Daddy finger-3
Daddy finger-3ชายหนุ่มใช้เวลาไปถึงครึ่งชั่วโมงในการอาบน้ำและแต่งตัวด้วยชุดลำลองสบายๆ อย่างกางเกงนอนขายาวเพียงตัวเดียว
ใช่ อธิษฐ์ใส่กางเกงนอนขายาวเพียงตัวเดียว…
มันไม่ใช่การเตรียมพร้อม— เอ่อ ยอมรับก็ได้ว่านั่นเป็นเหตุผลส่วนนึงของการแต่งตัวแบบนี้ แต่เขามีนิสัยใส่กางเกงนอนเพียงอย่างเดียงมานานแล้ว เช่นเดียวกับคนที่ทำครัวไปด้วยร้องเพลงไปด้วยที่ชอบใส่เสื้อนอนเพียงอย่างเดียว ตอนแรกอธิษฐ์ก็คิดว่าเด็กมันยั่ว แต่พอใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาสักพักหนึ่ง ถึงได้รู้ว่านั่นเป็นนิสัยส่วนตัวของร่างเล็ก
เจ้าของร่างสูงร้อยแปดสิบหกเซนติเมตรค่อยๆ เดินย่องเข้าไปในครัว พลางเงี่ยหูฟังเสียงพึมพัมของพ่อครัวอารมณ์ดี
“Daddy finger.. Daddy finger.. where are you?”
เส้นคิ้วคมขมวดเล็กน้อยกับทำนองเพลงไม่คุ้นหูนั่น
“ร้องเพลงอะไรของเธอ”
พ่อครัวตัวเล็กสะดุ้งโหยงแล้วรีบหันกลับมามองในทันที พอเห็นว่าเป็นเขายืนซ้อนอยู่ด้านหลังก็หลับตาพร้อมถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ตกใจหมดเลยครับ”
“ขวัญอ่อนจริงเชียว”
“ก็คุณเล่นเดินเข้ามาเงียบๆ นี่” ว่าพลางยกมีดหันผักชี้หน้าคาดโทษร่างสูง ชายหนุ่มจึงเอนตัวหลบด้วยกลัวว่าปลายคมแหลมของมันจะบาดปลายจมูกโด่งของตนเข้า ในขณะที่ส่งสายตาบอกให้ปรมิณลดของอันตรายในมือลง
“เธอยังไม่ตอบเลยว่าเมื่อกี้ร้องเพลงอะไร” เขาถามซ้ำอีกครั้ง ในตอนที่ถอยหลังมายืนพิงสะโพกกับเคาน์เตอร์บาร์
“Daddy Finger ครับ เป็นเพลงเด็กน่ะ”
“หืม?” ครางรับในลำคอระหว่างไล่สายตาพิจารณาเรือนร่างเล็กของพ่อครัวอย่างเช่นทุกที
ตอนนี้ที่มาของเพลงที่ปอร้องไม่น่าสนใจเท่าเด็กหนุ่มสวมเสื้อสเวตเตอร์ปกปิดร่างกายเพียงอย่างเดียว โชคดีที่อีกฝ่ายตัวเล็กและไซส์เสื้อมันใหญ่กว่ารูปร่างกะทัดรัดของเจ้าตัวไปมากโข
แต่ก็นับว่าโชคร้ายที่มันไม่ได้ยาวจนคลุมเข่า เพราะฉะนั้นเวลาที่อีกฝ่ายเขย่งเอื้อมมือหยิบอะไรสักอย่างที่อธิษฐ์ไม่ได้ใส่ใจมองเท่าเรียวขาขาวราวน้ำนมนั่น ปลายเสื้อสีชมพูก็เลิกขึ้นจนเกือบเห็นบั้นท้ายกลมกลึงอย่างหมิ่นเหม่
และโอเค
เขาเห็นว่าอันเดอร์แวร์สีขาวโผล่มาทักทายวับๆ แวมๆ จนอดที่จะเลียริมฝีปากแห้งผากของตนไม่ได้เลย ยั่วตาใสแบบไม่ได้ตั้งใจหรือเปล่าไม่รู้ ทว่าพอได้สบนัยน์ตาใสซื่อ เขาก็รู้ว่าเมื่อกี้ปอคงไม่ได้ตั้งใจ(มั้ง)
“เป็นเพลงเด็กน่ะครับ ผมได้ยินตอนช่วยครูอนุบาลถือของไปส่งที่ตึกฝั่งเด็กเล็ก”
“เหรอ”
“ฟังแป๊บเดียวเองนะครับแต่มันติดหูผม— คุณอธิษฐ์” เอ่ยเรียกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูจะไม่ได้สนใจเรื่องที่เขากำลังพูดเสียแล้ว ก็ดวงตาเป็นประกายวิบวับนั่นเอาแต่มองต่ำอยู่ตรงขาน่ะสิ
“อะไรครับ”
“หน้าผมไม่ได้อยู่ข้างล่างนะ”
“ข้างล่างเธอมันก็ไม่ได้น่ามองน้อยกว่าหน้าเธอสักเท่าไหร่หรอก”
“คุณธิ!” ร้องแหวอย่างทนไม่ไหว ปรมิณคนนี้อยากจะบ้าตาย ทำไมชายหนุ่มตรงหน้าถึงได้เป็นคนแบบนี้เนี่ย สายตาน่ะมองเหมือนจะกินคนเด็กกว่าเข้าไปแทนอาหารเย็นที่กำลังเร่งทำอยู่รอมร่อ
“อะไรเล่า”
“พูดอะไรของคุณเนี่ย”
“ทำเป็นเขิน” พูดหยอกพลางเกลี่ยนิ้วล้อแก้มแดงๆ ของพ่อครัวตัวน้อย “ไหนร้องให้ฉันฟังใหม่ซิ”
“ครับ?”
“เพลงนิ้วคุณพ่อของเธอน่ะ”
“อยากฟังเหรอครับ?” ถามพลางแสดงสีหน้าไม่ไว้ใจออกมา ก็ประโยคที่คุณอธิษฐ์พูดออกมานั้นมันฟังดูปกติเสียที่ไหนล่ะ เล่นแปลกออกมาซะตรงตัว ถ้าคนไม่คิดอะไรมันก็ไม่คิดหรอก
“ใช่ ฉันอยากฟังเธอร้อง” หนุ่มนักธุรกิจพูดจบก็ยกยิ้มกริ่มที่มุมปาก
ทางด้านเด็กหนุ่มนั้นมองจงอินอย่างระแวง ก่อนจะสะบัดหน้าไล่ความคิดแปลกๆ ไป คุณจงอินคงไม่ได้คิดลึกอะไรกับเพลงเด็กอ่อนแบบนี้หรอกมั้ง เขาจึงสูดลมหายใจเข้าปอดพร้อมกับช้อนตามองใบหน้าหล่อเหลาขณะขยับริมฝีปากเปล่งเสียงทุ้มห้าวที่พยายามร้องออกมาอย่างนุ่มนวลที่สุด
“Daddy finger.. Daddy finger.. where are you?”
แต่ทว่าปอคงไม่รู้ ว่าคุณธิที่มองหน้าเขาอยู่ตอนนี้กำลังคิดลึก
“Here I am.. Here I am.. How do you do?”
และลึกมากเสียด้วย
อันที่จริงเพลงมันไม่ได้มีแค่ท่อนของคุณพ่อหรอกนะ ยังมีท่อนคุณแม่ พี่ชาย พี่สาว ที่ปรมิณต้องร้องต่อ แต่เพราะมีมือมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ เอวคอยก่อกวนทำให้นักร้องจำเป็นต้องหยุดเสียงลงฉับพลัน พร้อมกับส่งยิ้มถามร่างสูงที่ทำหน้าเจ้าเล่ห์ชอบกล
“ชอบหรือครับ”
“อืม ชอบ”
ชอบมาก
“งั้นผมร้องให้ฟังอีกเอามั้ย?”
“เอาสิ”
ชอบจนอยากฟังปอร้องมันทั้งคืน
“แต่ว่าคราวนี้เธอต้องสอนฉันร้องด้วยนะ” คุณธิบอกพลางสอดแขนเกี่ยวเอวเล็กดึงร่างนุ่มนิ่มเข้ามาแนบชิด
“ได้สิครับ” เขายิ้มให้ร่างสูงอย่างกระตือรือร้น ดูท่าคุณอธิษฐ์จะชอบมากถึงขั้นให้เขาสอนร้องเลยหรือเนี่ย “สอนไปทำอาหารไปเนอะ”
“ได้”
ผึ้งตัวน้อยก็ยังคงยิ้มอย่างชอบใจ โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า มันกำลังจะถูกเจ้าหมีนักล่าดูดกลืนความหอมหวานจากตัวของมันจนแทบหมดสิ้น
“Baby, let’s start singing”
อธิษฐ์ยกร่างของคุณนักร้องจำเป็นที่สวมผ้ากันเปื้อนสีดำตัดกันกับเสื้อสเวตเตอร์สีชมพูอ่อนวางลงบนเคาน์เตอร์ ก่อนแทรกตัวเข้าไปยืนกลางหว่างขาพร้อมเท้ามือทั้งสองข้างลงบนพื้นหินอ่อนเย็นเยียบ กักขังให้ผึ้งน้อยตากลมตกอยู่ในอาณัติ โดยไม่อาจหลุดพ้น
ดวงตากระจ่างใสฉายแววตื่นตระหนกเพียงครู่ ก่อนจะอมยิ้มเมื่อรู้ว่าตนนั้นเสียรู้ให้ชายหนุ่มวัยกลางคนอีกเช่นเคย ปรมิณหลุบตามองฝ่ามือซุกซนขยับนิ้วเล่นปูไต่ตามผิวเนื้อขาวนวล
“เราจะเริ่มจากท่อนไหนกันก่อนดีล่ะ ที่รัก”
ชายหนุ่มถามพลางช้อนแววตาเจ้าเล่ห์ขึ้นมองใบหน้าใส ในขณะเดียวกันก็ไล้ปลายนิ้วตามเส้นรอบปากอิ่มช้าๆ อย่างนุ่มนวล จังหวะลากเอื่อยราวกับต้องการจดจำรายละเอียดของริมฝีปากแดงเรื่อให้แม่นยำ จนกระทั่งหยุดสัมผัสลงกึ่งกลางริมฝีปากล่าง ร่างสูงก็บีบนิ้วห่อเนื้อนุ่มหยุ่นก่อนจะใช้ลิ้นชิมความหวานเป็นการกระตุ้นอารมณ์
“ให้ตายเถอะ” ร่างเล็กสบถออกมาในระหว่างสอดประสานสายตาเป็นประกายวาววามของคนรัก “คุณนี่มัน” เขาใช้สายตาต่อว่าอย่างไม่จริงจัง ก่อนยกแขนสองโอบรอบลำคออุ่นพร้อมกระหวัดขาเกี่ยวเอวสอบเข้ามาแนบชิด ฝ่ามือขาวจัดลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาพร้อมมองด้วยสายตาชื่นชมหลงใหล
ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน เวลาที่อธิษฐ์รอคอยก็มาถึง เมื่อปรมิณค่อยๆ เอียงใบหน้าเข้าหา ก่อนร่างเล็กจะมอบความหวานแบบปากต่อปากให้คุณหมีนักล่าที่เอียงศีรษะรอรับอย่างรู้หน้าที่
บดเบียดกลีบปากเข้าหากันเชื่องช้า
ละเลียดชิมรสชาติหอมหวานแสนโปรดปรานวินาทีต่อวินาที
ขณะที่ค่อยๆ เพิ่มความตื่นเต้นใส่ลงไป
ริมฝีปากขยับฟัดกันไต่ระดับความรุนแรงของอารมณ์ที่โหมกระพือขึ้นเรื่อยๆ เปลี่ยนความนุ่มละมุนให้เร่าร้อนจนปอต้องสอดมือขยุ้มเรือนผมสีปีกกาของร่างสูงที่จู่โจมจูบอย่างดุดัน มีคุณธิคอยต้อนงับริมฝีปากอิ่มพลางไล่ละขอบปากด้วยปลายลิ้นชื้น สอดเรียวแขนโอบแผ่นหลังเล็กทำมุมเฉียงกับพื้นเคาน์เตอร์หินอ่อน เพราะเจ้าปอกำลังเหลวเป็นขี้ผึ้งโดนไฟรน
“อื้ออ..”
คนตัวเล็กส่งเสียงประท้วงเมื่อร่างถูกยกขึ้นลอยเหนือเคาน์เตอร์บาร์ ร่างสูวโอบอุ้มคนรักทั้งที่ริมฝีปากยังเชื่อมติดกันแน่น มือหนาสอดรองใต้บั้นท้ายกันคนที่โอบแขนกอดเขาไว้แน่นจะตกลงไป
อธิษฐ์ก้าวเท้าเร็วๆ มาถึงห้องนั่งเล่น ก่อนเหวี่ยงร่างเล็กลงบนโซฟา ทำให้จูบยาวนานหลายนาทีนั้นขาดช่วง ทว่าคนตัวสูงที่ยืนเข่าคร่อมร่างอยู่นั้นหาได้สนใจ ผ้ากันเปื้อนสีดำเกะกะลูกตานี่ต่างหากที่เป็นปัญหา คุณนักธุรกิจหนุ่มพยายามปลดเปลืองมันด้วยความทุลักทุเล
หากไม่ได้คนที่สวมมันเองกับมือเป็นคนถอด เขาคงไม่มีทางได้เห็นผิวขาวนวลภายใต้เสื้อสเวตเตอร์สีชมพูอ่อนเป็นแน่ ร่างสูงจึงตอบแทนการช่วยเหลือของคนตัวเล็กด้วยการป้อนจูบแสนร้อนแรงให้เป็นของกำนัล ทั้งบดคลึงและดูดเม้มกลีบปากบนล่างสลับกัน เขาพยายามเอาลิ้นดุนเพื่อให้เจ้าของความหวานล้ำนี้เปิดปาก
ทว่าคนตัวเล็กที่อายุห่างกันถึงรอบปีดันรู้ทัน ปรมิณนั้นผละจูบห่างเขาชั่วครู่ ใช้รอยยิ้มซุกซนหยอกล้ออย่างยั่วยวน ปั่นประสาทความต้องการเขาให้ดิ้นทุรนทุรายจนสมใจ จากนั้นก็กลับเข้ามาจูบใหม่ด้วยระดับความฮอทที่เร่าร้อนเกือบทะลุปรอท
เด็กหนุ่มดูดและขบริมฝีปากล่างเบาๆ สลับกับแตะปลายลิ้นเล็กหลอกล่อ ความแสบซ่าของคนตัวเล็กทำให้ร่างสูงรู้สึกดีแบบสุดๆ เขาจูบตอบกลับขณะที่ยอมเล่นตามเกม ลองเป็นปลาเล็กที่ว่ายเวียนตามหางปลาใหญ่ดูบ้างคงไม่เสียหาย
ก่อนที่ครู่ต่อมาเสื้อแขนยาวสีหวานแหววที่ปอจงเกลียดจงชังมันนัก จะถูกถอดออกจากร่างด้วยฝ่ามือของคุณหมีที่ตะปบคราวเดียวก็หลุดปลิวไปตกอยู่บนพื้น จากนั้นมือหนาจึงจับยกร่างที่เหลือเพียงแค่อันเดอร์แวร์สีขาวปกปิดของสงวนขึ้นนั่งบนตัก พร้อมป้อนจูบไม่ยอมห่าง
“อ่า.. ตัวแสบ” อธิษฐ์เอ่ยเสียงพร่ายามที่มือเล็กสอดลึกเข้ามาในกางเกงนอน
ความร้อนเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงดุร้ายที่นอนสงบภายใต้กางเกงชั้นในนั้นลูบไล้ ปลุกปั้นมันให้ผงาดความยิ่งใหญ่ขึ้นอย่างแช่มช้า ปรมิณเขย่ากรงกักขังแรงปรารถนาของเขาสั่นสะเทือนด้วยสายตาท้าทายและเย้ายวนจนมันปะทุ ในตอนนั้นแกนกายแข็งแกร่งพร้อมไล่ล่าความหวานเพื่อเพิ่มเติมเต็มช่องโหว่งของห้วงอารมณ์กำหนัด
“ฮืมมม..” ร่างสูงร้องคำรามระบายความเสียวซ่าน ยามอุ้งมือร้อนชักลูบท่อนเนื้ออวบราวลูกสูบ นัยน์ตาคมหรี่มองใบหน้าเจ้าเล่ห์ของผึ้งน้อยบนตัก ก่อนจะทนไม่ไหวเมื่อคนตัวเล็กแย้มยิ้มกว้างคล้ายเด็กเล็กๆ ที่กำลังเล่นสนุกกับการเข็นรถพลาสติกกลับไปกลับมา
มือหนาคว้าลำคอขาวดึงใบหน้าแดงเรื่อเข้ามารับจูบอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ปอกลับเปิดริมฝีปากรับลิ้นเขาเข้ามาดูดทักทายมันแผ่วเบา หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ลิ้นอุ่นๆ ตวัดสัมผัสได้ตามอัธยาศัย มีบางครั้งที่เด็กหนุ่มผลักดันลิ้นที่กำลังกวาดต้อนไปรอบปากอย่างเพลิดเพลิน บวกกับฝ่ามือขาวที่ยังเล่นซนกับท่อนแข็งตึงของเขาไม่หยุด ยอมรับว่าจังหวะนั้นคุณธิแทบจะปลดปล่อยความต้องการของตัวเองออกมาให้หมดสิ้น
“เด็กดี บทเพลงของเราควรเริ่มมันได้แล้ว” ร่างสูงผละหน้ามากระซิบข้างใบหูแดงก่ำ ก่อนจะแตะลิ้นแล้วเลียติ่งเล็กๆ เป็นการตบท้ายให้ร่างน้อยบนตักสั่นสะท้าน
“สอนฉันร้องเพลงนิ้วคุณพ่อของเธอสักที”
“อื้ออ.. แด๊ดดี้” พึมพำเคลิ้บเคลิ้มเมื่อบั้นท้ายนิ่มถูกบีบกระชับ “ถ้าคุณอยากฟังมัน—”
“ที่รัก ฉันอยากฟังมันจากปากเธอ” พูดกล่อมเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่แฝงความต้องการลึกๆ ไว้ในประโยค “Please”
ปรมิณอมยิ้มในขณะที่เกี่ยวขอบกางเกงนอนขายาวของคุณอธิษฐ์ร่นลงมาถึงครึ่งแข้ง ก่อนแอ่นสะโพกบดเบียดท่อนเนื้อร้อนที่บวมจัดจนเส้นเลือดปูดโปนของคนรัก
ตาประสานตา ระหว่างที่ก้านนิ้วเรียวของเบบี้ตากลมเกลี่ยรอบสันกรามคม ก่อนดันปลายคางทู่เชิดขึ้นและเริ่มบรรเลง ‘Daddy finger’ ข้างใบหูของคุณแดดดี้ผิวเข้ม
“Daddy finger.. Daddy finger.. Where are you?”
โดยที่ปลายนิ้วของ Daddy นั้นเกี่ยวขอบชั้นในผลุบหายเข้าไปในร่องสะโพกขาวอวบของเบบี้ เจ้าของอันเดอร์แวร์สีขาวสะดุ้งโหยงพร้อมกับเผยอปากปล่อยเสียงครางหวานยามที่นิ้วของคุณพ่อสอดลึกผ่านรูจีบเข้ามาทีเดียวถึงสองนิ้ว
ใบหน้าน่ารักบิดเบี้ยวด้วยเสียวกระสันเมื่อเรียวนิ้วของอธิษฐ์กระแทกกระทั้นในช่องทางรักพร้อมกับเสียงกระซิบแหบพร่าข้างหูด้วยประโยคที่ปอไม่ต้องสอนด้วยซ้ำ
“Here I am.. Here I am..”
“อื้ออ.. อ่า”
“How do you do?”
สะโพกอวบลอยผวาเหนือตักแกร่งเพราะจังหวะสอดลึกนั้นกระแทกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ร่างเล็กซบหน้าลงบนบ่ากว้างพลางขบริมฝีปากกลั้นเสียงน่าอาย— อยากจะบ้า เขาเสียววูบวาบคล้ายตอนที่รถลงสะพานมาด้วยความเร็วแบบนั้น
นักธุรกิจหนุ่มจูบซับเหงื่อข้างขมับให้คนตัวเล็ก ก่อนจะแลบลิ้นเลียใบหูแดงจัดอีกครั้งเพื่อกระตุ้นความปรารถนาปริ่มขอบเขตอารมณ์ เขาใช้ปลายจมูกคลอเคลียพวงแก้มยุ้ยในขณะเดียวกันนั้นปลายนิ้วก็ยังคงกระแทกอยู่ในรังผึ้งไม่หยุด
“ปอ ร้องออกมา..”
“อึก”
“ทนไม่ไหว เธอก็แค่ร้องมันออกมา”
“ซิ๊ดดด” เสียงสูดปากดังระงมอยู่ข้างหูเรียกขนอ่อนของร่างสูงลุกเกรียวกราว อีกทั้งความขาวที่สว่างล่อตาล่อใจ ดึงดูดให้อธิษฐ์แนบริมฝีปากกับผิวเนื้อนวลสะท้อนแสง ดูดเม้มจนเกิดรอยจ้ำสีกุหลาบตรงแอ่งชีพจร
“Baby” เรียกคนที่อ่อนระทวยอยู่บนตัก ก่อนจะจุ๊บเบาๆ บริเวณหน้าผากพร้อมกับตั้งคำถาม “Are you ready?”
“Yes, Daddy”
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณค่ะ เสียวตามเลย ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับผม ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ