hate โพสต์ 2018-5-19 01:57:18

เริ่มด้วยใคร่ ลงท้ายด้วย..? 18 (50%)

XVIII




         เละเทะ


         บ่งบอกได้คำเดียวถึงสภาพของเพื่อนเขาในยามนี้

         อดัมส์มองสภาพร่างหนาของผู้เป็นเพื่อนที่นอนเอกเขนกหัวหางไปคนละทางกับโซฟา หัวที่ประดับไปด้วยวงหน้าหล่อเหลาซูบโทรมกว่าคืนวานทิ่มลงพื้นในขณะที่ขายาวๆสองข้างพาดไปกับพนักพิงของโซฟา ในมือข้างขวามีขวดเหล้ายี่ห้อแพงที่เหลือของเหลวอยู่เพียงก้นขวด

         ชายหนุ่มถอนหายใจหนักๆออกมา บอกตามตรงว่าเขาเองก็ไม่นึกว่ามันจะเป็นหนักได้ถึงขนาดนี้


         ‘รักมากเหรอวะ?’


         จำได้ว่าหลังจากได้ฟังคำบอกเล่าจากชายแปลกหน้าที่ไม่รู้ว่ารับโทรศัพท์ของเจเจอร์ได้ยังไงถึงสภาพความเป็นอยู่ของเพื่อนเขาในยามนี้ อดัมส์ก็รีบบึ้งรถมาหาเพื่อนที่บ้านของมันทันที เขาหลุดถามคำถามนั้นกับเพื่อนไปทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าถ้าไม่รักมากเพื่อนของเขาก็คงไม่มีสภาพเมาเป็นหมาหัวทิ่มแบบนี้หลังจากถูกหักอก


         แน่นอนว่าเจเจอร์ก็ยังคงเป็นเจเจอร์ นอกจากไม่ตอบแล้ว(ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้หวังคำตอบจากมันเหมือนกันนั่นล่ะ)ยังอาละวาดปาขวดเหล้าใส่จนเขาวิ่งหลบแทบไม่ทัน สุดท้ายพออาละวาดจนหน่ำใจก็สลบเป็นตาย แล้วใครเล่าจะเก็บเศษซากขวดเหล้านอกจากเขา?

         ห่างไม่กี่ชั่วโมงเขากลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกับขนเสื้อผ้ามาเพื่ออยู่เป็นเพื่อนมัน แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นจริงๆสภาพบ้านที่เขาจำได้ว่าเก็บกวาดเรียบร้อยจนสะอาดเอี่ยมอ่องก่อนออกไปกลับมาเละเทะไม่ต่างจากเมื่อคืน ซากขวดเหล้าเกลื่อนเต็มพื้น กับแกล้มจำพวกเลย์ห่อที่เขาคิดว่าคงจะเป็นล็อตสุดท้ายแล้วหกเลอะเทอะไปหมด


         “นี่กินหรือกรอกใส่ปากวะ ถามจริง”

         “...”

         “ก็รู้อยู่ว่ามึงคอกระทะเหล็ก แต่เล่นกินอย่างกับห่าลงแบบนี้กลัวว่าตัวเองจะไม่ตายเพราะตับแข็งใช่ไหม?”

         “...”


         อดัมส์ถอนหายใจอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง เขาเองก็จนปัญญาจะพูดกล่อม ด้วยรู้ตัวดีว่าพูดไปมันก็คงคิดไม่ได้อยู่ดี เตือนไปก็เข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวา คนอย่างเจเจอร์ไม่ชอบให้ใครมาสอดมาสอน ทุกคนที่มันคบต้องอยู่ในความพอดีไม่มีการล้ำเส้นซึ่งกันและกัน

         เขาเห็นมันเป็นเพื่อนและหวังดีกับมันแน่นอนล่ะ แต่มันจะเห็นเขาเป็นเพื่อนด้วยหรือเปล่านั้นเรื่องนี้เขาเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน


         “จะกินเหล้าย้อมใจกูไม่ว่าหรอกนะ แต่ขอเถอะว่ะ อย่ากินทีเดียวขวดต่อขวดแบบนี้..”

         เพล้ง!

         “อย่าเสือก”


         ร่างหนาไม่ได้ตวาด ไม่แม้แต่จะขึ้นเสียงใส่ เป็นแค่คำพูดสั้นๆด้วยน้ำเสียงเนิบเย็นเท่านั้น แต่แค่นั้นก็เพียงพอจะทำให้อดัมส์รู้ตัวว่าไม่ควรพูดอะไรไปมากกว่านี้ ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างยอมจำนนก่อนที่จะไปหาไม้กวาดกับไม้ถูมาเพื่อจัดการกับเศษแก้วจากขวดเหล้าที่เพิ่งถูกคนอารมณ์ร้ายฟาดลงพื้นเมื่อครู่

         แต่มันก็อดไม่ได้....


         “รู้ตัวมั้ยว่ามึงกำลังกดค่าของตัวเองให้ต่ำลงเรื่อยๆ”

         “หุบปาก...”


         อดัมส์ทำไม่สนใจแม้มือจะเริ่มสั่นแล้วก็ตาม ร่างสูงกวาดโกยเศษแก้วใส่ที่ตักผงจนหมด“กูเข้าใจมึงนะเจร์ อาจจะไม่เข้าใจทั้งหมดแต่กูก็เข้าใจ เพราะตอนนี้ตัวกูเองก็ไม่ต่างจากมึงสักเท่าไหร่ ...กูรักน้ำมึงก็รู้ แต่น้ำรักคนอื่นที่ไม่ใช่กู ......กูเจ็บกูโกรธแต่ก็..............”

         “กูบอกให้หุบปาก!!”

         “มึงต้องหัดอยู่กับความจริงบ้างนะไอ้เจร์ ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามความต้องการของมึงเสมอไป.... ตอนนี้มึงโตแล้ว ไม่เหมือนตอนเด็กๆที่มึงอยากได้อะไรขอแค่บอกแม่มึงก็พร้อมที่จะหามาประเคนให้ถึงที่”


         เคร้ง

         หมับ


         ชายหนุ่มสองคนยืนจ้องหน้ากันในระยะประชันชิด หนึ่งคนเกรี้ยวโกรธดวงตาคู่คมวาวโรจน์อย่างน่ากลัวในขณะที่อีกคนหวังดีอยากเตือนสติให้เพื่อนตาสว่างเลิกทำร้ายตัวเองเสียที ไม่ใช่ว่าอดัมส์ไม่กลัวว่าเจเจอร์จะสติแตกแล้วเกิดบันดาลโทสะกระทืบเขาจนไส้แตกหรอกนะ เพียงแต่หากเขาไม่เตือนแล้วใครจะมาเตือนมัน? จะให้หวังพึ่งพวกไอ้พี ไอ้พวกเพื่อนเรื้อนคนอื่นๆก็ใช่เรื่อง ดีไม่ดีจะพากันยิ่งเตลิดไปกันใหญ่ด้วยซ้ำ


         “แล้วมึงล่ะรู้ตัวมั้ย? ว่าชักจะเสือกเรื่องของกูเกินความจำเป็นมากไปแล้ว... อดัมส์”ดวงตาสีฟ้ากระจ่างหลุบลงมองคอเสื้อเชิ้ตของตัวเองที่ถูกมือหนาของเพื่อนกระชากเข้าประชิดตัวจนขาแทบไม่ติดพื้นก่อนที่จะเลื่อนขึ้นมองใบหน้าซูบโทรมที่หาเค้าความหล่อจนหาตัวจับยากแทบไม่เจอ

         “กูรู้ตัวเองเสมอ แต่มึงล่ะเจร์ ..รู้หรือเปล่าว่าตัวมึงกำลังทำอะไรอยู่? สภาพมึงโคตรดูไม่ได้ขนาดไหน เรียนก็ไม่ไปเรียน วันๆเอาแต่กินเหล้าเมาหัวราน้ำมันทั้งวันทั้งคืน ทั้งที่มึงก็น่าจะรู้ดีที่สุดว่าสิ่งที่มึงหวังอยู่มันจะไม่มีวันเป็นจริง”


         พลั่ก!


         หนุ่มลูกครึ่งใบหน้าสะบัดตามแรงกระแทก รู้สึกถึงรสเค็มปร่าของเลือดตรงกระพุ้งแก้ม ในหัวคล้ายจะได้ยินเสียงวิ้งๆ ...กว่าจะตั้งตัวได้ว่าตัวเองถูกชกเข้าเต็มรักตอบแทนความหวังดีก็ต่อเมื่อร่างสูงของเขาล้มก้นกระแทกพื้นเพราะถูกเพื่อนร่างหนาผลักอย่างไม่ยั้งแรงเหมือนที่ไม่ยั้งแรงหมัดเลยสักนิด

         “ขอร้อง ตอนนี้กู....ยังไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น”เกือบจะโมโหแล้วที่ถูกซัดความหวังดีกลับมาด้วยการใช้กำลังหากไม่ได้ยินคำพูดที่ไม่คิดว่าจะได้ยินหลุดออกมาจากปากหนา


         ขอร้อง ...คนอย่างเจเจอร์พูดว่าขอร้องงั้นหรือ?

         นี่เขาหูฟาดไปเองหรือเปล่า?


         มึงควรจะพูดคำว่า ‘ขอโทษ’ มากกว่าหรือเปล่าวะ?


         ความจริงอดัมส์ก็อยากจะตอบกลับไปแบบนี้ แต่ก็ไม่อยากเสี่ยงให้ร่างกายรับอย่างอื่นมากกว่าหมัดจากฝ่ามือหนาๆนั่น หนุ่มลูกครึ่งเลยเลือกที่จะเงียบปากเอาไว้ไม่พูดอะไรออกมาอีก เขารู้ว่าเพื่อนสุดขวางโลกคนนี้ของเขายังคงสับสนกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจออย่างสิ่งที่เรียกว่า‘การอกหัก’

         อาจจะฟังดูเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อไปสักหน่อย... แต่เจเจอร์ไม่เคยรักใครอย่างเป็นจริงเป็นจังมาก่อน เรียกได้ว่าเพราตาสำหรับเจเจอร์คือความรักครั้งแรก และหากเพราตาเรียกว่ารักแรกแล้วล่ะก็...โตยธารเองก็เปรียบเสมือนความชังครั้งแรกด้วยเช่นกัน เมื่อคนที่ถูกเพราตาเลือกไม่ใช่ตัวมันเองแต่กลับเป็นคนที่มันเกลียดเข้าไส้ ก็คงไม่แปลกหากมันจะกลายเป็นหมาบ้าแบบนี้
เจเจอร์ในตอนนี้ก็เหมือนคนกำลังหลงทาง แม้แต่จะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองมันยังไม่รู้ว่าควรจะจัดการยังไงเลย.....


         งั้นเขาจะคิดเสียว่าตัวเขาซวยเองที่ไปแหย่หมาบ้าเข้าจนต้องมานั่งเจ็บตัวเองแบบนี้ก็แล้วกัน


         ....


         ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง


         ดวงตาสีฟ้าเหลือบมองเพื่อนร่างหนาที่กลับไปนอนขวางโซฟาเท้าชี้ฟ้าหัวทิ่มพื้นเหมือนเดิม ไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบรับ ตาคมที่เคยคมกริบดุจเหยี่ยวเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์กลับด้านชาราวกับคนไร้จิตวิญญาณเหม่อมองเพดานคล้ายกับไม่ได้ยินเสียงออด ไม่สิ หากจะกล่าวให้ถูกคือไม่ว่าจะเสียงใดๆก็ไม่เข้าโสตประสาทการรับรู้ของมันทั้งนั้นแล้วมากกว่า

         อดัมส์ขยับที่ประคบทำมือที่เขาทำขึ้นจากก้อนน้ำแข็งในตู้เย็นห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินเข้มของเขาเองไปตามสันกรามได้รูป ลองขยับปากดูก็ต้องร้องซี๊ดออกมาเบาๆ ถึงจะไม่ปวดเท่ากับตอนแรกๆแต่ก็ยังไม่เรียกว่าดีขึ้นสักเท่าไหร่

         หมัดหนักขึ้นหรือเปล่าวะ?

         ให้ตาย นี่เขานึกยังไงถึงได้ไปกระตุกหนวดหมาบ้าเข้าให้ได้นะ ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ถูกหมาบ้ามันกระทืบเอา


         ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง


         ผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาทีออดบ้านก็ดังขึ้นอีกครั้ง ในเมื่อเจ้าบ้านไม่คิดจะกระดิกตัวอดัมส์ก็ไม่คิดใส่ใจ ร่างสูงที่นั่งอยู่บนพื้นห่างจากโซฟาที่เจ้าบ้านครองอยู่หลายช่วงตัวขยับผ้าเช็ดหน้าห่อน้ำแข็งกดลงบนกระพุ้งแก้มเบาๆ ปากร้องครางซี๊ดซาดไปตามเรื่องตามราว คิดสะระตะในใจไปเรื่อยว่าจะเกลี้ยกล่อมยังไงให้ไอ้เพื่อนตัวร้ายซดข้าวแทนเหล้า ตอนนี้มันหยุดกินแล้วก็จริง แต่ใครจะไปรู้ว่าคนอารมณ์ไม่คงเส้นคงวาอย่างเจเจอร์จะนึกอยากใช้น้ำเมาย้อมใจอีกตอนไหน


         เอาแต่ดื่มของทำลายกระเพาะมาหลายวัน ป่านนี้กระเพาะคงใกล้พังเข้าเต็มทีแล้วล่ะมั้ง

         เพราะมัวแต่คิดอะไรเพลินๆ หูเลยไม่ได้ยินเสียงดังตุบของอะไรบางอย่าง

         ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเปิดประตูบ้าน......


         หนุ่มลูกครึ่งทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นหอมชวนให้น้ำลายสอลอยเข้าจมูก ร่างสูงหันมองไปรอบกายก่อนที่จะหยุดชะงักพร้อมกันกับใครอีกคนที่เดินถือถาดเหล็กใส่ชามสองใบมีควันร้อนลอยขึ้นบนปะปนไปกับชั้นอากาศ ทำให้รู้ว่าสิ่งนั้นคงเป็นที่มาของกลิ่นหอมชวนหิวนี่


         “อ้าว?”

         เขาควรจะร้องอ้าวด้วยไหมนะ?

         “เพื่อนของน้องจาหรือครับ?”


         น้องจา?


         หนุ่มลูกครึ่งมองผู้ชายร่างสูงสวมผ้ากันเปื้อนสีเขียวมิ้นท์สลับขาวเป็นลายตารางแบบเรียบๆอย่างงงงวย มือถือผ้าประคบค้างไว้ที่ปลายคางเมื่อเห็นผู้ชายแปลกหน้าวางถาดใส่ของกินลงบนโต๊ะข้างโซฟาแล้วยอบนั่งยองๆลงตรงหน้าร่างที่ยังคงนอนเอกเขนกหัวห้อยอยู่บนโซฟาตัวยาวอย่างไม่กลัวตาย

         “น้องจาครับ พี่ทำกับข้าวมาฝาก อ่อ.. ขอโทษนะครับ พอดีผมไม่รู้ว่าวันนี้น้องจาจะมีเพื่อนมาหาเลยไม่ได้ตักข้าวมาเผื่อ”ประโยคแรกพูดกับไอ้คนที่ยังนอนเหม่อไม่สนใจโลกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ส่วนประโยคหลังหันมาพูดกับเขาด้วยท่าทีสุภาพ รอยยิ้มละมุนชวนให้รู้สึกอุ่นวาบในใจส่งมาพร้อมกับคำพูดประโยคนั้น

         “มะ ไม่เป็นไรครับ เอ่อ...” คุณเข้ามาผิดบ้านหรือเปล่าครับ? อดัมส์อยากจะถามออกไปแบบนั้นอยู่เหมือนกัน แต่ดูจากท่าทางของอีกฝ่ายแล้ว ...ไม่น่าจะเข้าผิดบ้านและทักผิดคน


         เจเจอร์ ...จารุกิตต์ ...น้องจา

         โห เล่นยอชื่อจริงมาเรียกซะไอ้ล่ำเพื่อนของเขาดูเป็นหนุ่มแบ้วไปเลย

         เขาได้ยินยังอดขนลุกแทนเพื่อนไม่ได้ แล้วนี่ไอ้เพื่อนตัวร้ายของเขาไม่คิดจะแก้ต่างชื่อให้ตัวเองหน่อยหรือไง? เอาแต่นอนเหม่ออยู่นั่น อย่าบอกว่ายังไม่รู้สึกตัวนะ ผู้ชายคนนั้นก้มมองเพื่อนเขาจนหน้าแทบจะแนบกันอยู่แล้ว


         อดัมส์เองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าภาพที่เขาเห็นอยู่ต่อหน้าต่อตาตอนนี้มันคืออะไร?

         ผู้ชายแปลกหน้าสวมผ้ากันเปื้อนนั่งยองๆอยู่ตรงหน้าเพื่อนของเขาที่นอนห้อยหัวอยู่บนโซฟา บนใบหน้าที่บอกได้ว่าหล่อเหลาเอาการระบายไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ...หากแต่แววตาที่ใช้มองเพื่อนของเขานั้นออกจะดูแปลกๆอย่างไรก็ไม่รู้ในความรู้สึก

         คล้ายกับแฝงไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างที่เขาเองก็อ่านไม่ออก


         “คุณเป็นเพื่อนของน้องจาจริงๆสินะครับ...”

         อดัมส์สะดุ้งจนเกือบทำผ้าประคบร่วงหลุดจากมือเมื่อจู่ๆผู้ชายแปลกหน้าก็หันมามองเขา ใบหน้าของชายคนนั้นยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่ ...แต่กลับไม่ได้ให้ความรู้สึกอบอุ่นใจอย่างในตอนแรกที่เห็นเลยสักนิด

         “ค ครับ”ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจะต้องเสียงสั่น หนุ่มลูกครึ่งรู้สึกถึงความกดดันแปลกๆที่จู่ๆก็ก่อตัวขึ้นโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ถ้าเขาไม่ได้คิดไปเอง ความกดดันที่ว่านั้นมาจากผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นไม่ผิดแน่ๆ


         เสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก


         “อยากเจอจังนะครับ”

         “เอ่อ ....ครับ?”

         ชายคนนั้นหันกลับไปมองยังร่างหนาที่ยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติง ไม่หืออือกับใครทั้งสิ้นอีกครั้ง จ้องอยู่อย่างนั้นเงียบๆสักพักก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงเบาหวิวที่หากไม่เป็นเพราะความเงียบชวนอึดอัดรอบกายนี้ อดัมส์ก็คงจะไม่ได้ยิน


         ....


         “คนที่ทำให้น้องจาเป็นถึงขนาดนี้ ...อยากเจอจริงๆ”

         ....


         ถึงแม้จะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครแล้วเป็นอะไรกับเจเจอร์....... ถึงเพราตาจะเป็นศัตรูหัวใจที่แย่งความรักไปจากเขาก็ตาม..............


         อดัมส์คิดว่าคงจะดีที่สุดหากคนคนนี้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับคนตัวเล็กหน้าสวยคนนั้น



         .

         .


         มาได้ยังไง?


         “ไม่เจอกันนานเลยนะ เสี่ยวยี่”

         “เพราตา”

         “...”

         “ชื่อของเราคือเพราตา”


         ทำไมคุณหนูวิวถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้?!

         อเล็กซ์มันมัวทำอะไรอยู่ถึงได้ปล่อยให้คนของคุณชายใหญ่หวงเอาตัวคุณหนูมาได้?!

         ไม่ได้แล้ว แบบนี้เฉาจิ่งปล่อยไว้ไม่ได้แม้ว่าจะไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของคุณชายใหญ่หวงก็ตาม แต่เขาจะปล่อยให้คุณหนูอยู่กับคุณชายใหญ่หวงไม่ได้เด็ดขาด


         “จะไปไหนหรือ อาเฉา?”

         สนิทกันหรือไงถึงได้กล้าเรียกเขาแบบนั้น?

         ร่างโปร่งของเลขาฯหนุ่มปรายตามองชายร่างสูงในชุดสูทสากลสีดำสนิททั้งชุดไม่เว้นเสื้อเชิ้ตตัวในเมื่ออีกฝ่ายเดินมาขวางทางเขาเอาไว้ มือซ้ายที่ล้วงกระเป๋ากางเกงกำสมาร์ทโฟนแน่น สมองเปี่ยมไปด้วยรอยหยักคิดหาคำตอบที่สมเหตุสมผลมารองรับการกระทำเร็วจี๋

         “เข้าห้องน้ำ”

         ในสถานการณ์แบบนี้คิดได้แค่นี้แหละ เขาร้อนใจจนแทบจะคิดอะไรไม่ออกแล้วด้วยซ้ำนอกจากต้องรีบรายงานเรื่องนี้ให้นายรู้ให้เร็วที่สุด แต่กลับถูกไอ้ดำนี่เข้ามาขัดขวางเสียได้


         เฉาจิ่งเกลียดสายตาคมวาวราวกับคนรู้ทันของหมอนี่

         เกลียดรอยยิ้มเยาะที่เผยให้เห็นเพียงเสี้ยววินาทีของมัน

         ไอ้สมุนของมังกรตัวลูกอันอวิ๋น... เจ้าเล่ห์เพทุบายไม่ต่างจากผู้เป็นเจ้านายแม้แต่นิด


         “งั้นก็เชิญ”

         เฉาจิ่งเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อร่างสูงยอมเบี่ยงตัวหลบทางให้แต่โดยดี ความแคลงใจทำให้เฉาจิ่งไม่ไว้ใจอันอวิ๋น ..แล้วก็เป็นจริงดังที่คิดเมื่อเขาก้าวเดินไปได้ไม่ถึงสองก้าวร่างสูงก็ก้าวตามประกบหลังแทบจะทันที มือเรียวกำแน่นเลขาฯหนุ่มร่างโปร่งหลับตาแล้วถอนหายใจออกมาช้าๆ

         ขาเรียวหมุนเดินกลับไปยืนที่เดิมโดยมีคนตัวสูงเดินตามพร้อมรอยยิ้มขำขันบนใบหน้าคมเข้มแต่เมื่อร่างโปร่งหันขวับกลับไปมองร่างสูงก็ตีหน้าครึมมองฟ้าอากาศ ท่าทางกวนอารมณ์จนอาเฉานึกอยากจะยกกระถางต้นไม้แถวนี้ทุ่มใส่ให้หัวแบะ


         “หึ จะเพราตา วิว หวงยี่ หรือเสี่ยวยี่ก็คือหลานรักของลุงใหญ่”ร่างสูงใหญ่ของหวงเจี่ยหลุนเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยในขณะที่คนตัวเล็กกว่า(มาก)อย่างเพราตามีสีหน้าเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลง

         “ไม่ละอายปากบ้างหรือครับ”


         สองคนลุงหลานยืนมองสบตากันแน่นิ่ง เหล่าบอร์ดี้การ์ดรวมทั้งเฉาจิ่งอดที่จะรู้สึกเสียววูบวาบไม่ได้ เลขาฯหนุ่มไม่เคยเห็นคุณหนูวิวแสดงท่าทีเช่นนี้กับใคร แม้จะไม่ใช่คนชอบพูดจาขี้เล่นหรือทำตัวซุกซนเหมือนกับเด็กวัยเดียวกันแต่ก็ไม่ใช่คนนิสัยเยือกเย็นวาจาเชือดเฉือนได้อย่างร้ายกาจแบบนี้

         เอ่อ ก็อาจจะเป็นคนปากร้ายตรงกับใจไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยเสียมารยาทกับผู้ที่มีความอาวุโสกว่าอย่างในครานี้เลยสักครั้ง


         คุณหนูวิวแปลก

         คุณชายใหญ่หวงก็แปลก


         รอยยิ้มเล็กๆตรงมุมปากกับดวงตาที่พราวระยับราวกับเจอของเล่นถูกใจแบบนั้นนั่นมันอะไรกัน?

         “โตขึ้นเยอะ”

         “อืม อเล็กซ์ก็เคยพูดแบบนั้นกรอกหูเราบ่อยๆ”


         แล้วก็เงียบกันอีกครั้ง สองลุงหลานมองตากันอย่างไม่มีใครยอมอ่อนข้อผละออกจากกันก่อน บรรยากาศอึมครึมกดดันจนแทบหายใจไม่ออกทั้งที่ลมก็ออกจะโกรกพัดเย็นสบายจนผมปลิวแท้ๆ อากาศที่ควรจะดีเมื่ออยู่บนสวนขนาดใหญ่ของดาดฟ้าบนยอดตึกสูงพลันมลายหายไปแทบจะในทันทีเมื่อสองคนลุงหลานได้เจอกัน

         เฉาจิ่งเคยได้ยินมาว่าตอนเด็กๆคุณหนูวิวหวาดขยาดคุณชายใหญ่หวงผู้เป็นลุงมากเสียจนไม่อยากแม้จะอยู่ใกล้ ในขณะที่คุณชายใหญ่หวงเองก็ไม่เคยแสดงออกว่าเอ็นดูหลานชายคนเดียวคนนี้นัก

         สองลุงหลานไม่ใคร่ถูกกันนัก เหมือนกับที่คนพ่อเองก็ไม่ถูกกับพี่ชายของภรรยา

         เชื้อไม่ทิ้งแถวหรือว่าคุณชายใหญ่หวงไปทำอะไรให้พ่อลูกคู่นี้ชังน้ำหน้ากัน?


         “ก่อนเดินทางไปบ้านใหญ่...”

         “...”

         “มาระลึกความหลังกันหน่อยดีไหม? หลายชาย”หวงเจี่ยหลุนในชุดถังจวงสีดำสนิททั้งตัวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น แต่ดวงตาคมกริบฉายแววเอาจริงจนดูน่าหวั่นกลัว

         “คุณชายใหญ่!”เฉาจิ่งจะก้าวเข้าไปห้ามหากแต่กลับถูกแขนยาวของคนตัวสูงข้างกายยกขึ้นกันเอาไว้


         หวงเจี่ยหลุนปรายตามองมาทางเลขาฯหนุ่มคนสนิทของน้องเขยไม่ได้เรื่องที่เขายึดเอาไว้กับตัวด้วยแววตาเฉยชาก่อนที่จะหันกลับไปมองสำรวจใบหน้าสวยหวานคล้ายน้องสาวของเขาหรือก็คือมารดาของเด็กนี้ที่เหมือนจะซีดกว่าปกติเล็กน้อยพลางแสร้งระบายยิ้มละมุนออกมา “ลุงหลานคุยกัน คนนอกอย่างอาเฉาอย่าสอด”

         คนตัวเล็กเม้มปากเป็นเส้นตรงก่อนที่ดวงหน้าหวานจะเชิดขึ้นเล็กน้อย ปากอิ่มเหยียดยิ้มอวดดีที่เหมือนกับคนเป็นบิดาไม่มีผิด “อย่าหาว่าเรารังแกคนแก่ก็แล้วกัน ลุงใหญ่”

         “คุณหนูวิวครับ!”

         “เงียบซะเฉาจิ่ง เรารำคาญ”


         ให้ตายสิ!

         พอกันทั้งลุงทั้งหลาน!

         ความดื้อรั้นกระหายความท้าทายเกลียดนักความพ่ายแพ้นี่มันเป็นยีนเด่นของคนในตระกูลหวงหรือยังไงกันนะ?!

         เฉาจิ่งฮึดฮัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อตัวเองถูกคนสนิทของคุณชายใหญ่หวงขวางทางเอาไว้ ยืนขวางทั้งตัวไม่เท่าไหร่ไอ้สายตาราวกับผู้ใหญ่กำลังดุเด็กนี่มันอะไรกัน?


         อย่าให้ถึงทีเขาบ้างก็แล้วกัน!

topto โพสต์ 2018-5-19 10:02:55

ต่อๆชอบมากขอบคุณจากใจที่แบ่งปัน

Gooddy โพสต์ 2018-5-19 17:48:30

ขอบคุนครับ

thum โพสต์ 2022-3-16 02:51:08

{:5_118:}{:5_118:}{:5_118:}{:5_118:}{:5_118:}{:5_118:}
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: เริ่มด้วยใคร่ ลงท้ายด้วย..? 18 (50%)