เรื่องราวของเจ้าเติร์ก 16 (คำสัญญา)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Elenai เมื่อ 2022-6-15 01:34เนื้อหาในตอนที่ 15 ตามลิงค์ http://www.g4guys.com/forum.php? ... 0762&fromuid=155129
(เนื่องจากผู้เขียนติดภาระงานหลายๆอย่างพร้อมกันในเดือนที่ผ่านมาจึงทำให้อัพลงล่าช้า ทางผู้เขียนจึงขออภัยผู้อ่านทุกคนมา ณ ที่นี้ครับ ดังนั้นเพื่อเป็นการชดเชย ตอนที่16 นี้ทางผู้เขียนจึงจัดรวมสองตอนให้อ่านได้จุใจ ซึ่งทำให้ตอนที่ 16 นี้จะมีความยาวมากกว่าตอนอื่นๆทั้งหมดครับ )
วันที่ 2 มีนาคม “เฮ้ย ไอ้เติร์กไอ้เคน ไอ้เตอร์พวกมึงสามคนจะรีบไปไหนกันวะ” เสียงไอ้เวฟตะโกนเรียกพร้อมกับเดินตรงเข้ามา”“อ่าวไอ้เวฟไหนว่ามึงจะไปกับพวกไอ้เฟิร์ส ไอ้ตี๋ ไอ้เบทไอ้เจต ไม่ใช่หรอวะ”“กูเปลี่ยนใจแล้วว่ะไอ้เคน กูไม่ไปกับพวกมันล่ะ” “ไมล่ะวะไอ้เวฟ” “ก็ไอ้พวกนั้นมันจะไปดูหนังอะดิ มึงก็รู้อยู่ไอ้เคนว่ากูอะไม่ชอบดูหนังในโรง ถึงหนังมันจะสนุกแค่ไหนก็ตามเหอะแต่สำหรับกูแล้วมันก็คือเสียงกล่อมให้กูหลับหลับในโรงดีๆนี่เอง” เตอร์กับเติร์กที่ยืนฟังอยู่ถึงกับหัวเราะขึ้นพร้อมกัน “หืมม มึงนี่แปลกคนนี้เนอะไอ้เวฟ ว่าแต่นี่มันก็ติวเสร็จแล้วนะเว้ย พวกไอ้เฟิร์สไอ้ตี๋กับคนอื่นๆยังไม่ออกจากห้องเรียนกันอีกหรอวะไอ้เวฟ”“เห้อออ ไอ้เตอร์เอ้ย ถ้าไอ้พวกนั้นล่ะก็…กูว่าคงอีกสักพักแหละมั้งกูเห็นแม่งนั่งจับกลุ่มคุยจีบพวกสาวๆโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยแต่ตั้งเมื่อกี้ล่ะ”เวฟพูดพร้อมกับชักสีหน้าเซ็งๆใส่เตอร์“เห้ยยย กูว่าแม่งก็ดีออกนะเว้ยมึงรู้ปะว่าสาวๆโรงเรียนนั้นมีแต่สาวแจ่มๆทั้งนั้นเลยนะเว้ยไอ้เวฟมึงไม่ลองไปแจมกับไอ้พวกนั้นหน่อยวะ เผื่อมึงเจอสเป๊คคนที่ใช่”“เหอะเห่อ มึงรู้ปะไอ้เตอร์ 10วันที่พวกเราตั้งใจมาติวถึงกรุงเทพเพื่อจะเอาคะแนนไปสมัครมหาวิทยาลัยเนี่ย กูแม่งโครตรำคาญไอ้ตี๋กับไอ้เจตที่นั่งอยู่ข้างๆกูชิบหายแม่งจะคุยหยอดมุขสาวอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ แม่งจะมาติวหรือจะมาหาเมียกันแน่วะ”“เอาน่าไอ้เวฟอย่างน้อยมึงก็ได้ฟังมุขจากพวกมันเอาไว้ไปจีบสาวได้นะเว้ย”“มึงไม่ต้องพูดเลยไอ้เติร์ก มึงนี่ก็อีกคน บอกว่าให้จองที่ จองที่ให้กู…”“อ้าววพูดงี้ไอ้ไงล่ะครับลูกพี่เวฟ ลูกพี่จำไม่ได้หรอครับว่าผมชวนลูกพี่ให้ไปนั่งกับพวกผมแถวหน้าตั้งแต่วันแรกๆแล้ว แต่ลูกพี่ดันลีลาอยากจะไปนั่งแถวหลังกับพวกไอ้เจต ไอ้ตี๋เอง เห็นไหมครับลูกพี่แบบนี้ลูกพี่จะมาต่อว่าผมไม่ได้นะครับ” เจ้าเติร์กพูดพร้อมกับทำหน้ากวนๆใส่เวฟจนเตอร์ที่ยืนข้างๆรีบเอ่ยปากแซว “โห่ยๆๆ ทุกทีเห็นมึงชอบว่ากูพูดกวนตีนตลอด ตัวมึงเองนี่ก็พูดกวนตีนใช่ย่อยเหมือนกันนะไอ้หน้าหล่อ”“เอ่อ ขอบใจกูก็ได้นิสัยกวนตีนจากมึงนั่นแหละ” เจ้าเติร์กหันไปมองหน้าเตอร์และยักคิ้วใส่ทำเอาเตอร์ถึงกับพูดไม่ออก “ไงล่ะมึงไอ้เตอร์ ถึงกับพูดไม่ออกเลยอะดิ๊กูบอกมึงแล้วว่าไอ้เติร์กน่ะ มันน้ำนิ่งไหลลึก” “อื้มมไอ้เคนพอกูล้มนี่แม่งก็ซ้ำใหญ่เลยนะมึง”“แล้วนี่พวกมึงสามคนจะไปไหนกันหรอวะ”“พวกกูสามคนว่าจะไปเดินเที่ยวแถวๆไอคอนสยามน่ะ ไอ้เคนเองมันก็บอกว่าจะไปดูเสื้อเทรนมาใหม่ที่เจนอยากได้ด้วยมึงจะไปกับพวกกูไหมล่ะไอ้เวฟ”“เออๆ กูก็กะว่าจะมาขอเอี่ยวไปกับพวกมึงด้วยนี่แหละไอ้เตอร์ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไปนั่งดูหนังในโรงล่ะวะ”“โอเค งั้นมามา เห้ยไอ้หน้าหล่อเดี๋ยวกูขอยืมตังค์มึงสัก 2พันนะเว้ย ตอนนี้กูเหลือติดตัวแค่พันเดียวเองกลับไปเดี๋ยวกูใช้คืนให้”เวลา 13.33 น.“ไอ้เคน ไอ้เคน มึงดูเสื้อแจ๊กเก็ตตัวนี้สิมึง สีแม่งโครตจ๊าบเลยว่ะมึงว่าถ้ากูซื้อใส่ตอนงานวิ่งเดือนหน้านี้มึงว่าเป็นไงวะ”“ก็เข้ากับมึงดีนะไอ้เวฟแต่เสื้อแจ๊กเก็ตมึงก็มีเยอะอยู่แล้วไม่ใช่หรอวะเคยได้ยินได้ตี๋พูดให้กูฟังว่ามึงมีอยู่เต็มตู้”“ก็นะ…ความบ้าส่วนตัวของกูน่ะไอ้เคน”“เห้ยไอ้เวฟ ไอ้เคน ปะ กูว่าจะไปดูหูฟังไร้สายร้านตรงฝั่งโน้นน่ะตกลงมึงเจอเสื้อที่เจนอยากได้ยังวะ” “ยังเลยว่ะไอ้เตอร์ ว่าแต่มึงไปไหนมาวะปล่อยให้กูกับไอ้เวฟรอตั้งนาน” “กูไปยืนดูรองเท้ากีฬาตรงโน้นน่ะ โทษทีๆเอ่อแล้วไอ้หน้าหล่อล่ะไปไหนวะไอ้เคน”“ไอ้เติร์กน่ะหรอเห็นมันบอกกูว่าจะไปเดินดูของไรไม่รู้มัน โน่นไงตายยากซะจริงๆแม่งพูดถึงก็มาละน่ะ” เคนพูดและชี้นิ้วไปยังเจ้าเติร์กที่กำลังเดินตรงเข้ามาพร้อมกับถุงพลาสติกสีขาวใบใหญ่ในมือ “เห้ยไอ้หน้าหล่อ ถุงไรวะนั่นน่ะ”เจ้าเติร์กยิ้มและยื่นถุงดังกล่าวให้กับเตอร์ “นี่น่ะเหรอ มึงลองดูเองล่ะกันเชี่ยเตอร์”เตอร์ เคน และเวฟเดินมามุงดูของบางอย่างที่อยู่ในถุงก่อนที่ทั้งสามจะเงยหน้ามองเจ้าเติร์กพร้อมกัน “เห้ยไอ้เติร์ก อย่างมึงนี่กูไม่เชื่อเลยว่าจะซื้อของแบบนี้ด้วย”“โถ่ๆ ไอ้เวฟ กูก็คนนินะไหนๆกูก็จะจบ ม.6 ล่ะบางทีกูก็อยากรำลึกความทรงจำสมัยเด็กมัธยมต้นบางเหมือนกันนิหว่า”“ฮื้มมมเห็นแบบนี้มึงก็ใช้ตังค์เปลืองใช่ย่อยนะไอ้เติร์ก”“เอาน่าไอ้เวฟ ขนหน้าแข้งกูไม่ร่วงแน่นอน”เตอร์รีบเดินเข้ามากอดคอเจ้าเติร์กทันควัน “ฮืมมม ถ้างั้นเสี่ยครับไหนๆวันนี้เสี่ยก็เปย์ตัวเองแล้ว งั้นเสี่ยช่วยเปย์พวกผมสามอีกคนได้ไหมครับพอดีวันนี้ผมกับเพื่อนๆอยากไปกินของหวานๆเจี๊ยบๆ ที่ Sugarpopbkk ตรงชั้น G นี่น่ะ”“ไรของมึงวะเนี่ยเชี่ยเตอร์”“ได้ไหมครับเสี่ย นะครับพรี๊ดดดด เสี่ยพูดเองนะว่าซื้อของแค่นี้แล้วขนหน้าแข้งไม่ร่วงแค่เปย์ของหวานให้กับเหล่าบริวารอีกสามคน คงไม่เท่าไหร่เนาะเสี่ย….”“กวนตีนล่ะเชี่ยเตอร์ เปย์เปอร์ไรวะ ตังค์กูจะไม่พอใช้แล้ว” “ไม่ได้กวนตีนครับ อันนี้พูดจริงนะครับเสี่ยยยเติร์ก” ในระหว่างที่ทั้งสี่กำลังยืนคุยกันอยู่นั่นเอง จู่ๆมีชายคนหนึ่งค่อนข้างสูงสวมแว่นตาและเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนเดินเข้ามาทักทาย“น้องครับ” เสียงคุยหยอกล้อกันของทั้งสี่คนถึงกับหยุดชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่ทุกคนจะหันไปมองชายคนดังกล่าวพร้อมๆกัน เตอร์ที่ยืนทำหน้างุนงงอยู่นั้นมันรีบหันไปมองทุกคนก่อนจะเอ่ยปากถามชายคนดังกล่าว “เออตะกี้พี่เรียกพวกผมเหรอครับ??” ชายคนดังกล่าวยิ้มและพูดตอบกลับ “ใช่ครับพี่เองแหละที่เรียก แต่พี่ไม่ได้หมายถึงตัวน้องนะครับ พี่หมายถึงน้องคนนี้ครับ” ชายคนดังกล่าวพูดพร้อมกับชี้มือไปยังเจ้าเติร์กที่ยืนอยู่ข้างเตอร์ทำเอาเตอร์ เคน และเวฟรีบหันไปมองเจ้าเติร์กด้วยความสงสัยพร้อมกัน “เห้ย ไอ้หน้าหล่อ พี่คนนี้ใครหรอวะนั่น” “กูก็ไม่รู้เหมือนเว้ยเชี่ยเตอร์เอ่อ พี่มีธุระอะไรกับผมหรอครับ??”“เอิ่มมไงพี่ต้องขอโทษด้วยครับที่เข้ามาขัดจังหวะน้อง ก่อนอื่น พี่ชื่อ พี่แอลนะครับ พี่เป็น Modeling agency น่ะ ส่วนน้องชื่ออะไรครับ “ผมชื่อเติร์กครับ”“อ่า น้องเติร์กคืองี้ครับเดือนหน้านี้มีบริษัทเสื้อผ้าแบรนด์ชื่อดังกำลังต้องการนายแบบวัยรุ่นหน้าใหม่ๆไปเป็นนายแบบน่ะพวกเขาเลยจ้างให้พี่มาช่วยหาเด็กวัยรุ่นหน้าใหม่ๆอย่างน้องไปน่ะครับคือเอาจริงๆนะพี่เองก็สังเกตรูปร่างและหน้าตาของน้องเติร์กตั้งแต่ตอนที่น้องเดินเข้ามาที่นี่ล่ะครับและน้องเติร์กมีหุ่นแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ เนี่ยยพี่ว่าถ้าได้น้องเติร์กไปใส่ชุดเดินแบบในงานนะพี่ว่าน้องเติร์กต้องโครตหล่อและดูดีสุดๆเลยแหละครับน้องเติร์กครับถ้าพี่จะขอให้น้องเติร์กไปเป็นนายแบบ น้องเติร์กจะตกลงไหมครับ”เจ้าเติร์กถึงกับทำหน้าเหวอไปชั่วขณะก่อนที่มันจะหันมองเตอร์และเพื่อนๆของมัน“นะครับน้องเติร์ก พี่บอกเลยว่างานนี้ได้ค่าเหนื่อยเยอะแน่นอนอีกอย่างในงานเนี่ย มีทั้งดาราและคนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงหลายคนมาร่วมงานเยอะด้วยครับน้อง พี่ว่าดีไม่ดีน้องเติร์กอาจได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงด้วยนะครับ”“เชี่ยเตอร์ เคน เวฟ เอาไงดีวะพี่เค้าพูดจนกูไม่รู้จะเอาไงต่อล่ะเนี่ย”“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน…แต่มันก็ขึ้นอยู่กับตัวมึงแล้วนะเว้ยไอ้หน้าหล่อว่าจะตัดสินใจยังไง” “เอ่อผมว่าพี่แอลลองไปหาคนอื่นดีไหมครับ อย่างผมนี่คงไม่เหมาะไปเป็นนายแบบหรอกครับพี่ มันดูแปลกๆยังไงๆไม่รู้”“โถ่น้องเติร์ก ไม่แปลกหรอกครับ แค่หน้าตาและหุ่นอย่างงี้เนี่ย ก็ผ่านไปเกินกว่าครึ่งแล้วนะน้องเติร์กนะครับน้องเติร์กไปนะ??” เตอร์ที่ยืนอยู่ข้างๆถึงกับเอื้อมมือมากิดแขนพร้อมกับกระซิบ “เห้ยไอ้หน้าหล่อ คิดดีๆนะเว้ยพวกกูเองก็อยากมีเพื่อนเป็นดาราคนดังเหมือนกันนะ”“เชี่ยเตอร์!!! มึงหุบปากไปเลย……เอิ่มม พี่แอลผมว่าผมขอกลับไปคิดดูก่อนนะครับ เรื่องแบบนี้ผมต้องขอปรึกษากับคนทางบ้านก่อนว่าจะยังไง ผมยังคงให้คำตอบกับพี่แอลตอนนี้ไม่ได้อะครับ ไงผมต้องขอโทษพี่แอลด้วยพี่เข้าใจผมนะครับ”แอลชักสีหน้าด้วยความเสียดายและผิดหวังเล็กน้อยกับคำพูดเจ้าเติร์ก “อ่า อ่า งั้นก็ โอเคครับ พี่เองก็ไม่อยากบังคับน้องนะไงพี่ให้นามบัตรของพี่ไว้กับน้องล่ะกัน นี่ครับน้องเติร์ก” แอลล้วงนามบัตรจากกระเป๋าเสื้อและยื่นให้กับเจ้าเติร์ก “ไงถ้าน้องสนใจติดต่อหาพี่ได้ตามที่อยู่ในนี้นะครับอย่าคิดนานนะน้องเติร์กเพราะงานมันจะมีเดือนหน้านี่ล่ะ ไงพี่ก็อยากให้น้องตอบตกลงนะครับ”เจ้าเติร์กพลิกอ่านนามบัตรไปมาก่อนรีบพูดตอบกลับ “โอเคครับพี่แอล ขอบคุณครับ ไว้ผมจะให้คำตอบครับ” วันที่ 20 มีนาคม เวลา 8.55น. “ไอด้า พร้อมยัง มัวแต่ยืนคุยอยู่นั่นแหละ”“เออ โทษทีไอ้แบมเห้ย ไอ้เก้า อีเกตุ มาๆ กูพร้อมล่ะ กล้องพร้อม 54321สวัสดีค่ะพี่น้องชาวเขียวส้มทุกคนวันนี้ก็มาพบกับไอด้าพิธีกรสุดสวยในรายการข่าวสารพาเพลินกันอีกแล้วนะคะ ก่อนอื่นเนี่ยไอด้าต้องขอบอกเลยว่าวันนี้ทางโรงเรียนของเราจัดเต็มสุดๆกันไปเลยค่ะสำหรับงานปัจฉิมของรุ่นพี่ม.6 และรุ่นน้องม.3 ในปีนี้ แต่เอ้….แล้วจัดเต็มที่ว่ามันเป็นยังไงกันนะทุกคนหากจะให้ไอด้าบอกเลยตอนนี้เดี๋ยวคงไม่เร้าใจกันพอดีค่ะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวไอด้าจะพาทุกคนเยี่ยมชมบรรยากาศงานไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า….”เฟิร์สที่กำลังยืนรื้อเอาของจากตู้ล็อกเกอร์ห้องศิลปะอยู่นั้นในระหว่างที่มันกำลังจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันถึงกับกับสะดุ้งตกใจกับเสียงเรียกดังจากด้านหลังของมัน “ไอ้เฟิร์ส….”“เห้ยยยย!!แม่งงงไอ้เบทเชี่ยยย ไรของมึงวะมาไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียง เล่นซะกูตกใจหมด” “โห่ยไอ้เฟิร์สเอ้ยยยกูก็เดินมาตามปกติของกูนะเว้ยไม่ได้ย่องมาสักหน่อย มึงนั่นแหละทำไรอยู่จนไม่สนฟ้าสนผีไรแบบนี้ขนาดกูเดินมายืนอยู่ข้างหลังมึงตั้งนาน มึงยังไม่รู้ตัวเลย”“เอ่ออกูแค่หาของของกูนิดหน่อยน่ะ ดูท่าคงจะเก็บไว้ดีเกินไปกูเลยหาไม่ยักกะเจอ”“ของไรมึงวะไอ้เฟิร์ส”“เป็นพวกรูปที่กูวาดไว้ก่อนไปแข่งทักษะน่ะตอนนั้นกูรีบกลับ กูเลยเอารวมๆกันไว้ไม่ได้แยกเก็บว่ะ ตอนนั้นมึงกับกูก็อยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอวะ มึงพอจำได้ไหมวะไอ้เบท ว่ากูเอาไว้ไหน”“อืมมเอิ่มมม อ้อๆ กูจำได้ล่ะ รูปที่มึงร่างดินสอไว้ใช่ปะ กูเห็นมึงเอาใส่ไว้ตู้อีกช่องไม่ใช่เหรอวะไอ้เฟิร์ส แล้วมึงมาหาตู้ช่องนี้คงจะเจอแหละ” เฟิร์สถึงกับยิ้มและเอื้อมมือไปตบไหล่ของเบทดังปั๊บ “เอ่อใช่ ใช่ๆ กูนี่แม่งง สุดยอดไปเลยวะมึงไอ้เบทขอบใจเว้ยมึงขอบใจ ขอบใจ”เฟิร์สไม่รอช้ามันรีบเปิดตู้ล็อกเกอร์อีกช่องพร้อมกับหยิบกระดาษ100 ปอนด์ที่มีรูปวาดของมันซ้อนตั้งกันเป็นปึกๆมาคลี่ออกทีละแผ่นๆจนเจอภาพวาดที่มันกำลังค้นหา “นี่ไง โอ้นึกว่าจะทำหายไปซะล่ะ”เฟิร์สไม่รอช้า มันรีบดึงรูปดังกล่าวออกมาจับคลี่กางออกตรงหน้า จนเบทที่ยืนดูรูปดังกล่าวอยู่ด้านหลังเฟิร์สมันชักสีหน้าด้วยความสงสัยก่อนจะเอ่ยปากถาม “มึงนี่ก็สเก็ตรูปสวยใช้ได้เลยนี่หว่าว่าแต่คนในรูปนี้ใครหรอวะไอ้เฟิร์สเหมือนว่ากูจะเคยเห็นหน้าอยู่นะ ใครวะไอ้เฟิร์ส”เฟิร์สยืนจ้องภาพดังกล่าวด้วยสายตาอันอ่อนโยนมันถึงกับอมยิ้มขึ้นมา “คนสำคัญของกูเว้ยไอ้เบท ภาพนี้กูใส่ความตั้งใจวาดยิ่งกว่าภาพอื่นๆที่กูเคยวาดอีกนะเว้ย ภาพนี้กูขอตั้งชื่อว่าความบริสุทธิ์” เบทถึงกับหัวเราะขึ้นมาเบาๆ “มึงโตป่านนี้แล้วยังคิดไรเหมือนกับเด็กๆนะมึงนี่อะไรนะ ความบริสุทธิ์งั้นเหรอ ฮ่าๆ กูดูยังไงแม่งก็ไม่ใช่วะ ฮ่าๆ” เฟิร์สถึงกับคิ้วขมวดมันรีบใช้มือตบหัวของเบททันควัน “มึงไม่ใช่พวกหัวศิลปะอย่างกูต่อให้มึงดูยังไงก็ไม่มีทางเข้าใจมันหรอกเว้ย” เฟิร์สพูดจบมันรีบม้วนเก็บกระดาษดังกล่าวก่อนที่จะใช้ผ้าสีแดงมัดผูกเป็นรูปโบว์ไว้อีกที เบทที่โดนเฟิร์สตบหัวมันถึงกับทำหน้างงและเคืองเล็กน้อย “ไอ้ห่าเฟิร์สนิ ตบหัวกูซะแรงเชียว ไรของมึงวะนี่ มึงโกรธที่กูพูดแซวเมื่อกี้น่ะหรอ” เฟิร์สเงียบและรีบเก็บรูปดังกล่าวเข้าตู้ล็อกเกอร์เช่นเดิม “ว่าแต่มึงมาหากูมีธุระไรวะไอ้เบท” “เอ่อมึงก็ชวนคุยซะกูลืมลย ปะปะ ไอ้เฟิร์สครูเค้าประกาศเสียงตามสายเรียกให้ม.6 ทุกคนไปรวมตัวกันที่ลานอเนกประสงค์ กูกับคนอื่นๆไม่เห็นมึงกูเลยคิดว่ามึงต้องมาที่นี่แน่นอน”“อ่าวแล้วมึงไม่รีบบอกกูแต่แรกวะไอ้เบท มาเร็วมา”“เอ่อๆไอ้เฟิร์สกูได้ยินพวกคนอื่นๆเค้าคุยกันว่าจะให้มึงเป็นตัวแทนนักเรียนรุ่นพี่กล่าวความรู้สึกกับทางโรงเรียน มึงเตรียมตัวมาแล้วใช่ไหม”“เอ่อ ๆมันอยู่ในหัวกูหมดล่ะเว้ย” “แล้วทำไมครูเค้าถึงต้องให้มึงกล่าวล่ะวะไอ้เฟิร์ส กูไม่เข้าใจปกติมันน่าจะเป็นพวกไอ้สุจินหรือไม่ก็ยัยเพชรที่เป็นพิธีกรงานโรงเรียนกล่าวไม่ใช่เหรอวะ”“คืองี้เว้ยไอ้เบท ครูหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมเค้าต้องการให้กูที่เป็นอดีตประธานนักเรียนเมื่อปีก่อนเป็นคนกล่าวเพราะมันจะดูดีและมีความขลังมากกว่าน่ะ เลยต้องมาเดือดร้อนกูแบบนี้ไง มึงเข้าใจยังไอ้เบท”“อ้อๆงี้นี้เอง กูเข้าใจล่ะ” เวลา 9.00 น.ในขณะที่เจ้าเติร์กกับเพื่อนๆของมันกำลังยืนเตรียมตัวเข้าแถวยังบริเวณลานอเนกประสงค์อยู่นั้น “วรภพ นายวรภพ มานี่ก่อน!!!มาหาครูหน่อย”“หวัดดีครับครูวิมลวรรณครูมีอะไรรึป่าวครับ” “เดี๋ยวเธอไปเอาพานดอกไม้ที่ครูอาณัตินะนายวรภพอีกเดี๋ยวตอนเดินลอดซุ้มธงโรงเรียนครูกับคนอื่นๆตกลงกันว่าจะให้เธอเป็นคนถือพานดอกไม้คู่กับหญิงเอมิกาห้อง 2 เดินนำพานักเรียนสายม.6 ทั้งหมดเข้าหอประชุมน่ะ”เจ้าเติร์กถึงกับทำหน้าเจือนด้วยความลังเลขึ้นทันใด “เอ่อออครู!!!จะดีเหรอครับไมต้องเป็นผมด้วยอะ เปลี่ยนเป็นคนอื่นไม่ได้เหรอครับครูอีกอย่างผมไม่ได้เตรียมตัวแบบนี้ ผมกลัวจะทำเสียงานน่ะครับครู”“หืมมมไม่มีอะไรซับซ้อนหรอกนายวรภพอย่าคิดมากเหตุผลที่พวกครูตัดสินใจเลือกเธอก็เพราะคนที่จะมาถือพานเดินนำเพื่อนๆในทุกๆปีเนี่ย ต้องมีเกรดเฉลี่ยสูงสุดในสายชั้นซึ่งเธอเองก็ได้เกรดเฉลี่ยมากที่สุดในฝั่งของนักเรียนชายสายชั้นม.6บวกกับเธอหน้าตาดีที่สุดแล้วอีกทั้งยังเป็นเด็กกิจกรรมของโรงเรียน อย่างงาน SAE Meeting ที่ผ่านมาก็ได้เธอเป็นคนออกแบบตีมงานไม่ใช่เหรอ ทีนี้เข้าใจพวกครูยังว่าทำไมถึงเลือกเธอ ใช่ว่านักเรียนทุกคนจะได้ทำหน้าที่นี้ในวันปัจฉิมนะนายวรภพของแบบนี้มันมีความหมายลึกๆแฝงอยู่ ตกลงเธอถือนะนายวรภพ”“ครับครูวิมลวรรณ ขอบคุณครับ” “งั้นเธอรีบไปหาครูอาณัติเลย เดี๋ยวพิธีการจะเริ่มล่ะ” เจ้ารีบยกมือไหว้และหันหลังวิ่งดิ่งตรงไปหาครูอาณัติที่กำลังยืนจัดแถวนักเรียนม.3อยู่ไม่ไกล ในระหว่างที่มันกำลังเดินผ่านแถวม.6 ที่กำลังจัดอยู่นั้นเองเจตกับตี๋มันเห็นเจ้าเติร์กเดินผ่านด้วยสีหน้าเคร่งเครียดทั้งสองถึงกับรีบเอ่ยปากถาม “ไอ้เติร์ก ทำหน้าเคร่งเครียดมาแต่ไกล เป็นไรวะมึงและนี่จะรีบไปไหนวะห๊ะ”“ครูตะกี้ครูวิมลวรรณเพิ่งมาบอกให้กูถือพานดอกไม้นำพวกเราสายม.6 ลอดซุ้มธงเว้ยไอ้ตี๋”“เอ้ยยยย ดีสิมึง กูว่ามึงควรดีใจนะไอ้เติร์กที่ครูเค้าเลือกมึง มึงรู้ไหมว่าคนที่ได้ถือน่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นคนสำคัญๆของสายชั้นนั้นๆนะเว้ยมึงแบบนี้มึงยิ่งต้องยิ้มซิวะ”เจตรีบพูดเสริมขึ้นอีกคน “ใช่ๆ อย่างที่ไอ้ตี๋มันบอกแหละ แล้วมึงจะทำหน้าเครียดไปทำไมวะรึว่านี่มึงกำลังตื่นเต้น??”“ก็คงทั้งสองนั่นแหละมั้งไอ้เจต แต่จะไม่ให้กูเป็นอย่างงี้ได้ไง มึงคิดดูครูเค้าเล่นมาบอกกูหน้างานแบบนี้แล้วยิ่งเป็นงานสำคัญๆด้วย เป็นมึงจะไม่ประหม่าเหรอวะไอ้เจต ถ้าครูเค้าบอกกูล่วงหน้าสักอาทิตย์ กูจะไม่ว่าไรสักคำเลย”ไอ้ตี๋ยิ้มและยื่นมาไปจับไหล่ซ้ายเจ้าเติร์กไว้มั่น “เอาน่ามึง ก็เพราะครูเค้าเห็นมึงเก่งและมีความสามารถสูงไง ครูเค้าเลยจัดเซอร์ไพรส์มึงแบบนี้”“โห่ยยเซอร์ไพรส์แบบนี้บางทีกูก็ไม่ไหวนะเว้ยไอ้ตี๋เห้อออเดี๋ยวไว้คุยกันเว้ย กูไปหาครูอาณัติแปป” หลังจากที่เจ้าเติร์กเดินไปติดต่อกับครูอาณัติจนรับพานดอกไม้และเดินกลับไปที่แถวม.6 เจมส์ที่ยืนคุยกับเพื่อนของมันอยู่ในแถวชั้นม.3 ทันทีที่เห็นเจ้าเติร์กยืนคุยกับครูอาณัติและเดินจากไป มันถึงกับมองตามหลังเจ้าเติร์กด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ “พี่เติร์ก ผมคิดถึงพี่ทุกๆวันเลยนะ...” หลังจากที่ทุกคนจัดแถวตามลำดับชั้นของตัวเองแล้วครูหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมเลยสั่งให้นักเรียนชั้นม.3ทุกคนเดินเรียงเป็นสองแถวออกจากลานอเนกประสงค์ลอดซุ้มธงโรงเรียนเข้าไปยังหอประชุมและตามเด็กนักเรียนชั้นม.6 โดยมีเจ้าเติร์กกับเอมิกาเดินถือพานดอกไม้นำหน้าแถวระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินลอดซุ้มธงโรงเรียนเสียงโห่ร้องและเสียงกรี๊ดกราดด้วยความอิจฉา ความปลื้มปิติและความดีใจของพวกรุ่นน้องที่ยืนดูอยู่ทั้งสองฝั่งดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณทางเดินไปยังหอประชุม “กรี๊ดดดดดพี่เติร์กกกกก พี่เติร์กกกกกอร้ายยยยยยหล่อโครตๆๆๆๆเลยยยยยกรี๊ดดดดดพี่เติร์กกกกยิ้มด้วยแหละ กรี๊ดดดดตะกี้พี่เติร์กมองมาทางนี้ด้วยยยย พี่เติร์กกกกอร้ายยยยอิจฉาพี่เอมมิกาจังเลยยยได้เติร์กคู่กับพี่เติร์กกกกด้วยยยย”เจ้าเติร์กถึงกับเขินอายจนหน้าขาวๆของมันเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเห็นได้ชัด “อร้ายยยยพี่เติร์กหน้าแดงด้วยยยย โครตน่ารักอะ อร้ายยยยย”เอมิกาที่เดินอยู่ข้างๆมันเห็นเจ้าเติร์กที่อยู่ในอาการเขินอายมันถึงกับต้องรีบเอ่ยปากทัก “เติร์ก นายโอเคป่าว ถือพานดีๆดิ อย่าสั่น เดี๋ยวดอกไม้ได้ร่วงจนหมดพานกันพอดี” “อืมมมโทษทีเอมิกา คือเราตื่นเต้นจริงว่ะ นี่แหละคือเหตุผลที่เราไม่อยากถือพานนำแถวแบบนี้”“นายนี่ก็แปลกคนดีนะเติร์กนายไม่ชอบเหรอที่ได้เดินนำแถวแถมพวกรุ่นน้องในโรงเรียนที่มายืนดูก็ออกจะปลื้มนายสุดๆเราว่าเติร์กควรดีใจนะ”“เอาตามตรงนะเอมิกาถ้าให้เลือก เราขอเดินอยู่ในแถวเหมือนคนอื่นๆดีกว่า แบบนั้นเราว่ามันสบายใจกว่าเยอะทำไมครูเขาไม่เอาไอ้เฟิร์สล่ะวะ” “’ง่ายๆนะเติร์กก็ไอ้เฟิร์สมันเด่นไม่เท่านายไง ถ้าจะให้เทียบกันนะเราว่านายน่ะยังเด่นกว่าไอ้เฟิร์สหลายๆด้านอยู่นะแค่หน้าตานายนะเติร์ก ก็ดับรัศมีไอ้เฟิร์สไปได้ครึ่งแล้วล่ะถ้าจะโทษน่ะนะ เราว่านายควรต้องโทษตัวเองแล้วล่ะมั้งที่ดันเกิดมาแล้วเด่นกว่าใครๆ ใช่มะเติร์ก”“หืมมมเอมิกา?? อันนี้ด่าเราอยู่ใช่ไหมเนี่ย??”หลังทุกคนในหอประชุมร่วมพิธีเปิดพร้อมกับรับฟังปัจฉิมโอวาทจากผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงเรียนตามด้วยเฟิร์สซึ่งเป็นตัวแทนนักเรียนขึ้นมากล่าวแสดงความรู้สึกต่อคณะครูและทางโรงเรียนก่อนจะตบท้ายด้วยพิธีบายศรีสู่ขวัญผูกข้อมือเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจจนพิธีการในช่วงเช้าเสร็จสิ้นแล้วครูหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมจึงปล่อยให้นักเรียนม.3และ ม.6 ออกจากหอประชุมไปตามซุ้มและมุมต่างๆของโรงเรียนเพื่อถ่ายรูปและทำกิจกรรมระลึกความทรงจำก่อนจากจบจากรั้วสถาบันนี้ไป“โห่เติร์กปีนี้คนแม่งมาเที่ยวงานปัจฉิมโรงเรียนเราเยอะจริงว่ะ แม่งทั้งนักเรียนผู้ปกครองและคนอื่นๆ แห่มาจากไหนกันเยอะแยะวะ”“มันก็อย่างว่านะไอ้เจต เห็นไอ้ตี๋เล่าให้ฟังว่างาน SAE Meeting ที่ผ่านมาแม่งไปสะกิดต่อมถูกใจของคนในโลกโซเชี่ยลจนใครต่อใครหลายคนให้ความสนใจกับกิจกรรมโรงเรียนเราตั้งแต่นั้นมา มันก็เลยเป็นอย่างที่มึงเห็นนี่แหละ” “แต่ถ้าเป็นงั้นจริงกูว่าก็ดีนะเว้ยไอ้เติร์ก ปีหน้าแม่งจะได้มีนักเรียนจากที่อื่นแห่มาสมัครเรียนต่อกันที่โรงเรียนเราเยอะๆไงแต่พูดก็พูดเหอะวะ ปีหน้ากูคงอดส่องน้องม.4 มาใหม่ๆแจ่มๆเลย”“เห้ยยยเดี๋ยวมึงไปส่องสาวมหาลัยก็ได้นิหว่าไอ้เจตกูว่าไงต้องดูดีกว่าสาวมัธยมอยู่แล้วนะเว้ย ว่าแต่มึงจบนี่จะไปต่อไหนวะไอ้เจต” “กูน่ะเหรอกูว่าจะหาไปทำงานเก็บตังค์กับพี่กูก่อนนะแล้วค่อยหาที่เรียนต่อปีหน้าเอามึงล่ะไอ้เติร์ก เรียนต่อไหน??” “กูจะไปเรียนต่อที่…..”ทันใดนั้นเองสายตาของมันเหลือบไปเห็นน้าเอมกับอาปลื้มที่กำลังเดินดูซุ้มถ่ายรูปต่างๆในงานปัจฉิมเป็นจุดๆด้วยกันห่างจากจุดที่มันยืนอยู่ไปประมาณ 150 เมตรโดยมีสองพี่น้องบิว บอลเดินจับมือกันตามหลังทั้งสองมาติดๆ “เห้ยๆ เจตกูไปหาน้ากับอากูก่อนนะเว้ย เดี๋ยวค่อยคุยกัน” เจ้าเติร์กพูดพร้อมกับรีบเดินปรี่ตรงเข้าไปหาอาปลื้มกับน้าเอมทันที และเมื่อไปถึงเจ้าเติร์กไม่รอช้ามันรีบยกมือไหว้ทั้งสองด้วยความดีใจ “หวัดดีครับ อาปลื้ม น้าเอม ผมนึกว่าอาปลื้มกับน้าเอมจะไม่มาแล้วนะเนี่ย”น้าเอมถึงกับอมยิ้ม “แหมเติร์ก นี่งานสำคัญของเติร์กเชียวนะ บิวก็เองก็บ่นๆว่าอยากมางานตั้งแต่เช้าล่ะ อาปลื้มเองก็อยากมาถ่ายรูปเติร์กเก็บไว้ด้วยวันนี้เติร์กดูหล่อมากเลยลูก”“โห่น้าเอมก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ” เจ้าบิวที่ยืนฟังอยู่มันรีบเดินผละจากเจ้าบอลมาจับมือขวาเจ้าเติร์กไว้มั่นและเงยหน้าขึ้นมองเจ้าเติร์ก “พี่เติร์กงานสวยมากเลยค๊าบมีซุ้มเหมือนงานแต่งงานอยู่เต็มไปหมดเลย แต่ละอั้นก็สวยๆทั้งนั้นเลยค๊าบบ”“ขนาดนั้นเชียว….แล้วบิวชอบไหมครับ” “ชอบจิค๊าบบพี่เติร์ก บิวชอบมากๆ” น้าเอมที่ยืนฟังถึงกับหัวเราะขึ้นมา “ถ้าบิวชอบขนาดนั้นเดี๋ยวแม่ถ่ายรูปให้มะ พี่ๆขอกล้องหน่อยไหนจะถ่ายซุ้มไหนดี??”เจ้าบิวยิ้มด้วยความดีใจก่อนจะหันไปมองเจ้าเติร์กิ “พี่เติร์กชอบซุ้มไหนค๊าบบ”“พี่ก็ชอบทุกซุ้มนะบิว อืมมมพี่ว่าเอาซุ้มตรงนี้ดีกว่าครับ คนไม่เยอะดี แถมมีดอกไม้ที่บิวชอบเยอะด้วย”ในระหว่างที่เจ้าเติร์กและบิวกำลังเดินไปที่ซุ้มด้วยกัน เจ้าบอลมันรีบวิ่งตามทั้งสองเข้าไปด้วยอีกคน “พี่บิวพี่เติร์ก บอลถ่ายด้วยจิคัฟฟ”เจ้าบิวมันถึงกับทำหน้าเคืองนิดๆพร้อมรีบหันไปจับตัวเจ้าบอลไม่ให้เข้ามา “ไม่เอาบอล พี่อยากถ่ายคู่กับพี่เติร์กแค่สองคนเดี๋ยวบอลค่อยถ่ายทีหลัง ไปยืนรอข้างๆแม่เลยบอล”เจ้าบอลถึงกับทำหน้าด้วยความไม่พอใจขึ้นมา “อืออ ไม่เอาบอลจะถ่ายด้วยอะ บอลอยากมีรูปคู่พี่เติร์กพี่บิว และบอล สามคนพี่น้อง”“ไม่เอาบอลแม่เอมดูบอลสิ ดื้ออีกแล้ว บิวอยากถ่ายคู่กับพี่เติร์กก่อนอะแม่เอม นะแม่เอม” น้าเอมที่ได้ยินถึงกับส่ายหน้าและรีบพูดตัดบท “อะอะ ตามนั้นล่ะกันบิว บอลลูกออกมาก่อน ไว้แม่ถ่ายพี่เติร์กกับพี่บิวเสร็จ เดี๋ยวบอลค่อยเข้าไปแทรกนะลูก” เจ้าบอลที่ได้ยินเช่นนั้นมันเลยเดินออกมาด้วยความไม่เต็มใจสักเท่าไหร่“อะ ทั้งสอง มองกล้องบิวยิ้มๆหน่อยลูก อะแบบนั้น 123” ไม่นานนักระหว่างที่เจ้าเติร์ก น้าเอม อาปลื้ม บิวและบอลเดินถ่ายรูปตามจุดต่างๆอยู่นั้น เตอร์มันวิ่งปรี่เข้ามาพร้อมเรียก “เห้ยหน้าหล่ออยู่นี่เองหรอวะนึกว่าหายหัวไปไหน” เสียงเรียกของเตอร์ทำเอาเจ้าเติร์กน้าเอม อาปลื้ม บิวและบอล หันไปมองเตอร์ด้วยความตกใจจนเตอร์ที่กำลังวิ่งเข้ามายืนนิ่งสตั้นไม่เป็นท่า ก่อนที่มันจะยิ้มเจือนๆและยกมือขึ้นไหว้ “เอ่อออ ผม ผมขอโทษครับ หวัดดีครับ น้าเอม อาปลื้ม”“อ่าเตอร์ ว่าไงเรียกซะทำพวกอาตกอกตกใจกันหมด”“แหะๆ ขอโทษครับ คือตอนนี้พวกเพื่อนๆห้องผมเค้ากำลังรวมตัวจะถ่ายรูปหมู่กันที่ซุ้มใหญ่หน้าตึกอำนวยการอะครับผมเลยรีบมาตามเติร์กไปถ่ายรูปหมู่ครับอาปลื้ม ถ้าอาปลื้มไม่ว่าอะไรเดี๋ยวผมขอพาเติร์กไปก่อนนะครับเดี๋ยวจะโดนเพื่อนๆจะว่าเอา”“อ่าๆ ได้ๆ เติร์ก ปะ รีบๆเดี๋ยวพวกอาตามไป”เตอร์มันยกมือไหว้อีกครั้งและใช้มือคว้าแขนเจ้าเติร์กพาเดินออกมา “ไรของมึงวะเชี่ยเตอร์ จะรีบไรนักหนาวะ”“มึงนี่ก็นะไอ้หล่อนี่วันปัจฉิมนะเว้ย เวลานี่มึงควรใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆให้คุ้มค่าดิวะกับคนทางบ้านเดี๋ยวไงมึงกลับไปมึงก็มีเวลาเต็มที่อยู่แล้ว นี่ถ้ากูไม่เจอไอ้เจตนะกูว่ามึงคงพลาดช็อตเด็ดไปหลายช็อตแน่เว้ย มาๆ” ทันทีที่เตอร์พาเจ้าเติร์กไปถึงซุ้มถ่ายรูปใหญ่เพื่อนๆในห้องของมันที่ยืนค่อยท่าอยู่ก่อนหน้าถึงกับต่อว่าและโห่ใส่เจ้าเติร์กจนมันต้องรีบยกมือไหว้ขอโทษทุกคนยกใหญ่ หลังถ่ายรูปหมู่เสร็จพวกรุ่นน้องเลยประกาศเรียกให้พี่ๆม.6ไปยังสนามโรงเรียนก่อนจะมายืนล้อมวงร้องเพลงและทำการบูมให้รุ่นพี่จนเสร็จสรรพจากนั้นจึงต่อด้วยกิจกรรมรำลึกส่งท้ายที่พวกรุ่นน้องจะทำการมอบของต่างๆที่เตรียมมาและเขียนเสื้อให้กับรุ่นพี่ที่ตนเองชื่นชอบในระหว่างที่เจ้าเติร์กกำลังถูกพวกรุ่นน้องทั้งผู้หญิงและผู้ชายหลายต่อหลายคนยืนรุมล้อม บ้างก็ขอถ่ายรูป บ้างก็รอมอบของ บ้างก็รอเขียนเสื้อ “พี่เติร์กคะอันนี้หนูตั้งใจซื้อมาให้พี่ด้วยนะคะ นี่ค่ะพี่เติร์ก”“พี่เติร์กครับผมชื่นชมพี่มากๆเลยนะครับ พี่เป็นไอดอลของผมและเพื่อนๆในห้องหลายต่อหลายคนเลยนะพี่ถ้าพี่ไม่ว่าอะไร พี่เขียนเสื้อให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”“พี่เติร์กคะวันนี้หนูดีใจมากเลยค่ะที่ได้มาเห็นตัวจริงของพี่ หนูติดตามพี่ทั้งในไอจี ในเฟส และในทวิตเตอร์ของพี่ด้วย หนูชื่อบิ๋ม นะคะหนูนั่งรถขึ้นมาจากกรุงเทพเพื่อมาเจอพี่โดยเฉพาะเลยหนูขอถ่ายรูปคู่กับพี่ได้ไหมคะ”“พี่เติร์กครับผมตัดกระดาษสาทำช่อดอกไม้ให้พี่ครับ ผมให้พี่เติร์กนะครับ ผมชื่อ ก๊อต นะครับอยู่ม.2 พี่อย่าลืมผมนะ”5 นาทีผ่านไปตอนนี้ในมือของมันเต็มไปด้วยช่อดอกไม้ ลูกโป่งแฟนซีและพวกมาลัยชนิดต่างๆทั้งที่เป็นแบบลูกอมแบบซองถุงยางอนามัย หรือแบบเงินธนบัตร และผ้าเจ็ดสีพันมัดรอบห้อยคอเจ้าเติร์กจนรุงรังอยู่เป็นจำนวนมากจนมันต้องเรียกให้เตอร์กับเคนที่อยู่ใกล้เคียงให้มาช่วยมัน “เชี่ยเตอร์ เคน มึงสองคนมาช่วยกูหน่อยโว้ยยย ไม่ไหวแล้ว”เตอร์กับเคนที่ได้ยินเช่นนั้นมันเลยรีบเดินเข้าไปดึงตัวเจ้าเติร์กแยกออกจากกลุ่มรุ่นน้องที่เข้ามารายล้อมมันอย่างรวดเร็ว “เอ่อ น้องครับตะกี้พวกเพื่อนๆพี่เขาจะไปขึ้นไปถ่ายรูปความทรงจำกันที่ห้องวิทย์น่ะไงพี่กับพี่เคนขอดึงตัวพี่เติร์กไปสักแปปนะน้อง เดี๋ยวค่อยว่ากันครับไอ้หล่อมาๆ” เตอร์กับเคนไม่รอช้ามันรีบคว้าแขนทั้งสองของเจ้าเติร์กและพาเดินไปทางตึกวิทย์ทันที“เฮ้ฮฮขอบใจมึงทั้งสองมากนะเว้ยย โดนพวกรุนน้องมายืนล้อมแบบนั้นทั้งร้อนและอัดอัดจนเกือบหายใจไม่ออกเลยวะ”เตอร์กับเคนถึงกับหัวเราะขึ้นพร้อมกัน “เอ้ยยย ไรวะก็มึงเป็นเซเลปของโรงเรียนนี่หว่า ทำไงได้ล่ะวะนี่คือชะตากรรมที่มึงต้องเผชิญในวันนี้เว้ยยยไอ้หน้าหล่อ”“ใช่ ไอ้เตอร์พูดถูกมึงควรภูมิใจนะเว้ย นี่นี่ มึงดูพวกกูสองคนดิ๊ แม่งยืนตั้งแต่เช้าล่ะแม่งได้ของปัจฉิมมาแค่เนี่ย แม่งผิดคาดกว่าที่คิด” “เชี่ยเตอร์ เคน ถ้ามึงไม่ถือสาอะไรมึงก็แบ่งของจากกูไปก็ได้นะเว้ยดูสิเนี่ยเยอะเกิ้นนน” เตอร์รีบยิ้มที่มุมปากขึ้นทันที “ไม่ดีเว้ยไอ้หน้าหล่อ นี่ของที่พวกรุ่นน้องตั้งใจให้มึงเชียวนะถ้ามึงให้พวกกูสองคนมาแบบนี้ แม่งรู้สึกแปลกๆไงไม่รู้ว่ะ แต่ถ้ามึงให้จริงๆกูก็ไม่ปฏิเสธนะเว้ย จริงไหมวะไอ้เคน”“เห้ยไอ้เตอร์ โลภมากนะมึงนิ ไอ้เติร์กมันเพื่อนเรานะเว้ย มึงยังจะกล้าเอาของของมันอีกหรอวะ มึงดูดิ คนเดินผ่านไปมาเยอะด้วยแม่งโครตน่าเกลียดว่ะ ไว้หาที่ลับตาก่อนดิวะ มึงกับกูค่อยมาแบ่งกัน” “ทำเป็นมาปากดีนะมึงนิไอ้เคนว่าแต่มึงเหอะไอ้หล่อนี่เสื้อนักเรียนรึเสื้อลงอักขระอาคมกันแน่วะ โห เขียนไรบ้างวะเนี่ย รักนะสุดหล่อเป้าอูมใหญ่จุงเบยฮ่าๆเห้ยไอ้หน้าหล่อที่มึงไปโชว์ของลับให้ใครดูตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ดูซิเนี่ยแม่งใช้ปากกาเมจิแดงเขียนซะเข้มเชียว” เจ้าเติร์กที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับทำหน้าเหวอ “เห้ยๆ จริงเหรอวะเชี่ยเตอร์ไหนๆ” เจ้าเติร์กพูดพร้อมกับรีบยื่นของในมือให้เตอร์กับเคนถือก่อนที่จะเอามือแกะกระดุมถอดเสื้อนักเรียนออก “เห้ยๆๆ อย่าถอดตอนนี้ดิ เสียมารยาทนะมึง ใส่ก่อนๆไว้ตอนกลับบ้านค่อยถอดเว้ยย มึงไม่รู้เหรอว่ามันเป็นธรรมเนียมที่นี่ทุกปีตอนงานปัจฉิม หากใครถอดก่อนนะเว้ยแม่งก็เป็นไอ้งั่งอะ” เจ้าเติร์กที่กำลังแกะกระดุมมันถึงกับยืนนิ่งและทำสีหน้าลังเลแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “เดี๋ยวนะ นี่มึงพูดจริงเหรอวะ รึอำกูเล่น” “กูพูดจริงเว้ย หากมึงเรียนตั้งแต่ม.1 ที่นี่เหมือนกูแม่งมีอีกเยอะที่มึงยังไม่รู้ มึงเชื่อกูใส่ไว้งั้นแหละรึมึงอยากจะได้ฉายาว่าไอ้งั่งของรุ่นนี้” เคนถึงกับหันไปกระซิบกับเตอร์เบาๆ “มึงนี่ก็นะ ชอบแกล้งอำมันอยู่เรื่อย ดูสิน่ะที่มึงพูดไปมันเสือกเชื่อมึงด้วย” “เออน่ามึงหุบปากไว้ ถือเป็นการแกล้งส่งท้ายก่อนจบเว้ย” “เห้ย พวกมึงสองคนกระซิบไรกันวะ บอกกูด้วยคนดิ”“เอิ่มม ไม่มีไรเว้ยว่าแต่เสียดายเนาะที่มึงปฏิเสธพี่แอลไปเรื่องเดินแบบกูกับไอ้เคนลองมาคิดๆกันดูแล้วว่ามึงไม่เสียดายเหรอวะ นั่นโอกาสทองเลยนะนั่น” “ไม่หรอกเว้ยกูว่าดีแล้วล่ะที่ปฏิเสธไป เป็นตัวของตัวเองแม่งดีที่สุดแล้วเว้ย ไม่ต้องให้ใครมาจับผิดหรือบงการให้เราเป็นโน่นนี่นั่น จริงอยู่ว่ามันเป็นโอกาสทองแต่ของแบบเนี่ยแม่งก็ดาบสองคมเหมือนกันนะเว้ยมึง มึงก็น่าจะรู้ว่ากูหมายถึงอะไร” “เออๆก็เอาที่มึงสบายใจล่ะกัน เอ่อ เกือบลืมไปแหน่เรื่องที่มึงฝากให้กูช่วยเรื่องหนิงเมื่อตอนนั้นน่ะกูไปขอให้พี่ครอสช่วยแล้วนะเว้ยพี่เค้าไปช่วยพูดกับหนิงให้แล้วล่ะถ้ามึงอยากคุยกับหนิง ให้มึงไปที่ห้องญี่ปุ่นตอนนี้เลย หนิงเค้ารอมึงอยู่ที่นั่น”เจ้าเติร์กถึงกับทำหน้าตื่นตกใจ “เห้ยแล้วเรื่องสำคัญแบบนี้ไมมึงไม่รีบบอกกูล่ะวะเชี่ยเตอร์โห่ยยยอะกูฝากหน่อยล่ะกัน” ไม่ทันที่เตอร์จะเอ่ยปากตอบ เจ้าเติร์กมันถอดเอาของปัจฉิมต่างๆจากตัวมันฝากกับเตอร์และเคนพร้อมกับรีบวิ่งออกไปทันทีเมื่อมันมาถึงประตูหน้าห้องภาษาญี่ปุ่นเจ้าเติร์กถึงกับหยุดยืนนิ่งมันรู้สึกถึงความประหม่าและตื่นเต้นที่จะได้เจอและพูดคุยกับหนิงมันเลยค่อยๆสูดหายใจเข้าออกช้าๆหลายต่อหลายที จนมันเอื้อมมือไปจับและเลื่อนเปิดประตูกระจกพร้อมกับพาตัวมันก้าวเดินเข้าไปทันทีที่ประตูเลื่อนถูกเปิดออกพร้อมกับสียง ครึดดดของประตู หนิงกับหยกที่นั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะเรียนทั้งสองถึงกับหันมามองเจ้าเติร์กพร้อมกัน และด้วยสายตาของทั้งสองที่มองมายังเจ้าเติร์กมันถึงกับยืนนิ่งจนทำไรไม่ถูกอยู่ครู่ใหญ่จนมันเอ่ยปากขึ้นมา“เออ โทษนะที่เรารบกวน เอออออเดี๋ยวเรา….จะออก….ไป….ก่อน” มันพูดพร้อมกับจะหันหลังเดินกลับแต่ทันใดนั้นหยกได้เอ่ยปากพูดขึ้นมา “เติร์ก!!! เดี๋ยวเราว่าจะออกไปเข้าห้องน้ำน่ะ” หยกรีบลุกจากเก้าอี้และเดินมาจับแขนขวาเจ้าเติร์กไว้อย่างรวดเร็ว “เติร์กอยู่เป็นเพื่อนหนิงก่อนได้ไหม เดี๋ยวเรามา นะเติร์ก อยู่เป็นเพื่อนหนิงก่อน” หยกยิ้มให้เจ้าเติร์กและเดินออกจากห้องไปทันทีทิ้งให้เจ้าเติร์กยืนอำอึ้งอยู่แบบนั้น “เติร์กไม่เมื่อยเหรอ มัวแต่ยืนอยู่แบบนั้นน่ะนั่งก่อนสิ” เจ้าเติร์กได้ยินเช่นนั้นมันถือว่าก้มหน้าก้มตาค่อยๆเดินมานั่งที่โต๊ะเรียนพร้อมกับหันไปมองหนิงด้วยความตื่นเต้น “หนิง คือ เออ หนิงสบายดีใช่ป่าว” หนิงยืมและส่ายหน้า “สบายดี แล้วเติร์กล่ะ”“เติร์กก็….ตามอัตภาพ”“อืมมมเร็วเหมือนกันเนาะไม่น่าเชื่อเผลอแปปเดียวนี่พวกก็เราจะจบม.6 ล่ะ” เจ้าเติร์กมันยังคงมองหน้าหนิงจนหนิงที่พูดอยู่หันมาสบตากับมันเข้าจังๆ “เติร์กรู้ไหมว่าสายตาของเติร์กน่ะยังคงดูอ่อนโยนไม่เปลี่ยนเลยนะ…...” “หนิง คือเติร์กอยากถามไรหนิงหน่อยได้ไหม” หนิงรีบพูดตัดบทและลุกย้ายมานั่งโต๊ะข้างๆเจ้าเติร์ก “เติร์กเวลามีน้อยนะ หนิงรู้ว่าเติร์กจะถามอะไรหนิงแต่หนิงมีเรื่องๆหนึ่งอยากเล่าให้เติร์กฟังก่อนเติร์กตั้งใจฟังนะหนิงมีพี่สาวคนหนึ่งชื่อโนอาหนิงกับพี่ห่างกันแค่สองปีหนิงกับพี่โนอาสนิทและรักกันมากคอยช่วยเหลือกันมาโดยตลอดตั้งแต่เด็กล่ะ ซึ่งตรงข้ามพ่อกับแม่หนิงโดยสิ้นเชิง แม่หนิงเป็นคนเก่งและอีโก้สูงส่วนพ่อเป็นคนเรียบง่ายและเข้ากับคนอื่นได้ดีมาก เลยทำให้แม่ชอบทะเลาะกับพ่อในเรื่องของความเห็นส่วนตัวที่ไม่ลงรอยและรสนิยมที่ต่างชั้นกันอยู่บ่อยๆพอหนิงขึ้นม.1 พ่อกับแม่เลยตัดสินใจแยกกันอยู่ตั้งแต่นั้นมาแต่ก็ยังคงดูแลหนิงกับพี่โนอาอยู่เสมอ หลังจากที่พ่อแยกไปสักพักแม่หนิงเลยกลายเป็นคนชอบสันโดษและมองว่าเรื่องชีวิตคู่กับความรักเป็นเรื่องไร้สาระที่มีแต่ปัญหา คือมันก็ไม่แฟร์เนาะเติร์กที่เอาความเห็นส่วนตัวมาบังคับชีวิตคนอื่นให้คิดเหมือนกับตัวเองพอพี่โนอาขึ้นม.4 พี่โนอาได้แอบคบกับรุ่นพี่คนหนึ่งต่างโรงเรียนจนถึงม.5 พอแม่รู้เรื่องนี้เข้าแม่กับพี่โนอาเลยทะเลาะกันหนักมากจนพี่โนอาเครียดและเกือบฆ่าตัวตายสุดท้ายแม่เลยส่งพี่โนอาให้ไปอยู่กับพ่อที่ต่างประเทศและเรียนต่อที่นั้นเลยนับตั้งแต่เรื่องของพี่โนอามาแม่มักจะชอบพูดกับหนิงเสมอว่าถ้าหนิงทำตัวแบบพี่โนอาอีกคน แม่ก็จะทำแบบเดียวกันกับพี่โนอาที่หนิงเล่าเรื่องนี้ให้เติร์กฟังเนี่ยเพราะหนิงเองก็อยากให้เติร์กเข้าใจเหตุผลว่าทำไมจู่ๆหนิงถึงต้องห่างเติร์กไปแบบนั้น หนิงขอโทษ หนิงรู้ว่ามันทำให้เติร์กต้องเจ็บปวดใจหนิงรู้ว่าเติร์กต้องเสียใจที่หนิงทำแบบนั้นกับเติร์กไป เพราะถ้าหนิงไม่ทำแบบนั้นหนิงก็จะโดนแบบเดียวกับพี่โนอาแน่นอน หนิงยังอยากเห็นหน้าเติร์ก ยังอยากได้ยินเสียงเติร์กทุกวันเพราะแบบนั้นหนิงเลยเลือกที่จะยอมห่างจากเติร์กดีกว่าที่จะหนิงจะต้องถูกส่งไปอยู่กับพ่อและไม่ได้เจอเติร์กอีก”เจ้าเติร์กที่นั่งฟังอยู่ถึงกับน้ำตาซึม “แต่หนิงควรจะบอกเติร์กสักคำนะสักนิดก็ยังดีหรือฝากเพื่อนมาบอกก็ได้ หนิงเล่นไม่บอกอะไรให้เติร์กรู้เลยหนิงรู้ไหมว่าเติร์กทรมาณใจขนาดไหน” “ครูเกือบทุกคนในโรงเรียนรู้จักและสนิทกับแม่หนิงมากทุกคนคอยจับตาเติร์กกับหนิงมาโดยตลอดหนิงพยายามแล้ว หลายครั้งด้วย แต่ไม่ว่าหนิงจะหาทางยังไงมันก็ล้มเหลวทุกครั้ง แม้แต่เฟสไลน์และไอจีหนิงยังโดนแม่บล็อกไม่ให้ใช้งานเลยด้วยซ้ำในตอนนั้นหนิงเองก็ไม่รู้จะทำยังไง หนิงเองก็กลัวจะแม่จะส่งหนิงไปอยู่กับพ่อด้วย” “เติร์กว่าบางทีหนิงก็คิดมากไปนะ การที่แม่พูดกับหนิงแบบนั้นน่ะ เติร์กคิดว่าแม่แค่ต้องการขู่หนิงให้กลัวก็ได้”“แม่หนิงไม่เคยขู่หรอกเติร์ก แม่หนิงทำจริงๆจนบางครั้งหนิงเองยังแอบคิดเลยว่าแม่คงไม่รักหนิงกับพี่โนอาเหมือนแต่ก่อน” “หนิง…..ถ้าแม่ไม่รักหนิงเติร์กว่าแม่หนิงคงไม่ยอมส่งหนิงจนเรียนจนจบหรอก แล้วหนิงมาคุยกับเติร์กบนห้องญี่ปุ่นสองคนแบบนี้ หนิงจะไม่มีปัญหาหรอ” “ถึงวันนี้แล้วอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดนะเติร์ก ยังดีกว่าจบแล้วแยกกันไปด้วยความค้างคากันแบบนี้ ที่ผ่านมาหนิงไม่สบายใจกับเรื่องนี้มาโดยตลอดนะเติร์ก ที่เติร์กขาดเรียนบ่อยๆและซึมๆไป เติร์กอย่าคิดว่าหนิงไม่สนใจนะ หนิงน่ะเป็นห่วงเติร์กตลอดเลยรู้ไหม”“หนิง..หนิงจะไปเรียนต่อที่ไหนเหรอ”“หนิงไปจุฬาลงกรณ์น่ะหนิงอยากเอาความรู้ภาษาญี่ปุ่นที่มีไปต่อยอดที่นั่นแล้วเติร์กล่ะ เรียนต่อที่ไหน” “ตอนแรกเติร์กตั้งใจไปเรียนบริหารธุรกิจที่จุฬาลงกรณ์นะแต่พ่อกับแม่เติร์กรบเร้าให้เติร์กกลับไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กันยกใหญ่เพราะอยู่ใกล้บ้านด้วย เติร์กเลยต้องตัดสินใจทำตามที่พ่อกับแม่บอกเพราะไม่อยากมีปัญหา”“เสียดายเนาะแต่ไม่เป็นไรหนิงเข้าใจจริงสิ หนิงมีของให้เติร์กด้วยนะ” หนิงยิ้มพร้อมกับหันไปก้มหยิบเอาถุงบางอย่างออกมาจากกระเป๋าหิ้วที่วางอยู่ข้างๆหนิงก่อนจะยื่นให้กับเจ้าเติร์ก “อะนี่ เสื้อสเวตเตอร์ตัวนี้หนิงตั้งใจทำให้เติร์กเลยนะพอดีเลยจะได้เอาไปใส่ตอนหน้าหนาวเพราะที่โน่นคงต้องหนาวน่าดู ลายตรงแขนนี้มันอาจดูเบี้ยวๆไปหน่อยนะเพราะหนิงเองก็ไม่ได้นั่งถักเสื้อให้ใครแบบนี้มานานละ”เจ้าเติร์กยิ้มเจือนและส่ายหน้าปฏิเสธทันที “หนิง เติร์กรับไว้ไม่ได้หรอก” “ไมอะเติร์กเติร์กไม่ชอบเหรอ” “ป่าวไม่ใช่ไม่ชอบแต่หนิงมีของให้เติร์กแบบนี้แต่เติร์กเองกลับไม่มีอะไรให้หนิงเลยมันยังไงๆไม่รู้อะหนิง”“เติร์กนี่นะ ยังขี้เกรงใจเหมือนเดิมเปะ รับไว้นะเติร์ก ถือว่าหนิงตั้งใจทำให้แล้ว อีกอย่างการหนิงได้นั่งคุยกับเติร์กจนเข้าใจเหตุผลกันแบบนี้ก็ถือเป็นของขวัญจากเติร์กที่มอบให้หนิงแล้ว” ทันใดนั้นเองหยกได้วิ่งพรวดเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าตื่นๆ “หนิง แม่หนิงมาถึงงานแล้วนะ แถมยังพาป้านงค์มาด้วยหยกว่าหนิงรีบๆลงไปเหอะ เดี๋ยวได้งานเข้ากันพอดี “ป้านงค์หรอ??แม่นะแม่จะพามาทำไมนะเฮ้ออออะหนิงให้เติร์กนะ ไงหนิงต้องขอโทษเติร์กด้วยนะที่อยู่คุยนานกว่านี้ไม่ได้” หนิงพูดพร้อมกับรีบยื่นถุงเสื้อสเวตเตอร์ใส่ในมือของเจ้าเติร์กก่อนที่มันจะรีบลุกและหยิบกระเป๋าหิ้วเดินออกไป ในระหว่างที่หนิงจะเดินออกจากห้องไปนั้นเจ้าเติร์กที่ยังอยู่ในอาการงุนงงงสับสนเล็กน้อยถึงกับรีบหันไปถามหนิง “หนิง เดี๋ยว!!!เติร์กยังกลับมาคุยกับหนิงเหมือนเดิมได้ใช่ไหม”หนิงยืนนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะหันมาตอบด้วยรอยยิ้ม “เวลาจะเป็นตัวตอบคำถามให้เติร์กเองนะ ขอแค่อย่าลืมกันก็พอ” ทันทีที่หนิงพูดจบหนิงรีบเดินออกจากห้องญี่ปุ่นตามหลังหยกไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้เจ้าเติร์กยืนอั้มอึ้งไปทั้งแบบนั้น ไปยังฝั่งของอาปลื้มที่กำลังเดินถ่ายรูปโดยมีเจ้าบอลเดิมตามหลังไปติดๆ “พ่อปลื้ม พี่บิวหายไปไหนอะคัฟ ตะกี้ยังเดินตามๆบอลอยู่เลย” อาปลื้มหันมามองเจ้าบอลก่อนจะเงยหน้าหันมองไปโดยรอบจนเห็นเจ้าบิวและน้าเอมยืนหันหลังซื้อขนมอยู่ไม่ไกล “โน่นไงบอล เห็นป่าวแม่กับพี่บิวยืนซื้อขนมอยู่ที่ร้านรูปตุ๊กตาหมีนั่นน่ะ” อาปลื้มพูดพร้อมกับชี้มือไปยังร้านดังกล่าว “คัฟฟ งั้นเดี๋ยวบอลจะไปหาแม่กับพี่บิวก่อนนะพ่อปลื้ม”“อื้มๆเดินระวังๆด้วยคนมันเยอะนะบอล” เจ้าบอลพยักหน้าและรีบวิ่งผละจากพ่อของมันไปหาน้าเอมกับเจ้าบิวที่ร้านขายขนมอย่างรวดเร็ว เมื่อไปถึงเจ้าบอลถึงกับหอบหายใจด้วยความเหนื่อยก่อนจะเดินไปดึงเสื้อพี่ของมันที่ยืนอยู่ตรงหน้า “พี่บิว แอบซื้อขนมกับแม่อีกแล้ว ไม่ชวนบอลเลย”ทันทีที่พี่มันหันมามอง เจ้าบอลถึงกับตกใจจนหน้าเหว๋อยกใหญ่ เพราะคนที่หันมามองนั้นกลับไม่ใช่พี่ชายของมันแต่อย่างใด เด็กคนดังกล่าวยืนจ้องเจ้าบอลด้วยความสงสัยก่อนจะเอามือไปสะกิดเรียกแม่ของมัน “แม่ๆ มีเด็กที่ไหนก็ไม่รู้มาดึงๆเสื้อคุยกับผมด้วยอะแม่ เนี่ยดูสิ”“ไหนลูก อ้าว หนู!!มาไงเนี่ยหลงหรอครับ หื้มม”เจ้าบอลไม่ตอบมันได้แต่ยืนมองทั้งสองไปมาพักใหญ่ก่อนจะค่อยๆถอยหลังและวิ่งกลับไปหาพ่อของมัน เมื่อมันวิ่งกลับมายังจุดเดิม พ่อของมันที่ยืนถ่ายรูปอยู่ก่อนหน้านั้นได้หายไป เจ้าบอลถึงกับทำหน้าตื่นกลัวและรีบเดินตามหาพ่อของมันไปมาทั่วบริเวณนั้นอยู่พักใหญ่ซึ่งในหัวของมันคิดและจินตนาการไปต่างๆนาๆว่า หากมันหาพ่อกับแม่ไม่เจอมันจะทำยังไงหรือหากว่ามีใครมาจับตัวไปเหมือนที่มันเคยดูในทีวีมันจะทำยังไงเจ้าบอลทำหน้าซึมๆมันค่อยๆเดินไปตามถนนและกวาดสายตามองฝ่าผู้คนมากมายทั้งนักเรียนและผู้ปกครองที่มาเที่ยวงานปัจฉิมกันเป็นจำนวนมากมันเดินอยู่นานพอตัวจนมันเริ่มเมื่อยขา เจ้าบอลมันเลยเดินไปนั่งยังเก้าอี้ไม้ตรงสวนย่อมหน้าอาคารเรียนสังคมศึกษา มันนั่งมองผู้คนที่เดินผ่านมันไปมาจนความหวาดวิตกในใจของมันทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนน้ำตาแห่งความเศร้าและความกลัวค่อยๆเริ่มซึมออกมาคลอเบ้าตาของมันทั้งสองเจ้าบอลมันเลยก้มหน้าลงพร้อมกับเอามือทั้งสองขึ้นมาเช็ดน้ำตา แต่ทันใดนั่นเอง “ไง๋มานั่งอยู่คนเดียวแบบนี้ล่ะหืม” เจ้าบอลถึงกับตกใจจนรีบเงยหน้าขึ้นไปมองยังต้นเสียงที่อยู่ตรงหน้า “พี่เฟิร์สสสสส” เจ้าบอลมันรีบกระโดดลงจากเก้าอี้ที่มันนั่งอยู่และพุ่งตรงเข้าไปกอดขาเฟิร์สที่ยืนอยู่ตรงหน้ามันไว้แน่น ใจของมันในตอนนี้ทั้งรู้สึกโล่ง สบายใจและมีความสุขอย่างถึงที่สุดก่อนที่มันจะเงยหน้าขึ้นมองเฟิร์สและเสื้อนักเรียนของมันที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือจากปากกาเมจิก และสติกเกอร์รูปหัวใจสีต่างๆติดกระจายไปทั่ว “พี่เฟิร์สบอลดีใจจังเลยคัฟ พี่เฟิร์สคัฟทำมายเสื้อนักเรียนของพี่เฟิร์สถึงมีแต่ใครเขียนอะไรไม่รู้อยู่เต็มไปหมดเลยคัฟฟแบบนี้แม่พี่เฟิร์สไม่ด่าหรอคัฟ” เฟิร์สยิ้มและย่อตัวนั่งลง “ไม่ด่าหรอกบอลวันนี้เป็นวันพิเศษของพวกพี่น่ะบอลก็รู้ใช่ไหมว่าพวกพี่อีกหน่อยต้องไปเรียนต่อที่อื่นกันแล้วพวกพี่เลยเขียนเสื้อไว้เพื่อเป็นที่ระลึกก่อนจะลาจากกันน่ะ” “แล้วแบบนี้บอลจะได้เจอพี่เฟิร์สอีกไหมคัฟ” “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับบอลแต่พี่เชื่อว่ายังไงก็ต้องได้เจออยู่แล้ว ถ้าบอลไม่ลืมพี่ไปก่อนนะ” “บอลไม่ลืมพี่เฟิร์สหรอกคัฟ” “ว่าแต่บอลมานั่งทำอะไรอยู่คนเดียวล่ะ พ่อกับแม่อยู่ไหนครับ” “ไม่รู้เหมือนกานนคัฟพี่เฟิร์สพ่อปลื้มกับแม่เอมไปไหนไม่รู้ บอลเดินหาแล้วก็ไม่เจอ” บอลพูดพร้อมกับทำหน้าบูด “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิบอล พี่ว่าคงอยู่แถวๆนี้แหละครับ” เฟิร์สพูดพร้อมกับล้วงเอาโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกง “เฮ้อโทรศัพท์แม่งก็เอาไว้ที่ห้องศิลปะโน่นอีก งั้นเอางี้ดีไหมเดี๋ยวพี่พาบอลไปฝ่ายประชาสัมพันธ์จะได้ให้ครูเค้าช่วยประกาศตามหาพ่อกับแม่บอลด้วย”“พี่เฟิร์สบอลไม่อยากอยู่กับคนที่บอลไม่รู้จักอะคัฟและบอลก็ไม่อยากอยู่คนเดียวด้วย พี่เฟิร์สช่วยบอลหาพ่อปลื้มกับแม่เอมหรือพี่เติร์กให้หน่อยสิคัฟ”“แต่พี่ไม่ได้เอาโทรศัพท์ติดตัวมาด้วยน่ะสิบอลพี่ชาร์ตแบตไว้ที่ห้องศิลปะโน่นอะ” “งั้นพี่เฟิร์สก็ไปเอาโทรศัพท์จิคัฟฟเดี๋ยวบอลไปด้วย”“อ่าๆแต่มันเดินไกลหน่อยนะบอลเลือกมาแล้วอย่าบ่นล่ะ” เฟิร์สพูดพร้อมกับจูงมือเจ้าบอลและพาเดินไปยังตึกศิลปะทันทีเมื่อทั้งสองมาถึงที่หมายเฟิร์สพาเจ้าบอลไปนั่งรอที่เก้าอี้ไม้ก่อนที่มันจะเดินแยกตัวไปเปิดเอาโทรศัพท์ยังตู้ล็อกเกอร์ที่อยู่ด้านในพร้อมกับหยิบเอาโทรศัพท์ที่ต่อชาร์ตกับ Power bank ในตู้ออกมากดโทรหาเจ้าเติร์ก ในระหว่างที่เจ้าบอลนั่งรอเฟิร์สอยู่นั้นมันค่อยกวาดสายตามองดูไปรอบๆห้องศิลปะที่มีทั้งเครื่องมือสำหรับงานศิลปะและภาพจิตรกรรมชนิดต่างๆติดอยู่ตามผนังอยู่เป็นจำนวนมากมันเลยค่อยๆลุกจากเก้าอี้และเดินสำรวจดูด้วยความอยากรู้ไปทั่วห้อง ไม่นานนักเฟิร์สที่คุยกับเจ้าเติร์กอยู่ห้องด้านในมันกดวางสายและเดินออกมาหาเจ้าบอลที่กำลังยืนดูภาพวาดที่ติดตามผนังห้องด้วยความสนใจ “บอลพี่เติร์กบอกพี่ว่าเห็นแม่เอมกับบิวอยู่ที่ตึกวิทยาศาสตร์น่ะปะเดี๋ยวพี่พาเดินไปส่ง” เจ้าบอลเงียบและยังคงนิ่งดูภาพตรงหน้าของมันเฟิร์สที่เห็นเช่นนั้นมันเลยเดินไปยืนอยู่ข้างหลังเจ้าบอลก่อนจะใช้มือทั้งสองจับเข้าที่ไหล่ของมัน “ชอบหรอบอล พี่เห็นยืนดูแต่เมื่อกี้ล่ะ”“ไม่รู้จิคัฟ แต่เวลาดูแล้วมันรู้สึกตื่นเต้นดีอะคัฟ” “งั้นหรอ….ว่าแต่ที่ดูๆมาเนี่ยบอลชอบภาพไหนที่สุดล่ะ” เจ้าบอลมันเลยเดินไปชี้ภาพสีน้ำมันที่อยู่ฝั่งซ้ายมือและหันมามองเฟิร์ส “บอลชอบอันนี้คัฟ ปลาในภาพมันสีสวยมากมีลายแปลกๆเยอะเลย” “จริงหรอ ที่ว่าสวยเนี่ย” “จริงคัฟพี่เฟิร์สมันเหมือนกับของจริงเลยคัฟ อืมมมภาพนี้ใครวาดหรอคัฟ”“อะให้เดาสิว่าใคร...” เจ้าบอลทำหน้าครุ่นคิดพักใหญ่ “อืมมม บอลว่าต้องเป็นพี่เฟิร์สแน่นอน”“ไมบอลถึงคิดว่าเป็นพี่ล่ะครับ”“ก็บอลเคยเห็นพี่เฟิร์สวาดรูปสวยบอลเลยคิดว่าต้องใช้พี่เฟิร์สคัฟ”เฟิร์สถึงกับอมยิ้มขึ้นมา “หืมมเก่งนะเนี่ยเรา” “แล้วบอลตอบถูกไหมคัฟ” เฟิร์สยิ้มและยักคิ้วใส่เจ้าบอล “ถูกแล้วล่ะ สุดยอดเลยบอล” เจ้าบอลถึงกับกระโดดเต้นดีความดีใจ “เย้…..บอลเก่งใช่ไหมล่ะแล้วมีอันอื่นอีกไหมคัฟที่เป็นของพี่เฟิร์ส”“มีสิบอล มะนี่มะภาพนี่ก็ใช่ครับ อันนี้ก็ใช่ หัวคนปั้นดินเหนียวที่วางตรงชั้นนั่นก็ใช่ด้วยนะบอลรูปไม้แกะสลักลายไทยตรงนี้ก็ใช่ด้วยอันนั้นด้วย อันนี่ด้วย” เจ้าบอลถึงกับทึ่งเมื่อมันได้เห็นผลงานเฟิร์สหลายต่อหลายชิ้น “โห โห โอ้วโห พี่เฟิร์ส สวยอะคัฟพี่เฟิร์สทำยังไงทำไมพี่เฟิร์สเก่งจังเลยคัฟ บอลอยากเก่งเหมือนพี่เฟิร์สอะคัฟ” เจ้าบอลถึงกับไปกอดขาทำหน้าอ้อนใส่กับเฟิร์ส เฟิร์สที่ได้เห็นมันถึงกับมองยิ้มด้วยความเอ็นดูพร้อมกับเอามือไปขยี้ผมเจ้าบอลไปมา “อีกหน่อยโตกว่านี้ถ้าบอลชอบด้านศิลปะเหมือนพี่จริงๆบอลมาเรียนที่นี่สิครับ ครูที่นี่เขาสอนเก่งมากเลยนะ” “ไม่เอาอะบอลอยากให้พี่เฟิร์สสอนมากกว่า” “ก็ถ้ามาเรียนที่นี่อีกหน่อยคงได้เจอกันแน่นอนยังไงพี่ก็ต้องมาเที่ยวงานโรงเรียนในทุกๆปีอยู่แล้ว” “พี่เฟิร์สพูดจริงๆนะคัฟว่าพี่เฟิร์สจะมางั้นบอลก็จะเรียนที่นี่ให้ได้เลย” “ต้องแบบนี้สิไว้พี่จะรอดูนะเอ่ออจริงด้วยพี่มีของไรอยากจะให้บอลด้วยนะ” เจ้าบอลถึงกับทำหน้าด้วยความประหลาดใจ “ไรอะคัฟ ขนมเหรอ??” เฟิร์สยิ้มเล็กน้อยก่อนจะจูงมือพาเจ้าบอลไปที่ตู้ล็อกเกอร์ “มากับพี่ก่อนมา อื้มมม มันไม่ใช่ขนมหรอกบอล แต่พิเศษกว่านั้นเยอะ”เฟิร์สหยิบเอาม้วนกระดาษที่ถูกมัดด้วยผ้าสีแดงเป็นรูปโบว์ยื่นให้กับเจ้าบอลเจ้าบอลมันเลยค่อยๆเอื้อมมือไปรับของดังกล่าว ก่อนจะใช้มือหมุนพลิกมองไปมาด้วยความสงสัย “มานคือไรอะคัฟพี่เฟิร์ส” “ถ้าอยากรู้บอลลองแกะโบว์ที่มันอยู่และคลี่กางออกดูสิครับ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นมันเลยรีบทำตามเฟิร์สอย่างว่าง่ายเมื่อมันคลี่กางออกเจ้าบอลถึงกับทำหน้างงยิ่งกว่าเก่าเมื่อมันเห็นภาพเด็กคนหนึ่งที่ถูกวาดด้วยดินสอ 2B “นี่ใครเหรอคัฟพี่เฟิร์ส” “อ้าวววจำตัวเองไม่ได้ซะงั้น นี่พี่วาดเหมือนสุดๆแล้วนะเนี่ย”“คนในรูปคือบอลเหรอพี่เฟิร์ส หืมมม ทำไมในรูปมันดูไม่เหมือนบอลเลยอะ” “เหมือนแล้วนะบอลดูซิอะนี่ลองเอากระจกนี้ส่องดูตัวเองแล้วเทียบกับในรูปนี้ดู ไงเหมือนไหมบอล”“แต่ในรูปหน้าตามันดูเป็นเด็กน่ารักมากกว่าเยอะเลย บอลไม่ได้หน้าแบบนี้สักหน่อย” คำพูดดังกล่าวทำเอาเฟิร์สยิ้มหัวเราะด้วยความชอบใจก่อนจะยื่นมือไปลูบหาเจ้าบอล “โห่ๆๆบอลก็บอลเป็นเด็กหน้าตาน่ารักนะครับ บอลไม่รู้เหรอ ขนาดเพื่อนๆพี่ที่เคยเจอบอลยังพูดเหมือนๆกันทุกคนเลยว่าบอลหน้าตาน่ารักมากถ้าไม่เชื่อบอลลองไปถามพี่เติร์กสิครับดูสิว่าพี่เติร์กจะตอบเหมือนที่พี่ตอบไหม” เจ้าบอลกวาดสายตามองภาพดังกล่าวไปมาจนพอใจมันเลยม้วนกระดาษไว้เช่นเดิม “พี่เฟิร์สให้บอลจริงๆเหรอคัฟ”“แน่นอนสิบอล ที่พี่วาดรูปนี้ขึ้นมาก็เพราะพี่ตั้งใจอยากจะให้บอลนั่นแหละ” “แล้วพี่เฟิร์สให้บอลทำไมอะคัฟ” “ก็เก็บเป็นที่ระลึกไงเผื่อวันหน้าหากบอลดูภาพนี้เมื่อไหร่บอลจะได้นึกถึงพี่ไงครับ”เจ้าบอลยิ้มด้วยความดีใจก่อนจะยื่นม้วนกระดาษกับผ้าสีแดงคืนให้กับเฟิร์ส “คืนพี่ทำไมอะ บอลไม่เอาเหรอครับ” เจ้าบอลอมยิ้มพร้อมส่ายหัว “เอาจิคัฟ แต่บอลเอาผ้าสีแดงมัดกระดาษให้เป็นรูปโบว์ไม่เป็นอะพี่เฟิร์สช่วยมัดให้เป็นรูปโบว์เหมือนเมื่อกี้ให้บอลหน่อยจิคัฟ” เฟิร์สมันเลยเอาม้วนกระดาษพร้อมกับใช้ผ้าสีแดงมัดผูกเป็นโบว์เช่นเดิมก่อนจะยื่นคืนให้กับเจ้าบอล เจ้าบอลยื่นมือไปรับและยกมือขึ้นไหว้ “ขอบคุณคัฟพี่เฟิร์ส”“ว่าแต่วันนี้เป็นวันปัจฉิมนะบอล บอลจะมีของให้พี่ป่าวน้าาาา” เจ้าบอลทำหน้างงทันที “ปัจจิม?? มานคือไรอะคัฟ”“ถ้าพูดให้ถูกต้องปัจฉิมครับ บอลจำที่พี่บอกบอลไปก่อนหน้านี้ได้ไหมว่าตอนนี้พวกพี่เรียนจบกันแล้ววันนี้โรงเรียนของพี่เลยจัดงานอำลาเพื่อส่งท้ายพวกพี่กันวันนี้พวกรุ่นน้องต่างๆรวมถึงเพื่อนๆพี่เขาก็เลยถือโอกาสมอบของที่ระลึกให้กับคนที่ตัวเองชอบหรือไม่ก็เขียนเสื้อให้กันแบบนี้ก่อนที่จะไม่ได้เจอกันอีกไงเขาเลยเรียกว่าวันนี้ว่างานปัจฉิม” “มิน่าล่ะ บอลเห็นมีแต่คนซื้อของให้กันบอลก็นึกว่าที่นี่จัดงานแลกของขวัญซะอีก” “ฮ่าๆ คนล่ะงานแล้วล่ะบอล ว่าแต่บอลจะมีของให้พี่บ้างไหมน้าาาา” เฟิร์สพูดและยักคิ้วให้กับเจ้าบอล “อืมมมบอลไม่มีอะคัฟ บอลไม่ได้เอาไรติดตัวมาเลยอืมมมพี่เฟิร์สอยากได้ไรอะคัฟ เดี๋ยวบอลไปขอแม่เอมซื้อให้คัฟ” “เอ้ยยบอล ใครเขาทำกันแบบนั้นกันล่ะของที่จะเอาให้น่ะมันต้องเป็นของที่เราซื้อด้วยตนเองหรือไม่ทำขึ้นมาเองครับ”“อืมมแต่บอลไม่มีตังอะซื้อไม่ได้ งั้นพี่เฟิร์สอยากให้บอลทำไรอะคัฟ” เฟิร์สยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะก้มหน้าลงไปกระซิบบอก “กินเย็ลลี่ดีโด้ให้พี่หน่อยดิ”เจ้าบอลถึงกับเงยหน้ามองเฟิร์ส “พี่เฟิร์สพูดจริงนะคัฟ” “จริงสิบอล บอลจำไม่ได้เหรอว่าวันนั้นที่สวนไผ่เรายังติดสัญญากันอยู่นะบอลคงลืมไปแล้วมั้ง”“ไม่หรอกคัฟ บอลจำได้ ถ้าพี่เฟิร์สอยากให้บอลทำ งั้นบอลจะทำเลยนะคัฟ” เจ้าบอลพูดและเดินตรงไปจับเป้ากางเกงพร้อมกับพยายามรูดซิบลงทำเอาเฟิร์สถึงกับตกใจจนรีบคว้ามือของมันไว้ทันควัน “เห้ยยบอลจะทำไรน่ะ ไม่เอาไม่เอาที่โล่งโจ้งแบบนี้เดี๋ยวคนเค้าก็เห็นหมดน่ะสิ พี่ว่าเราเข้าไปข้างในกันดีกว่าครับ” เฟิร์สมันเดินนำพาเจ้าบอลเข้าไปยังห้องเก็บของที่อยู่ด้านในเฟิร์สหยิบเก้าอี้ไม้มาวางและนั่งลงพร้อมกับจับเจ้าบอลคุกเข่ากับพื้นห้องส่วนเจ้าบอลมันค่อยเอื้อมมือทั้งสองไปรูดซิบกางเกงลงมาช้าๆ ครืดดดดและใช้มือทั้งสองควักเอาท่อนลำที่แข็งตัวท่วมๆจากกางเกงในงัดออกมาชมโลกภายนอก เจ้าบอลใช้มือจับตั้งขึ้นและจ้องมองท่อนลำตรงหน้าอย่างพอใจ”“บอลครับเอาน้ำออกให้พี่หน่อยนะพี่ไม่ได้ชักมาเดือนกว่าล่ะ” เจ้าบอลมองหน้าขาวๆหล่อๆของเฟิร์สโดยที่มือทั้งสองยังคงบีบนวดท่อนลำอย่างเบามือ “คัฟพี่เฟิร์ส ถ้าพี่เฟิร์สอยาก บอลทำให้ได้คัฟ” เจ้าบอลยิ้มและใช้มือดังหนังหุ้มปลายลงจนถึงหัวเงี่ยงพร้อมกับรีบก้มหน้าเอาปลายลิ้นอันน้อยๆของมันลิ้นวนไปมาทั่วทั้งหัวเห็ดเฟิร์สกระตุกงึกด้วยความเสียวจากปลายลิ้นสากๆที่เจ้าบอลลากเลียวนไปมาจนทั่ว เฟิร์สค่อยๆเอนตัวพิงพนักเก้าอี้และเหยียดขาทั้งสองออกโดยมีเจ้าบอลนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหว่างขาและก้มหน้าก้มตาใช้ปากปรนนิบัติกับท่อนลำด้วยความตั้งใจ เฟิร์สรู้สึกเสียววาบๆมันซีดปากเบาๆดังเป็นช่วงๆ มันผ่อนคลายสบายตัวและมีความสุขอย่างที่มันต้องการเฉกเช่นเดียวกับเจ้าบอลเฟิร์สนอนเสียวอยู่ได้ชั่วครู่จนอารมณ์ทางเพศของมันคุกรุ่น “ซีดดดดบอลบอลเลียได้เสียวสุดๆเลยพี่อยากให้บอลเอาน้ำออกแล้วครับ ช่วยพี่ทีนะบอลคนเก่ง” เฟิร์สพูดและใช้มือซ้ายจับไปที่หัวเจ้าบอลก่อนจะออกแรงกดให้หัวเห็ดมนๆใหญ่ของมันพุ่งทะยานเข้าสู่อุ้งปากน้อยๆจนเกิดเสียงดังบ๊วบบขึ้นมาและเมื่อทันที่หัวเห็ดเข้าสู่อุ้งปากเจ้าบอลมันรีบออกแรงดูดดุ้นให้กระพุ้งแก้มตอบรีบบีบรัดปลายหัวเห็ดพร้อมกับผงกหัวขึ้นๆอย่างรู้งานเฟิร์สกำมือทั้งสองไว้แน่นมันแอ่นตัวขึ้นเล็กน้อยและหลับตาแหงนหน้ากัดฟันครางออกมาด้วยความเสียวทวีคูณ “อ๊ากกก อ๊ากกก ซีดดด แบบนั้นครับบอลลล ซีดดดอ๊ากกกแบบนั้นครับ เม้มปากแบบนั้นแหละครับบอล ซีดดดด ห่อปากเล็กๆแบบเมื่อกี้อีกสิครับ อ่าหหหซีดดดอ่าหหหหอื้มมมมมซีดดด อาหหหหห” เสียงครางของเฟิร์สดังกังวานไปทั่วห้องประจวบกับเสียงจ๊วบจ๊าบบที่ดังเล็ดลอดจากริมฝีปากที่ก้มดูดดุ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย เฟิร์สครางพร้อมกับหายใจถี่แรงด้วยความเสียว ตัวของมันสั่นสะท้านและเสียวร้อนวูบวาบจากปลายหัวลงไปถึงปลายเท้าเจ้าบอลเองก็ไม่น้อยหน้ามันพยายามก้มอมให้ลึกที่สุดพร้อมกับเม้มปากออกแรงดูดจนมันเริ่มรู้สึกปวดหน่วงที่กรามทั้งสองแต่ด้วยความอยากทะยานบวกกับเสียงครางทรมาณปนสุขของเฟิร์สที่ร้องดังกังวานทำให้มันไม่แยแสกับความปวดเมื่อยที่กำลังบังเกิดกับกรามและขาทั้งสองของมันแต่อย่างใดเฟิร์สเสียวได้ไม่นานจู่ๆมันใช้มือทั้งสองค่อยๆงัดดันหัวเจ้าบอลออกช้าๆพร้อมกับชันตัวขึ้นนั่งมองเจ้าบอลที่ถอนปากออกด้วยความเสียดายที่ถูกขัดจังหวะ “พี่เฟิร์สเอาออกไมอะคัฟฟ บอลกำลังดูดเพลินอยู่เลยย” เฟิร์สหอบหายใจด้วยความเหนื่อยไปชั่วครู่ก่อนที่มันจะเอ่ยปากตอบด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา “โทษที่พี่ขัดจังหวะ แต่ตอนดูดพี่อยากลองให้บอลใช้ลิ้นเลียแยงๆไปตามเส้นลองสลึงค์ตรงนี้นะและเลียแยงขึ้นไปจนถึงรูฉี่ตรงนี้เลย” เฟิร์สพูดอธิบายพร้อมกับใช้นิ้วชี้ประกอบตรงหัวเห็ดของมันไปด้วย “เวลาดูดบอลต้องใช้เลียตวัดไปมาเร็วขึ้นอีกนิดนะครับและถ้าเป็นไปได้ลองเลียมาจนถึงพวงไข่ขาวๆของพี่ตรงนี้เลย”“แต่ขนตรงนั้นมันเยอะอะคัฟฟบอลกลัวมันจะเข้าปากอะ” เฟิร์สยิ้มและใช้มือลูบหัวเจ้าบอลไปมา “บอลก็ระวังอย่างให้มันเข้าสิครับนะบอลลองทำตามที่พี่บอกไปเมื่อกี้นะ” “ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วยอะคัฟฟ บอลยังทำให้ไม่ดีหรอคัฟฟฟ”“ป่าวครับบอลบอลทำดีแล้วพี่เสียวสุดๆเลย แต่พี่อยากให้บอลทำดียิ่งกว่านี้อีกพี่กับบอลจะได้เพิ่มความสนุกไปด้วยกันไง” เฟิร์สกระตุกท่อนลำที่เยิ้มไปด้วยน้ำลายงึกๆใส่เจ้าบอลใบหน้าของมันตอนนี้ค่อยเป็นสีชมพูพร้อมกับแววตาที่แสดงออกถึงความต้องการถึงขีดสุดเฟิร์สไม่รอช้ามันค่อยๆจับหัวเจ้าบอลโน้มมาที่ท่อนลำมันอีกครั้งพร้อมกับเอนตัวลงเช่นเดิมและทันทีที่ปลายหัวเห็ดสัมผัสกับริมฝีปากเจ้าบอลมันถึงอ้าปากเขมือบปลายท่อนลำเข้าไปอีกครั้ง “อืมมมมแบบนั้นแหละบอล ค่อยทำไปนะไม่ต้องเร่งรีบ อืมมมมซีดดดด นั่นแหละอะคราวนี้บอลลองใช้ลิ้นเลียแยงตรงเส้นที่ว่าหน่อยครับ เลียไปจนถึงรูฉี่ของพี่เลยนะอืมมมอ๊ากกกซีดดด” เฟิร์สถึงกับกระตุกเด้าเอวสวนขึ้นทันทีที่ถูกเจ้าบอลใช้ลิ้นทำตามอย่างที่มันว่าเจ้าบอลที่ก้มอมอยู่มันตกใจจนต้องใช้มือทั้งสองมายันต้านไว้อย่างรวดเร็วแต่กระนั้นปากของมันก็ยังคงอมท่อนลำค้างไว้ก่อนจะเอามือทั้งสองมาจับท่อนลำใหญ่ๆขาวๆและก้มดูดรูดเร้นต่อไป จ๊วบๆๆๆ “อื้มมมมบอลดีค๊าบบบซีดดโอ่วววว ซีดดด ตวัดลิ้นอีกบอลล อ่าหหหห ตวัดเร็วขึ้นอีกครับ อื้มมมซีดดดอาหหหแบบนั้นแหละห่อปากหน่อยนะบอลอื้มมมม เต็มปากเต็มคำดีใช่ไหมครับซีดดดด ซีดดด อาหหหห อาหหหหห” ทุกคำพูดที่ออกมาจะปากของเจ้ายิ่งเร้าให้เจ้าบอลทำตามอย่างไม่ลังเลจนเฟิร์สต้องบิดตัวไปมาด้วยความเสียวซ่านนนกว่าทุกครั้งจนบางครั้งมันถึงกับต้องใช้มือไปจับหัวเจ้าบอลให้หยุดทำเป็นช่วงๆเพราะทนต่อความเสียวซ่านจนเกือบจะขาดใจไม่ไหวจนท้ายที่สุดเจ้าบอลได้เร่งจังหวะดูดและพยายามเขมือบท่อนลำให้ลึกที่สุดบวกกับการใช้มือชักขึ้นลงเป็นช่วงๆจนความอดทนของชายแกร่งอย่างเฟิร์สได้ขาดสะบัดลง เฟิร์สแอ่นเอวเกร็งตัวหลับตาปี๋พร้อมกับใช้มือทั้งสองจับไหล่ทั้งสองของเจ้าบอลที่คุกเข่าอยู่ตรงหว่างขาของมันไว้มั่น “บอล น้ำพี่จะออกแล้ว บะบอลกินให้หมดเลยนะอ๊ากกกอ๊ากกกก บอลซีดดดดวันนี้บอลทำให้พี่สุขสุดๆเลยบอลลอ๊ากกกซีดดด”ไม่ทันขาดคำเฟิร์สกระตุกตัวปล่อยน้ำเชื้อจากท่อนลำพุ่งทะยานสู่ปากเจ้าบอลอย่างต่อเนื่องและควบคุมไม่ได้น้ำเชื้ออันหวานคาวแปล่มๆลื่นๆทยอยไหลลงลำคอเจ้าบอลพร้อมกับเสียงกลืนดังอึกๆๆที่ได้ยินอย่างชัดเจนเมื่อท่อนลำอันแบ่งบานในอุ้งปากของเจ้าบอลฉีดของเหลวอันหวานคาวจนหมดสิ้นแล้ว มันค่อยๆหดตัวลงขนาดลงอย่างช้าๆพร้อมกับอารมณ์ทางเพศของเฟิร์สที่ค่อยๆสงบลงเฟิร์สมันเลยลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่งและหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้าก่อนจะก้มมองเจ้าบอลที่ยังคงก้มดูดอมท่อนลำท้วมๆด้วยปากพร้อมกับใช้ลิ้นเลียหัวเห็ดไปมาเฟิร์สปล่อยให้เจ้าบอลทำเช่นนั้นไป 3 นาทีจนมันใช้มือซ้ายมาจับยังคางของเจ้าบอลไว้และดันให้เงยหน้าขึ้น “พอก่อนบอล บอลอมตั้งนานแบบนี้บอลไม่เมื่อยปากเหรอ” เจ้าบอลยิ้มและส่ายหัว“ไม่เปงไรคัฟ จริงมันก็เมื่อยอยู่คัฟฟแต่เวลาอมไปเพลินๆมันก็ไม่เท่าไหร่คัฟ” เจ้าบอลพูดและจ้องมองท่อนลำที่กำลังถูกมือของเฟิร์สจับยัดลงสู่ใต้กางเกงเช่นเดิมถึงกระนั้นมันก็ยังคงนูนๆตรงเป้าขึ้นมาพอสังเกตเห็นได้บ้าง “บอลพี่ถามจริงบอลชอบอมจู๋ของพี่เหรอคัฟฟ เห็นทุกครั้งที่ให้อมไม่เคยบ่นหรือขัดใจพี่เลย” ในขณะที่มันพูดเฟิร์สค่อยๆจับเจ้าบอลมานั่งที่ตัก “จริงๆบอลไม่ชอบอมเท่าไหร่คัฟ แต่ที่บอลไม่บ่นเพราะบอลรู้ว่าพี่เฟิร์สชอบเวลาที่บอลทำแบบนี้ให้และบอลก็ชอบพี่เฟิร์สด้วยคัฟ”“แล้วทำไมบอลถึงชอบพี่อะ”“ก็เวลาอยู่กับพี่เฟิร์สพี่เฟิร์สชอบมีไรให้บอลตื่นเต้นอยู่ตลอด” “จริงเหรอพี่ไม่ยักกะรู้เลยนะเนี่ย” “บอลยังอยากเจอพี่เฟิร์สอยู่นะบอลอยากให้พี่เฟิร์สมาเป็นพี่ชายของบอลอีกคนเหมือนกับพี่เติร์ก”“อ๊าวถ้าพี่เติร์กมาได้ยินบอลพูดแบบนี้คงน้อยใจแย่” “ส่วนใหญ่พี่เติร์กจะสนิทกับพี่บิวมากกว่าบอลคัฟและบอลก็ไม่เข้าใจพี่เติร์กในบางเรื่องด้วย แต่กับพี่เฟิร์สบอลว่าพี่เฟิร์สกับบอลมีอะไรที่คล้ายๆกันคัฟฟ”“พี่ดีใจนะที่บอลรู้สึกกับพี่แบบนั้นแต่บอลยังเด็กอยู่พี่ว่าถ้าบอลโตขึ้นบอลอาจคิดต่างไปจากวันนี้ก็ได้นะ”“แม่เอมเคยพูดว่าเหตุผลของผู้ใหญ่ซับซ้อนเข้าใจยากแต่บอลก็รู้และเข้าใจในบางเรื่องนะครับ ไม่ใช่ว่าบอลเป็นเด็กแบบนี้แล้วไม่รู้อะไรเลยยังไงบอลก็จะไม่ลืมพี่เฟิร์สคัฟ พี่เฟิร์สเป็นฮีโร่ของบอล บอลสัญญาว่าจะมาเรียนที่นี่ให้ได้และจะเป็นฮีโร่เก่งๆเหมือนพี่เฟิร์สด้วย”“ไว้พี่จะรอดูวันนั้นนะครับ” เมื่อทั้งสองคุยกันจนเป็นที่พอใจแล้วเฟิร์สมันเลยพาเจ้าบอลไปตามหาแม่ของมันที่ตึกวิทย์แต่ในระหว่างทางทั้งสองเดินไปเจออาปลื้มพ่อของเจ้าบอลเข้าพอดีเฟิร์สเข้าไปยืนคุยกับอาปลื้มด้วยความคุ้นเคยโดยมันเจ้าบอลยืนฟังอยู่ข้างๆ มันคุยได้สักพักก่อนเฟิร์สจะขอตัวเดินกลับมายังตึกศิลปะอีกครั้งในระหว่างที่เฟิร์สกำลังรื้อเอาของต่างๆในตู้ล็อกเกอร์ของมันจัดเก็บลงในกล่องพลาสติกอยู่นั้นจู่ๆมันก็ต้องตกใจกับเสียงเรียกของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านซ้าย “พี่เฟิร์ส!!! มาอยู่นี่เอง” เฟิร์สถึงกับหันไปมองยังต้นเสียงด้วยความตื่นตกใจ “อ่าว น้อง ว่าไง ออโต้ วันนี้มีคนทำให้พี่ตกใจสองรอบละนะ” ออโต้ยืนพิงที่ขอบประตูพร้อมกับยิ้ม “พี่เฟิร์สมานี่หน่อยครับผมมีไรอยากคุยกับพี่ครับ” ออโต้มันยืนกวักมือให้เฟิร์สเดินไปมาเฟิร์สถึงกับทำหน้างง “มีไรรึป่าวน้องถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนอะไรเดี๋ยวค่อยคุยกันตอนนี้พี่ต้องเก็บของส่วนตัวของพี่ก่อนเพราะช่วงบ่ายสามพวกพี่มีนัดไปกินเลี้ยงปัจฉิมที่บ้านเพื่อนกันต่อน่ะ”“เถอะน่ามานี่ก่อนครับพี่เฟิร์สอันนี้เรื่องสำคัญจริง”เฟิร์สที่ได้ยินเช่นนั้นมันเลยเดินเข้าไปหาออโต้ด้วยความสงสัย “มีไรรึป่าวออโต้ แล้วนี่เลโก้ไม่มาด้วยกันเหรอ”“วันนี้ที่โรงเรียนเลโก้มีสอบครับเลยมาไม่ได้ คิดๆไปก็เสียดายอยู่เหมือนกัน” “อื้มว่าแต่มีไรครับเรื่องสำคัญที่ว่า??” “เมื่อตะกี้พี่เฟิร์สทำไรน่ะครับ”“พี่ก็เก็บของของพี่ที่อยู่ในตู้ลงกล่องไงครับ…..” “ไม่ใช่พี่เฟิร์ส ผมหมายถึงก่อนหน้านั้นน่ะครับ พี่ทำไรอะ” คำถามดังกล่าวทำเอาเฟิร์สยืนอั้มอึง จนทำไรไม่ถูก สายตาของมันล็อกแล็กไปมาด้วยความตื่นตระหนก “ก็ กะกะก็ ไม่ได้ทำไรหนิครับ ถามแปลกๆนะน้องจะมาไม้ไหนเนี่ย” “พี่เฟิร์ส พูดกับผมตรงๆสิครับผมเห็นนะว่าพี่ทำไรอยู่ก่อนหน้านั้น” เฟิร์สถึงกับแสดงอาการลุกลี้ลุกลนยิ่งกว่าเก่า “เห็นอะไรหรอน้อง!!! พี่ทำไร” “งั้นผมถามใหม่ล่ะกัน ตะกี้พี่มีความสุขไหมครับ”ออโต้ยักคิ้วพร้อมกับจ้องไปยังดวงตาเฟิร์ส “ความสุขอะไร!!!นี่น้องจะอำพี่เล่นเหรอเนี่ยย” “เฮ้ออพี่นี่ปากแข็งเป็นว่าเล่นเลยนะเนี่ย คืองี้ช่วงเช้าพอห้องผมทำกิจกรรมส่งอำลารุ่นพี่กันเสร็จ ผมปวดฉี่เลยเดินมาเข้าห้องน้ำแต่พอไปถึงห้องน้ำนักเรียนดันเข้ากันเต็มหมดซะงั้นผมเลยกะว่าจะมายืนฉี่สบายๆที่ป่าหลังตึกศิลปะซะหน่อย แต่เผอิญหลังฉี่เสร็จหูของผมได้ยินเสียงแปลกๆดังขึ้นจากด้านในห้อง มันดังขึ้นมาเป็นช่วงๆตอนแรกผมก็กะจะไม่สนใจอะไรแล้วนะแต่เสียงที่ผมได้ยินมันคุ้นหูผมมากมันเหมือนเสียงของพี่เฟิร์สครางเมื่อตอนที่ห้องน้ำคราวนั้นผมก็เลยเอาโต๊ะเก่าที่วางหลังห้องมาปีนขึ้นดูช่องรอยแตกตรงบานประตูหน้าต่างและผมก็เห็นช็อตเด็ดตอนที่เฟิร์สนั่งให้เด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่งคุกเข่าก้มอมควยให้พี่อยู่ส่วนพี่เองก็นอนพิงเก้าอี้บิดเกร็งตัวร้องครางด้วยความเสียว ใช่ไหมล่ะ ผมว่าพี่คงฟินน่าดู” เฟิร์สถึงกับหน้าซีดเผือกด้วยความกลัวขึ้นมาทันใดออโต้ที่เห็นสีหน้าของเฟิร์สมันเลยเอื้อมือทั้งสองไปกุมมือซ้ายของเฟิร์สขึ้นมา “พี่เฟิร์สเป็นไรป่าวครับ มือเย็นเฉียบเลยนะพี่” ทันทีที่มันตั้งสติได้เฟิร์สรีบชักมือออกพร้อมกับตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “ปะปะป่าวไม่มีไร นี่เห็นหมดเลยงั้นหรอ” “แน่นอนสิพี่ พี่ก็น่าจะรู้ดีกว่านะ ว่าผมพูดจริงป่าว…ว่าแต่เด็กคนนั้นอะ ใครหรอพี่เฟิร์สดูยังกะเด็กประถมยังไงอย่างงั้น”เฟิร์สมันส่ายหน้าและเดินผละจากออโต้ไปก้มหน้าก้มตาเก็บของเช่นเดิมออโต้มันยิ้มที่มุมปากพร้อมกับเดินตามเฟิร์สไปและไปยืนอยู่ข้างๆ “ที่เดินหนีเนี่ย อายที่ผมเห็นความลับพี่เข้าอะดิ” “ป่าวไม่ใช่พี่รีบน่ะ เสร็จนี้แล้วเดี๋ยวพี่มีกิจกรรมอำลาของพวกรุ่นของสายจีนน่ะ”“พี่เฟิร์สอย่าเปลี่ยนเรื่องดิ ตกลงเด็กคนนั้นใครหรอครับ” “คนรู้จักน่ะออโต้พี่คงบอกได้แค่นี้” “แล้วนี่พี่เฟิร์สเงี่ยนขนาดนั้นเลยเหรอถึงให้เด็กตัวเล็กๆแบบนั้นอมให้” “มันก็นะ…..”“แล้วไมพี่ไม่ชักเองอะครับ แล้วพี่ไปทำไงอะถึงให้เด็กอมควยให้ได้” เฟิร์สที่ยืนรื้อของอยู่ที่ตู้ล็อกเกอร์มันหันมาชักสีหน้าใส่ออโต้ด้วยความไม่พอใจ “โห่ยย ไรนิน้อง ถามไรเยอะแยะครับ จะรู้ไปทำไมเนี่ย”“พี่เฟิร์สพูดกับผมดีๆสิครับก็พี่เองนั่นแหละดันชะล่าใจทำให้ผมเห็นเองนี่ดีนะที่เป็นผมถ้าเป็นคนอื่นมาเห็นเข้าล่ะก็ ผมว่านะ….”เฟิร์สมันเลยรีบพูดตัดบท “เออๆ สรุปจะให้พี่ทำไงถึงจะพอใจน้องล่ะ”ออโต้ไม่รอช้ามันรีบคว้ามือขวาของเฟิร์สและพาเดินไปที่ห้องฝึกวาดรูปของเฟิร์ส “ไรนิออโต้ พาพี่เข้ามาทำไม” ออโต้ยืนมองเฟิร์สก่อนจะเอื้อมมือทั้งสองไปขยำที่เป้ากางเกงเฟิร์สถึงกับตกใจจนรีบปัดมือของออโต้ออกทันที “เห้ยยออโต้ไม่เอาพี่ไม่ทำแล้ว”“แหน่ทีตะกี้พี่ยังให้เด็กคนนั้นทำได้ แล้วทีงี้ทำเป็นเล่นตัว ไม่รู้แหละในเมื่อพี่เฟิร์สยอมให้เด็กคนตะกี้ทำได้ผมก็ต้องทำได้เหมือนกัน มันจะได้แฟร์กันไงครับพี่นะนะ” เฟิร์สมันเลยถอนหายใจออกมาด้วยความเซ็งๆ“เฮ้อถ้าพี่ให้ทำอีกออโต้ต้องเก็บเรื่องที่เห็นตะกี้เป็นความลับด้วยนะ และพี่ให้แตกแค่น้ำเดียวนะน้องถือว่าแลกกัน”ออโต้นึกพูดขึ้นในใจ “ผมว่ามีเกินน้ำเดียวแน่นอน” ออโต้ยิ้มและพยักหน้าเป็นอันเข้าใจก่อนที่มันจะลากเก้าอี้มานั่งลงพร้อมทั้งยื่นมือทั้งสองตะปไปยังเป้ากางเกงนักเรียนเฟิร์สอีกครั้งพร้อมกับบีบนวดไปมาอย่างมันมือไม่นานนักออโตสัมผัสถึงท่อนลำภายในพองตัวสู้มือที่บีบนวดไปมา ออโต้มันเลยใช้มือรูดซิปกางเกงก่อนจะควักเอาท่อนลำของเฟิร์สออกจากเป้ากางเกงอย่างเบามือทันทีที่มันเห็นท่อนลำท้วมๆกึ่งแข็งขนาด 5 นิ้วมันถึงกับทำหน้าอึ้งเล็กน้อยพร้อมนึกในใจอีกครั้ง “ขนาดแข็งไม่สุดยังใหญ่ขนาดนี้เลยพี่เฟิร์สนี่มันน่านักเชียวแต่ถึงยังไงก็สู้ของพี่เติร์กไม่ได้อยู่ดี”ออโต้ไม่รอช้ามันดึงหนังหุ้มลงจนหัวKมนๆสีแดงอมชมพูปรากฏ “หืมมหัวควยแดงเชียวดูท่าเด็กคนนั้นคงดูดเก่งไม่เบาเลยนะพี่เฟิร์สดูซิพี่ยังมีคราบน้ำลายเหนียวๆติดอยู่ตามคอยักอยู่เลย” ออโต้เอานิ้วชี้จิ้มไปยังคอยักก่อนจะเอามาขยี้กับนิ้วโป้งไปมา “สงสัยนอกจะจะดูดเก่งแล้วคงใช้ลิ้นเก่งด้วยนะเนี่ย เด็กคนนี้เป็นใครหรอครับพี่ทำไมเชี่ยวชาญจัง ผมเห็นพี่ทำหน้าเสียวสุดๆตอนโดนอม” “เอาน่าน้องเอาเป็นว่าเด็กคนนั้นทำพี่รู้สึกดีละกัน” “หวังว่าผมคงทำให้พี่รู้สึกแบบนั้นได้นะครับ” ออโต้เอามือจับท่อนลำมาจ่อที่ปากก่อนจะแลบลิ้นเลียไปที่เส้นสองสลึงค์และลากยาวตามเส้นขึ้นมาที่ส่วนปลาย เฟิร์สที่ก้มดูอยู่มันถึงกับเม้มปากหายใจเข้าออกถี่จนทั้งคู่ได้ยินชัดไม่นานนักมันรู้สึกอุ่นวาบจากปลายหัวเห็ดลงมาถึงกลางท่อนลำก่อนจะย้อนกลับขึ้นไปยังหัวเห็ดมนๆและเลื่อนลงมายังกลางท่อนลำอีกครั้งพร้อมแรงดูดหน่วงๆส่วนมืออีกข้างของออโต้ก็นวดคลึงถุงไข่ไปมาอย่างเบาๆพร้อมๆกัน“อื้มมมมซีดดดด ออโต้…..อ่าหหหหห”จ๊วบๆๆๆ เวลา 11.15 น. ในขณะที่เจ้าเติร์กกำลังยืนให้พวกรุ่นน้องม.2 มาขอถ่ายรูป เขียนเสื้อและมอบของปัจฉิมให้เตอร์กับเคนที่ยืนดูอยู่ไม่ไกลรีบเดินเข้ามาทัก “หืมมมทีพี่ยังไม่เห็นมีตุ๊กตาให้แบบนี้เลยใช่ไหมเคน” “เอ่อใช่ๆ พี่จำหน้าพวกน้องได้นะพี่เห็นน้องเดินเข้ามาเขียนเสื้อให้พี่อยู่” เด็กหญิงทั้ง3 คนดังกล่าวถึงกับมองหน้ากันและหัวเราะคิกคักๆ ก่อนที่ผู้หญิงผมถักเปียตัวสูงที่สุดในกลุ่มจะพูดขึ้นมา "หนูกับเพื่อนๆอีก 2 คนเขียนเสื้อให้พี่สองแล้วนะคะ กับให้ลูกโป่งแฟนซีไปแล้วด้วยแต่ตุ๊กตานี้หนูตั้งใจซื้อให้พี่เติร์กค่ะพี่ก็รู้อยู่ว่าหนูกับเพื่อนๆน่ะชอบและก็ปลื้มพี่เติร์กแบบสุดๆเลยนี่ถือเป็นครั้งแรกเลยนะคะที่หนูกับเพื่อนๆได้เข้าใกล้พี่เติร์กแบบนี้” เจ้าเติร์กที่ได้ยินถึงกับยิ้มด้วยความเขินอาย “พวกน้องสามคนก็พูดเกิ้นนพี่ก็ไม่ได้ลึกลับเข้าหายากขนาดนั้นสักหน่อยครับ” “อึ้ยยยพวกแกพี่เค้าพูดกับเราอีกแล้วอะ…..คือหนูพูดจริงนะคะพี่ วันนี้หนูดีใจสุดๆไปเลยค่ะที่ได้คุยกับพี่ใกล้ชิดแบบนี้”“พี่ดีใจครับที่น้องรู้สึกแบบนนั้นอืมงั้นเดี๋ยวพวกน้องทั้งสามคนมาถ่ายรูปกับพี่ พี่เตอร์และก็พี่เคนเพื่อนสนิทของพี่ ที่ซุ้มตรงนั้นดีไหมครับ”“อึ้ยยยยจริงเหรอคะงั้นดีค่ะดียินดีเลยค่ะพี่เติร์ก พวกมึงมาๆเร็วๆ” ในระหว่างที่เจ้าเติร์กกำลังเดินนำไปนั้นสายตามันดันไปเห็นเจมส์นั่งตรงม้าหินอ่อนอยู่คนเดียวไม่ไกลพร้อมมองมาที่มันเจ้าเติร์กยิ้มและโบกมือให้กับเจมส์ก่อนจะเดินเข้าไปหา “น้องครับพี่ขอตัวแปปนะ เดี๋ยวพี่ไปหาน้องของเพื่อนพี่ที่นั่งอยู่ตรงนั้นแปปนะครับ” เจมส์ที่เห็นเจ้าเติร์กเดินตรงเข้ามามันถึงกับประหม่าจนต้องก้มหน้า “ไงเจมส์ มานั่งอยู่คนเดียว ไม่ไปสนุกกับเพื่อนๆเหรอ”เจมส์ที่ยังคงก้มหน้าหลบสายตาเจ้าเติร์กเมื่อมันรวบรวมความกล้าจนมั่นใจมันเลยรีบเงยหน้ามองเจ้าเติร์ก “พี่เติร์กครับ คือผม อืมม พี่ยังเกลียดผมอยู่ไหมครับ” “ทำไมเจมส์ถึงคิดว่าพี่เกลียดล่ะ” “ไม่รู้ซิพี่ก็ตั้งแต่ที่ผมเออที่เออที่ห้องพยาบาล…” “เจมส์เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ขอให้มันผ่านไปด้วยดีครับอย่าคิดมาก”“ผมดีใจนะครับที่ได้ยินแบบนี้ที่ผ่านมาผมคิดมาโดยตลอดว่าพี่เติร์กคงไม่อยากคุยกับผมอีกแล้ว” “ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าเราคิดไปเองนะเจมส์ช่วงที่ผ่านมาพี่ก็เจอมรสุมชีวิตเยอะเหมือนกันแต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ด้วยดีแล้วเจมส์ล่ะ กับพี่เจนเป็นยังไงกันบ้าง” “ก็ดีนะครับ พี่เจนคุยกับผมเยอะขึ้นช่วงหลังๆผมกับพี่เจนไม่ค่อยทะเลาะกันบ่อยเหมือนเมื่อก่อนล่ะแต่ก็มีบ้างนิดหน่อยครับ” “ครับไงก็….ดีแล้วล่ะไงปีหน้าเจมส์ต้องตั้งใจมากกว่านี้นะน้องหากอยากเรียนสายวิทย์เหมือนที่ตัวเองตั้งเป้าไว้”เจมส์ยิ้มและพยักหน้าก่อนจะเอามือล้วงกระเป๋าเสื้อนักเรียนพร้อมหยิบเอาบางสิ่งขึ้นมา “พี่เติร์กครับข้อความในกระดาษนี่พี่เป็นคนเขียนใช่ไหมครับตอนที่ผมเข้าโรงพยาบาลคราวนั้น” “ใช่ครับพี่เป็นคนเขียนเองแหละ” “พี่เติร์กคือผม…..” “คำตอบทั้งหมดที่เจมส์อยากรู้จากพี่พี่ได้เขียนมันลงไปในนั้นหมดแล้ว ถ้าเจมส์เข้าใจในสิ่งที่พี่เขียนไปเจมส์จะรู้ว่าพี่คิดกับเจมส์แบบไหน” เจมส์ถึงกับนิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนจะหยิบกระดาษดังกล่าวที่พับเป็นสี่เหลี่ยมยัดลงในกระเป๋าเสื้อนักเรียนเช่นเดิม“พี่เติร์กไหนๆวันนี้ก็เป็นวันปัจฉิมแล้วผมมีไรอยากให้พี่เติร์กด้วยนะครับ” เจมส์หยิบรูปถ่ายโพราลอยด์ที่เอามาร้อยสลับกับลูกอมเป็นพวงมาลัยมาคล้องคอให้กับเจ้าเติร์ก “เก็บไว้ดีๆนะครับ รูปพวกนี้เป็นรูปส่วนตัวของผมนะไม่มีในเฟสและในไอจีผมแน่นอน และผมขอเขียนเสื้อให้พี่หน่อยนะครับ” “อืมๆได้ๆ” เจมส์มันเดินอ้อมไปด้านหลังพร้อมกับใช้ปากกาเมจิแดงขียนยิกๆตรงกลางหลัง”“อย่าเขียนไรแปลกๆนะเจมส์วันนี้พี่ยังต้องใส่เสื้อนี้อีกยาวนะ” เจมส์ยิ้มหัวเราะขึ้นมาเบาๆ “ถ้าอยากรู้ว่าผมเขียนไรล่ะก้อ พี่ลองกลับไปอ่านดูเองล่ะกัน”“เดี๋ยวเขียนเสร็จแล้วพี่มีของให้เจมส์นะครับและเดี๋ยวพี่เขียนเสื้อให้ พี่กับเจมส์จะได้แฟร์กันๆ”เจ้าเติร์กหยิบโปสการ์ดแผ่นเล็กๆจากกระเป๋าเสื้อของมันยื่นให้กับเจมส์ “ขอบคุณครับพี่ แหมมม มีรูปพี่กับข้อความที่พี่เขียนอยู่ด้านในด้วย”“เก็บไว้ดีๆล่ะเจมส์มะมะหันหลังมา เดี๋ยวพี่เขียนเสื้อให้” ระหว่างนั้นเตอร์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเจ้าเติร์กได้ตะโกนดังขึ้น “เห้ยๆไอ้หน้าหล่อ มึงจะให้พวกกูกับน้องๆรอไปถึงไหนวะเร็วสิมึงชักช้า”“เออเจมส์ๆไปถ่ายรูปด้วยกันที่ซุ้มโน่นไหม” เจมส์รีบส่ายหัวปฏิเสธทันที “ไม่ล่ะครับพี่ พี่เติร์กไปถ่ายกับเพื่อนๆเถอะ เดี๋ยวผมไปหาแคทกับดิวก่อนนะพี่หวัดดีครับพี่เติร์ก” เจมส์ยกมือไหว้เจ้าเติร์กก่อนนะรีบเดินจากไปทิ้งให้เจ้าเติร์กยืนงงอยู่เช่นนั้น หลังจากกิจกรรมวันปัจฉิมเสร็จสิ้นลงนักเรียนผู้ปกครองทุกคนต่างพากันแยกย้ายเดินทางกลับบ้านบางครอบครัวก็พาลูกของตนเองไปทานข้าวในเมือง บ้างก็ไปเดินเที่ยวห้างซื้อของ บ้างก็ไปดูหนังกันต่อตามอัตภาพของครอบครัวนั้นๆ จนกระทั่งเวลา 15.40 น. เจ้าเติร์กที่กลับมาถึงบ้านมันรีบอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนชุดสำหรับไปงานปาร์ตี้ส่งท้ายผองเพื่อนสนิทในถูกจัดขึ้นที่บ้านสวนของเคนตามความต้องการเพื่อนๆในกลุ่มเจ้าเติร์กและเมื่อมันขับรถมาถึงที่บ้านเคน เบท ตี๋เค้ก เวฟ เตอร์และแป๋มที่จับกลุ่มเล่นแบตมินตันกันอยู่ที่สนามหน้าบ้านทั้งหมดรีบกวักมือเรียกให้เจ้าเติร์กไปร่วมวงทันทีที่มันเอารถมอเตอร์ไซด์มาจอดยังข้างสนาม “เห้ยยพวกมึงเซเลปมาถึงแล้วเว้ย วู้ววววว” ทุกคนโห่ร้องใส่เจ้าเติร์กด้วยความดีใจ “เชี่ยเตอร์ไอ้เวฟไอ้ตี๋มีมากันแค่นี้เหรอวะกูเห็นคุยๆกันในกลุ่มเห็นว่าจะมาเป็นสิบๆคนไม่ใช่เหรอ”“ใจเย็นสิมึงไอ้หน้าหล่อคนที่มาถึงแล้วมีกู มีมึง ไอ้ตี๋ ไอ้เวฟ ไอ้เบท ไอ้เจต เค้ก แป๋ม แป้งและก็ครีม ส่วนคนอื่นๆเดี๋ยวเขาจะทยอยตามๆกันมาเว้ย เยอะอยู่มึงว่าแต่มึงมาก็ดีล่ะ เห้ยไอ้ตี๋ ไอ้เวฟ ไอ้เบท ไอ้เจตคนครบล่ะเว้ย”“มีไรหรอวะเชี่ยเตอร์” “ขนลำโพงเว้ยมึงตะกี้ไอ้เคนบอกขอแรงพวกกูให้เอาลำโพงงานแห่ในห้องเก็บของออกมาตั้งที่ลานหลังบ้านน่ะตะกี้พวกกูลองไปยกล่ะแต่มันหนักมากเลยกะว่าจะรอมึงอีกคนเพราะมึงตัวใหญ่ มา มาเห้ยไอ้เจตมึงไปถามไอ้เคนดิ๊ว่ามันเอาแอมป์เครื่องเสียงเก็บไว้ไหน” เวลาคล้อยเคลื่อนผ่านไปแสงแดดที่สาดส่องบนฟากฟ้าเริ่มริบรี่ลงบรรยากาศบ้านสวนของเคนถูกประดับไปดาไปด้วยแสงไฟของไฟกระพริบโต๊ะไม้ที่ถูกจัดเป็นแถวยาวสำหรับนั่งทานอาหาร เวทีเล็กๆสำหรับเดนซ์และร้องเพลงควบคู่กับเครื่องเสียงพร้อมอาหารเครื่องดื่มที่จัดเต็ม ไม่นานนักพวกเพื่อนๆจากห้องเดียวกันและต่างห้องบางคนทยอยหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานยังบ้านสวนของเคนตามที่นัดหมายจนพื้นที่โล่งๆดังกล่าวของบ้านสวนอัดแน่นไปด้วยผู้คนทั้งชายและหญิงกว่า50 คนเจ้าเติร์กที่กำลังนั่งทานหมูกะทะอยู่กับกลุ่มเพื่อนสนิทของมันอยู่นั้นจู่ๆมีชายหญิงคู่หนึ่งเดินมายืนอยู่ข้างหลังพร้อมกับหยิบเอาขวดน้ำอัดลมเปล่าบนโต๊ะเปลี่ยนสลับกับขวดใหม่ทำเอาเจ้าเติร์กที่นั่งปิ้งหมูอยู่นั้นต้องหันไปมองด้วยความตกใจ “เอ๊า!!! เจมส์ มาไงนิน้อง” เจ้าเติร์กแหงนมองเจมส์ที่ยืนถือขวดน้ำอัดลมพร้อมส่งยิ้มให้กับมัน “ผมมากับพี่เจนครับพี่เติร์ก เห็นบอกว่ากลัวผมอยู่บ้านคนเดียวแล้วเหงาเลยชวนมางานด้วยกัน” “อืมมมแล้วพี่เจนไปไหนแล้วล่ะ” “พี่เจนเหรอ พอมาถึงก็ดิ่งตรงไปหาพี่เคนในครัวโน่นแล้วครับ” “เจมส์มานั่งกินหมูกระทะกับพวกพี่ไหม เนี่ยที่ว่างยังมีมามา”“เดี๋ยวผมไปช่วยพี่เจนในครัวก่อนครับไว้เสร็จแล้วเดี๋ยวผมมานั่งด้วย” ในระหว่างที่เจมส์พูดอยู่นั้นเจ้าเติร์กหันไปมองผู้หญิงผมสั้นๆแต่งตัวเหมือนผู้ชายยืนอยู่ข้างๆเจมส์ ทันทีที่ผู้หญิงคนดังกล่าวถูกเจ้าเติร์กจ้องมองมันถึงกับยิ้มและยกมือไหว้ทักทาย “หวัดดีน้อง อันนี้เพื่อนเจมส์เหรอครับ”“ค่ะพี่เติร์กหนูเป็นเพื่อนสนิทกับเจมส์ รู้จักกันมาตั้งแต่ม.1 ละค่ะพี่” “ออๆ แล้วนี่เรียนที่เดียวกับเจมส์รึป่าวทำไมพี่ไม่คุ้นหน้าเราเลย”“เรียนที่เดียวกันค่ะพี่คือหนูไม่ค่อยโชว์ตัวเท่าไหร่เวลาทำกิจกรรมมันเลย….ไม่ค่อยมีใครรู้จักยกเว้นเพื่อนในห้องด้วยกันเท่านั้นค่ะ” “แล้วนี่น้องชื่ออะไรครับ” “หนูชื่อแคทค่ะพี่เติร์กเป็นน้องของพี่คินท์” “ออๆมิน่าล่ะพี่ถึงว่าทำไมน้องถึงหน้าคล้ายๆคินท์ อืมมมเท่ากับว่าในงานนี้มีแคทกับเจมส์นะเนี่ยที่เป็นนักเรียนม.3 เพราะนอกนั้นเป็นพวกรุ่นพี่ม.6 กันทั้งนั้น” เจมส์กับแคทหันมองหน้าและหัวเราะขึ้นพร้อมกัน “ไม่เป็นไรครับพี่เติร์กถึงผมกับแคทจะเป็นเด็กม.3 ในงานแต่ถ้าด้านประสบการณ์ผมก็เชี่ยวชาญพอๆกับพวกพี่นะครับ” “ฮ่าๆ ประสบการณ์เหรอ??” “หมายถึงผมทำงานเก่งนะครับพี่ฮ่าๆ งั้นผมไม่กวนพี่เติร์กนะครับ เดี๋ยวผมไปช่วยในครัวก่อนครับ” เจมส์ยิ้มและยกมือไหว้เจ้าเติร์กก่อนมันกับแคทจะเดินแยกไป “เจมส์ ไหนว่ามึงบอกว่าพี่เติร์กไม่คุยกับมึงไม่ใช่รึไงแล้วที่เราเห็นสรุปคือ??” “กูกับพี่เติร์กคุยกันจนเข้าใจแล้วล่ะคือจริงๆแล้วผิดที่กูเองแหละที่มโนคิดไปเองว่าพี่เติร์กเกลียดกูทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่เป็นแบบที่กูคิด” “อืมๆก็ดีล่ะ ก็ถึงว่าทำไมวันนี้มึงดูมีความสุขมากกว่าทุกครั้งที่แท้ก็เป็นเพราะเรื่องนี้นี่เอง แต่กูเป็นห่วงมึงอยู่เรื่องนะเว้ย มึงก็รู้ตัวมึงเองใช่มะว่ามึงน่ะรักพี่เค้ามากการที่มึงกลับไปคืนดีกับพี่เค้าได้แบบนี้มึงไม่กลัวว่าเรื่องมันจะกลับไปลงเอยเหมือนเดิมอีกเหรอวะเจมส์”เจมส์ถึงกับชักสีหน้าบึ้งตึงไปชั่วขณะ “กูก็ไม่รู้เหมือนกันแคทแต่กูจะทำให้ดีที่สุดล่ะกันพี่เติร์กเองก็จะได้รู้ว่ากูน่ะรักพี่เค้ามากขนาดไหน” บรรยากาศในงานเริ่มครึกครื้นขึ้นพร้อมกับเสียงเพลงที่เร้าใจเตอร์ เคน ตี๋และเวฟเดินถือเบียร์ช้างมาคนละกล่องก่อนที่จะมาวางซ้อนอยู่ข้างๆโต๊ะกินข้าวของทุกคนที่นั่งเรียงรายกันอยู่เตอร์กับเคนสั่งให้ทุกคนยกเอาขวดน้ำอัดลมบนโต๊ะลงไว้ด้านล่างก่อนที่เตอร์จะเดินไปยืนพูดอยู่ที่หัวโต๊ะ “เห้ยพวกมึงฟังๆๆๆวันนี้วันสุดท้ายแล้วนะเว้ยที่พวกเราจะได้มาจอยกันสนุกๆแบบนี้ดังนั้นจึงของดเครื่องดื่มแบบเด็กๆไปและขอเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มของผู้ใหญ่แทนเพื่ออรรถรสแห่งการเลี้ยงส่งท้าย ฉะนั้นหากใครที่อยู่ในโต๊ะนี้ไม่ดื่มเบียร์ที่พวกกูขนมานี้ถือว่าใจเสาะและขอให้ได้เมียไม่สวยเจอผัวไม่หล่อหรือเป็นโสดไปตลอดชีวิตเลยเพี้ยงงงงงง” ทุกคนที่นั่งๆฟังถึงกับโห่ร้องใส่เตอร์ “ดังนั้นหากใครไม่อยากโดนคำสาปเมื่อตะกี้ไปจงยกแก้วของตัวเองขึ้นมาและรินน้ำข้าวสีทองอันศักดิ์สิทธิ์จากขวดสีเขียวแต่ละขวดที่อยู่ตรงหน้าทุกคนและดื่มด่ำกับมันให้ถึงที่สุดซะ” ทันทีที่พูดจบเตอร์รีบเดินกลับไปนั่งที่ของมันและรีบรินเบียร์จากในขวดของมันลงในแก้วจากนั้นมันจึงหันมาหาเจ้าเติร์ก “เห้ยไอ้หน้าหล่อจะสู้ไหมวะมึง”เจ้าเติร์กที่กำลังก้มๆดมๆเบียร์ในแก้วของมันอยู่นั้นถึงกับรีบตอบด้วยความมั่นใจ “มาถึงจุดๆนี้แล้วมันก็ต้องเอาสักตั้งซิวะเชี่ยเตอร์กูก็ลูกผู้ชายเหมือนกันนะเว้ย”เตอร์ถึงกับจับไหล่เขย่าเบาๆด้วยความชอบใจ “ต้องให้ได้งี้สิวะมึงพูดได้ใจกูมาก อะชนแก้วกับกูหน่อยเว้ยมึง แก้วแรกนี้ขอรวดเดียวหมดนะเว้ย อะชนนนน” เตอร์กับเจ้าเติร์กชนแก้วและยกแก้วซดเบียร์จนหมดในครั้งเดียว “ไอ้หน้าหล่อ สรุปมึงจะไปเรียนต่อไหนวะ” “กูไปเรียนบริหารที่ มช.ว่ะ แล้วมึงล่ะไปไหน” “กูไปต่อวิศวะลาดกระบังว่ะ” “หืมมมึงต้องตั้งใจนะเว้ยเชี่ยเตอร์นอกจากจะเข้ายากแล้วยังจบยากด้วยนะมึงบอกไว้เลย”“อื้มมระดับกูแล้วรอดแน่นอน”“แล้วคนอื่นๆในก๊กเราตกลงไปที่ไหนกันยังไง” “ไอ้เคนกับเจนเห็นบอกว่าไปต่อสื่อปฏิสัมพันธ์และมัลติมีเดียที่มศว. ด้วยกัน ส่วนแป้งไปต่อนิติศาสตร์ที่สวนสุนันทาและแป๋มนี่คงไปต่อสื่อสารมวลชนที่จุฬาฯน่ะ” “ก๊กเรานี่แยกกันไปคนละทางเลยเนาะมึง ไม่น่าเชื่อเลยนะเชี่ยเตอร์ว่านี่จะผ่านมา 1 ปีล่ะ” “ก็นะมึงก็อย่าลืมกูนะเว้ยไปเรียนที่โน่นแล้วน่ะกูขอบใจมึงมากไอ้หล่อที่ช่วยกูในหลายๆเรื่องโดยเฉพาะเรื่องเรียน”“เช่นกันเว้ยเชี่ยเตอร์กูเองก็ต้องขอบใจมึงเช่นเดียวกันที่คอยแนะนำ ให้คำปรึกษาและกำลังใจทุกครั้งที่กูมีปัญหามึงคือเพื่อนแท้ที่ดีที่สุดของกูนะเว้ย” เตอร์ถึงกับยิ้มเจือนๆด้วยความอึ้งไปชั่วขณะ “เออๆ พอๆเปลี่ยนคุยเรื่องอื่นเหอะ เดี๋ยวได้พากันเข้าโหมดดราม่าพอดี”พวกของเจ้าเติร์กนั่งดื่มกันจนอารมณ์ศิลปินของแต่ละคนเริ่มครู่กรุ่นพอเพลงที่เปิดคลอๆกับบรรยากาศงานเลี้ยงเปลี่ยนเป็นเพลงงัดถั่งงัดเท่านั้นทุกคนที่นั่งดื่มกินกันที่โต๊ะยาวและบริเวณโดยรวมถึงกับรีบกรู่มาร้องและเต้นกันหน้าเวทีกันเป็นจำนวนมากไม่นานนัก เตอร์ เจต และตี๋ทั้งสามพากันขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับโชว์สเตปท่าเต้นแปลกๆสุดพิศดารประกอบเพลงให้กับทุกคนทำเอาทุกคนที่ได้เห็นถึงกับตลกหัวเราะด้วยความชอบใจขณะที่ทั้งสามกำลังเต้นกันอยู่บนเวทีเตอร์มันหยิบไมค์จากด้านข้างเวทีขึ้นมา “เต้นสามคนมันไม่เร้าใจ แต่หากมีลูกพี่ใหญ่เซเล็ปคนดังของเรามาขึ้นด้วยคงมันส์น่าดู อ้าวใครอยากเห็นลูกพี่เติร์กของเราขึ้นมาเต้นบ้าง วู้วววววว” ทุกคนที่ได้ยินถึงกับโห่ร้องใส่เจ้าเติร์กด้วยความชอบใจทำเอาเจ้าเติร์กที่ยืนเต้นอยู่กับเพื่อนด้านล่างยืนงงเป็นไก่ตาแตก ทุกคนรีบเอ่ยปากเชียร์เจ้าเติร์กกันยกใหญ่ “ขึ้นเลยโชว์เลยขึ้นเลยโชว์เลย….” เสียงรบเร้าจากเพื่อนๆรอบตัวบวกกับความคึกคะนองจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เจ้าเติร์กกระโดดขึ้นไปหาเตอร์ เจตและตี๋ที่ยืนอยู่บนเวทีอย่างไม่ลังเลทำเอาทุกคนโดยรอบปรบมือและโห่ร้องด้วยความชอบใจ เตอร์เดินมาตบไหล่เจ้าเติร์ก “มึงใจเด็ดมากที่รับคำท้ากู ถ้าแน่จริงมึงโชว์เต้นเดี่ยวก่อนเลยเอาป่าวววว” “เอาดิ้ รอไรวะ จัดมาเว้ยกูขอเพลง Party Rock Anthem”“จัดปายยยลูกพี่” ทันทีที่เพลงเริ่มบรรเลงเจ้าเติร์กโชว์ท่าเต้นประกอบเพลงที่มันขออย่างพลิ้วไหวมีทั้งท่าเต้น Shuffle ท่า Hiphop step ท่า Milli rock และท่าเต้น Shoot ทำเอาทุกคนถึงกับกรี๊ดกราดกันด้วยความชอบและทึ่งบ้างก็เอาโทรศัพท์มาถ่ายวีดีโอไว้ บ้างก็ไลฟ์สด จนเจตที่ยืนดูอยู่ข้างเวทีมันรีบโยกตัวไปถามเตอร์ "ไอ้เตอร์กูไม่ยักกะรู้ว่าไอ้เติร์กมันเต้นเก่งขนาดนี้ที่ผ่านมากูเห็นมันแม่งยักกะเด็กเนิร์ดเรียนแต่มึงดูดิ เต้นซะพลิ้วเลยนี่ใช่ไอ้เติร์กตัวจริงป่าววะมึง”“กูก็เพิ่งเคยเห็นมันเต้นก็วันนี้นี่แหละวะไอ้เจตที่กูท้าให้มันขึ้นมาเนี่ยจริงๆแล้วกูกะว่าจะสอนให้มันเต้นเป็นสักหน่อยแต่ดูจากสภาพแล้วคงไม่ต้องแล้วว่ะ” หลังเพลง PartyRock Anthem จบลงเสียงปรบมือและโห่ร้องดังลั่นไปทั่วบริเวณ เตอร์ เจตตี๋ ทั้งสามรีบกรู่เข้ามาหาเจ้าเติร์กพร้อมกัน เจตไม่รอช้ามันรีบยื่นไมค์ส่งให้กับเติร์ก “เห้ยไอ้เติร์กเพลงนี้จัดให้มึงโดยเฉพาะเลยเว้ยเดี๋ยวเพลงนี้พวกกูสามคนจะเต้นด้วย อย่าร้องผิดคีย์นะมึง” ทันทีที่อินโทรเพลงขึ้นเจ้าเติร์กทำหน้าฟินก่อนจะรีบเอาไมค์จ่อปาก “แม่งเลือกเพลงได้เข้ากับกูจริงๆ…..รอคนจะมาคนจะมามองตา รอใครจะมาใครจะมาดูแล รอไปนานนานฉันก็ชักท้อแท้ หวังไว้แค่นี้แค่ได้พบคู่ใจ….” เวลา 22.35 น. ผู้คนในงานเริ่มทยอยกลับบ้านจนเหลือไม่ถึง15 คนที่ยังคงอยู่ที่งาน เคนกำลังก้มเก็บขยะใส่ถุงดำอยู่กับเพื่อนๆทันทีที่มันเห็นเจ้าเติร์กกับตี๋นอนฟุบอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนใต้ถุนบ้านกันทั้งคู่ เคนมันส่ายหัวและเดินไปเขย่าตัวปลุก “เห้ยไอ้เติร์ก ไอ้ตี๋ พวกมึงสองคนไหวปะเนี่ยถ้าไม่ไหวมึงสองคนนอนค้างบ้านกูได้นะเว้ย เห้ยได้ยินที่กูพูดไหมวะไอ้เติร์ก ไอ้ตี๋” เคนเขย่าตัวทั้งคู่ไปมาอย่างรุนแรงจนเจ้าเติร์กที่นอนฟุบอยู่พูดขึ้นในลำคอ “อือ กูยังไหว อืมมกูขอฟุบพักก่อนเว้ยมึงง” เคนถึงกับถอนหายใจยาว “เฮ้อมึงนิน่าไอ้เวฟ ไอ้เจต มึงมานี่ก่อนมึงมาช่วยกูแบกไอ้เติร์กกับไอ้ตี๋ขึ้นไปบนบ้านหน่อยเว้ย มึงดูสภาพซิเนี่ย ไงไอ้เจตเห็นปะกูบอกแล้วว่าอย่าชวนไอ้สองคนนี้แดกเบียร์ผสมเหล้า มึงก็รู้ว่าพวกมันคออ่อน”“มึงไม่ต้องมองกูเลยไอ้เคน มึงไปต่อว่าไอ้เตอร์โน่นตัวต้นคิดให้แดกเบียร์ผสมเหล้า” “แล้วไอ้เตอร์มันหายหัวไปไหนวะมึงเห็นมันปะไอ้เวฟ แม่งไม่มาช่วยกันเก็บขยะ” “ไอ้เตอร์ตอนนี้มันขี้แตกอยู่ในห้องน้ำโน่นเห็นเห็นมันบ่นๆว่าโดนยำตีนไก่ที่มึงทำเลี้ยงแขกทำพิษเข้าให้”“ไม่ใช่ยำตีนไก่กูหรอกแต่เพราะมันแดกไรไปเรื่อยน่ะสิเลยท้องเสียเข้าให้เออช่างมันก่อน มะพวกมึงสองคนช่วยกูพะยุงไอ้ตี๋กับไอ้เติร์กขึ้นไปนอนบนบ้านก่อนปะ แล้วคืนนี้พวกมึงสองคนจะนอนนี่ปะกูจะได้เตรียมที่นอนให้” “แน่นอนซิวะไอ้เคน ถ้าให้กลับตอนนี้พวกกูสองคงไม่ไหวว่ะบ้านกูกับไอ้เวฟยิ่งอยู่ไกลด้วยแถมถนนใหญ่ก็รถเยอะอีก” “เสียดายนะที่ไอ้เฟิร์สไม่มาด้วย แม่งพลาดความสนุกส่งท้ายไปซะได้”“ไอ้เฟิร์สตอนแรกมันกะจะมาด้วยกันกับกูกับไอ้เวฟด้วยนี่แหละแต่มันติดที่แม่กับพี่สาวของมันดันพาไปกินข้าวนอกบ้านเลี้ยงส่งท้ายมันเลยขัดไม่ได้”เวลา 23.00 น. เจมส์เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับแคทก่อนที่ทั้งสองจะพากันมานั่งยังเก้าอี้ไม้โยกหน้าบ้าน “เฮ้ยแคทกว่าจะเสร็จงานล้าง ล่อซะกูมือเปื่อยน้ำหมดล่ะเนี่ย”“มึงอย่าบ่นก็มึงเองไม่ใช่เหรอที่อาสาจะเป็นคนช่วยล้างจานชามและแก้วกูเลยต้องมาร่วมกรรมอยู่ช่วยมึงด้วยเนี่ย” “เออขอบน้ำใจมึงมากแคทเฮ้อ!!เสียดายนะปีนี้กูนึกว่าโอลาฟมันจะมางานปัจฉิมด้วย”“มึงคิดว่ามันจะมาอยู่เหรอเราน่ะเลิกคิดว่ามันจะกลับมาหาพวกเราแล้วด้วยซ้ำ”“นั่นซินะแคทเราคงคาดหวังมากเกินไป แต่ถ้าโอลาฟมันมาจริงนะ กูคงมีหลายๆเรื่องเลยล่ะที่อยากจะบอกกับมันให้เข้าใจยังไงมันก็เพื่อนเรานะแคท” “กูก็ไม่เคยโกรธมันเลยนะเจมส์กูก็หวังว่าสักวันมันคงเข้าใจในความหวังดีของพวกเรา ว่าแต่วันนี้พี่เติร์กสุดยอดไปเลยวะเจมส์กูเพิ่งเคยเห็นพี่เติร์กเค้าเต้นก็ครั้งนี้แหละ”“มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วแคทก็พี่เติร์กนินะ พี่เค้าทั้งเก่งและมีเสน่ห์สุดๆเลยแหละ แถมยังใจดีด้วยนะแคท” เจมส์พูดขึ้นในใจ นอกจากจะใจดีแล้วยังควยใหญ่ด้วยแหละ “ก็อย่างที่กูบอกไปนั่นแหละเพราะแบบนี้กูถึงเลยชอบพี่เติร์ก” “พยายามต่อไปเว้ยมึงเจมส์ๆ พี่กูเรียกไปที่รถแล้วว่ะกูกลับก่อนนะเว้ยไว้สงกรานต์ไปเล่นน้ำที่ถนนข้าวสารด้วยกัน”“เออๆ กลับดีๆนะมึง” เจมส์โบกมืออำลาแคทก่อนที่จะลุกเดินไปหาเจนที่ยืนคุยกับแป๋มอยู่ตรงลานกว้างหลังบ้าน “พี่เจน….” จู่ๆเจนรีบพูดตัดบทและยื่นแท็บเล็ตให้กับเจมส์ “เจมเดี๋ยวเอาแท็บเล็บของเคนขึ้นไปชาร์ตบนห้องพี่เค้าหน่อยแบตจะหมดล่ะ” “พี่เจนจะนอนนี่หรอ”“ไม่นอน แกกับพี่ก็รู้อยู่ว่าแม่สั่งว่ายังไงก่อนมาที่นี่ เดี๋ยวสักพักจะกลับล่ะแกเองถ้าไม่มีไรทำก็นั่งเล่นโทรศัพท์รอพี่ไปก่อน” เจมส์ถอนหายใจสั้นก่อนจะเอื้อมมือรับเอาแท็บเล็บจากเจนและเดินไปยังบันไดขึ้นบ้านเมื่อขึ้นมาถึงเจมส์เดินตรงเข้าไปห้องเคนพร้อมกับเอาแท็บเล็ตในมือมันเสียบสายชาร์ตก่อนจะวางไว้ที่โต๊ะในขณะที่มันกำลังจะเดินออกจากประตูห้องจู่ๆเตอร์เดินออกมาจากห้องข้างๆพร้อมกับเอาผ้าขนหนูเช็ดผมไปมาก่อนที่มันจะเดินลงไปหาเคนกับเวฟที่ยังคงนั่งดื่มเบียร์ไปพลางคุยกันไปพลางอยู่ตรงโต๊ะยาวหน้าเวทีเมื่อเจมส์เดินผ่านหน้าห้องดังกล่าวหูของมันได้ยินเสียงกรนที่ดังออกมาจากภายในนั้นทำให้มันอดไม่ได้ที่จะเปิดประตูชะโงกหน้าเข้าไปดูว่าใครอยู่ข้างในด้วยความอยากรู้ทันทีที่มันชะโงกหัวเข้าไปกลิ่นสบู่อ่อนๆของเตอร์ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จไปเมื่อครู่ลอยเข้ามาปะทะกับจมูกของมันอย่างจังแสงสีส้มจากหลอดไฟที่อยู่บนเพดานเผยให้เห็นร่างผู้ชายคนสองคนที่นอนห่มผ้าอยู่คนละมุมห้องโดยชายคนแรกห่มผ้าสีฟ้าอ่อนนอนอยู่ริมหน้าต่างๆส่วนชายอีกคนห่มผ้าสีเทานอนอยู่เกือบกึ่งกลางห้องของอีกฝั่งเจมส์มันเลยเดินตรงเข้าไปหาชายคนแรกที่นอนริมสุดพร้อมกับค่อยๆใช้มือเปิดผ้าที่คลุมหัวออกเผยให้เห็นใบหน้าบ้านๆที่เต็มไปด้วยสิวของตี๋ที่กำลังนอนตะแครงซ้ายพร้อมกับเสียงกรนเจมส์มันเลยเอาผ้าคลุมไว้เช่นเดิมก่อนจะลุกเดินไปหาอีกคนที่นอนอยู่อีกฝั่งเมื่อเดินเข้าไปใกล้ เจมส์ถึงกับยืนอึ้งและชาวาบไปทั่วทั้งตัวทันทีมันเห็นใบหน้าขาวหล่อของเจ้าเติร์กนอนหลับตาอยู่ตรงหน้าเจมส์มันเลยย่อตัวนั่งลงพร้อมกับใช้มือเขย่าเบาๆ “พี่เติร์กครับพี่เติร์ก พี่ พี่เติร์กครับ” ไม่มีคำพูดใดตอบกลับมานอกจากเสียงลมหายใจเข้าออกอันแผ่วเบาเจมส์ถึงกับนั่งมองเจ้าเติร์กพร้อมกับหวนนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่มันมีอะไรกับเจ้าเติร์กขึ้นมา “พี่เติร์กหลับสนิทจริงๆด้วยแหะ แบบนี้ถ้าเราทำในสิ่งที่เราอยากทำพี่เติร์กคงไม่รู้สินะแต่ถ้าเกิดพี่เติร์กตื่นขึ้นมาแบบคราวที่ห้องพยาบาลอีกล่ะหรือมีใครเข้ามาเจอเราจะทำยังไงมีหวังพี่เค้าคงเกลียดเราไปตลอดแน่ๆแต่ถ้าเราไม่ทำก็เท่ากับพลาดโอกาสแบบนี้ไปเลยนะหลังจากนี้ไปก็ไม่รู้ว่าเรากับพี่เติร์กจะได้เจอและใกล้ชิดกันแบบนี้อีกรึป่าวเราจะทำดีไหมนะเจมส์คิดสิคิด” เจมส์นั่งครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ภาพใบหน้าหล่อๆและร่างอันสูงใหญ่ที่นอนตรงหน้าบวกกับกลิ่นโรออนอ่อนๆผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ลอยขึ้นมาเป็นช่วงๆเปรียบเสมือนมนต์สะกดให้ความต้องการที่อยู่ในใจลึกๆของมันถูกปลดปล่อยออกมาทีละนิดๆจนความรู้สึกกลัวและวิตกกังวลในตอนแรกของมันถูกกลืนหายไปจนหมดสิ้นมันเลยตัดสินใจลุกขึ้นยืนและเดินไปที่หน้าตาและจ้องมองไปยังลานหลังบ้านมันเห็นเตอร์ เคนเวฟและเพื่อนๆของมันอีก 2 คนนั่งจับกลุ่มกินเหล้าและคุยกันไปมาอย่างถูกคอส่วนพี่สาวของมันก็ยังคงติดลมยืนคุยแป๋มไปมาอยู่ที่เดิมมันเลยหันมามองที่อีกครั้งพร้อมกับใช้มือเขย่าปลุกเพื่อเช็คความมั่นใจว่าตี๋ได้หลับสนิทไปแล้วจริงๆเมื่อทุกอย่างเป็นใจให้กับมันเจมส์ถึงกับรู้สึกโล่งและสบายใจขึ้นมาหน่อยๆมันเดินตรงไปนั่งขัดสมาธิข้างๆเจ้าเติร์กและใช้มือไปสองสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มและเสื้อยืดพร้อมทั้งใช้ฝ่ามือทั้งสองของมันลูบไล้หน้าท้องและหน้าอกเจ้าเติร์กไปมาด้วยความสุขบวกความตื่นเต้นไปพร้อมๆกับคอยหันไปมองใบหน้าเจ้าเติร์กเป็นช่วงๆมันสัมผัสได้ถึงผิวอันเรียบเนียนหัวนมทั้งสองและซิกแพ็กตรงหน้าท้องที่นูนขึ้นมาเป็นลอนๆมันลูบเล้าไปมาได้พักใหญ่เมื่อเจ้าเติร์กไม่มีท่าจะตื่นขึ้นมามันเลยหันมองซ้ายขวาอีกครั้งก่อนที่มันจะเอาหัวก้มมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่มสีเทาที่คลุมตัวเจ้าเติร์กอยู่เจมส์ใช้มือดังเสื้อยืดเจ้าเติร์กรั้งขึ้นไปไว้ที่คอพร้อมกับก้มเอาจมูกไปแนบชิดแผ่นหน้าอกและสูดเอากลิ่นกายอันหลงไหลเจ้าเติร์กเข้าไปเต็มปอดฟืดดดดกระนั้นมันยังเอาหน้าบดบี้ถูไปมาด้วยความหื่นกระหายก่อนจะใช้ลิ้นเลียและดูดไปที่หัวนมซ้ายขวาสลับกันไปมามันเลื่อนใบหน้าขึ้นไปไซร์ยังลำคอก่อนจะกลับมาที่หน้าอกและหัวนมจากนั้นมันจึงลากลิ้นลงไปยังกล้ามหน้าท้องขยับต่ำลงไปยังท้องน้อยและเลื่อนขึ้นมายังตำแหน่งเดิมเจมส์ทำเช่นนั้นจนเป็นที่พอใจมันเลยใช้มือทั้งสองเปิดผ้าห่มส่วนล่างขึ้นมาที่ลำตัวพร้อมใช้มือรูดซิบและแกะกระดุมกางเกงยีนส์ขายาวของเจ้าเติร์กและแหวกมันออกเผยให้เห็นกางเกงในสีฟ้าอ่อนและท่อนลำทีนอนสงบนิ่งอยู่ภายในนั้นเจมส์หันไปมองตี๋อีกครั้งพร้อมกับเงี่ยหูฟังเสียงกรนเมื่อตี๋ยังคงหลับสนิทเช่นเดิมมันเลยเอามือจับขาเจ้าเติร์กที่นอนหงายอยู่นั้นกางออกเล็กน้อยก่อนที่มันจะลงไปนอนคว่ำหน้าอยู่ตรงหว่างขาทันทีที่ใบหน้าของมันอยู่ตรงกับตำแหน่งเป้ากางเกงเจมส์ไม่รอช้ามันรีบก้มหน้าเอาปากงับท่อนลำเล่นจากภายนอกกางเกงในไปมาด้วยอยากและความสุขใจทั้งกลิ่นอับกลิ่นฉี่อ่อนๆและกลิ่นแอลกอฮอล์จากเป้ากางเกงลอยเข้าสู่จมูกของมันอย่างต่อเนื่องซึ่งนั่นก็ยิ่งกระตุ้นให้เจมส์มีอารมณ์ทางเพศอย่างถึงขีดสุดเมื่อท่อนลำของเจ้าเติร์กพองตัวขยายใหญ่จนตุงนูนขึ้นมา เจมส์เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองมันอย่างหลงใหลก่อนจะใช้มือจับขอบกางเกงในและงัดเอาท่อนลำที่ผงาดตัวขึ้นมาเชยชม “หูยยย ควยพี่ยังใหญ่เหมือนเดิมเลยยยเพราะแบบนี้แหละผมถึงได้หลงรักพี่ไง” เมื่อพูดจบเจมส์ใช้มือถอกหนังหุ้มปลายลงไปจนเกือบสุดเผยให้เห็นหัวเห็ดสีแดงอมชมพูบานใหญ่อีกทั้งยังมีน้ำเมือกใสๆไหลซึมออกมาจากส่วนปลายรอให้เจมส์ได้จัดการ “ขนาดนอนหลับสนิทยังเงี่ยนอยู่เหรอเนี่ยพี่เติร์กนี่สุดๆจริง เดี๋ยวผมจัดการเอาออกให้นะครับถึงแม้พี่จะไม่รู้สึกแต่ถ้าตื่นมาแล้วพี่จะได้สบายควยไง” เจมส์จับท่อนลำจ่อที่ปากก่อนจะใช้ปลายลิ้นเลียชิมน้ำเมือกไปมา “รสชาติใช้ได้เลยแหะ” เจมส์ใช้ริมฝีปากดูดกินน้ำเงี่ยนจากปลายหัวเห็ดและค่อยๆก้มครอบปากลงไปช้าๆเจมส์มันใช้ปากรูดเร้นขึ้นลงได้ไม่นาน “อืมมมม” จู่ๆเสียงเจ้าเติร์กขึ้นจากในลำคอทำเอาเจมส์ที่ก้มดูดอมท่อนลำอยู่นั้นถึงกับหยุดชะงักชั่วขณะมันตัวชาแข็งทื่อโดยที่ปากยังอมท่อนลำคาไว้เช่นนั้นหัวใจของมันเต้นสั่นระรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ เมื่อตั้งสติได้มันค่อยๆถอนปากออกจากท่อนลำและเงยหน้าขึ้นมาพร้อมเรียกชื่อเจ้าเติร์กเบาๆ “พี่เติร์กครับ พี่เติร์ก…” ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับนอกจากเสียงหายใจเข้าออกยาวๆ เจมส์นิ่งดูอยู่ไปชั่วขณะหนึ่งจนมันแน่ใจว่าเจ้าเติร์กยังไม่ตื่นมันเลยก้มเอาปากครอบท่อนลำต่อพร้อมกับออกแรงดูดขึ้นลงๆอย่างหิวกระหายท่อนลำของเจ้าเติร์กค่อยๆพองขยายเบ่งบานจนคับอุ้งปาก เจมส์ถึงกับอุทานขึ้นในใจ “ควยพี่เติร์กมันแน่นปากได้ใจจริงๆแบบนี้ต่อให้ดูดเป็นชั่วโมงก็ไม่เบื่อ”เสียงจ๊วบจ๊าบเริ่มดังเป็นช่วงๆพร้อมกับจังหวะผงกหัวขึ้นลงที่เร่งเร็วขึ้นตาม“อือออออ” เสียงครางในลำคอของเจ้าเติร์กดังขึ้นอีกครั้งเจมส์ที่ได้ยินมันตกใจเล็กน้อยถึงกระนั้นมันก็ยังคงก้มผงกหัวขึ้นลงไปมาเช่นเดิม “อืออออือออออ” เสียงครางเจ้าเติร์กยังคงดังขึ้นจากในลำคอต่อๆเนื่องผสมกับเสียงดูดจากริมฝีปากที่บีบรัดท่อนลำไปมาเจมส์นอนโม๊กให้เจ้าเติร์กได้เกือบ 10 นาทีจนท่อนลำเกร็งกระตุกพ่นน้ำเชื้อเข้าสู่อุ้งปากของเจมส์อย่างต่อเนื่องเจมส์ไม่รอช้ามันรีบออกแรงดูดกลืนกินน้ำเชื้อดังกล่าวลงสู่กระเพาะอย่างทันทีทันใดจนกระทั้งน้ำเชื้อหยดสุดท้ายถูกรีดจากท่อนลำไปจนหมดเจมส์มันเลยคายปากออกท่อนพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาสูดหายใจด้วยความเหนื่อย “แฮ่กๆๆน้ำพี่เติร์กยังเยอะเหมือนเดิมแถมรสชาติยังอร่อยไม่เปลี่ยนเลย” เมื่อหายเหนื่อยดีแล้วเจมส์จ้องมองไปยังท่อนลำที่ไม่มีท่าทีจะอ่อนตัวลง “หืมมไม่ยักกะลงด้วย สงสัยต้องจัดให้อีกรอบแล้วมั้งนิ”เจมส์มันเลยถอดกางเกงของมันลงให้พอพ้นก้นและก้าวตัวขึ้นไปนั่งยองๆอยู่ตรงเป้าเจ้าเติร์กมันมองหน้าเจ้าเติร์กที่ยังคงนอนหลับด้วยความหลงใหลก่อนที่มันจะใช้มือขวาจับท่อนลำตั้งขึ้นโดยให้ปลายหัวเห็ดจ่อตรงรูก้น “ผมขอนะพี่” เจมส์มันเลยกดย่อตัวนั่งให้หัวเห็ดบานค่อยๆดันจมหายลงไปในรูก้นของมัน “ซี๊ดดดดสุดยอดดด ใหญ่โครต อ๊ากกกก” เจมส์นั่งกดลงไปได้ครึ่งลำจนมันรู้สึกจุกมันเลยค่อยยกตัวขึ้นช้าๆก่อนจะย่อตัวนั่งกดซ้ำลงไปอีกรอบ สองมือของมันจับต้นขาของเจ้าเติร์กไว้มั่นพร้อมกับค่อยๆเร่งจังหวะซอยให้เร็วขึ้น “อ่าหหหหหพี่เติร์กควยใหญ่ๆของพี่มันทำให้ผมรู้สึกเสียวจริงๆเลยนะครับอ่าหหหหซีดดดดด” เจมส์นั่งเขย่มขึ้นลงได้เกือบสองนาที ทันใดนั้นเองมันก็ต้องตกใจกับเสียงเรียกพี่สาวมันที่ดังขึ้นมาจากด้านล่าง “เจมส์ เจมส์ อยู่ข้างบนรึป่าว” เจมส์ถึงกับหัวเสียขึ้นมาอย่างรุนแรง “โถ่ถถพี่เจน ทำไมต้องขัดจังหวะตอนนี้ด้วยนะ กำลังฟินอยู่เลย” เจมส์มันรีบลุกขึ้นยืนและจัดการแต่งตัวให้เจ้าเติร์กและเอาผ้าห่มมาคลุมไว้เช่นเดิมถึงกระนั้นมันยังคงก้มลงไปนอนกอดเจ้าเติร์กไว้มั่นมันนอนมองเจ้าเติร์กที่ยังคงหลับและหายใจยาวๆก่อนจะเลื่อนเอาปากไปกระซิบข้างหู “พี่คงไม่ได้ยินผมหรอก แต่ถ้าพี่ได้ยินผมอยากบอกว่าผมรักพี่เติร์กมากที่สุดนะครับ ผมอยากเป็นแฟนกับพี่จริงๆเลย” ทันทีที่พูดจบเจมส์มันก้มไปหอมแก้มเจ้าเติร์ก 1 ทีก่อนที่มันจะลุกเดินออกจากห้องไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ เวลา 7.45 น.“เห้ยไอ้หน้าหล่อตื่นแล้วเร็วจังวะนี่ยังเช้าอยู่เลยนะเว้ย”เตอร์ที่กำลังนั่งกินกาแฟอยู่ใต้ถุนบ้านอยู่คนเดียวหันไปทักทายเจ้าเติร์กที่กำลังเดินลงมาจากบันได“กูก็อยากจะนอนต่อนะเว้ย แต่มันมึนๆหัวไงไม่รู้ว่ะกูเลยอยากลุกมาหายไรกินให้มันโล่งๆหน่อย ว่าแต่มึงก็ตื่นเช้าเหมือนกันนี่หว่า เมื่อคืนมึงขึ้นมานอนกี่โมงวะเชี่ยเตอร์”“ตี 1 ว่ะเสียดายนะถ้ามึงไม่คออ่อนจนเมาไปซะก่อนมึงคงได้กินไวน์แพงๆที่ได้เคนมันแอบเอาของปู่มันมาเปิดกิน” “เออๆไงก็ดีใจกับมึงด้วยที่ได้แดกของดี” เจ้าเติร์กเดินไปหยิบเก้าอี้มานั่งข้างเตอร์ “ว่าแต่มึงแดกเหล้าเบียร์ไปซะขนาดนั้น แล้วนี่มึงไม่เมารึปวดหัวไรเหรอวะห๊ะ”“กูบอกมึงแล้วไงระดับกูแล้วเหล้าเบียร์แค่นั้นน่ะแม่งโค่นกูลงไม่ได้หรอกเว้ย”“หืมมมถ้าเรื่องเรียนมึงเทพแบบนี้อะนะกูว่ามึงคงไปได้ไกลกว่ากูเยอะว่ะเชี่ยเตอร์ แล้วนี่คนอื่นไปไหนกันหมดวะกูตื่นมาเจอแค่ไอ้เจตกับไอ้เวฟ นอนอยู่” “ไอ้เคนมันตื่นไปวิ่งออกกำลังกายแต่เช้ามืดโน่นล่ะตอนแรกกูก็จะไปกับมันอยู่นะแต่พอเอาเข้าจริงๆแม่งง่วงไม่ไหวว่ะ” “จริงสิเมื่อคืนกูฝันแปลกๆด้วยเว้ย”“ฝันไรวะอย่าบอกนะว่ามึงฝันเย็ดกับหนิง” “ก็ไม่เชิงเว้ยแต่แต่เหมือนกูฝันว่ากูเย็ดกับใครสักคนแต่ไม่ใช่หนิงนะ แต่ในฝันน่ะแม่งโครตเหมือนจริงมากเพราะกูแม่งน้ำแตกด้วยว่ะเหมือนจริงโครตๆ ตอนแรกก็นึกว่าฝันเปียก แต่พอกูตื่นมาก็เห็นจะมีน้ำมีไรเลยเว้ย”เตอร์ถึงกับหัวเราะขึ้นเบาๆ “ฮ่าๆ มึงนี่นะไอ้หน้าหล่อคงเป็นประเภทเมาแล้วเงี่ยนรึไงวะ ฮ่าๆเนี่ยถ้ามึงเงี่ยนจริงๆล่ะก็ ห้องน้ำอยู่ตรงนั้นเว้ยหรือถ้ามึงอายกูนะ มึงก็ขึ้นไปจัดการที่ห้องน้ำบนบ้านได้เว้ยหรือไม่งั้นมึงก็ไปหาแฟนใหม่เป็นตัวเป็นตนสักคนและค่อยจัดให้สักยก ฮ่าๆไป่ไป่มึงไปหาไรร้อนๆในครัวแดกซะจะได้หัวโล่งๆ” วันศุกร์ที่ 29 มีนาคมหลังสอบโอเน็ตผ่านพ้นไป เจ้าเติร์กที่ง่วนกับการเก็บข้าวของต่างๆของมันลงกล่องเพื่อที่จะย้ายกลับไปเชียงใหม่ในระหว่างที่มันกำลังนั่งคัดของที่ต้องการกับไม่ต้องการอยู่นั้นเองน้าเอมเปิดประตูห้องและเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นกล่องสีดำขนาดกลางให้กับเจ้าเติร์ก “อะไรเหรอครับน้าเอม” น้าเอมได้แต่ยิ้มๆ “เติร์กลองเปิดดูซิครับ” เจ้าเติร์กทำหน้างงก่อนจะเปิดกล่องดังกล่าวด้วยความสงสัย “โหหหหน้าเอม สวยอะครับ สมาร์ทวอทช์ นี่น้าเอมซื้อมาเท่าไหร่ครับ” “13,789 บาทจ๊ะลูก”“โหแพงใช้ได้เลยนะน้า น้าซื้อของแพงมาใช้แบบนี้น้าไม่กลัวอาปลื้มว่าให้เหรอครับ”“ไม่ว่าหรอกลูกเพราะน้าไม่ได้ซื้อมาใช้หรอกแต่น้าซื้อให้เติร์กต่างหาก”“เดี๋ยวนะน้า ตะกี้น้าว่าอะไรนะครับ”“ก็ของเติร์กไง น้าซื้อให้เติร์ก” เจ้าเติร์กถึงกับทำหน้าตื่นตกใจ “น้า...ไม่ดีมั้งครับ ของแพงแบบนี้ผมไม่กล้ารับอะ แล้วนี่น้าซื้อให้ผมเนื่องในโอกาสไรอะครับ”“ก็ไม่มีโอกาสไรทั้งนั้นแหละน้าอยากซื้อให้ไว้ใช้ เพราะเติร์กก็เปรียบเสมือนลูกคนหนึ่งของน้าตั้งแต่เติร์กมาอยู่ที่นี้ เติร์กช่วยไรน้ากับอาปลื้มไว้หลายอย่างทั้งเรื่องงานที่ร้าน เรื่องบิวบอล เติร์กช่วยแบ่งเบาไปได้เยอะเลยก็ตั้งแต่เติร์กมาอยู่ที่เนี่ย รู้ไหมว่าบิว บอล เป็นเด็กดีขึ้นเยอะไม่ค่อยดื้อเหมือนแต่ก่อนเลย ถ้าเป็นไปได้น้าเองก็อยากให้เติร์กเรียนต่อที่กรุงเทพด้วยซ้ำ”“ผมก็อยากเรียนต่อที่นี้เหมือนกันครับน้าถ้าไม่ติดตรงที่พ่อกับแม่นะเอาจริงๆผมน่ะรู้สึกผูกพันกับที่นี้มากกว่าบ้านที่เชียงใหม่อีกนะครับน้าถึงแม้จะเป็นแค่ปีเดียวแต่ก็เป็น 1 ปีที่ทำให้ผมเปลี่ยนตัวเองไปได้เยอะ”“มันก็ต้องแน่นอนสิลูกคนเราเวลาเปลี่ยนอะไรมันก็ต้องเปลี่ยนไปตามสภาพส่วนสมาร์ทวอชท์นี่ถือว่าเป็นของขวัญจากน้ากับอาปลื้มนะลูก”เจ้าเติร์กยกมือไหว้ด้วยรอยยิ้มปิติสุขก่อนจะเอื้อมมือไปรับของ “แล้วนี่เติร์กจะขึ้นเครื่องพรุ่งนี้กี่โมงครับ” “เครื่องออก 8 โมงครับน้าเอมส่วนของอื่นๆในห้องนี้ผมจัดการส่งตามไปทีหลังไว้แล้วน่ะครับ ไงผมฝากน้าเอมช่วยดูเรื่องนี้ด้วยนะครับ”“จ๊ะๆ อื้มมมจริงๆเติร์กไม่น่าจะรีบไปเลยนะเพราะพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของบิวซะด้วย” “ครับผมก็เสียดายเหมือนกัน ถ้าพรุ่งนี้ไม่ติดว่าเป็นวันรายงานตัวสอบสัมภาษณ์ผมคงอยู่ต่อจนถึงสงกรานต์อะครับ จริงๆแล้ววันนี้บิวก็มางอแงเรื่องนี้กับผมเป็น 10กว่ารอบล่ะ” “เติร์กก็อย่าไปถือสาน้องเลยลูกน้องยังเด็ก”“ผมไม่โกรธบิวหรอกครับผมเข้าใจบิวนะ ถ้าผมเป็นบิวผมก็อาจคงทำแบบนั้นเหมือนกัน”“เอาจริงๆนะ น้าเองก็อยากถามเติร์กอยู่เหมือนกันว่าเติร์กไปทำท่าไหนให้บิวติดและเชื่อฟังเติร์กยิ่งกว่าน้ากับอาปลื้ม” “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับน้า บางทีผมก็งงตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไม ฮ่าๆ ว่าแต่นี่บิวกับบอลไปไหนเหรอครับ เห็นเงียบๆ”“ออกไปซื้อของนอกกับอาปลื้มน่ะลูกจะว่าไงดีนะ ก็….บิวมารบเร้าขอให้น้ากับอาปลื้มจัดงานวันเกิดในวันนี้เลย ดูท่าคงเพราะรู้ว่าเติร์กจะกลับเชียงใหม่พรุ่งนี้นั่นแหละ”“นี่บิวทำขนาดนั้นเลยเหรอน้า” “น้าเองตั้งแต่คลอดบิวมาก็เพิ่งเคยเห็นบิวพูดเป็นจริงเป็นจังก็ครั้งนี่แหละเพราะงี้น้าถึงเลยแปลกใจไงว่าเติร์กไปทำท่าไหนบิวถึงได้เปลี่ยนไปซะขนาดนี้” เวลา 20.30 น. เจ้าบิวเดินไปเคาะประตูห้องเจ้าเติร์กก่อนจะเข้าไปจูงมือพาเจ้าเติร์กที่กำลังนั่งคุยโทรศัพท์ยังโต๊ะอ่านหนังสือ มันพาเจ้าเติร์กลงมายังชั้นล่างเมื่อมาถึงน้าเอมเดินไปปิดไฟและบอกให้อาปลื้มยกเค้กสตรอเบอรี่ที่ปักและจุดเทียนไว้เรียบร้อยยกมาวางที่กลางโต๊ะก่อนที่ทุกคนจะเอ่ยปากร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับเจ้าบิวอย่างพร้อมเพรียงกัน “บิว ก่อนเป่าเค้กอย่าลืมอธิฐานก่อนนะลูก” เจ้าบิวมองไปที่เจ้าเติร์กก่อนยกมือขึ้นไหว้และหลับตาและเอ่ยปากพูดขึ้น “ขอให้พี่เติร์กอยู่กับบิวไปนานๆนะค๊าบบ” พอพูดจบมันจึงเป่าเทียนดับในครั้งเดียว ทำให้อาปลื้มที่ยืนข้างเจ้าบอลรีบเอ่ยปากแซว “บิวลูกคำอธิฐานต้องพูดในใจซิครับมันถึงจะสมหวัง”“ไม่เอาอะพ่อปลื้มบิวว่าพูดออกมาให้ได้ยินนั่นแหละมันถึงจะสมหวังมากกว่า” เจ้าเติร์กกับน้าเอมถึงกับหัวเราะขึ้นพร้อมกันก่อนที่น้าเอมจะยกเอากล่องขวัญขนาดใหญ่ที่ซ่อนไว้ใต้โต๊ะขึ้นมาให้เจ้าบิว “นี่จ๊ะบิวสุขสันต์วันเกิดนะลูก โตขึ้นไปอีก 1 ปี อย่าดื้ออย่าซนให้แม่กับพ่อต้องปวดหัวเหมือนเมื่อก่อนอีกนะ”เจ้าบอลที่เห็นกล่องของขวัญดังกล่าวในมือพี่ชายของมันมันถึงกับรีบเอ่ยปากพูดแทรก “แม่เอม พ่อปลื้ม วันเกิดบอลแม่เอมกับพ่อปลื้มต้องซื้อขวัญกล่องใหญ่ๆแบบนี้ให้บอลด้วยนะคัฟ” เจ้าบิวรีบวางกล่องของขวัญดังกล่าวลงก่อนจะหันไปมองเจ้าเติร์ก เจ้าเติร์กที่เห็นเช่นนั้นมันเลยลุกขึ้นมาย่อตัวนั่งลงตรงหน้าเจ้าบิว “สุขสันต์วันเกิดนะบิวพี่ขอให้บิวตั้งใจเรียนและเป็นคนดีของพ่อแม่นะครับวันนี้พี่เองก็เพิ่งรู้ว่าบิวจะจัดงานวันเกิดล่วงหน้าพี่เลยไม่ทันได้เตรียมของขวัญอะไรไว้ให้เลย ไงพี่ต้องขอโทษบิวด้วยนะครับ” เจ้าบิวทำหน้าบึ้งก่อนจะยิ้มขึ้นมา “ไม่เป็นไรค๊าบบแค่พี่เติร์กอยู่ด้วยแบบนี้บิวก็พอใจแล้วค๊าบ เดี๋ยวพี่เติร์กกินเค้กที่บิวตัดให้นะค๊าบบ”น้าเอมที่ได้ยินรีบหันไปกระซิบพูดกับอาปลื้ม “พี่ๆดูๆ นี่ใช่บิวรึป่าวนิ ทำไมยังกะคนละคนเลย” “นั่นสิเอม ปกติเจ้าบิวเป็นคนไม่ค่อยยอมใครง่ายๆซะด้วย” เวลา 21.22 น. หลังทุกคนทานเค้กและอาหารที่ซื้อมาเลี้ยงวันเกิดเจ้าบิวเสร็จแล้วทุกคนต่างพากันแยกย้าย โดยเจ้าเติร์กมันขอตัวแยกไปอาบน้ำพักผ่อนสำหรับเดินทางพรุ่งนี้เช้าระหว่างที่เจ้าเติร์กกำลังจะขึ้นเตียงจู่ๆเสียงเคาะประตูดังขึ้นเมื่อเจ้าเติร์กเดินไปเปิดก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเจ้าบิวที่ใส่ชุดนอนสีเขียวสายหมีแขนยาวขายาวยืนยิ้มให้กับมันอยู่หน้าประตู “พี่เติร์กบิวบอกแม่เอมแล้วคืนนี้บิวขอนอนด้วยคนนะค๊าบบ” เจ้าเติร์กยิ้มด้วยความเอ็นดูก่อนจะก้มตัวใช้มือไปลูบหัวไปมา “มาซิบิว แต่อย่าชวนพี่นอนดึกนะพรุ่งนี้พี่ต้องไปเช้า” เจ้าบิวผยักหน้าด้วยความดีใจ และดิ่งตรงไปที่เตียงเมื่อทั้งสองปิดไฟและล้มตัวนอนลง “พี่เติร์ก ถ้าพี่เติร์กไม่อยู่ที่นี่แล้วบิวต้องเหงาแน่ๆเลยค๊าบ”“ไม่เหงาหรอกบิวบิวก็ยังมีบอลอยู่เป็นเพื่อนทั้งคนนะ” “แต่ยังไงมันก็ไม่เหมือนพี่เติร์กอยู่ดีอะค๊าบบเมื่อก่อนตอนพี่เติร์กมาอยู่แรกๆ พี่บิวเคยไม่ชอบพี่เติร์กด้วยนะค๊าบบิวยังบอกให้น้องห้ามคุยกับพี่เติร์กด้วยซ้ำ”“หืมมพี่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ยแล้วทำไมถึงไม่ชอบพี่ล่ะบิว” “ก็จู่แม่พาใครไม่รู้ที่ไม่ค่อยสนิทมาอยู่บ้านมันแปลกๆยังไงๆไม่รู้อะค๊าบ”“แล้วเดี๋ยวนี้ล่ะยังไม่ชอบพี่อยู่รึป่าว” “บิวเลิกคิดแบบนั้นไปนานแล้ว บิวไม่อยากให้พี่เติร์กไปเลยอะค๊าบพี่เติร์กอยู่กับบิวจนบิวอายุเท่าพี่เติร์กได้ไหมอะ” “ไม่ดีมั้งบิวยิ่งดื้อๆอยู่ด้วย พี่คงปวดหัวแย่” “ไม่ดื้อสักหน่อยบิวก็ฟังทั้งแม่ พ่อและก็พี่เติร์กอยู่นะค๊าบบ พี่เติร์กจะอยู่กับบิวได้ไหมอะ”“พี่อยากกับบิวอยู่แล้วแต่ภาระของตัวพี่เองมันยังไม่สิ้นสุดนะครับ ซึ่งบิวเองอีกหน่อยก็ต้องทำเหมือนพี่เช่นกัน บิวเข้าใจพี่นะอีกหน่อยบิวก็ต้องโตขึ้นและก็มีอะไรหลายๆอย่างที่บิวจะได้เจอและเรียนรู้ชีวิตอีกมากสิ่งที่บิวเจอทุกวันนี้มันก็เหมือนบิวดูการ์ตูนแค่เรื่องเดียวนั้นแหละทั้งที่ในความเป็นจริงมันก็ยังมีการ์ตูนอีกหลายเรื่องที่บิวยังไม่เคยได้ดูซึ่งในบางเรื่องเราเองก็ต้องลงทุนไปเสาะหาเพื่อให้ได้ดูพี่เองก็เช่นกัน บิวลองคิดตามพี่นะถ้าพี่ยังอยู่กับบิวแบบนี้ไปตลอดบิวคิดว่าบิวหรือพี่จะมีโอกาสได้ดูการ์ตูนเรื่องใหม่ๆไหมครับ”“ม่ายอะค๊าบ”“นั่นแหละเห็นไหมดังนั้นบิวต้องเข้าใจพี่นะ ยิ่งพี่เห็นบิวงอแงอยู่แบบนี้พี่ก็ไม่สบายใจนะที่ต้องจากบิวไปทั้งแบบนั้น”“ค๊าบงั้นบิวจะไม่งอแงแล้วค๊าบ” เจ้าบิวพูดพร้อมกับขยับตัวเข้าไปกอดเจ้าเติร์กไว้แน่นเจ้าเติร์กมันหันมองมองบิวพร้อมกับใช้มืออีกข้างมาลูบหัวเล่นไปมาเจ้าบิวนอนกอดได้ไม่นานมันเลยค่อยๆขยับตัวต่ำลงพร้อมกับใช้มือกำท่อนลำที่อยู่ใต้กางเกงบ๊อกเซอร์และชักขึ้นลงไปมาเจ้าเติร์กที่นอนๆอยู่มันได้แต่นอนนิ่งเงียบและปล่อยให้เจ้าบิวทำตามที่มันต้องการเจ้าบิวชักขึ้นลงจนท่อนลำใต้กางเกงค่อยๆแข็งผงาดตั้งชี้โด่ขึ้นเจ้าเติร์กที่นอนๆอยู่มันสัมผัสได้ถึงอุ้งปากอันนุ่มๆอุ่นๆครอบลงไปที่หัวเห็ดของมันลงไปจนถึงครึ่งลำ “อืมมมซีดดดดบิวววว” ความเสียวแปล๊บๆจากหัวเห็ดของมันค่อยๆแผ่ซ่านกระจายไปทั่วร่างทีละนิดพร้อมเสียงครางที่ค่อยๆดังถี่ขึ้น “อืมมมซีดดบิววค่อยทำครับอย่าโดนฟันอ่าหหหอ่าหหซีดดด นั่นแหละบิวอมแบบนั้นครับ ดูดแรงขึ้นอีกหน่อยย อืมมซีดดดอ่าหห”เจ้าบิวนอนดูดได้ไม่นานจู่ๆมันถอนปากออกและลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิ จนเจ้าเติร์กที่กัดฟันนอนเพลิดเพลินกับความเสียวอยู่นั้นต้องชันตัวลุกขึ้นมาด้วยเช่นกัน “บิวหยุดทำไม พี่กำลังเพลินอยู่เลยนะ เป็นไรรึป่าว”เจ้าเติร์กพูดพร้อมกับจ้องมองสีหน้าอันเศร้าสร้อยของเจ้าบิว “พอบิวนึกถึงพรุ่งนี้วันที่พี่เติร์กจะจากบิวไปแล้วมันทำให้บิวไม่มีอารมณ์จะทำต่อแล้วอะค๊าบ” เจ้าเติร์กสวมกางเกงกลับและใช้มือดึงตัวเจ้าบิวเข้าไปหา “เรื่องของวันพรุ่งนี้อย่าเพิ่งไปนึกถึงมันสิครับบิวคิดอยู่กับปัจจุบันครับ”“แต่บิวก็ยังคิดอยู่อะค๊าบบ บิวไม่อยากให้พี่เติร์กไปเลยฮืออออ” เจ้าบิวพูดพร้อมกับหลั่งน้ำตาจนเจ้าเติร์กรีบเอามือไปจับแก้มทั้งสองและใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตา “บิวไม่เอาครับ ไหนบอกว่าจะไม่งอแงไง จำที่ตัวเองพูดได้ไหม” “จำได้สิครับแต่บิวอดทนมาทั้งวันแล้ววันนี้ทั้งวันบิวคิดถึงแต่เรื่องนี้ตลอดเลย” เจ้าเติร์กที่ได้ยินเช่นนั้นมันเลยดึงเจ้าบิวเข้าไปกอดไว้แน่น “ไม่ร้องครับไม่ร้อง งั้นพี่ถามอะไรบิวอย่างได้ไหมอะตั้งใจฟังพี่นะ บิวอยากทำอะไรกับพี่เป็นคืนสุดท้ายครับ” เจ้าบิวหรี่ตามองใบหน้าและแววตาอันเศร้าสร้อยของเจ้าเติร์กที่จ้องเข้ามายังตาของมันชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยปากตอบ “บิวอยากอยู่กับพี่เติร์กค๊าบ” เจ้าเติร์กยิ้มและค่อยๆเอามือกดหัวของเจ้าบิวไปที่เป้ากางเกง “บิวดูดให้พี่เหมือนตะกี้อีกรอบได้ไหมครับ” เจ้าบิวพยักหน้าและใช้มือควักเอาท่อนลำกึ่งแข็งกึ่งอ่อนออกมาชักไปมาสักพักก่อนจะก้มใช้ปากอมหัวเห็ดเข้าไปอีกครั้ง “ซี๊ดดดดอ่าหหห” เจ้าบิวอมได้ไม่นานจนท่อนลำของเจ้าเติร์กแข็งตัวเต็มที่มันเลยใช้มือจับหัวเจ้าบิวไว้และผลักออกช้าๆ “อดทนหน่อยนะครับ" เจ้าเติร์กใช้มือทั้งสองดันตัวเจ้าบิวลงกับที่นอนช้าๆก่อนที่ดึงถอดเอากางเกงนอนออกพร้อมกับหยิบเอาวาสลีนมาทาตรงท่อนลำจนชุ่มมันใช้มือทั้งสองจับขาทั้งสองถ่างกางออกและยกตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอาปลายหัวเห็ดไปจ่อที่รูก้นและโยกเอวดันจนหัวเห็ดจมหายเข้าไปช้าๆเจ้าบิวถึงกับหลับตากัดฟันพร้อมกับใช้มือทั้งสองไปจับบีบข้อมือเจ้าเติร์กไว้มั่นเจ้าเติร์กค่อยๆขยับเอวโยกเข้าออกช้าๆและเร่งจังหวะเร็วขึ้นทีละนิดๆ“อืมมเสียวจริงๆเลยครับบิวซีดดดดด” เจ้าบิวมันได้แต่บิดหน้าเกร็งด้วยความจุกแน่นถึงกระนั้นมันก็ยังไม่เอ่ยปากร้องหรือบ่นออกมาให้เจ้าเติร์กได้ยิน “เจ้าเติร์กพยายามโยกเอวกดให้ลึกลงไปทีละนิดจนเจ้าบิวต้องรีบใช้มือไปดันท้องน้อยไว้ “พี่เติร์กอย่าเอาเข้าลึกค๊าบบบ บิวจุกอะ”“พะพะพี่ขอโทษนะบิวพี่ลืมตัวไปหน่อย อืมมแบบนี้โอเคไหมค๊าบบ ซีดดดด” “อืออออออค๊าบบบบ” เจ้าเติร์กทำต่อเนื่องไปเช่นนั้นเกือบ 6 นาทีจนในที่สุดมันจับขาไว้แน่นเงยหน้าหลับตากระตุกตัวปล่อยน้ำเชื้อเข้าสู่ภายในของเจ้าบิว “อ่าหหหบิวแตกแล้วแตกแล้วอ่าหหหหห” เจ้าเติร์กแช่ท่อนลำที่เบ่งบานคาไว้เช่นนั้นชั่วครู่ก่อนที่มันจะชักออกและลงมานอนอยู่ข้างเจ้าบิวส่วนเจ้าบิวที่นอนอยู่นั้นถึงแม้ว่าท่อนลำถูกชักออกไปจากก้นของมันแล้วแต่มันยังคงรับรู้ได้ถึงน้ำเชื้อจำนวนมากอุ่นๆที่อยู่ภายในและอีกบางส่วนที่ไหลออกมาจากรูก้น “ตอนนี้ส่วนหนึ่งของพี่ได้เข้าไปอยู่ในตัวของบิวแล้วนะครับเท่ากับว่าบิวมีพี่อยู่กับตัวตลอดเวลาแล้วนะ” เจ้าเติร์กพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนแรงก่อนจะหันไปมองเจ้าบิวที่พยายามก้มดึงกางเกงขึ้นมาสวม “ไหวไหมบิว” “บิวไหวค๊าบ” เจ้าบิวหันมายิ้มตอบก่อนจะลงไปนอนกอดเจ้าเติร์ก” “งั้นพี่ว่าเรานอนกันดีกว่าครับนี่ก็ดึกมากแล้ว” “ค๊าบพี่เติร์กบิวก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกันค๊าบ” เจ้าเติร์กมันเลยเอื้อมไปปิดไฟที่หัวเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมตัวของมันไว้โดยยังคงมีเจ้าบิวนอนกอดตัวมันไว้ไม่ยอมปล่อยส่วนเจ้าบอลที่อยู่อีกห้องมันนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้งและมองภาพตัวมันเองที่เฟิร์สเป็นคนวาดให้อย่างหลงใหลพร้อมกับนึกถึงเฟิร์สไปพลางๆ “พี่เฟิร์สสสส”เวลา 02.12 น. หูของเจ้าบิวได้ยินเสียงกร๊อบแกร๊บๆคล้ายกระดาษจนมันต้องลืมตาและหันไปมองยังต้นเสียงภาพลางๆต้อกับแสงโคมไฟตั้งโต๊ะสาดส่องมาที่ดวงตามันเห็นใครบางคนที่กำลังนั่งทำบางสิ่งอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือมันเลยใช้มือทั้งสองขยี้ตาไปมาอีกครั้ง “ใครอะ??พี่เติร์ก!!พี่เติร์กทำไรอะ ค๊าบ ทำมายยังไม่นอนอะ นี่เช้าแล้วเหรอค๊าบ” เจ้าบิวนั่งมองเจ้าเติร์กที่กำลังก้มเขียนบางสิ่งอยู่ที่โต๊ะจนเจ้าเติร์กหันมายิ้มตอบกลับ “นี่ยังไม่เช้าเลย ยังนอนต่อได้อีกนานครับ บิวนอนเถอะไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวพี่ทำธุระตรงนี้เสร็จแล้วพี่ก็จะไปนอนเหมือนกัน อะนอนๆ” ด้วยความง่วงมันเลยพยักหน้าและล้มตัวลงนอนอย่างว่าง่าย เวลา 7.32 น.“เติร์กไม่ลืมอะไรแล้วนะลูกเช็ดของมาดีแล้วนะ”“เรียบร้อยครับน้าเอม ของที่จำเป็นๆผมเอาใส่ไว้ในกระเป๋านี้หมดล่ะครับ” เจ้าเติร์กหันไปมองเจ้าบิวที่นั่งทำหน้าเศร้าอยู่ตรงเก้าอี้โดยมีเจ้าบอลและพ่อของมันนั่งอยู่ข้างๆ เจ้าเติร์กเลยหยิบซองจดหมายจากกระเป๋าเสื้อและยื่นให้กับน้าเอม “น้าเอมผมฝากนี้ให้บิวหน่อยครับน้า ไว้ถ้ากลับไปถึงบ้านน้าค่อยเอาให้บิวนะครับ” “จ๊ะลูกบิวคงดีใจไม่น้อยเลยนะหากรู้ว่านี้คืออะไรไงถ้าไปถึงที่โน่นแล้วอย่าลืมไลน์มาบอกน้าด้วยนะ” “ครับน้าเอม”ทันใดนั้นเสียงประชาสัมพันธ์ประกาศแจ้งผู้โดยสารไปให้รอขึ้นรถส่งผู้โดยสารขึ้นเครื่องบินอาปลื้มเลยพาเจ้าบิวกับเจ้าบอลลุกเดินมาหาเจ้าเติร์ก “ผมไปก่อนนะครับอาปลื้ม น้าเอม ผมขอบคุณครับที่ดูแลและชี้แนะอะไรหลายๆอย่างให้ผมมาตลอด 1 ปี ไว้ถ้ามีโอกาสผมจะกลับมาเที่ยวอีกนะครับ พี่ไปนะบิว บอล” เจ้าบิวยังคงก้มหน้านิ่ง ส่วนเจ้าบอลมันเดินมายกมือไหว้เจ้าเติร์ก “พี่เติร์กคัฟฟ โชคดีนะคัฟฟ บอลสนุกมากเลยคัฟเวลาที่ได้เล่นกับพี่เติร์กจากนี้ไปบอลคงคิดถึงพี่เติร์กแน่ๆ” “ไม่หรอกบอลถ้าคิดถึงบอลกับพี่บิวก็โทรหรือวีดีโอคอลหาพี่ได้ตลอดนะครับ…บิวพี่จะไปแล้วนะ” “เจ้าบิวยังคงยืนและก้มหน้านิ่งน้าเอมที่เห็นเช่นนั้นมันเลยพยักหน้าใส่เจ้าเติร์ก “ไม่เป็นไรลูกรีบไปเถอะเดี๋ยวจะตกเครื่องเอา” “ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับอาปลื้มน้าเอม หวัดดีครับ ไว้เจอกันนะบิว บอล” เจ้าเติร์กยกมือไหว้และหันไปจับกระเป๋าลากก่อนจะเดินจากไปทันใดนั้นเองเจ้าบิวมันเงยหน้ามองตามหลังและรีบวิ่งตามพร้อมส่งเสียงเรียก “พี่เติร์กกกกก” เจ้าเติร์กถึงกับหยุดและหันมามองยังต้นเสียง “บิว!!!” เจ้าบิวรีบพุ่งตัวไปกอดขาเจ้าเติร์กไว้มั่น “พี่เติร์ก พี่เติร์กอย่าลืมบิวนะค๊าบบพี่เติร์กไปอยู่ที่โน่นแล้ว อย่าเงียบหายไปนะค๊าบบ บิวสัญญานะครับว่าบิวจะตั้งใจเรียนและเรียนให้เก่งๆเหมือนพี่เติร์ก บิวสัญญาว่าวันหนึ่งบิวจะขึ้นไปหาพี่เติร์กให้ได้”เจ้าเติร์กย่อตัวนั่งลงและใช้มือปาดเช็ดน้ำตาบนใบหน้าเจ้าบิวพร้อมกับใช้มืออีกข้างจับที่ไหล่ขวา “ลูกผู้ชายถ้าสัญญาแล้วต้องทำให้ได้นะครับไว้พี่จะรอดูวันนั้นนะ ดูแลตัวเองด้วยนะบิวอย่าลืมนะตอนนี้ส่วนหนึ่งของพี่อยู่กับบิวแล้ว จากนี้พี่ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปแต่ขอให้บิวจำไว้นะ ความกล้าหาญ เมตตา รอบคอบและศรัทธามักทำให้คนเราที่อยู่ห่างไกลจะหวนกลับมาพบกันได้เสมอ” เจ้าบิวพยักหน้าและจ้องมองรอยยิ้มอันอ่อนโยนของเจ้าเติร์กก่อนที่พี่ชายของมันจะลุกขึ้นและหันหลังเดินจากไปไม่นานนักเมื่อเครื่องบินลำที่เจ้าเติร์กนั่งได้ทะยานบินขึ้นสู่ท้องฟ้าเจ้าบิวที่ยืนมองอยู่กับน้าเอมและเจ้าบอลมันยกมือโบกอำลาจนกระทั่งเครื่องบินลำดังกล่าวค่อยๆบินหายลับเข้าไปในกลีบเมฆ เมื่อกลับถึงบ้านน้าเอมรีบยื่นซองจดหมายสีฟ้าส่งให้กับเจ้าบิว “ไรอะแม่เอม” “ของพี่เติร์กฝากให้บิวน่ะบิวลองเปิดดูเองล่ะกัน” เจ้าบิวรับซองจดหมายดังกล่าวพร้อมกับเปิดและหยิบเอากระดาษที่อยู่ภายในขึ้นมากางอ่านเข้าไปที่ห้องพี่แล้วไปเปิดลิ้นชักโต๊ะอ่านหนังสือดูนะครับ เจ้าบิวไม่รอช้ามันรีบวิ่งขึ้นไปยังชั้นสองพร้อมกับเปิดเข้าไปในห้องทันทีที่เข้ามามันถึงกับยืนอึ้งไปชั่วขณะเพราะบัดนี้ห้องที่เคยเป็นห้องของพี่ชายมันและประดับประดาไปด้วยข้าวของต่างๆ ซึ่งตอนนี้มันกลับกลายเป็นเพียงแค่ห้องโล่งๆโดยที่มุมห้องยังคงเหลือกล่องใส่ของเจ้าเติร์กวางซ้อนๆกันอยู่เป็นตั้งๆทำให้ภาพความทรงจำต่างๆในห้องนี้หลั่งไหลเข้ามาในหัวของมันภาพแล้วภาพเล่าถึงกระนั้นมันก็ยังดิ่งตรงไปเปิดลิ้นชักจนเจอเข้ากับกล่องของขวัญสีเขียวอมเหลืองที่ถูกห่อไว้อย่างดีพร้อมกับมีแผ่นการ์ดที่ถูกเขียนด้วยตัวหมึกปากกาว่า HBD.Bill ห้อยอยู่กับริบบิ้นเจ้าบิวที่เห็นมันถึงกับน้ำตาคลอเบ้า มันยกกล่องขึ้นมาวางบนโต๊ะและใช้มือแกะกระดาษที่ห่อไว้อย่างทะนุทะนอมจนกระทั้งมันเจอเข้ากับกล่องเกมส์ PSP ที่มันอยากได้พร้อมกับจดหมายที่ถูกพับเป็นรูปดาวอยู่ด้านใน เจ้าบิวค่อยๆแกะจดหมายดังกล่าวขึ้นมาอ่านพร้อมกับหยิบกล่องเครื่องเกมส์ PSP ขึ้นมาพร้อมกัน ตอนแรกพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะซื้ออะไรให้ดีแต่มีครั้งหนึ่งที่บิวเคยพูดไว้ว่าอยากได้เป็นของขวัญวันเกิดสักครั้ง พี่เลยตั้งใจไปเดินหาจนทั่วกว่าจะซื้อมาได้จากนี้ไปบิวต้องรักษามันให้ดีๆนะใช้มันคลายเครียดเมื่อยามจำเป็น มีหลายสิ่งที่พี่อยากพูดกับบิวเยอะมากแต่พี่ก็กลัวว่าบิวจะไม่เข้าใจอาจเพราะด้วยอายุและวัยของบิวที่ยังไม่ถึงเวลา แต่พี่จะขอเขียนทิ้งไว้เผื่อวันหนึ่งที่บิวโตขึ้นและได้กลับมาอ่านมันอีกครั้ง พี่หวังว่าบิวจะเข้าใจในสิ่งที่พี่เขียนไว้นี้ (บิวต้องห้ามเอาให้คนอื่นอ่านนะครับ) แม้ว่ามันจะพยายามอ่านข้อความที่เจ้าเติร์กเขียนไว้สักเท่าไหร่มันก็ไม่อาจเข้าใจเนื้อความในจดหมายเลยแม้แต่น้อย แต่พอมันอ่านมาถึงข้อความสุดท้ายที่ถูกเขียนแยกทิ้งไว้เป็นข้อความสั้นๆบรรทัดเดียวทำเอาเจ้าบิวถึงกับทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมกับร้องไห้ขึ้นมาทันที “ฮือออ บิวสัญญานะพี่เติร์ก บิวสัญญา….”…………………………………………………….. “บิวลูกดูแลตัวเองด้วยนะ ที่เชียงใหม่อากาศมันเย็นนะลูก ถ้าบิวไปถึงแล้วโทรหาแม่ด้วย” “ครับแม่เอม ไปต้องห่วงหรอกแม่ มีครูไปดูแลด้วยทั้งคน”“พี่บิวอย่าไปเที่ยวกวนตีนใครต่อใครอีกนะพี่” “หุบปากไปเลยบอล บอกตัวเองดีกว่าไหม…แม่!!บิวไปละนะ เสียดายนะที่พ่อไม่มาส่งด้วย”“จ๊ะลูกๆเดินทางปลอดภัยนะ” เจ้าบิวเดินถือกระเป๋าสะพายไปยังจุดรวมผู้โดยสารจนกระทั่งเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งรวมกับเพื่อนๆยืนโบกมือทักทายมัน “อีบิวๆ ทางนี้ทางนี้ มาๆกูจองที่ตรงนี้ให้ล่ะ แห่มนึกว่ามึงจะไม่มาซะละ” “โห่ย แป๊กกี้ กูตั้งใจแล้วก็ต้องมาสิวะ แล้วนี่มึงงงสภาพมึงนี่ ยังไงนิแต่งหน้าหนาเบอร์นี้ระวังแอร์เค้านึกว่ามึงเป็นผีไล่มึงลงเครื่องไม่รู้นะเว้ย”“ปากเสียยย ฉันออกจะสวยย”“เอ๊าๆนักเรียน ม.2 ที่จะไปค่าย Sci Generation Kid ที่ มช. มาตั้งแถวรวมกันตรงนี้อีก 30นาทีเครื่องจะออกแล้ว “มึงลองดูครูแมนดิ๊แม่งแต่งตัวยังกะจะไปออกรบแหน่ะ เห้ย!!เป็นไรมึงวะแป๊กกี้ยึกยักเป็นปลาช่อนเชียว ปวดขี้เหรอ”“บ้าาาามึงนี่นะบิวแล้วนี่มึงไม่ตื่นเต้นบางเหรอวะที่ได้ไปเชียงใหม่ครั้งแรกเนี่ย”“อืมมมก้อออตื่นเต้นดิใครบอกไม่ตื่นเต้นเพียงแต่กูทำนิ่งไว้เฉยๆ” ในขณะเดียวกันอีกฝั่งของจุดจำหน่วยตั๋ว "พี่ครับที่ผมจองไฟต์บินไว้อะครับ”“สักครู่นะคะเออ คุณกิตติพันธ์กวงศิริ ใช่ไหมคะหมายเลขที่นั่งตามนี้เลยนะคะ เออเดี๋ยวรบกวนนำกระเป๋าผ่านจุดตรวจก่อนนะคะ เครื่องจะออกใน 30 นาที เที่ยวบิน กรุงเทพ-เชียงใหม่นะคะ”“ครับขอบคุณครับพี่ เอ่อฮัลโหล..เฮ้ยไอ้แจ๊คเดี๋ยวอีกชั่วโมงเครื่องกูถึงเชียงใหม่มึงเอารถมารับกูที่สนามบินด้วยนะเว้ย เดี๋ยวเย็นนี้กลุ่มพวกเราจะนัดกันไปถ่ายรูปทำปกวารสารแถวๆอ่างแก้วน่ะ ถ้ามึงสนใจอยากไปช่วยก็เสนอหน้าไปได้เลยนะเว้ย เออๆ แค่นี้ๆ…….. ทางผู้เขียนขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามผลงานมาโดยตลอดนะครับ
ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้ ขอบคุณมากเลยครับ ตอนนี้ พระเอกทั้งสองเปลืองตัวมากทั้งคู่
เจมส์ นิสัยแย่เหมือนเดิม ขอให้ได้แค่นั้น
น้องบอลน่ารักมาก
น้องบิวโตแล้ว เดี๋ยวเจอกันนะ พี่เตริก์ เยี่ยมมากครับ ขอบคุณมากครับ คิดถึง ๆ น้องบอลเศร้าเลย จะแฮปปี้ไหมครับ ติดตามอยู่ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ รักพี่เฟิร์ส รักพี่เติร์ก ที่สุด ติดตามอยู่ตลอดนะครับ สนุกมาก ขอบคุณนะครับ ตอนนี้ยาวเลย สมกับที่รอนาน เป็นกำลังใจให้คนเขียนเสมอครับ ขอบคุณนะครับ สนุกมากๆเลย เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะค้าบบบ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณ ขอบคูณครับ ขอบคุณมากนะครับ{:5_130:} หายไปนาน ขอบคุณครับ มาต่อแล้ว ดีจัง ยังคงความสนุกเหมือนเดิม รอตอนบิวเจอกับเติร์กตอนโตนะครับ ชอบคู่นี้จริงๆ ยังไงก็สู้ๆนะครับเป็นกำลังใจให้แต่งต่อไปและสู้ๆกับงานด้วยครับ ขอบคุณมากครับ {:5_135:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ