New Recorded พ่อ(ของ)ผม Chapter 10
บันทึกพิเศษ: พ่อแสง “สน! อย่าเป็นไรนะลูก!!พ่อขอโทษ พ่อผิดไปแล้วW เมื่อมาถึงโรงพยาบาลทั้งทีมงานและผมก็รีบเข็นรถเข็นไปที่ห้องฉุกเฉิน ผมกลัวเหลือเกินตอนนี้สนนอนนิ่งไม่ไหวติง ใบหน้าอาบเลือด เริ่มซีดมากขึ้นเรื่อยๆ บ้าจริง! เพราะผมคนเดียวเลย โธ่เว้ย!! “คนนอกเข้าไม่ได้นะคะกรุณารอข้างนอกด้วยค่ะ” “หมอ! หมอครับ!! ช่วยลูกผมด้วยนะครับผมไม่เหลือใครแล้วจริงๆ” “ใจเย็นๆนะครับผมจะทำเต็มที่ที่สุดครับ” หมอพูดพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินผมไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่นั่งรอ เฝ้าภาวนาให้สนรอด ผมผิดเอง ผมไม่สมควรเลยผมเลี้ยงดูสนไม่ดี ผมบกพร่องในฐานะพ่อ และในฐานะ... โธ่เว้ย!! “แสง” ผมค่อยๆเงยหน้าหันไปมองตามเสียงเรียก พี่พงศ์ และ เต๋าวิ่งมาหาผมด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย ถ้าเกิด...ทั้งสองคนนั้นไม่เข้ามา ถ้าเกิดไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายบางทีก็อาจจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ได้ แต่จะโทษอีกฝ่ายก็ไม่ถูก ในเมื่อ ผมเป็นคนเข้าไปเล่นด้วยเองต่อให้อีกฝ่ายจะเข้ามา แต่ถ้าผมไม่เล่นด้วย มันก็จะไม่เกิด ผมผิดเองทุกอย่างผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ ทำร้ายความรู้สึกของคนที่ผมรัก ผมควรจะทำยังไงดี “ข้ากับลูกขอโทษด้วยนะข้าไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” “ไม่เป็นไรครับผมผิดเอง ทั้งสองคนรีบไปรับยายกลับบ้านเถอะครับ ป่านนี้ตารอแย่แล้ว” ผมพูดกึ่งไล่เพราะตอนนี้ผมไม่สามารถมองหน้าทั้งสองคนได้ ผมได้แต่อายและโทษตัวเองไม่อยากจะเจอหน้าใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนั้น คนที่ผมอยากเจอมากที่สุดคือสน “งั้นพวกข้าไปก่อนนะ” พี่พงศ์เดินมาตบไหล่ให้กำลังใจผมก่อนทั้งสองคนจะเดินจากไป ผมได้แต่นั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เครียดมากไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เป็นเวลาเกือบชั่วโมงหมอก็เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าร้อนรน พร้อมกับพยาบาล1คนยิ่งทำให้ใจผมอยู่ไม่สุขมากขึ้น ผมรีบตรงเข้าไปจับไหล่คุณหมอ ภาวนาให้สนดีขึ้น “คุณหมอครับ! สนเป็นยังไงบ้างครับ” “เด็กเข้าขั้นโคม่าครับเพราะศีรษะกระทบอย่างแรง สมองได้รับการกระทบกระเทือน มีเลือดคลั่งในสมองจำเป็นต้องรีบผ่าตัดโดยด่วน ไม่ทราบว่าคุณพ่อ...” “ผ่าตัดเลยครับคุณหมอ! ทำยังไงก็ได้ให้ลูกผมหาย ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ผมไม่เกี่ยงขอแค่ให้ลูกผมกลับมา นะครับคุณหมอ” ผมอ้อนวอนน้ำตาคลอ ผมไม่สนว่าต้องเสียเงินมากเท่าไหร่ ขอแค่ให้สนกลับมาหาผมก็เพียงพอ “คุณพยาบาล เอาใบรับรองมาให้คุณเขาเซ็นด้วย” คุณหมอหันไปพูดกับพยาบาลที่เดินตามหลังมา “ใจเย็นๆนะครับผมรับรองว่าทุกอย่างต้องดีขึ้น ผมสัญญา” คุณหมอหันมาให้กำลังใจผมก่อนที่จะรีบเดินเข้าห้องฉุกเฉินไปผมได้แต่นั่งสลดไม่รู้จะทำยังไง ประตูห้องเปิดออกมาพยาบาลเข็นรถเข็นที่มีร่างของสนนอนอยู่ “สน! สนต้องไม่เป็นอะไรนะ! พ่อรักสนนะ! กลับมาหาพ่อนะสน” คำขอโทษคำสารภาพ คำว่ารักที่ผมได้แต่พร่ำบอกตลอดทางจนถึงห้องผ่าตัดผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากนั่งรอ แล้วก็รอไปเรื่อยๆ ทุกอย่างไม่ควรจะเป็นแบบนี้เพราะผมเอง เพราะผมเอง! ผมทำมันพังหมดทุกอย่างผมปล่อยให้กิเลส ตัณหาเกาะกินจิตใจ ปล่อยให้ความหลง ราคะเข้าครอบงำทั้งที่สัญญาไว้แล้วว่าจะไม่ทำอีก แต่กับ... บ้าจริง!!!เมื่อไหร่กัน เมื่อไหร่สนจะออกมาเมื่อไหร่คุณหมอจะออกมาและบอกว่า ‘คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ’ เมื่อไหร่กัน นี่มันก็หลายชั่วโมงแล้วนะ พระเจ้าช่วยผมทีได้โปรดอย่าเอาสนไปเลย ผมสัญญา สาบานต่อให้แลกด้วยชีวิตผมก็ยอม ขอแค่ให้ตัวเล็กให้สนกลับมา กลับมาเป็นเหมือนเดิม กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ผมจะดูแลประคบประหงม ใกล้ชิดราวกับสมบัติล้ำค่าชิ้นเดียวในโลกใบนี้ผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว นอกจากสน ได้โปรด ผมขอโอกาสอีกสักครั้งทุกคนควรจะได้รับโอกาสไม่ใช่เหรอ เพราะงั้น ถ้าท่านให้โอกาส ผมขอสัญญาจะดูแลสนด้วยชีวิตของผม จะทำให้เขามีความสุขที่สุด เขาอยากได้อะไรต้องการอะไรผมจะหามาให้หมดทุกอย่าง เท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำให้เขาคือคนสำคัญของผม เขาคือคนที่ผมรัก ถ้าไม่มีเขา ผมไม่รู้จริงๆว่าจะอยู่อย่างไรได้โปรด... ได้โปรด ผมได้แต่นั่งร้องไห้นั่งโทษตัวเองที่โง่เขลา มีของดีอยู่ข้างกาย แต่กลับดูแลไม่ได้พอคิดได้ก็สายไปแล้ว ตอนนี้ร่างบางไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง ได้โปรด... เป็นเวลานับหลายชั่วโมงผมไม่สามารถนอนหลับได้ ถ้าไม่รู้ว่าสนเป็นตายร้ายดียังไง ผมพยายามข่มใจแล้วแต่ภาพความทรงจำเก่าๆก็คอยผุดขึ้นมาหลอกหลอนผม ความทรงจำที่ทำให้สนต้องเจ็บปวดและมีความสุขต่างผสมปนเปไปมาจนผมไม่สามารถนอนหลับได้เลย นี่ก็เย็นมากแล้ว พระอาทิตย์เริ่มคล้อยตามตามกาลเวลามีบ้างที่พี่พงศ์และเต๋ามาหาหลังจากที่รับยายกลับบ้านเสร็จแต่ผมต้องการอยู่คนเดียว ไม่อยากให้สองคนนั้นมาคอยปลอบใจยิ่งปลอบใจก็เหมือนยิ่งทับถม ยิ่งรู้สึกผิด ถึงแม้ทั้งสองจะขอโทษผมแต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อตอนนี้สนยังไม่ออกมาจากห้องผ่านตัดเลยผมตัดสินใจแน่วแน่ ต่อจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับครอบครัวพี่พงศ์จะลดเหลือเพียงคนรู้จักกันเท่านั้น ผมต้องทำให้ได้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้ผิดอะไรสำหรับผมแต่ผมไม่อยากให้สนเจ็บอีกแล้ว ผมทำลายความเชื่อใจไว้ใจสนมาแล้ว ผมจะไม่ทำมันอีกต่อให้ต้องตัดขาดกับใครอื่น ผมก็ยอม! “คุณหมอครับ! ลูกผมเป็นยังไงบ้าง” ผมรีบตรงดิ่งไปถามคุณหมอทันทีที่ออกมาจากห้องผ่าตัดในมือคุณหมอเต็มไปด้วยเลือด “ลูกคุณพ้นขีดอันตรายแล้วครับ” “จริงเหรอครับคุณหมอ!! ขอบคุณมากเลยนะครับขอบคุณมากนะครับคุณหมอ” ผมเข้าไปกอดคุณหมอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ในที่สุดสนก็รอดแล้ว สนจะกลับมาหาผมแล้วในขณะเดียวกันพยาบาลก็เข็นรถเข็นที่มีสนนอนอยู่ออกมาจากห้อง “สน! สนลูกพ่อสนปลอดภัยแล้ว รีบตื่นมาหาพ่อนะสน คุณพยาบาลครับผมขอให้ย้ายเขาไปห้องพิเศษได้ไหมครับ” พยาบาลพยักหน้าก็จะเข็นรถเข็นออกไปผมอยากจะตามไป แต่คุณหมอเรียกไปคุยด้วย หลังจากที่ผมพูดคุยเสร็จผมก็รีบกลับบ้านไปเตรียมข้าวของและเงินเพื่อมาชำระค่าผ่าตัด พอมาถึงบ้านผมนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้จัดการกับกรอบรูปที่สนทำมันตก รูปภาพที่สนวาดมีผมและสนกำลังกอดกันอย่างมีความสุข ผมมองรูปทั้งน้ำตา ผมมันเป็นพ่อที่แย่ผมรีบเก็บรูป และเก็บเศษกระจกก่อนจะรีบขึ้นไปจัดของใส่กระเป๋า เสื้อผ้าและทุกสิ่งทุกอย่างที่คนตัวเล็กชอบ ผมเก็บมาและรีบขับรถมาที่โรงพยาบาลมาที่ห้องที่สนนอนอยู่ ผมรีบอาบน้ำอาบท่า ชำระร่างกายให้สะอาดไม่อยากให้มีเชื้อโรคไปติดก่อนที่จะมานั่งข้างเตียงจับมือสน หมอบอกว่าหลังจากผ่าตัดแล้ว คนไข้ต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อ คนไข้จำเป็นต้องทำกายภาพบำบัดทุกวันเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผมได้แต่มองสายที่เชื่อมโยงไปที่ร่างกายของสนอย่างเจ็บปวดนอกจากนั้น คุณหมอยังบอกอีกว่า มีความเป็นไปได้ที่พอคนไข้ฟื้นขึ้นมาแล้วความจำเสื่อมเพราะสมองส่วนซีรีบรัมได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก อาจถึงขั้นเป็นอัมพาตได้ตอนนี้ผมไม่สนอะไรทั้งนั้น ขอแค่ให้ร่างบางฟื้นขึ้นมาก็เพียงพอ ถึงจะจำอะไรไม่ได้ผมก็จะสร้างความทรงจำใหม่ให้เขาเอง ความทรงจำที่จะมีแต่ความสุขถึงเขาจะเป็นอัมพาตผมก็จะเลี้ยงดูเขาไปตลอดชีวิต ผมไม่สนอะไรทั้งนั้น ผมรักเขารักเขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่งเพราะเขาทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองยังมีคุณค่าหลังจากที่ภรรยาผมเสียไป ทำให้ผมยิ้มมีความสุข เสียงเรียกของเขายังคงดังก้องอยู่ในหัว “สนรีบตื่นขึ้นมานะพ่อรอรับผิดอยู่ สนจะทำอะไรกับพ่อก็ได้ พ่อยอมสนทุกอย่าง พ่อรักสนนะต่อไปนี้พ่อจะเป็นของสนคนเดียว” ผมก้มลงจูบที่แก้มของสนอย่างแผ่วเบาก่อนจะขยับมานั่งคอยมองสนเพราะไม่รู้ว่าสนจะตื่นขึ้นเมื่อไหร่... จบบันทึกพิเศษ: พ่อแสง ที่นี่ที่ไหนกันทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ผมจำได้ว่าผมโดนรถเฉี่ยวแล้วหัวไปกระแทกกับบางอย่างอย่างจัง และหลังจากนั้น...ผมก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย รอบข้างมีแต่แสงสีขาวเหลืองเต็มไปหมด มองไม่เห็นทางไรเลยหรือว่าผมจะตายแล้วกันนะ... แต่ว่า... ถ้าตายก็ดีสิผมไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว พ่อแสงไม่ได้รักผมจริง ทุกคนโกหกหลอกลวงผมเสมอไม่มีใครจริงใจกับผมสักคน ผมจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม ในเมื่อคนที่ผมรักและผมแคร์ต่างทำร้ายจิตใจของผม ผมไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว “สน” จู่ๆก็มีเสียงเรียกพร้อมกับละอองสีขาวอบอวลอยู่ตรงหน้า ละอองสีขาวเริ่มรวมตัว จับตัวกันผู้หญิงคนหนึ่งก็ค่อยๆปรากฏตัวออกมา ใบหน้านั้น ใบหน้าอ่อนหวาน รอยยิ้มที่ผมเห็นทุกครั้งเมื่อยังเด็ก...ใช่แน่ๆ...แม่!! “แม่!!” ผมรีบวิ่งเข้าไปกอดแม่แต่จู่ๆก็เหมือนมีอะไรมากั้นขวางไว้ทำให้ผมไม่สามารถเข้าถึงตัวแม่ได้ “แม่...” “โตขึ้นเยอะเลยนะสน” “สนคิดถึงแม่คิดถึงแม่มาก แม่มาพาสนไปอยู่ด้วยใช่ไหม สนอยากไปอยู่กับแม่” ผมพูดพร้อมน้ำตาผมคิดถึงแม่มาตลอด แม่เป็นคนคอยสอนผม ทำให้ผมรู้สึกตัวเองมีคุณค่าเป็นคนคนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกถึงความรักที่แท้จริง “มันยังไม่ถึงเวลาของลูกตอนนี้ลูกต้องรีบกลับไป พ่อแสงรอลูกอยู่” พอแม่พูดถึงพ่อแสงทำให้ผมเศร้าไปทันทีผมไม่อยากกลับไปหาพ่อแสงอีก ผมเจ็บปวดทุกครั้งภาพเหล่านั้นยังคอยวนเวียนอยู่ในหัวผม “พ่อแสงสำนึกผิดแล้วอย่าโกรธพ่อเลยนะลูก” “มะแม่ แม่รู้...” “แม่คอยดูลูกกับพ่ออยู่ตลอดแม่อยู่กับลูกเสมอ” “แม่...สนขอโทษ” “ไม่เป็นไรหรอกลูกทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว สำหรับแม่ ขอแค่เห็นสนโตมาเป็นเด็กดี มีความสุขก็พอแล้ว” “แม่...” “ลูกต้องไปแล้วแม่อยากให้ลูกจำไว้เสมอ ว่าแม่จะอยู่ข้างลูก จะอยู่ในใจของลูกเสมอ แม่รักลูกนะ” “แม่!!!...” จู่ๆทุกอย่างก็ค่อยๆหายไปราวกับเกิดพายุขึ้นตรงกลางทุกอย่างหมุนขว้างไปหมด ผมได้แต่ตะโกนเรียกหาแม่อยู่อย่างนั้นผมอยากจะกอดแม่สักครั้ง อยากได้รับความรู้สึกนั้นอีกสักครั้ง แต่...ก็ทำไม่ได้... บันทึกพิเศษ: พ่อแสง เป็นเวลา1 สัปดาห์แล้วที่สนยังคงนอนอยู่บนเตียง ไม่มีท่าทีจะฟื้นขึ้นมาผมยังคงนั่งเฝ้าอยู่อย่างนั้น หลังจากอาบน้ำ ไม่ว่าจะทำอะไรผมก็จะอยู่กับสนเสมอทุกวันผมคอยทำกายภาพบำบัดเล็กๆน้อยๆตามคำแนะนำของคุณหมอผมอยากให้สนตื่นขึ้นมาแล้วเจอผมเป็นคนแรก แต่ยิ่งนานวัน... ผมก็ยิ่งเจ็บปวดและท้อแท้มากยิ่งขึ้น ~knock knock~ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมหันไปมอง ปรากฏว่าเป็นพี่พงศ์ เต๋าแล้วเด็กอีกกลุ่มหนึ่ง ผมจำได้ว่าหนึ่งในนั้นเป็นคนแอบชอบสน รู้สึกจะชื่อไม้ยิ่งเห็นก็ยิ่งเริ่มไม่สบอารมณ์ ทั้งสามคนต่างถือของมาเยี่ยมเจ้าเด็กนั่นพอเห็นสนก็รีบปรี่เข้ามาหา “สนเป็นไงบ้างพี่เป็นห่วงแทบแย่” ผมมองเด็กคนนั้นจับมือผมนี่อยากจะเข้าไปห้ามแต่ถูกพี่พงศ์ดึงตัวไว้ “พี่กับลูกขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” ผมจึงจำเป็นต้องเดินนำออกมาข้างนอกแต่ก็ยังแอบมองคาดโทษเด็กคนนั้น พอออกมาข้างนอก ผมไม่กล้าแม้แต่มองหน้าพวกเขาเลย “สนข้าขอ...” “พี่กับเต๋าไม่ต้องขอโทษอะไรผมหรอกครับทั้งสองคนขอโทษผมไปแล้วตั้งหลายครั้ง อีกอย่าง ผมเองก็ผิดที่เผลอตัวทั้งที่ผมให้สัญญากับสนแล้ว” “เรื่องนั้นเต๋าเล่าให้ข้าฟังแล้วล่ะ แต้ยิ่งเห็นหลานข้าเป็นแบบนั้น ข้าก็ยิ่งรู้สึกผิด” “ผมขอโทษจริงๆนะครับพ่อแสงผม...” “ไม่เป็นไรครับผมตัดสินใจแล้ว...” ผมสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะผ่อนมันออกพร้อมที่จะพูดประโยคต่อไป “ผมว่าต่อจากนี้ ผมกับครอบครัวพี่ เว้นระยะห่างหน่อยจะดีกว่านะครับ” “มหมายความว่าไง” “ผมว่าพวกเราเป็นแค่คนรู้จักก็พอครับ” “พ่อแสงผมขอโทษ ผมผิดไปแล้วจริงๆ แต่ว่าพ่อแสงอย่าทำแบบนี้เลยนะ” “นั่นสิแสงพวกเรารู้จักกันมานาน เป็นเพื่อนบ้านมาตลอด เองก็ช่วยอะไรข้าตั้งหลายอย่างถ้าเองอยากให้พวกข้าตอบแทนอะไร...” “งั้นก็ตอบแทนผมคือการเป็นแค่คนรู้จักกันก็พอครับ ผมไม่อยากให้เรื่องแบบเดิมเกิดขึ้นมาอีกแล้วผมทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นสนนอนอยู่แบบนี้ และถ้าสนตื่นขึ้นมาผมก็ไม่อยากเห็นสนเจ็บอีก ผมว่ามันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องทั้งหมด อีกอย่างเวลาเจอกัน ผมกับพี่ หรือเต๋าก็สามารถทักกันได้ปกตินะครับ” ผมพูดน้ำเสียงจริงจังและจ้องหน้าพวกเขาราวกับบอกว่า ผมได้ตัดสินใจแล้ว “พ่อแสง...” “เข้าใจแล้วแสงในเมื่อเองตัดสินใจแล้ว ข้าก็จะไม่ขัด แต่สำหรับข้า เองยังเป็นน้องของข้าเสมอพวกข้าสองคนขอโทษด้วยจริงๆ พวกข้าขอตัวก่อน” พี่พงศ์พูดเสร็จก็พาเต๋าเดินออกไปช้าๆผมได้แต่มอง นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ความทรงจำที่ผมกับพวกเขาทำร่วมกันให้ความช่วยเหลือ สายสัมพันธ์ที่รู้จักกันมา ถึงแม้จะเสียดาย แต่ผมเลือกแล้วผมตัดสินใจแล้ว นี่คือทางออกที่ดีที่สุดผมไม่ต้องการให้สนตื่นขึ้นมาแล้วหวาดระแวงกับเรื่องเดิมๆอีก ผมเดินเข้ามาในห้องก็เจอกับพวกกลุ่มเด็กที่นั่งมองสนอย่างเป็นห่วงไอ้เป็นห่วงไม่เท่าไหร่หรอก ได้ไอ้ไม้นี่สิ ชักจะลามปามไปใหญ่ละ “พ่อว่าพวกเรากลับกันไปก่อนเถอะพ่ออยากให้สนได้พักผ่อนเยอะๆน่ะ ไว้สนฟื้นขึ้นมาแล้วค่อยมาเยี่ยมดีกว่านะ” ผมพูดน้ำเสียงจริงจังแต่สายตามองไปยังไอ้ไม้นั่นจนมันรู้สึกตัว ปล่อยมือออกเด็กทั้งกลุ่มต่างเชื่อฟังที่ผมพูด ต่างพนมมือลาไหว้ก่อนจะออกจากห้องไป ผมเดินไปนำของที่ทุกคนต่างซื้อมาให้มาจัดวางให้เรียบร้อย ก่อนจะค่อยๆมานั่งข้างๆร่างบางอีกครั้ง “สนเพื่อนๆมาเยี่ยมสนทั้งนั้นเลยนะ รีบตื่นขึ้นมาสิ มีแต่คนรอสนอยู่นะ” ผมพูดไปจับมือไปทุกวันผมทำแบบนี้เสมอ เผื่อว่าเสียงของผมจะทำให้สนรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาก็เป็นได้ “แม่...” ผมตกใจจู่ๆสนก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา เอ่ยถึงภรรยาเก่าผม น้ำตาสนค่อยๆไหลออกมา “สนคิดถึงแม่คิดถึงแม่มาก แม่มาพาสนไปอยู่ด้วยใช่ไหม สนอยากไปอยู่กับแม่” หัวใจผมตกวูบสนที่ไม่เคยขยับ ได้แต่นอนจู่ๆมืออีกข้างก็ค่อยๆยกขึ้นราวกับกำลังเดินไปหาใครบางคน ชีพจรก็เริ่มเต้นผิดปกติ “สน!!! ไม่นะสน!! สนต้องอยู่กับพ่อ สนอย่าไป!! ได้โปรด!!พ่อผิดไปแล้ว คุณอย่าเอาสนไปนะ ผมรักสน ผมจะดูแลสนอย่างดี สนกลับมาหาพ่อนะมาหาพ่อนะครับ” ผมรีบคว้ามือข้างนั้นแล้วขึ้นไปโอบกอดอย่างหวดกลัวน้ำตาเริ่มไหล หัวใจแทบสลาย กลัวว่าจู่ๆสนจะหายไปจริงๆ ผมรับไม่ได้สนต้องอยู่กับผมเท่านั้น ผมไม่ยอมให้ใครมาพรากสนไปจากผม ขอร้องล่ะขอให้สนกลับมาหาผม ได้โปรดอย่าเอาสนไปเลย สนได้แต่พร่ำเพ้อถึงแม่และพูดละเมอออกมาทุกอย่าง ผมได้แต่กอดสนแน่น ทั้งเจ็บปวด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้พยายามพูดปลอบ ขอโทษ บอกรักเผื่อสนจะได้ยิน และกลับมาหาผม เวลาผ่านไปสักพักสนค่อยๆนิ่งลงผมมองไปที่หน้าจอ monitor ชีพจรสนกลับมาเป็นปกติอีกครั้งผมเริ่มรู้สึกโล่งใจที่สนไม่ได้เป็นอะไรไป “สนรีบฟื้นขึ้นมานะเด็กดี พ่อรอสนอยู่นะ พ่อจะทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น” ผมจูบที่แก้มเบาๆก่อนจะขยับมานั่งและกุมมือสนทั้งสองข้างแน่น กลัวมีใครมาพรากสนไปจากผม เข้าสู่สัปดาห์ที่สองที่สนนอนหลับ ผมยังไงคงอยู่ในห้วงความสิ้นหวังเรื่อยๆไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สนจะฟื้นขึ้นมา ผมตัดสินใจลงไปซื้ออาหารขึ้นมากินข้างบนใจผมห่อเหี่ยวไปเรื่อยๆ ใบหน้าก็มีแต่หนวกเครา ทรุดโทรมลง ตั้งแต่วันนั้นผมกลายเป็นคนนอนไม่ค่อยหลับผมกลัวว่าตื่นขึ้นมาแล้วสนเกิดหายไป ชีพจรหยุดเต้นขึ้นมา ผมกลัวจริงๆ แต่สุดท้ายผมก็ทนทานต่อสภาพร่างกายไม่ไหว จำเป็นต้องลงมาซื้อข้างกล่องกิน ก่อนจะขึ้นมาบนห้อง “สน!!” ใช่ครับทุกคนได้ยินไม่ผิด พอผมเปิดประตูเข้ามา ก็เห็นสนค่อยๆลืมตาขึ้นมา ไม่จริงใช่ไหม!! สนฟื้นแล้วสนฟื้นแล้วจริงๆด้วย สนกลับมาหาผมแล้วใช่ไหม “สน!! สนฟื้นแล้ว!! พ่อรักสน!! พ่อคิดถึงสนมาก พ่อขอโทษ ต่อไปนี้พ่อจะไม่ทำอีกแล้วพ่อจะเป็นของสนคนเดียว พ่อรักสนมากนะ” ผมวิ่งเข้าไปกอดสนแน่นดีใจ ในที่สุดแก้วตาดวงใจของผมก็ฟื้นขึ้นมา ผมรอเวลานี้มานาน ต่อจากนี้ผมจะคอยดูแลสนไม่ห่าง ผมจะอยู่ดูแลสนอย่างดีที่สุด ไม่ว่าสนจะให้อภัยหรือไม่ผมก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด “คุณลุง...เป็นใครครับ”ผมแต่งดราม่าไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ตอนนี้ผมให้เพื่อนผมช่วยด้วย เพราะงั้นถ้าเกิดเห็นภาษาไรแปลกๆ นั่นเพื่อนผมเองครับ ไม่ต้องตกใจ55555 ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าจะใช้ภาษายังไง เรื่องแนวดราม่าเพื่อมผมมันถนัด ผมเลยขอให้ช่วย จริงๆแต่งแล้ว อ่านแล้ว รู้สึกไม่โอเค เหมือนจากดราม่าเป็นแนวบู๊ไงงั้น555555 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ติชมได้เสมอนะครับ
Credit: ขอบคุณ คุณ sharnon นะครับ
เรื่อง เพื่อนเต๋า
http://daddyisbig.blogspot.com/?zx=aab0312558b8157b
โคตรชอบเลยครับ สนฟื้นแล้ว รอลุ้นต่อครับ ขอบคุณครับเป็นกำลังใจและติดตามตลอดนะครับ ขอบคุณมากนะครับ รอตอนต่อไป สนจัดการพ่อแสน{:5_130:} {:5_124:}สุดยอด{:5_139:}
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ชอบมาก ซึ้งดีสุดยอด ขอบคุณครับ {:5_139:} ขอบคุณครับ “เจ็บปวดรวดร้าว…ไปตามๆกันทั้งหมดเลย”
สนจำพ่อแสงไม่ได้จริงๆเหรอครับ…ถ้าเป็นเช่นนั้นคงต้องใช้เวลาเยียวยากันทั้งคู่ สงสารพ่อแสงเหมือนกันนะครับ คงร้างลากามกิจไปอีกนาน แล้วเมื่อไหร่จะมีบทเลิฟซีนอีกน้อ? 555
พ่อพงศ์ กับเต๋าจะเป็นไงบ้างนะครับ…ขาดพ่อแสงไปคงกร่อยเลย ^^ รีบๆมาต่อนะคับ ขอบคุณคับ สนฟื้นขึ้นมาละ น่าจะหลับยาวไปเลยครับ คนผิดสัญญาจะได้เจ็บปวดไปตลอดชีวิต ขอบคุณครับ สนุกมากเลยครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ