุ่มโชคร้ายเข้ามาหลบที่โรงฟางเก่าหลังคอกม้าใน
"มึงหลบอยู่ในนี้ก่อนนะเว้ย ห้ามออกไปไหน เดี๋ยวกูจะไปเอายามาทำแผลให้มึง"
"ไอ้แสงมึงไม่โกรธกูเหรอวะ" ไอ้เจตถามด้วยความแปลกใจ
"โกรธ...แต่พอกูมาเห็นมึงอยู่ในสภาพแบบนี้..กูโกรธมึงไม่ลงแล้วว่ะ"
"แต่กูเคยฆ่ามึงนะเว้ยเพื่อน โอ้ยยย อ้าก" ไอ้เจตยังร้องครางด้วยพิษบาดแผล
"กูรู้ว่ามึงต้องทำตามคำสั่งของไอ้เหี้ยรบ กูเข้าใจมึงไอ้เจต"
"ขอบใจวะเพื่อน มึงเป็นคนดีจริงๆ โอ้ยย อือ อือ ยกโทษให้กูด้วยนะเพื่อน"
"เจ็บแผลมากใช่ไหมวะ...กูไปเอายามาทำแผลให้มึงก่อนดีกว่า อย่าออกไปไหนนะเว้ย...เดี๋ยวกูมา"
18.
(ความเดิม)
"ขอบใจวะเพื่อน มึงเป็นคนดีจริงๆ โอ้ยย อือ อือ ยกโทษให้กูด้วยนะเพื่อน"
"เจ็บแผลมากใช่ไหมวะ...เดี๋ยวกูไปเอายามาทำแผลให้มึงก่อนดีกว่า อย่าออกไปไหนนะเว้ย...เดี๋ยวกูมา"
....................
กลางดึกของวันนั้นสามเมืองได้เข้าไปหาสองภพในห้องนอน ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังอาบน้ำอยู่อย่างเพลิดเพลิน ผู้เป็นน้องชายเดินเข้าไปในห้องน้ำโดยพลการ
"เฮ้ย...สามเข้ามาทำไม พี่กำลังอาบน้ำอยู่...ออกไป" สองภพตกใจเล็กน้อย
"แหม...พี่สอง..ไม่เห็นต้องอายสามเลยครับ"
"ก็พี่ยังไม่ชินนี่น่า" สองภพพูดไปในขณะที่มือก็กำลังรูดท่อนควยชำระล้างทำความสะอาด
"ทำยังกะสามไม่เคยเห็นของพี่ยังงั้นแหละ...มา...สามอาบน้ำให้นะครับ"
"อ้าว...แล้วหนูแดงละ" สองภพถาม
"พอออกจากโรงพยาบาล..สามก็ขับรถไปส่งที่บ้านน้าษาแล้วครับ...เห็นบอกว่ามีธุระจะคุยกัน"
"แล้วลูกสามเป็นไงบ้างละ"
"ไม่รู้ซิพี่...ยังเป็นก้อนเลือดอยู่มั่งครับ..หึ.หึ..แต่หมอเขาให้ยาบำรุงครรภ์มากินด้วยนะพี่" สามเมืองถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน แล้วเดินเข้าไปยืนอยู่ใต้ฝักบัวเดียวกับพี่ชาย เขาลูบคล่ำร่างกายที่แข็งแกร่งอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆของสองภพด้วยความพอใจ
"สระผมให้พี่หน่อยซิครับ"
"แหม...ได้ทีใช้เลยนะครับคุณพี่" สามเมืองยิ้มที่มุมปาก
"อ้าว...ก็สามอยากอาบน้ำให้พี่ไม่ใช่เหรอครับ"
"สามชอบรูปร่างของพี่สองจังเลยครับ หุ่นดีจัง...หมอยก็เยอะ อ่า...เห็นแล้วควยแข็งเลยล่ะ"
"ทะลึ่ง...ไอ้น้องบ้า" สองภพชกอกน้องชายตัวแสบดัง "ปึก"
"โอ้ย...สามเจ็บนะ"
สองหนุ่มพี่น้องโผเข้ากอดกันโดยอัตโนมัติ ตามแรงราคะที่จิตใจเรียกร้องในรสเสน่หา เขาจูบปากกันอย่างดูดดื่มด้วยความหิวโหยอยู่นานนับสิบนาที ลำควยของทั้งคู่แข็งโป๊กบดขยี้ฟาดฟันกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ น้ำอยากของพวกเขาผสมรวมกันไหลยืดเป็นทางยาวย้อยออกมาจากหัวควยของทั้งสองหนุ่ม
"พอก่อนสาม...ไปต่อที่เตียงดีกว่าครับ...พี่เงี่ยนแล้วอ่ะ อ่า....อ้า..." สองภพส่งสายตาหื่นให้น้องชาย
"ครับ...พี่สอง" สามเมืองกำลังจับควยพี่ชายรูดขึ้นรูดลงอย่างมันมือ แต่ก็ต้องหยุดชงักลงเสียก่อน
สองหนุ่มพี่น้องเดินแก้ผ้าควยชี้โด่ออกมาจากห้องน้ำแล้วตรงดิ่งไปที่เตียงนอนอย่างรวดเร็ว เพราะความเงี่ยนที่สุมอยู่เต็มลำควยของทั้งคู่ พวกเขาจึงอยากจะทำให้น้ำควยไหลทะลักออกมาเสียเต็มประดา
พอถึงเตียงสองภพก็ดึงร่างของสามเมืองเข้ามาประกบปากด้วยความเร่าร้อน เขาดันลิ้นที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายเข้าไปในโพรงปากของน้องชายอย่างหื่นกระหาย ทั้งสองหนุ่มควานหาลิ้นของกันและกันแล้วตวัดดูดเลียกันอย่างนัวเนียจนน้ำลายเยิ้ม
มือของสองภพบีบขยำแก้มก้นของน้องชายอย่างแรง ก่อนที่จะแยงปลายนิ้วเข้าไปในรูสวรรค์ของน้องชายเบาๆ
"อ้า...พี่สอง...ซี๊ตตตต...."
สองภพดันตัวของน้องชายให้พลิกคล่ำแล้วยกก้นขึ้น เขาตวัดลิ้นเลียรูตูดของสามเมืองจนน้ำลายเยิ้ม ก่อนที่จะแทงนิ้วเข้าไปในรูตูดของสามเมืองอีกครั้งจนชายหนุ่มสะดุ้ง
"โอ้ย...พี่สองเบาๆครับ...สามเจ็บ...พี่สองจะทำอะไรสามครับ"
สองภพจูบไซร้เลียติ่งหูของน้องชายแล้วกระซิบเบาๆว่า "ก็สามรักพี่ไม่ใช่เหรอ...ขอพี่เย็ดนะครับ"
"ให้สามเย็ดพี่สองดีกว่า...." สามเมืองมองตาพี่ชายเพื่อรอคำตอบ
"พี่เป็นพี่นะ...พี่ต้องได้เย็ดก่อนซิ...อย่าขี้โกงครับ" สองภพพูดเสียงแข็งแต่แผกไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเลห์ที่มุมปาก
"ก็สามกลัวเจ็บนี่น่า"
"พี่จะเย็ดเบาๆครับ"
ชายหนุ่มสอดนิ้วที่สองเข้าไปรูตูดของสามเมืองโดยไม่บอกกล่าว จนสามเมืองสะดุ้ง
"โอ้ย...พี่สอง..เจ็บนะ"
"เจ็บแป๊ปเดียวนะครับ สามไม่อยากเป็นเมียพี่เหรอ" เขาถามไปนิ้วมือก็แทงเข้าไปเรื่อยๆจนสุด
"แล้วทำไมพี่สองต้องเอานิ้วแทงด้วยละ....สามเจ็บ..อ้า...โอ้ยยยย อ้าาาา"
"สามไม่เห็นเหรอ..ว่าควยพี่ใหญ่ขนาดไหน...เพราะฉะนั้นเราต้องเบิกทางไว้ก่อนซิครับ ไม่งั้นควยพี่จะเข้าไปไม่ได้นะครับ"
สามเมืองจึงกัดฟันให้พี่ชายสอดนิ้วเข้าไปอีกนิ้ว เพื่อเปิดทางให้รูตูดอันบริสุทธิ์ของเขาขยายให้กว้างขึ้น เตรียมตัวรับศึกหนักกับลำควยขนาดเจ็ดนิ้วกว่าๆของพี่ชายที่เขาสุดแสนจะรัก ชายหนุ่มเริ่มเคลิบเคลิ้มเสียวซ่านกับนิ้วมือของพี่ชายที่แทงเข้าแทงออกในรูสวรรค์ของเขาอยู่นาน จนเขาเผลอร้องด้วยความเสียดายเมื่อพี่ชายคนเก่งดึงนิ้วมือออกมา
"อ้า...อ่า..เอาออกทำไมครับพี่สอง อ่า อ่า สามกำลังเสียวครับ อ้า"
สองภพมองหน้าน้องชายด้วยสายตาที่หื่นกามมากขึ้นเป็นทวีคูณ เขาเอาหมอนมารองที่ก้นของน้องชายสองใบแล้วดันขาทั้งสองข้างของน้องชายให้ขึ้นไปจนชิดหน้าอก จนชายหนุ่มสามารถมองเห็นรูตูดสีชมพูอ่อนๆของน้องชายได้อย่างชัดเจน สองภพโหย่งสะโพกขึ้นแล้วใช้มือจับลำควยของตัวเอง มาจ่อตรงรูสวรรค์ของน้องชายที่ถูกเบิกทางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เขาค่อยๆดันหัวควยที่บานใหญ่น้ำเยิ้ม เข้าไปในรูตูดของน้องชายอย่างช้าๆ สองหนุ่มพี่น้องจ้องอยู่ที่เดียวกันคือรูตูดของสามเมืองซึ่งตอนนี้มันกำลังอ้ารับหัวควยที่ถอกบานของสองภพหายเข้าไปทีละนิดๆ ความเจ็บปวดได้เริ่มขึ้นเมื่อหัวควยของพี่ชายผ่านเข้าไปได้แค่ครึ่งเดียว
"อ้ากกก...พี่สองครับ...เจ็บ...เจ็บ..โอ้ยยย" สามเมืองร้องออกมา
สองภพคงรู้สึกได้เพราะรูตูดของสามเมืองทั้งขมิบและเกร็งแน่น เขาจึงก้มลงไปดูดเลียหัวนมอย่างหื่นกระหายจนน้องชายเคลิบเคลิ้มเพราะความเสียว ส่งผลทำให้รูตูดของสามเมืองคลายตัวเปิดทางให้ลำควยของชายหนุ่มมุดหายเข้าไปจนมิดด้าม
"อ้าก..โอ้ยยยย...อู้วววว..." ทั้งที่เจ็บแทบตายแต่ด้วยความรักที่มีต่อพี่ชาย สามเมืองจึงกัดฟันต่อสู้กับความเจ็บปวดนั้นด้วยความอดทน
"เข้าไปหมดแล้วครับ...อ้าาาาา...พี่เชื่อแล้วว่าสามยังไม่เคยถูกเย็ดมาก่อน....โอ้..แม่เจ้า...ทำไมมันฟิตอย่างนี้ อ้าาาาา" สองภพจ้องหน้าน้องชายด้วยความหื่นก่อนจะก้มลงไปดูดลิ้นกินน้ำลายอย่างเร่าร้อน ชายหนุ่มกระเด้าเย็ดอย่างช้าๆเพื่อต้องการให้น้องชายได้รับรู้ถึงรสชาติของการโดนเย็ดครั้งแรกในชีวิตว่ามันทั้งเสียวและมันส์ขนาดไหน
"อ้าาาา...พี่สองครับ...อ้า...สามเสียวรูตูด อ้า อู้วววววว อ่า อ่า" สามเมืองเริ่มร้องครวญครางด้วยความกระสันต์ในรสเย็ดของพี่ชาย
"ถ้าอย่างงั้น...พี่เย็ดแรงๆนะครับสาม อ้า...ซี๊ต ซี๊ตตต"
"ครับพี่สอง...อ่าาาา เย็ดแรงๆเลยครับ โอ๊ยยยย อ้าาาาา"
สองภพเร่งจังหวะการกระเด้าให้ถี่ขึ้นตามความต้องการของน้องชาย จนแก้มก้นของสามเมืองสั่นกระเพื่อม เสียงกระเด้าเย็ดดังขึ้นเรื่อยๆ ผับ ผับ ผับ ผับ จนลั่นห้อง
"โอ้ย...อ้า..สามครับ..พี่มีความสุขเหลือเกิน อ้า อ้า...."
สามเมืองมองหน้าที่หล่อเหลาคมคายของพี่ชายด้วยความหลงใหลในรสเสน่หา เขามีความสุขมากโดยเฉพาะความรู้สึกตอนที่ลำควยยาวใหญ่ของพี่ชายได้ฝังแน่นอยู่ในรูรักของเขาอย่างเต็มลำ ความใหญ่ยาวของลำควยทำให้เขาไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย เขาจึงนอนรอการกระเด้าเย็ดของพี่ชายอย่างหื่นกระหาย
"อ้า อ้า เย็ดผมแรงๆครับพี่สอง โอ้ยยย...ผมเสียว อ่า อูวววว อ้าาาา"
สามเมืองร้องครวญครางออกมาอย่างลืมตัว ทำให้สองภพยิ้มด้วยความพอใจเขาถอดลำควยออกมาแล้วดันเข้าไปใหม่ทีเดียวจนมิดด้าม ซอยยิกๆเอวหมุนเป็นระวิงบดขยี้รูตูดของน้องชายอย่างเมามันส์ ความเสียวกระสันต์ครอบงำเขาทั้งคู่ สองภพครางลั่นห้องและเร่งจังหวะเย็ดให้เร็วขึ้นเป็นสองเท่า เขาโหย่งตัวนั่งคุกเข่ากางขาแล้วจับข้อเท้าของน้องชายให้แยกออกกว้าง แล้วขยับเอวกระเด้าเย็ดอย่างสุดพลังจนเหงื่อท่วมตัว ลูกกระโปกใบเขื่องกระทบกับแก้มก้นของน้องชายดังระงมระคนกับเสียงครวญครางจนแยกไม่ออก "ป้าบ ป้าบ ป้าบ ปับๆๆๆ ป้าบ"
"เสียวมั้ยครับสาม...อ้าาา พี่เสียวลำควยจังเลยครับ รูตูดสามฟิตจริงๆ ซี๊ตตต" สองภพพูดไปกระเด้าไป
"พี่สองเย็ดเก่งจังเลย อ้าาา สามอยากให้พี่สองเย็ดสามทุกวันได้มั้ยครับ อ้าาา อู้ววววว เสียวตูด อา อา อ้าาา"
พอสิ้นเสียงครวญครางของน้องชายสองภพจึงกระเด้ารัวถี่ยิบจนสามเมืองขาสั่นระริก ลำควยของสามเมืองผงกหัวหงึกๆน้ำอยากไหลเยิ้มออกมาอย่างมากมายจนเปื้อนดงหมอยของเขาจนเปียกแฉะ
"โอ้ยยย...พี่สอง อ้า อ้าา ช่วยสามด้วยครับ อ่า อ่า อ่า สามไม่ไหวแล้ว อ้าสสสสส"
สองภพถอดควยออกมาจนเกือบสุด แล้วกดเอวกระแทกอย่างแรงส่งลำควยขนาดใหญ่เข้าไปอัดบี้ขยี้รูตูดของน้องชายอย่างลืมตาย จังหวะเดียวกันสามเมืองก็แกร่งร่างตูดขมิบ น้ำเงี่ยนพุ่งปริ๊ดออกมาโดยไม่รู้ตัวโดยจนเลอะหน้าอกหน้าท้องของตัวเองเต็มไปหมด ส่วนสองภพก็แหงนหน้าขึ้นเพดานกระตุกตัวอย่างแรงหลายครั้งแล้วพูดขึ้นว่า
"โอ้ยยยย...ซี๊ตตต พี่แตกแล้วครับสาม อ้า อ้า ซี๊ตตตต มันส์จริงๆ อ้า เสียวควย อ้าาาา" น้ำควยอุ่นๆถูดฉีดออกมาจากท่อควยยาวใหญ่เข้าสู่ลำไส้ของสามเมืองอย่างมากมายจนล้นเนืองนองออกมานอกรูตูดของชายหนุ่ม สองภพฟุบลงทาบทับบนตัวน้องชายอย่างเหนื่อยหอบ เหงื่อแห่งความเงี่ยนของเขาทั้งคู่ไหลโทรมไปทั่วร่าง สามเมืองกอดพี่ชายเอาไว้แน่นลูบไล้แผ่นหลังของพี่ชายอย่างรักใคร่และหลงใหล ลำควยของสองภพยังเต้นตุบๆอยู่ในรูตูดของสามเมืองไม่ยอมหด สองภพพยายามบดบี้ส่งลำควยให้เข้าไปลึกสุดๆแล้วกระแทกอย่างแรงอีกครั้ง จนสามเมืองรู้สึกเสียวกระสันต์ในรูตูดขึันมาอย่างปฎิเสธไม่ได้
"โอ้ยยย...พี่สอง...สามเสียวครับ...ซี๊ตตต"
สองภพใช้ศอกดันตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วหัวเราะในลำคอ "หึ หึ หึ..." กระเด้าเอวช้าๆจ้องหน้าหล่อๆของน้องชายอยู่นานทีเดียวก่อนที่พูดว่า
"พี่บอกแล้ว...ว่าสามต้องติดใจในรสควยของพี่ ฮา ฮา ฮา"
"บ้า...ไอ้พี่สองบ้า"
สองหนุ่มพี่น้องหัวเราะออกมาพร้อมๆกันอย่างมีความสุข
..........................
"แผลมึงดีขึ้นหรือยังวะไอ้เจต..."
"ดีขึ้นเยอะเลยว่ะไอ้แสง...มึงเอายาอะไรมาทาให้กูวะ สุดยอดเลยเพื่อน...แผลแม่งแห้งเร็วฉิบหาย" ไอ้เจตเอามือขวาคลุมมือซ้ายที่ถูกพันไว้ด้วยผ้าก็อตอย่างระมัดระวัง
"สมุนไพรป่าของพ่อกูเอง" ภูแสงนั่งลงข้างๆเพื่อน
"ยาวิเศษชัดๆ...สมุนไพรอะไรบ้างวะ กูจะจำเอาไปใช้บ้าง"
"หลายอย่างว่ะ...พวกจันทร์แดง,จันทร์ขาวผสมกับหัวหญ้านาง แล้วเอามาโขกเข้ากับหัวโกฐเขมา เสร็จแล้วเอาไปต้มทิ้งไว้ให้แห้ง จะกินก็ได้จะทาก็ได้นะเว้ย ถ้าจะกินก็กินทั้งน้ำ หรือถ้ามึงจะทาก็ต้องรอให้มันแห้งแล้วเอามาตำให้ละเอียดอีกทีนึง"
"ขอบใจมากวะเพื่อน...กูซึ้งน้ำใจมึงจริงๆ ถ้ามึงมีอะไรให้กูช่วยบอกได้เลยนะเพื่อน"
"มึงได้ช่วยกูแน่ไอ้เจต..แต่รอให้แผลมึงหายดีกว่านี้ซะก่อนเถอะ"
"เรื่องไอ้เรือรบใช่ไหมวะ..." ไอ้เจตถาม
"ใช่...มึงกับกูจะต้องสั่งสอนให้มันรู้สำนึกซะบ้าง...ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง"
"ได้เลยเพื่อน...ไอ้เหี้ยรบมันทำให้กูต้องเป็นไอ้กุดแบบนี้ กูแค้นมันว่ะ" ไอ้เจตพูดเสียงจริงจัง แต่ลึกๆมันก็รู้สึกอุ่นใจที่ได้ภูแสงเป็นเพื่อนคู่คิด
"ถ้ากฎหมายยังเล่นงานมันไม่ได้...มึงกับกูนี่แหละจะต้องจัดการกับมันให้เร็วที่สุด"
"แล้วเราจะจัดการมันเมื่อไหร่วะไอ้แสง...กูใจร้อนวะ...กูอยากเห็นมันทรมานเหมือนกู" สายตาของไอ้เจตเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
"รออีกสองสามวันก่อน...ว่าแต่มึงเถอะ..รู้จักทางเข้าออกไร่ของมันดีใช่ไหมวะ" ภูแสงหันหน้าไปถามเพื่อนร่วมซะตากรรม
"กูหลับตาเดินยังได้เลย...ไม่ต้องห่วง"
"มึงสัญญากับกูได้ไหมวะไอ้เจต...ว่ามึงจะเลิกคัายานรกนั้น แล้วหันมาทำงานสุจริตเหมือนคนอื่นเขา"
"กูสัญญาเพื่อน...กูสัญญา...กูจะไม่ยุ่งกับไอ้ยาเหี้ยพวกนั้นอีก" ไอ้เจตยื่นมือขวาไปให้ภูแสงจับเพื่อเป็นการยืนยัน
"กูดีใจนะเว้ย...ที่มึงคิดแบบนี้" ภูแสงจับมือให้กำลังใจเพื่อน
"แต่คนมีคดีอย่างกู...ใครเขาจะให้โอกาสทำงานดีๆวะ..ไอ้แสง"
"มีซิว่ะ" ภูแสงยิ้มให้เพื่อน
"ใครวะ...ไม่มีหรอกไอ้แสง" ไอ้เจตก้มหน้าลงเมื่อสำนึกถึงความชั่วของตัวเองที่เคยกระทำไว้
"นายน้อยไงละ"
"ใครว่ะ..นายน้อย" ไอ้เจตถาม
"เจ้านายกูเอง...ลูกชายเจ้าของฟาร์มม้านี่แหละ" ภูแสงยิ้มออกมาได้เมื่อเขาเอ่ยถึงคนที่เขารัก
"นายน้อยใจดีเหรอวะ...ไอ้แสง"
"ใช่...นายน้อยของกูเป็นคนดี"
"กูซักอยากเห็นนายน้อยของมึงซะแล้ววะ" ไอ้เจตยิ้มที่มุมปาก
"สักวันหนึ่ง...มึงจะได้เห็น...แต่ตอนนี้มึงแดกข้าวก่อนเถอะ จะได้หายเร็วๆแล้วไปจัดการกับไอ้เหี้ยรบกัน" ภูแสงส่งปิ่นโตข้าวให้เพื่อน
"ขอบใจว่ะ...ไอ้เพื่อนรัก" ไอ้เจตมองหน้าภูแสงอย่างซาบซึ้งน้ำใจ
"นี่ยาแก้ปวดกับยาแก้อักเสบ กินหลังอาหารนะโว้ย...อย่าเสือกลืมแดกละมึง เฮ้ย..ไอ้เจตเดี๋ยวกูต้องขับรถไปส่งเจ้านายที่สนามบินก่อนนะเว้ย พวกเขาจะไปอเมริกากันวันนี้...แล้วตอนเย็นๆกูจะมาใหม่" ภูแสงโยนยาให้ไอ้เจตแล้วเดินออกไปกระโดดขึ้นหลังม้าอย่างมืออาชีพ
"เดี๋ยว..ไอ้แสง...แล้วเราจะแก้แค้นไอ้เหี้ยรบยังไงดีวะ มือกูก็กุดอย่างเนี่ย" ไอ้เจตตะโกนถาม
"กูรู้ว่ามึงต้องทำได้" ภูแสงหันมาตอบก่อนที่จะขี่ม้าทยานออกไปด้วยความเร็วจนฝุ่นตลบ
.......................
ต่อศักดิ์รับหน้าที่เป็นไกด์จำเป็นให้กับเคนด้วยความจำยอมตามคำขอร้องของเขา ดาราหนุ่มไฟแรงออกอาการชื่นชอบเด็กหนุ่มพเนจรอย่างออกหน้าออกตาโดยไม่เกรงกลัวสายตาของใครเลย อาจจะเป็นเพราะความใสซื่อไร้เดียงสาของต่อศักดิ์ที่เคนไม่เคยได้พบเจอจากใครในเมืองกรุง จึงทำให้เขาตกหลุมรักเด็กหนุ่มได้อย่างง่ายดาย
สองหนุ่มต่างอาชีพพากันขี่ม้าคนละตัว และเดินไปอย่างช้าๆ จุดหมายที่พวกเขาจะไปคือทุ่งทานตะวันด้านหลังของรีสอร์ทคนเมืองคาว ระหว่างทางเขาได้คุยกันอย่างสนิทสนมตามแผนการที่ดาราหนุ่มเจ้าเลห์วางหมากไว้
"วันนี้ต่อทำงานหรือเปล่าครับ" เคนถาม
"ปรกติผมก็จะทำงานทุกวันแหละครับ แต่วันนี้ผมขออนุญาติพี่เอพาคุณเคนเที่ยวครับ" ต่อศักดิ์ตอบในขณะที่ควบม้าไปอย่างช้าๆ
"ใครอ่ะ...เอ" ดาราเจ้าเลห์ถาม
"บาร์เทนเดอร์ไงครับ...แต่พี่เอเป็นผู้จัดการที่ห้องอาหารครัวคาวบอยด้วยนะครับ"
"อ้อ...ที่ใส่ชุดคาวบอยหล่อๆตัวสูงๆนั้นเหรอ"
"ครับ"
"มิน่าละ...ทำงานเก่งจัง...เออ..แล้วต่อมีแฟนหรือยังครับ" เคนส่งสายตาเจ้าชู้ให้เด็กหนุ่ม
"ผมมีแฟนแล้วครับ"
"อะไร...พี่ไม่เชื่อหรอก พี่ไม่เคยเห็นแฟนต่อเลย อย่ามาโกหกพี่เลยดีกว่า...พี่ชอบต่อนะครับ"
"อย่ามาชอบผมเลยครับพี่...ผมมีแฟนแล้วครับ แล้วเราก็รักกันมากด้วย" เด็กหนุ่มตอบไปด้วยความซื่อ
ดาราหนุ่มบังคับม้าให้หยุดเดินแล้วค่อยๆกระโดดลงจากหลังอย่างช้าๆ เขาลากม้าไปผูกที่รั้วบริเวณใกล้ๆทุ่งทานตะวัน ต่อศักดิ์ก็ทำแบบเดียวกัน
"แฟนต่อเป็นใคร..ทำไมพี่ไม่เคยเห็น" ดาราหนุ่มทำเสียงไม่พอใจ
"พี่เคนก็เห็นทุกวันนะครับ"
"ใครครับ...บอกพี่มาเดี๋ยวนี้นะ"
"ก็พี่เอไงครับ...แฟนผม"
"พี่เอบาร์เทนเดอร์นั้นเหรอ...โธ่..นึกว่าใคร" เคนหน้าเคลียดลงในทันที
"พี่เคนครับ..ตรงโน้นมีดอกทานตะวันสีแดงด้วยนะครับ เดินไปดูไหมครับ" เด็กหนุ่มพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย
"ดอกทานตะวันสีแดง...เอามาจากไหนครับ พี่เคยเห็นแต่ในทีวี"
"นายน้อยเอาพันธุ์มาจากเมืองนอกครับ...เอามาให้พี่ลีซอปลูก...โน้น..อยู่ทางโน่นครับ" เด็กหนุ่มเดินนำทาง
"ใครกันนะ...ลีซอ...พี่รู้จักไหม"
"พี่ยังไม่เคยเห็นหรอกครับ...เพราะตอนนี้พี่ลีซอเลี้ยงม้าอยู่ฝั่งโน่น..นายน้อยไม่ได้กลับมานอนบ้านนานแล้ว พี่ลีซอก็เลยไม่กลับ"
"อ้าว...แล้วเด็กเลี้ยงม้า มาเกี่ยวอะไรกับนายน้อยด้วยละ" เคนถามด้วยความสงสัย
"ไม่มีอะไรหรอกครับพี่เคน...ไปดูดอกทานตะวันสีแดงกันดีกว่าครับ"
"ต่อไม่ได้ชอบพี่เหรอครับ" อยู่ๆดาราหนุ่มก็ตามขึ้นมา
"ผมมีแฟนแล้วครับพี่"
"ถึงมีแฟนก็เลิกกันได้นี่ครับ...ต่อไปอยู่กับพี่ที่กรุงเทพเถอะ..พี่รักต่อนะครับ พี่มีเงินนะ พี่รวย"
"แล้วเงินมันเกี่ยวอะไรกับความรักละครับ...ผมไม่เข้าใจ"
"พี่สามารถดูแลต่อได้นะ...ถ้าต่อไปอยู่กับพี่ต่อจะสุขสบายไม่ต้องมาทำงานแบบนี้ไงครับ"
"ขอบคุณครับพี่เคน...แต่ผมไม่ไปไหนหรอกครับ ผมรักพี่เอ,ผมรักนายน้อยและผมก็รักคนเมืองคาวด้วยครับ"
"ไปอยู่กับพี่เถอะนะต่อ...พี่รักต่อจริงๆนะครับ พี่ให้เงินเดือนต่อเดือนละสามหมื่นก็ได้ครับ แค่ต่อไปอยู่กับพี่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรเลย...และถ้าต่ออยากเป็นดาราเหมือนพี่ พี่ก็จะพาไปฝากผู้ใหญ่ให้" ดาราหนุ่มเจ้าเลห์เดินเข้ามาจับมือของต่อศักดิ์ไว้แน่น
"อย่าทำอย่างนี้เลยครับพี่เคน"
"ทำไมละต่อ...พี่ไม่ดีตรงนั้นเหรอ"
"เราเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่ถึงอาทิตย์เลยนะครับ" เด็กหนุ่มมองเข้าไปในดวงตาของดาราหนุ่มด้วยความหวั่นไหว
"แต่พี่รักต่อและพี่ก็รู้ว่าต่อเป็นคนดี...ถ้าต่อไปอยู่กับพี่ ต่ออยากได้อะไรพี่ก็จะหาให้ครับ"
"แต่....."
.........................
"เป็นไงบ้างไอ้ต่อ...พาไอ้ดาราเคนไปเที่ยวถึงไหนมาวะ" สินชัยนอนกอดชายคนรักอยู่บนเตียง
"พี่เอ...ผมไม่อยากไปแล้วอ่ะ...พี่เอหาคนอื่น พาพี่เคนไปเที่ยวแทนผมได้ไหม"
"ทำไมวะไอ้ต่อ...มึงจะขัดคำสั่งของนายน้อยเหรอ"
"ไม่ใช่อย่างงั้น..ก็ผมไม่สบายใจนี่ครับ...พี่เคนเขาบอกว่าเขาชอบผม...ผมไม่รู้จะทำยังไง...ผมไม่อยากเจอเขาอีกแล้วพี่เอ"
"แต่เขาเป็นเพื่อนของนายน้อยนะเว้ย...นายน้อยเขาไว้ใจให้มึงดูแลเพื่อนเขาก็ดีแค่ไหนแล้วไอ้ควาย"
"แล้วพี่เอไม่หึงผมเหรอ" ต่อศักดิ์นอนอยู่ใต้วงแขนของแฟนหนุ่ม
"ไม่หึงโว้ย...กูไว้ใจมึง คนอย่างมึงอ่ะมันทั้งซื่อทั้งโง่ ไม่มีทางหักหลังกูได้หรอก....กูรักมึงนะไอ้ต่อ" สินชัยจูบปากของหนุ่มพเนจรเบาๆด้วยความรักและสงสาร
"ผมก็รักพี่เอมากครับ" ต่อศักดิ์ตอบสนองแฟนหนุ่มด้วยการซุกอยู่ในอ้อมแขนของเขา
.........................
ภูแสงและไอ้เจตสวมชุดสีดำเพื่ออำพรางตัวเองในเวลากลางคืน สองหนุ่มมุดรั้วลวดหนามเข้าไปในไร่ลิ้นจี่ของนายเรือรบอย่างเงียบๆ วันนี้เป็นวันที่ไอ้เจตรู้ว่าลูกสมุนของนายเรือรบได้แยกย้ายกลับบ้านกันแทบทุกคนเพราะเป็นวันหยุดประจำเดือนของทางไร่ ทั้งสองหนุ่มเลยถือโอกาสเอาวันนี้เป็นวันชำระแค้นเสียเลย ไอ้เจตเดินนำทางไปที่บ้านของนายเรือรบซึ่งอยู่ห่างจากกระท่อมท้ายไร่ประมาณสองร้อยเมตร
"ไอ้แสง...มึงเอาไอ้นั้นมาหรือเปล่าวะ" ไอ้เจตหันมาถามเบาๆ
"เอามาโว้ย...เป็นโหล" ภูแสงยิ้มอย่างรู้ทัน
"มาทางนี่...ไอ้แสง"
"มือมึงหายเจ็บหรือยังวะไอ้เจต" ภูแสงถามด้วยความเป็นห่วง
"ยังเจ็บอยู่ว่ะ...แต่งานของเราไม่ต้องใช้มือนี่หว่า" ไอ้เจตส่งยิ้มให้เพื่อน
สองหนุ่มเลือดร้อนเดินมาทางประตูหลังบ้านของนายเรือรบแล้วใช้กุญแจผีเปิดเข้าไปอย่างง่ายดาย ภายในบ้านมืดสนิทแต่ไอ้เจตก็จำทุกซอกทูกมุมของบ้านหลังนี้ได้เป็นอย่างดี มันเดินนำภูแสงขึ้นไปข้างบนอย่างช้าๆ จนไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนของนายเรือรบ แล้วไอ้เจตก็ใช้กุญแจผีเปิดเข้าไปอีกเช่นเคย
นายเรือรบพ่อค้ายาบ้านอนเมามายอยู่บนเตียงด้วยฤทธิ์ของสุรา ไอ้เจตเดินตรงเข้าไปหาเป้าหมายที่เตียงนอนทันที ส่วนภูแสงเดินไปลากโต๊ะทำงานของพ่อค้ายาบ้ามาไว้ที่กลางห้องแล้วเปิดไฟสลัวๆพอให้ได้เห็น แล้วก็เข้าไปสมทบกับไอ้เจตช่วยกันจับตัวนายเรือรบขึ้นมามัดไว้กับโต๊ะ ไอ้เจตจับนายเรือรบไพล่แขนแล้วมัดไว้อย่างแน่น มันกดหน้าไอ้พ่อค้ายาบ้าให้คล่ำลงบนโต๊ะด้วยความแค้น ส่วนภูแสงก้มลงไปมัดขาทั้งสองข้างของนายเรือรบไว้กับขาโต๊ะอย่างแน่นหนาเช่นเดียวกัน
"เฮ้ย...อะไรวะ พวกมึงเป็นใคร จะทำอะไรกู" พอนายเรือรบลืมตาตื่นขึ้นมาได้ก็แหกปากร้องโวยวายทันที ไอ้เจตไม่รอช้ามันเอาถุงเท้าเหม็นๆเต็มไปด้วยขี้ตีนของมันยัดใส่ปากนายเรือรบจนหยุดแหกปาก ภูแสงเอาเทปดำมาพันรอบปากของไอ้พ่อค้ายาบ้าเพื่อไม่ให้ถุงเท้าขยะหลุดออกมา นายเรือรบลืมตาโพรงมองหน้าภูแสงด้วยความกลัวแต่พอหันไปอีกด้านนึงก็เจอหน้าอันเคียดแค้นของไอ้เจตจ้องมองอยู่อย่างไม่คาดสายตา แต่เขาก็ไม่สามารถจะพูดอะไรได้เพราะมีขี้ตีนของไอ้เจตอุดอยู่เต็มปาก
"คราวนี้ถึงเวลาที่มึงต้องเจอกับความทรมานบ้างแล้วนะไอ้รบ" ไอ้เจตคำรามพร้อมใช้มือขวากระชากชุดนอนของนายเรือรบจนขาดลิ่ว ภูแสงเดินเข้าไปช่วยไอ้เจตจับนายเรือรบแก้ผ้าออกจนแต่ตัวล่อนจ้อน ก้นขาวๆของนายเรือรบพาดอยู่โต๊ะอย่างพอเหมาะพอดี เขาดิ้นส่ายสะโพกหนีเพราะรู้ตัวว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ยิ่งดิ้นเท่าไหร่ก้นเขาก็ยิ่งส่ายทำให้ดูน่าเย็ดมากยิ่งขึ้น
"ไอ้แสง...กูให้มึงเย็ดก่อน กูรู้ว่ามึงชอบตูดขาวๆ" ไอ้เจตยักคิ้วให้เพื่อน
"เออ...กูเย็ดก่อนก็ได้...อ้า...เห็นตูดมันแล้วควยแข็งว่ะ..อ้า โคตรขาวเลย...กูจะเย็ดมึงให้เลือดกระฉูดเลยไอ้เหี้ยรบ" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนพูดอย่างสะใจ แล้วถอดกางเกงงัดลำควยขนาดสองกำมือโผล่ออกมาปั่นจนแข็งแล้วใส่ลุงยางขนาดคิงไซต์ในทันที ไอ้เจตตาค้างมองมาที่ควยของภูแสงแล้วพูดขึ้นว่า
"แม่งเอ้ยยย...ควยช้างหรือควยม้าวะเนี่ย ทำไมมันใหญ่อย่างงี้วะ" แล้วไอ้เจตก็เอาลำควยฝังมุกสามเม็ดของตัวเองออกมาทาบความใหญ่กับลำควยของภูแสง
"ของกูใหญ่กว่ามึงตั้งเกือบนิ้ว ฮา ฮา ฮา" ภูแสงหัวเราะ
"เอ้ย...แต่ของกูฝังมุกสามเม็ดนะครับ เย็ดแม่งให้ตูดฉีก...เต็มที่เลยเพื่อน"
"ได้เลย...เพื่อน" ภูแสงตอบ
"ทำไมมึงเอาถุงยางมาเป็นโหลเลยวะไอ้แสง" ไอ้เจตหันไปเห็นถุงยางที่ภูแสงเอาออกมากองไว้บนโต๊ะจึงอดที่จะถามไม่ได้
"มึงกับกูจะต้องลงแขกไอ้สัตว์นรกนี้ทั้งคืน...เย็ดให้แม่งเลือดสาดไปเลยดีไหมเพื่อน" ภูแสงส่งสายตาเชิญชวนให้ไอ้เจตด้วยความเงี่ยน
"ได้เพื่อน....มึงเย็ดได้แล้วไอ้แสง กูอยากเห็นลีลาการเย็ดของมึงว่าจะเด็ดขนาดไหน"
ภูแสงเทครีมที่พอหาได้ใส่ลำควยของตัวเองจนเมาวับ แล้วเสียบลำควยยักษ์เข้าไปในรูตูดของนายเรือรบทีเดียวจนมิดด้ามอย่างไม่ปราณี นายเรือรบตาเหลือกค้างน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวด มีเสียงร้องออกมาจากลำคอดัง "อือ อึด อือ"
"เอ้อ...อย่างงั้นแหละเพื่อน เย็ดแรงๆให้เลือดมันกระฉุดเลยเพื่อน" ไอ้เจตยืนมองภูแสงกระเด้าเย็ดพ่อค้ายาบ้าอย่างสะใจ มันสาวว่าวให้กับลำควยฝังมุกของมันไปด้วย
"อ้า...อู้ว....เสียววะไอ้เจต อ้า อ้า..." ภูแสงมองหน้าเพื่อน
"เย็ดแรงๆซิวะ อ้า...." ไอ้เจตเดินไปกดตูดใสๆของภูแสงให้บดขยี้บี้รูตูดของนายเรือรบจนสุดลำควย ภูแสงดูเหมือนจะรู้ว่าเพื่อนต้องการให้เขาทำอะไร เขาหันมามองไอ้เจตด้วยสายตาที่เงี่ยนอย่างเต็มพิกัด เขาบดขยี้ควงสว่านเย็ดกระหน่ำอยู่ประมาณสิบนาทีก่อนที่ตัวของเขาจะกระตุก
"อ้า อ้า อ้า ซี๊ต กูแตกแล้วไอ้เจต อ้า..." ภูแสงชักลำควยออกมาจากรูตูดของนายเรือรบได้ไม่ถึงห้าวินาที ไอ้เจตก็ยัดลำควยฝังมุกเข้าไปแทนที่
"อ้าาาาา ซี๊ต วันนี้กูจะเย็ดแม่งให้ฟ้าสว่างเลยมึง อ้า โอ้ยยยยย...."
"เป็นไงบ้างวะไอ้เจต...เย็ดตูดมันส์กว่าเย็ดหีหรือเปล่าวะ" ภูแสงจ้องมองลำควยของมุดเข้ามุดออกในรูตูดของนายเรือรบอย่างสะใจ
"รูตูดแม่งฟิตวะ...ซี๊ตตตต ตอดควยกูฉิบหาย มันส์วะ..."
"ถ้ามันส์ก็เย็ดแรงๆซิวะ เอาให้เลือดแม่งสาดไปเลย เอามุกของมึงขูดผนังตูดของมันให้ฉีกไปเลยเพื่อน"
"ไอ้เลยเพื่อน...กูจัดให้ อ้า โอ้ยยยย อ้าาาาา เสียวลำควย อ้าาาาา" ไอ้เจตกระเด้าเย็ดอย่างไม่รู้จักเหนื่อย มันเอามือขวาจิกไปที่หัวของนายเรือรบกระชากขึ้นมาอย่างแรง แล้วพูดว่า
"เป็นไงไอ้เหี้ย...สะใจกูเหลือเกิน วันนี้แหละกูจะเอาคืนให้สาสมกับที่มึงตัดนิ้วของกู อ้า อ้า อือออออ ซี๊ตตต" ไอ้เจตพูดไปด้วยความแค้นและกระเด้าเย็ดอย่างสะอารมณ์
ภูแสงก้มลงไปดูตรงหว่างขาของไอ้เจตที่กำลังกระแทกลำควยฝังมุกเข้ารูตูดของนายเรือรบอย่างถี่ยิบ เขาเห็นเลือดสดๆไหลออกมาจากรูตูดของนายเรือรบเป็นทางยาวจนถึงพื้น
"ตูดแม่งฉีกแล้ว...โดนมุกของมึงเข้าไป เลือดสาดเลยโว้ย" ภูแสงกอดคอเพื่อนแล้วดูลีลาการกระเด้าของไอ้เจตอย่างพอใจ
"อ้าาาา น้ำเงี่ยนกูจะแตกแล้วไอ้แสง โอ้ยยยยย อ้าา เดี๋ยวมึงมาเย็ดต่อเลยนะเว้ย อ้าาา"
"ได้เลย..."
ไอ้เจตกระแทกกระหน่ำกระเด้าสุดพลังจนน้ำควยระเบิดออกมาเต็มถุงยาง มันชักลำควยออกมาจากรูตูดของนายเรือรบ แล้วภูแสงก็จ่อคิวอัดลำควยยักษ์เข้าไปในทันที ไอ้เจตถอดถุงยางออกมาจากลำควยแล้วเอาน้ำเงี่ยนที่อยู่ในถุงเกือบค่อนถุงไปเทใส่กบาลของไอ้พ่อค้ายาบ้าอย่างสาแก่ใจ
"ฮา ฮา ฮา ไอ้รบ...เป็นไงบ้างวะ...ขี้ตีนกูที่อยู่ในปากมึงอร่อยหรือเปล่าวะ..ไอ้สัตว์ น้ำควยกูก็อยู่บนหัวกบาลมึง...สะใจจริงโว้ย" ไอ้เจตพูดด้วยอารมณ์แห่งชัยชนะ แล้วมันก็เอาลำควยที่ยังเปื้อนไปด้วยน้ำเงี่ยนขึ้นมาพาดหน้าของไอ้พ่อค้ายาบ้าอย่างสะใจ
"อ้า...อ้า..เสียวว่ะ ขนาดรูตูดแม่งโบ๋แล้ว..กูยังเสียวอยู่เลยไอ้เจต ซี๊ตตต" ภูแสงครางออกมาอย่างสะอารมณ์ แล้วกระแทกลำควยยักษ์เข้าในรูตูดของนายเรือรบอย่างสุดแรงม้า
"จะแตกหรือยังไอ้แสง...กูจะได้เย็ดต่อ เห็นมึงเย็ดแล้วกูชักเงี่ยนอีกแล้ววะ"
"อ้า...อู้วววววว โอ้ยยยย น้ำเงี่ยนกูแตกแล้วไอ้เจต อ้าาา ซี๊ตตตต"
ภูแสงชักลำควยออกมาแล้วไอ้เจตก็เสียบต่อในทันที ชายหนุ่มถอดถุงยางออกมาจากลำควยแล้วเอาน้ำเงี่ยนไปเทบนหัวของนายเรือรบจนแฉะไปทั่วกบาล น้ำเงี่ยนของพวกเขาทั้งสองได้ผสมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ไหลย้อยลงเข้าตาเข้าจมูกของนายเรือรบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คืนนั้นนายเรือรบโดนกระหน่ำเย็ดจนตูดฉีกเลือดสาดเต็มหว่างขา เพราะภูแสงกับไอ้เจตผลัดกันวนเวียนลงแขกเขาตลอดทั้งคืนจนฟ้าสาง ทั้งสองหนุ่มกลับไปโดยปล่อยทิ้งให้เขาผูกติดอยู่กับโต๊ะอย่างงั้นตลอดทั้งคืน บนร่างกายของเขามีแต่น้ำเงี่ยนของสองหนุ่มอยู่เต็มไปทั่ว ทั้งขี้ทั้งเลือดไหลออกมาเต็มหว่างขา ส่งกลิ่นเหม็นคาวคุ้งไปทั่วห้อง
19.
(ความเดิม)
คืนนั้นนายเรือรบโดนกระหน่ำเย็ดจนตูดฉีกเลือดสาดเต็มหว่างขา เพราะภูแสงกับไอ้เจตผลัดกันวนเวียนลงแขกเขาตลอดทั้งคืนจนฟ้าสาง ทั้งสองหนุ่มกลับไปโดยปล่อยทิ้งให้เขาผูกติดอยู่กับโต๊ะอย่างงั้นตลอดทั้งคืน ทั้งขี้ทั้งเลือดไหลทะลักออกมาเต็มหว่างขา ส่งกลิ่นเหม็นคาวคุ้งไปทั่วห้อง
....................................
ลีซอขี่ม้าคู่ใจมาที่ห้องอาหารครัวคาวบอย พอถึงจุดหมายเด็กหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้าอย่างชำนาญ แล้วเดินเข้าไปในห้องอาหารอย่างช้าๆ สายตาของเขามองไปรอบๆเพื่อหาใครบ้างคนที่เขารอคอย
"อ้าว...พี่ลีซอ ทำไมวันนี้มาถึงนี่ได้ละครับ" ต่อศักดิ์ซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆเดินเข้ามาถาม
"วันนี้นายน้อยเข้ามาหรือยัง" ลีซอพูดเบาๆ
"ยังไม่เห็นเลยครับ...มีลีซอมีอะไรหรือเปล่าครับ"
"พี่คิดถึงนายน้อยเหลือเกินไอ้ต่อ...ไม่ได้เห็นมาหลายวันแล้ว"
"ช่วงนี้นายน้อยคงยุ่งๆน่ะครับ...เห็นบอกว่าเดือนหน้าจะมีทัวร์มาลงด้วย"
"พี่ได้ข่าวว่านายน้อยจะกลับไปเล่นละครอีกเหรอ...เห็นมีดารามาที่นี้"
สินชัยยืนฟังอยู่ตรงนั้น ก่อนที่จะเดินเข้าสมทบแล้วพูดว่า
"กูว่าไอ้นายน้อย..มันไม่เล่นละครแล้วล่ะ งานมันยุ่งจะตาย ไหนจะเรื่องเมียมันอีกละ...แล้วยิ่งตอนนี้นายใหญ่กับนายกลางก็ไม่อยู่ด้วย มันคงไม่มีเวลาหรอก"
"ถ้าไม่เล่นก็ดี... ผมจะได้ไม่ต้องคิดมาก ผมกลัวนายน้อยจะลืมผมครับพี่เอ"
"ทำไมมึงคิดอย่างงั้นวะ" สินชัยถาม
"ก็คราวที่แล้ว...นายน้อยไปถ่ายละครที่กรุงเทพฯก็หายไปเป็นเดือนๆ พอกลับมาก็แต่งงานอีก...แล้วจะไม่ให้ผมคิดมากได้ไงละครับพี่เอ" หนุ่มพม่าตาแดง
"พี่ลีซอ...อย่าคิดมากเลยครับ...ผมเชื่อว่านายน้อยไม่ใช่คนอย่างงั้นหรอกครับ" ต่อศักดิ์ปลอบใจเพื่อนรุ่นพี่
"ถ้ามึงคิดถึงมัน...แล้วทำไมมึงไม่ไปหามันที่บ้านซุ้มนายละวะ..ไอ้ลีซอ" สินชัยแนะนำ
"ผมไม่กล้าไปหรอกครับ"
"ทำไมวะ"
"ก็นายเล็กกับคุณหนูแดงเขาไม่ชอบผม ฮือ..ฮือ..ผมมันแค่ขี้ข้า" น้ำตาของหนุ่มพม่าไหลออกมาอาบแก้ม
"อย่าร้องไห้ซิครับ...พี่ลีซอ" ต่อศักดิ์หยิบกระดาษทิชชูที่อยู่บนโต๊ะอาหารส่งให้ลีซอ
"ถ้ามึงอยากจะเจอมัน...มึงก็ต้องนั่งรอมันอยู่ที่นี่แหละ...วันนี้เป็นวันเงินเดือนออก เดี๋ยวมันก็ต้องเข้ามาจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน...มะ..ตามกูมานี่" สินชัยเดินนำหน้าลีซอเข้าไปในบาร์เหล้า
"จริงๆเหรอครับพี่เอ...แล้วนายน้อยจะมากี่โมงครับ" ลีซอถามด้วยยิ้มทั้งน้ำตา
"ประมาณสองสามทุ่มนั้นแหละ..."
"กินข้าวมาหรือยังครับพี่ลีซอ" ต่อศักดิ์ถามด้วยความเป็นห่วง
"ยังเลยต่อ"
"งั้นเดี๋ยวผมไปหาอะไรให้พี่ลีซอกินก่อนนะครับ"
......................................
ที่บ้านซุ้มนาย...สองภพกำลังนั่งทำบัญชีของฟาร์มม้าและตรวจรายรับรายจ่ายของรีสอร์ทคนเมืองคาวอยู่บนโต๊ะอาหารอย่างขมักเขม้น สามเมืองและหนูแดงก็กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ใกล้ๆกัน โดยมีภูแสงคอยยืนรับใช้อยู่ห่างๆ
"เดี๋ยวนี้พี่สองไม่มีเวลาให้หนูแดงเลยนะค่ะ...วันๆทำแต่งาน" สาวร่างอวบค้อนให้สามีกำมะลอ
"ผมก็ทำเพื่อลูกของเรายังไงครับ" สองภพยังไม่หลุดจากบทคุณพ่อตัวปลอม
"ปากหวานจังเลย...หนูแดงไม่โกรธพี่สองแล้วคะ"
"พี่สองทานข้าวอิ่มแล้วเหรอครับ...สามเห็นพี่สองทานไปนิดเดียวเอง" สามเมืองถามขึ้นมาพร้อมกับกระดกเบียร์ตามไปด้วย
"มื้อเย็นพี่กินไม่เยอะ...เดี๋ยวอ้วน"
"อ้าว...แล้วอย่างงี้จะเอาแรงที่ไหนไปทำการบ้านละครับ" สามเมืองมองพี่ชายด้วยสายตาหื่นเล็กน้อย
"พูดอะไรน่ะสาม...อายไอ้แสงมันบ้าง" สองภพหันไปยิ้มให้เพื่อนรัก
"พี่สามอ่ะ...พูดอะไรก็ไม่รู้..หนูแดงอายนะค่ะ...อืม..หนูแดงไปหาแม่ษาดีกว่า"
"ทำไมพักนี้หนูแดงไปหาแม่ษาบ่อยจังเลยครับ...แอบไปนินทาอะไรผมให้แม่ษาฟังหรือเปล่า" สองภพยิ้มให้สาวร่างอวบ
"แหม...ก็พี่สองไม่มีเวลาให้หนูแดงนี่คะ...หนูแดงเหงานี่นา"
"ก็ผมต้องทำงานแทนพ่อนี่ครับ..แล้ววันนี้ก็เป็นวันเงินเดือนคนงานออกด้วย...ผมขอโทษนะครับที่ไม่ค่อยมีเวลาให้คุณ"
"ไม่เป็นไรหรอกคะ...หนูแดงล้อเล่น"
"พี่สองมีอะไรให้สามช่วยก็บอกนะครับ" สามเมืองถามด้วยอาการเมาเล็กน้อย
"ไม่เป็นไร...พี่ทำได้..สามช่วยพี่มาเยอะแล้ว" สองภพมองน้องชายอย่างมีเลศนัย แล้วหันไปพูดกับภูแสงว่า "รอเดี๋ยวนะเว้ยไอ้แสง..ใกล้จะเสร็จแล้ว...มึงจะได้เอาเงินเดือนไปจ่ายให้พวกลูกน้องของมึงด้วย...กูไม่ค่อยมีเวลาว่ะ"
"ไม่เป็นไรนายน้อย...กูรอได้" ภูแสงส่งยิ้มให้นายน้อยของเขาอย่างชื่นชม
"เออ...ไอ้แสง..ไหนบอกว่าจะพาเพื่อนมึงที่ชื่อไอ้เจตมาหากูไงละ"
"กูเห็นมึงกำลังยุ่งๆอยู่...เอาไว้วันหลังก็ได้นายน้อย"
"หนูแดงไปหาคุณแม่ษาก่อนนะค่ะ...พี่สอง" หนูแดงเดินเข้ามาหอมแก้มสามีกำมะลอด้วยอาการเศร้าซึม
"เดี๋ยวผมขับรถไปส่งนะครับ..."
"ไม่เป็นไรคะ...พี่สองทำงานไปเถอะ...หนูแดงขับไปเองได้คะ..แค่สิบกว่ากิโลเอง"
"ไม่ได้หรอกครับ...กำลังท้องกำลังไส้ ถนนหนทางยิ่งมืดๆอยู่ด้วย"
"เดี๋ยวผมขับรถไปส่งก็ได้ครับคุณหนูแดง" ภูแสงรับอาสา
"เออ...งั้นให้ไอ้แสงไปส่งนะครับ"
"งั้น...ก็ได้คะ"
"ไอ้แสงกูไปด้วย..." สามเมืองยกแก้วเบียร์ดื่มจนหมดแล้วรีบลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร เขามีท่าทางเมาเล็กน้อย
"จะไปไหนสาม" สองภพหันไปถามน้องชาย
"สามจะไปกินเหล้าต่อในเมืองครับพี่สอง....อยู่แต่บ้าน...เซ็ง"
"งั้นก็ตามใจ...อย่ากลับดึกละ...พี่เป็นห่วง" สองภพมองตาน้องชายอยู่นานจนเขาสามารถจดจำแววตาคู่นั้นได้เป็นอย่างดี
"ครับผม..."
ชายหนุ่มเดินไปส่งภรรยากำมะลอที่หน้าบ้านด้วยความวิตกกังวลแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขารู้สึกสังหรณ์ใจอย่างประหลาดจนไม่สามารถอธิบายได้
"พรุ่งนี้จะกลับกี่โมง...ก็โทรมาบอกผมนะครับ...ผมจะได้ไปรับ"
"หนูแดงจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้วคะ...เชอะ"
หญิงสาวร่างอวบพูดล้อเล่นกับสามีตัวปลอมด้วยน้ำเสียงแปลกๆ ก่อนที่เธอจะโบกมือลา แล้วเก็เดินขึ้นรถไปอย่างช้าๆ
...............................
ภูแสงขับรถออกมาด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง โดยมีสามเมืองนั่งอยู่ที่เบาะข้างๆคนขับ ส่วนหนูแดงนั่งอยู่ตรงเบาะหลังเพียงคนเดียว พอชายหนุ่มขับรถออกมาได้สักพักเขาก็สังเกตุเห็นว่ามีรถคันหนึ่งขับตามเขามาอย่างกระชั้นชิด และที่สำคัญรถคันนั้นได้ออกมาจากทางไร่ลิ้นจี่ของนายเรือรบ ภูแสงมองไปที่กระจกหน้ารถและเพ่งอยู่นาน จนเขาจำได้ว่ารถคันนั้นเป็นรถกระบะของนายเรือรบนั้นเอง ชายหนุ่มคิดในใจว่าจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่ๆ
เขาตัดสินใจเหยียบคันเร่งหนีด้วยความเร็ว แต่ยิ่งหนีเท่าไหร่นายเรือรบก็จี้ตามมาติดๆอย่างไม่ลดละ
"ว๊ายยย...นายแสงทำไมขับรถเร็วแบบนี้...ฉันกำลังมีเด็กอยู่นะ ว๊าย..." หนูแดงร้องด้วยความตกใจ
"ไอ้แสง...มึงจะรีบไปไหนวะ" สามเมืองตะโกนลั่นรถ
"มีรถตามเรามาครับ...นายเล็ก" ภูแสงตอบเสียงสั่น แล้วสามเมืองหันไปดูรถที่ขับตามมา
"ใครวะไอ้แสง"
"ไอ้เรือรบครับ" ภูแสงตอบเสียงดังด้วยความวิตก
"ไอ้เรือรบที่มันไม่ค่อยชอบพี่สองนั้นเหรอ..."
"ครับ...นายเล็ก"
"แล้วมันต้องการอะไรของมันวะ...มันตามเรามาทำไม" สามเมืองพูดด้วยความโมโหบวกกับความเมา
"ว๊ายยย....ฉันกลัว...อย่าขับเร็วนักซิ..นายแสง"
"ใจเย็นๆนะครับคุณหนูแดง...ผมกำลังจะขับหนีมันครับ..เกาะไว้แน่นๆนะครับ"
นายเรือรบชักปืนออกมาแล้วยิงไปที่รถของภูแสงหลายนัด "ปัง ปัง ปัง" กระสุนถูกเล็งไปที่ล้อรถทั้งข้าง จึงทำให้รถของภูแสงเสียหลักส่ายไปส่ายมา เสียงปืนดังสนั่นไหวหวั่นไปทั้งถนน
"ว๊ายยยยยยยยยยย....กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด ว๊าย...ฉันกลัว" หนูแดงร้องกรี๊ดลั่นรถ
"ไอ้เหี้ย...มันยิงเราทำไมวะ..ไอ้แสง" สามเมืองโมโหเลือดขึ้นหน้า ตัวเขาเอียงไปเอียงมาตามแรงเหวี่ยงของรถ
กระสุนนัดสุดท้ายได้ทะลุกระจกหลังจนแตกกระจายดัง "เปรี้ยง" ลูกกระสุนพุ่งไปเจาะที่กระโหลกศรีษะของหนูแดงเข้าอย่างเต็มเปา ไม่มีเสียงร้องของสาวร่างอวบเล็ดลอดออกมาเลยแม้แต่น้อย แต่ร่างกายของเธอค่อยๆทรุดตัวลงไปกับเบาะรถอย่างช้าๆ
สามเมืองล้วงเอาปืนที่ซ่อนไว้อยู่ในช่องเก็บของออกมาทันที ภูแสงหันมามองแต่ก็ช้ากว่าที่จะห้ามทัน สามเมืองหมุดกระจกรถลงแล้วได้โผล่หัวออกไปยิงโต้ตอบกับนายเรือรบอยู่หลายนัด "ปัง ปัง ปัง ปัง"
"นายเล็ก...อย่า" ภูแสงตะโกนห้าม เพราะเห็นรถของนายเรือรบขับจี้ขึ้นมาด้วยความเร็ว พ่อค้ายาบ้าเร่งสปีดขึ้นมาตีคู่กับรถของภูแสง อย่างไม่เกรงกลัวนรก
"นายเล็ก..ก้มลง..."
ยังไม่ทันที่จะสิ้นเสียงของไอ้หนุ่มเลือดร้อน นายเรือรบก็หักพวงมาลัยควับเบียดเอารถของภูแสงเข้าอย่างจัง ทำให้รถของชายหนุ่มเสียหลักส่ายไปส่ายมาพุ่งลงไปข้างทางที่ชันไปด้วยโขดหิน กลิ้งหลายตลบจนไปชนกับต้นไม้ใหญ่ดังสนั่น "โครม อี๊ดดดด โครม ฟี๊ตตตตต โครม โครม" แล้วการไล่ล่าก็สิ้นสุดลง
........................................
หน้าห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลชื่อดังในเมืองเชียงใหม่ คุณสุพรรษากับสองภพยืนรออยู่ตรงนั้นด้วยความกระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง ลีซอและลุงคำแสงนั่งร้องไห้จับมือกันแน่นอยู่ใกล้ๆนั้นด้วย สองภพเดินวนไปวนมาเป็นหนูติดจั่นด้วยความร้อนรนอยู่ร่วมชั่วโมง สักพักคุณหมอก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน แล้วทุกคนก็วิ่งกรู่เข้าไปหาคุณหมอพร้อมๆกัน
"น้องชายผมเป็นยังไงบ้างครับ" สองภพถาม
"แล้วลูกสาวดิฉันละคะ ฮือ...ฮือ..อือออออ" คุณสุพรรษาร้องไห้ป่านจะขาดใจ
"ใจเย็นๆนะครับ...ใจเย็นๆ ตอนนี้คุณสามเมืองเสียเลือดไปมาก เขาต้องการเลือดไปช่วยเหลือคนไข้ด่วนครับ...ไม่ทราบว่ามีใครเป็นญาติกับคุณสามเมืองไหมครับ" คุณหมอถามอย่างสุภาพ
"ผมครับ...ผมเป็นพี่ชายแท้ๆของเขาครับ" สองภพตอบ
"ถ้าอย่างงั้น..ขอเชิญทางนี้ครับ"
คุณหมอเดินนำชายหนุ่มเข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้วจัดการเจาะเลือดไปตรวจโดยทันที สองภพนอนอยู่บนเตียงเพื่อรอการถ่ายเลือดไปให้น้องชายอย่างเต็มใจ เขามองไปที่ร่างกายของน้องชายที่นอนอยู่บนเตียงถัดไปด้วยความเศร้าระคนเสียใจ เพราะสภาพของสามเมืองตอนนี้ร่อแร่เหลือเกิน บนร่างกายมีบาดแผลอยู่เต็มไปทั่ว แขนขาถูกพันไว้ด้วยผ้าก็อต ยังมีพอเลือดซิบๆไหลออกออกมาไม่ยอมหยุด เขาอยากจะร้องไห้แทบตายแต่เขาก็ต้องกั้นมันเอาไว้ มีหยาดน้ำตาคลอเบ้าของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่นานนักคุณหมอก็เดินเข้ามา แล้วพูดเบาๆว่า
"ผมขอโทษด้วยครับคุณสองภพ...เลือดของคุณใช้ไม่ได้ครับ"
"ทำไมละครับ...จะเป็นไปได้ยังไง..พ่อ,แม่ผมเลือดกรุ๊ปโอ ผมก็เลือดกรุ๊ปโอ...น้องชายของผมก็ต้องเหมือนกันซิครับ"
"ใช่ครับ...เลือดของคุณกรุ๊ปโอ...แต่ของคุณสามเมืองกรุ๊ปเอครับ"
"คุณหมอตรวจละเอียดแล้วเหรอครับ...เป็นไปไม่ได้.." สองภพส่ายหน้าปฏิเสธ
"ผมตรวจดูหลายรอบแล้วครับ..ไม่ผิดพลาดแน่ๆ" คุณหมอยืนยันคำเดิม
"ไม่จริง...ผมไม่เชื่อ" ชายหนุ่มเสียงสั่น
"นี่ครับ...ผลของการตรวจเลือดของคุณ" คุณหมอส่งกระดาษบางอย่างให้สองภพ แล้วพูดว่า "คุณไม่ได้มีความผูกพนธ์ทางสายเลือดกับคุณสามเมืองเลยนะครับ...ผมเสียใจด้วยครับ"
20.
(ความเดิม)
"ไม่จริง...ผมไม่เชื่อ" ชายหนุ่มเสียงสั่น
"นี่ครับ...ผลของการตรวจเลือดของคุณ" คุณหมอส่งกระดาษบางอย่างให้สองภพ แล้วพูดว่า "คุณไม่ได้มีความผูกพันธ์ทางสายเลือดกับคุณสามเมืองเลยนะครับ...ผมเสียใจด้วยครับ"
"แต่...คุณหมอครับ...เลือดของผมก็ใช้ได้ไม่ใช่เหรอครับ...เอาให้เขาเถอะนะครับ"
"ผมก็อยากจะทำอย่างงั้นครับ...แต่เลือดของคุณสามเมืองเป็น......" ยังไม่ทันที่คุณหมอจะพูดจบก็มีพยาบาลวิ่งเข้ามาด้วยความรีบร้อน แล้วพูดว่า
"คุณหมอค่ะ...เชิญทางนี้ด่วนค่ะ เราได้ผู้บริจาคเลือด เอ Rh-Negative แล้วค่ะ"
"ผมขอตัวก่อนนะครับคุณสองภพ"
ชายหนุ่มยังยืนมึนงงกับสิ่งที่ได้รับรู้เมื่อสักครู่ ทำไมเหตุการณ์ถึงเป็นแบบนี้ไปได้ เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของเขากันแน่ ถ้าสามเมืองไม่ใช่น้องชายร่วมสายเลือดของเขาแล้วสามเมืองเป็นใคร แล้วทำไมสามเมืองถึงมาอยู่ในครอบครัวของเขาได้ นั้นคือสิ่งที่เขาคิดอยู่ในใจ เขาเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้วยอาการเหม่อลอยมีหยาดน้ำตาคลอเบ้าอยู่ตลอดเวลา ลีซอเดินเข้ามาจูงมือของเขาแล้วพาไปนั่งใกล้ๆกับลุงคำแสง
"เป็นยังไงบ้างครับนายน้อย...ทำไมออกมาเร็วจังครับ"
"ลีซอ....อือ...อือ...อือ...มันเกิดอะไรกับพี่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ อือ...อือ" ชายหนุ่มดึงตัวลีซอเข้ามากอดไว้แน่นแล้วน้ำตาที่กั้นเอาไว้ก็ทะลักออกมาเหมือนเขื่อนแตก
"เกิดอะไรขึ้นครับนายน้อย...แล้วนายเล็กเป็นไงบ้างครับ" ลีซอถาม
"พี่ไม่รู้...อือ ฮือ..ฮือ..."
"ใจเย็นๆนะนายน้อย...ทุกคนต้องปลอดภัย ฮือ..ฮือ..เชื่อผม" ลุงคำแสงจับมือนายน้อยเอาไว้แน่น แต่ในใจของชายชราก็เป็นห่วงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของแกมากเหลือเกิน
"ทำไม..หมอเข้าไปนานจัง ฮือ..ฮือ...ตาสอง...หนูแดงของแม่จะเป็นอะไรหรือเปล่า อ่า ฮือ..อือออออ.." คุณสุพรรษาเดินมานั่งข้างๆสองภพอย่างคนเสียขวัญ
เวลาผ่านไปนานร่วมสองชั่วโมง แล้วการรอคอยที่ทรมานก็สิ้นสุดลง เมื่อคุณหมอคนเดิมเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน
"น้องชายผมเป็นไงบ้างครับ...คุณหมอ" สองภพเดินไปถามคุณหมอด้วยความกังวลใจ
"คุณสามเมืองพ้นขีดอันตรายแล้วครับ...แต่..." คุณหมอหยุดชงักไว้แค่นั้น
"แต่อะไรครับ...แต่อะไร" สองภพเขย่าคุณหมออย่างลืมตัว
"คนไข้มีอาการของก้อนเลือดไปทับกับเส้นประสาทตา และได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงจนแก้วตาแตก เออ...."
"หมายความว่ายังไงครับคุณหมอ..หมายความว่ายังไง...บอกผมมาเถอะครับ ฮือ...ฮืออออ..."
"เออ...หมายความว่า คุณสามเมืองอาจจะสูญเสียการมองเห็นได้ครับ"
"โธ่...ตาสาม ฮือ...ฮือ แล้วลูกสาวของดิฉันละค่ะ...ฮืออออ อือ อือ" คุณสุพรรษาถามด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว
"น้องผู้หญิงเสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาลแล้วครับ เราพยายามช่วยกันอย่างเต็มที่แต่เธอทนพิษบาดแผลไม่ไหว...ผมเสียใจด้วยครับ"
"ว๊ายยยยย...ไม่จริง..หนูแดงลูกแม่ อ่า อาาาาาา" คุณสุพรรษาเป็นลมหมดสติไปในทันที คุณหมอต้องเรียกพยาบาลเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลกันอุตลุด
"แล้วไอ้ภูแสงลูกของผมละหมอ" ลุงคำแสงถาม
"คุณลุงหมายถึงผู้ชายคนที่ขับรถใช่ไหมครับ"
"ครับ...ครับ...นั้นแหละครับไอ้แสงลูกผม"
"รายนั้นไม่เป็นไรมากครับ...แค่แขนหักนิดหน่อย ผมใส่เฝือกให้แล้วครับ ดวงแข็งเอาการทีเดียว...แต่คนไข้ได้ออกมาตั้งนานแล้วนี่ครับ"
"ไม่เห็นมีนี่ครับคุณหมอ...ฮือ..ฮือ" ลีซอพูด แล้วหันซ้ายหันขวามองหาพี่ชายนอกสายเลือด
"ไอ้แสง...มึงหนีกูไปอีกแล้วเหรอวะ ฮือ...ฮือออออ" สองภพนั่งเข่าอ่อนอยู่ตรงนั้น
......................................
ทางด้านนายเรือรบ ก็ได้หนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บนดอยแห่งหนึ่ง เพื่อรอให้เรื่องราวสงบลงเสียก่อน เพราะเขาคิดว่าภูแสงและคนที่อยู่ในรถคันนั้นได้ตายกันไปหมดแล้ว ส่วนภูแสงได้มาสมทบกับไอ้เจตรวมพลังกันตามล่านายเรือรบจนแทบพลิกแผ่นดินแต่ก็ยังไม่เจอตัว ทั้งสองหนุ่มเก็บตัวเงียบอยู่ในป่าทึบหลังฟาร์มม้าของนายใหญ่ เพื่อรอชำระแค้นกับนายเรือรบอย่างไม่ยอมแพ้
"เราต้องซ่อนอยู่อย่างงี้นานเท่าไหร่วะไอ้แสง" ไอ้เจตถาม
"จนกว่าไอ้เหี้ยรบมันจะโผล่หัวออกมา"
"แล้วพวกเจ้านายของมึงเป็นไงกันบ้างวะ"
"คุณหนูแดงตายแล้ว...นายเล็กตาบอด..ฮือ..เพราะกู...เพราะกูเป็นต้นเหตุ ฮือ ฮือออออ"
"ไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นหรอกไอ้แสง...ใจเย็นๆว่ะเพื่อน..กูจะอยู่ข้างมึงเอง"
"ถ้าไม่มีกูสักคน...เรื่องระยำแบบนี้มันคงจะไม่เกิดขึ้นกับเจ้านายของกู อือ ฮือ...ทำไมไอ้สัตว์รบมันไม่เอาปืนมายิงสมองกูให้ตายไปคนเดียว...อือ..ฮือ..คนอื่นเขาต้องมาเดือดร้อนเพราะกูแท้ๆ อือ....กูจะฆ่ามันด้วยมือของกูเอง..." หยาดน้ำตาของไอ้หนุ่มเลือดร้อนไหลออกมาไม่ยอมหยุด
.......................................
"ทำไมอ้ายแสงต้องหนีไปอีกคับ..ป้อคำ อ้ายแสงบ่อได่ยะอะหยังผิดนี้คับ" หนุ่มลีซอในชุดสีดำเอ่ยถามพ่อบุญธรรม
"ข้าก็ไม่รู้..มันคงกลัวนายใหญ่กับนายน้อยจะเล่นงานมัน ฮือ...ฮือ"
"ผมสงสารอ้ายแสงนักขนาดคับ อือ อือ..."
"เมื่อไรมึงจะหมดทุกข์หมดโศกกับเขาซักทีวะ..ไอ้แสงลูกพ่อ อือ อือ.." ลุงคำแสงพร่ำเพ้อถึงลูกชายคนเดียว
"นายน้อยมาแล้วคับป้อคำ" ลีซอพูด เมื่อเห็นนายน้อยของเขาเดินเข้ามาใกล้
"เดี๋ยวลีซอพาลุงคำกับไอ้เอ,ไอ้ต่อไปวัดก่อนแล้วกัน"
"แล้วนายน้อยละครับ"
"พี่จะแวะไปหาไอ้สามที่โรงพยาบาลก่อน"
"นายใหญ่กับนายหญิงเมื่อไรจะมาถึงครับนายน้อย" ลีซอถามด้วยความเป็นห่วงชายอันเป็นที่รัก
"มาถึงพรุ่งนี้เช้า"
"แล้วนายกลาง(หนึ่งสยาม)มาตวยก่อคับ" ลีซอเผลอพูดภาษาเหนืออกไป
"มาซิ..." สองภพตอบสั้นๆ
..................................
สองภพกำชับแพทย์และพยาบาลไม่ให้บอกเรื่องการสูญเสียดวงตาให้สามเมืองได้รับรู้ในตอนนี้ เพราะเขากลัวว่าน้องชายจะยังรับไม่ได้จากการสูญเสียในครังนี้
"น้องชายผมรู้สึกตัวแล้วเหรอครับคุณหมอ" สองภพเดินเข้าไปถามคุณหมอที่ยืนอยู่ข้างๆเตียงคนไข้
"รู้สึกตัวแล้วครับ..แต่ผมเพิ่งให้ยาบรรเทาปวดไป..อีกสักพักคงจะตื่นครับ..ผมขอตัวก่อนนะครับ"
"ครับ...ขอบคุณครับ"
สองภพยืนมองสภาพของน้องชายอยู่นานจนน้ำตาคลอ เขาก้มลงไปจูบที่หน้าผากของน้องชายเบาๆแล้วพูดว่า
"สามเป็นใคร...บอกพี่ได้มั้ย..ว่าสามเป็นใคร"
เขาเอาเก้าอี้มานั่งลงข้างๆเตียงคนไข้แล้วจับมือของน้องชายเอาไว้ ไม่นานนักสามเมืองก็รู้สึกตัว
"สาม...สาม..พี่อยู่ทางนี้ครับ"
"พี่สอง...สามเจ็บ..โอ้ยย"
"เดี๋ยวก็หายครับผม" สองภพจับมือน้องชายไว้แน่น
"พี่สอง...ทำไมตาของสามมองไม่เห็น" สามเมืองเอามือไขว่คว้าหาตัวพี่ชาย
"เออ...สามมีแผลที่ตา..แต่ตอนนี้หมอทำแผลให้แล้ว...เลยต้องปิดตาเอาไว้ก่อนครับ"
"พี่สอง...อย่าทิ้งสามไปไหนนะครับ สามรักพี่สองนะครับ"
"พี่อยู่ตรงนี้สาม...พี่จะไม่ไปไหนครับ"
"สามอยากเห็นหน้าพี่สองครับ...เมื่อไรหมอจะมาเอาผ้าพันตาออกซักที"
"อีกสักพักนึงครับ....สามต้องอดทนนะครับ..น้องรัก"
"หนูแดงอยู่ไหน...ลูกสามละครับพี่สอง"
"เออ....สาม...สามทำใจดีๆไว้นะครับ"
"ทำไมครับพี่สอง....เกิดอะไรขึ้นครับ"
"หนูแดงเสียชีวิตแล้วครับ..." สองภพตัดสินใจพูดออกไป
"หนูแดงตายแล้ว...ลูกสาม...ลูกสามตายแล้ว...อือ...ฮือ..."
"พี่เสียใจด้วยนะครับ"
"ไอ้เรือรบ...มันฆ่าลูกของสาม ฮือ...ฮือ..."
"ไม่เป็นไรนะสาม...ทำใจดีๆไว้นะครับ...สักวันหนึ่งกรรมต้องตามสนองคนชั่วอย่างมัน..."
"พี่สอง...สามเจ็บตาครับ...ตาสามเป็นอะไรกันแน่..โอ้ยย..ทำไมสามเจ็บอย่างงี้.."
"อดทนไว้นะน้องพี่...พี่รักสามนะครับ อือ..ฮือ..."
"ครับพี่สอง...สามจะอดทนครับ...ทำไมลูกของสามต้องตายด้วย ฮือ...ฮือ..."
"อย่าร้องไห้ซิครับสาม...เดี๋ยวจะเจ็บตานะครับ"
"สามสงสารลูกครับ ฮือ...อือออออ"
...........................................
ที่บ้านซุ้มนายในตอนหัวค่ำ นายใหญ่,คุณขวัญเชิญและหนึ่งสยามกำลังจะเตรียมตัวออกไปงานศพของหนูแดง อยู่ๆสองภพก็เดินเข้ามาแล้วพูดขึ้นว่า
"นี่หมายความว่ายังไงครับแม่" สองภพส่งผลการตรวจเลือดให้มารดา
"สองไปเอาจากไหนลูก" คุณขวัญเชิญถามเสียงสั่นแล้วเดินไปยืนข้างๆกับสามี
"คุณหมอให้สองมาครับ...ช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยซิครับพ่อ" ชายหนุ่มหันไปถามผู้เป็นบิดา
"มีอะไรกันเหรอครับ...คุณพ่อ,คุณแม่" หนึ่งสยามเดินเข้ามาหยิบเอากระดาษแผ่นนั้นไปดู แล้วก็เดินไปนั่งที่โซฟาด้วยสีหน้าปรกติ
"เล่าให้ลูกฟังเถอะค่ะ...ไหนๆเรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว"
"มานั่งนี่...ถ้าอยากรู้ฉันจะเล่าให้แกฟัง" นายใหญ่เดินนำไปที่โซฟา
.............................
ที่กรุงเทพฯเมื่อ27ปีก่อน
"จะรีบไปไหนค่ะ...ขับช้าๆหน่อยซิคุณ เดี๋ยวลูกตื่น"
"ก็จะไปรับตาสองนะซิคุณ นี่ก็เลยเวลามามากแล้วนะ ป่านนี้ลูกคงรอเราอยู่"
"แต่ตาหนึ่งยังหลับอยู่เลยนะค่ะ...ช้าๆก็ได้ค่ะ"
"คุณ..คุณ...เห็นคนอยู่ตรงนั้นมั้ย...ดูซิคุณ"
"เห็นค่ะ..คนท้องด้วยนะค่ะ ตายแล้วทำไมไปนั่งอยู่อย่างงั้นละ"
"เราจะทำยังไงดีคุณ"
"จอดรถซิค่ะ...ฉันจะลงไปช่วยเขา"
นายใหญ่และคุณขวัญเชิญจอดรถและลงไปช่วยหญิงสาวท้องแก่คนนั้นด้วยความสงสารและเมตตาธรรม
"ตายแล้ว...ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ค่ะ" คุณขวัญเชิญเข้าไปช่วยพยุงหญิงสาวท้องแก่ให้ลุกขึ้น
"โอัยยยยย...ฉันเจ็บท้อง โอ้ยย ฉันจะคลอดลูกจ๊ะ ช่วยฉันด้วย"
"ใจเย็นๆนะครับ...เดี๋ยวเราจะพาคุณไปส่งโรงพยบาล"
สองสามีภรรยาช่วยกันพยุงหญิงสาวท้องแก่คนนั้นขึ้นมาบนรถทันที
"คุณเอาตาหนึ่งไปนั่งตักคุณก่อนนะครับ" นายใหญ่หันไปบอกภรรยา
"ตาหนึ่ง..มานี่ลูก มาหาแม่นะจ๊ะ"
"ใครครับคุณแม่" หนึ่งสยามในวัยห้าขวบถามขึ้นมา
"น้าเขาเจ็บท้องจะคลอดลูกจ๊ะ"
"แล้วน้าเขาเป็นใครครับคุณแม่"
"เออ...เพื่อนของแม่เองจ๊ะ"
หลังจากที่หญิงสาวคนนั้นได้คลอดลูกออกมาเป็นเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักน่าชัง เธอก็ได้หายตัวออกไปจากโรงพยาบาลทันที โดยทิ้งเจ้าหนูน้อยไว้เพียงลำพัง นายใหญ่และคุณขวัญเชิญสงสารและเอ็ดดูเจ้าหนูน้อยคนนั้นขึ้นมาอย่างจับใจ จึงรับอุปการะเจ้าหนูน้อยผู้โชคร้ายคนนั้นเป็นลูกชายด้วยอีกคน
"ฉันรักเด็กคนนี้ค่ะ...ดูแกมองเราซิค่ะ...น่ารักน่าชังเชียว..หน้าตาคล้ายๆตาสองของเราเลยนะค่ะ...ฉันจะเอาแกไปเลี้ยงนะค่ะคุณ" คุณขวัญเชิญพูดขึ้นมาในขณะที่กำลังอุ้มเจ้าหนูน้อยขี้อ้อนอยู่ในอ้อมอก
"ตามใจคุณซิครับ...ไหนๆคุณก็มีลูกให้ผมไม่ได้แล้วนี่"
"แล้วคุณคิดยังไงกับตาหนูบ้างค่ะ"
"ผมรักแกครับ..น่าสงสาร...ดูตาแกซิ..จ้องมองเราใหญ่เลย"
"แล้วเราจะเรียกแกว่ายังไงดีค่ะคุณ"
"ลูกชายของเราชื่อ หนึ่งสยามกับสองภพ ถ้างั้นเราจะเรียกแกว่าตาสามดีไหมครับ สามเมือง"
"ดีค่ะ...โตขึ้นมาแกจะได้ไม่มีปมด้อย....ว่าไง..ตาสามลูกแม่ ไปอยู่กับแม่นะจ๊ะ"
"น้องเขาเป็นใครครับคุณแม่" หนึ่งสยามเดินเข้ามาถามมารดา
"ก็น้องของหนึ่งยังไงลูก" คุณขวัญเชิญตอบ
"แต่หนึ่งมีน้องสองแล้วนี่ครับ" เด็กน้อยพูดด้วยความไร้เดียงสา
"น้องสามเป็นน้องคนใหม่จ๊ะลูก"
"แต่เขาไม่ใช่ลูกของคุณแม่นี่ครับ...แล้วจะมาเป็นน้องของหนึ่งได้ยังไง" เด็กน้อยทำหน้างง
"ได้ซิจ๊ะ...น้องสามจะมาเป็นลูกของแม่กับพ่อ...เราจะเอาน้องสามไปอยู่ด้วย..."
"หนึ่งรักน้องสามไหมลูก" นายใหญ่ถามลูกชาย
"รักครับ...น้องสามหน้าเหมือนน้องสองเลย...หนึ่งรักน้องครับ"
........................................
"ทำไมไม่มีใครบอกผมบ้างครับ" สองภพถามขึ้นมาหลังจากได้ฟังผู้เป็นพ่อเล่าจนจบ
"ตอนนั้นสองยังเล็กมากนะลูก...และแม่ก็ไม่อยากให้สามรู้เรื่องนี้ด้วย"
"ฉันไม่อยากให้เจ้าสามมันมีปมด้อย....พวกเราก็เลยต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ" นายใหญ่บอกลูกชายคนกลาง
"พวกเรา...หมายความว่ายังไงครับ...นอกจากพ่อกับแม่แล้วยังมีใครรู้เรื่องนี้อีกครับ"
"ก็มีพ่อกับแม่และก็พี่หนึ่งไงจ๊ะ" คุณขวัญเชิญตอบ พร้อมกับมองลูกชายด้วยความเข้าใจ
"พี่หนึ่งก็รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอครับ" สองภพหันไปมองพี่ชายด้วยสายตาที่มีแต่คำถาม หนึ่งสยามยิ้มให้น้องชายอย่างโล่งอกที่ความลับได้ถูกเปิดเผยสักที แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากมองน้องชายด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
21.
(ความเดิม)
"พี่หนึ่งก็รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอครับ" สองภพหันไปมองพี่ชายด้วยสายตาที่มีแต่คำถาม หนึ่งสยามยิ้มให้น้องชายอย่างโล่งอกที่ความลับได้ถูกเปิดเผยสักที แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากมองน้องชายด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
"ไอ้หนึ่งมันรู้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว...แต่ฉันไม่ให้มันพูดเรื่องนี้เอง" นายใหญ่มองหน้าลูกชายทั้งสองคน
สองภพเดินเข้าไปดึงแขนพี่ชาย แล้วหันมาพูดกับนายใหญ่ว่า "ผมขอคุยอะไรกับพี่หนึ่งหน่อยนะครับพ่อ" เขาจูงมือพี่ชายร่วมสายเลือดเข้าไปในห้องหนังสือที่อยู่ไม่ไกลนัก
"เพราะเรื่องนี้ใช่ไหม...พี่หนึ่งถึงไม่ว่าอะไรผมกับไอ้สามเลยสักคำ"
"แกหมายถึงเรื่องที่แกมีอะไรกับไอ้สามน่ะเหรอ" หนึ่งสยามถามน้องชาย
"ครับ"
"แล้วพี่จะว่าพวกแกทำไมละ...ในเมื่อแกกับไอ้สามไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันสักหน่อย...พวกแกไม่ได้ทำผิดศีลธรรมอะไรนี่น่า"
"แล้วทำไมพี่หนึ่งไม่บอกผมบ้างละครับ...ว่าไอ้สามไม่ใช่น้องของเรา"
"จะให้พี่พูดไปทำไม...แค่พี่เห็นพวกแกทั้งสองคนรักกัน...พี่ก็ดีใจแล้ว" หนึ่งสยามยิ้มให้น้องชาย
"ในที่สุดสวรรค์ก็มีตา..." สองภพพูดลอยๆออกมา
"แกหมายถึงเรื่องของแกกับไอ้สามนะเหรอ"
"ครับ....ไอ้สามมันรักผม...และมันคิดอยู่ตลอดเวลาว่ามันเป็นคนบาป ดึงผมให้ตกนรกไปกับมันด้วย...แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้ทำบาปอะไรเลย....ผมจะไปบอกมันนะครับพี่หนึ่ง" สองภพพูดด้วยรอยยิ้ม
"ไม่ได้นะเว้ย..." หนึ่งสยามห้ามเสียงจริงจัง
"ทำไมละครับ"
"แกก็รู้ว่าไอ้สามมันเป็นคนใจร้อนและก็เอาแต่ใจตัวเอง...ถ้ามันรู้เรื่องนี้เข้า มันจะคิดมากแล้วก็จะเตลิดไปไกลน่ะซิ"
"จริงๆด้วย...ผมก็ลืมคิดไปครับ...ตอนนี้มันยังเสียใจเรื่องลูกของมันอยู่ แล้วไหนจะมีเรื่องดวงตาของมันอีก...ผมสงสารน้องจังเลยครับพี่หนึ่ง ทำไมมันต้องเจอเรื่องร้ายๆในเวลาเดียวด้วย "
"คิดเสียว่าเป็นกรรมเก่าของมันก็แล้วกัน...เห้อออ" หนึ่งสยามถอนหายใจยาว
"แล้วเราจะทำยังไงดีละครับพี่หนึ่ง....ผมอยากให้ไอ้สามมันรู้ว่า...เรื่องที่มันรักผม มันไม่ได้ทำบาปอะไรเลย"
"ตอนนี้ยังไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น...รอจนกว่ามันจะรู้เรื่องเอง...เชื่อพี่"
"ครับ..."
.............................
หลังจากงานศพของหนูแดงผ่านไป สามเมืองก็มีอาการดีขึ้นตามลำดับ แต่ชายหนุ่มกลับกลายเป็นคนเงียบขรึมจนน่าเป็นห่วง ดวงตาของเขาทั้งสองข้างยังคงมืดสนิท ทุกคนยังปกปิดความจริงเอาไว้ว่าเขาได้สูญเสียการมองเห็นไปแล้ว จนบ้างครั้งเขารู้สึกรำคาญ อึดอัด และโมโหโวยวายขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
"ปล่อยสาม...สามจะไปถามหมอ..ว่าตาสามเป็นอะไร..ทำไมทุกคนถึงไม่บอกสาม โอ้ย..ทำไมสามมองไม่เห็นอะไรเลย อือ อือ พี่หนึ่ง,พี่สอง..ไม่รักสามแล้วเหรอครับ..ปล่อย..ปล่อย อือ อือ.." สามเมืองร้องโวยวายและพยายามจะดิ้นให้หลุดจากพันธนาการของพี่ชายทั้งสองคน
"สามอยู่เฉยๆซิครับ...อย่าดิ้น...เดี๋ยวจะปวดตาอีกนะ" สองภพจับแขนน้องชายไว้แน่น
"ถ้าสามอยากรู้..พี่จะบอก...แต่สามต้องอยู่เฉยๆก่อนนะ" หนึ่งสยามพูด แล้วปล่อยมือออกจากแขนของน้องชาย
"ครับ...พี่หนึ่งบอกสามเถอะนะครับ ว่าตาสามเป็นอะไร สามทรมานเหลือเกิน อือ อือ สามอยากเห็นพี่สอง อือ อือ พี่สองอยู่ไหนครับ" สามเมืองยกมือไขว้คว้าหาตัวพี่ชาย
"พี่อยู่นี่ครับสาม" สองภพกอดน้องชายไว้แน่น
"สามรักพี่สอง...อือ อือ ช่วยสามด้วย"
"สามฟังพี่ดีๆนะ...เห้อออ..หมอบอกว่า เออ.." หนึ่งสยามพูดไม่ออก
"หมอบอกว่าอะไรครับพี่หนึ่ง ฮือ...ฮือ.."
"สอง...แกจะบอกเองหรือจะให้พี่บอก" หนึ่งสยามหันไปถามสองภพ
"พี่หนึ่งบอกไปเถอะครับ...ยังไงสามก็ต้องรู้อยู่ดี"
"อะไรครับ..พี่หนึ่ง,พี่สอง ตาของสามเป็นอะไร ฮือ...ฮือ" น้องคนเล็กยังร้องไห้ไม่หยุด
"ตาของสามจะมองไม่เห็นนะครับ" หนึ่งสยามกั้นใจพูดออกไป
"อะไรนะ..พี่หนึ่งพูดอะไร ฮือ....ฮืออออออ ไม่จริง..ไม่จริงใช่ไหม พี่หนึ่งโกหก"
"แต่เราจะพยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้สามกลับมามองเห็นเหมือนเดิมนะครับ" สองภพลูบหัวน้องชาย
"ไม่จริง...สามไม่อยากตาบอด อ้าาา ฮืออออ ไม่เอา...สามไม่อยากตาบอด ฮือ อืออออ"
"ตอนนี้สามต้องเข้มแข็งนะครับ...อย่าคิดมากนะน้องรัก...คุณหมอจะหาทางช่วยสามทุกวิถีทางครับ" หนึ่งสยามทำได้แค่ปลอบใจน้องชาย
"โอยยยย...ทำไมชีวิตกูต้องเป็นอย่างงี้ด้วยวะ ไอ้เรือรบกูจะฆ่ามึง..หือ.หือ..มึงทำให้กูตาบอด มึงทำให้ลูกกูต้องตาย ไอ้ชั่ว...กูจะฆ่า ฮือ...อ้ากกกก อืออออ" สามเมืองดิ้นทุรนทุรายร้องไห้โวยวายด้วยความแค้นระคนอาฆาต
"พี่หนึ่งกดออดเรียกหมอหน่อยซิครับ...สามดิ้นใหญ่แล้ว" สองภพพูด
"ได้ๆ...เดี๋ยวพี่วิ่งไปเรียกหมอให้...จะเร็วกว่า...รอเดี๋ยว รอเดี๋ยว"
.................................
"นายเล็กเป็นอย่างไงบ้างครับ..นายน้อย" ลีซอถามชายคนรักในขณะที่กำลังนั่งทานอาหารกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ที่บ้านพักของนายน้อยในคนเมืองคาว
"ยังร้องไห้ทุกวัน...พี่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน"
"น่าสงสารมากนะครับ..." ต่อศักดิ์พูด
"ที่ไอ้แสงมันหายไป...กูว่ามันต้องเอาคืนแน่ๆ" อยู่ๆสินชัยก็พูดขึ้นมา
"กูรู้ไอ้เอ...คนอย่างไอ้แสง มันไม่ยอมให้ใครมาทำมันฝ่ายเดียวหรอก...แต่กูกลัวว่าเรื่องมันจะบานปลายไปมากกว่านี้นะซิวะ"
"แต่ไอ้เรือรบมันก็ทำเกินไป...คนตายไปสอง ตาบอดอีกหนึ่ง มึงคิดเหรอว่าไอ้แสงมันจะยอมง่ายๆ" สินชัยแค้นแทนเพื่อน
"กูอยากจะรู้จริงๆ ว่าทั้งไอ้เหี้ยรบกับไอ้แสงมันไปกกดานอยู่ที่ไหน นี่ก็สามอาทิตย์แล้วนะเว้ย...ยังไม่เห็นหัวใครสักคน..."
"แล้วตำรวจว่าไงบ้างครับ" ต่อศักดิ์ถาม
"พวกเขาก็กำลังตามจับไอ้รบกันอยู่ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววอะไรเลยวะ ไอ้เหี้ยรบมันมีอำนาจอยู่ในมือ คงจะจับมันตัวได้ยากหน่อย...แต่กูจะรออีกสักพัก ถ้าไม่มีอะไรคืบหน้าไปมากกว่านี้ กูจะต้องทำอะไรสักอย่าง" สองภพพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด
"นายน้อยจะทำอะไรครับ..." ลีซอถามด้วยความเป็นห่วง
"พี่รู้จักลูกน้องเก่าของไอ้รบอยู่คนนึง...พี่คิดว่าไอ้นี่มันอาจจะช่วยเราได้บ้าง"
"เฮ้อ...จะทำอะไร..ก็ระวังๆหน่อยนะโว้ย.." สินชัยเตือนเพื่อน
"กูรู้แล้วน้า...ยังไงกูก็จะไม่ปล่อยให้น้องชายของกูตาบอดฟรีหรอก"
"แต่กูว่า...เดี๋ยวไอ้แสงมันก็จัดการให้มึงเองแหละน้า เชื่อกูซิ..มึงอย่าไปยุ่งกับมันเลย คนชั่วอย่างไอ้เหี้ยรบไม่คู่ควรกับมึงหรอก..นายน้อย"
"จริงๆครับ...อ้ายแสงไม่เอานายรบไว้แน่ๆ ผมรู้จักนิสัยอ้ายแสงดีครับ" ลีซอพูดตามที่คิด
"นายน้อยอย่าคิดมากเลยนะครับ เดี๋ยวจะปวดหัว...นายน้อยครับ เมื่อวานนี้ผู้กำกับละครกับพี่เคนเขาถามหานายน้อยอยู่นะครับ" ต่อศักดิ์เปลี่ยนเรื่องคุย
"เออใช่...กูนัดกับพี่ต้อไว้พรุ่งนี้นี่หว่า เกือบลืมเลย...เห้อออ..."
.....................................
"สวัสดีครับพี่สอง" เคนเอ่ยทักทายเมื่อเห็นสองภพเดินเข้ามาในห้องอาหารครัวคาวบอย
"หวัดดี..หวัดดี...อ้าวแล้วพี่ต้อละ" สองภพนั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อนร่วมอาชีพเก่า
"เดี๋ยวพี่ต้อมาครับ....พี่สองครับ..ผมเสียใจด้วยนะครับ เรื่องภรรยาของพี่"
"ครับ...ขอบคุณครับ...แล้วนี่จะพักกันกี่อีกวันละ" สองภพถาม
"พรุ่งนี้จะกลับแล้วครับ...พี่ต้อเขาหาโลเกชั่นได้เรียบร้อยแล้วครับ"
"แล้วตกลงจะยกกองมาถ่ายทำที่คนเมืองคาวหรือเปล่าละ"
"พี่ต้อมาแล้ว...พี่สองถามพี่ต้อเองนะครับ..ผมไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร" เคนมองไปที่ผู้กำกับต้อซึ่งกำลังเดินเข้ามา
"ขอโทษนะสองที่ให้รอ...พอดีพี่ไปดูทุ่งทานตะวันมาน่ะ...สวยมากๆ" ผู้กำกับต้อนั่งลงโดยไม่รอให้ใครชวน
"ไม่เป็นไรครับ...ผมก็เพิ่งมาเหมือนกัน"
"ตกลงเราจะใช้โลเกชั่นที่คนเมืองคาวถ่ายละครเรื่องใหม่นะครับ" ผู้กำกับวัยดึกเริ่มสนทนาเรื่องธุรกิจ
"ได้ครับ...แล้วแต่พี่สะดวกแล้วกัน"
"แล้วสองจะรับเล่นละครเรื่องนี้ไหมครับ" ผู้กำกับต้อถามด้วยความหวัง
"ไม่ละครับ...ผมกำลังมีเรื่องยุ่งๆอยู่ครับ"
"โธ่...ยิ่งสองมีเรื่องให้คิดให้กลุ้ม สองน่าจะรับเล่นนะ จะได้ลืมๆเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ....และพี่ก็บอกทางผู้ใหญ่ไปแล้วว่าสองจะเล่นเรื่องนี้..รับเล่นเถอะนะ..นะครับ"
"เล่นนะครับพี่สอง...เรื่องนี้ผมก็เล่นด้วยนะ...ผมได้บทเป็นน้องชายพี่สองด้วยครับ" เคนสนับสนุนอย่างเต็มที่
"ผมยังไม่ได้บอกพี่ต้อเลยนะครับว่าผมจะเล่น...พี่ต้อไม่น่าไปบอกทางผู้ใหญ่เลยอ่ะ"
"ก็พี่เห็นสองมีแต่เรื่องไม่สบายใจ...ก็เลยอยากให้สองทำงานสบายๆบ้าง จะได้ไม่เครียดไงครับ...แล้วจะได้ลืมเรื่องร้ายๆได้บ้าง" ผู้กำกับวัยดึกพูดด้วยความหวังดี
"มึงว่าไงวะไอ้เอ...กูจะเล่นดีไหม" สองภพหันไปตะโกนถามเพื่อนรัก
"เล่นไปเถอะนายน้อย...มึงจะได้ไม่ต้องคิดมาก...ส่วนงานรีสอร์ทเดี๋ยวกูกับไอ้ต่อจะช่วยดูแลให้" สินชัยเดินมากอดคอเพื่อน
"จะดีเหรอวะ...ไอ้เอ"
"นายใหญ่กับนายกลางก็กลับมาแล้วนี่หว่า...มึงไม่ต้องห่วงหรอก...รับเล่นไปเถอะ...กูจะได้ขอลายเซ็นต์มึงไง ฮา ฮา ฮา" สินชัยพูดล้อเล่นกับเพื่อนรัก
"ไอ้บ้าเอ...มึงจะเอาไปทำไมวะลายเซ็นต์กู ปัญญาอ่อนแล้วมึง..เห็นกันอยู่ทุกวัน" ชายหนุ่มทุบหลังเพื่อนดัง "ตุบ"
"ตกลงว่าสองรับเล่นเรื่องนี้ใช่ไหมครับ" ผู้กำกับวัยดึกยิ้ม
"โอเค...ผมรับเล่นก็ได้ครับ...ผมอ่านบทแล้วบทดีมากเลยครับ..ผมชอบ" สองภพตอบตกลง
"เย้...ไชโย..ไชโย" เคนตะโกนด้วยความดีใจ
.............................
ท่ามกลางความมืดในคืนเดือนหงาย...ไอ้เจตได้มาซุ่มดูการเคลื่อนไหวของนายเรือรบ ตรงบริเวณหลังไร่ลิ้นจี่อยู่เพียงลำพัง เวลาผ่านไปร่วมสามอาทิตย์แล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าไอ้พ่อค้ายาบ้าจะโผล่หัวกลับมาเลย....วันนี้ไอ้เจตออกมาสังเกตุการณ์อยู่นานหลายชั่วโมง จนมันมั่นใจว่าคงจะไม่มีความคึบหน้าอะไร มันจึงตัดสินใจกลับเข้าป่าพร้อมกับห่อข้าวสองห่อที่มันหามาได้จากชาวบ้านแถวๆนั้น
ในถ้ำเล็กๆซึ่งมีเพียงตะเกียงเจ้าพายุพอส่องให้เห็นแสงสว่างและผ้าห่มเก่าๆสองสามผืน เสื้อผ้าอีกไม่กี่ตัว ภูแสงกับไอ้เจตสองหนุ่มเพื่อนยากใช้เป็นที่พักหลับนอนในระหว่างการตามล่าหาตัวนายเรือรบพ่อค้ายาบ้า
"เอ้า...กินข้าวซะ" ไอ้เจตโยนห่อข้าวให้เพื่อนเพียงคนเดียวของมัน
"ไอ้เหี้ยรบ..ยังไม่โผล่หัวมาอีกใช่มั้ย แม่ง..หายหัวไปไหนของมันวะ" ภูแสงพูดด้วยโทสะ
"ใจเย็นๆเพื่อน...ถ้าคิดจะล่าสัตว์ใหญ่ มึงต้องเงียบและนิ่ง" ไอ้เจตมองเพื่อนอย่างเข้าใจและพูดให้สติ
"ป่านนี้ที่คนเมืองคาวจะเป็นไงบ้างวะ" ภูแสงพูดลอยๆ
"มึงจะให้กูไปดูให้ไหมวะ...เพราะที่นั้นยังไม่มีใครรู้จักกู" ไอ้เจตออกความเห็น
"แล้วมึงไม่กลัวคนที่ไร่ไอ้เหี้ยรบเห็นเหรอวะ...ถ้ามันเห็นมึง...พวกมันไม่เอามึงไว้แน่"
"กูมีวิธีของกูก็แล้วกัน"
"วิธีอะไรของมึงวะ" ภูแสงถาม
"ตอนนี้ยังคิดไม่ออกโว้ย...เอาไว้ถึงเวลาแล้วกูจะบอก"
"งั้นก็ตามใจมึง...กูแค่อยากรู้ว่า นายน้อยกับนายเล็กเป็นไงบ้าง"
"ได้เพื่อน...เดี๋ยวกูจัดให้" ไอ้เจตยิ้มให้เพื่อนยาก
22.
(ความเดิม)
"งั้นก็ตามใจมึง...กูแค่อยากรู้ว่า นายน้อยกับนายเล็กเป็นไงบ้าง"
"ได้เพื่อน...เดี๋ยวกูจัดให้" ไอ้เจตยิ้มให้เพื่อนยาก
"วันนี้มึงเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว...กินข้าวเสร็จ กูว่ามึงนอนเอาแรงได้แล้วละ" ภูแสงมองไอ้เจตด้วยความเห็นใจ แล้วเขาก็เดินออกไปจากถ้ำ
"เฮ้ย...มึงจะไปไหนวะไอ้แสง"
"กูจะไปนั่งเล่นตรงลำธารหน่อยวะ...ร้อนฉิบหาย" ภูแสงหันมาตอบ
"ระวังหน่อยนะโว้ย...มืดแล้ว" ไอ้เจตเตือน
...............................
ภูแสงเดินออกมานั่งตรงโขดหินข้างๆลำธารเพียงลำพังด้วยความเหงาที่กัดกินหัวใจของเขาลงไปทุกวัน ตอนนี้ในใจของชายหนุ่มคิดถึงคนึงหาแต่นายน้อยผู้เป็นยอดชีวิตอยู่ทุกวันทุกเวลา ทำไมเขาถึงต้องหลบหน้านายน้อยทั้งๆที่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ถูกต้อง เขาเป็นคนทำให้ครอบครัวของผู้มีพระคุณต้องสูญเสียความสุขไปในชั่วพริบตา เพราะความแค้นส่วนตัวของเขากับนายเรือรบ ชายหนุ่มรู้ดีว่าการแก้แค้นของเขากับไอ้เจตมันผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย จึงส่งผลให้ครอบครัวของคนที่เขารักต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย แต่ยิ่งนายเรือรบตอบโต้มากเท่าไหร่ไฟแค้นในใจของเขาก็ลุกโชนมากขึ้นเท่านั้น
พระจันทร์เดือนหงายในคืนนี้ช่างสวยงามมากทีเดียว ไม่ต่างอะไรจากพระจันทร์ดวงโตที่โขงเจียมในคืนนั้นเลย คืนที่เขามีนายน้อยอยู่ในอ้อมกอด คืนที่เขามีความสุขมากที่สุดในชีวิต ความหอมหวานจากเรือนร่างของนายน้อยยังติดตรึงใจเขาไม่รู้ลืม เขายังจำได้ทุกๆลีลาพิศวาสที่เขากับนายน้อยได้ปรนเปรอให้กันและกันในค่ำคืนนั้นอย่างไม่มีวันลืม
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในคืนวันนั้นส่งผลให้ชายหนุ่มอารมณ์ร้อนแรงอย่างเขาเกิดความเงี่ยนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาหลับตาเอามือลูบไล้หน้าอกที่เปลือยเปล่าของเขาอย่างเคลิบเคลิ้ม แก่นกลางลำตัวของเขาได้เจริญเติบโตขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ ลำควยขนาดสองกำมือโผล่ได้ผงกหัวหงึกๆอยู่ภายใต้กางเกงทหารเก่าๆอย่างคึกคะนอง
ภูแสงงัดลำควยยักษ์ออกมาจากกางเกงอย่างรวดเร็วด้วยความเงี่ยนสุดๆ เมื่อเขานึกถึงภาพที่เขากำลังกระเด้าเย็ดรูตูดของนายน้อยอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงของนายน้อยร้องครวญครางด้วยความเสียวยังก้องอยู่ในแก้วหูของเขาอยู่ตลอดเวลา เขากำลำควยด้วยมือทั้งสองข้างแล้วกระทุ้งอย่างแรงด้วยความถี่ ตูดกระเด้งรับลำควยจนอยู่ไม่ติดพื้น น้ำหล่อลื่นไหลย้อยเป็นทางยาวจนถึงกระโปก ดกหมอยเปียกแฉะไปด้วยน้ำอยากที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง มือทั้งสองข้างชุ่มชื่นไปด้วยน้ำใสๆที่ไหลออกมาจากหัวควย
"ไอ้นายน้อย...อ้า..ซี๊ตต..กูอยากเย็ดมึงเหมือนวันนั้นเหลือเกิน อ้า...ซี๊ตตต อ้า อ่า อ้าาาาา"
ชายหนุ่มร้องควรญครางพร่ำเพ้อถึงคนรักคนด้วยความเงี่ยน เขากระทุ้งลำควยแรงขึ้นเรื่อยๆ ร้องดังลั่นป่าอย่างเมามันส์
"อ้าาาาาา...อู้ววววว...อ่าาาาา....โอ้ยยยยยย...มันหัวควยโว้ยยย....อ้าาาา..."
น้ำเงี่ยนได้ไหลทะลักออกมาจากรูควยอย่างมากมายพุ่งกระฉูดไปถึงลำธาร เขากระตุกลำควยยักษ์อยู่หลายสิบครั้ง ก่อนที่น้ำเงี่ยนชุดสุดท้ายจะยิงออกมาจนหมดกระโปก ชายหนุ่มก้มดูลำควยของตัวเองที่มีแต่น้ำรักขาวขุ่นไหลเยิ้มอยู่ทั่วทั้งลำ แล้วกระทุ้งควยแรงๆอีกหลายสิบครั้งอย่างสะใจ "อ้า...อ้า...อ่าาาาา ซี๊ตตต อ้าาาาาาา" ก่อนจะพูดว่า "น้ำเงี่ยนกูแตกเพราะมึงอีกแล้วนายน้อย...ขอบใจว่ะ"
.................................
บริเวณสวนหย่อมที่โรงพยาบาลในยามเช้า สองภพพาสามเมืองออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ เพื่ออยากจะให้น้องชายรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง หลังจากที่ได้นอนซมอยู่แต่ในห้องมาเป็นเวลานาน ชายหนุ่มเข็นรถนั่งไปเรื่อยๆด้วยความใจเย็น เพราะเขาต้องการให้น้องชายนอกสายเลือดคนนี้ได้รับรู้ถึงความรักความห่วงใยที่พี่ชายอย่างเขามีให้มาโดยตลอด
สามเมืองนั่งอยู่บนรถเข็นในชุดคนไข้สีเหลืองอ่อน สวมแว่นตาดำเพื่ออำพรางดวงตาที่บอบช้ำจากการร้องไห้มาตลอดหลายสิบวัน เขามีอาการซึมเศร้าจนน่าเป็นห่วง เงียบจนผิดปรกติ
"เป็นไงสาม...รู้สึกดีขึ้นบ้างไหมครับ" สองภพถามน้องชายเบาๆ
"พี่สองครับ...สามจะตาบอดตลอดไปหรือเปล่าครับ"
"ไม่หรอกครับ...สักวันสามจะต้องมองเห็นนะ...เชื่อพี่...อย่าคิดมากซิครับ" สองภพหยุดเข็นรถแล้วมานั่งย่องๆข้างๆน้องชาย
"แล้วเมื่อไหร่สามจะมองเห็นละครับ...สามไม่อยากเป็นอย่างงี้...สามเบื่อ" สามเมืองรู้สึกถึงสัมผัสของพี่ชายว่านั่งอยู่ใกล้ๆ เขาควานหามือของพี่ชายแล้วจับไว้แน่น
"หมอบอกว่าอีกไม่นานหรอกครับ...ตอนนี้เรากำลังรอดวงตาคู่ใหม่ของสามอยู่ครับ"
"พี่สองอย่าทิ้งสามไปไหนนะครับ...สามอยากให้พี่สองอยู่ตรงนี้กับสาม"
"ครับ...พี่จะมาหาสามทุกวัน...พี่สัญญา.." สองภพลูบหัวน้องชายด้วยความรักระคนสงสาร
"วันนี้อากาศดีไหมครับ...สามมองไม่เห็น...ฮือ..ฮือ..สามอยากเห็น"
"อากาศดีมากครับ...พี่ถึงพาสามออกมาเดินเล่นยังไงครับ...แต่ถ้าสามไม่เครียดเหมือนเมื่อก่อน...อีกไม่นานสามก็จะได้กลับบ้านของเรานะครับ"
"จริงเหรอครับพี่สอง...สามอยากกับบ้าน...สามไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว"
"จริงซิครับ...หมอบอกว่าสามหายจะเป็นปรกติแล้ว..นอกจากดวงตาเท่านั้น..ที่ยังต้องรอ"
"ครับ...สามเข้าใจ...สามจะไม่ดื้ออีกแล้ว สามอยากกลับบ้าน"
"ดีครับ...สามจะได้ไปเป็นกำลังใจให้พี่ด้วย" สองภพลุกขึ้นแล้วเข็นรถต่อไปเรื่อยๆ
"เป็นกำลังใจเรื่องอะไรครับ...พี่สอง" สามเมืองทำหน้างง
"พี่จะเล่นละครอีกครับ...จะหาเงินมารักษาดวงตาให้น้องชายคนเดียวของพี่ไงครับ"
"ไม่เอา..สามไม่ให้เล่น..สามไม่อยากให้พี่สองไปกรุงเทพอีก...สามไม่ให้เล่นนะครับ สามยอมตาบอดก็ได้ แต่พี่สองอย่าทิ้งสามไปไหนอีกนะครับ" สามเมืองเริ่มงอแงเหมือนเด็กๆ
"พี่ไม่ได้ไปไหนสักหน่อย...ทางทีมงานเขาจะยกกองมาถ่ายทำที่คนเมืองคาวของเราครับ"
"เดี๋ยวพี่สองก็เจ้าชู้อีก...พวกดารามีแต่คนหล่อๆ" สามเมืองพูดด้วยน้ำเสียงที่รู้ทัน
"ไม่เจ้าชู้หรอกครับ...พี่จะมีสามคนเดียวครับ"
"ใครบอก...พี่สองยังมีไอ้ลีซออีกคน"
"แหม...ก็แค่สองคนเท่านั้นแหละ...พี่สัญญาว่าพี่จะไม่มีใครอีกแล้วครับ" สองภพเอื้อมไปบีบมือน้องชายเบาๆเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกออกมาแทนคำพูด
"จริงๆนะครับ..."
"ครับผม" สองภพพูดเสียงดังฟังชัดแบบทหาร
"สามจะยอมไอ้ลีซอคนเดียว...เพราะมันมาก่อนสาม...แต่คนอื่นสามไม่ยอมด้วย"
"สามน่ารักจังครับ พี่รักสามนะ..."
"สามก็รักพี่สองครับ"
"แดดเริ่มแรงแล้วครับ พี่ว่าขึ้นข้างบนกันดีกว่านะ"
................................
ต่อศักดิ์ยังคงทำหน้าที่พาดาราหนุ่มตระเวณเที่ยวคนเมืองคาวในบางครั้ง วันนี้ทั้งสองหนุ่มได้มาเล่นน้ำตกเมืองคาวเหมือนอย่างเคย ต่อศักดิ์อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสมวัย ส่วนดาราหนุ่มอยู่ในชุดวันเกิดแบบไม่อายฟ้าดิน
"พี่เอเล่าให้ผมฟังว่า..พี่เคนดีใจใหญ่เลยที่นายน้อยรับเล่นละครเรื่องนี้...ทำไมละครับ" ต่อศักดิ์ถาม
"จะไม่ให้ดีใจได้ยังไงละครับ...ก็พี่กับนายน้อยของต่อเคยเล่นละครด้วยกันมาก่อน เราอยู่ในสังกัดเดียวกัน...พูดคุยกันได้อย่างสบายใจ...ทำงานกับคนอื่นมันอึดอัดยังไงไม่รู้อ่ะ ไม่เหมือนกับพี่สองสักคน"
"อ่อ...ผมเข้าใจแล้วครับ"
"และที่สำคัญนะ...ถ้าพี่สองไม่ได้เล่นเรื่องนี้ ทางผู้ใหญ่เขาอาจจะให้ยกกองไปถ่ายทำที่อื่นก็ได้...และถ้าเป็นอย่างงั้น พี่ก็ไม่ได้เจอต่อนะซิครับ" เคนส่งสายตาเจ้าชู้ให้เด็กหนุ่ม
"ทำไมพี่เคนชอบแก้ผ้าเล่นน้ำละครับ" ต่อศักดิ์ถามดาราหนุ่มที่กำลังแหวกว่ายน้ำตกอย่างสนุกสนาน
"ก็ที่นี่..มันเงียบดีครับ...พี่อยากมีโลกส่วนตัวบ้าง...ไปทำที่อื่นก็เป็นข่าวน่ะซิ"
"แต่ผมเห็นควยพี่เคนนะครับ...พี่เคนไม่อายผมเหรอ"
"ไม่อายหรอก...ต่อก็รู้นี่ครับ..ว่าพี่คิดอย่างไงกับต่อ" เคนตอบ
"รู้ครับ...ผมไม่ได้รักพี่เคนแบบนั้นนะครับ..."
"สักวันหนึ่ง...พี่จะทำให้ต่อรักพี่ให้ได้...คอยดูซิ" เคนมองต่อศักดิ์ด้วยความหื่นแล้วเอามือรูดลำควยตัวเองไปด้วย
"พี่เคนจะทำอะไรครับ...พี่เคนจะชักว่าวเหรอ" เด็กหนุ่มตาโตเพราะไม่เคยเห็นลำควยที่ขาวอวบแบบนี้มาก่อน
"ต่อครับ...พี่เงี่ยนเหลือเกิน...ช่วยพี่หน่อยนะครับ" ดาราหนุ่มขึ้นมาจากน้ำ แล้วเดินควยโด่ตรงมาหาต่อศักดิ์
"ไม่เอาครับพี่เคน...ผมมีแฟนแล้ว....อย่าทำอย่างนี้เลยครับ" เด็กหนุ่มถอยหนีในทันที
"ช่วยพี่หน่อยนะครับ...เดี๋ยวพี่ให้เงิน..นะครับ"
"ไม่เอาครับ...ผมไม่ช่วย...พี่เคนก็ชักว่าวไปซิ...อย่ามายุ่งกับผม"
"แต่พี่อยากดูดควยต่อนี่ครับ" เคนเดินเข้ามาจนใกล้
ในเวลาเดียวกัน อีกด้านหนึ่งของน้ำตกไอ้เจตได้แอบมาสืบความเป็นไปของนายน้อยและครอบครัว เพื่อที่จะไปรายงานให้ภูแสงเพื่อนรักของมันได้รับรู้ แต่มันเหลือบไปเห็นต่อศักดิ์กับเคนเล่นน้ำอยู่ตรงนั้นซะก่อน มันจึงแอบดูสองหนุ่มต่างอาชีพด้วยความอย่างรู้อย่างเห็น "ใครวะ...มาแก้ผ้าเล่นน้ำอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวจับแม่งเย็ดซะเลย ไอ้เหี้ย...กูยิ่งเงี่ยนๆอยู่" ไอ้เจตบ่นคนเดียว
"ต่อครับ...ช่วยพี่หน่อย" เคนยังอ้อนวอนไม่เลิก
"พี่เคนชักว่าวไปก่อนนะครับ...ผมไปหาพี่เอดีกว่า...ผมไม่อยากเห็น...เดี๋ยวผมกลับมารับนะครับ" พอต่อศักดิ์พูดจบก็วิ่งหนีไปรวดเร็ว ทิ้งให้ดาราหนุ่มยืนควยโด่อยู่เพียงคนเดียว แต่อยู่ๆก็มีเสียงใครบ้างคนดังขึ้นทางด้านหลังของเขา
"ให้ผมช่วยไหมครับ" ไอ้เจตเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
"เฮ้ย...แกเป็นใครอ่ะ" เคนหันมาตามเสียงด้วยความตกใจ พร้อมกับเอามือปิดลำควยที่แข็งโด่ไว้ แต่ปิดยังไงก็ยังปิดไม่มิด
"ไม่ต้องปิดหรอกครับ...ผมเห็นหมดแล้ว"
"แกแอบดูฉันเหรอ" เคนถอยหนี
"ผมไม่ได้แอบดูนะครับ...ผมเป็นคนงานที่นี่ กำลังจะไปหานายน้อยครับ...แต่ดันมาเห็นของดีซะก่อน" ไอ้เจตอ้างไปตามเรื่อง
"ไม่เอา...ฉันกลัว...อย่าเข้ามานะ" เคนพูดเบาๆแต่สายตาของเขาก็มองไปที่เป้ากางเกงของไอ้เจตอย่างไม่กระพริบ
"อย่ากลัวผมเลย...ผมไม่ทำอะไรนายหรอก"
"แกไม่ทำอะไรฉันจริงๆนะ"
"นายก็เงี่ยน...ผมก็เงี่ยน ให้ผมช่วยนะครับ...ดูควยผมซินาย...จะระเบิดอยู่แล้วครับ"
ไอ้เจตถกกางเกงลงจนถึงเข่า แล้วงัดเอาลำควยฝังมุกที่แข็งโป๊กผงกหัวหงึกๆออกมาโชว์ให้เห็นกันจะๆ เคนมองตาค้างกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก แล้วพูดเสียงสั่นๆว่า "จะ..จะดีเหรอ"
23.
(ความเดิม)
"นายก็เงี่ยน...ผมก็เงี่ยน ให้ผมช่วยนะครับ...ดูควยผมซิ...จะระเบิดอยู่แล้วครับนาย"
ไอ้เจตถกกางเกงลงจนถึงเข่า แล้วงัดเอาลำควยฝังมุกที่แข็งโป๊กผงกหัวหงึกๆออกมาโชว์ให้เห็นกันจะๆ เคนมองตาค้างกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก แล้วพูดเสียงสั่นๆว่า "จะ..จะดีเหรอ"
"ก็ลองดูซิครับนาย...บางทีนายอาจจะติดใจรสควยของผมก็ได้นะครับ" ไอ้เจตยืนถอกหัวควยที่เงาวับไปด้วยน้ำอยากอย่างมันมือ
"แต่..แต่ฉันกลัว..."
"กลัวอะไรครับนาย...ดูควยของนายซิ หัวบานเบ่งน้ำไหลเยิ้มแล้วครับ อย่าทรมานตัวเองอยู่เลยนาย" ไอ้เจตเดินเข้าไปใกล้จนชิดตัวของดาราหนุ่ม
"แกจะทำอะไรฉัน" เคนพูดเสียงเบาๆแล้วมองไปที่ใบหน้าอันคมคายเต็มไปด้วยหนวดเคราของไอ้เจตอย่างพอใจ ดวงตาของมันส่อประกายของความหื่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด
"ผมขอเย็ดนายซักทีสองทีนะครับ...ผมเงี่ยนเหลือเกินครับนาย"
"แต่ควยของแกน่ากลัว...มีมุกด้วย..ฉันกลัวเจ็บ" เคนเอื้อมมือไปกำลำควยของไอ้เจตแล้วถอกเข้าถอกออกด้วยความตื่นเต้น
"อ้า....อ้า...ซี๊ตตตต ผมจะเย็ดเบาๆครับนาย อ้าาาาา" ไอ้เจตร้องครวญคราง
"สัญญานะว่าจะทำเบาๆ"
"ครับนาย อ้า....อ้าาา"
"งั้นรอฉันเดี๋ยว...นายโจร" เคนยิ้มให้ไอ้เจตด้วยความอาย
ดาราหนุ่มเดินควยโด่ไปหยิบถุงยางและสารหล่อลื่นในกระเป๋าเป้ที่เขาพกติดตัวอยู่เป็นประจำ แล้วส่งให้ไอ้เจตอย่างกล้าๆกลัวๆ
"แกชื่ออะไรน่ะ....แล้วทำไมแกต้องใส่ถุงมือข้างซ้ายด้วย"
เคนเริ่มสังเกตุรูปร่างหน้าตาของไอ้เจตอย่างเต็มที่ ร่างกายอันแข็งแกร่งกำยำบวกกับหน้าตาที่หล่อเหลาแบบผู้ชายเถื่อนๆของมันถูกใจดาราหนุ่มซะเหลือเกิน
"ว่าไงละ...ฉันถามว่ามือของแกเป็นอะไร ทำไมต้องใส่ถุงมือด้วย" เคนถามอีกครั้งเมื่อเห็นไอ้เจตนิ่งเงียบไป
"ผมไม่มีนิ้วครับนาย...ผมโดนไอ้คนใจร้ายมันตัดทิ้งไป"
"น่าสงสารจัง...แล้วใครทำแกละ...ทำไมใจคอมันถึงได้โหดร้ายแบบนี้"
"ช่างมันเถอะครับนาย...อย่าไปสนใจเลย..."
"แล้วแกชื่ออะไรละนายโจร..." เคนถาม
"เจตครับ"
"เออ...ฉันชื่อเคนนะ"
"ครับนายเคน...ผมว่าเราไปเย็ดกันตรงโน้นดีกว่านะครับ" ไอ้เจตจูงมือดาราหนุ่มไปที่ใต้ต้นไม้ริมลำธาร
"นายดูดควยให้ผมหน่อยซิครับ..."
"ทำไมหัวบานจัง...น้ำเยิ้มเลยอ่ะ...ฉันจะดูดไหมเนี่ย" เคนนั่งลงแล้วถอกลำควยที่อยู่ตรงหน้าอย่างเมามันส์
"นายไม่ชอบควยผมเหรอครับ อ้า...อ้า...ถอกแรงๆครับนาย อ้า...ผมเสียว"
"ชอบซิ...ชอบมากด้วย"
"ดูดซิครับนาย...ซี๊ตตตต ดูดแรงๆ อ้าาาาาา"
ดาราหนุ่มบ้ากามเริ่มลงลิ้นเลียหัวควยของไอ้เจตอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความหิวโหย น้ำอยากของไอ้เจตไหลลงสู่ลำคอของเขาเรื่อยๆ เขาเน้นดูดตรงหัวควยที่บานเหมือนดอกเห็ดแรงๆ แล้วจุ๊บอย่างพอใจ
"อ้า อ้า ซี๊ตตต ผมเสียวหัวควยครับนาย แรงๆครับ อา อ่า อ้า...."
"ควยของแกดูดอร่อยจังเลยนายโจร...จุบ จู๊บ อ้า..." เคนงับลำควยเข้าปากอย่างลืมอาย ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ชักว่าวให้ตัวเองไปด้วย
"อ้า อ่า พอก่อนครับนาย...เดี๋ยวน้ำเงี่ยนผมแตก ซี๊ตตตต ฮู้วววว"
"ใส่ถุงยางซิ....แล้วเย็ดฉัน...อ้า..อ่าาา เร็วๆซิ โอ้ยยยย"
"ครับ..ครับ" ไอ้เจตจัดการใส่ถุงยางแล้วละเลงสารหล่อลื่นจนเยิ้มเต็มลำควย และพูดว่า "เรียบร้อยแล้วครับ...นายจะให้ผมเย็ดท่าไหนละครับ บอกมาเลยครับ เดี๋ยวผมจัดให้ อ้า..อ้า อู้วววววว"
"ท่าไหนก็ได้....เร็วๆซิ ฉันเงี่ยน อ่าาาาา อ้าาาาาา"
ไอ้เจตจับตัวของดาราหนุ่มให้อยู่ในท่าคลาน แล้วยัดลำควยเข้าไปทีเดียวครึ่งลำอย่างไม่พูดพล่ามทำเพลง เสียงมุกสามเม็ดขูดผนังตูดดัง "กึก กึก กึก"
"อ้ากกกก...เบาๆหน่อยซิ...ฉันเจ็บนะนายโจร..ไอ้บ้า..เดี๋ยวก็ไม่ให้เย็ดซะหรอก อู้ววว...."
"อ้าาา..ขอโทษครับ...ก็ผมเงี่ยนนี่นาย อ้าาาา...อ้าาาา...." ไอ้เจตค่อยๆกระเด้าเย็ดอย่างช้าๆเพราะกลัวจะไม่มีรูตูดให้เย็ด
"เออ..อ่อ อย่างนั้นแหละนายโจร...อ้าา...อ่า...เบาๆก่อน อ้า อู้ววว ซี๊ตตต อ้า" เคนร้องซู้ตซี๊ตอย่างได้อารมณ์
"นายเคนหายเจ็บหรือยังครับ...ผมจะได้เย็ดแรงๆ อ้า อ้า อ่าาาาา" ไอ้เจตกระเด้าไปพูดไป
"อ้าาา...ควยแกมีมุกนะนายโจร...เดี๋ยวมาขูดหนังตูดฉันแหกพอดี อ้า อ้า เสียว เสียว โอ้ยยย เสียวมุก เสียวรูตูด ซี๊ตตตต อย่าแรงมาก โอ้ยยย"
"ผมจะเย็ดดีๆครับนาย ไม่แหกหรอกครับ อึก อ้า อ้า อ้า"
ไอ้เจตส่ายสะโพกโยกบั้นท้าย อัดขยี้ควยฝังมุกจนมิดรูตูดของดาราหนุ่มด้วยความเมามันส์ในรสชาติของการได้เย็ดตูดเป็นครั้งที่สองในชีวิต มันใช้มือขวาจับตัวดาราบ้ากามหันหน้ามาทางมัน ลำควยของมันยังคาอยู่ในรูตูดของดาราหนุ่มไม่ยอมหลุดเพราะมุกสามเม็ดยังฝังติดแน่นกับผนังตูด
"มันส์ไหมครับนาย...โอ้ยยย..อ้าาาาาา มันเสียวลำควยครับนาย อ่า อ่า อ่า"
"เย็ดแรงๆเลย...นายโจรรูปหล่อ อ้า อ้า อ้ากกก ฉันเสียววะ อู้ววว โอ้ยยย..เอามุกของแกกระแทกฉันแรงๆ อ่า อ้า ซี๊ตตตต อ้า เสียว ไม่เคยเสียวแบบนี้มาก่อนเลย อ้า อ้า อ้า"
"ถ้านายติดใจในรสเย็ดของผม...อ้า อ้า มาหาผมได้นะครับ...ผมจะรอเย็ดนายอยู่ที่นี่ ซี๊ตตตตต อ้า อ้าาาา ผมเสียวหัวควย ซู๊ตตตต ซี๊ตตตตตต"
ไอ้เจตอุ้มคู่เย็ดคนใหม่ แล้วลุกขึ้นยืนในท่าอุ้มแตง มันพยายามเอามือข้างที่ด้วนกอดเอวของคู่เย็ดไว้แน่น โดยมีมือขวาที่แข็งแกร่งสมชายชาตรีของมันเกาะกุมไว้อีกทีนึง ส่วนเคนก็กอดคอของไอ้เจตไว้แน่นเช่นเดียวกัน
"ผมจะอุ้มนายเย็ดนะครับ...โอ้ยยยย...ท่านี้ลำควยของผมเข้าไปสุดๆเลยนาย อ้าาา"
"ฉันชอบท่านี้...อ้า เย็ดแรงๆ...สะใจเหลือเกิน อ้าาา อ่าาา"
ไอ้เจตอุ้มดาราบ้ากามเดินเย็ดอย่างสะอารมณ์ มันเดินไปกระเด้าเย็ดไปเรื่อยๆจนถึงน้ำตก
"เราไปเย็ดกันในน้ำตกดีกว่าครับนาย...ผมร้อน อ้าาา อ้าาา "
"อ้า อ้า ซี๊ต ฉันเสียวตูด อ้า อ้า"
ไอ้เจตอุ้มดาราหนุ่มเดินเย็ดลงไปในน้ำตกด้วยความเงี่ยน มันกระเด้าถี่ยิบเสียงดัง "กึก กึก กึก" ออกมาจากรูตูดของดาราหนุ่มบ้ากามตลอดทาง มันเดินลงไปยืนอยู่ท่ามกลางน้ำตกที่ไหลลงมาอยางไม่ขาดสาย เนื้อตัวของสองหนุ่มขี้เงี่ยนโดนน้ำตกสาดกระเซ็นจนชุ่มฉ่ำทั้งสองคน
"อ้าาา อ้าาาา นายครับ น้ำเงี่ยนผมจะแตกแล้วครับ โอ้ยยยยย อ้าาาาาา"
"โอ้ยยย...มันส์ เสียว อ้า เย็ดกลางน้ำตก อ้า ฉันไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน....ทำไมแกเย็ดอย่างงี้ อ่าาา อ้าาา..."
น้ำรักอุ่นๆของดาราหนุ่มบ้ากามทะลักออกมาอย่างมากมาย แล้วไหลไปกับน้ำตกพร้อมๆกัน ควยของเขากระตุกหงึกๆโดยที่ไม่มีใครแตะต้องเลยสักนิด ความเสียวได้บังเกิดในรูตูดจนน้ำเงี่ยนของเขาไหลออกมาโดยอัตโนมัติ
"อึก อึก อึก อ้าาาาาา กูไม่ไหวแล้ว อ้า อ้า อ้า น้ำเงี่ยนแตกแล้ว อ้าาาา ผมแตกแล้วครับนาย โอ้ยยยยย อ้าาาาา ซี๊ตตตตตต" ไอ้เจตกระเด้าเย็ดถี่ยิบจนน้ำเงี่ยนแตกทะลักออกมาเต็มถุงยาง มันมองดาราหนุ่มด้วยความเสน่หาแล้วหอมแก้มเขาเบาๆ ก่อนที่จะอุ้มคู่เย็ดคนใหม่เดินขึ้นมานั่งตรงริมลำธาร
หลังเสร็จสิ้นภาระกิจกามา สองหนุ่มต่างถิ่นได้นั่งคุยกันอยู่ตรงนั้นเพื่อรอต่อศักดิ์มารับกลับคนเมืองคาว เคนจับมือข้างซ้ายของไอ้เจตลูบเบาๆด้วยความสงสารระคนเวทนา แล้วพูดว่า "ใครนะ...ทำกับแกได้"
"เมื่อก่อนผมเป็นคนเลวครับนาย...กรรมได้ตามสนองผมแล้วครับ"
"แสดงว่าตอนนี้...นายโจรเป็นคนดีแล้วเหรอ"
"ยังไม่ดีหรอกครับ แต่ผมจะไม่ทำชั่วอีกแล้ว" ไอ้เจตยิ้มให้ดาราหนุ่ม
"ฉันดีใจด้วยที่นายโจรคิดได้อย่างงั้น"
"เพราะผมมีเพื่อนที่ดีครับ...มันช่วยชีวิตผมไว้...ทั้งๆที่เมื่อก่อนผมเคยคิดจะฆ่ามัน..แต่มันก็ให้อภัยผม"
"เพื่อนของนายโจรเป็นคนดีจังเลย...ฉันซักอยากรู้จักแล้วซิ"
"นายไม่เคยเห็นเหรอครับ...มันชื่อไอ้แสง...มันทำงานอยู่ที่นี่นะครับ"
"ไม่นะ...ฉันไม่เคยเห็น...วันหลังแนะนำให้ฉันรู้จักบ้างซิ"
"ครับนาย" ไอ้เจตหลบสายตาเพราะกลัวจะโดนจับผิดได้
"พรุ่งนี้ฉันจะกลับกรุงเทพแล้วนะนายโจร"
"อ้าว..เหรอครับ..ถ้านายกลับไป...ผมคงคิดถึงนาย...แล้วนายจะกลับมาอีกไหมครับ" มันก้มลงไปนอนหนุนตักดาราหนุ่มด้วยความหลงใหล
"มาซิ...ฉันต้องมาถ่ายละครที่นี่"
"นายเป็นดาราเหรอครับ" ไอ้เจตถามด้วยความโง่
"อืม...อย่าไปบอกใครนะ ว่ามีอะไรกับฉัน...ฉันอายเขา"
"ผมไม่รู้จักใครหรอกครับนาย...นอกจากไอ้แสง"
"ดีแล้วละ"
"แล้วนายน้อยเป็นยังไงบ้างครับ..." อยู่ๆไอ้เจตก็ถามขึ้นมา
"อ้าว...ไหนนายโจรบอกว่าทำงานอยู่ที่นี่ไงละ...ทำไมถึงถามหานายน้อย" เคนทำหน้างง
"เออ..คือผม...ไม่ได้เจอนายน้อยมานานแล้ว ผมเพิ่งกลับมาจากบ้านนอกน่ะครับ"
"เหรอ...นายน้อยสบายดี จะเล่นละครกับฉันด้วยนะ...แต่นายเล็กน่ะซิอาการน่าเป็นห่วง..แต่ฉันได้ข่าวมาว่านายเล็กจะออกจากโรงพยาบาลแล้วละ"
"เหรอครับนาย....ดีจัง...ไอ้แสงต้องดีใจแน่ๆ"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไอ้แสงละ"
"ไม่มีอะไรครับนาย...ผมก็พูดไปเรื่อยเปื่อย"
"ถ้าฉันกลับมาที่คนเมืองคาวอีกครั้ง...ฉันจะมารอแกที่นี่นะนายโจร"
"นายชอบผมเหรอครับ" ไอ้เจตยิ้มอย่างดีใจ
"ใครบอก....แล้วดูซิเนี่ย หนวดเคราก็ไม่ยอมโกน ถ้าคราวหน้าฉันเห็นแบบนี้อีกนะ ฉันไม่ให้เย็ดหรอก...เหมือนโจรป่าเลยอ่ะ"
"ผมหน้าเหมือนโจร...แล้วนายไม่กลัวผมเหรอครับ"
"ตอนนี้ไม่กลัวละ..."
"ผมดีใจครับ...ที่นายไม่รังเกียจผม" ไอ้เจตจับมือของเคนไว้เบาๆ
.........................................
"พี่ต้อจะเปิดกล้องละครเรื่องใหม่เมื่อไหร่ครับ" สองภพถามผู้กำกับวัยดึก ในขณะที่พวกเขากำลังนั่งทานอาหารกันอยู่ในห้องครัวคาวบอย
"อีกสัก2อาทิตย์...แล้วพี่จะโทรมาบอกสองอีกทีนะครับ" ผู้กำกับวัยดึกมองหนึ่งสยามที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า "คุณหนึ่งไม่อยากเป็นนักแสดงเหมือนน้องชายเหรอครับ..."
"โอ้...ไม่ไหวอ่ะครับ...ผมไม่หล่อเหมือนไอ้สองมัน"
"ใครบอกครับ...อย่างคุณหนึ่งเนี่ย สเปกสาวๆเลยนะ ดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่น น่าค้นหา....ถ้าคุณหนึ่งสนใจบอกผมนะครับ..ผมจะดูบทดีๆให้คุณหนึ่งครับ"
"ผมช่วยคุณพ่อทำงานที่ฟาร์มม้าดีกว่าครับ...ผมเกเรมามากแล้ว...อยากช่วยท่านบ้าง"
"น่าภูมิใจแทนนายใหญ่นะครับ" ผู้กำกับวัยดึกพูด
"พี่ต้อชอบพี่หนึ่งเหรอครับ" เคนถามตรงๆ
"ไอ้บ้าเคน...พูดอะไรน่าเกียจ" ผู้กำกับทำตาเขียวใส่เคน
"โธ่...เว้นผมไว้สักคนเถอะครับ...ผมไม่ใช่ผู้ชายสีม่วงนะครับ...แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจนะ" หนึ่งสยามมองไปที่สองภพแล้วอมยิ้ม
"พี่ต้อครับ...รถมาแล้ว" สินชัยเดินเข้ามาบอก
"ว้า...มาเร็วจัง กำลังจะจีบคุณหนึ่งอยู่เลย"
"จะเอาทั้งพี่ทั้งน้องเลยเหรอ...ไม่ไหวมั่งครับ" สองภพพูดออกมา แล้วเดินไปกอดคอสินชัย
"เกลียดนักคนรู้ทัน...." ผู้กำกับค้อน
"ไม่สนใจผมเหรอครับพี่...ผมชอบอึ้บคนแก่นะ...หนังเหนียวดี ฮา ฮา ฮา" สินชัยพูดอย่างสนุกสนาน
"หยาบคาย...ไอ้เอ"
"พี่ต้อไปเถอะครับ...เดี๋ยวไม่ทันเครื่อง" เคนเดินมาดึงแขน
"เอ้า..ไป...ไป"
"สวัสดีครับพี่หนึ่ง,พี่สอง แล้วเจอกันในกองถ่ายนะครับ" เคนหันมาไหว้สองหนุ่มพี่น้อง
"เดินทางปลอดภัยนะครับ" หนึ่งสยามรับไหว้
"โชคดีๆ" สองภพก็ทำเช่นเดียวกัน
"สวัสดีครับพี่เอ...เออ..ผมฝากลาเจ้าต่อด้วยนะครับ" เคนหันไปพูดกับสันชัย
"ได้ๆ...แล้วจะบอกให้"
"เออ....เกือบลืมไป พี่สองครับ...เมื่อวานผมเจอเพื่อนของนายแสงด้วยนะ" อยู่ๆเคนก็พูดขึ้นมา
"เพื่อนไอ้แสง" สองภพเดินเข้ามาหาเคนอย่างสนใจ แล้วถามว่า "เจอที่ไหนเคน"
"เออ...ที่น้ำตกครับ...เขาบอกว่า เขาจะมาหาพี่สอง...แล้วพบกันหรือยังครับเนี่ย"
"พี่ยังไม่ได้เจอใครเลยนะ...แล้วมันชื่ออะไรละ" สองภพถามอย่างร้อนใจ
"ชื่อเจตครับ"
"ไอ้เจต...ใช่..ใช่...ไอ้แสงมันเคยพูดถึงเพื่อนคนนี้ให้พี่ได้ยินบ่อยๆ"
"อ้าว...แล้วพี่สองไม่รู้จักนายเจตนั้นเหรอครับ"
"ยังไม่รู้จักเลย...แล้วเคนรู้ไหมว่าตอนนี้ไอ้เจตมันอยู่ที่ไหน"
"ไม่รู้ครับ...แต่เห็นเขาบอกว่าทำงานอยู่ที่นี่นะครับ" เคนหน้าเสียเมื่อรู้ตัวว่าโดนไอ้เจตหลอก
"มันไม่ได้ทำงานที่นี่ครับ" สองภพพูด
"ไปกันได้แล้ว...พี่ไปแล้วนะหนุ่มๆ" ผู้กำกับต้อกล่าวลาทุกคน แล้วก็ดึงแขนดาราเคนขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว
"ไอ้เอ...มึงคิดอย่างกูไหมวะ" สองภพหันไปถามเพื่อนรัก
"กูว่าไอ้แสงกับไอ้เจตมันต้องหลบอยู่แถวๆนี้" สินชัยออกความเห็น
"พี่ก็คิดอย่างงั้นนะ...ไอ้แสงมันคงเป็นห่วงแกกับไอ้สาม...มันก็เลยให้เพื่อนมันมาดู" หนึ่งสยามพูดได้ตรงประเด็น
"เราจะทำยังไงดีวะ...นายน้อย" สินชัยถามเพื่อนรัก
"กูรู้...ว่ากูควรจะทำยังไง"
..................................
สองภพกับลีซอเดินมาหาลุงคำแสงด้วยความดีใจที่ได้ข่าวของไอ้แสง สองหนุ่มคู่รักเดินเข้าไปในบ้านของพักของลุงคำแสงอย่างรีบร้อน
"ป้อคำ...ป้อคำ...อยู่ก่อครับ...ยะหยังอยู่ครับ" ลีซอตะโกนเรียกพ่อบุญธรรม
"อะไรของมึงวะไอ้ลีซอ...ข้าอยู่ในครัวโว้ย"
พอสองหนุ่มได้ยินเสียงของลุงคำแสง ก็เดินเข้าไปหาในทันที
"ลุงคำครับ...ผมได้ข่าวลูกชายของลุงแล้วนะ" สองภพพูดด้วยรอยยิ้ม
"ว่าไงนะนายน้อย...ไอ้แสงมันอยู่ไหน" ชายชราวางมือจากการปรุงอาหาร แล้วหันมาคุยกับสองภพด้วยความสนใจ
"มีคนไปเจอเพื่อนของไอ้แสงอยู่แถวน้ำตกน่ะครับ...ลุงคำออกหาสมุนไพรแถวนั้นอยู่บ่อยๆไม่ใช่เหรอ...ลุงน่าจะรู้จักเส้นทางในป่าแถวนั้นดีนะ...ผมว่าลูกชายของลุงต้องอยู่ในป่านั้นแน่ๆครับ"
"ป้อคำ...ออกตามหาพี่แสงกันเถอะครับ" ลีซอเดินเข้าไปเกาะแขนชายชรา
"ในป่าแถวนั้น...มีที่ให้พอหลับนอนได้อยู่ไม่มากหรอก...ผมจะออกตามหามันพรุ่งนี้ครับนายน้อย"
"ให้ผมไปด้วยนะ..ป้อคำ" ลีซอพูด
"ไม่ต้อง...เอ็งอยู่เลี้ยงม้าน่ะดีแล้ว"
"ถ้าลุงคำเจอมัน...ลุงอย่าบอกมันนะว่าผมรู้เรื่องนี้ ผมกลัวว่ามันจะหนีไปอีก"
"ครับ...นายน้อย"
24.
(ความเดิม)
"ให้ผมไปด้วยนะ...ป้อคำ" ลีซอพูด
"ไม่ต้อง...เอ็งอยู่เลี้ยงม้าน่ะดีแล้ว"
"ถ้าลุงคำเจอมัน...ลุงอย่าบอกมันนะว่าผมรู้เรื่องนี้ ผมกลัวว่ามันจะหนีไปอีก"
"ครับ...นายน้อย"
....................................
ในห้องนอนของสองหนุ่มคู่รัก ลีซอนอนซุกกายอยู่ภายใต้วงแขนอันอบอุ่นของสองภพอย่างรักใคร่และบูชา สองหนุ่มนอนเปลือยกายกอดกันอยู่ท่ามกลางแสงสว่างจากโคมไฟเลือนๆและแสงนีออนรางๆที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างอยู่เป็นเนื่องๆ แก่นกายของทั้งสองได้สงบลงแล้ว เพราะเกมรักไฟเสน่หาของทั้งคู่เพิ่งได้จบลงไปเมื่อสักครู่นี้ ลำควยของสองภพยังเงาวับไปด้วยน้ำรักอุ่นๆที่ยังหลงเหลืออยู่ ส่วนหัวควยสีแดงสดของหนุ่มพม่าไม่มีน้ำรักหลงเหลืออยู่เลย เพราะทุกหยาดหยดได้ไหลลงสู่ลำคอของสองภพจนไม่เหลือคราบให้เห็น
"นายน้อยครับ...ถ้าผมจะถามอะไรบ้าง...นายน้อยจะโกรธผมไหมครับ" ลีซอมองหน้าชายคนรัก
"อะไรครับ...ถามมาซิ"
"นายน้อยเคยบอกกับผมว่า...ไม่เคยมีอะไรกับคุณหนูแดง แล้ว...แล้วคุณหนูแดงท้องกับใครละครับ" ลีซอตัดสินใจถามสิ่งที่คาใจอยู่นาน
"ความจริงพี่อยากจะให้เรื่องนี้ มันตายไปพร้อมกับหนูแดง พี่ไม่อยากพูดถึงมันอีก...แต่ถ้าลีซออยากรู้...พี่จะเล่าให้ฟัง"
"แต่ถ้านายน้อยไม่สบายใจ ไม่ต้องเล่าก็ได้ครับ...ผมรักและไว้ใจนายน้อยเสมอครับ"
"เด็กในท้องของหนูแดง เป็นลูกของเจ้าสาม...ไม่ใช่ลูกของพี่" สองภพลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปยืนริมหน้าต่าง ชายหนุ่มมองออกไปข้างนอกอย่างไร้จุดหมาย
"ผมก็เคยคิดอย่างงั้นครับ"
"ทำไมละ" สองภพหันหน้ามาถาม
"ก็เพราะพักหลัง..ก่อนที่คุณหนูแดงจะเสีย...ผมเห็นนายเล็กไปไหนมาไหนกับคุณหนูแดงบ่อยๆครับ"
"มันคงจะเป็นห่วงลูกของมัน...ลูกคนแรกซะด้วย"
"ผมสงสารนายเล็กจังเลยครับ...เสียลูกไปแล้วและยังต้องมาเสียดวงตาอีก...ผมอยากให้อ้ายแสงจับนายเรือรบได้เร็วๆครับ" ลีซอเดินไปยืนข้างๆชายคนรัก
"แต่พี่กลัวว่าไอ้แสงมันจะทำอะไรรุนแรงไปกว่านั้นนะซิ...กลัวใจมันจริงๆ"
"นายน้อยว่า...ป้อคำจะตามหาอ้ายแสงเจอไหมครับ"
"ถ้ามันไม่รู้ตัวเสียก่อน...ก็คงจะเจอ"
"ทำไมละครับ" ลีซอถาม
"ไม่มีอะไรหรอก...พี่คงคิดมากไปเอง" สองภพหันมาจับไหล่ของหนุ่มลีซอไว้ทั้งสองข้าง แล้วพูดว่า "ลีซอครับ...ถ้าเจ้าสามออกจากโรงพยาบาลแล้ว พี่คงจะไม่ได้มานอนค้างที่นี่บ่อยๆนะครับ เพราะพี่ต้องดูแลมัน พ่อกับแม่ของพี่ท่านก็แก่มากแล้วหูตาท่านก็ไม่ค่อยดี...ถ้าพี่ไม่ได้มาหาลีซอบ่อยๆ...ลีซอไม่ว่าอะไรนะครับ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับนายน้อย...ผมเข้าใจครับ...ผมเองก็สงสารนายเล็กครับ"
"ขอบใจนะครับที่เข้าใจพี่...ตอนที่พี่แต่งงาน พี่ก็ทิ้งลีซอไว้ตั้งนาน...ตอนนี้พี่ก็จะไม่มีเวลาให้ลีซออีกแล้ว...พี่ขอโทษนะครับ" สองภพกอดลีซอไว้ในอ้อมแขนอย่างถนุถนอม
"ขอเพียงแค่..นายน้อยอย่าลืมผมก็พอครับ" ลีซอซบลงที่อกเปลือยเปล่าของชายคนรัก น้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตาโดยไม่รู้ตัว เมื่อรู้ว่าชายคนที่เขารักและบูชาที่สุดในชีวิตกำลังจะเหินห่างเขาไปอีกครั้งนึงแล้ว
"พี่รักลีซอนะครับ" สองภพจุมพิตที่ริมฝีปากเบาๆ
"ผมก็รักนายน้อยมากที่สุดในชีวิตเลยครับ"
.......................................
วันนี้เป็นวันที่สองแล้วที่ลุงคำแสงออกเข้าป่าแต่เช้า เพื่อตามหาลูกชายคนเดียวของแก ชายชราเดินบุกตลุยป่าทึบอย่างไม่เกรงกลัวอะไร แกมีอาวุธมาครบมือไม่ว่าจะเป็นปืนผาหน้าไม้ เพื่อเอาไว้ป้องกันอันตรายจากสัตว์ป่าต่างๆ วันนี้แกเดินเข้ามาลึกกว่าเมื่อวาน ชายชราดินไปตามแหล่งต่างๆที่คิดว่าพอจะใช้เป็นที่หลับนอนสำหรับคนเดินป่าได้บ้าง แต่ก็ยังไม่พบแม้แต่เงาของลูกชายเลย
ลุงคำแสงเดินเลาะป่าไปเรื่อยๆจนถึงลำธารน้ำใสซึ่งถือว่าเป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ของคนเดินป่าเลยทีเดียว ทันใดนั้นแกก็มองเห็นควันไฟที่ใช้หุงต้มอาหารซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก แกรีบเร่งฝีเท้าเข้าไปหาควันไฟที่แกเห็นอย่างรวดเร็ว "ขอให้เป็นเอ็งทีเถอะ...ไอ้แสงลูกพ่อ" ชายชราพูดคนเดียวและยิ้มด้วยความดีใจ ไม่นานนักแกก็ได้เจอในสิ่งที่แกออกตามหา ไอ้หนุ่มเลือดร้อนกำลังนั่งย่างปลาอยู่ตรงนั้น
"ไอ้แสง" ชายชราตะโกนเรียกภูแสงที่เห็นเพียงแค่ด้านหลัง แต่แกก็จำลูกชายของแกได้เป็นอย่างดี ภูแสงหันไปตามเสียงเรียกนั้น
"พ่อ...พ่อจ๋า" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนทิ้งทุกอย่างที่อยู่ในมือ แล้ววิ่งเข้าไปกอดบิดาด้วยความคิดถึง "ฉันคิดถึงพ่อนะจ๊ะ....พ่อมายังไงเนี่ย"
"เอ็งเป็นยังไงบ้างลูก...ลำบากมากไหมวะ"
"ฉันไม่ได้ลำบากอะไรจ๊ะ"
"กลับไปอยู่บ้านเราเถอะลูก"
"ฉันยังกลับไม่ได้หรอกจ๊ะ...ฉันยังมีงานต้องทำ...พ่อไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะจ๊ะ"
"งานอะไรของเอ็งวะ...ไอ้แสง" ชายชราถาม
"ฉันเป็นต้นเหตุให้ครอบครัวของเจ้านายต้องเดือดร้อน...นายเล็กต้องตาบอดเพราะฉัน...ฉันจะต้องแก้แค้นมันให้ได้"
"ไอ้เรือรบนะเหรอ"
"จ๊ะพ่อ..."
"ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เขาจัดการไปเถอะลูก...อย่าไปยุ่งกับมันเลย"
"ไอ้เรือรบมันมีอิทธิพล...เจ้าหน้าที่เข้าถึงตัวมันยากจ๊ะพ่อ...ถ้าฉันไม่ได้จัดการกับมันด้วยมือของฉันเอง ฉันก็คงจะนอนตายตาไม่หลับแน่ๆ" ภูแสงพูดด้วยเสียงอาฆาตแค้น
"ไอ้แสงโว้ย...กูได้ปลามาอีกสามตัว" ไอ้เจตวิ่งตะโกนมาจากทางลำธารด้วยความดีใจ แต่มันก็ต้องหยุดชะงักกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า มันทิ้งปลาลงทันที แล้วใช้มือข้างขวาชักปืนขึ้นมาเล็งไปข้างหน้าตามสัญชาตญาณการป้องกันตัว
"เฮ้ย...นี่พ่อกูเอง" ภูแสงตะโกนบอกเพื่อนยาก
"พ่อมึงเหรอวะ..ขอโทษวะ...ก็กูเป็นห่วงมึงนี่หว่า" ไอ้เจตเอาปืนเก็บแล้วยกมือไหว้ลุงคำแสง "สวัสดีครับพ่อ"
"เออ...ไหว้พระเถอะลูก" ชายชรารับไหว้
"พ่อดูมือไอ้เจตซิจ๊ะ...นี่ก็ฝีมือไอ้เรือรบเหมือนกัน...ฉันเห็นมากับตา" ภูแสงเดินมาจูงมือไอ้เจตไปให้ผู้เป็นพ่อได้เห็นชัดๆ
"มันตัดนิ้วเอ็งเลยเหรอวะ" ชายชราถาม
"ครับพ่อ...ผมทำงานให้มันพลาด...มันก็เลยตัดนิ้วผมทิ้ง"
"ไอ้นี่มันโหดร้ายจริงๆ...พวกเอ็งจะทำอะไรก็ระวังตัวกันหน่อยนะลูก"
"นายน้อยกับนายเล็กเป็นไงบ้างจ๊ะพ่อ" ภูแสงอดที่จะถามถึงไม่ได้
"นายน้อยก็สบายดีลูก...ส่วนนายเล็กพรุ่งนี้ก็คงกลับบ้านได้แล้ว"
"นายน้อยให้พ่อมาตามหาฉันใช่ไหมจ๊ะ"
"เอ้ย..ข้ามาหาสมุนไพรของข้า...ไม่เกี่ยวกับนายน้อยนะโว้ย" ชายชราเสียงเบาลงทันทีเมื่อถูกลูกชายจับได้
"พ่อไม่ต้องมาโกหกฉันหรอกจ๊ะ...ไอ้เจตมันเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว ว่ามันไปเจอเพื่อนของนายน้อยที่เป็นดารา...และไอ้ดารานั้นก็ต้องไปเล่าให้นายน้อยฟัง"
"นายน้อยเขาเป็นห่วงเอ็งนะไอ้แสง"
"ฉันรู้จ๊ะพ่อ...แต่ฉันไม่อยากให้นายน้อยคิดมากเรื่องของฉัน พ่อสัญญากับฉันได้ไหมว่าจะไม่บอกนายน้อยว่าพ่อเจอฉันที่นี่"
"ทำไมล่ะวะ"
"ถ้าพ่อไม่สัญญากับฉัน...ฉันกับไอ้เจตจะหนีไปอีก"
"ถ้าเอ็งไม่อยากให้ข้าบอก...ข้าก็จะไม่บอก...แต่เอ็งอย่าหนีไปไหนอีกเลยนะลูก...ข้าเป็นห่วง" ชายชราพูด
"ไม่ต้องห่วงครับพ่อ...ผมจะไม่ให้มันไปไหนครับ" ไอ้เจตพูด
"เออ...ดีแล้วลูก ข้าฝากไอ้แสงด้วยนะไอ้เจต"
"ชีวิตของผมในตอนนี้...ก็มีมันคนเดียวนี่แหละครับพ่อ" ไอ้เจตหันไปยิ้มให้เพื่อนยาก
"เอ็งก็ดูแลไอ้เจตมันด้วยล่ะไอ้แสง...มือไม้มันยิ่งไม่ค่อยดีอยู่"
"จ๊ะพ่อ...."
"ข้าไปล่ะนะ...เดี๋ยวจะไปถึงที่ฟาร์มค่ำ"
"พ่อจ๋า...ฉันขอยืมปืนของพ่อเอาไว้ป้องกันตัวได้ไหมจ๊ะ" ภูแสงเดินเข้าไปหาชายชราใกล้ๆ
"แล้วปืนที่อยู่กับไอ้เจตละ...พวกเอ็งเอามาจากไหน"
"ฉันเอามาจากรถคันที่ถูกชนน่ะจ๊ะ...แต่ฉันให้ไอ้เจตมันเก็บไว้ป้องกันตัว เพราะฉันเห็นว่ามือมันไม่ดี...ฉันสงสารมันจ๊ะ"
"เก็บเอาไว้ป้องกันตัวนะลูก...อย่าเอาไปใช้ในทางที่ผิดๆ" ลุงคำแสงดึงปืนขึ้นมาจากผ้าขาวม้าที่คาดเอว แล้วส่งให้ลูกชาย
"ขอบคุณจ๊ะพ่อ...ฉันรักพ่อนะจ๊ะ" ภูแสงก้มลงกราบผู้เป็นบิดาแทบเท้าด้วยแววตาที่ห่วงหาอาลัย
"ผมก็รักพ่อครับ" ไอ้เจตก็ทำเช่นเดียวกัน
..........................................
พอสามเมืองออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นาน ก็ถึงวันเปิดกล้องละครเรื่องใหม่ของสองภพ กองถ่ายละครเรื่อง"ฟ้าเพียงดิน"ได้ยกทีมงานมาถ่ายทำที่รีสอร์ทคนเมืองคาวเกือบทั้งเรื่อง นายใหญ่และคุณขวัญเชิญก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี โดยการเปิดบ้านท้ายไร่ให้ทางทีมงานได้พักอาศัยโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพราะท่านทั้งสองเห็นว่าลูกชายคนกลางอยู่ในสายตาตลอดเวลา ไม่ได้เดินทางไกลไปทำงานเหมือนแต่ก่อน ถึงนายใหญ่จะไม่ชอบอาชีพนักแสดงมากนัก แต่ท่านก็ไม่อยากขัดใจลูกอีกต่อไป เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับหนูแดง ทำให้ท่านคิดว่าลูกชายทั้งสามคนคือทุกสิ้นทุกอย่างของท่านในเวลานี้
รีสอร์ทคนเมืองคาวเปิดบริการได้ตามปรกติไม่มีผลกระทบต่อลูกค้าใดๆทั้งสิ้น เพราะการวางแผนงานของสองภพเป็นไปอย่างมืออาชีพ หนึ่งสยามและสินชัยช่วยกันรับผิดชอบเรื่องรีสอร์ทแทนสองภพในเวลานี้
สามเมืองได้มาให้กำลังใจพี่ชายทุกๆวัน ถึงแม้ว่าตาทั้งสองข้างของเขาจะยังมืดสนิทก็ตามที แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยท้อ เพราะได้ยาใจที่ดีจากสองภพและครอบครัวอยู่ทุกวัน วันนี้สามเมืองก็ออกมานั่งฟังเสียงการถ่ายทำละครเหมือนอย่างเคย โดยมีลีซอยืนดูแลอยู่ใกล้ๆ
"นายเล็กอยากดื่มน้ำไหมครับ...เดี๋ยวผมจะไปเอาให้" ลีซอถาม
"ยังไม่หิว"
"ถ้าหิวน้ำก็บอกผมนะครับ"
"ลีซอ...ฉันขอโทษนะ" อยู่ๆสามเมืองก็พูดขึ้นมา
"ขอโทษเรื่องอะไรครับ...นายเล็ก"
"ก็เมื่อก่อนฉันเคยทำไม่ดีกับแกยังไงละ...แกไม่เกลียดฉันเหรอวะ" สามเมืองมองผ่านแว่นตาดำออกไปอย่างไร้จุดหมาย
"ผมไม่เคยเกลียดนายเล็กเลยนะครับ...ไม่เคยคิดแม้แต่จะโกรธ....นายเล็กอย่าคิดมากนะครับ"
"ขอบใจลีซอ...มิน่าละ พี่สองถึงได้รักแกมากขนาดนี้"
"นายน้อยก็รักนายเล็กมากนะครับ...เมื่อวันก่อนยังบอกผมเลยว่า ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเพราะต้องดูแลนายเล็กครับ"
"จริงเหรอ...พี่สองพูดอย่างงั้นจริงๆเหรอ" สามเมืองยิ้มด้วยความดีใจ
"ครับ"
"ตอนนี้พี่สองกำลังทำอะไรอยู่อ่ะ.."
"เข้าฉากกับนางเอกที่คอกม้าครับ" ลีซอตอบ
"มีจูบไหมวะ...มีกอดไหม" สามเมืองเก็บอาการหึงเอาไว้ไม่อยู่
"ไม่มีหรอกครับ...แค่จับมือกันเฉยๆ"
"ลีซอ...แกเป็นเพื่อนฉันได้ไหม" สามเมืองพยายามควานหามือลีซอ
"ได้ซิครับนายเล็ก...ผมดีใจนะครับที่ได้ยินนายเล็กพูดแบบนี้" ลีซอยืนมือไปให้ชายหนุ่มจับด้วยความปิติ
"ฉันขอบใจนะที่แกดูแลฉันแทนพี่สอง...แกรักพี่ชายของฉันไหม"
"นายน้อยคือหัวใจของผมครับ"
"แล้วแกไม่หึงฉันกับพี่สองเหรอวะ"
"จะหึงทำไมละครับ...ก็นายเล็กกับนายน้อยเป็นพี่น้องกันนี่ครับ" ลีซอพูดด้วยความซื่อ
"และถ้าฉัน...ไม่..ไม่ได้เป็นอย่างที่...." ยังไม่ทันที่สามเมืองจะพูดจบ ต่อศักดิ์ก็เดินเข้ามาแล้วพูดว่า "นายกลางให้ผมมาพา...นายเล็กไปทานข้าวครับ"
"ฉันยังไม่หิว" สามเมืองพูด
"ไม่หิวก็ต้องไปครับ" ต่อศักดิ์เดินเข้ามาเข็นรถของสามเมืองออกไป แล้วหันมาพูดกับลีซอว่า "เดี๋ยวผมพามาส่งนะครับ..พี่ลีซอ"
"ไอ้ต่อ..ปล่อยนะเว้ย...ฉันจะรอกินพร้อมพี่สอง...ปล่อยซิวะ"
"ไปเถอะครับ...อย่าดื้อ" ต่อศักดิ์ยิ้มอย่างดีใจ ที่เอาชนะสามเมืองได้
"แกขัดคำสั่งฉันเหรอไอ้ต่อ...ปล่อยนะโว้ย"
"ผมทำตามคำสั่งนายกลางต่างหากครับ...ฮา..ฮา...หึ หึ หึ"
"หัวเราะอะไรวะ...เดี๋ยวกูจะให้พี่สองไล่มึงออก...ไอ้เด็กเมื่อวานซืน"
"หึ หึ ผมก็หัวเราะที่แกล้งคนดื้อได้นะซิครับ อิอิ" ต่อศักดิ์ทำหน้าทะเล้น
"ไอ้บ้าเอ้ยยย...ถ้ากูไม่ตาบอดนะ มึงโดนกูเตะไปแล้ว...ไอ้เด็กบ้า" สามเมืองนั่งหน้าง้อไปตลอดทาง
................................
"นายน้อยถ่ายหนังไปถึงไหนแล้ววะ" สินชัยถามต่อศักดิ์เมื่ออยู่ในห้องนอนกันสองคน
"ได้เยอะแล้วนะพี่...เห็นพี่เคนบอกว่าจะเร่งให้ปิดกล้องภายในเดือนนี้..." หนุ่มพเนจรเดินเปลือยกายออกมาจากห้องน้ำ
"ก็ดี...นายน้อยจะได้มาช่วยทำงานที่รีสอร์ทสักที กูเหนื่อยวะ" สินชัยเอาผ้าขนหนูเช็ดศรีษะให้เด็กหนุ่มเบาๆ
"นายน้อยเขาก็เหนื่อยนะพี่เอ"
"ไอ้ต่อ...เมื่อตอนกลางวันกูไปตลาดมา มึงรู้ไหมว่ากูเจอใคร"
"ใครครับพี่เอ"
"กูขับรถสวนกับไอ้เรือรบ...ตรงทางโค้งเข้าไร่ของมัน"
"ไอ้เรือรบ" ต่อศักดิ์พูดย้ำเสียงดัง
"เบาๆ...เดี๋ยวไอ้ลีซอได้ยิน"
25.
(ความเดิม)
"กูขับรถสวนกับไอ้เรือบรบ...ตรงทางโค้งเข้าไร่ของมัน"
"ไอ้เรือรบ" ต่อศักดิ์พูดย้ำเสียงดัง
"เบาๆ...เดี๋ยวไอ้ลีซอได้ยิน"
"อ้าว..แล้วทำไมพี่เอไม่อยากให้พี่ลีซอรู้ละครับ"
"มึงไม่เห็นเหรอว่า...ตอนนี้ทุกอย่างกำลังไปด้วยดี ถ้าไอ้ลีซอมันรู้..เดี๋ยวมันก็ต้องไปบอกนายน้อย กูยังไม่อยากให้นายน้อยมันคิดมาก มันกำลังถ่ายละครอยู่นะโว้ย"
"แล้วพี่เอจะปล่อยให้คนชั่วลอยนวลเหรอครับ" ต่อศักดิ์ถามด้วยความสงสัย
"กูจะแจ้งตำรวจ...ให้ตามจับมัน"
"ก็ดีครับ...แล้วเมื่อไหร่พี่เอจะบอกนายน้อยละครับ"
"จนกว่าไอ้เรือรบจะถูกตำรวจจับเสียก่อน" สินชัยพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"ผมได้ยินเขาพูดกันว่า...มันมีอิทธิพลนะพี่ ผมกลัวว่าตำรวจจะทำอะไรมันไม่ได้น่ะซิ" หนุ่มพเนจรพูดตามความคิด
"แต่กูเชื่อว่า...ในประเทศไทย..ยังคงมีตำรวจดีๆหลงเหลืออยู่บ้าง"
"ผมก็ขอให้เป็นอย่างงั้นครับ"
"ไม่เอาละ...ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว...มาให้กูชื่นใจซะดีๆไอ้ที่รัก" บาร์เทนเดอร์หนุ่มเริ่มแสดงอาการร้อนรักขึ้นมาทันที เมื่อมองไปเห็นพวงสวรรค์น้อยๆของหนุ่มพเนจรลอยอยู่ตรงหน้า
"เมื่อวานพี่เอก็เย็ดผมไปแล้ว...วันนี้ยังจะเอาอีกเหรอครับ" ต่อศักดิ์ปล่อยให้สินชัยลูบคล่ำน้องชายตามใจปรารถนา
"ความเงี่ยนของกูไม่เคยหมด...ถ้ามีมึงอยู่ใกล้ๆ"
สินชัยตวัดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเด็กหนุ่มอย่างร้อนแรง เขาดูดลิ้นกินน้ำลายของชายคนรักอย่างหื่นกระหาย ผ้าขนหนูที่พันเอวหลุดออกโดยอัตโนมัติ ลำควยยักษ์ของชายหนุ่มแข็งแกร่งเยี่ยงท่อนเหล็ก ดกหมอยที่รกรุงรังเลื่อยขึ้นมาจนถึงสะดื้อ ที่หัวควยพอมีน้ำอยากไหลออกมาปริ่มๆ
"ดูดควยให้กูหน่อยไอ้ที่รัก อ้า อ้า...ซี๊ต..."
"ครับพี่เอ" หนุ่มพเนจรก้มลงไปที่ลำควยยักษ์ของสินชัย แล้วค่อยๆเลียตรงส่วนหัวสีแดงคล้ำเบาๆ ก่อนที่จะครอบปากลงไปอย่างช้าๆ
"ซี๊ต....อ้า....อย่างงั้นแหละไอ้ต่อ...อู้ววว...ดูดตรงหัวควยแรงๆ อ้า...กูเสียว อ้าาาาา"
"ควยพี่เออร่อยจังเลยครับ...อ่า อ่า ผมชอบดูดตรงหัวควย น้ำควยมันเยอะดีครับ อ้า โอ้ย..." ต่อศักดิ์คายลำควยยักษ์ออกจากปากเพื่อหายใจ มือของเด็กหนุ่มก็ชักว่าวให้ตัวเองไปด้วย
"ดูดแรงๆ....อ้า อ้า มึงไม่ต้องห่วงไอ้ต่อ...กูมีน้ำเงี่ยนให้มึงกินทั้งคืนไอ้ที่รัก ซี๊ตตตตต อ้าาาาา"
"อ้า...อ้า...พี่เอครับ...โอ้ย...เย็ดผมเถอะครับ...."
เด็กหนุ่มอดทนต่อไฟราคะไม่ไหว เขาจูงมือชายคนรักมาที่เตียง แล้วลงไปนอนก้มโค้งส่ายตูดไปมาเพื่อรอรับลำควยยักษ์ของสินชัยให้ทิ่มแทงลงไปเพื่อดับความเงี่ยน
"ใจเย็นๆซิวะ..ไอ้ที่รัก ดูดควยให้กูก่อน อ้า อ้า"
"ไม่เอา..ผมอยากให้พี่เอเย็ดผม...เร็วๆครับ อ้า อ้า เดี๋ยวน้ำเงี่ยนผมแตก อ้าาาา"
"ก็ได้...ก็ได้...กูจะเย็ดมึงทั้งคืนเลยวันนี้ เงี่ยนนักเหรอมึง"
พอสินชัยพูดจบ เขาก็เดินขึ้นไปนั่งคุกเข่าบนเตียงโดยทันที เขาจัดการลงลิ้นละเลงน้ำลายที่รูตูดของเด็กหนุ่มจนเยิ้มแฉะ เขางัดลำควยขึ้นมาจ่อตรงรูสวรรค์สีชมพูของคู่รัก แล้วไสไปไสมาอยู่ตรงนั้นสักพัก ก่อนที่จะยัดลำควยยักษ์เข้าไปทีเดียวจนมิดด้ามด้วยความสะใจ "อ้าาาาา...ซี๊ตตต..." เสียงร้องควรญครางหลุดออกมาจากปากของเขาพร้อมกับเสียงหัวควยกระแทกกับผนังตูดดัง "กึก" "กึก" "กึก" ก่อนที่เขาจะซอยยิกๆ ติดเครื่องเต็มแรงม้า
"เป็นไง...ไอ้ต่อ อ้า...สะใจไหมวะ อ้า อ้า" ชายหนุ่มกระเด้าเย็ดอย่างชำนาญ เขาชงลำควยอยู่ในรูสวาทของเด็กหนุ่มอย่างเมามันส์
"อ้า...พี่เอ...ซี๊ตตต...เย็ดเร็วๆครับ อ้า ควยที่เอใหญ่...เต็มรูตูดผมเลยครับ โอ้ยยยย โอ้ยยย เสียว เสียว อ้า เสียวครับพี่เอ"
"อ้า...อ้า...อู้ว...กูก็เสียวไอ้ที่รัก...ตูดของมึง เย็ดทีไรก็มันส์สุดๆ...โอ้...ฟิตฉิบหาย อ้า อ้า เสียวควยโว้ย...ซี๊ตตตตต"
บาร์เทนเดอร์หนุ่มกำลังรินรักเข้าไปในรูตูดของหนุ่มพเนจรอย่างบ้าคลั่ง เขากระเด้าเย็ดสุดพลังด้วยความเงี่ยนที่คลุกกรุ่นอยู่เต็มลำควย เขานอนหงายลงกับเตียงแล้วจับเอวของเด็กหนุ่มให้ขึ้นมานั่งทับตรงกลางลำตัวของเขา โดยที่ควยก็ยังไม่หลุดออกจากรูตูด เขาเปลี่ยนท่าด้วยความชำนาญในลีลาเย็ด จากท่าก้มโค้งกลายเป็นท่านั่งเทียนในทันที เด็กหนุ่มหมุนตัวมาทางชายคนรัก แล้วขย่มอย่างเอาเป็นเอาตาย
"อ้า...โอ้ย...พี่เอครับ อ้า ผมจะแตกแล้ว อ่าาาา...ผมเสียว โอ้ยยยย" ลำควยของเด็กหนุ่มกระทบกับหน้าท้องแกร่งของสินชัยตามแรงขย่มดัง ผับ ผับ ผับ น้ำอยากของต่อศักดิ์ไหลออกมานองเต็มหน้าท้องของสินชัย ไม่นานนักน้ำเงี่ยนของเด็กหนุ่มก็พุ่งกระฉูดออกมาอย่างล้นหลาม
"อ้า...อ้าาาาา...เสียวโว้ยยยยย....ซี๊ตตตต ขย่มกูแรงๆ แรงๆ แรงๆ...อ้า อ้า กูแตกแล้ว โอ้ยยยยย" สินชัยร้องครางลั่นห้องด้วยความพอใจในฝีมือการขย่มควยของต่อศักดิ์ ชายหนุ่มฉีดน้ำเงี่ยนเข้ารูตูดของคนรักในเวลาไล่เลี่ยกัน
พอเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ ชายหนุ่มคู่รักก็นอนกอดกันอยู่อย่างงั้นด้วยความเหนื่อยหอบจากแรงฤทธิ์พิศวาส
"อ่า...กูรักมึงไอ้ต่อ...อ่า อ่า เหนื่อยฉิบหาย...หึ หึ"
"พี่เออย่าทิ้งผมไปไหนนะครับ...ผมรักพี่เอ...ผมจะอยู่กับพี่เอตลอดไป" ต่อศักดิ์เช็ดเหงื่อให้ชายคนรักอย่างหลงใหล
"กูไม่ไปไหนหรอกไอ้ต่อ...ว่าแต่มึงเถอะ...เห็นไอ้ดาราเคนมันจ้องจะเขมือบมึงอยู่ไม่ใช่เหรอ"
"เมื่อก่อนน่ะใช่ครับ...แต่ตอนนี้..ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน"
"ทำไมวะ" สินชัยถาม
"ตั้งแต่แกมาถ่ายละครครั้งนี้...พี่เคนเขาไม่เคยพูดจีบผมเหมือนเมื่อก่อนเลยครับ"
"มันคงได้ผัวใหม่ที่กรุงเทพไปแล้วมั่ง ช่างแม่งเถอะ....ดีแล้ว...มันจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับมึงอีก...มึงจะได้เป็นไอ้ที่รักของกูคนเดียว"
"ผมจะเรียกพี่เอว่าอะไรดีน้า..." เด็กหนุ่มทำท่าคิดอยู่สักพัก แล้วพูดว่า "พี่หื่นดีไหม"
"ไอ้บ้า...มึงอย่ามาเรียกกูอย่างงั้นนะโว้ย...กูอายเขา"
"ก็พี่เอหื่นจริงๆนี่ครับ...เย็ดผมได้ทุกวัน" ต่อศักดิ์นอนดีดหัวนมของสินชัยเล่นเหมือนเด็กๆ
"แล้วมึงไม่ชอบเหรอ...อืม"
"ชอบครับ"
..................................
หลังจากที่เรื่องราวเงียบลง เพราะนายเรือรบได้ใช้อิทธิพลของเงินตรากำจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปให้พ้นจากเส้นทางของเขา ตอนนี้เขาได้กลับมากกดานอยู่ที่ไร่ลิ้นจี่อย่างเงียบๆ การกลับมาของเขาในครั้งนี้ เขาคิดว่าใครๆก็นึกไม่ถึง โดยเฉพาะครอบครัวของนายน้อย สถานที่ที่อันตรายที่สุด ก็คือที่ที่ปลอดภัยที่สุดในความคิดของเขา แต่เขาหารู้ไม่ว่าการเดินทางของเขาในครั้งนี้ ได้ตกอยู่ในสายตาของสินชัย
..................................
"วันนี้ทำไมเลิกกองเร็วละครับพี่เคน" ต่อศักดิ์ถามดาราหนุ่มในขณะที่ทั้งคู่กำลังขี่ม้าไปน้ำตกเมืองคาวตามความต้องการของเคน
"ละครจะปิดกล้องแล้ว...เหลืออีกไม่กี่ซีน...พี่ต้อเลยให้พักผ่อน" เคนตอบ
"ทำงานกันทุกวันเลยนะครับ...ตั้งแต่เช้ามืดจนถึงดึกดื่น...ผมเห็นแล้วเหนื่อยแทนจริงๆ"
"ผู้ใหญ่เขาเร่งมาน่ะ...ละครจะออนแอร์อาทิตย์หน้าแล้วนะ"
"ยังถ่ายทำไม่เสร็จเลยนี่ครับ" ต่อศักดิ์ถามด้วยความไม่เข้าใจ
"สมัยนี้เขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ...ถ่ายทำไป ออนแอร์ไป คนที่เหนื่อยก็คือพวกดาราและทีมงาน ส่วนคนที่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำก็คือผู้ใหญ่ วงการมายาก็เป็นแบบนี้แหละต่อ"
"ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย...แปลกดีครับ...ผมนึกว่าได้เป็นดาราแล้วจะสบายซะอีก"
"ไม่มีอาชีพไหนสบายหรอก" เคนเงียบไปสักพัก แล้วหันมาทางต่อศักดิ์ และพูดว่า "เออ..เดี๋ยวต่อไม่ต้องรอพี่ก็ได้นะ กลับไปช่วยพี่เอทำงานเถอะ พี่อยู่คนเดียวได้"
"ครับพี่เคน" เด็กหนุ่มตอบสั้นๆ
....................................
ดาราหนุ่มมานั่งรอไอ้เจตที่น้ำตกตามสัญญา เขานั่งรออยู่ตรงนั้นมาสองชั่วโมงกว่าแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของไอ้เจตจะโผล่มาให้ได้เห็น จนเขาถอดใจและกำลังจะเดินกลับไปที่ม้า แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของคนที่เขารอคอยดังขึ้น
"นายครับ...ผมอยู่ทางนี้ครับ" เสียงไอ้เจตดังมาจากหลังโขดหิน
"นายโจร...นายโจร...แกอยู่ไหน" เคนหันซ้ายหันขวาด้วยความดีใจ
"ทางนี้ครับนาย"
"นายโจร...ทำไมแกมาหลบอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่ออกไปหาฉัน" ดาราหนุ่มเดินเข้าไปหาผู้ที่รอคอย
"ผมไม่อยากให้คนเห็นครับ" ไอ้เจตจูงมือเคนมาหลบหลังโขดหิน
"ทำไมละ...ฉันไม่เข้าใจ"
"ไอ้แสงมันสั่งมาครับนาย.....ผมคิดถึงนายเหลือเกิน ผมมารอนายทุกวันเลยนะครับ"
"ฉันก็คิดถึงแกนะนายโจร...แต่ฉันไม่เข้าใจ ว่าทำไมแกต้องโกหกฉันด้วย"
"โกหก" ไอ้เจตย้ำคำพูดนั้น
"ใช่...ฉันรู้มาจากนายน้อยว่าแกไม่ได้ทำงานที่นี่ และนายน้อยเขาก็ไม่รู้จักแกด้วย"
"เออ....ผมขอโทษครับนาย แต่ผมจำเป็นต้องทำอย่างงั้นจริงๆครับ"
"แกมีความลับอะไรเหรอ...หรือว่าแกคิดจะทำอะไรชั่วๆกับนายน้อย"
"ไม่ใช่อย่างงั้นครับนาย...ผมไม่เคยคิด..ผมจะไม่ทำชั่วอีกแล้ว นายเชื่อผมนะครับ" ไอ้เจตใช้มือข้างขวาของมันกุมมือของดาราหนุ่มไว้ด้วยความคิดถึง
"บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ...ถ้าแกไม่บอก ฉันจะไม่มายุ่งกับแกอีก"
"นายครับ...ผมรักนายนะครับ แต่ผม...ผมบอกไม่ได้ครับ"
"ถ้าอย่างงั้น...เราก็ไม่ต้องมาเจอกันอีก ฉันเกลียดคนโกหก" ดาราหนุ่มสะบัดมือให้หลุดออกจากมือของไอ้เจต แล้วหันหลังเดินหนีทันที
"ผมมาสืบข่าวของนายน้อยกับนายเล็กให้ไอ้แสงครับ" ไอ้เจตพูดออกไปด้วยความจำยอม
"สืบไปทำไม" เคนเดินกลับมาที่เก่า แล้วถามอีกว่า "ใครใช้ให้แกมาสืบ"
"ไอ้แสงมันเป็นห่วงนายน้อยกับนายเล็กครับ...แต่มันไม่กล้ามา ผมเลยรับอาสามาแทนครับ"
"ไอ้แสง...พี่ชายของลีซอใช่ไหม"
"ผมไม่รู้ครับ" ไอ้เจตพูดความจริง
"แล้วแกเป็นเพื่อนกันภาษาอะไร ถึงไม่รู้จักใครเเลย" เคนทำหน้างง
"ผมรู้จักไอ้แสงกับพ่อของมัน แค่นั้นครับ"
"ถ้าอย่างงั้น...ก็ไม่เป็นไร ฉันให้อภัย...ที่แกทำไป เพราะแกรักเพื่อนของแก..."
"แต่นายอย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะครับ...เดี๋ยวไอ้แสงมันจะหนีไปอีก"
"ได้...ฉันสัญญา"
"ขอบคุณครับนาย" ไอ้เจตยิ้มด้วยความดีใจ
"แล้วทำไมยังไม่โกนหนวดเคราอีกละ..." เคนมองค้อน
"ผมอยู่ในป่า...ไม่มีกระจกครับ...แต่ผมหามีดโกนมาได้แล้วนะครับ...นายโกนให้ผมหน่อยซิครับ" ไอ้เจตดึงมีดโกนออกมาจากห่อผ้าแล้วส่งให้ดาราหนุ่ม
"นั่งซิ...ฉันจะโกนให้" เคนยิ้มอย่างมีความสุข แล้วลงมือโกนหนวดเคราให้ไอ้เจตอย่างเต็มใจ "ทำไมนายเจตกับนายแสง ต้องไปอยู่ในป่าด้วยละ"
"พวกผมกำลังตามล่า คนที่ทำให้นายเล็กตาบอดครับ....ไอ้แสงมันแค้นมาก"
"ถึงกับตามล่ากันเลยเหรอ...ฟังแล้วน่ากลัวจัง...แล้วนายไปเกี่ยวอะไรกับเขาด้วยละ"
"คนที่ไอ้แสงตามล่า...มันเป็นคนเดียวกันกับคนที่ตัดนิ้วของผมครับ"
"ที่แท้ก็มีศัตรูคนเดียวกัน" เคนพูด
"นายรักผมหรือเปล่าครับ...ผมอยากมีความรักเหมือนคนอื่นบ้าง"
"ฉันชอบเธอมากนะเจต...แต่ฉันยังไม่รู้ว่า...ฉันรักเธอหรือยัง"
"ไม่เป็นไรครับนาย...ผมจะรอ...รอวันที่นายบอกว่ารักผม" ไอ้เจตหันมามองหน้าเคนด้วยความซาบซึ้ง
"เสร็จละ...อ่ะดูซิ...หล่อไหม" เคนเปิดกระเป๋าเป้แล้วล้วงเอากระจกบานเล็กๆออกมาส่งให้ไอ้เจต
"ผมหล่อไหมครับนาย" ไอ้เจตมองหน้าใสๆของตัวเองผ่านกระจกบานนั้น
"หน้าตาค่อยเป็นผู้เป็นคนหน่อย...แต่ผมยาวไปนิดนะ...ไม่เป็นไร...ฉันชอบคนผมยาว"
"นายครับ...ผมเงี่ยน" ไอ้เจตหอมแก้มดาราหนุ่มเบาๆ
"เอาอีกแล้ว...ส่งสายตาหื่นอีกแล้ว...อีตาบ้า"
"เราไปเย็ดกันตรงโน้นนะครับนาย" ไอ้เจตจูงมือดาราหนุ่มหายเข้าไปในพุ่มไม้อย่างรีบร้อน
.......................................
สองภพกำลังขับรถกลับมาจากในเมืองซึ่งเป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี ระหว่างทางชายหนุ่มต้องขับรถผ่านไร่ลิ้นจี่ของนายเรือรบ แต่ก่อนจะถึงทางเข้าไร่ของพ่อค้ายาบ้า เขาต้องลดความเร็วลงในทันที เพราะตรงนั้นมีโค้งอันตรายซึ่งเป็นหน้าผาสูงชันอยู่มากทีเดียว เขาขับผ่านโค้งนั้นมาด้วยความปลอดภัยจนถึงหน้าไร่ของนายเรือรบ เขามองเข้าไปภายในไร่ แล้วสายตาของเขาก็ไปปะทะกับรถกระบะของนายเรือรบที่จอดอยู่ในนั้น ถึงแม้ทะเบียบรถจะเปลี่ยนไป แต่เขาก็จำรถคันนั้นได้เป็นอย่างดี
"ไอ้เรือรบ...ในที่สุดมึงก็กลับมาตายรังจนได้...ถึงตำรวจจะทำอะไรมึงไม่ได้ แต่มึงกับกูต้องเจอกันซักตั้ง...ไอ้ชาติชั่ว" ชายหนุ่มพูดคนเดียวด้วยความแค้น
26.
(ความเดิม)
"ไอ้เรือรบ...ในที่สุดมึงก็กลับมาตายรังจนได้...ถึงตำรวจจะทำอะไรมึงไม่ได้ แต่มึงกับกูต้องเจอกันซักตั้ง...ไอ้ชาติชั่ว" ชายหนุ่มพูดคนเดียวด้วยความแค้น
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดหาเบอร์ที่ต้องการจะโทรออกทันที
"กริ่งงงง กริ่งงงง กริ่งงงง"
"ฮัลโหล...." เสียงจากปลายสายตอบกลับมา
"นี่ฉันเอง...มั่น" สองภพเริ่มต้นสนทนา
"อ๋อ...สวัสดีครับนายน้อย" ไอ้มั่นลูกน้องเก่าของนายเรือรบเอ่ยทักทายอย่างคุ้นเคย
"ลูกๆของแกเป็นอย่างไงบ้าง"
"ก็เรื่อยๆครับนายน้อย...ถ้าผมไม่ได้รับการช่วยเหลือจากนาย..ป่านนี้ลูกๆของผมก็คงจะอดตายไปแล้วละครับ...ขอบคุณนายน้อยมากนะครับ...ที่ช่วยหาที่อยู่ให้ผม หางานสุจริตให้ผมทำ"
"คนบ้านเดียวกัน...อย่าคิดมาก"
"แล้วนายน้อยมีอะไรจะให้ผมรับใช้ไหมครับ" ไอ้มั่นถาม
"ไอ้เรือรบมันกลับมาแล้ว..."
"ไอ้เรือรบ...ไอ้ระยำ มันอยู่ที่ไหนครับนาย...ผมจะไปฆ่ามัน" เสียงไอ้มั่นอาฆาตด้วยความแค้น
"ใจเย็นๆ...ฟังฉันก่อน"
"แต่มันหลอกเมียผมไปขายนะครับนายน้อย...จะให้ผมใจเย็นได้ยังไง...ลูกๆผมมันก็ร้องหาแม่ของมันทุกวัน อือ....อือ"
"ฉันเข้าใจ...แล้วตอนนี้เมียของแกติดต่อมาบ้างหรือเปล่า" สองภพถาม
"อือ..อือ..มันอยู่ในซ่องทางใต้ครับ...อือ..มันแอบส่งจดหมายมาหาผม...แต่มันยังหนีออกมาไม่ได้ อือ อือ..."
"เรื่องนั้นเราต้องให้ตำรวจเป็นคนจัดการอีกทีนึง แล้วฉันจะประสานงานให้"
"อือ ขอบคุณครับนาย อือ...อืออออ" ไอ้มั่นยังสะอื้นไม่หยุด
"แล้วเรื่องงานที่ฉันเคยบอกให้แกทำละ...จัดการไปถึงไหนแล้ว"
"เรียบร้อยตั้งนานแล้วครับนาย...ทั้งซีดีค้าผู้หญิงและซีดีค้ายาบ้าที่ผมแอบถ่ายเอามันไว้...ผมรอแค่นายน้อยติดต่อมาเท่านั้นครับ"
"ดีมากไอ้มั่น...แล้วแกอย่าลืมพาแม่ของมันมาด้วยละ...มันจะได้ดิ้นไม่หลุด"
"ได้ครับนาย...แล้วนายจะให้ผมไปหาเมื่อไหร่ครับ"
"พรุ่งนี้ฉันไม่ว่าง...แกมาหาฉันวันมะรื่นก็แล้วกัน"
"ได้ครับนาย...สวัสดีครับ"
สองภพจัดการตามแผนการที่วางไว้ เขาภาวนาขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
"มึงทำให้หลานกูตาย มึงทำให้น้องชายกูตาบอด หนูแดงต้องมาสังเวยชีวิตกับความชั่วของมึง...กูต้องเอามึงเข้าตะรางให้ได้...ไอ้เรือรบ" ชายหนุ่มพูดคนเดียว
.........................................
"5..4..3..2..แอ๊คชั่น" ผู้กำกับต้อตะโกนดังลั่น
เทวราช: "เธอก็รู้มาตลอด ว่าฉันทำสิ่งชั่วร้ายมามาก..สาริกา ฉันไม่เคยให้ความยุติธรรมกับเธอเลย ฉันต้องลงโทษตัวเอง"
สาริกา: "ฉันไม่เคยโกรธคุณเลยนะเทวราช"
เทวราช: "แต่ฉันโกรธตัวเอง...ฉันทำให้เธอต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง"
สาริกา: "ไม่จริงนะคะ...คุณไม่เคยทำลาย"สรายุทธพิชัย"แม้แต่นิดเดียว...แต่คุณเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของ"สรายุทธพิชัย"...คุณเป็นทุกอย่างแทนคุณพ่อ"
เทวราช: "อย่าได้พยายามเลยสาริกา...ฉันจะไม่ให้อภัยตัวเอง ฉันต้องรับผิดชอบในสิ่งที่มันเกิดขึ้นทั้งหมดสาริกา"
สาริกา: "รวมทั้งตัวฉันด้วยใช่ไหมค่ะ...อือ..ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันมีชีวิตอยู่เพียงเพื่อเหตุผลข้อเดียวเท่านั้น คือฉันต้องทำความหวังของคุณพ่อให้สำเร็จ...แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่แค่นั้น...คุณยังไม่รู้ความจริง อือ...ยังมีอีกเหตุผลนึงที่ทำให้ฉันอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป อือ...อือ...คือฉันรักคุณ...เทวราช อย่าไปนะ...อย่าไป...อย่าไป...ฉันรักคุณเทวราช"
เทวราช: "สาริกา..."
"คัท....โอเค...ผ่านครับ ฉากปิดกล้องแสดงได้ดีมากเลยนะสอง" ผู้กำกับต้อเดินมาจับมือสองภพ
"ขอบคุณครับ...พี่ต้อ" สองภพยิ้มรับ
"ไชโย...ปิดกล้องแล้ว เย้..." เคนกระโดดด้วยความดีใจ
"ดีใจใหญ่เลยนะ..เจ้าเคน" ผู้กำกับต้อหันมาค้อน
"แหม...ก็เหนื่อยมาเกือบเดือนเลยนี่ครับพี่ต้อ...วันหยุดก็ไม่มี..โหดชะมัด"
"ไป..ไป...เก็บของกลับกรุงเทพ ยังมีงานรอพี่อีกเยอะ...ขอบใจมากนะสอง แล้วพี่จะโอนเงินค่าคิวมาให้นะครับ" ผู้กำกับต้อหันมาพูดกับสองภพ
"ครับผม" สองภพตอบสั้นๆ
"เออ...แล้วเดือนหน้าอย่าลืมไปงานประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำละ"
"ครับพี่ต้อ...ไปแน่นอนครับ" สองภพรับปาก
"ทีนี่รีสอร์ทคนเมืองคาวของสองต้องดังระเบิดแน่ๆ...เชื่อพี่ซิ" ผู้กำกับต้อพูด แต่ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรนอกยิ้มให้ความด้วยเต็มใจ
"พี่ต้อ...ผมยังไม่อยากกลับเลยครับ...ผมขออยู่ต่อได้ไหม" เคนพูด
"ไม่ได้นะ...วันพุธนี้เธอมีถ่ายแบบลงหนังสือไม่ใช่เหรอเคน"
"พี่ก็ให้คนอื่นไปถ่ายแทนผมซิ" ดาราหนุ่มเริ่มดื้อ
"แต่พี่รับปากเขาไปแล้ว...พี่เป็นผู้ใหญ่นะเคน"
"โธ่...ก็ผมเหนื่อยนี่น่า" เคนเริ่มงอแงที่ไม่ได้ดั่งใจ
"เอาละ..เอาละ หลังจากถ่ายแบบเสร็จ พี่ให้เธอหยุดสองอาทิตย์เลยดีไหม...แล้วเธอค่อยกลับมาใหม่ก็ได้..บินมาแป๊ปเดียวเองกรุงเทพ-เชียงใหม่อ่ะ"
"จริงๆนะครับพี่ต้อ"
"ก็จริงนะซิ"
"นายเจต...รอฉันก่อนนะ แล้วฉันจะกลับมาหาเธอ" ดาราหนุ่มพูดเบาๆด้วยความดีใจ
...............................
ในคืนเดียวกันที่บ้านพักของสองภพ ณ.รีสอร์ทคนเมืองคาว ชายหนุ่มทั้งสี่กำลังนั่งสนทนากันอย่างออกรสชาติ
"ละครปิดกล้องแล้ว...นายน้อยจะได้หายเหนื่อยสักทีนะครับ" ต่อศักดิ์พูด
"ใครบอกมึงวะไอ้ต่อ...ยังมีเรื่องไอ้เรือรบอีก...ที่กูจะต้องจัดการกับมัน"
"ป้อคำก็ยังตามหาอ้ายแสงไม่เจอสักที...ไม่รู้ไปหลบอยู่ที่ไหน..จะกินจะนอนยังไง ผมคิดถึงอ้ายแสงครับนายน้อย" ลีซอพูดเสียงเศร้า
"เมื่อวานพี่เห็นไอ้เรือรบมันกลับมาแล้ว...ไม่ต้องห่วงหรอกลีซอเดี๋ยวไอ้แสงมันก็โผล่ออกมาเองแหละ"
"มึงรู้..." สินชัยพูดเสียงดัง
"ยังไงวะไอ้เอ...หมายความยังไง ไอ้คำว่า มึงรู้ ของมึงอ่ะ"
"เออ...เปล่า เปล่า...ไม่มีอะไร"
"นี่แสดงว่า...มึงเห็นไอ้เรือรบก่อนกู...ใช่ไหมไอ้เอ" สองภพจ้องตาเพื่อนรัก
"เออ...กูขับรถสวนทางกับมันเมื่อวันก่อน"
"แล้วทำไมมึงไม่บอกกูวะ"
"ก็กูเห็นมึงกำลังทำงานอยู่ กูไม่อยากให้มึงไม่สบายใจ...แต่กูแจ้งตำรวจไปแล้วนะเว้ย..."
"ตำรวจเหรอ...ตำรวจที่นี่ก็มีแต่พวกมันทั้งนั้นแหละ" สองภพพูด
"แต่คนนี้ไม่ใช่นะโว้ย...กูเปิดเน็ตดูแล้ว...ตำรวจคนนี้แม่งเกลียดพวกค้าบ้าเข้าไส้เลยมึง...ตอนนี้เขากำลังเดินทางมาจากลำพูน"
"ถ้างั้นก็ดีเลย...ไอ้เอมึงฟังกูนะ พรุ่งนี้ตอนค่ำๆมึงเอาตำรวจของมึงไปปิดล้อมทางเข้าไร่ของไอ้เรือรบเอาไว้ก่อน...ส่วนกูกับลูกน้องเก่าของมันและก็แม่มันด้วย จะเลาะเข้าไปทางหลังรีสอร์ทเพื่อไม่ให้มันรู้ตัว...พวกกูจะเข้าไปพูดให้มันยอมมอบตัว เพราะกูมีหลักฐานสำคัญที่มันไม่มีทางจะปฏิเสธได้"
"แล้วไงต่อวะ...นายน้อย" สินชัยถามด้วยความตื่นเต้น
"แต่ถ้ามันไม่ยอมมอบตัว...เราก็ต้องใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจของมึง"
"แล้วถ้ามันยิงนายน้อยละครับ..." ลีซอถามด้วยความเป็นห่วง
"มันไม่กล้าหรอก...แม่มันก็อยู่"
"แต่ผมเป็นห่วงนายน้อยนะครับ"
"ให้พี่ทำเพื่อหนูแดงและลูกเถอะลีซอ...และพี่จะไม่ยอมให้ไอ้สามมันตาบอดฟรีๆหรอก"
"แต่ยังไงมึงก็ต้องระวังตัวนะโว้ยนายน้อย ใส่เสื้อเกราะไปด้วยซิวะ" สินชัยแนะนำ
..........................................
"ไอ้แสง...ไอ้แสง...ไอ้แสงโว้ย" ไอ้เจตวิ่งตะโกนเรียกเพื่อนยากลั่นป่ามาตลอดทาง
"กูอยู่นี้...มีอะไรวะไอ้เจต" ภูแสงวิ่งขึ้นมาจากลำธารทันที
"ไอ้เหี้ยรบมันกลับมาแล้ว...กูเห็นมันอยู่ในบ้าน"
"จริงๆเหรอวะ"
"ถึงกูจะเห็นมันแค่เงา...กูก็จำมันได้" ไอ้เจตยืนยันด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ดี...คืนนี้ปล่อยมันไปก่อน...พรุ่งนี้ค่อยจัดการกับมัน...เตรียมตัวให้พร้อมนะโว้ย"
"ได้เลยเพื่อน...กูพร้อมเสมอ"
27.
วันถัดมาในช่วงหัวค่ำ ไอ้มั่นได้พาหญิงวัยกลางคนมาหาสองภพตามที่นัดกันไว้ ผู้หญิงคนนั้นคือแม่ของนายเรือรบนั้นเอง แม่ที่คอยห้ามปรามลูกไม่ให้ทำงานผิดกฎหมายมาโดยตลอด แต่คำสั่งสอนของผู้เป็นมารดาก็ไม่เคยเข้าหูคนชั่วอย่างนายเรือรบได้เลย แต่วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสสุดท้ายของพ่อค้ายาบ้า สองภพจึงตัดสินใจพาแม่ของนายเรือรบมาเป็นตัวต่อรอง เพื่อหวังจะให้เขายอมใจอ่อนและมอบตัวแต่โดยดี ชายหนุ่มพาทั้งสองคนมาที่ท้ายรีสอร์ทคนเมืองคาว ซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งที่สามารถเข้าไร่ลิ้นจี่ของนายเรือรบได้ พวกเขาทั้งสามคนพากันเดินไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งถึงแหล่งกกดานของพ่อค้ายาบ้า
สองภพเดินเข้าไปหานายเรือรบซึ่งกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่ห้องโถง แล้วพูดว่า "ไอ้เรือรบ...กูมาแล้ว"
"ไอ้สอง...มึงเข้ามาได้ไงวะ" นายเรือรบหันมาตามเสียง แล้วพูดด้วยความตกใจ
"ไอ้รบ...มึงมอบตัวซะเถอะ"
"กูไม่ได้ทำอะไรผิดนี่หว่า...แล้วทำไมกูต้องมอบตัวด้วยวะ" นายเรือรบลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาสองภพ
"ก็มึงขับรถชนคนตาย"
"ใครตายวะ...กูไม่เห็นรู้เรื่อง...อย่ามาโยนขี้ให้กูนะเว้ย"
"ตกลงมึงไม่ยอมรับใช่ไหม ว่ามึงขับรถชนไอ้แสงในวันนั้น" สองภพพูดเสียงเข้ม
"เฮ้ย...กูไม่รู้เรื่องนะโว้ย ตอนนั้นกูไม่ได้อยู่เมืองไทย อย่ามั่วๆ" นายเรือรบปฏิเสธเสียงแข็ง
"คดีนั้นมึงคงจะหมดเงินไปเยอะซินะ...เรื่องมันถึงได้เงียบ แต่มึงไม่ต้องห่วง...คดีนี้มึงไม่รอดแน่ๆ" สองภพโยนแผ่นซีดีให้นายเรือรบอย่างผู้ชนะ
"เฮ้ย...ซีดีอะไรวะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกู"
"ถ้ามึงอยากรู้...ก็ถามไอ้มั่นเอาเอง" พอสองภพพูดจบ ไอ้มั่นกับแม่ของนายเรือรบก็เดินออกมาจากอีกมุมหนึ่งของห้อง
"ก็คดีที่มึงค้ายาบ้า...แล้วก็หลอกผู้หญิงพม่าไปขายภาคใต้ยังไงละไอ้สัตว์...เมียกูอยู่ไหน..ไอ้เหี้ย" ไอ้มั่นพูดด้วยความแค้น แล้วกระโจนเข้าหานายเรือรบในทันที แต่มันก็ต้องหยุดชะงักซะก่อน เพราะนายเรือรบชักปืนขึ้นมาอย่างทันควัน
"อย่าเข้ามานะมึง...ไม่งั้นกูยิงไส้แตกแน่" พ่อค้ายาบ้าตะโกนลั่นบ้าน
"มอบตัวเถอะลูก...อย่าทำบาปอีกเลย แม่ขอร้อง" เสียงอ้อนวอนจากผู้เป็นแม่
"แม่มาได้ยังไง...ฉันเคยบอกแล้วไง...ว่าอย่ามายุ่งกับเรื่องของฉัน" พ่อค้ายาบ้าหันซ้ายหันขวาด้วยความโทสะ แล้วพูดอีกว่า "ไอ้สอง...มึงพาแม่ของกูมาใช่ไหมวะ... ทำไมมึงต้องเสือกกับเรื่องของกูด้วย"
"ถ้ามึงไม่ทำให้ครอบครัวของกูต้องเดือดร้อน...กูก็ไม่อยากยุ่งกับเรื่องของมึงหรอกไอ้รบ" สองภพตอบโต้เสียงดัง
"ซีดีเหรอ...นี่แน่ นี่แน่ พังแล้วโว้ย" นายเรือรบหักซีดีและกระทืบจนแตกละเอียด "ทีนี่มึงก็ไม่มีหลักฐานแล้ว...จับกูไม่ได้หรอกโว้ย"
"มึงคิดว่ากูจะโง่ อัดไว้แผ่นเดียวเหรอวะ" สองภพพูด
"ไอ้เหี้ยเอ้ยยย...แม่งเสือกกับชีวิตของกูดีนัก...ไอ้สอง อย่าอยู่เลยมึง" นายเรือรบหันกระบอบปืนไปที่สองภพ แต่แม่ของเขาได้เข้าบังตัวสองภพเอาไว้ก่อน
"อย่านะลูก...อย่าฆ่าคนอีกเลย มันเป็นบาปเป็นกรรม มอบตัวเถอะลูก อืออออ อือออ"
"หลบไปแม่...ฉันจะยิงมัน" นายเรือรบยังเล็งปืนไปที่แม่บังเกิดเกล้า
"อย่ายิงนะลูก...มอบตัวเถอะ หนีไม่พ้นหรอก ตำรวจล้อมไว้หมดแล้ว อือ อือ..."
"ตำรวจ...ไม่ ไม่...ฉันไม่อยากติดคุก" นายเรือรบตะโกนลั่น แล้วก็วิ่งไปที่รถกระบะขับออกไปทางหลังไร่ที่ติดกับรีสอร์ทคนเมืองคาวอย่างรวดเร็ว
"ไอ้มั่น..มึงอยู่กับป้าก่อนนะเว้ย...กูจะตามมันไปเอง" สองภพตะโกนบอกไอ้มั่นแล้ววิ่งออกไปในทันที
"ระวังตัวด้วยนะนาย" ไอ้มั่นพูด
...................................
สองภพวิ่งไม่คิดชีวิตไปที่คอกม้าใน ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดในเวลานั้น ชายหนุ่มกระโดดขึ้นหลังม้าอย่างชำนาญ แล้วควบออกไปด้วยความเร็ว เขาขี่ม้าตามรถกระบะของนายเรือรบไปอย่างกระชั้นชิด
ในเวลาเดียวกันภูแสงและไอ้เจตก็ได้ออกตามล่านายเรือรบเช่นเดียวกัน สองหนุ่มเดินเลาะป่าจนมาถึงท้ายรีสอร์ทคนเมืองคาว แต่พวกเขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงอะไรบ้างอย่าง
"ไอ้แสง...เสียงรถ..." ไอ้เจตพูด
"ใช่จริงๆด้วยวะ...ใครขับรถเข้ามาในนี้วะ ข้างหน้าก็เป็นน้ำตก ไม่มีทางไปนี่หว่า"
"รอดูก่อนไอ้แสง...เผื่อเป็นแฟนกู"
"ไอ้ดารานั้นนะเหรอ"
"เออ" ไอ้เจตยิ้ม
"แล้วมันจะมาทำไมแถวนี้วะ" ภูแสงถาม
"มันอาจจะไปน้ำตกก็ได้นะโว้ย"
"มืดแล้วนะเว้ย...มันจะไปทำเหี้ยอะไร"
"นั้นนะซิ...มันอาจจะคิดถึงกูก็ได้นี่หว่า"
"แต่กูว่าไม่ใช่ไอ้ดาราวะ...เสียงรถแม่งคุ้นๆหู" ภูแสงมองรถที่กำลังเข้ามาใกล้ๆจนเห็นได้ถนัดตา
"ไอ้เรือรบ" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนพูดเสียงดัง
"เฮ้ย...ไอ้แสง นั้นใครขี่ม้าตามมาวะ" ไอ้เจตชี้ให้ภูแสงดู
"นายน้อย"
"นี่เหรอวะนายน้อยของมึง...ทำไมแม่งใจกล้าอย่างงี้วะ...ขี่ม้าตามฆาตกร สุดยอดว่ะ กูนับถือจริงๆ"
"นี่แหละเจ้าของชีวิตกู..." ภูแสงยิ้มอย่างดีใจ ที่เขาได้พบชายอันเป็นที่รักอีกครั้ง "ไอ้เจต...เดี๋ยวมึงไปข้างหลังไอ้เรือรบ แต่อย่าเพิ่งยิงปืนนะเว้ย...เดี๋ยวโดนนายน้อยของกู"
"เออๆ...กูรู้ๆ...แล้วมึงละ" ไอ้เจตถาม
"กูจะไปช่วยนายน้อย...กูไม่ไว้ใจไอ้เหี้ยรบ"
นายเรือรบขับรถเข้ามาจนถึงทางตัน ส่วนสองภพขี่ม้าเลาะมาตามเส้นทางเล็กๆ จนสามารถตามทันพ่อค้ายาบ้าได้ในเวลาไม่นานนัก
"มึงจะหนีไปไหน...มอบตัวเถอะไอ้รบ...ไม่มีทางไปแล้ว" สองภพกระโดดลงจากหลังม้าและเดินเข้าไปอย่างช้าๆ
"ไอ้สัตว์...อย่ามายุ่งกับกู...อย่าเข้ามานะโว้ย" นายเรือรบก้าวลงจากรถและกำลังมองหาช่องทางหนี เขาเล็งปืนไปที่สองภพอยู่ตลอดเวลา
"มอบตัวเถอะ...แล้วโทษหนักจะกลายเป็นเบา...เชื่อกู"
"เป็นเพราะมึงไอ้สอง...กูถึงต้องหนีเป็นหมาจนตรอกอย่างนี้ ถ้ากูจะติดคุกละก็...มึงต้องตายเสียก่อน...ไอ้สัตว์" นายเรือรบไม่ยอมสำนึกผิด
"วางปืนลง" เสียงไอ้เจตตะโกนอยู่ด้านหลัง
"ใครวะ" นายเรือรบกำลังจะหันไปดู
"อย่าหันมานะโว้ย...กูบอกให้มึงวางปืนลงไงละ"
"กูยอมแล้ว...กูยอมแล้ว อย่าทำอะไรนะเว้ย"
"รอให้หมามันพูดได้ก่อนเถอะ...กูถึงจะเชื่อมึง...วางปืนลง" ไอ้เจตตะโกนดังขึ้นกว่าเก่า
นายเรือรบค่อยๆย่อตัวลงกับพื้น ทำทีท่าว่าจะวางปืน แล้วทันใดนั้นเขาก็กำดินทรายไว้ในมือแน่น แล้วหันมาปาใส่หน้าไอ้เจตโดยที่มันยังไม่ทันตั้งตัว "อ้ากกก" ไอ้เจตร้องด้วยความเจ็บปวดแล้วทรุดลงกับพื้น
"ไอ้รบ...มึงหนีไปไหนไม่รอดหรอก..มอบตัวซะเถอะ" สองภพตะโกนบอกอีกครั้ง
"ไอ้สอง..มึงตาย..ไอ้เหี้ย..ไอ้ตุ๊ด..ไอ้หมารอบกัด" พ่อค้ายาบ้าเล็งปืนไปที่สองภพทันทีที่ได้โอกาส
"นายน้อยหลบ" เป็นเวลากันกับที่ภูแสงกระโดดเข้ามาบังตัวของสองภพเอาไว้
"ปัง" "ปัง" "ปัง"
กระสุนนัดแรกเจาะเข้าที่ลำตัวของภูแสง
กระสุนนัดที่สองเจาะเข้าที่ไหล่ขวาของเขา
กระสุนนัดที่สามเจาะเข้าที่ขั้วหัวใจของไอ้หนุ่มเลือดร้อน
เรือนร่างของภูแสงถลาล้มลงไปกับพื้นในอ้อมกอดของชายอันเป็นที่รัก
"ไอ้แสง ไอ้แสง ทำไมต้องทำอย่างนี้วะ...ไอ้แสง" สองภพกอดเพื่อนรักไว้แน่นด้วยความงงระคนตกใจ ที่อยู่ๆก็เห็นภูแสงโผล่ออกมา
ส่วนนายเรือรบกระโดดขึ้นรถและกำลังจะถอยหนีออกไป ไอ้เจตตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า แล้วตะโกนว่า "มึงยิงเพื่อนกูทำไม...ไอ้เหี้ยรบ มึงตาย อือ...อือ.." มันกระโดดขึ้นรถของพ่อค้ายาบ้าในทันที
"ไอ้แสง...ทำใจดีๆไว้นะเว้ย เดี๋ยวกูจะพามึงไปหาหมอ อือ อือ" สองภพน้ำตาไหลออกมาด้วยความเสียใจ
"นายย..น้อย อึก อือ กูขอโทษ กึก อึกกก" ไอ้หนุ่มเลือดร้อน เลือดไหลอาบไปทั่วร่างกาย
"ไอ้แสง..มึงต้องไม่เป็นอะไรนะ...อดทนไว้นะเพื่อนรัก...ไป..ไปขึ้นม้ากับกู...กูจะพามึงไปโรงพยาบาล อืออออ อืออออ" ชายหนุ่มพยายามพยุงภูแสงให้ลุกขึ้น
"ไม่...ไม่..ต้อง กุ กู รู้ตัว อึก กึก อะ อะ เอา..ตา...ของ..กูให้...นายเล็ก...ดวย ด้วย อึก อึก เอาตา..ของกูให้..อ่า อ่า..นายเล็กด้วย"
"ไม่...ไอ้แสง มึงต้องไม่เป็นอะไร อือ อือ ไหนมึงบอกว่า...มึงจะไม่ทิ้งกูไปไหน อือ อือ ไอ้แสง กูรักมึง อย่าเป็นอะไรนะเพื่อน อืออออ...."
"ความ...ตาย...เท่า...นั้น...ที ที่จะพราก อ่า อ่า อึก กูไปจาก...มึง..."
"ไม่เอา...กูไม่เอา กูอยากให้มึงอยู่กับกู อือออ อือออ"
"กู...จะ อุ อยู่ ที่ คน...เมือง..คาว กับมึง ตะ..ตลอด..ไป กึก อึก อึก กู...รัก..มึง...นา นายน้อยยยยยย" แล้วลมหายใจสุดท้ายของภูแสงก็หมดลงในอ้อมกอดของชายคนที่เขารักเท่าชีวิต
"ไอ้แสง....ไอ้แสงงงงงง อย่าทิ้งกูไป อ้าาาา อืออออ"
..............................
นายเรือรบขับรถออกมาด้วยความเร็ว เขาขับหนีอย่างไม่คิดชีวิต โดยมีไอ้เจตค่อยนั่งแย่งพวงมาลัยอยู่ข้างๆ
"มึงยิงเพื่อนทำไม...มึงตายซะเถอะไอ้รบ"
"กูไม่รู้...กูไม่ได้ยิง ปล่อย ปล่อยกู"
"มึงจะไปไหน...ไอ้เหี้ย มึงหนีไม่พ้นหรอก"
นายเรือรบขับมาถึงหน้าไร่ลิ้นจี่อย่างรวดเร็ว แล้วเลี้ยวผ่าด่านตำรวจออกไปทางถนนใหญ่ รถส่ายไปส่ายมาอยู่ตลอดเวลา เพราะไอ้เจตค่อยแย่งพวงมาลัยและบังคับให้พ่อค้ายาบ้าหยุดรถ
"หยุดรถนะไว้ย..." ไอ้เจตตะโกนสั่ง
"กูไม่หยุด...กูจะหนีโว้ย...อย่ามายุ่งกับกู"
"กูบอกให้มึงหยุด...ถ้าไม่หยุด...มึงตาย...ตาย" ไอ้เจตบ้าคลั่ง
รถตำรวจไล่ล่าตามมาติดๆ ยิ่งทำให้นายเรือรบเหยียบคันเร่งเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว เขาขับรถมาถึงทางโค้งอันตราย และอยู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้นในรถหลายนัดติดๆกัน "ปัง ปัง ปัง ปัง" รถเสียหลักส่ายไปส่ายมาจนน่ากลัว แล้วแหกโค้งพุ่งลงเหวลึกในทันที "โครม โครม โครม" เสียงรถกระแทกกับโขดหินเป็นระยะๆ จนกระทั่งระเบิดไฟลุกโชนไปทั้งคัน เสียงสนั่นดังลั่นถนน "โครมมมมมม"
28.
(ความเดิม)
รถตำรวจไล่ลาตามมาติดๆ ยิ่งทำให้นายเรือบรบเหยียบคันเร่งเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว เขาขับรถมาถึงทางโค้งอันตราย และอยู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้นในรถหลายนัดติดๆกัน "ปัง ปัง ปัง ปัง" รถเสียหลักส่ายไปส่ายมาจนน่ากลัว แล้วแหกโค้งพุ่งลงเหวลึกในทันที "โครม โครม โครม" เสียงรถกระแทกกับโขดหินเป็นระยะๆ จนกระทั่งระเบิดไฟลุกโชนไปทั้งคัน เสียงสนั่นดังลั่นถนน "โครมมมมม"
.........................................
สองภพอุ้มร่างที่ไร้วิญญาณของไอ้หนุ่มเลือดร้อนขึ้นบนหลังม้ามณีดินซึ่งเป็นม้าตัวโปรดของภูแสง แล้วขี่ออกไปอย่างช้าๆด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาตลอดทาง ชายหนุ่มกอดเพื่อนรักไว้ในอ้อมแขน โดยปล่อยให้ม้ามณีดินเดินไปเองอย่างอิสระ เจ้าม้าตัวเก่งก็เหมือนจะรู้ว่าเจ้านายของมันต้องการจะไปไหน มันค่อยๆเดินไปอย่างช้าๆด้วยความเศร้าไม่ต่างอะไรกับผู้ที่อยู่บนหลังของมัน
"ไอ้มณีดินเอ๋ย...ฮืออออ อือ...เจ้านายของเอ็งมันทิ้งพวกเราไปแล้ว อือ ฮือออออ....ทำไมมึงต้องยอมตายแทนกูด้วย...ไอ้แสง ฮือออ ฮือออ" ชายหนุ่มพึมพัมด้วยความเศร้า
ไม่นานนักม้ามณีดินก็พาสองภพและเจ้านายที่ไร้วิญญาณของมันเดินมาจนถึงบ้านพักของลุงคำแสง
"ป้อคำ...นายน้อยมาแล้วครับ" ลีซอพูดออกมาเมื่อหันไปเห็นชายคนรักนั่งอยู่บนหลังม้าและกำลังเดินเข้ามาใกล้ๆ
"นายน้อยมากับใครวะ" ลุงคำแสงถาม
"ผมก็บ่อฮู้คับ..."
จนกระทั่งม้ามณีเดินมาเข้ามาหยุดอยู่หน้าบ้าน สองพ่อลูกต่างสายเลือดอุทานออกมาแทบจะเป็นเสียงเดียวกันว่า "อ้ายแสง" ลีซอ , "ไอ้แสง" ลุงคำแสง
"ลีซอ...ช่วยพี่ด้วย" สองภพพูดอย่างหมดแรง ชุดคาวบอยที่เขาสวมใส่อยู่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดของไอ้แสงผู้ซื่อสัตย์
"นายน้อย...อ้ายแสงเป็นอะไรครับ" ทั้งลีซอและลุงคำแสงต่างก็วิ่งกรูไปที่ม้ามณีดิน เพื่อพยุงร่างของภูแสงลงมาจากหลังม้า
"ไอ้แสง...เอ็งเป็นอะไรลูก ทำไมมีแต่เลือด...นายน้อย ลูกผมไปโดนอะไรมาครับ" ลุงคำแสงถามด้วยความตกใจเมื่อเห็นสภาพของลูกชาย
"ไอ้แสง...ไอ้แสง...มันตายแล้วววว ฮืออออ ฮือออออ" สองภพตอบทั่งน้ำตา
"อะหยังก่อนายน้อย...นายน้อยอู้เล่นแมนก่อครับ" ลีซอเขย่าร่างพี่ชายนอกสายเลือด "อ้ายแสงตื่น...อ้ายแสงครับ...ตื่น...ผมบ่อหื้ออ้ายแสงตาย ตื่น ตื่น อือ อืออออออ" ลีซอไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
"ฮืออออ...โธ่...ไอ้แสงลูกพ่อ ใครทำเอ็ง อือ อือ...ใครทำมันครับนายน้อย...ฮืออออออ" ชายชราหันไปถามสองภพด้วยสติ
"ไอ้เรือรบ...มันยิง...อือ"
"พ่อเคยบอกเอ็งแล้ว ว่าอย่าไปยุ่งกับมัน...เพราะเอ็งมันเป็นคนใจร้อน อือ...อือออ ทำไมเอ็งถึงไม่เชื่อพ่อ...โธ่..ไอ้แสง แล้วพ่อจะอยู่กับใครละลูก อือ อือออออ" ชายชรากอดศพลูกชายไว้ด้วยความรัก ส่วนลีซอก็นั่งร้องไห้จับขาของภูแสงไว้ไม่ยอมปล่อย "ฮืออออ อืออ...อือออ"
"ไอ้แสง...มันไม่ได้ทำอะไรหรอกลุง มันช่วยชีวิตผมไว้...ไอ้เรือรบมันจะยิงผม แต่ไอ้แสงมันเข้ามาขวางไว้ครับ อือ อือ โดยที่มัน....อือออ"
"อะไรนายน้อย...โดยที่อะไร" ชายชราถาม
"โดยที่มัน...ไม่รู้ว่าผมใส่เสื้อเกราะอยู่ อือ อือ"
"อ้ายแสงคงเป็นห่วงนายน้อยครับ...คงไม่อยากให้นายน้อยเป็นอันตราย อือ อือออ" ลีซอพูด
"ผมเสียใจครับลุง...ผมขอโทษครับ ที่เป็นต้นเหตุทำให้ลูกชายของลุงต้องมาตาย อือออออ อือ อือ" สองภพก้มกราบลุงคำแสงด้วยความสำนึกผิด
"ไอ้แสงมันคงจับบุญมาได้น้อย...อือ...อืออ...มันถึงอยู่กับพวกเราได้แค่นี้ ฮืออออ" ลุงคำแสงเอามือที่เปื้อนเลือดของลูกชายเอื้อมไปลูบหัวของสองภพเบาๆ แล้วพูดว่า "ไม่มีใครตายแทนใครได้หรอกครับนายน้อย...คงถึงคราวของมัน อือออ อืออออ"
"กริ่งงง กริ่งงง กริ่งงงง" เสียงโทรศัพท์ของสองภพดังขึ้น
"ฮัลโหล...ว่าไงไอ้เอ" ชายหนุ่มรับสายอย่างรีบร้อน
"ไอ้เรือรบ...ตายแล้วนะโว้ย มันแหกด่านตำรวจแล้วขับรถไปตกเหวตรงทางโค้งเข้าไร่ของมัน..รถระเบิด...ศพแม่งไหม้เป็นตอตะโกเลยวะ" สินชัยรายงานความสำเร็จ
"แล้วไอ้เจตละ"
"ไม่มีนี่หว่า...ตำรวจกู้รถขึ้นมา...กูเห็นมีแต่ศพไอ้เรือรบคนเดียว" สินชัยทำเสียงงง
"ก็กูเห็นมันกระโดดขึ้นรถไอ้เหี้ยรบไปด้วยนะเว้ย"
"แต่ตำรวจยังหาศพไม่เจอว่ะ"
"ขออย่าให้มันเป็นอะไรเลย" สองภพพูด
"แค่นี้ก่อนนะโว้ยนายน้อย...เดี๋ยวกูจะให้ตำรวจตรวจดูบริเวณรอบๆอีกที"
"เออ เออ" สองภพวางสาย
"ป้อคำ...ไผ่มาครับ" ลีซอมองไปทางผู้ที่กำลังเดินลากขาเข้ามาอย่างช้าๆ
ไอ้เจตในสภาพที่สะบักสะบอมปรางตาย เลือดไหลอาบเต็มตัวจนน่ากลัว
"ไอ้เจต" ลุงคำแสงตะโกนดัง สองภพหันไปมองและวิ่งเข้าไปช่วยพยุง
"ไอ้แสง...ไอ้แสงเพื่อนรัก...กูแก้แค้นให้มึงแล้ว อืออ อือ" ไอ้เจตทรุดตัวลงนั่งทันทีที่เห็นศพของภูแสงนอนอยู่บนแคร่
"นี่ไอ้เจตครับนายน้อย...เพื่อนของไอ้แสงมัน อือ อือ" ลุงคำแสงหันไปบอกนายน้อย
"ผมรู้แล้ว..."
"กูฆ่าไอ้เหี้ยรบให้มึงแล้ว...กูยิงมันที่กระโหลกจนหัวสมองมันกระจุย...กูฆ่ามันแล้ว มึงฟื้นขึ้นมาซิไอ้แสง...ไอ้เพื่อนรัก ฟื้นซิเว้ย ฟื้น อือออ ฟื้นซิไอ้แสง อืออออ" ไอ้เจตใช้มือขวาเข่ยาตัวเพื่อนรักแล้วร้องไห้แทบขาดใจ
"ไอ้แสงมันไปดีแล้วลูก อือ อืออออ และเอ็งละไอ้เจต...ทำไมถึงมีสภาพแบบนี้" ชายชราถาม
"ฮือ..อือ..พอผมยิงไอ้เหี้ยรบตายคามือ...รถของมันก็จะพุ่งลงเหว...ผมกระโดดออกมาก่อนที่รถของมันจะตกลงไป...อือ ผมหลบตำรวจอยู่พักนึง...แล้วผมก็เดินมาที่นี่...มาหาไอ้แสง...เพราะผมรู้ว่านายน้อยต้องพาไอ้แสงมาที่นี่ อือ อือออ อึก กึก กึก"
"เจต...ฉันเสียใจนะ...ที่ช่วยเพื่อนของนายเอาไว้ไม่ได้ อือ อือออ" สองภพพูดเบาๆ
"นายน้อยครับ...กึก...กึ..ไอ้แสงเพื่อนผม มันรักนายน้อยมากนะครับ อือ อืออ มันเป็นคนดีนะครับ...มันพูดถึงนายน้อยให้ผมฟังทุกวัน...อึก อึก จนทำให้ผมอยากจะมีความรักเหมือนมัน อึก กึก แล้วผมก็ได้เจอความรักของผม กึก...แต่..แต่ผมคงไม่มีโอกาสได้ใช้มันอีกแล้ว กึก ฮือออ...นายเคนของผม...อือออ อือออ กึก อึก" ไอ้เจตพยุงร่างของตัวเองไม่ไหว มันหมดแรงแล้วล้มตัวลงข้างๆศพของภูแสง
"นายเสียเลือดไปมากนะเจต...ฉันจะพานายไปโรงพยาบาล" สองภพพูด
"ไม่ครับ...ผมไม่ไป...ถ้าผมจะตาย...ผมขอตายข้างๆเพื่อนของผม อือ อือ กึก กึก กึก" เลือดของไอ้เจตไหลทะลักออกมาทางปากทางจมูกไม่ยอมหยุด
"ไอ้เจต...ไปโรงพยาบาลเถอะลูก" ลุงคำแสงพูด
"ไม่ ไม่ไป อึก กึก กึก นายเคน...นายเคน ผมรักนาย กึก อึก กึก รักมากกกกก"
ร่างกายของไอ้เจตบอบช้ำมากเกินไป เลือดไหลออกมาแทบทุกจุดไม่ยอมหยุด แล้วสุดท้ายมันก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ขาดใจตายข้างๆศพของภูแสงนั้นเอง
.........................................
"สามครับ...สามได้ตาแล้วนะ" สองภพพูดกับสามเมืองในขณะที่อยู่ในห้องนอนกันสองคน
"จริงๆเหรอครับพี่สอง...สามจะมองเห็นแล้วเหรอครับ ดีใจจังเลย สามจะได้เห็นหน้าพี่สองแล้ว"
"แต่สามต้องรักษาดวงตาคู่นั้นไว้ให้ดีๆนะครับ...เพราะเจ้าของดวงตาเขาต้องการจะมอบให้สามโดยตรง" สองภพหอมหน้าผากน้องชายเบาๆ
"ครับพี่สอง...สามจะดูแลให้ดีที่สุด...ว่าแต่ใครบริจาคดวงตาให้สามเหรอครับ...ถ้าผ่าตัดเสร็จแล้ว สามจะได้ไปขอบคุณครอบครัวของเขา"
"สักวันนึงพี่จะบอกสามนะครับ...แต่ตอนนี้สามต้องดูแลตัวเองให้ดีๆนะครับ ร่างกายจะได้แข็งแรงก่อนเข้าห้องผ่าตัด" สองภพจับมือน้องชายไว้ด้วยความรัก
"สามรักพี่สองครับ"
.........................................
แล้ววันผ่าตัดเปลี่ยนดวงตาของสามเมืองก็มาถึง ทุกคนในครอบครัวมาให้กำลังใจชายหนุ่มกันอย่างถ้วนหน้า จะมีก็แต่สองภพที่ไม่ได้มาในวันนี้
"คุณแม่ครับ...พี่สองไปไหน ทำไมสามไม่ได้ยินเสียงพี่สองเลยครับ" สามเมืองถาม
"พี่เขาติดธุระอยู่จ๊ะ...เดี๋ยวก็คงจะมา" คุณขวัญเชิญตอบ
"ได้เวลาเข้าห้องผ่าตัดแล้ว...สามพร้อมนะลูก" นายใหญ่เดินเข้ามาพร้อมกับหมอและพยาบาล
"ไม่เอา...สามจะรอพี่สองก่อน"
"รอไม่ได้นะสาม...เพราะนี่เป็นเวลาที่หมอเขานัดไว้" หนึ่งสยามเอ็ดน้อง
"แล้วพี่สองไปไหนล่ะ" สามเมืองเริ่มงอแง
"ไอ้สอง...มันไปขอบคุณ คนที่บริจาคดวงตาให้สามยังไงล่ะ" หนึ่งสยามพูด
"จริงเหรอครับพี่หนึ่ง...แล้วเขาเป็นใครอ่ะ ทำไมพี่สองไม่ยอมบอกสามเลยครับ"
"สามไม่ต้องห่วงนะ...ยังไงไอ้สองมันก็ต้องมาหาสามอยู่แล้วน่า" หนึ่งสยามปลอบใจน้องชายคนเล็ก
"พร้อมนะลูก..." คุณขวัญเชิญจับมือลูกชายให้กำลังใจ
"ครับคุณแม่...สามพร้อมแล้วครับ" สามเมืองยิ้มสู้
"ถ้าอย่างงั้นเชิญครับ" แล้วคุณหมอและพยาบาลก็เข็นรถของสามเมืองเข้าไปในห้องผ่าตัด
"ทำไมเราไม่บอกลูกละคะ...ว่านายแสงให้ตากับแก" คุณขวัญเชิญถามผู้เป็นสามี
"ก็ไอ้สองมันห้ามไว้น่ะซิ...มันคงอยากให้ไอ้สามมองเห็นซะก่อน...แล้วค่อยว่ากันอีกที" นายใหญ่พูด
"ไอ้สองมันคงมีเหตุผลของมันน่ะครับคุณแม่...ผมเชื่อใจมัน...ไอ้นี่มันรอบครอบจะตาย" หนึ่งสยามพูดถึงน้องชายคนกลาง
......................................
หลังจากงานศพของภูแสงและเจตผ่านไป สถานการณ์ในรีสอร์ทคนเมืองคาวก็เข้าสู่ภาวะปรกติ ศพของภูแสงและเจตได้ถูกนำมาฝังไว้ที่ท้ายไร่ของรีสอร์ทคนเมืองคาว ตามความต้องการของภูแสงที่เคยบอกกับสองภพก่อนตายไว้ว่า เขาจะอยู่ที่คนเมืองคาวกับสองภพตลอดไป ลุงคำแสงและลีซอคอยมาดูแลและปลูกไม้ดอกไม้ประดับไว้บริเวณรอบๆนั้นอย่างสวยงาม
"ไอ้แสง...วันนี้เป็นวันผ่าตัดดวงตาของน้องชายกู...กูมาขอพรจากมึง ดวงตาสวรรค์ของมึงอาจจะทำให้คนที่กูรักมองเห็นได้อีก อือ อือ กูเองก็อยากจะมองดวงตาคู่นั้นของมึงอีกครั้ง ดวงตาแห่งความรักของมึงที่โขงเจียมในคืนนั้น ดวงตาแห่งความภักดีของมึงที่มีให้กูมาตลอด อือ อือออ ดวงตาของคนที่รักกูเท่าชีวิต...กูอยากจะบอกให้มึงรู้ว่า กูยังจดจำดวงตาคู่นั้นของมึงได้ดี ไม่มีวันลืม อือ....ไอ้แสงถ้ามึงได้ยินกูพูด ขอให้มึงช่วยให้ผ่าตัดในครั้งนี้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นด้วยนะเพื่อน อือออ ไอ้แสง..กูรักมึง...ไอ้เพื่อนรัก" สองภพพูดด้วยน้ำตาและวางดอกทานตะวันที่เขาปลูกเองกับมือ ไว้บนหลุมฝังศพของภูแสง
29.
วันนี้ดาราหนุ่มเดินทางมาถึงคนเมืองคาวด้วยอาการร้อนรนระคนดีใจ พอรถจอดที่หน้าร้านอาหารครัวคาวบอย เคนก็กระโดดลงจากรถอย่างรวดเร็ว เขาวิ่งเข้าไปข้างในร้านด้วยสีหน้าแจ่มใสอารมณ์เบิกบานไม่น้อยทีเดียว
"สวัสดีครับพี่เอ...มีบังกะโลว่างสักหลังไหมครับ" ดาราหนุ่มถามทันทีเมื่อเห็นหน้าคนที่คุ้นเคย
"เออ...หวัดดีเคน...มาคนเดียวเหรอวะ" สินชัยตอบด้วยใบหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
"คนเดียวครับพี่...ผมมาหาใครบ้างคนอ่ะ..."
"มาหาใครวะ?" สินชัยถาม
"พี่เอคงไม่รู้จักหรอก เออ...พี่เอบังกะโลกระโจมที่๑๙ว่างหรือเปล่าครับ ผมอยากอยู่หลังนั้นน่ะ...มันใกล้น้ำตกดี"
"ว่าง..แล้วมึงจะพักกี่คืนละ"
"ยังไม่รู้เลยพี่...แต่คงนานน่ะครับ"
"ไอ้เคน...กูว่ามึงมาพักกระโจม๗ดีกว่า ใกล้ๆพวกกูหน่อย" สินชัยพูดด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เอาพี่...ผมอยากอยู่เงียบๆครับ" ดาราหนุ่มอมยิ้มอย่างมีเลศนัย สินชัยได้แต่มองหน้าของเคน แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
"สวัสดีครับพี่เคน" ต่อศักดิ์เดินเข้ามาทักทาย
"สวัสดีต่อ..."
"ไอ้ต่อ...เดี๋ยวมึงขับรถไปส่งเคนที่กระโจม๑๙หน่อยนะโว้ย" สินชัยมองไปที่แฟนหนุ่ม
"ครับพี่เอ"
"ไปเถอะต่อ..พี่อยากเล่นน้ำตกอ่ะ ร้อนจะตายอยู่แล้วครับ" เคนพูดพร้อมกับเดินนำหน้าหนุ่มพเนจรออกไปด้วยความใจร้อน
.................................
ที่โรงพยาบาลใจกลางเมืองเชียงใหม่ วันนี้เป็นวันที่ทุกคนต่างก็รอคอยดวงตาสวรรค์ของไอ้หนุ่มเลือดร้อนอย่างภูแสง ความดีครั้งสุดท้ายของเขาในครั้งนี้ ได้สร้างความระทึกใจให้กับทุกคนในครอบครัวของนายน้อยได้อย่างน่าชื่นชม นายใหญ่กับคุณขวัญเชิญยืนกุมมือกันแน่นอยู่ที่ปลายเตียงของลูกชายคนเล็ก เพื่อรอลุ้นผลการเปิดดวงตาคู่ใหม่ของสามเมือง หนึ่งสยามยืนอยู่ข้างๆน้องชาย จ้องมองการทำงานของหมอและพยาบาลอย่างไม่คาดสายตา สองภพยืนกำมือตัวเองไว้แน่นและลุ้นสุดชีวิต
"ผมจะค่อยๆเปิดผ้าพันแผลออกนะครับ..." คุณหมอพูดเสียงดังพอที่จะทำให้ทุกคนในห้องได้ยิน
"โชคดีนะลูก...ตาสามของแม่ อืออออ...." ผู้เป็นมารดาอดที่จะร้องไห้ไม่ได้ ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ใช่สายเลือดในอกก็ตามที แต่ความผูกพันและความรักที่มีอยู่ในใจมันมากมายเสียเหลือเกิน
"เบาๆนะครับ...เดี๋ยวน้องผมเจ็บ" สองภพมองหน้าหมอและพยาบาล
"พี่สอง...พี่สองอยู่ไหน" สามเมืองถามทันที เมื่อได้ยินเสียงพี่ชายสุดที่รัก
"พี่อยู่ตรงนี้...อยู่ข้างๆสามครับ"
"สามจะมองเห็นหรือเปล่าครับ..." เสียงของสามเมืองไม่สู้ดีนัก
"เห็นซิลูก...แกจะต้องมองเห็นเหมือนเดิม...ไอ้ตัวยุ่งของพ่อ" นายใหญ่พูดกับลูกชายคนเล็ก
หมอและพยาบาลเปิดผ้าพันที่ดวงตาของสามเมืองออกจนหมด แต่เขาก็ยังคงนั่งนิ่งเฉยหลับตาอยู่อย่างงั้นเป็นเวลานานทีเดียว
"ค่อยๆลืมตานะครับ..." คุณหมอเริ่มแนะนำ
สองภพเดินเข้าไปจับมือน้องชายไว้แน่น หนึ่งสยามถือกระจกไว้ในมือ นายใหญ่กับคุณขวัญเชิญเดินเข้ามายืนข้างๆคุณหมอ
"เอาละครับ...ลืมตาได้แล้วครับ ค่อยๆนะครับ" หลังจากที่หมอพูดจบ สามเมืองก็ค่อยๆลืมตาขึ้นทีละนิดๆ
"สาม...เห็นแม่หรือยังลูก"
"ไม่เห็น...ไม่เห็น..โอ้ย..." สามเมืองเสียงสั่น
"ไอ้สาม...เป็นไงบ้าง เห็นอะไรหรือเปล่าวะ" หนึ่งสยามหันไปมองหน้าสองภพอย่างใจเสีย
"ช้าๆนะครับ..ให้สายตาปรับแสงก่อนนะครับ" หมอพูด
"เห็นหรือยังสาม...เห็นพี่ไหม...พี่อยู่ข้างหน้าสามนี่ไง" สองภพบีบมือน้องชายให้กำลังใจ
"เดี๋ยวผมจะให้พยาบาล เปิดผ้าม่านแล้วนะครับ..."
พยาบาลสาวเดินไปเปิดผ้าม่านตามที่คุณหมอบอก แสงสว่างส่องเข้ามาภายในห้องมากขึ้นเป็นเท่าตัว สามเมืองลืมตาขึ้นจนสุดเปลือกตา ชายหนุ่มยังมีอาการเคืองตาอยู่มากทีเดียว แสงสว่างเข้ามากระทบกับดวงตาคู่ใหม่จนเกิดอาการปวด
"โอ้ย...สามเจ็บตา โอ้ยยย"
"เจ็บมากไหมครับคุณสามเมือง" คุณหมอถาม
"ไม่มากครับ"
"ถ้างั้น..ลองมองไปที่พี่ชายของคุณนะครับ เขายืนอยู่ตรงด้านขวามือของคุณครับ"
สามเมืองค่อยๆเพ่งสายตาไปที่สองภพตามคำแนะนำของคุณหมอ ชายหนุ่มเห็นภาพลางๆมัวๆไม่กระจ่างเท่าที่ควร แต่แล้วสักพักดวงตาสวรรค์ของภูแสงก็ได้สว่างสดใสอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาของสามเมืองอีกครั้งหนึ่ง
"พี่สอง...พี่สอง..สามมองเห็นพี่สองแล้ว พี่สองใส่เสื้อสีดำใช่ไหมครับ อือออ สามมองเห็นแล้ว"
"สาม...อืออ โชคดีเหลือเกินลูกแม่ หมดทุกข์หมดโศกสักทีนะลูก"
"เยสสสส" หนึ่งสยามตะโกนด้วยความดีใจ
สองภพจ้องมองดวงตาของภูแสงที่อยู่บนใบหน้าของสามเมืองอย่างซาบซ้้งจนกั้นน้ำตาไม่อยู่ แล้วพูดว่า
"แววตาของมึงที่มองกู อืออ..ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยนะไอ้แสง...กูจำแววตาของมึงได้เสมอเพื่อน อือออ...ขอบใจมึงมาก ที่มอบชีวิตใหม่ให้น้องกู"
"พี่สอง...สามดีใจครับ...สามมองเห็นแล้ว คุณพ่อคุณแม่,พี่หนึ่ง สามมองเห็นแล้ว อือออ..."
"ดีใจด้วยนะไอ้สาม...เอ่า ดูกระจกซิ...ยังหล่อเหมือนเดิมหรือเปล่า" หนึ่งสยามส่งกระจกให้น้องชาย
"ขอบใจเอ็งมากไอ้แสง...ข้าสัญญาว่า...ข้าจะดูแลพ่อของเอ็งให้ดีที่สุด" นายใหญ่พูดเบาๆ
"น่าแปลกนะครับ...ที่อยู่ๆคุณภูแสงก็ได้ช่วยชีวิตคุณสามเมืองไว้ถึงสองครั้ง...ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกันเลย" คุณหมอพูดด้วยรอยยิ้ม
"สองครั้ง..ยังไงครับหมอ" สองภพถาม
"ก็ตอนที่เกิดอุบัติเหตุครั้งที่แล้วยังไงครับ...ตอนนั้นคุณสามเมืองเสียเลือดไปมาก และเลือดของคุณสามเมืองเป็นเลือดกรุ๊ปพิเศษด้วย...ซึ่งหายากมากครับ ถ้าเราไม่ได้เลือดของคุณภูแสงช่วยเอาไว้ในตอนนั้น ก็คงจะแย่ครับ"
"เลือดของไอ้แสง" สองภพย้ำเสียงดัง
"ใช่ครับ...แต่หลังจากที่คุณภูแสงได้ให้เลือดเสร็จแล้ว ก็ขอร้องผมว่า...ให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ก่อนที่จะหายตัวออกไปจากโรงพยาบาล"
"แล้วทำไม..คุณหมอเพิ่งมาบอกละครับ" หนึ่งสยามถาม
"เพราะผมเห็นว่า...ยังไงคุณภูแสงก็เสียชิวิตไปแล้ว...ความดีของเขาที่ได้กระทำไว้ พวกเราก็ควรจะจดจำไว้นะครับ...อย่างน้อยที่สุดคนที่จากเราไป จะได้นอนตาหลับครับ"
"แล้วเลือดของพี่สองละครับ...ไม่ใช่กรุ๊ปเดียวกับผมเหรอ" สามเมืองถามขึ้นมาโดยที่ทุกคนไม่ทันตั้งตัว
"เออ..ไม่ใช่ครับ...เลือดของคุณสองภพเป็นกรุ๊ป..." คุณหมอยังพูดไม่จบ อยู่ๆคุณขวัญเชิญก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน
"พี่สองเขาเลือดกรุ๊ปเดียวกับคุณพ่อจ๊ะ...ส่วนของสามน่ะ เลือดกรุ๊ปเดียวกับแม่ยังไงละ...แต่ตอนนั้นแม่อยู่ที่อเมริกา เรื่องมันก็เลยยุ่งๆแบบนี้ เห้อออ" ทุกคนหันไปมองคุณขวัญเชิญอย่างโล่งอก
"ไอ้แสง...ที่แท้มึงก็เป็นฮีโร่ของครอบครัวกูมาตลอด ไอ้เพื่อนรัก..." สองภพพูดเบาๆ
"พี่สอง...สามอยากไปไหว้พี่ภูแสงครับ สามอยากจะไปขอบคุณพี่แสงที่ช่วยชีวิตสามไว้...ที่ผ่านมาสามไม่เคยพูดดีๆกับพี่ภูแสงเลย อืออ อือออ....สามอยากไปขอโทษ"
"ได้ครับ...พี่จะพาไป...อย่าร้องไห้นะ"
..................................
ดาราหนุ่มมานั่งรอชายคนรักอยู่ที่น้ำตกเมืองคาว ตามที่ได้สัญญากันไว้ก่อนจากกันเมื่อคราวก่อน เขานั่งรอมาตั้งแต่เที่ยงจนตอนนี้ตะวันใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว แต่เขาก็ยังนั่งรออยู่ตรงนั้นอย่างไม่หมดหวัง
"นายโจร...ไหนบอกว่าจะออกมาหาฉันยังไงละ...แค่ไม่ถึงเดือน ก็ลืมคำพูดแล้วเหรอ...เธอหายไปไหน...ฉันคิดถึงเธอนะเจต" เขาพึมพ้มอยู่คนเดียว "ออกมาหาฉันเถอะ...ฉันมีอะไรจะบอก ออกมาเถอะเจต...อย่าทรมานฉันเลย อือออ..." ดาราหนุ่มพูดกับสายน้ำและลำธาร
ทางด้านต่อศักดิ์ ได้ออกมารับเคนด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ต้องมาพบเจอกับภาพสะเทือนใจที่น่าเศร้าของดาราหนุ่ม เขาคิดอยู่นานก่อนจะตัดสินใจพูดออกไปว่า
"พี่เคนครับ...พี่เจตเขาออกมาหาพี่เคนไม่ได้อีกแล้วครับ"
"ต่อ..มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ อ้าว...แล้วนี่ต่อรู้จักนายเจตด้วยเหรอ" เคนหันมาตามเสียงที่ได้ยิน
"ผมก็เพิ่งจะรู้จักได้ไม่นานหรอกครับ"
"แล้วทำไมต่อถึงบอกว่า นายเจตจะออกมาหาพี่ไม่ได้ละ...เกิดอะไรขึ้นเหรอ"
"ตอนที่พี่ไปกรุงเทพฯ มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นที่นี่ครับ" หนุ่มพเนจรนั่งลงตรงโขดหินข้างๆดาราหนุ่ม
"เรื่องอะไรเหรอ...แล้วตอนนี้นายเจตอยู่ไหน ต่อ...บอกพี่มาเถอะว่านายโจรของพี่อยู่ไหน" ดาราหนุ่มถามด้วยความกังวล
"พี่เจตอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้หรอกครับ...ถ้าพี่เคนอยากพบพี่เจต...ก็ตามผมมาครับ"
ต่อศักดิ์ลุกขึ้น แล้วเดินนำหน้าเลาะเข้าไปอีกเส้นทางนึงข้างๆน้ำตกซึ่งอยู่ไม่ห่างไกลกันมากนัก เคนเดินตามหนุ่มน้อยไปด้วยความงงระคนแปลกใจ จนกระทั่งถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนดินแดนบนสรวงสวรรค์ไม่มีผิด ที่แห่งนั้นอุดมไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิดนับพันนับหมื่นดอก สีสันของดอกไม้สลับเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ งดงามสะดุดตามากทีเดียว ใกล้ๆกันมีเรือนทรงไทยหลังเล็กๆเท่าศาลเพียงตาอยู่ตรงบริเวณนั้นด้วย ดาราหนุ่มตื่นตะลึงกับความสวยงามเจริญตาของสถานที่แห่งใหม่นี้
"โอ้โห้...สวยจังเลย พี่ไม่เคยเห็นดอกไม้ที่ปลูกได้สวยงามแบบนี้มาก่อนเลย สวยจริงๆหอมมากด้วยครับ" หนุ่มเคนหันซ้ายหันขวาหมุนตัวไปรอบๆแล้วชื่นชมด้วยความอิ่มเอม
"ทุกคนที่อยู่ในเมืองคาวจะเรียกที่นี่ว่า"สุสานเพื่อนรัก"ครับ" ต่อศักดิ์พูดเบาๆ
"สุสานเหรอ...ทำไมต้องเรียกสุสานด้วยล่ะ"
"นายน้อยให้เรียกอย่างงั้นครับ..."
"เออๆ..ช่างเถอะ ไหนต่อบอกว่า...จะพาพี่มาหานายเจตไงละ...นายเจตอยู่ไหน...เขาดูแลดอกไม้อยู่ที่นี่เหรอ" เคนถาม
"ครับ...พี่เจตอยู่ที่นี่" พอสิ้นเสียงของต่อศักดิ์ เคนก็ตะโกนเรียกชายคนรักด้วยความดีใจ "นายโจร...ฉันมาแล้ว...ฉันมาหาเธอตามสัญญาแล้วนะ ออกมาหาฉันซินายโจร"
"พี่เจตอยู่โน่นครับ" หนุ่มพเนจรชี้ไปที่หลุมฝังศพของไอ้เจตผู้ชายมือด้วนที่รักเพื่อนเท่าชีวิต เหนือหลุมฝังศพขึ้นไปเล็กน้อยมีแผ่นป้ายสวยงามราคาแพงเขียนชื่อไว้ว่า นายเจต พบสุข
"ต่อ..." เคนหันไปมองตามที่หนุ่มน้อยชี้ให้ดู เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก ตัวชา ปากสั่น หน้าเปลี่ยนสีไปทันที
"พี่เจตตายแล้วครับ" ต่อศักดิ์ก้มหน้ากลั่นใจพูด
"ไม่จริง...ไม่จริง อย่ามาโกหกพี่นะต่อ พี่โกรธจริงๆนะ" เคนเข่าอ่อนทรุดตัวลงนั่งข้างๆหลุมฝังศพของชายคนที่เขากำลังจะมาบอกคำว่า.... "อือออ มันเกิดอะไรขึ้น อือออ ไม่จริงใช่ไหม อ้ากกก อืออออ..."
"พี่แสงโดนยิงตายครับ...แล้วพี่เจตก็ไปแก้แค้นให้พี่แสง จนกระทั่งรถตกเหว....แต่พี่เจตกระโดดออกมาก่อน...เพราะแก อืออ อือ ต้องการจะมาตายอยู่ข้างๆเพื่อนรักของแกครับ อือออ...อืออ" หนุ่มพเนจรอดที่จะร้องไห้ไม่ได้เมื่อนึกถึงความรักของชายพิการมือด้วนอย่างไอ้เจต
"อืออออ..ไม่จริง อ้ากก อือ นายโจร...ทำไมถึงเป็นแบบนี้...ทำไมไม่รอฉัน" เคนร้องไห้ออกมาอย่างหมดหวัง "ก็ไหนนายโจรบอกว่า...อยากได้ยินคำว่ารักจากฉันไม่ใช่เหรอ อือออ อืออ ฉันกำลังจะมาบอกเธอแล้วยังไงละ...ฉันรักเธอเจต...ทำไมเธอไม่อยู่รอฟังฉันก่อน...ฉันรักเธอออ อืออ นายโจรของฉัน อือออ"
"พี่เจตกับพี่แสงไปสบายแล้วนะครับ....อย่าร้องไห้อีกเลยครับพี่เคน ถ้าพี่เจตรู้...พี่เจตจะไม่มีความสุขนะครับ" ต่อศักดิ์นั่งลงข้างๆ
"ทำไมไม่มีใครบอกพี่เลย...อือ ทำไมต่อไม่โทรไปบอกพี่ อืออออ"
"พวกเราไม่อยากให้พี่เคนไม่สบายใจครับ...อยากให้พี่เคนมาเห็นเองดีกว่า" เด็กหนุ่มเงียบไปสักพักแล้วพูดว่า "พี่เจตบอกกับนายน้อยก่อนตายว่า แกรักพี่เคนมากนะครับ"
"อ้ากกกก อือออ อืออออ นายเจต...ฉันก็รักเธอ อย่าทิ้งฉันไป อืออ มาเอาฉันไปอยู่ด้วย อืออออ นายเจต...ฉันจะไปอยู่กับเธอ อือออออ ทำไมชีวิตฉันต้องเป็นแบบนี้ อือออ ทำไมต้องเอาคนที่ฉันรักไปด้วย อืออออ ฮืออออ"
30.
ห้องอาหารครัวคาวบอยในวันนี้ไม่มีลูกค้ามากนัก ต่อศักดิ์กำลังยืนคุยกับสินชัยอยู่ตรงเคาร์เตอร์บาร์เรื่องของเคนดาราหนุ่มผู้อาภัพรัก
"สงสารพี่เคนนะครับ...พอเจอคนที่ใช่ ก็ต้องมาตายจาก" ต่อศักดิ์พูดด้วยความเห็นใจ
"อีกนานไหมวะ..กว่ามันจะทำใจได้ เรื่องอย่างนี้ถ้าใครไม่เจอกับตัวเอง ก็ไม่รู้หรอกว่ามันทรมานขนาดไหน เห้ออ..."
"ผมก็ว่าอย่างงั้นแหละครับ...ตอนที่ผมพาพี่เคนไปที่สุสานเพื่อนรัก ผมเห็นแกร้องไห้แทบจะขาดใจตาย แกคงจะรักพี่เจตมากเลยนะ"
"แล้วตอนนี้มันไปไหนแล้ววะ" สินชัยถาม
"คุยอยู่กับนายน้อยครับ...เห็นบอกว่าจะขอมาทำงานที่นี่ด้วยคน แกคงอยากอยู่ใกล้ๆพี่เจตอ่ะครับ"
"อ้าว...แล้วงานมันที่กรุงเทพล่ะ"
"ผมก็ไม่รู้ครับ" ต่อศักดิ์เดินเข้าไปบีบควยของสินชัยที่ตุงอยู่ภายใต้กางเกงยีนต์เล่นด้วยความมันเขี้ยว
"ไอ้เหี้ยต่อ...เล่นอะไรวะ...เดี๋ยวควยกูแข็ง" บาร์เทนเดอร์หนุ่มพูดเบาๆ
"แข็งก็ดีซิครับ...ผมกำลังหิวอยู่พอดีเลย อิอิ"
"โน่น...พ่อมึงมาแล้ว...แม่งมากันเป็นฝูงเลย...ไปขอพวกมันดูดไป อย่ามายุ่งกับควยกู...กูจะทำงาน"
สินชัยปัดมือของหนุ่มพเนจรออกจากควยอย่างรวดเร็ว เพราะเห็นชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ในชุดคาวบอยสุดเทห์ กำลังเดินเข้ามาในร้าน ประกอบไปด้วย หนึ่งสยาม,สองภพ,สามเมือง,ลีซอและเคน
"ไอ้ต่อ...มาให้กูเตะซะดีๆ เมื่อคราวก่อนมึงแกล้งกู...กูจำได้ มา..มะ..ไอ้เด็กเมื่อวานซืน" สามเมืองกำลังจะเดินเข้าไปจับตัวของหนุ่มพเนจร แต่ก็ไม่ทันเพราะหนุ่มน้อยวิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังของหนึ่งสยามก่อนแล้ว
"สามอย่าเพิ่งเล่นอะไรแรงๆซิ...เดี๋ยวสะเทือนไปถึงดวงตา" สองภพห้ามน้องชาย
"ก็ไอ้ต่อมันเคยแกล้งสาม...ตอนที่สามตาบอด..สามจะเตะมัน" ชายหนุ่มเถียงเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมเชื่อฟังพี่ชายแต่โดยดี
"ไปไหนกันมาวะ...ทำไมถึงได้รวมพลกันมาแบบนี้วะ" สินชัยเอ่ยถามเพื่อนรัก
"พาเคนไปทำบุญให้ไอ้แสงกับไอ้เจตที่วัดมาว่ะ...แล้วเป็นไงบ้าง..ทางนี้ยุ่งไหม" สองภพเดินไปกอดคอเพื่อนรักเหมือนทุกครั้ง
"ไม่ยุ่งวะ...ลูกค้าขึ้นไปเที่ยวบนดอยกันหมด"
"ไปนั่งตรงโน่น...ดีกว่าไอ้สอง" หนึ่งสยามเดินนำหนุ่มๆทั้งหลายไปนั่งที่โต๊ะประจำข้างๆเคาร์เตอร์บาร์
"มีอะไรกินบ้างวะไอ้เอ" สองภพถาม
"วันนี้มีผัดเผ็ดหมูป่า เอาปะ"
"เออ...เอาราดข้าวมาให้ครบทุกคนเลยนะเว้ย"
"ไอ้ต่อ...ไปจัดการ" สินชัยหันไปบอกไอ้ที่รักของเขา
"ครับผม...รอแป๊บเดียวนะครับนายน้อย" เด็กหนุ่มรีบวิ่งเข้าไปในครัวทันที ที่ได้รับคำสั่งจากสินชัย
"ไอ้เอ...เคนมันจะมาทำงานกับเรานะเว้ย...มันจะมาช่วยลีซอดูแลสุสานเพื่อนรัก ถ้ามึงมีอะไรให้มันช่วย...ก็บอกมัน ค่อยๆสอนกันไป"
"แล้วงานแสดงของมึงล่ะเคน" สินชัยถาม
"ผมจะรับเป็นงานอดิเรกครับ...ตอนนี้ผมยังไม่อยากไปไหน ผมจะอยู่กับเจตที่นี่" ดาราหนุ่มตาแดง
"ก็ดีเหมือนกัน ได้เคนมาช่วย...เพราะอาทิตย์หน้าพี่ก็จะกลับอเมริกาแล้ว...คิดถึงแฟนว่ะ" หนึ่งสยามพูด
"แล้วพี่หนึ่งจะไปนานไหมครับ" สามเมืองถาม
"ยังไม่รู้เลยสาม...แต่กลับมาคราวหน้าพี่คงได้เป็นด๊อกเตอร์กับเขาแล้วละ จะไปตั้งใจเรียนให้จบ..เดี๋ยวจะแก่เกินเรียน"
"อย่าลืมพาสะใภ้ฝรั่งมาฝากพ่อกับแม่ด้วยนะครับ" สองภพแซว
"นายเล็กครับ" ลีซอพูด
"มีอะไรเหรอลีซอ" สามเมืองหันหน้าไปถาม
"นายเล็กถอดแว่นกันแดดออกได้ไหมครับ...ผมอยากเห็นดวงตาของอ้ายแสงอีกครั้งหนึ่ง" ลีซอคนซื่อมองหน้าสามเมืองอย่างเกรงใจ
"ได้ซิ...ก็แกเป็นเพื่อนฉันนี่" สามเมืองถอดแว่นตาดำออกจากใบหน้า แล้วมองเข้าไปในดวงตาเศร้าๆของหนุ่มพม่า
"เมื่อคืนผมฝันเห็นอ้ายแสงครับ...อ้ายแสงมาหาผม ถามผมว่าสบายดีหรือเปล่า แล้วอ้ายแสงบอกให้ผมช่วยดูแลนายน้อยกับนายเล็กแทนแกด้วย...ผมอยากรู้ว่าแววตาของอ้ายแสงเมื่อคืนกับแววตาของอ้ายแสงในตอนนี้จะเหมือนกันหรือเปล่า"
"แล้วเหมือนกันไหมละ" สามเมืองถามสั้นๆ
"เหมือนครับ...ผมจะช่วยนายเล็กดูแลดวงตาของอ้ายแสงอีกคนนะครับ"
"ได้ซิลีซอ...ฉันจะถนอมดวงตาของพี่ชายแกไว้ให้ดีที่สุด...ฉันสัญญา" สามเมืองยิ้มให้ด้วยความเต็มใจ
"ข้าวมาแล้วครับ" ต่อศักดิ์เดินถือถาดข้าวมาเสิร์ฟด้วยความคล่องแคล้ว
"ตกลงวันศุกร์นี้พี่หนึ่งจะไปกรุงเทพกับผมไหมครับ" สองภพถามพร้อมกับตักข้าวเข้าปากไปด้วย
"ไปทำไมวะ"
"ก็งานประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำยังไงครับ"
"อ่อ...ไปซิ ไปช่วยแกลุ้น ได้เจอดาราด้วย น่าสนุกว่ะ" หนึ่งสยามยิ้ม
"ผมไปด้วย...ให้ผมไปด้วย" ต่อศักดิ์รบเล้าเหมือนเด็กๆ
"ไม่ต้องเลยมึง..." สินชัยเดินมากอดคอเด็กหนุ่มคนรัก
"ก็ผมอยากไปนี่พี่เอ...ผมอยากเห็นดารา"
"ก็นี่ไงดารา...นั่งให้มึงเห็นอยู่ตรงนี้ตั้งสองคน มันก็เป็นคนเหมือนกับมึงนั้นแหละ แล้วมึงอยากจะไปเห็นอะไรอีกวะ ไอ้สะเหร่อ" สินชัยชี้ไปที่สองภพกับเคน แล้วตบหัวต่อศักดิ์เบาๆด้วยความหมั่นไส้
"อยู่ช่วยไอ้เอทำงานนะดีแล้ว...คนมันเยอะ ไม่เหมาะกับมึงหรอกไอ้ต่อ" สองภพหันมาพูดกับหนุ่มพเนจร
"ครับนายน้อย" เด็กหนุ่มเสียงเบาลงจนน่าสงสาร
"แล้วมีใครไปบ้างล่ะ" หนึ่งสยามถาม
"เจ้าสามกับเคนแล้วก็พี่หนึ่งไงครับ" สองภพมองหน้าพี่ชาย
"ผมไม่ค่อยอยากไปเลยครับพี่สอง" เคนทำหน้าเบื่อ
"แต่เคนแสดงเรื่องนั้นด้วยนะ...ไปเป็นเพื่อนพี่เถอะ อยู่คนเดียวก็คิดมากเปล่าๆ"
"ก็ได้ครับพี่สอง"
"แหม...ทีพี่เคนไม่อยากไปก็จะให้เขาไป...แต่พอผมอยากไป กลับไม่ให้ไป ทำไมอ่ะ...ไม่รักผมเหรอ" ต่อศักดิ์พูดประชดเบาๆ
"ไอ้นี่ยังไม่เลิกบ่นอีก...เดี๋ยวมึงจะโดนกูเตะจนได้...ไอ้เด็กผี" สามเมืองทำท่าลุกขึ้นจะไล่ฟัด
"พอตาดีหน่อย จะเตะผมประจำเลยนะนายเล็ก" เด็กหนุ่มวิ่งไปหลบข้างหลังของสินชัย
"วิ่งมาหากูทำไม...กูไม่ช่วยมึงหรอก..ไอ้ดื้อ" สินชัยผลักเด็กหนุ่มออกไป
....................................
ในงานประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำ มีดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงของวงการบันเทิงมาร่วมงานกันอย่างมากหน้าหลายตา สองภพเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาจึงถูกนักข่าวรุมสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการหายตัวไปจากวงการบันเทิงของเขาอยู่นานทีเดียว แต่ชายหนุ่มก็สามารถตอบคำถามได้ทุกคำถามโดยไม่กระทบกระเทือนและสร้างความเสียหายให้กับใครเลย
พอถึงเวลาอันควรผู้กำกับต้อก็พาหนึ่งสยาม,สองภพ,สามเมืองและเคนมานั่งอยู่แถวหน้าไม่ห่างจากเวทีมากนัก การประกาศผลรางวัลต่างๆก็ผ่านพ้นไปตามเวลาที่ได้กำหนดไว้ จนกระทั่งมาถึงรางวัลที่ทุกคนรอคอย คือนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมประจำปี๒๕๕๒ พิธีกรชื่อดังได้ออกมาประกาศรายชื่อนักแสดงชายที่ได้เข้ารอบชิงรางวัลห้าคนสุดท้าย
"รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม มีผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลดังต่อไปนี้ค่ะ
ธีรเดช วงษ์พัวพันธ์ จากเรื่อง สวรรค์เบี่ยง
ณัฐวุฒิ สะกิดใจ จากเรื่อง คมแฝก
ยุกต์ ส่งไพศาล จากเรื่อง แก้วล้อมเพชร
สองภพ เจตนานุศาตร์ จากเรื่อง กรอบเสน่หา
ชาคริต แย้มนาม จากเรื่อง ดิน น้ำ ลม ไฟ
ขอเรียนเชิญคุณสินจัย หงษ์ไทยขึ้นมาประกาศรางวัลผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยมในปี๒๕๕๒ด้วยค่ะ"
"สวัสดีค่ะ...น่าตื่นเต้นยังเลยค่ะ ก่อนอื่นนกต้องขอดีใจกับนักแสดงทุกท่านด้วยนะคะ ที่สามารถผ่านเข้ามาในรอบนี้ได้ เอาล่ะค่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาประกาศรางวัลกันเลยดีกว่าค่ะ"
สามเมืองจับมือของสองภพไว้แน่น เขาลุ้นสุดชีวิตและดูตื่นเต้นกว่าพี่ชายเสียอีก ส่วนหนึ่งสยามนั่งกอดคอน้องชายไว้ด้วยรอยยิ้มที่ภูมิใจ ถึงแม้ว่าการประกาศผลจะยังไม่ออกมาก็ตามที ผู้กำกับต้อปิดหูตัวเองไว้เพื่อไม่อยากได้ยินในสิ่งที่ทำให้ผิดหวัง เคนนั่งร่วมลุ้นอย่างไม่กระพริบตา สายตาทุกคู่ของทุกคนที่อยู่ในงานนี้จ้องไปที่ สินจัย หงษ์ไทย อย่างตื่นเต้นจนกระทั่ง ดาราสาวใหญ่ได้ประกาศออกมาว่า
"รางวัลผู้แสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยมปีพ.ศ.๒๕๕๒ ได้แก่ คุณสองภพ เจตนานุศาตร์ จากเรื่อง กรอบเสน่หา ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ"
"เย้ยยยยย ไชโย ไชโย พี่สองเก่งจริงๆ ไชโย" สามเมืองกระโดดตัวลอยเมื่อผลประกาศออกมา
"แน่มากไอ้น้องพี่" หนึ่งสยามจับมือด้วยความยินดี
"ไปซิสอง...ขึ้นไปรับรางวัลบนเวที...คุณนกยืนรออยู่นะ" ผู้กำกับต้อพูดทั้งน้ำตา
"ครับพี่ต้อ...ผมขอบคุณพี่ต้อมากนะครับ ที่ทำให้ผมมีวันนี้" สองภพยิ้มให้ผู้กำกับวัยดึก
หลังจากงานประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำผ่านพ้นไป ชื่อเสียงของสองภพก็กลับมาโด่งดังในระดับพระเอกแถวหน้าของเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง มีงานแสดงติดต่อเข้ามามากมาย แต่เขาจะเลือกรับเฉพาะงานที่ตัวเองชอบเท่านั้น
...................................
"นายน้อยได้รางวัล...พี่เอดีใจไหม" ต่อศักดิ์นอนแกผ้าอยู่บนเตียงข้างๆแฟนหนุ่มขี้เงี่ยน
"แล้วกูจะดีใจไปทำไมวะ...กูไม่อยากให้มันเล่นหนังด้วยซ้ำไป"
"ทำไมละครับ" มือของเด็กหนุ่มกระทุ้งลำควยมหึมาของสินชัยเล่นอย่างเมามันส์
"ไอ้เหี้ยต่อ..กูเจ็บนะเว้ย ชักเบาๆซิวะ" สินชัยมองดูควยของตัวเองที่กำลังถูกกระทุ้งชักเข้าชักออกอย่างแรงอยู่กำมือของแฟนเด็ก แล้วพูดว่า "กูอยากให้นายน้อยมันมีเวลาให้พวกเรามากกว่านี้ กูสงสารมันว่ะ"
"พี่เอ...ผมโกนหมอยให้เอาปะ"
"ไม่ต้อง...กูชอบมีหมอยเยอะๆ....มึงไม่ชอบหมอยกูเหรอวะ" สินชัยหันหน้ามาถาม
"ชอบครับ...พี่หื่น"
"เดี๋ยวตบฟันร่วง...อย่ามาเรียกกูว่าหื่นนะเว้ย"
"ก็พี่เอหื่นจริงๆนี่ครับ"
"มึงนั้นแหละหื่น...แม่งนอนขย้ำควยกูเล่นทุกวัน ควยกูก็แข็งซิวะไอ้บ้า" สินชัยทำเสียงเข้ม
"ควยแข็งก็เย็ดผมซิครับ...เนี่ย แข็งโป๊กแล้วนะ เย็ดได้แล้ว" หนุ่มพเนจรก้มไปเลียหัวนมสีน้ำตาลเข้มของสินชัยอย่างหิวโหย
"ดูดควยให้กูก่อน...เน้นๆตรงหัวควยนะเว้ย กูชอบ อ้าาา..."
"แต่พี่เออย่ากระเด้าปากผมนะ...เดี๋ยวผมหายใจไม่ออก"
"เออๆ...กูรู้แล้ว เดี๋ยวกูจะรอกระเด้าตูดมึงทีเดียวเลย อ้า...เลียนมเก่งนี่หว่า เสียวว่ะ อ้าาาาา ซี๊ตตตต"
"ผมดูดควยให้พี่เอ...แต่พี่เอต้องเลียรูตูดให้ผมนะ"
"มึงก็หันตูดมาดิวะ...อ้าาาา อ้าาา..."
หนุ่มพเนจรขึ้นไปนอนทับอยู่บนตัวที่ล่ำบึกของสินชัย แล้วหันตูดไปทางใบหน้าของแฟนหนุ่ม ส่วนปากของเขาก็งับเข้าที่ลำควยของสินชัยอย่างรู้งาน ตอนนี้ชายหนุ่มทั้งคู่อยู่ในท่า69 สินชัยแย่งลิ้นเข้าไปในรูตูดสีชมพูของต่อศักดิ์อย่างเอร็ดอร่อย เขาใช้นิ้วแทงเข้าไปในรูตูดของเด็กหนุ่มเป็นบ้างครั้ง เพื่อให้รูตูดขยายกว้าง
"อ้าาาาา พี่เอ อ้า แทงแรงๆครับ โอ้ยยย ผมชอบ อ้า อ้า อ้า"
"ไอ้ต่อ...น้ำควยมึงเปื้อนหน้ากูหมดแล้ว อ้าาา อู้วววว ดูดตรงหัวควยแรงๆ โอะ โอะ โอ้ยยยย ซี๊ตตต อ้าาาา มันวะ...อ้า เสียว อ้าาาา"
"พี่เอก็น้ำควยเยอะเหมือนกันครับ...ไหลออกมาไม่หยุดเลยอ่ะ อ้า อ้า "
"ไอ้ที่รัก...เอานิ้วแทงตูดให้กูหน่อย...อ้า อ้า ซี๊ตตต" สินชัยครางกระเส้า
"ได้ครับ...อ้า อ้า พี่หื่น"
ต่อศักดิ์เอาน้ำลายป้ายไปที่รููตูดของสินชัยจนเยิ้ม ก่อนที่เขาจะใช้นิ้วชี้แทงลงไปอย่างช้าๆ เด็กหนุ่มค่อยๆควานนิ้วในรูตูดของคู่รักอย่างตื่นเต้น จากหนึ่งนิ้วกลายเป็นสองนิ้วและสามนิ้วในที่สุด
"อ้าาาาา อ้าาาา อย่างงั้นแหละไอ้ต่อ อ้า กูเสียว อ้า อ้า อ้า แทงแรงๆเลย ไอ้ที่รัก"
ส่วนสินชัยก็ละเลงลิ้นไปรอบๆรูสวรรค์ของคู่เย็ดจนน้ำลายแฉะเยิ้ม ผลัดกับการดูดควยกินน้ำอยากอย่างหื่นกระหาย
"ไอ้ต่อ...นั่งทับควยกูได้แล้ว อ้า อ้า กูจะไม่ไหว อ้า น้ำเงี่ยนกูจะแตกแล้วโว้ย อ้าาาา โอ้ยยย ซี๊ตตตตต อ่า อ่า อ่า"
"ครับพี่เอ....อ้า อ้า อ้า "
หนุ่มพเนจรเปลี่ยนท่าหันมานั่งเทียนอย่างชำนาญ เขานั่งทับลงไปทีเดียวจนสุดโคนควย เสียงครางของทั้งคู่ดังออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
"อ้าาาาา ซี๊ตตต ควยพี่เอใหญ่สุดยอดเลยครับ โอ้ยยยย อ่า อ่า ผมชอบ"
"อูววว อู้วววว ถ้าชอบควยกูก็ขย่มแรงๆซิวะ ไอ้ที่รัก อ้าาาา อ้าาา ซี๊ตตตต เสียวว่ะ แม่งเสียวไปทั้งลำควยเลยวะ อ้าาาาาา อ้าาา อ้าอ้า"
"ผมเอานิ้วแทงรูตูดพี่ด้วยนะครับ อ้า อ้า อ้า โอ้ยยย"
หนุ่มพเนจรนั่งขย่มควยที่คุ้นเคยอย่างสุดพลังด้วยความเงี่ยน เขาเอานิ้วแทงเข้าไปในรูตูดของสินชัยอย่างแรง ชักเข้าชักออกจนครบทั้งสี่นิ้ว
"อ้าาาา โอ้ยย ไอ้ต่อ มึงยัดเข้าไปกี่นิ้ววะ ทำไมกูคับตูดฉิบหาย อ้า อ้า โอ้ยยย เสียวว่ะ อ้า อ้า ขย่มควยกูด้วย อ้า สุดยอดไอ้ที่รัก อ้า อ้าา"
"มันส์ไหมครับพี่เอ..ผมแทงเข้าไปสี่นิ้วครับ...อ้า อ้า ผมเสียวรูตูดครับ น้ำเงี่ยนผมจะแตกแล้ว อ้า อ้า อ้า"
"อย่าเพิ่งน้ำแตกนะเว้ย รอกูด้วย อ้า อ้า โอ้ยยยย ซี๊ตตตต"
ต่อศักดิ์นั่งขย่มบดขยี้ลำควยของสินชัยอย่างไม่กลัวเกรงว่าด้ามควยจะหัก เพราะเขารู้ดีว่าลำควยของแฟนหนุ่มขี้เย็ดแข็งแกร่งปานท่อนเหล็ก เขาใส่เกียร์ห้าเดินหน้าเต็มที่ ลงแรงเต็มเหนี่ยวขย่มลำควยของคู่รักสุดชีวิตจนเสียงเตียงดังสะเทือนลั่นห้อง
"ผมไม่ไหวแล้วครับพี่เอ อ้า อ้า อ้าาาา ผมแตกแล้ว โอ้ยยยย อ้าาาาาาา อ่าาาาาา"
น้ำเงี่ยนของเด็กหนุ่มแตกทะลักออกมามากมาย จนไหลย้อยเข้าไปในรูตูดของสินชัยอยู่มากทีเดียว
"ไอ้เหี้ยต่อ ไอ้ที่รัก อ้า กูบอกให้มึงรอแตกพร้อมกู อ้า อ้า ขย่มควยกูแรงๆ อ้า อ้า อ้า แทงตูดกูด้วย อ้า อ้า อย่างงั้นแหละ กูจะแตกแล้ว ไอ้ต่อ แรงๆ อ้าาาาาาาาาา น้ำเงี่ยนมาแล้ว อ้า อ้า น้ำควยกูมาแล้ว"
สินชัยฉีดน้ำรักเข้าไปในรูตูดของต่อศักดิ์จนหมดกระโปก น้ำเงี่ยนของเขาทั้งคู่ไหลนองเต็มที่นอนส่งกลิ่นคาวคุ้งไปทั่วห้อง แต่หนุ่มพเนจรก็ยังไม่ยอมหยุดขย่มลำควยแกร่งดุ้นนั้น เขายังนั่งขย่มต่อไปเรื่อยๆจนสินชัยต้องจับสะโพกเอาไว้ แล้วพูดว่า "พอก่อนไอ้ที่รัก น้ำเงี่ยนกูออกหมดตัวแล้วโว้ย อ้า อ้า"
...................................
ช่วงนี้หนุ่มลีซอใจซื่อต้องดูแลสามเมืองมากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะสองภพออกไปถ่ายแบบลงปกนิตยสารแทบทุกวัน ลีซอยอมรับว่าเขายังไม่ค่อยไว้ใจในความดื้อของสามเมืองมากนัก เพราะถ้าเกิดสามเมืองคิดเล่นอะไรแผลงๆอีก อย่างเช่น ขับมอเตอร์ไซต์ซิ่งเหมือนแต่ก่อนและขี่ม้าเร็วๆ เขากลัวว่าจะมีผลกระทบต่อดวงตาที่เพิ่งผ่าตัดมาได้ไม่นาน
"วันนี้แกจะพาฉันไปเที่ยวที่ไหนลีซอ" สามเมืองในชุดคาวบอยมาดแมนขี่ม้าไผ่ทองมาอย่างช้าๆ
"ไปดูดอกทานตะวันสีแดงครับ" ลีซอก็อยู่ในชุดคาวบอยเช่นเดียวกัน
"ไปซิ...อยากเห็นเหมือนกัน ฉันไม่ได้เห็นมานานแล้ว"
"แต่นายเล็กต้องขี่ม้าช้าๆนะครับ...เดี๋ยวจะสะเทือนที่ดวงตา" ลีซอยิ้มให้
"รู้แล้วน่า...แกเป็นห่วงฉันหรือว่าแกเป็นห่วงดวงตาของพี่แสงกันแน่วะ" ชายหนุ่มประชด
"เป็นห่วงทั้งสองอย่างครับ...ใครๆก็รู้ว่านายเล็กดื้อจะตาย...ผมต้องคุมเข้มครับ"
"จะเป็นพี่สองอีกคนเหรอไง" สามเมืองค้อน
"ไม่ใช่อย่างงั้นหรอกครับ....ผมเป็นห่วงนายเล็กจริงๆนะครับ ที่ผ่านมา...นายเล็กสูญเสียอะไรไปตั้งเยอะ แต่ผมก็ไม่สามารถช่วยอะไรนายเล็กได้เลย"
"ฉันดีใจที่มีแกเป็นเพื่อน และฉันก็ดีใจกับพี่สองด้วยที่เลือกแกเป็นคู่ชีวิต"
"ขอบคุณครับนายเล็ก" ลีซอยิ้มหน้าบาน
"วันนี้พี่สองจะกลับบ้านกี่โมงเหรอ" สามเมืองถาม
"คงค่ำๆครับ"
"ลีซอ..ฉันร้อนว่ะ...ฉันอยากกลับบ้านไปอาบน้ำ"
"ไปซิครับ...ผมจะได้หาอะไรให้นายเล็กทานด้วย" ลีซอพูด
แล้วชายหนุ่มสองคนก็ขี่ม้ากลับมาบ้านซุ้มนาย
..............................
"ถ้าไอ้สามมันรู้ว่าคุณแม่ไม่ได้เลือดกรุ๊ปเดียวกับมัน...แกคิดว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอีกไหมว่ะ" หนึ่งสยามเข้ามานั่งคุยกับสองภพในห้องนอน
"แต่ตอนนั้นแม่ก็ทำดีที่สุดแล้วนะครับ" สองภพตอบ
"พี่รู้แล้วว่าคุณแม่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี...ถ้าเป็นพี่ ตอนนั้นก็คงนึกอะไรไม่ออก คงจะปล่อยให้หมอพูดไปตามเนื้อผ้า"
"แม่จำเป็นต้องโกหกเพื่อครอบครัวของเรา..."
"พี่ไม่อยากคิดเลย...ถ้าไอ้สามมันรู้ว่ามันไม่ใช่น้องแท้ๆของเรา...จะเกิดอะไรขึ้น" หนึ่งสยามทำหน้าเครียด
"ผมเอาผลการตรวจเลือดทิ้งไปแล้วพี่...มันคงไม่รู้ ถ้าไม่มีใครเข้าโรงพยาบาลอีก" สองภพมองพี่ชาย แล้วพูดต่อว่า "พี่หนึ่งอย่าคิดมากเลย จะเดินทางอยู่แล้วนะ"
"แต่พี่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี...พักนี้รู้สึกสังหรณ์ใจอย่างไงไม่รู้"
"แล้วตอนนี้ไอ้สามไปไหนละครับ" สองภพถาม
"ไอ้ลีซอมันพาไปเปิดหูเปิดตาที่ทุ่งทานตะวันโน้น...มันคงยังไม่รู้ว่าวันนี้แกกลับบ้านเร็ว"
"แล้วพี่หนึ่งรู้ไหมครับ...ว่าแม่ของสามเป็นใคร"
"ไม่รู้ว่ะ...ตอนนั้นพี่ก็ยังเด็กอยู่เลย อายุประมาณห้าขวบได้มั่ง...พี่รู้แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่พาไอ้สามมาจากโรงพยาบาล และเอามาเลี้ยงไว้กับพวกเราสองคน"
"และแม่เราไปเจอแม่ของไอ้สามที่ไหนล่ะครับ" สองภพตั้งใจฟังเรื่องราวของน้องชายนอกสายเลือด
"ข้างถนน...ไปเจอที่ข้างถนน กำลังจะคลอดไอ้สามพอดี" หนึ่งสยามพูดตามความจริงที่พอจะจำได้
"ข้างถนนเหรอ...ผมสงสารน้องจังเลยพี่หนึ่ง"
"เราต้องเก็บเรื่องนี้ไว้ให้ดีนะเว้ย..."
"ครับพี่หนึ่ง"
"เดี๋ยวพี่ไปจัดกระเป๋าก่อนดีกว่า...พรุ่งนี้จะเดินทางแล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรเลยวะ"
หนึ่งสยามเดินมาที่ประตูห้อง และเปิดออก ทันใดนั้นเขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า แล้วอุทานเสียงดังว่า "ไอ้สาม"
สามเมืองยืนนิ่งน้ำตาไหลอยู่หน้าห้องของสองภพตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พอชายหนุ่มได้สติกลับคืนมา เขาก็วิ่งลงไปข้างล่างอย่างไม่คิดชีวิต
"นายเล็ก...นายเล็กจะไปไหนครับ" ลีซอเห็นท่าทางที่รีบร้อนของสามเมืองเลยวิ่งตามออกไปอย่างกระชั้นชิด "นายเล็ก...จะไปไหน"
"อย่ามายุ่งกับฉัน อือ ฮือ..." สามเมืองตะโกนเสียงดัง และวิ่งไปขึ้นรถของเขาทันที
"นายเล็ก...จะไปไหน รอผมด้วย"
"ไป...ไปให้พ้น อย่ามายุ่งกับฉัน แกไม่จำเป็นต้องดูแลฉันอีกต่อไปแล้ว อือออ"
"ผมจะไม่มีทางทิ้งนายเล็กกับดวงตาของพี่แสงเด็ดขาด" ลีซอกระโดดขึ้นรถก่อนที่ สามเมืองจะขับออกไปด้วยความเร็ว
31.
ท่ามกลางหุบเขาอันคดเคี้ยว เส้นทางข้างหน้าชายหนุ่มยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางอยู่หนใด สามเมืองขับรถมาด้วยความเร็ว จิตใจของเขาในเวลานี้ล่องลอยเคว้งคว้างไม่อยู่กับเนื้อกับตัว น้ำตาไหลอาบแก้มอยู่เป็นทางไม่ขาดสาย
"นายเล็กเป็นอะไรครับ...ร้องไห้ทำไม บอกผมได้ไหมครับ" ลีซอเอ่ยถามด้วยจิตใจที่ไม่สู้ดีนัก
"แกตามฉันมาทำไม...ฉันต้องการอยู่คนเดียว อือออ...ลงไปเดี๋ยวนี้"
"ไม่ได้หรอกครับ...ผมต้องดูแลนายเล็กนะครับ"
"ไม่ต้องเรียกฉันว่านายเล็ก...เพราะฉันไม่ใช่นายเล็กของแกอีกต่อไปแล้ว อืออ อือ.."
"หมายความว่ายังไงครับ...ผมไม่เข้าใจ" ลีซอจับแขนสามเมืองไว้เบาๆเพื่อเป็นการให้สติ แล้วพูดว่า "นายเล็กใจเย็นๆก่อนนะครับ...ขับรถช้าๆ...มันอันตราย"
"แกเป็นห่วงดวงตาของพี่ชายแกใช่ไหม...ได้..ฉันจะเอาคืนให้" สามเมืองเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้นอีก
"ผมเป็นห่วงนายเล็กต่างหากครับ" ลีซอพูดเสียงดังฟังชัด
"ถ้าแกรู้ความจริง...แกคงไม่เป็นห่วงฉันหรอก อือ อือออ"
"ความจริงอะไรเหรอครับ...ช้าๆครับนายเล็ก...ขับรถช้าๆ"
"อือ...อือ...ฉันไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ,คุณแม่ อืออ...ฉันมันเป็นแค่เด็กข้างถนน ที่เขาเก็บเอามาเลี้ยง ฮืออออ ฮืออออ...." สามเมืองหักรถเข้าข้างทางและชะลอความเร็วลงจนรถจอดสนิท ชายหนุ่มซบหน้าลงกับพวงมาลัยอย่างอ่อนล้า
"อะไรนะครับนายเล็ก...จะเป็นไปได้ยังไง" ลีซอไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
"มันความจริงที่ฉันก็เพิ่งจะรู้...ฮืออ...ฉันไม่มีพ่อไม่มีแม่เหมือนแก...ลีซอ อืออออ อือออ.."
"ใครบอกนายเล็กครับ"
"ฉันได้ยินพี่หนึ่งกับพี่สองคุยกันเรื่องแม่ของฉัน อือ อือ เรื่องผลเลือด เรื่องโรงพยาบาล เรื่องข้างถนน ฮืออออออ โอ้ยยย...ปวดหัว" สามเมืองเอามือกุมขมับและร้องไห้จนตาแดง
"นายเล็กไปนั่งข้างหลังให้สบายนะครับ...อย่าเพิ่งคิดอะไรในตอนนี้เลย...อยากไปไหนบอกผม...เดี๋ยวผมจะพาไปครับ" ลีซอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"แกไม่รังเกียจฉันเหรอ...ที่ฉันไม่ได้มีสายเลือด เจตนานุศาตร์ เหมือนพี่หนึ่งกับพี่สอง ฉันมันเป็นแค่เด็กข้างถนนนะ ฮืออ อือ..."
"ไม่ครับ...แต่ตรงกันข้าม ผมกับสงสารนายเล็กมากยิ่งขึ้นครับ นายเล็กเจอเรื่องร้ายๆมาเยอะแล้ว ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนนะครับ" หนุ่มพม่าจับมือทายาทตัวปลอมไว้เบาๆด้วยความเข้าใจระคนสงสาร
"ขอบใจลีซอ...ฮือออ" สามเมืองเปลี่ยนมานั่งตรงเบาะข้างๆคนขับ ส่วนลีซอรับหน้าที่เป็นสารถี
"นายเล็กอยากไปไหนครับ...ผมจะพาไป"
"ที่ไหนก็ได้...ฉันอยากอยู่เงียบๆ แต่อย่าพาฉันกลับบ้านตอนนี้เด็ดขาด...ไม่งั้นฉันฆ่าตัวตายจริงๆด้วย ฮืออ อือออออ..."
ชายหนุ่มทั้งสองขับรถไปเรื่อยๆ ข้ามตำบล ข้ามอำเภอ ข้ามจังหวัด ข้ามหุบเขา จนกระทั่งถึงบนดอยแห่งหนึ่งที่หนุ่มลีซอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
......................................
"เจอน้องไหมลูก" คุณขวัญเชิญวิ่งหน้าตื่นเข้าไปถามหนึ่งสยามทันทีที่เห็นเขาขับรถเข้ามาจอดตรงหน้าบ้านซุ้มนาย
"ไม่เจอเลยครับคุณแม่...ผมหาจนทั่วเมืองก็ยังไม่พบ" หนึ่งสยามตอบเสียงตื่น
"ตายแล้ว...ตาสามลูกแม่ อือ อือ หายไปไหนลูก สุขภาพยิ่งไม่ค่อยดีอยู่ด้วย..."
ไม่นานนักสองภพก็ขับรถเข้ามาจอดข้างๆรถของพี่ชาย คุณขวัญเชิญเดินเข้าไปหาลูกชายคนกลางโดยเร็ว แล้วถามว่า "ว่าไงตาสอง...เจอน้องไหม"
"ไม่เจอครับแม่...ผมโทรไปหาเพื่อนๆของเจ้าสามแทบทุกคน ก็ไม่มีใครเห็นครับ" สองภพตอบเบาๆ
"ทำไมพวกแกพูดอะไรกันไม่คิดถึงจิตใจของน้องบ้างเลย...รู้ไหมว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่นะ...ฉันอุตสาห์แก้ปัญหาได้แล้วเชียว...แต่พวกแกก็ยังประหม่า" เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คุณขวัญเชิญขึ้นเสียงกับลูกชายทั้งสองคนดังลั่นบ้าน
"ผมผิดเองครับคุณแม่...ที่ชวนไอ้สองคุยเรื่องนี้" หนึ่งสยามก้มหน้ารับความผิด
"ผมก็ผิดครับ...ผมขอโทษ..." สองภพหน้าซีตที่เห็นผู้เป็นมารดาเอ็ดเสียงดัง
"อย่าเพิ่งให้คุณพ่อรู้ตอนนี้นะว่าน้องหายไป...เดี๋ยวบ้านแตก" คุณขวัญเชิญกำชับ
"ครับคุณแม่" หนึ่งสยามรับคำ
"แล้วพ่อไปไหนล่ะครับ" สองภพถาม
"ไปคุยเรื่องที่ดินที่บ้านนายคำ...เดี๋ยวก็มา"
"แล้วถ้าคุณพ่อถามถึงน้อง...เราจะตอบว่ายังไงละครับคุณแม่" หนึ่งสยามเสียงกังวล
"บอกว่าน้องไปนอนที่คนเมืองคาวก็ได้...โอ้ย..แม่ไม่อยากโกหกเลย"
"ผมจะตามหาน้องให้เจอครับแม่...ผมสัญญา" สองภพเดินเข้าไปกอดมารดาอย่างสำนึกผิด
.................................
"ตาคำ...ตาคำโว้ย...อยู่หรือเปล่าวะ" นายใหญ่ตะโกนเรียกลุงคำแสงที่หน้าบ้านพัก
"อยู่ครับ...มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับนายใหญ่" ชายชราเดินออกมาตามเสียงเรียก
"ฉันจะมาคุยเรื่องที่ดินกับแกหน่อย"
"ที่ดินอะไรครับ"
"ก็ที่ดินตรงสุสานเพื่อนรักกับที่ดินตรงบ้านของแกยังไงล่ะ" นายใหญ่บอกความจำนงค์
"ทำไมละครับเจ้านาย"
"ฉันจะมาขอบัตรประชาชนของแกไปทำธุระสักหน่อย...ไปคุยกันในบ้านดีกว่า"
"เชิญครับ...เชิญครับ" ลุงคำแสงเดินนำนายใหญ่เข้ามาที่ห้องรับแขกเล็กๆ "เชิญนั่งครับนายใหญ่...บ้านรกไปหน่อยนะครับ"
"ฉันจะโอนที่ดินตรงสุสานและบ้านหลังนี้ให้แก" นายใหญ่เริ่มสนทนา
"อุ๊ย...ทำไมละครับเจ้านาย" ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
"ก็ลูกชายของแกมีบุญคุณกับครอบครัวฉัน...ฉันอยากตอบแทนบ้าง"
"ไม่เอาครับเจ้านาย...ที่ไอ้แสงมันทำไป ก็เพราะเป็นความต้องการของมัน เจ้านายไม่จำเป็นต้องตอบแทนอะไรหรอกครับ" ชายชราพูดด้วยความเกรงใจ
"แต่ฉันกับนายหญิงตัดสินใจแล้ว...อย่าขัดใจกันเลยนะ"
"เออ...ผม ผม"
"ไปเอาบัตรประชาชนมาให้ฉัน...พรุ่งนี้ฉันจะไปโอนที่ดินกับบ้านให้"
"ครับ...ถ้าเป็นความต้องการของนายใหญ่กับนายหญิง ผมขอบคุณมากครับ อือ อือ"
ชายชรายกมือไหว้เจ้านายวัยเดียวกันด้วยความตื้นตันใจ และเดินไปที่ตู้ใบเล็กๆเปิดลิ้นชักหยิบเอากล่องไม้เก่าๆออกมา แล้วกลับมานั่งตรงที่เดิม
"ต้องดูก่อนล่ะครับ ว่าบัตรของผมมันหมดอายุไปหรือยัง เพราะผมเองก็ไม่ได้ใช้มันมานานแล้ว เลยเอายัดๆไว้ในนี้ กลัวมันจะหายน่ะครับ"
ชายชราพูดพร้อมกับเปิดกล่องไม้เก่าๆที่วางอยู่ตรงหน้า แล้วค้นหาบัตรประชาชนของตัวเองที่อยู่ข้างในนั้น แกรื้อเอกสารและกระดาษบางอย่างออกมาจนหมด มีรูปของใครคนหนึ่งปลิวมาหล่นอยู่ที่พื้นตรงหน้าของนายใหญ่
"รูปใครเนี่ยตาคำ...ท้องโตเชียว" นายใหญ่ถามหลังจากที่ก้มลงไปเก็บรูปผู้หญิงอุ้มท้องบานนั้นขึ้นมาดู
"เมียเก่าผมเองครับ" ชายชราก้มหน้าตอบ
"เมียตาคำตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ"
"ถ้าเจ้านายหมายถึงแม่ของไอ้แสง...ใช่ครับมันตายไปแล้ว..."
"แล้วนี้เมียคนไหน...ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่อง" นายใหญ่ถาม
"มันหนีผมไปตั้งนานแล้ว...ก่อนที่ผมจะมาอยู่กับนายใหญ่เสียอีก" ชายชราตอบเสียงเศร้า
"ทำไม...เกิดอะไรขึ้น"
"เพราะมันจับได้ว่าผมมีแม่ไอ้แสงอยู่แล้ว...มันหนีไปทำงานที่กรุงเทพครับนาย ผมเองก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะไปตามมันที่ไหน"
"ฉันว่า...ฉันเคยเห็นผู้หญิงคนนี้นะ" นายใหญ่ทำท่าคิด
"จริงเหรอครับนายใหญ่...แล้วนายเห็นอีปราณีที่ไหนครับ...มันกำลังท้อง ตอนที่มันหนีผมไป"
"ปราณี...กำลังท้อง" นายใหญ่ทวนคำพูดและพยายามนึกถึงเหตุการณ์เก่าๆ
"ฮือ...ถ้าเป็นลูกชายผมตั้งชื่อมันไว้ว่าไอ้ภูฉาย แต่ถ้าเป็นลูกสาวผมจะให้มันชื่อแสงดาว จะได้คล้องกับไอ้ภูแสงของผม...แต่ผมก็ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้ามัน อือ อือออ"
"ถ้าผู้หญิงอุ้มท้องที่ฉันเห็นเมื่อ๒๗ปีก่อน เป็นคนเดียวกับคนที่อยู่ในรูปใบนี้...ฉันว่าลูกของแกต้องชื่อภูฉายแน่ๆ" นายใหญ่พูดเสียงจริงจัง
"นายใหญ่พูดอะไรครับ...ผมไม่เข้าใจ"
"ตามฉันไปที่บ้านซุ้มนาย...ยังมีอีกคนที่รู้เรื่องนี้ดีกว่าฉัน" นายใหญ่เดินนำออกไปพร้อมกับรูปของผู้หญิงอุ้มท้องคนนั้น
......................................
ภายในห้องรับแขกอันหรูหราที่บ้านซุ้มนาย สามคนแม่ลูกกำลังนั่งขบคิดช่วยกันหาทางออกเรื่องของสามเมืองกันอย่างหนัก ไม่นานนักนายใหญ่ก็เดินนำลุงคำแสงเข้ามาร่วมวงสนทนา
"เจ้าสามไปไหน" คำแรกที่นายใหญ่ถามขึ้นมา ทำเอาสามคนแม่ลูกตกใจไปตามๆกัน
"เออ..เออ..อยู่ที่คนเมืองคาวครับพ่อ" สองภพโกหกหน้าเสีย
"ดีแล้ว...ฉันยังไม่อยากให้มันรู้เรื่องในตอนนี้" ผู้เป็นพ่อพูดเสียงเข้ม
"เรื่องอะไรครับคุณพ่อ" หนึ่งสยามทำหน้างง
"คุณขวัญเชิญ...คุณจำผู้หญิงคนนี้ได้ไหม" นายใหญ่ส่งรูปที่อยู่ในมือให้ภรรยา
"ผู้หญิงคนนี้.." คุณขวัญเชิญทำท่าคิดแล้วพูดต่อว่า "คุณไปเอารูปนี้มาจากไหนค่ะ..."
"คุณยังมีเอกสารเก่าๆ ตอนที่เราไปรับเจ้าสามออกมาจากโรงพยาบาลไหม"
"มีค่ะ...ฉันเก็บเอาไว้เป็นอย่างดี" คุณขวัญเชิญตอบ
"คุณไปเอามาให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ"
"ได้ซิคะ...รอเดี๋ยวนะ" คุณขวัญเชิญวิ่งขึ้นข้างบนด้วยท่าทางรีบร้อน
"เรื่องอะไรกันครับคุณพ่อ" หนึ่งสยามถาม
"รูปใครครับพ่อ" สองภพเดินเข้ามาเอารูปที่อยู่ในมือของผู้เป็นพ่อไปดู
"เดี๋ยวพวกแกก็จะรู้กันเอง"
"อะไรกันครับนายใหญ่...แล้วอีปราณีมันมาเกี่ยวอะไรด้วยครับ" ลุงคำแสงถามด้วยความสับสน
ไม่นานนักคุณขวัญเชิญก็เดินลงมาจากข้างบน แล้วยื่นซองเอกสารให้ผู้เป็นสามี
"ฉันจำผู้หญิงในรูปได้ดีค่ะ...แต่ว่าคุณจะรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาอีกทำไมคะ" คุณขวัญเชิญถามผู้เป็นสามี
"คุณจำได้ไหม..ว่าผู้หญิงที่เราพาไปทำคลอดเมื่อ๒๗ปีก่อนชื่อว่าอะไร" นายใหญ่หันมาถามภรรยาแล้วเปิดซองเอกสารออก
"จากเอกสารที่โรงพยาบาลบอกว่าชื่อปราณีค่ะ...แต่ฉันยังไม่มีโอกาสได้คุยกับเธอเลย...เธอก็หนีไปซะก่อน"
"อีปราณี" ลุงคำแสงย้ำเสียงดัง
"มาดูนี่ซิตาคำ...มาดูใกล้ๆ ทั้งรูปและชื่อบอกว่าเป็นคนคนเดียวกัน และในเอกสารก็ระบุชื่อของพ่อเด็กไว้ว่านายคำ"
"หมายความว่า นายใหญ่กับนายหญิงเป็นคนพาเมียของผมไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลเหรอครับ" ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความหวัง
"ใช่...แกเข้าใจถูกแล้ว"
"อะไรนะคะคุณ...ผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียของนายคำเหรอคะ" คุณขวัญเชิญมีสีหน้าตกใจอยู่มากทีเดียว "คุณพระช่วย...ทำไมโลกมันกลมแบบนี้..."
"อะไรครับแม่...ผมงงไปหมดแล้ว" สองภพเดินเข้ามาถามมารดา
"แล้วลูกของผมเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายครับนายหญิง ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน...ผมคิดถึงมันเหลือเกิน แม่ของมันก็ใจร้ายไม่ยอมพามาหาผมเลย" ชายชราน้ำตาคลอเบ้า
"ลูกของแกเป็นผู้ชายชื่อ"ภูฉาย"เป็นชื่อที่แกตั้งให้มัน แต่ตอนนี้มันมีชื่อว่า"สามเมือง" ฉันเป็นคนตั้งให้มันเอง" นายใหญ่เฉลยปัญหาต่างๆให้ทุกคนได้เข้าใจ หนึ่งสยามและสองภพหันมามองหน้ากันอย่างประหลาดใจ
"นายเล็ก...นายเล็ก...เป็นลูกของผมเหรอครับ ฮือ....อือ"
"แม่มันหนีไป...คุณขวัญเชิญกับฉันเลยรับมันเป็นลูกอีกคน" นายใหญ่พูด
"ไอ้ภูฉายลูกพ่อ อือออ...ที่แท้เอ็งก็อยู่ใกล้ๆพ่อนี่เอง มิน่าล่ะ...ไอ้แสงมันถึงยอมมอบทุกอย่างให้เอ็ง เพราะพวกเอ็งเป็นสายเลือดเดียวกันนี่เอง ฮือออ"
หนึ่งสยามและสองภพนั่งนิ่งเงียบกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ชายหนุ่มทั้งสองคนก็แอบดีใจอยู่ลึกๆที่ได้รับรู้ถึงชาติกำเนิดของน้องชายนอกสายเลือด
"นายใหญ่กับนายหญิงไม่ต้องบอกนายเล็กนะครับ ว่าผมเป็นพ่อของเขา...ผมกลัวว่าเขาจะรับไม่ได้ครับ อือ อืออ" ลุงคำแสงพูดทั้งน้ำตา
"ไม่จำเป็นแล้วล่ะนายคำ...เพราะตอนนี้ตาสามรู้ความจริงหมดแล้ว" คุณขวัญเชิญตัดสินใจพูดออกไป
"อะไรนะ...ความจริงอะไร" นายใหญ่ถามเสียงเข้ม
"ผมเองครับพ่อ...ผมคุยกับพี่หนึ่งเรื่องกรุ๊ปเลือด แต่อยู่ๆน้องก็แอบมาได้ยิน ผมขอโทษครับ" สองภพเดินเข้ามากราบบิดาแทบเท้า
"ผมก็ผิดครับคุณพ่อ" หนึ่งสยามก็ทำเช่นเดียวกัน
"ฉันเคยเตือนพวกแกแล้ว...ว่าอย่าพูดเรื่องนี้อีก โอ้ย...ไม่ได้ดั่งใจเลยโว้ยไอ้ลูกชายบ้านนี้....ไป ไป ไปให้พ้นหน้าฉัน" นายใหญ่ตะโกนลั่นบ้าน "แล้วตอนนี้ไอ้สามอยู่ไหน"
"ลูกไม่อยู่แล้วค่ะ" คุณขวัญเชิญพูดเบาๆ
"นายเล็กไปไหนครับ..." ลุงคำแสงเสียงตื่น
"ขับรถออกไปกับลีซอครับลุงคำ" สองภพเดินเข้ามากราบลุงคำแสงที่ตัก แล้วพูดว่า "ผมจะตามหาลูกชายอีกคนของลุงมาคืนให้นะครับ"
"ถ้านายเล็กไปกับไอ้ลีซอ ก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับนายน้อย ไอ้ลีซอมันเก่ง"
"ผมขอโทษครับลุง" หนึ่งสยามก้มกราบลุงคำแสง
"ไม่เป็นไรหรอกครับ...ผมเสียอีกที่ต้องขอบคุณนายกลางกับนายน้อยที่รักไอ้ภูฉายของผมเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน...ผมเชื่อว่าอีกไม่นานไอ้ลีซอมันต้องพานายเล็กกลับบ้านครับ"
"ตาหนึ่งจัดกระเป่าเดินทางหรือยังลูก" คุณขวัญเชิญถาม
"ยังเลยครับคุณแม่...มัวแต่ตามหาไอ้สามอยู่ครับ"
"ไปจัดกระเป๋าได้แล้วลูก พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าไม่ใช่เหรอ"
"ผมจะไปได้ยังไงละครับคุณแม่...ผมเป็นห่วงน้อง" หนึ่งสยามพูด
"ไม่ต้องห่วงหรอก...ทางนี้แม่กับพ่อและตาสองจะจัดการเอง ไหนยังจะมีนายคำกับลีซออีกละ...ถ้าน้องกลับบ้านแม่จะโทรไปบอก"
"ครับคุณแม่" หนึ่งสยามยิ้มให้มารดา
32.
(ความเดิม)
"ผมจะไปได้ยังไงละครับคุณแม่...ผมเป็นห่วงน้อง" หนึ่งสยามพูด
"ไม้ต้องห่วงหรอก...ทางนี้แม่กับพ่อและตาสองจะจัดการเอง ไหนยังจะมีนายคำกับลีซออีกละ...ถ้าน้องกลับบ้านแม่จะโทรไปบอก"
"ครับคุณแม่" หนึ่งสยามยิ้มให้มารดา
.................................
หนึ่งสยามเดินทางไปอเมริกาได้หลายวันแล้ว แต่ข่าวคราวของสามเมืองและลีซอก็ยังคงเงียบเชียบไม่มีอะไรคืบหน้าแต่อย่างใด... ที่ห้องอาหารครัวคาวบอยสามหนุ่มต่างถิ่นกำลังพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ด้วยความเป็นห่วงระคนแปลกใจ
"กูว่าแล้ว...ทำไมคนที่นี่ถึงเรียกไอ้สองกับไอ้สามสลับกัน" สินชัยคิดตามคำพูดและพยักหน้าช้าๆอย่างเข้าใจ
"สลับยังไงเหรอพี่เอ" ต่อศักดิ์ทำหน้างง
"ก็นายน้อยกับนายเล็กยังไงละ...ไอ้บื่อ"
"ทำไหมเหรอครับพี่เอ...ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน" เคนมองบาร์เทนเดอร์หนุ่มเพื่อรอคำตอบ
"พวกมึงไม่เคยดูหนังเรื่องบ้านทรายทองเหรอวะ...ที่มีหญิงใหญ่,ชายกลาง,หญิงเล็กละก็ชายน้อยยังไงละ"
"แล้วไงครับ" ต่อศักดิ์ถาม
"ก็คำว่าน้อย...มันหมายถึงน้องคนสุดท้องนะโว้ย...แต่คำว่าเล็กน่ะมันไม่ใช่ กูเดาว่านายใหญ่กับนายหญิงเขาเรียกไอ้สองว่านายน้อยก่อนที่ไอ้สามมันจะโผล่มา เพราะนายหญิงเขามีลูกไม่ได้แล้วนะเว้ย...เขาถึงคิดว่าไอ้สองมันต้องเป็นลูกคนสุดท้อง...ที่นี่พวกมึงเข้าใจกันหรือยัง" สินชัยหันหน้าไปถามแฟนเด็กและดาราเคน
"อ๋อ...เข้าใจแล้วครับ ชื่อก็เลยสลับกัน แหม...พี่เอนี่ช่างสังเกตุเหมือนกันนะ" หนุ่มพเนจรยิ้มให้ชายคนรัก
"ว่าแต่ตอนนี้ไอ้ลีซอมันพาไอ้นายเล็กไปไหนว่ะ...หายไปหลายวันแล้วนะเว้ย น่าเป็นห่วงเหมือนกันวะ"
"พี่สองไปแจ้งตำรวจให้ช่วยกันตามหาแล้วครับพี่เอ" ดาราหนุ่มพูด
"แล้วมึงละไอ้เคน...ดีขึ้นบ้างหรือเปล่าวะ" สินชัยถาม
"ดีขึ้นมากแล้วครับ...ก็ได้พี่เอกับเจ้าต่อนี่แหละที่เป็นเพื่อน ไม่งั้นผมก็คงจะแย่เหมือนกัน"
"อย่าคิดมากนะเว้ย...เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง" สินชัยตบบ่าเพื่อนรุ่นน้องเบาๆเพื่อเป็นการปลอบใจ
"พี่เอ,พี่เคน...ดูโน้นเด่ะ นายน้อยพาใครมาอ่ะ อิอิ น่ารักว่ะ" หนุ่มน้อยสะกิดชายคนรักให้มองไปที่ประตู
"ใครวะ...กูไม่เคยเห็น"
".........." ดาราหนุ่มไม่ได้พูดอะไร ได้แต่จ้องมองผู้ที่กำลังเดินเข้ามาใหม่กับนายน้อยอย่างตกตะลึ่ง จนกระทั่งชายหนุ่มทั้งคู่เดินเข้ามาใกล้ แล้วสองภพก็พูดว่า
"ไอ้เอ,ไอ้ต่อ..นี่เพื่อนกูชื่อไอ้เอ็กซ์...มันเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก" สองภพแนะนำผู้มาเยือนให้ทุกคนได้รู้จัก "เคน...นี่เอ็กซ์เพื่อนพี่...รู้จักกันไว้นะ"
"เจต..." เคนหลุดปากอุทานออกมา
"ผมชื่อเอ็กซ์ครับ...ไม่ใช่เจต" หนุ่มหน้าขาวผู้มาเยือนย้ำชื่อตัวเอง "ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับผม"
"หวัดดีครับ..." สินชัยทักทาย
"สวัสดีครับพี่เอ็กซ์ ทำไมหน้าใส...ทำไมปากแดงจังเลยครับ อิอิ" ต่อศักดิ์ยกมือไหว้ก่อนที่จะเดินสำรวจรอบๆตัวของหนุ่มเอ็กซ์
"เยอะไปแล้วไอ้ต่อ...มานี่" บาร์เทนเดอร์หนุ่มแสดงอาการหึงเล็กๆ แล้วเดินไปดึงตัวเด็กหนุ่มมาไว้ข้างหลัง
"คุณเคนครับ...เป็นอะไรหรือเปล่าครับ" เอ็กซ์ถามเคนเบาๆเมื่อเห็นดาราหนุ่มมองหน้าเขาอยู่นานทีเดียว
"มีอะไรเหรอเคน" สองภพก็งงไปด้วย
"เออ...คุณเอ็กซ์หน้าคล้ายเจตมากครับพี่สอง" ดาราหนุ่มตาแดง "พี่สองจำหน้าของเจตไม่ได้เหรอครับ...เหมือนกันมาก"
"พี่จำไม่ได้หรอกเคน...เคยเห็นแค่ครั้งเดียวอ่ะ ก็วันที่เกิดเหตุนั่นแหละแล้วตอนนั้นมันก็มืดมากด้วยหน้าของไอ้เจตก็มีแต่เลือด...พี่จำไม่ได้หรอกครับ" สองภพพูด
"แต่ผมจำได้ไม่มีวันลืมเลยครับพี่สอง...เหมือนกันมาก เหมือนมากๆครับ" เคนพูด
"ใครวะ...เจต" เอ็กซ์หันมาถามเพื่อนซี้
"เรื่องมันยาวว่ะ...แล้วกูจะเล่าให้มึงฟังทีหลังก็แล้วกัน" สองภพมองหน้าเพื่อน แล้วพูดต่อว่า "ไอ้เอ็กซ์มันจะย้ายมาอยู่เมืองไทย กูเลยชวนมันมาดูที่ทำมาหากินที่เชียงใหม่"
"แล้วคิดจะทำอะไรละครับคุณเอ็กซ์" สินชัยถาม
"เรียกผมเอ็กซ์เฉยๆก็ได้ครับเอ"
"มันจะมาซื้อไร่ลิ้นจี่ของไอ้เรือรบ" สองภพตอบแทนเพื่อน
"เออ...ก็ดีเหมือนกัน กูเห็นแม่ไอ้รบมันประกาศขายตั้งนานแล้วนี่หว่า....ดีครับเอ็กซ์อยู่ใกล้ๆกัน" สินชัยยิ้มให้เพื่อนใหม่ "ว่าแต่มึงฮ่ะ..ไอ้นายน้อย...ไปรู้จักเอ็กซ์ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ...ทำไมกูไม่รู้เรื่อง"
"ตั้งแต่เด็กๆแล้ว...พวกกูเรียนปวช.มาด้วยกัน พอเรียนจบพ่อกูก็ส่งไปอเมริกา ส่วนไอ้เอ็กซ์มันไปเรียนต่อยุโรป แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่เรื่อยๆอ่ะ"
"พี่เอ็กซ์ปากแดง...มาจากประเทศไหนครับ" หนุ่มพเนจรถาม
"ฟินแลนด์ครับน้องชาย...อยากไปไหมครับ...หิมะเยอะ...ช็อกโกแลคก็เยอะนะครับ อร่อยด้วย" เอ็กซ์มองหน้าหนุ่มน้อยด้วยความเอ็นดู
"เอาขนมมาล่อมันไม่ได้ผลหรอกครับเอ็กซ์...อย่างไอ้ต่อเนี่ยมันต้องควยแช่อิ่มแท่งใหญ่ๆครับ...มันชอบ" สินชัยประชดเล็กๆ
"พี่เออ่ะ...ผมอายนะ" หนุ่มน้อยหน้าแดง
"อายเป็นด้วยเหรอมึง" สินชัยค้อน
"กูฝากไอ้เอ็กซ์ไปนอนด้วยคนนะเว้ย...เดี๋ยวกูต้องไปช่วยตำรวจตามหาไอ้สามก่อน" พอสองภพพูดจบแล้ว ก็เดินออกไปอย่างรีบร้อน "ตามสบายนะเว้ยเอ็กซ์...คุยกับไอ้พวกนี้กันไปก่อน...เดี๋ยวกูมา"
"ไม่ต้องห่วงไอ้สอง..." เอ็กซ์ยิ้มให้เพื่อนเก่า
.....................................
บนยอดดอยในยามเช้า...มีหมอกหนาตาน้ำค้างสะอาดเกาะตามกิ่งไม้และใบหญ้าอยู่เป็นเนือยทุกเช้าค่ำ นกน้อยฝูงใหญ่พากันบินออกหาอาหารตามสัญชาตญาณของเหล่านกอยู่เป็นประจำทุกค่ำเช้า รีสอร์ทเล็กๆบนยอดดอย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นสถานที่ที่ลีซอพาสามเมืองมาหลบพักใจกับพายุชีวิตที่โหมกระหน่ำชายหนุ่มอย่างไม่ปราณี
"นายเล็กทานอะไรหน่อยนะครับ" ลีซอยื่นกล่องข้าวให้สามเมือง
"แล้วแกละ...กินอะไรหรือยัง" สามเมืองรับกล่องข้าวมาอย่างช้าๆ
"นายเล็กครับ...กลับบ้านเถอะครับ...ป่านนี้นายหญิงคงเป็นห่วงนายเล็กจนไม่เป็นอันกินอันนอนแล้วครับ...นายเล็กไม่สงสารแม่เหรอครับ" ลีซอดึงประเด็นของคุณขวัญเชิญมาเป็นข้ออ้าง เพราะเขารู้ดีว่าสามเมืองรักคุณขวัญเชิญมากทีเดียว
"คุณแม่...ฉันคิดถึงคุณแม่"
"ยังงั้นก็กลับบ้านนะครับ..."
"แต่ฉันจะไปอยู่ในฐานะอะไร...ในเมื่อฉันไม่ใช่ลูกของคุณแม่" ชายหนุ่มก้มหน้า
"แต่ทุกคนรักนายเล็กมากนะครับ"
"ฉันยังไม่กลับ...ให้ฉันอยู่ที่นี่เถอะลีซอ...อย่าบังคับฉันเลย"
"แต่ผมคิดถึงนายน้อยนี่ครับ...แล้วนายเล็กไม่คิดถึงนายน้อยเหรอ"
"คิดถึงซิ..." สามเมืองก้มหน้าคิดหนักกับปัญหาชีวิต แล้วตัดสินใจพูดออกมาว่า "ลีซอ...ฉันรักพี่สอง...รักมานานแล้ว...แกจะว่าอะไรฉันไหม...ถ้าฉันจะรักผู้ชายคนเดียวกับแก"
"ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ...ขอแค่ให้นายเล็กกลับบ้านผมยอมทุกอย่างครับ...และผมก็เชื่อว่านายน้อยก็รักนายเล็กเหมือนกัน...กลับบ้านเถอะนะครับ"
"ไม่...ฉันยังทำใจไม่ได้" สามเมืองเหงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วมองกลุ่มเมฆอย่างเลื่อนลอย อยู่ๆก็มีเสียงที่คุ้นหูของใครบ้างคนดังขึ้น
"ตาสามลูกแม่...กลับบ้านเถอะลูก...แม่มารับจ๊ะ" คุณขวัญเชิญเดินมาหาลูกชายคนเล็กช้าๆ
"คุณแม่" สามเมืองหันมาตามเสียง แล้วมองไปที่ลีซอ
"ผมขอโทษครับนายเล็ก...ผมเป็นคนโทรไปบอกนายหญิงเองครับ...แต่ที่ผมทำไปเพราะผมเป็นห่วงนายเล็กนะครับ...ผมไม่อยากให้นายเล็กเตลิดไปไกลกว่านี้" ลีซอก้มหน้า
ไม่นานนักนายใหญ่,สองภพและลุงคำแสงก็เดินเข้ามาสมทบ หนุ่มพม่าใจซื่อหลบมาอยู่ข้างๆบิดานอกสายเลือด
"แต่ผมไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ,คุณแม่นี่ครับ...ผมจะอยู่บ้านหลังนั้นได้ยังไง ฮือ..ฮือออ" ชายหนุ่มอดสะอื้นไม่ได้ที่เห็นคนทุกมารับเขาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
"แต่แกก็เป็นคนในครอบครัวของเรานะไอ้สาม...ถึงแกจะไม่ใช่ลูกของฉัน...ฉันก็รักแกไม่ต่างอะไรจากไอ้หนึ่ง,ไอ้สองเลย" นายใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"คุณพ่อ" ชายหนุ่มน้ำตาไหลเป็นทาง แต่ไม่มีเสียงสะอื้นออกมาจากลำคอของเขาแล้ว
"แกรู้ไหมไอ้สาม...ว่าพ่ออีกคนของแกเป็นห่วงแกมากแค่ไหน อย่าทรมานพ่อของแกอีกเลยนะลูก...มันบาปนะเว้ย" นายใหญ่เดินเข้าไปกอดคอลูกชายนอกสายเลือด
"ผมไม่มีพ่อ" สามเมืองก้มหน้า
"มีซิลูก...นายคำยังไงจ๊ะ...เป็นพ่อแท้ๆของลูก" คุณขวัญเชิญพูดเบาๆ
"สามเป็นน้องชายแท้ๆของไอ้แสงนะครับ" สองภพเดินเข้ามาหาน้องชาย
"อะไรครับ...ผมไม่เข้าใจ" สามเมืองทำหน้างง
"คือยังงี้จ๊ะ...เราสืบรู้มาว่าพ่อคำกับแม่ปราณีของลูกได้เลิกลากัน และแม่ปราณีของลูกก็ได้ไปเจอแม่ที่กรุงเทพ คลอดลูกออกมาเป็นสาม...แต่มีปัญหาเรื่องการเงิน แม่ก็เลยรับสามมาเป็นลูกชายของแม่ยังไงจ๊ะ" คุณขวัญเชิญอธิบายให้สามเมืองได้เข้าใจอย่างง่ายๆ เพื่อไม่เป็นการทำร้ายจิตใจของลูกชายคนเล็กมากจนเกินไป
"เข้าไปกราบพ่อแท้ๆของแกซิไอ้สาม" นายใหญ่พูด
"ไอ้ภูฉายลูกพ่อ...." ลุงคำแสงเดินเข้ามาหาลูกชายช้าๆ
"ภูฉาย...ใครครับ" สามเมืองยืนมองหน้าผู้เป็นบิดา
"ก็เอ็งยังไงละลูก...ไอ้ภูฉายน้องชายของไอ้ภูแสง...พ่อคิดถึงเอ็งเหลือเกิน อือ อือออ"
ลีซอมีสีหน้าประหลาดใจแล้วเดินเข้าไปยืนใกล้ๆชายคนรัก
"ผมเป็นลูกของลุงคำแสงจริงๆเหรอครับ...พี่แสงเป็นพี่ชายของผมเหรอครับ" ชายหนุ่มพูดเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเขา
"จริงซิลูก...ตอนนี้ไอ้แสงมันก็คงดีใจ ที่ดวงตาของมันได้อยู่กับน้องแท้ๆของมัน" นายใหญ่เสริม
"กราบพ่อซิจ๊ะ...ตาสาม" คุญขวัญเชิญแนะนำ
"พ่อ...ผมจะกลับไปอยู่กับพ่อครับ...ผมจะทำหน้าที่แทนพี่แสงเองครับ...ผมจะดูแลพ่อ" สามเมืองพูดพร้อมๆกับก้มลงไปกราบบิดาแท้ๆแทบเท้า ลุงคำแสงพยุงตัวลูกชายให้ลุกขึ้นแล้วกอดไว้แน่นด้วยความคิดถึง ก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"ตอนนี้ข้าก็มีทั้งไอ้แสงและไอ้ฉายลูกชายทั้งสองคนของข้าอยู่พร้อมกันแล้ว...ข้าไม่ต้องการอะไรอีกแล้วในชีวิตนี้...ไอ้แสงเป็นดวงตาให้น้องด้วยนะลูก อือ ฮือออออ"
........................................
สามเดือนผ่านไป
"ลีซออ่ะ...อย่าแย่งพี่ซิ" สามเมืองเสียงดังที่ไม่ได้ดั่งใจ
"เมื่อวานนายเล็กก็ดูดอยู่คนเดียว...วันนี้ให้ผมดูดบ้างนะครับ" หนุ่มพม่าไม่ยอมแพ้
"เบาๆครับ...อย่าแย่งกัน เดี๋ยวพี่ไม่ให้ดูดนะ" สองภพเอ็ดคนรักทั้งสอง
"ให้พี่ดูดควยพี่สองนะ...ลีซอไปดูดควยของพี่ดีกว่า" สามเมืองเอาหมอนปิดลำควยขนาดเจ็ดนิ้วกว่าๆของสองภพไว้แน่น
"ก็ได้ครับ" ลีซอทำท่างอนเล็กน้อย ก่อนที่จะงับลำควยของสามเมืองเข้าปากอย่างว่าง่าย
"ทำไมต้องแย่งดูดควยพี่กันได้ทุกวัน เห้อออ..." สองภพพูด
"ก็พวกเรารักพี่สองนะซิครับ"
"ผมก็รักนายน้อยกับนายเล็กครับ" หนุ่มพม่าเหงยหน้าขึ้นมาพูดก่อนจะงับลำควยหัวแดงบานทะโร่ของสามเมืองเข้าปาก แล้วดูดต่ออย่างเอร็ดอร่อย
"อ้าาา อ้าาา เบาหน่อยสาม อ้า แล้ววันนี้ตกลงหรือยังว่าใครจะเย็ดใคร ซี๊ตตต อ้าา สาม อ้า พี่เสียวตรงหัวควย อ้า อ้า"
"อ้า...อ้า ลีซอ อู้ววว ดูดแรงๆเลย อ้า อ้า ตรงหัว อ้าาาาา" สามเมืองครางลั่นห้อง
"ลีซอ...หันตูดมาทางนี้ อ้า อ้าาา เดี๋ยวพี่เลียตูดให้ ซี๊ตตตต"
"ครับนายน้อย"
หนุ่มพม่าทำตามอย่างว่าง่าย สองภพงับหัวควยสีแดงสดของลีซอเข้าปากก่อนอย่างช่ำช่อง เขาดูดกินน้ำอยากอยู่พักใหญ่ ก่อนจะฉกลิ้นไซเข้าไปในรูตูดอันขาวสะอาดของลีซออย่างชำนาญ ชายหนุ่มเลียแยงลิ้นเข้าออกอย่างเมามันส์ จนรูตูดของหนุ่มพม่าเริ่มแฉะไปด้วยน้ำลาย
"อ้า...ผมเสียวขนาดครับนายน้อย อ้า เอานิ้วแทงไปด้วยก็ได้ครับ โอ้ยยยยย อ้า อ้า"
ตอนนี้สามหนุ่มสามมุมกำลังทำมุมสามเหลี่ยมทองคำอย่างหื่นกระหายไม่แพ้กัน สามเมืองดูดควยให้สองภพอย่างเมามันส์ ส่วนสองภพก็กำลังลงลิ้นเข้าที่รูตูดของลีซออย่างถี่ยิบ หนุ่มพม่าก็กำลังเอาริมฝีปากบางของเขาครอบบนลำควยของสามเมืองด้วยความหิวโหย
"อ้า....อ้า....สามอย่าดูดแรงครับ อ้า อ้า เดี๋ยวน้ำเงี่ยนพี่แตก อ้า ซี๊ตตตตตต อ้า"
"พี่สองครับ...โอ โอะ...วันนี้สามขอเย็ดพี่สองนะครับ อ้า อ้า อู้วววว"
"ได้ครับน้องรัก อ้า อ้าาาา" สองภพตอบน้องชายเสียงหื่น
"นายน้อย...เย็ดผมก็ได้ครับ ซี๊ตตตต...ผมเสียวรูตูดครับนายน้อย อ้า ลำแต้ๆครับ อ้า อ้า ลำขนาด อ้า แรงๆครับ เลียเร็วๆ ซี๊ตตตตต"
สามหนุ่มผัวเมียเปลี่ยนท่าร่วมสวาทอย่างรวดเร็ว โดยให้หนุ่มลีซอลงไปนอนยกขาชี้ฟ้าอยู่บนที่นอน แล้วสองภพก็ลงลิ้นที่รูตูดจนน้ำลายเยิ้ม ก่อนที่จะแทงลำควยขนาดเกินมาตรฐานชายไทยลงไปจนมิดด้าม
"เข้าสุดโคนควยแล้วลีซอ อ้า พี่จะกระเด้าแล้วนะครับ อ้าาา ซี๊ตตต" สองภพเริ่มกระเด้าเย็ดรูตูดที่เคยเย็ดอย่างคุ้นเคย
"อ้าา อ้า แรงๆเลยครับนายน้อย ผมชอบนายน้อยเย็ด อ้า นายน้อยเย็ดเก่งครับ อ้า อ้า อ้าาาา อ้าาาาา" ลีซอครางเสียงหลง
"อ้า อ้า มันส์ลำควยจริงๆ อ้า อ้า โอ้ยยยยยย โอ โอ โอะ ซี๊ตตตต อ้า" สองภพครางดังลั่น
สามเมืองลุกขึ้นยืนก่อนที่จะจ่อลำควยเข้าที่ปากของพี่ชาย แล้วยัดเข้าไปจนสุดแรง
"โอ้ยยยย...พี่สองดูดให้สามหน่อยนะครับ อ้า อ้า ดูดแรงๆครับ เอาให้น้ำลายเยิ้มเลยพี่สอง อ่า อ่า อ่าาา เดี๋ยวสามจะเย็ดพี่สองนะครับ" สามเมืองกระเด้าเย็ดปากพี่ชายอย่างเมามันส์
"อ้า อ้า นายน้อย ชักว่าวให้ผมหน่อยครับ อ้า อ้า ผมจะแตกแล้ว โอ้ยยย ผมเสียว อ้า อ้า เย็ดแรงๆครับนายน้อย อ้า ลำ ลำ อร่อย อ้าาาาา"
หนุ่มลีซอกระเด้าสะโพกสวนขึ้นกับแรงเย็ดของสองภพจนเสียงดังสนั่นลั่นห้อง ผับ ผับ ป้าบบบ ป้าบบบ สองภพจับลำควยของลีซอกระทุ้งชักว่าวเข้าออกอย่างแรง น้ำใสๆไหลออกมาจากท่อควยจนเยิ้มเต็มมือของเขา ลำควยของชายหนุ่มก็กำลังกระเด้าเย็ดควงสว่านบดขยี้อยู่ในรูตูดของหนุ่มพม่าอย่างเต็มแรงเงี่ยน ส่วนปากของเขาก็ถูกน้องชายนอกสายเลือดกำลังกระเด้าเย็ดอย่างสุดพลังเช่นเดียวกัน
"ไม่ไหวแล้วครับ...อ้า อ้า ผมน้ำแตกแล้วครับนายน้อย อ้า อ้า โอ้ยยยยย เสียว" หนุ่มพม่าฉีดน้ำเงี่ยนออกมามากมายจนพุ่งไปถึงหน้าอก
"พี่สองพอก่อนครับ อ้า อ้า ผมจะเย็ดพี่สองแล้ว อ้า"
สามเมืองเอามือของพี่ชายที่เปื้อนไปด้วยน้ำเงี่ยนของลีซอขึ้นมาทาลำควยของเขาจนเงาวับ ก่อนจะเอาอีกส่วนหนึ่งที่อยู่บนหน้าอกของลีซอไปละเลงตรงรูตูดของพี่ชายจนเยิ้ม แล้วแทงควยเข้าไปทีเดียวสุดโคนควย
"อ้าาาาาา อ้าาาา เบาๆหน่อยซิครับสาม อ้า อ้า"
"ก็สามอยากเย็ดแรงๆนี่ครับ อ้า อ้า เสียวดีครับ อ้า อ้า"
สามเมืองเริ่มลงฝีควยกระเด้าเย็ดรูตูดของพี่ชายอย่างเมามันส์ ขณะเดียวกันลำควยที่แข็งโป๊กของสองภพก็ยังคาอยู่ในรูตูดสีชมพูของหนุ่มลีซอ ส่งผลให้เขาได้รับความมันส์ความเสียวไปด้วยโดยไม่ต้องออกแรงแม้แต่น้อย
"อ้า อ้า แรงๆครับสาม อ้า อ้า เสียวครับ โอ้ยยย เสียวทั้งข้างหน้าข้างหลังเลย อ้า ซี๊ตตตตต โอ้ยยยยย อ้า อ้า....." สองภพครางลั่นห้อง
"นายน้อยครับ อ้า อ้า ผมเสียวรูตูดอีกแล้ว อ้า อ้า อู้วววว ซี๊ตตตตต" ลีซอเสียงหื่น
"พี่สองครับ...ทำไมสามเสียวแบบนี้ อ้า อ้า อ้า อ้า กึก อึก อึก อ้าาา"
"เย็ดแรงๆเลยสาม อ้า อ้า เอาให้น้ำเงี่ยนพี่แตกคารูตูดของลีซอเลยครับ อ้า เสียวรูตูด โอ้ย..มันส์ลำควย อ้า อ้า"
"พี่สองครับ อู้ววว อู อู อู้ววว สามไม่ไหวแล้ว อ้า อ้า จะแตกแล้วพี่ อ้า อ้า"
"กระเด้าเลยสาม...อ้า โอ้ยยยยย เสียว พี่จะแตกแล้วเหมือนกัน อ้า อ้า"
สองภพเห็นลำควยของหนุ่มลีซอแข็งชูชันขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงจับลำควยหัวแดงชักเข้าชักออกอย่างแรงจนลีซอดิ้นพล่าน
"อ้า อ้า นายน้อย ผมบ่อไหวคับ อ้าาาาา" น้ำรักรอบที่สองของหนุ่มลีซอพุ่งออกมาจากท่อควยไม่ต่างจากครั้งแรกสักเท่าไหร่
"อ้า อ้า เย็ด เย็ด อ้า อ้า เย็ดตูดพี่แรงๆเลยสาม อ้าาาาาา อ้าาาาา อ้าาาาา"
สองภพชักลำควยออกมาจากรูตูดของลีซออย่างเร็ว แล้วน้ำเงี่ยนของเขาก็พุ่งกระฉูดไปถึงใบหน้าขาวๆใสๆของหนุ่มลีซออย่างมากมาย ชายหนุ่มก้มตัวลงไปดูดปากแลกลิ้นกับลีซอ เขาควานกินน้ำเงี่ยนของตัวเองจนแทบหมด ส่วนสามเมืองก็เร่งสปีดอัดรูตูดของพี่ชายอย่างสุดพลังเต็มแรงม้า เขากระเด้าแรงจนหมอยหลุดกระจุยไปหลายสิบเส้น หมอยบางส่วนติดอยู่กับเหงื่อตรงแก้มก้นขาวๆของสองภพไม่ยอมร่วง ป้าบ ป้าบ ป้าบ ผับบบ ผับบบ
"อ้า อ้า...แตกแล้ว น้ำควยสามออกแล้วครับพี่สอง โอ้ย โอ้ย อ้าาา อ้า อ้า อ้า เสียว" น้ำควยขาวขุ่นของสามเมืองได้ฉีดเข้าไปในรูตูดของสองภพเหมือนเขื่อนแตก มันไหลทะลักออกมาจากรูตูดของชายหนุ่มอย่างล้นหลาม แล้วทั้งสามหนุ่มผัวเมียก็หมดแรงล้มตัวลงนอนกอดกันอย่างเหนื่อยอ่อน
.................................
สุสานเพื่อนรักในวันนี้ คึกครื้นเป็นพิเศษ เพราะหนุ่มๆแห่งคนเมืองคาวแวะมาเยี่ยมเยียนกันถ้วนหน้า
"นายเจต...อย่าว่าฉันเลยนะ...ถ้าฉันจะมีรักครั้งใหม่กับคนที่หน้าตาเหมือนเธอ...แต่ฉันขอสัญญาว่าฉันจะไม่มีวันลืมเธอไปตลอดชั่วชีวิต...หลับให้สบายนะคนดีของฉัน" เคนพูดด้วยความเศร้าระคนปราบปลื้ม
"ผมรักเคนนะครับ...ถึงผมจะไม่รู้จักกับพี่เจต แต่ผมขอสัญญากับพี่ว่าผมจะดูแลคนรักของพี่ให้ดีที่สุดครับ...เราจะย้ายมาอยู่ที่"วังลิ้นจี่"ด้วยกัน...แล้วเราจะมาเยี่ยมพี่ทุกวันครับ" หนุ่มเอ็กซ์พูดด้วยความเคารพก่อนที่จะวางดอกไม้ช่อใหญ่ไว้บนหลุมฝังศพของนายเจต พบสุข
ไม่ห่างกันมากนัก มีคาวบอยหนุ่มอีกสามคน ก็ทำเช่นเดียวกัน
"พี่แสงครับ...ผมดีใจมากนะครับที่ได้เกิดมาเป็นน้องชายคนดีๆอย่างพี่ ผมสัญญาว่าจะดูแลพ่อของเราให้ดีที่สุด...พี่แสงเป็นดวงตาให้ผมนะครับ ช่วยพาผมเดินไปบนเส้นทางที่สว่างสดใสด้วยนะครับ...ถ้าชาติหน้ามีจริงพี่แสงเกิดมาเป็นพี่ชายของผมอีกนะครับ ผมรักพี่ครับ" สามเมืองวางดอกทานตะวันไว้ตรงนั้น
"อ้ายแสง...หลับให้สบายนะครับ ไม่ต้องห่วงป้อคำ...ผมกับนายเล็กจะดูแลเอง...ถึงผมจะไม่ใช่น้องแท้ๆของอ้ายแสงแต่ผมก็รักอ้ายแสงนักขนาดครับ" ลีซอวางดอกทานตะวันไว้ตรงนั้นเช่นเดียวกัน
"สุดท้ายเรื่องทุกอย่างก็จบลงด้วยดี...เพราะคนเมืองคาวมีคนดีอย่างมึง หลับให้สบายนะไอ้แสง...เพื่อนตายของกู" สองภพวางดอกทานตะวันสีแดงที่เขาปลูกเองกับมือไว้บนหลุมฝังศพของนายภูแสง จิตรเพชร
สินชัยกับต่อศักดิ์เดินนำหน้าหนุ่มๆเมืองคาวทั้งห้าคน ออกมาจากสุสานเพื่อนรักอย่างช้าๆด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม...................
จบบริบูรณ์
คนเมืองคาว ตอน วังลิ้นจี่
สวัสดีครับ...ผมชื่อเอ็กซ์ ปากแดงครับผม ก็ไอ้ต่อที่เมืองคาวนั้นซิครับมันเรียกผมว่า พี่เอ็กซ์ ปากแดง ก็ดูจากรูปข้างบนเอาเองนะครับว่าผมปากแดงจริงหรือเปล่า อิอิอิ... ผมย้ายมาอยู่เมืองไทยได้ปีกว่าแล้วครับ มาซื้อสวนลิ้นจี่อยู่ข้างๆเมืองคาว ไอ้สองมันแนะนำอ่ะครับ มันบอกว่าที่นี่อากาศดีมากๆๆๆ และที่ดินก็อุดมสมบูรณ์ด้วย ผลไม้อร่อย ออกตามฤดูกาลและที่สำคัญตอนนี้ลิ้นจี่ที่ไร่ของผมก็สุดยอดมากครับ
เมื่อก่อนที่ไร่ลิ้นจี่แห่งนี้ไม่มีใครคอยดูแลเพราะเจ้าของไร่คนเก่าเขาปล่อยปะละเลย แต่หลังจากที่ผมตัดสินใจซื้อไร่นี้มา ผมกับแฟนก็ช่วยกันลงแรงลงใจทำไร่ลิ้นจี่แห่งนี้ให้ดูสวยงามตระการตา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเมืองเชียงใหม่อีกแห่งหนึ่ง เราสองคนช่วยกันปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่เหมาะกับเมืองหนาวนานาชนิด และจ้างช่างจัดสวนฝีมือดีมาทำสวนหย่อมขนาดต่างๆไว้บริเวณรอบๆไร่ เคียงคู่กับทิวเขาน้อยใหญ่ที่สลับเรียงรายกันเองตามธรรมชาติ เพื่อที่จะให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมไร่ของเราได้สดชื่นสบายตากับบรรยากาศเมืองเหนืออย่างเต็มที่ เราสองคนจึงตั้งชื่อไร่ลิ้นจี่แห่งนี้ว่า "วังลิ้นจี่"
แฟนของผมเขาชื่อเคนครับ...ขอบอกว่าหล่อมากๆๆ เคนเป็นดาราเจ้าบทบาทครับ ผมเองก็ชอบการแสดงของเขานะ แต่ผมไม่เคยบอกให้เขารู้หรอกว่าตอนที่ผมอยู่เมืองนอก ผมก็ดูละครที่เขาเล่นแทบทุกเรื่องเลยล่ะ แต่ที่ชอบมากที่สุดก็คือเรื่อง"กรอบเสน่หา" ก็เรื่องเดียวกับที่ไอ้สองมันได้รางวัลโทรทัศน์ทองคำเมื่อปีที่แล้วนั้นแหละครับ เรื่องนี้เคนเล่นได้น่าสงสารมากเลย แต่ตอนจบดันถูกไอ้สองยิงตาย ผมโกรธจนไม่คุยกับไอ้สองไปนานทีเดียว ไอ้สองมันเล่นได้ร้ายมาก...ร้ายจนผมเกลียดมัน ก็สมแล้วที่มันได้รับรางวัล... ทุกวันนี้ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลยครับว่าผมจะได้มาใช้ชีวิตคู่กับดาราในดวงใจของผม
"บรื้อ...บรื้อ...บรื้ออออออ" ผมได้ยินเสียงรถ สงสัยเคนจะกลับมาแล้ว....ไปถ่ายละครมาน่ะครับ ผมขอตัวออกไปรับเคนก่อนนะ
..............................................
"เหนื่อยไหมครับเคน"
"ไม่เหนื่อยหรอกครับ...เอ็กซ์ทานอะไรหรือยัง...เคนซื้อเป็ดย่างมาฝาก"
"ขอบคุณครับ...เข้าบ้านเถอะ"
ผมเดินกอดคอคู่รักของผมเข้าบ้านเหมือนเช่นทุกวัน แล้วตอนนี้เราทั้งสองก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำครับ...
"อาบน้ำด้วยกันไหมเอ็กซ์...เคนร้อน"
"ถอดเสื้อออกก่อน...เอ็กซ์จะอาบน้ำให้นะ" ผมจัดการถอดเสื้อผ้าให้เคนจนหมด ผิวขาวผ่องของเคนยั่วยวนสายตาผมอีกแล้ว
เคนหันไปเปิดน้ำฝักบัว ส่วนผมก็จัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองจนล่อนจ้อน แล้วแขวนไว้ที่ตะขอข้างห้องน้ำ เคนอยู่ใต้สายน้ำที่หลั่งไหล ทรงผมเท่ห์ๆของเขาเปียกลู่ลง ร่างกายกำยำชุ่มชื่นขึ้นมาในทันใด สายน้ำพาความร้อนในร่างกายและความเหนียวของหยาดเหงื่อไหลลงสู่พื้น เสียงน้ำกระทบพื้นอย่างต่อเนื่อง ลำควยขนาดเขื่องนอนสงบอยู่กลางดงหมอยสีดำที่ดกหนา ด้านหลังนั้นแก้มก้นทั้งสองข้างถูกสายน้ำเคลือบไหลอย่างเบาๆ ขนที่ใต้หว่างขาและบริเวณหน้าขาลู่ติดลำตัวดูเซ็กซี่อย่างที่ผู้ชายควรจะเป็น กล้ามเนื้อทุกส่วนถึงแม้ไม่ได้ถูกกระตุ้นแต่ก็ดูแข็งแกร่งและชัดเจน
ผมลูบไล้สบู่เหลวลงบนแผ่นอกกว้างของเคน ใช้ปลายนิ้วค่อยๆลูบตรงหัวนมสีชมพู ครีมของสบู่ถูกลูบไล้ไปทั่วหน้าอกและท้องแกร่ง ผมใช้มือสัมผัสเบาๆกับลำควยที่กำลังแข็งของเคน สองนิ้วจับหนังส่วนปลายรูดลง เผยให้เห็นหัวควยแดงเข้มเด่นชัด ผมเริ่มชักเข้าชักออกแรงขึ้นตามจังหวะของหัวใจ
"โอย...เอ็กซ์ครับ...ดีมาก..อ้า อ้า แรงๆครับเอ็กซ์...เคนชอบ อ้า อ้าาาา"
ตอนนี้ลำควยของผมแข็งจนปวด ผมเอาลำควยถูเข้าออกตรงหว่างขาของเคนตามความลื่นไหลของครีมสบู่ เคนเอียงคอมาจูบปากอยางดูดดื่ม ผมฉกลิ้นเข้าไปในโพรงปากอันหอมหวานนั้น เราดูดกินน้ำลายกันอยู่นานทีเดียว ส่วนมือของผมก็ยังกำแน่นอยู่กับลำควยอันแข็งแกร่งของเคน ชักเข้าชักออกจนเคนครางลั่น น้ำลายไหลย้อยออกมามุมปาก ผมใช้ลิ้นเลียแล้วกลืนลงลำคอจนไม่เหลือสักหยด
"อ้า ซี๊ตตตต...เสียวเหลือเกินเอ็กซ์"
"เอ็กซ์ไม่ไหวแล้ว..เงี่ยนเหลือเกิน อ้า อ้า ขอเอ็กซ์เย็ดเลยนะครับ"
"เดี๋ยวซิครับ...เคนยังไม่ได้ดูดควยเอ็กซ์ให้หายอยากเลย อ้า อ้า ให้เคนดูดควยก่อนนะ อ้าาาาา"
"อ้า อ้า งั้นก็รีบดูดเถอะ...ซี๊ตตต เดี๋ยวน้ำแตก อ้า อ้า โอ้ยยย"
เคนหยิบฝักบัวมาล้างฟองสบู่ตรงลำควยของผมออกจนหมด แล้วก้มลงไปใช้ปากอมหัวควยบานแดงของผมรูดขึ้นรูดลงสุดลำควย
"โอย..เสียวจังเลยเคน...ดูดแรงอีก...โอย อ้าาา ซี๊ตตตต"
ผมขยุ้มเส้นผมที่เปียกน้ำของเคนเบาๆ แล้วโยกตัวกระเด้าเข้าออกสัมพันธ์กับจังหวะการดูดรูดด้วยปากของเคน
"อู้วววว อ้า อ้า เสียวหัวควยครับเคน อ้าาา เอ็กซ์เสียว...อ้า อ้า"
เคนดูดควยของผมจนหน่ำใจ พร้อมกับชักว่าวให้ตัวเองไปด้วย พอสักพักเคนก็คายลำควยของผมออกจากปาก แล้วพูดว่า
"เอ็กซ์ครับ...เคนพร้อมที่จะให้เอ็กซ์กระแทกแล้ว อ้า อ้า อ้าาา"
"หันหลังมาซิครับ...แล้วเอามือยันกำแพงไว้ อ้า...ตูดของเคนน่าเย็ดจริงๆ"
ผมก้มลงไปแหกตูดของเคนออกจนเผยให้เห็นรูตูดสีชมพูได้อย่างชัดเจน ผมตวัดลิ้นลงที่รูสวรรค์อย่างคุ้นเคยด้วยความเงี่ยน เสียงครางของเคนดังลั่นห้องน้ำ
"ซี๊ตตตตต อ้าาาา อ้าาาา เคนเสียว อ้า อ้า แรงๆครับเอ็กซ์ ซี๊ตตตต"
ผมเลียอยู่นานจนรูตูดเยิ้มไปด้วยน้ำลายของผม ผมยืนขึึ้นแล้วเอาสบู่เหลวละเลงบนลำควยแข็งเด่ของผมเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มยัดเข้าที่รูสวรรค์ของเคน
"โอย...ซี๊ตตต...อาร์...อ้า" เคนเริ่มคราง
"ซี๊ต...อูยยยยย...โอ๊ะ...อ่า อ่า" เสียงครางของผมเริ่มขึ้นเบาๆ และดังขึ้นเรื่อยๆตามจังหวะแรงกระเด้า "สุดลำควยแล้วครับเคน...อ้า...เสียวไหมครับ โอ้ยย โอยยยย"
"แรงๆครับเอ็กซ์...อ้า อ้า ควยเอ็กซ์เย็ดถูกใจเคนเหลือเกิน อ้า อ้า เสียว อ้า อ่าาาา"
"เอ็กซ์กระเด้าเย็ดแรงๆ เลยนะครับที่รัก อ้า อ้า โอย เสียวลำควย อ้า อ้า"
"มันส์มากเลยเอ็กซ์...โอ๊ะ นั่นแหละครับ...อย่างนั้นแหละ ดี...อูย...ดีครับ...อ้า อ้า แรงๆครับเอ็กซ์ อู้วววววว"
"อูยยยยย...เคนครับ...เอ็กซ์เสียวเหลือเกิน รูตูดเคนตอดลำควยของเอ็กซ์ครับ อ้า อ้าาาา โอ้ยยยยย ซี๊ตตตตต"
"เอ็กซ์ครับ...ชักว่าวให้เคนหน่อย อ้า อ้าาาา"
พอสิ้นเสียงของเคนผมเอื้อมมือไปรูดลำควยหัวแดงของเคนตามคำขอ ผมเริ่มชักเข้าชักออกแรงขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มความเสียวให้กับเคนเป็นสองเท่าตัว การรูดควยแต่ละครั้งก็ทำให้เคนกระตุกเบาๆ สวนตูดเข้าลำควยของผมอย่างอัตโนมัติ รูตูดของเคนบีบรัดลำควยของผมจนน้ำแทบแตกโดยไม่ออกแรงเย็ด
"โอย...รูตูดเคนบีบรัดควยเอ็กซ์ใหญ่เลย อ้า อ้า โอย น้ำเงี่ยนเอ็กซ์ใกล้จะแตกแล้วนะเคน โอยยย ซี๊ตตตต เคนจะแตกหรือยังครับ...เสียว อ้า เสียวควย อู้วววว อ้า อ้า"
"ครับเอ็กซ์...เคนไม่ไหวแล้ว อ้า อ้า เอ็กซ์เย็ดมันส์เหลือเกิน อ้าาาาา อ้า อ้า"
ผมกระเด้าเย็ดสุดแรงเงี่ยน มือข้างหนึ่งจับเอวเคนไว้แน่น ส่วนอีกข้างก็กระตุกลำควยของเคนอย่างเร็ว จนเคนเกร็งตัวปล่อยน้ำคาวกระจายทั่วพื้นห้องน้ำ
"โอยยยย...อ้า อ้า เอ็กซ์แตกแล้วครับ อ้า อึก อึก อึก อ้าาาา"
ผมอัดชุดสุดท้ายอย่างเต็มพลังเย็ด กระเด้าถี่ยิบจนเคนขาสั่น แล้วกลั่นกรองน้ำเงี่ยนออกจากท่อควยลำเลียงเข้าสู่รูตูดของเคนจนหมดลูกสูบในกระโปกที่ผมกักเก็บเอาไว้ "อ้า อ้า อ้า อ้าาาาา"
ถ้าว่างๆจะมาเล่าเรื่องราวของผมกับเคนให้ฟังอีกนะครับ...ส่วนวันนี้ผมต้องขอตัวไปนอนก่อนดีกว่า หมดแรงอ่ะ...บะบายครับ
คนเมืองคาว ตอน นายกลางมาเยี่ยม
ค่ำคืนนี้อากาศหนาวเย็นพอสมควร ลมหนาวจากยอดเขาพัดโชยมาเบาๆ ซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่าฤดูหนาวกำลังจะย่างกรายเข้ามาอีกรอบ แรงลมกระทบผิวหนุ่มเนื้อแน่นจนขนลุกซู่ แต่ชายหนุ่มฉกรรจ์อย่างเขาก็หาสะท้านไม่...เขายังคงมองดูดาวเดือนที่ลอยเด่นอยู่เต็มท้องฟ้าอย่างมิเบื่อหน่าย
สามปีกว่าแล้วที่หนุ่มพเนจรจิตใจงามนามว่าต่อศักดิ์...ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองคาวแห่งนี้ด้วยความสุขกายสบายใจ เขาทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับงานที่เขารักและคนที่สำคัญในชีวิตของเขา ซึ่งก็มีไม่กี่คนและหนึ่งในนั้นก็คือสินชัย แฟนหนุ่มที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน
"ไอ้ต่อ..มันหนาวนะเว้ย เข้าห้องได้แล้ว" สินชัยตะโกนออกมาจากห้องนอน
"ไม่เห็นหนาวเลย...อากาศดีจะตายพี่เอ" ต่อศักดิ์ตอบโดยที่สายตายังคงนับดาวอย่างสบายอารมณ์
"ทำไมดื้อจังวะไอ้ที่รัก หืม...เสื้อผ้าก็ไม่ยอมใส่ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก" สินชัยเดินออกมาโอบกอดชายคนรักทางด้านหลังเบาๆ
"ก็ผมไม่หนาวนี่ครับ"
"กูรู้ว่ามึงอ่ะโตเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว...แต่มึงอย่าลืมนะเว้ย...ว่ากูก็ยังเป็นห่วงมึงอยู่ดี" สินชัยลูบศรีษะแฟนหนุ่มด้วยความเอ็ดดู
"ทำไมพี่เอไม่ใส่เสื้อล่ะ...ไม่หนาวเหรอครับ"
"กูมันหนังหนาแล้วโว้ย"
สองหนุ่มต่างถิ่นยืนกอดกันด้วยความรักใคร่อยู่ตรงระเบียงห้อง ผิวหนุ่มเนื้อแน่นเบียดเสียดกันอย่างอบอุ่น ใบหน้าอันหล่อเหลาของทั้งคู่กำลังชื่นชมธรรมชาติและสูดอากาศอันบริสุทธิ์
"อายุยี่สิบเอ็ดแล้วซินะมึง...ไหนดูซิควยใหญ่ขึ้นหรือเปล่า"
"ดูทำไม...ก็เห็นอยู่ทุกวัน"
"ก็หมอยมึงมันเยอะ...กูเห็นไม่ถนัดนี่หว่า" สินชัยจับมับเข้าที่ควยอวบของต่อศักดิ์
"พี่เออ่ะ...อย่าแกล้งซิ...ผมจะดูดาว"
"ไอ้ต่อ..มึงอย่าทิ้งกูนะ" อยู่ๆสินชัยก็เสียงเศร้าและกอดชายคนรักไว้แน่น
"พี่เอพูดอะไร..."
"ก็มึงโตแล้ว...กูกลัวว่าใจมึงจะเปลี่ยนไป"
"ผมไม่ไปไหนหรอกครับพี่เอ...ที่ผมมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะผมมีพี่เอกับนายน้อย ผมรักพี่เอมากนะครับ"
"กูก็รักมึงเหลือเกินไอ้ต่อ...รักมากที่สุดในโลก มากกว่าตัวกูอีก"
"ทำไมพูดอย่างงั้นละครับ"
"ก็มึงเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับกูยังไงละ...ไอ้ที่รัก"
"พี่เอก็เป็นทุกอย่างของผมเหมือนกันนะ ผมจะอยู่กับพี่เอไปนานๆ...ผมอยากเห็นพี่เอตอนแก่อ่ะ...นี่ก็ใกล้แล้วละ ฮา ฮา ฮา"
"เดี๋ยวโดนเตะ...กูยังไม่แก่เว้ย" สินชัยเสียงดัง
"อีกไม่นานหรอกน่า...ได้แก่แน่ๆ ฮา ฮา" ต่อศักดิ์วิ่งหนีผ่าเท้ามัจจุราชเข้าห้องโดยเร็ว สินชัยเดินตามมาติดๆ
"ไอ้ต่อมึงจะหนีไปไหน...มาให้กูเตะตูดซะดีๆ" สองหนุ่มวิ่งไล่กันรอบห้องเหมือนเด็กเล่นไล่จับไม่มีผิด
"ไม่ให้เตะง่ายๆหรอก...เก่งจริงก็จับให้ได้เดะ...อีตาเฒ่า"
"มึงตาย...ไอ้ต่อ"
ในที่สุดสินชัยก็กระโดดตะครุบตัวต่อศักดิ์ไว้ได้ทัน เขารัดไว้แน่นจนแฟนหนุ่มดิ้นไม่หลุด เขาโยนตัวต่อศักดิ์ขึ้นไปบนเตียง แล้วโถมตัวนอนทับในทันที กลิ่นเนื้อหนุ่มอันหอมกรุ่นของต่อศักดิ์ทำให้อารมณ์ความใคร่ของเขาลุกโชนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แรงเงี่ยนในสันดานดิบ ส่งผลให้ลำควยมหึมาแข็งโป๊กอย่างช่วยไม่ได้
"วันนี้กูจะเย็ดมึงสามดอก...เสือกด่าว่ากูแก่...ตูดมึงโบ๋แน่ไอ้ต่อ"
"เอาให้โบ๋เลย ไม่กลัวหรอก...ว่าแต่จะมีแรงเย็ดถึงยกสองหรือเปล่า ฮาฮา"
สินชัยบดขยี้ริมฝีปากแดงระเรื่อของหนุ่มพเนจรอย่างหนักหน่วง สองลิ้นนุ่มๆตวัดฟัดกันอย่างดูดดื่ม แลกกลืนน้ำลายกันอย่างหื่นกระหาย ลำควยของต่อศักดิ์อยู่ในอุ้งมือของแฟนหนุ่ม ควยหมอยดกดุ้นนั้นถูกกระทุ้งชักว่าวอย่างแรง จนเจ้าของควยวัยยี่สิบเอ็ดดิ้นพล่านทุรนทุรายด้วยความเสียว
"อ้าาาา โอ โอ อ่าาาา อ้าาาา" เสียงร้องครางออกมาจากลำคอของต่อศักดิ์อย่างต่อเนื่อง
"เป็นไงไอ้ต่อ...เสียวไหมวะไอ้ที่รัก" สินชัยสบตาอันหยาดเยิ้มของแฟนหนุ่มด้วยไฟเงี่ยน
"อ้า...โคตรเสียวเลยครับ อ้า อ้า อ้า ชักแรงๆพี่เอ ซี๊ตตตตต อ้าาาา อ้าาา"
"พอก่อน...เดี๋ยวน้ำเงี่ยนมึงแตก"
"อ้า อ้า ชักให้น้ำแตกเลยพี่เอ อ้า อ้า พี่จะได้เอาน้ำเงี่ยนไปทาควยตอนเย็ดผมไง อ้าาา อ้าา"
"ก็ได้...ดีกว่าใช้น้ำลายว่ะ..." สินชัยทำตามที่แฟนหนุ่มบอก เขากระทุ้งควยแรงขึ้นเรื่อยๆจนน้ำอยากไหลนอง
"อ้า อู้ว.....อ้า อ้า อ้า เสียวควย อ้า อ้า ชักแรงๆครับ อ้า อ้าาาา" ต่อศักดิ์กระเด้าตูดขึ้นตามแรงกระทุ้งอย่างมันส์เมา เขาส่ายสะโพกล่อนตามอุ้งมือของแฟนหนุ่ม
"อ้า อ้า จะแตกแล้ว น้ำควยจะมาแล้ว อ้า อ้า พี่เอแรงๆครับ น้ำเงี่ยนผมจะออกแล้ว โอ้ยยยย อ้าาาาาา อ้า อ้า" น้ำรักขาวขุ่นของต่อศักดิ์พุ่งกระฉูดไปถึงหน้าอก
สินชัยเอาน้ำเงี่ยนอุ่นๆของแฟนหนุ่มที่อยู่ในอุ้งมือมาละเลงลำควยยักษ์ของตัวเองในทันที แล้วเอาส่วนที่เหลือไปทารูสวรรค์ของต่อศักดิ์ ก่อนที่จะยกขาของแฟนหนุ่มขึ้นจนตัวงอเผยให้เห็นรูตูดสีสะอาดลอยเด่นอย่างชัดเจน
"ตากูแล้วไอ้ต่อ...เย็ดกันท่านี้ก่อนนะโว้ย...แล้วค่อยเปลี่ยนทีหลัง"
"เย็ดเลยครับ...เต็มที่เลยพี่...พี่เอเย็ดเก่งอยู่แล้ว...พี่เย็ดท่าไหนก็มันส์ทั้งนั้น อ้าาา" ต่อศักดิ์อ้าปากรอความเสียวอีกครั้ง
สินชัยกดลำควยยักษ์เข้าไปทีเดียวจนมิดด้าม น้ำเงี่ยนขาวขุ่นของต่อศักดิ์ที่ใช้แทนน้ำลายทะลักสวนออกมาจนนองปากทวาร เพิ่มความเสียวทวีความมันส์ให้กับทั้งสองหนุ่มเป็นเท่าตัว
"อ้าาาา สะใจจริงๆ อ้า อ้า อ้า เย็ดแรงๆเลยพี่เอ ผมชอบครับ อ้า อ้า"
"โอ้ยยยย ซี๊ตต อ้า อ้า น้ำเงี่ยนของมึงแม่งลื่นดีว่ะ อ้า อ้า มันส์ฉิบหาย อ้า อ้า อึก อึก อึก" แรงกระเด้าเย็ดบวกด้วยเสียงน้ำเงี่ยนกระทบกับแก้มก้นดัง "จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ" ลั่นห้อง
"อ้าาาาา พี่เอควยผมแข็งอีกแล้ว อ้า อ้า เย็ดแรงๆเลยพี่ ผมเสียว อ่าาาา" ต่อศักดิ์มองตาแฟนหนุ่มอย่างรู้ใจ ส่วนสินชัยก็กระเด้าเย็ดสุดพลังตามคำเรียกร้อง
"อ้า โอ โอ้วววว เสียวควยโว้ย...อ้า อ้า" สินชัยครางอย่างสะอารมณ์ ก่อนที่จะจับตัวของต่อศักดิ์นอนตะแคงแล้วเย็ดท่าใหม่อย่างไม่บันยะบันยัง
"ท่านี้ควยกูเข้าสุดลำเลยไอ้ที่รัก อ้า อ้า อ้า ยกขาอีกหน่อยไอ้ต่อ จะได้เย็ดสะดวกขึัน อ้า อ้า อ้าาา เสียวไหมน้อง อึก อึก อึก"
"เสียวครับพี่เอ อ้า อ้า อ้าาาา น้ำเงี่ยนผมจะแตกอีกแล้ว โอ้ยยยย โอ้ยยยย"
สินชัยโม่ลำควยเข้ารูตูดสุดแรงเกิด กระเด้าเย็ดยิกๆเอวเป็นสะปริง สองหนุ่มมองตากันหยาดเยิ้มด้วยแรงเงี่ยน
"อ้า อ้าาาา ผมไม่ไหวครับพี่เอ อ้า อ้า อ้า น้ำแตกแล้ว อู้วววววว อ้าาาาา" น้ำเงี่ยนของต่อศักดิ์ไหลทะลักออกมาโดยอัตโนมัติ
"สุดยอดไอ้ที่รัก อึก อึก อ้า อ้า กูจะแตกแล้ว อ้าาาา มันส์ฉิบหาย อ้า อ้า"
ชุดสุดท้ายที่สินชัยกระหน่ำเย็ดนับความถี่ไม่ได้ เขาอัดเต็มแรงจนน้ำแตกคารูตูดของแฟนหนุ่ม
"กูมีความสุขเหลือเกินไอ้ต่อ อ้าาา อ้าาาา"
ลำควยยังคาอยู่ในรูตูดและโยกอย่างต่อเนื่อง จนสินชัยมั่นใจว่าน้ำเงี่ยนของเขาได้ไหลออกมาจนหมดกระโปกแล้ว เขาจึงหยุดกระเด้าและนอนกอดแฟนหนุ่มอย่างอิ่มเอมในรสเสน่หา
"ผมรักพี่เอครับ"
"กูรู้แล้ว...ไอ้เสี่ยวของกู"
.............................
สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 795 จากมหานครNEW YORK บินข้ามฟ้ามุ่งสู่ กรุงเทพมหานคร ถึงที่หมายในเวลาบ่ายอ่อนๆ รันเวย์อันร้อนระอุแห่งสนามบินสุวรรณภูมิ ได้รองรับวงล้อใหญ่ของเครื่องบินยักษ์ลำนี้ไว้ด้วยความปลอดภัย
การมาเยี่ยมเมืองไทยของ ดร.หนึ่งสยาม เจตนานุศาสตร์ ในครั้งนี้เป็นการมาอย่างเงียบๆ หลังจากที่ชายหนุ่มได้ไปศึกษาต่อขั้นปริญญาเอกจนสำเร็จ...หลายปีก่อนที่เขาจะได้รับคำนำหน้าว่าด็อกเตอร์ ชายหนุ่มได้พบรักกับแอนนา สาวลูกครึ่งอเมริกัน-เวียดนาม จนความรักสุกงอมและตกลงใจแต่งงานสร้างครอบครัวเล็กๆด้วยกัน ทั้งคู่มีลูกชายวัยน่ารักชื่อ City ไว้เชยชมหนึ่งคน หนูน้อยจอมซนวัยสองขวบเศษกำลังน่ารักน่าชัง เป็นที่โปรดปรานของ ปู่,ย่า,ตา,ยาย เป็นยิ่งนัก
ทุกอย่างเหมือนจะดำเนินไปด้วยดี...แต่หลังจากที่ชีวิตการแต่งงานของหนึ่งสยามและแอนนา ผ่านพ้นไปได้สามปีเศษๆ ความหอมหวานในชีวิตคู่ก็พังทลายลงเพราะสาวแอนนาจับได้ว่าเขาแอบไปมีกิ๊กเป็นบุรุษเพศเดียวกัน ความผูกพันธ์ฉันสามีภรรยาจึงต้องมีอันสะดุดลงในที่สุด
แต่ตรงกันข้ามความสัมพันธ์ของหนึ่งสยามกับอเล็กซ์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว หลายต่อหลายครั้งที่สองหนุ่มไปเที่ยวด้วยกันอย่างสนิทสนม จนเพื่อนๆยกให้พวกเขาเป็นคู่รักคู่เกย์แห่งปี ข่าวนี้รู้ไปถึงสาวแอนนา แล้วสุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้...หลังจากนั้นไม่นานหนุ่มอเล็กซ์ก็หายหน้าหายตาจากเขาไปอีกคน
หนึ่งสยามหอบเอาหัวใจที่บอบซ้ำกับรักสามเศร้าในครั้งนี้ กลับมาเมืองไทยอย่างผู้พ่ายแพ้ ชายหนุ่มกำลังสับสนกับความรักครั้งใหม่ที่ได้เกิดขึ้นกับเพศเดียวกัน...เขาเคยถามตัวเองอยู่เสมอว่าเขาเป็นเกย์หรือเปล่า? แต่คำตอบที่อยู่ในใจก็คือไม่ใช่ แล้วทำไมเขาถึงมีความรู้สึกดีๆกับอเล็กซ์ เขาไม่เคยมีเซ็กส์กับผู้ชายด้วยกันมาก่อน แต่เวลาที่เขาอยู่ใกล้ๆกับหนุ่มอเล็กซ์ ทำไมเขาถึงต้องมีอาการใจสั่นและหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก
การกลับมาเมืองไทยของเขาในครั้งนี้ ไม่มีใครรู้เลยแม้แต่คนเดียว เขาเดินทางมาเพื่อที่จะค้นหาตัวเอง...ว่าแท้จริงแล้วในก้นบึงของจิตใจเขาใฝ่ปรารถนาในรักร่วมเพศหรือไม่?
.............................
รถเท็กซี่เข้ามาจอดหน้าบ้านซุ้มนายอย่างเงียบๆ ในเวลาเกือบเที่ยงคืน หนึ่งสยามก้าวลงจากรถอย่างช้าๆ เขามองเข้าไปภายในบ้าน ไฟทุกดวงถูกปิดหมดแล้ว ยกเว้นบนชั้นสามซึ่งชั้นนี้ถือว่าเป็นอาณาจักรของพวกเขาสามพี่น้อง แสงไฟในห้องนอนของสองภพส่องสว่างออกมาพอสลัว
ชายหนุ่มเดินขึ้นข้างบนอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่าเสียงฝีเท้าของเขาจะรบกวนผู้คนภายในบ้านในเวลาดึกสงัดอย่างนี้ เขาเดินผ่านห้องแรกซึ่งเป็นห้องนอนของสามเมือง ห้องที่ว่าถูกเปิดประตูไว้แต่ปิดไฟมืดสนิท....ก้าวต่อไปกับห้องนอนที่สองซึ่งเป็นห้องนอนของสองภพ ห้องนั้นก็เปิดประตูแง้มไว้เช่นเดียวกัน มีแสงสว่างลอดออกมาตามร่องประตูที่แง้มเอาไว้ พร้อมกับเสียงครวญครางของชายหนุ่มฉกรรจ์ผสมผสานกัน
"อ้าาา อ้า พี่สองครับ อ้า อ้า เย็ดสามแรงๆ โอ้ยยยย"
"ได้ครับสาม...อู้วววว ซี๊ตตตต" ผู้เป็นพี่รับคำ ก่อนที่จะตะบันเย็ดเข้าไปจนสุดลำควย
"นายเล็กครับ...ให้ผมนั่งบนควยของนายเล็กได้ก่อครับ อ้าาาาา โอ้ยยย" ลีซอถามก่อนที่จะนั่งขย่มควยให้สามเมืองโดยไม่รอฟังคำตอบ
"อ้าาา อ้าาาาา ซี๊ตตตตตต" สองภพลดแรงกระเด้าให้ช้าลง เพื่อรอให้จังหวะการเย็ดไปพร้อมๆกับการขย่มของลีซอ
หนึ่งสยามยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องนอนของน้องชายอย่างใจจดใจจ่อ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเปิดประตูออกทีละนิดๆจนเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างถนัดชัดเจน สามเมืองนอนแผ่หราอยู่ตรงปลายเตียงโดยมีสองภพกำลังยืนกระเด้าอยู่ที่ขอบเตียง ส่วนหนุ่มลีซอใจซื่อก็กำลังนั่งขย่มลำควยอันแข็งโป๊กของสามเมืองอยู่เต็มรูสวาทที่ขาวสะอาด โดยหันหน้าไปทางสองภพและกอดยอดชีวิตเอาไว้แน่น ปากบางๆของทั้งสองหนุ่มแลกลิ้นกินน้ำลายกันจนไหลเยิ้ม เสียงร้องครวญครางของสามคนผัวเมียพร้อมกับเสียงกระเด้าเย็ดที่เล็ดลอดออกมาจากสองรูทวารดังสนั่นลั่นห้อง "ผับ ผับ ผับ ป้าบ ป้าบ ป้าบ" จนหนึ่งสยามใจสั่น,ตาค้าง,มือไม้ชาอย่างบอกไม่ถูก
"อ้าาา อ่า อ่า ลีซอขย่มแรงๆ อ้า อ้า พี่เสียว อ้าาาา" สามเมืองจับบั้นท้ายของหนุ่มพม่ากดลงจนสุดโคนควย
"โอ้ยยยย นายเล็กครับ เสียวขนาด อ้า อ้าาาา ควยนายเล็กเข้าไปสุดรูดากผมเลยครับ อ้า อ้า" ลีซอครางลั่น
"พี่สองครับ...เย็ดเร็วๆครับ อ้า อ้า อ้า ซี๊ตตตตตตต สามเสียว" สามเมืองมองหน้าพี่ชายด้วยสายตาที่หื่นจัด
"อ้า อึก อึก อึก พี่เสียวลำควย อ้า อ้า น้ำเงี่ยนพี่จะแตกแล้วสาม อึก อึก อึก อู้วววว อ้าาาาาา" สองภพกอดลีซอไว้แน่นแล้วส่งสายตาเงี่ยนให้สามเมืองอย่างไม่ยอมแพ้
หนึ่งสยามจ้องมองบทพิศวาสของสามหนุ่มอย่างไม่กระพริบตา เขารู้สึกได้ว่าลำควยของเขาแข็งโป๊กจนปวด และตอนนี้ท่อควยก็ส่งน้ำอยากไหลเยิ้มออกมาเต็มกางเกงในจนรู้สึกได้ ชายหนุ่มทนต่อความเงี่ยนที่ซุกซ่อนอยู่ในสันดานดิบไม่ไหว เขาถอดกางเกงลงถึงหัวเข่าอย่างไม่รอช้า แล้วงัดลำควยอันแข็งโป๊กหัวบานเบ่งเงาวับไปด้วยน้ำหล่อลื่นออกมาชื่นชมอย่างสะใจ เขากระทุ้งลำควยยาวใหญ่อย่างถี่ยิบด้วยแรงเงี่ยนเต็มพิกัด "อ้า อ้า โอ้ยยยย อ่า อ่าาาา" เสียงควรญครางออกมาจากลำคอของเขาเบาๆ สายตายังคงจ้องมองลีลาการเย็ดการกระเด้าของน้องชายทั้งสองอย่างพอใจ
"อ้า อ้าาา พี่สอง อ้า สามไม่ไหวแล้ว จะแตกแล้วครับ อ้า อ้า" ตูดโดนกระเด้าจนสุด ลำควยโดนขย่มจนมิด ส่งผลทำให้สามเมืองเสียวเป็นทวีคูณ ในที่สุดเขาก็ฉีดน้ำเงี่ยนเข้ารูสวรรค์ของลีซอจนหมดกระโปก บางส่วนไหลทะลักออกมา เปื้อนดงหมอยของตัวเองจนแฉะเยิ้ม
"โอ้ยยยยย อ้า อ้า อ้า แตกแล้วครับ อ้า อ่าาา พี่แตกแล้ว อ้าาาาา" ในเวลาไล่เลี่ยกันสองภพก็น้ำแตกคารูตูดของน้องชายร่วมสวาท
"โอ้ยยยย ผมก็บ่ไหวเหมือนกันครับนายน้อย อ้า อ้า เสียวขนาด อ่าาาาอ่าาา อ้า อ้า อ้า" ลีซอนอนหงายทับไปบนลำตัวของสามเมืองทั้งๆที่ลำควยก็ยังคาอยู่ในรูตูด หนุ่มพม่าชักว่าวให้ตัวเองอย่างแรง จนความเสียวถึงขีดสุด น้ำเงี่ยนพุ่งไปไกลจนถึงหน้าอกหน้าใจ
หนึ่งสยามตาค้างกับฉากน้ำแตกของน้องรักทั้งสาม เขากระทุ้งลำควยตัวเองถี่ยิบด้วยความมัส์ ร้องครางเสียงหลงออกมาอย่างลืมตัว
"อ้า โอ้ยยยย โอ้ยยยยย ซี๊ตตต ซี๊ตตตต เสร็จแล้ว เสร็จแล้ว อ้า อ้า แตกแล้ว อ้าอ้า"
หนึ่งสยามก้มดูลำควยของตัวเองตอนที่น้ำเงี่ยนกำลังพุ่งออกมาจากท่อควย น้ำกระฉูดอย่างแรง ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างสะอารมณ์ "อ้าาาา ซี๊ตตตตต ซี๊ตตตตต อ่าาาา" เขากระตุกสามสี่ทีก่อนที่เสียงครางครั้งสุดท้ายของเขาจะจบลง พร้อมๆกับเสียงของผู้ที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ดังสวนออกมา
"พี่หนึ่ง" สองภพตาค้างกับสิ่งที่ได้เห็น
"ไอ้สอง" หนึ่งสยามมองน้องชายด้วยความอาย แต่ในมือยังคงรูดลำควยที่เปื้อนไปด้วยน้ำเงี่ยนเอาไว้แน่น
.................................
"พี่ขอโทษเรื่องเมื่อคืน" สองหนุ่มพี่น้องร่วมสายเลือดนั่งดื่มกาแฟด้วยกันในยามเช้า
"ไม่เป็นไรครับ...เรื่องธรรมชาติ...ผมไม่อายหรอก...พี่หนึ่งอายผมเหรอ" สองภพมองหน้าพี่ชายยิ้มๆ
"ก็อายซิวะ ถามได้...แล้วทำไมพวกแกไม่ปิดประตูให้ดีวะ"
"จะปิดทำไมล่ะครับ..พ่อ,แม่ก็ไปญี่ปุ่น ไม่มีใครอยู่อ่ะ"
"ก็ฉันนี่ไงละ" หนึ่งสยามพูด
"แล้วใครจะรู้ว่าพี่หนึ่งจะกลับมากระทันหันแบบนี้ล่ะครับ"
"เอ้อ...ก็จริงของแก"
"ว่าแต่...ควยพี่หนึ่งก็ใหญ่ดีนะ ขอผมดูดหน่อยดิ" สองภพแกล้งพี่ชาย
"ไอ้บ้า...ฉันเป็นพี่แกนะเว้ย" หนึ่งสยามตาเขียว
"แหม...ผมก็แค่ล้อเล่น ผมไม่กล้าหรอกครับ กลัวนรก"
"ทีหลังจะทำอะไรก็ปิดประตูให้เรียบร้อยนะเว้ย...อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก" หนึ่งสยามกำชับน้องชาย
"ครับผม....ว่าแต่ทำไมพี่หนึ่งมีอารมณ์ล่ะครับ พี่หนึ่งไม่ใช่เกย์นี่น่า หรือว่า..." สองภพมองตาพี่ชายเพื่อรอคำตอบ
"หุบปากไปเลยไอ้สอง" ผู้เป็นพี่หลบสายตา
"พี่หนึ่งมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?"
"ไม่มี...ไม่มีอะไร"
"แล้วลูกเมียพี่ล่ะ...ทำไมไม่พามาด้วย" สองภพยังคงสงสัย
"ฉันมาเที่ยว...ฉันอยากมาคนเดียว" หนึ่งสยามพูดเสียงเรียบๆพร้อมกับสายตาที่เลื่อนลอย
.........................
ถนนสายโลกีย์ย่านพัฒน์พงษ์ เป็นแหล่งที่หนึ่งสยามเลือกที่จะมาค้นหาตัวเองตรงจุดนี้....ชายหนุ่มเดินดูผู้คนไปเรื่อยเปื่อยด้วยจิตใจที่สับสนและวุ่นวาย เขาเดินผ่านบาร์เกย์มาหลายแห่ง แต่เขาก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะเข้าไปข้างในดีไหม....แล้วในที่สุดจิตใจที่โหยหาในสิ่งที่อยากรู้ก็บังคับให้ชายหนุ่มย่างก้าวเขัาไปในบาร์เกย์แห่งหนึ่งจนได้
"จะรับอะไรครับผม" บริกรเดินเข้ามาถามหลังจากที่เขาเลือกที่นั่งได้แล้ว
"บรั่นดี"
"รอสักครู่ครับ"
หนึ่งสยามมองดูรอบๆตัวเอง ปรากฎว่าลูกค้าที่มาเที่ยวในบาร์แห่งนี้จะเป็นชาวต่างชาติซะส่วนใหญ่ เขามองขึ้นไปบนเวที มีหนุ่มน้อยหลายสิบคนกำลังเต้นอโกโก้ตามจังหวะเสียงดนตรีที่เร่าร้อนและท่าทางที่ยั่วยวน....เวลาผ่านไปไม่นานนักบรั่นดีแก้วแล้วแก้วเล่าที่เขาดื่มเข้าไป ก็เพิ่มดีกรีความหน้าด้านให้กับเขาเป็นเท่าตัว
"น้องๆ" หนึ่งสยามเรียกบริกรที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
"ครับพี่"
"ผมอยากคุยกับเบอร์ ๑๙ ไปเรียกให้ผมหน่อย"
"รอสักครู่ครับ"
ในเวลาไม่ถึงสิบนาที หนุ่มน้อยเบอร์๑๙ ในชุดอโกโก้เซ็กซี่บาดใจ ก็ได้เข้ามานั่งอยู่ข้างๆหนึ่งสยาม
"สวัสดีครับ...มาเที่ยวคนเดียวเหรอครับพี่" เด็กหนุ่มกล่าวทักทาย
"ครับ"
"ผมเห็นพี่ดื่มไปหลายแก้วแล้ว...เมาหรือยังครับ"
"ผมอยากเมา" หนึ่งสยามมองหน้าใสๆของเด็กหนุ่มวัยไม่เกินยี่สิบ
"อย่าดื่มมากเลยครับ...มันไม่ดีนะครับ"
"น้องชื่ออะไร?"
"ทองขาวครับ"
"ชื่อเทห์ดีว่ะ...หมายถึงทองบริสุทธิ์เหรอ?" หนึ่งสยามยิ้มพอใจ
"ผมว่า...เป็นทองที่ไม่มีค่าต่างหากครับ" เด็กหนุ่มก้มหน้า
"ทำไมนายคิดแบบนั้นล่ะ...ทำไม..อ่ะ.." หนึ่งสยามเสียงรั่ว
"พี่ครับ...พี่เมาแล้ว...ผมอยากดูแลพี่ ให้ผมไปเป็นเพื่อนนะครับ" ทองขาวพูดด้วยรอยยิ้ม
"แต่...แต่ ผม...ผม...ไม่เคย" ชายหนุ่มยกบรั่นดีเข้าปากจนหมดแก้ว
"พี่ครับ...เหล้าแบบนี้มันแรงนะครับ อย่าดื่มมากเลยครับ"
"ทองขาวอยากไปกับผมจริงๆเหรอ" ชายหนุ่มรวบรวมความกล้าแล้วหันไปถาม
"ครับพี่...ผมเห็นพี่เศร้าๆ ผมเป็นห่วง ถ้าพี่ไปคนเดียว ผมกลัวว่าจะเกิดอันตรายน่ะครับ"
"แต่...แต่"
"ถ้าพี่ไม่มีเงิน..ก็ไม่ต้องให้ผมก็ได้ครับ...ผมเป็นห่วงพี่จริงๆ...ให้ผมไปเป็นเพื่อนนะครับ"
"ครับ" หนึ่งสยามมองหน้าหนุ่มน้อย แล้วตอบสั้นๆ
................................
บนโรงแรมหรูย่านสีลมซอย๒ ห้อง๑๐๑๕
"ทองขาว...ผมอยากลองมีเซ็กส์กับผู้ชาย คุณช่วยผมได้ไหม?"
"อ่าว...พี่ไม่ใช่เกย์เหรอครับ" เด็กหนุ่มทำหน้างง
"ผมไม่รู้...แต่บ้างทีผมก็ชอบผู้ชาย" หนึ่งสยามตอบตามความรู้สึก
"แล้วพี่เคยมีอะไรกับผู้ชายหรือยังครับ?"
"ไม่เคย...แต่ผมเคยมีความรู้สึกดีๆกับผู้ชายคนหนึ่ง"
"ถ้าอย่างงั้น...อย่าเลยนะครับพี่...ผมไม่อยากให้พี่เป็นเกย์" ทองขาวพูดตามความคิด
"ทำไม...เป็นเกย์ไม่ดีตรงไหน"
"มันทรมานนะครับ...โดยเฉพาะเรื่องของจิตใจ" หนุ่มน้อยตอบเกินอายุ
"แล้วนายล่ะ...เป็นเกย์หรือเปล่าทองขาว"
"เป็นซิครับ...ผมถึงไม่อยากให้พี่เป็นเหมือนผม..เพราะถ้าเป็นแล้วมันไม่มีทางที่จะรักษาได้นะครับ ผมเองก็อยากจะมีครอบครัวเหมือนคนอื่น...แต่ผมทำไม่ได้" ทองขาวมองหน้าหนุ่มใหญ่ด้วยความจริงใจ
แล้วการสนทนาในห้องพักอันหรูหราก็เงียบลงโดยอัตโนมัติ หนึ่งสยามคิดหนักกับคำพูดและแววตาที่จริงใจของเด็กหนุ่ม เขาแทบจะไม่เชื่อเลยว่าในโลกของความเป็นจริง ยังจะมีคนอย่างทองขาวหลงเหลืออยู่ เด็กหนุ่มใสซื่อกับคำพูดตรงๆเข้าใจง่าย ทำให้เขารู้ถึงจิตใจของมนุษย์ในอีกแง่มุมหนึ่ง
"ขอบใจมากนะทองขาว...ที่นายไม่เห็นเงินเป็นพระเจ้าเหมือนคนอื่น" หนึ่งสยามเดินเข้าไปลูบหัวหนุ่มน้อยด้วยความเอ็ดดู
"ความเป็นคนสำคัญกว่าครับพี่" เด็กหนุ่มยิ้มที่มุมปาก
"ผมตัดสินใจได้แล้วครับ..."
"ตัดสินใจอะไรเหรอครับ...บอกผมได้ไหม?"
"ผมจะกลับไปหาครอบครัวของผมที่อเมริกา...ผมจะไม่ให้ลูกชายของผมต้องกำพร้าพ่ออีกแล้ว...ลูกผมจะต้องมีพ่อ"
"ผมดีใจด้วยจริงๆครับพี่"
"ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนมีการศึกษาอย่างผม...เพิ่งจะมาคิดได้กับคำพูดเพียงไม่กี่คำของผู้ชายกลางคืนอย่างนาย...นายเป็นคนดีทองขาว...ขอบใจจริงๆ"
"แค่พี่ไม่ดูถูกผมเหมือนคนอื่น ผมก็ดีใจแล้วครับ" เด็กหนุ่มยิ้มรับอย่างภูมิใจ
ในค่ำคืนนั้นสองหนุ่มต่างวัยต่างที่มา จากกันด้วยความเข้าใจและไมตรีจิตที่ดีต่อกันโดยปราศจากเงื่อนไขของเงินตราและความใคร่เข้ามาเป็นตัวต่อรอง แต่หนุ่มใหญ่อย่างหนึ่งสยามก็ยังอดที่จะฉงนในจิตใจไม่ได้ว่า ทำไมหนุ่มน้อยใสซื่ออย่างทองขาวถึงต้องมาทำงานขายบริการ
*จบแล้วครับ*
ขอบคุณมากคับ ขอบคุณครับ ดาวน์โหลดไฟล์ เสีย 100 เลยหรือ??? ไปแล้ว 100 นึง{:5_149:} คนคาว ทำไมไม่แจ้งเลยครับ งี้เรียกหักคอกันนี่ครับ 100 zenny มันคืออะไรหว่า? หักอย่างเจ็บเลย ออกไม่ทัน ทุเรศมาก หักแต้มทันที เรื่องก็ไม่ได้แต่งเอง เอาของคนอื่นมาหากิน ขอบคุณนะครับ
ขอบคุณครับ ทุเรศมากคับ สุดยอด{:5_119:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอขคุณครับ สนุก สุดยอด
หน้า:
[1]
2