ต.ช.ด. ขอร้อง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย mon-mon เมื่อ 2018-6-27 20:17นอกจากผมจะต้องทำงานตามหน้าที่แล้วยังต้องช่วยเหลืองานของทางราชการอีก ถ้าได้รับคำสั่งมาจากบริษัทเราก็ต้องไป อย่างงานแข่งเรือที่อำเภอต่าง ๆ และงานที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นงานที่ผู้ว่าราชการจังหวัดขอไปทางบริษัท ให้หน่วยงานของผมออกพื้นที่พร้อมกับคณะของผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนตามหมู่บ้านต่าง ๆ เดือนละครั้ง
หน้าที่ ๆ ต้องทำก็คือบริการน้ำดื่ม ให้กับคณะผู้ร่วมเดินทาง ฉายหนังประชาสัมพันธ์ก่อนวันเดินทางไปของคณะผู้ว่าฯ หนึ่งคืน ที่ขาดไม่ได้คือร่วมแจกของให้กับประชาชน โดยบริษัทจะกำหนดให้ว่าจะเอาอะไรไปแจกก็เป็นสินค้าประชาสัมพันธ์ของบริษัททั้งนั้น ที่สำคัญคือเครื่องขยายเสียงของเราต้องบริการตลอดงาน
พวกผมออกเดินทางจากโรงแรมไปยังโรงเรียน ต.ช.ด. บ้านคำสร้อย โดยให้ไปประสานงานกับผู้ใหญ่และผู้อำนวยการโรงเรียน (เนื่องจากเคยเป็นพื้นที่สีชมพูมาก่อน ปัจจุบันจึงมีโรงเรียน ต.ช.ด. ตั้งอยู่ด้วย) ไปถึงหมู่บ้านช่วงเช้าก็ไปพบกับผู้นำทั้งสองคนตกลงกันว่า กลางคืนวันนี้ไม่ต้องฉายหนังเพราะตอนเช้ากลัวสถานที่ต้อนรับจะรกไปด้วยเศษกระดาษ (สนามหน้าโรงเรียน) ให้วิ่งรถประชาสัมพันธ์ก็พอแล้ว ทุกคนก็รู้กันหมดแล้ว เอาไว้คืนถัดไปผู้ว่าฯ กลับไปแล้วค่อยฉายให้ชาวบ้านได้ดูกัน พวกผมก็ขับรถออกประชาสัมพันธ์ไม่นานก็รอบหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านบอกให้พวกผมไปจอดรถพักผ่อนได้ในวัด วัดอยู่ห่างหมู่บ้านออกไปราวสามร้อยเมตรเห็นจะได้ ระหว่างทางเป็นทุ่งนาสลับกับป่ารกบ้างเป็นระยะ ๆ
ไปถึงวัดก็เข้าไปพบเจ้าอาวาส ขอต่อไฟไปใช้ในรถ หลวงพ่อบอก
"เอาเลยตามสบาย เดี๋ยวพวก ต.ช.ด. ก็จะมาพักที่วัดนี่เหมือนกัน" พวกเราจอดรถใต้ร่มไม้ หัวหน้าเอาทีวีเครื่องเล็กในรถมาเปิดดูข้างนอก รับได้เพียงช่องเดียว แถมไม่ค่อยชัดอีกต่างหาก แต่ก็พอดูกันได้ เอามาม่าออกมาต้มกินกัน
ระหว่างนั้นเองก็เห็นพวก ต.ช.ด. ขับรถเข้ามา สามสี่คันบรรทุกกันมาราวสามสิบคนจอดรถไว้ใกล้ ๆ กับรถของพวกผม บางกลุ่มพอเห็นรถของพวกผมก็ส่งเสียงเอะอะคุยกันลั่นว่าได้ดูหนังบ้างล่ะ บ้างก็ถามว่าเรื่องอะไรบ้าง คืนนี้จะฉายหรือเปล่า ทุกคนเดินเลยไปเพื่อหาหลวงพ่อและที่นอนบนศาลา แต่ละคนจะมีเป้สะพายหลังใบใหญ่ ๆ มีอาวุธปืนทุกคน บางคนก็หามุมนอนบนศาลา บางคนก็ลงมาผูกเปลนอนที่ใต้ถุนศาลา หลังจากที่พวกเขาได้พักกันแล้ว หัวหน้าของพวกเขาก็เรียกรวมพลที่ลานดินศาลาใกล้ ๆ กับที่พวกผมจอดรถอยู่ กินมามา่าด้วยดูพวกเขาไปด้วย ได้ยินผู้บังคับบัญชาพวกเขาสั่งว่า
"ให้พักผ่อนกันตามสบาย ใครจะทำอะไรก็ทำ แต่พรุ่งนี้ เจ็ดโมงเช้าต้องพร้อมที่จะปฏิบัติงาน" ทุกคนแยกกันไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดธรรมดา บางคนแก้ออกเหลือกางเกงในตัวเดียว บางคนก็ใช้ผ้าขาวม้าผลัด ผมมองเพลินไปเลย มีทั้งคนรุ่นหนุ่มและที่แลดูมีอายุมากสักหน่อย ผมก็เลือกมองเฉพาะพวกที่อยู่ในสเป็คเท่านั้น หลังจากเปลี่ยนชุดกันเสร็จแล้ว ส่วนมาก็พากันเดินเข้าไปในหมู่บ้าน คงจะไปหาอะไรกินกันนั่นเอง
พวกผมนั่งดูทีวีกันเพลินจนไม่ได้สังเกตว่า ยังมี ต.ช.ด. อยู่บนศาลาอีกสามสี่คนนั่งคุยกับหลวงพ่ออยู่ ผมจำได้ว่าบ่ายวันนี้จะมีการถ่ายทอดสดการชกมวยชิงแชมป์โลก สักครู่พวกเขาก็พากันลงมาจากศาลาแล้วเดินมาหาพวกผม ผมยกชามมาม่าเป็นการเชิญชวนให้พวกเขามากินด้วยกัน สังเกตดูพวกเขายังหนุ่มทุกคนอายุคงยังไม่ถึงสามสิบ หุ่นก็บึก ๆ กันทุกคน เขามาขอนั่งดูทีวีด้วย เราคุยกันหลายเรื่องจนทราบว่าพวกเขาสามคนขี้เกียจเดินกลับเข้าหมู่บ้าน กลางวันจะอาศัยข้าวก้นบาตรของหลวงพ่อกินกัน หนึ่งในสามคนพูดชวนพวกผมไปกินด้วยกันตอนกลางวันบนศาลา ผมตอบตกลงพร้อมกับบอกพวกเขาว่า ผมจะเอาอาการกระป๋องไปร่วมด้วย เสร็จแล้วก็คุยกันต่อเรื่องมวยตอนบ่ายว่าไทยจะชนะเกาหลีใต้หรือแพ้กันแน่ ต่างคนต่างก็วิจารณ์กันอย่างออกรส
ผมแยกตัวไปผูกเปลนอนพักผ่อนก่อน เพราะเหลือเวลาอีกสองชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาอาหารกลางวัน เลือกผูกเปลบริเวณริมรั้วของวัด อยู่ไม่ไกลจากที่จอดรถมากนัก มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่มากมาย ให้ร่มลมพัดเย็นสบาย นอนเพลินจนเกือบจะหลับอยู่แล้ว ได้ยินเสียงทักดังขึ้นข้างหลังว่า
"ขอผูกเปลนอนด้วยคนจะได้หรือเปล่า" ผมผงกหัวขึ้นมามองทางต้นเสียง เห็น ต.ช.ด. หนึ่งในสามคนนั้นนั่นเอง ใส่เสื้อกล้าม นุ่งกางเกงขาสั้นลายพราง ดูแล้วฟิตปั๋งไปทั้งตัว ถือเปลมาด้วย ผมบอกเขาว่า
"ตามสบายเลยครับ เลือกผูกเอาเลย" เขาเลือกผูกใกล้ ๆ กับที่ผมนอน หันปลายเท้าไปทางเดียวกัน ผมถามเขาว่า
"แล้วเพื่อนอีกสองคนไปไหนเสียล่ะ" เขาบอกว่า
"นอนอยู่ใต้ถุนศาลาโน้น ลมมันไม่ค่อยพัด เขาเลยมานอนตรงนี้" เขาพูดไปยิ้มไป เขายิ้มแล้วดูหล่อขึ้นเยอะ คิ้วเข้ม ตาคม เขาถามผมบ้างเรื่องฉายหนัง ผมก็เล่าให้ฟังจนหมดแล้วผมก็เป็นฝ่ายถามเขาบ้าง เขาก็เล่าให้ผมฟังจนหมดเช่นกัน เขาเป็นคนชัยนาทแต่มาเป็น ต.ช.ด. อยู่ที่นี่สองสามเดือนจะกลับบ้านสักครั้งนึง
"แล้วยังงี้ไม่คิดถึงแฟนที่บ้านแย่เหรอ" ผมถามเขา เขาตอบผมว่า
"ผมยังอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัว เป็น ต.ช.ด. ใครเขาจะเอา เขาก็กลัวเป็นหม้ายกันทั้งนั้น" พูดไปก็ยิ้มไป ผมเลยบอกว่า
"ไม่จริงมั้ง หล่อแบบนี้ สาวที่ไหนเห็นก็ชอบ" เขาหัวเราะแล้วถามผมว่า มีเมียหรือยัง ผมบอกว่า
"ผมก็ยังไม่มี คนทำงานร่อนเร่นาน ๆ กลับบ้านครั้งแบบนี้ กลัวเขาจะมีชู้ไปเสียก่อน" เขาพูดต่ออีกว่า
"ได้แฟนรูปหล่อแบบนี้ใครจะกล้าทิ้ง" ผมหัวเราะเขิน ๆ แล้วชวนกันคุยอีกหลายเรื่อง จนผมทราบว่าเขาชื่อ ประทิว เขาบอกให้เรียกทิว เฉย ๆ ก็ได้ อายุมากกว่าผมนิดหน่อยเท่านั้น คุยกันไปสังเกตมือเขาไม่ค่อยจะอยู่เป็นสุขสักเท่าไหร่ เห็นยุกยิก ๆ อยู่ตรงเป้ากางเกงตัวเองบ่อย ๆ หรือเขาอยากจะบอกอะไรบางอย่างให้ผมรู้ ผมก็ทำยิ้ม ๆ โดยเอามือกุมเป้ากางเกงตัวเองตลอดเหมือนกัน
จนผมเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว ตื่นอีกทีเมื่อทิวเขย่าเปลที่ผมนอนอยู่แล้วก็เรียกชื่อผม ผมลืมตาขึ้นมาเห็นทิวยืนอยู่ข้าง ๆ ผมรีบลุกลงจากเปล ไม่รู้ว่าทิวตื่นขึ้นมายืนดูผมตั้งแต่เมื่อไหร่ ทิวบอกว่า
"ไอ้สองคนมันเรียกไปกินข้าวกลางวันแล้ว" เราสองคนเดินไปยังศาลา โดยผมแวะเอาอาหารกระป๋องในรถ และชวนหัวหน้ากับผู้ช่วยไปด้วย แต่หัวหน้ากับผู้ช่วยบอกให้ผมไปเถอะ เขาสองคนไม่หิว ผมก็เลยไปร่วมวงกับทิวและพวกอีกสองคนบนศาลา กินไปคุยไปอย่างคนถูกคอกัน อาหารอีสานผมกินได้ทุกชนิดเลยไม่มีปัญหาอะไร ผมอาสาล้างถ้วยชามเองโดยมีทิวอาสาที่จะช่วย ผมก็ตกลง เสร็จแล้วก็เดินไปดูที่อาบน้ำ ทิวเดินตามผมตลอด ที่อาบน้ำอยู่ด้านหลังหอระฆังซึ่งอยู่ถัดจากศาลาออกไป เป็นสังกะสีล้อมรอบสูงแค่หน้าอก ภายในมีโอ่งน้ำตั้งเรียงกันอยู่เจ็ดแปดใบ แต่ไม่มีน้ำเลย ผมกับทิวจึงช่วยกันต่อสายยางเปิดน้ำใส่โอ่งจนเต็มหมด แล้วจึงกลับไปนอนคุยกันที่เปล คุยกันเหมือนเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน คุยกันเรื่องมวยที่จะชกกันตอนเย็น ก็เลยเกิดพนันกันขึ้น ทิวเชียร์คนไทย ผมก็เลยต้องเชียร์เกาหลีใต้ ใครแพ้พนันต้องเลี้ยงเหล้าคืนนี้ ผมเริ่มมองเห็นแล้วว่าหลังจากกินเหล้าแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ดูท่าทางทิวสนใจผมมาก จนเพื่อนเขาสองคนต้องแซว ส่วนผมนั้นไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว เรื่องอย่างนี้และยิ่งหุ่นแบบนี้ด้วย เสียวว๊อย
ได้เวลามวยมา หัวหน้าก็เอาเสื่อมาปูหน้าทีวีข้าง ๆ กับรถที่จอดอยู่ ผมกับทิวนั่งหลังสุด เขานั่งติดผมเลยเนื่องจากเสื่อที่ปูเหลือที่ไว้ให้พอดี หัวหน้ากับผู้ช่วยนั่งหน้า เพื่อนทิวสองคนนั่งถัดมา ผมกับทิวจึงอยู่สุดท้าย ดูไปลุ้นไป ผลสุดท้ายเกิดพลิกล็อค ทุกคนที่เชียร์พี่ไทยส่ายหัวกันหมด ชกไม่ได้เรื่องแพ้คะแนนในที่สุด ผมดีใจที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อเหล้า หันไปมองทิวเขากลับยิ้มรับ บอกผมว่า
"เตรียมตัวกินเหล้าได้ เดี๋ยวผมเลี้ยงตามสัญญา" แถมยักคิ้วให้ด้วยสิ แต่ว่าไม่มีใครเห็นเท่านั้น
เพื่อนทิวสองคนชวนพวกเราทุกคนไปกินข้าวเย็นในหมู่บ้านกัน เพราะผู้ใหญ่บ้านเข้าล้มวัวเลี้ยงทุกคน หัวหน้ากับผู้ช่วยบอกว่าตามสบายขอตัวก็แล้วกัน ทิวมองหน้าผม แล้วบอกเพื่อนเขาให้ไปก่อน สักครู่จะตามไปพร้อมกับผม หัวหน้าหันมาพยักหน้าให้ผมมากับทิว ผมเลยบอกว่าเดี๋ยวขออาบน้ำก่อนก็แล้วกัน เพื่อนของทิวเดินไปแล้ว ผมขอตัวไปอาบน้ำนุ่งผ้าเช็ดตัวพร้อมอุปกรณ์เดินไปที่อาบน้ำ ส่วนทิวเดินกลับไปศาลาที่พัก
ผมเข้าไปที่อาบน้ำ ปลดผ้าเช็ดตัวพาดไว้กับสังกะสี ได้ยินเสียงทิวบอกว่า
"ผมขออาบด้วยคน" ผมเลยบอกให้เขาเข้ามาอาบพร้อมกันก็ได้ ทิวนุ่งผ้าขาวม้าเดินเข้ามา แล้วถามผมว่า
"แก้ผ้าอาบน้ำได้ไหมเนี่ย" ผมถามว่า
"ทำไมต้องแก้ผ้าด้วยล่ะ" เขาบอกว่า
"เอากางเกงในมาตัวเดียว เดี๋ยวไม่มีนุ่ง" (เจตนาทิวอยากยั่วผมมากกว่า ความจริงนุ่งผ้าขาวม้าอาบก็ได้ ในเมื่ออยากโชว์ ผมก็จะตั้งใจดูเหมือนกัน) ผมเลยบอกเขาไปว่า
"ใครจะมาเห็น สังกะสีบังหมด เห็นแค่หน้าอกตามสบายเลย เดี๋ยวผมจะช่วยมองคนให้ก็แล้วกัน" พูดจบทิวก็ยิ้มแล้วหันมาปลดผ้าขาวม้าออก พาดกับสังกะสี เขาไม่ได้นุ่งกางเกงในมาจริง ๆ ด้วยอาวุธของเขายามหลับหนังยังหุ้มปลายอยู่มิด เป็นลำใหญ่ยาวห้อยหัวลง ส่วนโคนมีขนขึ้นอยู่รกทึบพอสมควร ผมมองดูด้วยอาบน้ำไปด้วย หน้าอกนูนแน่น หน้าท้องเป็นลอนกล้ามน่าสัมผัส เขาเองก็มองดูผมตลอดเวลาเหมือนกัน ถึงตอนถูสบู่เขารูดหนังหุ้มอาวุธลงมาแล้วเอาสบู่ล้างอย่างหมดจดโดยไม่อายผมเลย ผมก็ทำบ้าง แต่อาวุธของผมมันแข็งจนเป็นลำ ตุงอยู่ในกางเกงใน ทิวเห็นก็ยิ้ม ถามผมว่า
"มีอารมณ์หรือไง แข็งใหญ่แล้วไม่ทำให้มันสงบล่ะครับ" ผมตอบว่า
"ยังหรอกครับ เก็บเอาไว้ก่อนดีกว่า" แล้วจ้องหน้าเขายิ้ม ๆ ทิวไม่หลบตาผม กลับยิ้มตอบให้ผมอีก ผมเอาออกมาทำความสะอาดนอกกางเกงในให้เขาได้เห็น เขาถามผมว่า
"ทำไมทั้งใหญ่และยาวจังครับ ยิ่งกว่าของผมอีก" ผมยิ้มให้เขา มองดูอาวุธของทิวมันก็เริ่มแข็งขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน
ผมรีบอาบน้ำจนเสร็จ เราเดินกลับมาพร้อมกัน ผมแต่งตัวอยู่บนรถ หัวหน้าบอกว่าพรุ่งนี้อย่าเสียงานก็แล้วกัน ผมบอกสบายอยู่แล้วไม่ต้องห่วง อาจจะกลับมาดึกสักหน่อย ลงมาจากรถเห็นทิวยืนคอยอยู่แล้ว เขาใส่เสื้อยืดขาวรัดรูป นุ่งกางเกงลายพรางขายาว ใส่รองเท้าทหารเรียบร้อย ผมเองก็ยีนส์ตัวเก่ง เสื้อยืดขาวเหมือนกัน เดินออกจากวัดเข้าหมู่บ้าน ระหว่างทางเขาถามว่า
"หิวข้าวหรือเปล่า" ผมบอกว่า
"ไม่หิว แล้วก็ไม่อยากกินเนื้อวัวที่เขาล้มวันนี้ด้วย ผมกินไม่ลงหรอก"
"งั้นเดี๋ยวเราไปหาอย่างอื่นที่ร้านค้ากินกันดีกว่า" ทิวบอก
เราเดินผ่านเข้าหมู่บ้านมา เห็น ต.ช.ด. จะนั่งจับกลุ่มกันกินเหล้าตามบ้านของชาวบ้าน โดยมีพวกชาวบ้านร่วมด้วย เดินผ่านพวกเขาก็เรียกทุกบ้านนั่นแหละ ทิวบอกปฏิเสธตลอด ผมก็ยิ้ม ๆ จนถึงร้านค้าด้านหน้าโรงเรียน เจ้าของร้านเข้ามาถามว่าจะกินอะไรดี เขาต้อนรับและพูดจาดีมาก เพราะรู้ว่าพวกเรามาช่วยงานพรุ่งนี้ ทิวสั่งเหล้า ถามผมว่า
"หนึ่งกลมไหวไหม" ผมบอกว่า
"สบายมาก" สั่งเหล้าหนึ่งกลม ผมสั่งส้มตำกับเนื้อทอดพร้อมข้าวเหนียว ตอนนั้นเริ่มมืดแล้ว นั่งกินกันไปคุยกันไป คุยกับพี่เจ้าของร้านบ้าง ดูทีวีไปด้วย เจ้าของร้านบอกว่า
"ตามสบายนะครับ เต็มที่เลย ไม่ต้องเกรงใจ ขาดอะไรให้บอก" ทิวบอกขอบคุณเขา ยิ่งกินก็ยิ่งมึน หน้าก็เริ่มชา คุยกันแบบมีเลศนัยเหมือนต้องงการบอกอะไรสักอย่างแก่กันและกัน เวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่มเหล้าหมด ตอนนี้ทิวคงจะเมาไม่แพ้ผมเหมือนกัน มองหน้าผมยิ้ม ๆ ตลอดเวลา ทิวจ่ายเงินและบอกลาเจ้าของร้าน พอเดินออกมาเขาก็ปิดร้าน ชาวบ้านส่วนใหญ่ปิดไฟนอนกันหมดแล้ว ทิวบอกผมว่า
"ไปนั่งคุยกันในโรงเรียนหน่อยไหมเดี๋ยวค่อยกลับ" ผมยิ้มแล้วก็ตอบตกลง โรงเรียนคืนนี้เปิดไฟสว่างทั้งคืน เดินเข้าไปถึงใต้ถุนอาคารเรียน (เป็นอาคารสองชั้นแต่ชั้นล่างจะโล่งตลอดไม่มีห้องเรียน) ก็เจอกับผู้อำนวยการโรงเรียนซึ่งเป็น ต.ช.ด. เหมือนกับทิว เขารู้จักกันและจำผมได้ ถามทิวและผมว่า
"หัวหน้าไปไหน" ทิวบอกว่า
"กินเหล้าอยู่ด้วยกันกับพวกอยู่ในหมู่บ้าน" และพูดต่ออีกว่า
"ผมขออนุญาตนั่งตากลมที่นี่สักครู่ให้สร่างหน่อยจะกลับเข้าไปนอนในวัด" ผู้อำนวยการเลยบอกว่า
"ตามสบายเลยไม่ต้องเกรงใจหรอก จะนอนที่นี่เลยก็ได้ ยุงก็ไม่มี เดี๋ยวผมก็กลับเข้าบ้านเหมือนกัน ขึ้นไปนอนข้างบนก็ได้ มีโซฟาอยู่สองชุด พรุ่งนี้จึงจะยกลงมาตั้งต้อนรับผู้ว่าฯ ที่ข้างล่าง ห้องก็ไม่ได้ล็อก ตามสบายเลยน่ะ ผมไปล่ะ"
ยามนี้ไม่มีใครแล้วนอกจากผมกับทิว ทิวมองหน้าผมแล้วจ้องตายิ้ม บอกผมว่าเราขึ้นไปคุยกันข้างบนดีกว่า ผมยิ้มแล้วเดินตามเขาขึ้นบันไดโรงเรียนไปชั้นบน ข้างบนมีห้องอยู่หกห้อง มีอยู่ห้องเดียวที่ไม่ได้ล็อกไว้ เปิดประตูเข้าไป ผมบอกทิวให้ช่วยกันหาสวิชท์ไฟ สวิชท์ไฟอยู่ข้างประตู ทิวเปิดไฟจนสว่างแล้วก็ปิดประตู มีโซฟายาวรับแขกอยู่กลางห้องสองชุดและมีพวกแก้วน้ำ คลูเล่อร์น้ำ โต๊ะเล็ก ๆ อีกหกเจ็ดตัว ทิวเดินเข้ามาหาผมบอกว่า
"คืนนี้นอนที่นี่นะ เช้ามืดค่อยกลับพร้อมกัน" ผมตอบตกลงแล้วเดินไปเปิดหน้าต่างไว้ เช้าเริ่มสว่างจะได้เห็น กลัวว่าจะหลับเพลิน เดี๋ยวหัวหน้าจะว่าเอา ทิวบอกรับรองจะเป็นคนปลุกผมเองไม่ต้องกลัวว่าจะสาย
โซฟาตัวมันสั้นเวลานอนขามันเลยโซฟานอนลำบาก ผมบอกทิวว่า นอนบนพื้นห้องดีกว่า นอนสบาย พื้นก็สะอาด ทิวตกลงแล้วเดินไปปิดไฟ เราลงไปนอนกันอยู่ข้าง ๆ โซฟา ทิวนอนเข้ามาชิดผม ถามผมว่า
"รู้ไหม ทำไมผมจึงชวนคุณนอนที่นี่" ผมบอก
"รู้แล้ว" แสงไฟจากข้างนอกสอดเข้ามาทางช่องลมและหน้าต่างบ้าง ทำให้มองเห็นได้ชัดพอสมควร กลิ่นเหล้าโชยออกจากปากและจมูกของทิวมากระทบอยู่ข้างหูของผมท ผมขนลุกซู่ไปหมด ทิวนอนตะแครงเอามือมากอดผมไว้ ขาก็ก่ายอยู่ตรงกลางลำตัว จมูกคลอเคลียอยู่ข้าง ๆ หูผมตลอดเวลา
ติดตามต่อนะครับ เดี๋ยวมาต่อให้ครับ
รออ่านเลยครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากนะครับ{:5_130:} ขอบคุณครับ ขอบคุณคับ เวลานี้อารมณ์ของเราสองคนไปไกลจนกู่ไม่กลับซะแล้ว ผมสอดมือซ้ายไปลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่ที่เป้ากางเกงของเขา อาวุธเขาแข็งเป็นลำจนตุงกางเกงไปหมด ผมค่อย ๆ ปลดเข็มขัดและตะขอกางเกงของทิวออก แล้วรูดซิปลงจนสุด ใช้มือสอดเข้าไปลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่ภายนอกกางเกงในของเขา ทิวเริ่มปลดกางเกงของผมออกบ้าง แต่มันฟิตถอดลำบาก ผมจึงลุกขึ้นถอดออกไปทางปลายเท้า และถอดเสื้อออก ทิวก็เช่นกัน
ทิวขึ้นมานอนทับอยู่บนตัวผม ร่างกายทุกส่วนสัมผัสเสียดสีกันจนอาวุธแข็งไปหมด ด้วยความเสียวปากประกบอยู่กับปากผม เราแลกลิ้นกันอยู่นาน ทิวใช้ลิ้นได้เก่งมากจนผมเสียวไปหมด รวมทั้งกลิ่นเหล้ายิ่งทำให้เสียวเพิ่มขึ้นไปอีก เขาไซ้ผมไปทั่วตั้งแต่หน้าอก นมทั้งสองข้างและลงไปเรื่อยจนถึงท้อง ต้นขาผมเสียวจนต้องดิ้นและครางออกมา ดูทิวจะชอบมากที่ทำให้ผมเสียวจนต้องครางออกมา ยิ่งส่งเสียงครางก็ยิ่งทำหนักขึ้น จนเสียวไปหมดทั้งตัว
ทิวดึงกางเกงในของผมออกไป อาวุธผมซึ่งแข็งเป็นลำอยู่แล้วจึงตั้งขึ้น ทิวใช้มือรูดมันขึ้นลงเบา ๆ แล้วก้มลงไปใช้ลิ้นที่ส่วนหัวและรอบคอหยัก แล้วดูดเบา ๆ ผมเสียวจนต้องแอ่นสะโพกกดหัวเขาให้รีบ ๆ ครอบปากลงไปเร็ว ๆ เขาครอบลงไปแต่ก็ไม่มิด ใช้มือกำส่วนโคน แล้วรูดขึ้นลงไปด้วยตามจังหวะการขยับของปาก ผมครางออกมาด้วยความเสียว เสียงดัง
"โอ...ซี้ด...ซี้ด...โอ...โอว แรง ๆ เลย ทิวอมให้มิดเลย" ผมเริ่มครางหนักขึ้น ทิวคงกลัวว่าผมจะเสร็จก่อนเขา จึงกลับหัวเอาส่วนของเขาขึ้นมาหาผม จนอาวุธของทิวมาจ่ออยู่ตรงหน้า ผมรีบครอบปากลงไปทันที มือก็ลูบคลำอยู่กับไข่ของเขา จนทิวต้องถอนปากออกจากอาวุธผมแล้วครางตลอดเวลา เราต่างก็ช่วยกันขยับปากรูดขึ้นลง จนผมกับทิวต่างก็ต้องเกร็งออกแรงดูดใช้ลิ้นเลียส่วนหัวไปด้วย
ผมเสียวสุด ๆ จนต้องกระตุกปล่อยน้ำเข้าปากทิว ทิวทั้งดูดทั้งเลียกลืนกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ผมเร่งจังหวะปากตัวเองรูดขึ้นลงใช้ลิ้นวนไปรอบ ๆ ส่วนหัว ทิวเสียวจนเกร็งแล้วกระตุกปล่อยน้ำรักเข้าไปในปากผมมากมายเช่นกัน เขากลับตัวขึ้นมาประกบปากผม แลกลิ้นกันอย่างเมามันส์กว่าจะแยกออกจากกัน โดยทิวลงไปนอนตะแครงกอดและก่ายผมอยู่ข้าง ๆ ผมถามทิวว่า
"มันส์ไหม" ทิวบอก
"มันส์มาก" และขอข้างหลังผมต่อได้ไหม ผมตอบตกลงพร้อมกับใช้มือจับอาวุธของกันและกันรูดขึ้นลงเบา ๆ จนมันแข็งสู้มือขึ้นมาทั้งคู่ ทิวแทรกตัวเข้ามานั่งอยู่หว่างขาของผม และจับขาผมให้ชันเข่าขึ้น แล้วสอดขาสองข้างลอดใต้ขาผมไปโอบสะโพกทั้งสองข้างของผมเอาไว้ จับอาวุธของเขามาจ่อกับร่องก้นของผม โดยผมต้องยกก้นตัวเองให้สูงขึ้นเล็กน้อย ทิวใช้น้ำลายทาจนทั่วอาวุธจนลื่นไปหมด และยังทาที่ประตูหลังของผมจนชุ่ม ทิวใช้มือยกก้นของผมให้สูงขึ้นจนเหนืออาวุธของเขา แล้วค่อย ๆ ดันอาวุธพร้อมกับกดก้นผมลงมาหาอาวุธเขาเบา ๆ เมื่อส่วนหัวเริ่มผ่านเข้าไปในก้นของผม ผมต้องหยุดบอกทิวว่าเจ็บ ทิวบอกไม่ให้เกร็ง ผมต้องผ่อนลมหายใจ แล้วค่อย ๆ กดก้นลงไปใหม่ จนอาวุธของทิวเข้าไปจนมิด
ผมรู้สึกคับแน่นไปหมด ทิวครางออกมาเบา ๆ และดึงตัวผมให้ลุกขึ้นนั่ง ก็เลยกลายเป็นว่าผมนั่งทับอยู่บนส่วนตักหน้าขาของทิว ทิวกอดและไซ้ผมที่หน้าอก สะโพกก็เริ่มขยับเข้าออกไปกับพื้นห้อง ผมเสียวจนต้องครางออกมา เราต่างก็กอดกันแน่นเมื่อทิวขยับก้นเข้าออกเร็วขึ้น ปากก็คราง
"เสียว...ซี้ด...โอว...โอว...ซี้ด" ทิวเอนหลังลงนอนลงไปกับพื้นห้อง ทำให้ผมต้องอยู่ในท่านั่งทับอาวุธส่วนกลางของทิวอยู่ ทิวเอามือมารูดอาวุธผมเข้าออก ผมรู้หน้าที่ก็เลยขยับสะโพกขึ้น ๆ ลง ๆ โดยยกก้นขึ้นเกือบสุดแล้วกดลงมาแรง ๆ ผมทั้งเสียวทั้งมันส์ ทิวก็คงเหมือนกัน ยกสะโพกสวนการกระแทกของผมอย่างเมามันส์ เราต่างก็ครางแข่งกันดังไปทั่วห้อง ผมขยับแรงและเร็วขึ้น
ทิวบอกว่าเขาจะเสร็จแล้ว มือปล่อยจากอาวุธของผม จับสะโพกผมไว้แน่น ผมกระแทกเร็วขึ้น ทิวครางส่ายหน้าไปมา แล้วร้องออกมา
"ซี้ด...โอว...โอว...โอ๊ย...แตกแล้ว" ทิวเกร็งและกระตุกปล่อยน้ำเข้าไปในตัวผมมากมาย ผมจับอาวุธตัวเองรูดขึ้นลงอย่างแรงและเร็ว ถอดอาวุธของทิวออกจากประตูหลังของผม แล้วขยับขึ้นไปอยู่บนหน้าอกของทิว ผมบอกทิวว่า
"เสียว...ซี้ด ช่วยผมหน่อย จะออกแล้ว" ทิวอ้าปากครอบอาวุธผมไว้ ผมก็เลยซอยเข้า ๆ ออก ๆ อย่างเร็วจนกระตุกปล่อยน้ำ ทิวดูดกินจนหมด ผมกับทิวนอนกอดกันแน่นจนหายเหนื่อย ทิวลุกไปหยิบกระดาษทิชชู่บนโต๊ะ มาเช็ดทำความสะอาดจนหมดทั้งสองคน แล้วก็นอนกอดกันหลับไปโดยที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้ากันเลย น่าอิจฉาจัง ขอบคุณ 555...กำลังจะ..แล้วเชียว มาต่อไวๆเลยอิอิ โชคดีเหลือเกิน {:5_136:}ขอบคุณครับ{:5_119:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ร้อนแรงมาก ขอบคุณครับ เสียวเลยครับ