ผมคิดแผนสนุกๆยังไม่ทันจะเสร็จเลยคับพี่วิทแกก็ก้าวขาขึ้นเบาะมอไซต์ซ้อนท้ายผมแล้วก็สวมกอดผมจากทางด้านหลังทันทีมันทำให้ผมเนี่ยรู้สึกอุ่นขึ้นมากๆ.... ( โอ๊ยคุณคับผมปลื้มใจกับพี่วิทสุดๆคับแอบยิ้มดีใจที่พี่วิทแคร์มากขนาดนี้ )... เดี๋ยวก็มีคนเขามาเห็นหรอกพี่ปล่อยผมได้แล้ว! ผมยอมพูดแล้ว...
พี่วิทกอดแน่นเข้าไปอีก... เห็นก็ช่างเขาสิก็โอเป็นเมียพี่ทำไมพี่จะกอดเมียตัวเองไม่ได้ล่ะ! พี่วิทตอบ... พี่วิทเดี๋ยวคนมาเห็นเข้าเราจะยุ่งเอาน๊ะ!! ผมเสียงแข็งขึ้นกว่าเดิม... ถ้าโอยังไม่หายโกรธพี่ๆก็จะไม่ปล่อย...พี่วิทพูด... ผมหายโกรธพี่แล้วคับ แต่! ถ้าพี่ยังไม่เอามือออกไปผมก็จะโกรธใหม่และก็จะขับรถหนีไปให้ไกลเลย...ผมตอบ. ไม่นานพี่วิทแกก็ปล่อยมือออกไป และโชคดีมากที่ไม่มีใครขับรถผ่านมาเลยซักคัน สวรรค์เป็นใจมากๆ
หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมีอยู่ครั้งหนึ่งผมได้คุยเรื่องความหลังกับพี่วิทในเรื่องเก่าๆ แล้วคำบอกเล่าที่ได้จากเหตุการณ์นี้คือ... ที่พี่วิทแกเข้ามากอดผมน่ะก็เพราะแกหนาว 555 ทำเอาผมไม่พูดกับแกในวันนั้นทั้งวันเลย แต่คิดอีกทีมันก็ถูกของแกน๊ะเพราะแกเล่นถอดเสื้อให้เราแล้วแกก็ต้องรู้สึกหนาวสิ รึเปล่า? 555 ผู้เขียนคาใจกับตัวเอง )
พี่วิทต่อสายให้ผมได้คุยกับแม่( เนื้อหาที่คุยโทสับกับแม่... ผมจำได้บางส่วนแค่ว่า...คืนวันนั้นผมตอบปฏิเสธแม่ที่จะกลับไปนอนบ้าน เพราะโกรธและกลัวพ่อจะฆ่าทิ้ง...แม่ถามผมว่าแล้วผมจะไปนอนไหน ผมก็บอกว่าจะไปเปิดห้อง นอนในม่านรูดน่ะแหละ แม่ผมเลยโวยวายใหญ่จนพี่วิทแกต้องรีบออกปากรับอาสาดูแลให้ผมไปนอนที่บ้านแก แม่ผมถึงสบายใจและยอมวางโทรศัพท์...
... ยังหนาวอยู่รึเปล่า? ร้ายน๊ะเราตัวแค่นี้น่ะ! ห๊ะ! ห๊ะ! ... พี่วิทแกพูดไปด้วยเอามือมาขยี้บนหัวผมไปด้วย... ผมโตแล้วน่ะพี่!... ผมตอบพี่วิทเสียงแข็ง... ตอบพี่แบบนี้งั้นคืนนี้ก็ไปนอนม่านรูดเลยไป.... พี่วิทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทะเล้น... เอ่อ! ก็ได้ไปก็ไปว่ะ! ( ต่อมฮอร์โมนน้อยใจเริ่มทำงาน ) เฮ้ย! พี่พูดเล่น อย่าโกรธกันน๊ะ น๊ะๆๆๆ พี่วิทพูดทำหน้าทำตาตลกๆจนผมอดหัวเราะแกไม่ได้...
( พี่วิทให้ผมใส่เสื้อแจ็คเก็ทแล้วก็ขับมอไซต์มุ่งหน้าไปโรงพักเพื่อเอารถไปคืนก่อนแล้วค่อยกลับบ้านด้วยมอไซต์พร้อมกันกับผม...ผมมาถึงโรงพักแล้วจึงรู้ว่า หลังเลิกงานราวๆ6 โมงเย็นกว่าของพี่วิทนั้นแกวุ่นวายและเหนื่อยกับการประสานงานกับเพื่อนตำรวจคนอื่นๆและสถานีตำรวจอื่นๆเพื่อตามหาตัวผมคนเดียวจนตอนน้องยังไม่ได้พักผ่อน ยังไม่ได้อาบน้ำทานข้าวเลย ผมมองนาฬิกาตอนนั้นก็จะเที่ยงคืนอยู่แล้ว มองดูพี่วิทแล้วก็รู้สึกผิดกับตัวเองที่ทำให้แฟนต้องมาลำบาก )...
คืนนั้น...หลังจากที่ขับมอไซต์ออกมาจากโรงพักกับพี่วิทแล้วเราก็มุ่งหน้าไปตลาดโต้รุ่งทันทีเพราะพี่วิทแกหิวข้าวมาก ( พี่วิทเป็นคนขับคับส่วนผมนั่งซ้อนเหตุเพราะพี่วิทจะพาผมไปร้านเจ้าประจำของแก )...อาหารสุดโปรดในร้านนี้ของพี่วิทก็คือ "กระเพราไก่ไข่ดาวสุกๆ"
...พี่แกบอกว่ามันเป็นอาหารที่ง่ายๆสิ้นคิดน๊ะแต่ว่าหาคนที่ทำแล้วให้มันรสชาดอร่อยโดนใจน่ะมันหายาก "พี่เนี่ยลองกินมาทุกๆร้านแล้ว สรุปร้านนี้อร่อยสุด" ( พี่วิทกินไปพูดไป )...ส่วนผมก็นี่เลยครับอากาศเย็นๆในตอนนั้นมันชวนให้อยากกิน "ก๊วยเตี๋ยวร้อนๆ" ...
คืนนั้นพี่วิททานข้าวกระเพราไก่ของแกเสร็จแล้วพี่แกก็ต่อท้ายด้วย "ก๋วยเตี๋ยว" เหมือนผมอีกชาม ( คงจะหิวจัดน่ะคับ )...ในร้านตอนนั้นมีโต๊ะผมกับพี่วิท และ ลูกค้าคนอื่นๆอีก 5-6 โต๊ะเห็นจะได้... เลยทำให้มีลูกค้าผู้หญิงรวมถึงเด็กเสริฟภายในร้านพากันแอบมองพร้อมๆกับการแอบส่งสายตาหวานๆให้ผมกับพี่วิทที่กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่
ผมจำได้ว่ามีน้องเด็กเสริฟคนหนึ่งที่เธอแสดงอาการกับผมสุดๆ ( คือน้องเขาเดินไปไหนพอหยุดก็แอบหันกลับมามองผม... ไปเคลียร์โต๊ะลูกค้าก็แอบหันกลับมามองผมอีก เป็นอย่างนี้เรื่อยๆ ) ... พี่วิทแกเห็นอาการของสาวน้อยคนนั้นที่แอบมองผมอยู่บ่อยๆ...แกก็เลยพูดแซวผมเล่นๆว่า... เฮ้ยโอ! ลองจีบดิ! สาวเขาสนเว้ยเฮ้ย! 55555 เสียงแกหัวเราะ... อ้าวพี่! บ้าป่าว! ผมรีบตอบ แก้ความเขิน ( พี่วิทแกเห็นอาการของผมที่ผมอายสาว แกก็ยิ้มและก็หัวเราะชอบใจใหญ่ พอนึกกลับไปแล้วมันก็เป็นความน่ารักของพี่วิทจริงๆ ที่ชอบล้อผมอยู่เป็นประจำ )...
...( ตัดเรื่องสาวคนนั้นทิ้งไปคับ ) ผมเสนอตัวเป็นเจ้ามือในการจ่ายค่าอาหารมื้อดึกของเรามื้อนั้นเพราะรู้สึกผิดที่ทำให้พี่วิทต้อง อดข้าวและต้องเหนื่อยที่ตามหา แต่พี่วิทกลับปฏิเสธและขอเป็นเจ้าภาพแทน ผมเองก็โวยวายอะไรมากไม่ได้เพราะขณะนั้นมีสาวๆกำลังแอบมองเราทั้งคู่ที่ถกกันเรื่องใครจะเป็นคนจ่ายค่าข้าวอยู่( คือผมกลัวว่าอาการ พ่อแง่แม่งอนของเราทั้งคู่มันจะเกิดขึ้นน่ะคับ )
|