กะญาติแท้1
กูชื่อ แบงค์ เป็นลูกชาย(ที่ค่อนข้างไม่เป็นชายเหมือนตัวเท่าไหร่) คนเดียวในบ้าน ไม่มีใครรู้หรอกกว่าที่แท้จริงแล้วผมเป็นอะไร ผมจำได้ว่าพี่ไผ่เข้ามาอยู่ที่บ้าน เพราะว่าแม่ของพี่ไผ่เพิ่งเสียไป ทางบ้านก็ค่อนข้างลำบาก ไม่เหลือใครเลย ญาติ ๆ ของพี่ไผ่คงเลี้ยงไม่ไหว ก็ไม่รู้คุยอะไรกับพ่อแม่ผม แล้วพ่อก็ตัดสินใจรับพี่ไผ่มาอยู่ด้วยที่บ้านวัน ที่พ่อกับแม่บอกผมว่า จะรับพี่ไผ่ให้มาอยู่ที่บ้านด้วย ผมไม่พอใจมาก จะไม่ให้ไม่พอใจได้งัย ใครก็ไม่รู้จะมาอยู่ด้วย อีกอย่างที่บ้านมีแค่ 2 ห้องเอง แสดงว่าเค้าต้องมาอยู่ห้องเดียวกับเราแน่ แต่ตอนนั้นจะเถียงจะพูดอะไรกลับไปก็ไม่มีทางชนะได้ ถ้าตอนนี้ผมต้องแบ่งห้องให้เค้าแล้ว ต่อไปจะต้องแบ่งอะไรให้ไปอีก
หลัง งานศพของแม่พี่ไผ่ผ่านไป ซัก 2 วันพี่ไผ่ก็ย้ายของเข้ามาในบ้าน วันนั้นผมกับพ่อและแม่ไปช่วยขนของที่บ้าน ก่อนไปแม่ก็พูดกับผมว่า
?ว่าอย่าไปทำท่ารังเกียจ เดี๋ยวพี่เค้าจะไม่สบายใจ?
ผมก็รับปากกับแม่ไปอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะไม่รู้จะทำงัยแล้ว
บ้าน ของพี่ไผ่เป็นบ้านไม้ 2 ชั้นมีใต้ถุน ก็เป็นบ้านที่เห็นได้ทั่วไปตามแถบนั้น ของใช้พี่ไผ่น้อยมาก รู้สึกว่ามีลังเบียร์อยู่ 3 หรือ 4 ลัง กับกระเป๋าหิ้ว 1 ใบ เท่านั้นเอง ผมขนไม่ทันเหงื่อออกก็เสร็จแล้ว ตอนนั้นผมนึกในใจว่า ?ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่เปลืองที่?
พอกำลังจะขึ้นรถกลับบ้าน ญาติ ๆ พี่ไผ่ก็มาส่งที่ ช่วงที่ถอยรถกลับบ้าน สายตาพี่ไผ่หันกลับไปมองบ้าน จนผ่านมุมถนน ผมก็แอบเห็นพี่เค้าน้ำตาซึมด้วย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรด้วย สักพักแม่ผมก็พูดขึ้นมาว่า
?ไผ่ ไปอยู่บ้านแม่ ไม่ต้องกังวลอะไร ไผ่อยู่นอนห้องแบงค์น่ะลูก?
?ครับ? พี่ไผ่ตอบกลับมาแต่นั้นจริง ๆ
ตอน ที่อยู่ในรถค่อนข้างเงียบ พ่อผมก็ชวนคุยถามเรื่องนู้นเรื่องนี้ไปเรื่อย คงไม่ให้พี่ไผ่อึดอัดมาก ทำให้ผมได้รู้เรื่องพี่ไผ่พอสมควร แล้วทำให้ผมได้รู้ว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงตัดสินใจรับไผ่มาอยู่ด้วยที่บ้าน เพราะว่า ย่าของพี่ไผ่เคยเลี้ยงพ่อผมตอนเล็ก ๆ พ่อคงเอ็นดูแล้วก็ผูกพันกับครอบครัวนี้มาก
พี่ไผ่ อายุ16 ปี เพิ่งจบม.3 มา พ่อก็เลยไปฝากให้เรียนในเมือง ก็โรงเรียนเดียวกับผมนี้แหละ คุยไปคุยมาพ่อก็เลี้ยวรถเข้าไปในโลตัส ให้พี่ไผ่เลือกซื้อของใช้ พ่อบอกว่าให้ตังค์มาแล้วบอกให้ไปเลือกของเป็นเพื่อนพี่เค้า ส่วนพ่อกับแม่จะอยู่ที่ โฮมโปร ชั้น 3 ช่วงนี้แหละที่ผมได้คุยกับพี่ไผ่ ผมก็เดินไปลากรถเข็นมา
ผมถามพี่ไผ่ว่า ?จะเอาอะไรบ้าง?
พี่ไผ่ก็ตอบกลับมาว่า ? ไม่รู้เหมือนกัน ขอเดินดูก่อน?
แต่ เท่าที่ผมเห็นพี่ไผ่ก็หยิบมาน้อยมาก มีแค่ แปลงสีฟัน แป้ง สบู่ ยาสระผม กับของอีกนิดหน่อยเท่านั้นเอง ระหว่างเดินเลือกของเรา 2 คนก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรกันมากเท่าไหร่
พอซื้อของกันเสร็จก็นัดเจอ พ่อกับแม่ที่ชั้น 1 ก่อนที่จะขึ้นรถกลับบ้านก็มีคนขนตู้เสื้อผ้าใส่รถขับตามมาจนถึงบ้าน พอถึงบ้าน ก็เกือบเย็นแล้ว ก็จัดแจงยกของลง พ่อก็ให้ผมไปจัดห้องให้เอาตู้เสื้อผ้าวางในห้องได้ พอเอาตู้มาวางเพิ่มห้องดูเล็กไปเลยครับ ผมก็ช่วยพี่ไผ่จัดของแต่พี่เค้าก็บอก ?ว่าไม่เป็นไร พี่ทำเองได้? รู้มั้ยว่าพี่เค้าพูดอย่างงี้ ผมหน้าแตกไปเลย ผมก็ไม่ช่วยพี่เค้าจริง ๆ เดินออกมาดูทีวีหน้าบ้าน
?มาดูที่วีอะไรตอนนี้ ทำไมไม่ไปช่วยพี่ไผ่จัดของ ไป..? ยังไม่ทันจะได้นั่งพ่อก็ไล่ให้ผมกลับเข้าไปในห้องอีก ทำให้ผมต้องเข้ามาที่ห้องอีกครั้ง
ผมเข้ามาแล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไรพี่ไผ่หรอก ผมก็ทำว่าจัดของตรงนั้นตรงนี้ พอพี่ไผ่จัดเสร็จผมก็เสร็จตาม แล้วแม่ก็เดินเข้ามา
?อ่าว!!! แบงค์ลูกแล้วทำไมไม่ซื้อผ้าห่มมาให้พี่ไผ่ด้วย หมอนก็ไม่ซื้อ?
ผมก็เงียบไป แต่ก็อดคิดในใจไม่ได้ว่าแล้วเราจะไปรู้ได้งัยว่าพี่เค้าจะเอาอะไรบ้าง....
จัด ของเสร็จ ก็ออกไปกินข้าวกัน กินเสร็จผมก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาก็ 3 ทุ่มครึ่งแล้ว ผมก็เลยรีบไปอาบน้ำ เพราะว่ารู้สึกเหนียวตัวมาก ผมอาบน้ำเสร็จก็ออกมาหน้าบ้านเห็นพี่ไผ่นั่งดูทีวีอยู่กับพ่อ พอผมเดินไปนั่งดูทีวีด้วย ก็รู้ว่าเรื่องที่พูดอยู่ก็คือเรื่องผมนี้แหละ พ่อก็บอกว่า
?ดูพี่ไผ่เป็นตัวอย่างตั้งใจเรียน เรียนก็เก่งได้ 3.5 โน้น แล้วเราแบงค์ 2 กว่าๆ เอง ไม่ขยันโตขึ้นจะทำอะไรกิน?
พ่อพูดจนผมรู้สึกอายไปเลย นั่งคุยกันจนละครจบพ่อก็พูดขึ้นมาว่า
?ไป..ไผ่ แบงค์ อาบน้ำนอนได้แล้ว?
?ครับ? พี่ไผ่พูดตอบ
พอ เข้าไปในห้องผมก็เอาเลย เปิดคอมพ์ พี่ไผ่ก็เข้าไปอาบน้ำ ช่วงนั้นผมคิดแล้วคิดอีกว่าจะชวนพี่ไผ่คุยอะไรดี เพราะถ้าไปคุยอะไรอยู่กัน 2 คนห้องก็เงียบแน่ คงดูไม่ดี เดี๋ยวพี่เค้าอึดอัดใจ
พอพี่เค้าอาบน้ำเสร็จผมก็ชวนคุยตามที่นึกไว้
?พี่ไผ่ชอบเล่นเกมส์อะไรอ่ะ? ผมก็ถามไปตามที่คิดว่าน่าจะดีที่สุดแล้วในตอนนั้น
?พี่ ไม่เล่นเกมส์หรอก บ้านพี่ไม่มีคอม? พี่ไผ่ตอบกลับมาทำให้ผมรู้สึกหายใจไม่ออกไปวูบหนึ่ง ผมนึกในใจว่าไม่น่าถามพี่เค้าอย่างงั้นเลย
ผมก็เลยบอกพี่เค้ากลับไป ว่า ?พี่ใช้คอมพ์เครื่องนี้ได้เลยน่ะ ถ้าพี่อยากเล่นเน็ตก็ต้องลากสายมาจากข้างนอก แต่ว่าแม่ให้เล่นเน็ตแต่กลางวัน แต่ถ้าอยากเล่นกลางคืนก็ต้องแอบไปต่อสายดึกๆ อย่าให้แม่เห็น?
พี่ไผ่ยิ้ม สวนกลับมา เป็นยิ้มแรกที่พี่เค้ายิ้มให้ผม รู้สึกว่าคำพูดของผมเมื่อกี้จะได้ผล
?ว่าแต่พี่เค้ายิ้มน่ารักดีน่ะ? ผมนึกในใจก่อนที่จะปิดไฟนอน
คืน นั้นผมหลับตาก็หลับไปเลยมารู้ตัวอีกที่ก็เช้าแล้ว ดูที่นอนก็ไม่เห็นพี่ไผ่ ผมก็เลยออกไปดูข้างนอกเห็นพี่ไผ่ช่วยพ่อรถน้ำต้นไม้อยู่ ผมนึกในใจว่า ?โหหห มาวันแรกก็ขยันซะ?
ผมเห็นอย่างงั้นก็ไม่เดินไปที่พ่อ กลัวพ่อจะว่าว่าตื่นสาย แล้วเปรียบเทียบกับพี่ไผ่อีก ผมก็เลยเดินไปที่แม่ช่วยแม่ทำกับข้าว
หลัง จากที่กินข้างเสร็จพ่อก็บอกว่าเดี๋ยว ?พรุ่งนี้พ่อกับแม่ต้องไปสัมมนาเรื่อง ปฏิรูปทางการศึกษาที่เขตพื้นที่ ลูกอยู่บ้านกับพี่ไผ่นะ ถ้าจะไปไหนก็ชวนพี่ไผ่ไปด้วยอย่าให้พี่อยู่บ้านคนเดียว?
?ครับ พ่อ? ผมตอบกลับไปอย่างถูกบังคับ
?ไม่เป็นไรครับ ลุง ไผ่อยู่บ้านคนเดียวได้? พี่ไผ่ก็พูดกลับเหมือนกับเกรงใจ
?อย่า เลยไผ่ พ่อ ให้แบงค์อยู่เป็นเพื่อนดีแล้ว ถ้าจะไปไหนก็บอกน้อง แล้วไปกัน 2 คน อย่าให้แบงค์ไปคนเดียว พ่อไม่ไว้ใจ แล้วเรียกพ่อ เรียกแม่ ตามแบงค์ก็ได้ อยู่บ้านเดียวกันแล้ว ?
ขอบคุณมากนะครับ{:5_130:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ. ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ตอนแรกก็สนุกแล้ววว ขอบคุณครับ ขอบคุนคับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ {:5_119:}{:5_119:} ดีมากครับ {:5_146:} ดีมากครับ ขอบคุณ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ