งานวิจัยเรื่องเซ็กซ์ล่าสุดเผยสิ่งที่คนเราสนใจ
งานวิจัยเรื่องเซ็กซ์ล่าสุดเผยสิ่งที่คนเราสนใจhttp://sex.sanook.com/story_picture/m/44365_002.jpg
และแล้วข้อสงสัยหลายๆ ข้อเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์ก็ได้ถูกไขให้กระจ่างกัน เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเผยผลสำรวจว่าด้วยเรื่องความต้องการทางเพศ เบื้องลึกของคนเรา โดยดูจากคำที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเซ็กซ์ที่เหล่านักท่องอินเตอร์เน็ทใช้เป็น คำสำคัญเพื่อหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Google
ในงานศึกษานี้ นักวิจัยได้สำรวจการค้นหาข้อมูลจากคำที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเซ็กซ์จำนวนถึง หนึ่งพันล้านครั้งจากทั่วทุกมุมโลกผ่านเว็บไซต์ที่ช่วยในการสืบค้นข้อมูล Google เพื่อจะดูว่าอะไรคือสิ่งที่คนเราสนใจอย่างแท้จริงเวลาที่ค้นหาและอ่านเรื่องนี้ตามลำพัง
ผลสำรวจพบว่าผู้ชายแท้จะชอบผู้หญิงที่ร่างกายมีเนื้อมีหนังมากกว่าบรรดาผู้หญิงผอมๆ และอวัยวะในร่างกายที่ชายแท้และชายเทียมจะพิจารณาให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ก็คือ หน้าอก บั้นท้าย และเท้าตามลำดับ
นอกจากนี้ บรรดาผู้ชายยังชอบดูรูปวาบหวามหลากหลายประเภท ซึ่งรวมทั้งแนวแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปโป๊ของหญิงแก่ หรือรูปของเพศที่สาม ส่วนผู้หญิงแท้ทั้งหลายมักจะชอบอ่านและดูเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์รักๆ ใคร่ๆ ระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผูกพันทางอารมณ์เท่านั้น ไม่ใช่ความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างชาย-ชาย
และเมื่อตรวจสอบการค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์อื่นๆ อย่าง Dogpile พบว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ทจะใช้คำหรือคีย์เวิร์ดที่ จัดแบ่งตามความสนใจได้ 20 เรื่อง ตั้งแต่คำว่า "วัยหนุ่มสาว" จนถึงคำว่า "เชียร์ลีดเดอร์”
ผลงานการศึกษาชิ้นนี้ตีพิมพ์ในหนังสือชื่อว่า A Billion Wicked Thoughts ซึ่งเขียนโดย Ogi Ogas และ Sai Gaddam ที่หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยพิสูจน์ว่าความแตกต่างทางเพศไม่ได้เป็นตัวจำกัดขอบเขตของความสนใจหรือรสนิยมทางด้านเซ็กซ์ของคนเราเสียทีเดียว โดยงานวิจัยนี้ได้ศึกษาคนจำนวนมากและครอบคลุมหลายหัวข้อ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านถึงกับยกย่องให้หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่วิเคราะห์เรื่องความต้องการทางเพศของมนุษย์ที่สมบูรณ์ที่สุดเลยทีเดียว
เมื่อเหล่านักวิชาการออกมายกนิ้วให้ขนาดนี้ Ogas หนึ่งในผู้เขียนเลยคุยโวให้หนังสือพิมพ์นิวยอร์คโพสท์ฟังต่อว่า งานวิจัยของเขาได้ค้นพบข้อมูลมากขึ้นจากเดิมที่ไม่เคยรู้ และจนถึงทุกวันนี้นักบำบัดทางเพศหลายคนยังแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าความต้องการทางเพศแบบไหนเป็นสิ่งปกติและแบบไหนที่ผิดปกติ
งานวิจัยระบุว่าพฤติกรรมทางเพศบางอย่างที่อาจดูแปลกแต่ก็เป็นเรื่องทั่วไปที่คนเราทำกัน ไม่ว่าจะเป็นการจินตนาการเรื่องเซ็กซ์หมู่ของเหล่าบรรดาชายทั้งหลาย ซึ่งเกิดขึ้นมากกว่าผู้หญิง ในขณะที่ในจินตนาการของชายเหล่านั้นกลับมีจำนวนผู้ชายมากกว่าจำนวนผู้หญิงในกิจกรรมนั้นๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่าเหล่าชายแท้ยังเทใจให้เหล่านางเอกหนังโป๊มือสมัครเล่นบนโลกออนไลน์ ในขณะที่บรรดาหญิงแท้และเกย์ก็นิยมเรื่องกิจกรรมทางเพศที่เกี่ยวกับการควบคุมและการยอมจำนน และยังพบว่าเกย์ยังชอบดูหนังโป๊ที่ไม่เบี่ยงเบนทางเพศด้วย
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคิดว่าเนื่องจากหนังปลุกใจเสือป่าเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายมากทางอินเตอร์เน็ท มันอาจทำให้ความต้องการทางเพศของมนุษย์นั้นค่อยๆ พัฒนาเปลี่ยนแปลงไป อันจะเห็นได้จากทุกวันนี้มีทั้งชายและหญิงเข้าล็อกอินดูหนังโป๊จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และมีเว็บไซต์ดูหนังโป๊ประมาณ 2.5 ล้านเว็บที่ถูกบล็อกไม่ให้เข้า ในขณะที่ก่อนหน้านี้ในช่วงที่อินเตอร์เน็ทยังไม่ได้รับความนิยม มีเพียงนิตยสารโป๊เปลือยไม่ถึง 90 หัวเท่านั้นที่เผยแพร่เรื่องพวกนี้
อย่างไรก็ตาม Donald Symons นักจิตวิทยาชาวอเมริกันเห็นว่า งานวิจัยชิ้นดังกล่าวยังไม่ได้พิสูจน์ว่าคนเราดูภาพโป๊เปลือยต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศกันทั้งหมด โดยพวกเขาอาจจะดูเพราะความอยากรู้อยากเห็นก็ได้ ในขณะที่คนอื่นๆ ให้ความเห็นว่าเราไม่สามารถรู้ได้ว่าอะไรเป็นแรงบันดาลที่ทำให้บุคคลบุคคลหนึ่งค้นหาคำเกี่ยวกับเรื่องทางเพศทางอินเตอร์เน็ท
Dr Symons กล่าวว่า ถึงแม้ Ogas เชื่อว่าคนเราค้นหาข้อมูลเรื่องดังกล่าวเพื่อตอบสนองอารมณ์ทางเพศ แต่เขากลับคิดว่ามันไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป โดยยกตัวอย่างประกอบว่าหากดาวโป๊คนหนึ่งมีหน้าอก 3 เต้า เขามั่นใจว่าต้องมีคนคลิกเข้าไปดูดาวโป๊คนนั้นจนนับครั้งไม่ถ้วน และเขาก็ไม่คิดว่านั่นหมายความว่าผู้ชายจะถูกกระตุ้นอารมณ์ด้วยผู้หญิงคนนั้น
อย่างไรก็ดี ผู้เขียน A Billion Wicked Thoughts ได้ออกมาโต้กลับว่างานวิจัยของเขาได้พิสูจน์ถึงความต้องการทางเพศของคนเราอย่างแท้จริง เนื่องจากเขาสังเกตเห็นว่าผู้ที่ค้นหาข้อมูลออนไลน์ที่เกี่ยวกับเรื่องเพศได้หมดเงินไปกับการลงทะเบียนสมัครสมาชิกจำนวนมาก และพวกเขายังเข้าดูเว็บไซต์เหล่านั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นการพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ได้เข้าไปเพราะความอยากรู้อยากเห็นอย่างแน่นอน
ที่มา: www.dailymail.co.uk
ปล่อยไปตามธรรมชาติ และความรู้สึกของหัวใจ
ดีกว่าครับไม่ต้องคิดมาก
แต่อยู่บนความถูกต้องด้วยนะครับ
หน้า:
[1]