เริ่มด้วยใคร่ ลงท้ายด้วย..? 3 (50%)
IIIเราชอบบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความเงียบและเกลียดความยุ่งยากวุ่นวายทุกประเภท
เงียบที่หมายถึงความ ‘สงบ’ ไม่ใช่เงียบที่มาพร้อมกับความ ‘น่าอึดอัด’ อย่างตอนนี้
“วิวจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”
สุดท้ายก็กลายเป็นเขาเองที่ทนไม่ไหว ส่วนเราถึงจะไม่ชอบบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกขมุกขมัวแบบนี้สักเท่าไหร่ก็จริง แต่หากให้นั่งอยู่เฉยๆเงียบๆเป็นเวลานานๆไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำสำหรับเราเลยสักนิด ส่วนคนที่ความอดทนแทบจะเรียกได้ว่าต่ำเรี่ยดินอย่างเจเจอร์ทนได้นานจากระยะทางจากบ้านของเรามาถึงที่นี่ได้ก็น่าจะสุดแล้วสำหรับเขา
“อยากให้เราพูดอะไรอย่างนั้นเหรอ?”
มือใหญ่กำแก้วทรงเตี้ยที่บรรจุไปด้วยน้ำสีอำพันแน่นจนเส้นเลือดขึ้นปูดโปนพอกันกับฟันที่ขบกันจนเห็นสันกรามนูน ดูก็รู้ว่าคงจะกำลังข่มอารมณ์มากขนาดไหน เจเจอร์เป็นคนมุทะลุและอารมณ์ร้อน เขามักจะตั้งอารมณ์ของตัวเองให้อยู่เหนือเหตุผลของคนอื่นเสมอ
เชื่อเถอะ...... เขาทนเย็นได้อีกไม่นานหรอก
.
.
แก้วนั่นจะแตกไหมนะ? นั่นคือสิ่งที่เรากำลังคิด แต่ถ้ามันจะแตกจริงๆก็คงไม่พ้นเขาเองนั่นแหละที่จะเจ็บเพราะถูกแก้วบาด และมันก็คือตัวเขา ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเราอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราเลือกทำคือการนั่งมองแก้วใส่ม็อกเทลสีบลูแซฟไฟร์ของตัวเองที่ไม่ได้พร้องไปเลยแม้แต่น้อยบนโต๊ะแก้วตรงหน้านิ่งๆเท่านั้น เสียงเพลงที่ดังเล็ดลอดบานประตูเข้ามาทำให้เรารู้ได้ว่าข้างล่างคงจะเริ่มสนุกกันแล้ว
ในขณะที่เราถูก ‘เจ้าของงาน’ กักตัวเอาไว้ให้อยู่บนห้องนอนกับเขาเพียงสองคน
ก็ไม่ได้นึกอยากลงไปสนุกกับพวกข้างล่างหรอก แต่ก็ไม่ได้อยากอยู่กับเจเจอร์ตามลำพังสักเท่าไหร่ด้วยเหมือนกัน
“สุขสันต์วันเกิดนะ”
ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันเกิดของเจเจอร์และตัวเราเองก็เกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำถ้าเขาไม่โทรมาเพื่อเตือนเราแต่อย่างที่รู้กันว่าคนรับดันเป็นโตยธารแฟนเก่าของเขาที่เผอิญอยู่กับเราพอดีเสียก่อน ตลกดีเหมือนกัน เหมือนว่าเจเจอร์จะรู้ว่าเราจะลืม
มันก็เป็นเรื่องที่เดาได้ไม่ยากนักหรอกเพราะเราเองถ้าไม่ใช่เรื่องที่สำคัญอะไรกับชีวิตของเราจริงๆ ต่อให้ตั้งเตือนไว้ในโทรศัพท์ตัวเราก็ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะเปิดดูหรอก
ได้ยินเสียงหึในลำคอของอีกคนเบาๆ เขาวางแก้วเหล้าในมือลงบนโต๊ะแก้วตรงหน้าคู่กันกับแก้วม็อกเทลของเรา ไม่นานร่างสูงใหญ่ก็เคลื่อนกายจากอีกด้านของโซฟามานั่งชิดติดกันกับเรา แขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเอื้อมจับขอบโซฟาที่เราใช้วางแขนอยู่คล้ายกักขังตัวของเราไว้ในอ้อมกอดของเขากลายๆ
ตาคู่คมที่เคยสะกดเราไว้ได้ครั้งหนึ่งสะกดเราได้อีกครั้ง เราทำเพียงแค่นั่งมองสบกับดวงตาของเขานิ่งๆเท่านั้น ไม่ได้ปัดป้องหรือพยายามจะลุกออกถอยห่าง
“ไม่ใช่เรื่องนั้น”
“งั้นเราก็ไม่มีอะไรจะ..อื้อออ”
คำพูดที่ออกมาจากปากของเราเปลี่ยนเป็นเสียงครางในลำคอแทนทันที ปากอิ่มของเราถูกปากหยักของเขาห่อดูดอย่างหนักหน่วงก่อนที่ลิ้นร้อนจะดุนดันเพื่อให้เราเผยอปากออก ถึงจะไม่ค่อยพอใจแต่ถ้ามันจะทำให้เขาเลิกบ้าได้เราเองก็ไม่ได้ขัดที่จะเปิดปากรับความร้อนแรงจากปลายลิ้นร้อนของเขา
จากจูบที่เอาแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียวเปลี่ยนเป็นจูบเร่งเร้าด้วยแรงปรารถนา ไอความเย็นของแอร์ที่ปะทะเข้ากับร่างท่อนบนที่เปลือยเปล่าเนื่องจากเสื้อยืดถูกถอดออกจากกายเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ปรับมุมจูบไม่ได้ทำให้เราสะท้านได้เท่ากับแรงบีบเคล้นคลึงที่ยอดอก
เจเจอร์เป็นคนทำอะไรไวจนน่าตกใจ ...ไม่นานเราก็เคลื่อนกายมานั่งปุอยู่บนตักเขาแทนในสภาพที่เรียกได้ว่าแทบจะเปลือยทั้งตัว นับว่าเขายังใจดีที่เหลือชั้นในสีอ่อนไว้ปกปิดส่วนเร้นลับให้......เหรอ?
เจเจอร์เป็นคน‘ว่องไว’ ร่างกายของเขาทำงานสัมพัทธ์กับสมองได้อย่างน่าทึ่ง เรายอมรับเลยจริงๆ....
“สายน้ำมันไปอยู่กับวิวได้ยังไงครับ หื้ม?”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างนุ่มนวลในขณะที่ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มเราสลับกับมืออีกข้างที่ไล้ช่วงเอวของเราไปมา
เป็นความนุ่มนวลอ่อนโยนที่เราไม่เคยนึกเชื่อ
“เขาแค่อยากคุยกับเรา.. อ้ะ”
สัมผัสวาบหวามจากปลายลิ้นร้อนที่ละเลงเล่นกับยอดตุ่มน้อยบนเนินอกของเราทำให้เราเผลอแอ่นอกรับไปด้วยความคุ้นชิน แรงขบดึงราวกับหมันเขี้ยวกันหนักหนาเรียกเสียงครางจากเราได้เป็นอย่างดี
เจเจอร์รู้ดีว่าเล่นกับตรงไหน แรงเท่าไหร่เราถึงจะเริ่มรู้สึกขึ้นมา คนแบบเขาไม่ใช่คนที่เราจะต่อกรด้วยได้ง่ายๆเพราะชั้นเชิงและความช่ำชองที่มีมากกว่า ซึ่งนั่นทำให้เรารู้สึกท้าทาย ....ในเมื่อตัวเราเองก็ไม่ชอบคนที่ยอมอะไรง่ายๆเหมือนกัน
แต่ถึงจะอย่างนั้นก็คงต้องยกเว้นคนคนหนึ่งเอาไว้ล่ะนะ
“มันทำอะไรวิวหรือเปล่าครับ?”
“...เขาไม่ได้ทำแต่เป็นเราต่างหากที่ทำ โอ๊ย.. อ๊ะ”เจ็บจนน้ำตาคลอเมื่อช่องทางคับแคบของเราถูกรุกรานด้วยนิ้วของอีกคนพร้อมๆกับยอดอกที่ถูกขบกัดฟ้อนเฟ้นอย่างหนักหน่วง
รู้ตัวว่าตัวเองคล้ายจะมาโซนิดๆ ร่างกายที่ไวต่อความรู้สึกจะแสดงปฏิกิริยาที่ตรงกันข้ามกับความต้องการจริงๆของเราออกมาและนั่นทำให้อีกฝ่ายได้ใจ ถึงมือของเราจะจับยึดมือแกร่งเอาไว้เพื่อไม่ให้ขยับหรือเพิ่มนิ้วเข้ามาในช่องทางอ่อนนุ่มที่กำลังตอดรัดปลายนิ้วส่วนหนึ่งที่เข้ามาแล้วของเขา แต่ก็ใช่ว่าจะห้ามไม่ให้เขาหมุนคว้านนิ้วที่ยังอยู่ในกายของเราสัมผัสกับความอุ่นร้อนไปมาได้
“วิวทำอะไรมัน?”
น้ำเสียงดุดันกับแววตาวาววับเอาเรื่องไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าคิดผิดที่พูดออกไปตรงๆ
เราไม่ตอบแต่ยิ้มส่งหวานให้แทน ปล่อยมือออกจากมือหนาแล้วโอบคล้องคออีกฝ่ายเอาไว้ เราขยับเอวกดร่องทางให้กลืนนิ้วเรียวจนสุดข้อพร้อมทั้งขมิบตอดรัดอย่างเย้ายวนส่งเสียงครางออกมาน้อยๆเมื่อรู้สึกว่านิ้วของเขากดย้ำๆตรงจุดเสียวของเรา
“ผมถามว่าวิวทำอะไรมัน..”เขาถามเสียงต่ำทั้งที่หน้าหล่อเหลาดูแบดบอยในแบบที่เราชอบเจือไปด้วยอารมณ์พิศวาสต่อตัวเราอย่างชัดเจน ยิ่งเราหมุนส่ายสะโพกครางกระเส่าดังขึ้นยิ่งรู้สึกถึงสิ่งที่ดุนดันหน้าท้องของเราผ่านเนื้อกางเกงยีนส์สีเข้มของเขา
เจเจอร์คงเริ่มมีอารมณ์และใกล้จะหมดความอดทนเต็มที
.....ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เราต้องการ
“ใส่เข้ามาในตัวเราสิเจเจอร์ ...อื้อออ”
ได้แต่ครางอื้ออึงในลำคอเมื่อปากถูกบดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงและร้อนแรง เราเองก็ตอบสนองกลับไปอย่างยวนเย้าเชิญชวนไม่ต่างกัน เสียงจูบดังเฉาะแฉะก้องอยู่ในหูปลุกเร้าอารมณ์พอๆกับดวงตาดุจพญาเหยี่ยวสีนิลวาววับที่จ้องมองเราราวกับจะกลืนกินไปทั้งตัว
เต็มไปด้วยความลุ่มหลงและคลั่งไคล้
“...ช่างยั่ว”
เรายิ้มรับก่อนที่จะนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกถึงความคับแน่นที่กำลังเติมเต็มช่องทางรัก เข้ามาเรื่อยๆ เรื่อยๆ รู้สึกจุกเสียดจนเกือบจะเผลอเกร็งตัว เรากัดปากฉับจับไหล่แข็งแรงเพื่อพยุงตัวก่อนที่จะเป็นฝ่ายขยับส่ายสะโพกกลืนกินแท่งเนื้อร้ายเข้ามาในตัวจนสุดความยาว
เจเจอร์มองเราอย่างไม่เชื่อสายตา มันก็คงจะน่าแปลกอยู่หรอกเพราะเราไม่เคยทำรักด้วยตัวเองเลยสักครั้ง เป็นเพราะเราขี้เกียจจะขยับตัวคนที่เป็นฝ่ายคุมเกมเลยมักจะเป็นฝ่ายรุกอย่างเจเจอร์เสียส่วนใหญ่ มีบ้างที่เราเสียวจนเผลอขยับสะโพกสอดรับจังหวะโยกของอีกฝ่าย แต่ก็น้อยครั้งจนนับนิ้วได้
แต่คราวนี้กลับเป็นเราที่เริ่มทุกอย่างก่อน
“อึก...อ๊ะ อ๊ะ”
เราครางเสียงหวานดวงตาเยิ้มฉ่ำปอยไปด้วยหยาดน้ำตา เราอมนิ้วชี้ของตัวเองรูดเข้ารูดออกตามจังหวะโยกขยับของสะโพกส่วนอีกมือเรารูดรั้งแก่นกายของตัวเอง ทุกการกระทำมีสายตาร้อนแรงของเจเจอร์จ้องมองไม่ละสายตา
หากเป็นคนอื่นคงจะเก้อเขินจนทำอะไรไม่ถูก แต่ไม่ใช่สำหรับเรา ...ดวงตาของเจเจอร์สะกดเราได้ก็จริงแต่สายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของเขาไม่ได้ทำให้เรารู้สึกสั่นไหวได้ ......ไม่เลยสักนิด
เราเอียงคอให้อีกฝ่ายซุกไซร้ได้ถนัด แรงขบกัดตรงเนื้ออ่อนทำให้เราสะดุ้ง หนั่นเนื้อสะโพกของเราถูกสองมือใหญ่จับขย้ำคล้ายจะมันมือในขณะที่ท่อนเนื้อร้อนกระทุ้งสวนแรงขย่มของเราขึ้นมาอย่างหนักหน่วงและดุดัน ครางแทบไม่เป็นภาษา... ถึงจะไม่พอใจที่ถูกทำรอยแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาทำให้เราถึงจุดสุดยอดได้เร็วกว่าคนอื่นที่ผ่านมา
เจเจอร์อุ้มเราขึ้นในท่าอุ้มแตงเขาพาเราเดินไปที่เตียงในขณะนั้นก็ไม่หยุดขยับกายสอดเข้าออกในช่องทางของเรา เสียวกระสันจนน้ำตาไหลอาบแก้ม..... ตัวเราถูกวางให้นอนราบไปกับเตียงโดยที่ขายังเกี่ยวเอวหนาไว้อยู่ส่วนเจเจอร์นั้นอยู่ในท่ายืนชิดเตียง
ดูจากสายตาที่มองเราและท่าทางแล้วคืนนี้เจเจอร์คงไม่หยุดง่ายๆแน่ ทั้งที่ข้างล่างกินบริเวณกว้างของตัวบ้านจัดปาร์ตี้วันเกิดของตัวเองอยู่แท้ๆ
เราหลับตาลอบถอนหายใจ เราเคยชอบในความอึดของเจเจอร์แต่ตอนนี้คงต้องบอกว่าค่อนข้างจะเหนื่อยหน่ายมากกว่าซะแล้ว คงต้องรีบจบเกมแล้วล่ะ.....
เราลืมตาขึ้นช้อนมองสบตากับร่างสูงพลางลูบไล้เนื้อตัวที่ขึ้นสีระเรื่อเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ใคร่ของตัวเอง ยั่วยวน เชิญชวน ภายในตอดรัดเป็นจังหวะเร่งเร้าให้อีกฝ่ายกระทั้นกายเร็วขึ้น มือหนาไล้ไปตามโครงหน้าชื้นเหงื่อของเราก่อนที่นิ้วแกร่งจะสอดเข้ามาในโพลงปาก
เราปรือตาทั้งอมและดูดนิ้วเรียวพลางใช้ฟันขบปลายนิ้วไปด้วยระหว่างดูดกลืน ขณะนั้นเจเจอร์หอบสะท้านใบหน้าแดงก่ำช่วงล่างเร่งกระแทกกระทั้นจนเราเริ่มจุกมากกว่าจะเสียว หลังจากเร่งเครื่องไม่นานก็เป็นไปตามคาด........
“อ๊า...วิว ......แตกแล้ว ..วิวครับ สุดยอด ...ซี๊ดด”
ร่างของเราถูกทาบทับด้วยกายหนาของอีกฝ่าย เจเจอร์ครางหอบพลางขบใบหูของเราเบาๆ ร่องทางรู้สึกถึงแรงกระตุกกระแทกซ้ำๆ สามสี่ทีก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดนิ่ง ไม่ได้รู้สึกเหนอะหนะเพราะเจเจอร์ใส่ถุงยาง ซึ่งนั่นก็คือหนึ่งในข้อตกลงของเรา
ร่างหนายันพื้นเตียงข้างกายขึ้นมองสบตาเรา ดวงตาที่เคยเป็นประกายอยากเอาชนะดุดันของผู้ล่าบัดนี้กลับเต็มไปด้วยความลุ่มหลงและเทิดทูน ความวูบโหวงตรงส่วนล่างเมื่อเจเจอร์ถอนกายออกไม่ได้ทำให้เราขยับกายเพื่อไขว้คว้าหาสิ่งที่เคยเติมเต็ม
เรานอนอยู่นิ่งๆพลางใช้หลังฝ่ามือไล้สันกรามของอีกคนไปมา เจเจอร์จับมือเราไว้แล้วกดจูบเบาๆลงบนฝ่ามือคล้ายว่าเราคือสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่งของเขา ไม่รู้ว่าเพราะเผลอไปหรืออารมณ์ใคร่ยังมีอยู่..... “เจร์รักวิวมากนะครับ รู้มั้ย?”
“อย่าลืมข้อตกลงของเราสิเจเจอร์”
เราพูดด้วยรอยยิ้มแต่นั่นทำให้ร่างหนาบนตัวเราชะงักไป เราไม่สนใจดึงมือออกจากการกอบกุมเอาไว้อย่างหวงแหนของอีกคน “..?”
เราถอนหายใจดันอีกคนออกจากตัวแต่เขากลับขืนตัวคร่อมไม่ยอมถอย
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกันน่ะวิว? วิวไม่รู้สึกเหมือนเจร์เลยเหรอ?”
“รู้สึกสิ เจเจอร์เป็นรุกที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง เราชอบเจเจอร์มากกว่าใครหลายคน แต่ต้องเข้าใจนะ... ว่าเราแค่ชอบแต่ไม่ได้รัก”
“วิว!”
“เมื่อกี้ถือซะว่าเป็นของขวัญวันเกิดจากเราแล้วกันนะ ชดเชยที่เราไม่ได้เตรียมของขวัญแบบเป็นชิ้นเป็นอันมาให้”
สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสนแต่นั่นก็ทำให้เราสามารถดันตัวเขาออกจากตัวเราได้ เราลุกขึ้นยืนนิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะยังปวดเสียดช่องทางอยู่ แต่ยังไม่ทันที่เราจะได้เดินไปชำระกายที่ห้องน้ำข้อแขนของเรากลับถูกอีกคนกระชากรั้งเข้าหาตัวซะก่อน
“วิวจะบอกว่าที่วิวว่าง่ายยอมเป็นคนเริ่มบทเซ็กส์ครั้งนี้ขึ้นมาก่อน ก็เพราะจะให้มันเป็นของขวัญกับผมเท่านั้นอย่างนั้นเหรอ?”
เราเอียงคอแล้วพยักหน้า “ใช่ ที่เราพูดไปไม่ชัดเจนพอเหรอ ทำไมเจเจอร์ถึงทำหน้าไม่เข้าใจแบบนั้น?”
“ชัดเจนสิวิว ชัดมาก........ ”
“ถ้าชัดมากแล้วทำไมถึงทำหน้....อ๊ะ เราเจ็บนะ”
เราพยายามแกะมือหนาที่บีบรัดต้นแขนของเราจนเจ็บออกแต่เขาไม่ยอมปล่อย เจเจอร์จ้องมองเราอย่างดุดัน เขากำลังโมโหเรารู้ดี ซึ่งเขาไม่มีสิทธิ์รู้สึกแบบนั้นเพราะคำพูดของเราเลยสักนิด
“อย่าลืมสิ เราคบกับเจเจอร์เพราะอะไรและเจเจอร์คบกับเราเพราะอะไร”เราย้ำเตือนด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“แล้วถ้าผมบอกว่าผมอยากคบกับวิวมากกว่าแค่เรื่องเซ็กส์ล่ะ วิวจะว่ายังไง?”
เราเงียบไปชั่วอึดใจ.... “ข้อตกลงของเราก็คงต้องยุติ”
เกิดความเงียบขึ้นทันที มีเพียงเสียงอึกทึกครึกโครมข้างนอกเท่านั้นที่เป็นตัวบ่งชี้ว่าเรากับเจเจอร์ยังไม่ได้หลุดออกนอกมิติไปไหน สักพักเจเจอร์ถึงได้ปล่อยมือออกจากแขนของเรา เขาเดินไปหยิบเสื้อตัวใหม่ในตู้เสื้อผ้ามาใส่แล้วเดินไปที่ประตู
“อาบน้ำให้สบายตัว เสื้อผ้าของวิวมีอยู่ในตู้อีกใบข้างตู้เสื้อผ้าของผม ...ผมจะลงไปรอข้างล่าง รีบไปนะจะพาไปเปิดตัวกับเพื่อนอย่างเป็นทางการ”
“...”
“ในฐานะคนพิเศษของผม แบบนั้นคงไม่ว่าอะไรนะ?”
“อืม”
คล้อยหลังเจเจอร์ไปเราถึงได้ถอนหายใจออกมา ความจริงแล้วเราอยากจะยุติข้อตกลงที่ว่านั้นเลยด้วยซ้ำ ดูก็รู้ว่าตอนนี้เจเจอร์คิดกับเราเกินกว่าคำว่าคู่นอนไปแล้ว ….เรื่องราวมันกำลังจะยุ่งยากมากขึ้นกว่าเดิม คนอย่างเจเจอร์ไม่ใช่คนที่นึกจะเข้ามาก็เข้านึกจะตีจากก็จะตีจากกันไปได้ง่ายๆ
การตัดสัมพันธ์กับเจเจอร์เริ่มจะไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป
หากเราเป็นเชื้อเพลิงเจเจอร์ก็คงจะเรียกได้ว่าเป็นกองไฟที่พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่งให้มอดไหม้หากไม่เป็นไปตามอย่างที่เขาต้องการ
มันคงจะดีหากว่าเขาก็เป็นคนที่เราต้องการเหมือนกัน แต่น่าเสียดาย......ที่มันไม่ใช่แบบนั้น
มีของดีอยู่กับตัว
ก็ยังไม่พอใจ ต่อๆชอบมากขอบคุณจากใจที่แบ่งปัน ขอบคุนครับ
หน้า:
[1]