เรื่องราวของเจ้าเติร์ก 13 (ลอง)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Elenai เมื่อ 2019-10-30 23:33เนื้อหาในตอนที่ 12 ตามลิงค์ http://www.g4guys.com/forum.php? ... 8021&fromuid=155129
“พี่เติร์ก!!พี่บิว!!”เจ้าบอลยืนมองพี่ของมันที่นั่งก้มหน้าเอาลิ้นเลียวนๆที่หัว K เจ้าเติร์กอยู่ที่ขอบเตียงอย่างเมามันเจ้าบอลที่ยืนดูอยู่มันถึงกับหวนนึกถึงตอนที่มันดูดอมท่อนลำของเฟิร์สขึ้นทันใดรสสัมผัสหัว K ของเฟิร์สที่เบ่งบานอยู่ในปากของเจ้าบอลตอนที่มันได้ดูดอมในครั้งนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของมันซ้ำไปมาทำเอาเจ้าบอลถึงกับกลืนน้ำลายไปหลายต่อหลายอึกจนมันเกิดความรู้สึกอยากจะทำแบบพี่ชายของมันบ้างมันเลยสู้หายใจยาวๆพร้อมกับจ้องมองไปที่เจ้าบิวกับเจ้าเติร์ก เจ้าบอลตั้งสติรวบรวมความกล้าของมันพร้อมกับพยายามยกขาซ้ายที่สั่นเทาของมันก้าวเดินออกจากหลังตู้เสื้อผ้าแต่ทันใดนั่นเอง “บิว บอล!!” เสียงเรียกพร้อมกับเสียงฝีเท้าของน้าเอมดังขึ้นมาจากทางบันไดเจ้าเติร์กถึงกับตกใจจนมันรีบเอามือทั้งสองดันหัวเจ้าบิวที่กำลังก้มๆดูด K ออกจากเป้ากางเกงพร้อมกับรีบเก็บท่อนลำใหญ่ๆของมันเข้ากางเกงอย่างรวดเร็วส่วนเจ้าบิวเองก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างอะไรจากเจ้าเติร์ก มันรีบยกเอาแขนเสื้อมาปาดเช็ดน้ำลายที่ปากไปมาพร้อมกับเงยหน้ามองเจ้าเติร์ก“เสียงแม่!!อะพี่เติร์ก”“อะ อืม พี่ว่าพอแค่นี้ก่อนบิว”“ค๊าบพี่เติร์ก น่าเสียดายบิวอมกำลังเพลินปากเลยนะค๊าบ” เจ้าเติรืกยิ้มเจือนๆใส่เจ้าบิว “อืมๆพี่ว่าบิวรีบกลับห้องก่อนดีกว่า เดี๋ยวแม่จะสงสัยเอาน่ะ” “ค๊าบพี่เติร์กพรุ่งนี้บิวขอทำต่ออีกนะค๊าบบบพี่เติร์ก” “แหมบิวได้คืบจะเอาศอกเลยนะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันครับ” เจ้ายิ้มถึงกับยิ้มกว้างและโน้มตัวรีบสวมกอดเข้าที่เอวของเจ้าเติร์กไว้มั่น“ฝันดีค๊าบพี่เติร์ก” ทันทีที่มันพูดจบเจ้าบิวรีบพาตัวของมันลงจากเตียงและเดินไปเปิดประตูออกจากห้องไปทันทีส่วนเจ้าเติรืกไม่รอช้ามันรีบพาตัวเองดิ่งตรงไปยังห้องน้ำทันควันเจ้าบอลที่ยืนตัวสั่นเทาแอบอยู่หลังตู้เสื้อผ้าทันทีที่มันได้ยินเสียงเปิดกีอกน้ำดังขึ้นในห้องน้ำ ซ่าๆ มันค่อยๆชะโงกโผล่หัวมาเหลียวมองซ้ายมองขวาไปมาครู่ใหญ่เมื่อไม่มีสิ่งใดผิดปกติ มันจึงค่อยๆย่องสามขุมออกจากห้องของเจ้าเติร์กไปอีกคนภาพจากเหตุการณ์ที่มันได้เห็นเมื่อครู่ทำให้ เจ้าบอลถึงกับนอนครุ่นคิดเกี่ยวกับการกระทำของเจ้าบิวกับเจ้าเติร์กวกไปวนมาอยุ่แบบนั้นทำเอามันถึงกับนอนไม่หลับเกือบทั้งคืนจนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นเวลา 7.12 น. ในขณะที่เจ้าเติร์กน้าเอม บิวกับบอล กำลังนั่งทานข้าวเช้าอยู่ที่โต๊ะกินข้าวอาปลื้มเดินตรงเข้ามานั่งข้างๆน้าเอมที่กำลังนั่งจิบกาแฟไปพลางกดโทรศัพท์ไปพลาง“เอม เดี๋ยวอาทิตย์หน้าทั้งอาทิตย์นี้พี่จะไปลงไปเพชรบุรีนะเมื่อคืนพี่หาช่างที่จะตกแต่งภายในตัวตึกได้ล่ะว่าจะนัดไปดูงานและลุยงานกันให้เสร็จเลย” “อื้มถ้าได้แบบนั้นก็ดีไปเลยพี่ปลื้ม แล้วก็ตกลงราคาและทำสัญญากันให้เรียบร้อยด้วยล่ะจะได้ไม่ต้องมีปัญหาเหมือนช่างคนที่แล้วอีก น่าเบื่อ” เจ้าเติร์กที่นั่งๆฟังอยาถึงกับถามขึ้นมาด้วยความสงสัย“ตึกอะไรหรอครับอาปลื้ม น้าเอม” น้าเอมกับอาปลื้มถึงกับหันมองและยิ้มให้กัน“จริงสินะอากับน้าเอมก็ไม่ได้เล่าเติร์กฟัง คืองี้เติร์กอามีแผนที่จะขยายสาขาร้านไปเปิดที่เพชรบุรีเป็นสาขา 2 น่ะ อาเลยซื้อที่และสร้างตึกไว้เมื่อสองปีที่แล้วตอนนี้มันเหลือแค่ตกแต่งภายในตามแบบที่วางไว้ อาว่าจะเอาให้เสร็จปีนี้ให้ได้อาทิตย์หน้าอาเลยต้องพาช่างไปเก็บงานที่ค้างไว้ให้เสร็จ” “อืมมครับว่าแต่มันเป็นตึกแบบไหนครับอาปลื้ม” “แปปนะเติร์ก” อาปลื้มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเปิดรูปตึกให้เจ้าเติร์กดู “โหอา รูปทรงและดีไซน์สวยดีนะครับ อาร์ตดี ตึกสามชั้น 2 คูหา” “อาก็สร้างไว้ให้กับบิวกับบอลนั่นแหละอีกหน่อยโตไปจะได้แบ่งกันบริหารร้านคนละที่ไงก็อาทิตย์หน้าที่อาไม่อยู่นี้เติร์กก็อยู่เป็นเพื่อนกันกับน้าเอม บิว บอลนะถ้าเลิกเรียนไม่มีอะไรหรือไม่ติดงานอะไรที่โรงเรียนก็รีบกลับมาช่วยงานน้าที่ร้านหน่อยนะเติร์ก”“ได้ครับอาปลื้ม อาปลื้มเองก็ขับรถดีๆนะครับ” “บิว บอลอยู่กับแม่ก็อย่าดื้อล่ะและบิวเองก็ช่วยอะไรที่ร้านได้ก็ช่วยบ้างนะบิวโตแล้วหัดงานไว้ซะบ้างจะได้ช่วยแม่แบ่งเบางาน” “ค๊าบพ่อปลื้ม” “เอ่อเอม อาทิตย์หน้าพี่เอาฟอร์จูนเนอร์ไปนะเอมก็เอาสวิ๊ฟมาใช้ วันนี้ถ้าว่างให้บอกให้คนงานเอารถไปเช็คที่อู่ด้วยล่ะรถไม่ได้ขับนานเผื่อมีปัญหาจะได้แก้ทัน” “จ๊ะพี่เดี๋ยวถ้าไอ้หลิงมันมาวันนี้น้องจะบอกมันให้” อาปลื้มพยักหน้าขานรับก่อนที่จะลุกขึ้นจากโต๊ะกินข้าวและเดินไปที่หน้าร้าน เวลา 10.30น. ในขณะที่เจ้าเติร์ก เตอร์ และแป๋มกำลังนั่งเล่นเฟสเช็คไลน์ อยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าร้านสหการโรงเรียน ช่วงพักเบรก 10 นาทีอยู่นั้นเอง “เห้ยไอ้หน้าหล่อ มึงกับหนิงตอนนี้เป็นไงบ้างวะ” “ก็คุยๆกันอยู่น่ะเชี่ยเตอร์ไมวะมึง”“โถ่นี่ยังคุยดูใจกันอยู่หรอวะชักช้านะมึงถ้ามึงไม่รีบ เดี๋ยวจะเสียไม้งามไปนะเว้ยไอ้หน้าหล่อ”เจ้าเติร์กถึงกับทำหน้างุนงงกับคำพูดของเตอร์ขึ้นมา“รีบ!! มึงนี่…ชอบพูดอะไรสองแง่สองง่ามนะมึง มึงจะบอกไรกูวะเชี่ยเตอร์มึงช่วยพูดให้มันเคลียร์ๆดิ๊” เตอร์ยักคิ้วและเอื้อมแขนกอดคอของเจ้าเติร์กไว้มั่น“มึงนี่ แม่งเข้าใจไรยากนักวะ กูก็หมายถึงมึงน่าจะลองหาโอกาสเย็ดหนิงบ้างดิวะสมัยนี้เค้าไม่มานั่งเสียเวลาคุยดูใจกันแบบเมื่อก่อนแล้วเว้ยมันชักช้า เดี๋ยวนี้นะมันต้องเย็ดมัดใจอย่างเดียวเว้ยไอ้หน้าหล่อ ถึงจะมัดใจสาวๆได้” เจ้าเติร์กถึงกับทำหน้าเจือนและขยับตัวถอยห่างออกมาจากเตอร์ “โห่เชี่ยเตอร์ คำแนะนำมึงแต่ล่ะอย่างนี่ แม่งงงโครตแมนสุดๆว่ะคือกูเองก็ไม่ได้เป็นคนอย่างงั้นป่าววะที่จะรักเพื่อหวังเย็ด”“โถ่ๆ ไอ้หน้าหล่อมึงก็อย่างเพิ่งตีโพยตีพายไปก่อนซิวะนี่กูอุตสาห์บอกทางลัดมัดใจสาวให้มึงเลยนะเว้ย”“พูดยังกะมึงเคยทำเชี่ยเตอร์”“ก็เออดิวะไอ้หล่อหน้าก็เพราะกูเคยทำแล้วแม่งได้ผลไงกูเลยมาแนะนำมึงเนี่ย” เจ้าเติร์กยิ้มและส่ายหัวไปมา“อืออออ ขอบใจมึงล่ะกันแต่กูว่าแบบเดิมยังจะดีกว่าเยอะถึงจะชักช้าแต่ก็ได้พร้าเล่มงามว่ะ” เตอร์ถึงกับยกมือไหว้ “สาธุ ขอสมพรปากมึงล่ะกันเพี้ยงงงง” ทันใดนั้นเองแป๋มที่นั่งอยู่ตรงข้ามทั้งสองถึงกับกระแอมเสียงขึ้นมา“ฮะแฮ่มม ดีจร้า เรานั่งอยู่ตรงหน้าพวกมึงนี่อีกคนนะ มึงสองคุยไรแต่ล่ะอย่างนี่แม่งโครตเกรงใจ้เกรงใจเราสุดๆ เราก็ผู้หญิงนะเว้ย ชวนร่วมวงสนทนาบ้างดิจ๊ะ” “โอ้โหแหะพูดเหมือนจะดูดีนะแป๋ม แต่!!ไม่ได้เว้ยเพราะนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของผู้ชาย” “คงส่วนตัวแบบสุดๆไปเลยเนาะเตอร์ขนาดเรานั่งอยู่หน้าพวกนายสองคนยังได้ยินชัดแจ๋วซะขนาดนี้ เฮ้ยพวกมึงนะเนาะ เอ่อเดี๋ยวเราจะไปซื้อชานมไข่มุกที่สหการนะพวกนายสองคนจะเอาไรไหมเติร์ก เตอร์”“เราขอไอซ์ทีแก้วเล็กล่ะกันแป๋ม” “โอเค แล้วมึงล่ะเตอร์จะเอาไร” เตอร์นั่งคิดไปมาก่อนที่จะเงยหน้าตอบแป๋ม “กูว่า….กูขอไปดูที่สหการกับมึงดีกว่าแป๋ม เผื่อมีอย่างอื่นที่กูอยากกินด้วย” “กวนตีนนะเตอร์ ถ้าจะไปกับเราไมมึงไม่ลุกแต่แรกวะ จะมานั่งคิดทำไมปะปะลุกลุก เติร์ก เฝ้าของอยู่นี่นะ อย่าลุกไปไหนล่ะ” “เอิ่มๆๆไม่ไปไหนหรอก รีบไปรีบมา เดี๋ยวจะเข้าเรียนแล้วเนี่ย” หลังจากที่เตอร์กับแป๋มเดินจากไปทิ้งให้เจ้าเติร์กนั่งรอและเฝ้าของอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนอยู่คนเดียวนั่นเองเจมส์ที่กำลังเดินถือถุงขนมกับขวดชาเขียวมาจากทางไปร้านสหการทันทีที่มันเห็นเจ้าเติร์กอยู่แต่ไกล “พี่เติร์กนินั่งอยู่คนเดียวด้วย!!” เจมส์มันถึงกับยืนนิ่งไปครู่ใหญ่ก่อนที่มันจะค่อยๆเดินอ้อมไปยังศาลาไม้ที่ตั้งห่างจากจุดที่เจ้าเติร์กนั่งอยู่ไป10 เมตรเจมส์ค่อยๆนั่งลงพร้อมกับหยิบขนมจากซองขึ้นมาทานและทอดสายตามองเจ้าเติร์กที่กำลังก้มหน้าก้มตาดูโทรศัพท์อยู่แต่ไกลเจมส์นั่งมองเจ้าเติร์กพร้อมกับครุ่นคิด “พี่เติร์กนั่งอยู่คนเดียวซะด้วยเราจะทำไงดีนะ จะเข้าไปทักพี่เติร์กดีไหมนะ ไม่เอา แบบนั้นต้องไม่เวิร์ดแน่ๆ เกิดเราเดินเข้าไปนั่งคุยแล้วถ้าพี่เติร์กลุกหนีเราไปล่ะอืมมมแต่ถ้าเป็นงั้น อย่างน้อยขอให้เราได้คุยหรือได้ยินเสียงพี่เติร์กก็ยังดี เราจะเข้าไปดีไหมนะเจมส์ มึงจะทำไงดี” เจมส์ก้มหน้าง่วนคิดวกไปวนมาอยู่แบบนั้นได้พักใหญ่จนมันเหลือบมองถุงขนมที่มันซื้อมาวางอยู่ข้างๆตัวมัน “รู้แล้วเราเอาขนมไปให้พี่เติร์กดีกว่า จะได้ชวนพี่เติร์กคุยด้วย แต่ถ้าพี่เติร์กไม่ยอมคุยกับเราล่ะจะทำไงดีช่างมัน อย่างน้อยขอให้เราได้คุยกับพี่เติรืกสักนิดก็ยังดี”เจมส์ที่นั่งครุ่นคิดถึงกับตัวสั่นขึ้นมาเบาๆกระนั้นมันหยิบขวดชาเขียวมายกดื่มและรวบรวมความกล้าก่อนที่จะมันลุกขึ้นและถือถุงแซนวิสฟาร์มเฮ้าส์ในมือไว้มั่นพร้อมกับก้าวเดินออกจากศาลาดิ่งตรงไปยังโต๊ะหินอ่อนที่เจ้าเติร์กกำลังนั่งอยู่ จิตใจของเจมส์มันรู้สึกทั้งกล้าๆและกลัวๆไปพร้อมๆกันถึงกระนั้นมันก็ยังคงพยายามคุมสติของมันไว้ให้นิ่งและเดินตรงไปหาเจ้าเติร์กหัวใจมันเต้นสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะดีความดีใจและตื่นเต้น ทำเอามือไม้และขาทั้งสองข้างของมันสั่นเทาไปด้วยเช่นกันในขณะที่เจมส์กำลังจะถึงตัวของเจ้าเติร์กนั่นเองจู่ๆมันก็ต้องหยุดชะงักยืนนิ่งเป็นหุ่นไล่กาเพราะสายตาของมันดันไปเห็นแป๋มกับเตอร์ที่เดินถือแก้วชานมไข่มุกเดินตรงเข้ามาเจมส์ถึงกับชักสีหน้าด้วยความผิดหวังและเสียดายพร้อมกับเอ่ยปากพูดขึ้นมาเบาๆ “พี่เติร์ก ผมคิดถึงพี่นะครับ” มันยืนมองเจ้าเติร์กจากทางด้านหลังด้วยสายตาที่อาลัยอาวรณ์ชั่วครู่ก่อนที่จะมันรีบเดินหลบไปทางอื่นอย่างรวดเร็วแป๋มที่เดินเข้ามาพร้อมกับเตอร์ทันทีที่ทั้งสองมาถึงที่โต๊ะหินอ่อน แป๋มรีบยื่นแก้วชาเย็นให้กับเจ้าเติร์ก “อะนี่ของนายที่สั่งไว้ และก็อย่าลืม 40 บาทเอามาด้วย”เจ้าเติร์กยิ้มพร้อมกับหยิบกระเป๋าตังขึ้นมา “โอเคโอเค อะนี่ 40 บาท หืมมม เห็นสวยๆแบบนี้นี่สายทวงตื้อเหมือนกันนะเนี่ย”แป๋มถึงกับเชิดสะบัดหน้า “ชิชะ พูดผิดพูดใหม่ได้นะเติร์ก สายทวงตื้อที่ไหน ต้องบอกว่าเราน่ะ สวยใสเที่ยงตรงสิจ๊ะถึงจะถูก” เตอร์ถึงกับก้มมากระซิบข้างหูของเจ้าเติร์ก “เพราะแบบนี้สินะ ถึงไม่มีใครมาจีบซะที มึงว่าปะไอ้หน้าหล่อ”แป๋มรีบเดินตรงเข้ามาหาทั้งสอง “เอ๊ะ เอ๊ะสองคนนี้กระซิบอะไรกัน ให้เราเผือกด้วยคนซิจ๊ะ” “เอ่อๆ ไม่มีไรหรอกอย่าใส่ใจเลยแป๋ม” “แน่ใจว่าไม่มีไรเตอร์แต่สายตานายมันฟ้องนะ” เจ้าเติร์กรีบพูดตัดบทขึ้นมา “อืมมมแป๋ม แป๋ม คือ งานวันเกิดหนิงที่จะถึงนี้น่ะ แป๋มไปด้วยใช่ปะ”“แน่นอนซิจ๊ะเติร์ก งานปาร์ตี้สนุกๆแบบนั้นใครมันจะพลาดได้ล่ะจ๊ะ ว่าแต่ถามทำไมหรออย่าบอกนะว่าหนิงก็ชวนนายไปด้วยอีกคนเติร์ก” “ก็…อะอื้มม”เตอร์ที่ยืนอยู่ข้างๆถึงกับหน้าหว๋อ “ซุ่มนะมึงไอ้หน้าหล่อ ไหนว่าแค่คุยไงวะ” “พูดไรของมึงเนี่ยเชี่ยเตอร์กูก็คุยกับหนิงจริงปะ” “เออแต่มึงไม่แปลกใจหรอวะที่หนิงเค้าตั้งใจชวนมึงที่เป็นผู้ชายแค่คนเดียวไปร่วมงานวันเกิดกูว่านะจริงๆแล้วหนิงมันอาจจะมีไรมากกว่านั้นก็ได้นะเว้ย” “พอเลยเชี่ยเตอร์มึงนี่คิดไปไกลล่ะ หนิงมันไม่ได้ชวนกูคนเดียวเว้ย แต่เห็นหนิงบอกกูว่าชวนไอ้ตี๋กับ ไอ้เจต ไปด้วย พอใจมึงยังเชี่ยเตอร์ หรือว่ามึงจะไปร่วมงานกับกูด้วย” เตอร์รีบส่ายหัวทันที “อือออออ ไปไมวะ หนิงเค้าชวนมึงแต่ไม่ชวนกูสักหน่อยอีกอย่างวันเกิดหนิงว่าที่ มันดั้นตรงกับวันนัดทานข้าวนอกบ้านของกูกับเฟย์พอดีดังนั้นโชคดีนะมึงไอ้หน้าหล่อ กูแนะนำนะไปงานแบบนั้นทั้งทีน่ะกินแค่เค้กของเจ้าภาพวันเกิดอย่างเดียวคงไม่พอแน่นอนวะ ฮ่าๆๆ”“มึงพอเลยเชี่ยเตอร์มึงอายพวกรุ่นน้องที่เค้าเดินไปมาแถวนี้มั้งดิวะ” เจ้าเติร์กรีบหันไปหาแป๋มที่กำลังนั่งดูดชานมไข่มุกจากแก้ว “แป๋ม คือเรามีเรื่องอยากถามไรนิดหน่อยน่ะ คือ ของขวัญวันเกิดหนิงน่ะเราไม่รู้จะซื้อไรให้หนิงดี แป๋มพอจะแนะนำอะไรเราได้มั้งไหมว่าเราควรซื้ออะไร” “แหมเติร์กจ๊ะของแบบนี้มันก็ต้องคิดเองดิมันถึงจะแลดูมีคุณค่าต่อผู้รับ” “เราก็คิดอย่างที่แป๋มว่าแหละแต่ คืออออ เออออ แบบว่า เอออ เรากลัวจะซื้อไปให้แล้วมันจะไม่ถูกใจหนิงน่ะช่วยแนะนำเราหน่อยแป๋ม นะนะ ขอล่ะ”“อืมๆจริงแล้วหนิงเค้าชอบโพนี่น่ะตั้งแต่สมัยอยู่ประถมล่ะ จนทุกวันนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนใจเลย” “โพนี่หรอ??ใช่ ที่มันเป็น ม้ามีเขาใช่ปะ ที่มีสีสันเยอะๆ” “ถ้าจะให้ถูก ต้องม้ายูนิคอร์นจ๊ะเติร์ก” “เออๆแล้วไงต่อแป๋ม” “ก็ไม่ยังไงนะ เราก็บอกที่เรารู้ไปหมดแล้วจากนี้ไปเติร์กก็ต่อยอดเอาเองล่ะกันเฮ้อออคนหล่อกับคนสวยนี่มัน….ของคู่กันจริงๆเลยนะ มึงว่าปะเตอร์เฮ้อเมื่อไหร่เราจะมีโมเม้นแบบนี้บ้างนะ ผู้ชายโรงเรียนนี้มันตาถั่วกันรึยังไงนะเราอุตสาห์แต่งตัวเริ่ดมาโรงเรียนทุกวันซะขนาดนี้” เตอร์ถึงกับอมยิ้มและแอบขำเบา “ขำไร??” “ป๊าวววว กูขำเด็กตรงโน่นนะพอดีกูเห็นมันเดินมาแล้วลื่นล้ม ปะไอ้หน้าหล่อ อีก 5 นาทีก็จะเข้าคาบ3 ล่ะ ปะปะ” วันศุกร์ที่ 31สิงหาคม เวลา 15.45 น.แป๋มเดินเข้ามาทักเจ้าเติร์กที่กำลังทำเวรห้องกับเพื่อนๆ“เติร์กจ๊ะ พร้อมหรือยังจ๊ะสำหรับปาร์ตี้วันนี้ต้องบอกเลยว่าวันนี้เนี่ยหนิงเค้าจัดเต็มแน่นอน” “โหนี่แป๋มนี่เล่นไปสืบเสาะมาแล้วรึไง แป๋มนี่รู้ละอียดยิ่งกว่าคนอื่นๆอีกนะเนี่ย” “มันแน่นอนอยู่แล้วเติร์ก ปาร์ตี้อาหารฟรี น้ำหวานฟรีโอ้ยยยทนไม่ไหวแล้ว” “อืม ฮ่าๆ แล้วงานเริ่มกี่โมงล่ะ” “แปปนะ เออ หนิงบอกว่างานเริ่ม 16.30 น.และรวดยาวจนถึง 19.00 น.”“ห๊ะ 16.30น. ไม่จัดเร็วไปหน่อยหรอแป๋ม เราว่า….งานมันเริ่มเช้าไปนะ”“คิดเหมือนเราเลยเติร์ก ก็ปีนี้เหมือนแม่ของหนิงไม่อยากให้งานเลิกดึกเหมือนปีแล้วที่ลากยาวจนถึงเที่ยงคืนปีนี้แม่หนิงเลยขีดเส้นให้เลิกไม่เกิน 19.00 น. แต่!!เรื่องเวลามันไม่สำคัญหรอกขอให้มีของกินดีๆ น้ำหวานฟรี และดนตรีสนุกๆแค่นั้นก็เพียงพอล่ะ”“โห่ย นี่ตกลงแป๋มจะไปร่วมงานวันเกิดหรือจะไปกินของฟรีในงานกันแน่เนี่ย”“มันก็ทั้งสองอย่างนั่นแหละเติร์กเกิดเป็นผู้หญิงทั้งทีมันต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่านะจ๊ะว่าแต่เติร์กเตรียมของขวัญวันเกิดให้หนิงล่ะยัง” “เตรียมแล้วแป๋มล่ะเตรียมยัง” “ไม่น่าถามระดับนี้แล้ว แล้วเติร์กซื้อไรให้หนิงหรอบอกเราได้ปะ” “เอ้ยยย ความลับเว้ย ไว้แป๋มลองถามจากหนิงเองล่ะกัน” “บอกเราหน่อยไม่ได้หรอ เราเพื่อนกันสนิทกันนะเติร์ก บอกหน่อยๆ”“อย่ากดดันเราเลยแป๋มเราอยากเก็บไว้เป็นเซอร์ไพร์ทน่ะหนิง” “โถ่เติร์กก็เอาเหอะนายก็รีบๆหน่อยล่ะกันเผื่อกลับไปเปลี่ยนชุดอีก” “เอ่อๆ แป๋ม แป๋ม เห็น ไอ้เจตกับไอ้ตี๋ไหมวะ เดี๋ยวกูว่าจะไปพร้อมกับพวกมันน่ะ” “โถ่เติร์กไอ้ 2 คนนั้นมันบากหน้าไปช่วยหนิงกับหยกเตรียมสถานที่ตั้งแต่บ่ายสามโน่นล่ะป่านนี้คงอยู่ที่บ้านหนิงแล้วแหละ รีบเลย เดี๋ยวไม่ทันการเจอกันที่งานล่ะ บายยยย” แป๋มโบกมืออำลาเติร์กและรีบก้าวเดินออกจากห้องไปทันที ทันใดนั่นเองเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เจ้าเติร์กดังขึ้นมา “น้าเอม!! ฮัลโหลครับน้าเอม” “เติร์กลูกวันนี้น้ารบกวนเติร์กไรอย่างได้ไหม” “ได้ครับมีเรื่องด่วนอะไรหรอครับน้าเอม” “คืองี้เติร์ก วันนี้น้ามาทำธุระที่โรงเรียนบิวน่ะตอนนี้ยังคุยธุระกันยังไม่เสร็จเลย น้ากลัวว่าจะไปรับบอลตอน 16.00 น. ไม่ทันน่ะไงน้าขอวานเติร์กช่วยไปรับบอลที่โรงเรียนแทนน้าหน่อยนะลูก” “แล้วน้าเอมกลับกี่โมงครับ?” “ถ้าเติร์กไปรับน้องได้น้าคงกลับสัก 18.00 นะเพราะเสร็จจากนี่น้าจะรวดไปทำธุระต่ออีกนิดน่ะ ไงเติร์กก็อยู่เป็นเพื่อนกับน้องน่ะแล้วก็กับข้าวอยู่ในตู้เย็นถ้าหิวก็กินกันก่อนเลยลูกไม่ต้องรอ” “เอิ่มมม น้าเอมครับ คือวันนี้คือผมมีนัดไปงานวันเกิดเพื่อนตอน 16.30 น. น่ะครับน้า”“อ้าาาา ทำไงดีล่ะเนี่ยเติร์กไม่สะดวกจริงๆหรอลูก” “ถ้าให้ผมไปรับบอลน่ะผมไม่ติดอะไรนะครับน้าเอม แต่ว่ามันติดที่ผมต้องไปวันเกิดด้วยนี่สิครับน้าเอมผมเป็นห่วงน้องน่ะครับถ้าให้น้องอยู่บ้านคนเดียว” “อืมมงั้นเติร์กไปเลทหน่อยได้ไหมลูกอยู่เป็นเพื่อนน้องก่อน น้าจะพยายามเร่งเวลาให้เสร็จก่อน 17.30 น. ได้ไหมลูก”“คืออย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้ผมนะครับน้า คืองานวันเกิดนี้เป็นงานวันเกิดของหนิงน่ะครับน้า และผมก็ไม่อยาก…… เอ่อเอางี้ดีไหมครับน้า ไหนๆผมก็ไปรับบอลแล้วไงผมขอพาบอลไปงานวันเกิดที่บ้านหนิงด้วยได้ไหมครับบอลก็จะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวด้วย และน้าเอมก็จะได้มีเวลาทำธุระที่ค้างคาด้วยครับน้า” “เห้ยยย ไม่ดีมั้งเติร์ก น้องยังเด็กนะพาไปงานที่มีแต่เพื่อนๆของเติร์กเป็นผู้ใหญ่แบบนั้น น้าว่ามันดูไม่เหมาะนะอีกอย่าง น้ากลัวน้องจะไปเป็นภาระให้กับเติร์กและก็คนที่งานด้วย”“ถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับน้าเอมคือในงานมีเพื่อนๆของผมที่บอลรู้จักอยู่ด้วยครับ ไงก็ช่วยๆกันดูแลน้องอยู่แล้ว” “แต่ถ้าพาน้องไปด้วยเติร์กจะก็อยู่ร่วมงานกับเพื่อนดึกๆไม่ได้นะ” “งานเลิก 1 ทุ่มครับน้าเอมคือแม่หนิงเค้าไม่อยากให้งานจัดถึงตอนดึกๆ เพราะแบบนี้งานมันเลยเริ่ม ตอน 16.30 น. ครับน้า อย่าห่วงเลยครับน้า ถือว่าได้พาบอลไปเปิดหูเปิดตาด้วย” “คือน้าเองก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นะแต่ถ้าเติร์กยืนยันแบบนี้ก็ตามนั้นล่ะกัน ไงดูน้องให้ดีๆด้วยล่ะเติร์กก็ถ้างานไม่มีไรถ้าพาน้องกลับก่อนได้ก็พากลับเลยนะลูกถือว่ารอบนี้ช่วยน้าหน่อยนะ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆน้าคงไม่รบกวนเติร์กแน่นอนลูก” “เอ้ย ไม่เป็นไรครับน้า ผมยินดีครับครับก็ถ้าน้าเอมมีไรโทรหาผมได้ครับ เอิ่มมไงผมขอตัวรีบทำเวรห้องให้เสร็จก่อนนะครับจะได้รีบไปรับน้องทัน” “จ๊ะเติร์กฝากด้วยนะ”หลังจากน้าเอมวางสายไปเติร์กเดินไปนั่งที่เก้าอี้พร้อมกับเอามือทั้งสองกุมขมับไว้ชั่วครู่พร้อมกับถอนหายใจยาวๆก่อนที่มันจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรไลน์หาหนิง “ฮัลโหลหนิงอืมๆเรายังอยู่ที่โรงเรียนนะเดี๋ยวสักพักจะออกไปล่ะ อืมมหนิงเรารู้นะว่ามันเป็นการถือวิสาสะไปหน่อยนะที่ทำแบบนี้ แต่เราคิดว่ามันเป็นทางออกที่ดีและง่ายที่สุดแล้วคือ ตะกี้น้าเอมโทรมาบอกเราว่าติดธุระแล้วจะให้เราไปรับบอลน้องของบิวน่ะ หนิงจำได้ใช่มะ อืมๆแล้วน้าเอมบอกว่าจะกลับค่ำด้วยคือถ้าเราพาน้องไปส่งที่บ้านเราก็จะต้องอยู่เป็นเพื่อนน้องรอน้ากลับบ้านตอน17.30 น. โน่นเราเกรงว่ามันจะดูไม่ดีน่ะถ้าไปเลทขนาดนั้น ถ้าเราไปรับบอลมาแล้วคือถ้าเราขอพาบอลไปอยู่กับเราที่งานบ้านหนิงด้วยนี่ หนิงจะโอเครึป่าว อืมๆๆ ห๊ะ!!พูดจริงดิ แน่ใจนะว่าหนิงโอเค อ่า อ่า ได้ ได้ โหไงขอบใจมากนะหนิงงั้น งั้นเอ่อ งั้นเราขอตัวก่อนนะเผื่อขับรถไปรับน้องด้วย อ่า อ่า เดี๋ยวเจอกันนะ” หลังจากที่หนิงวางสายไปเจ้าเติร์กถึงกับยิ้มด้วยความดีใจ “โอ้ โล่งใจ!! ไอ้เราก็คิดไปต่างๆนาๆ” หลังจากทำเวรหน้าเสร็จเจ้าเติร์กไม่รอช้ามันรีบคว้ากระเป๋าเป้สะพายหลังและเดินตรงไปยังโรงรถ ในขณะเดียวกันนั่นเองเจมส์ที่กำลังนั่งรอกลับบ้านอยู่โต๊ะประจำที่โรงอาหาร มันนั่งจ้องโทรศัพท์พร้อมกับกดสไลด์ดูรูปถ่ายคู่กับใครคนหนึ่ง “กูโครตคิดถึงมึงเลยวะ กูเข้าใจความรู้สึกที่มึงเคยเผชิญล่ะมันเป็นแบบนี้เองสินะ กูอยากจะเจอมึงอีกสักครั้งจังเลย” ไม่นานนักแคทเพื่อนทอมสาวของมันเดินเข้ามาทักเจมส์“เห้ยเจมส์ ยังไม่กลับอีกหรอมึง” “ยังแคทพี่เจนบอกให้กูอยู่รอก่อนน่ะ” แคทสังเกตเห็นสีหน้าเจมส์เหม่อๆและแววตาแฝงไปด้วยความเศร้า“เออ เจมส์ วันนี้ไปกินฮันนี่โทสต์กันไหมนี่อีดิวแม่งแจ้นไปจองที่โน่นล่ะ” “ไม่อะแคท เราไม่หิว” “งั้น เย็นนี้เราสามคนไปกันวิ่งหน่อยดีไหม ไม่ได้ออกกำลังกายนานล่ะเนี่ยพุงของมึงกับกูยื่นออกมาแล้วเนี่ย” เจมส์ยังคงนิ่งและจ้องโทรศัพท์อยู่แบบนั้น“ไม่อะแคท ไว้วันอื่นเหอะ” แคมที่เห็นสีหน้าและอาการของเจมส์แบบนั้นถึงกับถอนหายใจยาว “เฮ้อเจมส์ กูพูดตรงๆนะ มึงมีไรมึงก็บอกกูมะกูเห็นมึงเป็นแบบนี้แล้วกูไม่โอว่ะ มึงทำยังกะกูไม่ใช่เพื่อนของมึงตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วล่ะ มึงทั้งเย็นชาไร้ความรู้สึกถามคำตอบคำ มึงเป็นไรของมึงเจมส์” “ช่างเหอะอย่าสนใจกูเลยกูขออยู่คนเดียวได้ปะ” แคทถึงกับทำสีหน้าไม่พอใจพร้อมกับลุกขึ้นและเดินอ้อมไปหาเจมส์ทันที่ที่มันเห็นภาพในโทรศัพท์ที่เจมส์นั่งกำลังดูอยู่นั่นเอง แคทถึงกับนิ่งผงะไปอีกคน“เจมส์ นี่มึงยังนึกถึงมันอยู่อีกหรอ” “อืม เป็นไรไม่รู้ว่ะจู่ๆกูก็นึกถึงมันขึ้นมา” “แต่มึงจะนึกถึงมันอีกทำไมวะเรื่องมันก็ผ่านมาปีกว่าแล้ว กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าไม่ใช่ความผิดของมึง” “เออกูรู้ แต่มีบางสิ่งที่กูกับมันรู้สึกเหมือนๆกัน” “พอเถอะเจมส์ถึงดูไปก็ตรอกย้ำตัวเองซะเปล่า โอลาฟมันตัดสินใจของมันเองมึงก็อย่าคิดโทษตัวเองซิ” “ถ้าเรื่องนั้นกูทำใจได้นานล่ะ” “มึงนี่ซับซ้อนนะ เราไม่คุยเรื่องนี้ล่ะมึงเองก็เลิกจ้องโทรศัพท์แบบนั้นได้แล้ว มันไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอกเว้ยเงยหน้ามองความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้าดีกว่าเจมส์” เจมส์วางโทรศัพท์ลงและเงยหน้าจ้องแคทที่กำลังยืนมองมันอยู่ “อื้ม กูจ้องล่ะ แล้วกูก็เห็นทอมสาวคนหนึ่งยืนตรงหน้ากูตอนนี้” “เอ่อขอบใจมึงมากที่อุตสาห์ย้ำเตือนกูอื้มเจมส์จริงสิ ตะกี้ตอนเดินผ่านโรงรถกูเจอพี่เติร์กด้วยนะมึงกูเห็นพี่เค้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยแหละ สงสัยคงจะเจอเรื่องอะไรดีๆมาแน่” เจมส์ถึงกับเปลี่ยนสีหน้าบึ้งตึงเป็นรอยยิ้ม “จริงหรอมึงเห็นแบบนั้นจริงๆน่ะหรอ?” “ก็เอออะดิกูจะโกหกมึงไปทำไมล่ะวะ” “อืม ขอบใจมึงมากนะเว้ย”“เจมส์มึงเองก็สนิทกับพี่เติร์กนิหว่าไมมึงไม่ลองตีเนียนถามพี่เค้าดูล่ะว่าพี่เค้าชอบมึงเหมือนที่มึงชอบพี่เค้ารึป่าว”เจมส์ทำหน้าเจือนขึ้นมาพร้อมกับลุกขึ้นยืน“เฮ้ยยย มันไม่ง่ายอย่างงั้นหรอกแคท” แคททำสีหน้าครุ่นคิดพักใหญ่ก่อนจะหันไปมองเจมส์“เจมส์ ไม่รู้ว่ากูคิดไปเองหรือชอบเสือกกันแน่นะแต่วันนี้พี่สาวของกู พี่คินท์ มาเล่าให้กูฟังว่าวันนี้พี่หนิงมาชวนไปงานวันเกิดของพี่เค้าที่บ้านมึงว่าที่กูเห็นพี่เติร์กยิ้มๆวันนี้น่ะเป็นไปได้ไหมว่าที่พี่เติร์กจะโดนชวนไปด้วยอีกคน” เจมส์ถึงกับหน้าบึ้งตึ้งก่อนที่จะแสร้งทำเป็นยิ้ม “ไม่มั้งแคท มึงอาจคิดไปเองก็ได้อีกอย่างวันนี้พี่เคนกับพี่เจนเค้าก็ไม่ได้ออกไปไหนช่วงเย็นด้วยนะและถ้าเป็นจริงอย่างที่มึงว่าจริง อย่างน้อยกูก็ต้องได้ยินพี่เจนพูดถึงบ้างแหละ” “กูก็อยากให้มันเป็นอย่างที่มึงว่านะเจมส์แต่เมื่อวานตอนที่กูไปซื้อลิปมันกับเสื้อรัดอกที่ร้านเครื่องสำอางน่ะกูเห็นพี่เติร์กเดินถือของอะไรก็ไม่รู้ออกจากร้าน PG กิ๊ฟช็อปมาด้วยนะเว้ย มึงเองก็รู้ใช่ไหมว่าที่ร้าน PG กิ๊ฟช็อปน่ะเค้าขายของสำหรับพวกสาวๆวัยทีนกัน ถ้าพี่เติร์กเป็นผู้หญิงกูคงไม่ได้เอ๊ะใจอะไร แต่นี่พี่เค้าเป็นผู้ชายนะเว้ยประจวบกับวันนี้ก็เป็นวันเกิดของพี่หนิงด้วย มึงว่ามันไม่บังเอิญไปหน่อยหรอวะเจมส์มึงลองคิดดู” เจมส์ยืนนิ่งไปชั่วครู่พร้อมกับบีบกำโทรศัพท์ในมือไว้แน่นแคทที่ได้เห็นเช่นนั้นถึงกับรีบเดินไปสะกิด “เจมส์ เจมส์มึงโอเคนะ” “แคท มึงช่วยดูกระเป๋ากูหน่อยนะ คะคือกูปวดฉี่น่ะขอไปห้องน้ำแปป เดี๋ยวกูมา” “อะเอ่อ ได้สิ” ทันทีที่เจมส์ถึงมาห้องน้ำ มันเดินไปที่อ่างล้างหน้าพร้อมกับจ้องมองตัวของมันในกระจกมันเห็นวาวตาของมันแดงกร่ำพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มคลอเบ้าทั้งสอง “เราจะทำไงดี เราจะทำยังไงดีทำไมมันอึดอัดทรมาณใจอย่างงี้ด้วยนะเจมส์ค่อยๆทรุดตัวลงกับพื้นห้องน้ำก่อนที่จะร้องไห้ออกมา “ฮือ..ฮื..อ..ฮือ..ฮื..อ..ทำไมเป็นเราด้วยที่ต้องเจ็บแบบนี้ทำไมทุกคนที่เรารักต้องทำแบบนี้ด้วยกับเราด้วย….” เวลา 16.52น. เจ้าเติร์กขับรถมาจอดที่หน้าบ้านหนิงตามโลเคชั่นที่หนิงส่งมาให้โดยมีเจ้าบอลที่นั่งซ้อนท้ายมาพร้อมกับหันมองดูไปมาบริเวณรอบๆด้วยความตื่นเต้น“นี่บ้านเพื่อนของพี่เติร์กหรอคัฟมีต้นไม้เยอะจังเลยพี่เติร์ก” เจ้าเติร์กถอดหมวกกันน็อคออกและเอามือเสยผมไปมา “พี่ก็ว่าอย่างงั้นแหละบอลพี่เองก็เพิ่งเคยมาเห็นครั้งแรกเหมือนกัน” เจ้าบอลหันไปมองรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่หน้าบ้านหนิง “บอลว่าคนต้องเยอะแน่เลยพี่เติร์ก ดูจิคัฟมีรถจอดเยอะแยะเลย” “ช่างสังเกตนะเราน่ะ แต่ก็ใช่แหละบอล” ไม่นานนักเจตได้เดินออกมาทักเจ้าเติร์ก“เห้ยไอ้เติร์ก ทางนี้เว้ย มามาทางนี้ทางนี้กูกับไอ้ตี๋กำลังคิดว่ามึงขับรถหลงนะเนี่ย” “โห่ยระดับกูแล้วไอ้เจตไม่มีหลงแน่นอน” “งั้นก็ดีล่ะมามางานกำลังสนุกกันเลย เออแล้วนั่นพาเด็กที่ไหนมาด้วยน่ะ” “อืมลูกของน้าเอมชื่อบอลน่ะ ถ้าจะถามเหตุผลเดี๋ยวกูเล่าให้ฟังเรื่องมันยาววะ อะบอลนี่พี่เจต เพื่อนพี่เติร์กเองนะครับ” เจ้าบอลยิ้มทักทายพร้อมกับก้มหัวยกมือไหว้“หวัดดีคัฟพี่เจต” “สุดยอดวะเอาซะกูอายเด็กมันเลย นี่น้อง ถ้าจะไหว้ซะขนาดนี้นะ อีกหน่อยพี่แนะนำให้น้องลองไปประกวดมารยาทไทยดูนะบอลพี่ว่ารุ่งแน่นอน” บอลทำหน้างงทันใด “มานนคืออะไรหรอคัฟพี่ประกวดมารยาทไทย” เจ้าเติร์กหัวเราะขึ้นมาพร้อมกับเดินไปตบที่ไหล่ของเจตเบาๆ "ฮ่าๆๆระวังเจ้าหนูจาไมนะมึง ว่าแต่คนอื่นมากันเยอะยัง” “แน่นอนสิมึง มีทั้งเพื่อนเก่าของหนิงและก็เพื่อนห้องสามมึงก็ทำความรู้จักไว้น่าจะดีนะ เผื่อจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับหนิงเพิ่มเติมด้วย” “เดี๋ยวนะไอ้เจต นี่มึงรู้เรื่องที่กูกับหนิง…” “เอ่อ และก็อย่าถามว่ากูรู้จากไหน มึงก็น่าจะรู้ดีว่าในห้องมึงน่ะใครเป็นตัวปล่อยข่าว”“เอ่อๆ ก็รู้แล้วนินะ” “เอาน่าเติร์กในห้องสองมีแค่กูคนเดียวนะเว้ยที่รู้” “สาธุขอให้จริงอย่างที่มึงว่าเหอะ” “ปะ มึง เข้าไปในงานกัน ของกินกับของอร่อยเพียบเลยแหละรับรองถูกใจมึงแน่” เจตพาเจ้าเติร์กเดินกอดคอเข้าไปยังบ้านหนิงโดยมีบอลเดินตามหลังไปติดๆ ระหว่างที่เจ้าเติร์กเดินผ่านสนามหน้าบ้านหนิงไปพร้อมกับเจตและบอลนั่นเองสายตาหลายต่อหลายคู่ของเพื่อนๆหนิงที่กำลังนั่งจับกลุ่มดื่มน้ำหวานกันหรือแม้แต่ที่ยืนจับกลุ่มคุยกัน 2 – 3 กลุ่มอยู่ใต้ต้นไม้สนามหน้าบ้านต่างพากันจับจ้องมาที่เจ้าเติร์ก ทำเอาเจ้าเติร์กถึงกับประหม่าจนมันได้แต่ยิ้มทักทายทุกๆคนที่มองมาที่มันด้วยความเขินอาย “ไอ้เจต ทำไมทุกคนต้องมองมาที่กูแบบนั้นด้วยล่ะวะแบบนี้กูรู้สึกยังไงๆไม่รู้วะ” “สัดเติร์ก ถามมาได้เนาะก็มึงออร่าหล่อมาแต่ไกลซะขนาดนั้น เป็นใคร ใครจะไม่อยากมองมึงบ้างวะอันที่จริงนะกูว่ามึงควรดีใจด้วยซ้ำ มึงดูกูนิแม่งมาแต่เริ่มงานล่ะยังไม่มีใครมองกูแบบที่มองมึงเลยสักคนแม่งโครตเฟลสุดๆอะ” “เห้ยใจเย็นๆเว้ย มึงลองทำไรแจ่มๆหน่อยสิแบบที่มึงชอบทำตอนอยู่โรงเรียนน่ะ กูว่าแบบนั้นน่าจะเวิร์ดนะมึงไอ้เจต” “เออ น่าสนวะ แต่มันติดอยู่ที่ว่ากูไม่มีแนวร่วมที่จะทำด้วยนี่อะดิมึงสนใจจะเป็นแนวร่วมกูไหมวะไอ้เติร์ก” “อะอ่าขอผ่านวะไอ้เจต ถ้าจะให้ทำไรแบบนั้นนะ กูว่ากูอยู่เฉยๆแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วแหละ ว่าแต่เจ้าภาพงานอยู่ไหนเนี่ยมึงเห็นหนิงปะ”“แหมๆเพิ่งมาถึงไม่ทันไรก็ถามหาเมียเลยน้าาาาสุดหล่อ”เจ้าเติร์กถึงกับรีบเอาศอกขวากระทุ้งเข้าไปที่แขนซ้ายของเจต 1ที “เมียพ่องงงมึงดิไอ้เจตพูดไรของมึงวะ คนเยอะนะมึงเดี๋ยวแม่งก็พากันเข้าใจผิดกันหมดหรอก” “โอ๊ยโอ๊ยพูดแค่นี้ถึงกับของขึ้นเลยรึไงวะ ฮ่าๆๆ ถ้าหนิงก็คงอยู่ในครัวโน่นแหละมั้งเห็นบอกว่ากำลังแต่งหน้าเค้กกับมิกกี้อยู่น่ะ” “ใครหรอวะมิกกี้?”เจตอมยิ้มขึ้นมา “เพื่อนจากโรงเรียนเก่าของหนิงน่ะไว้มึงได้เห็นก่อนเหอะแม่งสีสันบันเทิงสุดๆ” “ฮ่าๆแม่งพูดซะกูอยากจะเดินไปดูด้วยตัวเอง” “มึงจะไปดูก็ได้นะแต่มึงต้องเดินย้อนกลับไปทางสนามหน้าบ้านอีกรอบ” “เอ่องั้นกูขอผ่านถ้าจะให้เดินกลับไปอีกรอบกูดีไม่ดีกูคงโดนจับปล้ำแน่ๆแม่งจ้องกูยังกะจะกินกูให้ได้ยังไงอย่างงั้นแหละ” “อื้มพ่อคนหล่ออะนี่มึงมาช่วยกูปิ้งบาบีคิวตรงนี้ดีกว่า และก็บอกน้องมึงมานั่งเก้าอี้นอนตรงนี้มะ”“อื้ม บอลมานั่งเก้าอี้ตรงนี้ดีกว่าครับ” เจ้าบอลพยักหน้างึกๆและทำตามเจ้าเติร์กอย่างว่าง่าย“บอลเอาโทรศัพท์พี่ไปเปิดการ์ตูนดูไหม จะได้ไม่เบื่อ” “คัฟพี่เติร์ก บอลก็ว่าจะขอพี่เติร์กอยู่เหมือนกานนคัฟ” เจ้าเติร์กหยิบโทรศัพท์ของมันจากกระเป๋ากางเกงยื่นให้เจ้าบอลพร้อมกับหูฟังก่อนที่เจ้าบอลรับเอาโทรศัพท์กับหูฟังดังกล่าวไปเปิดดูการ์ตูนด้วยความสงบอยู่ที่เก้าอี้นอน” “ไอ้เติร์ก น้องมึงนี่ก็ว่าง่ายเหมือนกันเนาะแม่งไม่โวยวายหรือวิ่งไปมา เหมือนเด็กคนอื่นๆที่กูเคยเจอมาเลยว่ะ” “บอลคงตื่นที่ใหม่มั้ง เลยนิ่งๆแบบนนี้ แต่เวลาอยู่ที่บ้านนะไอ้เจตบอกเลยว่าแม่งยังกะคนละคนกับตอนนี้เลยแหละ เอ่อไอ้เจตว่าจะถามมึงตั้งแต่ตี้กี้ล่ะไอ้ตี๋อยู่ไหนวะ กูไม่เห็นหัวมันเลยตั้งแต่เดินเข้ามาเนี่ย”“ไอ้ตี๋น่ะหรอมันออกไปซื้อของกับไอ้เฟิร์สตั้งแต่เมื่อกี้ล่ะ เดี๋ยวสักพักพวกมันก็คงมากันล่ะมั้ง” “อ้าว ไอ้เฟิร์สมาด้วยหรอวะ” “อื่มมไอ้ตี๋แม่งไปชวนมันมาน่ะ เห็นบอกว่าผู้ชายในงานน้อยไปมันเลยเอาไอ้เฟิร์สมาเพิ่มอีกคน”“แบบนั้นหนิงจะไม่ว่าเอารึไง” “หนิงไม่ว่ามันหรอกไอ้ตี๋กับหนิงมันซี้กันมาตั้งแต่สมัยประถมล่ะ มันเลยคุยตกลงกันง่าย” “จริงหรอเนี่ย กูเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าไอ้ตี๋กับหนิงสนิทกันซะขนาดนั้นปกติแม่งอยู่โรงเรียนนี่กูเห็นทำยังกะคนไม่รู้จักกันซะงั้น”“ก็ไอ้ตี๋นินะแม่งก็รู้นิสัยกวนบาทาคาดเดายากมันอยู่” เจ้าเติร์กหันไปมองบอลที่ก้มหน้าก้มตาดูการ์ตูนจากโทรศัพท์“แบบนั้นบอลท่าจะดีใจไม่น้อย” “อะไรหรอมึงดีใจอะไรวะ” “ก็บอลเห็นแบบนี้มันติดเฟิร์สนะติดยิ่งกว่ากูซะอีก ไม่รู้แม่งไปทำท่าไหนถึงสนิทกันได้ขนาดนั้น กูยังแปลกใจเลยปกติบอลมันก็ไม่ค่อยคุ้นกับคนอายุราวๆพวกเราเท่าไหร่นะ” “ฟังจากที่มึงพูดกูยังแปลกใจเลยวะไอ้เฟิร์สเองเมื่อก่อนมันก็เคยมีน้องที่เป็นญาติกับมันอายุน่าจะไล่ๆน้องมึงนี่แหละมั้งมาอยู่ด้วยที่บ้าน แม่งมาบ่นให้กูฟังทุกวันว่าไม่ชอบเด็กเล็กอยู่ด้วยแล้วปวดหัวรำคาญ” “นั่นสินะ แต่ก็ดีล่ะที่มันมา บอลก็จะได้ไม่เหงาด้วย” “อะนี่ ดูท่าไม้ฝั่งนี้คงสุกล่ะเดี๋ยวมึงเอาบาบีคิวพวกนี้ใส่จานแล้วยกไปวางไว้ที่โต๊ะกลางสนามหน้าบ้านที่มึงเพิ่งเดินผ่านมาเมื่อตะกี้นะสังเกตตรงโต๊ะมันจะมีเครื่องดื่มวางอยู่เยอะๆน่ะ อะนี่จัดใส่จานเลยมึง” “เดี๋ยวๆ แล้วมึงไม่ไปกับกูด้วยหรอ” “ไอ้เติร์กมึงก็เห็นอยู่ว่าไม้ฝั่งนี้ยังไม่สุกมึงก็ช่วยกูหน่อยสิวะ ไหนๆมึงก็ยืนอยู่เฉยๆแบบนั้น” “แต่ถ้ากูไปคนเดียวแม่งไม่มองกันอีกหรอวะ”“โห่ยยมึงจะอายไปทำไมวะ ยืดอกแมนๆเดินไปเลยดิมึง กูว่าเทห์ดีออก” “มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยปะไอ้เจต” “แล้วใครจะดูน้องมึงล่ะวะปล่อยอยู่คนเดียวแบบนี้อันตรายนะมึง” “มึงนี่นะไอ้เจตหาเรื่องแกล้งกูรึไงวะห๊ะ” เจ้าเติร์กทำหน้าเซ็งๆก่อนจะยกจานบาบีคิวดังกล่าวพร้อมกับเดินไปยังสนามหน้าที่มีเพื่อนๆของหนิงอยู่ทันทีเจ้าเติร์กเดินก้มหน้าก้มตามาถึงโต๊ะวางอาหาร มันรีบวางจานบาบีคิวลงที่โต๊ะในขณะที่มันกำลังจะเดินกลับไปหาเจตนั้นเองมีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกเจ้าเติร์กขึ้นมา “นายๆๆนายคนนั้นน่ะ มานี่ก่อน”เจ้าเติร์กถึงกับหันไปมองยังต้นเสียงและมันเห็นผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งผมถักเปียยืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน3-4 คน โบกมือใส่เจ้าเติร์กไปมา “นายมานี่ก่อน ได้ยินที่เราเรียกไหมเนี่ย” ทันทีที่เจ้าเติร์กเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนดังกล่าวผู้หญิงคนอื่นๆอีก 3-4 คนในกลุ่มถึงกับยืนมองเจ้าเติร์กด้วยความหลงไหลจนตาเป็นประกาย “เรียกเราซะเสียงดังเลย มีไรรึป่าว” ผู้หญิงคนดังกล่าวหันไปมองเพื่อนๆในกลุ่มก่อนจะหันมายิ้มหวานใส่เจ้าเติร์ก “ป่าวไม่มีไรหรอก เราแค่อยากรู้จักนายน่ะว่าแต่นายชื่ออะไรหรอ” “เราชื่อเติร์กน่ะ แล้วเธอล่ะชื่ออะไร”“เราชื่อกิ๊ก นะ ส่วนนี่เพื่อนๆเรา คนอ้วนๆนี่ชื่อ ออมสินส่วนคนผมยาวติดกิ๊บสีนี่ชื่อ หมวย ส่วนแฝดสาวสองคนใส่หมวกผ้าไหมนี้ ชื่อเรส กับ ริส” เจ้าเติร์กยิ้มทักทายให้กับทุกคนด้วยความเป็นมิตร “สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ” ทันใดนั้นหมวยถึงกับพูดขึ้นมาเบาๆพร้อมกับเขย่าตัวเรสกับริสไปมา “โอ๊ย อีเรส อีริส นอกจากจะหล่อแล้วยังโครตสุภาพเลยอะโอ๊ยยยกูใจไม่ดีล่ะ” ออมสินเห็นเช่นนั้นถึงกับรีบยิงคำถามใส่เจ้าเติร์ก“เติร์ก มีแฟนยังอะ ถ้ายังเติร์กสนใจจะมาหยอดกระปุกออมสินด้วยกันกับเราไหม” “เติร์กอย่าไปฟังมันนะออมสินมันมีแฟนแล้วต้องเราดีกว่าเติร์กอยากได้อะไรเดี๋ยวเราเปย์ให้เลยจร้า” “โอ้ย อีหมวยพูดมาได้เนาะ ท่องสิจ๊ะท่อง มึงมีผัวแล้ว!!” เจ้าเติร์กถึงกับยิ้มให้กับทั้งสอง“เพื่อนๆของพวกกิ๊กนี่ก็ตลกดีเนาะว่าแต่กิ๊กกับเพื่อนๆเรียนอยู่ที่ไหนกันหรอ”“เรากับเพื่อนๆเรียนอยู่ที่วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีกันน่ะเติร์ก” “อื้มมมแล้วนี่กิ๊กกับเพื่อนๆมารู้จักหนิงได้ไงอะ”“ก็ตอนม.ต้นเรากับพวกนี้ก็เรียนอยู่ รร. และเรียนอยู่ห้องเดียวกับหนิงนั่นแหละพอจบม.3 เรากับพวกนี้เลยแยกตัวมาเรียนสายอาชีพกันแล้วเติร์กล่ะ เพิ่งย้ายมาตอนม. 4 หรอ แล้วมารู้จักหนิงได้ไง” “เราย้ายเข้ามาตอน ม.5 น่ะกิ๊กเรากับหนิงเริ่มรู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียนกวดวิชาน่ะก็เลยคุยๆจนสนิทกันมาจนถึงทุกวันนี้”“เติร์กอีกิ๊กมันชอบเนียนจีบผู้ชายนะ ระวังล่ะ มานี่มะมานั่งกับเรานี่เร็ว เติร์กอยากกินไรเดี๋ยวเราบริการให้เองจร้า” เติร์กได้แต่ยิ้มเจือนๆ “ขอบใจนะหมวยแต่ขอเราไปช่วยไอ้เจตปิ้งบาบีคิวให้เสร็จดีกว่า เห็นยังเหลืออีกหลายไม้เลย แถมมันยังทำคนเดียวด้วยไงเราขอตัวก่อนนะ” “พวกมึงทำไมเติร์กแม่งโครตหล่อเลยอะหล่อยิ่งกว่าเฟิร์สซะอีก โอ๊ยกูอิจฉาอีหนิงจังที่มีเพื่อนหล่อๆแบบนี้โอ๊ยกูอยากได้อะพวกมึง” “น้อยหน่อยอีหมวย ไม่ใช่มึงคนเดียวนะมึงดูคนอื่นๆที่อยู่รอบๆนี่ด้วย” งานวันเกิดหนิงเป็นไปด้วยความราบรื่นทั้งบรรยากาศของงานที่ร่มรื่นย์สถานที่อำนวยความสะดวก มีอาหาร เครื่องดื่กลิ่นหอมและรสอันโอชา รวมถึงเสียงดนตรีเพราะๆที่เปิดคลอๆเบาๆทำให้ทุกคนในงานต่างสนุกและเคลิ้มไปด้วยความสุขพร้อมๆกัน ส่วนเจ้าเติร์กที่กำลังช่วยไอ้เจตไอ้ตี๋ และไอ้เฟิร์ส ตั้งโต๊ะอยู่นั้นมิกกี้กระเทยสาวจากวิทยาลัยอาชีวะเพื่อนสมัยประถมของหนิง ที่เดินออกมาจากตัวบ้านทันทีที่มันเห็นเจ้าเติร์กมันถึงกับใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมิกกี้ถึงกับแสดงอาการระริกระรี้ออกมาอย่างเปิดเผยเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าเติร์กทั้งพยายามพูดอ่อยและให้ท่าเจ้าเติร์กไปต่างๆนาๆอีกทั้งชอบจับเนื้อต้องตัวเจ้าเติร์กหลายต่อหลายรอบจนเจ้าเติร์กเริ่มรู้สึกถูกคุกคามและหวาดกลัวมิกกี้ขึ้นมาทีล่ะนิดแต่กระนั้นเจ้าเติร์กยังนิ่งสงบกายใจและพยายามเกาะกลุ่มอยู่กับไอ้เจตไอ้ตี๋และไอ้เฟิร์สไว้ตลอดงานไม่นานนักเค้กสตรอเบอรี่สดปอนด์ใหญ่ถูกยกจากห้องครัวมาวางไว้ที่โต๊ะอาหารกลางสนามหน้าบ้านพร้อมกับเครื่องดื่ม ทั้งอาหารและขนมกินเล่น ถูกจัดใส่จานหลากสีเป็นชุดบุพเฟ่ต์วางเรียงรายบนโต๊ะยาวให้สำหรับคนในงานได้ตักหรือหยิบทานตามใจชอบทำเอาเจ้าบอลได้เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ตื่นตาตื่นใจอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะเค้กสตรอเบอรี่ปอนด์ใหญ่ที่ทำเอาเจ้าบอลยืนจ้องนิ่งไม่ขยับตัวกันเลยทีเดียวเฟิร์สที่เห็นเช่นถึงกับเดินเข้าไปทักเจ้าบอล “ไงตัวเล็กยืนจ้องใหญ่เลยนะ” เจ้าบอลถึงกับรีบหันมามองเฟิร์สทันควัน “พี่เฟิร์สคัฟ เมื่อไหร่จะได้กินเค้กอะคัฟฟบอลอยากกินสตรอเบอรี่สีแดงที่อยู่บนเค้กนี่อะคัฟ” “ใจเย็นบอล รอร้องเพลง เป่าเทียนเสร็จก่อน สักพักก็คงได้กินล่ะ” “พี่เฟิร์สคัฟ ไม่มีเก้าอี้ให้นั่งเลยคัฟบอลเดินหาตั้งนานไม่เห็นมีเลย แบบนี้นั่งจะกินขนมกับเค้กยังงายยยล่ะคัฟ” “ช่างถามนะเราคือพี่หนิงเค้าจัดเหมือนงานปาร์ตี้แบบที่ต่างประเทศน่ะบอลเวลาจะทานอะไรเค้าก็จะตักอาหารบนโต๊ะนั่นแล้วมายืนทานไปด้วยและคุยกันไปด้วย” “แต่แม่เอมบอกบอลว่าเวลากินต้องนั่งกินให้เรียบร้อยนะครับถ้ายืนกินแบบนั้นมันไม่เรียบร้อยคัฟ” “โห นี่แอบด่าพวกพี่กันทางอ้อมรึยังไงบอลฮ่าๆ ก็ถูกอย่างที่บอลว่านะ แต่สำหรับที่ต่างประเทศมันทำแบบนั้นได้ครับ ไม่เป็นไรบอลเองก็ลองทำดูสิครับจะได้ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตด้วย ไม่เสียหายอะไรหรอก”เจ้าบอลถึงกับยิ้มกว้างให้กับเฟิร์ส “ก็ได้คัฟฟบอลเองก็อยากลองยืนกินแบบนี้เหมือนกันคัฟพี่เฟิร์ส” หลังร้องเพลงอวยพรวันเกิดและเป่าเทียนเสร็จสิ้นลงเค้กชิ้นใหญ่ได้ถูกตัดแบ่งให้แต่ละคนก่อนที่ทุกคนจะกระจายกันไปยืนคุยกันไปพลางดื้มน้ำหวานไปพลางตามจุดต่างๆเจ้าเติร์กที่เห็นหนิงแยกตัวจากกลุ่มเพื่อนๆมายืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงบันไดขึ้นบ้านคนเดียวทันทีที่หนิงกดวางสายมันเลยรีบดิ่งตรงเข้าไปหาหนิงอย่างรวดเร็ว “ไง หนิง ไม่ทักทายเราเลยน้า” “หนิงก็รอให้เติร์กเข้ามาทักอยู่นี่ไงแล้วงานเป็นไงบ้าง สนุกไหม มีอะไรที่หนิงพลาดไปรึป่าวเติร์ก” “ไม่เลยนะหนิง เติร์กว่าหนิงจัดงานวันเกิดเป็นปาร์ตี้เล็กๆแบบนี้ก็โอเคแล้วมันไม่วุ่นวายดี อื้มอีกอย่างเติร์กว่าบ้านหนิงร่มรื่นย์ดีนะจัดสวนบริเวณบ้านยังกะรีสอร์ทเลยล่ะ” “จ๊ะแล้วเติร์กชอบไหมล่ะ” “ชะชอบสิหนิงปกติแล้วเติร์กเองก็เป็นคนที่ชอบบ้านสไตน์รีสอร์ทแบบนี้อยู่แล้วนะ” คำพูดของเจ้าเติร์กทำเอาหนิงยิ้มออกมาด้วยความอ่อนโยนทำเอาเจ้าเติร์กที่เห็นถึงกับเขินจนหน้าแดงไม่เป็นท่า“อะเอ่อ จริงสิหนิง เติร์กเกือบลืมไปล่ะนี่ครับสุขสันต์วันเกิดนะ” เจ้าเติร์กหยิบเอาของขวัญที่ห่อเป็นซอง 4 เหลี่ยมที่ซ่อนในเสื้อโค้ทออกมายื่นให้กับหนิงทำเอาหนิงชักสีหน้าด้วยความประหลาดใจก่อนจะยื่นมือไปรับของขวัญจากเติร์ก “แหม เติร์ก!! ทำเอาเราแปลกใจเลยนะเนี่ย ว่าแต่อะไรอยู่ข้างในเนี่ย ดูเบาๆจัง” “อยากรู้ก็ต้องแกะดู แต่ถ้าของข้างในมันไม่ถูกใจหนิง หนิงอย่าโกรธเติร์กเลยนะ” “แหมเติร์กก็คิดมากไปล่ะ หนิงไม่ตัดสินคนจากการมอบสิ่งของหรอกนะความรู้สึกและความตั้งใจต่างห่างล่ะคือสิ่งที่หนิงแคร์ที่สุด” ในขณะเดียวกันนั่นเองกิ๊กและเพื่อนคนอื่นๆที่ยืนคุยกันอยู่ที่โต๊ะวางอาหารได้สังเกตเห็นหนิงกับเติร์กยืนคุยและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่กันไปมา หมวย ออมสิน เรส ริส มึงเห็นอย่างที่กูเห็นไหมวะ ดูโน่นดิ พวกมึงคิดเหมือนกูอยู่ไหม” หมวยถึงกับหันไปจับตัวของเรสเขย่าไปมา “เรส ไม่จริงงงงเติร์กของฉัน ม่ายยยย” ริสที่กำลังทำหน้างงรีบถามกิ๊กขึ้นมา“อย่าบอกนะว่าหนิงกับเติร์กเป็นแฟนกัน”“กูว่าท่าจะใช่แน่นอนมึงก็รู้อยู่นิน่า ริส ว่าหนิงน่ะปกติมันคุยกับผู้ชายได้ไม่นานหรอกแต่มึงดูสิกูยืนมองแต่เมื่อกี้ล่ะ แม่งคุยกันยิ้มให้กันแบบนั้นด้วย แม่งผิดวิสัยของหนิงว่ะแสดงว่า” “มึงพอเลยกิ๊กมึงไม่ต้องพูดตอกย้ำกู โอ๊ยจุกหัวใจเติร์กของหมวยดันไปคบกับหนิงซะแล้ว แบบนี้จะจีบก็จีบไม่ได้แล้วล่ะ อร้ายยยยยอิจฉาหนิงอะ” “ถ้ามึงอยากได้จริงไมไม่ลองทำแบบอีตุ๊ดมิกกี้นั่นดูล่ะหมวย” “แหมๆ อีริสพูดมาได้เนาะ จริงอยู่ว่าตัวกูน่ะแรดแสดงออก แต่กูเองก็ไม่ได้สันดานกะหรี่ปั๊บหน้าด้านอย่างอีตุ๊ดมิกกี้นั่นหรอกนะ เห็นแล้วกูแม่งโครตเกลียดจริตของมันชิบหาย นั่นไงตายยากจริงอีตุ๊ดแม่งเดินเข้าไปหาเติร์กโน่นล่ะ”เจ้าเติรืกที่กำลังยืนคุยกัยหนิงอยู่นั่นจู่ๆทั้งสองก็ต้องตกใจกับเสียงของมิกกี้ที่เดินเข้ามา “ไฮ!! หนิงมาอยู่ตรงนี้นี่เอง และซารางเฮโยผัวขา” มิกกี้เดินบิดก้นเข้ามาควางแขนซ้ายของเจ้าเติร์กไว้มั่นเจ้าเติร์กถึงกับพยายามดิ้นสะบัดไปมา “ทำอะไรเนี่ยมิกกี้” “อุ๊บผัวขา อย่ารุนแรงใส่แบบนี้สิ ไม่น่ารักเลยนะคร้า” “มิกกี้มีอะไรรึป่าว” “มีแน่นอนคร้าหนิงพอดีเพื่อนของเรา ยัยอ้อยกับยัยคินท์เพื่อนของหล่อนอยากรู้จักกับสุดหล่อคนนี้นะคร้า ถ้าหนิงไม่ว่าอะไรเดี๋ยวเราของยืมตัวสุดหล่อคนนี้ไปแนะนำให้เพื่อนๆรู้จักก่อนนะคร้า ไปนะคร้าผัวขา”ด้วยความที่มิกกี้เป็นเพื่อนสนิทของหนิงตั้งแต่ประถมด้วยความเกรงใจและไม่อยากขัดใจมิกกี้ หนิงเลยพยักหน้าใส่เติร์กเป็นอันรู้กัน “ก็ได้นะมิกกี้ เติร์กเสร็จแล้วมาหาเราหน่อยนะ เรายังคุยกันไม่จบเลย”ไม่ทันที่เจ้าเติร์กจะได้พูดกับหนิงมิกกี้รีบดึงลากตัวเจ้าเติร์กออกไปทันควัน “มาคร้าผัวขาทางนี้เลย” มิกกี้พาเจ้าเติร์กเดินมาหา อ้อยกับคินท์ที่กำลังยืนคุยหัวเราะด้วยคิกคักๆทันที่ที่ทั้งสองเห็นมิกกี้พาเจ้าเติร์กเข้ามาทำเอาทั้งสองถึงกับตกใจ “อีมิกกี้ นี่มึงเอาจริงหรอ กูแค่พูดเล่นนะเว้ย”มิกกี้พาเจ้าเติร์กมาหยุดตรงหน้าทั้งสองโดยที่แขนยังคงควางอยู่แบบนั้น “แม่อ้อยจ๊ะ มึงก็รู้ว่ากูคนจริงนะคร้า อย่าท้ากูผัวขา คนนี้ชื่ออ้อยเพื่อนของมิกกี้เองคร้าส่วนคนนี้ชื่อคินท์ เพื่อนของหนิงและก็เพื่อนของมิกกี้ด้วยเช่นกันคร้าผัวต้องรู้จักเพื่อนๆของมิกกี้ไว้ดีๆนะคร้า” อ้อยที่เห็นเจ้าเติร์กในระยะประชิดมันถึงกับอ้ำอึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่จะยื่นมือไปเช็คแฮนด์เจ้าเติร์ก “โทษนะเติร์ก ที่บอกให้มิกกี้ไปขัดจังหวะ คือเรากับคินท์แค่พูดกันเล่นๆน่ะไม่นึกว่ามิกกี้จะกล้าทำจริงเราชื่ออ้อยจ่ะ อยู่โรงเรียนเอกชน ใกล้ๆกับ รร. เติร์กแหละนะ คือเราเองก็ได้ยินชื่อเสียงว่าเติร์กน่ะหล่อและฮอตที่สุดในโรงเรียนเลยแหละนะ เราเองก็ฟอลโล่ไอจีของเติร์กด้วยนะที่เรามางานวันนี้เนี่ยส่วนหนึ่งก็อยากมาเห็นเติร์กตัวเป็นๆด้วยว่าเหมือนในไอจีป่าว ไงเราก็ดีใจที่ได้เห็นเติร์กตัวเป็นๆ” “อื้มเราชื่อคินท์นะ อยู่ห้อง 6 น่ะเติร์ก” “จริงหรอไมเราไม่คุ้นหน้าคินท์เลยอะ” “ฮ่าๆก็ไม่แปลกหรอกนะเติร์กพอดีเราไม่ค่อยสนเรื่องกิจกรรมกับงานโรงเรียนสักเท่าไหร่น่ะเลยไม่ค่อยมีบทบาทเด่นอะไรเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ น้องสาวเราก็เรียนอยู่ชั้นม.3 นะ ชื่อ แคท เติร์กรู้น้องเราจักปะ”“อืม อันนี้ไม่รู้นะต้องได้เห็นหน้าก่อนอะเราถึงจะนึกออก” ไม่ทันไรมิกกี้พูดแทรกขึ้นมา“มึงสองคนรู้จักกันก็ดีล่ะ มาค่ะผัวขา เราไปเดินชมดอกไม้กับกินน้ำหวานด้วยกันดีกว่าคร้า อยู่ตรงนี้นานๆเนี่ย ระวังผัวจะโดนฝูงชะนีเหล่านี้ปล้ำเอานะคะ มาคร้าผัวขา” ทันใดนั้นเองเจ้าเติร์กได้เหลือบไปเห็นเจตเดินผ่านไปเจ้าเติร์กถึงกับรีบใช้สองมือแกะและสะบัดแขนซ้ายออกจากเงื้อมมือของมิกกี้อย่างรวดเร็วพร้อมกับรีบวิ่งตรงไปหาเจตทันใด“มิกกี้เราขอตัวแปปนะ เห้ย เห้ย ไอ้เจต ไอ้เจต มึงไปไหนว่ะ กูไปด้วยคน” “อ้าวเติร์กหรอคือกูกำลังจะไป” “เอ่อๆมึงรีบเดินไปก่อนวะ มึงไปไหนก็ช่างแต่กูขอตามมึงไปด้วยคนว่ะ” ทันทีที่เจตหันไปมองหลังมันถึงได้เข้าใจในสิ่งที่เจ้าเติร์กพูด “ออ เก็ตล่ะ นี่มึงหนีมิกกี้มาสิท่า ฮ่าๆไงมึงระวังมันจะเอามึงไปทำผัวนะเว้ย” “เอ่อกูก็คิดแบบมึงแหละนี่ถ้ามึงไม่เดินผ่านมานี่คืนนี้กูท่าจะไม่รอดว่ะ” “ฮ่าๆๆมึงก็ต่อยแม่งเลยดิ จะไปยอมมันไมวะ ทำแบบนี้เค้าเรียกว่าคุกคามนะมึง” “กูจะต่อยแม่งหลายรอบล่ะ แต่เพื่อนหนิงอยู่เต็มไปหมดแบบนี้ขืนกูต่อยตุ๊ดไร้ทางสู้ไปแม่งกูจะดูเหี้ยขึ้นมาเลยแหละวะ”“อยากให้มึงมาเห็นปีที่แล้วเนาะ ไอ้เฟิร์สแม่งต่อยมิกกี้ไปตั้งหลายหมัดพอมาปีนี้แทบไม่เข้าใกล้ไอ้เฟิร์สเลยด้วยซ้ำ” “จริงหรอไอ้เฟิร์สแม่งโดนไรวะ” “เห็นมันบอกว่าโดนมิกกี้จับก้นกับพยายามหอมแก้มมันเลยจัดกำปั้นไปเลยชุดใหญ่ มึงเองก็ควรทำนะเว้ย ถ้ามันมากเกินไป” “แล้วไอ้เฟิร์สไปไหนวะ มึงเห็นมันไหม” “ไอ้เฟิร์สน่ะหรอแม่งเล่นต่อจิ๊กซอร์กับน้องของมึงและก็แป๋มอยู่ที่ห้องนั่นเล่นในบ้านน่ะถ้ามึงจะไปหาล่ะก็ กูแนะนำให้มึงเดินเข้าทางหลังบ้านตรงห้องครัวนี้เอานะถ้าไปทางหน้าบ้านระวังเจอมิกกี้ดักรอมึง” “เออขอบใจมึงมากนะเว้ยไอ้เจต”ทันทีที่เจ้าเติร์กเดินเข้ามาในห้องครัวมันถึงกับผงะตกใจกับหนิงที่กำลังยืนหันหลังเก็บอุปกรณ์ทำขนมขึ้นบนชั้น “หนิงหรอ!! มาทำไรคนเดียวน่ะไม่ไปสนุกกับเพื่อนๆก่อนล่ะ ไว้หลังงานเลิกค่อยมาเก็บยังทัน เดี๋ยวเติร์กช่วยเก็บด้วย”หนิงรีบหันมามองยังต้นเสียง “อ๊าว เติร์กหรอตี้กี้หนิงต้องขอโทษเติร์กด้วยเรื่องมิกกี้” “โถ่หนิงเติร์กไม่ไหวนะถ้าเจอแบบนี้อะ ทำไมหนิงถึงยอมมิกกี้ง่ายๆแบบนั้นล่ะ” “เฮ้ออ เรื่องนี้ จริงๆแม่ห้ามเราเล่าให้ใครฟังนะ แต่ถ้าเป็นเติร์กเรายกเว้นให้ คือเมื่อก่อนตอนเราอยู่ประถมพ่อกับแม่ชอบทะเลาะกันประจำถึงขั้นลงไม้ลงมือกันด้วยนะดังนั้นเวลาทะเลาะกันเมื่อไหร่แม่มักจะเอาเราไปฝากที่บ้านมิกกี้ตลอดน่ะและช่วงนั้นเราเองก็กลายเป็นเด็กมีปัญหาจนเพื่อนๆในห้องไม่กล้ามาเล่นด้วยแต่ก็มีมิกกี้นี่แหละที่ยอมมาเล่นและเป็นกับเพื่อนจนเราดีขึ้น” “งั้นก็แสดงว่าหนิงกับมิกกี้เป็นญาติกันน่ะหรอ” “ก็ไม่เชิงญาตินะเติร์กแต่แม่ของมิกกี้กับแม่ของเราเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆตั้งแต่สมัยเรียนยันทำงานจริงๆเราเองก็ไม่ชอบนะที่มิกกี้ทำแบบนั้นกับเติร์กแต่เราก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเราเองก็อึดอัดเหมือนกันเติร์ก” “ช่างมันเถอะหนิงอย่าคิดมากมันผ่านไปล่ะไว้เติร์กจะห่างๆมิกกี้ไว้” “อืม ขอบใจนะที่เข้าใจเรามะเติร์กมานั่งที่โต๊ะกินข้าวนี่ก่อน เดี๋ยวเรามีไรให้เติร์ก” ไม่นานหนิงหนิงหยิบกล่องกระดาษสีรุ้งจากตู้เย็นมาวางตรงหน้าของเติร์ก“อะนี่จ๊ะเติร์ก คัฟเค้ก หนิงตั้งใจทำเองสุดฝีมือเลยกล่องนี้หนิงให้เติร์กเก็บไว้ทานที่บ้านตอนท้องว่างๆนะ” “จะดีหรอหนิงเราเกรงใจ” “ดีแล้วล่ะ จริงๆเราเองก็ตั้งใจจะให้เติร์กหลังเลิกงานอยู่แล้วไงอร่อยไม่อร่อยคอมเม้นบอกหนิงด้วยนะ” “ครับผม ขอบใจมากนะหนิง ต้องเป็นเค้กที่หวานฉ่ำแน่ๆเลย” “ไม่ฉ่ำนะ หนิงใส่น้ำผึ้งลงไปนิดหน่อยเอง” “ฮ่าๆ ป่าวหนิงเติร์กไม่ได้หมายความถึงแบบนั้น” ในขณะเดียวกันนั้นเองแม่ของหนิงยืนอยู่ตรงหัวบันไดทางขึ้นชั้นสองได้มองเจ้าเติร์กกับหนิงที่คุยกันอยู่ในห้องครัว 2 คนด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยชอบใจนัก จนหมวยที่เดินออกมาจากห้องน้ำชั้นล่างของบ้านนั้นถึงกับตกใจทันทีที่เห็นสีหน้าของแม่หนิงหมวยรีบยกมือไหว้ทักทายก่อนจะค่อยๆเดินก้มตัวเดินผ่านแม่หนิงไป “เดี๋ยวก่อน!! อย่าเพิ่งไป ถ้าฉันจำไม่ผิดเธอคงเป็นเพื่อนตอนอยู่ ม.ต้นกับหนิงใช่ไหม??” หมวยรีบหันกลับมาด้วยสีหน้าเจือนๆและหวาดกลัว “คะค่ะ ชะชะใช่ค่ะคุณแม่ เดี๋ยวหนูขอตัว…” “ถ้างั้นเธอมาหาฉันซิและลองมองไปที่ห้องครัวตรงนั้น เธอเห็นเหมือนที่ฉันกำลังเห็นไหม” หมวยที่อยู่ในภาวะลุ่มหลงเจ้าเติร์กอยู่แล้ว ทันทีได้เห็นทั้งสองคุยกันอยู่ 2/2 ถึงกับปวดใจจี๊ดดขึ้นมา “เห็นค่ะคุณแม่”แม่หนิงถึงกับคิ้วขมวดใส่หมวย “ถ้าอย่างงั้นเธอคิดว่า ลูกของฉันกับหนุ่มคนนั้น ไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกันใช่ไหม”“เป็นเพื่อนค่ะคุณแม่ แต่สองคนนั้นสนิทกันมากเท่านั้นเองค่ะ” “หรอ!!ฉันดีใจนะที่เธอพยายามโกหกเพื่อที่ปกป้องลูกของฉันแต่แววตาที่เธอมองฉันในตอนนี้ มันบ่งบอกว่าเธอกำลังรู้สึกตรงกันข้ามที่กับเธอพูดแต่ฉันขอถามเธออีกครั้งนะ ว่าลูกของฉันกับหนุ่มคนนั้นไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกันใช่ไหม”สีหน้าและแววตาที่มองมายังหมวยทำเอาหมวยรู้สึกกดดันขึ้นเรื่อยๆ“ก็ตามที่คุณแม่คิดและได้เห็นนั่นแหละค่ะคุณแม่อย่ากดดันหนูเลยค่ะ คุณแม่ก็รู้อยู่ว่านิสัยของหนิงเมื่อก่อนเป็นยังไง”“ถ้าอย่างงั้นฉันเองก็เข้าใจกระจ่างแล้วล่ะในสิ่งที่เธอบอกมา ขอบใจเธอมาก และเธอก็…ไปได้แล้ว” หมวยรีบยกมือไหว้แม่หนิงอีกครั้งและรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็วแม่ของหนิงหันกลับไปมองทั้งสองที่ห้องครัวอีกครั้งก่อนที่จะหันหลังเดินขึ้นบันไดไปด้วยสีท่าที่หงุดหงิดและไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก เวลา 18.16 น. ท้องฟ้าที่สลัวๆเริ่มมืดลง แสงไฟจากหลอดที่ติดอยู่ตามเสาบริเวณสนามและตามทางเดินรวมถึงไฟกระพริบที่หนิงเอามาห้อยไว้ตามต้นไม้ต่างๆ ถูกเปิดจนสว่างขึ้นมาทำให้บรรยากาศในงานงดงามไปด้วยสีสันจากแสงไฟหลากสีต่างๆพร้อมกับเพลงเดนซ์ที่ถูกเปิดขึ้น ซึ่งมันดึงดูดและกระตุ้นให้ทุกๆคนในงานออกมาเดนซ์กันเป็นกลุ่มๆ เป็นคู่ๆ กันอย่างสนุกสนาน ในระหว่างที่ทุกๆคนกำลังเดนซ์กันอยู่นั่งเองเฟิร์สมันพาเจ้าบอลแยกตัวจากทุกคนมายังห้องเก็บของที่ตั้งอยู่ในสวนไผ่หลังบ้านหนิง “พี่เฟิร์สพาบอลมาตรงนี้ไมอะคัฟฟ” “บอลกินเย็ลลี่ของพี่ไหมครับ” เจ้าบอลถึงกับยืนงงไปชั่วขณะก่อนที่มันจะเข้าใจในความหมายที่เฟิร์สพูดถึง “กินคัฟ กิน ไหนอะคัฟพี่เฟิร์ส”เฟิร์สที่ได้ยินเช่นนั้นมันถึงกับยิ้มที่มุมปากก่อนจะอุ้มเจ้าบอลขึ้นมานั่งบอลแคร่ไม้ไผ่ก่อนที่เจ้าเดินมายืนหยุดตรงหน้าเจ้าบอล “ถ้าจะกินบอลต้องแกะมันออกมานะซึ่งมันอยู่ในที่ที่บอลรู้อยู่แล้วครับ” เจ้าบอลมองไปที่เป้ากางเกงและแหงนมองหน้าเฟิร์สพร้อมกับยิ้มกว้าง “พี่ล้างทำความสะอาดแล้วนะ บอลแกะมันออกมาซิครับมันอยากออกมาเจอหน้าบอลแล้วล่ะ” เจ้าบอลไม่รอช้ามันรีบทำตามอย่างว่าง่ายด้วยการเอื้อมมือไปรูดซิบเป้ากางเกงยีนส์ลง สายตาของมันจับจ้องไปยังท่อนลำที่แข็งตุงใหญ่อัดแน่นอยู่ใต้กางเกงในสีน้ำเงินพร้อมกันนั้นมันยังเอื้อมมือไปบีบสัมผัสท่อนลำที่แน่นปั๋งไปมาเมื่อมันบีบเล่นจนพอใจแล้ว เจ้าบอลมันจึงดึงกางเกงในลงและงัดเอาท่อนลำออกมาจากเป้ากางเกงด้วยความทุลักทุเลเฟิร์สที่เห็นเช่นนั้นมันเลยช่วยเจ้าบอลงัดท่อนลำของมันออกมาอีกแรง จนกระทั้งท่อนลำใหญ่ๆของมันดีผ่างงงขึ้นมาชี้โด่ต่อหน้าเจ้าบอล ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้เฟิร์สเร้าใจและกระตุ้นอารมณ์ทางเพศเป็นอย่างมาก เจ้าบอลเองก็เช่นกันมันทั้งใจสั่นระส่ำระส่ายจนตัวสั่นมันเอามื้อน้อยๆทั้งสองที่สั่นริกๆเบาๆจับกำท่อนลำใหญ่ๆของเฟิร์สด้วยสองมือและโน้มท่อนลำมาจ่อที่ปากของมัน พร้อมกับออกแรงดึงหนังหุ้มปลายลงช้าๆจนหัวเห็ดมนๆสีชมพูปรากฏแก่สายตาของบอลและเฟิร์สเจ้าบอลมันสังเกตเห็นน้ำเมือกใสๆเยิ้มเปียกไปทั่วทั้งปลายหัวมนๆดังกล่าว “รออะไรอยู่ล่ะ มันรอให้บอลครอบปากลงไปอยู่นะช่วยพี่ทีครับบอล พี่เงี่ยนเหลือเกินนนครับ” คำพูดดังกล่าวกระตุ้นเจ้าบอลนึกถึงตอนที่มันแอบเห็นเจ้าบิวอมที่ก้มดูดอมท่อนลำของเจ้าเติร์กจนก่อนเป็นความอยากขึ้นมาเจ้าบอลไม่รีรอมันรีบก้มเลียกินน้ำเมือกที่เยิ้มติดหัว K มนๆดังกล่าวอย่างรวดเร็วรสชาติอันหวานแปล่มๆและคาวหน่อยของน้ำเมือกดังกล่าวทำเจ้าบอลถึงกับผะอืดผะอมเล็กน้อยถึงกระนั้นมันยังคงก้มหน้าก้มตาเลียกินน้ำเมือกต่อไปเจ้าเฟิร์สถึงกับกระตุกตัวเสียวเป็นช่วงๆ ทันทีที่โดนลิ้นสากๆของเจ้าบอลเลียกินน้ำเงี่ยนไปมาบริเวณปลายหัว K “อ๊ากกบอลพี่คิดถึงความรู้สึกนี้จังเลยตอนที่ถูกลิ้นของบอลเลียเนี่ยย อ๊ากกกก” เจ้าบอลถึงกับได้ใจและบรรเลงลิ้นเลียลงไปจนถึงหัวเงี่ยงของเฟิร์ส “อ่าหหหห์ เฟิร์ส พี่เงี่ยนเหลือเกิน ช่วยเอาน้ำของพี่ออกทีนะบอลพี่ไม่ได้เอาออกมาหลายวันแล้วล่ะอมให้พี่ทีนะค๊าบบบ อย่าลืมดูดให้พี่ด้วยนะครับ”เจ้าบอลไม่รอช้ามันรีบดูดหัว K เข้าปากไปอย่างรวดเร็วจนเกิดเสียง บ๊วบ ขึ้นมาพร้อมกับทั้งผงกหัวเข้าออกไปมาอย่างรวดเร็ว “ซีดดดโอ่วววววบอล ห่อปากเล็กลงอีกนิดครับ ซีดดด แบบนั้นดูดย้ำไปที่หัวKหน่อยยยอ๊ากกก ชะชะใช่แบบนั้น อ๊ากกกก” เฟิร์สถึงกับเสียงซ่านไปทั่วทั้งตัวใบหน้าของมันบิดเกร็งด้วยความเสียวซ่านปนสุขไปพร้อมๆกัน “ซีดดดดดอาหหหห์อะอะเอาน้ำของพี่ออกให้ได้เลยนะบอลโอ่วววซีดดโอ่วววว” เจ้าบอลดูดได้ไม่นานจู่ๆทั้งสองก็ต้องตกใจกับเสียงเรียกของไอ้ตี๋กับไอ้เจตที่ดังมาแต่ไกลแต่ด้วยความสุข ความเสียว และความอยาก ความสนุก ตื่นเต้นเร้าใจที่ครอบงำจิตใจของเฟิร์สกับบอลในตอนนี้ทำให้ทั้งสองยังคงวางใจและเสพสุขกันต่อไปทั้งแบบนั้นเฟิร์สถึงกับใช้มือทั้งสองจับหัวเจ้าบอลพร้อมกับดันหัวเข้าออกให้เร็วขึ้นเป็นว่าเล่นแต่ทั้งสองก็ต้องรีบหยุดการกระทำดังกล่าวทันทีที่เสียงฝีเท้าและเสียงคุยกันของไอ้ตี๋กับเจต เดินเข้ามายังสวนไผ่ “ไอ้ตี๋ตะกี้เหมือนกูเห็นไอ้เฟิร์สมันเดินมาแถวนี้นะ” “ตาฝาดป่าวมึงไอ้เจตไอ้เฟิร์สมันจะมาแถวนี้ทำไมวะ ดูสิ มืดสลัวๆเปลี่ยวแบบนี้ใครมันจะบ้ามาคนเดียววะ” “แต่กูเห็นจริงๆนะเว้ยไอ้ตี๋ กูเห็นมันแว็บหนึ่ง” “โห่ยยยเห็นแว็บหนึ่งไอ้เจตแบบนี้กูจะเชื่อมึงได้สักกี่เปอร์เซ็นต์วะเนี่ย มึงก็ถือไฟฉายดีๆดิ๊ กูมองทางไม่เห็นเว้ย”เฟิร์สกับบอล ที่หนีไปยืนหลบอยู่หลังตู้ไม้เก่าทั้งคู่ถึงกับตัวสั่นใจเต้นระทึก ด้วยความหวาดกระแวงและหวาดกลัว เฟิร์สถึงกับพูดขึ้นในใจ “ชิปหายล่ะ เกิดไอ้สองคนนั้นดันเจอตัวกูกับบอลเข้าในที่แบบนี้กูจะแก้ตัวกับพวกมันยังไงดีวะเนี่ย” เจ้าบอลที่ยืนอยู่ข้างมันได้แต่ยิ้มๆและเอื้อมมือไปจับและบีบเล่นท่อนลำที่แข็งตุงๆอยู่ใต้กางเกงยีนส์เฟิร์สรีบหันมากระซิบบอกเจ้าบอลพร้อมกับคว้ามือที่กำลังบีบท่อนลำอยู่นั้นไว้มับ “เดี๋ยวก่อนบอล ตอนนี้ยังไม่เหมาะ เดี๋ยวค่อยทำครับ”เฟิร์สยังคงแอบชำเลืองตามองและฟังบทสนทนาของไอ้เจตกับไอ้ตี๋ที่เดินมาด้วยกัน “กูว่ากลับเหอะไอ้เจต ไอ้เฟิร์สแม่งไม่มาแถวนี้หรอก ที่น่ากลัวและเปลี่ยวกลางสวนไผ่แบบนี้ใครมาคนเดียวก็บ้าแล้วว่าแต่มึงจะตามหามันไมวะบางทีมันอาจจะออกไปทำธุระข้างนอกก็ได้” “มึงไปบ่นกับไอ้เติร์กโน่นไอ้ตี๋ที่มันให้กูมาตามหาไอ้เฟิร์สเนี่ยเพราะมันจะเอาน้องมันกลับบ้านแต่มันดั้นตามหาน้องมันไม่เจอ” “แล้วเกี่ยวไรวะกับไอ้เฟิร์ส” “ก็น้องของมันดันไปติดไอ้เฟิร์สแจซะนิมึงไม่สังเกตหรอวะวันนี้ไอ้เฟิร์สแม่งเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปซะงั้นแม่งผิดวิสัยว่ะกูว่า"เฟิร์สที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับใจหายวูบก่อนจะหันมามองและกระซิบเจ้าบอลที่ยืนจับมือแอบอยู่ข้างๆมัน “พี่ว่าบอลกับพี่สนุกกันต่อไม่ได้แล้วล่ะ” “ไมอะคัฟพี่เฟิร์ส” “บอลไม่ได้ยินที่พี่พวกนั้นเค้าคุยกันหรอว่าพี่เติร์กของบอลกำลังตามหาบอลอยู่เพราะจะเอาบอลกลับบ้านแล้วตอนนี้” เจ้าบอลถึงกับชักสีหน้าด้วยความเสียดาย “แต่บอลยังทำไม่เสร็จเลยนะพี่เฟิร์ส บอลยังดูดได้แค่แปปเดียวเอง” เฟิร์สถึงกับย่อตัวนั่งลงและเอามือไปลูบหัวเจ้าบอลเบาๆ “พี่ก็ยังเงี่ยนอยู่เลยครับ น้ำพี่ยังไม่ทันออกมาเลยแต่ถ้าเรายังอยู่กันตรงนี้ต่อพี่กลัวว่าความลับและเรื่องสนุกของเรามันจะไม่มีอีกต่อไปและมันจะแย่ลงไปกว่าเดิมอีกหากมีคนจับได้ว่าเราสองคนทำอะไรกันแบบนี้พี่ว่าพรุ่งนี้หรือวันอื่นที่มีโอกาสพี่จะไปหาบอลที่บ้านและหาเวลาทำอะไรกันแบบนี้กันอีกรอบดีกว่าไหม ถือว่ารอบนี้เราติดกันไว้ก่อน” “ก็ได้คัฟพี่เฟิร์สแต่พี่เฟิร์สต้องรับปากกับบอลนะว่าอย่าเพิ่งเอาน้ำของวันนี้ออกพี่เฟิร์สต้องเก็บไว้ให้บอลดูดออกนะคัฟ” เจ้าเฟิร์สถึงกับยีๆหัวเจ้าบอลไปมา “โอ๊ยยยยตัวเล็กพูดแบบนี้ได้ใจพี่ไปเลย ได้สิครับถ้าบอลต้องการแบบนั้นมาเถอะบอลพี่ว่าเราค่อยๆย่องและแอบเดินเลาะไปตามทางข้างนี้ดักว่าก่อนที่ทุกคนในงานจะออกมาตามหาตัวเราสองคน”เจ้าเฟิร์สลุกขึ้นหาชะเง้อมองเจตกับตี๋ที่ถือไฟฉายกำลังจะเดินตรงเข้ามายังจุดที่เฟิร์สกับบอลแอบอยู่มันถึงกับรีบอุ้มตัวของเจ้าบอลไว้มั่นและค่อยๆเดินก้มต่ำพร้อมกับเลาะไปตามทางที่มืดสลัวๆจนออกจากส่วนไผ่ก่อนที่จะวางเจ้าบอลลงและทำทีเดินไปยังบันไดทางขึ้นบ้านของหนิงหลังงานวันเกิดจากผ่านพ้นไป ทุกอย่างเหมือนเป็นไปด้วยความราบรื่นในบางส่วนซึ่งในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ทั้งสองวันเฟิร์สมันทำทีมาเที่ยวหาเจ้าเติร์กที่บ้านเพื่อหาโอกาสให้เจ้าบอลได้ทำในสิ่งที่มันติดค้างไว้เมื่อวันก่อนแต่ไม่ว่ามันจะพยายามเช่นไร ตัวของเฟิร์สเองมันก็ต้องผิดหวังทุกรอบเพราะบางวันเจ้าบิวก็อยู่กับเจ้าบอลไม่ยอมห่าง บ้างก็เจอกับเจ้าเติร์กที่เข้าออกห้องเป็นว่าเล่นและบ้างก็ออกไปนอกบ้านกับน้าเอมทั้งวัน ซึ่งนั่นทำให้เฟิร์สถึงกับหัวเสียลึกๆกระนั้นมันได้แต่พยายามข่มความเงี่ยนไว้และทุกครั้งมันมักจะนึกถึงคำพูดที่มันรับกับเจ้าบอลไว้เสมอเมื่อมันเกิดความคิดที่อยากจะชักว่าวขึ้นมา จนกระทั้ง วันจันทร์ที่ 3 กันยายน เวลา 15.49 น. เฟิร์สที่กลับจากโรงเรียนในขณะที่มันกำลังเปิดค้นตู้เย็นหาอะไรกินอยู่นั้นเองจู่ๆแม่ของมันเดินเข้ามาทักจากทางด้านหลัง “เฟิร์ส” เสียงเรียกของแม่มันทำเอาเฟิร์สถึงกับสะดุ้งขึ้นทันใด “โถ่!!ม๊า ชอบทำแบบนี้กับอั๊วตลอดเลยนะม๊า” “ก็ลื๊อ ไม่มีสติเองนิน่าแค่เดินมาแค่นี้ปกติก็ต้องได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่แล้ว” “ว่าแต่ม๊ามีไรกับอั๊วหรอ?” “คืองี้ ลื้อจำอาเฟย ได้รึป่าว” “อาเฟยหรอม๊าอื้มมมม อ้อ อั๊วจำได้ล่ะ คนที่ตัวผอมสูงๆมีอายุหน่อยๆแต่ชอบแต่งตัวเหมือนวัยรุ่นเกาหลี และก็ชอบมาบ้านเราตอนตรุษจีนใช่ป่าวม๊า” “ใช่ คนนั้นนั่นแหละ” “ว่าแต่มีไรหรอม๊าอาเฟยเค้าเป็นไร” “เห่ยยลื้อนี้ก็ปากไม่เป็นมงคลนะคือตะกี้นี้อาเฟยเค้าโทรมาหาม๊าน่ะ เค้ามาขอร้องม๊าบอกให้ลื้อไปช่วยสอนลูกชายเค้าวาดภาพสามมิติที่บ้านอาเฟยหน่อยลื้อพอจะสะดวกไหมอะ”“วันไหนหรอม๊า”“ก็วันนี้นี่แหละ เนี่ยถ้าลื้อไม่มีธุระไร ลื้อก็ไปบ้านอาเฟยเค้าหน่อย” “แต่วันนี้อั๊วมีนัดกับเพื่อนๆเตะบอลนะม๊า วันนี้แข่งนัดล้างตาด้วย” แม่ของเฟิร์สถึงกับใช้มือตีไปที่แขนขวาของเฟิร์สเบาๆหลายต่อหลายที “เอ้ นี่ นี่ นี่ นี่ ลื้อนี่โตป่านนี่ยังต้องให้ม๊าสอนเรื่องการจัดลำดับความสำคัญอีกหรอห๊ะนี่ นี่ ลื้อไม่คิดบ้างหรอว่าอาเฟยเค้าเคยให้อังเปาลื้อเกือบทุกครั้งที่มาบ้านนะ”เฟิร์สถึงกับก้าวถอยห่างจากแม่ “โอ๊ย โอ๊ย ม๊า พอแล้ว พอ ตีอั๊วไมนี่ โอ๊ย พอ พออั้วรู้แล้วน่าม๊า อั๊วแค่พูดหยอกม๊าไปแค่นั้นเอง”“ลื้อนี่ชอบทำตัวยังกะเด็กๆอยู่เรื่อยนะ แล้วตกลงจะยังไง ไหนเอาให้มันเคลียร์ๆซิ ม๊าจะได้โทรบอกอาเฟยเค้า”“อื้มม เดี๋ยวอั๊วไปแต่ขออั๊วเปลี่ยนชุดกับหาไรกินให้อิ่มท้องก่อนม๊า” “รีบด้วยล่ะอย่ามัวแต่ชักช้า เดี๋ยวได้กลับค่ำกลับมืดกันพอดี เอ่อถ้าลื้อทำไรเสร็จแล้ว ก่อนจะไปลื้อมาหาม๊าก่อนนะม๊าว่าจะฝากซาลาเปาใส้หมูที่ม๊าเพิ่งทำตอนบ่ายนี้ไปให้อาเฟยกับเมียเค้าด้วยลื้อเองถ้าจะกินก็ไปหยิบเองในครัวนะแล้วก็อย่ามักง่ายเอามือเปล่าของลื้อลงไปหยิบล่ะ เดี๋ยวซาลาเปาของม๊าจะเสียหมด” เวลา 16.33 น. เฟิร์สขับรถมอเตอร์ไซด์มาจอดหน้าบ้านของอาเฟยมันถอดหมวกกันน๊อคออกก่อนที่จะแหงนมองตัวบ้านและหันไปดูบริเวณโดยรอบ “โอ้โหแหะไม่ได้มาโซนนี้นานตั้ง 7 ปีแล้วจำแทบไม่ได้เลยนะเนี่ย เปลี่ยนไปเยอะจริงๆ”อาเฟยที่เห็นเฟิร์สอยู่หน้าบ้านของตัวเองถึงกับรีบเดินออกไปทักทายและต้อนรับเฟิร์สอย่างคุ้นเคย พร้อมกับพาเฟิร์สไปทักทายชิชา เมียของอาเฟยที่นั่งปักผ้าอยู่ในตัวบ้านหลังจากที่เจ้าเฟิร์สได้มอบของฝากจากแม่และพูดคุยกับทั้งสองจนเป็นที่พอใจแล้วอาเฟยจึงบอกให้เฟิร์สเดินอ้อมไปยังสวนดอกไม้ตรงหลังบ้านที่มีบ้านไม้สองชั้นขนาดกลางสร้างไว้ให้ลูกๆของอาเฟยอีกหนึ่งหลังทำเอาเฟิร์สถึงกับอิจฉาลูกของอาเฟยที่มีบ้านส่วนตัวแยกออกมาจากบ้านของพ่อแม่ “ไอยะ!! เจ๋งโครต แม่งอยากจะมีบ้านแบบนี้บ้างแหะแม่งคงจะโครตไพรเวตแบบสุดๆเลย”เฟิร์สเดินเข้าไปเคาะประตูไม้ของห้องที่อยู่ชั้นล่างตามที่อาเฟยบอกไว้“ก๊อกๆๆๆ” “นั่นใครครับ” เสียงเด็กชายดังเล็ดลอดผ่านประตูออกมาจากภายในห้องดังกล่าว” “เอิ่มมพ่อของน้องบอกให้พี่มาสอนน้องวาดภาพสามมิติครับ” “งั้นเดี๋ยวรอแปปนะครับพี่” ไม่นานนักประตูไม้ถูกเปิดออกลมเย็นๆจากแอร์ภายในห้องพุ่งเข้าปะทะกับใบหน้าของเฟิร์ส วาบบบ อย่างจัง พร้อมทั้งเด็กชายหน้าขาว ตาชั้นเดียว ตัดผมทรงนักเรียน หุ่นค่อนข้างผอม และตัวสูงเกือบเท่าเอวเฟิร์สยืนมองเฟิร์สด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ เด็กคนดังกล่าวถึงกับพูดขึ้นมาในใจ “อื้มมมเอ้เหมือนเราจะเคยเห็นพี่คนนี้นะ แต่มันเป็นที่ไหนนะอื้มมนึกไม่ออกแหะ” เฟิร์สที่เห็นเด็กชายคนดังกล่าวยืนมองนิ่งอยู่แบบนั้นถึงกับดีดนิ้วไปมาพร้อมกับเอ่ยปากเรียก “เอ่อน้องครับ น้อง เป็นไรน่ะ เห็นยืนมองแปลกๆตกตะลึงในความหล่อของพี่รึไงน้อง” “เอ่อ ปะป่าวครับผมแค่ตกใจนิดหน่อย ผมนึกว่าคนที่มาสอนเป็นเด็กม.ต้น น่ะครับ เอ่องั้นพี่เข้ามาก่อนครับ” เด็กชายคนดังกล่าวพาเฟิร์สไปนั่งที่โซฟาในห้องนอนพร้อมกับรีบเดินไปหยิบรีโมทขึ้นมากดปรับแอร์ให้อุ่นขึ้นก่อนจะเดินมานั่งข้างๆเฟิร์ส “เปิดแอร์ซะเย็นเชียบเลยนะน้อง แบบนี้เปลืองไฟใช่ย่อยนะ” “นิดหน่อยครับพี่ ก็วันนี้มันร้อนจัดนี่น่าผมก็เลยขอจัดเต็มสักหน่อย”เฟิร์สกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง “อันนี้ห้องของน้องคนเดียวรึไงกว้างดีเหมือนกันนะ แถมแต่งห้องยังกะห้องนอนของเด็กฝรั่งยังไงอย่างั้นแหละ”“เทห์ดีใช่ไหมล่ะพี่อันนี้ห้องผมคนเดียวเลยครับ แยกกับพี่ชายคนล่ะห้องเลย” “เก่งเหมือนกันนะเป็นเด็กตัวแค่นี้แต่นอนคนเดียวได้ชิลๆว่าแต่แล้วถ้านี่เป็นห้องน้อง และห้องของพี่ชายน้องล่ะ” “อยู่ชั้นสองครับพี่แต่ห้องของพี่ผมสะอาดกว่านี้เยอะ มันเจ้าระเบียบน่ะครับ”“ฮ่าๆ งั้นน้องเองก็น่าจะเอาอย่างแบบนั้นบ้างนะ ห้องจะได้สะอาดเหมือนกับของพี่ชายไง” “ไม่อะพี่ผมสายชิลครับ” “แล้วพี่ชายไม่อยู่หรอวันนี้ตอนเดินเข้ามาเห็นเงียบยังกะไม่มีใครอยู่” “ใช่ครับ พี่ชายผมเลิกค่ำเกือบทุกวันเห็นบอกว่าที่โรงเรียนจะส่งพี่ชายผมไปแข่งโฟร์คซองเดือนนี้อะครับพี่ชายผมเลยต้องอยู่เย็นซ้อมที่โรงเรียนน่ะครับ” “อืมมว่าแต่คุยกันมาตั้งนานน้องชื่อไรอะ เรียนอยู่ชั้นไหน พี่ก็ลืมถาม?”“ผมชื่อเลโก้ครับ อยู่ป.4แล้วพี่ล่ะครับชื่ออะไร เรียนอยู่ชั้นไหนครับ?” “พี่ชื่อเฟิร์ส อยู่ม.6 ครับน้อง มามะน้องไหนวันนี้จะให้พี่ทำอะไรยังไง ลองบอกหน่อยครับ” “อืมคือวันนี้ที่โรงเรียนวิชาศิลปะครูสั่งงานให้วาดรูป 3 มิติอย่างง่ายอะครับแต่ผมวาดไม่เป็นและไม่รู้ด้วยว่าจะเริ่มต้นอะไรยังไงด้วย พี่ช่วยสอนผมหน่อยครับว่าจะทำไงบ้าง” “เอ่อ แล้วนี่ครูเค้าไม่สอนวิธีการวาดหรือให้คำแนะนำอะไรเลยรึไงถ้าจู่ๆมาให้วาดเลยนี่พี่ว่าเป็นใครก็วาดไม่ได้หรอกน้องถ้าไม่รู้พื้นฐานมาก่อน” เลโก้ถึงกับยิ้มอาย“จริงๆครูเค้าสอนนะครับแต่พอดีผมมัวแต่คุยกับเพื่อนข้างๆเลยไม่ได้ฟังที่ครูเค้าบอก” “เอิ่ม ถ้างั้นพี่ว่ามันก็สมควรล่ะน้องที่จะวาดไม่ได้”“โถ่พี่เฟิร์สอย่าตอกย้ำผมแบบนี้ซิครับ สอนผมหน่อยครับพี่ เนี่ยผมสำนึกผิดแล้วนะผมถึงได้บอกให้พ่อหาคนช่วยมาสอนผมอยู่เนี่ย” “คราวหลังก็ตั้งใจเรียนและฟังที่ครูเค้าบอกด้วยล่ะน้องครั้งต่อไปพี่จะไม่มาสอนให้น้องล่ะนะถ้าน้องยังทำตัวแบบนั้นอีก”“ครับพี่เฟิร์สมาครับพี่ มันต้องเริ่มต้นทำไงบ้าง” เฟิร์สลงมือสอนเลโก้ กำหนดแบบ ร่างภาพ และการฝึกแรเงาซึ่งใช้เวลาพอสมควรกว่าที่เลโก้จะสามารถทำตามที่เฟิร์สสอน จนเลโก้เริ่มวาดออกมาเป็นรูปเป็นร่างที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และในระหว่างนั้นเองเลโก้ที่สนใจอยู่กับการฝึกวาดรูป3 มิติแต่ภายในหัวของมันกลับรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเฟิร์สเป็นอย่างมาก ทำเอาเลโก้พยายามภาพนึกว่ามันเคยเห็นเฟิร์สเมื่อไหร่และเห็นจากที่ไหนส่วนตัวของเฟิร์สเองในระหว่างที่มันสอนเลโก้ไปนั้น อารมณ์เงี่ยนที่มันพยายามข่มไว้จู่ๆได้ปรากฏขึ้นมาในหัวของมันอีกครั้งทำเอาท่อนลำของมันที่อยู่ใต้กางเกงวอร์มสีดำค่อยพองตัวขยายใหญ่ขึ้นมาทีละนิดๆ เฟิร์สที่รู้สึกเช่นนั้นมันรีบทำเป็นเอามือไปวางกดที่เป้ากางเกงไว้เพื่อไม่ให้เลโก้สังเกตุเห็นท่อนลำของมันส่วนเลโก้เองที่นั่งวาดอยู่นั้นมันสังเกตุเห็นอาการกระสับกระส่ายของเฟิร์สที่ค่อยเพิ่มขึ้นพร้อมกับมือซ้ายของมันที่ออกแรงกดเบาๆไปที่ท่อนลำทำให้มันเริ่มประหลาดใจในสิ่งที่เฟิร์สเป็นอยู่แม้ว่ามันจะอยากถามไปตรงๆให้รู้แล้วรู้รอด แต่ด้วยความลังเลมันเลยได้แต่ทำเป็นนิ่งเงียบและก้มหน้าวาดรูปไปเช่นนั้นและคอยแอบชำเลืองสายตามองเฟิร์สเป็นระยะๆจนกระทั่งเฟิร์สเอ่ยปากพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและสั่น “เลโก้ ประตูที่ใกล้อยู่กับตู้เสื้อผ้านั่นใช่ประตูห้องน้ำป่าวน้อง” “ใช่ครับพี่ พี่จะใช้ห้องน้ำหรอ” “ครับน้องเดี๋ยวพี่ขอตัวไปทำธุระส่วนตัวนิดหน่อยนะ ส่วนน้องเองก็คอยวาดไปตามที่พี่สอนและใจเย็นๆอย่าเร่งรีบ ล่ะอยู่นี่นะน้องเดี๋ยวพี่มาครับ” เฟิร์สรีบเอามือทั้งสองชันตัวจากพื้นและลุกยืน ซึ่งในจังหวะนั้นเองเลโก้มันได้เหลือบไปเห็นท่อนลำของเฟิร์สที่อัดแน่นเป็นลำใหญ่นูนเด่นขึ้นมาอยู่ใต้กางเกงวอร์มก่อนที่เฟิร์สจะรีบเบนหันตัวเดินไปทางห้องน้ำเลโก้ถึงกับทำตาโต และมองตามหลังไปติดๆ ก่อนที่มันจะพูดขึ้นมาในใจ “ โหนั่น ควย หรือว่าอะไรน่ะ แม่งโครตใหญ่ยาวเลย พี่เฟิร์สนี่นอกจากจะหล่อตัวสูงแล้วควยยังจะใหญ่อีกนะเนี่ย” หลังเฟิร์สเดินเข้าห้องน้ำไปแล้วเลโก้รีบวางดินสอพร้อมทั้งเอามือทั้งสองมากุมใบหน้าไว้และใช้ศอกสองข้างยันไว้กับโต๊ะ “ทำไมถึงคาใจแบบนี้นะ เราว่าเราเคยเห็นพี่เฟิร์สจริงนะเพราะมันคุ้นหน้าพี่เค้าจริงๆเลยแต่เอ้มัน...ที่ไหนนะ??” เลโก้นั่งคิดอยู่แบบนั้นได้ไม่นานมันจึงนึกออกขึ้นมาทันควันมันรีบเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับเอามือทั้งสองปรบเข้าด้วยกันดัง แปะ “อ้อ อ้อ นึกออกแล้วล่ะ พี่คนนี้ไงที่เราเห็นในไอจีที่พี่ออโต้เปิดให้ดูในตอนนั้นและยังเป็นคนในคลิปที่โดนพี่ออโต้ดูดควในตอนนั้นไง งี้นี่เอง จำได้ล่ะจำได้ล่ะ จริงสินะพี่ออโต้เองก็บอกว่าคนที่พี่ออโต้อมควยให้เป็นรุ่นพี่ม.6สรุปคนในคลิปคือพี่เฟิร์สสินะเนี่ยโอ้พระเจ้า สวรรค์มาโปรด ที่ช่วยส่งพี่เฟิร์สคนที่เราอยากเจอมาให้ถึงในห้องนอนโ อ้ตื่นเต้นสุดเลย โอ้ ทำไงดีเนี่ย” เลโก้ยิ้มดีใจจนล้มตัวนอนกลิ้งไปมาอยู่พักใหญ่ก่อนที่มันจะลุกขึ้นยืนและทอดสายตาไปยังประตูห้องน้ำพร้อมกับความรู้สึกอยากลองที่บังเกิดขึ้นในหัวของมันเฟิร์สที่เข้ามาในห้องน้ำมันรีบพาของมันไปยังที่อาบน้ำพร้อมกับดึงม่านอาบน้ำมากั้นไว้เฟิร์สเดินเอามือซ้ายไปยันผนังไว้พร้อมกับก้มมองเป้ากางเกงของมันเอง “เงี่ยนจริงๆวุ้ย ทำไมต้องมาเป็นเอาต้องนี่ด้วยวะ” เฟิร์สหลับตาลงสูดหายใจเข้ายาวๆพยายามข่มความเงี่ยนของมันไว้ แต่ยิ่งทำมันยิ่งกระตุ้นให้ความเงี่ยนของมันนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนขนทั่วร่างลุกซู่ซ่ารวมถึงใบหน้าของมันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงมันเลยดึงกางเกงลงจนท่อนลำที่อัดแน่นภายในดีดชี้โด่ขึ้นมา “แม่งน้ำเงี่ยนเยิ้มขนาดนี้เลยหรอวะขืนเป็นแบบนี้ต่อไปคงออกไปไม่ได้แน่ๆกูต้องทำไรสักอย่างล่ะ” เฟิร์สมันเลยใช้มือขวาจับท่อนลำไว้มั่นและค่อยขยับขึ้นลงช้าๆ “อ่าหหห รู้สึกดีจริงๆเลยแบบนี้” มือของมันค่อยๆสาวเร่งจังหวะเร็วขึ้น “ซีดดดดด แม่ง อ่าหหหห์”“ให้ผมช่วยไหมครับพี่!!” เฟิร์สถึงกับตกใจงึกกับเสียงของเลโก้ ทำเอามันรีบขึ้นกางเกงขึ้นมาสวมปิดท่อนลำไว้เช่นเดิมก่อนที่มันจะเปิดม่านอาบน้ำออกไปดู และเฟิร์สก็ถึงกับตกใจยิ่งกว่าเก่าเมื่อมันเห็นเลโก้ยืนยิ้มๆ อยู่ห่างจากมันไปเพียงแค่ 1.5 เมตรทำเอามันถึงกับหน้าซีดเผือกกก “เอิ่มม นะ นะน้องเข้ามาได้ไงเนี่ย”“ผมลืมบอกพี่ครับ ว่าลูกบิดประตูห้องน้ำมันเสียเลยล็อกไม่ได้เวลาผมจะอาบน้ำเมื่อไหร่ต้องไปล็อคประตูห้องเอาน่ะพี่”“อื้ม งะงั้นหรอว่าแต่เข้ามาเนี่ย มีไร ทำไมไม่เคาะหรือเรียกพี่ก่อนล่ะทำแบบนี้เนี่ยมันไม่ดีนะน้อง” “แฮ่ๆ ผมก็จะเรียกพี่อยู่นะแต่ผมได้ยินพี่พูดซะก่อน ผมเลยไม่กล้าเรียก”“ได้ยินพี่พูดไร” “ก็ทั้งหมดแหละครับ และก็ได้ยินเสียงครางของพี่ด้วย”“อื้มม งั้นพี่ว่าน้องออกไปทำงานของน้องให้เสร็จจะดีกว่าเดี๋ยวสักพักพี่ว่าจะขอตัวกลับล่ะ” “อย่าเพิ่งดิพี่พี่ยังทำธุระไม่เสร็จเลยนิครับ”เลโก้รีบพุ่งตัวเข้าไปสวมกอดที่เอวของเฟิร์สไว้มั่นเฟิร์สถึงกับผงะถอยหลังไปชนผนังห้องน้ำดึง ตึ้งงงงง “เห้ยยยย!!เลโก้จะทำไรพี่น่ะ ปล่อยยยยย”เฟิร์สดิ้นสะบัดไปมาพร้อมกับใช้มือแกะและดันตัวของเลโก้ออกไปแต่เลโก้ไม่ยอมแพ้มันออกแรงกอดรัดแน่นกว่าเดิม “ผมชอบพี่เฟิร์สนะรู้ปะให้ผมช่วยนะ” เลโก้รีบเอาหน้าซุกและถูกไปถูกมายังเป้ากางเกง“เห้ยยย ไม่เอา ปล่อยยยยย ปล่อยสิน้อง อย่าทำไรแบบนี้ ปล่อยย”เฟิร์สร้องตะโกนขึ้นเสียงใส่เลโก้แต่นั่นไม่ได้ทำให้เลโก้หวาดวิกตกแต่อย่างใด มันยังคงเอาหน้าซุกและถูกไปถูกมาเช่นเดิมมันสัมผัสถึงท่อนลำใหญ่ๆที่ชนหน้าของมันไปมา “ห้องชั้นล่างนี่เก็บเสียงนะพี่ร้องดังยังไงพ่อกับแม่ผมก็ไม่ได้ยินหรอกครับ ฟืดดดดดดดด”“เลโก้ อย่าทำ เลโก้อย่าสิน้อง ปล่อยยยย….” เสียงของเฟิร์สที่ร้องระงมจู่ๆได้หยุดหายไปเหลือแต่เพียงเสียงหายใจอันแผ่วบางที่พ่นออกมาจากริมฝีปากเลโก้ถึงกับรุ้สึกแปลกใจก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองเฟิร์สที่มีสีหน้าแดงกร่ำและแววตาที่บ่งยอกถึงความเงี่ยนที่พุ่งถึงขีดสุดเลโก้ที่ได้เห็นเช่นนั้นมันจึงค่อยๆเอามือทั้งสองมาบีบคลึงท่อนลำจากภายนอกกางเกงวอร์ม เมื่อมันเห็นเฟิร์สไม่โต้ตอบ เลโก้มันเลยเอานิ้วทั้ง 5 เกี่ยวขอบกางเกงพร้อมกับออกแรงดึงขอบกางเกงวอร์มและกางเกงในไปกองที่หัวเข่าและทันใดนั้นเองเลโก้ถึงกับทำตาโตและผงะกับภาพตรงหน้า ท่อนลำสีขาวใหญ่ๆที่มีเส้นเลือดปูดโปนผงาดชี้โด่ล่อตาล่อใจมันเลโก้พูดขึ้นมาในใจ “หูยยยยควยพี่เฟิร์สโครตใหญ่เลยอะ ทำไมของจริงกับในคลิปมันคนละเรื่องกันเลยโอ้แม่เจ้า นี่หรอควยของผู้ใหญ่”มัยิ้มขึ้นมาทีละนิดๆ “พี่เฟิร์สขนที่ขึ้นรอบๆควยพี่ นี่มันทั้งดกดำและเงางามดีนะครับ” มือทั้งสองของมันรีบคว้ามับเข้าที่ท่อนลำพร้อมกับชักขึ้นลงเป็นว่าเล่น “หูยยยยมันทั้งแข็ง ทั้งแน่นบึกเลยพี่ ไหมผมของดูหัวมันหน่อยนะพี่” เลโก้ดึงหนังหุ้มปลายลงจุดสุดหัวเงี่ยง “หูยยยย หัวKมนๆแบบนี้ดูน่าดึงดูดจังเลยครับพี่ แล้วนี่มันน้ำอะไรนิครับ เหนียวเยิ้มทั่วปลายหัวKเลย” จู่ๆเลโก้มันใช้ลิ้นเลียชิมน้ำทันทีทันใดทำเอาเฟิร์สถึงกับเสียวแปล๊บพร้อมกับตกใจงึก เลโก้ทับปาก จั๊บๆๆ“รสชาติแปลกๆเนาะพี่”เฟิร์สที่ยืนมองอยู่นั้นจู่ๆมันใช้มือจับหัวเลโก้ไว้มั่นก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นมา “น้องกระตุ้นพี่ก่อนนะ ต้องรับผิดชอบให้มันลงด้วยล่ะ เข้าใจความหมายพี่ไหมน้อง”“เข้าใจครับ”“เด็กป.4 อย่างน้องรู้ใช่ไหมว่าต้องทำไง” “รู้ซิครับ ผมเองถึงจะตัวแค่นี้แต่ผมก็เคยหนังโป๊มาแล้วนะพี่ผมเลยอยากลองไงครับว่ามันจะเป็นไง” ด้วยความเงี่ยนที่มาเต็ม เฟิร์สถึงกับยิ้มที่มุมปากก่อนที่จะพูดในใจ “บอล พี่ขอโทษนะที่ผิดสัญญา มาถึงจุดๆนี้แล้วพี่คงต้องได้เอาน้ำออกแล้วล่ะ โดนเข้าแบบนี้พี่ไม่ไหวแล้วจริง อ่าหหหหซีดดดดด” จู่ๆเลโก้ได้ครอบปากอมหัวKและผงกหัวเข้าออกๆทันใด “อืมมมมมโอ่ววววอืมมมมซีดด อืมมม อย่าโดนฟันครับน้อง เจ็บ อ้าปากอีกหน่อยห่อๆปากให้เล็กลง “อืมมมม อ่าหหหหซีดดด แบบน้านนนน ดูดหน่อยสิน้องงงง อ่าหหหหห อ่าหหห อืมมมมม” เลโก้ทำตามอย่างว่าง่าย จนหัว K ของเฟิร์สได้ขยายใหญ่เบ่งบานจนคับปาก เลโก้ที่ตั้งหน้าตั้งตาดูดอยู่ถึงกับพูดขึ้นในใจ“แบบนี้เองสินะที่พี่ออโต้พูดถึงมันแน่นคับปากอย่างงี้นี่เอง มันทั้งนิ่มทั้งหยุ่นตามแรงดูดของปากเรามิน่าล่าพี่ออโต้ถึงได้ดูดเอาดูดเอาเราก็ไม่ยอมแพ้หรอก” เลโก้รีบออกแรงดูดพร้อมกับเร่งจังหวะการผงกหัวจ๊วบ บ๊วบ จ๊วบ บ๊วบ เฟิร์สถึงกับเกณ็งตัวและใบหน้า กัดฟันด้วยความเสียวซ่านที่แผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูอ๊ากกกอ๊ากกก เสียงครางของมันดังเล็ดลอดออกจากไรฟันแทรกสอดไปพร้อมกับเสียงดูดจ๊วบจ๊าบดังระงมไปทั่วห้องน้ำซีดดดดอ่าหหหห ดูดอีกครับ อ่าหหห อ๊ากกกกอ๊ากกก อย่าหยุดนะน้อง” เสียงหายใจฟืดฟาดของมันดังแรงขึ้นเรื่อยๆทำให้เลโก้ยิ่งตอบรับมันด้วยการดูดอมหัวK ลึกลงไปจนถึงลิ้นไก่ก่อนจะถอนปากรูดเร้นออกมาพร้อมกับเน้นตวัดลิ้นของมันไปมาใส่หัว K ที่เบ่งบานในปากของมัน” เฟิร์สถึงกับแอ่นเอวไปตามแรงดูดของเลโก้“แบบน้านแหละน้องที่พี่ต้องการ อ๊ากกกกเสียวโครต เสียวจริงสุขโครต ดีจริงๆ อ่าหหหห ซีดดดดดด” ไม่นานนักเฟิร์สใช้มือทั้งสองจับหัวเลโก้ไว้มั่นพร้อมทั้งกระตุกตัวพ่นน้ำเชื้อจากปลายท่อนลำเข้าสู่ปากของเลโก้อย่างต่อเนื่องเลโก้ไม่ขัดขืนแต่อย่างใดมันนึกถึงตอนที่มันดูดคลิปตอนเฟิร์สแตกในครั้งนั้นพร้อมกับนึกถึงคำพูดพี่ชายมัน “พี่ได้กินตั้ง3 น้ำ” เลโก้มันเลยกลืนน้ำเชื้อทั้งหมดดังกล่าวลงคอ อึกๆๆๆๆ ไปจนหมดเฟิร์สถึงกับผ่อนคลายสบายตัว ก่อนจะหันไปมองเลโก้ที่ยังคงอมและดูดหัว K เล่นเบาๆ “กลืนหมดเลยหรอเลโก้ ไม่รังเกียจรึไง” เลโก้รีบถอนปากออกมา “ก็นิดหน่อยพี่แต่ผมอยากลองไง เลยต้องเอาให้สุดๆ” เฟิร์สถึงกับทึ่งในคำพูดของเลโก้ก่อนจะหันไปผิงผนังห้องน้ำหอบหายใจแฮ่กๆด้วยความเหนื่อยล้าแต่อารมณ์เงี่ยนของมันยังคงพุ่งกรุ่น“ถ้านี่เป็นครั้งแรกของน้องพี่ก็ต้องบอกเลยว่าน้องเก่งโครตๆ”“นี่ครั้งแรกเลยแต่ผมก็ดูหนังโป๊หลายรอบนะ กว่าจะรู้ว่าต้องทำยังไง มีเทคนิคอะไรตรงไหน” “งั้นหรอน้องพี่ถามจริง!!เลโก้ทำแบบนี้เนี่ย น้องเป็นเกย์รึไง” “ผมไม่รู้อะพี่ แต่เมื่อกี้อะผมรู้สึกดีนะ ฟินดี”“แล้วทำไมถึงอยากลองล่ะน้อง”“ก็ผมอยากรู้ไงอะพี่ว่ามันเป็นไงถ้าทำไปแล้วอีกอย่างผมเห็นหน้าพี่แล้วผมก็รู้สึกดีด้วยพี่เฟิร์ส ผมเลยอยากลองกับพี่ดู”“ตอบตรงดีนะเราถ้างั้นไหนๆก็อยากลอง ก็ต้องลองให้สุดนะน้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนนะงั้นก็ต้องรับผิดชอบพี่จนจบครอส”“ไงอะพี่เฟิร์ส ผมไม่เข้าใจ??” “ไหนว่าดูหนังโป๊หลายรอบไม่ใช่หรอคงเข้าใจคำว่าสอดใส่สินะ”“จะทำจริงๆเลยเหรอพี่ ผมไม่เคยนะ ผมกลัวด้วย” “ไรกันน้องพูดเองนะว่าอยากลองกับพี่น่ะและถ้าตอนนี้พี่อยากลองกับน้องก็คงแฟร์ๆกันนะ”“มันจะเจ็บไหมอะพี่ ผมกลัวอย่างเดียวแหละ” “พี่คงตอบให้ไม่ได้น้องเพราะนี่เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่พี่ทำไรแบบนี้แต่พี่จะค่อยทำก็แล้วกันน้อง” เฟิร์สพาเลโก้เดินไปที่เตียงพร้อมกับหยิบกระปุกวาสลีนจากโต๊ะกระจกติดมือมาด้วยเฟิร์สมันบอกให้เลโก้คุกเข่าท่าหมาบนเตียงโดยมีเฟิร์สเดินไปนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหลังเลโก้ถึงกับตัวสั่นขึ้นมาเบาๆ “ค่อยๆทำนะพี่เฟิร์ส”เฟิร์สใช้มือถอดกางเกงเลโก้ออก เผยให้เห็นก้นสีขาวเนียนจนน่าบีบพร้อมกับรูทวารสีชมพูอ่อน เฟิร์สไม่รอช้ามันถอดกางเกงของมันลงพร้อมทั้งเอาวาสลีนมาทาทั่วท่อนลำใหญ่ๆของมันจนลื่นก่อนที่มันจะเอามือทั้งสองไปจับสะโพกเลโก้ไว้มั่น “พร้อมนะน้อง”เลโก้ตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “คะคะครับพร้อมก็พร้อม” เฟิร์สมันเลยเอาปลายหัว Kมนๆดังกล่าวไปจ่อที่รูตูดของเลโก้ก่อนจะดันหัว K ของมันให้จมพรุบ เข้าไปยังรูตูดสีชมพูอ่อนดังกล่าวอย่างรวดเร็วเลโก้มันถึงกับเกร็งตัว มือบีบกำผ้าปูที่นอนไว้แน่น “โอ๊ยยยพี่เฟิร์สสจุกจังเลยพี่ อ๊ากกก จุก พี่ เอาออกก่อนพี่เฟิร์ส” คำพูดดังกล่าวยั่วให้เฟิร์สดันท่อนลำของมันให้ลึกลงไปยิ่งกว่าเดิม“พี่เฟิร์สส ผมจุกอะพี่ ไม่เอาแล้ว พอก่อน ผมจุกกก” เลโก้ถึงกับดื้นไปมาทำเอาเฟิร์สรีบเอ่ยปากขึ้นทันใด “อย่าดิ้นสิน้อง ยิ่งดิ้นพี่ว่ามันจะยิ่งเจ็บนะ อยู่นิ่งๆครับ ลองทนหน่อย”เลโก้หันมามองเฟิร์สด้วยสีหน้าเหยเกเฟิร์สดันเข้ามาจนเกือบสุดโคนและดึงท่อนลำออกช้าๆก่อนที่จะดันกลับเข้าไปใหม่อีกรอบและทำซ้ำเดิมไปมาและค่อยเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นทีละนิด“โอ๊ยยยพี่เฟิร์สสส อย่าเร็วสิพี่ผมจุกอะครับ”“อืมมมมม อ่า อืมมมมม ซีดดดดแน่นฟิตดีแหะ”ปั๊ปๆๆๆเสียงกระทบกันของท้องน้อยเฟิร์สกับก้นของเลโก้ ค่อยดังถี่ขึ้นพร้อมกับเสียงครางของเฟิร์ส “อ่าหหหห ดีจริงๆแหะ อาหหห์”เฟิร์สเร่งจังหวะให้เร็วยิ่งกว่าเก่าเลโก้เองที่เริ่มแรกรู้สึกทรมาณจนอยากจะลุกหนีไปให้รู้แล้วรู้รอดความรู้สึกดังกล่าวค่อยแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวบริเวณในรูกก้นขึ้นมาทีละนิดๆอึยยยยยพี่เฟิร์สความรู้สึกนี่มันอะไรกันมันแปล๊บบบอกไม่รู้ เลโก้เริ่มมือไม้อ่อน ส่วนเฟิร์สเองยังคังจับสะโพกเลโก้ไว้เช่นเดิมพร้อมกับเร่งดังหวะกระเด้าเข้าออกให้เร็วขึ้นๆปั๊บๆๆๆๆ “พี่เสียงจริงๆเลยน้องอ่าหหห โอ่วววว เสียว โอ่ววว ซีดดดด อืมมมมมซีดดดด อืมมมมม”“ผมก็เหมือนกันครับพี่เฟิร์สอึยยยยยยยย”เลโก้ใช้นิ้วจิกผ้าปูที่นอนบีบขยำนิ้วจนเกิดรอยยับบนผ้าตรงจุดดังกล่าว “อ่าหหห เลโก้ ซีดดดดด น้อง อ่าหหหห ซีดดดดด” ไม่ถึง6 นาที ถึงเฟิร์สกระตุกตัวงึกๆพร้อมซีดดดปากดังไปทั่วห้องเลโก้เองก็รู้สึกถึงของเหลวอุ่นที่หลั่งไหลเข้าสู่ภายในรูก้นของมันอย่างต่อเนื่องทั้งสองค้างอยู่ในท่านั้นแน่นิ่งไปได้ เกือบ 30 วินาทีก่อนที่เฟิร์สจะดึงท่อนลำใหญ่ๆของมันออกมาจากก้นของเลโก้พร้อมกับล้มตัวนอนหอบหายใจอยู่บนเตียงไปพร้อมกับเลโก้ “แฮ่กๆๆพะพะพี่เฟิร์ส มะมะมีความสุขไหมครับพี่” “แฮ่กๆไม่น่าถามน้อง แฮ่กๆๆก็เห็นๆอยู่”เลโก้ที่นอนๆอยู่ค่อยๆหันมามองเฟิร์สช้าๆ “พี่เฟิร์ส เลโก้ ชอบพี่เฟิร์สนะครับ” เลโก้ค่อยๆเลื่อนมือขวาไปจับที่มือซ้ายของเฟิร์สไว้แน่นเฟิร์สเองที่นอนอยู่ๆจู่ๆภาพใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของเจ้าบอลได้ผุดขึ้นมาในหัวของมันทันใด เวลา 20.43 น.เจมส์ที่กำลังเลื่อนดูเฟสบุ๊คด้วยใบหน้าอันเศร้าสร้อยพร้อมกับคิดถึงเจ้าเติร์กไปด้วยในใจ ทันใดนั้นเอง มันได้เลื่อนไปเจอโพสต์ของคินท์อัพรูปถ่ายงานวันเกิดของหนิงที่คินท์ถ่ายไว้ 6 รูป เจมส์กดถูกใจก่อนที่จะกดเข้าไปดูรูปดังกล่าวด้วยความสนใจ จนมันไปเจอเข้ากับภาพหนึ่ง ที่เป็นรูปของหนิงกับเติร์กยืนจับมีดตัดเค้กวันเกิดด้วยกันกับอีกรูปที่เป็นรูปแอบถ่ายตอนที่เติร์กกับหนิงป้อนเค้กวันเกิดให้กันและกันด้วยรอยยิ้มที่ปิติสุข เจมส์ที่เห็นเช่นนั้นมันถึงกับตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เสียงหายใจค่อยๆดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ ฟืดฟาดๆๆๆ ก่อนที่มันจะกำมือทั้งสองไว้แน่นปึก น้ำตาของมันค่อยๆไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง “โถ่โว้ยยยยยยย” เจมส์ร้องตะโกนสุดเสียงพร้อมกับใช้มือปัดกองหนังสือและข้าวของที่วางอยู่บนโต๊ะคอมด้วยความรุนแรงจนข้าวของตกกระจัดกระจายบนพื้นห้องไปทั่วพร้อมกับเสียงโครมครามไม่แค่นั้นมันยังเดินไปต่อยตู้ไม้ของมันสุดแรงเกิด ตู้ม ๆ ๆ ๆ พร้อมกับตะโกนร้องสุดเสียง “ทำไม ทำไม ทำไมวะ”ไม่นานนัก เจนพี่สาวของมันเดินมาทุบประตูห้อง ตู้มๆๆพร้อมกับเสียงตะโกนด่า “ไอ้เจมส์ มึงเป็นบ้าไรวะ เสียงดังไปเจ็ดบ้านแปดบ้านมึงเปิดประตูดิ เปิด” ตู้มๆเจมส์ถึงนิ่งพร้อมกับยกแขนเสื้อปาดน้ำตาก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูห้องเจนถึงกับรีบเดินเข้ามาหาเจมส์พร้อมกับ ใช้มือจิ้มเข้าไปที่หัวตามด้วยน้ำเสียงห้วน“มึงเป็นเหี้ยไรวะ มึงเกิดบ้าไรขึ้นมาห๊ะ ไอ้เจมส์มึงบอกกูซิ” เจนถึงกับผลักเจมส์ออกไปเบาๆ เจมส์ถึงกับอารมณ์ขึ้นกับกับทำตาขวางใส่เจน “พี่เจนออกไปปะ ผมยังไม่อยากคุยกับพี่ตอนนี้ ออกไป๊” เจนถึงกับโกรธปรี๊ดขึ้นทันควัน มันเลยใช้มือตบหัวของเจมส์อย่างแรง ผั๊ววว “มึงว่าไงนะ นี่มึงขึ้นเสียง ทำตาขวางใส่กูหรอ มึงจะเอาไงห๊ะ มึงจะเองไง๊ แม่งแน่นักหรอวะ” เจนตบหัวเจมส์อย่างแรงหลายต่อหลายทีจนเจมส์ฟิวส์ขาด “อีเจน อีเหี้ยยยย กูไม่ทนมึงล่ะโว้ยยยย” เจมส์ตบไปที่หน้าของเจน พร้อมกับดึงผมกับจะชกท้องไปอย่างแรง 1 ที “อีเจมส์มึงงงงงง ตายยยย” เจนรีบพุ่งไปกระชากคอเสื้อเจมส์ก่อนจะผลัก ตบหน้าและใช้เท้าทีบไปที่ท้องของเจมส์ 1 ที“อีพี่เหี้ยนี่มึงถีบกูหรอในเมื่อชีวิตกูมันเอาดีไม่ได้กูก็จะแม่งเอาให้มันบัดซบไปเลย”เจมส์คว้ำหนังสือปาใส่หน้าเจน ก่อนจะวิ่งเข้ามาใช้มือทุบตีเจนเป็นชุดใหญ่เจนถึงกับใช้มือปัดป้องไปมา “มึงคิดว่ากูเป็นผู้หญิงแล้วจะสู้มึงไม่ได้หรออีเจมส์มึงงงงงง” เจนออกแรงผลักเจมส์พร้อมกับใช้เท้าทีบเข้าไปท้องเจมส์สุดแรงเกิดจนเจมส์กระเดนถอยหลังไปจนชั้นวางของเข้าอย่างแรงก่อนจะล้มลงไปนั่งกับพื้น ตึ้งงงง โครมมมมมมชั้นวางของดังกล่าวถึงกับหักถล่มลงมาทั้งแจกันเซรามิก แจกันดินเผา ชั้นไม้และหนังสือเล่มหนาๆ ที่เจมส์ซื้อเก็บไว้ ได้ตกลงมาใส่เจมส์เข้าจังๆเจนเดินเข้าไปชี้หน้าเจมส์ “มึงจำไว้ นิสัยเหี้ยๆอย่างมึงกูไม่ยอมรับ ต่อไปนี้มึงกับกูไม่ต้องมาเรียกกันว่าพี่น้องอีก สิ่งที่มึงทำกับกูไปในวันนี้ กูจะจำไว้ มึงน่ะมันเนรคุณอีเจมส์ ไอ้หน้าตัวเมีย”ทันใดนั่นเองเจนถึงกับทำหน้าตื่นทันทีที่มันเห็นเจมส์นอนแน่นิ่งไปพร้อมกับเลือดสีแดงสดที่ค่อยๆไหลอาบลงมาที่ใบหน้าของเจมส์เป็นจำนวนมาก “เจมส์!!!!เจมส์!!!”
ไว้มาต่อครับ......เนื้อหาในตอนที่ 14 ตามลิงค์ http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=129844&fromuid=155129
มาแล้วววว พี่เติร์กมาแล้ววววววว ขอบคุณมากครับ จัดเต็มให้หายคิดถึงเลยนะครับ ขอบคุณมากนะครับ รอตอนต่อไปคับ{:5_130:} ว้าวมาต่อคิดถึงเรื่องรอตั้งหลายเดือน ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ {:5_136:}ขอบคุณครับ{:5_119:} ขอบคุณครับ มาต่อแล้ว สนุกมากครับ เจมส?ดราม่าหนักมากรอลุ้นเตริ์กว่าจะยังไงต่อ ส่วนเฟิร์สนี่ชีวิตแฮปปี้มาก อ่านแล้วยิ่งอยากอ่านต่อ รอตนอต่อไป {:5_135:}{:5_135:}{:5_135:} ขอบคุณครับ แต่อยากเสนอนิดหน่อย
ตรงบทสนทนา ให้เคาะลงมาบรรทัดนึง
น่าจะทำให้อ่านง่ายขึ้นครับเช่น
"นี่ครั้งแรกเลยครับ"
"จริงหรอ" ต่อๆอยากรู้หนิงเป็นคนอย่างไงแล้วเฟริสเอาน้ำให้เลโก้แล้วน้องบอลละ เสน่ห์แรงจริงๆนะเติร์ก ขอบคุณมากเลยครับ ขอบคุณครับ เฟิส แหมเสียวสะใจเลยนะ
เจมสสงสารน้อง ยิ่งแบบนี้ ยิ่งสงสาร ครบรส เสียวสุขเศร้าเสียใจดร่าม่า ขอบคุณ สงสารเจมส์เลยตอนนี้ เติร์กมีแต่คนอยากได้ ชอบครับ สนุกดี ขอบคุณครับ