Hanabi โพสต์ 2020-1-9 14:56:19

เรื่องเล่าจากเพื่อน ตอนที่ 8 - 1 [เพียว] ปริศนาตะกร้าผ้า

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Hanabi เมื่อ 2023-12-20 06:02

          เป็นเรื่องของเพื่อน ๆ ผมในกลุ่ม ทั้งจากเรื่องที่ผมรู้มาจากการเผือกจนรู้เรื่องทั้งหมดของพวกมัน และที่พวกมันมาโม้ให้ฟังอีกส่วน(อวด) โดยจะมีการปรับบทและตัวละครให้เป็นในแนวของผม แต่หลัก ๆ คืออ้างอิงจากชีวิตเพื่อนผมและเนื้อเรื่องที่เพื่อนเล่ามาครับ โดยจะใช้สรรพนามให้เหมือนเพื่อนผมเล่าเอง เริ่มกันเลย...




••••••••••
          ตอนนี้เพียวก็อายุ 18 แล้ว ถ้าบอกว่าหน้าตาไปวัดไปวา ก็เหมือนจะดูไม่ทันยุคสมัย เอาเป็นว่าหน้าตาเพียวตอนนี้ สามารถทำให้พวกรุ่นพี่สาขามาทาบทามให้ไปคัดตัวเดือนมหาลัยได้แล้วกัน ถึงผมไม่คิดว่าตัวเองหล่ออะไรมาก แต่ก็คิดเสมอว่าหน้าไม่ได้แย่ แถมผมเป็นคนมั่นใจตัวเองสูง รูปร่างก็ผ่านการเล่นกีฬาออกกำลังกายเลยกำยำสมส่วน ถึงส่วนสูงอาจจะไม่สูงมากแค่ 177 เซนติเมตร ด้วยรูปร่างหน้าตาแบบนี้ ตอน ม.6 ผมติดโพลสำรวจของโรงเรียน เป็น 1 ใน 3 ของรุ่นพี่ที่น้อง ๆ ชื่นชอบ แค่คิดว่าถ้าผมไปสมัครประธารนักเรียนช่วงนั้น คงเป็นผมที่เป็นประธารนักเรียนแทนไอ้นัทเพื่อนผมไปแล้ว แล้วอีก 2 ใน 3 นั่นเป็นผู้หญิงครับ พูดง่าย ๆ ผมเป็นผู้ชายที่น้อง ๆ ชื่นชอบมากที่สุด จบนะ
         กิจกรรมรับน้องก็เป็นอะไรที่สนุกดีครับ ผมไม่ได้คิดอะไรมากหรือตื่นกลัวแบบเพื่อนคนอื่น ๆ อะไรที่ผมคิดว่ามันไม่เกินเลยไป ผมรับได้หมด ถ้าอันไหนไม่ดีหรือผมคิดว่าเกินขอบเขตผมจะฉะกับรุ่นพี่คนนั้นตรง ๆ ผมไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ ผมยังงงใจตัวเองเหมือนกันครับ ว่าทำไมถึงตัดสินใจมาเข้ามหาวิทยาลัยที่ไกลบ้าน แถมไกลเพื่อน ห่างไกลคนที่ผมรัก ผมรู้สึกว่าเวลานี้มันเป็นเวลาที่ผมต้องออกไปยังโลกกว้างแล้ว ต้องหาเส้นทางของตนเอง ผมเลยตัดสินใจออกมาอยู่ลำพังในสังคมใหม่ ด้วยความที่ผมเป็นคนเข้าถึงง่ายไม่ค่อยถือตัว เลยมีคนเข้ามาคุยหลายคนครับ ส่วนมากเป็นในรุ่นเดียวกัน โดยเฉพาะในสาขาที่ผมสังกัดอยู่คิดเป็นสัดส่วนชายหญิง 6 ต่อ 4 เลยทีเดียว ก็ไม่รู้ว่าเพราะคุยง่ายหรืออะไร รู้ตัวอีกทีก็โดนยัดเยียดกลายเป็นประธารสาขารุ่นผมไปสะแล้ว

"ฮัลโล่ น้องเพียวสุดหล่อ.... พี่พาช่างมาวัดตัว..." เสียงรุ่นพี่สูงแหลมที่เป็นเอกลักษณ์แทรกผ่านโทรศัพท์มือถือเข้าหูผม
"ครับพี่โยโย่ เพียวขออาบน้ำก่อนนะพี่ เพิ่งไปยิมกลับมา"
"ได้ ๆ เดี๋ยวพี่รอห้องทีวีโซน B นะ"
พอวางสายเสร็จผมจึงรีบอาบน้ำแต่งตัว ส่วนชุดที่ใส่เป็นเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงบ๊อกเซอร์ลายทั่ว ๆ ไป
"ว๊าย! น้องเพียว ใส่ชุดแบบนี้พี่ไม่อยากให้ช่างวัดตัวให้เลย"
"โธ่พี่ ผมจะนอนแล้ว"
"อืมช่างเถอะ แป๊บนึง ช่างตัดเสื้อไปโทรศัพท์ รอตรงนี้ล่ะ"
นับว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกันกับการคัดตัวเดือน เพราะพอช่วงเย็นผมถูกละเว้นจากกิจกรรมรับน้อง แต่ต้องไปเข้ายิมแทน เพราะรุ่นพี่อยากให้หุ่นผมเป๊ะมากที่สุด งบประมาณสาขาถูกใช้กับดาวเดือนอย่างมาก ผมเลยแอบทุ่มเทอยู่เหมือนกัน เกรงใจกับเงินรุ่นพี่ที่รวบรวมกันมา
"เพียวนี่พี่บอย เป็นช่างตัดเสื้อที่ช่วยเหลือสาขาเรามาหลายรุ่นแล้ว"
"สวัสดีครับพี่บอย" ผมทักทายตามมารยาท
"โอ้... งานดี เห็นแล้วอยากบีบนมบีบเป้าเล่นเลย..." พี่บอยได้ทีพูดแซวใส่ผม แต่สายตานี่แบบประกายวาวเลยนะ ถ้าผมยอมคงโดนจับจริง ๆ แน่
"ไม่ได้หรอกพี่ นี่เด็กหนู พี่รีบวัดตัวเร็ว น้องจะได้กลับไปนอนเดี๋ยวโทรม..."
พี่โยโย่รีบพูดป้องผมให้ ถึงพี่โยโย่จะเป็นตุ๊ดเป็นกระเทย แต่พี่แกไม่เคยพูดแทะโลมผมหรือแสดงออกถึงการคุกคามทางเพศ ตลอดหลายวันมานี้ผมเลยไว้ใจกับรุ่นพี่คนนี้พอควร ผมยืนให้พี่บอยจัดท่าทาง วัดแขนวัดหัวไหล่ วัดช่วงตัว วัดเอว พอมาถึงช่วงวัดขา ปกติวัดจากด้านข้างก็ได้ แต่พี่บอยแกจงใจวัดจากด้านหน้า ที่ทั้งผมและพี่โยโย่ต่างตกใจ ก็พี่แกเล่นเอามือซ้ายจับปลายสายจากนั้นไปแนบวัดที่เอวซึ่งใกล้ ๆ กับเป้าของผม สายวัดลากยาวจนถึงข้อเท้า แต่ตาพี่บอยแทบจะไม่มองตัวเลขด้วยซ้ำ จ้องเป้าผมอยู่นั่นละ แถมยังวัดขาอีกข้างด้วย จนผมรู้สึกว่าต้องพูดอะไรบ้างแล้ว
"พี่บอยครับ ถ้าไม่มีเจตนาผมจะไม่ว่าอะไร แต่มันดูจงใจเกินไปครับ"
พี่โยคล้ายจะรู้ว่าผมโกรธเลยชิงตัดบทช่วย
"วัดเสร็จแล้ว เพียวรีบไปนอนเลย อย่าลืมมาร์กหน้าด้วยละ"
ผมไม่ได้ตอบ แต่แค่สวัสดีพี่สองคนแล้วเดินกลับห้องทันที รูมเมทผมมี 2 คนครับ ชื่อพี่บอลกับเพื่อนรุ่นเดียวกันอีกคนชื่อโตน พี่บอลเรียนวิศวคอมฯ ปี 3 ส่วนโตนเรียนเกี่ยวกับการจัดการ ตั้งแต่วันแรกที่เข้าหอผมกับโตนเราได้ทำความรู้จักกันมาบ้างแล้ว จะมีเพียงพี่บอลที่เพิ่งเข้าหอมา ได้ 2 คืนเลยยังไม่สนิทกันอยู่บ้าง แต่ผมกับโตนเป็นรุ่นน้องที่พูดง่ายครับ ไม่นานพี่บอลก็สนิทกับพวกเรา พวกเราไม่ได้จัดห้องใหม่เหมือนคนอื่น ๆ ห้องมาแบบไหนก็อยู่แบบนั้น การจัดวางเตียงโต๊ะตู้เลยเหมือน ๆ กัน เตียงพวกเราถูกขั้นด้วยโต๊ะและตู้อยู่อีกด้านผนังตรงกับโต๊ะพอดี หอผมมีห้องน้ำในตัวครับเลยไม่ต้องลำบากในการใช้ห้องน้ำ แต่อาจจะต้องรักษาความสะอาดกันเอง ไม่ได้มีแม่บ้านเข้ามาล้างให้ทุกวันเหมือนหอห้องน้ำรวม แต่ก็มีแม่บ้านเข้ามาเก็บกวาดห้องให้สัปดาห์ละครั้ง แต่เขาจะไม่ล้างห้องน้ำให้นะครับ แต่ถ้ารอแม่บ้านห้องผมคงได้รกกันก่อนพอดียังไงก็ต้องเก็บกวาดกันเอง ยิ่งวันงานเฟรชชี่ใกล้เข้ามา พี่โยโย่ก็ยิ่งคล้ายจะเป็นบ้าเพื่อนพี่แกโดนแกด่ากันทุกชั่วโมง ขนาดผมยังไม่เหลือ...
"น้องเพียว ตกลงการแสดงความสามารถพิเศษ จะเอาอะไร ใกล้หมดเวลาเตรียมตัวแล้วนะ"
"ยังคิดไม่ออกเลยพี่ ผมไม่มีความสามารถพิเศษที่จะใช้แสดงแล้วคนถูกใจด้วยสิ..." ผมคิดอะไรก็ตอบไปตรง ๆ
"โอ้มายก๊อดดดด! ตายๆ กูตายแน่ แล้วทำอะไรพวกนี้เป็นบ้างไหม เล่นดนตรี ร้องเพลง เต้น..."
"เป็นครับ..."
"..."
เกิดความเงียบขึ้นมาทันที ทั้งพี่โยโย่ กับรุ่นพี่คนอื่น ๆ ที่อยู่ในห้อง
"ไหนว่าไม่มีความสามารถพิเศษ..." เพื่อนพี่โยโย่ที่อยู่ใกล้ ๆ พูดขึ้นมา
"ตกลงเป็นนะ เราทำอะไรเป็นบ้างในพวกนี้" พี่โยโย่คล้ายจะใจเย็นลงเลยถามผมออกมา
"เล่นพวกดนตรีนี่ได้ครับ สากลก็มี กีต้า เบส กล่องชุด ส่วนคลาสสิกก็ เปียนโน ไวโอลีน แซกโซโฟน ฟลูต ดนตรีไทยมี ระนาดเอก ฆ้องวงเล็ก ซออู้ ซอด้วง ซอสามสาย ร้องเพลงได้ทั้งสากล ไทยสากล ลูกทุ่งได้นิดหน่อย แนวที่ถนัดก็ป๊อป ร๊อค เต้นได้ทั้งสตรีท บีบอย ถ้าลีลาสก็ได้ทุกจังหวะเลยครับ ถนัด ๆ ก็แนวลาติน..."
ผมร่ายยาวตามสิ่งที่คิดว่าเล่นได้ทำได้ ในแบบที่คิดว่าไม่อายใครออกมา แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เกิดความเงียบขึ้น เสียงถอนหายใจพี่โยโย่ คล้ายปลุกสติใครหลายคน
"เห้อ... ถ้าทำอะไรเป็นเยอะขนาดนี้ก็เก่งเกินแล้ว"
"ก็พวกนี้มันไม่ได้เป็นความสามารถพิเศษนี่ครับ..." ผมพูดออกไป
"หือ..." สีหน้ารุ่นพี่หลายคนทำเหมือนงงกับสิ่งที่ผมพูด
"อ่อ ผมว่าพวกพี่เข้าใจคำว่าความสามารถพิเศษผิดแล้วละ จริง ๆ แล้วมันควรเป็นอะไรแบบนี้ถึงจะถูก การเรียนรู้ไว คิดเลขเร็ว เปลี่ยนระดับคลื่นเสียงตัวเองได้ กายกรรม การใช้วาทศิลป์ หรือทักษะการเล่นกีฬาต่าง ๆ ในระดับสูง... จริง ๆ เพียวก็มีความสามารถพิเศษนะพี่ แต่คงเอาไปแสดงไม่ได้"
เกิดความเงียบอีกครั้ง แต่ก็เป็นพี่โยโย่อีกที่ทำลายความเงียบ...
"ความสามารถพิเศษอะไรล่ะ..."
"ความจำดี เรียนรู้ไว..." ผมตอบ
"ก็จริง งั้นเพียวช่วยแสดงร้องเพลงพร้อมกับเล่นกีต้าได้อยู่ใช่มะ..."
"ได้ครับ พี่อยากให้ผมร้องเพลงอะไรบอกมาได้เลย..."
          วันงานเฟรชชี่ก็มาถึง ผมกับเพื่อนอีกคนชื่อแอ๊ปเปิ้ลที่เป็นตัวแทนเดือนดาวของสาขา รอบแรกคือการแนะนำตัวเพื่อโชว์ความสวยความหล่อบุคลิกภาพ ก็ผ่านไปด้วยดี รอบต่อไปเป็นรอบโชว์การแสดงของดาวและเดือนของทุกสำนักวิชา ก็เป็นการร้องและเต้นผสานเสียงเข้าจังหวะ รอบสามเป็นการแสดงความสามารถพิเศษ แต่ดันเกิดมีปัญหาช่วงนี้ละครับ ผมกำลังรอขึ้นเวทีอยู่ด้านหลัง เพื่อนที่ประกวดเดือนด้วยกันของสาขาอื่นมันชื่อเต้ย มันหล่อมากและสูงกว่าผมอีก ส่วนหุ่นนี่แบบเป็นนายแบบได้เลย ถ้าให้ผมคิดเล่น ๆ ก็มีผมกับมันนี่ละที่มีโอกาสได้เป็นเดือนมหาลัย คล้ายมันจะตื่นเต้นอยู่บ้าง ผมเห็นมันดื่มน้ำไปหลายแก้วแล้ว เลยแซวมันเล่น ๆ
"กินน้ำมากปวดฉี่นะมึง..."
เต้ยมันหันมายิ้มให้ผม บอกเลยว่าถ้าผมไม่มีภูมิต้านทานคนหล่ออยู่บ้าง ใจคงละลายไปแล้ว
"เออวะ เดี๋ยวรอส่งไอ้บ่อมขึ้นเวทีก่อนค่อยไปเยี่ยว..."
พอเต้ยพูดจบผมก็มองหาเพื่อนอีกคนที่กำลังเดินขึ้นเวที มันชื่อบ่อมครับ เป็นรูมเมทของเต้ย ตั้งแต่วันมาเก็บตัวซ้อมเต้นด้วยกัน ก็มีบ่อมกับเต้ยนี่ละที่ผมคุยด้วยแล้วโอเคสุด พอบ่อมมันหันมาคล้ายจะขอกำลังใจ ผมสองคนเลยชูกำปั้นให้กำลังใจมัน แค่มันขึ้นเวทีเท่านั้นละ เสียงกรี๊ดดังลั่นเลย บ่อมมันไม่หล่อคมแบบพวกผมครับ แต่มันตี๋ขาวใส ๆ น่ารัก ๆ ดูแล้วสบายตา หุ่นก็จัดว่าดี แล้วชุดกับทรงผมที่มันใส่ขึ้นทำการแสดงวันนี้บอกเลยว่าอ๊อปป้ามาก
"เพียวมึงไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนกูหน่อย..." พอบ่อมมันขึ้นเวทีไปแล้วเต้ยเลยหันมาชวนผมไปเป็นเพื่อน
"ก็ดี กูก็ปวดหน่อย ๆ"
ผมตอบรับมันก่อนจะเดินไปห้องน้ำชายหลังเวที แต่ขอบอกเลยว่า ห้องน้ำอันนี้ดันอยู่ไกลและมืดพอควร ๆ ถ้าผมเดินมาคนเดียวก็แอบเสียว ๆ เหมือนกัน อาคารนี่มีไว้จัดการแสดงโดยเฉพาะห้องน้ำหลังเวทีเลยไม่ได้ใหญ่โตเหมือนด้านหน้า มันมีโถฉี่แค่ 2 อัน ผมกับเต้ยเลยยืนฉี่ข้าง ๆ กัน และด้วยเต้ยตัวมันสูงครับ โถในห้องน้ำนี้ก็คล้ายจะยกระดับต่ำกว่าปกติ บอกเลยว่ายืนใกล้กันขนาดนี้ไม่เห็นก็ตาบอดแล้ว
"โหหหห ฆวยใหญ่วะ" ผมได้ทีแซวมันไปขนาดยังไม่แข็ง แต่คิดว่าน่าจะเล็กกว่าพี่แจ็ค
"พ่อให้มาเยอะ แต่ของมึงก็พอตัวนิ..." เต้ยมันก็แซวผมคืน
"ของกูตอนแข็งยาว 6 นิ้วครึ่ง รอบวง 6 นิ้ว มึงอะ..." ผมแอบอยากรู้เลยบอกของตัวเองไปจะได้ถามมันคืนได้
"ไม่รู้ดิ กูไม่เคยวัด... ไว้ว่าง ๆ จะลองวัดดู วันหลังจะมาบอก"
"อ่อ คงสัก 7-8 นิ้วละมั้ง ขนาดยังไม่ตื่นยังใหญ่กว่ากูเลย"
พอพูดจบผมก็ฉี่เสร็จพอดี ส่วนเต้ยมันคงกินน้ำไปเยอะเลยยังยืนฉี่อยู่ ผมเดินออกมาล้างมือรอมัน เลยได้โอกาสเช็คการแต่งตัวของตัวเอง ชุดที่ผมใส่เป็นของร้านพี่บอยเกือบทั้งชุดเลยครับ มีแค่รองเท้าที่เป็นของผมซื้อมาเองกับเสื้อนอกที่เป็นของรุ่นพี่คนหนึ่งในสาขา เสื้อเชิทลายแปลก ๆ โทนมืดแต่มีครบทุกสี กางเกงทรงสแลคมีลายดอกเล็ก ๆ พอให้เข้ากับเสื้อเชิท เสื้อนอกผมเป็นแจ๊กเก็ตหนังสีขาวแบนด์ดังถ้าจำราคาไม่ผิด ก็หมื่นกว่าบาทแล้ว
"กูว่าไม่มึงก็กูละที่จะได้เป็นเดือน..." เต้ยมันพูดตอนกำลังล้างมือ
"กูก็ว่างั้น ปะ ๆ รีบไปเตรียมตัวกัน รอบต่อไปสาขามึงแล้วนิ"
ระหว่างเดินกลับพวกเราไม่ได้รีบมาก แต่อยู่ ๆ เต้ยมันคล้ายจะเสียหลักล้มเหมือนจะลื่นอะไรสักอย่าง ผมที่เห็นเลยคว้าจับตัวมันไว้ได้ทัน
"ขอบใจ" มันตอบ
"ไม่เป็นไร"
แต่ใครจะไปคิด ว่าระหว่างที่ผมพยุงมันได้แล้วและกำลังจะเดิน ผมดันลื่นเหมือนกัน ผมเสียหลักล้ม เต้ยพยายามจับคว้ามือผมไว้ แต่ไม่ทัน มือซ้ายผมที่พยายามจะยันพื้นแต่เสียจังหวะเลยพลาดทำให้นิ้วผมบาดเจ็บ
"มึงโอเคปะ"
เต้ยรีบพยุงผมช้า ๆ เพราะกลัวจะพากันล้มอีก เพราะพื้นที่พวกเรายืนอยู่มีแต่ของเหลวคล้ายแชมพู อย่างกับมีใครมาทำหกไว้ ทั้งที่ตอนแรกมันไม่มี
"ไม่เป็นไรมาก แต่เหมือนนิ้วจะซ้น" ผมตอบออกไป
"มึง! จะไหวเหรอ ต้องจับคอตกีต้าไม่ใช่หรือไง" เต้ยมันตกใจยิ่งกว่าผมอีก
"เออวะ กูต้องร้องเพลงกับเล่นกีต้าแสดงสด"
"เรื่องนี้ค่อยว่ากัน พวกเรารีบไปหลังเวที ดีกว่า..."
พอเต้ยพูดขึ้นมาผมเหมือนฉุกคิดถึงความปลอดภัยแปลก ๆ เลยรีบพากันไปหลังเวที ผมโทรหาพี่โยโย่เรื่องเล่นกีต้าไม่ได้ เพราะนิ้วซ้น เพื่อจะได้ช่วยกันหาทางออก พอบอกว่าล้มเพราะลื่นแชมพูแถวหน้าห้องน้ำ ก็เหมือนอีกฝ่ายจะเงียบ ๆ
"เพียว ทวนเนื้อร้องเพลงไปก่อนละกัน เดี่ยวพี่จะรีบไปหาแบ็กกิ้งแทร็กเพลงนี้ให้..."
"ให้กูเล่นกีต้าแทนให้ไหม?" เต้ยมันพูดขึ้นหลังผมวางสาย
"มึงเล่นคอตเพลงนี้ได้อยู่ใช่ปะ?" ผมส่งกระดาษที่มีเนื้อและคอตเพลงให้มันดู
"อ่อเพลงนี้กูเล่นเป็น"
"งั้นฝากมึงด้วย..."
"จิ๊บ ๆ น่า ถ้ามึงไม่ช่วยกูมึงอาจไม่เจ็บตัวก็ได้"
"เออวะ เพราะมึงเลยเต้ย" ถึงผมจะพูดไปแบบนั้น แต่เป็นการประชดแบบขำ ๆ
"เอ่อ ตากูขึ้นเวทีละ ดาวสาขากูเต้นจบพอดี"
"สู้ ๆ เพื่อน..." ผมก็ให้กำลังใจมันไป และต่อให้แพ้มันผมก็ไม่เสียใจนะบอกตรง ๆ
เต้ยมันขึ้นไปแสดงมายากลครับ ถึงจะไม่ได้เป็นมายากลหน้าตื่นตาอะไรมาก แต่เพราะบุคลิกของมันกับรอยยิ้มเลยทำให้การแสดงออกมาน่าจับตา ได้เสียงปรบมือไปเยอะเลย พอมันลงมาพวกเราเลยได้ซ้อมมือกันพอเป็นพิธี จนถึงรอบผมขึ้นเวที เสียงกรี๊ดต้อนรับเสียงปรบมือของเพื่อน ๆ ดังมาก ผมรู้สึกได้เลยว่าการได้มาอยู่ตรงนี้เป็นประสบการณ์ที่ดี
"สวัสดีครับ เพียวครับ จริง ๆ วันนี้ผมต้องขึ้นมาร้องเพลงกับเล่นกีต้าให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ฟัง แต่ด้วยสภาพมือตอนนี้จับคอตกีต้าไม่ไหว แต่ไม่ต้องหวงครับ ผมมีเพื่อนมาช่วยเล่นกีต้า ขอเสียงปรบมือให้เพื่อนผมด้วยครับ..."
พอเต้ยขึ้นมาก็เป็นดังคาดครับ เสียงปรบมือพร้อมเสียงกรี๊ดของหน้าม้าสาขาของเต้ยก็ดังขึ้น มันไม่ได้พูดอะไร แค่โค้งคำนับพอเป็นพิธี ก่อนจะเดินไปนั่งจัดขาตั้งไมค์ ส่วนผมก็เดินไปข้างมันรอจังหวะร้องเพลง...

          รอบการแสดงและรอบตอบคำถามของพวกเราจบลง การประกาศผลดาวและเดือนจึงเริ่มขึ้น เต้ยได้เป็นเดือนมหาลัยครับ ส่วนผมเป็นที่ 2 คะแนนแพ้เต้ยไปนิดเดียวจริง ๆ บ่อมก็มาแรงเป็นที่ 3 แถมคะแนนโหวตมันสูงมาก ถ้าบ่อมมันไม่แพ้คะแนนตอบคำถาม ผมกับเต้ยอาจแพ้มันก็ได้

"เพียว มึงไปกินข้าวกับกูหน่อย" เสียงไอ้บ่อมเรียกผมตอนกำลังเก็บของ
"อ้าว รูมเมทมึงละ" ผมถาม
"มันโดนรุ่นพี่ดึงไปเลี้ยงสาขา..."
"เออเนาะ ผู้ชนะมีคนเลี้ยง ผู้แพ้ซื้อกินเอง... โอเคกูเก็บของแป๊บ ไปรถมึงนะ ค่อยกลับมาส่งกูเอารถ"
ผมกับบ่อมเก็บของไม่นานก็พากันเดินไปที่รถ สักพักโทรศัพท์ผมก็สั่นเตือนการโทรเข้า มันเป็นเบอร์ที่ผมไม่คุ้นเท่าไหร่
"สวัสดีครับ" ผมพูด
"เต้ยเอง โทรมาชวนกินข้าว ถ้าเจอบ่อมบอกมันด้วยนะว่า เต้ยรอที่รถ"
"อ้าว เต้ยไม่ได้ไปกับรุ่นพี่เหรอ..." ผมสงสัย
"ไม่อยากไปด้วยละ อยากไปกินข้าวกับพวกมึงมากกว่า"
เต้ยตอบก็ตัดสายไป พอมานึกดูแล้วมันเคยยืมโทรศัพท์ผมยิงหาเครื่องมันอยู่ มันมีเบอร์ผมเลยไม่แปลก แต่ผมดันลืมเมมเบอร์มันได้ไงนี่สิ ผมกับบ่อมเลยไปที่รถก่อนจะคุยกับเต้ยว่าจะไปหากินมื้อดึกในเมืองกัน

          กิจกรรมต่าง ๆ เบาบางลง การเรียนการสอนจึงมาแทนที่ ผมใช้ชีวิตของนักศึกษาตามปกติ ถึงจะแอบคิดถึงบ้านคิดถึงพี่แจ็คอยู่บ้าง ผมเลยต้องหากิจกรรมยามว่างทำเพื่อจะได้ไม่คิดมาก เลยว่าจะไปหาเล่นบาสกับคนอื่น ๆ
"เพียวจะไปไหน..." เสียงเต้ยทัก ผมสวนกับมันตรงทางเข้าหอ
"ว่าจะเล่นบาส แต่ไม่รู้ว่าคนเล่นกันเยอะยัง"
"มึงรอเดี๋ยว กูเปลี่ยนเสื้อแป๊บ..."
เต้ยพูดจบก็วิ่งหายไปทางโซนหอของมัน ผมกับมันอยู่หอเดียวกันครับ แต่อยู่กันคนละโซน ไม่ถึง 5 นาที เต้ยมันก็เปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนกางเกงเรียบร้อยรองเท้ากีฬามันยังไม่ทันใส่ ไปใส่เอาที่สนามเพราะรีบ แต่พอมาถึงสนามก็ต้องอดครับ เพราะคนเล่นเยอะมากเต็มทุกสนาม อาจจะเพราะพวกเรามาเย็นเกินไปแถมสนามถูกจองยัน 3 ทุ่ม พวกผมเลยว่าจะไปเข้ายิมแทน ตรงอาคารนี้เป็นอาคารรวมเกี่ยวกับการออกกำลังกายครับ มีสระว่ายน้ำ สระโปโล ฟิตเนส สนามแบดฯ และอื่น ๆ อีกมากมาย
"เต้ย กูขอจีบมึงได้ปะ..."
ระหว่างที่พวกเราวอร์มกันอยู่ ผมตัดสินใจถามมันออกไป เพราะมันก็ถือว่าเป็นหนึ่งในสเปกของผมเหมือนกัน และนิสัยของมันก็เข้าได้กับผมหลายส่วน เต้ยมันหันมากะพริบตาปริบ ๆ แต่ไม่นานนักมันก็ยิ้มออกมา แล้วบอกผมว่า...
"มึงชอบกูเหรอ ขอบใจนะ แต่กูมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เอาไว้กูอกหักก่อน ถ้ามึงยังไม่มีใคร ตอนนั้นค่อยว่ากัน..."
ผมก็เผื่อใจไว้แล้วถ้ามันปฏิเสธ เพราะมันเป็นผู้ชาย แต่ผมงงมันไม่มีรีแอคชันปฏิเสธอย่างที่ผมคิด แถมมันคล้ายจะให้โอกาสผมในอนาคต ผมประมวลผลในสมองทันที ไม่นานก็ถามมันไปตรง ๆ
"มึงแอบชอบไอ้บ่อม..."
"ถือว่าเรื่องนี้เป็นความลับของมึงกับกูนะ"
พูดจบมันยักคิ้วให้ ก่อนจะเดินไปยังเครื่องออกกำลังกาย ผมก็ถึงบางอ้อ ผมรู้ว่ามัน 2 คนโตมาด้วยกันเรียนมาด้วยกันสนิทกันมาก แต่ถ้าพวกมันจะเป็นแฟนกันมันก็ควรเป็นไปนานแล้ว พอมาถึงตรงนี้ผมก็ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมเต้ยมันค่อนข้างแคร์บ่อมอยู่ ถ้าไม่สังเกตอาจจะไม่เห็น เพราะผมรู้จักมันทั้ง 2 คนดี จุดที่ผมอยู่เลยอาจเห็นชัดกว่าคนอื่น...
          หลังจากที่ผมคล้ายจะโดนปฏิเสธจากหนุ่มคนแรกที่ผมคิดจะจีบในมหาลัย ก็เดินเข้าห้องมาทั้งเสียใจและดีใจในเวลาเดียวกัน เสียใจเพราะโดนปฏิเสธก็จริง แต่แอบดีใจเรื่องไอ้เต้ยกับไอ้บ่อมอยู่นิด ๆ เพราะผมคิดว่า 2 คนนี้ขาดแค่ไฟในการจุดชนวน ถ้า 2 คนนี้สปาร์คขึ้นมาได้ คงยากที่จะมีคนมาแยกพวกมันออกจากกัน กลับมาห้องผมจัดแจงถอดเสื้อเตรียมอาบน้ำ ผมก็สังเกตเห็นว่า ตะกร้าผ้าผมมีอะไรแปลก ๆ ผมจำได้ว่าก่อนไปเล่นกีฬา ผมโยนชุดนักศึกษาลงตะกร้าไป โดยมีเสื้ออยู่บน กางเกงอยู่ล่าง แต่ตอนนี้เสื้อผมอยู่ล่างแทนกางเกง ก็บอกแล้วไงว่า ผมมีความจำดี...

          ด้วยการเรียนที่หนักขึ้นผมเลยตัดสินใจซื้อโน๊ตบุคใหม่ ก็ได้พี่บอลที่เรียนวิศวคอมฯ ไปช่วยเลือกให้ รวมถึงจะขอให้แกลงโปรแกรมเขียนแบบทางวิศวะที่ต้องใช้เรียนด้วย พอกลับมาผมก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ พอผมเดินผ่านตะกร้าผ้าตัวเองก็เห็นว่าคล้ายมีคนมาค้นหาอะไรในตะกร้าผ้าผมอีกแล้ว ในห้องก่อนผมเข้าไปอาบน้ำตอนนั้นคนที่อยู่มีทั้งพี่บอลกับโตนนั่งเล่นคอมฯ อยู่ทั้งคู่ แต่พอผมอาบน้ำเสร็จ 2 คนนั้นก็ไม่อยู่แล้ว แต่ตะกร้าผ้าผมกับคล้ายถูกค้น...
          เรื่องตะกร้าผ้าผมไม่รู้ว่าคือใคร แต่ที่แน่ ๆ ต้องเป็น 1 ใน 2 รูมเมทผม ผมไม่อยากคิดในทางไม่ดีมากนัก แต่ก็ยากที่จะหยุดสงสัย เพราะทุกครั้งที่ผมไม่อยู่ห้องหรืออาบน้ำ ตะกร้าผมคล้ายจะโดนค้นเกือบทุกครั้ง จนผมคิดแผนการหนึ่งขึ้นมาได้ ในครั้งไหนที่ผมเข้าไปอาบน้ำ ผมจะเปิดโปรแกรมสำหรับเวปคาเมร่าของเครื่องโน๊ตบุคและสั่งมันบันทึกคลิปไว้ และซ่อนหน้าต่างมันด้วยโปรแกรมงานที่ทำ จริง ๆ ผมก็มีคนที่สงสัยอยู่แล้วครับ ขาดแค่หลักฐาน และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ตะกร้าผ้าผมโดนค้น...

จบ. เรื่องคนร้ายผู้ค้นตะกร้าเฉลย part หน้านะครับ แล้วเพื่อน ๆ คิดว่าเป็นใครกันลองทายเล่น ๆ กันดู ส่วนตอนนี้ออกจะใส่สีสันเกินจริงเยอะไปหน่อย หวังว่าเพื่อน ๆ ที่อ่านจะชอบนะครับ ผมอัพเกรดเพียวเพื่อนผมให้ ดูเว้อ นิด ๆ เพราะเป็นความชอบมันส่วนตัวครับ...
ตอนต่อไป >> http://www.g4guys.com/thread-132072-1-1.html

peradan โพสต์ 2020-1-9 15:38:24

ขอบคุณครับ

nuangnut1996 โพสต์ 2020-1-9 15:55:27

ขอบคุณครับ

jumboa โพสต์ 2020-1-9 16:11:14

ขอบคุณ​ครับ.

biwkub โพสต์ 2020-1-9 16:23:25

เราว่าพี่บอลเป็นคนตะกร้า

minone โพสต์ 2020-1-9 16:34:05

รอลุ้น​ตอน​ต่อไป​นะ​ครับ​{:5_130:}

aumking โพสต์ 2020-1-9 17:33:59

ขอบคุนน่ะ

LUCKYPEE โพสต์ 2020-1-9 17:35:43

รอติดตามครับ

boomb22 โพสต์ 2020-1-9 18:20:47

ขอบคุณครับ

guide01 โพสต์ 2020-1-9 18:34:45

ขอบคุณมากเลยครับ

myles โพสต์ 2020-1-9 19:25:42

ขอบคุณครับ ลุ้น ๆ ต้องลงโทษคนร้ายให้เย็ด

civava14 โพสต์ 2020-1-9 19:42:43

ขอบคุณครับ

ไทยรัฐ โพสต์ 2020-1-9 23:01:03

ติดตามครับ

ninenut โพสต์ 2020-1-9 23:44:19

ขอบคุณครับ

Teamkung โพสต์ 2020-1-10 00:39:48

ขอบคุณมากนะครับ

Ootou โพสต์ 2020-1-10 02:52:37

ขอบคุณครับ

Ton1001 โพสต์ 2020-1-10 04:48:37

ขอบคุณครับ

10110 โพสต์ 2020-1-10 05:32:16

ขอบคุณครับ

ao69 โพสต์ 2020-1-10 05:56:50

ชอบ

peetle01 โพสต์ 2020-1-10 07:18:18

ขอบคุณครับ
หน้า: [1] 2 3 4 5
ดูในรูปแบบกติ: เรื่องเล่าจากเพื่อน ตอนที่ 8 - 1 [เพียว] ปริศนาตะกร้าผ้า