The Past moment 3 (รับผิดชอบ)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Elenai เมื่อ 2020-10-13 23:15เนื้อหาในตอนที่ 2 ตามลิงค์ http://www.g4guys.com/forum.php? ... 6508&fromuid=155129
เชื่อว่าหลายๆคนล้วนแต่มีเป้าหมายสำคัญในชีวิตที่แตกต่างกันไปบางคนก็มีเพียงหนึ่งและบางคนก็อาจมีมากกว่านั้นโดยเป้าหมายต่างๆที่หลายๆคนตั้งไว้นั้นมันมีแบบทั้งระยะสั้นและระยะยาวควบคู่กันไป ซึ่งคนส่วนมากมักจะใช้มันเป็นแรงบันดาลใจหรือแรงขับเคลื่อนในการหาคำตอบของความหมายในชีวิตแต่ละคนว่าคืออะไรแต่การที่จะไปถึงจุดที่เรียกว่าความสำเร็จได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะในชีวิตจริงนั้นมันต้องอาศัยเหตุปัจจัยหลายๆอย่างเข้ามาร่วมกันในการที่จะทำให้เราเดินไปถึงจุดสูงสุดของเป้าหมายได้หรือเปล่าและนั่นแหละครับมันก็คือสิ่งที่เป็นกำแพงขวางกั้นระหว่างตัวเราและเป้าหมายก็อย่างที่เค้าว่ากันนะ ไม่มีอะไรในโลกได้มาฟรีๆ อยากได้อะไรก็ต้องลงทุนลงแรงออกเสาะแสวงหากันไป และถ้าคุณได้อ่านมาถึงตรงนี้คุณอาจเกิดคำถามขึ้นในใจว่า เอ๊ะแล้วที่เกริ่นๆมาเนี่ย มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย ซึ่งผมต้องขอบอกว่าเกี่ยวแน่นอนซิครับไม่งั้นผมคงไม่เกริ่นให้เสียบรรทัดหรอกนะหากผู้อ่านได้ติดตามเรื่องของผมมาตั้งแต่ต้น ผมว่าทุกท่านคงจะเดาออกว่าตัวผมได้ตั้งเป้าหมายสำคัญอะไรไว้ ณ ช่วงเวลานี้โดยในตอนแรกผมรู้ดีแก่ใจว่าโอกาสและความสำเร็จในเป้าหมายของผมที่ตั้งไว้นั้นมันแทบจะเป็นไปได้น้อยมากแต่พอผมได้ไปออกทริปเที่ยวกับเจมส์และพวกเพื่อนๆพี่โฟร นั่นก็ทำให้ผมได้พบเจอหนทางสู่ความสำเร็จได้อย่างไม่คาดฝัน เพราะหลังจากทริปเที่ยวพัทยา-เกาะล้าน ในครั้งนั้นมันทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรจากพี่ยูโรหลายๆอย่างทั้งทักษะการถ่ายรูปแนวคิดของพวกเด็กมัธยมปลาย และอื่นๆอีกมากโขโดยมีคำพูดหนึ่งของพี่ยูโรที่คอยย้ำเตือนกับตัวผมเสมอว่า“ถ้าน้องโอลาฟมีฝีมือเด่นในด้านการถ่ายภาพสร้างสื่อ หรือตัดต่อเก่ง น้องอาจได้ร่วมงานกับพวกไอ้เฟิร์สที่เป็นทีมสภานักเรียน” ดังวกวนอยู่ในหัวของผมซ้ำไปมาทุกคืนวันแต่นั่นก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจแต่อย่างใดนะครับเพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่าพระเจ้านั้นได้รับฟังและมอบโอกาสทองนี้มาให้กับผมยังไงอย่างงั้นนั่นทำให้ผมเลยลงทุนควักเงินเก็บของตัวเองบวกเงินแม่ปุ้ยนิดหน่อยไปอัพสกิลอัพเลเวลของตนเองใหม่ด้วยการไปลงเรียนครอสสื่อมัตติมีเดียระยะสั้น 1 เดือนที่เปิดสอนในตัวเมืองทุกวันหลังเลิกเรียนจนทำให้พวกก๊กของผมอย่างดิว กับ แคท ถึงกับเอ่ยปากบ่นต่อว่าผมหลายต่อหลายครั้งว่าเรียนไปทำไม? เรียนไปเพื่ออะไร?ซึ่งผมก็พยายามอธิบายเหตุผลให้พวกมันสองคนเข้าใจหลายต่อหลายครั้งนะครับ แต่ก็ยังไม่วายที่โดนอีดิวกับแคทพูดแนวประชดว่าผมเริ่มปลีกแยกตัวออกจากก๊ก ใจจริงผมเองก็อยากบอกเรื่องที่ผมแอบชอบพี่เฟิร์สให้พวกมันรู้แล้วรู้รอดไปเลยแต่ก็อย่างว่าแหละครับ ผมเองก็เพิ่งเริ่มจะทำการใหญ่ดังนั้นยังไม่ควรริป่าวประกาศให้พวกมันฟังเดี๋ยวจะเสียแผนซะป่าว ส่วนเจมส์คงไม่ต้องพูดอะไรมากครับเพราะตั้งแต่กลับจากทริปเที่ยวมามันกับพี่โฟรเหมือนจะรักและหวานชื่นกันยิ่งกว่าเก่าและนั่นมันก็ทำให้ผมอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่ากะอีแค่ไปออกทริปเที่ยวด้วยกันคืนเดียวเนี่ยมันทำให้ความรักเหนียวแน่นจนเลี่ยนได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอแต่ผมก็ไม่ได้อิจฉามันหรอกนะครับออกจะยินดีกับมันด้วยซ้ำไปหลังผมเรียนจบครอส ตัวของผมก็ได้นำทักษะดังกล่าวมาต่อยอดงานต่างๆในชมรมได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำโปสเตอร์หนังให้กับชมรมภาพยนตร์ การทำวิดีโอโฆษณาและVTR ต่างๆให้กับชมรมข่าวสารพาเพลิน รวมถึงการช่วยออกแบบหนังสือพิมพ์และนิตยสารของโรงเรียนจนทำให้ตัวผมเป็นที่ยอมรับของพวกรุ่นพี่และคนอื่นๆในชมรมไปโดยปริยายซึ่งทุกครั้งที่ผมทำงานใหญ่ๆได้สำเร็จเมื่อไหร่พี่ยูโรก็มักจะชอบพาผมไปเลี้ยงขนมและของอร่อยๆตามร้านราคาแพงต่างๆเกือบทุกครั้งทำเอาผมถึงกับน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวจนวันที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตผมได้มาถึงเมื่อพี่เฟิร์สเซเล็บหล่อคนดังของโรงเรียนเดินเข้ามาคุยงานในระหว่างที่ผมเดินหิ้วถุงเครปญี่ปุ่นกลับจากร้านหน้าโรงเรียนซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นช่วงเวลานั้นด้วยเพราะทันทีที่พี่เฟิร์สมายืนต่อหน้าผมในระยะ 1 เมตร มันทำให้ผมเขินและตื่นเต้นจนทำไรไม่ถูกผมยืนอึ้งมองหน้าพี่เฟิร์สอยู่พักใหญ่ไม่รู้ว่าตอนนั้นพี่เค้าพูดไรกับผมบ้างพี่เฟิร์สคงเห็นท่าผมไม่ดีเลยเอื้อมมือมาสะกิดเข้าที่ไหล่ขวาและทันทีที่มือของพี่เค้ามาสัมผัสตัวของผมผมจำ ณ ตอนนั้นได้ว่าผมสะดุ้งตกใจถอยห่างออกมาเล็กน้อย มือไม้อ่อนจนเผลอปล่อยถุงหิ้วใส่เครปญี่ปุ่นทั้ง 4 ชิ้นที่ผมตั้งใจซื้อไปให้กับสมาชิกในก๊กร่วงหล่นลงพื้นจนแตกเละเทะไม่มีชิ้นดีส่วนพี่เฟิร์สเองก็คงจะตกใจเช่นเดียวกับผม ผมเห็นพี่เค้ามองและขำกับท่าทีของผมยกใหญ่ก่อนพี่เค้าจะเอ่ยปากขอโทษพร้อมกับควักเอาแบงค์ร้อยค่าเสียหายที่ทำเครปผมหล่นพื้นจากในกระเป๋าตังยื่นให้กับผม แน่นอนว่าเจอแบบนั้นเข้าให้ผมถึงกับรีบตอบปฏิเสธพี่เค้าด้วยความเลิ่กลั่กแต่พี่เฟิร์สก็ยังคงยืนกรานจะยื่นแบงค์ร้อยให้กับผมด้วยสีหน้าอ้อนวอนจนผมต้องรับเงินนั่นมาด้วยความขวยเขินและดีใจอย่างสุดซึ้ง(ซึ่งหลังจากวันดังกล่าวผมเอาแบงค์ร้อยของพี่เค้าไปเคลือบและใส่กรอบเก็บห้อยไว้ในห้องเป็นอย่างดี)ก่อนที่พี่เค้าจะเริ่มคุยรายละเอียดของงานสภาที่ผมต้องเข้าไปมีส่วนร่วม ผมตกอยู่ในอาการเลิ่กลั่กทุกครั้งที่เจอพี่เฟิร์สได้อาทิตย์กว่าจนผมเริ่มคุ้นชินและสนิทกับพี่เฟิร์สขึ้นมาหน่อยๆและการที่ผมได้เริ่มคลุกคลีกับพี่เฟิร์สอยู่บ่อยครั้งนั่นเลยทำให้ผมรู้ว่าพี่เค้ามีเพื่อนสนิทจริงๆ 4 คน นั่นคือพี่เอก พี่เบท พี่ตี๋ และพี่เวฟอีกทั้งพี่เฟิร์สยังสนิทกับพี่เตอร์พี่เคน เพื่อนในก๊กของพี่เจนอีกด้วย พี่เฟิร์สมีพี่สาว 1 คนชื่อพี่เฟิร์นส่วนพี่เค้าเป็นลูกชายคนสุดท้องของบ้านบ้านพี่เฟิร์สอยู่ในตัวเมืองเป็นร้านขายยาสมุนไพรจากเมืองจีนพ่อพี่เค้าเป็นไทยส่วนแม่เป็นคนจีน พี่เฟิร์สเป็นคนที่วาดภาพได้สวยมากอีกคนหนึ่งไม่ใช่แค่วาดอย่างเดียวนะครับทั้งงานปั้น งานแกะสลัก และงานฉลุ พี่เค้าก็ทำออกมาดีสุดโต่ง แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมเอ๊ะใจอยู่บ่อยครั้ง ว่าทั้งหน้าตาและรูปร่างอย่างพี่เฟิร์สเนี่ยทำไมถึงไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเหมือนกับคนอื่นๆสักทีทั้งที่พวกรุ่นน้อง เพื่อนรุ่นเดียวกัน พวกรุ่นพี่ม.6 หรือแม้แต่ตัวผมเองต่างก็หมายปองที่อยากจะได้พี่เฟิร์สมาเป็นเจ้าของกันอยู่ถมเถถึงกระนั้นพี่เฟิร์สเองก็ยังคงเลือกที่จะครองตัวโสดมาโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้จนบางครั้งผมก็อดสงสัยไม่ได้นะว่าพี่เฟิร์สน่ะเป็นเหมือนกับตัวผมหรือเปล่า แต่จากการวิเคราะห์ของอีดิว อีตูนและอีบาบี้ ที่ได้สมญานามสามเครื่องสแกนดักผีชะนีเก้งกวางของสายม.ต้น มาให้ตรวจสอบอยู่บ่อยครั้ง มันก็ได้คำตอบที่ตรงกันทุกครั้งว่า พี่เค้าเป็นชายแท้ 100%และยิ่งผมได้เห็นมุมดิบเถื่อนแบบห่ามๆของพี่เฟิร์สอยู่บ่อยๆมันก็ยิ่งทำให้ผมมั่นใจในคำตอบของสามเครื่องสแกนเข้าไปใหญ่ นั่นแหละมันคือความท้าทายที่จะทำให้ผมได้เรียนรู้ไปกับมัน วันพุธที่ 9 เดือนสิงหาคม เวลา 9.23 น. วันหยุดแบบไม่คาดฝันสำหรับหลายๆคนเพราะทางโรงเรียนมีหยุดประชุมใหญ่เลยทำให้นักเรียนชาวเขียวส้มทั้งหลายต่างพากันลั้นลาได้อย่างเต็มที่ใน 1 วัน แต่สำหรับผมแทนที่จะได้นอนอยู่บ้านชิลๆเหมือนคนอื่นๆเค้า พี่ยูโรก็ดั้นนนนนึกคึกอะไรมาก็ไม่รู้จู่ๆพี่เค้าประกาศไลน์กลุ่มเรียกให้พวกเด็กใหม่ในชมรมทั้ง 30 คน ไม่สิต้อง 31 เพราะนับรวมผมด้วยอีกคนให้มารวมตัวกันที่สวนไม้ดอกในรีสอร์ทของพี่เอฟ รุ่นพี่ม.6 ในชมรมเพื่อทำกิจกรรมชมรมนอกเวลาเรียนเหมือนที่ผมเคยโดนเมื่อครั้นไปทะเลคราวนั้นในระหว่างที่ทุกคนแยกตัวฝึกใช้ POLARIZE FILTER กันอยู่นั้น จู่ๆอ๋อมแอ๋มรุ่นพี่ม.3 เพื่อนในชมรมเดินเข้ามาทักโอลาฟที่ยังคงยืนถือกล้องก้มๆเงยๆอยู่แถวต้นโคมญี่ปุ่น “โอลาฟนี่แกได้รูป Toptop ไปกี่รูปละ”“หวัดดีครับ พี่อ๋อมแอ๋มเฮ้อถ้ามัน Top จริงก็ดีดิพี่เนี่ยผมยังไม่ชัวร์เลยว่าที่ถ่ายๆมาเนี่ยมันจะผ่านหรือเปล่าแล้วของพี่ล่ะครับ เป็นไงมั่ง”“มันก็อย่างว่านะโอลาฟอะเนี่ยลองดูที่พี่ถ่ายสิ” อ๋อมแอ๋มยื่นกล้องให้กับโอลาฟ “อืมมมันก็…ดีนะพี่แต่ตรงนี่ภาพมันเหมือนจะหลุดโฟกัสไปนะครับเห็นไหมว่ามุมตรงนี้มันยังเบลออยู่เลย ส่วนแสงในภาพมันดูมืดๆไปนิดนะพี่”“งั้นเหรอแล้วนี่พี่ควรไปหมุนจะปรับอะไรบ้างน้องแนะนำพี่หน่อยสิ”ในระหว่างนั้นเองยูโรที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากทุกคนได้หยิบเอาโทรโข่งขึ้นมาประกาศ “เอ้าน้องๆ นี่ก็ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะครับตอนนี้หากใครคิดว่าภาพของตัวเองที่ถ่ายๆไปผ่านแล้วให้ถือกล้องเดินตรงไปหาพี่น้ำขิงที่นั่งอยู่ศาลาข้างแปลงดอกทานตะวันตรวจดูก่อนนะครับว่าภาพใช้ได้หรือเปล่า”โอลาฟที่ได้ฟังประกาศดังกล่าวมันรีบส่งกล้องคืนให้กับอ๋อมแอ๋ม “นี่ครับพี่ผมปรับกล้องให้พี่แล้วนะ ไงพี่ลองไปทำตามที่ผมแนะนำไปเมื่อกี้ดูครับเดี๋ยวผมขอเอาภาพในกล้องผมไปให้พี่น้ำขิงดูก่อนครับพี่ว่าใช้ได้ไหม” โอลาฟยกมือไหว้อ๋อมแอ๋มและเดินถือกล้องตรงไปยังศาลาดังกล่าวที่มีสมาชิกคนอื่นๆทยอยมาต่อแถวเรียงหนึ่งกันเป็นจำนวนมากซึ่งแต่ละคนที่มามีทั้งถูกไล่ให้ไปถ่ายใหม่ ถูกตำหนิพร้อมกับให้แนะนำต่างๆและบางคนก็ผ่านฉลุยไปด้วยความโชคดี จนแถวขยับถึงคิวของโอลาฟ มันรีบเอากล้องในมือยื่นให้กับพี่น้ำขิง “นี่ครับพี่น้ำขิง ถ้าไม่ดียังไงพี่ติงผมได้เต็มที่เลยครับ”น้ำขิงถึงกับยิ้มกว้าง “แหมแน่ใจนะน้องว่าบ่อน้ำตาของตัวเองน่ะลึกพอแล้ว”“ฮ่าๆ งั้นไม่ติงก็ได้ครับพี่”น้ำขิงนั่งมองภาพที่โอลาฟถ่ายมาพร้อมชักสีหน้าครุ่นคิดไปครู่ใหญ่ก่อนจะเงยขึ้นมองโอลาฟที่มันยังคงยืนจ้องกลับด้วยท่าทางและแววตาลุ้นอย่างถึงที่สุด “น้องโอลาฟพี่ว่ารูปที่น้องถ่ายมาเนี่ยมันดีอยู่นะแต่พี่อยากให้น้องลองเปลี่ยนไปถ่ายจุดอื่นที่มีแสงเยอะกว่านี้อีกดูหน่อยน่ะ อีกอย่างพี่ต้องการภาพจากหลายๆจุดเพื่อเอามาใช้เป็นจุดเทียบเคียงกันด้วยไงน้องลองทำตามที่พี่บอกนะแล้วเดี๋ยวเอามาให้พี่ดูอีกรอบ” “ได้ครับพี่น้ำขิง ขอบคุณครับ”โอลาฟยกมือไหว้และรับเอากล้องของมันกลับคืนก่อนที่มันจะเดินจากไประหว่างที่มันกำลังเดินๆอยู่นั้นมันเห็นยูโรที่ยืนกับรุ่นพี่คนอื่นๆแต่ไกลมองมาที่มันพร้อมกับโบกมือทักทายโอลาฟถึงกับยิ้มก่อนที่มันจะโบกมือทักทายยูโรกลับเช่นเดียวกันไม่นานนักโอลาฟที่กำลังเดินหามุมถ่ายรูปอยู่นั้นมันเหลือบไปเห็นรุ่นพี่ผู้หญิงผมเปียหุ่นค่อนข้างสูงคนหนึ่ง นั่งเหม่อมองอะไรบางอย่างพร้อมกับยิ้มและทำหน้าเขินเป็นช่วงๆอยู่ตรงเก้าอี้ใต้ต้นไม้ทำเอาโอลาฟที่ได้เห็นถึงกับง่วนคิดในใจ “พี่คนนั้นเค้าทำไรน่ะนั่งคนเดียวยิ้มคนเดียว คงไม่ใช่คนสติไม่ดีหรอกนะ แต่ก็ไม่น่าใช่เอ๊ะ!พี่เค้าถือกล้องอยู่ด้วย? คนในชมรม?แล้วพี่เค้ามองไรอยู่น่ะ?”ด้วยความสงสัยโอลาฟมันเลยหันมองตามพี่คนดังกล่าวซึ่งทิศที่พี่ผู้หญิงคนนั้นมองไปนั้นคือที่ที่ยูโรกับพวกรุ่นพี่คนอื่นๆนั่งกินขนมพร้อมคุยหัวเราะกันเสียงดังจ้อแจ้อยู่ตรงเต้นท์ที่กางไว้ให้หลบแดดโอลาฟยืนมองอยู่ได้ชั่วครู่มันเลยหันมองมาพี่ผู้หญิงคนนั้นและทำทีเดินเข้าไปทัก “พี่ครับ มานั่งทำไรอยู่นี่คนเดียว พี่เอารูปในกล้องไปให้พี่น้ำขิงตรวจดูยังนิครับ”เสียงของโอลาฟทำเอาผู้หญิงดังกล่าวถึงกับสะดุ้งตกใจใหญ่“เอ้อ อะเอิ่มม อ่าพี่พี่เห็นคนต่อคิวกันเยอะน่ะเลยไม่อยากไปยืนรอให้เมื่อยขาไว้รอให้คนซาๆอีกสักหน่อยเดี๋ยวค่อยไปเอา แล้วนี่น้องมาทำไรแถวนี้แหละ”“ผมก็มาหามุมถ่ายรูปอยู่อะครับก็ตอนที่ผมเอารูปไปให้พี่น้ำขิงดูพี่เค้าบอกให้ผมลองไปถ่ายมุมอื่นเพื่อจะได้มีรูปมาเทียบกันว่าผ่านไหม” “อ้อๆ…แบบนี้นี่เอง…เอิ่มมถ้าจำไม่ผิดนี่น้องโอลาฟใช่ปะ” “ครับ….ใช่ครับพี่ผมนี่แหละครับโอลาฟอืมมแล้วนี่พี่รู้จักผมได้ไงอะทำไมผมไม่คุ้นหน้าพี่เลย”“จะไม่ให้พี่รู้จักน้องได้ไงล่ะก็ช่วงที่ผ่านมาพี่ได้ยินพวกรุ่นพี่ม.6 ที่อยู่ในชมรมร่ำลือว่าน้องโอลาฟคนนี้ความสามารถไฟแรงสุดๆ”โอลาฟที่ได้ยินถึงกับแอบอมยิ้มด้วยความดีใจ “โห่ นี่พี่อำผมเล่นป่าวครับ ผมไม่ได้ไฟแรงขนาดนั้นสักหน่อยพวกรุ่นพี่ม.6 เค้าก็พูดเกิ้นนนครับนี่ผมยังเป็นเด็กใหม่อยู่เลยนะพี่ยังมีอะไรที่ผมต้องพัฒนาอีกเยอะ….แล้วพี่ชื่อไรครับ”“พี่ชื่อเฟย์นะ อยู่ม.4/5 น่ะ” “อ้อครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับพี่เฟย์ไงผมขอตัวก่อนนะครับ แดดเริ่มร้อนแล้ว”ระหว่างที่โอลาฟกำลังจะเดินแยกตัวจากเฟย์ไปนั่นจู่ๆเฟย์ได้เอ่ยปากเรียกขึ้นทันควัน “เอ่อน้องโอลาฟ เดี๋ยวๆ!!”“ครับพี่เฟย์??”“คือพี่…เอิ่มมเราก็เพิ่งรู้จักกันเนาะคือถ้าน้องไม่ว่าไรพี่อยากรบกวนไรน้องสักอย่างได้ไหม”“ครับ…พี่จะให้ผมทำไรอะ”เฟย์หันไปเปิดกระเป๋าสะพายที่วางอยู่ข้างตัวพร้อมกับหยิบเอาถุงหิวสีขาวที่มีทั้งขนมปังขนมขบเคี้ยวและน้ำอัดลมใส่อยู่เป็นจำนวนมากมายื่นให้กับโอลาฟ“โห่ของกินเต็มไปหมดเลยไรเนี่ยพี่เฟย์”“คืองี้นะน้องคือพี่อยากให้น้องเอาถุงขนมของพี่เนี่ย ไปให้กับพี่ยูโรที่อยู่ตรงเต้นท์โน่นได้ไหมน้อง” “พี่ยูโรหรอ??มันก็ได้นะแต่ทำไมพี่ไม่เอาไปให้เองล่ะครับจากนี่ไปที่เต้นท์พวกพี่เค้ามันก็อยู่ไม่ไกลกันนะ”“พี่ก็อยากเอาไปให้เองนะแต่ พี่…พี่ว่าน้องเอาไปให้นั่นแหละดีแล้ว”โอลาฟสังเกตท่าทีของเฟย์ที่ยืนบิดตัวไปมาพร้อมกับแก้มขาวๆที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูและสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างล้นหลาม “ถามจริงนี่ พี่เฟย์ชอบพี่ยูโรเหรอครับ”“เห้ยน้องพูดไรน่ะ ไม่ใช่ไม่ใช่นะ ไม่ใช่สักหน่อย”“โห่พี่ชอบก็บอกว่าชอบเถอะครับอาการของพี่ถ้าจะขนาดนี้นะผมว่าเด็กประถมมันยังดูออกเลย”“แหมน้องโอลาฟนี่ก็นะ แหมๆก็อย่างที่น้องเห็นแหละ…ไม่อยากพูดเยอะเนาะ” “ก็ถ้าพี่เฟย์ชอบพี่ยูโรนะผมว่าพี่เฟย์เอาไปให้จะเป็นการดีกว่าฝากให้ผมไปนะ” “พี่ก็อยากไปนะน้องอยากไปมากแต่พี่อายนะยิ่งพี่เค้าอยู่กับคนเยอะแบบนั้นพี่ยิ่งไม่กล้าเลยแหละ นะน้องช่วยพี่หน่อย ที่ผ่านมาพี่เห็นน้องสนิทกับพี่ยูโรมากกว่าคนอื่นๆเลยคิดว่าถ้าฝากน้องไปจะดีกว่า นะนะเห็นใจพี่หน่อย พี่ชอบพี่ยูโรจริงๆชอบตั้งแต่พี่อยู่ม.1 แล้ว”เฟย์พูดพร้อมส่งสายตาอ้อนวอนใส่โอลาฟ “โอเคครับพี่โอเค งั้นเดี๋ยวผมจัดการให้ แล้วนี่จะให้ผมบอกว่าใครฝากมาดีล่ะ”“อืมมก็..ก็..เอาเป็นว่าแล้วแต่น้องล่ะกันแต่ห้ามบอกนะว่าเป็นพี่ที่เป็นคนฝากไป” “งั้นเอางี้ผมจะบอกพี่ยูโรว่าผู้หวังดีฝากมาให้ล่ะกันครับ” ทันที่ที่พูดจบโอลาฟมันรีบเดินแยกและตรงไปยังเต้นท์ของยูโรทันทีทำเอาเฟย์ถึงกับรีบตะโกนย้ำตามหลัง “จะอะไรก็ได้น้องแต่อย่าบอกชื่อพี่ก็พอ”ไม่นานนักโอลาฟพร้อมกับถุงพลาสติกสีขาวในมือเดินตรงเข้าไปหายูโร ยูโรที่นั่งคุยกับเพื่อนๆอยู่เมื่อเห็นโอลาฟเดินดุ่มๆเข้ามามันถึงกับรีบลุกเดินไปหา “ไงโอลาฟ มีไรให้พี่ช่วยรึป่าว แล้วนี่หิ้วถุงไรมาน่ะ” โอลาฟได้แต่ยิ้มๆพร้อมกับยื่นถุงหิ้วให้กับยูโร “อะนี่ของพี่ครับ”“ไรเนี่ยโอลาฟ โหหหขนมกับน้ำจัดเต็มเลยหว่า สุดยอดน้อง โครตรู้ใจพี่เลยพี่กับเพื่อนๆกำลังเถียงกันอยู่เลยว่าจะให้ใครออกไปซื้อขนมกันอยู่พอดีแล้วนี่น้องซื้อให้พี่จริงเหรอครับ” “ซื้อให้พี่จริงครับ แต่คนที่ซื้อไม่ใช่ผมหรอกนะเค้าฝากผมมาให้พี่อีกทีน่ะครับ”สีหน้ายูโรที่ยิ้มดีความดีใจอยู่ก่อนหน้าถึงกับเปลี่ยนเป็นสีหน้าเจือนๆทันที “งั้นเหรอ อืมม แล้วนี่ใครฝากมาให้ล่ะครับ”“ผู้หวังดีน่ะครับเค้าฝากมาให้พี่งั้นผมไปนะครับ รูปผมยังไม่ผ่านเลย”โอลาฟยิ้มให้กับยูโรและรีบหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้ยูโรยืนหิ้วถุงขนมมองตามหลังด้วยความงุนงง วันพฤหัสบดีที่ 10 เดือนสิงหาคม เวลา 12.13 น. “โอลาฟจะไปไหนน่ะไม่กินข้าวรึไง”“กินดิแคทแต่วันนี้กูคงไม่ได้ไปนั่งกับพวกมึงนะ”“เอ๊า ไง๋เป็นงั้นซะล่ะ”“วันนี้ที่ชมรมกูมีปาร์ตี้รับน้องใหม่น่ะพวกรุ่นพี่ม.6 ในชมรมเลยสั่งอาหารและเครื่องดื่มจากข้างนอกมาเลี้ยงพวกเด็กใหม่กันน่ะกูจะไม่ไปก็ไม่ได้ด้วยขี้เกียจมีปัญหาตามมาทีหลัง”“หืมมมเข้าใจล่ะนี่คือเหตุผลที่แกจะหนีพวกเราไปกินของดีๆหรูๆสินะ”“ไม่ใช่นะแคทมึงอย่าพูดงี้ให้กูลำบากใจสิวะ ถ้างั้นมึงจะไปกับกูไหมล่ะ”แคทถึงกับขำในสีหน้าเคร่งเครียดของโอลาฟ “แหมโอลาฟแกนี่ก็นะ ก็แค่พูดหยอกนิดหยอกหน่อยดูแกทำหน้าสิแหมๆไงก็ทานเผื่อด้วยเราล่ะกัน เดี๋ยวเราบอกอีดิวกับเจมส์ให้ว่าวันนี้มึงไม่สะดวก”“เอ่อๆ ขอบใจๆงั้นกูไปก่อนนะแคท”“ชมรมมึงนี่ก็แนวดีเนาะมีปาร์ต้งปาร์ตี้รับน้องใหม่ด้วยทีชมรมเราไม่เห็นจะมีแบบนี้มั้ง โคตรน่าอิจฉาจัง”หลังทุกคนในชมรมนั่งทานข้าวทานขนมอะไรกันเสร็จแล้วยูโรมันเลยเรียกให้พวกเด็กใหม่ทั้ง 31 คน มานั่งเข้าแถวรวมตัวยังกลางห้องชมรมจากนั้นยูโรจึงเรียกให้พวกรุ่นพี่คนที่เป็นตัวหลักทั้ง 7 คนมายืนเรียงหน้ากระดานอยู่หน้าแถวของเด็กใหม่ก่อนที่ยูโรจะเริ่มกล่าวเปิดประเด็น “ก็สวัสดีพวกรุ่นน้องและรุ่นเดียวกันที่เข้ามาใหม่ทุกคน ก็อย่างที่พวกเราทราบเนาะว่าตอนนี้พวกเราก็อยู่ด้วยกันมาเดือนกว่าล่ะ แถมยังได้ผ่านการทดสอบและการฝึกในเบื้องต้นทั้งในและนอกเวลากันมาก็มากแล้วถึงวันนี้สำหรับพวกเด็กเก่าที่อยู่ชมรมนี้มาตลอดก็รู้ๆกันอยู่ว่า หลังเสร็จงานปาร์ตี้รับน้องใหม่ในทุกปีก็จะเป็นการแบ่งภาระหน้าที่และงานที่ต้องรับผิดชอบให้แต่ละคนซึ่งตอนนี้พวกพี่ทั้ง 7 คนที่เป็นหัวหน้างานและมายืนอยู่หน้าพวกเรานี้ก็ได้ทำการคัดเลือกตัวของแต่ละคนไว้หมดแล้วและจะประกาศอย่างเป็นการลงกลุ่มไลน์ตอนเย็นนี้เลยแต่ทั้งนี้ก็จะมีเด็กใหม่อยู่ 4 คนที่พวกพี่ทั้ง 7 ไม่สามารถคัดเลือกได้ด้วยตนเองเพราะทั้ง 4 คนนี้คือผู้มีความสามารถโดดเด่นและเหมาะสมที่จะขึ้นมาเป็นผู้ช่วยหลักใน 4 ฝ่ายงานของชมรมเรา ดังนั้นเพื่อไม่ให้มีข้อครหาเหมือนปีก่อนๆที่ผ่านมาปีนี้พวกพี่เลยจะให้พวกเด็กใหม่ทุกคนในชมรมมีสิทธ์ออกเสียงในการเลือกครั้งนี้ด้วยเอาล่ะเดี๋ยวจะเสียเวลาไปมากไงขอเชิญรุ่นน้องที่มีรายชื่อออกมายืนข้างหน้าเลยครับน้องแทน น้องหมิวน้องโอลาฟ และน้องส้มโอ ออกมาเลยครับในระหว่างที่ทั้ง 4 กำลังลุกเดินออกไปนั้น จู่ๆมีนักเรียนชายม.3 คนหนึ่งยกมือขึ้นทันใด “พี่ยูโรครับถ้าผมจำไม่ผิดพวกพี่ๆเคยออกกฏว่าเด็กที่เพิ่งเข้ามาใหม่จะขึ้นเป็นผู้ช่วยหลักใน 4 ฝ่ายงานไม่ได้นิครับ อย่างพี่หมิว พี่แทนและส้มโอผมพอเข้าใจเพราะพี่เค้าเคยอยู่ชมรมนี้มาก่อนและกลับมาเข้าชมรมใหม่อีกรอบแต่โออาฟนี่คือเด็กที่เพิ่งเข้ามาใหม่ซิงๆเลยนะครับ พี่ยูโรทำแบบนี้มันไม่มีผิดกฏเหรอครับ” คำพูดดังกล่าวทำโอลาฟที่กำลังเดินออกมาถึงกับหน้าเสีย ยูโรที่เห็นสีหน้าของโอลาฟถึงกับรีบเอ่ยปากชี้แจง “โอเคครับน้องเจ๋ง ดีแล้วล่ะที่น้องถามขึ้นมาอย่างที่รู้ๆกันดีว่าในชมรมเราประกอบไปด้วย 4 ฝ่ายงานหลักคือ ฝ่ายเก็บ ฝ่ายอัดล้าง ฝ่ายสื่อ และฝ่ายทั่วไปที่ทำงานร่วมกันซึ่งปีนี้ผู้ช่วยหลักในปีก่อนได้เลื่อนขึ้นมาเป็นหัวหน้างานกันทั้งหมดเลยทำให้ตำแหน่งผู้ช่วยหลักในแต่ละฝ่ายของปีนี้ว่างลงและการที่ใครก็ตามจะได้รับพิจารณาเสนอรายชื่อขึ้นมาได้คนๆนั้นต้องมีความสามารถโดดเด่นที่ตรงกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในทั้งสี่ฝ่ายนี้จริงอยู่ว่าน้องโอลาฟน่ะเป็นเด็กเพิ่งเข้าใหม่แต่ช่วงที่เดือนผ่านมาทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่าน้องโอลาฟทำผลงานโดดเด่นไว้เยอะ และพวกพี่เองก็ปรึกษากันดีแล้วว่าน้องโอลาฟเด็กใหม่คนนี้เหมาะสมที่จะได้รับการเสนอชื่อขึ้นมา แต่ถ้าพวกน้องไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของพวกพี่ทั้ง 7 คน พี่ก็อนุญาตให้พวกน้องๆเสนอชื่อคนที่เหมาะสมกว่าน้องโอลาฟขึ้นมาได้เลยครับ แต่ถ้าเสนอมาแล้วและได้รับเลือกจริงน้องคนนั้นต้องทำหน้าที่นี้ให้เต็มที่และดีที่สุดตลอด 1 ปีการศึกษานะครับ พวกน้องๆคิดว่าไงกันล่ะ” เด็กใหม่ทุกคนที่นั่งฟังถึงกับนิ่งเงียบและหันมองกันไปมาอยู่ครู่ใหญ่ “โอเคครับ ถ้าทุกคนนิ่งเงียบกันแบบนี้ พี่จะถือว่าทุกคนยอมรับการตัดสินในครั้งนี้นะ และพี่ขอเลยนะ ห้ามทุกคนในที่นี้มีดราม่ากับเรื่องนี้โดยเด็ดขาด เพราะชมรมเราอยู่กันแบบครอบครัวพี่น้องมานานแล้ว หากมีอะไรก็บอกกันตรงๆถกกันด้วยหลักเหตุผลครับ”หลังชี้แจงเหตุผลให้กับทุกคนได้เข้าใจจนการเลือกผู้ช่วยหลัก 4 ฝ่ายผ่านพ้นไปด้วยดี โดยเสียงส่วนใหญ่เลือกให้โอลาฟได้เป็นผู้ช่วยหลักของฝ่ายสื่อมัลติมีเดียคู่กับพี่เรนโบว์ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายงานนี้เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมในระหว่างที่โอลาฟกำลังจะเดินกลับห้องเรียนอยู่นั้นจู่ๆเฟิร์สกับเอก ทั้งสองเดินตรงมายังทางโอลาฟโอลาฟที่เห็นเฟิร์สกับเอกกำลังเดินเข้ามามันถึงกับชะงักด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อยก่อนที่มันจะทำหน้านิ่งๆข่มความตื่นเต้นและก้าวขาไปต่อ ทันทีที่โอลาฟกับเฟิร์สจะเดินสวนกันนั้น เฟิร์สที่คุยกับเอกได้หันมามองโอลาฟ “อ๊าวน้องโอลาฟ ไม่ทักกันเลยนะ” โอลาฟรีบหันมาตอบกลับเฟิร์สทันใด “ก็ผมเห็นพี่คุยกับพี่เอกอยู่อะครับผมเลยไม่กล้า..”“ฮ่าๆถึงพี่คุยกับเพื่อนอยู่น้องก็ทักพี่ได้พี่เองก็ไม่ได้ดุดันอะไรขนาดนั้นซะหน่อย” “มันก็นิดหนึ่งเนาะพี่ก็พี่เป็นถึงประธานนักเรียนเชียวนะครับ แค่เห็นพี่เดินมาแต่ไกลมันก็เกร็งๆล่ะ”เฟิร์สหันไปมองเอกพร้อมถอนหายใจ “เฮ้อ นี่กูคิดผิดคิดถูกเนี่ยที่ได้เป็นประธานนักเรียนดูซิแม่งทำให้คนอื่นเค้ากลัวๆกูไปหมดล่ะ” เอกยิ้มและเอ่ยปากแซวเฟิร์สกลับทันที “เอ่อว่ะที่มึงพูดมาก็ท่าจะจริงเว้ย ถึงว่าช่วงนี้มึงไปไหนไม่ค่อยมีคนกรี๊ดกราดมึงเหมือนแต่ก่อน ปะปะลาออกลาออกให้คนอื่นเป็นแทน”“ไม่ได้เว้ยไอ้เอกเดี๋ยวคนอื่นก็หาว่ากูป๊อดอะดิ”โอลาฟรีบใช้มือสะกิดเฟิร์ส “พี่ๆ ผมว่าที่พี่เฟิร์สเป็นอยู่ก็ดีแล้วครับ ส่วนใหญ่ที่คนเค้าเกร็งๆพี่กันน่ะก็เพราะว่าพี่เฟิร์สทำตัวดูเป็นผู้ใหญ่และน่านับถือมากไงล่ะครับ”เฟิร์สที่ได้ยินถึงกับยิ้มกว้างมันรีบย่อตัวลงพร้อมกับใช้แขนขวากอดเข้าที่คอโอลาฟทำเอาโอลาฟถึงกับยืนตัวแข็งทื่อทำไรไม่ถูก “เฉียบบน้องพูดได้ถูกใจพี่มาก ต้องแบบนี่สิครับ เห็นปะไอ้เอกมึงได้ยินที่น้องเค้าพูดไหมทีนี้เข้าใจยังว่าทำไมคนอื่นๆเขาถึงเกร็งๆกูกัน” “ครับบบบพ่อประธานนักเรียนคนเก่ง ว่าแต่มึงกอดคอน้องเค้าแน่นรึป่าวน่ะ ดูดิ๊น้องเค้าหายใจไม่ออกจนหน้าแดงหมดแล้วน่ะ”เฟิร์สที่เห็นหน้าขาวๆโอลาฟเปลี่ยนเป็นสีแดงอมชมพูมันถึงกับรีบเอาแขนเอา “เห้ยโอลาฟ เป็นไรรึป่าวน่ะ ไม่สบายเหรอ”“เอิ่มมปะป่าวพี่เฟิร์สผมสบายดีครับ”“อ้อก็พี่เห็นหน้าน้องแดงๆนึกว่าเป็นไข้”“อืมมมไม่มีไรหรอกพี่วันนี้แดดมันแรงน่ะแถมอากาศก็ร้อนด้วย หน้าผมก็เลย….”“ดีแล้วน้องที่ไม่เป็นไรเอ่อจริงสิ ไงพี่ดีใจกับน้องด้วยนะที่ได้เป็นผู้ช่วยหลักฝ่ายสื่อของชมรมไอ้ยูโร” โอลาฟมันยิ้มและพยักหน้างึกๆด้วยความงุนงง “พี่เฟิร์สรู้เรื่องผมได้ไงอะ??”“ฮ่าๆ ก็เรนโบว์น่ะสิน้อง เล่นอวดลงไลน์กลุ่มสภาว่าได้น้องโอลาฟมาเป็นลูกมือแล้วไงอยู่กับเรนโบว์บอกเลยว่าเหนื่อยหน่อยนะเพราะเรนโบว์มันชอบมาช่วยงานสภานักเรียนมากซะกว่างานในชมรมซะอีกแต่ก็ดีละครับที่ได้น้องเข้ามาช่วยมัน ที่ผ่านมาพี่เองก็ชอบผลงานหลายๆชิ้นที่น้องทำออกมาอยู่นะ ไงก็ขอให้พยายามต่อไปเนาะสู้ๆครับโอลาฟ”เฟิร์สยิ้มพร้อมกับเอามือซ้ายขึ้นไปขับไหล่ขวาโอลาฟ โอลาฟมันพยายามยิ้มด้วยท่าทีนิ่งที่สุดเพื่อข่มความดีใจอันล้นหลามจนแทบจะทรุดเข่าลงก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ “ขอบคุณนะครับพี่เฟิร์ส พี่เองก็สู้ๆเช่นกันนะครับ”“อ่าๆไว้เจอกันน้องปะไอ้เอกแม่งงเลยเวลาเข้าเรียนว่ะ” ทันทีที่เฟิร์สกับเอกเดินจากไปโอลาฟมันยืนมองตามหลังด้วยอาการตื่นเต้นและดีใจสุดขีดจนมือไม้และเนื้อตัวสั่นเทาอย่างที่ไม่เคยเป็นโอลาฟพลันนึกในใจ “ช่วงเวลาเมื่อกี้มันอะไรกันนะพี่เฟิร์สกอดคอเรา! พี่เฟิร์สเอ่ยปากชมเรา!! แถมยังจับไหล่เราอีกด้วย!! และก็รอยยิ้มนั่นอีก!! นี่มันนี่มัน…แม่งดีกว่าที่คิดไว้ซะอีก”โอลาฟยิ้มด้วยความปิติยกใหญ่ในระหว่างที่มันเดินอยู่ไปพลางๆพร้อมทั้งเอาฝ่ามือซ้ายขึ้นมาถูกหัวไหล่ขวาตรงที่ถูกเฟิร์สเพิ่งจับไปก่อนหน้าก่อนที่มันจะเอามือซ้ายดังกล่าวมาสูดดม เวลา 16.47น. ในระหว่างที่โอลาฟ ดิวแคทนั่งคุยกันที่โต๊ะประจำกันอยู่นั้นเจมส์ได้เดินหน้าตั้งตรงเข้ามานั่งฝั่งตรงหน้าโอลาฟ “ดิว แคทวันนี้กูมีข่าวดีจะบอกพวกมึงเว้ย พวกมึงสองคนรู้ป่าวว่าโอลาฟของพวกเราตอนนี้ได้เป็นถึงผู้ช่วยหลักของชมรมคนรักภาพถ่ายด้วยนะ” ดิวกับแคทหันมองมองโอลาฟด้วยสีหน้าอึ้งและทึ่ง“แหมๆอีโอลาฟช่วงหลังๆที่มึงชอบปลีกแยกหายหัวไปที่แท้มึงก็ไปแอบซุ่มสร้างชื่อให้กับตัวเองสินะเนี่ยย ร้ายมากคร้า ร้ายฟุดๆ”“โอลาฟเรื่องสำคัญแบบนี้ไมแกไม่บอกให้พวกเรารู้ล่ะวะนี่ถ้าเจมส์มันไม่บอก เรากับอีดิวก็ไม่รู้นะว่าแกไปทำเรื่องดีๆมาบ้างน่ะ”“เดี๋ยวก่อนพวกมึงกูแค่ได้เป็นผู้ช่วยฝ่ายสื่อมัลติมีเดียของชมรมแค่นั้นนะไม่ได้เป็นหัวหน้าหรือคนโดดเด่นอะไรเลยสำหรับกูเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยนะอีกอย่างกูก็ไม่อยากโดนพวกมึงหาว่ากูเป็นคนขี้อวดด้วย”ดิวถึงกับเอามือตีไปที่แขนโอลาฟเบาๆ “นี่แหน่ อีโอลาฟ มึงนี่นะมันน่าตีจริงๆเลย มึงอยู่กับพวกกูมาจะเทอมกว่าแล้วนะนี่มึงยังคิดเล็กคิดน้อยกับพวกกูอยู่อีกเหรอดอกกกก มึงไม่เห็นเหรอเวลาที่อีแคทหรืออีเจมส์หรือกูเองหากมีเรื่องไรก็จะมาเล่าสู่กันฟังให้ได้เมาท์มอยอยู่ตลอดแล้วที่ผ่านมึงเคยเห็นพวกกูสามคนบอกว่าขี้อวดหรือขี้นินทากันไหมล่ะกูว่ามึงเลิกคิดแทนคนอื่นได้แล้วอีโอลาฟ”“ก็กูไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไงดีน่ะพวกมึงอีกอย่างตั้งแต่คาบบ่ายจนถึงตอนนี้พวกมึงสามคนก็คุยกันจาวๆอยู่ตลอด กูเลยไม่รู้จะแทรกพวกมึงยังไงด้วย” “คร้า เป็นเหตุผลที่ฟังแล้วดีเลิศจริงๆ”โอลาฟมันหันไปมองเจมส์ “เจมส์แล้วนี่มึงรู้เรื่องนี้ได้ไงอะ”“ก็กูเพิ่งไปซื้อขนมให้พี่เจนมาน่ะ แล้วพี่เตอร์กับพี่เคนที่อยู่ตรงนั้นก็เลยพูดเรื่องของมึงให้กูฟังและกูก็รีบดิ่งมาเนี่ย”“งั้น อีดิว เจมส์ โอลาฟ วันนี้ไปกินบิงซูด้วยกัน เดี๋ยวเรา เจมส์และอีดิวเลี้ยงมึงเอง”“เอ้ยๆไม่ต้องหรอกพวกมึงไว้โอกาสอื่นดีกว่า ช่วงนี้ดิวเองก็กำลังลดน้ำหนักด้วยนี่น่าขืนไปกินไรแบบนั้นเดี๋ยวมันได้น้ำหนักเพิ่มกันพอดี”“ไม่ได้โอลาฟต้องเลี้ยงวันนี้เท่านั้น นี่วันน่ายินดีของมึงนะ พวกมึงว่าไงเจมส์ อีดิว”“กูได้อยู่แล้วแคท”“กูก็อยากแดกนะแต่ฟังที่โอลาฟพูดมาก็จริงอย่างที่มันว่าเพราะเมื่อวานกับวานก่อนตอนอยู่บ้านกูก็แดกไปเยอะพอตัว”แคทถึงกับชักสีหน้าใส่ดิว “หืมมมปากอย่างใจอย่างนะมึงนิ คราวหลังกูจะไม่ไปหาเรื่องเหงื่อออกกับมึงด้วยล่ะ…..งั้นเอางี้เดี๋ยวพวกมึงสามคนไปที่บ้านกูกันวันนี้พี่คินท์กับแม่เราจะอบคุกกี้แคลอรีต่ำและทำซุปครีมเห็ดกินเล่นกันน่ะแถมทำเยอะด้วยนะ ไงวันนี้พวกเราสี่คนไปชิมอาหารฝีมือแม่กับพี่สาวกันนะจะได้ถือโอกาสเลี้ยงฉลองโอลาฟไปด้วย” โอลาฟ ดิวและเจมส์พยักหน้าตอบตกลง30 นาทีผ่านไปหลังจากที่ทุกคนมาถึงบ้านแคทที่เป็นตึกแถว 3 ชั้นแคทรีบพาทุกคนไปทักทายแม่กับพี่สาวที่ง่วนกับกิจกรรมในครัวก่อนจะพาทุกคนขึ้นไปนั่งรอที่ห้องนอนในระหว่างที่ทั้งสี่คุยกันอยู่นั่นเอง“อีดิว เจมส์โอลาฟเดี๋ยวกูลงไปดูแม่กับพี่คินท์ก่อนนะว่าทำเสร็จกันยังเดี๋ยวไงเสร็จแล้วเราจะยกขึ้นมา”“ให้กูไปช่วยมึงไหม”“ไม่ต้องโอลาฟวันนี้มึงแขกคนสำคัญหน้าที่มึงคือรอและก็รอ….เพื่อกินของอร่อยเท่านั้นมึงสองคนก็ด้วยอีดิว เจมส์อยู่คุยเป็นเพื่อนโอลาฟไม่ต้องลงมาช่วยเรานะ รอบนี้เราขอบริการเอง” หลังแคทออกจากห้องไปยังชั้นล่างดิว เจมส์โอลาฟนั่งคุยกันได้ไม่เท่าไหร่จู่ๆดิวก็ลุกปลีกตัวออกจากห้องลงไปชั้นล่างอีกคนปล่อยให้เจมส์กับโอลาฟอยู่ด้วยกันตามลำพัง โอลาฟมันเลยถือโอกาสถามเรื่องส่วนตัวของเจมส์ “เอ่อเจมส์มึงกับพี่โฟรไงบ้างช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นมึงมาอัพเดทข่าวอะไรให้กูฟังเลย”“ก็นะรักกันมากกกก กว่าเดิมล่าสุดพี่เค้าพากูไปเที่ยวดรีมเวิลด์ด้วยกัน 2 ต่อ 2 เลยมึงโอ๊ยยยโครตฟินกับโมเม้นท์นี่มากกก”“แหมมมมชีวิตมึงนี่ดีจังเนาะตั้งแต่หลังจบทริปคราวนั้น ดูเหมือนความรักผูกพันเหนียวแน่น” “มันก็นิดหนึ่งเนาะโอลาฟ มึงไม่เคยได้ยินเหรอว่าการออกทริปเที่ยวย่อมทำให้คู่รักเข้าใจกันมากขึ้นว่าแต่ของมึงกับพี่เฟิร์สนี่ตกลงไปถึงฝั่งฝันกันรึยัง”“ก็อยากให้มันถึงไวๆเหมือนกันนะเจมส์ ทุกวันนี้กูยังได้แค่คุยๆทักๆพี่เฟิร์สก็เท่านั้นแหละแต่แค่นี้กูก็ดีใจมากแล้วล่ะ”“คำว่าแค่นี้สำหรับมึงคงไม่หรอกมั้งโอลาฟกูว่าน่าจะมีอะไรที่มากกว่านั้นนะ” “อะไร??”“ก็ที่มึงไปเรียนครอสพิเศษเดือนก่อนจนมึงได้ขึ้นเป็นผู้ช่วยหลักของชมรมในวันนี้ตกลงใช่แผนที่มึงจะใช้ตีเข้าหาพี่เฟิร์สใช่ป่าววะ” โอลาฟถึงกับหน้าเหวอ “บ้าาาาาใครมันจะไปลงทุนขนาดนั้น นี่กูไม่ได้เป็นคนซับซ้อนเหมือนมึงสักหน่อยนะ”“มึงว่ากูนินะซับซ้อนคำพูดนี้ควรต้องเป็นกูนะที่ต้องพูดกับมึงเอาตามตรงนะในบรรดาก๊กเรากูว่ามีมึงนี่แหละโอลาฟที่อ่านความรู้สึกได้ยากที่สุดอะสรุปที่ถามไปตกลงใช่รึไม่ใช่”“ก็กูบอกมึงไปหมดแล้วเมื่อกี้อะ มึงก็อย่าเซ้าซี้กูดิเจมส์”ทันใดนั้นเองแคทกับคินท์ได้เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับหม้อซุปและจานใส่คุกกี้ในมือ “แทนแท้น…ของอร่อยมาแล้วพวกมึงรอกันนานไหม”“โทษทีนะพอดีพี่กลัวไม่อร่อยเลยใช้เวลานานทำนานหน่อยน่ะ”โอลาฟกับเจมส์รีบลุกขึ้นไปช่วยแคทกับคินท์นำหม้อซุปและจานใส่คุกกี้มาจัดวางยังโต๊ะที่เตรียมไว้กลางห้อง “แล้วนี่อีดิวหายหัวไปไหนอีกล่ะเจมส์โอลาฟ”“อ่าวก็มันออกจากห้องตามหลังมึงไม่ไปนานนิแล้วนี่มันไม่ได้ลงไปหามึงหรอกเหรอ” ทันใดนั้นดิวเดินพรวดเข้ามาในห้องพร้อมกับกล่องพิชซ่าถาดใหญ่ 3 กล่องในมือ“มาแล้วคร้าฟูลครอสจัดเต็มก่อนมื้อค่ำ พิชซ่าหน้าฮาวาเอี้ยนของโปรดอีโอลาฟ” ทุกคนในห้องที่นั่งพื้นล้อมโต๊ะที่ตั้งกลางห้องหันมองดิวด้วยสีหน้าอึ้งและเหวอ “อะไรกัน ดีใจจนปากไม่ออกเลยเหรอพี่คินท์สนใจมานี่ร่วมโต๊ะกับพวกหนูไหมคะเนี่ยหนูสั่งมาเผื่อพี่ด้วยนะ”คินท์ที่เห็นพิชซ่าในมือดิวถึงกับส่ายหัวไปมาทันที “พี่ขอบใจนะดิวแต่พิชซ่านี่พี่ขอผ่านเลยเพราะพี่แพ้ชีสกับตัวกุ้งสดที่ใส่บนหน้าพิชซ่าน่ะ พี่กินครั้งเดียวตอนม.ต้น พอรู้ว่าตัวเองว่าแพ้ก็ไม่พิศวาสมันอีกเลย พี่ว่าดิวเอาไปนั่งทานกับเพื่อนๆดีกว่าส่วนพี่เดี๋ยวจะลงไปช่วยแม่ในครัวซะหน่อยแล้วค่อยทานทีหลังเอาไงอร่อยรึไม่อร่อยติชมพี่ได้เลยนะทุกคนพี่ขอตัวล่ะ ขอให้อร่อยจร้า” ทุกคนรีบยกมือไหว้ขอบคุณคินท์กันยกใหญ่ก่อนที่คินท์จะเดินออกจากห้องไป แคทรีบหันมองพร้อมกับแซวดิวที่กำลังเอากล่องพิชซ่าทั้ง 3 วางที่โต๊ะ“ไหนว่ากลัวน้ำหนักขึ้นไม่ใช่เหรออีดิวแล้วที่กูเห็นอยู่นี่คือ…”“ก็พิชซ่าไงล่ะคร้าอีแคทถึงจุดๆนี้ไม่สงไม่สนมันล่ะคร้าว่าน้ำหนักกูจะยังไง มึงก็รู้อยู่ว่าคุกกี้กับซุปเห็ดอะไรนั่นน่ะ ไม่พอยาไส้กูหรอก”“สรุปคือนี่มึงสั่งให้ตัวมึงเองว่างั้น”“โอ่ยอีทอมนี่เนาะมึงเห็นไหมว่ากูสั่งมากี่กล่องเนี่ย พอๆจบเรื่องนี้ แดกๆ”“เอิ่มม ดิวกูว่าบางทีมึงก็สั่งมาเยอะไปนะแถมเล่นถาดใหญ่ซะด้วย กูว่ากลับไปบ้านนี่กูคงไม่ต้องกินข้าวเย็นแล้วมั้งนิ”“แบบนั้นก็ดีสิอีโอลาฟจะได้ประหยัดกับข้าวที่บ้านไปอีก 1 มื้อ”ระหว่างที่ทุกคนเพลิดเพลินกับอาหารและบทสนทนาทั่วไปอยู่นั่นเอง “โอ๊ยพวกมึงนี่คุยแต่เรื่องน่าเบื่อกันนะ เนี่ยยเปลี่ยนมาคุยเรื่องบรรเจิดสนุกๆเร้าใจกัน…นี่มึงรู้ไหมอีเจมส์ อีโอลาฟ อีแคท ว่าเมื่อวานตอนดึกน่ะกูได้เห็นของดีของพี่ฟงด้วยแหละ”“พี่ฟงเหรอ?? อ๋อๆจำได้ล่ะพี่ข้างบ้านที่มึงชอบแอบไปมองเค้าตอนพี่เค้าซักถุงเท้ากับรองเท้าใช่ปะ”“ใช่แล้วอีเจมส์ความจำมึงดีมากคือเมื่อวานตอนดึกกูออกมาเข้าห้องน้ำ และก็นะพี่ฟงเค้าก็เดินออกมาจากห้องน้ำสังกะสีที่อยู่นอกตัวบ้านพอดีแต่แบบรอบนี้พี่เค้าเปลือยล่อนจ้อนไม่นงไม่นุ้งอะไรเลยอร้ายยยกูแบบจ้องตาเป็นมันเลยแหละ หำพี่ฟงเค้าใหญ่มากกกก ไม่ใช่หำแบบห้อยโตงเตงนะพวกมึงแต่เป็นหำแบบแข็งชี้โด่อยู่เลยสงสัยเพิ่งจะฟินมาแน่นอน แต่ถ้าขนหน้าอกกับหน้าท้องฟี่ฟงไม่ดกไปหน่อยนะกูคงจะฟินมากกว่านี้โอ๊ยยรู้งี้น่าจะเอาโทรศัพท์มาแอบถ่ายไว้ก็ดี”“ถ้ามึงจะฟินขนาดนั้นทำไมมึงไม่ปีนรั้วข้ามไปหาพี่เค้าล่ะอีดิวบางทีพี่เค้าอาจต้องการคนช่วยฟินอยู่ก็ได้นะ”“หืมมมอีแคทถ้ามันเป็นงั้นก็ดีสิ กูว่าจะได้กินตีนกลับมาซะมากกว่า”“เอ่อดิวถามจริงเวลามึงไปส่องผู้ชายทุกวันๆนี่มันความสุขยังไงวะ ทั้งที่คนๆนั้นเราก็ไม่ได้สนิทรู้จักอะไรเลยแล้วก็ไม่ได้สัมผัสตัวหรือคลุกคลีอยู่ด้วย” “ว้ายยยไม่น่าเชื่อเลยว่าคำถามแบบนี้จะออกจากปากมึงนะอีโอลาฟเริศคร้า มึงท่องไว้นะ อาหารตาคืออาหารใจ ในบางคนเพียงแค่ได้มองก็สำราญใจไปกว่าครึ่งแล้วจร้า”“แค่มองหน้าเนี่ยนะ?”“ไม่ใช่มองแค่เบ้าหน้าอย่างเดียวคร้าอีโอลาฟแต่ยังมีรูปร่าง ทรงผม และส่วนสุดท้ายคือเจ้ามังกรที่อยู่ใต้ร่มผ้า ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้คือองค์ประกอบแห่งความฟินในการทัศนาของเหล่าชาวสีม่วงนั่นเองจร้า”“เหรอ…ไอ้สามส่วนแรกกูพอเข้าใจนะแต่ไอ้ส่วนหลังนี่ดิมึงมองไงวะดิว”“โอ่ยก็มองว่าของใครใหญ่รึไม่ใหญ่ไงอีโอลาฟ”“ไม่ๆหมายถึงมึงรู้ได้ไงว่าของใครใหญ่ไม่ใหญ่กางเกงมันก็หนาอยู่นะดิว เว้นเสียแต่ว่าตามึงจะมองทะลุกางเกงได้”“เดี๋ยวๆอีโอลาฟนี่มึงชอบไรแบบนี้ด้วยเหรอเห็นถามเอาๆเนี่ย”“ป่าวนะดิวมึงอย่าเพิ่งเข้าใจกูผิดดิกูก็แค่ถามเผื่อเจมส์และแคทไง มึงดูดิว่ามันสองคนนั่งฟังที่มึงพูดตาแป๋วเลยน่ะ”“นิมึงไม่ต้องเอาพวกมันสองคนมาอ้างเลยอีโอลาฟ สีหน้าท่าทางกับคำพูดของมึงนี่ช่างขัดแย้งกันซะจริงนะ”“เอาน่าดิว เล่าๆยังไงต่อสรุปมึงรู้ได้ไงว่าของใครใหญ่ไม่ใหญ่อะ”ดิวถึงกับยิ้มด้วยความภาคภูมิ “ก็ไม่ยากถ้ามึงมองบ่อยๆ อย่างพวกหนุ่มเทคนิค ควรส่องช่วงวันพุธเพราะกางเกงที่ใส่กับชุดกิจกรรมมันค่อนข้างบางและรัดเป้ามากเลยทำให้เห็นขนาดของมังกรได้ง่าย ส่วนพวกรุ่นพี่จากโรงเรียนข้างๆหรือโรงเรียนเราก็ให้ดูตอนวันที่ใส่ชุดพื้นเมืองโอ๊ยยยผ้าฝ้ายโปร่งเบาสบาย ยิ่งลมพัดผ่านโครตชัดแจ๋วเลย”“โห่ต้องทำบ่อยสักแค่ไหนเนี่ยมึงถึงได้ชำนาญการซะขนาดนี้แล้วงี้เกิดถ้าคนที่มึงอยากดูแต่เค้าไม่ได้ใส่ชุดอย่างที่มึงว่ามาเลยล่ะ” ดิวถึงกับยิ้มที่มุมปาก “ก็ใช้วิชามารไงล่ะคร้าแถมได้ผลเกือบทุกครั้งด้วย” ดิวพูดพร้อมกับเปิดกระเป๋าและล้วงเอาบางสิ่งจากด้านในกระเป๋าขึ้นมาวางที่โต๊ะทำเอาเจมส์ โอลาฟและแคทโน้มตัวมามุงดูด้วยความสงสัย“นี่มัน..ไวอาก้านิอีดิว”“ฉลาดมากคร้าอีแคทแน่นอนมันคือไวอาก้าและมันก็เป็นไวอาก้าที่ไม่มีรสและกลิ่นแถมออกฤทธิ์เร็วและนานซะด้วย”“แล้วนี่มึงไปซื้อมาจากไหนยาพวกนี้มันเป็นยาควบคุมไม่ใช่เหรอ”“ไม่จำเป็นต้องรู้คร้าอีเจมส์กูมีที่เสาะหาไอเท็มลับสำหรับกูอยู่แล้ว” “แล้วนี่มึงเอาไปให้พี่พวกนั้นกินไงล่ะเนี่ยอย่าบอกนะว่ามึงเอายื่นให้พวกพี่เค้าดื้อๆเลย”“ทำแบบนั้นก็โง่ดักดานซิคร้าคุณโอลาฟนี่คร้าเห็นไหมว่าในแคปซูลมันมีผงสีขาวอยู่ใช้แค่ครึ่งแคปซูลผสมใส่น้ำหวาน ชากาแฟ ที่ขายหน้าโรงเรียน แม้แต่เหล้าเบียร์ก็ได้นะจากนั้นก็คนๆให้เข้ากันและเอาไปให้ดื่ม แค่นั้นแหละคร้า ไม่ถึง 3 นาที วิชามารปลุกมังกรให้ผงาดก็เริ่มทำงานและทีนี้แหละจะกางเกงมิดชิดเบอร์ไหนก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป”“เอิ่มมมก็ถึงว่าทำไมบางวันมึงชอบซื้อพวกน้ำปั่นไปให้รุ่นพี่พวกนั้นที่แท้ก็แบบนี้นี่เองเอิ่มมก็ถ้ามึงจะจอมวางแผนขนาดนี้นะตกลงมีผู้ชายเสร็จมึงไปแล้วกี่คนล่ะวะ” “นั่นแหละคือปัญหาเพราะมันยังไม่เคยมีใครตกถึงท้องกูสักคนเลยอีโอลาฟเฮ้อออสงสัยกูต้องอัพเลเวลตกเหยื่อให้มากกว่านี้ซะล่ะ”“จริงดิมึงเคยเอาไวอาก้าลองกับพี่เฟิร์สคนหล่อประจำโรงเรียนไหม”“เคย…บ่อยเลยด้วยแต่ก็ล้มเหลวทุกครั้งเพราะส่วนใหญ่พี่เฟิร์สจะมักจะเอาให้พวกเพื่อนพี่เค้ากินซะมากกว่ากูเลยได้แต่เห็นมังกรของพวกเพื่อนพี่เฟิร์สแทนแต่อย่างพี่เฟิร์สกูก็อยากเห็นเหมือนกันว่าสุดหล่อล้ำขาวสูงประจำโรงเรียนจะหำใหญ่และยาวขนาดไหนถ้าได้เห็นจริงคงเป็นภาพที่ติดตากูไปตลอดชีวิตเลยแหละอร้ายยยยพูดแล้วอยากได้เลย”ทุกคนถึงกับหัวเราะในท่าทีของดิวกันยกใหญ่ แต่ทันใดนั้นเองคินท์ได้เคาะและเปิดประตูเข้ามาขอแรงทุกคนให้ลงไปช่วยกันยกของหนักในครัวระหว่างที่ทุกคนเดินออกจากห้องไปนั้น โอลาฟที่ออกจากห้องเป็นคนสุดท้ายมันหันกลับมามองแผงยาไวอาก้าของดิวที่ตัดไว้เป็นชิ้นๆบนโต๊ะ ก่อนที่มันจะรีบพุ่งตัวเข้ามาแอบหยิบเอาไวอาก้าไป 1 ชิ้นพร้อมยัดใส่ลงกระเป๋าเสื้อและรีบตามทุกคนลงไปยังชั้นล่างจนกระทั้งเวลาผ่านล่วงเลยไปเมื่อแสงอาทิตย์บนฟ้าฟากเริ่มสลัวลงทุกคนต่างพากันแยกย้ายกลับบ้านในขณะที่โอลาฟมันกำลังนั่งสวมรองเท้าเพื่อเตรียมตัวจะกลับนั่นเอง “โอลาฟ นึกว่ากลับไปแล้วซะอีก” “เจมส์!ก็กำลังจะกลับเนี่ย แล้วนี่มึงหายไปไหนมาอะ”“กูไปโทรคุยกับพี่โฟรมาน่ะอืมจริงด้วยโอลาฟมึงอยากมีตังสัก 2 พันใช้ไหมล่ะ”โอลาฟถึงกับทำหน้างง “โหตังเยอะขนาดนั้นใครมันจะไม่อยากมีบ้างล่ะวะ” “งั้นดีเลยมึงคืองี้นะตะกี้ตอนกูคุยกับพี่โฟรน่ะพี่เค้าบอกว่า พี่ราเชนท์ที่เป็นญาติกับพี่โฟรตอนนี้พี่เค้าทำรายการท่องเที่ยวส่งวิทยาลัยน่ะ และต้องการคนที่ทำวิดีโอเก่งๆไปช่วยพี่เค้าพี่ราเชนท์เลยฝากพี่โฟรให้ช่วยหาคนที่ว่าไปให้หน่อยพอพี่โฟรพูดเรื่องนี้กูเลยนึกถึงมึงขึ้นมาเลยแหละ มึงสนใจป่าวโอลาฟ งานนี้พี่ราเชนท์เค้าจ้างทำตั้ง 2 พันนะแถมยังบอกนะว่าถ้าทำออกมาดีก็อาจมีเพิ่มให้อีก”โอลาฟนั่งครุ่นคิดพักใหญ่ก่อนจะหันมาตอบเจมส์ “แล้วจะให้เริ่มเมื่อไหร่อะ งานที่ว่าเนี่ย”“ไอ้หย๋าถามแบบนี้ก็แสดงว่าตอบตกลงแล้วสินะพี่โฟรบอกว่าพี่ราเชนท์นัดให้ไปทำงานเสาร์นี้ที่บ้านพี่เค้าเลย”“เอ๊าแต่กูไม่รู้จักบ้านพี่เค้าน่ะจะให้ไปไงน่ะ”“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาหรอกนะโอลาฟเพราะเสาร์นี้กูกับพี่โฟรจะไปเที่ยวบ้านพี่ราเชนท์อยู่แล้วไว้กูกับพี่โฟรจะไปรับมึงที่บ้านตอนวันเสาร์ 8.30น. นะเตรียมตัวไว้ด้วยล่ะ” วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม เวลา 9.11 น. “สวัสดีครับพี่ราเชนท์”โอลาฟกับเจมส์ยกมือไหว้ทักทายราเชนท์ที่เดินออกมารับหน้าประตูบ้าน“หวัดดีๆ ไหนโฟรคนที่มึงว่าจะพาทำงานให้กูน่ะ” โฟรยิ้มพร้อมกับชี้มือไปยังโอลาฟ“เด็กเนี่ยหรอ นี่ถ้ามึงอำกูอยู่นะ บอกเลยว่ากูไม่ขำนะเว้ยงานกูจะส่งวันมะรืนนี้ล่ะนะ”“ผมไม่ได้อำนะพี่เด็กคนนี้แหละที่พี่บอกให้ผมช่วยหาไงเห็นอย่างงี้แต่น้องเค้าเก่งนะพี่” เจมส์รีบพูดเสริมโฟรอีกคน “ใช่ๆครับพี่ราเชนท์โอลาฟเพื่อนผมเป็นถึงผู้ช่วยหลักฝ่ายสื่อของชมรมภาพเลยนะครับอย่าง VTR แนะนำโรงเรียนตัวล่าสุดโอลาฟก็เป็นคนช่วยทำด้วยถ้าไม่เชื่อพี่ลองกดเข้าไปดูในยูทูปเลยครับ” ราเชนท์ยืนมองโอลาฟด้วยสีหน้าลังเลใจเป็นอย่างมาก “อะๆ เอาเป็นว่าพี่เชื่อใจไอ้โฟรมันล่ะกันเดี๋ยวเข้ามาข้างในกันก่อนปะส่วนน้องโอลาฟถ้าเจ๋งจริงเดี๋ยวพี่จะให้น้องลองปรับตัวสตรอรี่บอร์ดที่พี่ร่างไว้ว่าควรแก้ตรงไหนบ้าง”ราเชนท์พาทุกคนมานั่งพักและคุยเล่นกันยังห้องรับแขกจนเจมส์และโอลาฟเริ่มสนิทและคุ้นเคยกับราเชนท์มากขึ้น“ไอ้โฟร 2 คนที่มึงพามานี่คุยสนุกดีวะเห็นเงียบๆช่วงแรกนึกว่าจะคุยไม่เก่งซะอีก”“ก็ทั้งสองมันเพิ่งรู้จักพี่นิ แรกๆมันคงจะเกรงๆพี่แหละมั้ง”“แล้วนี่มึงวางแผนยังว่าจบม.6 แล้วจะไปต่อที่ไหนไอ้โฟร”“ผมยังไม่รู้เลยพี่พ่อกับแม่ผมก็บ่นๆเรื่องนี้เหมือนกัน ดูท่าคงไม่พ้นแถวๆในกรุงเทพแหละมั้งพี่” “เออๆ มึงวางแผนไว้ดีๆล่ะกัน เลือกผิดชีวิตเปลี่ยนนะไอ้โฟร”ทันใดนั้เอง ชายตัวสูงผิวขาวหน้าใสๆตัดผสมสกินเฮดสวมเสื้อโคชดำกางเกงยีนส์เดินจากบันไดชั้นบนลงมาทางห้องรับแขก ซึ่งทำให้เจมส์กับโอลาฟที่ได้เห็นถึงกับตะลึงในรูปลักษณะและหน้าตาของชายคนดังกล่าวที่กำลังเดินตรงเข้ามาจนเจมส์รีบเอียงตัวไปกระซิบข้างหูโอลาฟ “โอลาฟมึงเห็นปะเย็ดเข้ กูก็นึกว่าเป็นพี่ต่อฮอร์โมนนะนั่น”“เออๆใช่วะมึง หน้าและหุ่นพี่เค้าเหมือนตัวจริงโคตรๆอะ”ชายคนดังกล่าวเดินเข้ามาพร้อมกับมองหน้าโอลาฟและเจมส์ชั่วครู่ก่อนจะหันไปพูดกับโฟร “อ้าวไอ้โฟรมาเมื่อไหร่วะมึง”“ไงพี่เซ้นต์หวัดดีพี่ผมมาได้สักพักล่ะ แล้วพี่ล่ะสบายดีไหม เรียนปี 1ที่ม.กรุงเทพเป็นไงมั้งพี่”“ก็ดี คนเยอะ เรียนหนักแถมผู้หญิงสวยด้วยปีหน้ากูแนะนำให้มึงไปม.กรุงเทพเลยเว้ยไอ้โฟร”ราเชนท์รีบเอ่ยปากถามแทรก “ไอ้เซ้นต์นี่มึงเพิ่งกลับมาถึงบ้านเมื่อคืนเองนะเว้ยเช้ามานี่มึงยังจะออกไปอีกเหรอ แทนที่จะพักอยู่บ้านก่อน”“ก็มันจำเป็นนิน่ะพี่ราเชนท์ผมกับเมย่าไม่ได้เจอกันตั้งหลายเดือนวันนี้ผมและเมย่าเลยจะพากันไปเที่ยวในเมืองกับเดินซื้อของกันสักหน่อยคงกลับช่วงค่ำๆนะพี่ไงผมไปก่อนนะสายละ เห้ยไอ้โฟรวันนี้กูไม่สะดวกนะเว้ยโทษทีว่ะ” เซ้นต์ยกมือไหว้ราเชนท์ก่อนจะเดินออกจากบ้านไป โอลาฟกับเจมส์มองตามหลังอย่างไม่วางตาจนโฟรที่เหลือบไปเห็นถึงกับเอ่ยปากแซวทั้งสอง “แหมสองคนมองพี่เซ้นต์ไม่วางตาเลยนะแอบชอบพี่เซ้นต์รึยังไง” เจมส์ถึงกับรีบตอบสวนไปทันใด “ไม่ใช่นะพี่โฟร ผมไม่ได้คิดงั้นนะผมกับโอลาฟแค่เห็นตรงกันว่าพี่เซ้นต์หน้าเหมือนพี่ต่อที่เล่นซีรี่ย์เรื่องฮอร์โมนมากมันก็เลยเป็นอย่างที่พี่เห็นนี่แหละครับ”“ใช่ๆพี่โฟรหน้าตาพี่เซ้นต์เค้าเหมือนจริงๆแบบนี้ผมว่าพี่เค้าไปเป็นดาราเหมือนพี่ต่อได้เลยนะนั่น”โฟรกับราเชนท์กันมองหน้าและหัวเราะขึ้นพร้อมกันทันใด “เจมส์กับโอลาฟคิดถูกแล้วล่ะ เพราะพี่เซ้นต์เค้าก็คิดแบบพวกน้องนั่นแหละถึงขนาดเลือกลงเรียนนิเทศที่ม.กรุงเทพเองเลยนะ”ราเชนท์เอ่ยปากถาม “เจมส์ โอลาฟพี่ถามจริงระหว่างพี่กับเซ้นต์ น้องสองคนคิดว่าใครหล่อกว่ากัน”โอลาฟกับเจมส์ถึงกับตอบขึ้นพร้อมกัน “พี่เซ้นต์ครับ”โฟรถึงกับหัวเราะใหญ่พร้อมทั้งใช้มือตบเข้าที่ไหล่ของราเชนท์ “ฮ่าๆๆพี่ก็น่ารู้คำตอบแก่ใจอยู่แล้ว และจะยังไปถามให้ตัวเองช้ำใจอยู่อีกนะฮ่าๆ”เวลา 17.43น.เจมส์เดินขึ้นบันไดไปชั้นบนพร้อมหมุนลูกบิดประตูห้องนอนและเดินเข้าไปมันเห็นโอลาฟนั่งฟุบอยู่ที่โต๊ะคอม “โอลาฟไหวปะน่ะ”โอลาฟได้ยินเสียงเจมส์มันรีบลุกขึ้นมานั่งและหันไปมองเจมส์ด้วยสีหน้าสะลืมสะลือ “อือออ ไหวๆ กูแค่พักอยากสายตาหน่อยน่ะ จ้องหน้าจอมาตั้ง 2 ชั่วโมงกว่าล่ะ มึงมีไรรึป่าว”“ก็มีดิเพราะกูจะขึ้นมาถามมึงนี่ไงว่าทำเสร็จรึยัง”“ยังเลยเจมส์เหลือใส่ซาวเอฟเฟคทำซับตัวหนังสือใส่เพลงแบล็คกกราว และก็อื่นๆอีกเยอะอยู่”“โหไรวะเห็นมึงทำตั้งแต่เช้าก็นึกว่าเสร็จล่ะ”“ถ้ามันทำตอนเดียวก็เสร็จตั้งแต่บ่ายโมงแล้วแต่นี่พี่เค้าให้กูทำตั้ง 4 ตอนและแต่ละตอนก็แม่งก็ยาวเกือบชั่วโมงแหน่” “แล้วนี่มึงทำเสร็จไปแล้วกี่ตอนวะ”“เสร็จไปแล้ว 2 นี่ก็กำลังทำตอน 3 อยู่เนี่ย”“แล้วอีกนานไหมวะถึงจะเสร็จหมด”“เจมส์…ก็แค่ทำ 2 ตอนแรกแม่งล่อไปตั้ง 7 ชม. นี่ยังไม่รวมเวลาตอนเรนเดอร์ไฟล์อีกนะเพราะกูจะทำตัววีดีโอให้เสร็จทั้งหมดก่อนและค่อยมาเรนเดอร์ไฟล์ทีเดียวเลย”“อืมมมงั้นกูว่าวันนี้มึงพอก่อนดีไหมไว้พรุ่งนี้กูเอารถมาส่งมึงมาบ้านพี่เค้าอีกรอบ”“ไม่ๆๆ พรุ่งนี้ตอน 10.30 น. กูต้องไปส่งแม่ทำธุระในเมืองน่ะคงไม่ว่างกลับมาทำต่อแน่นอนอีกทั้งงานของพี่ราเชนท์ก็จะต้องส่งวันจันทร์ที่จะถึงนี้ด้วยกูก็เลยจะทำให้เสร็จวันนี้เลย”“เห้ยๆนี่มึงกะจะนอนค้างที่นี่เลยรึไงวะ เดี๋ยวแม่มึงก็ว่าให้หรอก”“เรื่องนั้นมึงไม่ต้องห่วงหรอกกูบอกแม่กับพี่ราเชนท์ไปก่อนหน้านี้ล่ะว่ากูจะค้างที่นี่ อีกอย่างค่าครั้งนี้ก็เยอะจนคุ้มค่าเหนื่อยกับค่าปวดหัวกูด้วยเนี่ยเป็นมึงมึงจะยอมถอดใจง่ายๆเลยเหรอ”“แล้วพวกเสื้อผ้าเปลี่ยนกับของใช้ส่วนตัวมึงจะทำไงไหนจะที่หลับที่นอนอีกนะ”“แหมเจมส์ นี่มึงเป็นแม่กูรึไงเนี่ย ทั้งหมดทั้งมวลที่มึงถามมาคนจ้างกูเค้าจัดหาไว้หมดแล้ว ถ้ามึงห่วงซะขนาดนี้งั้นคืนนี้มึงก็อยู่ค้างกับกูเลยดิ” “นึกว่ากูไม่อยากค้างรึไงโอลาฟ นี่ถ้าไม่ติดแม่กับพี่สาวกูนะกูคงอยู่ค้างเป็นเพื่อนมึงแน่นอน”“ก็ตามนั้น พรุ่งนี้เช้ากูโทรหา คงต้องรบกวนมึงมาเป็นโชเฟอร์นะส่วนค่าน้ำมันเดี๋ยวกูออกให้”หลังเจมส์และโฟรกลับไปแล้ว ไม่นานนักโอลาฟที่นั่งทำงานอยู่บนห้องมันลุกจากโต๊ะและเดินลงมาพักผ่อนยังชั้นล่างจนกระทั้งมันไปเจอกรอบรูปของราเชนท์ที่ถ่ายไว้ตอนมัธยมปลายตั้งอยู่บนชั้นหนังสือโอลาฟถึงกับยืนมองครู่ใหญ่ก่อนจะหยิบเอากรอปรูปดังกล่าวขึ้นมาจนราเชนท์ที่นั่งอยู่ในห้องครัวเหลือบไปเห็นและเดินเข้ามาทักโอลาฟ “ยืนมองไรอยู่น้องโอลาฟ”“พี่ โทษนะครับที่ถือวิสาสะ ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพี่เองก็จบมาจากโรงเรียนที่ผมเรียนตอนนี้อะ”“คนส่วนใหญ่ที่อยู่แถวนี้ก็จบม.ปลายจากที่นั่นแหละน้อง พี่เองก็จบจากที่นั่นมา 3 ปีล่ะส่วนไอ้เซ้นต์น้องชายพี่มันก็เพิ่งจบออกมาปีที่แล้วแม้แต่พ่อของพี่เองก็จบที่เดียวกับพี่มาได้30 กว่าปีล่ะ” “หืมมจากรุ่นสู่รุ่นเลยเนาะพี่ อืมมแล้วนี่พ่อกับแม่พี่ราเชนท์เลิกงานกันกี่โมงอะครับนี่มันก็เริ่มจะมืดแล้วนะพี่”“พ่อกับแม่พี่ทำงานอยู่ที่กทม.ครับจะกลับมาอยู่บ้านที่นี่ก็เดือนละครั้งสองครั้ง”“อ๋อสรุปก็เท่ากับว่าตอนนี้เหมือนพี่มีบ้านสองหลังสินะครับ คือที่นี่กับที่กทม.”“ใช้แล้วล่ะน้องพี่เองตั้งแต่จบมา ก็แทบไม่ได้ไปเหยียบโรงเรียนเลยไม่รู้ว่าโรงเนรียนจะเปลี่ยนไปแค่ไหนกันนะ”“ผมก็ไม่รู้จะตอบพี่ยังไงเหมือนกันเพราะผมเองก็เพิ่งมาเรียนม.2ที่นี่อะครับ….อืมมรูปนี้พี่ราเชนท์ถ่ายกับใครอะหน้าตาน่าดี” โอลาฟเลื่อนมือไปหยิบเอากรอบรูปที่เป็นรูปคู่ของราเชนท์กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมา“นี่นะเหรอ ชื่อน้องนวลน่ะเป็นคนรู้จักของพี่เองแหละ ตอนนี้น้องนวลเค้าคงจะอยู่ม.6 แล้วแหละมั้งน้องโอลาฟรู้จักพี่เค้าไหมล่ะ”“พี่นวลอยู่ม.6 เหรอ เหมือนผมจะเคยได้ยินชื่อนี้นะครับ แปปนะขอนึกก่อนพี่อ้อจำได้ล่ะเพื่อนผมเล่าว่าตอนนี้พี่นวลเค้าอยู่กับพวกพี่นกแก้วน่ะ เรียนเก่งมากและพี่เค้าก็เป็นนักเรียนทุนของโรงเรียนด้วยนะพี่”“อืมมม ก็ดีแล้วครับส่วนคนที่ชื่อนกแก้วได้ยินมาว่าเป็นคนมีอิทธิพลในโรงเรียนนิน่าพี่ว่าน้องเองก็ควรระวังตัวไว้ด้วยนะยิ่งน้องโอลาฟเป็นเด็กใหม่และขี้เล่น ขี้สงสัยไรแบบนี้ ยิ่งต้องระวังให้มาก”“ครับพี่เรื่องนี้เพื่อนๆผมก็เตือนอยู่เหมือนกันแล้วพี่กับพี่นวลไปรู้จักกันได้ไงอะครับ”“เมื่อก่อนพี่เคยสอนพิเศษตัวต่อตัวให้น้องเค้าน่ะตั้งแต่น้องเค้าม.2ล่ะ เลยรู้จักกัน และพี่ก็ได้ยินมาว่าน้องสาวของพี่นวลก็เพิ่งมาเรียนต่อม.ปลายที่นี่เหมือนกันด้วยเอาล่ะพี่ว่าจะออกไปเที่ยวบ้านเพื่อนใกล้ๆนี่สักหน่อยน้องก็ตามสบายเลยนะอยากกินไรไปหยิบเอาในตู้เย็นได้นะและคืนนี้พี่จะไปนอนห้องพ่อแม่ น้องก็นอนห้องพี่ไปเลยส่วนพวกเสื้อผ้าเปลี่ยนกับของใช้ส่วนตัวที่น้องจะใช้คืนนี้ พี่เตรียมใส่ตระกร้าเป็นชุดเอาไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอนพ่อแม่น่ะและลืมเอาออกมาไงรบกวนน้องช่วยบริการตัวเองหน่อย และถ้ามีไรอื่นๆที่ต้องการน้องก็ไปถามไอ้เซ้นต์เอาล่ะกันครับ”“อ่าวพี่เซ้นต์กลับมาแล้วเหรอครับ”“อืมใช่มันเพิ่งกลับมาเมื่อกี้เองและก็เอาแฟนสาวของมันมาด้วยไงก็ตามนั้นนะน้อง พี่ไปล่ะครับคืนนี้งานพี่คงเสร็จทันเนาะ”“เสร็จทันแน่นอนครับพี่นี่ผมก็เร่งทำแบบสุดๆให้ล่ะไว้ผมหายเมื่อยตาแล้วก็จะกลับไปทำต่ออะครับ” เวลา 20.16 น. ในระหว่างที่โอลาฟกำลังจะเริ่มเรนเดอร์ไฟล์ทั้งหมด “เอ้ยยยใกล้จะเป็นไทแล้วโว้ยยยเอาล่ะระหว่างรอนี่ ไปอาบน้ำดีกว่าวะตะกี้พี่ราเชนท์บอกว่าชุดเปลี่ยนกับพวกแปรงฟันผ้าเช็ดตัวอยู่ในห้องพ่อแม่” ห้องโอลาฟมันรีบเปิดประตูออกไปยังโถงทางเดิน และยืนมองประตูห้องสีเทา 2 บานที่อยู่คนละฝั่งทางเดิน “ชิปหายตะกี้กูก็ลืมถามพี่เค้าว่าห้องที่มันอยู่ตรงไหนเลยด้วย” โอลาฟพูดบ่นพึมพำพร้อมกับเดินไปตามโถงทางเดินจนมันไปหยุดยืนอยู่หน้าประตูทั้ง 2 ฝั่ง “ห้องไหนเนี่ยย” มันเลยลองใช้มือหมุนบิดลูกบิดและเคาะประตูทั้งสองฝั่งเพื่อเช็คว่าห้องไหนมีคนอยู่ “แม่งห้องทั้งสองก็ไม่ได้ล็อกอีก แถมเงียบทั้งคู่ เอาก็เอาวะ ขวาร้ายซ้ายดี งั้นห้องซ้าย” โอลาฟเปิดประตูและเดินเข้าไปในห้อง “มืดจังวะ สวิตซ์ไฟอยู่ไหนเนี่ยช่างแม่งไฟฉายจากโทรศัพท์ก็ได้วะไหนโต๊ะเครื่องแป้งที่ว่าไม่เห็นมีเลยนี่หว่า”ทันใดนั้นเองเสียงเปิดประตูห้องน้ำดังเอี๊ยดดขึ้นมาโอลาฟที่นึกว่าผีถึงกับตกใจกับเสียงที่ว่าจนมันรีบหันไปมองพร้อมกับสาดแสงไฟฉายจากโทรศัพท์ไปยังตรงหน้าซึ่งภาพมันที่เห็นคือ เซ้นต์กับแฟนสาวเดินออกจากห้องน้ำในสภาพเปลือยเปล่าทั้งร่างทำเอา เซ้นต์ เมย่าและโอลาฟ ถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจพร้อมกัน เฮ้ยยยยยย!!!ก่อนที่เมย่ากับเซ้นต์จะรีบเบี่ยงตัวหลบเข้าไปในห้องน้ำทันควันพร้อมกับเมย่าที่ตะโกนถาม “น้องเป็นใครเข้ามาได้ไงอะ!!!”ด้วยความตกใจโอลาฟรีบเอามือบังไฟฉายอย่างรวดเร็ว “ผมผมผม ผมขอโทษครับ ห้องมันไม่ได้ล็อกน่ะคือผมไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นนะผมแค่จะมาเอาของที่อยู่ห้องพ่อกับแม่พี่ราเชนท์ไปอาบน้ำ ผมก็นึกว่าเป็นห้องนี้ผมผม ไปล่ะครับ โทษนะครับพี่” โอลาฟมันรีบหันห้องวิ่งไปจากห้องพร้อมปิดประตูอย่างรวดเร็วมันไปยื่นอึ้งตั้งสติอยู่หน้าห้องพักใหญ่หูมันได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของทั้งสองดังขึ้นในห้องที่มันเพิ่งวิ่งจากมา มันเลยรีบพุ่งตัวเข้าไปยังห้องอีกฝั่งก่อนที่จะไปหยิบของที่มันต้องการและรีบเดินกลับไปยังห้องนอนของราเชนท์จนเวลาผ่านไปเกือบ 20 นาทีโอลาฟมันเปิดประตูเดินลงมายังห้องครัวด้วยความรู้สึกกล้าๆกลัวๆในระหว่างที่มันกำลังหยิบเอานมและขนมจากตู้เย็นออกมานั้นจู่ๆเซ้นต์มันเดินเข้ามาหยิบเอาขนมห่อใหญ่จากตู้ใกล้ๆโอลาฟ“ผมขอโทษนะพี่คือผมเคาะห้องแล้วและห้องมันก็ไม่ได้ล็อกด้วย ผมก็เลย…” เซ้นต์มันหันมาพูดกับโอลาฟด้วยสีหน้าเซ็งๆ “ช่างมันเหอะน้อง เรื่องมันผ่านไปล่ะ พี่ผิดเองที่ชะล่าใจจนลืมล็อก”“แต่ผมก็ไม่เห็นทันอะไรมากนะพี่พอเห็นปุ๊บผมก็หลับตาปี๋เลย(ชิปหายพูดมาได้ไงนิ ตะกี้กูถ่างตามองเลยด้วยซ้ำ)”“เหรอครับ”“แล้วนี่ แฟนพี่อะครับ ตอนนี้เค้าเป็นไงมั้ง”“เมย่าน่ะเหรอหัวเสียจนโทรเรียกให้เพื่อนมารับกลับไปแล้วล่ะ”โอลาฟถึงกับทำหน้าจ๋อย “ผมขอโทษจริงๆพี่เซ้นต์ ผมเองก็มีส่วนผิดที่ไม่ถามพี่ราเชนท์ให้ดีก่อนหน้านั้นด้วย นี่ถ้าชดเชยให้ได้ผมคงหาอะไรชดเชยให้แล้วล่ะครับ”“พูดยังกะเด็กน้อยของแบบนี้มันชดเชยกันได้ที่ไหนล่ะน้องรู้ไหมว่าพี่กับเมย่าไม่ได้มาหากันตั้ง 4 เดือนแล้ววันนี้อุตสาห์ได้เจอกันและอยู่ด้วยกันทั้งที แต่ก็ถูกขัดจังหวะก่อนซะงั้น เฮ้ออออ”เซ้นต์ถอนหายใจและเดินกลับขึ้นห้องด้วยความงุ่นง่าน เวลา 21.25 น.โอลาฟปิดคอมพิวเตอร์และกำลังจะโน้มตัวลงบนเตียงแต่จู่ๆเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ก๊อกๆๆๆโอลาฟสะดุ้งตกใจเล็กน้อยก่อนจะลุกและเดินไปเปิดประตูห้องซึ่งมันก็ตกใจตะลึงอีกครั้งเมื่อมันเห็นเซ้นต์สวมกางเกงบอลขาสั้นแค่ตัวเดียวมายืนอยู่ตรงหน้า “น้องโอลาฟ ทำงานเสร็จแล้วใช่ป่าว” โอลาฟยืนนิ่งพร้อมมองผิวขาวๆตั้งแต่หัวจรดเท้า กล้ามหน้าท้องเป็นลูกๆ และหัวนมสีชมพูอ่อนทั้งสองข้างบนตัวเซ้นต์ไปครู่หนึ่งก่อนที่มันจะรีบพูดตอบ “ผม ผมจะนอนแล้วพี่เซ้นต์พี่มีไรรึป่าว” เซ้นต์ไม่ตอบมันได้แต่เดินสวนโอลาฟเข้าไปนั่งยังเก้าอี้หน้าโต๊ะคอมพร้อมกับหมุนเล่นไปมา“น้องรู้ไหมตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้พี่เข้าห้องพี่ราเชนท์นับครั้งได้เลย”“ทำไมล่ะครับ”“ก็พี่ราเชนท์มันเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบให้ใครเข้ามายุ่งกับห้องนอนมันน่ะขนาดเพื่อนสนิทที่สุดมันยังไม่เว้นเลย ยิ่งเป็นคนอื่นที่ไม่รู้จักยิ่งไม่ต้องพูดถึง น้องเองก็ถือว่าโชคดีนะที่มันยอมให้นอนในห้องที่มันหวงนักหวงหน๋า”“ก็ผมมาทำงานให้พี่เค้านิน่าแถมเป็นงานชิ้นสำคัญด้วย พี่เค้าก็คงต้องบริการผมดีๆอยู่แล้วมั้งพี่”เซ้นต์มันยิ้มและเดินตรงมาหาโอลาฟ โอลาฟที่เห็นหน้าหล่อๆของเซ้นต์ในระยะประชิดถึงกับรีบก้มหลบ เซ้นต์มันเอื้อมมันมาจับเสื้อที่โอลาฟใส่อยู่ “นี่มันชุดนอนตัวเก่งพี่สมัยม.ต้นนี่หว่ารู้ไหมว่าเสื้อตัวนี่พี่ก็หวงด้วยนะ”โอลาฟได้แต่ก้มหน้าอั้มอึ้งไปมาก่อนที่จะพูดตอบ “พี่เซ้นต์!! ผมว่าพี่หาเสื้อผ้าใส่ให้เรียบร้อยดีไหม”“ทำไม…อายเหรอ”“ปะป่าวพี่ก็มันดูยังไงก็ไม่รู้อะผมว่า…”“พี่เวลาไปค้างหอเพื่อนก็ใส่กันแบบนี้ตลอดไม่เห็นใครจะว่าไรนิอีกอย่างใส่อยู่บนห้องไม่มีใครมาแอบมองอยู่แล้ว อีกอย่างผู้ชายส่วนใหญ่ก็ใส่แบบนี้กันทั้งนั้นไม่เห็นจะแปลกเลย”“แต่สำหรับผมมันก็ดูแปลกอยู่ดีพี่มันยังไงไม่รู้อะ”“น้องผู้ชายปะเนี่ยถามจริง ท่าทางและนิสัยน้องดูตุ้งติ้งอยู่นะ” โอลาฟยิ้มจนหน้าเริ่มแดงนิดๆ “พี่เซ้นต์ ถ้าไม่มีไรผมจะนอนแล้วนะครับพรุ่งนี้ผมต้องตื่นเช้า”“นี่จะชิ่งหลับก่อนพี่เหรออย่าลืมนะว่าน้องเป็นต้นเหตุทำให้พี่นอนไม่ได้นะรู้ป่าว”โอลาฟถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความงุนงง “ต้นเหตุไรอะครับ พี่เซ้นต์”“น้องรู้ปะตอนที่น้องเข้าไปเจอพี่กับแฟนน่ะพี่และแฟนกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่แล้วพอได้ยินน้องเข้ามา ก็เลยขาดช่วงไปเลย แถมไม่ได้ต่อกันด้วย”“ก็ผมบอกพี่ไปแล้วนี่น่าว่าผมไม่ได้ตั้งใจอะครับผมเคาะห้องก็แล้ว อีกอย่างพี่ก็เป็นคนยอมรับเองว่า พี่ชะล่าใจจนลืมล็อกห้องแบบพี่จะมาโทษผมฝ่ายเดียวไม่ได้นะ”“มันก็ถูกแต่ยังไงน้องก็ยังมีส่วนผิดอยู่ดีนะจะไม่รับผิดชอบหน่อยเหรอ”โอลาฟถึงกับยิ้มอายๆ “พี่เซ้นต์…พี่ก็ช่วยตัวเองก็ได้นิ หรือไม่ก็หายไรทำเพลินๆเดี๋ยวก็ง่วงเองแหละครับ”“ถ้ามันง่ายแบบนั้นพี่คงทำไปนานแล้ว”“แต่ผมง่วงแล้วอะพี่วันนี้ผมทำงานมาเกือบทั้งวันแล้ว” โอลาฟพูดพร้อมกับพยายามดึงมือเซ้นต์ไปทางประตูห้อง แต่เซ้นต์มันรีบสะบัดมือออกพร้อมทั้งเดินกลับไปนั่งยังขอบเตียงและใช้สองมือดึงกางเกงบอลลงไปกองที่ขาเผยให้เห็นท่อนลำขาวๆแข็งใหญ่ชี้โด่มาที่โอลาฟทำเอาโอลาฟที่ได้เห็นยืนมองเหมือนโดนสะกดพร้อมทั้งใจเต้นตึกตักๆๆๆยกใหญ่ มันอุทานขึ้นในใจ “แม่งโคตรใหญ่อะแสดงว่าที่เห็นแวบหนึ่งตอนในห้องนั้น คงยังแข็งไม่สุดสิท่า แต่นี่มัน..” ด้วยขนาดของท่อนลำโอลาฟถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “ใหญ่แบบนี้คงต้องเมื่อยปากแน่เลย”“ยืนบ่นพึมพำไรอยู่น่ะ มานี่เร็ว” เซ้นต์พยักหน้าเรียกให้โอลาฟเข้าไปหา เซ้นต์ใช้สองมือจับตัวโอลาฟพร้อมกับกดให้คุกเข่าคง “รับผิดชอบพี่หน่อยครับ พี่ไม่ได้เอามันออกมาหลายเดือนล่ะ”โอลาฟเงยหน้ามองเซ้นต์ที่มีสีหน้าและแววตาที่บ่งบอกถึงความเงี่ยนอย่างแรงกล้ามันเลยก้มมองท่อนลำพร้อมกับเอาหน้าเข้าไปใกล้ๆ จนกลิ่นสบู่โพเทคอ่อนๆลอยโชยขึ้นมายังรูจมูกทำให้โอลาฟนิ่งไปชั่วขณะและพูดขึ้นในใจ “กลิ่นสบู่อ่อนๆนี่มันอะไรกันนะทำมันถึงรู้สึกดีอย่างงี้ ทั้งที่มันก็แค่สบู่ทั่วไปแต่นี่ทำไมนะ มันช่าง..”เซ้นต์เห็นโอลาฟจดๆจ้องอยู่เช่นนั้นมันเลยใช้มือจับและโน้มหัวโอลาฟไปที่ท่อนลำของมัน โอลาฟเอามือซ้ายค่อยๆจับไปที่ท่อนลำดังกล่าวและรูดหนังหุ้มปลายลงมาจนตึงสุดหัวหยักเผยให้เห็นหัวเห็ดสีแดงเป็นมันวาวบานใหญ่อยู่ตรงหน้าโอลาฟเซ้นต์ใช้มือขวาจับปลายคางโอลาฟให้เงยขึ้นมาสบตากับมัน “โอลาฟคนเก่ง อมให้พี่หน่อยนะครับพี่เงี่ยนมากเลยอย่าปล่อยให้พี่ต้องทรมานแบบนี้เลยนะคนเก่ง ช่วยพี่หน่อยครับ” คำพูดดังกล่าวทำโอลาฟถึงกับยิ้มเขินด้วยความดีใจจนทำไปไม่ถูกเซ้นต์กดหัวโอลาฟโน้มไปที่ท่อนลำอีกครั้ง โอลาฟมันเลยใช้ลิ้นแตะๆเลียๆหัวเห็ดลงไปที่คอหยักรอบๆก่อนจะขึ้นมาเลียส่วนปลายเซ้นต์ถึงกับเสียวจนครางใหญ่ “ซีดสสสสสสส สุดยอดเลยน้อง แม่งงงงลิ้นสากๆของน้องมันทำได้เสียวจี๊ดดดดเลย ซีสดดดด์ซีสดดด” โอลาฟเลียได้ไม่นานมันจึงครอบปากลงไปบนหัวเห็ดใหญ่ๆมันก้มลงไปเรื่อยๆช้าๆจนเกือบจะสุดคอหอยก่อนที่มันจะเริ่มขยับกลับขึ้นมาสู่ตำแหน่งเดิม “อาหหหหซีดด เก่งมากเลยน้องอมได้เกือบจะมิดลำพี่ล่ะ” เซ้นต์พูดเอ่ยปากชมโอลาฟยกใหญ่โอลาฟที่ปากเริ่มชินกับขนาดท่อนลำมันเลยค่อยๆผงกหัวขึ้นลงพร้อมกับออกแรงดูดท่อนลำจนแก้มทั้งสองตอบลีบและบวมตุ่ยสลับกันไปมา“อ่าหหหหแบบนั้นแหละครับอ่าหหซีดดดอาหหหห เสียววะ แม่งเสียวโคตรเลยอ่าหหห ซีดดด อืมมมมม” ความเสียวจากอุ้งปากที่กระทำต่อเซ้นต์ทำให้มันถึงกับดิ้นไปมาเล็กน้อยมันค่อยๆเอนตัวลงพร้อมเอาผ้าห่มที่ม้วนบนเตียงมารองนอน ทำให้โอลาฟที่ก้มรูดเร้นอยู่ตรงหว่างขาเห็นใบหน้าเหยเกและปากแดงอวบอิ่มที่ครางซีดๆๆของเซ้นต์ได้อย่างชัดเจนซึ่งมันกระตุ้นให้โอลาฟเริ่มสนุกเร้าใจและเร่งจังหวะเร็วขึ้น เร็วขึ้นทำเอาเซ้นต์อุทานขึ้นพร้อมกับเสียงคราง"อาหหห มันสสสจริง ซีดดด เยี่ยมมมมอาหหหหหดูดแรงๆเลยน้อง ซีดสสส อึยยยยยซีดดดดด อาหหหหหห จี๊ดจ๊าดดดโครตตตอาหหหห ซีดดดดดด” คราวนี้เซ้นต์ถึงกับดิ้นใหญ่ จนมันเผลอกระดกแอ่นเอวให้ท่อนลำของมันเข้าไปในปากของโอลาฟใหลึกที่สุดจนโอลาฟมันรีบใช้มือรั้งเอวของเซ้นต์ไว้ โอลาฟมีทีท่าเหมือนจะถอนปากออกแต่เซ้นต์ที่กำลังเพลิดเพลินกับความเสียวมันรีบใช้มันกดรั้งหัวมันไว้ “อย่าขาดช่วงซิ อาหหห อมต่อ อาหหหอืมมม ต้องแบบนี้สิ อ่าหหหหหถึงจะคุ้มค่าชดเชยที่พี่ต้องการ อาหหหห ซีดดดดด” ในระหว่างที่โอลาฟกับง่วนใช้ปากสายตาของมันสังเกตเห็นเส้นเลือดที่ปูดโปนไปทั่วร่างจนผิวกายขาวๆของเซ้นต์เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูพร้อมกับกล้ามซิกแพกและกล้ามแขนที่พองขึ้นมันมาเป็นมัดๆถือเป็นภาพที่ทำให้โอลาฟตื่นตาตื่นใจไปพร้อมๆกัน โอลาฟที่เริ่มปวดเมื่อยกรามจนทนไม่ไหวมันเลยใช้ลิ้นเลียไปที่ไข่พร้อมกับใช้มือที่จับท่อนลำสาวว่าวให้เซ้นต์ไปด้วย เมื่อหายปวดกรามมันจึงกลับขึ้นไปอมและทำสลับกันไปมาเช่นนั้นอยู่นานโข จนมันสัมผัสได้ถึงน้ำลื่นๆหวานคลุกเคล้ากับน้ำลายในปากโอลาฟถึงกับรู้ทันทีว่าการชดเชยในครั้งใกล้ใกล้จะมาถึงจุดสูงสุดแล้ว มันแรงเม้มรีมฝีปากให้เล็กลงพร้อมออกแรงดูดเพื่อกระตุ้นความพิศวาสในความความเสียวที่เจือมาพร้อมกับความสุขให้กับเซ้นต์อย่างถึงที่สุด เซ้นต์มันเกร็งไปทั่วร่าง มือทั้งสองของมันบีบกำผ้าปูที่นอนจนแน่นยับ มันกัดฟันพร้อมกับใช้แรงเกือบทั้งหมดส่งไปที่ท่อนลำให้บีบตัวปลดปล่อยน้ำว่าวจากภายในพุ่งทยานสู่อุ้งปากที่ครอบมันอยู่อย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมากโอลาฟถึงกับกลืนไม่ทันมันสำลักจนรีบถอนปากออกทำให้น้ำว่าวสีขาวขุ่นๆข้นๆพุ่งปรี๊ดดดเต็มหน้าและหน้าท้อง บางสายพรุ่งแรงจนไปเลอะกับต้นคอเซ้นต์นอนกับนอนแผ่ร่าบนเตียงหอบหายใจแฮกๆด้วยความเหนื่อยและอ่อนแรงก่อนที่มันจึงใช้มือจับตัวโอลาฟและดึงให้ไปนอนข้างๆก่อนที่จะเอามือกดหัวไปที่หน้าท้อง “อร่อยไหม….จัดการให้หมดนะน้อง อย่าให้เสียของ น้ำรักที่ดองในตัวพี่นานๆแบบนี้แฟนพี่ยังไม่เคยได้ลิ้มรสของมันเลยนะ”กลิ่นคาวอ่อนๆที่ลอยมาแตะจมูกทำให้โอลาฟไม่ลังเลที่จะก้มเอาปากไปเลียและดูดกินน้ำว่าวที่เลอะตามหน้าท้องหน้าออกและต้นคอจนเกลี้ยงโอลาฟมันถือกับทำหน้าพะอืดพะอมเล็กน้อยทำให้เซ้นต์ที่ได้เห็นถึงกับเอ่ยปากแซว “ไงบ้างน้องรีวิวรสชาติมันหน่อย”โอลาฟมันใช้มือเช็ดปากไปมาและเมื่อมันเห็นน้ำว่าวของเซ้นต์ติดอยู่ที่ปลายนิ้วชี้ของมันหยดหนึ่งโอลาฟมันเลยเอานิ้วชี้ดังกล่าวป้ายเข้าไปที่ปากของเซ้นต์อย่างรวดเร็วเซ้นต์ที่นอนๆอยู่ถึงกับตกใจจนรีบชันตัวลุกขึ้นนั่ง “เห้ยน้องงไรน่ะ หืมมมไรเนี่ยยย” โอลาฟถึงกับหัวเราะเบาๆ "ก็พี่อยากรู้รสชาติมันไม่ใช่เหรอ ผมก็เลยจัดให้พี่ได้รีวิวเองไง”เซ้นต์ทำหน้าแขยงและเอามือเช็ดที่ปากไปมา “หืมมเล่นทีเผลอนะน้อง”“ฮ่าๆของพี่เซ้นต์นี่ใหญ่ดีนะครับ อมแล้วแน่นปากดีหล่อๆและควยใหญ่อย่างพี่นี่ หากพี่เมย่าไม่รักพี่นี่ผมก็ไม่รู้จะว่าไงล่ะ”เซ้นต์ได้แต่ยิ้มและหันไปมองท่อนลำตัวเองที่ค่อยๆอ่อนตัวลงเป็นท่อนลำขนาดท้วมๆกึ่งแข็งก่อนที่มันจะดึงกางเกงขึ้นมาสวมไว้“โอลาฟ พี่ยังไม่หนำใจเลยพี่ก็ไม่เคยทำกับผู้ชายนะแต่พี่ขอลองเย็ดน้องดูได้ไหม”โอลาฟถึงกับทำหน้าตกใจก่อนที่มันจะรีบส่ายหัวไปมา “อือออไม่อะพี่ ถ้าทำแบบนั้นผมยังไม่พร้อมอะ”“เอาน่าน้องเดี๋ยวพี่จะค่อยๆทำพี่ก็ไม่เคยเหมือนกัน” “ไม่เอาอะพี่เซ้นต์ ผมก็อมให้พี่แล้วนะ ถ้าจะให้ทำแบบพี่ว่า ผม ผมกลัว ขอไม่ทำนะ” เซ้นต์เห็นโอลาฟเริ่มโยเยไปมา มันเลยถอนหายใจยาวด้วยความปลงใจ ก่อนที่มันจะขอให้โอลาฟช่วยชักให้มันอีกรอบและทันทีที่ท่อนลำผงาดขึ้นในรอบสองเซ้นต์ก็อดไม่ได้ที่จะให้โอลาฟใช้ปากช่วยอีกรอบซึ่งรอบสองนี้ก็กินเวลานานไปเกือบ 30 นาที จนโอลาฟได้ดื่มด่ำกับน้ำว่าวของเซ้นต์ไปอีกยกและก่อนที่เซ้นต์จะเดินกลับห้องไปมันหันมาพูดกับโอลาฟ “ขอบคุณนะน้องที่ช่วยรู้ป่าวว่าน้องเป็นผู้ชายคนแรกที่พี่ยอมให้อมเลยนะพี่เองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเด็กอย่างน้องจะใช้ปากทำให้พี่ประทับได้ขนาดนี้” คำพูดดังกล่าวทำให้โอลาฟยิ้มด้วยความเอียงอายและภาคภูมิก่อนจะเอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงตัวเอง เช้าวันรุ่งขึ้นเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ได้ปลุกโอลาฟให้ตกใจตื่นจากภวังค์โอลาฟลุกขึ้นมาด้วยความงัวเงียก่อนใช้ใช้มือไปหยิบเอาโทรศัพท์ที่วางข้างๆขึ้นมารับ “หืมมฮัลโหล ฮัลโหล นี่เบอร์ใครอะครับ”“อ้าวน้องลืมพี่ได้ไงเนี่ย”โอลาฟรู้สึกเจ็บหน่วงที่กรามมันเลยเอามือขวาที่มาบีบนวดกรามทั้งสอง “อืมม เสียงคุ้นๆนะ นี่ใครครับถามจริง พอดีผมเพิ่งตื่นอะครับ”“แหมม นี่ลืมพี่คนที่แอบถ่ายรูปน้องในตอนนั้นแล้วเหรอ”“คนแอบถ่ายรูป?? พี่ยูโรพี่ยูโรหรอครับนี่พี่เอาเบอร์ใครโทรมาอะ”“ฮ่าๆๆจำได้แล้วเว้ยย กะจะโทรมาให้เซอร์ไพร์ทสักหน่อยเลยเอาอีกเบอร์โทรมา”“อืมมม เล่นซะผมหายง่วงแล้วเนี่ย แล้วนี่พี่ยูโรมีไรรึป่าวครับ ถ้ามีวันนี้ผมไม่ว่างนะ สายๆต้องไปทำธุระกับแม่ในเมือง”“เอ้ยป่าวๆไม่ใช่เรื่องงานนะ คือเสาร์หน้าที่จะถึงนี้ เป็นวันเกิดของไอ้เฟิร์สน่ะน้องสนใจจะไปด้วยกับพี่ไหมล่ะ”โอลาฟที่นั่งอยู่บนเตียงถึงกับตกใจตื่นเต้นจนลุกขึ้นมาทันใด “ไปๆๆ ไปครับพี่ไปผมไปด้วย”“โอเคน้อง แต่ปีนี้ไอ้เฟิร์สมันไปจัดที่บ้านของไอ้เบทนะซึ่งบ้านมันค่อนข้างไกล อาจได้นอนค้างด้วย น้องจะไม่มีปัญหาแน่นะ”“ไม่มีปัญหาครับพี่ผมไปได้แน่นอน”ไว้มาต่อครับ
เนื้อหาตอนที่ 4 ตามลิงค์ http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=139210&fromuid=155129
ขอบคุณมากนะครับ{:5_130:} ฟินมาก {:5_146:} ขอบคุณครับ This story is very long anya it is very interesting เรื่องยังสนุกและคงความฟินไว้เช่นเคย ลุ้นไปพร้อมๆกับน้องโอลาฟตลอด จอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ โอลาฟ เก่งมาก อิอิ ขอบคุณมากเลยครับ ขอบคุณ ออกรสออกชาติ ขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ โอลาฟ้ก่งเหมือรกันนะเนี่ย ขอบคุณครับ ขอบคุณคุณมากครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกมากๆๆ เสียวมากๆๆ ปล.ขอภาพประกอบจินตนาการ ความขาว ยาว ใหญ่ หน่อยสิ อิอิ นึกไม่ค่ยออก 55+ ขอบคุณครับ