SFdrink2731 โพสต์ 2019-12-18 09:08:11

ประสบการณ์นักเรียนแลกเปลี่ยน 1 ปีในครอบครัวชาวฝรั่งเศส (EP.5)

ทันใดที่ผมเปิดประตูออกมานอกบ้าน อากาศหนาวก็พัดตีเข้าใส่ ทำเอาตัวผมเย็นยะเยือกเลยทีเดียว ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเช้าแต่ท้องฟ้าก็ยังมืดสนิทเหมือนกับเป็นตอนกลางคืน ผมวิ่งเหยาะๆออกจากบ้านไปก่อนและใช้มือทั้ง 2 ข้างถูกันไปมาเพื่อให้เกิดความอุ่น
"อ่ะนี่ เอาไปซิ" ลูซี่เดินตามหลังผมออกมาพร้อมกับยื่นเสื้อโค้ดตัวหนาๆให้ผม
"ไม่เป็นไร มีแล้วอ่ะ" ผมตอบโดยพยายามชี้ให้เห็นโค้ดที่ผมใส่ อาจเป็นเพราะเสื้อโค้ดของผมเป็นสีดำสนิททำให้ลูซี่มองไม่เห็นว่าผมกำลังใส่มันอยู่ "เธอเอาไปใส่เถอะ"
"อากาศตอนเช้ามันหนาวน่ะ" ลูซี่ยังคงยืนยันคำเดิม "เอาเสื้อโค้ดไปใส่เร็ว เดี๋ยวถึงโรงเรียนแล้วค่อยเอาไปใส่ในล็อคเกอร์ก็ได้" เธอไม่ได้เพียงแค่ยื่นเสื้อโค้ดตัวนั้นมาให้ผม แต่กลับเดินเอามันมาคลุมไหล่ผมไว้เหมือนกับกำลังจะใส่มันให้ผม ผมรู้สึกเหมือนกับเป็นเด็กน้อยอีกครั้ง เป็นเด็กน้อยที่ต้องการคนดูแล "อ่ะนี่...เห็นมั้ยอ่ะ อุ่นขึ้นแล้วใช่มั้ย" แม้จะเป็นในความมืดนั้น ผมกลับเห็นรอยยิ้มของลูซี่ได้อย่างชัดเจน มันช่างสดใสและถือเป็นเริ่มต้นวันที่ดีเหลือเกิน

ลูซี่เช็คว่าตัวเองล็อคประตูบ้านเรียบร้อยแล้วก่อนที่เรา 2 คนจะเดินข้ามสวนของบ้านมีที่ประตูรั้วเตี้ยๆข้างๆสวนที่เป็นประตูทางออกให้คนเดินผ่านไปยังถนนใหญ่ที่ติดอยู่กับตัวบ้าน
"ลูคัส" เธอหันมาหาผม
ห้ะ... อะไรนะผมไม่ได้ชื่อลูคัสซะหน่อย
"ไปก่อนนะคะ" เธอเอ่ย อาจเป็นเพราะผมกำลังทำสีหน้างุนงงสุดๆเธอเลยอธิบายให้ผมฟังว่าม้าที่อาอเล็กเลี้ยงไว้ในฟาร์มชื่อว่าลูคัส และทุกๆเช้าก่อนไปโรงเรียน เธอจะทักทายและบอกลามันทุกครั้งไป

พวกเราเดินไปตามถนนใหญ่ มุ่งหน้าไปที่ป้ายรถบัสที่จะจอดรับเด็กนักเรียนจากทุกหมู่บ้านติดๆกันและทางเดียวกันไปที่โรงเรียน ซึ่งป้ายที่ผมและลูซี่ขึ้นเป็นป้ายต้นทางแรกๆทำให้มักจะมีที่นั่งบนรถบัสเสมอ ผมตัวสั่นด้วยความหนาวตลอดทางที่เดินมา แม้กระทั่งตอนกำลังยืนรอรถบัสอยู๋ที่ป้าย อากาศหนาวก็ดูเหมือนกับว่าจะหนาวขึ้นๆทุกที
"หนาวหรอ" ลูซี่กระซิบบอก ผมพยักหน้า "เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเตรียมถุงมือกับผ้าพันคอไว้ให้นะ" เธอพูดต่อโดยผมทำได้เพียงแค่พยักหน้าเพราะไม่อยากขยับปากพูดด้วยซ้ำด้วยความหนาวเกินกว่าจะอยากที่จะขยับตัวไปมา ก็แหงล่ะซิ เมื่อคืนนี้อาอเล็กบังคับให้ผมโกนขนบนตัวให้หมดทำให้ทนต่ออากาศหนาวได้น้อยลง ผมรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเพราะตอนอยู่ที่นี่ผมรู้สึกเหมือนกับเป็นเด็กน้อยที่ต้องการคนดูแลและทำตามคำสั่งเจ้าบ้านให้ทำนู่นทำนี่ตามอำเภอใจของพวกเขา แต่...คนเดียวในบ้านที่ดูจะแคร์ความรู้สึกของผมมากที่สุดในตอนนี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นลูซี่

"Salut" อยู่ดีๆ ท่ามกลางความหนาวเย็นนั้น ก็มีเด็กนักเรียนอีก 2 คนเดินผ่านเข้ามาจากความมืด พวกเขาทักทายลูซี่อย่างเป็นมิตร ผมที่ไม่เคยเจอหน้าพวกเขามาก่อนก็ได้แต่ยืนนิ่งๆและจ้องมองพวกเขาทักทายกันด้วยการเอาแก้มมาชนกัน 2 ครั้งเป็นการทักทายแบบฝรั่งเศส บางคนก็แทบจะหอมแก้มกันเลยด้วยซ้ำ ลูซี่แนะนำเพื่อนทั้ง 2 คนของเธอให้ผมได้รู้จัก พวกเขาพุ่งตรงเข้ามาของแก้มมาชนกับแก้มผม ผมเขินมากในครั้งแรกเพียงแต่ว่าตอนนี้แก้มผมไม่ค่อยจะรู้สึกอะไรนอกจากอากาศหนาว และยิ่งเวลามีแก้มของอีกคนมาชนทำให้ยิ่งรู้สึกหนาวมากเข้าไปอีก ลูซี่แนะนำเพื่อนของเธอให้ผมรู้จักและบอกพวกเธอว่าผมเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่จะมาอยู่บ้านอาอเล็กระยะหนึ่ง ซึ่งพวกเธอก็ดูตื่นเต้นและยินดีที่ได้รู้จักผมเอาเสียมากๆ และดูเหมือนกับว่าบ้านของพวกเธอก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านของอาอเล็ก

หลังจากที่พวกเราทำความรู้จักกันได้ ลูซี่ก็ยืนคุยกับเพื่อนของเธอต่อโดยที่ผมฟังไม่เข้าใจเลยแต่รู้ได้ว่ามันต้องเป็นการคุยกันที่สนุกสนานมากแน่ๆ และไม่นานรถบัสของโรงเรียนก็แล่นมาจอดที่ป้าย ลูซี่นำทางผมขึ้นไปบนรถบัสพร้อมกับบอกผมว่ารถบัสคันนี้เป็นของโรงเรียนมันก็เลยฟรีเพราะว่าสวัสดิการของรัฐ แต่ว่าถ้านายอยากจะขึ้นรถบัสที่แล่นไประหว่างเมือง นายก็ต้องเสียเงินเพิ่มนะ ผมพยักหน้า และทันใดที่ผมได้ก้าวเข้าไปในตัวรถบัส มันอุ่นมากๆ เพราะภายในตัวรถมีเครื่องทำความร้อน ผมไม่เคยรักอากาศอุ่นแบบนี้มาก่อนตอนอยู่เมืองไทย แน่นอนว่าทุกคนที่เคยอยู่เมืองไทยมาก่อนก็ต้องหงุดหงิดและอาจจะรังเกียจอากาศร้อนในบางเวลา แต่ตอนนี้ความร้อนเหมือนกับเป็นพระเจ้าของผม ลูซี่นำทางผมเดินเข้าไปตัวรถบัส สิ่งจะประหลาดใจสำหรับผมคือทางเดินตรงกลางระหว่างเบาะรถบัสนั้นแคบเอามากๆด้วยเบาะที่นั่งมี 3 เบาะติดกันในแต่ละแถว ทำให้ทางเดินตรงกลางต้องแคบลงเพื่อให้เบาะที่นั่งมีจำนวนมากพอที่จะรองรับเด็กนักเรียนที่ขึ้นมาได้เป็นจำนวนมาก

"นี่คุณ" เสียงหนึ่งเรียก เป็นเสียงผู้ชาย ผมที่เดินตามหลังลูซี่อยู่ถึงกับต้องชะเง้อมองข้ามลูซี่ไปที่เบาะท้ายๆของรถบัสที่เป็นต้นเสียงนั้น "จำผมได้มั้ย" ผมประหลาดใจมากๆเพราะคนที่เรียกผมจากหลังรถนั้นก็คือควินติน...
ผมกับลูซี่รีบเดินเข้าไปที่เบาะหลัง ลูซี่หันมาหาผม "ท็อป นายรู้จักคนนี้ด้วยหรอ" ผมยิ้มและพยักหน้าให้และลูซี่ก็ดูท่าจะประหลาดใจในคำตอบของผมแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
ผมเดินเข้ามาหาควินตินและจับมือทักทายกับเค้า ผมมองกลับไปที่ลูซี่ เธอรีบนั่งลงที่เบาะด้านหน้าเยื้องๆกับเบาะที่ควินตินนั่งอยู่โดยที่ไม่ได้สนใจทักทายควินตินก่อน แต่ขณะที่เพื่อนอีก 2 คนของลูซี่นั้นทักทายควินตินจากไกลๆ
"นาย อยู่โรงเรียนนี้ด้วยหรอ" ควินตินถาม
"ใช่" ผมพยักหน้า "พึ่งมาได้วันแรก"
"ออ เจ๋งไปเลย" ควินตินยิ้ม และชวนให้ผมมานั่งข้างๆเขา ผมปลดเป้ลง เอามันมาวางไว้ที่ตักขณะนั่งลงที่ที่นั่งข้างๆควินติน
"Salut" ผู้หญิงที่นั่งติดกับควินตินอีกฝั่งโง้มตัวมาทักทายผม ผมจำเธอได้ เธอคือแฟนของควินติน "เราเคยเจอกันบนรถไฟแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกันดีเลย" ผมยิ้มตอบ "ชั้นชื่อมากาเร็ตนะ" ผมยื่นมือไปทักทาย เธอเองก็จับมือกับผมและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
"โอเค โรงเรียนวันแรกก็เป็นวันเสาร์ซะเลย ต้องสนุกแน่ๆ" ควินตินพูดลอยๆโดยไม่ได้หันมาทางผม แต่ถึงยังไงผมก็รู้ได้ว่าสิ่งที่เค้าพูดนั้นต้องหมายถึงผมแน่ๆ ผมจึงหันไปมองควินตินแต่เขากลับส่งยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร เขาช่างดูเป็นคนที่มีเสน่ห์เวลายิ้ม ผมรู้สึกแต่บรรยากาศที่เปลี่ยนไป "นายเรียนสาขาอะไร" ควินตินถาม ซึ่งผมไม่ได้เตรียมตัวกับคำถามนี้มาก่อน ผมจึงตอบไปว่าไม่รู้และบอกอีกว่าผมมีหน้าที่ทำตามทุกสิ่งที่ลูซี่ทำวันนี้เท่านั้น ควินตินหัวเราะ "นายนี่มันน่อมแน้มจริงๆเลย" เขาหันมามองที่ผมแล้วใช้มือข้างหนึ่งโอบไหล่ผมไว้ "ถ้านายอยากทำตามลูซี่ล่ะก็ วันนี้นายจะสนุกมากๆเลยล่ะ" ควินตินหันไปมองมากาเร็ต แฟนของเขา พวกเขายิ้มให้กันแบบขบขันราวกับมีเรื่องน่าตื่นเต้นที่อยากให้ผมรู้ "ลูซี่น่ะเรียนอยู่ภาคการออกแบบการแสดง ชั้นกับมากาเร็ตก็เรียนอยู่ภาคนี้เหมือนกันแต่อยู่ปีสุดท้ายแล้ว ลูซี่น่ะพึ่งเข้ามาได้ปีเดียวเลยอยู่ปี 1 ชั้นไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่าลูซี่ทำหน้าที่อะไรในละคร แต่ว่าก็ลองหาหน้าที่โง่ๆที่นายพอจะทำได้เอาแล้วกัน จะได้หาอะไรทำ และวันเสาร์เนี่ยนะเป็นคาร์สที่ทุกชั้นปีของภาคการออกแบบการแสดงจะมาเรียนรวมกันเพื่อทำเวิร์คช็อปการแสดงและซ้อมคณะของภาคน่ะสำหรับเล่นละครปลายเทอม ถ้านายสนใจก็มาเข้าเรียนดูงานคร่าวๆด้วยก็ดี แต่ออ...ถ้านายหาอะไรทำได้อ่ะนะ555"
"ได้อยุ่แล้ว" ผมตอบ "คนมันเจ๋งอ่ะ"
"ก็เดี๋ยวรู้กัน" มากาเร็ตพูดตอบติดตลกและหันไปหัวเราะกับควินตินอีกครั้ง ผมแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้ระหว่างที่ผมคุยกับควินตินอยู่ทำให้ตอนนี้รถบัสแล่นมาถึงที่โรงเรียนของผมพอดี

ผมลงจากรถและบอกลาควินตินกับมากาเร็ต "แล้วเจอกันในคาร์สนะ" ควินตินพูดพร้อมกับจับมือมากาเร็ตเดินออกไป ผมยืนรอลูซี่อยู่ด้านล่างของรถบัสไม่นานเธอก็เดินลงมาพร้อมกับบอกลาเพื่อนอีก 2 คนของเธอ
"พวกเขาไม่ไปด้วยหรอ" ผมถาม
"ไม่ล่ะ" ลูซี่ตอบ แต่ขณะนั้นเธอกลับหันสายตาไปมองควินตินกับมากาเร็ตที่กำลังเดินออกไปแทน "วันนี้วันเสาร์อ่ะ มีวิชาการแสดง เธอมาด้วยนะมันน่าจะง่ายและเธอน่าจะทำได้ดี" ลูซี่เริ่มออกเดินทำให้ผมต้องรีบเดินตามเธอไป "วันนี้เราไม่ได้เรียนที่โรงเรียนนะ เราต้องไปเรียนที่โรงละครของเมืองนี้อ่ะ เรียนกับพวกพี่ๆทุกชั้นปี"
"นิ...เธอรู้จักกับควินตินด้วยหรอ" ผมถามด้วยความสงสัยแต่ลูซี่ดูท่าทางไม่สบายใจกับคำถามของผมมากนัก เธอถอนใจเฮือกหนึ่งแล้วตอบผมกลับมา "แฟนเก่าน่ะ"

ลูซี่พาผมเดินลงมาถนนเล็กๆของเมืองมา เมืองที่ผมมาเรียนนั้นแตกต่างของเมืองที่บ้านอาอเล็กอยู่มากๆ บ้านของอาอเล็กเป็นชนบทและเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ก็ทำฟาร์มและเกษตร แต่เมืองนี้มีแต่บ้านอิฐติดกันเป็นทาวเฮาส์เป็นโมเดิลสไตล์ฝรั่งเศส ผมเห็นครั้งแรกยังรู้สึกตื่นตาตื่นใจในความสวยงามและตวามน่าหลงใหลของสถาปัตยกรรมบ้านเมืองแบบนี้ ระหว่างทางที่เดินไปกับลูซี่นั้น ผมเห็นร้านขายของมากมาย และที่ผมสะดุดตามากที่สุดคือร้านเบเกอรี่และขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ เป็นสิ่งผมตื่นตาตื่นใจมากที่สุดเพราะเคยแต่ได้ยินเรื่องเล่าว่าที่นี่มีร้านขายเบเกอรี่เยอะมากๆแต่ไม่เคยได้มาลองสัมผัสด้วยตัวของผมเอง

เมื่อพวกเรามาถึงโรงละคร ผมก็เดินตรงเข้าไปฮอลล์ผู้ชมตามหลังลูซี่ในขณะที่นักเรียนคนอื่นที่เข้าตามผมมาเดินเลยเข้าไปในห้องหลังเวทีเพื่อเก็บสัมภาระของตัวเอง
"อาจารย์คะ" ลูซี่เอ่ย ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ผู้ชมแถวแรกก็ลุกขึ้นมายืนต่อหน้าพวกเรา "นี่ท็อปนะคะ ที่หนูโทรศัพท์มาขอให้เขาเข้าเรียนคาร์สนี้ด้วยเป็นการพิเศษน่ะค่ะ" อาจารย์ยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตรและบอกต้อนรับผมเข้าสู่คาร์สเรียนของเธอโดยที่มีลูซี่เป็นคนแปลทุกอย่างให้ผมฟัง อาจารย์บอกอีกว่าผมจะได้พัฒนาทักษะภาษาเป็นอย่างมากเมื่อเข้าเรียนวิชานี้เพราะว่าผมจะได้เรียนรู้การพูดภาษาฝรั่งเศสตลอดเวลา และเพื่อนๆร่วมคาร์สก็ยินดีที่จะสอนเธอ ผมรู้สึกดีใจมากๆที่ได้ยินคำพูดนี้

ลูซี่ขอบคุณอาจารย์แล้วเดินนำมาผมมาที่หลังเวที มันเป็นห้องล็อคเกอร์ขนาดใหญ่ที่นักเรียนภาคนี้เอาสัมภาระส่วนตัวเข้ามาเก็บไว้
"เงียบหน่อย" เสียงหนึ่งตะโกนขึ้นทำให้ทุกคนในห้องเงียบลงและต่างหันหน้ามาทางเขา
"คนนี้ชื่อทอมนะ" ลูซี่กระซิบบอกผมที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง "เป็นนักเรียนปี 4 เค้าเป็นประธานนักเรียนการแสดงน่ะ เป็นเหมือนผู้กำกับ" ผมมองไปทางทอมด้วยความชื่นชมในตำแหน่งของเขา เขากำลังพูดอธิบายอะไรซักอย่างให้ทุกคนในห้องได้ฟัง
"วันนี้จะมีการซ้อมการแสดงบทที่ 1 น่ะ" ลูซี่อธิบายให้ผมฟัง "นายจะไปดูกับอาจารย์ที่ข้างนอกคนดูก่อนก็ได้นะ เพราะว่า 2 ชม.แรกน่าจะเป็นการกำกับฉากและบทบาทของนักแสดงอีกที" ผมพยักหน้าพร้อมกับยื่นกระเป๋ากับเสื้อโค้ดให้ลูซี่เก็บเข้าไปในล็อคเกอร์ของเธอด้วย
"แล้ว...ลูซี่ทำอะไรอ่ะ" ผมถามด้วยควาสงสัย
"ชั้นเพิ่งอยู่ปี 1 น่ะเลยยังไม่ได้แสดง" ลูซี่ตอบพรางหมุนรหัสกุญแจล็อคเกอร์ปิด "ชั้นทำเบื้องหลังแทนน่ะ เป็นคอสตูม คอยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นักแสดง" ลูซี่หันมามองที่ผม "อยากมาทำด้วยมั้ยล่ะ" เธอชวน ผมลังเลนิดๆและคิดว่ามันคงจะไม่เหมาะสมมากๆที่จะไปทำหน้าที่ในเบื้องหลังนี้ เพราะว่าผมไม่รู้บทบาทอะไรของนักแสดงเลยทำให้ผมอาจจะหยิบเสื้อผ้าให้เขาผิดและทำงานทั้งโชว์ล่มไม่เป็นท่า "มา...เดี๋ยวจะพาไปหลังเวทีให้" ลูซี่จับมือผมแน่นๆแล้วเดินนำทางผมไปที่หลังเวที เข้าไปในห้องเก็บเสื้อผ้าของนักแสดง ผมเองก็เออออตามลูซี่ไปอย่างงั้นเพียงเพราะไม่อยากให้เธอรู้สึกผิดหวังในตัวผม ลูซี่อธิบายให้ผมฟังถึงลำดับการแสดงคร่าวๆและบอกอีกว่าทุกชุดจะมีเลขกำกับให้อยู่แล้ว ผมมีหน้าที่แค่หยิบเสื้อผ้าออกตามลำดับแล้วสวมให้นักแสดงเท่านั้น ผมกวาดสายตามองที่ชุดของนักแสดงที่แขวนอยู่บนราวเป็นลำดับ แต่ละราวเสื้อผ้าจะมีชื่อนักแสดงเขียนกำกับไว้ดีอยู่แล้วเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และราวเสื้อผ้าราวหนึ่งที่ผมต้องชะงัก ราวนั้นเขียนว่าควินติน...

เสียงคนดังมาด้านหลัง ไม่นานนักแสดงปี 4 ทั้งหมดก็กรูเข้ามาในห้องแต่งตัวที่ผมกับลูซี่ยืนอยู่ ลูซี่หลบทางมายืนอยู่ข้างๆผม หรืออาจจะว่าหลบสายตาควินตินก็เป็นได้
"ไง" ควินตินแยกออกมาจากฝูงคนแล้วเดินเข้ามาทักทายผม ผมยิ้มให้เขาและมองไปทางลูซี่แต่เธอกลับไม่ได้ยืนอยู่ข้างๆผมแล้ว เธอเดินเข้าไปคุยกับรุ่นพี่นักแสดงคนที่เธอดูแลคอสตูมให้ "วันนี้จะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ชั้นหรอ" ควินตินพูดพรางเยอะเย้ยผม ผมยิ้มและพยักหน้าตอบแบบหยิ่งๆ "ก็ใช่ซิ บอกแล้วผมเก่ง" ควินตินขำเบาๆแล้วพูดว่า "เส้นใหญ่ล่ะซิจะไม่ว่า"

"ทุกคนครับ" ทอม รุ่นพี่ปี 4 เดินเข้ามาในห้องแต่งตัวและยังคงตะโกนเสียงดังเพื่อเรียกความสนใจจากทุกคนเช่นเคย "เราจะเริ่มการแสดงบทแรกภายใน 30 นาทีนะ ทุกคนรีบแต่งตัวเหมือนจริงนะครับ" ทันใดนั้นทุกคนในห้องก็ดูแตกตื่นใหญ่ เพราะว่ายังไม่ได้เตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์ หรือเปลี่ยนชุดเลยซักคน
"แล้วนายรู้แล้วหรอว่าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าถูกได้ยังไง" ควินตินถาม
"ก็ดูตามเลขดิ ไม่เห็นจะยากเลย" ผมตอบ
"ออ คิดว่าคนไทยนับเป็นแต่เลขไทย" ควินตินยังคงเยาะเย้ยผมอยู่
"บ้า โง่ชิบหาย เคยไปไทยมาจริงๆป้ะเนี่ย"
"เหย ระวังปากหน่อย" ควินตินพูดเสียงเข้ม แต่ผมก็รู้ได้อยู่ดีว่าเขาแกล้ง "ไหน ส่งชุดเบอร์ 1 มาให้หน่อยซิ"
ผมเอื้อมมือไปหยิบชุดเบอร์ 1 มาจากราวและรูดซิปแกะมันออกมาจากห่อพลาสติกกันฝุ่น แต่ในขณะที่ผมหันมาควินตินกลับถอดเสื้อของตัวเองออก อวดกล้ามหน้าอกและกล้ามท้องเป็นมัดๆ เค้าโยนเสื้อที่ถอดแล้วกองไว้กับพื้นห้องและเริ่มถอดถุงเท้าและกางเกงลงมาเช่นกัน ทำให้ผมได้เห็นกางเกงในตัวเดียวบนตัวเค้าที่แทบจะไม่สามารถห่อรัดควยของเค้าไว้ได้เลย อาจเป็นเพราะขนาดที่ใหญ่เกินกว่ากางเกงในตัวที่เขาใส่มา
"เห้ย เป็นไร" ควินตินเรียก "ดูไรอ่ะ ชอบหรอ" ผมที่เพิ่งได้สติกลับมาก็พูดอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
"แหวะ" ผมอุทาน "ผมก็หุ่นดีเหมือนกัน ไม่ได้อะไรซะหน่อย" ควินตินยิ้มและแกล้งเอามือมาเปิดเสื้อผมเล่นเพื่อดูกล้ามท้องของผม
"เห้ย ทำไรอ่ะ" ผมตกใจ
"โถ่ว คิดว่าจะเป็นนักกล้าม ที่แท้ก็ลีนๆเองนิหว่า" เขาเบ้ปากใส่ผม "เอ้า ส่งชุดมา จะให้ยืนโป้อยู่อย่างนี้หรอ" ผมรีบส่งชุดนักแสดงในมือไปให้ควินติน เขาสวมมันบนตัวอย่างชำนาญ

"อีก 5 นาทีนะครับ" ทอมเดินกลับเข้ามาให้สัญญาณอีกครั้ง "นักแสดง stand by ได้เลยครับ"
ฉับพลัน นักแสดงทุกคนในห้องก็ลุกขึ้นมาแล้วเดินตามทอมไป ควินตินหันมายิ้มให้ผมแล้วเดินตามนักแสดงส่วนใหญ่ไปเช่นกัน ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปที่ไหนเพราะหมดหน้าของตัวเองแล้วเลยเดินตามลูซี่ออกไปจากห้องเช่นกัน ลูซี่พาผมไปยืนอยู่ข้างเวทีในจุดที่จะสามารถยืนชมการแสดงได้แบบไม่ขัดขวางการทำงานของคนอื่น
"5 4 3 2 1 fade out" ทอมตะโกน และไม่นานไฟทั้งฮอลล์ก็มืดลงเป็นสัญญาณเริ่มการแสดง

ผมยืนดูก่อนแสดงจากด้านข้างเวทีอย่างตื่นตาตื่นใจ ผมไม่เคยรู้สึกมีความสุขขนาดนี้มาก่อน ในชีวิตผมไม่ค่อยมีโอกาสได้ชื่นชมการแสดงจากใกล้ๆเวทีขนาดนี้ นักแสดงทุกคนเองก็ดูสง่าและมีความสุขกับบทบาทที่ตัวเองเล่น ผมเองก็แอบคิดว่าจริงๆแล้วผมก็อาจจะเหมาะกับการเรียนด้านนี้แทนที่จะไปเรียนในโรงเรียน เรียนวิชาพื้นฐานปกติในระบบการศึกษาของไทยเหมือนคนอื่น

ไม่นานไฟของฮอลล์ก็มืดลงอีกครั้ง นักแสดงที่แสดงอยู่บนเวทีก็รีบวิ่งเข้ามาที่ 2 ข้างเวทีอย่างรวดเร็ว ลูซี่และเพื่อนของเธอคนอื่นๆที่ยืนอยู่ข้างเวทีก็ปรบมือเป็นกำลังใจให้นักแสดงที่วิ่งเข้ามา ผมไม่ทันสังเกตุว่าควินตินก็วิ่งเข้ามาด้วยเช่นกัน
"ชุดผมอยู่ไหน" ควินตินพูด "ท็อป ชุดผมล่ะ"
"เอ้า ยังต้องเปลี่ยนอยู่อีกหรอ" ผมใจหาย
"ใช่ซิ คุณต้องเตรียมชุดในผมไง" ควินตินเหวี่ยงใส่ผมแบบหงุดหงิดเลยที่ ในวินาทีนั้นผมทำตัวไม่ถูก แต่ก็ต้องยอมวิ่งกลับไปที่ห้องคอสตูมอย่างสติหลุดและรีบคว้าเอาชุดเบอร์ 2 มาจากราว ผมวิ่งกลับมาที่หลังเวทีให้เร็วที่สุดแล้วยื่นสุดเบอร์ 2 นั้นให้ควินติน
"No" ควินตินอุทาน "นี่มันชุดผู้หญิงนะ ไม่ใช่ชุดของผม" ผมตกใจเข้าไปใหญ่ สติหลุดมากกว่าเดิม
"5 4..." เสียงนับถอยหลังของทอมดังขึ้น "3..."
"ส่งชุดมา ไม่มีเวลาแล้ว" ควินตินตะโกน โชคดีที่ชุดที่ผมหยิบมาเป็นกางเกงทำให้เค้าสามารถใส่ได้แบบไม่น่าเกลียดนัก ควินตินรีบถอดเสื้อเบอร์ 1 ที่ใส่อยู่แล้วโยนมาให้ผม นักเรียนคนอื่นที่ยืนอยู่ด้วยนั้นก็ช่วยกันใส่ชุดให้ควินตินใหญ่ถึงมันจะไม่ใช่ชุดของเขาก็ตาม
"2 1 fade in" ทอมตะโกนเสียงดัง ควินตินเดินออกไปที่เวทีในขณะที่เขาสวมแต่กางเกง ยังไม่ได้สวมเสื้อเลยด้วยซ้ำ นักเรียนคนอื่นหันมาหัวเราะนินทากันใหญ่ที่หลังเวที บางคนก็แอบถ่ายรูปเก็บไว้เพราะคงไม่ใช่โอกาสบ่อยๆที่จะให้เก็บควินตินถอดเสื้อโชว์แบบนี้ถ้าไม่ได้ทำงานคอสตูม

"ไอบ้า" ลูซี่กระซิบบอกผมเชิงหัวเราะ
"ขอบคุณนะเด็กใหม่" นักเรียนแสดงคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดกับผม "ที่ทำให้ชั้นได้เห็นซิกแพ็คของเค้าแล้วเต็มมา" ผมพยักหน้ารับแบบลังเลสุดๆไม่รู้เลยว่าต้องตอบคำถามอะไรดี
ลูซี่พาผมกลับไปยืนดูการแสดงอยู่ที่ข้างเวที ผมทำตัวไม่ถูกเลย ไม่กล้ามองผลงานที่ตัวเองทำไป แต่ตัวควินตินเองก็สามารถเล่นบทบาทต่อได้แบบไม่รู้เกงขามหรือเขินอายอะไรเลย ดูเป็นธรรมชาติเอามากๆ
"นิๆ ลูซี่ ดูที่กางเกงเขาซิ" นักเรียนอีกคนที่ยืนข้างๆกระซิบบอกลูซี่ "เป้าเค้าน่ะ จะทำกางเกงผู้หญิงขาดแล้วนะ"
"ไอบ้า" ลูซี่พูดปัดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ผมเองที่ได้ยินเขาพูดก็จ้องกลับไปที่เป้ากางเกงของควินตินตาม มันนูนออกมามากจนกระทั่งเห็นเด่นได้ชัดเจน ยิ่งเวลาอยู่ใต้ไฟที่ฉายมาจากด้านบนทำให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขาใช่กางเกงที่ผิดไซส์เล็กกว่าตัวเขามากๆทำให้เป้ากางเกงตูมบานออกมาเป็นเงาลงไปที่ต้นขา

"5 4 3 2 1 fade out" ทอมตะโกนเพื่อเป็นสัญญาณให้ไฟในหอประชุมดับลง นักแสดงทุกคนก็วิ่งกรูเข้ามาที่หลังเวทีตามเคย
ควินตินเดินเข้ามาหน้าเหวอๆพร้อมกับพยายามหลบสายตานักเรียนสาวๆคนอื่นที่จ้องหน้าท้องเขาอย่างตาไม่กระพิบ
"อืม" ผมที่ยืนอยู่ปลายทางยื่นเสื้อยืดที่เขาใส่มาก่อนเปลี่ยนชุดให้ ผมรีบกลับไปเอามันมาจากห้องแต่งตัวในขณะที่เขาแสดงด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องอับอาย เขารับมันไปและรีบสวมมันทันที
"ผมยังต้องกลับไปเปลี่ยนชุดให้อยู่มั้ย" ผมถาม
"เปลี่ยนซิ นายต้องกลับไปเก็บชุดให้ถูกเบอร์และเข้าที่เหมือนเดิม" ควินตินตอบพร้อมกับใช้แขนโอบไหล่ผมไว้แล้วจึงเดินพาผมหลับไปที่ห้องแต่งตัวตามเดิม

"อืม เก็บให้ดี" ควินตินถอดกางเกงที่เขาใส่ผิดออกมาให้ผม ผมสังเกตุได้ว่าซิปของเป้ากางเกงนั้นปลิแล้ว
"โห เป้าขาดเลยนะ" ผมอุทานในระดับเสียงที่ทำให้ควินตินได้ยิน
"ใหญ่อ่ะ ขอโทษ" ควินตินโง้งตัวมากระซิบข้างหูผม ผมปัดเขาออกทำให้เขาหัวเราะลั่น
"จบแล้วไปไหนต่อหรอ" ควินตินถามพร้อมกับใส่กางเกงที่เขานำมาเองให้เรียบร้อย
"ไม่รู้อ่ะ แล้วแต่ลูซี่" ผมตอบอย่างซื่อๆ
"ตอบบ่ายอ่ะ ไม่ใช่วิชาบังตับ" ควินตินอธิบายให้ผมฟัง "เป็นเกี่ยวกับการแสดงนี่แหละ นักเรียนน่าจะเวิร์คช็อปประชุมกันแล้วคิดว่าจะแก้ไขอะไรตรงไหน แต่...นายไม่ต้องอยู่ก็ได้นะ"
"อ้าว ไม่ได้ซิ ผมกลับบ้านไม่ถูกนะถ้าไม่มีลูซี่"
"5555 ใครบอกให้นายกลับบ้านล่ะ" ควินตินยิ้มและขยิบตาให้ผม "ผมอยากจะชวนนายไปชมเมืองเมืองนี้อ่ะ ในฐานะรุ่นพี่กับเด็กใหม่"

netnet132526 โพสต์ 2019-12-18 10:42:24

ขอบคุนครับ

testuser886 โพสต์ 2019-12-18 10:51:01

เรื่องราวสนุกมากเลยคับ ควินตินต้องมีแผนอะไรแน่ๆ

thai_boys โพสต์ 2019-12-18 15:35:49

ขอบคุณมากๆครับ{:5_135:}{:5_135:}{:5_135:}

suguszaa โพสต์ 2019-12-18 16:00:06

ขอบคุณครับ

nuangnut1996 โพสต์ 2019-12-18 16:22:28

ขอบคุณครับ

tarper โพสต์ 2019-12-18 17:30:55

ขอบคุณครับ

topto โพสต์ 2019-12-18 18:52:29

ตามต่อ

phitchapat2 โพสต์ 2019-12-18 20:27:27

ขอบคุณครับ

tarnit โพสต์ 2019-12-18 20:33:07

ขอบคุน

Mite โพสต์ 2019-12-18 21:04:44

ขอบคุณครับ
สงสารชีวิตของท้อป หนีเสือปะจระเข้แท้ๆ
แต่ในความซวยก็มีความโชคดีน้อยๆเหลืออยู่
อยากให้พ้นๆจากอาซะ จะได้ไม่ต้องเป็นทาสบำเรอ
น่าจะขอไปอยู่กับควินติน

jatuAAA โพสต์ 2019-12-18 21:07:20

ขอบคุณครับ

kaitokkung โพสต์ 2019-12-18 21:24:32

ขอบคุณ​ครับ​

myles โพสต์ 2019-12-18 21:44:20

ขอบคุณมาครับ คงไม่โดนอะไรมากนะ

lovelovena โพสต์ 2019-12-18 22:40:35

ขอบคุณครับ

Joechin โพสต์ 2019-12-18 22:59:35

ขอบคุณครับ

tapangnarak โพสต์ 2019-12-18 23:52:03

ขอบคุณนะฮะ

69c0f4d6cc5579e โพสต์ 2019-12-19 22:24:31

ขอบคุณครับ

KNNM โพสต์ 2019-12-19 23:05:01

มันต้องมีอะไรแน่ๆ!!

eg1 โพสต์ 2019-12-20 15:48:26

ขอบคุณครับ
หน้า: [1] 2 3
ดูในรูปแบบกติ: ประสบการณ์นักเรียนแลกเปลี่ยน 1 ปีในครอบครัวชาวฝรั่งเศส (EP.5)