นิทานปรัมปรา ตอนจบ
ตอนที่ 3http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=124972&fromuid=155610"องค์ชาย ขอรับ ผมอยากจะชวนองค์ชายไปประพาสป่า เผื่อเวลาเล่นสวาทจะได้สนุกผ่อนคลาย ใกล้ชิดธรรมชาติ" หมื่นณรงค์ทูลองค์ชาย
"งั้นก็เตรียมม้าเถิด เจ้าช่างรู้ใจข้ายิ่งนักหมื่นณรงค์" องค์ชายไกรสร เอ่ยชม
"องค์ชายขอรับ ในเพลานี้องค์ชายก็ไม่ได้มีองครักษ์คู่กายแล้ว กระหม่อมอยากจะเสนอให้..." ก่อนที่หมื่นณรงค์จะพูดต่อ องค์ชายไกรสรก็ยกมือขึ้นปราม
"ข้ายังไม่แต่งตั้งใคร ขอบคุณเจ้ามาก" หมื่นณรงค์สีหน้าไม่พอใจนัก ไปเตรียมม้าในการประพาสป่าต่อไป
สายน้ำไหลจากลงเทือกเขา เย็นชุ่มช่ำ เมกไม้นานาพรรณ สัตว์ป่าน้อยใหญ่ปรากฎกายให้เห็น ริมโขดหินข้างลำธารองค์ชายไกรสรกำลังกระแทกแท่งเนื้อเข้ารูทวารหมื่นณรงค์ดังตั่บๆก้องป่า ปากทั้งสองจูบปากด้วยลีลาเร่าร้อน มือองค์ชายทั้งสองจับสะโพกนายทหารไว้ ทันใดนั้น น้ำที่ไหลจากเทือกเขาจากสีใสเย็นก็ขุ่นแดงอิฐไปทั่วผืนน้ำ
"องค์ชายระวังน้ำป่าขอรับ"
สายน้ำพัดเอาคนทั้งสองไปคนละทิศคนละทาง
องค์ชายไกรสรตื่นรู้สติอีกครั้งบนเรือนไม้ นุ่งผ้าพอหลวมๆ องค์ชายขยี้ตามองไปโดยรอบ
"ฟื้นสติแล้วรึขอรับ" เสียงหนุ่มคุ้นหน้าเอ่ยถาม
"เจ้า... เจ้า.... ไชยยันต์ ข้ามาอยู่ที่นี้ได้เยี่ยงใด" องค์ชายสงสัย
"สายน้ำป่าเชี่ยวกราก พลัดพรากผู้คนไหล โอ้พระองค์อย่าสนใจ ข้าก็แค่ชาวป่าดอย"
"พอเถอะไชยยันต์ อย่ามารำพึงรำพันบทกลอนเสียเปล่า เราขอบใจเจ้ามากนะ"
"มิใช่ข้าดอกพระองค์ ดวงใจดวงน้อยๆต่างหากเล่า"
"ข้าไม่เข้าใจดอก"
"มีใครบ้างเล่า จะรักพระองค์เท่าชีวิต เสี่ยงตายว่ายน้ำป่าไปนำพระองค์ขึ้นมา" ทุกคำพูดองค์ชายไกรสร ยิ่งสงสัย มิหนำซ้ำไชยยันต์ก็เดินจากไปทิ้งให้พระองค์นั่งกังขาตามลำพัง
"ทานยาก่อนขอรับ" พรานหนุ่มรูปงามปรากฎตัว สีหน้าองค์ชายไม่พอใจนัก
"ไชยยันต์ ไชยยันต์ เจ้าไปไหน ทำไมเจ้าไม่มาดูแลข้า"
"กระหม่อมจะวางถ้วยยาไว้ตรงนี้ อย่าลืมทานยาหละ" พรานหนุ่มกำชับ
"เจ้าจะลอบฆ่าข้า" พรานหนุ่มเดินออกไปโดยไม่สนใจคำพูดของคนในบ้าน
องค์ชายไกรสร นอนคิดทบทวนภาพจากเหตุการณ์ริมลำธาร จนถึงตอนนี้ยังไม่คลายสงสัยลงได้
"องค์ชายขอรับ ลุกขึ้นไปสรงน้ำชำระพระวรกายเถิดขอรับ" พรานหนุ่มคนใหม่เข้ามาทักทาย
"คง พวกเจ้าสบายดีรึ" องค์ชายไกรสรเอ่ยถาม
"สบายดีขอรับ มีเพียงคนเดียวคือเจ้ามั่นที่นอนร้องไห้ทุกคืน" คงกราบทูล
"ทำไมเล่า" องค์ชายสงสัย
"องค์ชายขอรับ กระหม่อมนอนกอดคู่รักของกระหม่อม แต่ไอ้มั่นมันโดนหวายจากคู่รักมันทำให้มั่นมานอนป่าตามลำพังขอรับ" คำพูดสะกิดใจองค์ชายไกรสร ยิ่งนัก ที่ยังไม่เคยสอบสวนมั่นเลยแม้แต่คำเดียว กระทำลงไปเพียงแค่แรงหึงหวงเท่านั้นองค์ชายไกรสร ลุกขึ้นยืนเดินผ่านประตูบ้านไป กวาดสายตาโดยรอบ ไชยยันต์ก่อไฟหุงข้าว กวาดสายตาคั้งแล้วครั้งเล่ายังไม่เจอบุคคลที่ต้องการ องค์ชายหวนกลับมาในเรือน คงยิ่นผ้าให้
"ไปสรงน้ำที่ลำธารสิขอรับ จะเจอคนที่พระองค์มองหา" องค์ชายหยิบเอาผ้าแล้วเดินลงเรือนไป พรานหนุ่มอาบน้ำผุดดำว่ายไปมา ก้นกลมเนียนลอยน้ำขาวตัดสีในของสายน้ำ องค์ชายไกรสร ถอดผ้าค่อยๆหย่อนตัวลงน้ำไป
"พระองค์ระวังขอรับ" มั่นรีบทวนน้ำมาใกล้ชิด
"เจ้าห่วงข้ารึ" มั่นก้มหน้าเอียงอาย องค์ชายเชยคางจูบระดมไปทั่ว มั่นโผเข้ากอดองค์ชายเต็มตัว
"ข้าขอโทษเจ้าด้วยนะดวงใจของข้า"
ค่ำคืนนี้แสงจันทร์สาดส่องพื้นเรือน ผิวกายขาวนวลตัดแสงจันทร์สองคู่เล่นเกมสวาทอยู่บนเรือนไม่ไกลจากกัน รูทวารของมั่นอันแน่นด้วยแท่งเนื้อองค์ชายไกรสร ส่วนแท่งเนื้อของคงเชยชมรูทวารของไชยยันต์ เสียงกระสันสวาทแห่งความสุขปลุกระดมพื้นป่าไปทั่ว............
"นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : การหึงหวงจะทำให้การเล่นเสียวกับคนรักหายไป (ฮาไหมขอรับ)"
จบเร็วจุง มีภาคสองไหมครับ ชอบ ขอบคุณมากเลยครับ ขอบคุณมากนะครับ{:5_130:}
ขอบคุณครับ หักมุมเลย ก้แค่ชอบบางตอน {:5_140:} สนุกมากเลยครับ เจ้าหวงข้ารึอย่าเอียงอาย หักมุม จบ แบบงง ขอบคุณครับ อ่ะ จบแล้วเหรอครับ ขอบคุณครับ สั้นจุง ต่ออีก ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับผม "_" เอิ่มมมม.. ขอบคุณครับ สนุกดี