hate โพสต์ 2018-5-19 01:06:05

เริ่มด้วยใคร่ ลงท้ายด้วย..? 12 (100%)

V (100%)




ปวดหัว

         ลืมตานอนฟังเสียงฟ้าร้องฝนตกมาได้สักพัก แต่เพราะคั่นเนื้อคั่นตัวและหนักหัวหน่วงตัวเกินทนเราเลยได้แต่นอนอยู่เฉยๆ ไม่ชอบเลยที่ตัวเองเป็นแบบนี้ แต่ก็อย่างว่า.. ใครจะไปชอบช่วงเวลาที่ตัวเองไม่สบายกันล่ะจริงไหม?

         เราขยับคอเล็กน้อยพลางหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้างกัน โตยธารยังคงหลับสนิทถึงภายในห้องจะมืดแต่เพราะแสงสายฟ้าที่แวบวาบอยู่ภายนอกผนวกกับเพราะอยู่ใกล้กันแค่นี้เลยทำให้สามารถมองเห็นใบหน้ายามหลับของอีกคนได้อย่างชัดเจน

         ขนาดหลับยังชอบเม้มปากเลย คงจะทำจนติดเป็นนิสัยไปแล้วแน่ๆ

         นอนมองโตยธารสักพักก็ต้องหลับตาแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ เราค่อยๆยันตัวลุกขึ้นช้าๆทั้งที่ยังหลับตาอยู่อย่างนั้น อเล็กซ์เคยบอกไว้เวลาไม่สบายหากอยากลุกจากที่นอนให้ทำแบบนี้ตอนลุกขึ้นมาจะได้ไม่หน้ามืด นั่งนิ่งๆสักพักแล้วค่อยลืมตาขึ้นมา...

         ท่าทางเป็นไข้คราวนี้จะหนักจริงๆเราถึงยังรู้สึกมืดตามึนหัวอยู่ดี ทั้งที่ก็ทำตามคำแนะนำของอเล็กซ์แล้วทุกขั้นตอนแท้ๆ

         แย่ชะมัด


         พยายามที่จะตั้งสติเอาไว้ให้มากที่สุด มือซ้ายคลำกำแพงพร้อมทั้งใช้มันในการพยุงตัวไม่ให้เซไปชนข้าวของที่วางอยู่ข้างกำแพงในขณะที่มืออีกข้างยกขึ้นกุมศีรษะ ปวดหัวจนคล้ายกับว่ามันสามารถจะระเบิดตัวเองได้ทุกเมื่อ อากาศก็หนาวจนไม่อยากจะกระดิกตัวทั้งที่เคยชอบมากแท้ๆ

         แย่

         แย่

         แย่


         “วิว?!”

         หมับ

         บางทีก็แอบคิดว่าโตยธารอาจจะมีเซ้นส์อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเราก็เป็นได้ ในขณะที่เราแทบจะทรงตัวยืนต่อไม่ไหวร่างบางๆของใครอีกคนก็ใช้ตัวเองเป็นหลักให้เราพิงพร้อมกับแขนเรียวที่โอบรัดรอบเอวของเราเอาไว้ รู้สึกถึงอันตราการเต้นของหัวใจตรงแผ่นหลังข้างซ้ายของเรา ทั้งรัวและเร็ว

         อาจเพราะเขาไม่ได้ใส่เสื้อด้วยล่ะมั้งเราถึงได้รู้สึกถึงเสียงหัวใจของเขาเต้นชัดเจนขนาดนี้


         “ทำอะไร? จะไปไหนทำไมไม่เรียกน้ำล่ะ?!”


         ท่าทางว่าเราคงจะทำให้เขาโกรธเข้าแล้วล่ะมั้ง....

         เราฝืนกายหันไปโอบกอดร่างบอบบางของเขาเอาไว้ ซบหน้ากับร่างกายที่ร้อนผ่าวราวกับตู้อบเคลื่อนที่แนบอิงไว้กับอกและตัวของอีกฝ่าย โตยธารกำลังตัวสั่นไม่รู้ว่าเพราะโกรธจนสั่นหรือหนาวจนสั่นกันแน่

         “ขอโทษ แต่เห็นน้ำหลับสบายเราเลย..”

         “ไม่เป็นไร ถ้าเป็นวิวล่ะก็.... ไม่เป็นไร ทีหลังจะไปไหนหรือต้องการอะไรก็บอกน้ำนะครับ”

         รู้สึกถึงไออุ่นของฝ่ามือเรียวของอีกคนที่กำลังลูบเบาๆบนศีรษะของเรา ....อบอุ่นและอ่อนโยน


         เราไม่พูดอะไรนอกจากโอบกอดลำตัวของอีกฝ่ายแน่นขึ้น ส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดให้กับเขา ทั้งขอบคุณและตื้นตัน รู้สึกดีแค่ไหนที่ได้รู้ว่าเขาเป็นห่วงเรามากขนาดนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีใครมาห่วงแต่เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกตอบรับไปกับความรู้สึกนั้นด้วย

         โตยธารเป็นคนแรกในแทบทุกเรื่องที่เราไม่เคยรู้สึกหรือทำให้ใครจริงๆ


         “แล้ววิวจะไปไหนครับ?”

         “ห้อง...น้ำ แค่ก ..คือเรา ปวดฉิ่งฉ่องน่ะ”

         โตยธารเงียบไปสักพักก่อนที่เขาจะบอกให้เราค่อยๆเดินไปกับเขาโดยมีเขาคอยพยุงอยู่ไม่ห่างกาย ทุลักทุเลอยู่พอสมควรกว่าจะถึงที่หมายซึ่งก็คือห้องน้ำ ถึงเราจะตัวเล็กกว่าเขาแต่เป็นเพราะเรามึนหัวมากเสียจนแทบจะทรงตัวไว้เองไม่อยู่ โลกที่เห็นมันโคลงเคลงไปหมดราวกับเดินอยู่บนเรือที่แล่นในอยู่น้ำทะเล


         ให้ตายสิ

         เราผละออกจากกายบางไปนั่งโก่งคออาเจียนเอาน้ำย่อยออกมาอยู่หน้าชักโครก คงจะดูน่าสมเพชน่าดูแต่ช่วงเวลาแบบนี้เราไม่แคร์หรอก คนที่เห็นเราในสภาพย่ำแย่ที่สุดแบบนี้ในตอนนี้ก็มีแค่โตยธาร หากเขานึกรังเกียจหรืออะไรก็แล้วแต่ในแง่ลบกับเรามันก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก

         ...แต่สัมผัสอ่อนโยนที่กำลังลูบแผ่นหลังกลับทำให้เราชะงัก หันไปมองก็เห็นใบหน้าน่ารักนั้นเต็มไปด้วยความกังวลและห่วงใย ทิชชู่ในมือเรียวของเขาค่อยๆซับเช็ดคราบน้ำลายที่เปรอะเปื้อนอยู่ตรงริมฝีปากของเราออกให้อย่างนุ่มนวล

         อ่า รู้สึกแย่ชะมัด ทำไมเมื่อครู่เราถึงได้คิดถึงผู้ชายคนนี้ในแง่ร้ายนะ ทั้งที่โตยธารไม่ใช่คนที่จะรังเกียจได้แม้แต่คนกำลังไม่สบายเลยสักนิด

         “ไหวหรือเปล่า? จะอ้วกอีกมั้ย?”

         เรายิ้มอาจจะดูโรยแรงสำหรับเขาแต่คิดว่าเป็นรอยยิ้มที่อ่อนหวานที่สุดเท่าที่เราเคยยิ้มมา โตยธารชะงักก่อนที่ใบหน้าขาวติดซีดนั้นจะค่อยๆแดงขึ้นเมื่อเราเอ่ยคำพูดประโยคหนึ่งออกมา....


         “ตอนนี้เราอยากจูบน้ำมากกว่า”


         ....

         “น..ไหนว่าปวดฉิ่งฉ่องไง”ร่างบางลุกขึ้นทันที เขาเม้มปากเมื่อเห็นเราขำออกมาเบาๆก่อนที่แขนเรียวจะช่วยโอบพยุงเราให้ลุกขึ้นยืนช้าๆ

         น่ารักจนน่าแกล้ง

         “เราไม่ค่อยมีแรงเลย แค่กๆ ..ช่วย น้ำช่วยจับให้เราหน่อยได้ไหม?”

         แดงแปร๊ดขึ้นยิ่งเสียกว่าในตอนแรกซะอีก


         โตยธารอึกอักเล็กน้อยแต่พอเห็นหน้าของเราเขาก็พยักหน้ารับอย่างแข็งขัน ถึงจะดูกระตือรือร้นขึ้นมาบ้างแต่มือบางๆนั้นกลับสั่นระริกยามค่อยๆดึงกางเกงผ้าโปร่งขายาวลงค้างไว้ตรงขาอ่อน เราคิดว่าเขากำลังทำใจ...สักพักมือบางนุ่มของเขาก็จับเอาวิวน้อยของเราไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างทะนุถนอมและโตยธารทำมันอย่างเป็นธรรมชาติเสียจนเราไม่รู้สึกย้อนแย้งหรือขัดเขินอะไร

         จนเราปลดทุกข์เสร็จเขาจึงบอกให้เรารอก่อน ทั้งที่มืออีกข้างของเขายังคงโอบเอวประคองตัวของเราเอาไว้ ไม่นานตัวที่เอี้ยวไปข้างหลังของเขาก็กลับมาเคียงเราอย่างเดิมพร้อมมือข้างที่เคยจับน้องวิวน้อยของเราให้ตรงกับชักโครกเมื่อครู่กลับมีทิชชู่เปียกอยู่เพิ่มมา เขาค่อยๆใช้ทิชชู่ในมือซับและเช็ดวิวน้อยแผ่วเบาด้วยสีหน้าที่ตั้งอกตั้งใจ

         ใบหน้าของเขาในยามนี้คือสิ่งที่เราไม่สามารถละไปมองสิ่งใดได้จริงๆ

         จู่ๆก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่ได้มาเจอกับผู้ชายคนนี้

         โชคดี...ที่มีเขาอยู่เคียงข้างแบบนี้


         “รู้สึก..เหมือนน้ำกำลังคุกคามทางเพศวิวอยู่เลยแฮะ ฮะๆ”

         ทั้งที่พูดแบบนั้นแต่กลับหน้าแดงซะเอง หยอกเราเล่นแต่กลับเขินเสียเองเนี้ยนะ? หึ.....


         “เป็นเรามากกว่าที่อยากจะคุกคามทางเพศน้ำ”มือที่จัดกางเกงให้เข้าที่ชะงักไป ใบหน้าของเขาเงยขึ้นมองเราดวงตาคู่กลมเบิกกว้างในขณะที่กลีบปากบางนั้นเผยอออกน้อยๆ “...น่าเสียดายที่เราปวดหัวจนอยากจะบ้าตาย น่าเสียดายจริงๆที่ตอนนี้เราไม่สบายอยู่...เฮ้ออ แค่ก”


         เสียงถอนหายใจเราแสร้งทำแต่เสียงไอเราไม่ได้แสร้งแต่อย่างใด แล้วก็ไอไม่หยุดจนโตยธารมีสีหน้าตื่นตระหนกมากกว่าเดิม เขาลูบหลังเราปากบอกให้ไปนอนพัก ตัวเราเองก็ไม่ได้ขัดอะไรเขาเพราะตอนนี้รู้สึกเหมือนใกล้ตายแล้วจริงๆ

         โตยธารพยุงเราจนมาถึงเตียงจัดแจงปิดแอร์พร้อมยาแก้ไข้กับยาแพ้อากาศรวมถึงยาแก้ไอยื่นส่งให้เรา ถึงจะเกลียดยาขนาดไหนแต่เอาจริงๆจะให้เราปฏิเสธน้ำใจของเขาเราก็ทำไม่ได้อยู่ดี สิ่งที่เราทำคือการว่าง่ายฝืนกินยาหลับตาปี๋เพราะรสฝาดขมของมันที่บาดคอเหลือเกิน จากนั้นร่างของเราก็ถูกอีกฝ่ายดันให้นอนลง ผ้าห่มผืนไม่หนามากคลุมห่มตัวเราไว้ด้วยฝีมือของเขา แต่ตัวคนทำกลับยังนั่งอยู่บนพื้นข้างเตียงเหมือนเดิมและไม่มีทีท่าจะขึ้นมานอนกับเรา

         เราขมวดคิ้วส่วนเขาคงอ่านสีหน้าของเราออก มือนุ่มลูบหน้าผากชื้นเหงื่อของเราแผ่วเบา “วิวหลับเถอะ น้ำตื่นเต็มตาแล้วเลยไม่ค่อยง่วงสักเท่าไหร่น่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะถ้าง่วงแล้วน้ำจะรีบนอนเลย”

         “...”

         เราเงียบก่อนที่จะหลับตาลงเพราะเริ่มฝืนตัวเองเอาไว้ไม่ไหว อาจจะเพราะทั้งพิษไข้และฤทธิ์ยา รู้อยู่ว่าเขาอยากจะเฝ้าไข้เรา ไม่อยากให้เขาต้องเสียน้ำใจและความรู้สึก ดูก็รู้ว่าเขาจริงจังกับเรื่องนี้ขนาดไหน ...โตยธารเป็นคนดี


         สัมผัสนุ่มแตะลงบนหน้าผาก เปลือกตา ปลายจมูก และจบลงที่ริมฝีปาก อ่อนโยนแผ่วเบา

         .....


         และตอนนี้เขาอาจจะกลายเป็น ‘คนสำคัญ’ สำหรับเราไปแล้วก็ได้

         คนสำคัญที่เราไม่อยากเสียเขาไปให้ใครหน้าไหน


         .

         .


         สุดท้ายก็ไม่ได้นอน

         โตยธารอ้าปากหาวออกมาหลังจากลุกขึ้นยืนเพื่อบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบ นึกแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันว่าเขานั่งอยู่ไปได้ยังไงตั้งหลายชั่วโมง โดยที่ทั้งตัวสวมเพียงแค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียว รู้แค่ว่าตอนนั้นเขาไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นนอกจากเป็นห่วงคนป่วยเสียจนแทบบ้า

         หากเพราตายังไม่หลับสนิทเขาเองก็คงจะละห่างไปนอนไม่ได้เหมือนกัน กว่าอีกฝ่ายที่เพ้อเพราะพิษไข้นอนกระสับกระส่ายไปมาจะนอนนิ่งหลับสนิทลงได้ก็เข้าเช้าวันใหม่ แสงสว่างเริ่มส่องเข้ามาในห้องแล้วนั่นหละ


         ตลอดเวลาโตยธารคอยเช็ดตัวให้กับคนป่วยตลอด ต้องทำให้ไข้ลดการเช็ดตัวทุกๆชั่วโมงก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ได้ผลดีและเร็วที่สุด ลองแตะหน้าผากวัดอุณหภูมิบนหน้าผากของอีกคนดูแล้ว เหมือนว่าการอดนอนของเขาจะประสบผล สีหน้ากับอุณหภูมิร่างกายของคนป่วยดีขึ้นมาก

         แต่ก็ยังประมาทไม่ได้


         เพราะไม่อยากผละไปจากคนป่วยโตยธารเลยคิดโทรสั่งข้าวต้มจากร้านเจ้าประจำข้างๆหอแต่กลับได้รับการตอบรับมาว่าวันนี้ร้านปิด ปิดทั้งที่ไม่เคยปิดมาก่อนนอกเสียจากติดเทศกาล ....ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากว่าเขาจะต้องลงไปซื้อด้วยตัวเอง

         อดมองคนป่วยที่ยังคงนอนอยู่บนเตียงอย่างเป็นห่วงไม่ได้

         แต่ในระหว่างนั้น


         ก๊อก ก๊อก ก๊อก


         เพราะไม่ทันได้คิดว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสภาพแบบไหน ร่างบางสาวเท้าเดินตรงไปที่ประตูห้องอย่างว่องไวด้วยเกรงว่าเสียงเคาะประตูจะทำให้คนป่วยตื่น มือเรียวบิดลูกบิดกระชากเปิดออกพร้อมนิ้วชี้เรียวของมืออีกข้างที่ยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเองพลางส่งเสียง....

         “ชู่ววว ....อ้าว อดัมส์?”


         ค่อนข้างแปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นว่าใครที่เป็นคนมาเคาะประตูเรียกเขาแต่เช้าแบบนี้ ร่างสูงใหญ่ควบหน้าตาฝรั่งจ๋าส่งยิ้มให้เจ้าของห้อง ...หากจะติดใจสักนิดก็คงจะเป็นหน้าแดงๆของหนุ่มลูกครึ่งนั่นหละ

         อดัมส์กลืนน้ำลายลงคอเมื่อเจ้าของห้องโผล่มาเปิดประตูให้ทั้งที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงแต่บ๊อกเซอร์ตัวบางขาสั้นปิดช่วงล่างเอาไว้เท่านั้น เรือนร่างขาวนวลเนียนทำให้ชายหนุ่มเลือดลมที่หน้าเดินจนรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด ก่อนที่จะสะกิดใจกับร่องรอยแปลกๆตามตัวของอีกฝ่าย

         มันดูคล้ายกับ....

         “อ้ะ”โตยธารร้องเสียงหลงเมื่อเอวของเขาถูกสองแขนขาวโอบเอาไว้ ยิ่งตกใจเมื่อเห็นร่างเล็กที่ไม่รู้ว่าตื่นนอนตอนไหนยืนทำสีหน้างัวเงียอยู่ข้างกายเขา

         ไหนจะเสื้อยืดที่ย้วยลงจนเห็นลาดไหล่ขาวนวลแลดูแสบตากับกางเกงที่หลวมสะโพกจนเผยให้เห็นไรขนอ่อนๆนั่นอีก


         “เพรา....ตา?”น้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมกับตาคมสีครามที่จ้องมองร่างเล็กไม่ละสายตา

         โตยธารเบิกตากว้างกว่าที่จะได้คิดอะไรสองมือบางก็ตะครุบปิดตาของร่างสูงที่ยืนถือถุงเต็มสองมือเสียแล้ว พร้อมกับคำพูดที่ทำให้เรียวปากอิ่มของคนตัวเล็กต้องยกยิ้มขึ้นมา


         “ห้ามมองวิวนะ อดัมส์!!”


         เพราตาพยักหน้าก่อนที่จะพูดเสริมออกมาอย่างอารมณ์ดี “ใช่ คนที่จะคุกคามทางเพศเราได้มีแค่น้ำเท่านั้นนะ”


         โผละ

         บรรดาถุงพลาสติกที่อยู่ในมือของหนุ่มลูกครึ่งร่วงลงตกกระทบพื้นทันทีที่สิ้นสุดประโยคคำพูดของคนตัวเล็ก ตอนนี้ในหัวของอดัมส์มีแต่คำว่า ‘คุกคามทางเพศ’ เต็มไปหมด...


         นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?!


         .

         .



( ของแถมท้ายตอน )


         “อึก ..ผม ...ไม่ไหวแล้ว อ๊าาส์”

         ทั้งที่พื้นห้องครัวเย็นจัดเพราะอากาศจากฝนที่โปรยปราย หากแต่ภายในตัวกลับร้อนรุ่ม

         ร้อนไปหมด ทั้งเนื้อตัวช่วงบนที่ถูกกกกอด ทั้งช่วงล่างที่ถูกท่อนเนื้อขนาดใหญ่เสียดเสียบรุกราน

         “นาย อ๊า...รัดฉันแน่น ..ไปแล้วนะ ซี๊ดด”

         ข้างในที่จาบจ้วงกายกระแทกกระทั้นอยู่ช่างร้อนเร้า ถึงจะคับแน่นแต่ก็บีบรัดอย่างอ่อนนุ่ม

         รสชาติของเซ็กส์ที่ไม่ได้สัมผัสมานานทำเอาเขาแทบคลั่ง หลั่งออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าหากแต่กลับยังไม่รู้สึกเต็มอิ่มเลยสักนิด

         ขออีกสักนิด .....อีกนิดเถอะนะ

         ไม่รู้ว่ากี่รอบต่ออีกรอบที่ร่วมรักกัน มีเพียงสิ่งเดียวที่คนทั้งคู่รับรู้ร่วมกันนั่นคือ...


         ไม่อยากให้ส่วนที่เชื่อมต่อกันอยู่นี่....


         “อ๊า.. ทั้งที่เพิ่งเข้าไปแท้ๆ อย่ารัดแน่นสิ...อ๊าาส์... อ้าขาให้กว้างอีก อื้มม...อย่างนั้นเด็กดี”


         “อ๊ะ...อ๊าาส์ มาก ...มากอีก อึก ...กอดผมให้มากกว่านี้”


         .....ทอดถอนออกห่างจากกันเลยสักวินาทีเดียว!



topto โพสต์ 2018-5-19 08:56:08

ต่อๆชอบมากขอบคุณจากใจที่แบ่งปัน

Gooddy โพสต์ 2018-5-19 15:16:32

ขอบคุนครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: เริ่มด้วยใคร่ ลงท้ายด้วย..? 12 (100%)