เริ่มด้วยใคร่ ลงท้ายด้วย..? 13 (100%)
XIII ( 100% )ยามที่ได้มองเห็นอีกคน
ความรู้สึกแรกที่มีคือความ ‘ริษยา’
ผมยังจำได้ดีและไม่เคยลืมความรู้สึกนั้นของตัวเอง อิจฉา....ที่คนคนนั้นมีทุกอย่าง เส้นทางของเขาเหมือนจะถูกโรยไปด้วยกลีบกุหลาบโดยมีพรมนุ่มเท้าปูรองอีกทีเลยด้วยซ้ำ ทั้งรูป ทรัพย์ ตลอดไปจนน้ำเสียงชื่นชมกับความนิยมที่ไม่เคยลดลงทั้งที่ข่าวไม่ดีเกี่ยวกับตัวเขาลือมาให้ได้ยินเป็นระยะ
ใบหน้าหวานนั้นสวยหมดจดยิ่งกว่าผู้หญิงหลายคน ทั้งที่หน้าตาดีออกขนาดนั้นแต่กลับไม่เอาใครเลยสักคน ทุกครั้งที่บังเอิญเจอไม่เคยเห็นคนที่จะเรียกได้ว่าเป็น ‘เพื่อน’ อยู่ข้างกายคนร่างเล็กเลยสักครั้ง เพราตามักจะชอบอยู่คนเดียว จะว่ารักสันโดษก็อาจจะใช่ แต่เหตุผลหลักที่ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้หรือทำความรู้จักน่าจะเป็นเพราะใบหน้าที่ถึงแม้จะน่ารักแต่กลับเรียบนิ่งจนดูเหมือนจะเย็นชา
..เข้าถึงยาก..
..เหมือนอยู่กันคนละโลก..
เชื่อว่าใครหลายคนคงจะคิดแบบนั้น ตัวผมเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ...
ไม่รู้ตัวหรอกว่าจากที่ใช้สายตามองด้วยความอิจฉาจนพาลไปเป็นไม่ชอบใจที่มีต่อคนงามคนดังแห่งคณะบริหารที่ชื่อเสียงดังกระฉ่อนเสียยิ่งกว่าดาราวัยรุ่นคนหนึ่งที่เรียนอยู่คณะเดียวกันเสียอีก..... มันแปรเปลี่ยนไปเป็นความหลงใหลตั้งแต่ตอนไหน พอรู้ตัวเข้าอีกที ......ผมก็คอยแต่มองหาร่างเล็กทุกครั้งที่เดินผ่านคณะบริหารซะแล้ว
รู้สึกตัวว่านับวันตัวเองยิ่งเป็นเอามากขึ้นทุกที
ตื่นเต้นจนใจสั่นทุกครั้งที่บังเอิญได้เดินผ่านเขา กลิ่นกายหอมหวานชวนให้รู้สึกรัญจวนใจ คงมาจากน้ำหอมแบรนด์ดังสักยี่ห้อ เพียงแต่ลึกๆผมกลับรู้สึกว่า..... เนื้อแท้ของเพราตาจะต้องหวานหอมยิ่งกว่าน้ำหอมยี่ห้อดังที่ไหนอย่างแน่นอน
.....
แล้วก็ไม่ได้ผิดไปจากที่คิดจริงๆ
“อะ ..อ๊าาส์”
“อึก ..วิว ...”
ความรู้สึกที่แล่นวาบไล่ขึ้นมาจากปลายเท้า ปล่อยให้ร่างกายที่หลงใหลไปกับความรู้สึกนั้นนำทุกความคิดไป สมองขาวโพลนดวงตาพร่าเลือนไปหมด สิ่งที่โฟกัสเห็นมีเพียงดวงหน้าสวยที่กำลังแดงซ่านไปด้วยอารมณ์ใคร่ เห็นปากอิ่มเผยอออกส่งเสียงครางหวานยามร่องทางอุ่นนุ่มกลืนกินลำเนื้อแข็งขึงร้อนจัดเข้าไปลึกสุดความยาว ดวงหน้าพราวเหงื่อเหยเกยามโยกเอวหมุนขย่มกายอย่างเร่าร้อน มือเล็กปัดป่ายไปทั่วกายของผมที่นอนนิ่งๆให้อีกฝ่ายเป็นคนคุมเกมอย่างที่เขาต้องการ
ช่วงขณะหนึ่งของความคิด ....
ตามใจมากไปหรือเปล่านะ
เขาป่วยอยู่นี่หน่าแล้วมา‘ทำ’กันทั้งอย่างนี้มันจะดีแล้วหรือ?
แต่ความคิดทุกอย่างในหัวกลับหยุดชะงักลงเมื่อใบหน้าถูกอุ้งมือเล็กประคองเอาไว้ ดวงตากลมโตฉ่ำเยิ้มมองสบกลับมาก่อนที่ดวงหน้าหวานสวยจะโน้มลงมอบจูบร้อนเร่าทว่ากลับหวานล้ำให้อย่างดูดดื่มทั้งที่สะโพกกลมกลึงยังคงขยับร่อนส่ายกลืนกินแก่นกายส่วนกลางของผมเข้าออกไม่หยุด
เผลอยกมือบีบขย้ำก้มนิ่มเต็มไม้เต็มมือ
อีกฝ่ายครางอื้ออึงในลำคอก่อนที่จะผละริมฝีปากออกซุกซบใบหน้าเข้ากับไหล่ของผม กายเล็กสั่นสะท้านเมื่อผมยกเอวสวนกลับแรงขย่ม เจ็บแสบที่หัวไหล่ ...คงจะถูกอีกฝ่ายกัดเข้าให้
เสียงหอบหายใจที่สอดประสานกับความรู้สึกของลมหายใจอุ่นพร้อมทั้งเสียงครางแหบพร่าข้างๆใบหู หัวใจเต้นแรงราวกับจะระเบิด และทุกอณูของร่างกายที่คล้ายว่ากำลังจะทำให้เสียสติ
“ว..วิว”
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเฝือนเมื่อร่างเล็กกลับหมุนกายนั่งหันหลังให้ผมแทน เขาอยู่ในท่าคลานเข่าในขณะที่ผมนอนอยู่ท่าเดิม วิวที่เห็นแปรเปลี่ยนไป... จนรู้สึกว่าอีกไม่นานเลือดกำเดาคงจะไหลออกมาอย่างไม่ต้องสงสัยในสาเหตุเลยแม้แต่น้อย
ท่านี้ทำให้ผมมองเห็นแก้มก้นกลมกลึงขาวละเอียดของอีกฝ่ายได้ชัดเจน แต่ที่ชัดยิ่งกว่าคือร่องทางสีสดช้ำเล็กน้อยจากการร่วมรักที่กินเวลายาวนาน ....กำลังโยกขยับโดยมีท่อนเนื้อแข็งขืนของผมผลุบเข้าผลุบออก คราบน้ำขุ่นขาวจากความใคร่เคลือบท่อนลำจนเป็นมันก่อให้เกิดน้ำเสียงเฉอะแฉะฟังดูหยาบโลน
แต่กลับเร้าตัณหาจนแทบคลั่ง!
ใบหน้าหวานเอี้ยวหันมามอง เรียวลิ้นสีสดแลบเลียรอบกลีบปากอิ่มเจ่อของตัวเอง...ก่อนที่จะยกยิ้มร้ายพร้อมกับสะโพกที่โยกขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ
...สุดห้วงของความอดทน
“อ๊ะ ..ร้อนจัง อื้ออ”
ผมจับเอวคอดกดสะโพกขาวให้กลืนกินแก่นกายของผมทั้งหมดเข้าไปในร่างกายของเขา ท่อนเนื้อร้อนจัดเต้นตุ้บตุ้บอยู่ในร่องทางที่ผ่าวร้อนไม่ต่างกันจนรู้สึกได้ ผมครางยาวหลับตาพริ้มอย่างเปี่ยมสุข สมองสว่างโล่ง ซี๊ดปากออกมาเบาๆเมื่ออีกฝ่ายยังคงขมิบตอดไม่หยุด ราวกับจะรีดน้ำที่ผมเพิ่งปล่อยออกมาออกให้หมดจนหยาดหยดสุดท้าย
ผมดึงอีกฝ่ายให้นอนลงแล้วพลิกกายคร่อมร่างเล็กเอาไว้ สบตากันไม่นานผมก็โน้มหน้าลงประกบจูบกลีบปากอิ่มที่เผยออ้าออกอย่างเชิญชวนอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง เนิ่นนานกว่าจะปล่อยให้ปากหวานๆของอีกฝ่ายเป็นอิสระ อิดออดอ้อยอิ่งอยู่กับปากนุ่มๆนั่นเล็กน้อย
เลื่อนหน้าไซร้ลำคอขาวเรื่อยลงมาจนถึงแผ่นอกเนียนที่มีรอยช้ำสีกุหลาบประดับอยู่ประปราย
ท่อนเนื้อที่แข็งเป็นลำอีกครั้งเพียงแค่ได้สูดกลิ่นกายหวานอร่อยลิ้นจากคนตัวเล็กค่อยๆสอดเข้าร่องทางรักชุ่มน้ำขุ่นช้าๆ ขาเรียวข้างหนึ่งของอีกฝ่ายยกขึ้นน้อยๆ มือของผมไล้ลูบจากช่วงขาอ่อนมาจนถึงข้อขาเล็ก จับยกเอาไว้อย่างนั้นก่อนจะฝังจมูกลงบนต้นขาอ่อนด้านใน ขบกัดไม่เพลาแรงแล้วตวัดลิ้นเลียทับรอยช้ำสีสวยเรียกเสียงครางหวานหูจากอีกฝ่ายขับให้อารมณ์พลุ่งพล่านมากขึ้นกว่าเดิม
ทั้งที่ยังคงไม่ละสายตาออกจากดวงตาคู่กลมทรงเสน่ห์คู่นั้น
ขยับโยกเอวช้าๆ...ในขณะที่มือยกขาเรียวอีกข้างขึ้น
แล้วทำไม่ต่างจากขาข้างที่เพิ่งปล่อยให้เป็นอิสระแต่เจ้าตัวกลับตวัดเกี่ยวเข้าที่เอวของผม พร้อมเอวเล็กที่ขยับสวนร่อนตามจังหวะเนิบช้าแต่สอดลึกหน่วงหนักทว่าละมุนนุ่ม
เหมือนว่าระหว่างเราไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใดๆนอกจากเสียงครางหวานที่ดังลอดออกมาให้ได้ยินทั้งกลีบปากอิ่มของเขากับเรียวปากบางของผมไม่หยุดตลอดการร่วมรัก
บทสวาทถูกจุดชนวนเริ่มขึ้นหลังจากนั้นอีกครั้งก่อนที่ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ คนป่วยหลับลึกทันทีที่บทรักครั้งที่สามของวันสิ้นสุดลง เพราตาเห็นตัวเล็กตัวบางแบบนี้แต่กลับเป็นคน‘เซ็กส์จัด’จนน่าแปลกใจ และหากไม่เพราะกำลังป่วยอยู่หรือไม่ก็อาจเพราะยาลดไข้ที่กินไปก่อนหน้านี้ บางที...เซ็กส์คราวนี้มันอาจจะไม่ได้จบแค่ผมได้กอดเขาก็เป็นได้
หลังจากเช็ดตัวทำความสะอาดให้กับคนตัวเล็กที่นอนหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องเสร็จเรียบร้อย ที่ผมทำต่อจากนั้นคือการนั่งบนขอบเตียงมองใบหน้าหวานที่หลงใหลมาเนิ่นนานเงียบๆ เกลี่ยปลายนิ้วไล้ตามโครงหน้าสวยได้รูป จุดยิ้มน้อยๆที่มุมปากเมื่อมือเล็กคว้าหมับเข้าที่นิ้วของผมพร้อมกับแก้มนวลที่คลอเคลียเข้าหาราวกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อยๆกำลังออดอ้อนเจ้าของ...
....
หัวเราะออกมาเบาๆกับความคิดนั้นของตัวเอง
ถ้าจะหาใครที่จะเป็น‘สัตว์เลี้ยง’ล่ะก็ .......คงไม่พ้นเป็นตัวผมเองต่างหาก
ครืดดด
ผมชะงักหน้าที่กำลังโน้มลงใกล้กะจะลักหลับคนป่วย เหลือบตามองมือถือที่สั่นไม่หยุดบ่งบอกว่ามีสายเรียกเข้า ละความสนใจจากเครื่องมือสื่อสารมาที่จมูกรั้น แตะริมฝีปากลงบนปลายจมูกแผ่วเบาพร้อมคำกระซิบบอกให้อีกฝ่ายฝันหวานก่อนที่จะคว้ามือถือที่ยังคงสั่นขึ้นมองดูชื่อโทรเข้า เผลอกำสมาร์ทโฟนแน่นจนมือสั่นระริก มองร่างเล็กที่ยังหลับพริ้มอยู่เล็กน้อยแล้วตัดสินใจลุกขึ้นเดินออกไปที่ระเบียงห้อง ไม่ลืมรูดม่านพร้อมกับปิดประตูบานเลื่อนให้สนิทแน่น
( ไงเมีย อื้ม...หรือจะเป็นคุณพี่ชายดี? )
“......”
( ว่าไง จะเลือกสวมโขนในบทบาทไหนดีเอ๋ย? หื้ม )
“..ว่างมากนักหรือไง ถ้าว่างมากนักก็ไปหาอะไรที่มันเป็นประโยชน์ทำซะ”
( หึ ปากคอเราะร้ายจังนะ ตั้งแต่‘สมหวัง’ได้ของของคนอื่นเขาไปครอบครองสมใจก็เหมือนจะไม่เห็นหัวน้องชายคนนี้เลยนะครับ หื้ม สายน้ำ? )
“เลิกเล่นลิ้นได้แล้ว เจร์”
ปลายสายเงียบไปเล็กน้อยก่อนที่เสียงหัวเราะจะดังให้ได้ยิน น้ำเสียงจากที่เคยหยอกกวนกลับจริงจังเรียบเย็น
( เมื่อไหร่จะได้ฤกษ์กลับไปเยี่ยมบ้าน พ่อด่าจนกูรำคาญให้ลูกน้องมารังควาญกูถึงบ้านแม่ หึ คิดโง่ๆว่ากูเป็นคนเป่าหูให้มึงต่อต้านเขา ปัญญาอ่อนชิบ )
ผมถอนหายใจ กรอกตาอย่างรู้สึกเหนื่อยหน่าย
“ถ้าจะโทรมาเพราะเรื่องผู้ชายคนนั้นทีหลังไม่ต้องโทรมาอีกเพราะกูจะไม่รับ”
( หึ เรื่องพ่อกูไม่สนหรอก จะดิ้นเรื่องที่มึงต่อต้านเขาจนหัวใจวายตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับกูอยู่แล้ว )
ผมเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะยกยิ้มมุมปาก “ถ้าจะพูดเรื่องเพราตากูยืนยันคำเดิม มึงไม่มีวันชนะ”
( ....มึงคิดว่ามึงแต่งสตอรี่น้ำเน่ายิ่งกว่านิยายเพื่อเรียกร้องความสนใจได้คนเดียวหรือไง สายน้ำ )
“เอาไว้มึงแต่งได้น้ำเน่ายิ่งกว่ากูค่อยมาปากดีแล้วกัน แค่นี้นะ ...กูจะไปนอนกกเมียกูต่อแล้ว”
เสียงด่าทอหยาบคายดังลอดมาให้ได้ยินก่อนที่ผมจะกดตัดสายพร้อมทั้งปิดเครื่อง รู้สันดานเจเจอร์ดีมันคงไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ คงโทรจิกยิกสร้างความรำคาญไม่หยุดหย่อน
...จะว่ายังไงดีล่ะ สันดานมันก็เหมือนพ่อ พ่อมันก็คนเดียวกับพ่อผม ....เพราะฉะนั้นสันดานเราสองคนเลยค่อนข้างจะเหมือนกัน
เหมือนกันแม้กระทั่งสเปคคน
สำหรับเจเจอร์ในตอนแรกเริ่มเหมือนมันแค่อยากเอาชนะผมมากกว่าจะคิดจริงจัง ในตอนแรกน่ะนะ ....มันรู้มาตลอดว่าคนที่ผมหลงใหลจนถึงขั้นคลั่งไคล้คือใคร เลยชิงตัดหน้าโดยอาศัยว่าตัวเองเป็นสเปคของอีกฝ่ายมากกว่าช่วงชิงคนที่ผมเฝ้าแอบมองมานานเป็นปีไปอย่างหน้าด้านๆ
คงหวังจะให้ผมดิ้นทุรนทุราย หรือเจ็บใจจนกระอัก
สุดท้ายกลายเป็นตัวมันเองที่ตกม้าตายเพราะดันตกหลุมเสน่ห์ของเพราตาเข้าให้อย่างจังจนถอนตัวไม่ขึ้น อาศัยวิธีหมาๆอย่างเอาพวกเข้าข่มบ้าง จูบเพราตาต่อหน้าต่อตากลางลานคณะเพื่อเย้ยผมบ้าง
ทำตัวเป็นเด็กอนุบาลแย่งของเล่นกันไปได้
....
ผมกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง เดินไปวางมือถือลงตำแหน่งเดิมบนหัวเตียง ค่อยๆทิ้งตัวลงนอนบนเตียงช้าๆพลางรั้งร่างเล็กมาโอบกอดเอาไว้หลวมๆไม่แน่นเกินไปจนทำให้อีกฝ่ายไม่สบายตัว เสียงครางอื้ออ้าดังให้ได้ยินแผ่วๆก่อนที่ใบหน้าหวานจะขยับเข้าหาซุกอกอุ่น ผมอมยิ้มก้มจูบบนศีรษะทุยเบาๆ
หลับตาเข้าสู่ห้วงนิทราตามคนในอ้อมแขนไปอย่างเปี่ยมสุข
.
.
ดวงตากลมโตสีอัลมอนด์ปรือขึ้นเล็กน้อย มองใบหน้าของคนที่กกกอดตัวอยู่พลางเหลือบมองโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่นิ่งๆบนหัวเตียงอย่างครุ่นคิด ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้งเมื่อทานทนต่อความอ่อนเพลียไม่ไหว
ละทิ้งความสงสัยในอก ไม่ใคร่นึกสนใจสิ่งอื่นใดอีกนอกเสียจากอ้อมกอดอบอุ่นที่โอบกระชับร่างกายของเขาเอาไว้
ต่อๆชอบมากขอบคุณจากใจที่แบ่งปัน ขอบคุณครับ ขอบคุนครับ
หน้า:
[1]