คำแนะนำจากนักปั่น
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ollo เมื่อ 2020-6-3 09:21ll"ฟิตตงฟิตติ้งอะไร ไร้สาระ" lll
======================
นี่คือความคิดของผม เมื่อนานมาแล้ว
และเมื่อผมมาประสบปัญหา มีอาการปวดเอว
ผมจึงมีความคิดที่อยากจะลองเสี่ยง เข้ารับการฟิตติ้งซักครั้งนึง เพื่อพิสูจน์ว่า ไอ้ที่เขาบอกว่า ปั่นจักรยานแล้ว ปวดเมื่อย เจ็บปวด ให้ไปฟิตติ้ง
มันจริงหรือเปล่า??
======================
หลังจากจบทริปล่าสุด 140 กม. แล้วไม่เจ็บปวด ผมถึงกล้ามาเขียนให้ทุกคนอ่านว่า "แม่งหายปวดแล้วโว้ยยย"
มันได้ทำให้ปั่นเร็วขึ้น (ก็ปั่นเร็วตามปกติ) แต่มันปั่นแล้วสบายใจขึ้น ไม่พะวงว่าจะเจ็บอีกต่อไป มาเลย คราวนี้ซักล้านกิโลยังไหว ถุยยยย
======================
เรื่องมันมีอยู่ว่า
ไอ้ผมอ่ะใช้เวลาอยู่นาน กว่าจะตัดสินใจได้ ส่วนนึงเพราะผมไม่ค่อยเชื่อว่าใครจะมารู้จักร่างกายผม มากกว่าตัวผมเอง และผมไม่ชอบให้ใครมา
จัดการชีวิตผม
แต่เมื่อมันถึงจุดๆหนึ่งนั้น เราก็ต้องยอมรับว่าเราป่วย และต้องการหมอที่เชี่ยวชาญในการรักษา มากกว่าการซื้อยามากินเองแบบเดาสุ่ม
วันนั้น ผมทรมานจากการปวดเอว เนื่องจากผมออกไปปั่นได้ระยะซัก 70 กิโลเมตร แล้วอาการปวดเอวเริ่มมาเยือน
ซึ่งจริงๆแล้ว มันปวดมาซักระยะแล้วแหละ แต่เป็นๆหายๆ เลยคิดว่าไม่น่าเป็นอะไรมั้ง แต่วันที่เกิดเหตุ มันเกินใจจะอดทนจริงๆ
ตั้งแต่ออกอาการมา ผมไม่สามารถปั่นก้มต่ำได้เลย ต้องยืดเอวตรงตลอด กับระยะทางอีก 60 กว่ากิโลเมตร ผมใช้ขาซ้ายแตะประคองบนบันได
กดไปเบาๆเพราะอาการปวดลามลงมาถึงขาขวา
ตอนนั้น Power ผมโชว์ตัวเลขที่ 80 วัตต์!!! (มันวัดจากขาซ้าย) ท่ามกลางความร้อนระอุ ของอากาศหน้าร้อน ยังมีน้ำตาจากความทรมาน
ของผมมาช่วยลดอุณหภูมิลง ผมปั่นกลับบ้านด้วยความเร็วไม่เกิน 25 kmh โดยพักแทบจะทุกๆ 10 km ทั้งลม ทั้งปวด จะขึ้นรถก็เสียศักดิ์ศรี
ถึงจะไม่ค่อยมีก็เถอะ
จบระยะที่ 135 km คำแรกที่ผมคิดขึ้นมาเลย "ร่างกายกูต้องการฟิตติ้ง"
========================
ระหว่างที่นอนนวดยาอยู่นั้น
ผมจัดการติดต่อ ช่างฟิตติ้งที่รู้จัก จากร้าน Wow on bike
เพราะ ผมคุยภาษาเดียวกับเขามั้ง เลยไว้ใจเขา
และดูจากผลงานที่ผ่านๆมา ค่อนข้างน่าเชื่อถือ
โดยมีเงื่อนไขว่า "รถผมปรับได้นิดเดียวนะครับ ไม่ซิ่งผมไม่ปั่น"
นายช่างบอกว่า "มาเหอะ มานอนคุยกันก่อน"
วันฟิตติ้ง ผมไปถึงหน้าร้านแต่เช้า นายช่างออกมาต้อนรับ บอกเข้ามานั่งก่อน
หลังจากนั้น.....ถอดเสื้อนอนคุยกันไปยันเที่ยงนายช่างบอก ปะกินข้าวก่อน ....ผมขอกะเพราหมูกรอบไข่ดาวนะพี่
========================
บ่ายการฟิตติ้งเริ่มแล้ว เริ่มจากนายช่างให้ผมคลานบนม้ายาวแล้วให้ผมลองเด้าดู
ผมก็เด้าสิครับฟืดๆๆ . . . รู้สึกเสียวแปร๊บบที่บั้นเอว.. นายช่างบอกว่า อืมมม เหมือนจะเจอปัญหาละ
นายช่างบอกว่า เอวผมมันไม่มีสปริง OMG
นายช่างบอกลุกขึ้นก่อน แล้วก็จับผมขึ้นเตียง ตรวจสอบกล้ามเนื้อผมทีละส่วน จนมาพบว่า ส่วนที่เรียกว่า บั้นเด้า มันล็อค ทำให้เอวไม่เด้ง
เหมือนข้อเหวี่ยงของลูกสูบที่ทำงานได้ผิดปกติ แล้วทำให้กล้ามเนื้อส่วนที่ปกติ ทำงานหนักขึ้น(เหมือนแบกภาระ) เลยเกิดอาการบาดเจ็บ(คือ
แกก็อธิบายเยอะอ่ะนะ แต่สรุปๆเอา)
คิดในใจ อ้าว ชิบหายแล้ว กูพิการหรอวะ
นายช่างบอกว่า เห้ยๆ มันมีวิธีแก้ ด้วยการทำเด้าบนวัสดุที่อ้อนนุ่มแต่มีน้ำหนักทำบ่อยๆแล้วมันจะดีขึ้นเอง แล้วแกก็ลองให้ทำดู (วัสดุที่อ่อน
นุ่มแต่มีน้ำหนักก็คือตัวนายช่างเอง)
ผมกับนายช่างแก้ผ้าเด้ากันซักพัก(ผมเด้า นายช่างเด้ง) เออว่ะ แม่งรู้สึกดีขึ้นเว้ย (ไม่ได้มโน)
หลังจากนั้น แกก็จับผมขึ้นปั่น วัดเบาะ ตำแหน่งต่างๆ ปั่นแล้วจัดบาลานซ์ลูกกะโปกไม่กดลงเบาะ(ขั้นตอนนี้ยุ่งยากนิดหน่อย คือไอ้ใบ้น้องชาย
ตัวแสบของผมมันคอยผงกหัวเล่นกับนายช่างอยู่เรื่อย)
หลังจากนั้นถึงหยิบไอ้เครื่องส่องๆ วัด (Dynamic fitting) ออกมา เริ่มวัด
อ้อ ปรับคลีทให้ด้วยเล็กน้อย แกบอกว่าระยะมันลงปลายเท้ามากไป จะทำให้ชาได้
หลังจากนั้นก็ ส่องๆ ปรับๆ
เอ๊ะ เบาะยืดได้อีกนะ ชักเบาะ ลองดูมุม เอ้อ เราปั่นไม่ค่อยแกว่งนะ ดีแล้ว มุมก้มได้อีกนะ ลองใช้ตัววัดสเต็มดูดิ๊
ลองนู่นลองนี่ สุดท้ายก็ได้ที่พึงพอใจ เหลือแค่ลองปั่น
ทั้งหมดนี้ ใช้เวลาไปยั๊นเย็นนนนน
ถามว่าทำนานไหม ก็ไม่นานมากหรอก แต่พอคุยกันรู้เรื่อง ก็คุยนอนกันยาวเลยทีนี้ ไม่ได้คุยเฉยๆนะครับ
เราปล่อยให้น้องชายของเราได้เล่นกันตามประสา แต่เจ้าสองตัวสิครับ...ซนชิ๊บ..อิอิ ทำเอาหน้าท้องของเราเปียกแฉะ
=========================
ปรับเสร็จแล้วเหลือแค่ลองปั่น กลับบ้านมาผมก็หัดเด้าทำท่าที่แกแนะนำมาอ่ะแหละ แต่ทำคนเดียวมันออกจะเบื่อๆ
แรกๆปั่นใกล้ๆยังไม่มั่นใจ
จนล่าสุดไปปั่นทริป องครักษ์ - เขาอีโต้มา ระยะทาง 140 km รวมขึ้นเขาด้วย จบทริปแบบสบายตัวไม่ปวดเมื่อย
แต่แสบแขน แดดเผารัวๆ
สรุปเลย หายแล้วครับ เชี่ย กับเงินที่จ่ายไป แล้วไม่เจ็บปวดแม่งมีจริง ใครไม่เคยเจ็บปวดระหว่างปั่นคงไม่เข้าใจหรอกว่าโคตรทรมานขนาดไหน
ไม่มีแรงปั่น กับปั่นไม่ได้มันต่างกันจริงๆ
========================
ใครสนใจ ลองติดต่อไปได้ ที่ Wow on bike แถวเกษตรนวมิทร์ ไปนั่งคุยเล่นก็ได้นะ ช่างเป็นกันเอง แกชอบแนะนำว่า "บางทีปัญหามัน
อาจไม่ใช่ที่ตัวรถ แต่อาจเป็นที่ตัวเรา"
ส่วนราคา มีสองแบบ
แบบจำกัดเวลา : 1500 , 2000
แบบไม่จำกัดเวลา : 3500
หรือใครมีร้านอื่นๆน่าสนใจก็แนะนำมากันได้นะครับ อยากปั่นบ้าง
อิอิอิ ขอบคุณ ความรู้ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากคับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ได้เสียวกำลังดี ขอบคุณนะคร้าบบบบบ ขอบคุนคับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุนครับ ขอบคุณครับ ปั่นจักรยานหรือปั่นอะไรเนี้ย{:5_146:}{:5_146:} ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]
2