เปิดซิงน้ำแรกเด็ก 13 ม.1 ขอโทษจริง ๆ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย John001 เมื่อ 2020-2-28 16:42เฮ้ออออ......ได้ฤกษ์กลับมาซะที หลังจากติดภารกิจหลายเรื่องและไม่มีโอกาสได้ใช้คอมเลย ก็ต้องขอโทษเพื่อน ๆ สมาชิกด้วยนะครับ ที่ปล่อยให้รอนานสาเหตุที่หายไป เพราะหลังจากที่ผมโพสต์ ตอนที่ 31 ไปได้ 1 วัน ผมก็ได้รับสายจากกรุงเทพ ว่า แม่ต้อย(ญาติที่เลี้ยงผมมา) อาการทรุดลง เพ้อหาแต่ผม ผมจึงตัดสินใจขึ้นเครื่องไปกรุงเทพในเย็นนั้น พอผมเห็นอาการของท่าน ผมก็น้ำตาไหล ท่านดูผอมลงมาก เพราะทานอาหารไม่ได้ ให้ทางสายยาง แต่ตอนนั้นท่านหลับอยู่ ผมนั่งดูอาการท่านข้างเตียง จับมือท่านไว้ และพูดบอกท่านว่า แม่ต้อยอย่าเป็นอะไรนะครับ ผมกลับมาแล้วมาอยู่ดูแลแม่แล้วมันเหมือนมีปาฎิหาริย์เกิดขึ้น ท่านค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา พอเห็นหน้าผมก็ร้องไห้ เอามือลูบหน้าลูบตาผม ผมก็บอกท่านว่า ผมจะมาอยู่ดูแลท่านทุกวัน ท่านก็ยิ้มดีใจและชวนผมคุยแต่ก็ไม่ค่อยมีเสียง ผมเฝ้าดูแลท่านจนดึก ท่านก็หลับ เพื่อนๆ คงสงสัยกันใช่ใหมครับว่า ทำไมผมกับแม่ต้อยถึงได้รักและผูกพักกันมาก สำหรับผมอย่างที่บอก แม่ต้อยเลี้ยงดูผมตั้งแต่เกิด ผมกล้าพูดได้ว่า ผมรัก ผูกพันและสนิทกับแม่ต้อยมากกว่า พ่อแม่แท้ ๆ ของผมอีก เพราะ คุณพ่อผมก็ไปทำงานประจำที่ต่างจังหวัดนาน ๆ กลับมาครั้งนึง ส่วนคุณแม่ก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไปสมาคมแม่บ้านทหารเกือบทุกวัน(ก็คงไปเล่นไพ่ตามประสาคุณหญิงคุณนาย) ผมจึงต้องอยู่กับแม่ต้อย พี่ๆ และทหาร 2 คนที่คอยช่วยงานในบ้าน(ลืมบอกไปว่า คุณพ่อผมเป็นนายทหารยศ พันเอกพิเศษ) พอผมได้ 6 ขวบพ่อแม่ผมก็แยกทางกัน ผมจึงไม่ค่อยสนิททั้งพ่อและแม่..... ส่วนแม่ต้อยตอนที่มาเลี้ยงผมนั้น น่าจะอายุประมาณ 50 แล้วมั้ง ลูก ๆ ของแม่ต้อยก็โตกันหมดแล้ว บางคนก็มีครอบครัวมีหลานให้แม่ต้อยแล้ว บางคนก็ไปทำงานไกล ๆ ต่างจังหวัดบ้าง ต่างประเทศบ้าง ทำให้แม่ต้อยกับลูก ๆ หลาน ๆ ห่างเหินกันไป พอได้มาเลี้ยงผมตั้งแต่เกิด ก็เลยรักผมเหมือนลูก ตามใจผมทุกเรื่อง ตอนนั้น ถ้าใครแกล้งหรือหากได้ยินเสียงผมร้องไห้ แม่ต้อยจะรีบวิ่งมาดูและโวยวายดังลั่นบ้านไปหมด พวกญาติ ๆ มักจะพูดว่าแม่ต้อยตามใจผมมากเกินไป อีกหน่อยโตขึ้นจะเสียคน (ตอนนี้ถ้าเจอหน้าญาติ ๆผมอยากบอกว่า ผมไม่เสียคนมีแต่ได้คน 555+) แม่ต้อยเลี้ยงผม จนผมอายุ 13 คุณพ่อผมก็ลาออกจากทหาร และพาผมกับพี่ๆ ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด เพราะบ้านหลวงก็ต้องคืนหลวงอ่ะครับ และที่ไปอยู่ต่างจังหวัดก็ไปอยู่กับแม่เลี้ยง(เมียคนสุดท้ายของพ่อ คุณพ่อผมเป็นคนเจ้าชู้ เหล้า บุหรี่ ไม่ยุ่ง พูดจาเพราะ เลยเป็นที่หมายปองของผู้หญิงที่อยากเป็นคุณนาย จึงทำให้คุณพ่อผมมีภรรยาถึง 18 คน ชีวิตของที่บ้านผมยิ่งกว่าละครน้ำเน่าในทีวี หรือนิยายอีกนะครับ มีหลายรสชาดมาก) แม่ต้อยไม่สามารถตามไปเลี้ยงผมที่นั้นได้ ตอนจะไปผมกับแม่ต้อยกอดคอกันร้องไห้ที่ต้องจากกัน....นานเป็นชั่วโมง ๆ เพราะเหตุนี้แหล่ะครับ....ที่ทำให้ผมกับแม่ต้อยรักและผูกพันกันมาก ธรรมดาแล้วผมจะเข้ากรุงเทพไปเยี่ยมแม่ต้อยทุกเดือน แต่ผมไม่ได้เอ่ยถึงให้เพื่อนๆรู้...........ผมคุยกับพี่ ๆ หลาน ๆ (ลูกหลานแท้ๆของท่าน) จึงได้รู้ว่ากลางวันท่านจะหลับยาว และมักตื่นขึ้นในตอนค่ำทุกวัน ผมจึงตัดสินใจว่า จะมาเฝ้าท่านทุกวัน แต่จะไม่ลางาน เพราะต้องเก็บวันลาไว้ เผื่อท่านต้องจากผมไปจริงๆ ซึ่งหมอบอกว่า น่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 2 อาทิตย์ วันรุ่งขึ้น...ผมก็ขึ้นเครื่องกลับมาทำงาน ตกเย็นก็นั่งรถทัวร์เข้ากรุงเทพอาศัยได้หลับตอนนั่งรถ...6 ชั่วโมง...กว่าจะถึงกรุงเทพ ผมก็ได้นอนเต็มอิ่ม ไปถึงร.พ ทันแม่ต้อยตื่นพอดี เช้ามืดก็ขึ้นเครื่องกลับมาทำงานต่อ ผมไปกลับแบบนี้ทุกวัน แต่จะไม่ไปวันศุกร์และเสาร์เพราะผมมีนัดกับน้องเฟรมและน้องปอนด์ ซึ่งผมไม่ยอมผิดนัดแน่ ๆ น้อง ๆ เหมือนอาหารที่คอยหล่อเลี้ยงกายและใจของผม ทำให้ผมมีกำลังที่จะทำงานหรือเดินทางได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย พี่ ๆ ที่กรุงเทพก็แปลกใจว่า ทำไมวันศุกร์ผมต้องอยู่บ้านพักที่ทำงาน เพราะถ้าเข้ากรุงเทพวันศุกร์ ก็จะได้พักวันเสาร์อาทิตย์ 2 วัน แต่ผมให้เหตุผลว่า ผมจะอยู่ทำความสะอาดบ้าน และซักผ้า รีดผ้าเตรียมชุดทำงานไว้ เค้าก็เลยหายสงสัยไม่ว่าอะไร แต่ก็บอกผมว่า ไม่ต้องมาทุกวันก็ได้ กลัวผมจะเหนื่อยเกินไป ผมก็ดื้อไม่เชื่อพวกเค้าหรอกครับ เพราะมันอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะได้ทำให้แม่ต้อย ผมเดินทางไปกลับดูแลท่านได้ 3 อาทิตย์ (ท่านอยู่ได้มากกว่าที่หมอบอก) ท่านก็จากผมไปเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งตั้งบำเพ็ญกุศล 5 คืน ฌาปนกิจวันที่ 8 ก.พ.ผมก็ต้องลางานอยู่ช่วยงานศพ หลังจากอยู่เก็บอัฐิและไปลอยอังคารแล้ว ก็เดินทางกลับ ด้วยความที่ผมพักผ่อนน้อยไปหรือปล่าวก็ไม่รู้ เพราะไหนจะต้องทำงาน ไหนจะต้องเดินทางเข้ากรุงเทพทุกวัน ไหนจะวันศุกร์-เสาร์ที่ต้องอยู่กับน้องเฟรมน้องปอนด์อีก ก็เลยทรุดต้องเข้าไปนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลซะ 3 วัน ตอนที่นอน ร.พ.ก็มีเรื่องตื่นเต้นหวาดเสียวเกิดขึ้น (เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะครับ) พอออกจากโรงพยาบาล ไปทำงานได้ 2 วัน พักเสาร์-อาทิตย์ 2 วัน (แต่จริง ๆก็ไม่ได้พักหรอก เพราะต้องรับศึกหนักทั้งน้องเฟรมและน้องปอนด์ เรื่องอื่นพอจะพักกันได้ แต่เรื่องนี้ผมพักไม่ได้จริง ๆ อิอิอิ) วันจันทร์ที่ 16-27 ก.พ.ก็ต้องเข้ารับการอบรมสัมนา 10 วัน (หยุดเสาร์-อาทิตย์) เพื่อเตรียมตัวเลื่อนตำแหน่งอีกจะเปลี่ยนให้คนอื่นไปก็ไม่ได้.... เพิ่งกลับมาถึงบ้านพัก เมื่อ 6โมงเย็นวันนี้เอง...แล้วก็รีบปั่นถ่ายทอดเรื่องราวให้เพื่อน ๆ ฟัง เพราะเมื่อวานสัญญากับเพื่อนสมาชิกไว้ ว่า จะมาต่อให้ในวันนี้ ค่อย ๆ อ่านกันนะครับ เพราะ สด ๆร้อน ๆ เลยต่อไปก็จะลงดีเทลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่หายไปนะครับ....แต่ เดี๋ยวก่อนครับ น้องเฟรม ทักมา บอกว่าจะมาค้างกับผมวันนี้จริง ๆ แล้วน้องต้องมาพรุ่งนี้ หลังจากเรียนพิเศษแล้วแต่น้องบอกว่า ที่โรงเรียนมีนักเรียนเป็น โคโรน่า จึงไม่ต้องไป เลยมาหาผมวันนี้ งั้นก็ต้องขอโทษเพื่อน ๆ อีกครั้งนะครับ อดใจรออีกวันนะครับ พรุ่งนี้ผมมาลงให้จริงๆ ไม่เบี้ยวแน่นอน (ผมชักติดนิสัยจากน้องเฟรมแล้วมั้ง ชอบเบี้ยว แหะ ๆๆๆ)
ขอบคุณครับ ทุกคนก็ต้องมีภาระหน้าทีของแต่ละคน อันนี้ไม่ว่ากันครับ ดีใจและขอบคุณที่ยังมาต่อแบ่งปันเรื่องราวให้เพื่อนๆใด้ฟินกันต่อ และขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับกับการจากไปของแม่ต้อย Kingki ตอบกลับเมื่อ 2020-2-28 17:46
ขอบคุณครับ ทุกคนก็ต้องมีภาระหน้าทีของแต่ละคน อันนี้ ...
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอขอบคุณยังไม่ลืมfc นะครับคิดอยู่ว่าที่หายไปคงเรื่องญาติผู้ใหญ่แน่ ก็ขอเป็นกำลังใจให้อีกแรงนะครับ หายหน้าหายตาไปนาน ยังรอติดตามเสมอ ขอบคุณมากๆนะครับสู้ๆๆๆ {:5_135:}{:5_135:}{:5_135:}
ขอบคุณครับ ขอบคุณ ขอบคุณครับบบ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ. ขอบคุณมากครับ ขอบคุณ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ เห็นหายไปนาน นึกว่าเกิดอะไรขึ้น ก้อเกิดจริง ยังไงเป็นกำลังใจให้ครับ และรออ่านต่อไป Fammy ตอบกลับเมื่อ 2020-2-28 20:44
ขอขอบคุณยังไม่ลืมfc นะครับคิดอยู่ว่าที่หายไปคงเรื่องญาติผู้ใหญ่แน่ ก็ขอเป็นกำลังใจให้อีกแรงนะครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับสู้ต่อไปครับเป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบคุณครับ ตามต่อ