ช่วยด้วย ! ผมได้แฟน ไอ้เด็กช่างยนต์ ตอนที่ 24 คนที่เจ็บก็คือฉันคนเดียว
บ่นนำ“เรื่องมันเศร้า”บ่นแค่นี้แหละ
ตอน 24“คนที่เจ็บก็คือฉันคนเดียว”
เช้าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ผมตื่นสายเพราะเมื่อคืนกว่าจะมาถึงบ้าน กว่าจะได้นอนก็เกือบสว่างแล้ว เช้านี้ผมไม้รู้หรอกว่าไอ้ปอมาหาผมรึป่าว ผมตื่น 10โมง หลังจากนั้นก็ดำเนินการตามปกติ ก็เศร้านะแต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ผมใจกว้างไม่พอที่จะแบ่งให้ใคร ผมล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ สังเกตได้เลยว่าตาตัวเองบวม ผมมานั่งที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้าน ก้มฟุบลงไปที่โต๊ะ
“ทำยังไงดีวะ จะลบมึงออกจากสมองกู” ผมเดินขึ้นไปที่ห้อง อยู่บนห้องจนถึง4 โมงครึ่ง ผมคิดในใจต้องออกไปไหนสักที่ เพราะผมยังไม่อยากเจอหน้าไอ้ปอตอนนี้ ผมขี่มอ-ไซต์มุ่งหน้าไปทะเลข้างๆตลาดหน้าศาล(ผมคงไม่กระโดดน้ำตายหรอกนะ) ผมไปนั่งเล่นคนเดียว มองดูทะเล ดูท้องฟ้า ฟังเสียงคลื่น(พูดซะยังกะบรรยากาศในละครไทย) เป็นตามที่คาดไว้ครับ 5โมงไอ้ปอโทรมาหาผม คงไปหาที่บ้านไม่เจอ ถ้าผมไม่รับก็จะเหมือนว่าโกรธมัน ผมก็เลยรับจะไค้คิดว่าเราจากกันด้วยดีคุยกันได้เสมอ
“อืมปอ มีอะไร”
“กูไม่มีอะไร โทรหามึงไม่ได้เหรอวะ” มันก็พูดปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ก็ได้ถ้ากูว่างกูก็จะรับไม่ว่างก็ไม่ได้รับ”
“มึงมีไม่ว่างด้วยเหรอวะ”
“อืม”
“.....”เงียบทั้งคู่
“มึงอยู่ไหน” ไอ้ปอถามผม
“เจเจ” ผมโกหก ถ้าบอกว่าอยู่ที่นี้มันใกล้เกินไปเดี๋ยวมันจะมา
“มึงไปเดินกับใครทำไมไม่รอกู”
“คนเดียว”
“คนเดียวมึงก็กล้าเดินเหรอ”
“อืมกูอยู่คนเดียวจนชินแล้ว”
“.......” เงียบอีกครั้ง
“มีอะไรอีกป่าว”
“กูจะไปหามึงมึงอยู่ตรงไหน”
“กูจะกลับแล้วล่ะ”
“งั้นกูจะรอมึงอยู่บ้านนะ”
“แล้วแต่...แต่กูยังไม่รู้เลยว่าจะไปไหนต่อ”
“ยังไงกูก็จะรอ”
“แล้วแต่มึง” ผมกดวางสาย ผมยังไม่รู้เลยว่าถ้ามองหน้ามันแล้วผมจะพูดยังไง ทำใจได้แค่ไหน ผมกลับบ้านประมาณทุ่มนึง ก็เห็นมันนั่งอยู่หน้าบ้าน ผมก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติ
“ทำไมไปนานจังวะ”
“ก็เรื่อยๆตามประสากู ”ผมเดินเข้าบ้านเห็นมันเดินตาม
“มีอะไรจะพูดกับกูรึป่าวกูคงอาบน้ำแล้วนอน กูเหนื่อย”ผมพูดไอ้ปอหยุดเดินแล้วมอง
“มึงจะไม่ยกโทษให้กูเลยเหรอที”
“มันเป็นครั้งแรกของมึงรึป่าวล่ะ”
“......” มันเงียบ
“ในเมื่อมึงไม่พอใจในสิ่งที่มึงมี นี่ไงกูก็จะไม่ห้าม ไม่ขวางมึงอีกแล้ว”
“ถึงกูจะไปมีคนอื่นบ้าง แต่กูก็รักมึงคนเดียวนะที”
“กูดีใจที่ได้ยินอีกครั้ง...ถ้ามึงยังคิดว่ามึงทำถูกแล้วยังจะทำต่อไปงั้นกูก็คงเป็นคนที่ผิดที่ยอมรับในตัวมึงไม่ได้”
“กูผิดเองกูไม่ได้ว่ามึงผิดเลย”
“อืมรู้ตัวก็ดี”ผมยืนนิ่งเงียบไอ้ปอก็ยืนก้มหน้านิ่ง
“กูไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย” ไอ้ปอพูด
“กูจะบอกให้มึงทำอย่างนึง มึงจะทำไหม” ผมมองไอ้ปอไอ้ปอเงยหน้ามองหน้าผม
“ขอให้มึงบอกเถอะที”
“กูไม่ต้องการให้มึงทำไถ่โทษ กูไม่ได้อยากแกล้งมึง ถ้ามึงทำหรือไม่ทำ มันก็ไม่มีผลต่อความสัมพันธ์ของกูกับมึง แต่ถ้ามึงทำมันก็จะเป็นเครื่องคอยเตือนมึง มันจะดีกับตัวมึงเอง” ผมพูดไอ้ปอทำหน้าเศร้าอีกครั้ง
“มึงลองจดบันทึกประจำวันว่า แต่ละวันทำอะไร พูดอะไร มึงรู้สึกยังไง คนรอบข้างล่ะเค้าคิดยังไง มึงเคยนึกถึงเค้าบ้างไหม แล้วจะมีใครเดือดร้อน ใครจะได้ประโยชน์และในสิ่งที่ไม่ดี มึงจะแก้ไขมันยังไง มันจะได้ไม่ผิดพลาดอีกในอนาคต และมึงจะเป็นคนที่คิดถึงคนอื่นบ้าง เอาใจเขามาใส่ใจเราเป็นเรื่องที่ดีที่สุด....ตัวมึงโตขึ้นทุกวินาที ความคิดก็ควรที่จะโตขึ้นด้วย อย่าใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ไม่มีใครบอกมึงได้ทุกเรื่อง ต่อไปนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่มึงจะดูแลตัวเองให้ดี ....กูก็ขอให้มึงโชคดี” ผมพูดประโยคสุดท้ายน้ำตามันก็เริ่มไหลออกมาอีกแล้ว ผมรีบเดินขึ้นห้อง ผมอยู่บนห้องสักพักก็ได้ยินเสียงมอ-ไซต์ ขับออกไป
ผมนั่งลงบนเตียง ผมดูมันอยู่ และให้คะแนนกับทุกการกระทำของมัน(นี่เป็นความคิดส่วนลึกของผมที่จะให้โอกาสมันอีกสักครั้ง) และถ้ามันเลือกที่จะกลับไปเป็นคนเดิม ผมก็ทำใจไว้แล้วถึงแม้มันไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก
…………………………………………………………………………………
เย็นๆวันจันทร์
ผมคิดขณะเดินออกไปซื้อของแถวๆบ้าน
“ ก็รู้เป็นไปไม่ได้ ยังฝืนในความรู้สึก
ในส่วนลึกฉันรู้เธอมีใครอยู่
ก็รู้ในความเป็นจริง แต่ก็ยังจะแอบเฝ้าดู
ทั้งๆ ที่รู้เป็นได้แค่เพียงเท่านั้น……
…………………………………………….
......ผิดที่เราเจอกันช้าไป ไม่มีทางจะมารักกัน
เป็นได้แค่ความลับที่ฉันและเธอซ่อนไว้ในใจ
ผิดที่เราไม่ยอมห้ามใจไม่จำเป็นต้องไปโทษใคร
เมื่อผลสุดท้ายคนที่ต้องเจ็บคือฉันคนเดียว”
เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเศร้า(เป็นเพื่อนผม)กรุณาเปิดฟังในyoutube ก่อนอ่านก็ได้เสียงเพลงนี้ได้ล่องลอยตามลมเข้าหูผมต้นเสียงจากร้านอาหารริมฟุตบาท เพลงนี้ทำให้ผมสะดุดเดินช้าลง พลางกำลังคิดว่าไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องโกรธเปลวกะไอ้ปอ เพราะผมได้โทรไปถามจากเพื่อนไอ้ปอแล้ว ทำให้รู้ว่าไอ้ปอรู้จักกับเปลวก่อนที่จะมารู้จักกับผมอีก ...ผมเป็นคนมาทีหลังเอง โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย
“เมื่อผลสุดท้ายคนที่ต้องเจ็บคือฉันคนเดียว” โดนเลย ผมสะดุดใจเพลงนี้เพราะเคยมีความทรงจำเดิมๆครั้งนึง....ความว่า(ยังกะคำตัดสินในศาล)
ในครั้งนั้น ผมกำลังดูทีวี รายการบันเทิงช่องนึง(จำไม่ได้ว่ารายการอะไร..ไม่ค่อยได้ดู)เค้าถ่ายตัดตอนการแสดงคอนเสิร์ตบางช่วงของ4-5สาว(รุ่นใหญ่) มาให้ดู มีตู่มีตั๊ก มีผู้หญิงอีก 2 คนและผู้ฉิง 1 คน คนสุดท้ายนี่แหละเด็ดที่ทำให้ผมทึ่ง เค้าร้องเพลงผู้หญิงก็เสียงหวานเพราะ ร้องเพลงผู้ชาย(ความลับ)ก็โคตรแมน น่าฟัง เป็นคนตลกอีกต่างหาก นี่แหละคือข้อได้เปรียบของเธอ ผมนั่งดูตาค้างเลย เค้าทำในสิ่งที่ผมทำไม่ได้ พูดถึงตอนนี้ก็ประจารตัวเองหน่อย จุดบอดของผมมีหลายอย่างเหมือนกัน (เอาแบบบอดสนิทเลยนะ)
1.เรื่องการแสดงผมอายมากไม่กล้าแม้แต่นิดเดียวเชียวล่ะ ให้ผมแสดงออกทั้งสีหน้า ท่าทางไปตามบทไม่ได้เลยจริงๆ มีหลายครั้งในช่วงเรียนมหาลัยที่ผมพยายามแสดง แต่ผลสุดท้ายคือไม่ได้จริงๆ...งงกับตัวเองเหมือนกัน ทั้งๆที่เป็นคนปากหมา ทะลึ่ง และหน้าด้านพอตัว...
2.การเต้นไม่ได้อีกเหมือนกัน ฝันไว้ว่าอยากเต้นได้เหมือนบี้(ฝันค้างเลยกู)
3.การร้องเพลง ความสามารถเป็นศูนย์เช่นเดียวกัน ฟังเพลงได้ทุกแบบนะแต่ร้องไม่ได้ ฟังเสียงหมาหอนยังดีกว่า ...ผมเคยถูกโดนบังคับให้ขึ้นร้องเพลงครั้งแรกในชีวิตก็ตอนปี1(สงสัยปากดีเกินเหตุตอนช่วงรับน้อง)ตอนนั้นปีกยังไม่กล้าขายังไม่แข็ง เอ๋อๆอยู่ ก็เลยทำตามแบบงั้นๆ ผลสุดท้ายลงจากเวที ทั้งตัวไม่มีความรู้สึก อายไป3 ชาติ ทุกวันนี้ยังอายอยู่เลย
เพื่อนหลายคนบอกว่าการกระทำผมขัดกับบุคลิกตัวเองมาก เรื่องพวกนี้น่าจะทำได้สบาย แต่ความสามารถกลับติดลบ
(เห้ย...กูเขียนนอกเรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่วะ) โทษที สติผมกำลังกระเจิงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อยากเขียนอะไรก็เขียน...กลับมาๆเข้าเรื่อง ถึงไหนแล้วล่ะ...อืมเพลงความลับ
ขณะที่ผมนั่งอึ้งในความสามารถของเค้าอยู่นั้น(อยากรู้ชื่อคนนั้นจริงๆ..เคยจำแต่ลืมแล้ว)
“ปอมาดูคนนี้ดิ ร้องได้ทั้งเพลงผู้หญิง เพลงผู้ชายเลยวะ” ผมเรียกไอ้ปอให้ดู ขณะที่มันกำลังค้นหาของในกล่อง
“ไหนๆ” ไอ้ปอมองไปที่ทีวี
“นี่ๆ คนขวาสุด” กล้องกำลังถ่ายไปที่5สาวในชุดสีดำยืนเรียงกัน
“คนไหนวะมีตั้งเยอะ”กล้องกำลังแพนหน้าแต่ละคน
“มึงก็ดูให้มันเร็วๆหน่อย รู้ขวารู้ซ้ายป่าวเนี้ย”
“ดูนี่ คนนี้” ผมเดินไปทีวี เอานิ้วจิ้มหน้าเค้าให้มันดู
“ร้องเพลงเมื่อกี้เหรอ”
“เออ”
“เค้าร้องดังมาตั้งนานแล้วไอ้โง่”
“อ้าวเหรอ” (มิน่าล่ะ กูเคยได้ยินแต่ไม่รู้ว่าใครร้อง)
“ไปมุดอยู่รูไหนมา...เพลงนี้กูก็ร้องได้”
“จริงอ่ะมึงร้องเพลงเป็นด้วยเหรอวะ”
“อ่าไม่เชื่อๆมึงดูกู” ไอ้ปอลุกขึ้นยืนกลางห้อง กางขาทำมุม 30 องศา กำมือชิดปากเหมือนจับไมค์ ผมนั่งดูมันที่เตียง(มึงก็บ้าเนอะ ... ไม่อายตัวเองก็น่าจะอายกูบ้าง)
“ ปอดีใจที่ทุกคนมาคอนเสิร์ตปอในวันนี้” ไอ้ปอพูดพร้อมทำหน้าตาย ผมหัวเราะดังลั่น
“55+ไอ้ปอไอ้บ้าเอ้ย...ร้องอย่างเดียวไม่ต้องมีลีลาก็ได้”
“ถึงบัตรเข้าชมจะแพงแถวนั่ง5หมื่น แถวยืน 5 บาทแต่ทุกๆคนก็มาให้กำลังใจปอกันแน่น เจเจฮอลล์ เดอะ มอลล์บางกะปิ” ไอ้ปอพูดทำหน้าเหมือนเดิม ผมขำกลิ้ง (คิดได้ไงวะ...ว่าแต่ไอ้ที่พูดเคยไปยังเหอะ)
“ไอ้บ้าเจเจ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าอยู่เขตจตุจักรมันจะเป็นบางกะปิได้ไงวะ”
“เออช่างกูเถอะ กูไปเปิดสาขาไหม่ เจเจชลบุรียังมีเลย”
“เถียงข้างๆคูๆ”
“ผมมอบเพลงนี้ให้คุณทีครับ”และมันก็ร้องเพลงนี้จนจบเพลง(เออร้องได้จริงๆแฮะ...ไอ้นี่ชอบทำเก๊ก บทจะบ้าก็บ้าจริงๆ)
....นี่คือสิ่งที่ผมคิด เมื่อผมเดินผ่านร้านนั้นครั้งนั้นที่ฟังไอ้ปอร้อง ผมมีเสียงหัวเราะตลอดเพลงและมาครั้งนี้ผมกลับซึมตลอดเพลงเพลงเดียวกันแท้ๆ ผมเดินเอื่อยๆ เรื่อยๆจนมาถึงบ้าน
เห็นแม่เย็บผ้า นั่งฟังเพลงอยู่ในบ้าน แม่ผมชอบฟังเพลง ต่าย อรทัย มีทุกชุด ฟังเกือบทุกวัน
“กินข้าวยังที”แม่ทักผมเมื่อเห็นผมเดินเข้าบ้าน
“ยังไม่กินเลยครับแม่กินยัง”
“กินแล้วไปรีบไปกินได้แล้ว”
“ครับ” ผมรับปากแม่ เดินเข้าไปในครัวด้วยสีหน้าเศร้า ไม่ได้หิวหรอกนะครับ แต่กินแล้วจะได้เสร็จๆ อาบน้ำนอนระหว่างที่ผมนั่งกินข้าวสำรวจอาหารว่าจะตักอะไรเข้าปากก่อน
“เก็บเอาความหลายใจความหลายใจไปใช้ที่อื่น...” เสียงเพลงต่ายแว่วเข้าหูผม(สงสัยคนร้องรู้ว่ากูอกหัก) ผมนั่งฟังเรื่อยๆพลางกับเคี้ยวเอื้องบดข้าวในปาก จนเพลงนี้จบไป ยิ่งฟังก็ยิ่งเศร้า
“....ต้องท่องคำว่าทำใจ...” เพลงที่สองตามมาติดๆ (โอ้ย...ฆ่าไอ้ทีให้ตายเลยดีกว่า ต่าย อรทัย) ฟังดีๆ ด้วยเนื้อหาของเพลง+น้ำเสียงเศร้าๆ( ฟังต่อไปมื้อนี้คงได้กินข้าวกับน้ำตาแน่)ผมเก็บกับข้าวเข้าตู้ เดินออกมาจากครัว
“ทำไมกินเสร็จเร็วจัง” แม่ผมถาม
“ไม่ค่อยหิวนะแม่ เดินเข้าไปสำรวจกับข้าว ชิมอย่างละคำสองคำหิวเดี๋ยวลงมากินใหม่”
“ว่าแต่ฟังเพลงต่ายจนแผ่นจะทะลุแล้วแม่ร้องได้ยัง จะพาไปประกวดเดอะสตาร์ 55+”
“ไม่ไหวหรอกแม่แก่แล้ว” แม่ผมพูดไปหัวเราะไปด้วย (แม่หัวเราะแต่ผมจะร้องไห้)
“ทีไปอาบน้ำก่อนครับแม่” ผมเดินขึ้นห้องไป
วันนี้ ไร้เงาหัวไอ้ปอเลยเว้ยมันคงเลือกได้แล้วสินะ
...
“ก๊อกๆๆ”ครั้งนี้เคาะเสียงแบบนิ่มนวล ผมเดินไปเปิดประตูตกใจครับมันคือไอ้ปอ (หลังจากหายตัวไป 3 วัน) มันไม่เปิดพรวดพลาดเข้ามา(จะมาท่าไหนอีกว่ะ)ผมให้คะแนน+1
“กรูมาเอาหนังสือ”
“อืม เอาดิ” ไอ้ปอมองมาที่ผมก่อนจะไปหยิบหนังสือบนโต๊ะ แล้วเดินไปเปิดหน้าต่างและตะโกนออกไป
“รอแป๊บเดียวนะออย” สงสัยมันอยากให้ผมรับรู้ว่ามันพาคนมาด้วยผมเลยตอบสนองเดินไปที่หน้าต่าง เห็นผู้หญิงคนนึง หน้าตาใช้ได้ยืนอยู่ที่รถ
“อืมก็สวยดีหนิแฟนเหรอ” ผมพูดยิ้มๆมองหน้าไอ้ปอ
“แน่นอน ถ้าใครนั่งรถกูต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว” (กูก็เคยนั่งไม่เห็นมันจะวิเศษตรงไหนเลยวะ)ผมใจหายนิดหน่อย ต่อไปนี้กูต้องทำใจเป็นพี่มึงแล้วสินะ
“กูไปก่อนกูจะพาออยไปกินข้าว”
“อืม...โชคดี” ผมกลับมานั่งที่เตียง ไอ้ปอเดินออกนอกห้อง(ทำไมกูต้องสนใจมึงด้วยต่อให้มึงขนมาเป็นท้ายรถสิบล้อ เหมือนไปเล่นน้ำสงกรานต์ กูก็จะไม่สนแล้ว)
…………………………………………………………………………………………
หลังจากวันนั้นมันก็หายไปอีก 2 วันวันนี้เป็นวันศุกร์ในตอนเย็นถ้าผมว่างผมก็จะไปเดินตลาดหน้าศาลแต่วันนี้ว่างและไม่อยากไป ไม่อยากไปเจอบรรยากาศเดิมๆ ไอ้ปอโผล่มาที่บ้านผมในชุดเสื้อกล้ามกางเกงบอล เคาะประตูตามมารยาท ผมเปิด
“กูมาเอาถุงเท้า” มันพูด ผมงงๆ(มึงเคยลืมไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่)
“อืมหาเอาดิ” ผมมองทั่วร่างกายมันเห็นรอยสักต้นแขนขวา เท่าฝ่ามือ มันชำเลืองมองดูผมที่มองมัน
“สักมาเมื่อไหร่” ผมใจหาย เสมือนว่ามันไม่เชื่ออะไรผมอีกแล้วทั้งๆที่ผมเคยห้ามมัน (ให้คะแนน-50)
“เมื่อเช้า”
“แล้วไม่ได้ไปเรียนเหรอ”
“ไม่ได้ไป”ไอ้ปอตอบ ผมมองออกนอกหน้าต่างเห็นกระเป๋าสะพายตุงๆแขวนอยู่ที่รถ
ถึงตรงนี้ผมรู้ล่ะว่ามันโกหก มันคงเอาชุดที่เรียนใส่ไว้ในกระเป๋า ถ้ามันไม่ไปเรียนจริงๆมันคงไม่ต้องพยายามลงทุนทำให้เนียนหรอกใส่ชุดเทคนิคบอกว่าไม่ได้ไปเรียนผมจะเชื่อมากกว่า เพราะมันเป็นธรรมชาติพฤติกรรมมนุษย์ที่ทำผิด มักจะทำให้เนียนเวอร์เกินไป(ถ้าโกหก) ทำให้ผิดสังเกต และอีกอย่างไอ้เรื่องรอยสักสักมาเมื่อเช้า(ทำไมไม่เป็นรอยนูนแดงเลยวะ เข็มจิ้มเนื้อเลยนะเว้ย) แสดงว่านี่คือการเพ้นท์ดีๆนี่เอง... แล้วทำไมต้องพยายามทำความเลวให้ผมเห็นด้วย การโกหกครั้งนี้จึงเอาคะแนนไปอีก -10
“อืม” ไอ้ปออึ้งเล็กน้อย เพราะปกติถ้ามันไม่ไปเรียนมันจะไม่กล้าบอกผมหรอกไอ้ปอเดินออกไปทั้งๆที่ยังไม่ได้ถุงเท้า ปิดประตูดัง “ปัง” -1 ทันที
...
ผมปฏิญาณไว้กับตัวเองว่าจะไม่มีแฟนอีกแล้ว(ณ ตอนนี้คิดแบบนี้) แต่ เรื่องในอนาคตไม่สามารถหยั่งรู้ ...อาจเสียใจแค่ตอนนี้ หลังจากนั้น 100 วันหาใหม่เลย555+) ล้อเล่นครับ ผมคงไม่พยายามที่อยากจะมีอีกแล้ว สมมุติถ้ามีมาก็จะไม่รักมากมาย...สัญญาต่อหน้าคนอ่าน (จริงๆ) กลัวไม่เชื่อ
งอนนานไปปะ #ปอสู้ๆ ง้องอนรอวันคืนดี สุขีสุโข ขอบคุณมากนะ{:5_130:} ขอบคุณมากคับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
เข้มแข็งไว้นะที สู้ ๆ นะ ขอบคุณคับถ เอาแล้ว จะไปทิศทางไหนเนี่ย ขอบคุณครับ ตบอีออย -100เลย ขอบคุณนะครับ ขอบคุณครับ {:5_146:}{:5_141:}{:5_138:}{:5_139:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]
2