ความกตัญญูกตเวที
http://www.kalyanamitra.org/daily/dhamma/images/content/014.jpghttp://www.kalyanamitra.org/daily/dhamma/images/content/5_9.jpghttp://www.kalyanamitra.org/daily/dhamma/images/content/image9.jpgคำถาม.. คนโบราณบอกไว้ว่าคนที่มีความกตัญญูกตเวทีชีวิตของเขาจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองอยากทราบว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
คำตอบ.. คนที่มีความกตัญญูกตเวทีก็คือคนที่รู้คุณแล้วก็รักที่จะประกาศคุณซึ่งเคยได้รับมาจากผู้อื่นคนที่มีความกตัญญูกตเวทีเป็นคนโชคดีตั้งแต่เริ่มต้น โชคดีตรงไหนโชคดีตรงที่เขาเกิดมาก็ได้เจอคนดีคนมีน้ำใจเพราะเขาเคยได้รับน้ำใจมา
ทีนี้บางคนบอกว่าชีวิตไม่เคยมีใครหยิบยื่นพระคุณมาให้กับเขาเลยไม่ว่าเขาจะตกทุกข์ได้ยากอย่างไรไม่เคยมีใครหยิบยื่นมาโอบอุ้มมาช่วยเหลือมาหอบหิ้วเขาเลยเมื่อเป็นอย่างนั้นเขาเกิดความรู้สึกอย่างไรเกิดความรู้สึกว่าโลกทั้งโลกมีแต่ความแห้งแล้งมีแต่คนใจแคบมีแต่ตัวใครตัวมันแต่ถ้าเขาเป็นโชคดีได้เจอคนดีที่พร้อมจะหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้แล้วเขาก็ได้รับด้วยตัวของเขาเอง
ถ้าคนๆนี้เขาได้อย่างที่ว่านี้ก็เพราะว่าเขาได้รับความมีน้ำใจมาแล้วแล้วเขาก็รู้คุณค่าของความมีน้ำใจนั้นตอบด้วยเขาเรียกว่าคนมีความกตัญญูคือคนรู้คุณที่เขาเคยทำให้กับตัวเองแต่ว่าถ้าคนไหนทั้งๆ ที่เขาก็ยื่นมือยื่นไม้มาหอบหิ้วมาช่วยเหลือทำให้ตัวพ้นทุกข์พ้นยากแล้วก็ยังนึกถึงคุณเขาไม่ออกฟ้องว่าคนนี้ใจบอดเสียแล้วตาอาจจะยังดีอยู่แต่ใจบอดบอดตรงที่มองความดีของคนอื่นไม่เห็นทั้งๆ ที่ความดีนั้นได้ถูกหยิบยื่นมาให้ตัวเองคนประเภทนี้แหละอันตรายเพราะว่า 1.เขาก็มองคนนั้นทั้งหลายที่ไม่เคยหยิบยื่นความสุขความสะดวกความสบายให้เขามาเลยเหมือนอย่างกับคนไม่รู้จักหรือบางทีจะเห็นเป็นศัตรูเสียด้วซ้ำ 2. แม้แต่คนที่หยิบยื่นให้ความช่วยเหลือเขามาแล้วเขาก็ยังมองไม่เห็นความดีอีกเมื่อเป็นอย่างนี้โลกทั้งโลกได้กลายเป็นโลกมืดสำหรับเสียแล้วคนประเภทนี้เลยไม่มีความสุขตลอดชีวิตนี่คือสภาพจิตใจของคนเราที่มันแตกต่างกันระหว่างคนมีความกตัญญูกับคนไม่มีความกตัญญู ทีนี้ยังมีอีกขั้นหนึ่งอีกบางคนมีความกตัญญูรู้ว่าเขามีคุณกับเราแต่ว่าแค่นี้ยังไม่พอต้องยิ่งกว่านั้นขออภัยแม้แต่สุนัขบางตัวเราเลี้ยงให้อาหาร เมื่อถึงเวลามันยังรู้คุณเพราะฉะนั้นคนไหนใครเขามาทำความดีให้แล้วไม่รู้คุณคนไทยหรือว่าคนโบราณจึงมีคำว่าหนักๆ กับคนไม่รู้คุณคนเขาเปรียบเทียบไว้เยอะแยะแต่ทีนี้สุนัขบางตัวอีกเหมือนกันนอกจากรู้คุณเจ้าของแล้วมันยังช่วยเฝ้าบ้านอีกเสียด้วยนั่นก็เป็นวิธีตอบแทนคุณอย่างหนึ่งของสุนัขมันทำได้แค่นั้น
แต่คนที่รู้คุณ แล้วไม่คิดแทนคุณตรงนี้ไม่ใช่เสียแล้วเขามีจิตใจดีงามดีงามขนาดไหนขนาดรู้คุณก็คือขนาดอนุบาลรู้คุณแล้วแต่ว่าถ้าเมื่อไหร่คิดตอบแทนคุณแค่คิดตอบแทนคุณเท่านั้นว่าเขามีพระคุณต่อเรามีโอกาสเราต้องตอบแทนคุณเขาบ้างแค่คิดตอบแทนเท่านั้นระดับธรรมะในจิตใจของเขายกขึ้นสู่ชั้นประถมได้แล้วแล้วเมื่อไรลงมือประกาศคุณของผู้ที่มีพระคุณแก่เราให้ชาวโลกรู้ประกาศคุณก่อนว่าท่านผู้นั้นหรือท่านผู้นี้เคยมีพระคุณกับเราอย่างนั้นอย่างนี้จิตใจหรือธรรมะประจำใจคนๆ นี้ยกระดับอีกระดับขึ้นสู่ระดับมัธยมเลย
ถ้าลงมือตอบแทนพระคุณท่านให้สมกับที่ท่านเคยมีพระคุณต่อเราถ้าอย่างนี้ละก็คนที่มีจิตใจระดับนี้ฟ้องว่าอย่างไรฟ้องว่าในใจของเขาไม่เคยคิดเรื่องร้ายเลยคิดแต่เรื่องดีมองโลกก็มองโลกดีๆตรงตามความเป็นจริงมองโลกอย่างนี้อย่างสวยงามมองคนก็มองในแง่ดีโลกนี้ยังมีคนดีอยู่แล้วเราเองก็จะต้องเป็นคนดีอีกคนหนึ่งในโลกนี้ให้ได้แล้วเมื่อความคิดอย่างนี้เกิดขึ้นการทุ่มเทเพื่อค้นหาศักยภาพในตัวเองไปทำดีเสียแล้วมันไม่มีเวลาที่จะไปฟุ้งซ่านไม่มีเวลาไปอิจฉาตาร้อนใครมันมีแต่เวลาสำหรับคิดดีพูดดีทำดีแล้วมันก็จะต้องได้อย่างเดียวคือได้ดีนั่นเอง คือได้ความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป
เพราะฉะนั้นปู่ย่าตายายของเราพูดถูกว่าคนมีความกตัญญูกตเวทีแล้วจะต้องรุ่งเรืองเรามีปู่ย่าตาทวดดีๆ ฉลาดๆ อย่างนี้ก็เป็นหน้าที่ของเราจะต้องเชื่อฟังท่านแล้วก็ทำตามท่านอย่างสุดชีวิตจิตใจเลยแล้วบ้านเมืองไทยจะมีความเจริญสืบไป {:5_116:}ขอบคุณน้ำใจครับ{:5_116:}
หน้า:
[1]