nutnakrobh โพสต์ 2018-5-30 13:01:18

## เรื่อง “ รักของเราสามคน ” ๒ ##

มาต่อให้แล้ว.......

โทษทีที่เราผิดสัญญานะ.....

เรื่องมันมีอยู่ว่า... เราพิมตอนนี้เสร็จตั้งแต่เมื่อคืน...แต่เน็ตหอเรามันมีปํยหาอ่ะไม่รู้เป็นไร... เข้าเว็บอะไรไม่ได้เลย... พูดแล้วก็อารมณ็เสีย..

เราก็เลยเพิ่งมาลงให้....อย่าโกรธกันนะ....

**********************************************************************************************

หลังจากเสร็จพิธีก็แยกย้ายกันกลับหอช่วงที่เรากำลังจะเดินขึ้นหอภีมก็เดินตรงจะเข้ามาหาเราแต่มันก็โดนรุ่นพี่มันเรียกไว้ซะก่อนคือคณะมันหนะค่อนข้างที่จะเข้มงวดเรื่องกฎระเบียบมากมันก็เลยหันไปตามพี่ที่เรียกมันส่วนเราก็รีบเดินขึ้นหอทันที

พอเข้าไปในหอก็มีการเรียกรวมในหออีกแต่ก็ไม่มีอะไรมากพี่หอก็แค่มาแนะนำตัวว่าชื่ออะไรกันบ้างแล้วก็มีการพูดถึงกฎระเบียบของการอยู่หอในจากนั้นก็แยกย้ายกันเข้าห้องของแต่ละคน

หลังจากที่เราอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยเราก็โทรไปหาป็อบคือป็อบกะเราหนะเรียนกันคนละที่ซึ่งก็ค่อนข้างอยู่ไกลกันวันที่เราแยกกันเราก็รู้สึกใจหายอยู่มากทีเดียวเพราะช่วงที่ปิดเทอมเราก็อยู่กะป็อบเกือบตลอดเรากะป็อบก็กลัวเหมือนกันนะว่า..............ความห่างของระยะทางจะทำให้ระหว่างเราสองคนเปลี่ยนแปลงไปรึป่าว....แต่ป็อบก็บอกเราว่าให้เชื่อใจป็อบได้เลย....... ป็อบขอเราอย่างนึงว่าให้โทรหาป็อบบ่อยๆเพราะป็อบเป็นห่วงไม่อยากให้เราต้องไกลกัน.................

“ เป็นไงบ้างนิสิตใหม่.......... เหนื่อยมั้ย” ป็อบด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“ นิดหน่อยอ่ะ......... แต่ไม่เป็นไร.... คุยได้ ” เราพูด

“ คิดถึงปอจัง.......” ป็อบพูดด้วยน้ำเสียงเหงาๆ

“ นี่แค่วันเดียงเองนะ................ ” เราแกล้งพูดเล่น

“ ก็ใช่อ่ะดิ.... แค่วันเดียวป็อบยังคิดถึงปอขนาดนี้เลย.... แล้วต่อไปอ่า.....” ป็อบพูดเสียงเศร้าๆ

“ คิดมากน่า........ ปอก็คุยกะป็อบอยู่นี่ไง ” เราพูด

“ ก็คนมันรักหนิ........ ถ้าปออยู่ข้างๆป็อบตอนนี้นะป็อบจะทั้งกอดทั้งฟัดให้หายคิดถึงเลย..” ป็อบพูด

“ เวอร์น่า........ พูดไรอายบ้างเหอะ..” เราพูดเขินๆ

“ แหม.... แต่คำพูดของป็อบก็ทำให้ใครบางคนหน้าแดงได้ก็แล้วกันน่า....” ป็อบพูดกวนๆ

“ พอเลยๆ.... ” เราพูดอายๆ

“ ครับ... ก็ได้ครับ ” ป็อบพูด

“ แล้วป็อบอ่ะ.... เป็นไงบ้างเหนื่อยมั้ย...” เราถามเพราะว่าวันนี้ป็อบมันก็วุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวเก็บของเพราะพรุ่งนี้มันก็ต้องเดินทางไปที่มหาลัยมันเหมือนกัน...

“ เหนื่อยดิ... ถ้าปออยู่ข้างๆนะป็อบจะใช้ให้นวดเลย... ” ป็อบพูด

“ ไม่ต้องมาอ้อนเลย... ตอนนี้ก็ทำเป็นพูดดีเหอะเดี๋ยวไปเจอผู้หญิงที่มอก็ลืมกร ” เราแกล้งพูดงอนๆ เพื่อลองใจป็อบ

“ จะบ้าเหรอ... ป็อบไม่ทำงั้นหรอก...” ป็อบพูดเสียงเข้ม

“ ใครจะไปรู้....รักแท้แพ้ใกล้ชิด ” เราพูด พร้อมกับอั้นขำไปด้วย

“ ไม่หรอก.... เชื่อใจกันดิยิ่งเราอยู่ห่างกันแบบนี้ด้วย ” ป็อบพูดด้วยเสียงจริงจัง

“ โอเคๆ เชื่อแล้วๆ” เราพูดไปหัวเราะไป

“ นี่แกล้งกันเหรอ ” ป็อบพูดเสียงเคืองๆ

“ ก็แค่ลองใจดูเฉยๆ ” เราพูดเสียงอ้อนๆ

“ ยังไม่เชื่อใจป็อบอีกเหรอ..” ป็อบพูดเสียงที่แสดงถึงความน้อยใจ

“ เชื่อดิ... แค่เล่นขำๆไม่มีไรหรอก ” เราพูด

“ จริงนะ...” ป็อบถาม

“ จริงดิ...” เราพูด

จากนั้นเรากะป็อบก็คุยกันอีกมากมายเราก็เล่าเรื่องวันนี้ให้ป็อบฟังรวมถึงเรื่องภีมด้วยพอป็อบรู้ก็พูดด้วยเสียงโมโหว่า

“ ปอ...... ปอไม่ต้องไปยุ่งกะมันเลยนะไม่ต้องไปคุยกะมันด้วย ”

“ ไม่มีไรหรอกน่า.......... ” เราพูด

“ ไม่เอาอ่ะ.. ปอสัญญากะป็อบก่อนนะว่าจะไม่ยุ่งกะมัน ” ป็อบพูดน้ำเสียงร้อนใจ

“ โอเคๆ... ปอสัญญา ” เราพูด

“ เซ็งว้ะ..... แล้วมันมาเรียนที่เดียวกะปอได้ไงเนี่ย..” ป็อบบ่น

“ มันคงบังเอิญหนะ.... อย่าไปสนใจเลย ” เราพูด

“ จะให้ไม่สนได้ไงอ่ะ.....เดี๋ยวมันก็มาวุ่นวายกะปออีก ” ป็อบพูด

“ น่านะ... ปอบอกไม่มีไรก็ไม่มีดิ ” เราพูด

“ อืม... ก็ได้แต่ถ้ามันมายวุ่นวายไรกะปอปอต้องบอกป็อบนะ...” ป็อบพูด

“ อืม....” เราตอบ

“ ป็อบว่า.. ปอไปนอนได้แล้วป่ะ... เหนื่อยมาทั้งวันพรุ่งนี้ปอก็ต้องเข้ารับน้องอีก”ป็อบพูด

“ อืม.... ฝันดีนะพรุ่งนี้ก็เดินทางดีๆนะ ” เราพูด

“ ค๊าบบบบ...เรียบร้อยแล้วป็อบจะโทรบอกนะ...” ป็อบพูด

“ อืม...... แล้วคุยกัน ” เราพูด

“ ครับ...” ป็อบตอบกลับมา

หลังจากกวางสายจากป็อบเราก็กำลังจะเดินขึ้นห้อง ( คือเราออกมาคุยที่สนามหญ้าข้างหลังหอหนะ...มันเงียบดี) ตอนนั้นเราก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เหยียบลงที่พื้นหญ้าเสียงใบไม้แห้งที่โดนเหยียบดัง... กรอบๆ..เรานี่ขนลุกซู่เลย   คิดในใจว่าเจอดีเข้าซะแล้ว..................ก็ไหนบีมมันบอกแล้วไงว่าถ้านิสิตคนไหนทำพิธีแล้วจะไม่โดนผีหลอกไง.....แต่นี่มันไรกันเนี่ย....ตอนนั้นนะขาเรามันก้าวไม่ออกเลยรู้สึกว่าขนมันลุกทั้งตัวเลย.... รู้ได้ในทันทีว่าขนหัวลุกหนะเป็นไง..............

เรากลั้นใจว่าจะวิ่งเข้าหอให้เร็วที่สุดเตรียมใจพร้อม.... ในขณะที่เรากำลังจะออกวิ่งก็มีมือมาจับที่ข้อมือเราไว้ทำให้เรากระแทกไปตามแรงดึงนั้นอย่างเต็มที่

“ เฮ้ย..... ใครอ่ะ ” เราตะโกนไปสุดเสียง

“ โห....... นึกว่าขโมย.....” เสียงไอ้คนที่ดึงเราพูดขึ้น... ใครว้ะ... เสียงมันคุ้นๆแฮะ พอเราหันไปดูก็ถึงบางอ้อ

“ ฮัทเองหรอกเหรอ............ ” เราพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมายาวๆ................

“ แล้วนึกว่าใครล่ะ ” ฮัทถามเสียงกวนๆ

“ นึกว่าผีซะอีก” เราพูดแบบโล่งออก

“ ผีอะไรหล่อขนาดนี้....” ฮัทพูดพร้อมกับยิ่มที่มุมปาก

“ คนไร... หลงตัวเองชิบหาย” เราเป็นบ่นกับตัวเองแต่ก็ตั้งใจให้มันได้ยิน

“ ทำยังกับตัวเองไม่เคยหลงงั้นแหละ ” ฮัทมันพูดยิ้มๆ

“ เราเคยไปหลงแกตั้งแต่เมื่อไหร่... อย่ามามั่ว” เราพูดกระแทกกับไป

“ เหรอ.... ทำเป็นลืมเห็นฮัทครั้งแรกก็มองจนหลงเลยไม่ใช่เหรอ ” ฮัทด้วยน่าหากวนส้นตี_ มากมาย

“ ป่าวซะหน่อย...” เราพูดเขินๆเพราะก็จริงอย่างที่ฮัทพูด

“ คนอะไร... มีแฟนแล้วยังมองคนอื่นอีก ” ฮัทพูดเสียงกวนๆ

“ รู้ได้ไงว่าเรามีแฟนแล้ว ” เราพูด

“ ก็เห็นคุยกันหวานขนาดนั้น............. ใครไม่รู้ก็โง่แล้ว” ฮัทพูด

“ นั่นมันเรื่องส่วนตัว ” เราพูดแล้วก็เดินขึ้นห้องไปเลย

อารมณ์เสียมากมาย.... ตอนนั้นรู้สึกว่าฮัทเป็นคนที่ปากเสียมากๆแถมยังหลงตัวเองอีก......

******************************************************************************

ในช่วงแรกของการเข้ามหาลัยใหม่ๆก็จะเป็นช่วงของการรับน้องซึ่งจะรับติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันเริ่มตั้งแต่รับน้องมหาลัยรับน้องคณะรับน้องเอก.........ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน........

ด้วยเหตุที่เราเรียนนิเทศทำให้ค่อนข้างเป็นที่สนใจและด้วยความที่เราเป็นกะเทยทำให้เราโดนพี่ๆบังคับให้ทำกิจกรรมหลายๆอย่างซึ่งก็แน่นอนว่าทำให้เราเป็นที่รู้จักของใครหลายๆคนด้วย...................

ในส่วนที่ทำกิจกรรมและการรับน้องเราจะไม่ขอพูดถึงนะเพราะว่ามันไม่ได้มีอะไรที่น่าสนใจและมันก็เยอะมากเพราะเราทำกิจกรรมเยอะจริงๆอันไหนที่เกี่ยวกับเรื่องเราถึงจะหยิบเอามาพูดถึงก็แล้วกันนะ....


*********************************************************************

ก่อนอื่นที่จะเล่าต่อเราจะบอกก่อนว่ามหาลัยที่เรามาเรียนมีเพื่อนเราในห้องตอนมอปลายประมาณ 9-10 คน ที่มาเรียนที่นี่ซึ่งแต่ละคนอยู่ในคณะที่ต่างกันออกไป........... บางคนก็อยู่ในคณะเดียวกันอย่างคณะที่เราอยู่ก็มีเพื่อนในห้องอีกประมาณ 5-6 คนที่อยู่คณะเดียวกับเราซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ เจมส์

ในช่วงเที่ยงของวันหนึ่งหลังจากที่เราเลิกเรียนก็ไปกินข้าวกับเพื่อนๆในเอกที่เพิ่งเริ่มทำความรู้จักกันเราก็ได้เจอกับเจมส์เจมส์เดินมาทักเราแล้วเรียกเราออกไปคุยด้วย

“ ปอ........ เห็นไอ้ภีมมันบอกว่า.. ปอไม่เคยรับโทรศัพท์มันเลยเหรอ ” เจมส์พูด

“ ทำไมเหรอ.. ” เราถาม

“ เราอยากรู้หนะ.. ว่ามันจริงรึป่าว?? ” เจมส์พูด

“ อืม.......” เราตอบ

“ ท่าทางไอ้ภีมมันคงมีเรื่องจะคุยกับปอนะ ” เจมส์พูด

“ แต่เราไม่อยากคุยกะมันอีก ” เราพูด

“ เจมส์ก็ไม่ได้จะมาขอร้องให้ปอคุยกับมันหรอกนะเพียงแต่มันฝากเค้ามาบอกปอว่าให้รับโทรศัพท์มันหน่อย ” เจมส์พูด

“ อืม... ” เราตอบออกไปได้แค่นั้น

“ ถือซะว่าสงสารมันเหอะ... มันคงมีอะไรในใจที่อยากจะพูดก็ได้ ” เจมส์พูด

“ เอาไว้เราพร้อมแล้วเราจะรับก็แล้วกัน” เราพูดเจมส์ก็พยักหน้ารับแล้วเรากะเจมส์ก็แยกกันเราก็ไปกินข้าวกับเพื่อนแล้วก็ขึ้นเรียนวิชาตอนบ่ายต่อ..............

ในช่วงบ่ายที่เรียนเราเรียนไม่รู้เรื่องเลยมัวแต่คิดว่าภีมมันเป็นอะไรของมันอีกนับจากที่เรากะมันเจอกันครั้งสุดท้ายที่หาดวันนั้นมันก็น่าจะเข้าใจอะไรทุกอย่างแล้วเราจะทำยังไงดีถ้าจะคุยกะมันให้รู้เรื่องก็เกรงใจป็อบอีกเพราะเราก็สัญญากะป็อบไปแล้วว่าจะไม่ยุ่งกะภีมมันอีก........

พอเลิกเรียนเราก็รีบเก็บของเพราะว่าจะต้องรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมตัวเพื่อมาเข้ากิจกรรมรับน้องในตอนเย็นตอนที่เราลงมีที่หน้าคณะเราก็เห็นภีมกำลังเดินเข้ามาที่คณะเราสงสัยมันจะมีเรียนที่ตึกเราตอนที่เราเดินสวนกะมันเราก็ทำหน้าให้เป็นปกติกะว่าจะทักมันซะหน่อยไหนๆก็เป็นเพื่อนกันป็อบคงไม่ว่าหรอกถ้าแค่ทักกันเฉยๆแล้วอีกอย่างการเดินสวนกันแบบนี้ถ้าเราไม่ทักมันก็ดูจะไม่เท่าไหร่นัก..............

ดังนั้นตอนที่เดินสวนกันมันเดินเข้ามาเราเดินออกไปเราก็หันหน้าไปมองมันแล้วก็ยิ้มให้มันตอนนั้นเรารู้สึกว่าหน้าตัวเองชาไปหมดทั้งๆที่เรามั่นใจว่ามันจะต้องเห็นเราและทักเราแต่มันกลับแสร้งให้หน้าไปทางอื่นแล้วยังทำหน้าเฉยเมยเหมือนกับว่าเรากะมันไม่รู้จักกันเราหันหน้ากลับมาทันทีแล้วก็รีบเดินออกจากตรงนั้น

ตอนนั้นเรารู้สึกแย่มากกับการกระทำที่มันแสดงออกมา....... เรากลับมาที่หอแล้วก็เดินขึ้นห้องตัวเองด้วยใจที่รู้สึกสับสนกับภีมว่ามันเป็นอะไรไหนฝากเจมส์มาบอกเราว่าอยากคุยกะเราแต่พอเจอเรากลับทำเป็นคนไม่รู้จักกัน

เราเดินใจลอยนึกถึงแต่เรื่องที่เพิ่งได้เจอมา.... จนได้ยินเสียงใครบางคนพูดขึ้นมาทำให้เราหลุดออกมาจากภวังค์

“ เป็นไรป่าว...... ทำหน้ายังกับโดนทิ้งมางั้นแหละ ” เราหันไปตามต้นเสียงก็เห็นว่าเป็นฮัทเรามองหน้ามันแต่ไม่ได้พูดอะไรจากนั้นเราก็เดินขึ้นบันไดต่อเพราะมันยังไม่ถึงชั้นเรา

“ ไม่ปฎิเสธแบบนี้แสดงว่าโดนพูดแทงใจดำ ” ฮัทพูดกวนไม่เลิก

“ เรื่องส่วนตัวอย่ามายุ่ง ” เราพูดแล้วก็เดินขึ้นบันไดไปไม่สนใจว่าฮัทมันจะพูดหรือแสดงท่าทางอะไรอีก

พอเรากลับมาบนห้องเราก็นอนเล่นอยู่บนที่นอนเรื่อยเปื่อยคิดยังไงก็ไม่เข้าใจภีมว่ามันต้องการอะไรกันแน่.......

############################################################################

จบไปอีกตอนแล้ว............

takeshi โพสต์ 2018-5-30 21:28:57

ขอบคุณครับ

tajarak โพสต์ 2018-5-30 23:43:13

ขอบคุณครับ

topto โพสต์ 2018-5-31 06:59:06


ชอบมากต่อๆ

klans_821 โพสต์ 2018-7-3 00:36:36

ขอบคุณครับ

HRHPrince โพสต์ 2018-7-17 01:48:24

อ่าฮัท
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ## เรื่อง “ รักของเราสามคน ” ๒ ##