John001 โพสต์ 2019-12-9 13:09:57

เปิดซิงน้ำแรกเด็ก 13 ม.1 (10) น้องชิน ความลับรั่วไหลทำให้ถูกแบล็คเมล์

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย John001 เมื่อ 2020-6-18 20:03

            ความเดิม“พี่ๆ ๆ...ผมรู้แล้ว ว่าพี่ตั๊กโกรธพี่เรื่องไร” “รู้ว่าไง ใครบอก” ผมถาม “เด๋วพี่... ขอพักหายใจก่อน”   “ลีลาว่ะ” พอน้องชินพักอยู่ครู่หนึ่งก็พูดต่อ “ผมรู้จากพี่โอมอ่ะ พี่โอมบอกว่า คืนนั้นที่ไปเข้าค่ายกิจกรรม พี่แกล้งพี่ตั๊กบลาๆๆๆๆๆๆๆ “
         ผมได้ยินว่ารู้จากน้องโอม ผมก็โล่งใจ เพราะผมเคยคุยกับน้องโอมเรื่องนี้แล้ว หูผมฟังน้องชินพูดไป แต่ในใจ ก็นึกไปถึงตอนนั้น ที่ได้คุยกับน้องโอมที่ห้องสมุด   วันนั้น ผมว่างเลยไปนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุด........น้องตั๊ก น้องโอมและเพื่อนๆ ในห้อง ครูสั่งให้มาค้นคว้าทำรายงานที่ห้องสมุดน้องตั๊กและน้องโอม เดินมาหยิบหนังสือตรงชั้นหนังสือใกล้กับที่ผมนั่งอยู่   ทั้ง 2 คน เห็นผมแล้วน้องตั๊กได้หนังสือก็เดินกลับไปยังโต๊ะที่เพื่อนๆ นั่งอยู่แต่น้องโอมกลับเดินมานั่งคุยกับผมและพูดขึ้นว่า“พี่ครับ ผมรู้แล้วนะว่า ไอ้ตั๊กมันโกรธพี่เรื่องอะไร”ตอนนั้น ผมได้ยินน้องโอมพูดแบบนั้นผมตกใจจนหน้าเสีย ซึ่งน้องโอมคงสังเกตุเห็น ก็ปลอบผมว่า “พี่ไม่ต้องเสียใจหรอก เรื่องแค่นี้เอง” “ห๊ะ...เรื่องแค่นี้เอง”ผมทวนคำพูดของน้องโอม “ครับ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย เรื่องจิ๊บ ๆ “ผมฟังแล้วก็ยังงง ๆจึงถามว่า น้องตั๊กเล่าไงมั่งน้องโอมก็เล่าว่า“ก็....ผมถามมันบ่อย ๆ ว่าทำไมถึงโกรธพี่ พี่เค้าทำอะไรให้โกรธหนักหนา2 – 3 เดือนแล้ว ยังไม่หายโกรธอีก มึงจะอะไรกับพี่เค้านัก เค้าก็ใจดี คุยสนุก ตลกด้วย ดีกว่าเรียนกับครู....นั่นอีกอีกอย่างพี่เค้าเคยบอกว่า รักมึงเหมือนน้องเค้าที่ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอว่ะ”   “เอ้อ...แล้วน้องตั๊กว่าไง” ผมรีบถาม “มันก็เลยเล่าให้ผมฟังว่า คืนนั้นอ่ะ พอพวกผมกลับมาจากไปเข้าห้องน้ำกันแล้ว มันกับพี่ก็ไปเข้าห้องน้ำไปถึงก็เจอเด็กคนอื่น ๆ มาเข้าห้องน้ำกันอยู่กลุ่มหนึ่ง ตอนนั้นมันกำลังยืนเยี่ยวอยู่ พี่ก็แกล้งดึงกางเกงกีฬาและกางเกงในมันลงมา จนถึงหัวเข่าทั้ง ควย ทั้ง ตูดมันโผล่ออกมา พวกที่มาเข้าห้องน้ำเห็น ก็โห่และแซว จนมันอาย เลยรีบหนีพี่กลับมาห้องนอน แล้วก็เก็บ หมอน ผ้าห่มมานอนกับพวกผม”“แค่นี้เองเหรอ” “ครับแค่นี้แหละ หรือพี่จะให้มีมากกว่านี้ล่ะ” “ปล่าว พี่ก็คิดว่ามันน่าจะด่าว่าอะไรพี่มากกว่านี้อ่ะ” แต่ในใจผมนึกดีใจ ที่น้องตั๊กโกหกน้องโอมไปแบบนั้น (ผมเข้าใจน้องตั๊กนะครับ เพราะการที่น้องตั๊กโกหกมันเป็นผลดีกับเราทั้ง 2 คน ผลดีกับน้องตั๊กก็คือ ด้วยความที่น้องตั๊กหน้าตาดี รูปร่างก็ดี แถมยังเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนอีกทำให้น้องตั๊กกำลังฮ๊อตในหมู่ของนักเรียนในโรงเรียน ถ้าหากใครรู้ว่าน้องตั๊กมีอะไรกับผม ที่เป็นผู้ชาย ภาพลักษณ์ของน้องก็จะเสียหาย และอาจจะถูกล้อเลียน ทำให้ได้รับความอับอาย ส่วนผลดีกับผม ก็คือ ผมรอดตัวไป เพราะหากเรื่องราวถูกเปิดเผย แม้ทีแรกอาจจะรู้กัน แค่ในหมู่เพื่อนๆ ของน้องตั๊ก แต่นานไป ๆ ก็อาจล่วงรู้ไปถึงเพื่อนคนอื่น นักเรียนในโรงเรียน จนถึงครูและผู้ปกครองของน้องตั๊ก ก็ย่อมเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา ซึ่งจะทำให้ผมเดือดร้อนได้)ผมเลยสวมรอยพูดว่า“เฮ้ย...แต่พี่ไม่ได้ตั้งใจดึงกางเกงในลงมานะ มันติดลงไปเอง”“โด่...พี่ไม่ต้องคิดมากหรอก ผมกับเพื่อนก็แกล้งดึงกางเกงกันประจำ แต่ไม่ได้ดึงกางเกงในลงด้วยหรอกนะแกล้งกันขำ ๆ ก็เด็กผู้ชายอ่ะพี่เวลาเปลี่ยนขุดกีฬายืนเยี่ยว หรือ อาบน้ำ บางทียังแก้ผ้าอาบกันเลย ไม่อายกันหรอก” “นั่นดิ่ แต่ทำไมน้องตั๊กโกรธพี่มากขนาดนี้ก็ไม่รู้เนอะ”    “มันก็นิสัยอย่างนี้แหละพี่ มันเป็นคนโกรธนาน มันเคยโกรธพี่ของมันตั้ง 4-5 ปี ไม่ยอมพูดกับพี่มันเลย เพิ่งจะมาพูดกันตอนที่พี่มันไปบวชพระ แล้วมันต้องไปเป็นลูกศิษย์พระ ถึงได้ยอมพูด” “ โห...โกรธนานขนาดนั้นเลยเหรอ งั้นกว่าจะหายโกรธพี่ ไม่ต้องรอให้เรียนจบมหาลัยเลยเหรอ” ผมถาม “แต่ผมว่านะ มันไม่โกรธพี่จริงจังอะไรหรอกมั้ง เพราะผมสังเกตเห็น มันแอบมองพี่บ่อย ๆ”น้องโอมเอ่ยติงขึ้นมา“ก็เค้าดูว่าพี่มองอยู่หรือป่าว เค้าจะได้คอยหลบหน้าไง” ผมตอบกลับ “มันก็จริงนะ แต่บางที เวลาที่พี่นั่งเล่นโน๊ตบุ๊คอยุ่หน้าห้อง ผมเห็นมันแอบมองพี่ และพี่ก็ไม่ได้หันมามองมัน มันมองไปทางพี่แล้วก็เหม่อคิดอะไรก็ไม่รู้ ผมถามอะไรมัน มันยังไม่รู้เรื่องเลย.....ผมว่า...มันคงกำลังตัดสินใจว่า จะพูดกับพี่ดีหรือป่าวมั้ง”ผมได้ยินน้องโอมพูด ก็แอบดีใจเล็ก ๆ และคิดว่าน้องตั๊ก ก็คงคิดถึงผมมั่งแหละ คนแรกกับครั้งแรกมันก็ต้องฝังใจกันมั่งล่ะ จริงมั้ยครับ                  ผมกำลังคิดเพลิน ๆก็ถูกเขย่าแขนและเรียกเสียงดัง “พี่ ๆ นี่เหม่ออะไรเนี่ย ฟังผมอยู่ป่าว”น้องชินนั่นเอง ที่เขย่าแขนผมและถามขึ้นมา “ฟัง..ฟังอยู่ แต่เผลอคิดอะไรหน่อยเดียวเอง”“คิดถึงพี่ตั๊กอ่ะดิ่ ใช่ม๊าแล้วตกลงมันเป็นแบบนั้นป่าว”   “อืมมม ก็ตามนั้นแหละ อย่างที่โอมบอก”ผมตอบกลับไป “แต่...ผมว่า.....มันต้องมีมากกว่านั้นมั่ง เรื่องแค่นี้ไม่น่าโกรธ” น้องชินพูดและทำสีหน้า ท่าทางอย่างมีเลศนัย“เฮ้ย...ก็แค่นั้นจริง ๆจะเอาอะไรอีกล่ะ”            ผมทำหน้าที่สอนคอมฯ แทนครูที่ลาคลอด จนครบกำหนด ก็กลับไปทำงานที่ต้นสังกัดตามเดิม เด็กนักเรียนที่ผมสอนอาลัยอาวรณ์กันยกใหญ่ โดยเฉพาะน้องชิน ทำตาแดง ๆ นั่งซึมไม่พูดกับใครเลยก่อนจะกลับ ผมต้องนั่งปลอบกันอยู่หลายชั่วโมงและบอกน้องชินว่า เดี๋ยวผมก็ได้มาอีกในเวลาที่โรงเรียนจัดกิจกรรมเสริม น้องชินถึงได้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้างส่วนน้องตั๊ก บางครั้ง ก็เหมือนจะเอ่ยปาก อยากพูดอะไรกับผม แต่ก็ไม่พูด ทำท่ากล้า ๆ กลัวๆ พอผมเข้าไปพูดด้วย กลับนิ่งเงียบซะงั้น ก็เลยไม่ได้พูดทำความเข้าใจกัน จนผมกลับไป            เดือนมกราคม ปีถัดไป ทางโรงเรียนของน้องตั๊ก น้องโอม น้องชินมีกิจกรรมเข้าค่ายเดินทางไกลของลูกเสือ-เนตรนารี โดยเข้าร่วมกับโรงเรียนอื่น ในเขตการปกครองเดียวกัน มีโรงเรียนมาเข้ารวมกัน 5 โรงเรียน ทางโรงเรียนได้ทำหนังสือขอยืมตัวผมจากต้นสังกัด ให้ไปเป็นวิทยากรประจำฐานร่วมกับคณะครูปีนั้น อากาศหนาวมาก ผมไม่อยากไปเลยอยากจะนอนอุ่น ๆ ใต้ผ้านวมหนา ๆ ที่บ้านเช่า แต่ก็ขัดไม่ได้ จึงเตรียมสัมภาระกันหนาวไปเต็มที่ มีทั้งที่นอนลม หมอนลม ผ้านวม และอื่นๆ อีก เรียกได้ว่า เหมือนย้ายบ้านกันเลย         ผมได้อยู่ประจำฐานกับครู 2 ท่าน ฐานนั้นชื่อว่า ฐานสังเกตและจดจำลูกเสือ-เนตรนารีที่มาถึงฐานที่ผมอยู่ ต้องฝึกการสังเกตและจดจำ สิ่งต่าง ๆ ตามที่ครูฐานนี้กำหนดไว้ซึ่งผมและครูตกลงกันว่า จะให้ผมแต่งตัว ใส่วิกผม จำแลงแปลงกายเป็นคนบ้า (พอถูกจับแต่งแล้วเหมือนคนบ้ามาก แทบไม่มีใครจำได้เลย แม้แต่ตัวผมเอง ดูรูปที่ครูถ่ายไว้ถ้าไม่ใช่ตัวเองก็คงจำไม่ได้)แล้วห้อยสัญญลักษณ์ของลูกเสือบ้าง เครื่องหมายจราจรบ้าง เงื่อนลูกเสือบ้าง หลาย ๆ ชิ้น และต้องทำท่าทางเป็นคนบ้า นั่งอยู่ในพุ่มไม้(แต่กว่าจะบ้าได้ก็หมดเบียร์ไปหลายกระป๋อง)เมื่อลูกเสือ-เนตรนารีมาถึงฐาน รายงานตัวกับครูประจำฐานแล้ว ครูก็ให้เข้าไปดูสิ่งของ ที่ต้องสังเกตและจดจำในพุ่มไม้ผมที่เป็นคนบ้าก็จะโผล่พรวดออกมาให้ตกใจและวิ่งไล่.......   ครั้นพอถึงเวลาเข้าฐานจริงๆ มันสนุกมากเลยครับ ทั้งครูประจำหมู่ ทั้งลูกเสือ-เนตรนารี วิ่งหนีกันป่าราบ ชนกันล้มลุกคลุกคลาน แทบจะไม่ได้สังเกตุและจดจำอะไรกันเลย จนครูประจำฐานต้องเรียกเด็ก ๆ มาสรุปคอนเซ็ปของฐานนี้ให้ฟังลูกเสือ-เนตรนารี ถึงได้แอบสังเกตสัญลักษณ์บนตัวผมพยายามจดจำและบันทึกลงสมุดให้ได้ อย่างน้อย 10 อย่างซึ่งผมก็ต้องทำตัวเป็นคนบ้าอยู่อย่างนั้นไปเรื่อย ๆ คอยเบี่ยงตัวหลบบ้าง อะไรบ้าง ไม่ให้เด็ก ๆ เห็นถนัด         เมื่อหมู่ของน้องตั๊กน้องโอมมาถึงฐาน ก็เช่นกัน วิ่งหนีชนกันล้มระเนระนาด แต่ตอนสรุป ผมมองไปที่น้องตั๊ก เห็นน้องตั๊กมองผมแล้วก็ยิ้ม หัวเราะขำ ๆ (ผมเห็นน้องตั๊กยิ้มและหัวเราะให้ผมก็มีความสุขแล้วล่ะครับ ถึงแม้...อาจจะไม่ได้ยิ้มให้ผม แต่...ยิ้มให้คนบ้าก็ตามเถอะ)สำหรับหมู่ของน้องชิน ก็พากันตกใจวิ่งหนี แต่แค่แป๊บเดียวเอง น้องชินก็จำผมได้ กระโดดกอดคอ เอาขาหนีบลำตัวผมไว้ ครูบอกว่า มองดูแล้วเหมือนคนบ้าอุ้มเด็ก (แต่ผมว่าเหมือนลิงอุ้มแตงมากกว่า ฮิฮิฮิ) ถึงตอนสรุปน้องชินจดจำและบันทึกได้ 10 กว่าอย่างเลยทีเดียว(เรียนเก่ง ฉลาด จำแม่นแต่ก็แสบสุด ๆ )             ตกตอนเย็นหลังจาก เด็ก ๆ อาบน้ำ ทำอาหารและทานอาหารเสร็จแล้ว ก็เข้ากองรวมกันทุกโรงเรียน ทำกิจกรรรมสันทนาการร้องรำทำเพลง เต้นรถตุ๊ก ๆ บ้าง แมงมุมบ้าง ไปจนถึง 3 ทุ่มครึ่ง จึงให้เข้านอน เต็นท์ที่เด็กนอนเป็นเต็นท์ใหญ่ นอนได้ 10 คน แต่เนื่องจากการอากาศที่หนาวเย็นมาก ๆเด็ก ๆ จึงนำผ้าห่มมาซ้อนกันเป็นผืนเดียวแล้วห่มด้วยกัน คนที่นอนตรงกลางก็อุ่นสบายหน่อย แต่คนที่นอนริมทั้ง 2 ข้างจะคอยดึงผ้าห่ม เล่นกันไปมา.....เต็นท์ของผมเป็นเต็นท์กว้างนอนได้ 3 คน แต่ผมนอนคนเดียว ผมไม่ชอบเต้นท์เล็กเพราะมันอึดอัด นอนคนเดียวใต้ผ้านวม กลิ้งไปกลิ้งมา ก็อุ่นดี.....เวลา 5 ทุ่ม อากาศเย็นจัด ผมปวดฉี่ไปเข้าห้องน้ำ ขากลับเดินผ่านเต้นท์ของลูกเสือได้ยินเสียง เด็กร้องคราง "อูยย ๆๆๆบรื๋อ...หนาว ๆ"จึงแหวกเต้นท์เข้าไปดู ว่าใครหลุดออกมาจากผ้าห่มจากแสงไฟที่ส่องโดนผนังเต้นท์ มันมืดสลัว ๆ แต่ก็พอจะมองเห็นได้บ้าง จึงย่องเข้าไปดูใกล้ ๆอ้าวเป็นน้องชินนี่เอง นอนขดตัวงอก่องอขิง เอามือซุกอยู่ที่หว่างขา (เวลานอนหนาว ๆนี่เอามือซุกไปตรงนั้นอุ่นจริง ๆ นะครับ) ผมจึงเข้าไปเรียกน้องชินและถามว่า ทำไมน้องออกมานอนนอกผ้าห่มเดี๋ยวก็แข็งตายหรอก น้องชินตอบว่า เพื่อนริมนู้นนอนทับผ้าห่ม ดึงมาไม่ได้ เลยต้องทนนอนหนาวอย่างนี้ แต่มันไม่แข็ง มันหด.... ผมจะเรียกเด็กให้ตื่นเพื่อจัดผ้าห่มกันใหม่ก็กลัวจะวุ่นวายกัน เลยชวนน้องชินให้ไปนอนที่เต้นท์ผม น้องชินดีใจมาก แต่กลัวจะถูกครูท่านอื่นตำหนิ ผมจึงรับประกันว่า จะพูดกับครูให้เอง น้องชินจึงตกลงไป             พอเข้ามานอนในเต้นท์ ผมนอนตะแคงหันหลังให้น้องชิน ห่มผ้านวมด้วยกันจนน้องชินอุ่นหายหนาว แต่น้องชินกลับไม่ยอมนอน ถามนู้น ถามนี่อยู่อีกนาน จนมาถึงคำถามที่ว่า “ พี่.... พี่เคยจูบกับเด็กนักเรียนป่ะ” ผมอึ้งและสงสัยว่า ทำไมน้องชินถึงถามแบบนี้แต่ก็ตอบไปว่า “ไม่เคยมั้ง”   “พี่โกหก” น้องชินแย้งผม“เฮ้ย...เท่าที่จำได้ ก็ไม่เคยนะ” ผมเถียงกลับ “แต่ผมเคยเห็นพี่จูบกับนักเรียน”ผมก็คิดว่าน้องชินคงอำ เพราะชอบอำเป็นประจำจึงถามกลับไปว่า “จูบกับใครอ่ะ”   “พี่ตั๊ก”ได้ยินชื่อนี้เข้า ผมเงียบไปเลย น้องชินยังพูดต่อ “คืนนั้นอ่ะ ที่เข้าค่ายกิจกรรมเสริมทักษะฯผมก็นอนในห้องที่ตั๊ก พี่โอมนอน...ด้วยนะ”ผมนึกในใจว่า น้องชินพูดความจริงหรือปล่าว   เพราะตอนนั้นผมก็ไม่ได้รู้จักน้องชิน แม้น้องจะเข้าฐานคอมฯ ที่ผมสอน แต่ผมก็ไม่ได้สนใจน้องเรียกว่า จำไม่ได้เลยดีกว่า ผมจึงถามไปเพื่อความแน่ใจ ว่า “ชินนอนตรงไหนล่ะ”   “ผมก็นอนหลังห้องกับพวกพี่ ม.2 และเพื่อนผมอีกคนหนึ่ง”พอน้องชินบอกว่านอนหลังห้องก็เหมือนจะจริงตอนนี้ใจผมเริ่มเต้นแรงด้วยความลุ้นระทึก กลั้นใจถามไปว่า “น้องชินง่วงนอนตาฝาดหรือปล่าว”“ไม่อ่ะ... ตอนที่พี่โอมกับเพื่อนไปเข้าห้องน้ำผมยังไม่หลับผมนอนตะแคงหันหน้าไปทางที่พี่ตั๊กนอนอยู่กับพี่ ยังได้ยินที่พี่โอมชวนพี่ตั๊กเข้าห้องน้ำและคุยกันเลย น้องชินเงียบไปอึดใจหนึ่งแล้วพูดต่อ “พอพวกพี่โอมไปแล้ว ผมเห็นพี่จูบปากกับพี่ตั๊ก แล้วพี่ก็หอมไปทั้งหน้าทั้งคอพี่ตั๊ก แล้วก็ลงไปดูดนม หน้าท้อง จนไปถึง.....น้องชินหยุดนิดนึง“........ถึงหว่างขาของพี่ตั๊ก แล้วหัวพี่ก็ผงกขึ้น-ลง ถึงผมจะมองเห็นไม่ชัด แต่ผมเดาว่า พี่ต้องดูดไอ้เจี้ยวพี่ตั๊กเหมือนในหนังที่ผมดูแน่ๆ”( ผมนอนเหงื่อซึมไปทั้งตัวทั้งๆ ที่อากาศหนาว) “ จนพวกพี่โอมเดินมาถึงหน้าห้อง พี่ก็ลงไปนอนคลุมโปงข้าง ๆ พี่ตั๊ก   พอผมได้เห็นพี่ทำอะไรกันแล้ว ผมเลยนอนไม่หลับ คอยมองพี่ตลอดว่าจะทำกันอีกมั้ยแต่ก็ไม่ทำ คุยไรกันพักหนึ่ง แล้วก็เห็นพี่จูงมือกันออกจากห้องไป”(ผมนอนฟังด้วยความกังวลและเริ่มเชื่อแล้วว่า น้องชินเห็นจริง ๆ จึงพูดได้ถูกต้อง)“ออกกันไปจนนานมากอ่ะ แล้วพี่ตั๊กก็กลับมาเอาหมอนกับผ้าห่ม มานอนหลังห้อง ข้าง ๆ ผมสักพักพี่ก็เข้ามาในห้องแล้วก็มากระซิบเรียกพี่ตั๊ก ดึงมือพี่ตั๊กให้ลุกขึ้น แต่พี่ตั๊กไม่ไป”.......“ที่ผมพูดมา เป็นเรื่องจริงป่ะครับ” น้องชินเล่าจบก็ถามทันทีมาถึงขั้นนี้แล้ว จะปิดต่อไปก็คงไม่ได้แล้ว ผมจึงยอมรับและขอร้องน้องชินว่า อย่านำเรื่องนี้ไปบอกใครน้องชินรับปากว่าจะไม่บอกใคร แต่มีข้อแม้ว่า..............         (เกือบแล้วน่ะครับ เกือบถึงบทเลิฟซีนแล้ว ตอนหน้าถึงกันแน่ ๆ ครับ เด๋วตอนมืด ๆ จะมาต่อให้นะครับ)


ฮารุ โพสต์ 2025-3-11 21:33:49

ขอบคุณครับ

clipboard164 โพสต์ 2025-2-14 07:02:55

เอ็นดูน้องชิน

66beelee99 โพสต์ 2025-1-9 15:06:51

น้องชินเริ่มน่ากล้ว ขอบคุณครับ

Untit โพสต์ 2025-1-4 00:35:09

เอาแล้ว ซีน แบล๊กเมล แน่

Tong218 โพสต์ 2024-12-28 09:35:54

ขอบคุณ

terabesia โพสต์ 2024-12-11 17:59:28

ขอบคุณครับ

ชอบอมเค โพสต์ 2024-11-22 21:44:28

{:5_135:}

tan2 โพสต์ 2024-11-4 08:45:06

น้องชินเจ๋งมากน่ะ

Moshiy โพสต์ 2024-10-16 13:04:58

ขอบคุณครับ

0810380803 โพสต์ 2024-10-11 00:11:48

ขอบคุณครับ

New1991 โพสต์ 2024-9-28 17:32:25

เสร็จเลยมีคนรู้ความลับซะแล้ว

eakkapop โพสต์ 2024-9-9 11:50:05

ขอบคุณครับ

eakkapop โพสต์ 2024-9-9 11:12:02

ขอบคุณครับ

minakatols โพสต์ 2024-8-11 15:24:28

สนุกดีคับ{:5_135:}

aoffyza โพสต์ 2024-8-10 14:04:46

ขอบคุณครับ

aofcnn โพสต์ 2024-7-21 11:51:36

ขอบคุณครับ{:5_119:}

joryu โพสต์ 2024-4-20 11:25:08


ขอบคุณ​ครับ​

Theerachot โพสต์ 2024-3-23 20:59:44

ขอบคุณค่ะ

aoffyza โพสต์ 2024-3-22 14:56:16

ขอบคุณครับ

kite โพสต์ 2024-3-15 00:03:35


ขอบคุณมากครับ
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 9 10
ดูในรูปแบบกติ: เปิดซิงน้ำแรกเด็ก 13 ม.1 (10) น้องชิน ความลับรั่วไหลทำให้ถูกแบล็คเมล์