Elenai โพสต์ 2019-10-30 23:30:01

เรื่องราวของเจ้าเติร์ก 14 (แปรเปลี่ยนผัน)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Elenai เมื่อ 2020-7-23 19:40

เนื้อหาในตอนที่ 13 ตามลิงค์http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=128914&fromuid=155129
               วันอังคารที่ 4 กันยายน เวลา 7.33 น. เจ้าเติร์กเดินจากโรงรถโรงเรียนไปยังโต๊ะหินอ่อนที่ประจำกลุ่มของเจ้าเติร์กที่นัดรวมตัวกันทุกวันๆตอนช่วงเช้าทันทีที่แป๋ม เค้ก และเตอร์ ที่กำลังนั่งกินข้าวไปพลาง คุยกันไปพลางเมื่อได้เห็นเจ้าเติร์กเดินเข้ามาทั้งสามยกกวักมือพร้อมส่งเสียงเรียกเจ้าเติร์กให้รีบเดินเข้าไปหาทั้งสาม ทำเอาเจ้าเติร์กถึงกับตกใจจนหน้าตื่น “ไรวะพวกมึงสามคน ทำเอาซะกูเหวอแต่เช้า” เตอร์กับแป๋มมองหน้าพร้อมกับยิ้มใส่กันก่อนที่ทั้งคู่จะเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าเติร์ก “เห้ยไอ้หน้าหล่อ นั่งๆๆ” เจ้าเติร์กทำหน้างุนงงก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงข้างเตอร์พร้อมกับหันไปมองทั้งสามที่จ้องมาที่มันด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความอยากรู้เจ้าเติร์กได้แต่ยิ้มเจือนๆด้วยความสงสัย “เอิ่มมม พวกมึงเอิ่มม มองกูแบบนี้นี่…เอ่อออ มีเรื่องไรป่าววะเช้านี้กูพลาดอะไรไปงั้นหรอ!!??เชี่ยเตอร์?? มีเรื่องไรวะ”เตอร์อมยิ้มขึ้นมาก่อนจะยื่นมือไปตบไหล่ซ้ายของเจ้าเติร์ก “โหยยยย ทำเป็นไขสือไปได้นะมึง มึงก็น่าจะรู้นิว่าเรื่องอะไรเป็นไงบ้างวะที่งานวันเกิดหนิงเมื่อวาน สรุปมึงจะหาฤกษ์เปิดซิงกันเมื่อไหร่วะ นี่ ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไงน่ะนะเดี๋ยวกูแนะนำโรงแรมดีๆราคาย่อมเยาว์ให้มึงกับหนิงได้ไปครางชื่ออ้ายแหน่ด้วยกันเลยเอาป่าวววว”คำพูดของเตอร์ทำเอาเจ้าเติร์กหน้าเหวอยิ่งกว่าเก่า “พูดห่าอะไรของมึงวะเนี่ยเชี่ยเตอร์ กวนตีนล่ะมึง” เจ้าเติร์กรีบหันไปมองแป๋มกับเค้กที่นั่งหัวเราะใส่กันคิกคักๆ “แป๋ม!! นี่แกไปเล่าอะไรให้เชี่ยเตอร์ฟังเนี่ยย”แป๋มรีบหันมายิ้มใส่เติร์ก “ป๊าวววว เราไม่ได้เล่าอะไรที่มันเสียๆหายๆนะ ก็ไอ้เตอร์มันรบเร้าถามเราว่าเมื่อคืนงานวันเกิดที่บ้านหนิงเป็นไงบ้างและแกกับหนิงได้กันรึยังน่ะ” เตอร์ถึงกับรีบเอามือซ้ายไปผลักที่แขนของแป๋มเบาๆ “เห้ยๆ แป๋ม แกก็ไม่ต้องตอบตรงทั้งหมดก็ได้นี่หว่า”“อะเอิ่มเอ่อ โทษทีเตอร์ก็อย่างไปบอกไปแหละเติร์ก เราก็เลยพูดไปว่านายกับหนิงแค่คุยกันเท่านั้นถ้าอยากรู้มากกว่านั้นก็ให้ไปถามที่เติร์กเองน่ะนะ”“สรุปคือเมื่อคืนเป็นไงบ้างวะไอ้หน้าหล่อมึงเล่าให้พวกกูฟังหน่อยดิวะ เผื่อมีไรที่พวกกูพอช่วยมึงได้” “ก็ไม่มีไรมากหรอกเรากับหนิงก็แค่สนิทกันมากขึ้นกว่าเดิมน่ะ ถึงขั้นหนิงยอมเล่าเรื่องส่วนตัวในบางเรื่องให้เราฟังด้วยล่ะ” เค้กรีบยกนิ้วทำท่ากดไลด์ใส่เจ้าเติร์ก “ใช่เลย นี่แหละนี่แหละเติร์ก นายมาถูกทางแล้วล่ะ แสดงว่าหนิงยอมเปิดใจให้กับนายแล้วน่ะเนี่ยย”“ไม่ขนาดนั้นมั้งเค้ก” “ถ้าไม่ขนาดนั้นมันต้องขนาดไหนล่ะวะไอ้หน้าหล่อมึงก็หัดคิดเข้าข้างตัวเองบ้างนิดๆก็ได้มึงลองคิดดูดิ๊คนปกติถึงจะสนิทแค่ไหนถ้ายังไม่ยอมรับและเปิดใจให้กับอีกฝ่าย มีหรอวะที่จะยอมเล่าเรื่องส่วนตัวของตัวเองให้กับอีกฝ่ายฟังแค่นี้กูว่ามึงน่าจะเก็ตบ้างล่ะนะ”“อืมมมแล้วมึงว่ากูต้องไปต่อยังไงดีล่ะวะ กูกลัวหนิงเค้าจะไม่ถูกใจกูน่ะ”แป๋มชักสีหน้าด้วยความรำคาญก่อนจะรีบพูดตัดบท “โถ่ถ่ถ่ เติร์กเอ้ยยย นายนี่ชอบคิดเล็กคิดน้อยอยู่ได้นะ ทำยังกะคนไม่เคยแหน่ถามจริงๆตั้งแต่ม.1 ถึงตอนนี้เนี่ย นายไม่เคยมีแฟนเลยรึไงห๊ะ”“เราไม่เคยมีจริงๆแป๋มไม่สิต้องบอกว่า เมื่อก่อนแทบจะไม่มีเวลาได้คิดเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ” แป๋มถึงกับทำหน้าเงิบ “นี่นายพูดจริงหรืออำกันเล่นเนี่ย” “เราพูดจริง!!”“เอ้ยยพิโถพิถังพิโถพิถังไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีคนแบบนี้เหลือรอดอยู่บนโลกด้วยเหรอเนี่ย”เตอร์ที่นั่งยิ้มหัวเราะหึๆอยู่ข้างๆถึงกับเอื้อมมือไปสะกิดแป๋ม “เห็นปะแป๋มทีนี้เชื่อกูยังว่าไอ้หน้าหล่อน่ะ แม่งไก่อ่อนจริงๆ”แป๋มสูดหายใจเข้ายาวๆก่อนจะหันมายิ้มใส่เจ้าเติร์กอีกครั้ง“เติร์กกกก ฟังเรานะจ๊ะ คืออีกฝ่ายน่ะเค้าทอดสะพานให้เติร์กแล้ว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับเติร์กว่าจะข้ามสะพานไปหาอีกฝ่ายรึป่าวเข้าใจที่เราพูดนะจ๊ะเติร์ก” เติร์กทำหน้าครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ “เอ่ออแล้วเราจะข้ามไปยังไงให้ถูกใจหนิงล่ะแป๋ม”“อะแฮ่มมคำถามที่ไม่น่าถาม เติร์กจ๊ะในกลุ่มเราทั้ง 6 คนนายเป็นคนฉลาดที่สุดแล้วนะจ๊ะ”“อืมมม เกี่ยวกันด้วยหรอแป๋ม” “แหมเติร์กจ๊ะสมองงงง ใช้สมองงงงนะจ๊ะในการหาหนทาง แต่ถ้าเติร์กยังไม่เข้าใจ งั้นเราจะทอดสะพานให้เติร์กเองเลยและยังแถมด้วยการสอนเติร์กข้ามสะพานมาหาเราด้วยเนาะ” แป๋มพูดและทำท่าจูบใส่เจ้าเติร์กเจ้าเติร์กถึงกับผงะเอนหลังไปเล็กน้อย จนเค้กที่นั่งข้างถึงกับยกมือไปจับแขนแป๋ม “เห้ยๆๆแป๋มๆใจเย็น อันนี่เพื่อน อย่าลืม อันนี่เพื่อน โอเค๊”“แหมเค้กก็เราแค่พูดหยอกเล่นๆไปแค่นั้นเองเนาะเติร์กเนาะ”เติร์กตอบด้วยสีหน้าตื่นๆ “อะอื้มมขอบใจนะแป๋ม สำหรับคำแนะนำดีๆวะว่าแต่นี่จะถึงเวลาเข้าแถวแล้วนะ ไอ้เคนกับเจน ยังไม่มาอีกหรอปกติป่านนี้มันน่าจะมาถึงโรงเรียนได้แล้วนะ” “วันนี้พวกมันสองคนมันไม่มาหรอกเว้ยไอ้หน้าหล่อ ตอนเช้าไอ้เคนมันโทรมาบอกกูว่าวันนี้มันกับยัยเจนลาหยุด 1 วันน่ะ”“ลาหรอ??ไอ้เคนกับเจนมันไปไหนหรือเป็นอะไรวะปกติมันไม่เคยลาพร้อมกับแบบนั้นนี่หว่า” “กูก็ไม่รู้เว้ยไอ้หน้าหล่อ เพราะพอกูจะถามเหตุผล มันก็รีบวางสายกูไปซะงั้นพอกูโทรไปอีกรอบไอ้เคนแม่งก็ดั้นปิดเครื่องอีก”“อ๊าววแล้วเจนล่ะ มึงไม่ลองโทรถามวะ”“กูโทรแล้วแต่เจนมันไม่รับสายกูเลยกูว่าเดี๋ยวช่วงพักเบรก 10 นาทีมึงกับกูลองโทรหาพวกมันอีกรอบเผื่อติดต่อได้”“เอ่อๆดีเหมือนกันเชี่ยเตอร์”“ปะพวกมึงเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บบนห้องกัน ออดเข้าแถวแม่งดังแล้วว่ะ”                เวลา 10.15 น.ในขณะที่เจ้าเติร์กกำลังยืนคุยกับเปลวและกิ่งเพื่อนในชั้นเรียนเรื่องโครงงานจบม.6 อยู่หน้าห้องฟิสิกข์นั่นเอง ไอ้เบทกับไอ้เอกเดินปรี่เข้ามาทักทั้งสามคน“เห้ยพวกมึงสามคนยืนคุยไรกันอยู่ล่ะนั่น”เจ้าเติร์กรีบหันมองและยิ้มทักทายทั้งสองด้วยความคุ้นเคย “อ้าวเห้ย ไอ้เบท ไอ้เอก ไปไงมาไงวะพวกมึง พอดีกู ไอ้เปลวกับไอ้กิ่ง กำลังปรึกษาเรื่องโครงานจบน่ะว่าจะเอารูปเล่มไปให้อาจารย์ที่ปรึกษาตรวจอีกรอบก่อนจะเริ่มทำชิ้นงานให้เป็นชิ้นเป็นอันว่าแต่สายศิลป์อย่างพวกมึงล่ะเป็นไงบ้างเห็นว่าได้ทำโปรเจ็คจบด้วยไม่ใช่หรอวะไง ถึงไหนกันแล้วพวกมึง”“กูไม่รู้วะไอ้เติร์ก คงยังไม่ได้เริ่มกันเลยมั้งเดี๋ยวให้พวกผู้หญิงในกลุ่มจัดการกันเองล่ะกัน ส่วนกูกับไอ้เอกจะเป็นสายปฏิบัติตามคำสั่งของพวกผู้หญิงในกลุ่มอีกที”“เอางั้นเลยหรอกลุ่มมึงนี่ก็ชิลดีเหมือนกันเนาะแม่งไม่ซีเรียสแบบห้องพวกกูเลยวะ”“ก็นะสายศิลป์อย่างพวกกูเรียนสนุก ลุกนั่งสบาย เอ่อเกือบลืมไปล่ะ ไอ้ตี๋กับเฟิร์สบอกให้พวกกูมาตามมึงไปที่ห้องศิลปะตอนนี้น่ะเห็นพวกมันบอกว่ามีเรื่องอยากคุยกับมึงน่ะ ไงมึงคุยธุระเสร็จแล้วก็อย่าลืมที่กูบอกล่ะไอ้เติร์ก”“เอ่อๆ ขอบใจมึงมากไอ้เบท ไอ้เอกเดี๋ยวกูตามพวกมึงไป”ในระหว่างที่ไอ้ตี๋ ไอ้เฟิร์ส ไอ้เบทและไอ้เอกนั่งตีป้อมกันได้ไม่นานเจ้าเติร์กเดินเข้ามาพร้อมกับตะโกนเรียก “ไงวะพวกมึงเห็นบอกว่ามีไรจะคุยกับกูมีไรวะ”จู่ๆไอ้ตี๋พูดแทรกขึ้นมา “หยุดดดก่อน คุณเติร์ก อย่าเพิ่งขัดตอนพวกกูกำลังขาขึ้นดิวะ อีกแปปเดียวมึงรอ กรุณารอสักครู่” เจ้าเติร์กชักสีหน้าเซ็งๆพร้อมกับส่ายหัวไปมา ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะที่พวกไอ้ตี๋กับเพื่อนๆของมันนั่งกำลังอยู่ไปยังห้องเขียนแบบที่อยู่ด้านหลังตู้ล็อกเกอร์ในระหว่างที่เจ้าเติร์กกำลังกวาดสายตามองดูห้องเขียนแบบไปรอบๆนั่นเองทันใดนั้นสายตามันได้สังเกตุเห็นประตูห้องที่อยู่ข้างกระดานดำเปิดอ้าทิ้งไว้เจ้าเติร์กถึงกับเดินปรี่เข้าไปดูด้วยความอยากรู้ “ห้องไรวะเนี่ยปกติแม่งใส่กุญแจล็อกไว้ตลอดนี่หว่า” มันไม่รอช้ารีบก้าวเดินเข้าไปยังห้องดังกล่าว “โห นึกว่าเป็นห้องเก็บของซะอีกห้องไรวะเนี่ย”เจ้าเติร์กกวาดสายตามองโต๊ะเขียนแบบ 6 ตัวที่วางเรียงหันเข้าหากันเป็นวงกลมอยู่กลางห้องพร้อมแสงสว่างจากหลอดนีออนที่เปิดทิ้งไว้สาดส่องจากเพดานไปทั่วทั้งห้องอีกทั้งยังมีกองหนังสือซ้อนกันเป็นตั้งๆ และกองกระดาษที่ร้อยถักพาดพันไปด้วยใยแมงมุมพร้อมกับฝุ่นหนาๆวางฟุ้งกระจายตามมุมต่างๆของห้องดังกล่าว“หื้มมเห็นได้ชัดเลยว่าไม่ถูกใช้งานมานานมาก”เจ้าเติร์กเดินไปยังโต๊ะยาวที่วางติดผนังพร้อมกับหยิบกระดาษA4 และ A3 ที่มีรูปแรเงา รูป 3 มิติ และรูปเส้นลายไทยขึ้นมาดูก่อนที่มันจะละสายตาหันไปมองบอร์ดตรงผนังห้องที่มีรูปถ่ายทั้งรูปเล็กและรูปใหญ่ติดอยู่เป็นจำนวนมากเจ้าเติร์กเดินเข้าไปยืนมองอยู่ได้พักใหญ่แต่มันก็ต้องตกใจกับเสียงโห่ร้องของพวกไอ้ตี๋กับเพื่อนๆของมันดังจากอีกห้อง “เฮ้!!! ป้อมแตกล่ะเว้ยยย ฮ่าๆๆ ไอ้เหี้ยยยแม่งโครตกากวะไม่ต้องพูดเลยยย มึงแหละกาก ฮ่าๆๆๆ เอ้าๆพอๆ เห้ยๆพวกมึงไอ้เติร์กแม่งหายหัวไปไหนวะ เหมือนกูเห็นมันเดินเข้าไปข้างในน่ะ มึงลองไปดูดิไอ้เติร์กเว้ยย ไอ้เติร์ก!!” ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของเพื่อนๆมันเจ้าเติร์กรีบเดินออกมาจากห้องดังกล่าว “เห้ยยทางนี้เว้ยพวกมึง” ไอ้เฟิร์สถึงกับรีบพูดขึ้นมา “เอ้ยๆ ไอ้เติร์ก นี่มึงเปิดห้องซ้อมวาดรูปของพวกกูได้ไงวะห้องมันล็อกอยู่ไม่ใช่หรอไง”“ล็อคห่าไรวะไอ้เฟิร์ส กูเดินเข้ามาก็เห็นประตูมันเปิดอ้าซ่าอยู่แบบนี้ล่ะ” “เอ๊า ไอ้เบท กูจำได้ว่ามึงออกคนสุดท้ายนี่หว่า ลืมรึไงวะเอ่อออช่างมันเหอะไหนๆมึงก็เห็นแล้วนี่นะเป็นไงบ้างวะ จ๊าบไหมมึง??” “อื้มมม ถ้าเก็บกวาดอีกหน่อยนะ”เฟิร์สยิ้มพร้อมกับยักคิ้วก่อนจะพาไอ้ตี๋ไอ้เอกและไอ้เบทเดินสวนเจ้าเติร์กเข้าไปยังห้องดังกล่าว “เข้ามาซิวะไอ้เติร์กจะยืนเป็นการ์ดเฝ้าห้องรึไงวะ มาๆ” สิ้นเสียงของเฟิร์ส เจ้าเติร์กมันเลยเดินตามเข้าไปก่อนที่มันจะเอ่ยปากถามขึ้นมา “กูถามจริงพวกมึงใช้ห้องนี่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่วะเนี่ย”“ถามไมวะไอ้เติร์ก”“ก็มึงดูสภาพห้องดิวะไอ้เอก ยังกะห้องในหนังสยองขวัญยังไงอย่างงั้น”“ก็ไม่แปลกหรอกไอ้เติร์กครั้งสุดท้ายที่พวกกูมาใช้ห้องนี้มันก็เมื่อ วันที่ 23 กันยายนของปีที่แล้วมันก็อย่างว่านะ…”เจ้าเติร์กรีบหันไปมองไอ้เอกด้วยความสงสัย “อะไรหรอไอ้เอก อย่างว่า?” “ช่างมันเหอะไม่มีอะไรหรอกมึง” เอกรีบเดินหนีเจ้าเติร์กไปหาไอ้ตี๋ที่กำลังเอาไม้ขนไก่ปัดใยแมงมุมตรงตู้โชว์รูปปั้นทิ้งให้เจ้าเติร์กยืนงงอยู่แบบนั้นไปชั่วขณะก่อนที่มันจะถอนหายใจแบบเซ็งๆและเดินตรงไปยังบอร์ดตรงผนังที่มีรูปถ่ายติดอยู่มากมาย“ถ้าให้เดานี่คงเป็นภาพของพวกมึงกันสินะเนี่ยทั้งทีที่เจ้าเติร์กเอ่ยปากถาม ไอ้เฟิร์สกับไอ้เบท ที่อยู่ใกล้ๆรีบเดินตรงเข้ามา “ใช่แล้วล่ะไอ้เติร์ก ภาพพวกนี้ถือเป็นบันทึกความทรงจำของพวกกูตั้งแต่ม.ต้นล่ะ มึงลองดูภาพไอ้เจตตอนม.2 ดิแม่งยังกะคนละคนกับปัจจุบัน เห็นปะ” “เอ่อๆจริงด้วยวะไอ้เฟิร์สไอ้เจตตอนนั้นแม่งโครตดำเลยวะ ฮ่าๆ แล้วรูปมึงกับคนอื่นๆในตอนนั้นไม่มีหรอวะ”“มีดิ กูให้มึงลองทายอะอะมึงลองดูภาพถ่ายหมู่อันนี้” เจ้าเติร์กยืนนิ่งครุ่นคิดไปชั่วขณะก่อนที่มันชี้ไปทีละคน “เอ่อถ้าให้พิจารณาเทียบจากโครงหน้าตอนนี้ เอ่ออออหน้าบ้านๆทรงผมแบบนี้น่าจะเป็นไอ้เบท   ส่วนคนนี้น่าจะไอ้เอกถ้าหน้าตากวนๆแบบนี้คงเป็นไอ้ตี๋เอ่ออออแล้วมึงล่ะไอ้เฟิร์ส กูหาไม่เจอ”เฟิร์สถึงกับหัวเราะชอบใจ “ฮ่าๆ กูไม่แปลกใจเลยวะ ที่ใครๆทายไม่ถูกกกันสักคน ฮ่าๆ”“เอ้าแล้วมึงคนไหนวะรึว่ามึงไม่ได้ถ่าย”“กูก็นี้ไงไอ้เติร์กที่ยืนถือเกีตรบัตรอยู่ข้างๆครูนพดลเนี่ย”“ห๊ะนี่มึงจริงหรอไอ้เฟิร์สตัวอวบๆหน้าขาวๆตี๋ๆหัวเกรียนๆ ดูเหมือนไม่มีไรจะเสีย นี่ใช่มึงตอนม.2 จริงหรอวะ”“ก็เอ่ออะดิ เป็นไงวะ อึ้งเลยอะดิ” “แล้วรูปที่ติดตรงกลางนี่ล่ะ ดูจากวันที่ในรูปถ่ายแล้วนี่มันถ่ายตอนปีที่แล้วไม่ใช่หรอวะ แล้วสองคนนี่ใครหรอวะดูไม่คุ้นหน้าเลย”“อืมมมอันนี้ถ่ายตอนก่อนไปแข่งทักษะระดับภาคน่ะคนตัวสูงๆคนนี้ชื่อพี่เอฟจบไปล่ะเมื่อปีที่แล้วล่ะ ส่วนอีกคนที่ยืนข้างๆไอ้ตี๋นี่ชื่อไอ้ยูโรน่ะ”“เหมือนตอนนั้นกูจะเคยได้ยินชื่อนี้จากปากของพวกมึงอยู่นะใครหรอวะคนที่ชื่อยูโรนิไอ้เฟิร์ส ไอ้เอก” “มันก็เป็นเพื่อนในกลุ่มของพวกกูนี่แหละเรื่องหน้าตาและความหล่อมันนะ เป็น No.2 รองจากไอ้เฟิร์สเมื่อปีที่แล้วเลยนะเว้ยก่อนที่มึงจะมาแทนที่ไอ้เฟิร์สในปีนี้และถีบไอ้เฟิร์สลงจาก No.1 มาอยู่ No.2 แทน” เฟิร์สถึงรีบหันไปมองเอกพร้อมกับชกไปที่แขนขวาเบาๆ “เออขอบใจมากไอ้เอก ฟังแล้วโครตจี้ดดดดด”“แล้วไงต่อวะตอนนี้มันเรียนอยู่ห้องไหนล่ะกูไม่ยักจะเคยเห็นหน้า”“ไม่เห็นหรอกเติร์กเพราะมันลาออกไปแล้วล่ะ”“อ่าวลาออกไมวะไอ้เอก”เอกกับเฟิร์สหันมองหน้ากันชั่วครู่ “เอ่อ มันเปลี่ยนที่เรียนน่ะ คงย้ายตามพ่อแม่มันมั้ง แต่เสียดายเนาะถ้ามันไม่ลาออกก่อนนี่พวกกูคงได้ไปแข่งต่อระดับประเทศล่ะ” “อืมๆๆตกลงที่พวกมึงเรียกกูมานี่ สรุปมึงจะให้กูมาแทนที่ไอ้ยูโรใช่ปะ”เฟิร์สกับเอกถึบกับเดินมากอดคอเจ้าเติร์กทั้งคู่ “มึงอย่าคิดงั้นดิวะ กูไม่ได้จะเอามึงมาแทนที่อะไรนะเว้ย แต่พวกกูเห็นมึงมีความสามารถด้านนี้ดีด้วยกูเลยอยากให้มึงลองมาแข่งกับพวกกูอีกอย่างของวิทย์ที่มึงจะไปแข่งน่ะ มันเครียดนะเว้ยไอ้เติร์กไหนต้องเก็บตัวอ่านหนังสืออีกมึงลองคิดดูแต่ถ้ามาแข่งของศิลปะกับพวกกู มันชิลนะเว้ย ไม่เครียดไรเลยด้วยนะไอ้เติร์ก มาลงแข่งทักษะกับพวกกูเหอะ ไหนตอนนั้นมึงบอกว่าจะขอเวลาคิดและจะให้คำตอบกับพวกกูไม่ใช่หรอวะมึงจำได้ป่าว”“เออจำได้”“แล้วคำตอบคือ…”“กูก็….จะลงแข่งกับพวกมึง…” เฟิร์ส เอกตี๋และเบทถึงกับโห่ร้องดีใจพร้อมกัน เย้!! ต้องแบบนี้ดิวะไอ้หน้าหล่อแม่งใจมึงโครตปล้ำวะมึงฮ่าๆๆ” ไอ้ตี๋เดินมาตบไหล่เจ้าเติร์ก “ยินดีต้อนรับสู่วงการศิลปะเว้ยไอ้เติร์กฮ่าๆ”“แล้วมึงเคลียร์กับทางครูหมวดวิทย์แน่นะว่ามึงจะมาลงแข่งกับพวกกู ไม่ใช่ว่าพวกครูทางนั้นมาเดือดใส่พวกกูทีหลังนะมึง”“เออถ้าเรื่องนั้นมึงไม่ต้องห่วงหรอก กูจัดการเคลียร์ให้แล้วล่ะไอ้เบท” เจ้าเติร์กรีบหันหลังเดินตามไอ้ตี๋ไป “ไอ้ตี๋เว้ยเดี๋ยวๆกูมีไรให้กูช่วยหน่อยน่ะและกูรู้ว่ามึงต้องช่วยกูได้แน่นอน”ตี๋หันมามองเจ้าเติร์กด้วยสีหน้างุนงง “ช่วยไรวะมึง” เจ้าเติร์กดึงแขนตี๋ไปมุมห้องพร้อมกับพูดกระซิบ “กูรู้นะว่ามึงน่ะสนิทและซี้กับหนิงมาตั้งแต่เด็กคือ มึงพอจะเล่าอะไรเกี่ยวกับหนิงให้กูฟังได้ไหมวะเผื่อกูจะได้วางตัวกับหนิงให้เค้าถูกใจน่ะ”                เวลา 12.16 น. เจ้าเติร์กเดินถือจานข้าวมาพร้อมกับเตอร์ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังจะนั่งลงที่โต๊ะประจำของพวกมันนั่นเองจู่ๆมีผู้หญิงสองคนเดินตรงเข้ามาพร้อมเอ่ยปากทักทายทั้งสองด้วยความคุ้นเคย“ซื้ออะไรมาทานหรอทั้งสองคน” เจ้าเติร์กกับเตอร์รีบหันไปมองยังต้นเสียงซึ่งทำเอาทั้งคู่ถึงกับยืนอึ้งไปชั่วขณะทันทีที่ตั้งสติได้เตอร์รีบพูดขึ้นทันควัน “หนิง!! หยก!! ไงมื้อนี้จะมาร่วมวงกับพวกเรารึไง”หนิงกับหยกทั้งคู่ถึงกับยิ้มหัวเราะขึ้นเบาๆ “ไว้โอกาสอื่นนะเตอร์ อืมมพอดีเช้าวันนี้เราทำแฮมอิเบอริโครมควันกับเนื้อวากิวอบซอสวาริกิ และเผลอห่อมากินที่โรงเรียนเยอะไปหน่อยน่ะเราเลยอยากชวนนายทั้งสองคนมาร่วมวงกับพวกเรากับเพื่อนๆที่โต๊ะตอนนี้น่ะสนใจมาจอยด้วยกันไหมเติร์ก เตอร์??” เตอร์กับเติร์กถึงกับหันมามองหน้ากันก่อนที่เตอร์จะหันไปตอบหนิงกับหยก “เราก็สนใจนะหนิง แต่ไม่รู้ว่าลูกพี่เติร์กจะ เซซซ เย็ดดดดรึป่าวววนะหนิงงง”เจ้าเติร์กทำตาโตใส่เตอร์พร้อมกับตะโกนใส่เบาๆ “ไอ้เชี่ยยยยเตอร์!!!”เตอร์ทำหน้าเบ้ใส่เจ้าเติร์กก่อนจะหันไปคุยกับหนิงและหยกต่อ “แล้วหนิง กับหยกชวนแป๋มกับเค้กรึยัง”หนิงยิ้มและตอบด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล “ชวนแล้วล่ะ แต่สองคนนั้นปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อวานที่วันเกิดเราทั้งสองคนจัดเมนูเนื้อไปเยอะแล้ววันนี้เลยขอผ่านเห็นบอกว่ากลัวน้ำหนักขึ้นน่ะ” “อืมมแล้วหนิงกับหยกล่ะไม่กลัวน้ำหนักขึ้นรึยังไง”“ก็กลัวอยู่นะแต่ในเมื่อมันห่อมาแล้วจะให้เอาไปทิ้งก็กระไรอยู่ จะเอาให้เพื่อนๆแบ่งกันทานก็นึกเสียดายหน่อยๆ เพราะเรากับหยกเองนานๆครั้งถึงจะได้ทานของแพงๆแบบนี้น่ะ”เตอร์หันไปมองเจ้าเติร์กอีกครั้ง “ไงไอ้หน้าหล่อ มึงจะไปไหมวะรึจะนั่งกินมื้อกลางวันราคาถูกอยู่ที่โต๊ะนี่”“เอิ่มมมมไปเนาะเชี่ยเตอร์ถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่ได้กินของแพงๆเนาะ”“อะโด่เหตุผลมึงนี่ฟังดูดี้ดีเนาะไอ้หน้าหล่อ” “งั้นนายสองคนตามเรามาเลย ทางนี้ๆไม่ต้องอายหรอก ส่วนใหญ่ก็คนรู้จักกันทั้งนั้น”ในขณะที่เตอร์กับเจ้าเติร์กเดินตามหลังหนิงกับหยกไปนั่นเอง เตอร์มันยิ้มที่มุมปากก่อนจะใช้มือขวาดึงจานข้าวจากมือเจ้าเติร์กมาและใช้มือซ้ายของมันผลักตัวเจ้าเติร์กไปหาหยกพร้อมกับรีบเอ่ยปากพูดขึ้น “หยกๆ ฝากไอ้เติร์กด้วยนะพอดีเรานึกขึ้นได้ว่านัดกับกินข้าวกับเพื่อนอีกห้องไว้น่ะกูไปนะเว้ย ไอ้หน้าหล่อแดกเผื่อกูด้วยยย”เจ้าเติร์กถึงกับหน้าเหวอไม่เป็นท่า “เห้ยๆเชี่ยเตอร์ มึงจะเอาจานข้าวกูไปไหน เดี๋ยว…”“ไม่เป็นไรเว้ยยวันนี้กูเบิ้ลสองจานวะฝากเพื่อนกุด้วยนะเว้ย หนิง หยก” เตอร์ทำหน้ากวนตีนใส่เจ้าเติร์กก่อนจะถอยหลังเดินหนีกลับไปที่โต๊ะเดิม” หยกที่เห็นเจ้าเติร์กกำลังจะหันหลังกลับ มันถึงกับใช้มือคล้องแขนขวาเจ้าเติร์กไว้ทันใด “เติร์ก มามา มีของกินอื่นๆอีกเพียบเลยนะหนิงเค้าอุตสาห์ชวนนายทั้งทีอย่าลืมสิว่านายเองก็รับปากแล้วนะ มาเร็ว” เตอร์เดินถือจานกลับมาวางที่โต๊ะระหว่างที่มันกำลังจะตักข้าวใส่ปากอยู่นั่นเอง แป๋มเดินถือจานข้าวตรงเข้ามา“เตอร์ไง๋มานั่งแดกคนอยู่คนเดียวแบบนี้แล้วเติร์กล่ะ”เตอร์ชี้นิ้วไปยังโต๊ะของหนิงที่ตั้งห่างจากเตอร์ไป 20 เมตร “โน่นกำลังสานสายสัมพันธ์หวานฉ่ำกับว่าที่เนื้อคู่ของมันอยู่” “เอ๊าแล้วมึงก็ปล่อยให้มันไปคนเดียวแบบนั้นน่ะหรอในกลุ่มนั้นมีแต่ผู้หญิงล้วนๆนะเว้ย”“ก็เออดิวะจะให้กูไปนั่งเป็นก้างติดคอไอ้หน้าหล่อกับหนิงรึยังไง มึงก็รู้อยู่แป๋มมจริงๆแล้วกูว่ามันตั้งใจจะมาชวนไอ้หน้าหล่อตั้งแต่แรกอยู่แล้วแต่พอเห็นกูอยู่ด้วยไง เลยเอ่ยปากชวนเป็นพิธีอะโด่รู้ทันหรอกน่า”“โอ้ยๆๆเจ็บปวดใจล่ะสิเตอร์ที่โดนเมินมะมาเดี๋ยวเรานั่งเป็นเพื่อนด้วย”แป๋มถือจานข้าวของมันอ้อมไปนั่งฝั่งตรงข้ามเตอร์ “เอ๊า แล้วเค้กล่ะไม่มาด้วยกันหรอ”“ถ้าเค้กคงไปหาซื้ออะไรทานที่ร้านสหการโน่นแล้วมั้ง เห็นวันนี้บอกว่างดข้าวเที่ยงน่ะก็เลยฉายเดี่ยวไงจ๊ะ เอาเหอะยังไงซะวันนี้ในกลุ่มเราก็เหลือแค่นายกับเราน่ะนะที่กินข้าวด้วยกัน”“อือๆมานั่งสองต่อสองแบบนี้หวังว่าคงไม่คิดอะไรกับเราเกินเลยนะแป๋ม” แป๋มถึงกับทำหน้าเบ้เข้าใส่ “พูดไรน่ะเตอร์รู้ไว้ด้วยว่านายไม่ใช่สเป๊คเรา!!”“โอ้ยยยจุกเลยยยวะแป๋มม” “จุกก็แดกน้ำซะ อะนี่ขวดน้ำ แดกซะ”“โห่ยยยแกนี่ไม่รับมุขเราเลยวะ”“รับไมวะ ก็ที่บ้านแม่เราซื้อไว้ตั้งหลายเส้น…”                เวลา 16.43 น.“อ่าววเตอร์ มานั่งทำไรอยู่คนเดียวล่ะเนี่ย แป๋มกับเติร์กไปไหนซะล่ะ”“เค้ก!! ยังไม่กลับอีกหรอ”“ก็ว่าจะกลับล่ะเนี่ยแต่เราเห็นนายนั่งก้มหน้าก้มตาทำไรอยู่คนเดียวเลยเดินเข้ามาดูน่ะ”“เราเล่นเกมส์ฆ่าเวลาอยู่น่ะเค้ก รอไอ้หล่อไปส่งหนิงหาซื้อไรกินที่หน้าโรงเรียนน่ะส่วนแป๋มคงกลับล่ะมั้งเห็นบอกว่าจะรีบไปส่งพี่ชายมันขึ้นเครื่องไปไต้หวัน ตอน 17.30น.น่ะ”“อืมมม เดี๋ยวนี้เติร์กเค้าเริ่มทิ้งห่างพวกเราไปล่ะเนาะ”“ทำไงได้ล่ะก็ช่วงข้าวใหม่ปลามันนินะ คนเค้าก็ต้องเอาอกเอาใจกันหน่อยยย” ระหว่างนั้นจู่ๆเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเตอร์ดังขึ้น“เห้ยๆๆเค้กๆ ไอ้เคนเว้ย ไอ้เคนโหลไอ้เคน ไงวะมึงกว่าจะโทรกลับมาได้นะแล้ววันนี้มึงกับเจนลาไปทำไรวะ……ห๊ะ!!!จริงดิ”   ระหว่างเดียวกันนั้นเองเจ้าเติร์กนั่งรอหนิงอยู่ที่ร้านกาแฟหน้าโรงเรียนสายตาของมันมองไปรอบๆร้านมีทั้งรุ่นน้องทั้งม.ต้นและม.ปลายทั้งผู้หญิงและเพศทางเลือกที่นั่งกันเป็นกลุ่มๆแอบมองและถ่ายรูปเจ้าเติร์กด้วยความปลื้มปิติทำเอาเจ้าเติร์กได้แต่ยิ้มทักทายเพื่อกลบความเขินอายจนกระทั่งหนิงเดินถือแก้วกาแฟเดินเข้ามาวางที่โต๊ะ “อะนี่ของเติร์กนะ ลาเต้เล็กผสมโกโก้”เจ้าเติร์กถึงกับทำหน้างง “เอ่อ ไรเนี่ยหนิง ลาเต้แก้วนี้มายังไงเนี่ยย” “ก็..แก้วนี้เราเลี้ยงไงเรารู้มาว่าเติร์กชอบกินไม่ใช่หรอ” หนิงพูดพร้อมกับยกแก้วตัวเองขึ้นมาดูด “เอ้ย ไม่ดีมั้งหนิง หนิงเลี้ยงเราไมอะ เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”“ก็เราอยากขอบคุณเติร์กไงสำหรับของขวัญวันเกิดน่ะถูกใจเรามากเลยนะ เติร์กรู้ได้ไงอะว่าเราชอบโพนี่”เจ้าเติร์กถึงกับหน้าแดงขึ้นทีละนิด “เอิ่มมมก็ นิดหน่อยน่ะ แค่รู้หนิงชอบแบบนี้เราก็รู้สึกดีแล้วไม่ต้องเสียเงินเลี้ยงอะไรเราก็ได้”หนิงถึงกับทำหน้าบูดนิดๆ “หืมม รับไว้เหอะเติร์ก หนิงตั้งใจซื้อมาแล้วนะ ไม่งั้นเดี๋ยวหนิงเบิ้ลสองแก้วให้น้ำหนักขึ้นเลยดีไหม” หนิงพูดพร้อมกับจะเอื้อมมือหยิบแก้วของเจ้าเติร์กกลับไปเจ้าเติร์กถึงกับรีบใช้สองมือดึงแก้วเข้ามา “อะอ่ากินครับกินเติร์กจะกิน ฮ่าๆ เติร์กแค่เกรงใจหนิงน่ะ อื้มมมอร่อยยยดีนิ”   หนิงยิ้มหัวเราะเติร์ก“เห็นแบบนี้นี่ เติร์กก็ขี้เล่นดีเหมือนกันเนาะ”ไม่นานนักทั้งคู่เดินออกจากร้านกาแฟมายืนอยู่ที่ป้ายรอรถประจำทาง หนิงหันไปมองเจ้าเติร์กที่กำลังดูดกินลาเต้จากแก้ว   “เติร์ก!!”“หืมม??”“เติร์กมีไรอยากจะบอกกับหนิงรึป่าวสายตามันฟ้องนะตั้งแต่อยู่ที่ร้านกาแฟล่ะ” “หืมมไม่..มีนะ ถ้าจะมีก็ขอบใจนะหนิงลาเต้แก้วนี้อร่อยมากเลยล่ะ” “อืมมม ไม่ ไม่ สงสัยคงต้องใช้เวลาอีกหน่อยล่ะมั้ง”“อะไรอะหนิง??เวลาอะไรอะ?? ไปไม่ถูกเลยนะเนี่ย”“อืมม ไม่มีไรหรอก อย่าใส่ใจเลยเติร์ก..” ทันใดนั้นเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์หนิงดังขึ้น “แปปนะเติร์กค่ะแม่!!!อยู่ตรงป้ายรถข้างร้านกาแฟหน้าโรงเรียนนี่ค่ะแม่ค่ะค่ะ”หนิงคุยโทรศัพท์พร้อมหันมองซ้ายมองขวาไปมา “ออ เห็นล่ะค่ะ ค่ะแม่ค่ะเอ่อเติร์กแม่เรามารับแล้วล่ะไงเราขอตัวก่อนนะเติร์ก พรุ่งนี้เจอกันนะ” “เดี๋ยวเติร์กขอเดินไปส่งหนิงด้วยคนนะ ไหนๆก็มาส่งแล้ว” หนิงยิ้มและพยักหน้าเบาๆ “เอาซิเติร์ก”หนิงกับเจ้าเติร์ก พากันเดินตรงไปยังรถของแม่หนิงที่จอดริมฟุตบาทห่างจากทั้งสองไป 20 เมตรทันทีที่ทั้งคู่เดินไปถึงที่รถ แม่ของหนิงกดลดกระจกลงพร้อมกับจ้องเขม็งมายังทั้งสองเจ้าเติร์กเห็นเช่นนั้นรีบยกมือไหว้ “สวัสดีครับคุณแม่ผมชื่อ….” เจ้าเติร์กพูดไม่ทันจบ แม่ของหนิงรีบพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ดุดันและโกรธเคือง “หนิง ขึ้นรถเดี๋ยวนี้” คำพูดและน้ำเสียงของแม่หนิงทำเอาเจ้าเติร์กกับหนิงนั้นยืนอ้ำอึ้งจนทำไรไม่ถูก “ไม่ได้ยินที่แม่พูดหรอขึ้นรถเดี๋ยวนี้!!!” หนิงหันมายิ้มเจือนๆใส่เจ้าเติร์กพร้อมกับยกมือบายบ่าย “เอิ่มมเติร์ก กลับก่อนนะ”หนิงก้าวขึ้นไปนั่งบนรถพร้อมกับโบกมือให้กับเจ้าเติร์กอีกครั้งเจ้าเติร์กส่งยิ้มให้กับหนิงและแม่หนิง “ขับรถดีๆนะครับคุณ……” ไม่ทันไรแม่ของหนิงได้พูดแทรกขึ้นมาอีกครั้ง“พอได้แล้ว!!! หนิงเลื่อนกระจกขึ้นซะ และคราวหลังก็อย่าให้คนแปลกหน้ามาส่งอีกนะ” ทันทีที่พูดจบแม่ของหนิงรีบขับรถเก๋งออกไปทันทีทิ้งให้เจ้าเติร์กยืนทำหน้าเหวอแบบนั้นไปชั่วขณะ เมื่อมันตั้งสติได้มันเลยเดินกลับไปที่ประตูทางเข้าโรงเรียนก่อนที่มันจะเจอเตอร์กับเค้กเดินออกมาด้วยกัน “เชี่ยเตอร์เค้ก ออกมาหาซื้อไรกินหรอ”“ป่าวกูกับเค้กกะว่าจะออกมาตามหามึงแหละไอ้หน้าหล่อ มึงเป็นไรวะดูสีหน้ามึงไม่ค่อยโอเคเลย แล้วหนิงล่ะกลับแล้วหรอ”“ป่าวเว้ยไม่มีไรหนิงเค้าแม่มารับกลับแล้วล่ะว่าแต่มึงกับเค้กยังไม่กลับอีกหรอวะ”“ก็จะกลับนั่นแหละแต่ตะตี้ไอ้เคนโทรมาบอกกูว่าตอนนี้ไอ้เจมส์เข้าโรงพยาบาลมันสองคนเลยลาโรงเรียนวันนี้”เจ้าเติร์กถึงกับตกใจนิดๆ “อ่าวเห้ย แล้วเจมส์มันเป็นไรวะนั่น”“ไอ้เคนบอกกูว่าเป็นอุบัติเหตุเหตุในบ้านเมื่อคืนน่ะกูกับเค้กเลยจะมาชวนมึงไปดูไอ้เจมส์ที่โรงพยาบาลเซนต์คาร์ลอสน่ะ มึงจะไปไหมวะ” “อืมไปเว้ย ไป”เวลา 17.13 น.ก๊อกๆเสียงเค๊าะประตูห้องดังขึ้น“สงสัยน่าจะพวกไอ้เติร์กล่ะมั้งเจนเดี๋ยวกูลุกไปเปิดให้พวกมันแปป เลิกทำหน้าเศร้าได้แล้วเจนมันไม่ใช่ความผิดเอ็งนะเว้ย”เคนเดินไปเปิดประตูพาเจ้าเติร์ก เตอร์และเค้กเข้ามาในห้องพัก “ไอ้เจมส์ เป็นไงบ้างวะไอ้เคน” เคนพูดและชี้นิ้วไปยังเจมส์ที่นอนหลับสนิทบนเตียงโดยที่ยังมีผ้าสีขาวพันรอบๆศีรษะ “ก็ตามสภาพที่มึงเห็นแหละพวกมึง ก่อนหน้านี้หมอเพิ่งเข้ามาให้ยาแก้ปวดกับยานอนหลับไปน่ะ”เจ้าเติร์กยืนมองเจมส์ก่อนจะเดินไปหาเจนพร้อมกับยื่นถุงที่มีผลไม้และนมกล่องวางซ้อนกันเป็นแพ็กๆให้กับเจน“มันอาจไม่มากมายอะไรแต่พวกกูตั้งใจซื้อให้น้องมึงนะเว้ย”เจนเงยหน้ามองเจ้าเติร์กโดยที่น้ำตายังคลอๆเบ้า “ไงกูขอบใจแทนไอ้เจมส์ด้วยพวกมึงดะเดี๋ยวมันตื่นแล้วกูจะบอกมันให้ว่าพวกมึงมาเยี่ยมมัน”“เจนมึงเป็นไรวะ ร้องไห้ทำไม” เจนค่อยๆก้มหน้าลงและยกมือห้ามเจ้าเติร์กพร้อมกับส่ายหัวไปมาเคนที่เห็นแบบนั้นถึงกับรีบเดินมาจับไหล่เจ้าเติร์ก “เติร์กกูว่าอย่าเพิ่งไปไรกับเจนตอนนี้เลยวะ ปล่อยมันก่อน”เคนพยายามดึงตัวเจ้าเติร์กถอยออกมา “เคนแล้วพ่อกับแม่ของเจมส์ล่ะ อยู่ไหน”“ออกไปทำธุระข้างนอกน่ะเค้กเห็นบอกว่าจะกลับมาช่วงเย็นๆ”“เอ่อเห็นมึงบอกว่าอุบัติเหตุที่บ้าน มันเกิดไรขึ้นไอ้เคน ไอ้เจมส์มันโดนไร??” จู่ๆเสียงสะอื้นร้องไห้ของเจนดังขึ้นทำให้ทั้งหมดถึงกับหันไปมองโซฟาตรงที่เจนนั่งอยู่ “เอ่อ ถ้าพวกมึงอยากรู้จริงๆกูว่าพวกเราย้ายไปคุยกันข้างนอกเหอะ” “เห้ยเคนไม่เป็นไรพวกเราไม่อยากรู้ล่ะ” แต่เตอร์มันรีบพูดแทรกขึ้นมา “เห้ยๆเค้กมึงไม่อยากรู้ก็เรื่องของมึง แต่กูอยากรู้เว้ยว่ามันเกิดไรขึ้น ปะไอ้เคนข้างนอกๆ” เค้กชักสีหน้าและใช้มือตีเข้าไปที่แขนของเตอร์ดังเพี้ยยย “เตอร์เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ป่าววะ มึงเห็นสภาพเจนปะเกรงใจเพื่อนมึงบ้างซิวะ”“โถ่เอ้ยเค้กกก ก็เพราะเกรงใจนี่แหละกูถึงได้เสือกอยู่เนี่ย มึงมานี่เลยไอ้เคน” จู่ๆเตอร์พุ่งตัวไปคว้าแขนเคนพร้อมกับดึงพาตัวของเคนเดินออกจากห้องพักไปทันใด ทำเอาเจ้าเติร์กกับเค้กถึงกับยืนงงด้วยความตกใจก่อนที่จะทั้งสองจะเดินตามทั้งคู่ออกไปแต่ทันใดนั้นเจนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาได้พูดขึ้น “เติร์ก อย่าเพิ่งไป”เจ้าเติร์กกับเค้กรีบหันกลับมามองเจนพร้อมกันก่อนที่เจ้าเติร์กจะหันไปมองที่เค้กเค้กมันเอื้อมมือมาจับไหล่พร้อมกับพยักหน้าใส่เจ้าเติร์กก่อนที่มันจะเดินตามเตอร์กับเคนออกจากห้องไป เจ้าเติร์กเดินตรงเข้าไปหาเจนและค่อยๆนั่งลงข้างมัน “เจน!!แกโอเคนะเว้ยถ้าไม่ว่าอะไรแกพอจะระบายให้เราฟังได้ไหมวะว่ามันเกิดไรขึ้น”เจนยกเอามือขึ้นปาดน้ำตาตัวเองไปพร้อมกับเสียงสูดหายใจขัดๆฟืดฟัดๆ ดังขึ้นเป็นช่วงๆ “มึงว่ากูเป็นที่สาวที่แย่ป่าววะ”เจ้าเติร์กทำหน้างุนงงด้วยความสงสัย “เดี๋ยวนะ แล้วนี่มันเรื่องอะไรล่ะแกใจเย็นก่อนเว้ยเจน ใจเย็นๆแล้วลองค่อยๆเล่าให้เราแต่ต้น”“เมื่อคืนกูกับไอ้เจมส์ทะเลาะกันน่ะเติร์ก”“เอ๊า!! แล้วไปทำท่าไหนน่ะนั่นถึงทะเลาะกัน” “เมื่อคืนอยู่ดีๆไอ้เจมส์มันก็ร้องโวยวายเสียงดังขึ้นมาในห้องของมันกะกูก็เลย ก็เลย เข้าไปหามันที่ห้องและก็ถามมันว่าเป็นไร มึงรู้ไหม จู่ๆมันก็ตวาดเสียงใส่กูและเข้ามาทำร้ายกูก็เลยต้องป้องกันตัวเองแต่กูก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้นะเว้ยเติร์กกูแค่ผลักมันออกไปให้มันตั้งสติเท่านั้น แต่ แต่แต่กูก็ไม่คิดว่าผลมันจะเป็นแบบนี้อะเติร์ก มึงเข้าใจปะว่ากูไม่ได้ตั้งใจอะ” เจนพูดพร้อมกับหลั่งน้ำตาเจ้าเติร์กที่เห็นเช่นนั้นมันรีบเอามือมั้งสองไปจับที่ไหล่ของเจน“อืมๆกูเข้าใจมึงเว้ย พอๆมึงหยุดโทษตัวเองได้ล่ะเจน แต่กูขอถามไรมึงอย่างได้ปะ มึงอย่าหาว่ากูเข้าข้างน้องมึงนะเท่าที่กูรู้จักกับเจมส์มาน่ะ กูยังไม่เคยเห็นมันไปชกต่อยรึทะเลาะกับใครเลยนะเว้ยแถมนิสัยมันดูเหมือนจะเป็นคนอ่อนโยนด้วยซ้ำ แล้วยิ่งตัวเจนน่ะเป็นคนห้าวๆ พูดตรงพูดเสียงดังเหมือนคนใส่อารมณ์ มึงไปทำไรยั่วมันหรือพูดแทงใจมันรึป่าว?? มันเลยถึงได้ทำไรแบบนั้นกับมึง” เจนได้แต่นิ่งเงียบและเช็ดน้ำตาไปมา “เจนแกฟังนะเว้ย มีครั้งหนึ่งที่น้องมึงมาติวกับกูแล้วมันเล่าให้กูฟังว่า มึงน่ะไม่ชอบมัน เกลียดมัน ชอบแกล้งและเอาเปรียบมันโน่นนี่นั่นสารพัด บางครั้งมันก็อยากจะคุยและเปิดใจกับมึงในฐานะพี่สาวกับน้องชายแต่มึงก็ปิดกั้นมันตลอดทุกครั้ง กูถามจริงมึงไม่ชอบมันขนาดนั้นเลยหรอ” เจนก้มหน้าจนน้ำตาที่อาบแก้มทั้งสองหยดลงไปที่ขากางเกงทั้งสองของมันพร้อมกับกำมือทั้งสองไว้แน่น “ใช่กูเกลียดมัน สำหรับตัวกูแล้ว มันคือส่วนเกินตั้งแต่มีมัน พ่อกับแม่ก็ชอบไปเอาใจมันตลอดเวลามีของไรก็เอาไปให้แต่มันก่อนทุกครั้ง แต่กับกูเองมันกลับตรงกันข้าม เป็นมึงมึงจะไม่เกลียดมันหรอวะเติร์ก”“ถ้างั้นมึงจะมานั่งร้องไห้รู้สึกผิดอยู่แบบนี้ไมวะเจน ถ้ามึงเกลียดมันจริงไมมึงไม่หัวเราะสะใจล่ะวะ ทำไมมึงไม่หนีไปเที่ยวซะจะมานั่งเฝ้าให้เสียเวลาแบบนี้ทำไม มึงตอบกูดิ๊เจน” เจนก้มหน้า ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่พักใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นและเดินตรงไปจับราวเหล็กเตียงที่เจมส์กำลังนอนอยู่ “กูไม่รู้เว้ย ทั้งที่กูเกลียดมันมากแต่พอกูเห็นมันอยู่สภาพนี้ กูกลับรู้สึกสงสารมันมากกูรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวหากมันเป็นไรไปไม่รู้ทำไมกูถึงรู้สึกแบบนั้นขึ้นมาทั้งที่กูพยายามที่จะเดินหนีและทิ้งให้มันอยู่คนเดียวแบบนี้จะได้ตายๆไปซะแต่พอกูนึกถึงรอยยิ้ม แววตา และเสียงของมันที่ดังก้องในหัวกูมันกลับทำให้กูใจอ่อนและห่วงมันขึ้นมา”เจ้าเติร์กลุกและเดินไปยืนอยู่ข้างตัวเจน “ที่มึงพูดมานั่นมันไม่ใช่ความเกลียดล่ะวะเจน แต่มันคือความรัก ความผูกพันระหว่างพี่น้องของตัวมึงกับเจมส์นะรู้ป่าว ถ้ามึงเกลียดมันจริงมึงไม่มีทางจะรู้สึกแบบนั้นกับเจมส์แน่นอน เจนมึงฟังกูมึงอย่าปล่อยให้ความอิจฉาริษยาของตัวมึงเองมาทำลายความสัมพันธ์ของมึงกับเจมส์ดิวะต่อไปวันข้างหน้ายามมึงมีปัญหาอะไร หรือไม่รู้จากบากหน้าไปหาใคร อย่างน้อยมึงก็มีเจมส์นี่แหละนะที่มึงยังพึ่งพาได้มึงหัดคิดไกลและมองไปกว้างๆบ้างดิวะหากมึงยังกลับไปทำแบบเดิมกับมันอีก   อีกหน่อยเรื่องนี้มันกลายเป็นปมบานปลายจนแก้ไขไม่ได้ไปเลยนะเว้ยเจนกูคงพูดกับมึงได้แค่นี้ล่ะนะจากนี้ไปก็ขึ้นกับมึงละว่าจะเอายังไงต่อ” เจนยังคงยืนนิ่งเงียบและจ้องมองไปยังใบหน้าเจมส์“เจน!!!แล้วทำไมเจมส์ถึงโวยวายขึ้นมาแบบนั้นล่ะก่อนหน้านั้นมันไปทำไรมารึป่าว”“กูไม่รู้วะเติร์กตอนกูเข้าไปหามันก็เห็นมันเป็นแบบนั้นแล้ว ไม่รู้ดิ ในห้องมันก็ไม่มีไรปกตินะมันยังเข้าไปกดไลด์รูปถ่ายของยัยคินท์ที่ถ่ายไปตอนงานวันหนิงเมื่อวานอยู่เลย กูว่ามันคงด้วยเครียดแหละมั้ง”เจนเอามือทั้งสองข้างลูบๆน้ำตาบนแก้มไปมาก่อนที่จะก้าวเดินช้าๆออกจากห้องไปเจ้าเติร์กที่ได้ยินเช่นนั้นมันเลยหยิบโทรศัพท์ของมันขึ้นมาและกดเข้าไปดูหน้าไทม์ไลน์เฟสของคินท์พร้อมกับเลื่อนดูโพสต์ที่คินท์ได้อัพรูปถ่ายงานวันเกิดหนิงไว้เจ้าเติร์กกดเข้าดูและเลื่อนดูรูปถ่ายดังกล่าวจนมันไปเจอเข้ากับรูปตัวมันเองกับหนิงยืนจับมีดตัดเค้กวันเกิดด้วยกันกับอีกรูปแอบถ่ายตอนที่ตัวมันเองยืนป้อนเค้กวันเกิดให้กับหนิงเจ้าเติร์กที่ได้เห็นภาพดังกล่าวมันเลยเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจมส์ เจ้าเติร์กเลยเดินไปหยิบกระดาษโน้ตที่โต๊ะข้างเตียงพร้อมกับก้มเขียนข้อความบางอย่างลงไปบนกระดาษโน๊ตจากนั้นมันจึงพับกระดาษโน้ตดังกล่าวและยัดใส่ลงไปที่กระเป๋าเสื้อของเจมส์เจ้าเติร์กค่อยๆเอามือทั้งสองมากุมมือของเจมส์ขึ้นมา “เจมส์ ตั้งแต่เรื่องที่ห้องพยาบาลครั้งนั้นพี่เองก็มีหลายๆสิ่งนะที่พี่อยากจะบอกและอธิบายให้เจมส์ฟังและเข้าใจพี่ก็อยากให้ข้อความในกระดาษแผ่นนี้ทำให้เจมส์ดีขึ้นและกลับเป็นเจมส์คนเดิมนะครับ เจมส์ต้องอดทนและเข้มแข็งเข้าไว้ล่ะ หายไวๆนะเจมส์” เจ้าเติร์กพูดพร้อมทั้งเอามือซ้ายตบไปไหล่ขวาของเจมส์เบาๆ                เวลา 18.30น. ทันทีที่เจ้าเติร์กก้าวขึ้นมาบนบ้าน เจ้าบิวกับบอลวิ่งและกระโดดโลดเต้นจากหน้าทีวีตรงมาหาเจ้าเติร์กเหมือนเช่นเคย“พี่เติร์กค๊าบบบบวันนี้ทามไมกลับค่ำจังเลยอะค๊าบบบพี่เติร์กไปไหนมาหรอค๊าบบบ” “พี่เติร์กคัฟฟฟมานั่งดูมิกกี้เมาท์ด้วยกันไหมคัฟฟ ตอนนี้กำลังฉายอยู่พอดีเลย”เจ้าเติร์กยิ้มทักทายทั้งสองพร้อมกับย่อตัวนั่งลง “วันนี้พี่ไปเยี่ยมน้องของเพื่อนพี่ที่โรงพยาบาลมาน่ะวันนี้พี่เหนื่อยและเพลียมากเลย ไงวันนี้พี่ขอตัวขึ้นไปพักผ่อนกันนะบิว บอลไว้พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นด้วยกันครับ” เจ้าบิวกับเจ้าบอลถึงกับทำหน้าจ๋อยทั้งคู่ทันใดนั้นน้าเอมที่สวมชุดทำสวนเดินเข้ามาจากหน้าบ้าน “อ่าวเติร์กลูกกลับมาแล้วหรอแล้วนี่กินไรมายังครับ”เติร์กรีบลุกขึ้นพร้อมกับยกมือไหว้น้าเอม “หวัดดีครับน้าเอม ผมกินข้าวข้างนอกกับเพื่อนๆมาแล้วครับ ไงผมขอตัวขึ้นพักผ่อนก่อนนะครับน้า วันนี้ผมโครตเพลียเลยครับ” “จ๊ะลูก ไงน้าชงอะไรอุ่นๆให้ไหมลูก เดี๋ยวให้บิวยกตามขึ้นไป” เจ้าเติร์กยิ้มพร้อมกับส่ายหัวไปมา “ไม่ดีกว่าครับน้าเอมเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จแล้วผมว่าจะนอนเลยครับ” “อ่าๆ ไงก็ถ้ามีไรเรียกเติร์กน้าได้นะลูก” “ครับน้าเอมพี่ขึ้นไปก่อนนะบิวบอลอย่าซนล่ะ” เจ้าเติร์กยิ้มให้กับทั้งสองก่อนจะหันหลังเดินขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็วไม่นานหลังจากที่เจ้าเติร์กอาบน้ำเสร็จในระหว่างที่มันกำลังนั่งที่เตียงและพิมพ์ส่งแชทไปให้กับหนิงอยู่นั่นเองเสียงเคาะประตู ก๊อกๆ พร้อมกับเสียงเรียกชื่อของมันดังขึ้น “พี่เติร์กค๊าบ” เจ้าเติร์กหันมองไปต้นเสียงก่อนจะวางโทรศัพท์และลุกเดินไปเปิดประตูห้อง “ไงบิว นี่ไรเนี่ย??” เจ้าเติร์กก้มมองเจ้าบิวที่ยืนยิ้มโดยในมือทั้งสองของมันถือนมเมจิขวดใหญ่กับแก้วเปล่าอยู่คนละข้าง “ครูที่โรงเรียนบอกว่าเวลา อ่อนเพลียจากการทำงานต้องดื่มนมค๊าบจะได้สดชื่นบิวเลยเอานมมาให้พี่เติร์กค๊าบ พี่เติร์กจะได้หายเพลียไวๆไงค๊าบ อะนี่ค๊าบบิวจำได้ว่าพี่เติร์กชอบกินสีเขียวรสแคนตาลูป” เจ้าเติร์กยิ้มและหัวเราะขึ้นมาเบาๆก่อนที่ยื่นมือทั้งสองไปรับของจากในมือบิวขึ้นมา “เดี๋ยวนี้รู้จักเอาอกเอาใจกันด้วยนะเนี่ยยยย มีบริการถึงหน้าห้องด้วยยยพี่ขอบใจนะบิว อืมมมจริงๆพี่ดื่มแก้วเดียวก็อิ่มแล้วนะเนี่ยบิวไม่ต้องเอามาทั้งขวดใหญ่ก็ได้ครับกว่าจะบิวหิ้วขึ้นบันไดมาอีกมัน พี่ว่าหนักเอาเรื่องนะ” เจ้าบิวยิ้มและส่ายหัวไปมา “ม่ายยยเป็นไรค๊าบบบก็บิวกลัวพี่เติร์กจะไม่อิ่มอะค๊าบบเลยเอามาทั้งขวดใหญ่เลยเกิดตอนดึกๆพี่เติร์กหิวขึ้นมาอีกจะได้ลุกขึ้นมากินได้ไงล่ะค๊าบบบ”เจ้าเติร์กถึงกับยิ้มและยกมือไหว้เจ้าบิว “ได้เลยค๊าบบคุณหมอบิวเดี๋ยวคืนนี้พี่จะจัดการให้หมดทั้งขวดเลยค๊าบบ” เจ้าบิวที่เห็นเช่นนั้นมันถึงกับรีบเบือนหน้าหลบสายตาเจ้าเติร์กพร้อมทั้งแอบอมยิ้มด้วยความเขินอายก่อนจะหันกลับมามองหน้าเจ้าเติร์กอีกครั้ง “พี่เติร์กถ้าพี่เติร์กยังไม่นอนบิวขอไปนั่งอยู่ในห้องกับพี่เติร์กได้ไหมค๊าบบิวสัญญาว่าจะไม่เสียงดังจะไม่ทำให้พี่เติร์กรำคาญบิวเล่นกับน้องแล้วมันเบื่อๆยังไงไม่รู้ ไม่เหมือนตอนที่บิวได้อยู่กับพี่เติร์กเลย”“แต่อีกสักพักพี่จะนอนแล้วนะบิว” “ไม่เป็นไรค๊าบแปปเดียวยังดีถ้าพี่เติร์กจะนอนเมื่อไหร่ค่อยบอกให้บิวออกมาก็ได้ค๊าบบ” “อ่าๆขี้อ้อนนะเราเนี่ยย” เจ้าบิวยิ้มด้วยความดีใจก่อนจะเดินตามหลังเจ้าเติร์กเข้าห้องไป ในระหว่างที่เจ้าบิวกำลังอ่านหนังสือการ์ตูนของเจ้าเติร์กอยู่ที่โต๊ะคอมจู่ๆเจ้าบอลได้เปิดประตูเข้ามาในห้อง “พี่บิว มาอยู่นี่เองบอลตามหาพี่ซะตั้งนาน ไมไม่ลงไปดูการ์ตูนด้วยกันกับบอลอะคัฟ” “มิกกี้เมาท์มันจบแล้วนิบอล” “แต่มันเรื่องปลานีโมต่อนะพี่บิว” “ไม่เอาเรื่องนั้นไม่สนุกพี่เคยดูแล้วพี่ว่าอยู่ห้องพี่เติร์กสนุกจะตายมีการ์ตูนตั้งหลายเรื่องให้อ่านด้วยบอล” “แล้วพี่เติร์กไปไหนอะ” “เห็นเดินถือโทรศัพท์เข้าห้องน้ำไปโน่นอะบอล” “เจ้าบอลเดินเข้ามายืนดูหนังสือการ์ตูนที่พี่มันก้มอ่านอยู่ “อือออ บอลอ่านไม่ออกอะ พี่บิวอ่านให้ฟังหน่อยจิ” “เอาไว้ก่อนบอล ตอนนี้พี่ยังไม่มีอารมณ์ทำไรแบบนั้นหรอก” คำพูดพี่ของมันทำให้เจ้าบอลทำหน้าบูดขึ้นมาทันใด ก่อนที่มันจะหันไปเจอ ipadเจ้าเติร์กที่วางอยู่บนโต๊ะคอมพร้อมหูฟัง “พี่บิวงั้นเอาipad มาเปิดนั่งดูการ์ตูนด้วยกันไหมคัฟ” “ไม่อะบอล พี่อยากอ่านหนังสือการ์ตูนมากกว่าถ้าบอลอยากดูบอลนั่งดูรอพี่ก่อนเลยก็ได้” “พี่บิวอะ…งั้นบอลนั่งดูคนเดียวก็ได้” เจ้าบอลมันเลยคว้าเอา ipad จากโต๊ะคอมเดินตรงไปนั่งตรงโต๊ะญี่ปุ่นกลางห้องทันทีไม่นานนักเสียงเปิดประตูห้องน้ำ เอี๊ยดดดังขึ้นพร้อมกับเจ้าเติร์กที่ก้าวเดินออกมา “อ่าววบอล!!มาอยู่นี่ได้ไงเนี่ยครับ” “บอลก็ขึ้นมาหาพี่บิวคัฟพี่เติร์กแต่พี่บิวมัวอ่านแต่หนังสือการ์ตูนแบบนั้น บอลเลยต้องมานั่งคนเดียวแบบนี้อะคัฟ”เจ้าเติร์กถึงกับรีบหันไปมองบิวที่โต๊ะทันใด “แหน่ๆได้ยินที่น้องพูดรึป่าวบิว พี่ว่าบิวพาน้องลงไปเล่นกันข้างล่างดีกว่าไหมพี่จะนอนพักล่ะครับ”“งั้นบิวขออยู่อ่านการ์ตูนเล่มนี้จนจบนะค๊าบบพี่เติร์กกำลังสนุกเลยยยเสร็จแล้วเดี๋ยวบิวกับน้องจะพากันลงไปค๊าบบ”“อืมๆงั้นบิวกับน้องอย่าพากันเสียงดังล่ะ” “ค๊าบบพี่เติร์ก”เมื่อพูดจบเจ้าเติร์กมันเลยเดินตรงขึ้นไปที่เตียงพร้อมกับดึงผ้าห่มที่พับอยู่ปลายเตียงขึ้นมาคลุมตัวของมันก่อนที่มันจะทิ้งตัวนอนลง 20 นาที ผ่านไป ในขณะที่เจ้าบอลง่วนอยู่กับการ์ตูนใน ipadอยู่นั้น พี่ชายของมันทั่งอ่านการ์ตูนอยุ่ที่โต๊ะคอม จู่ๆได้ลุกขึ้นและเดินตรงไปยังประตูห้องเจ้าบอลที่เห็นเช่นนั้นมันถึงกับรีบถอดหูฟังออกพร้อมกับตะโกนถามเบาๆ “พี่บิว!! จะไปไหนอะ?”“พี่ปวดท้องอึบอล พี่จะไปเข้าห้องน้ำที่ห้องนอนแปปนะเดี๋ยวพี่มา” “ไมพี่บิวไม่เข้าห้องน้ำในห้องพี่เติร์กอะคัฟไม่ต้องเดินไกลด้วย” “ไม่เอาบอล เข้าห้องน้ำโน่นน่ะดีแล้วพี่กลัวจะมีเสียงทำพี่เติร์กตื่นน่ะ พี่ไปนะไม่ไหวล่ะบอลเองก็อย่าทำเสียงดังให้พี่เติร์กตื่นล่ะ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจ้าบอลมันเลยสวมหูฟังกลับและหันความสนใจมายังการ์ตูนตรงหน้าต่อทันทีเจ้าบอลนั่งก้มหน้าอยู่แบบนั้นได้พักใหญ่จนมันรู้สึกปวดเมื่อยคอและแผ่นหลังมันเลยถอดหูฟังออกพร้อมกดปิด ipad วางลงไว้ที่โต๊ะมันค่อยๆลุกขึ้นบิดยืดตัวไปมาและเดินตรงไปยืนที่หน้าต่างตรงโต๊ะคอม แสงสลัวๆของท้องฟ้ายามเย็นจนเกือบมืดพร้อมกับเสียงรถเสียงของผู้คน ที่ผ่านไปมาหน้าบ้านของมันทำให้เจ้าบอลเกิดความว้าเหว่ขึ้นมาในใจอย่างถึงที่สุดมันยืนนิ่งทอดสายตาไปยังท้องฟ้าอยู่แบบนั้นไปชั่วขณะก่อนที่มันจะหันมาเจอรูปถ่ายหมู่งาน SAE Meeting ของเจ้าเติร์กและเพื่อนๆมันสอดคาไว้ในหนังสือเล่มหนาที่วางข้างโน๊ตบุ๊ตอยู่ 1 ใบ เจ้าบอลมันเลยใช้มือดึงรูปดังกล่าวขึ้นมากวาดสายตามองผู้คนในภาพไปมาจนมันเจอเฟิร์สที่ยืนอยู่ข้างๆเคนทำเอาเจ้าบอลที่ได้เห็นถึงกับยิ้มขึ้นมาด้วยความพอใจ “เมื่อไหร่พี่เฟิร์สจะมาเที่ยวที่บ้านอีกนะบอลอยากเจอพี่เฟิร์ส อยากเล่นกับพี่เฟิร์สอีก เมื่อไหร่พี่เฟิร์สจะมาทำตามสัญญาที่พูดไว้สักทีนะอยากทำแบบนั้นอีกให้พี่เฟิร์สจังเลย”เจ้าบอลยิ่งจ้องรูปเฟิร์สอยู่แบบนั้นจนความต้องการและความอยากในครั้งนั้นวกหวนกลับขึ้นมาในหัวมันอีกครั้งจนเนื้อตัวมันสั่นไม่เป็นท่ามันเลยค่อยๆวางรูปลงที่โต๊ะเลยหันไปมองเจ้าเติร์กที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงพร้อมกับเสียงกรนเบาๆที่ดังจากในลำคอเจ้าบอลยืนมองอยู่แบบนั้นไปชั่วขณะก่อนที่มันจะเดินตรงไปหาเจ้าเติร์กด้วยความต้องการและความอยากที่วกวนในหัวมันไปมาถึงกระนั้นเจ้าบอลยังคงมีความหวาดระแวงอยู่ในใจ มันเลยใช้มือไปตีแขนขวาเจ้าเติร์กเบาๆหลายต่อหลายครั้งจนมันแน่ใจว่าเจ้าเติร์กหลับสนิทจริงเจ้าบอลหันมองซ้ายมองขวาอีกครั้งก่อนที่จะใช้มือทั้งสองของมันยกเปิดผ้าห่มตรงปลายเท้าเจ้าเติร์กขึ้นพร้อมกับมุมแทรกตัวลงไปใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ๆเจ้าบอลค่อยๆนอนคว้ำหน้าลงไปยังช่องหว่างขาของเจ้าเติร์กที่กำลังอยู่ในท่านอนหงายเมื่ออยู่ในท่าที่มีต้องการแล้ว มันเลยค่อยๆพาตัวมันคลานขึ้นไปยังเป้ากางเกงเจ้าเติร์กพร้อมใช้มือทั้งสองจับและลูบท่อนลำจากภายนอกกางเกงทันทีที่มือทั้งสองของมันได้สัมผัสกับท่อนลำดังกล่าวเจ้าบอลถึงกับรู้ได้ทันทีว่าเจ้าเติร์กไม่ได้ใส่กางเกงในนอนมีเพียงแค่กางเกงบ๊อกเซอร์ผืนบางๆเท่านั้นที่ขวางกั้นระหว่างท่อนลำและฝ่ามือน้อยๆของมัน เมื่อเป็นเช่นนั้นเจ้าบอลมันเลยใช้นิ้วมือดังรั้งขอบกางเกงบ๊อกเซอร์ดังกล่าวลงพร้อมกับงัดเอาท่อนลำจากใต้กางเกงขึ้นมาทั้งพวงไข่ภาพที่เจ้าบอลเห็นตรงหน้าคือพวงไข่ใหญ่ๆและท่อนลำขนาด 4 นิ้วกึ่งแข็งกึ่งอ่อนสีขาวเนียนล้อมรอบด้วยขนเพชรอันดกดำซึ่งเป็นภาพที่สะกดสายตาของเจ้าบอลให้จ้องมองด้วยความทึ่งกลิ่นสบู่อ่อนๆที่ลอยโชยเข้าสู่จมูกของเจ้าบอลเป็นช่วงๆกลับทำให้เจ้าบอลนั้นรู้สึกดีและชอบใจอย่างบอกไม่ถูกมันเลยเอามือทั้งสองไปลูบจับท่อนลำท่อนลำพร้อมกับบีบนวดพวงไข่เจ้าเติร์กอย่างเบามือไม่นานนักเจ้าบอลค่อยๆใช้มือที่กำท่อนลำดังกล่าว จับตั้งขึ้นและออกแรงชักขึ้นลงๆช้าไม่นานนักท่อนลำเจ้าเติร์กตอบสนองการกระทำดังกล่าวด้วยการผงาดพองตัวขยายใหญ่จาก 4 นิ้ว กลายเป็น 7 นิ้ว จนมือของเจ้าบอลเกือบกำได้ไม่รอบหัวเห็ดสีแดงบานใหญ่ๆที่ตัดกับสีท่อนลำอันขาวเนียนช่างเป็นภาพที่ล่อตาล่อใจและดึงดูดให้เจ้าบอลขยับเอาใบหน้าของมันเข้าไปใกล้ชิด “ทำไมของพี่เติร์กมันใหญ่กว่าของพี่เฟิร์สจังเลยอะแถมตรงส่วนหัวสีแดงๆนี้มันก็บานยังกะดอกเห็ดเลย ไม่เหมือนกะของพี่เฟิร์สที่เป็นหัวมนๆพี่เติร์กสุดยอดเลยคัฟ”เมื่อพูดจบมันเลยเลื่อนจมูกของมันเข้าไปดมๆหัวเห็ดก่อนที่มันจะอ้าปากกว้างเขมือบดอกเห็นสีแดงใหญ่เข้าสู่อุ้งปากของมันไปอย่างช้าๆและทันทีที่หัวเห็ดของเจ้าเติร์กได้เข้าสู่อุ้งปาก เจ้าบอลถึงกับนึกขึ้นในใจ “หืมมม คับปากจุงเบยยย” แม้ว่าหัวเห็ดบานๆใหญ่ๆจะตึงจนคับแน่นไปทั่วอุ้งปากเจ้าบอลแต่ด้วยความต้องการเดิมบวกความตื่นเต้นที่มันเพิ่งได้อมของเจ้าเติร์กเป็นครั้งแรกกลับทำให้มันรู้สึกดีและมีความสุขเหมือนครั้งที่มันได้ดูดอมให้กับเฟิร์สอย่างไงอย่างงั้นมันผงกหัวขึ้นลงๆดูดอมจ๊วบจ๊าบพร้อมทั้งพยายามตวัดลากลิ้นสากๆใส่หัวเห็ดไปมาด้วยความยากลำบากอาจเป็นเพราะขนาดหัวเห็ดที่เบ่งบานในอุ้งปากจนคับแน่น ถึงกระนั้นมันยังคงไม่ละลดละและพยายามออกแรงดูด พร้อมทั้งตวัดลิ้นเน้นๆลงไปยังปลายหัวเห็ดซ้ำแล้วซ้ำเล่า   ซึ่งนั่นทำให้เจ้าเติร์กที่นอนหลับอยู่นั้นมันค่อยๆสัมผัสได้ถึงความเสียวซ่านแปล่บๆเหมือนไฟฟ้าจี๊ดๆแผ่กระจายไปทั่วร่างกายจนมันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกแต่ความรู้สึกดังกล่าวกลับค่อยๆปรากฏเด่นชัดในหัวของมันจนเจ้าเติร์กลืมตาตื่นขึ้นด้วยความอ่อนเพลียและง่วงเป็นอย่างมากซึ่งทำให้สติของมันในช่วงเวลานั้นอยู่ในภาวะงุนงงสะลึมสะลือแต่ด้วยความเสียวที่ถูกบางสิ่งบางอย่างอุ่นๆกระตุ้นด้วยการดูดและเสียไปมาทำให้เจ้าเติร์กค่อยๆผงกหัวและมองลงไปยังเบื้องล่างแสงสลัวจากภายนอกที่สาดส่องเข้ามาในห้องทำให้สายตาของมันเห็นใครบางคนที่มุดอยู่ใต้ผ้าห่มตรงระหว่างขาพร้อมกับเสียงผ้าห่มเสียดสีกับศีรษะที่กำลังผงกขึ้นลงไปมาปมกับเสียงดูดจ๊วบๆๆเป็นช่วงๆ เจ้าเติร์กถึงกับรีบพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันงัวเงีย “อืมมมบิวววว พอแล้ววว พี่จะนอนครับ” เสียงพูดของเจ้าเติร์กที่ดังขึ้นทำให้เจ้าบอลที่ง่วนอยู่กับการดื่มด่ำท่อนลำถึงกับตกใจขึ้นมาเล็กน้อยแต่ด้วยความเพลิดเพลินและความอยากที่พุ่งพล่านในหัวของมันกลับทำให้เจ้าบอลนั้นไม่รู้สึกวิตกกังวลและหวาดกลัวต่อสถานการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใดมันเลยตั้งใจดื่มด่ำ ด้วยการออกแรงดูด และเลียกระตุ้นๆตรงปลายหัวเห็ดและหัวเงี่ยงใส่หัวท่อนลำใหญ่ๆที่พองตัวแข็งยิ่งกว่าเก่าจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ “อืมมมบิว พอสิ บิววว ซีดดด” เจ้าเติร์กที่กำลังจะใช้มือดึงผ้าห่มออกและงัดหัวของเจ้าบิวให้หยุดการกระทำดังกล่าวแต่ด้วยความเสียวซ่านที่มาเต็มๆมันกลับทำให้เจ้าเติร์กนั้นรู้สึกดีและผ่อนคลายมันเลยปล่อยเลยตามเลยและเอนหัวลงไปที่หมอน “อืมมมม ซีดดดดดอ่า เสียวววว เสียวววว อ่าหหหห์ ซีดดดด อืมมมมม แค่น้ำเดียวพอนะบิววว พะพี่อยากจะนอนซีดดดดด อ่าหหหห” เจ้าบอลที่ได้ยินเช่นนั้นมันถึงกับได้ใจออกแรงดูดและเร่งจังหวะผงกหัวให้เร็วขึ้นพร้อมทั้งระดมลากลิ้นใส่หัวเห็ดบานๆอย่างต่อเนื่องความเสียวได้พุ่งมาระรอกแล้วระรอกเล่าเจ้าเติร์กถึงกับนอนบิดหน้าเกร็งไปมา กัดฟันคราง ไม่เป็นภาษา “ซีดดดด อ๊ากกก อ๊ากกก เสียวววโครตตต เสียวววจริงงง ดีโครตต อ่าหหห ซีดดดด”เจ้าเติร์กเสียวจี๊ดดดจนเผลอยกก้นแอ่นไปตามจังหวะดูดของเจ้าบอล “อือออ อือออ ซีดดด อ่าหหห อ่าหหหห” เจ้าบอลที่อมๆอยู่นั้นมันรู้สึกได้ถึงน้ำลื่นๆหวานๆที่หลั่งออกมาจากปลายท่อนลำและจากประสบการณ์เดิมที่มันเคยทำให้กับเฟิร์ส ทำให้เจ้าบอลรู้โดยทันทีว่าของเหลวสีขาวๆขุ่นๆหรือน้ำเชื้อที่มันเคยลิ้มรสจากเฟิร์สในครั้งก่อนๆกำลังจะหลั่งไหลแผ่พุ่งออกมาอีกไม่นาน มันเลยออกแรงดูดให้หน่วงขึ้นพร้อมกับใช้ปลายลิ้นเลียแยงๆเข้ายังยังรูฉี่ตรงส่วนปลาย“อ๊ากกกบิววว พี่จะแตกแล้วนะ อ่าหห แตกแล้ว อ่าหห อ่าหหหอ่าหหหหห” เสียงหายใจออกทางปากๆยาวพร้อมกับอาการเกร็งตัวงึกๆฉีดพ่นน้ำเชื้อปรี๊ดๆๆ ลูกแล้วลูกเล่าเข้าสู่อุ้งปากอุ่นๆที่กำลังครอบปลายหัวเห็ดอยู่เจ้าบอลที่กำลังกลืนน้ำเชื้ออยู่อึกๆ มันถึงเกือบสำลักเนื่องจากน้ำเชื้อที่แผ่พุ่งจากปลายหัวเห็ดบานๆนั้นมีจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่เจ้าเติร์กเคยหลั่งส่วนเจ้าบอลเองก็ไม่น้อยหน้ามันได้งัดเอาสกิลกลืนแบบต่อเนื่องที่เฟิร์สได้สอนมันไว้ทุกครั้งที่เจ้าบอลได้ดูดอมมาใช้กับเหตุการณ์ในครั้งนี้จนมันสามารถกลืนเอาน้ำเชื้อทั้งหมดของเจ้าเติร์กลงไปไว้ในท้องของมันได้ทุกหยดเจ้าบอลถึงกับอุทานขึ้นในหัว “โหห รสชาติน้ำเชื้อของพี่เติร์กหวานจุงเบยยกลิ่นก็คาวน้อยกว่าของพี่เฟิร์สอีกด้วยย ไม่รู้ลิ้นพี่บิวจะสัมผัสรสชาตินี้เหมือนกับลิ้นของเราได้ไหมนะ” เจ้าบอลค่อยๆถอนปากออกพร้อมกับใช้ลิ้นเลียคราบน้ำเชื้อที่ติดตามใต้ขอบหัวเงี่ยงไปมาส่วนเจ้าเติร์กหลังที่ที่มันปลดปล่อยน้ำเชื้อไปทั้งหมดแล้วมันกลับรู้สึกได้ถึงความง่วงและความเหนื่อยล้ายิ่งกว่าเก่าจนดึงมันให้เข้าสู่ภวังค์แห่งการนอนหลับอีกครั้ง แม้ว่าความเสียวจากปลายลิ้นที่เจ้าบอลกำลังเลียกินคราบน้ำเชื้อจากขอบหัวเงี่ยงจะกระตุ้นให้เจ้าเติร์กและท่อนลำผงาดขึ้นมาอีกครั้งตาด้วยความเมื่อยล้าและความง่วงที่มีมากกว่าได้ทำให้เจ้าเติร์กค่อยๆหลับตาลง “อืมมม วันนี้บิวดูดให้พี่ได้เสียวกว่าทุกครั้งเลยนะ เก่งมากเลยยบิววอืมมมม บิวก็น่าจะพอได้แล้วน้าาาา พี่ไม่ไหวล่ะ พี่นอนล่ะนะ”เจ้าบอลที่เลียๆและดูดอมหัวเห็ดเข้าปากอีกครั้งอยู่นั้นทันทีที่มันได้ยินเสียงหายใจยาวๆและเสียงกรนเบาจากคำคอดังขึ้นท่อนลำใหญ่ๆขนาด 7 นิ้วดังกล่าวค่อยๆอ่อนตัวหดลง แม้เจ้าบอลจะพยายามจับชักขึ้นลงหรือใช้ปากและลิ้นเลียและดูดอมสักเท่าไหร่แต่ท่อนลำของเจ้าเติร์กก็ไม่มีทีท่าว่าจะผงาดขึ้นมาอีกครั้ง มันเลยถอนใจหายปลงๆพร้อมกับเอ่ยปากพูดเบา “บอลยังอยากทำอีกรอบจุงงงง” มันเลยเลียปากไปมา และสวมกางเกงกลับด้วยความอาลัยอาวรณ์ ก่อนที่มันจะเปิดผ้าห่มและลงจากเตียงมายืนมองหน้าหล่อๆเจ้าเติร์กที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงงงไม่นานนักเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับเจ้าบิวที่เดินเข้ามา “บอล มาทำยืนไรมืดๆอยู่คนเดียวน่ะ ทำไมไม่เปิดไฟห้องล่ะ” เจ้าบอลถึงกับตกใจจนรีบหันไปมอง “พี่เติร์กหลับแล้วพี่บิวจะเปิดไฟอีกทำไม” “ปะบอลงถ้าพี่เติร์กหลับแล้วเราก็ลงไปข้างล่างกันดีกว่า ตะกี้แม่เรียกให้พี่กับบอลลงไปกินข้าว” เจ้าบิวใช้มือคว้าแขนเจ้าบอลและพาเดินออกจากห้องไปด้วยกันทั้งสองพี่น้อง                             จนกระทั่งเวลา 6.41น. เจ้าเติร์กที่นอนหลับอยู่บนเตียงลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับยันตัวขึ้นมานั่งบิดตัวไปมาเหมือนเช่นเคยจากนั้นมันจึงหันไปหยิบโทรศัพท์ที่เสียบชาร์ตแบตไว้ตรงโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมาเปิดดูแชทของหนิง ที่เจ้าเติร์กส่งไปเมื่อคืน แต่เจ้าเติร์กกลับต้องแปลกใจเพราะแชทที่เจ้าเติร์กส่งไปเมื่อคืนหนิงไม่ได้กดเข้ามาอ่านและแชทตอบมาแต่อย่างใด มันเลยมองแถบบอกเวลาการเข้าใช้งานล่าสุด23 ชม.ที่แล้ว “อ่าวนี่หนิงไม่ได้เล่นเฟสตั้งแต่เย็นเมื่อวานหรอ”เจ้าเติร์กถึงกับรีบกดเข้าไลน์ “เอ้ ในไลน์ก็เหมือนกันแหะหนิงเป็นไรรึป่าว ปกติแค่พิมพ์ไปแปปเดียวก็ตอบกลับมาล่ะนิ” เจ้าเติร์กนั่งครุ่นคิดอยู่ได้ไม่นานมันเลยวางโทรศัพท์ลงพร้อมกับเดินตรงไปยังห้องน้ำ ครั้นเมื่อไปถึงโรงเรียนช่วงเข้าแถวเจ้าเติร์กพยายามมองและโบกมือทักทายหนิง แต่หนิงกได้แต่ก้มหน้าก้มตาพร้อมกับทำสีหน้าเศร้าๆจนเจ้าเติร์กเริ่มรู้สึกไม่สบายใจไปด้วย เจ้าเติร์กมันทั้งพยายามจะคุยกับหนิงเพื่อถามหาสาเหตุ แต่หนิงเองกลับพยายามเลี่ยงที่จะไม่คุยหรือเดินหนีไปเกือบทุกครั้งที่เจ้าเติร์กเดินเข้ามาใกล้ยิ่งนานวันเจ้าเติร์ก สังเกตได้ว่าหนิงเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ทั้งพยายามตีตัวออกห่างหลบหน้าเจ้าเติร์กไม่ยิ้มหรือคุยเล่นกับมันเหมือนทุกๆครั้ง อีกทั้งยังไม่ยอมตอบไลน์หรือแชทที่เจ้าเติร์กส่งไปจนเจ้าเติร์กทนไม่ไหวกับสภาพที่มันเผชิญอยู่ เจ้าเติร์กมันเลยไปขอร้องหยกเพื่อนสนิทที่สุดของหนิงให้พาหนิงไปยังสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ นนทบุรีโดยเจ้าเติร์กจะรอหนิงอยู่ที่นั่นทันทีที่หยกพาหนิงมาถึงที่นัดหมาย มันรีบเดินแยกจากหนิงโดยอ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำและทิ้งให้หนิงเดินดูต้นไม้และดอกไม้บริเวณนั้นรอหยกเมื่อหยกเดินจากไป เจ้าเติร์กที่ยืนอยู่ใกล้ๆค่อยๆออกตัวเดินตรงไปหาหนิง ซึ่งตัวหนิงเองก็ถึงกับตกใจทันทีมันเห็นเจ้าเติร์กเดินเข้ามา “หนิง คุยกับเติร์กก่อนได้ไหม” หนิงได้แต่ส่ายหน้าและพยายามเดินหนีไปอีกทางเจ้าเติร์กถึงกับวิ่งไปขวางหนิงไว้ “หนิง ขอร้องล่ะทำแบบนี้ทำไม ถ้าเติร์กทำไรผิดหรืออะไรยังไง หนิงบอกเติร์กสิ เติร์กพร้อมที่จะแก้ไขตัวเองเสมอ แต่อย่าทำแบบนี้ดิที่ผ่านหนิงไม่คุยกับเติร์กเลย ทั้งไม่ตอบแชทตอบไลน์และหลบหน้าเติร์กอีกทำแบบนี้เติร์กไม่โอเคนะหนิง” น้ำเสียงของเจ้าเติร์กเริ่มสั่นๆเหมือนจะร้องไห้ จนหนิงที่ยืนๆอยู่ถึงกับน้ำตาเริ่มคลอเบ้า “เติร์ก มีหลายสิ่งที่หนิงอยากอธิบายให้เติร์กฟังนะ แต่ แต่ ฮือๆ” หนิงรีบเอามือซ้ายขึ้นกุมตาทั้งสองไว้“ไหนหนิงเคยบอกกับเติร์กไงว่ามีไรจะบอกกันตรงๆ หนิงจำไม่ได้หรอ” น้ำตาของหนิงถึงกับไหลอาบแก้มทั้งสอง “เติร์กอย่าเพิ่งคาดคั้นเราได้ไหมหนิงขอล่ะ เรายังไม่พร้อมที่จะพูดเหตุผลหรือพูดอะไรให้เติร์กฟังตอนนี้” “แล้วหนิงจะต้องให้เติร์กทำไงบอกเติร์กสิ” เจ้าเติร์กรีบเดินเข้าไปหาตัวหนิง หนิงถึงกับถอยหนีพร้อมกับยกมือขึ้นมาห้าม "เติร์กเดี๋ยวขอล่ะ ขอเวลาให้ตัวหนิงหน่อยได้ไหม” “แล้วหนิงไม่สงสารเติร์กบ้างเลยหรอ” “ตะเติร์กไม่เข้าใจอะ เติร์กอย่าคิดว่าหนิงไม่เสียใจกับสิ่งที่เป็นอยู่นะ ...เราว่า ช่วงนี้ เรา...เรา...ห่างๆกันไปก่อนเหอะนะ” คำพูดหนิง ทำเอาเจ้าเติร์กที่ได้ยินถึงกับเย็นวาบไปทั่วทั้งตัวจนน้ำตาลูกผู้ชายค่อยๆไหลจากดวงตาอันแดงกร่ำทั้งสองลงมายังใบหน้าอย่างช้าๆ
ไว้มาต่อครับ......เนื้อหาในตอนที่ 15ตามลิงค์ http://www.g4guys.com/forum.php? ... 0762&fromuid=155129

nuangnut1996 โพสต์ 2019-10-30 23:54:42

ขอบคุณครับ

nuangnut1996 โพสต์ 2019-10-30 23:54:49

ขอบคุณครับ

AMFUSE โพสต์ 2019-10-30 23:55:45

พี่เติร์กมาแล้ววววววววว

freezz โพสต์ 2019-10-31 00:38:28

พี่เติร์กมาเเล้ว โคตรคิดถึงเลยครั

tarr โพสต์ 2019-10-31 00:49:34

ขอบคุณครับ

lovelovena โพสต์ 2019-10-31 00:58:25

ขอบคุณครับ

นิโหน่ย โพสต์ 2019-10-31 01:01:10

เย้ มาแล้วววว

natytd โพสต์ 2019-10-31 01:14:59

หักมุมมากในหลายๆสิ่ง ติดตามต่อครับ มาเร็วหน่อยนะครับ

minone โพสต์ 2019-10-31 02:26:09

ขอบคุณ​มาก​นะ​ครับ​{:5_130:}

haohan โพสต์ 2019-10-31 03:05:09

มาต่อแล้ว ดีจัง สนุกทุกตอนจริงๆครับเรื่องนี้ รออ่านตอนต่อไป สู้ๆ ขอบคุณครับ

acolyte โพสต์ 2019-10-31 03:10:15

ขอบคุณมากครับ

pollraill โพสต์ 2019-10-31 03:34:32

มาแล้วขอบคุณครับ

guide01 โพสต์ 2019-10-31 04:54:35

ขอบคุณมากเลยครับ

jumboa โพสต์ 2019-10-31 06:01:13

ขอบคุณ​ครับ.

cake_dong โพสต์ 2019-10-31 06:56:25

ขอบคุณ​ครับ.

AlphaPaKa โพสต์ 2019-10-31 07:07:28

ขอบคุณครับ

lekthai โพสต์ 2019-10-31 09:11:50

คิดถึงเตริ์ก บอล บิว ขอบคุณ

pipi1 โพสต์ 2019-10-31 09:23:03

{:5_119:}ขอบคุณครับ{:5_119:}

oppowow โพสต์ 2019-10-31 12:39:12

ยังสนุกเหมือนเดิมเลยครับ อยากให้มาอัพบ่อยๆ
หน้า: [1] 2 3 4
ดูในรูปแบบกติ: เรื่องราวของเจ้าเติร์ก 14 (แปรเปลี่ยนผัน)