เปิดซิงน้ำแรกเด็ก 13 ม.1 (37) โดนแม่น้องเฟรมวางระเบิดเวลา
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย John001 เมื่อ 2020-3-11 19:14ความเดิมน้องปอนด์ก็ยื่นไม้ลูกชิ้นป้อนให้ผมกิน ผมกำลังกินกันเพลิน ๆ มีเสียงเคาะประตู.....แล้วประตูก็เปิดออก....พี่มิ่ง แม่น้องเฟรม น้องเฟรม น้องฟาง เดินเข้ามา พอผมเห็นว่าเป็นใคร....ผมก็เงียบเลยทันที น้องปอนด์ได้ยินเสียงเคาะประตู ก็ลากเก้าอี้ถอยไปนั่งห่างจากเตียงคนไข้ที่ผมนอน 2 – 3 ก้าว ครอบครัวของน้องเฟรมเดินเข้ามาหาผมที่เตียง....น้องเฟรม น้องฟางยกมือไหว้ผม แม่น้องเฟรมเห็นน้องปอนด์นั่งอยู่ก็ทักขึ้นว่า“อ้าว...ปอนด์มาด้วยหรือ”“ครับ”ผมสังเกตเห็นว่า แม่น้องเฟรมกับน้องปอนด์รู้จักคุ้นเคยกันประมาณหนึ่ง น้องปอนด์ก็ทักน้องเฟรมกับน้องฟาง “ไงเฟรม...ฟาง” “อืม...” น้องเฟรมตอบแล้วเงียบ แม่น้องเฟรมก็ถามน้องปอนด์อีก “มากับใครล่ะ” “กับพ่อครับ”“แล้วพ่อไปไหนล่ะลงไปข้างล่างเหรอ”“กลับไปแล้วครับ” “ปอนด์รู้จักกับคุณจอห์นด้วยเหรอ”“ครับ...ผมเคยมาส่งอาหารให้ลุงบ่อยๆ” ผมกลัวว่าแม่น้องเฟรมจะถามไถ่น้องปอนด์มากไป...จนอาจจะทำให้ความลับของผมกับปอนด์รั่วไหลได้ เลยรีบเบรคแม่น้องเฟรมว่า “นี่จะมาเยี่ยมผมหรือเยี่ยมน้องปอนด์ครับ”แม่น้องเฟรมจึงหันมาคุยกับผม ถามอาการของผม พี่มิ่งก็ถามคำสองคำ แล้วก็ได้แต่ยืนฟังภรรยาซักถามอาการของผม (พี่มิ่งเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด น้องเฟรม น้องฟาง รับนิสัยพ่อมาเต็ม ๆ) น้องฟางก็มีถามผมบ้าง แต่น้องเฟรมจะนิ่ง ๆ ฟังคนอื่นพูด ซักพักก็ไปนั่งที่โซฟา ซึ่งธรรมดาผมกับน้องเฟรม ถ้าเจอกันที่อื่น น้องเฟรมจะไม่ค่อยมาคุยหรือยุ่งสุงสิงกับผม คงจะระแวงกลัวใครจับพิรุธได้ แต่นี่เป็นพ่อ แม่และน้องของน้องเฟรม ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าน้องเฟรม มาค้างที่บ้านพักของผมเกือบทุกศุกร์ ก็ไม่เห็นต้องทำฟอร์มเลยนี่ ผมคิดได้นิดนึง ก็ได้ยินเสียงแม่น้องเฟรมถาม “แล้วนี่..นอนคนเดียวไม่มีใครเฝ้าเหรอ” ผมกำลังคิดว่าจะตอบไงดี ก็ได้ยินเสียงน้องปอนด์ตอบ “ผมเฝ้าอยู่ครับ” “อ่อ....ปอนด์เฝ้าเหรอ...เด็กดีจัง....เฝ้าตั้งแต่คืนแรกเลยป่ะ”“ครับ” แล้วแม่น้องเฟรมก็หันไปถามน้องเฟรมที่นั่งอยู่ที่โซฟาว่า “เฟรม...ปอนด์เค้ามานอนเฝ้าคุณจอห์น..แล้วหนูไม่มาเฝ้าบ้างเหรอลูก” ผมได้ยินก็นึกว่า เอาแล้วแม่น้องเฟรมเริ่มก่อชนวนให้ผมซะแล้ว (ผมเบื่อผู้หญิงก็เพราะแบบนี้แหละครับ บางครั้งพูดอะไรเหมือนปากไม่มีหูรูด) ทีแรกก็เคืองแม่น้องเฟรมนิด ๆ แต่ก็พยายามทำใจว่า เค้าก็ถามไปตามปกติ เพราะน้องเฟรมมาค้างที่บ้านผมบ่อย และถ้าผมไม่มีอะไรกับน้องปอนด์ มันคงเป็นแค่คำถามธรรมดา ๆ“ไม่อ่ะ..วันนี้มีการบ้านเยอะยังไม่ได้ทำ” น้องเฟรมตอบแม่ “ไม่ได้เรื่อง...มานอนบ้านพี่เค้าบ่อย ๆ พี่ป่วยก็ไม่มาเฝ้า สู้ปอนด์ก็ไม่ได้” แม่น้องเฟรมบ่นน้องเฟรม แต่คำบ่นของแม่น้องเฟรม มันเหมือนระเบิดเวลาที่ทำให้เรา 3คน เกิดความรู้สึกที่ต่างกัน น้องเฟรมคงรู้สึกโกรธแม่ขึ้นมา ที่เอาตนเองไปเปรียบเทียบกับน้องปอนด์สังเกตได้จากที่มีสีหน้าบึ้งนิด ๆ....สำหรับผมก็รู้สึกกังวลว่า น้องปอนด์จะคิดยังไงเมื่อรู้น้องเฟรมเคยมานอนกับผม.....ส่วนน้องปอนด์เมื่อรู้ว่าน้องเฟรมเคยมานอนที่บ้านผม คงจะเกิดความสงสัยว่า ผมกับน้องเฟรมมีอะไรเหมือนกับตนหรือปล่าว เพราะสีหน้าน้องปอนด์ขมวดคิ้วกำลังทำหน้าสงสัยอยู่ และหันมามองหน้าผมเป็นเชิงถาม ผมแกล้งเฉไฉไปคุยกับน้องฟางเรื่องการเรียนและการสอบปลายภาคถึงแม้ผมจะทำทีเป็นคุยกับน้องฟาง แต่หูผมก็คอยเงี่ยฟังว่า แม่น้องเฟรมกับน้องปอนด์จะคุยอะไรกันอีกหรือปล่าว.... แล้วผมก็ต้องกังวลและหนักใจขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินน้องปอนด์ถามแม่น้องเฟรมว่า “เฟรมเคยมานอนบ้านลุงด้วยเหรอครับ”“อืมมม....ก็ไปนอนเกือบทุกอาทิตย์แหละ”“ไปนอนวันไหนเหรอครับ” “ส่วนมากก็ไปวันศุกร์..แต่ก็มีไปวันเสาร์มั่งเหมือนกัน” ผมได้ยินก็ได้แต่ร้องในใจว่า “ตาย...ตายแน่ คราวนี้กูตายแน่ๆ” แต่เหมือนพระมาโปรด หมอกับพยาบาลเดินเข้ามา แม่น้องเฟรม พี่มิ่งและน้องฟางจึงเดินไปนั่งที่โซฟา น้องปอนด์ก็ขยับถอยหลังออกไปอีก หมอตรวจดูอาการผมแล้วบอกว่า เป็นปกติดีทุกอย่างแล้ว ก็สั่งให้พยาบาลออฟน้ำเกลือได้ พอหมอและพยาบาลออกจากห้องไป.....ตอนนั้น 2 ทุ่มกว่าแล้ว ครอบครัวของน้องเฟรมก็ลาผมกลับ น้องเฟรมเดินออกเป็นคนสุดท้าย ก่อนเดินออกประตู หันมามองผมแล้วยกมือถือตนเองขึ้นมา แล้วชี้ไปที่มือถือ ผมก็รู้ว่าน้องเฟรมคงบอกให้ผมดูข้อความที่ส่งมา ผมก็ยิ้ม ๆ พยักหน้าแต่การกระทำของผมกับน้องเฟรมก็ไม่พ้นสายตาของน้องปอนด์ไปได้ น้องปอนด์นั่งหน้านิ่ง ๆ อยู่ ผมก็กลบเกลื่อนทำเป็นดีใจ ที่แขนผมเป็นอิสระจากน้ำเกลือแล้ว น้องปอนด์เขยิบเก้าอี้กลับมานั่งข้างเตียงพูดขึ้นมาว่า “พี่ครับ....เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ผมก็ทำเป็นร่าเริงไม่เคร่งเครียดรีบพูดขึ้นว่า “เด๋วได้ป่ะครับ...พี่ไม่ได้อาบน้ำมา 2 วันละ..ขออาบน้ำให้หายเหนียวตัวก่อนนะครับ...นะ...นะครับ” น้องปอนด์พยักหน้ารับ “ครับ”ผมได้โอกาสก็รีบชิ่งเข้าห้องน้ำทันที ในระหว่างที่กำลังอาบน้ำ ก็นึกคิดหาคำตอบที่จะตอบคำถามน้องปอนด์ ผมไม่ค่อยหนักใจกับน้องปอนด์เท่าไร เพราะความที่น้องปอนด์มีนิสัยคล้ายกับผม ที่เป็นคนแสดงออกซึ่งเดาใจได้ไม่ยาก ประกอบกับช่วงระยะเวลาเดือนกว่าๆ ที่ผมรู้จักน้องปอนด์ เราคุยกันทุกวัน และก็มีอะไรกันบ่อยกว่าน้องเฟรม....เรียกได้ว่าผมกับน้องปอนด์น่าจะสนิทกันมากกว่าน้องเฟรมซะอีก จึงเดาได้ว่า น้องปอนด์คงสงสัยว่า ผมต้องมีอะไรกับน้องเฟรมแน่ ๆ แต่น้องคงไม่คิดว่าน้องเฟรมเป็นแฟนผม เพราะเคยมีครั้งหนึ่งที่น้องปอนด์ถามถึงแฟนผมว่า อายุเท่าผมหรือปล่าว ผมก็ตอบรับอือๆออๆ...แบบขอไปทีเพื่อให้น้องเลิกถาม และน้องปอนด์ยังเคยถามผมว่า นอกจากแฟนและน้องปอนด์ที่เป็นกิ๊กแล้ว ผมมีคนอื่นอีกหรือปล่าว ผมก็บอกว่าไม่มี ดังนั้น ตอนนี้น้องปอนด์ต้องคิดว่าน้องเฟรมเป็นกิ๊กผมอีกคน...ผมคิดไปคิดมา แล้วบอกตัวเองว่า สงสัยต้องบอกความจริงว่า น้องเฟรมก็คือแฟนผมนั่นเอง ซึ่งผมคงต้องหาหลักฐานมาอ้างให้สมจริง เพื่อให้น้องปอนด์เชื่ออย่างสนิทใจเอาอะไรดีหว่า!!!! แล้วก็นึกถึงข้อความแชทที่ผมส่งไปให้น้องเฟรม และน้องเฟรมตอบกลับมาซึ่งผมยังไม่ได้อ่าน....จึงยิ้มออกมาได้อย่างโล่งอก ที่ผมมีหลักฐานที่จะทำให้น้องปอนด์เชื่อได้แล้ว....ก็ตั้งใจอาบน้ำชำระร่างกาย และเตรียมความพร้อมประตูสวรรค์ของผมเป็นอย่างดี เพราะคืนนี้มันต้องได้ใช้อย่างแน่นอน....ธรรมดาคนที่เป็นผัวเมียกัน หรือแฟนกันเวลางอลหรือโกรธกัน การง้อที่ดีสุดคือการที่ได้มีเซ็กส์กัน ซึ่งหลังจากมีเซ็กส์กันแล้ว ความโกรธ ความเคืองมันจะหายไปโดยอัตโนมัติ....ผมอาบน้ำเสร็จก็มาใส่เสื้อผ้าชุดคนป่วยของโรงพยาบาล แล้วเดินไปหาน้องปอนด์ก้มลงหอมน้องปอนด์ น้องปอนด์หันหน้าหนีทำท่าบ่ายเบี่ยงเล็ก ๆ ผมก็จับหน้าน้องหันมามองตาผม ผมทำสีหน้าอ้อน ๆ แล้วก้มลงจูบน้อง ทีแรกน้องปอนด์ทำนิ่งๆ....แต่แป๊บเดียวก็จูบตอบผม ผละปากออกจากกันแล้วผมบอกน้องว่า “ปอนด์ครับ...พี่รักปอนด์มากนะครับ....เด๋วปอนด์ไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนนะครับ...เสร็จแล้ว ปอนด์อยากถามอะไร พี่จะตอบปอนด์ทุกอย่างไม่มีปิดบัง....OK นะครับ”“ครับ” น้องปอนด์อาบน้ำเสร็จ ผมก็ให้น้องปอนด์มานั่งคุยกันบนเตียง ถามน้องปอนด์ว่า “วันนี้ไม่คุยกับแฟนเหรอ” น้องบอกว่าคุยแล้วตอนที่ผมกำลังอาบน้ำ ผมถามน้องว่า “ทำไมคุยกันแป๊บเดวเองล่ะ...เห็นทุกทีคุยนานเป็นชั่วโมง” “ก็ผมบอกว่าวันนี้ผมง่วงนอน”น้องปอนด์ตอบ แล้ว น้องปอนด์ก็เข้าเรื่องทันที....ถามถึงน้องเฟรมตามที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด ผมบอกน้องปอนด์ว่า น้องเฟรมเป็นแฟนผมและเล่าเรื่องต่างๆ ของผมกับน้องเฟรมให้น้องปอนด์ฟัง ทีแรกน้องไม่เชื่อจนผมเปิดแชทให้น้องปอนด์ดู ซึ่งข้อความในแชทก็มีที่ผมส่งไปอ่อยน้องเฟรมวันนั้น“วันวาเลนไทน์ คนที่เป็นคู่รักกัน เค้าให้ของขวัญกันแล้วพี่ต้องให้ใครหรือป่าวนะ” และมีของน้องเฟรมตอบกลับมาว่า “ต้องให้ดิ่ครับ” “ถ้าพี่ให้ผมขอ 450 นะครับ”“พี่ครับ...ให้หรือป่าวครับ” “พี่ครับตอบผมหน่อยครับ” น้องปอนด์ดูแล้วก็ยังทำหน้าเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง....พอดีกับที่น้องเฟรมเห็นผมอ่านข้อความแล้ว ก็ส่งข้อความมา “ตกลง...พี่ให้หรือป่าวครับ” “พี่ต้องให้ใครล่ะ”“ก็ให้ผมอ่ะครับ”“เฟรมเป็นคนรักของพี่เหรอ”“ครับ” “ครับอ่ะใช่หรือป่าว”“ใช่ครับ” “แต่พี่ว่าเราไม่ได้เป็นแค่คนรักกันเฉยๆนะ”“เฟรมบอกพี่ดิ๊...เราเป็นไรกัน”“เป็นผัวเมียกันครับ” “งั้นผัวขอของขวัญเมียดิ๊”“เมียครับ...เติมเงินให้ผัวหน่อยนะครับ”“ครับ....แล้วผัวรักเมียมั้ยครับ”“รักครับ...” “รักมากแค่ไหน...กี่เปอร์เซ็นต์”“90 ครับ” “แล้วอีก 10 เปอร์เซ็นต์ รักใคร”“รักตัวเองครับ” “แล้ววันวาเลนไทน์จะมาหาพี่หรือป่าว มาให้ของขวัญพี่นะ...พี่รู้ว่า..เฟรมรู้ว่าพี่อยากได้อะไร” “ไปครับ” “แค่นี้นะครับ...พี่นอนละ ฝันดีฝันถึงพี่ด้วยนะครับ”“ครับ” พอจบการแชทกับน้องเฟรม ผมก็ถามน้องปอนด์ว่า “ทีนี้เชื่อยังครับ”“ผมไม่อยากจะเชื่อเลย”“ทำไมล่ะ”“ก็ไอ้เฟรม...มันเป็นคนเฉย ๆ ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร อยู่โรงเรียนก็ไม่ค่อยคุย....แต่ถ้าคุยเรื่องเกมถึงจะคุยเหมือนคนละคนกับผมบ้านใกล้กันแท้ ๆ มันยังไม่ค่อยคุยด้วยเลย มะกี้พี่ไม่เห็นเหรอครับ ผมทักมันมันยังไม่ค่อยจะตอบ” “เค้าก็เป็นคนนิสัยอย่างนั้นเอง ไม่มีไรหรอก” “ผมก็ไม่ได้ว่าไรมัน รู้ว่าเป็นคนอย่างนั้น มันไม่พูด ผมก็เลยไม่ค่อยได้พูดกับมันซักเท่าไร”“ดีแล้วล่ะ....ปอนด์มีเพื่อนปอนด์ก็ต้องเข้าใจนิสัยเพื่อน ถึงจะคบกันได้นาน ใช่ป่ะ” “ครับ..แต่...พี่บอกว่ามันเป็นแฟนแล้วมันคิดว่าพี่เป็นแฟนหรือป่าวอ่ะ”“ก็ต้องคิดสิมะกี้เฟรมยังบอกว่า เป็นผัวเมียกันเลย...ทำไมอ่ะ” “ก็ที่โรงเรียน...เพื่อนมันในห้องมีแฟนเกือบหมดแระ...มีมันคนเดียวนี่ล่ะมั้งที่ไม่มี เวลาใครถามว่า ไมไม่มีแฟน มันบอกว่า ยังเด็กอยู่ มีทำไมแฟน ไร้สาระ เล่นเกมดีกว่า” “ก็เค้าจะกล้าบอกใครมั้ย...ว่ามีพี่เป็นแฟน...มีแฟนเป็นผู้ชายแถมแก่คราวพ่ออีก...เป็นปอนด์ ปอนด์จะกล้าบอกใครมั้ยล่ะ ว่าเป็นกิ๊กกับพี่” “เออ...ก็จริงเนอะ”“ปอนด์โกรธพี่ป่ะเนี่ย”“โกรธนิด ๆ” “โกรธไมอ่ะ”“ก็โกรธที่ไม่บอกแต่แรกว่าแฟนพี่เป็นไอ้เฟรม” “พี่ขอโทษนะ...ตอนนั้นพี่ไม่กล้าบอก กลัวปอนด์โกรธแล้วจะไม่มาหาพี่อีก..เลยต้องปิดบัง...แต่จะว่าไปแล้ว...พี่สนิทกับปอนด์และมีไรกันมากกว่าเฟรมอีกนะ” “จริงดิ่พี่” “จริงๆ ปอนด์ลองนึกดูดิ่ ว่า...พี่บอกว่าแฟนไม่มาหาแล้วชวนปอนด์มาหาพี่ บ่อยมั้ยล่ะ”“อืมมม...ก็หลายครั้งนะ”“รู้อย่างนี้แล้ว ยังจะมาพี่อีกหรือป่าว”“ถึงพี่มีแฟนเป็นไอ้เฟรม..ผมก็ต้องมาหาพี่อยู่ดี เพราะผมเป็นกิ๊กกับพี่”“แหม...ชื่นใจจังพี่ดีใจมากเลยนะ ที่มีปอนด์เป็นกิ๊ก จริง ๆ แล้ว พี่อยากได้ปอนด์เป็นแฟนเลยนะ แต่ปอนด์มีแฟนแล้วอ่ะ”“ก็..ก็...เราเจอกันช้าไปมั้งครับ”
ถ้าปอนด์เลิกกับแฟน จะหันมาคบน้องรึเปล่าล่ะครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุนคับ ผิดที่เราเจอกันช้าปาย… ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ