เริ่มด้วยใคร่ ลงท้ายด้วย..? 20 (20%)
XX ( 20% )“ปล่อยเขาไว้กับคุณหนูแบบนั้น จะดีหรือครับนาย?”
“...”
“แล้วไหนจะยัง.....”
“ดีหรือไม่แท้จริงแล้ววัดกันที่ตรงไหนกันแน่นะ อาเฉา?”
เฉาจิ่งเงียบไปก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างยอมจำนน หากได้ลองตัดสินใจแล้วนายของเขาไม่มีทางเปลี่ยนใจง่ายๆแน่ เห็นชายคนนี้ยามอยู่กับคุณหนูวิวออกจะค่อนข้าง...หลงลูกจนคล้ายกับคนไร้สติไปสักหน่อย แต่ยังไงคุณปิญชาน์ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นนายของเขา เป็นหัวหอกคนสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลยของบริษัท
ทั้งยังเป็นถึงอดีตลูกเขยที่เฒ่าหวงให้การยอมรับจนยอมยกลูกสาวคนเดียวให้อีก
วิธีการคิดย่อมแยบยลกว่าคนธรรมดาที่ฉลาดขึ้นมาจากมาตรฐานหน่อยอย่างเขาอยู่แล้ว
แต่ถึงอย่างไรในใจแล้วเขายังอดที่จะไม่เห็นด้วยไม่ได้
คุณชายใหญ่หวงนี่ก็อะไร ตัวเองโตจนเป็นลุงคนแล้วยังจะชอบแกล้งเด็กรุ่นหลานเล่นอีก กับคุณหนูวิวเขาไม่ค่อยห่วงสักเท่าไหร่เพราะอย่างไรเสียเชื้อก็ย่อมไม่ทิ้งแถวไปไหนไกลอยู่แล้ว แต่กับเด็กโตยธารนั่นน่ะสิที่เขานึกเป็นห่วงแกมสงสารหน่อยๆ
หากเด็กคนนั้นไม่แน่จริงใจไม่แข็งแกร่งพอก็คงไม่สามารถผ่านด่านการทดสอบนี้ไปได้อย่างแน่นอน อีกอย่าง......
จิตใจรวมทั้งความรู้สึกนึกคิดของคุณชายใหญ่หวงเองก็ใช่ว่าจะคาดเดาได้ง่ายๆ หากว่าไม่ถูกใจเสียอย่างต่อให้เด็กคนนั้นจะมีความดีงามอยู่ในตัวมากมายแค่ไหนผู้ชายใจโหดคนนั้นก็คงไม่คิดสนใจ และคงจะไม่แคล้วหาทางแยกเด็กโตยธารออกไปให้พ้นทางคุณหนูวิวอยู่ดี
ไหนจะยังความดื้อรั้นตั้งมั่นยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองเลือกแล้วของคุณหนูวิวอีกเล่า
เฮ้อ! เฉาจิ่งล่ะปวดหัวจริงๆ
เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าเรื่องนี้มันจะจบในรูปแบบไหนกันแน่
“เฉาจิ่งยอมแล้วครับ ผมไม่อาจเถียงนายได้จริงๆแต่ยังไงก็อย่าให้มันเกินไปนักเลยนะครับ ผมสงสารคุณหนู”
“ฮ่าๆ อาเฉานะอาเฉา ก่อนที่จะนึกสงสารน้องวิว นายควรจะสงสารเจ้านั่นมากกว่าไม่ใช่หรือไง”
เฉาจิ่งขมวดคิ้ว
“เจ้านั่น?”
“ขนาดพ่อแท้ๆอย่างฉันน้องวิวยังใจร้ายเลือดเย็นใส่ได้ลงคอเลย แล้วกับลุงที่ไร้ความผูกพันทางสายเลือดอย่างเจ้านั่นน่ะเหรอ? หึ”
เฉาจิ่งคิดตามคำพูดของนายก่อนที่เขาจะนึกเอะใจในถ้อยคำแฝงความนัยในประโยคนั้น ......เลขาฯหนุ่มเบิกตากว้างเมื่อประติประต่อความคิดของนายออก เขาหันกลับไปมองผู้เป็นนายที่เบาะหลังรถซึ่งกำลังนั่งเอนหลังพิงเบาะด้วยท่าทีสบายๆ สีหน้าไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องใด
อดไม่ได้ที่จะเลื่อนสายตาลงมองร่างสูงอีกร่างที่นอนหนุนตักนายของเขาอยู่อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับใครเขาอย่างนึกหมั่นไส้
ปิญชาน์เพียงยกยิ้มบางให้กับใบหน้าราวกับตรัสรู้แล้วซึ่งทุกอย่างของเลขาฯคนสนิท ก่อนที่จะก้มลงมองเสี้ยวหน้าร่างบนตัก ไล้ปลายนิ้วเรียวไปตามสันกรามอีกคนพลางมองใบหน้าที่กำลังหลับพริ้มนั้นอย่างอ่อนโยน
โมเมนต์ที่หาได้ยากจากผู้เป็นนายทำให้ผู้เป็นลูกน้องอย่างเฉาจิ่งอยากจะยกมือถือขึ้นมาอัดภาพเสียจริง!
“รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงได้เกลียดขี้หน้าเจ้านั่นนัก”
“เอ่อ ทำไมหรือครับ?”
ชั่วครู่ที่ดวงตาสีอัลมอลด์เหมือนกับผู้เป็นลูกชายฉายแววเจ็บปวดออกมา
เพียงเสี้ยววินาทีที่แม้แต่เฉาจิ่งก็ไม่อาจมองเห็น
“เพราะหวงเจี่ยหลุนมันเหมือนฉันมากเกินไปยังไงล่ะ เห็นแก่ตัวได้กับทุกอย่าง......แม้กระทั่งความรัก”
“นาย...”เฉาจิ่งครางเสียงอ่อย
ดวงหน้าคมเข้มที่ไม่เคยบั่นทอนไปตามช่วงอายุเฉยชาราวกับเจ้าตัวไร้ซึ่งความรู้สึก นอกจากความหยันเหยียดแล้วเขาสัมผัสได้ถึงความเศร้าหมองเจือปนอยู่ในน้ำเสียงนั้น แม้จะเพียงบางเบาแต่กับคนที่ทำงานร่วมกันมานานอย่างเฉาจิ่งมีหรือจะตีความไม่ออก
“ความรักของฉันแม้ไม่ได้ครอบครองแต่ก็ยังเก็บให้อยู่ในสายตาได้ แต่กับเจ้านั่น......มันโหดร้ายกับความรักมากกว่าฉันเยอะ”
จากแววตาที่เคยมองร่างบนตักนายด้วยความหมั่นไส้กลับกลายเป็นแววตาที่นึกสงสารไอ้เพื่อนที่เป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมากับเขามาเนิ่นนานจับใจ
เขาไม่อาจคิดแทนนายได้ว่าสิ่งที่นายทำมันผิดหรือถูก เพราะเขาไม่ใช่นายไม่ได้อยู่ในสถานการณ์อย่างที่นายเคยเผชิญมา เขาจึงไม่บังอาจกล่าวหาว่านายของเขาใจร้ายใจดำขนาดไหน
เช่นกันกับที่เขาไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของอเล็กซ์........หมอนั่นอยู่มาได้อย่างไรกับความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงหัวใจไปในทุกๆวัน ...ทุกๆวัน ตลอดสิบปีมานี้
บางที ความรัก กับ ความเห็นแก่ตัว
ก็อยู่ใกล้กันเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น
“แล้วทางเราจะยังไงต่อดีครับนาย รอคุณชายใหญ่ก่อนหรือ....”
“กลับบ้านใหญ่”ปิญชาน์ตัดบททั้งที่ยังไม่ละสายตาจากร่างบนตัก แม้ใบหน้าจะเรียบเฉยเพียงใดแต่แววตากลับฉาบฉายไปด้วยความอ่อนโยน “เดี๋ยวยาสลบหมดฤทธิ์มันจะยุ่งยาก”
เฉาจิ่งรับคำดวงตาภายใต้แว่นสายตาเลื่อนลงมองร่างบนตักนายอีกครั้งก่อนที่จะลอบถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วหันหน้ากลับแตะเหยียบคันเร่งทะยานรถตรงกลับบ้านใหญ่ตามคำสั่งนายทันที
เฉาจิ่งได้แต่ภาวนาในใจ
ขอให้คุณชายใหญ่หวงไม่มุมานะในการเล่นสนุกเกินไปจนทำให้คุณหนูวิวต้องทนไม่ไหวด้วยเถอะ!
ต่อๆชอบมากขอบคุณจากใจที่แบ่งปัน ขอบคุนครับ
หน้า:
[1]