hate โพสต์ 2018-5-19 00:57:27

เริ่มด้วยใคร่ ลงท้ายด้วย..? 11 (50%)

XI( 50% )



         “ทำแบบนี้น่ะ คิดว่าดีแล้วเหรอ?”


         ผมเคยถามตัวเองด้วยคำพูดประโยคนั้นอยู่หลายครั้งเหมือนกัน แต่คำตอบที่ได้ก็มักจะเป็นคำตอบเดียวกันเสมอแน่นอน....

         “แล้วนายใช้อะไรเป็นตัวกำหนดล่ะ ว่าที่ผมทำ....มันไม่ดี?”

         อดัมส์เงียบไปแต่ดวงตาสีฟ้าครามยังคงจับจ้องมาที่ผมไม่ละไปไหน เหมือนกับจะมองให้ทะลุถึงความคิด รับรู้ถึงจิตใจที่อาจจะดูดำมืดในสายตาของเขา

         หึ ก็คงไม่แปลกสักเท่าไหร่ ที่อดัมส์รู้ก็เหมือนกับที่คนอื่นๆรู้ เจเจอร์เลิกกับผมเพื่อไปคบอย่างออกนอกหน้านอกตากับเพราตา ในขณะที่ผมที่ช้ำรักจากเจเจอร์กลับตัดใจไม่ได้วิ่งโร่เข้าหาเพราตาเพื่อหวังจะประชดรักเจเจอร์ ทำให้เพราตาเขี่ยเจเจอร์ทิ้งแล้วหันมาควงกับผมแทน

         แน่นอนที่สุดตัวผมในมุมมองความคิดของคนอื่นในตอนนี้น่ะก็คงจะเป็นได้แค่'ไอ้แพศยา'ไร้ศีลธรรมคนหนึ่งเท่านั้น

         พวกที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็ดีแต่พูดกันไปตามเนื้อผ้าที่เห็น สู่รู้ทั้งที่ไอ้สิ่งที่ตัวเองรู้น่ะมันผิดจากความเป็นจริงไปมากโข เหอะ!


         “ฉันถามจริงๆเถอะน้ำ ..นายรักไอ้เจร์มันถึงขนาดต้องลงทุนทำอะไร....แบบนี้เลยอย่างนั้นเหรอ?”

         ผมชะงักมือที่กำลังก้มลงสรุปเนื้องานตามสไลด์ที่ฉายอยู่บนหน้าจอมอนิเตอร์หน้าห้อง อาจารย์ไม่อยู่ไม่รู้ไปไหนแต่บอกเอาไว้ก่อนออกจากห้องว่าให้สรุปความบนสไลด์ให้เสร็จภายในระยะเวลาที่เขาออกไปข้างนอก นักศึกษาบางคนรวมทั้งผมทำตามคำสั่งของอาจารย์อย่างเคร่งครัดในขณะที่นักศึกษาหลายคนรวมทั้งอดัมส์ยังไม่แม้แต่จะหยิบกระดาษเขียนรายงานขึ้นมาเลยสักแผ่น

         ผมถอนหายใจแล้วก้มหน้าเขียนสรุปต่อ ส่วนปาก... ก็เอ่ยตอบออกมาเบาๆ


         “......มันไม่ใช่อย่างที่นายหรือใครเข้าใจหรอก อดัมส์”


         ติ๊ด


         แอบเห็นทางหางตาว่าอดัมส์ขยับปากจะพูดออกมาอีกครั้งแต่กลับถูกขัดด้วยเสียงข้อความเข้าจากมือถือของผมที่วางอยู่บนโต๊ะซะก่อน อดัมส์เมินหน้าไปอีกทางเมื่อผมเปิดอ่านข้อความ

         เขาคงเห็นชื่อคนส่งหรือไม่ก็เป็นรูปภาพที่ถูกตั้งเอาไว้ด้วยฝีมือของคนคนนั้นเอง...


         - เพราตา

               ไมค์ยกเลิกคลาส ....เราปวดหัวจะตายอยู่แล้ว เนื้อตัวก็ด้วยปวดไปหมด
               อเล็กซ์บอกว่าไม่ว่างมารับเราตอนนี้และคงไม่ว่างยาวยันเย็นเลย .......เราจะทำยังไงดี? -


         อยากจะบอกว่าผมสามารถนึกถึงหน้าตาของอีกคนได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ปากอิ่มๆสีสดสวยนั่นคงจะกำลังเบะอยู่ ตากลมคงจะฉ่ำจากอาการไข้แต่ถึงอย่างนั้นก็คงจะยังแฝงไปด้วยแววหงุดหงิดงุ่นง่าน น้ำเสียง...หากได้ยินก็คงจะออดอ้อนชวนให้ใจใครต่อใครยอมอ่อนให้โดยดุษฎีอย่างแน่นอน

         ถึงจะถามเหมือนเชิงขอความเห็นว่าจะทำยังไงดี สุดท้ายก็คงจะหนีไม่พ้นอยากให้ผมโผล่หน้าไปหาเขาตอนนี้เวลานี้เลยมากกว่า

         คำตอบที่เพราตาต้องการก็คงจะไม่ต่างไปจากคำตอบในใจของผมสักเท่าไหร่นัก


         เก็บของใส่กระเป๋าหนังสะพายข้างเสร็จก็ลุกขึ้นเลื่อนเก้าอี้เข้าที่ ไม่ลืมที่จะเลื่อนกระดาษสรุปที่เร่งเขียนจนเสร็จภายในเวลาไม่กี่นาทีให้คนตัวใหญ่หน้าอิมพอร์ตนอกที่ตอนนี้กำลังบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด อดัมส์ขมวดคิ้วมองผมอย่างขัดใจส่วนผมไม่ได้ว่าอะไรในท่าทีนั้นของเขา ส่งยิ้มให้น้อยๆมือตบไหล่กว้างเบาๆ

         “ลอกให้เสร็จก่อนอาจารย์เข้าล่ะแล้วก็ ฝากส่งงานด้วยนะอดัมส์”

         “อย่าให้ผู้ชายคนนั้นมีอิทธิพลกับนายนักสิน้ำ”

         ผมหัวเราะ

         “นายเตือนผมช้าไปแล้วล่ะ ไม่สิ.....ต่อให้เตือนเร็วกว่านี้ผมก็คงจะไม่ฟังที่นายเตือนอยู่ดี เพราะฉะนั้น.....ขอโทษนะ”


         ผมหันหลังเดินจากมาโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองสีหน้าของอดัมส์ต่ออีก หลายคนอาจว่าผมใจร้ายแต่จะให้ทำยังไงได้ ผมตอบรับความรู้สึกของเขาไม่ได้พอกับที่ผมปฏิเสธเพราตาไม่ได้

         เพราตาสำหรับผมแล้วเขาอาจจะเป็นน้ำเย็นที่ช่วยชโลมจิตใจที่มันแห้งเหี่ยวของผมให้กลับมาชุ่มชื่นสดชื่นขึ้น กลับกันเขาอาจจะเป็นเหมือนไฟที่พร้อมจะแผดเผาจิตใจของผมให้มอดไหม้ไปไม่เหลือซากหากผมไม่รู้จักยับยั้งตัวเองเอาไว้

         ไม่ว่าจะอย่างไหนก็ตาม

         ผมก็อยากจะลองดูกับเขาสักครั้ง


         เรื่องเพราตาอาจจะเป็นเกมที่เจเจอร์ต้องเอาชนะผมให้ได้ แต่ไม่ใช่กับผม

         ความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมีให้เขามันไม่ใช่แค่เกมๆหนึ่ง


         ความจริงข้อนั้นเจเจอร์รู้ดีและมันก็รู้มาตลอด

         เพราะความจริงแล้ว.................... ผมน่ะ........


         .

         .


         “นี่ๆข่าวล่า วิวตกบันไดล่ะแก๊!”

         “เฮ้ยย น้องวิวของกูตกบันได? ยังไง? ได้ยังไงวะ?”

         “เหมือนว่าน้องเขาจะไม่สบายอยู่นะแกแล้วแบบ...”

         ปัง!

         ไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิดทั้งที่โต๊ะที่ตบเต็มๆมือเมื่อครู่เป็นพื้นหินอ่อน ตอนนี้ผมกลับรู้สึกหน่วงที่อกมากกว่า“ตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ?!”

         “หะ? อะ...เออ เหมือนว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์จะพาไปส่งที่ห้องพยาบาลคณะ......อะ อ้าว? นี่นาย ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ฟังเขามาอีกทีอ้ะ!”


         บ้าเอ้ย!

         ไม่เคยรู้ว่าตัวเองจะมีความรู้สึกร้อนรนในใจได้มากมายขนาดนี้ ตอนนี้ในหัวของผมมีแต่คำว่าวิวตกบันไดลอยเต็มไปหมด ตัวก็เล็กแค่นั้นหุ่นบอบบางเหมือนแก้วยังต้องระวังทุกครั้งที่ได้กอด ...ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง? วิวจะเจ็บมากแค่ไหน?


         ร้อนในอกจนอยากจะบ้า!

         เพราะไม่รู้ว่าห้องพยาบาลของคณะนี้อยู่ตรงไหนเลยต้องเสียเวลาถามทางอยู่นานกว่าจะวิ่งมาถึง ผมไม่แม้แต่จะหยุดยืนนิ่งๆเพื่อให้หายหอบ ก้าวขาให้ยาวที่สุดเท่าที่ส่วนสูงจะอำนวยเข้าไปในห้องที่มีเตียงตั้งอยู่เรียงราย ทุกเตียงว่างเปล่าเว้นอยู่เตียงหนึ่งที่ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางของจำนวนเตียงทั้งหมด

         รู้สึกตัวสั่นไปหมดเมื่อเห็นร่างเล็กคุ้นตานอนหลับตานิ่งๆอยู่บนเตียง เป็นเพราะมีผ้าห่มคลุมปิดกายจนถึงคอเลยทำให้ผมมองไม่เห็นว่าบนตัวขาวๆนั้นจะมีร่องรอยจากเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน


         “ว..วิว?”

         เสียงที่ออกมาจากลำคอแหบพร่าและสั่นเครือ ผมค่อยๆนั่งลงบนขอบเตียง ยกมือที่กำลังสั่นระริกอย่างยากที่จะควบคุมให้มันอยู่นิ่งๆได้แตะลงบนแก้มนวลแผ่วเบา

         ตัวร้อนราวกับเอามืออังอยู่หน้าเตาไฟ

         “วิว......?”

         คราวนี้เสียงของผมติดเจือสะอื้น ภาพที่มองเห็นพร่าเลือนเพราะน้ำตาจำนวนมากมันแย่งกันไหลออกมาไม่หยุด ในขณะที่ผมกำลังจะยกมืออีกข้างขึ้นเช็ดน้ำตากลับถูกมือเล็กแต่เย็นเฉียบของคนที่คิดว่าหลับอยู่คว้าหมับเอาไว้

         ดวงตาคู่กลมเปิดขึ้นช้าๆ ปากอิ่มซีดไม่แดงสวยเหมือนเคยเพราะพิษไข้แย้มรอยยิ้มออกมาบางเบา


         “...มาช้านะ เรานอนรอน้ำจนเกือบจะเผลอหลับไปแล้ว”

         “...”

         ผมเม้มปากมองคนหน้าสวยบ่นด้วยน้ำเสียงที่แห้งผาก มือเล็กคลึงฝ่ามือของผมไปมาคล้ายจะปลอบประโลมกัน


         “น้ำ .....นี่ ......กอดเราหน่อยสิ”

         ให้ตายเถอะ

         ผมโถมตัวลงกอดคนตัวเล็กกว่าเอาไว้เบาๆ ระวังที่สุดที่จะไม่ให้ตัวเองออกแรงรัดตัวของอีกฝ่ายมากเกินไปอย่างที่อยากทำ “เจ็บมากมั้ย? เจ็บตรงไหนบ้าง? เป็นอะไรมากหรือเปล่า?”

         “หึหึ...”

         “ห..หัวเราะอะไร รู้มั้ยผมน่ะ.....”

         จุ๊บ

         มือเล็กของคนที่อยู่ในอ้อมกอดลูบแผ่นหลังของผมไปมาในขณะที่ปากอิ่มสีซีดยังคงกดจุ๊บแก้มของผมไม่หยุด

         เผลอเม้มปากอีกครั้งเมื่อคนใต้ร่างใช้สองมือน้อยประคองหน้าผมเอาไว้ ดวงหน้าสวยยิ้มหวานดวงตาคู่กลมสบตากับผมอ่อนเชื่อม


         “รู้สิ น้ำน่ะห่วงเรามากใช่มั้ยล่ะ”


         “...”

         “แต่เราไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงหรอกนะ โชคดีที่คนที่ช่วยพาเรามาส่งที่ห้องพยาบาลรั้งแขนเราเอาไว้ได้ทันเลยไม่ได้ตกบันไดอย่างที่ควรจะเป็น แต่ถึงจะตกบันไดจริงๆก็คงจะไม่เจ็บอะไรมากหรอก ก็บันไดแค่ไม่กี่..... อื้อออ”

         ใครว่าเพราตาเป็นคนพูดน้อยกัน?

         ไม่ได้อยากรังแกคนป่วยแต่มันอดไม่ได้จริงๆ ผมกดจูบกลีบปากนุ่มเบาๆแตะลิ้นละเลงริมฝีปากอิ่มจนชื้นฉ่ำก่อนที่อีกฝ่ายจะเผยอปากออกเปิดทางให้เกลียวลิ้นของผมสอดเข้าไปลิ้มลองชิมความหวาน ส่งผ่านทุกความห่วงใยให้เขาได้รับรู้อย่างอ่อนโยน ...แต่ดูเหมือนว่าความนุ่มนวลของผมจะทำให้อีกฝ่ายขัดใจ

         ลิ้นร้อนจัดจึงเป็นฝ่ายพลิกเกี่ยวตวัดโลมรันอย่างเร่าร้อนแทน


         “..อ๊า ....”

         ผมเผลอครางออกมาเมื่อถูกฟันขาวเรียงตัวสวยขบกลีบปากล่างเบาๆ ก่อนที่ดวงหน้าหวานของคนภายใต้ร่างจะขยับเลื่อนลงจูบไซ้ซอกคอ เจ็บจี๊ดๆเพราะแรงขบเสียววูบวาบเพราะแรงดูดดุนเลีย

         รู้สึกถึงความเย็นเฉียบทว่ากลับนุ่มนิ่มสอดเข้ามาในกางเกงกอบกุมแก่นกายที่กำลังตื่นตัวของผมเอาไว้ในขณะที่คนป่วยเลื่อนหน้าขึ้นประกบจูบสอดลิ้นแลกโอ้โลมกับลิ้นของผมอีกครั้ง


         “...อื้มมมม”

         หัวสมองว่างเปล่า ลืมแม้กระทั่งว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนและมันไม่เหมาะไม่ควรอย่างไร

         รู้แต่ว่าผมต้องการเพราตา .....และเขาเองก็คงจะรู้สึกไม่ต่างกัน

         มือเล็กที่โอบอุ้มท่อนเนื้ออยู่ขยับรูดมันเบาๆ สองมือของผมคร่อมค้ำร่างของอีกฝ่ายเอาไว้ ....สั่นระริกไปหมดทั้งตัว ลมหายใจถูกอีกคนช่วงชิงไม่ละริมฝีปากออก ......

         และในขณะที่ผมใกล้ถึงประตูสวรรค์อยู่รอมร่อ


         “เพราตา อีกเดี๋ยวอาจารย์พยาบาล............

          เฮ้ย?!!!”




         ทำไมจะต้องมีอะไรมาขัดเราสองคนทุกทีเลยนะ?


topto โพสต์ 2018-5-19 08:53:07

ต่อๆชอบมากขอบคุณจากใจที่แบ่งปัน

Gooddy โพสต์ 2018-5-19 11:02:51

ชอบมากๆเลย
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: เริ่มด้วยใคร่ ลงท้ายด้วย..? 11 (50%)