meng2533 โพสต์ 2018-9-2 14:20:27

ซวยฉิบหาย...ได้ไอ้หมอนี่เป็นแฟน ตอนที่ 2

เปิดภาคเรียนใหม่ผมอยู่ปีสามแล้วครับ ผมมีแฟนแล้วด้วยเธอชื่อพราวครับ เรียนอยู่คนละคณะกันแต่เวลากินข้าวหรือไป

ไหนผมก็มักจะต้องไปกับพราวแต่ผมก็ทิ้งทีไม่ได้ ถึงเราจะมีกลุ่มเพื่อนแต่ผมก็ไม่อยากปล่อยให้ทีต้องลำบากใจผมเลยเลือกที่จะ

ชวนทีไปด้วย แม้กระทั่งจะไปดูหนังแรกพราวก็ไม่รุ้สึกอะไรจนผ่านมาได้สักเดือนเราเริ่มมีปากเสียงกัน


         “นี่นัท ศุกร์นี้เราไปดูหนังกันนะค่ะ เดี๊ยวพราวจะจองตั๋วไว้ให้”


         “ครับ”


         ช่วงที่ผมตอบรับไปไหนช่วงนั้นผมติดควิชพรุ่งนี้เกือบทั้งวันเลยก็ว่าได้ เพราะช่วงเปิดเทอมใหม่อาจารย์มักจะขอ

ควิชก่อนเรียนเสมอหรือบางวิชาก็สอนเสร็จควิชเลยก็มี
      
         
            เวลานัดก็มาถึง ผมมากับทีเรานัดกับพราวไว้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ดูจากสีหน้าพราวไม่ค่อยชอบใจที่ผมพ่วงเพื่อนคนนี้

ของผมด้วย


         “ไหนเราตกลงกันแล้วไงค่ะ ว่าเราจะมาดูหนังกันแค่สองคน”ผกับทีเพิ่งได้นั่งกันได้ไม่นานอยู่ๆพราวก็เปิดศึกขึ้นมา


          “ใครไปตกลงกับคุณกันพราว มีแต่คุณที่ตกลงเอาเองนะ”


          “ก็พราวเบื่อนี่ค่ะ ตลอดเวลาที่เราคบกัน ทีก็มักจะหิ้วเพื่อนทีมาด้วย”


         “ผมบอกคุณไปแล้วนะพราวว่าเพราะอะไรผมถึงพาทีมาด้วย”


      “เพราะทีคือเพื่อนสนิทคุณ พราวฟังจนเบื่อแล้วค่ะ แต่พราวไม่เข้าใจว่าเพื่อนในคณะคนอื่นทีเขาไม่คบใครเลยหรือไง”


       “พอเถอะพราว ถ้ามาแล้วจะทะเลาะกันก็อย่ามาเที่ยวด้วยกันอีกเลย แล้วนี่ค่าข้าวมื้อนี้นะ ไอ้ทีกลับ”


      ผมไม่สนใจแล้วว่าเข้าจะรู้สึกยังไง และความสัมพันธ์ของเราจะจบลงเลยหรือเปล่า ทุนเดิมผมไม่ชอบผู้หญิงจุกจิกขี้

โวยวาย เราทะเลาะกันบ่อยมากเรื่องนี้จนบางทีผมก็เบื่อ ผมยังรู้มาด้วยอีกว่าทีโดนคนลอบทำร้ายหลายครั้ง บางครั้งก็โดน

จดหมายเขียนมาขู่ให้เลิกคบกับผมเป็นเพื่อนก็มีผมรู้ว่าทุกอย่างเป็นแผนของพราวทั้งนั้น


         “ฮัลโหลไอ้นัทมึงทำอะไรอยู่ว่ะ วันนี้ทำไมไม่มาเรียนมึงรู้ไหมไอ้ทีโดนแฟนมึงเข้ามารุมทำร้าย ตอนนี้กูพามันมาโรงบาล

แล้วมึงรีบมาแล้วกันนะ”


         ผมวางสายจากไอ้ยักษ์ ผมไม่คิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะมีนิสัยที่โหดร้ายแบบนี้ วันนี้ผมป่วยเลยลาหยุดไม่คิดเลยว่าเพื่อนที่

ผมสนิทที่สุดจะถูกทำร้ายเพราะผมเป็นต้นเหตุแท้ๆ


         “เฮ้ยไอ้ยักษ์ ทีเป็นไงบ้างมึง”


         “หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมากมึง”


         “มึงเล่ากูฟังสิ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมันน่ะ”


      “กูมาไม่ทันเหตุการณ์ทั้งหมดนะ กูมาถึงเจอเพื่อนพราวล็อคตัวไอ้ทีไว้คนละข้างแล้วพราวก็ตบไอ้ทีจนสลบ พอกูไปถึงพวก

นั้นกำลังจะหนี กูเลยให้ผู้หญิงในคณะเราจัดการสภาพกูพูดได้เลยว่าเละว่ะ”


       “ขอบใจมึงมากนะยักษ์ที่ปกป้องมันแทนกู”


       “ไม่เป็นไรเว้ยเพื่อนกัน”


       หลังจากที่ทีตื่นมาผมก็ถามถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ทีก็คงยังเป็นทีเสมอไม่ยอมพุดว่าตัวเองต้องเจออะไรบ้าง

      
      จนผมทนไม่ไหวหลังจากนั้นสองวันผมโทรหาพราวให้เครียปัญหาทั้งหมด


       “นั่งลงก่อนสิพราว”


      “นัทเรียกพราวมามีอะไรหรอ หรือไอ้ตุ๊ดนั้นไปฟ้องอะไรนัท มันปากดีกับพราวก่อนนะ”


       “คนอื่นไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก ในเมื่อมันเกิดจากเราก็จะจบจากเรา”


       “นัทพูดแบบนี้หมายความว่าไง”


       “ก็พูดตามที่บอกไง ในเมื่อพราวไม่เชื่อใจเราก้เลิกกันเถอะเราะเหนื่อยเต็มทนแล้ว ”


       “ทำไมนัทพูดแบบนี้หล่ะ นัทไม่ได้รักพราวแล้วหรอ เป็นเพราะมันใช่ไหมนัทถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้”


       “ไม่ใช่เพราะใครทั้งนั้นหล่ะ เพราะพราวเป็นแบบนี้ไง”


      “ไม่จริงอ่ะ เพราะมันใช่ไหมนัท นัทถึงเลิกกับพราว พราวจะไปจัดการมัน”


      “หยุดซะทีเถอะพราว เป็นเพราะตัวพราวเองนะที่เลือกแบบนี้เอง อยากคิดว่าเราไม่รู้ถึงเรื่องจดหมายขู่พวกนั้นนะ”


         “มันเอามาฟ้องนัทหรอ เดี๊ยวพราวจะส่งไปจัดการมันอีก แค่นี้มันยังน้อยไป”


         “หยุดได้แล้วพราว”


          “พราวไม่หยุด มันทำให้ความรักของเราพังพราวจะไปจัดการมัน”


          “ก็ดีถ้าพราวไม่หยุดอย่าหาว่านัทไม่เตือนนะ อย่าลืมนะว่าพ่อของพราวทำงานให้กับใครอยู่ถ้าไม่อยากให้พ่อตกงานแล้ว

การเป็นอยู่แย่ลงหล่ะก็อยู่เฉยๆดีกว่านะ เพราะถ้าพราวยังไม่หยุดคราวนี้หล่ะเรามาดูกันว่าใครจะพินาศไปมากกว่ากันเราเตือน

พราวแล้วนะ”

         ผมไม่รอให้ผู้หญิงคนนี้พูดอะไรต่อผมเลือกที่จะเดินออกมาแบบไม่แยแสอะไรอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อคุณกล้าทำร้ายเพื่อน

ของผมได้คุณก็ต้องโดนดีถ้าหยุดไม่หยุดตั้งแต่ตอนนี้


         และหลังจากนั้นเรียกได้ว่าพราวไม่เคยเข้ามาเฉียดผมกับทีอีกเลย เพราะพราวรู้ดีว่าผมเป็นคนยังไงผมกล้าชนกับปัญหา

เสมอ ถ้าคุณเล่นสกปรกมาก่อนผมก็ไม่ไว้หน้าเช่นกัน


   เราใช้ชีวิตในมหาลัยจนถึงวันสุดท้ายของการเปิดภาคเรียน ผมมารู้ทีนั้นต้องกลับไปอยู่กรุงเทพ เพราะครอบครัวทีมีธุรกิจ

อยู่ที่กรุงเทพฯ ผมยังจำที่ทีเล่าให้ผมฟังได้เลยว่า ทีมีพี่ชายคนนึงแต่พี่ชายของทีติดแฟนมากจนแม้กระทั่งยอมทะเลาะกับคนใน

ครอบครัว ไม่ยอมกับมาสานต่อธุรกิจของครอบครัวแต่เลือกที่จะไปทานเป็นลูกจ้างบริษัทอื่นแทน ทำให้พ่อของทีโกรธมากจนตัด

ความเป็นพ่อเป็นลูกกันเลยทีเดียว


   จนวันรับปริญญาจบลง วันนั้นเลยเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้เจอหน้าเพื่อนสนิทของผมคนนี้ ผมไปส่งมันที่สนามบินเรายืน

กอดกันล่ำลาจนเพื่อนๆคนอื่นพูดว่า ไอ้ทีมันแค่กลับบ้านที่กรุงเทพคิดถึงก็นั่งเครื่องลงไปหามันสิ ทำอย่างกับมันจะหายไปอยู่ดาว

อังคารอย่างนั้นหล่ะ




................................................TCB


minone โพสต์ 2018-9-2 15:09:26

ขอบคุณ​มาก​{:5_130:}

kookkoo โพสต์ 2018-9-2 15:22:37

ขอบคุณครับ

thaiboy2012 โพสต์ 2018-9-2 15:32:09

ขอบคุณครับ

princo78 โพสต์ 2018-9-2 17:41:12


ขอบคุณครับ

prakanboy โพสต์ 2018-9-2 17:54:54

ใครนะพูดแบบนั้น

boszazab โพสต์ 2018-9-2 18:33:42

ขอบคุณนะครับ

net132526 โพสต์ 2018-9-2 20:06:49

ขอบคุณครับ

derm โพสต์ 2018-9-2 20:39:19

น่าสนุกต่อๆๆๆ

nuangnut1996 โพสต์ 2018-9-2 21:06:54

ขอบคุณครับ

freezz โพสต์ 2018-9-3 07:48:29

หวานจัง นัท ที ^_^

klans_821 โพสต์ 2018-9-4 00:04:13

ขอบคุณครับ

noonzaa โพสต์ 2018-9-4 23:29:48

ขอบคุณครับ

sengjit โพสต์ 2018-9-5 01:15:59


ขอบคุณครับ

jumboa โพสต์ 2018-9-5 03:04:55

ขอบคุณ​ครับ.

Intra โพสต์ 2018-9-5 06:02:46

ร้ายจริงๆ ว่าแต่ทำไมถึงจะเจอกับทีเป็นวันสุดท้าย

Pptum โพสต์ 2018-9-5 10:47:46

ขอบคุณครับ

tidchoo2 โพสต์ 2018-9-5 16:32:41

สนุก และมันดีครับ ขอบคุณนะ

tong111222 โพสต์ 2018-9-5 19:59:13

ขอบคุนครับ

YutthanaP1980 โพสต์ 2018-9-12 12:07:27

ขอบคุณครับ
หน้า: [1] 2 3
ดูในรูปแบบกติ: ซวยฉิบหาย...ได้ไอ้หมอนี่เป็นแฟน ตอนที่ 2