ค่ายฝึกความอดทน ตอน 2
ทั้ง 5 คนออกเดินทางจาดเรือนของขุนศึกทั้งสองมาตั้งแต่ช่วงก่อนรุ่งสาง ผ่านป่าเขาลำเนาไพร ควบม้าข้ามแม่น้ำลำธารต่างๆ
จนมาถึงค่ายฝึกที่หมายในช่วงบ่ายแก่ ๆ ค่ายฝึกแห่งนี้ มีกำแพงค่ายที่สร้างด้วยไม้ไผ่ตั้งสูงตระหง่านขึ้นไป ไม่ไผ่แต่ละท่อนเรียงกันชิด
จนไม่สามารถมองเห็นภายในกำแพงได้ กำแพงแห่งนี้เป็นกำแพงสองชั้นที่สร้างอย่างแน่นหนา ด้านบนมีเพิงที่มุงด้วยจาก
ห่างกันออกไปเป็นระยะๆรอบกำแพง ตามเพิงไม่แต่ละเพิงมีนายทหารถอดเสื้อโชว์หุ่นกำยำอยู่ที่ด้านบน แต่นอนว่าทหารเหลานี้
คือทหารเวรยามที่คอยเฝ้าระวังคนที่เข้ามารุกล้ำค่ายฝึกแห่งนี้ ด้านหน้าประตูทางเข้าก็มีนายทหารนุ่งโตงกระเบนเฝ้าประตูอยู่
" เอาล่ะพวงเอ็ง ถึงแล้ว " ไอ้จ้อยบอกกับไอ้ทองและเพชร
ทั้งห้าคนลงจากหลังม้า แล้วก็มีทหารเวรยามที่อยู่หน้าประตูมาจูงม้าเพื่อไปไว้ที่คอก
" มีเหตุอันใดเกิดขึ้นหรือไม่ " ขุนเดชถามทหารยาม
" ไม่มีขอรับ ทุกอย่างเรียบร้อยดีขอรับท่านขุนศึก "
" ดี... มึงเอาม้าไปเก็บที่คอก หาน้ำหาหญ้าให้ม้ากินเสียให้เรียบร้อย " ขุนเด่น ขุนศึกผู้น้องเอ่ยสั่งทหารยาม
" ขอรับ "
ขุนเดชและขุนเด่นเดินเข้าไป ผ่านประตูค่ายชั้นแรก เลี้ยวขวาเข้าไปเจอกับห้องเก็บสัมภาระที่มีหีบผ้าวางเรียงรายอยู่
อีกฝั่งหนึ่งเป็นประตูที่เมื่อเดินผ่านเข้าไปแล้วจะถึงภายในค่ายฝึกนั่นเอง ขุนศึกทั้งสองหยุดอยู่ที่กลางห้องเก็บสัมภาระ
ไอ้จ้อยกุลีกุจอวิ่งไปเปิดหีบใบหนึ่งขึ้น แล้วถอดเสื้อและโจงกระเบนที่ใส่อยู่ออกจนหมด หยิบรองเท้าวางไว้ที่ก้นหีบ
พับเก็บเสื้อและโจงกระเบนของตนเองแล้วเอาผ้าผืนหนึ่งห่อแล้วเก็บไว้ในหีบนั้น ไอ้ทองและเพชรเห็นไอ้จ้อยแก้ผ้าออกจนตัวเปลือยก็ตกใจ
ไอ้จ้อยอยู่ดีดีก็แก้ผ้าโชว์ควยที่อ่อนตัวห้อยแกว่งอยู่อย่างนั้น แล้วไอ้จ้อยก็รีบมานั่งคุกเข่าลงต่อหน้าขุนเด่น
ปลดผ้าที่รัดเอว แล้วแกะกระดุมเสื้อผ้าของขุนเด่นแล้วถอดออกจนเหลือแค่หุ่นล่ำกล้ามแน่น ไอ้จ้อยพาดเสื้อของขุนเด่นไว้ที่ผ้า
แล้วค่อย ๆ บรรจงแกะปมโจงกระเบนแล้วถอดออกจนตอนนี้ขุนเด่นไม่มีเสื้อผ้าติดตัวแม้แต่ชิ้นเดียว
ควยลำอวบที่กึ่งแข็งกึ่งอ่อน ห้อยยาวรับกับพวงไข่ยาน รวมกับหุ่นกำยำ กล้ามอก กล้ามท้องเป็นลอนทำให้น่ามองยิ่งนัก
" พวกมึงทั้งสอง ถอดผ้าออกเสีย พวกกูจักพาเข้าไปในค่าย " ขุนเด่นบอกกับไอ้ทองและเพชร
ส่วนไอ้จ้อยก็เปลี่ยนมาถอดเสื้อและผ้าโจงกระเบนให้กับขุนเดชขุนศึกผู้พี่จนเนื้อตัวเปลือยเปล่าเหมือนกับขุนเด่น
ตอนนี้ไอ้ทองและเพชรกำลังจ้องมอง ขุนศึกทั้งสองและไพร่หนุ่มแก้ผ้าตัวเปล่าควยห้อยอยู่
" พวงมึงคงจักยังไม่รู้ ที่ค่ายฝึกแห่งนี้ ทหารทุกคนต้องไม่มีอาภรณ์อันใดปกปิดร่างกาย เพื่อฝึกความลำบากเพลาใช้ชีวิตในป่าเขา "
" ไอ้จ้อย มึงไปถอดเสื้อแลโจงกระเบนของพวกมันบัดเดี๋ยวนี้ " ขุนเดชสั่งไอ้จ้อย
" ขอรับ "
ไอ้จ้อย ก็เข้ามาถอดโจงกระเบนของไอ้ทองและเพขร
" ไม่เป็นไร ข้าถอดเองได้ " เพชรพูดขึ้น
" หากพสกเอ็งถอดแล้ว เอาโจงกระเบนแลเสื้อไปพับไว้ในหีบนั้น " ไอ้จ้อยบอก
แล้วทั้งสองก็ถอดเสื้อและโจงกระเบนของตนเองออกอย่างงุนงง แต่ก็จำเป็นต้องถอดเพราะทั้งสามคนตอนนี้ก็ยืนตัวเปลือย
ควยห้อยต่อหน้าถึงขนาดนี้
แล้วทั้งหมดก็เดินผ่านประตูด่านสุดท้ายเข้าไปในค่ายฝึกกองสอดแนมแห่งนี้ ค่ายฝึกแห่งนี้ไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่เล็ก
ด้านในมีเพิงไม้ไผ้ที่มุงด้วยจากยกพื้นสูงจนถึงต้นขา รอบด้านไม่มีพนังปิดกั้น เปิดโล่งให้ทุกสายตามองเห้นได้ เรียงกันอยู่ใกล้กำแพงค่าย
ลึกเข้าไปเป็นเรือนไม้ยกสูงขึ้นไป มีชานเรือนยื่นออกมา มีพนังล้อมรอบแค่ 3 ด้าน ด้านหน้าเปิดโล่งมาจนถึงชานเรือน สามารถ
มองเห็นการฝึกของนายทหารได้รอบด้าน ฝั่งตรงข้ามกับเพิงนั้นมีเป้ายิงธนูและโรงเก็บอาวุธตั้งอยู่ ซึ่งเป็นโรงอาวุธที่เปิดโล่ง
มีอาวุธนานาชนิดเก็บไว้มากมาย ตรงกลางเป็นลานฝึกที่เอาไว้ให้ทหารเข้ามาฝึกประลองกัน ส่วนด้านหลังเรือนไม้เป็นลำธารที่มีน้ำไหลผ่านตลอด
ไอ้ทองและเพชร เดินเข้ามาภายในค่ายฝึกก็ตกใจกับภาพที่เห็น ภายในค่ายฝึกอยู่ประมาณ 20 นาย ค่ายฝึกแห่งนี้มีทหารมาฝึกไม่เยอะ
เพราะว่าเป็นค่ายฝึกกองสอดแนม ทหารที่มาฝึกต้องผ่านการคัดตัวมาอย่างยากลำบาก มีเพียงทหารที่มีความอดทนและเก่งกาจเท่านั้น
ที่จะเข้ามาฝึกในค่ายงึกแห่งนี้ได้ นายทหารแต่ละคนก็กำลังฝึกใช้อาวุธอย่างไม่ลดละ บ้างก็ฝึกยิงธนู ฝึกฝันดาบ จับคู่ซ้อมกัน
เสียงการฝึกดังระงมไปทั่วค่ายฝึกแห่งนี้ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งทีทำให้ไอ้ทองและเพชรตกใจ แต่มันเป็นเพราะ นายทหารทุกคนที่กำลังฝึกอยู่
ไม่มีเสื้อผ้าอาภารณ์ติดตัวแม้แต่ชิ้นเดียว นายทหารทุกคนล้วนแต่เปลือยกายกันทั้งนั้น แต่ละคนเนื้อตัวเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิวกายสีคล้ำไปทั่วตัว
เพราะต้องแก้ผ้าตากแดดฝึกอยู่ทุกวัน ควยของนายทหารแต่ละคนแกว่งไกวไปมา แต่ละคนถึงแม้ว่าจะควยไม่แข็งแต่ก็มั่นใจได้ว่า
แต่ละคนต้องควยใหญ่เป็นแน่นอน เหงื่อที่โทรมกายไหลผ่านเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามทำให้ไอ้ทองและเพชรมองไม่ละสายตา
" อย่างที่เห็น นายทหารในค่ายฝึกนี้จะไม่มีใส่อาภรณ์อันใด ทหารทุกนายล้วนแต่เปลือยกายฝึกทั้งนั้น " ขุนเดชพูดขึ้น
พร้อมทั้งพาไอ้ทองและเพชรเดินไปที่เพิงไม้ไผ่
" พวกมึงสองคนนอนที่เพิงแห่งนี้ "
" ไม่มีมุ้งผ้าห่มหรือขอรับท่านขุนศึก " เพชรถามขุนเดช
" ไม่มี พวกมึงต้องฝึกความแข็งแกร่งของร่างกาย ให้อดทนกับความร้อน ความหนาว เพลาพวกมึงออกสอดแนมลำบากกว่านี้โข "
" เอ็งนอนที่ใดรึไอ้จ้อย " ไอ้ทองถาม
" ข้านอนที่เรือนไม้ ข้าต้องคอยรับใช้ท่านขุนศึก แต่พวกเอ็งไม่ต้องกังวล ที่เพิงนี้ไม่มีมุ้งแลผ้าห่ม ที่บนเรือนก็ไม่มีเช่นกัน "
" ไอ้จ้อย มึงพาพวกมันไปดูรอบ ๆ ค่าย พามันไปกินข้าว อาบน้ำ แล้วจึงพามันขึ้นไปหาพวกกูที่บนเรือน " ขุนเด่นสั่งไอ้จ้อย
" ขอรับ "
แล้วขุนศึกพี่น้องก็เดินควยแกว่งไปที่เรือนไม้หลังใหญ่ ไอ้จ้อยจึงพาไอ้ทองและเพชรเดินดูรอบค่าย ผ่านโรงครัว บริเวณผัดเปลี่ยนเวรยาม
รวมทั้งลำธารที่นายทหารทั้งหลายใช้ในการอาบน้ำชำระร่างกาย ตอนนี้เป็นช่วงพลบค่ำ นายทหารที่ตรากตรำการฝึกทั้งวัน
แต่ละคนเต็มไปด้วยเหงื่อที่โทรมร่างกาย ฝุ่นดินและโคลนที่เปื้อนไปทั่วตัว กำลังทยอยกันมาอาบน้ำที่ลำธารด้านหลังเรือนของขุนศึก
" ไอ้จ้อย เอ็งพาทหารใหม่มารึ " ไอ้หมอก นายทหารหนุ่มเดินเข้ามาทักไอ้จ้อย
" อือ ไอ้ทอง ไอ้เพชร นี่ไอ้หมอก พึ่งมาฝึกที่ค่ายนี้ก่อนพวกเอ็งสัก 3 เดือนกระมัง "
ไอ้ทองเพ่งพิจารณาหุ่นของไอ้หมอกนายทหารหนุ่ม ดูจากท่าทางแล้วไอ้หมอกคงจะอยู่ในช่วงวัยเดียวกันกับไอ้ทองแลเพชร
ความสูงของไอ้หมอกไล่เลี่ยกับไอ้ทอง ร่างกายของไอ้หมอกถึงแม้จะไม่ได้กล้ามหนาเท่าไอ้ทอง แต่กล้ามของไอ้หมอกเอง
ก็แน่นและแข็งแกร่งจนเห็นเส้นเลือดไหลผ่านมัดกล้ามทั่วร่าง กล้ามท้องเป็นลอน และควยที่ห้อยยานยาวน่าเลีย
" ไอ้หมอกอยู่เพิงข้างพวกเอ็งสองคน หากเอ็งมีคำถามก็ถามมันได้ "
" ถ้าเช่นนั้น ข้าไปอาบน้ำก่อนนะ " ไอ้หมอกกล่าวลาแล้วเดินจากไป
ส่วนไอ้ทอง เพชร และไอ้จ้อย ก็เดินขึ้นไปหาท่านขุนศึกทั้งสองบนเรือนไม้หลังใหญ่
" พวกมึงอยู่ที่นี่ ฝึกเสร็จคงใช้เวลาแรมปี " ขุนเด่นพูดกับทหารใหม่ทั้งสอง
" ขอรับ "
" กูมีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกพวกมึงทั้งสอง เรื่องการฝึกความอดทนของค่ายนี้... พวกมึงรู้ใช่หรือไม่ว่าการฝึกความอดทนทำเช่นไร" ขุนเดชพูด
" พวกข้ารู้ขอรับ " ไอ้ทองพูดขึ้น
" ดี... การฝึกความอดทนที่ค่ายแห่งนี้ ไม่มีคำว่ายศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่มีคำว่าพี่น้อง ทุกคนคือนายทหารเท่าเทียมกัน
มึงฝึกความอดทนให้กูได้ แต่สิ่งที่มึงต้องทำคือ ประลองให้ชนะ นายทหารที่มึงอยากฝึกความอดทน หากมึงชนะมึงจักได้ฝึกความอดทน
ให้กับนายทหารผู้นั้น แต่หากมึงแพ้มึงต้องโดนนายทหารผู้นั้นฝึกความอดทน " ขุนเดชอธิบาย
" หากข้าประลองชนะท่านขุนศึก ข้าจักได้ฝึกความอดทนให้ท่านขุนศึกจริงๆหรือขอรับ " เพชรเอ่ยถามขึ้นอย่างสนใจ
" จริง มึงคิดว่ามึงจักชนะพวกกูงั้นรึไอ้เพชร " ขุนเด่นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เริ่มมีอารมณ์
" ข้าขอฝึกฝีมือ ข้าจักลองดูสักคราขอรับ "
" ได้ แต่ในวันนี้พวกมึงต้องโดนกูสองคนฝึกความอดทนเสียก่อน ตามธรรมเนียมการรับทหารใหม่ " ขุนเดชพูดขึ้น
พร้อมกับเดินควยแกว่งมาหาไอ้ทองที่นั่งคุกเข่าอยู่....
........................................
ติดตามตอนเก่าได้ที่นี่ครับ
จะอดทนอดกลั้นกันไหวหรือเนี่ย แกว่งไกวไปมา มันต้องมีฉากรับน้องฝึกความอดทนโดยมีนายทหารรุ่นพี่ทุกคนฝึกให้ อิอิ ว้าวๆ ชอบตรงที่ทุกคนไม่ต้องใส่อาภรณ์ใดๆนี่หล่ะครับ มันสุดยอดมาก…555 :)
โดนรับน้องใหม่แล้วโว้ย รอดูลีลา ขอบคุณมากครับ ... เสียวเลย ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากนะครับ{:5_130:} ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ ครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณนะฮะ ขอบคุณคับ ดีงามน่าเข้าค่าย ค่ายฝึกคงสนุกแน่ ขอบคุณขอรับเอ ติดตามอย่างต่อเนื่อง ขอบคุณครับ รอต่อครับ ขอบคุณครับ