hate โพสต์ 2018-5-19 01:17:57

เริ่มด้วยใคร่ ลงท้ายด้วย..? 13 (70%)

XIII ( 70% )



         “แน่ใจแล้วเหรอว่าดีขึ้นแล้ว? ตัวยังรุมๆอยู่เลยนะ”มือบางแนบกับหน้าผากขาว สีหน้าแสดงออกถึงความห่วงใยอย่างชัดเจน

         “อือ”ปากตอบแบบนั้นแต่สีหน้ากลับยังซีดเซียว ดวงตากลมหลับพริ้มมือเล็กดึงมือบางของอีกฝ่ายมาแนบลงบนแก้มนุ่มของตัวเอง

         “เดี๋ยวทานยาอีกสักหน่อยดีกว่า วิวจะทานอะไรน้ำจะลงไปซื้อให้ ข้าวต้มมั้ย? หรือโจ๊กดี?”เรียวปากบางยกยิ้มดวงตาคู่กลมสีน้ำตาลอ่อนทอแสงอ่อนโยนระคนเอ็นดูร่างเล็กที่นอนปุหลับตาพริ้มปล่อยให้เขาเกลี่ยไล้แก้มนวลเล่นอยู่บนตักของตน

         “อื้มม...”คนตัวเล็กขมวดคิ้วทำท่าครุ่นคิดก่อนที่ดวงตากลมสีอัลมอลด์จะลืมขึ้นส่อประกายเจ้าเล่ห์ “เราอยากกินอะไรก็ได้ที่เป็น‘น้ำ’ ”



          “อะแฮ่ม!!”

         หนุ่มลูกครึ่งที่ถูกลืมกระแอมไอขึ้นมาด้วยเสียงที่ไม่เบานัก ร่างสูงยืนพิงกรอบประตูเลื่อนที่เชื่อมต่อกับระเบียงห้องมองคนหน้าสวยจัดติดจะซีดเซียวลงเพราะพิษไข้ออดอ้อนเกี้ยวพาโตยธารของเขามานานนับครึ่งชั่วโมงอยู่บนเตียง ทำราวกับโลกใบนี้มีกันอยู่แค่สองคนเท่านั้น นึกน้อยใจเพื่อนที่ตนคิดไม่ซื่อด้วยอย่างโตยธารเสียเหลือเกินเมื่อฝ่ายนั้นเองก็เหมือนจะลืมเลือนเขาไปเช่นกัน


         อะไรๆก็ผิดพลาดไปเสียหมด

         เพราะคนตัวเล็กที่พึ่งรู้ว่า‘ขี้อ้อน’มากกว่าที่คิด อดีตคู่ควงคนล่าสุดของเพื่อนสนิทเขานั้นแท้ๆ

         ทำไมเพราตาถึงมาอยู่ที่ห้องของน้ำได้กัน?

         แล้วมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนไหน อยู่ด้วยกันนานมากขนาดไหนแล้วก่อนเขามา?


         ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด งุ่นง่านอย่างที่สุดเมื่อตาคู่กลมของคนตัวเล็กปรายมองมาคล้ายจะรำคาญกันและบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขามันตัวเกะกะ เป็น ‘ส่วนเกิน’ ที่ไม่สมควรจะยืนอยู่ตรงนี้ ...นึกอยากตรงเข้าไปกระชากแขนเล็กๆนั้นแล้วเหวี่ยงให้ออกห่างจากเจ้าของห้องยิ่งนัก

         มือหนากำแน่นพยายามข่มอารมณ์ที่เริ่มจะเดือดพล่านในอกของตัวเองอย่างสุดความสามารถ

         มองดูก็รู้ว่าน้ำให้ความสำคัญกับเพราตามากขนาดไหน ขืนเขาทำอย่างที่ใจคิดไปคงไม่ส่งผลดีออกมาให้เห็นแน่ๆ ดีไม่ดีอาจถูกน้ำเกลียดเข้าด้วยซ้ำ ....

         “เอ่อ ขอโทษด้วยนะอดัมส์ ทั้งที่อุตสาห์ซื้อของกินมาฝากแท้ๆ....”

         โตยธารคงจะหมายถึงบรรดาถุงของกินที่เขากว้านซื้อมาเพื่อเอาใจเจ้าตัวโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นโจ๊กหม้อดินเจ้าอร่อยที่ถึงขนาดต้องต่อคิวรอซื้อตั้งแต่เช้าตรู่ ไหนจะน้ำเต้าหู้นมสดไม่ใส่เครื่องอื่นใดนอกจากเนื้อเต้าหู้ของโปรดคนตัวบาง ถึงจะไม่ต้องต่อแถวซื้อเหมือนโจ๊กหม้อดินแต่เจ้านี้ขายหมดเร็วมากถ้ากะเวลาไม่ดีก็คงชวด

         ซึ่งทั้งสองอย่างที่เขาซื้อมาด้วยความตั้งใจและเอาใจใส่นั้นกลับตกพื้นแตกกระจายไปก่อนหน้านี้เพราะคำว่า ‘คุกคามทางเพศ’ เรียบร้อยแล้ว ที่เหลืออยู่ก็เห็นแต่จะมีเพียงปาท่องโก๋ซาลาเปากับน้ำนมข้าวยาคูสองขวดเท่านั้นที่ไม่ได้แตกกระจัดกระจายไปตามถุงน้ำเต้าหู้นมสดกับถุงโจ๊กหม้อดิน


         “ไม่เป็นไรหรอก เหตุสุดวิสัยนี่นะ”หนุ่มลูกครึ่งยิ้มบางคล้ายไม่ใส่ใจมากนัก ทั้งที่ในใจนั้นเสียความรู้สึกเป็นบ้า!

         “นี่ เขาบอกว่าไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ เลิกทำหน้าอมทุกข์แบบนั้นได้แล้วนะ”คนตัวเล็กที่นอนอยู่บนตักนุ่มยกสองมือขึ้นประคองข้างแก้มนิ่มพลางกดนิ้วโป้งคลึงนวดแก้มอิ่มเล่นไปมา อีกฝ่ายที่ถูกคนป่วยเย้าหยอกขำออกมาเบาๆ

         ทั้งที่ตัวเองหน้าซีดตาปรือเสียงแหบแบบนั้นยังจะมาบอกว่าหน้าคนอื่นเขาอมทุกข์อีกงั้นหรือ


         น่ามันเขี้ยว

         โตยธารหยิกแก้มนุ่มของคนป่วยเบาๆอย่างอดไม่ได้ ได้ยินเสียงครางท้วงในลำคอของอีกคนพร้อมกับปากอิ่มที่ไล่งับนิ้วของเขา ไม่ได้จริงจังนักแต่พองับได้กลับไม่ยอมปล่อยเสียอย่างนั้น


         แผล่บ

         ลิ้นสีสดตัดกับสีปากอิ่มที่ซีดจางเพราะพิษไข้เล่นงานตวัดเลียปลายนิ้วชี้เรียวเบาๆก่อนที่จะอมข้อนิ้วแรกของช่วงนิ้วเรียวเข้าปาก ดวงตากลมฉ่ำปรือไม่รู้ว่าเพราะไข้หรือเพราะอย่างอื่น แต่ไม่ว่าจะเพราะอย่างไหนก็ทำให้คนที่ถูกดูดเลียนิ้วอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวนั้นหน้าแดงก่ำขึ้นมาได้

         ...และนั่นก็เหมือนจะเป็นจุดสิ้นสุดความอดทนของคนที่เฝ้ามองมาตั้งแต่แรก


         หมับ

         “อ๊ะ”

         “อดัมส์?!”


         ร่างเล็กลอยหวืออยู่ในอ้อมอกแกร่งของคนตัวสูง หนุ่มลูกครึ่งที่ถือวิสาสะอุ้มคนป่วยออกจากตักของเจ้าของห้องปั้นยิ้มให้ดูปกติที่สุดส่งให้คนร่างบางที่นั่งอึ้งอยู่ ในขณะที่ก้มมองร่างในอ้อมแขนด้วยแววตาวาวโรจน์ แม้จะเป็นเพียงแค่ชั่วแวบเดียวแต่มีหรือที่คนร่างเล็กจะไม่ทันสังเกตเห็น


         “นายลงไปซื้อโจ๊กมาให้...เพราตาเถอะ คนป่วยจะได้กินยาสักที อ้อ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวฉันดูแลเพราตาให้เอง”คำพูดนุ่มนวลฟังดูลื่นไหลเป็นธรรมชาติไม่คล้ายว่ามีความไม่พอใจแฝงอยู่เลยแม้แต่น้อย

         กลีบปากอิ่มสีซีดของคนป่วยยกยิ้มมุมปากน้อยๆอย่างรู้เท่าทัน ก่อนที่จะหันไปส่งยิ้มหวานให้กับคนร่างบางที่ยังคงขมวดคิ้วมุ่น “รีบกลับมานะ เราจะรอ”


         ปากบางของผู้เป็นเจ้าของห้องเม้มเล็กน้อย ดวงตาคู่กลมเป็นประกายไหววูบยามมองร่างสูงค่อยๆวางคนร่างเล็กลงบนเตียงอย่างเบามือ แต่กลับไม่ยอมผละออกห่างเสียทีทั้งที่คนป่วยก็หลังแตะพื้นเตียงเรียบร้อยแล้ว

         หรืออดัมส์จะเริ่มคิดอะไรกับเพราตา?

         ร่างบางส่ายหน้าไล่ความคิดบ้าๆออกจากสมองก่อนที่จะถอนหายใจเมื่อคนร่างสูงผละกายออกห่างจากเตียงแล้วเดินมาหาเขาแทน

         “...งั้นเดี๋ยวน้ำมา ฝากวิวด้วยนะอดัมส์”

         “อืม ไม่ต้องห่วง”


         โตยธารยิ้มอย่างคลายกังวล หยิบคีย์การ์ดของห้องใส่รองเท้าได้ก็เปิดประตูเดินออกไปทันที ถึงอย่างไรการให้คนป่วยได้ทานข้าวทานยาแล้วนอนพักก็สำคัญกว่าอาการหึงหวงบ้าๆบอๆที่มันอยู่ในอวัยวะที่กำลังเต้นตุ้บตุ้บตรงอกซ้ายของเขาอยู่แล้ว

         เพราะรู้ดีที่สุดถึงความรู้สึกของอดัมส์ที่มีต่อตัวเขา และที่สำคัญ.... เขาเชื่อใจเพราตามากกว่าความคิดงี่เง่าที่ผ่านเข้ามาเพียงชั่ววูบนั่นเอง

         .

         .


         “....มีอะไรจะพูดกับเรางั้นเหรอ?”

         อดัมส์ละสายตาจากประตูห้องที่เพิ่งปิดไปได้สักพักหันมามองคนป่วยที่ยกแขนขึ้นพาดหน้าผาก นอนหลับตานิ่งๆอยู่บนเตียง น้ำเสียงที่ใช้ถามเป็นแบบโมโนโทนเลยไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าคนถามถามด้วยความรู้สึกแบบไหนอยู่กันแน่

         หนุ่มลูกครึ่งถอนหายใจสองมือล้วงกระเป๋าจ้องมองร่างเล็กบนเตียงอย่างพินิจพิเคราะห์ “ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันก็แค่สงสัยว่าทั้งที่มีไอ้เจร์อยู่แล้วทำไมนายถึงยังมายุ่งกับน้ำอีก?”

         ร่างเล็กหลุดขำออกมาเบาๆแต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้หางคิ้วของคนฟังกระตุก

         “เป็นคำถามที่โง่เง่าจังนะ”

         “เพราตา!”

         “อย่าเสียงดังสิ เราปวดหัว”


         อดัมส์กัดฟันกรอด ร่างสูงสาวเท้าก้าวเข้าใกล้เตียงก่อนที่จะโน้มตัวคร่อมคนร่างเล็กเอาไว้ เพราตาลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงเงาดำที่ทาบอยู่บนกายครึ่งบน ไม่มีสีหน้าประหลาดใจหรือตื่นกลัวใดๆนอกจากความราบเรียบที่แทบจะไม่ปรากฏความรู้สึกใดๆให้ได้เห็น

          “อยากนอนกับเราเหรอ?”สิ้นคำถามด้วยสีหน้านิ่งเฉยของอีกฝ่าย อดัมส์ถลึงตาอย่างขุ่นเคือง นึกอยากจะตบปากอิ่มที่ดีแสนดีเหลือเกินนั้นสักเพี้ยะ

         “ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน? เหอะ แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ ...ก่อนมาคบกับไอ้เจร์นายเปลี่ยนคู่นอนมาแล้วกี่คนกันล่ะ หื้ม”

         คนป่วยนิ่งและเงียบไป ใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มลูกครึ่งกระตุกยิ้มเยาะออกมาจางๆ หากแต่รอยยิ้มนั้นกลับค้างตึงไปเพราะสองแขนเล็กที่ยกขึ้นคล้องรอบคอ ใบหน้าที่เคยนิ่งเรียบกลับแย้มส่งยิ้มยั่ว “..เอามือออกไป!”


         “ไม่ให้หรอกนะ”


         “ ?? ”


         ดวงตาคู่กลมสีอัลมอลด์เป็นประกายเอาจริงพร้อมแขนเล็กที่ไม่ได้แค่คล้องอยู่บนคอเฉยๆอย่างในคราแรกหากแต่ตอนนี้กลับล็อคลำคอหนาของคนที่คร่อมอยู่บนกายแน่น ...ไม่ใช่ด้วยแรงพิศวาสอดัมส์มั่นใจ คล้ายจะโอบรัดให้คอของเขาหักคาแขนเสียเลยมากกว่า!

         “.......”

         “ถึงคุณจะมาก่อน แต่ตอนนี้น้ำเป็นของเรา.... และเราก็เป็นของน้ำ”

         “...จะพูด อั่ก!”ใบหน้าขาวของหนุ่มลูกครึ่งเริ่มขึ้นสีคล้ำเพราะแรงโอบรัดรอบคอ

         อดัมส์ไม่เข้าใจเลยสักนิด....


         คนอะไรยิ้มยั่วยวนไปแต่กลับออกแรงรัดคอราวกับจะฆ่ากันให้ตายไปได้อย่างหน้าตาเฉยแบบนี้กัน!


         “น้ำน่ะ เราไม่ยกให้คุณหรือว่าใครทั้งนั้นหรอกนะ”


         เฮือก


         อดัมส์ผละกายออกห่างจากคนป่วยที่แรงเยอะอย่างน่าเหลือเชื่อ สูดอากาศหายใจเข้าปอดแทบจะในทันทีที่หลุดพ้นออกจากวงแขนเล็กๆนั่น ...ร่างสูงยืนโกยอากาศหายใจอยู่ข้างเตียง คิ้วเข้มขมวดผูกปมแน่นมองร่างเล็กที่ยังคงนอนนิ่งๆอยู่ท่าเดิม

         “นี่”


         “!!”รู้ถึงไหนคงอายถึงนั้นหากใครมาเห็นเขาเมื่อครู่ตอนที่น้ำเสียงแหบแต่กลับทรงอำนาจและมีเสน่ห์อย่างน่าพิศวงจู่ๆก็เอ่ยขึ้นมา แล้วเขาดันสะดุ้งเอาซะอย่างนั้นทั้งที่ไม่ใช่คนขวัญอ่อนเลยสักนิด

         ร่างเล็กค่อยๆลุกขึ้นนั่งคลุกเข่าบนเตียง ลาดไหล่ขาวนวลปรากฏสู่สายตาเมื่อเสื้อยืดย้วยลง ดวงหน้าหวานเอียงเล็กน้อยในขณะที่ดวงตาคู่กลมฉ่ำเยิ้ม.. คงเพราะจากพิษไข้ ไหนจะกางเกงที่ล่นลงจนเผยให้เห็นเอวคอดขาวเนียนนั่นอีก เห็นแบบนี้เขาก็ไม่นึกแปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมเพื่อนสนิทของเขาถึงได้ทั้งรักทั้งหลงคนตัวเล็กคนนี้นัก


         ดูเอาสิ ขนาดไม่สบายยังเอ็กซ์แตกขนาดนี้เลยให้ดิ้นตาย!

         โชคดีที่เขามั่นคงต่อโตยธารพอที่จะไม่รู้สึกไขว้เขวไปกับสิ่งงามตายวนใจตรงหน้า


         หากถึงจะเหมือนว่ากำลังยั่วกันขนาดไหนแต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมากลับเยือกเย็นเสียจนรู้สึกถึงบรรยากาศอันหนักอึ้งที่กำลังกดทับลงมาบนตัวเขาอย่างไรอย่างนั้น....


         “คุณน่ะ....”

         อดัมส์เผลอกลั้นหายใจไป 3 วินาที

         “...เป็นมิตรสำหรับเรากับน้ำใช่มั้ย?”

         “ห๋า?”

         “ถ้าเจเจอร์มาหาเรื่องน้ำตอนที่เราไม่ได้อยู่กับน้ำ แต่คุณกลับบังเอิญอยู่ตรงนั้นพอดี....... คุณน่ะ...จะเลือกอยู่ฝ่ายไหนกันล่ะ?”

         “......”

         คิดว่าตอนนี้เขาพอจะเข้าใจในสิ่งที่คนตัวเล็กพูดออกมาทั้งหมดแล้วล่ะ ตาสีฟ้าครามมองสบกับดวงตาคู่กลมของคนบนเตียงนิ่ง เนิ่นนานกว่าที่คนตัวเล็กจะพูดออกมาอีกครั้งและนั่นทำให้ร่างสูงชะงักไป


         “เจเจอร์หรือน้ำที่คุณจะเลือก?”


         มองออกหรือว่าเขารู้สึกอย่างไร?

         มองออกด้วยหรือว่าเขาลำบากใจกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย?

         หากให้ถึงเวลาที่จะต้องเลือกเข้าจริงๆ ระหว่างมิตรภาพกับคนที่รักเขาจะเลือกอะไร? ...นั่นคือสิ่งที่เพราตาต้องการรู้และต้องการกระตุ้นเพื่อให้เขาได้เริ่มคิดเช่นนั้นใช่ไหม?

         หึ นั่นน่ะสินะ


         “ถ้าฉันเลือกไอ้เจร์ล่ะ?”

         แค่อยากรู้เท่านั้น แต่ก็ไม่นึกว่าคำตอบของคนตัวเล็กจะทำให้เขาชะงักอึ้งไป...



         “มันก็เป็นเรื่องของคุณ”


         ร่างเล็กทิ้งตัวลงนอนอีกครั้งคล้ายกับว่าหมดความสนใจที่จะถามคำถามลองใจหรือเสวนาอะไรกับเขาต่อ เกิดคำถามหนึ่งขึ้นในห้วงความคิดของหนุ่มลูกครึ่งแทบจะในทันที.............



         ‘แค่เนี้ยะ?’

         .

         .


         “กลับไปแล้วล่ะ”


         นั่นคือคำตอบของคำถามว่าอดัมส์หายไปไหนหลังจากกลับมาถึงห้อง ผมไม่คิดติดใจหรือสงสัยอะไรจัดการป้อนข้าวป้อนยาคนป่วยเสร็จก็เข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย ทั้งที่คิดว่าตัวเองใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานแต่พอออกมาคนป่วยที่สมควรจะนอนพักหรือไม่ก็หลับเพราะฤทธิ์ยากลับนั่งตาแป๋วอยู่บนเตียง

         คิดคาดจนผมที่นุ้งแค่ผ้าเช็ดตัวปิดช่วงล่างแค่ผืนเดียวรู้สึกหน้าร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่ได้

         ...ก็สายตาที่เพราตาใช้มองกันมันธรรมดาเสียที่ไหน!


         “น้ำ เราเหนียวตัวจัง”

         มาแล้วอาการที่เรียกว่า ‘ออดอ้อน’ เพราตาไม่ได้อ้อนแค่คำพูดกับน้ำเสียงแต่แววตากับสีหน้าเองก็ล้วนแล้วแต่สื่อออกมาให้ได้เห็น หากผมอยู่ใกล้เขาในตอนนี้คงหนีไม่พ้นตัวเล็กๆนั้นคงปีนขึ้นมานั่งบนตักส่งเสียงกระซิบอ้อนกันข้างหูให้ได้รู้สึกวาบหวิวที่ช่วงท้องเล่นอย่างแน่นอน


         เพราตาเป็นคนน่ากลัว...

         .....น่ากลัวที่ทำให้ผมรู้สึกอยากจะ ‘ฟัด’ เขาทุกครั้งที่ได้อยู่ชิดใกล้


         “น้ำ?”

         “รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวน้ำไปเตรียมของที่จะใช้เช็ดตัวให้ ตอนนี้ไข้วิวยังรุมๆอยู่เลย ยังให้อาบน้ำไม่ได้หรอก”

         ผมพยายามที่จะหลบสายตาร้อนแรงที่เขาใช้มอง พยายามที่จะปล่อยผ่านต่อน้ำเสียงออดอ้อนชวนให้ใจสั่น กลั้นใจหันหลังให้กำลังจะก้าวขาเพื่อเข้าห้องน้ำแต่กลับถูกเสียงแหบเพราะเป็นไข้แต่กลับฟังดูกระเส่าเสียจนทำให้รู้สึกม้วนในท้องแปลกๆฉุดรั้งเอาไว้เสียก่อน.....


         “อย่าเพิ่งแต่งตัวนะ”

         .....

         ผมเม้มปากอย่างที่ชอบทำจนติดเป็นนิสัย รู้สึกประหม่าทั้งที่ไม่มีอะไรชวนให้ต้องรู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด ก็แค่....

         “คิก มือสั่นแบบนั้น เราถอดเองก็ได้นะ”

         “น นอนอยู่เฉยๆไปเถอะหน่า”

         “คร้าบบ คร้าบบ~”


         ปกติแล้วเพราตาไม่เคยพูดเล่นหรือรับคำด้วยน้ำเสียงล้อเลียนแบบนี้ พอเขาทำแล้วรู้สึกว่าน่ารักมากจนใจสั่น ...สั่นทั้งใจทั้งมือที่กำลังดึงกางเกงออกจากสะโพก เพราะเมื่อคืนผมไม่ได้ใส่ชั้นในให้เพราะกลัวว่าเขาจะนอนไม่สบาย ตอนนี้กางเกงเลยกลายเป็นปราการด่านสุดท้ายรองจากเสื้อยืดที่ถูกผมถอดออกเป็นอันดับแรก


         ร่างกายขาวนวลเนียนปรากฏสู่สายตาทันทีที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ปกปิด

         ยอมรับว่าเผลอนั่งจ้องอย่างไม่ละสายตาเลยทีเดียว.....

         เพราตาเป็นคนขาว ขาวมากแต่กลับไม่ได้ขาวดูซีดเหมือนผม ร่างกายของเขาขึ้นสีระเรื่อ ...มันทั้งน่ามองและน่าสัมผัสไปในคราวเดียว พอลองได้ใช้มือสัมผัสความนุ่มละเอียดของผิวเนื้อกลับทำให้อยากจะสัมผัสให้มากขึ้นกว่าเดิม ....ด้วยอวัยวะส่วนอื่นที่ไม่ใช่แค่มือเพียงอย่างเดียว


         ร่างเล็กนอนชั้นขาพลางหนีบมันเข้าหากันคล้ายจะกำลังปกปิดส่วนเร้นลับไม่ให้คนที่มองตาเป็นมันอยู่เห็น ปากอิ่มเม้มแน่นดวงตาคู่กลมสั่นระริกคล้ายกำลังประหม่า สองมือน้อยสอดเข้าไปใต้ขาเรียวที่ยังคงหนีบแน่นอยู่ ...ดวงหน้าหวานสวยที่เคยซีดเซียวเพราะพิษไข้กลับขึ้นริ้วแดงอมชมพูอย่างน่าดูชม

         มองต่ำลงมา

         หัวนมสีชมพูสวยน่าลงลิ้นตั้งชันขึ้นไม่รู้ว่าเพราะตอนนี้ตัวเองเปลือยอยู่หรือเพราะ.....

         เดี๋ยวนะ

         นี่ผมกำลังคิดบ้าอะไรอยู่ในหัวกัน!



         ......


         อันตราย

         อันตรายเกินไป........


         ผมสะบัดหัวไล่ความคิดอกุศลออกทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิดในเมื่อคนตัวเล็กในท่าทางที่ราวกับกำลังเขินอายกันช่างน่ารักน่าขย้ำ กระตุ้นอารมณ์ด้านมืดได้ดีนัก และผมก็เริ่มรู้สึกว่าตอนนี้สิ่งที่อยู่ภายใต้ผ้าขนหนูกำลังปึ๋งปั๋งนึกอยากตั้งขนานกับพื้นเอาเสียอย่างนั้น

         ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกสติที่กระเจิดกระเจิงให้กลับเข้ารูปเข้ารอย ละสายตาจากภาพเร้าอารมณ์ดิบตรงหน้าก้มหน้าก้มตาชุบผ้าขนหนูผืนเล็กกับน้ำอุ่นในกะละมัง บิดพอหมาดก่อนที่จะเอื้อมมือแปะเช็ดตัวให้กับคนตัวเล็ก ....โดยหันหน้าไปด้านข้าง

         ขืนให้มองเรือนร่างของอีกฝ่ายตอนนี้ผมคงได้ตบะแตกเอาแน่ๆ


         “อื้ออ ..อ๊ะ น้ำ ตรงนี้”

         หมับ

         ผมสะดุ้งเผลอหันกลับไปมองอีกฝ่ายเมื่อถูกมือนุ่มตะครุบเข้าให้ ...ถึงได้รู้ว่าตัวเองพลาดท่าเสียทีอีกฝ่ายเข้าให้อย่างจัง

         ปากอิ่มแย้มยิ้มหวานไม่หยดย้อยเท่ากับดวงตาคู่กลมที่ฉ่ำปรอยไปด้วยแรงอารมณ์ ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กในมือของผมค่อยๆเลื่อนลงจากแผ่นอกขาวลงไปยังหน้าท้องแบนราบ ....ขาเรียวที่หนีบอยู่ในคราแรกตอนนี้กลับค่อยๆแยกอ้าออกพร้อมกับผ้าขนหนูที่สัมผัสเข้ากับส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายพอดิบพอดี


         “อ๊ะ ...อื้ออ ถ..ถูๆหน่อย”


         ผมมือสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ในขณะที่มือเล็กที่ทาบทับอยู่บนฝ่ามือของผมยังคงไม่หยุดบังคับให้ขยับถูผ้าย้ำบนแก่นกายลำตัวของอีกฝ่ายไปมา ทั้งกดและคลึง ....รู้สึกได้เลยถึงความนุ่มนิ่มภายใต้ผ้าผืนเล็กในมือเลยด้วยซ้ำ

         ไม่นานมือเล็กก็ละออกพอให้ผมได้ถอนหายใจนึกโล่งอกเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงพอใจแล้ว ...หากแต่กลับกลายเป็นผมที่คิดอะไรตื้นๆไปเอง......

         เมื่อผมดึงมือพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กกลับ ขาเรียวขาวกลับแยกออกกว้างขึ้น สองแขนเล็กสอดเข้าใต้ข้อพับเข่าของตัวเอง ขยับกายยกสะโพกขึ้นน้อยๆเผยให้เห็นร่องทางจับจีบสีสด ก่อนที่อีกฝ่ายจะทำในสิ่งที่ผมคาดไม่ถึง .....

         ร่องทางสีสวยถูกปลายนิ้วชี้ทั้งสองข้างแยกออกน้อยๆ ปากอิ่มเผยอดวงตาฉ่ำเยิ้มช้อนมองอย่างออดอ้อน


         “ตรงนี้ ..ทำให้มันเปียก อ๊ะ...ทำให้เปียกเยอะๆเลยนะน้ำ ...”


         ผึง


         ราวกับได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างในหัวขาดผึงลง หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีใบหน้าของผมก็เลื่อนไปหยุดอยู่ตรงร่องทางสีสดที่ยังคงแยกออกด้วยแรงดันจากนิ้วเรียวของเจ้าตัว อารมณ์'หน้ามืด'เป็นยังไงคงผมพึ่งเข้าใจก็ตอนนี้ ...อยากลองชิม


         “อะ ..อ๊าาส์”


         เสียงครางหวานดังขึ้นทันทีที่ปลายลิ้นของผมสัมผัสเข้ากับปากทางร่องสวรรค์ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่ตรงนี้ของเพราตาหวาน ....หวานลิ้นเสียจนหยุดไม่ได้ ผมสอดมือรองแก้มก้นนุ่มไว้แล้วยกขึ้นน้อยๆก่อนที่จะสอดปลายลิ้นเข้าไปในร่องทางสีสดสวยพลางตวัดเลียผนังผ่าวอุ่นเรียกเสียงครางไม่เป็นภาษาจากอีกฝ่ายดังขึ้นเป็นเท่าตัว


         และนั่นทำให้ผมมีอารมณ์มากขึ้นกว่าเดิม

         ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาทำแบบนี้ให้ใคร ไม่มีความรู้สึกรังเกียจเลยแม้แต่น้อย. ...อาจจะเป็นเพราะคนที่ผมใช้ลิ้นละเลงร่องหลืบลับอยู่นี้คือเพราตา ....เพราะเป็นเขาผมถึงได้ไม่รู้สึกเดียดฉันท์เลยสักนิด กลับรู้สึกดีและย่ามใจที่ทำให้สะโพกขาวร่อนไม่ติดเตียงได้


         .....


         ผมคิดว่าตัวเองกำลังเสพติด.....


         “มะ ไม่เอาลิ้น ...อ๊ะ เข้ามา ...ใส่ของน้ำเข้ามา อิ๊ อ๊ะ .....นะ นะ”


         เสพติดทุกสิ่งทุกอย่างที่หลวมรวมขึ้นเป็น ‘เพราตา’

topto โพสต์ 2018-5-19 09:32:51

ต่อๆชอบมากขอบคุณจากใจที่แบ่งปัน

Gooddy โพสต์ 2018-5-19 15:33:15

ขอบคุนครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: เริ่มด้วยใคร่ ลงท้ายด้วย..? 13 (70%)