จากอดีตสู่ปัจจุบัน ตอน 8 ดราม่า...ไม่มีเซ็กซ์ แต่ถ้าอยากติดตามชีวิตผม กดอ่านเลยครับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย changchusri เมื่อ 2019-3-6 13:12ชีวิตดำเนินมาเรื่อยจนผมเรียนอยู่ประมาณชั้นปี 3เพื่อนฝูงก็สนิทกันมากขึ้นเพราะแยกวิชาเอกแล้วเหลือเพื่อนเรียนวิชาเอกเหมือนกันไม่ถึง 40 คนอย่างที่เคยเล่าไปแล้วว่านอกจากเพื่อนต่อ, น้องหนุ่ม, และพี่จอห์นแล้วผมก็ไม่เคยข้องแวะเรื่องเซ็กซ์กับใครและเป็นประสบการณ์เรื่องเซ็กซ์ที่นานมากกว่าผมจะได้มีอะไรกับใครสักครั้งหนึ่งความลับในจิตใจของผมจึงยังไม่มีใครล่วงรู้ได้
ระหว่างที่เรียนในมหาวิทยาลัยชีวิตเริ่มมีอิสระมากขึ้นอยากไปเที่ยวต่างจังหวัดไกล ๆ ก็สามารถทำได้โดยที่พ่อแม่ไม่ห่วงเพราะถือว่าผมรับผิดชอบตัวเองได้แล้วทุกครั้งที่ปิดเทอมผมและเพื่อนกลุ่มเล็ก ๆ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายรวมกันประมาณ 5-6 คนมักจะไปเที่ยวด้วยกันเสมอมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เพื่อนของผมได้พาน้องรูมเมทมาเที่ยวด้วยกันเราเดินทางแบบสะพายเป้แบกเต้นท์ไปเที่ยวด้วยกันครับเพราะแต่ก่อนก็ไม่ได้มีรีสอร์ทหรู ๆ เอาไว้รับรองนักท่องเที่ยวเหมือนในสมัยนี้จะมีบ้างก็เป็นบ้านพักเก่า ๆ ที่มีแต่พัดลมครั้งนี้ก็เช่นกันพวกเรานั่งรถโดยสารหลายต่อเพื่อไปเที่ยวที่วังตะไคร้ จ.นครนายก (โคตรเก่าเลยใช่ไหมล่ะครับ555+ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นสำหรับบางท่านเพราะเป็นที่ท่องเที่ยวสุดหรูในอดีตแต่ปัจจุบันเก่ามาก)สวนดอกไม้และไม้นานาพรรณของที่วังตะไคร้แห่งนี้สวยงามมากที่สุดในช่วง พ.ศ.นั้นจะหาที่อื่นมาสู้ได้ก็ไม่มีครับ
กว่าพวกเราจะถึงจังหวัดนครนายกก็เป็นเวลาเลิกโรงเรียนของเด็ก ๆ พอดีเรายังต้องนั่งรถบัสส้มที่วิ่งระหว่างอำเภอเพื่อให้ไปถึงที่หมายมีเด็กน้อยผู้ชายชั้นประถมหลายคนที่น่ารักอยู่เหมือนกันก็เป็นเด็กบ้าน ๆ สมัยก่อนที่ต้องเดินทางมาเรียนในตัวเมืองน่ะครับน้อง ๆ เขาพูดคุยกับพวกเราก็สนุกและเพลินดีเหมือนกันแอบมีมองเด็ก ๆ นั่งเป้านักเรียนตุงในบางครั้งอยู่เหมือนกัน555+แต่ไม่มีใครรู้หรอกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพวกเราก็เดินทางมาถึงที่วังตะไคร้พวกเราขอเช่าบ้านพักเก่า ๆ หลังหนึ่งที่ถูกที่สุดเอาไว้ใช้เป็นที่อาบน้ำอาบท่าและตั้งใจให้เพื่อนผู้หญิงนอนในนั้นแต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนสนิทกันมากเพื่อนผู้หญิงไม่ถือตัวแต่อย่างใดและยินยอมให้ผู้ชายเข้าไปนอนด้วยได้ครับแต่เนื่องจากครั้งนี้ไปกันทั้งหมดตั้ง 7 คนจะนอนในนั้นทั้งหมดคงจะอึดอัดแย่ผมจึงขอกางเต้นท์นอนที่ข้าง ๆ บ้านพักดีกว่าในตอนนั้นไม่เห็นมีใครบอกว่าจะออกมานอนกับผมสักคน
เวลาผ่านไปจนค่ำก็มีกิจกรรมก่อกองไฟเล็ก ๆ เพื่อปิ้งย่างไก่และเนื้อ, ดีดกีต้าร์, ร้องเพลงสนุกสนานกันไปตามภาษาวัยรุ่นอยู่เล่นกันจนดึกมากประมาณห้าทุ่มได้ครับไม่ต้องเกรงใจใครเพราะวันที่พวกเราไปเป็นวันธรรมดาไม่มีใครมาพักด้วยเลยสักคนลานหญ้ากว้างทั้งลานเป็นของพวกเราแค่กลุ่มเดียวครับเดินทางมาทั้งวันก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้วจึงช่วยกันดับกองไฟแล้วไปนอนพักเอาแรงเพื่อเที่ยวต่อในวันพรุ่งนี้จะดีกว่าแต่ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปนอนนี่สิครับน้องรูมเมทของเพื่อนผมเผยพูดเรื่อง ๆ หนึ่งขึ้นมา(ลืมแนะนำไปเลยว่าน้องชื่อ "อ๋อ"ส่วนเพื่อนผู้ชายของผมที่เป็นรูมเมทกับน้องเขาชื่อ "เด" ครับ)น้องอ๋อเผยพูดเรื่องที่ลุงยามที่เฝ้าอยู่หน้าทางเข้าวังตะไคร้เขาเล่าให้ฟังเรื่องความเหี้ยนของผีที่นี่ครับใครเป็นคนรุ่นเก่าหน่อยคงจะเคยได้ยินข่าวน้ำป่าไหลหลากและพัดพานักท่องเที่ยวตายเป็นจำนวนมากมาก่อนขนลุกเลยสิครับมิน่าล่ะเพื่อน ๆ ถึงนอนในบ้านพักกันหมดปล่อยให้ผมนอนในเต้นท์เพียงคนเดียวที่แท้ผมก็รู้เรื่องนี้เป็นคนสุดท้ายนี่เองอารมณ์ตอนนั้น... ผมโคตรรักเพื่อนเลยนะครับ555+
แต่มีหรือที่ผมจะกลัวใจเต้นตุ๊บ ๆ แต่ทำเป็นกล้าไปงั้นแหละสร้อยพระคล้องคออยู่ทั้งองค์มีหรือจะกลัวผีผมยังคงยืนยันว่าจะนอนในเต้นท์เพียงลำพังไอ้เพื่อนก็ไม่สนใจไม่มีชวนกันเข้าไปนอนในบ้านพักสักคนจำได้ว่าคืนนั้นลมพัดแรงมากในใจนี่คิดว่าเหมือนพายุเฮอริเคนพัดแรงจนเต้นท์สั่นไหวไปมาจนเหมือนจะหลุดลอยไปในอากาศจินตนาการยอดเยี่ยมเลยเสียงผ้าเต้นท์ตีกันดังพรึบพรับโคตรน่ากลัวแถมยังมีเสียงนกอะไรร้องก็ไม่รู้คงจะเป็นนกเค้าแมวน่ะครับย้ำอีกครั้งว่าโคตรน่ากลัวเลยครับแล้วอยู่ ๆ มีมีเสียงรูดซิบอย่างช้า ๆ ที่ประตูของเต้นท์ผมหลับตาปี๋เลยครับมือนี่กำพระที่คอเอาไว้มั่นสวดมนต์พุธโธธัมโมสังโฆแบบผิด ๆ ถูก ๆ เลยครับ
จู ๆ ก็มีร่างของใครคนหนึ่งมานอนอยู่ข้าง ๆ ผมพยายามหรี่ตามองแต่มันมืดมากจนมองอะไรไม่เห็นสุดท้ายก็ได้ยินเสียงผู้ชายพูดว่า "ผมนอนด้วยคนนะพี่"ถึงเวลานี้ถอนหายใจอย่างโล่งออกเลยครับกลายเป็นน้องอ๋อนี่เองที่ใจดีอุตส่าห์มานอนเป็นเพื่อนแต่จะให้ดีกว่านี้น้องอ๋อน่าจะเอ่ยปากบอกตอนก่อนจะเข้ามานอนในเต้นท์บ้างก็ได้นะครับผมนี่กลัวจนฉี่เล็ดเลยทีเดียวเมื่อมีผู้ชายมานอนอยู่ข้าง ๆ ความรู้สึกด้านมืดกลับมาอีกแล้วจากความกลัวผีกลายเป็นความหื่นกระหายอารมณ์พุ่งพานเลยสิครับทำไมน้องถึงเข้ามาขอนอนกับผมคิดเข้าข้างตัวเองอีกแหละขอทดสอบเอื้อมมือไปลูบขาหน่อยก็แล้วกันน้องอ๋อยังคงนอนหงายนิ่งไม่ไหวติงไม่รู้ว่าแกล้งหลับหรือว่าหลับจริงลูบวนขึ้นมาอีกหน่อยเหมือนทุกครั้งที่เคยทำกับผู้ชายคนอื่นมาก่อนจนมาโดนจู๋ที่ยังอ่อนตัวอยู่บีบ ๆ ดูรู้สึกนุ่มนิ่มได้ใจมากครับสักพักจู๋ก็เริ่มพองโตขึ้นพร้อมกับการนอนตะแคงหันข้างหนีผมไปอีกข้างหนึ่งครับนี่ผมเข้าใจผิดเต็ม ๆ เลยครับน้องอ๋อเขาตั้งใจมานอนเป็นเพื่อนผมจริง ๆไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่นแอบแฝงเลยทั้งคืนนั้นทำให้ผมนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะคิดมาก
และแล้วค่ำคืนนั้นก็ผ่านไปยังไม่มีแสงแดดส่องในยามเช้าผมก็ลุกขึ้นมาเดินคิดอะไรต่อมิอะไรอยู่ในวังตะไคร้แล้วนี่เราเผลอใจทำอะไรไปน้องอ๋อจะไปเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังไหมผมคิดมากทั้งวันจนเหมือนฟุ้งซ่านเพื่อนไปเล่นน้ำตกกันผมก็หนีไปนอนพักในมุมเงียบ ๆ ส่วนตัวมันคงเป็นเรื่องผิดสังเกตสำหรับเด...เพื่อนสนิทของผมพวกเราอยู่ที่วังตะไคร้จนเกือบเที่ยงจึงออกเดินทางต่อมายังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตั้งใจว่าจะไปชมน้ำตกเหวนรกและกางเต้นท์นอนบนนั้นอีกสักคืนก่อนเดินทางกลับบ้านกันวันนั้นทั้งวันผมแกล้งฝืนทำตัวให้รู้สึกว่าสนุกแต่มันไม่ใช่เลยจริง ๆ ครับ
คืนนี้บนเขาใหญ่พวกเรากางเต้นท์ 4 หลังให้เพื่อนผู้หญิงนอน 2 หลังเพื่อนผู้ชายอีกคนหนึ่งนอนอีก 1 หลังส่วนผม, เด, และน้องอ๋อนอนอยู่เต้นท์เดียวกันน้องอ๋อเลือกนอนที่ริมข้างหนึ่งของเต้นท์คงไม่กล้านอนติดกับผมล่ะมั้งผมเลยเลือกนอนชิดริมอีกข้างหนึ่งของเต้นท์ปล่อยให้เดนอนตรงกลางไปคืนนั้นทั้งคืนก็คงเหมือนเดิมผมนอนคิดเรื่องเมื่อคืนที่ผมทำกับน้องอ๋อผมเสียใจจริง ๆ ผมไม่น่าเผลอใจทำแบบนั้นเลยผมนอนคิดมากจนเผลอหลับไปเช้าขึ้นมาผมก็รีบลุกและเดินหนีออกจากเต้นท์มาก่อนใครคราบน้ำตาเล็ก ๆ บนใบหน้าทำให้ผมต้องรีบมาล้างหน้าล้างตาไม่นานเดก็เดินตามผมมาและเอ่ยถามว่า "เป็นอะไรหรือเปล่า ?"จังหวะนั้นผมน้ำตาคลอเบ้าเลยครับนี่เดสังเกตเห็นความผิดปกติของผมด้วยหรือผมไม่กล้าแม้แต่จะหันหน้าไปพูดคุยกับเดน้ำตาเริ่มไหลเอ่อออกมา
"ถ้าเป็นเรื่องเมื่อคืนก่อนอ๋อเล่าให้เราฟังแล้วนะ"เดพูดต่อแบบไม่หันมามองผมเช่นกันเดคงกลัวว่าผมจะอายถึงตอนนั้นผมปล่อยโฮเลยครับความแตกจริง ๆ ด้วยแล้วจะทำไงเพื่อนจะรู้สึกอย่างไรกับการที่ผมเป็นเกย์
"ไม่ต้องกลัวหรอกมันเป็นเรื่องธรรมชาติจะเป็นอย่างไรเราก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม"เดพูดออกมาแบบคงคิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้วที่สุดของการเป็นเพื่อนรักกันจริง ๆต้องขอบคุณเพื่อนคนนี้เป็นอย่างมากเป็นครั้งแรกที่ผมไม่ต้องทนอึดอัดใจสามารถระบายความรู้สึกให้ใครคนหนึ่งที่เขายินยอมรับฟังเรามันเป็นความรู้สึกที่วิเศษมากแต่นอกจากเดและน้องอ๋อแล้วยังมีเพื่อนผู้ชายที่สนิทกันอีกคนคนที่ไปเที่ยวด้วยกันในครั้งนี้คนที่ได้นอนในเต้นท์อีกเต้นท์หนึ่งเพียงคนเดียวน่ะครับเขาก็ได้รับรู้เรื่องราวว่าผมเป็นเกย์ด้วยอีกคนหนึ่งเพราะเดได้ไปปรึกษากับเขาล่วงหน้ามาแล้วว่าจะพูดคุยกับผมอย่างไรดีส่วนเพื่อนผู้หญิงยังไม่มีใครได้ล่วงรู้เรื่องของผมยังคงเป็นความลับรู้กันในวงแคบแค่เพื่อนผู้ชายที่ไปเที่ยวกันในครั้งนี้เท่านั้น
มิตรภาพของการเป็นเพื่อนไม่ได้ถูกฉีกขาดสะบัดเหมือนเมื่อครั้งเพื่อนน้ำปฏิเสธความสัมพันธ์กับผมผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่เพื่อนทั้งสองและน้องอ๋อช่วยรักษาความลับของผมเอาไว้และพวกเขายังคงปฏิบัติต่อผมเหมือนผมเป็นคนเดิมตลอดไม่มีเผลอหลุดที่จะให้ใครล่วงรู้เรื่องนี้ได้เลยน้องอ๋อก็ยังให้ความเคารพนับถือในความที่ผมเป็นรุ่นพี่เหมือนเดิมไม่เคยเดินหนีเวลาเจอหน้ากันและน้องอ๋อยังคงพูดคุยทักทายกับผมตามปกติครับและยังมีอีกหลายครั้งที่น้องอ๋อได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับพวกผมน้องอ๋อมักจะมานั่งคู่กันกับผมบนรถทัวร์ชอบอาศัยไหล่ของผมเป็นที่พิงหัวหลับและพักตานอนซึ่งถึง ณ เวลานั้นผมก็ทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากคิดว่าผมต้องเป็นพี่ชายที่แสนดีของน้องอ๋อผมขอบคุณพวกเขาทุกคนจริง ๆ ครับและนี่ก็เป็นเรื่องดราม่าที่ไม่อยากล่ะทิ้งไปอยากให้ทุกคนได้อ่านเพื่อเข้าใจความรู้สึกของผมในตอนนั้นครับแล้วใครอยากเล่าเรื่องราวชีวิตของคุณให้ผมได้รู้บ้างผมก็ยินดีนะครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ. {:5_136:}ขอบคุนครับ{:5_119:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ข อ บ คุ ณ ค รั บ ขอบคุณครับ ชอบมากขอบคุนครับบ ชอบมากขอบคุนครับบ tonclub ตอบกลับเมื่อ 2019-1-2 05:07
ชอบมากขอบคุนครับบ
ยินดีที่มีเพื่อน ๆ มาอ่านโพสต์ที่ไม่ค่อยมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์ครับผมคิดว่าทุกเรื่องมีความเกี่ยวเนื่องกันจะตัดทิ้งก็คงไม่ดีครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณ nothinghappen ตอบกลับเมื่อ 2020-5-7 05:05
ขอบคุณ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านครับปกติเนื้อเรื่องที่ไม่มีเซ็กส์มีแต่คนมองข้าม เสียวอะไรแบบนี้ ต้องมาต่อนะครับ เสียวอะไรแบบนี้ ต้องมาต่อนะครับ
หน้า:
[1]
2