เปิดซิงน้ำแรกเด็ก 13 ม.1 (3)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย John001 เมื่อ 2020-6-23 21:00ขอโทษด้วยนะครับที่ช้า ผมเป็นคนขี้เกียจพิมพ์อย่างมาก แต่ก็อยากเล่าประสบการณ์ให้เพื่อน ๆ ฟัง จึงต้องใช้ความพยายามพิมพ์อย่างสูงเลยนะครับ
ความเดิมสาย ๆ ของวันรุ่งขึ้นมีเสียงรถมอเตอร์ไซด์มาจอดหน้าบ้านพัก ผมกำลังจะปั่นผ้าได้ยินเสียงรถ ผมดีใจมากคิดว่าต้องเป็นน้องแน่นอน รีบวิ่งออกมาหน้าบ้าน กำลังจะเอ่ยปากทัก แต่....โผล่ไปเจอ.....ผู้หญิงวัยกลางคนมากับเด็กหญิง อายุประมาณ 10 –11 ปี ยืนอยู่ “สวัสดีค่ะ ฉันเป็นแม่น้องเฟรมค่ะ” หญิงคนนั้นเอ่ยขึ้น“อ่อครับ สวัสดีครับ”กำลังใจคิดในใจว่าแม่น้องเฟรมมาทำไม หรือน้องเฟรมบอกแม่เรื่องที่ผมทำอะไรกับน้อง แม่น้องเฟรมคงเดาใจผมออกและรับถุงจากเด็กหญิงที่มาด้วยส่งให้“นี่ค่ะ เสื้อผ้าที่น้องเฟรมใส่กลับบ้าน”“ครับ”(ผมลืมบอกไปนะครับว่า เช้าวันนั้น หลังจากที่น้องเฟรมอาบน้ำเสร็จผมเอาเสื้อผ้าของผมให้น้องเฟรมใส่เพื่อที่จะเป็นแผนให้น้องเฟรมมาหาผมเพื่อคืนเสื้อผ้า แต่น้องดันให้แม่มาคืนแทนแผนผมก็เลยพังไม่เป็นท่า)แม่น้องเฟรมเห็นผมเงียบไป จึงพูดว่า “น้องเฟรมไม่ได้มาเพราะ ให้ตั้งหม้อหุงข้าวและเตรียมอุ่นกับข้าวไว้สำหรับมื้อเที่ยง” ผมหันไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ข้างฝา เอ๊ะก็เพิ่งจะ 9 โมงครึ่ง จะรีบหุงข้าวอะไรนักหนา ตั้งหม้อข้าวไฟฟ้า ก็ไม่เกิน 10 นาทีถ้าจะมาด้วยก็น่าจะมาได้ “ที่บ้านจะสอนให้ลูกทั้ง 2 คน ช่วยทำงานบ้าน น้องเฟรมมีหน้าที่ หุงข้าว อุ่นกับข้าวถุงและล้างจาน ส่วนน้องฟางมีหน้าที่ทำความสะอาดบ้านซักผ้า” แม่น้องเฟรมพูดต่อ“อ่อ..ครับดีจังนะครับสอนให้เด็กมีความรับผิดชอบช่วยงานในบ้าน หายากนะครับ”“ค่ะ ฉันโชคดีมีลูก ไม่ดื้อ สอนง่ายใช้ให้ทำอะไรก็ทำไม่ขัดใจ โดยเฉพาะน้องฟางนี่ใช้ปุ๊ปทำปั๊บแต่น้องเฟรมถ้ากำลังเล่นเกมอยู่ ก็จะมีโอ้เอ้บ้าง แต่ถ้าพ่อเค้าอยู่พ่อเค้าจะไม่ค่อยให้เล่น”(มิน่าล่ะ ตอนที่ผมทำอะไรน้องเฟรม น้องถึงไม่ขัดใจผม)”ครับผมถึงได้ชอบนิสัยน้องเฟรม ช่วยผมทำงานเป็นอย่างดีก็บอกน้องว่าถ้าไม่ได้ไปช่วยงานพ่อ ก็ให้มาช่วยผมทำงาน ก็ไม่ได้ให้ทำอะไรมากมายนะครับ ทำความสะอาดสวนหน้าบ้านบ้าง ทำความสะอาดในบ้านบ้าง แล้วจะได้ค่าขนม”ผมตอบไป “ค่ะ น้องก็เล่าให้ฟัง” พอได้ยินว่าน้องก็เล่าให้ฟัง ผมนี่เสียวสันหลังวูบ ว่าน้องเฟรมเล่าให้แม่ฟังขนาดไหนหนอ “ไว้ถ้า เสาร์-อาทิตย์หน้าน้องว่างจะให้มาช่วยนะคะ”“ครับ ผมขอบคุณพี่มากนะครับ ผมอยู่คนเดียว ทำคนเดียว บางทีก็จะเหงา ๆ หน่อย”“งั้น ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” แม่น้องเฟรมเอ่ยลา “ครับแต่..เดี๋ยวก่อนครับ ช่วยบอกน้องเฟรมให้โหลดแอพไลน์ หรือ เอ็มเอสเอ็น ด้วยนะครับเผื่อผมมีอะไรจะแนะนำเกี่ยวกับเรื่องเรียน จะติดต่อกันได้”ผมบอกไป “ค่ะ แล้วจะบอกให้นะคะ” หลังจากที่แม่น้องเฟรมกลับไป ผมก็เดินเข้าบ้านอย่างหงอย ๆซักผ้าเสร็จ ก็กลับมานอนคิดไปต่าง ๆ นานา ว่า ทำไมน้องเฟรมไม่มา โทรไปก็ไม่รับแอพไลน์ก็ไม่โหลด น้องเฟรมไม่ชอบใจที่ผมทำกับน้องหรือปล่าว หรือว่า น้องยังเด็กความต้องการทางเพศยังไม่ค่อยมี และเป็นคนไม่สนใจเรื่องพวกนี้ด้วย เอ๊ะ...หรือว่าสิ่งที่ผมทำลงไปทำให้น้องกลัวผม พอผมคิดไปว่าน้องกลัวผม ก็พาลคิดไปถึงบทเรียนครั้งนั้นกับน้องคนหนึ่งที่ผมทำแล้วน้องกลัว(ในตอนนั้นผมทำงานอยู่หน่วยงานการศึกษาของอำเภอ จะได้ทำงานร่วมกับโรงเรียนต่าง ๆในอำเภอเป็นประจำ และมักจะได้รับหน้าที่เป็นวิทยากรร่วมกับกิจกรรมของโรงเรียนที่จัดขึ้น ครั้งหนึ่ง ผมได้ไปเป็นวิทยากรในโครงการกิจกรรมเสริมทักษะความสนใจให้กับนักเรียนชั้นม.ต้น ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน กิจกรรมที่จัดแบ่งเป็นฐานต่าง ๆเช่น ฐานดนดรีคอมพิวเตอร์ทดลองวิทยาศตร์ช่างประดิษฐ์ เป็นต้นผมอยู่ฐานคอมฯ มีนักเรียนสนใจเข้าฐานที่ผมดูแล ประมาณ 30 คน ทั้ง นร.ชาย และหญิงผมให้นักเรียนจับคู่กันใช้คอม 2 คนต่อ 1 เครื่อง หลังจากสอนการใช้งานแล้วก็มอบหมายงานให้ทำ ผมก็เดินไปดูตามโต๊ะต่าง ๆ เพื่อจะแนะนำ หากนร.เกิดปัญหา จนเดินมาเจอกับนักเรียนชายคู่หนึ่ง คนหนึ่ง สูงเปรียว อีกคนหนึ่งเตี้ย ๆน่าจะอยู่ ม.2ทันทีที่ผมเห็นน้องคนสูง ผมเกิดความสนใจเพราะตรงเสป็คผมอยู่แล้ว หุ่นลีนๆ เนี่ย ผมจึงทำทีเข้าไปดูแล โดยเข้าทางด้านน้องคนสูงเอามือท้าวโต๊ะแล้วก้มลงไปใกล้น้อง หน้าผมกับหน้าน้องห่างกันไม่ถึงคืบ ผมก็แนะนำไปแล้วถามว่าเข้าใจมั้ยน้องคนสูงก็หันหน้ามาจะตอบ ทำให้หน้าผมกับหน้าน้องชนกันเบา ๆน้องร้อง อุ๊ย ผมเลยบอกขอโทษน้อง “ขอโทษนะครับ พี่ไม่ได้เจตนา” (หึหึ แต่ตั้งใจเลยแหละ) น้องคนตัวเตี้ยเลยแซวผมว่าแตะอั๋งเพื่อนเค้าป่าว ผมก็ปฏิเสธ แล้วเดินไปทางฝั่งของน้องคนเตี้ยบ้างและทำกิริยาอาการเหมือนกันเพื่อให้น้องไม่สงสัย แต่หน้าอยู่ห่างไม่ใกล้เหมือนน้องคนสูงจากนั้น ก็เดินไปดูโต๊ะอื่น ๆ ที่เป็น นร.ชายพร้อมทั้งทำอากัปกิริยาเดียวกัน เพื่อให้น้องคนเตี้ยที่คอยแอบมองอยู่ เห็นว่าผมก็ทำเช่นเดียวกัน ส่วนนร.หญิงไม่ได้ทำกิริยาอย่างนั้นจนถึงเวลาพักรับประทานอาหารกลางวัน ผมเห็นน้อง2 คนนั้น นั่งทานข้าวอยู่ด้วยกัน ผมจึงนำถาดข้าวของผมไปนั่งทานด้วย และพูดคุยกันน้องคนสูงชื่อ ตั๊ก คนเตี้ย ชื่อ โอมเป็นเพื่อนเรียนอยู่ห้องเดียวกัน และบ้านก็ใกล้กันด้วย สนิทกันมาตั้งแต่ประถม คนสูงเป็นเด็กเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด คนเตี้ย พูดมาก ฉลาด หลังจากทานข้าวเสร็จทำให้ผมและน้อง2 คน สนิทกันมากขึ้น พอเข้าเรียนในภาคบ่าย น้องคนเตี้ยก็คอยพูดคอยแซวผมตลอด ถ้าผมไปยืนทางด้านน้องคนสูง แต่ไม่ได้แซวจริงจังอะไร ก็แค่ขำ ๆ จนเรียนเสร็จภาคบ่าย ก็ปล่อยให้เด็กเข้าที่พักที่ทางโรงเรียนจัดให้ นร.ชายแยกนอนตามห้องเรียนนักเรียนหญิงนอนที่ตึกอำนวยการและเรือนพยาบาลหลังจาก นร.ทานมื้อเย็นเสร็จก็เข้าที่พัก ผมก็เดินไปดูตามห้องที่ นร.นอน จนมาเจอกับห้องที่น้อง 2 คนนอน น้องตั๊ก (น้องคนสูง) นอนเล่นโทรศัพท์อยู่คนเดียวหน้าห้องเรียนบริเวณที่เคยตั้งโต๊ะครู ตรงนั้นจะตรงพัดลมเพดานพอดี ส่วน นร.คนอื่นนั่งเล่นหมากฮอสกันบ้าง นั่งจับกลุ่มคุยกันบ้างในห้องนี้มีนักเรียนนอนประมาณ 10 คน ผมเห็นน้องตั๊กอยู่เดียว จึงเข้าไปนั่งคุยสอบถามว่า ทำไมไม่ไปรวมกลุ่มกับเพื่อนน้องตั๊กบอกว่า "ไม่ชอบคนเยอะ วุ่นวาย" ผมก็ยิ้มอย่างดีใจและนึกในใจว่าชอบอย่างนี้ก็เสร็จโจรอ่ะดิ่ ผมจึงนั่งลงไปคุยกับน้อง จนรู้ว่าที่น้องเลือกฐานคอม เพราะพ่อจะซื้อคอมให้ ที่น้องติดเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน ผมทำทีเป็นนั่งคุยกับน้องและชะโงกหน้าดูน้องเล่นเกมจนเมื่อย จึงนอนตะแคงดูน้องใกล้ ๆ แล้วผมก็เขยิบเข้าไปใกล้จนหน้าผมเกือบชิดคอน้อง โดยอ้างว่ามองไม่เห็นเกมที่น้องเล่น ผมนอนดูไปก็แกล้งเป่าลมหายใจร้อน ๆเข้าไปที่ซอกคอของน้องอย่างแผ่ว ๆ สังเกตุเห็นขนตามแขนของน้องลุกซู่ แต่น้องก็ไม่พูดอะไรยังคงเล่นเกมอยู่อย่างนั้น ทำอยู่ 2 – 3 ครั้ง เห็นน้องยังเฉย ด้วยความย่ามใจจึงหอมแก้มน้อง น้องหันหน้ามามอง ผมจึงบอกน้องว่า “พี่ชอบน้องนะเพราะน้องหน้าเหมือนน้องของพี่ หุ่นก็เหมือน นิสัยก็เหมือน (มุกเสี่ยว ๆ ควาย ๆ แต่ก็ใช้ได้ผลเสมอ)น้องก็ถามผมว่า “แล้วน้องพี่ไปไหนล่ะ” ผมก็ตอบน้องว่า “น้องพี่ไม่อยู่แล้วเสียชีวิตแล้ว” (อันนี้ไม่ได้โกหกนะครับ น้องผมเสียชีวิตตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ จริง)น้องทำหน้าเห็นใจผม ผมจึงพูดต่อไปว่า “ให้พี่หอมพี่กอดน้องตั๊กแทนน้องของพี่ได้ใหมครับ” น้องก็พยักหน้า ผมจึงได้หอมอยู่ 3 – 4ครั้ง แล้วเอามือโอบกอดน้อง มือผมวางอยู่บนหน้าท้องของน้องตั๊ก รู้สึกได้ว่าน้องมีซิกแพคเบา ๆ จึงถามน้องว่า “น้องเล่นกล้ามเนื้อหน้าท้องด้วยเหรอ”(ตอนนั้นฟิตเนตยังไม่เป็นที่แพร่หลาย) น้องก็ตอบว่า “ครับโค้ชให้เล่นสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง เวลาแข่งฟุตบอลวิ่งจะได้ไม่จุกท้อง ผมจึงบอกว่า “ไหนพี่ขอดูหน่อยได้ไหม” น้องก็ตอบว่าได้ พร้อมกับเปิดให้ดู ผมเอามือไปลูบกล้ามหน้าท้องของน้อง แล้วแกล้งถามน้องว่า “ถ้าโดนต่อยที่ท้องจะเจ็บไหม”“ถ้าต่อยไม่แรงมากก็ไม่เจ็บ”น้องตอบ “แล้วกล้ามเนื้อแข็ง ๆ เนี่ย ถ้าพี่ลองนอนหนุนจะหนักไหม” ผมถามด้วยความเจ้าเล่ห์ น้องก็ตอบว่า “ไม่หนักครับ”“รู้ได้ไง ตอบแบบนี้แสดงว่าเคยมีใครมาหนุนแล้วใช่ป่ะ”“ก็โอมแหละครับชอบมานอนหนุนเวลาเล่นเกม”“งั้นพี่ลองหนุนดูนะ” "ครับ"ผมก็ล้มตัวลงนอนเอาหัวหนุนหน้าท้องของน้องตั๊ก นอนได้สักพักผมก็แกล้งขยับหัวลงไปเรื่อย ๆ ให้ใกล้จุดสำคัญของน้อง น้องก็ยังเฉย ๆ ก็เลยกะว่าจะขยับไปอีกจนชิด แต่ยังไม่ทันได้ขยับลงไป ก็มีเสียงแซวมาแต่ไกลของเจ้าโอมว่า“พี่นอนหนุนท้องตั๊ก ระวังโดนกระบองยักษ์ตีหัวนะ” แล้วก็มีเสียงหัวเราะกันทั้งกลุ่ม“ไอ้สัด” เป็นเสียงน้องตั๊กด่ากลับพร้อมยิ้มกับผมอย่างเขิน ๆผมเลยแกล้งแซวน้องตั๊กว่า “กระบองยักษ์หรือไม้จิ้มฟัน” น้องตั๊กก็เถียงว่า”โห..ไม่จิ้มฟันไร พี่เห็นแล้วจะหนาว” ผมจึงบอกว่า “ไม่เชื่อต้องพิสูจน์” พร้อมทั้งเอามือจับที่ปิกกาจู้ของน้องน้องตั๊กรีบเอามือมาปิดแต่ไม่ทันแล้ว แต่ก็พยายามแกะมือผมออก ผมจึงพูดว่า “ไม่กล้าให้จับแสดงว่าเล็ก” น้องก็เถียงว่า “ไม่เล็ก... อ่ะจับก็จับ ถ้าของผมใหญ่ พรุ่งนี้พี่ต้องเลี้ยงโค๊กเลี้ยงหนมผมนะ”ผมก็ตอบ “ โอเค” น้องจึงเอามือออกผมก็จับลูบไปตามท่อนลำ “หูยยย ใหญ่จริง ๆ ด้วย” (ผมกะดู ขนาดยังไม่แข็งยังใหญ่ถ้าแข็งน่าจะประมาณ 7 นิ้วขึ้น จริงตามคำโบราณบอก สูงชะลูด ตูดปอด ยอดขุนพลทั้งใหญ่ทั้งยาว) ผมจับได้แป๊บนึงก็เอามือออก(เพราะกลัวไก่ตื่น อิอิอิ)แต่ผมก็ยังนอนหนุนท้องของน้องตั๊กต่อไป ตอนนั้นประมาณ 3 ทุ่มแล้ว อากาศเริ่มเย็น ด้วยความที่เรานอนตรงพัดลมก็เลยรู้สึกหนาว ผมจึงดึงผ้าห่มที่อยู่ปลายเท้ามาห่มถึงหน้าอกของน้องตั๊ก น้องตั๊กขอบคุณผม แล้วผมก็นอนหนุนท้องน้องตั๊กต่อ แต่ก่อนที่จะนอนลงไปก็มองไปที่หลังห้องที่ นร.กลุ่มนั้นนั่งเล่นกันอยู่ ยังมีนร.นั่งเล่นหมากฮอสกัน 4 – 5 คน นอกนั้นก็เริ่มนอนกันแล้ว ผมลงนอนหนุนหน้าท้องน้องโดยจะหนุนตรงบริเวณเนินหัวเหน่าของน้อง เพื่อลองเชิงดูว่าน้องตั๊กจะมีปฏิกิริยายังไงแต่น้องยังเฉย จึงทำเป็นนอนตะแคงพลิกหน้าไปให้โดนกับปิกกาจู้ของน้อง น้องก็ยังเฉยยังคงเล่นเกมนิ่ง ๆ (แต่ก่อนหน้านั้น น้องเคยบอกให้ผมนอนนิ่ง ๆ อย่าส่ายหัวไปมาจั๊กกะจี้ แต่ผมบอกน้องว่า ถ้าพี่นอนทับอยู่ที่เดียวน้องก็จะหนักจึงต้องขยับที่เรื่อยๆน้องก็ไม่ว่าอะไร) ผมนอนตะแคงให้ปากตรงกับปิกกาจู้น้อง และแกล้งอ้าปากชวนน้องคุยบ้างทำให้ปากผมโดนหัวปิกกาจู้นอกกางเกง คุยไปซักพักเริ่มรู้สึกได้ว่า ปิกกาจู้ของน้องพองตัวใหญ่ยาวขึ้นจนดันปากผมผมทำเป็นนอนนิ่งดูว่าน้องจะว่าอย่างไร น้องก็ยังเฉย ผมเลยตัดสินใจใช้ปากงับที่หัวปิกกาจู้ของพร้อมทั้งเอาลิ้นเลีย น้องสะดุ้งตัวเล็กน้อยแต่ก็ยังนิ่งอยู่ ผมได้ใจใช้มืองัดปิกกาจู้ของน้องให้ส่วนหัวโด่ขึ้นมาแล้วอมส่วนหัวทันที (แต่ก็ยังนอกกางเกง นอกผ้าห่มอยู่นะครับ) น้องหายใจแรงขึ้นสังเกตได้จากที่หัวผมขยับตามจังหวะที่หน้าท้องน้องขยับขึ้นลง พอเห็นได้ที่แล้วผมดึงขาน้องชันเช่าขึ้นข้างหนึ่ง เพื่อให้บังสายตาของนร.หลังห้อง และเลิกผ้าห่มมุดหัวเข้าไปพร้อมทั้งดึงขอบกางเกงกีฬาและกางเกงในของน้องให้เปิดขึ้น เอาลิ้นเสียไปที่รูฉี่และทั่วหัวปิกกาจู้ ได้ยินเสียงน้องซี๊ดเบา ๆจากนั้นเอามือร่นหนังที่หุ้ม ซึ่งสามารถร่นถอกได้หมด จัดแจงเลียดูดเข้าๆ ออก ๆ อย่างเร่งด่วน น้องนอนเกร็งหน้าท้องหน้าขา ขึ้นเป็นลูก ๆ แต่ยังไม่ทันที่จะทำให้เสร็จ ได้ยินเสียงนร.หลังห้องลุกขึ้นหลายคนและกำลังเดินมาทางที่ผมกับน้องตั๊กนอนกันอยู่ ผมจึงรีบคลายปากแล้วเอาหัวออกมาจากผ้าห่มอย่างรวดเร็ว
(ไว้มาต่อคราวหน้านะครัว ปวดตาแระ)
หืมมม ค้างเลย รีบมาต่อนะครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ มุกดีครับ ได้สนิทง่าย บวก สงสาร
ได้ลดความระแวงลง ดีมากเลย ขอบคุณ ขอบคุณครับ {:5_149:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เก่งมากครับทีทำได้ขนาดนั้น ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ชอบจัง ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ดู ๆ ชำนาญนะครับ เรื่องหลอกกินเด็กนี่ 55 ขอบคุณครับ เสียวดีจัง{:5_117:} ขอบคุณครับ โห เสียดายอะ อีกนิดเดียวเอง