ทาสรัก ตอนที่18 [END]
ระยะเวลาผ่านไปจวบจนเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนอายุห้าขวบนักรบนี่ ผมและใคร ๆ ต่างก็บอกกันเป็นเสียงเดียวว่าถอดแบบมาจากพ่อหรือคุณก้องภพล้วน ๆ ห้าวหาญสมชื่อ ซนยิ่งกว่าลูกลิงอีกครับแต่บทจะอ้อนก็อ้อนจนน่าหมั่นไส้ ส่วนต้นรัก ฝาแฝดแต่ต่างเพศ ก็ได้ผมไปเยอะพอสมควรทั้งคุณก้องภพและนักรบหวงลูกสาวน้องสาวคนนี้มาก มีครั้งหนึ่งต้นรักโดนเพื่อนที่โรงเรียนแกล้งจนร้องไห้ นักรบโมโหจัดเกิดเรื่องชกต่อยในโรงเรียนถึงขั้นเรียกพบผู้ปกครอง ตอนนั้นคุณก้องภพเป็นคนไปแทนที่เรื่องจะจบ สุดท้ายคุณก้องภพก็ก่อเรื่อง ขู่ครอบครัวนั้นจนทำให้เด็กคนนั้นต้องย้ายโรงเรียนตอนผมรู้นะ ผมโกรธจัดเลย ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยแบบนี้อีกหน่อยใครจะกล้าเข้าใกล้ต้นรักล่ะ ผมดุทั้งสองคนไป แต่ก็ไม่เป็นผลทำมาเป็นออดอ้อน สำนึกผิดจนผมใจอ่อนเสมอ คุณก้องภพตัดสินใจถอดยศถาบรรดาศักดิ์ลาตำแหน่ง หันมาเปิดธุรกิจโรงแรมชื่อ Miracle เพื่อสานฝันที่ตัวเองเคยอยากจะเป็นเจ้าของโรงแรมต่อจากพ่อกับแม่ด้วยความที่คุณก้องภพเป็นคนที่มีชื่อเสียงมีพรรคมีพวกจึงทำให้โรงแรมประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ส่วนผม หลังจากที่คลอดลูกพอผ่านมาได้สักหนึ่งปี คุณก้องภพจ้างครูสอนพิเศษเพื่อให้ผมเตรียมตัวสอบเทียบเข้ามหาลัยผมรู้สึกปลื้มและดีใจมาก ถึงแม้จะมีลูกแฝด แต่คุณก้องภพก็จ้างพี่เลี้ยงมาดูแลทำให้ผมมีสมาธิกับการเรียนมากขึ้น จะมีบ้างที่ต้องให้นมลูก ผมก็จะปลีกตัวไปเพราะนมจากแม่ ถึงแม้จะไม่มาก แต่ก็ทำให้เด็กแข็งแรงได้คนที่ทำให้ผมหนักใจที่สุดช่วงนั้นก็คือคนที่จ้างครูสอนพิเศษมาน่ะสิครับคนขี้หึงหวงอยู่เฝ้าผมตลอดเวลา ส่งสายตาอำมหิตให้คุณครูจนต้องหงอไปเลยผมพยายามเกลี้ยกล่อมบอกว่าไม่ต้องห่วง แต่คนเอาแต่ใจก็ไม่ยอมฟังผมเลยจนผมต้องปล่อยให้เขานั่งเฝ้าผมอย่างนั้น ถึงจะอาย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้และพอเห็นผมไม่ได้ว่ากล่าวอะไร ก็ได้ใจ หาเศษหาเลยต่อหน้าคุณครูจนผมทนไม่ไหวประกาศลั่นว่า ถ้าทำแบบนี้อีก ผมจะไม่ให้นอนด้วยเลย คุณก้องภพถึงยอมถอยห่างเพียงแค่นั่งเฝ้าสังเกตการณ์เท่านั้น ผมได้เข้าเรียนคณะบัญชีมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ช่วยคุณก้องภพทำกิจการโรงแรมที่ตอนนี้กำลังขยายสาขาไปอีกสามแห่งช่วงแรกที่เข้าเรียนก็จะมีพวกกิจกรรมรับน้อง ปีนี้แปลกตาออกไปปกติแล้วจะจัดที่มหาวิทยาลัยแต่คราวนี้มาจัดกันที่ทะเลเพื่อคลายความเครียดที่ไม่มีทางได้ผลตอนแรกผมปฏิเสธที่จะไป แต่คุณก้องภพก็คะยั้นคะยอให้ผมไป ผมก็แปลกใจ มารู้ความจริงคือวันรับน้องครับไปเจอเจ้าสามหน่อรออยู่ที่ทะเลเรียบร้อยและวันนั้นเองก็ทำให้ทุกคนในคณะรู้ว่าผมมีสามีแล้ว แถมยังสามารถท้องได้อีกด้วยมีลูกแฝดถึงสองคน ผมอายมาก คือผมกับคุณก้องภพยังไม่ได้แต่งงานไม่ได้เป็นสามีภรรยากันสักหน่อย แต่เจ้าตัวกลับแสดงความเป็นเจ้าของอย่างออกนอกหน้าและไหนจะเจ้าตัวเล็ก ต้นรักไม่เท่าไหร่ นักรบเนี่ยสิเหมือนจะเตรียมกับพ่อมาอย่างดี เล่าทุกอย่างให้ฟังจนหน้าอายไปหมดและรับน้องในวันนั้น ถ้าไม่นับเรื่องนี้และเรื่องที่ผมต้องแยกไปนอนกับครอบครัวเพื่อดูแลลูกแล้ว เรื่องอื่นถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากรับน้องไม่ได้โหดเลย แต่ได้ความสนุก ความหรรษาและมิตรภาพที่แปลกใหม่ระหว่างรุ่นเดียวกันและรุ่นพี่ พี่รหัสผมชื่อพี่ปอนด์ จริง ๆก็คืออายุเท่ากันแต่แค่ผมเข้าช้าเฉย ๆ และดูเหมือนพี่ปอนด์จะมีอะไรแปลก ๆได้ข่าวลือว่าเขาสามารถมองเห็นผีได้ ผมไม่รู้ว่าจริงไหม แต่พี่เขาก็โดนฤทธิ์คุณก้องภพกับนักรบจนไม่กล้าเข้าใกล้ หรือเอาใจใส่ผมมากนักผมได้รับเลือกเป็นประธานรุ่น โชคดีที่มี มิ้นท์ ดาว และทิฟฟี่คอยช่วยเหลือทำให้ผมสามารถแบ่งเวลาให้กับครอบครัวผมได้ คุณก้องภพกับนักรบออกจะระแวงทิฟฟี่นิดหน่อย เพราะเจ้าตัวเป็นสาวประเภทสองถึงจะรู้ว่าคุณก้องภพคบกับผมและมีลูกแล้ว แต่ก็ยังหว่านเสน่ห์จนน่าขำ จริงๆแล้วเจ้าตัวไม่มีอะไรหรอกครับ เห็นอย่างนี้ทิฟฟี่ก็ถือศีลข้อสามนะครับไม่ผิดลูกผิดเมีย ส่วนพ่อกับแม่ผมก็มาช่วยทำงานดูแลโรงแรมตอนแรกผมกับคุณก้องภพก็ค้าน ไม่อยากให้ทำงาน อยากให้อยู่ช่วยเลี้ยงดูลูกมากกว่าแต่พวกท่านอยากจะทำงาน อยากแบ่งเบาภาระบ้าง เวลาโรงแรมมีเหตุอะไรพวกท่านทั้งสองจึงเป็นผู้ช่วยได้ดี ทำให้คุณก้องภพไม่ต้องเหนื่อยมาก วันนี้เป็นวันที่ผมนัดเพื่อนๆ มานั่งทำรายงานที่ต้องส่งวันพรุ่งนี้ สถานที่ก็คือที่บ้านผมเอง ผมพาเพื่อน ๆมานั่งทำรายงานที่ห้องรับแขก มีป้าสมรคอยเอาอาหารว่าง เครื่องดื่มมาให้ พวกผมนั่งทำงานได้สักพักก็ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นมาไม่ต้องถามเลยว่าเสียงใคร ต้นรัก กับนักรบดูเหมือนวันนี้ทั้งสองคนจะกลับมาจากโรงเรียนเร็วกว่าปกติ ผมเดินออกไปต้อนรับมีเพื่อนผมเดินตามมาอยากจะเล่นกับเด็กทั้งสองพอเจ้าตัวน้อยเห็นผมก็วิ่งเข้ามากอดมาหอมผมใหญ่จนลืมคุณก้องภพที่ไปรับกลับมาเลยทีเดียว “ทำไมวันนี้กลับมาเร็วจังครับ” “วันนี้ที่โรงเรียนเตรียมจัดเข้าค่ายลูกเสือครับเลยให้กลับก่อน” “หม่ามี๊หม่ามี๊ดูนี่สิ” ต้นรักพูดพร้อมกับยื่นกระดาษใบหนึ่งมาให้ผมพอคลี่ออกมาก็เจอภาพวาด ดูเหมือนทั้งสองคนตั้งใจทำกันมาก เป็นภาพครอบครัว มีผมมีคุณก้องภพกำลังอุ้มทั้งสองคนอยู่ รอบข้างดูเหมือนจะเป็นแม่บ้าน พ่อแม่และข้างหลังเป็นบ้านหลังนี้ ผมมองภาพและยิ้มให้กับคุณก้องภพด้วยความตื้นตันคุณก้องภพเองก็เดินมาจุมพิตที่หน้าผากผมอย่างรักใคร่ “โอ้ยจะพลอดรักกันก็ไปทำกันที่อื่นได้ไหมคะ” “นั่นสิยะคนยิ่งโสด ๆ อยู่” เสียงเพื่อนผมทำเอาผมตั้งสติผมกลับมาและก้มหน้าอย่างอายในขณะที่อีกคนยิ้มปนขำนิด ๆ “วาดรูปเก่งจังเลยมาให้น้าหอมหน่อยเร็ว” ทิฟฟี่พูดขึ้นเข้าไปกอดเด็กทั้งสองแต่นักรบรีบวิ่งเข้าไปมาหาผมทันที ทำเอาพวกผมหัวเราะเพราะทิฟฟี่ยังคงอยู่ในร่างผู้ชายไม่ได้มีการศัลยกรรมหรือผ่าตัดจึงไม่แปลกที่จะทำให้นักรบเกิดอาการหวาดระแวง “มีงานเหรอ” “ใช่ครับมีรายงานต้องส่งพรุ่งนี้เลยนัดกันมาทำที่นี่อ่ะครับ” ผมบอกคุณก้องภพคุณก้องภพก็พยักหน้ารับรู้ส่งยิ้มมาให้ผมก่อนจะหอมแก้มผมและหันไปหาเด็กน้อยสองคน “นักรบต้นรัก ไปเล่นกับป่าปี๊ดีกว่า รอหม่ามี๊ทำงานเสร็จแล้วค่อยไปเล่นกับหม่ามี๊นะครับ” คุณก้องภพพูดพร้อมกับช้อนร่างของเด็กทั้งสองขึ้นมาหอมแก้มและพาเดินขึ้นไปในห้องทันที “คุณก้องภพนี่ดูดีจังเลยนะแก” “นั่นสิทั้งหล่อ ทั้งสุภาพบุรุษ ขี้หวง เอาใจใส่เก่งแบบนี้ตรงสเปคฉันสุด ๆ” “ฉันล่ะอยากได้เขาเป็นผัวจริงๆ คงแซ่บน่าดู” ผมได้ยินพวกนั้นเม้าท์อยู่ข้างหลังก็หันขวับมองตาค้อนใส่ทันทีพอรู้ตัวก็พยักหน้าขอโทษและรีบเดินไปทำงานต่อทันที พวกมันไม่กินแฟนเพื่อนหรอกครับแต่แบบนี้ผมก็หวงเหมือนกันนะ ทำงานกันได้สักพักจู่ ๆ ก็มีเสียงวิ่งตึงตังจากชั้นบน คงจะเป็นเสียงเด็ก ๆกับคุณก้องภพเล่นกันอยู่แน่เลย ตั้งแต่มีลูกมาดูเหมือนคุณก้องภพจะดูอ่อนโยนมากขึ้นเรื่อย ๆจนผมเห็นก็อดยิ้มตามไม่ได้เวลาที่คุณก้องภพเล่นกับลูกช่างน่ารัก และน่าเอ็นดูมากเจ้าสองฝาแฝดดูท่าจะกลายเป็นที่รักของคนในบ้านนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ ถึงแม้จะดูซนหรือจะทำอะไร ทุกอย่างกลับดูน่ารักไปหมด “หม่ามี๊ครับบบ” นั่นไงพูดถึงเสียงของนักรบก็ดังก้องมาเลยนักรบวิ่งมาหาผมพร้อมกับนั่งที่ตัก เด็กน้อยถึงจะดูซนดูแสบแต่ก็ยังเป็นเด็กน่ารักสำหรับผมอยู่วันยังค่ำ “มีอะไรครับ” “นักรบอย่าบอกหม่ามี๊นะลูก” เสียงคุณก้องภพดังมาแต่ไกลเสียงฝีเท้าที่รีบลงมาทำเอาผมเริ่มสงสัยมากขึ้น นักรบยื่นบางอย่างให้ผม “ดูนี่สิครับป่าปี๊สอนผมด้วย บอกว่า ถ้าเกิดโตขึ้นต้องใช้เจ้านี่” ผมมองดูของที่อยู่ในมือเป็นถุงยาง!!! “แต่ป่าปี๊บอกผมว่ากับหม่ามี๊ไม่ต้อง ใช้สด” “ไอ้คุณก้องภพ!!!!” “ซวยแล้วกู” สอนอะไรลูกแต่ละอย่างดี ๆ ทั้งนั้นเลย แบบนี้ต้องทำโทษสะให้เข็ด ผมใช้เวลาเทศนาคุณก้องภพที่ตอนนี้นั่งเป็นหมาง่อยฟังผมว่ากล่าวอยู่นานสองนานสอนอะไรลูกแต่ละอย่าง อย่างคราวที่แล้วนะสอนให้ลูกใช้กำลังบอกว่าถ้าใครต่อยเราก่อน ก็สวนกลับ มันก็ดีอยู่หรอกที่รู้จักป้องกันตัวแต่นี่มันไม่ดูเป็นนักเลงไปหน่อยเหรอ หลังจากนั้นผมก็มานั่งทำงานต่อจนเสร็จกว่าจะทำเสร็จได้ก็ถึงเวลาอาหารเย็นพอดี ผมลงโทษคุณก้องภพให้คุณก้องภพนอนคนเดียวในห้อง ส่วนผมก็นอนกับลูก ๆ อีกห้องหนึ่ง คนเอาแต่ใจโวยวายไม่ยอมยกใหญ่ “ไม่เอา! พี่ผิดไปแล้ว พี่จะไม่ทำอีกแล้วไม้นอนกับพี่นะ” “ไม่ต้องมาพูดเลยไหนจะสอนให้ลูกใช้กำลังโดยไม่มีเหตุผล ไหนจะเรื่องถุงยางนี่อีกนอนคนเดียวไปเลยครับ” ผมพูดพร้อมกับเตรียมตัวเดินออกจากห้องไปแต่จู่ ๆ ก็รู้สึกทุกอย่างหมุนกลับหัวเมื่อคุณก้องภพอุ้มผมพาดบ่า! “คุณก้องภพ!” “ฉันไม่ยอม เธอต้องนอนกับฉัน! ฉันไม่อยากอยู่ห่างเรา” คุณก้องภพพูดพร้อมกับวางผมลงบนเตียงและรีบทาบทับร่างของผมล๊อคมือทั้งสองข้างไว้ ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์จนผมเริ่มหวาดระแวง “คุณก้อง...” “ทำใจไว้เหอะคืนนี้ทั้งคืนฉันจะทำให้เธอหายงอนฉันให้ได้” “คุณ...อื้อ!” ยังไม่ทันที่ผมได้พูดอะไรคุณก้องภพก็ปิดปากผมด้วยปากของเขา และก็เป็นอย่างที่คุณก้องภพพูดเอาไว้ผมร่วมรักกับคุณก้องภพนับครั้งไม่ถ้วน คุณก้องภพปรนเปรอให้ผมจนสุดท้ายผมใจอ่อนยอมหายงอน บทเพลงรักถูกบรรเลงจนเกือบฟ้าสาง ทำเอาผมไม่สามารถไปเรียนได้ทำเอาวันนั้นผมต้องอยู่บ้านถูกคุณก้องภพเอาเปรียบอยู่ตลอดเวลาจนผมได้แต่อายแต่อย่างน้อยก็เป็นวันที่ทำให้ผมกับคุณก้องภพไปรับเจ้าฝาแฝดและออกไปทานอาหารข้างนอกด้วยกันเป็นพ่อแม่ลูกที่นานครั้งถึงจะได้มีโอกาส ช่วงปิดเทอมสามเดือน ผมชวนเพื่อน ๆมาเที่ยวทะเลตามความคิดของคุณก้องภพ โชคดีที่คุณก้องภพซื้อบ้านพักตากอากาศไว้ ทำให้ไม่ต้องจองห้องตามโรงแรมต่างๆ นอกจากจะมีพ่อแม่ คนรับใช้ที่บ้านที่แทบจะยกครัว เจ้าลูกทั้งสองคน เพื่อนแก๊งผมก็ยังมีพี่รหัสผม พี่ธนา พ่วงเพื่อน ๆ พี่เขาอีกสี่คน ทำเอาบ้านพักดูแคบไปทันตาถ้าพวกพี่เขาไม่ตัดสินใจไปเช่ารีสอร์ทอยู่กันเอง หลังจากที่ผมนั่งอยู่ในห้องกำลังเก็บเสื้อผ้าก็ออกไปเล่นน้ำกับเพื่อน ๆ รุ่นพี่ พ่อแม่ แต่ไม่ยักเห็นคุณก้องภพ ไม่รู้ไปไหนพอกลับมาช่วงเย็นก็ยังไม่เจอ เริ่มเป็นห่วง พอถามพ่อแม่ หรือคนอื่น ๆก็บอกว่าติดธุระ หลังจากที่เข้ามาในห้อง จะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็มีเสียงเปิดประตูผมหันไปมองก็เห็นนักรบ ต้นรักเดินเข้ามา ในมือเหมือนจะถือเสื้อผ้าบางอย่าง “มีอะไรครับ” “ป่าปี๊ให้ต้นรักกับนักรบเอานี่มาให้หม่ามี๊ค่ะ” ต้นรักพูดขึ้นก่อนจะช่วยส่งเสื้อผ้ามาให้ผมผมคลี่ดูออกเป็นกางเกงขาสั้นมีเสื้อสีขาวลายลูกไม้ประดับอยู่ “ป่าปี๊บอกให้หม่ามี๊ใส่จะได้เป็นอาหารตาครับอิอิ” พูดเสร็จเจ้าสองตัวแสบก็วิ่งออกไประริกรี้ผมงงไปหมด ปกติแล้วคุณก้องภพไม่ให้ใส่ชุดแบบนี่นา ขนาดตอนท้องยังไม่ยอมเลย แล้วทำไมคราวนี้ถึงให้ใส่ล่ะชั่งเถอะ ผมอาบน้ำและใส่ชุดตามที่ทั้งสองคนบอกก่อนจะออกไปนอกห้อง ไม่เห็นใครนอกจากเจ้าตัวเล็กสองคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา “พี่รบหม่ามี๊มาแล้ว ๆ” ต้นรักเอ่ยบอกคนพี่ก่อนจะวิ่งมาหาผมใบหน้ายิ้มแย้ม ยินดีจนผมอดสงสัยไม่ได้ “แล้วคนอื่นๆ หายไปไหนเหรอครับ” “ทุกคนกำลังรอหม่ามี๊ทานข้าวข้างนอกหม่ามี๊ตามผมกับต้นรักมาเร็วครับ” ทั้งสองกึ่งเดินกึ่งวิ่งจับมือผม จนผมต้องพยายามห้ามกลัวทั้งสองคนจะหกล้มเป็นอะไรไป นักรบ กับต้นรักพาผมมาเกือบถึงชายหาดสายลมเย็นทำเอาผมรู้สึกหนาว ไม่เข้าใจทำไมต้องให้ผมใส่ชุดนี้ด้วย แต่แล้วจู่ ๆก็มีเสียงเปิดฟังดังขึ้น แสงสีเหลืองส่องเป็นทาง หลอดไฟถูกประดับตามต้นไม้เป็นไรทางชักชวนให้ผมเดินตามโดยที่มีสองตัวเล็กเดินนำทาง สายไฟเชื่อมโยงกันไปเรื่อย ๆ บ้างมีสีสันทำให้สะดุดแต่ส่วนใหญ่จะเป็นสีเหลือง แต่สิ่งที่ทำให้ผมตะลึงมากที่สุดคือรูปภาพที่มีผมคุณก้องภพ และเจ้าตัวเล็ก ถูกประดับตามต้นไม้ ทำเอาผมหวนนึกถึงวันเก่า ๆวันที่เราเป็นครอบครัวอย่างสมบูรณ์ ถึงแม้จะไม่ได้แต่งงานกันก็ตาม จู่ ๆก็มีเสียงเพลงขับกล่อมดังขึ้นมา ทำให้ผมละสายตาจากรูปเหล่านั้นและมองตรงไปข้างหน้าก็เจอคุณก้องภพ กางเกงขาสันสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวนั่งดีดกีตาร์อยู่ร้องเพลงและมองมาที่ผม “จากคนที่ไม่มีจุดหมาย เธอได้เติมความหมายให้ได้รู้ ทุกนาทีที่ลืมตาอยากหายใจต่อเพื่อเฝ้าดู ยิ้มของเธอ เห็นหน้าเธอเช่นนี้ ฮือ.. อยากขอได้ไหมขอรักเธอชั่วนิรันดร์ ฉันขอฝาก ลมหายใจฉันไว้ที่เธอได้ไหม จะขอเฝ้าดูและจะอยู่ดูแลเธอไปจนถึงวันสิ้นใจ ตราบฟ้าดินสลาย รักเธอคนเดียว ~” เสียงเพลงบรรเลงขับขาน ทำเอาผมยืนนิ่งยืนอึ้ง น้ำตาคลอ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ความรู้สึกที่ส่งผ่านมาความรู้สึกที่เรียกว่ารักกลับค่อย ๆ เอ่อล้นออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมากว่าจะมาถึงวันนี้ มันเหมือนเป็นการเดินทางที่ยาวนานจนในที่สุดก็มาถึงจุดหมายปลายทางที่เห็นคนที่รักอยู่ตรงหน้าคุณก้องภพวางกีตาร์ลงและเดินมาทางผมคุกเข่าและจับมือผมมา อีกข้างถือกล่องกำมะยีที่ถูกเปิดออกเป็นแหวนทรงเรียบง่ายมีเพชรฝังตรงกลางสีผ้าเป็นรูปทรงรี “ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในชีวิตฉันเธอทำให้ฉันได้รู้จัก ได้เห็นคุณค่าในตัวเองมากยิ่งขึ้นถึงแม้ตอนแรกพวกเราจะเริ่มต้นกันไม่ดีเลย ฉันทำร้ายเธอสารพัด แต่เธอก็ยังอดทนเธอเป็นเหมือนแสงสว่างของฉัน แสงสว่างเล็ก ๆ ที่ฉายท่ามกลางความมืดมิดปัดเป่าความเครียดแค้นที่ฉันมันแต่จมปักตลอดชีวิต ทำให้ฉันได้ลืมตา เจอสิ่งใหม่ที่ฉันไม่เคยมอง และหนึ่งในนั้นคือ รัก เธอทำให้ฉันได้รู้จักกับคำว่ารักและทำให้ฉันอยากจะอยู่กับเธอ อยากดูแลเธอจนตราบฟ้าดินสลายขอให้ฉันเป็นของเธอคนเดียว เป็นทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของเธอได้ไหม ไม้...แต่งงานกับฉันนะ” สิ้นคำพูดทำเอาผมร้องไห้อย่างหนักไม่ใช่เสียใจ แต่ปลื้มปีติ ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ผมเคยผิดหวังในความรัก สนที่เป็นรักแรก และก็มาคุณก้องภพ แต่เพราะเป็นความเข้าใจผิดจึงทำให้เรื่องราวดูแย่แต่สุดท้ายเมื่อทุกอย่างคลี่คลายคุณก้องภพก็พยายามพิสูจน์ตัวเองมากมายจนผมเชื่อและไว้ใจอีกครั้งคุณก้องภพทำให้ผมรู้สึกทุกข์และดีใจตามๆ กัน แต่เหนือสิ่งใดคือความสุขที่เขามอบให้ผมจนทำให้ผมลืมเรื่องราวในอดีต และอยู่กับปัจจุบันทำให้ผมอยากจะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง มีคุณก้องภพ มีลูก และมีผมไม่มีวันไหนเลยที่ผมรู้สึกแย่ ผมรู้ได้อย่างเดียวคือ คุณก้องภพทำให้ผมได้พบความสุขในวันนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผมอยากจะมีชีวิตอยู่ “ครับ...แต่งครับ แต่ง” ผมพยักหน้าตอบรับทั้งน้ำตาคุณก้องภพสวมแหวนให้ผมก่อนจะลุกขึ้นมากอด จุมพิตที่หน้าผาก และแก้มทั้งสองข้างผมกับคุณก้องภพต่างกอด มอบความสุข และความอบอุ่นให้กันและกันน้ำตาผมยังไหลรินไม่ขาดสาย มีคุณก้องภพคอบจูบซับน้ำตาให้ “ต้นรักอยากกอดหม่ามี๊ กับป่าปี๊ด้วย” “นักรบก็อยากกอดด้วย” เสียงเด็กน้อยราวทูตสวรรค์ทั้งสองคนวิ่งเข้ามาหาผมกับคุณก้องภพอุ้มขึ้นมาโอบกอดเป็นครอบครัวที่ผมปรารถนาและไม่ใฝ่ฝันในที่สุดก็เป็นจริง ผม คุณก้องภพ และลูก ๆ กอดกันกลมเป็นครอบครัวเล็ก ๆ ท่ามกลางเสียงปรบมือโฮ่ร้อง ยินดีของทุกคนที่ยืมล้อมรอบ เป็นพยานความรักของผมและคุณก้องภพ -ผมรักคุณเช่นกันคุณก้องภพ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบแล้วนะครับ กับเรื่องทาสรัก ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะครับ ติชมได้เสมอนะครับ เป็นเรื่องแรกเลยที่ผมแต่งเพียว ๆ จะมีแค่ช่วงตอนหลัง ๆ ที่ปรึกษาเพื่อนบ้าง หวังว่าจะชอบกันนะครับ ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีคนอ่านเยอะขนาดนี้ อย่างเรื่องที่แล้ว เพราะต้นฉบับดีและมีเพื่อนช่วยเยอะด้วย ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ ผมพยายามเขียนออกมาให้มันมีหลายอารมณ์ มีหลายมิติ เพราะเท่าที่อ่านในนี้มา มันค่อนข้างขาดมิติ เลยตัดสินใจเอามาใส่ อยากให้ดูหลากหลาย หวังว่าจะไม่เบื่อนะครับ555555 เรื่องนี้ค่อนข้างยากสำหรับผมเพราะอยู่ในช่วงสอบไฟนอล ทำโปรเจ็ค เลยทำให้บางครั้งอารมณ์ร่วมในการแต่งดรอปลงไป ทำให้ไม่ค่อยอินบ้างก็ขอโทษด้วยนะครับ งานเยอะจริง ๆ แต่อยากให้ทุกคนได้อ่าน ไม่อยากให้รอนาน บางส่วนของตอนนี้มีเพื่อนผมช่วยด้วยนะครับ
มีหลายคนถามเรื่องใหม่ ยังไม่ได้คิด55555 ตอนนี้เอกสารทุกอย่าง วีซ่าผมครบหมดแล้ว ผมจะบินไปอเมริกาวันที่3 มิถุนานี้ กลับอีกทีก็7-8ธันวาเลย อาจจะไม่ได้เข้ามาอั๊พเรื่องใหม่ เพราะต้องไปทำงานวิจัยที่นั่น เป็นวิชาสหกิจกับฝึกงานของมหาลัย ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับที่เข้ามาอ่าน ไม่รู้ว่าแต่งดีไหม ติชมได้เสมอนะครับ
ขอบคุณครับ{:5_146:} {:5_119:}ขอบคุณครับ{:5_119:}ชอบมากครับผม{:5_119:} lสนุกดีครับ เดินทางปลอดภัย ประสปความสำเร็จนะครับ สนุกมากเลยครับเรื่องนี้ ขอบคุณมากนะครับชอบครับ สนุกครับ รอเรื่องต่อไปนะครับ{:5_130:} ขอบคุณคับ เดินทางปลอดภัยครับ ขอบคุณนะครับ สำหรับผลงานดีๆ
ขอให้ประสบความสำเร็จกับทุกสิ่งที่ทำนะครับ ชอบมากเลยครับ สนุกดีครับ ขอบคุณครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ ขอบคุณมากครับ
ความในใจก็ได้บอกไปบ้างแล้ว
สนุกและชอบมากสำหรับเรื่องนี้
ถึงไม่อยากให้จบ แต่ตอนจบผมฟินมากๆเลยครับ
เดืนทางไกล ดูแลตัวเองด้วยนะครับ
คงคิดถึงมากๆแน่นอน อย่าลืมกันนะครับ ขอให้เดินทางปลอดภัยประสบผลสำเร็จอย่างตั้งใจหวังนะครับเรียนจบมีงานทำที่ดีนะครับ ขอบคุณมากครับ สำหรับนิยายซาบซึ้ง และขอให้ประสพความสำเร็จกับการไปอเมริกาน่ะครับ ขอบคุณครับ น่ารักดีครับ ยอดเยี่ยมมากๆๆ ครับ ประทับใจสุขใจที่สุข
ติดตามอย่างต่อเนื่อง
มาต่ออีกนะครับ
เดินทางปลอดภัยนะครับ
และสำเร็จภาระกิจโดยสมบูรณ์นะครับ เดินทางปลอดภัยนะคัฟจะรอติดตามผลงานของคุณตลอดไปนะครับ ขอบคุนค๊าฟ สนุกมากมาย จบสวยดี ^^ ยังไงก็แล้วแต่ ขอให้ทุกๆสิ่งที่คนเขียนหวังไว้ จงผ่านไปได้ด้วยดีทุกสิ่งอย่างนะครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ {:5_135:}