ช่วยด้วย! ผมได้แฟน ไอ้เด็กช่างยนต์ ตอนที่ 33ไอ้ลูกแมวเอ้ย!!!
บ่นนำครั้งที่แล้วใครๆก็หาว่าไอทีปากจัด(จริงเหรอ..ไม่รู้ตัวเองมาก่อน)... อืมแต่ก็พอมีคนบอกมาบ้างแต่ไม่คิดว่ามันจะจริงสมัยเรียนมากกว่านี้อีกนะ(ยังมีมากกว่านี้อีก)ทำงานกลุ่มไม่ว่าจะงานเล็กงานใหญ่ ไอ้ทีได้เป็นประธานแทบทุกครั้ง(จริงๆนะ...ไม่ได้โม้) ส่วนใหญ่ก็จะโดนบังคับ (มึงอยากเลือกกูนักใช่ไหมมมม) ได้...แต่ทุกครั้งผมก็จะมีข้อตกลงชี้แจงกันก่อน กฎของผมคือ “ พูดข้อเท็จจริงและเหตุผล อย่าแสดงข้อคิดเห็นส่วนตัวและข้ออ้าง ...ทำผิดแล้วอย่าแถ อย่าโทษคนอื่น ให้รู้จักโทษตัวเอง…. นี่คือนิมิตหมายอันดีที่เราอยู่ร่วมกลุ่มกันนะสหาย”นี่แหละคือการปฐมนิเทศน์เพื่อนกลุ่มใหม่(ยื่นใบลาออกจากลุ่มไม่ทันแล้วด้วย) ...แต่อย่าคิดว่าใครอยู่กลุ่มไอ้ทีจะเครียด เพราะหัวหน้าพาบ้าถ้าเราอารมณ์ดีแล้วมันจะคิด และจำได้ดี (มีนะ...เคยสั่งคนในกลุ่มให้หัวเราะก่อนลงมือทำงาน555+....ไอ้พวกนั้นก็เสือกทำตามอีก) เน้นฮาแต่มีสาระ นะเฟ้ยยเพื่อนบางคนบอกว่า“มันเป็นหัวหน้ากลุ่มรุ่นเดียวกัน รึอาจารย์ที่ปรึกษากลุ่มวะ55”
ตลอดเวลาที่เรียนก็จะเป็นแบบนี้ซะมากกว่า จนแทรกซึมเข้ากระโหลกทีละนิดจนปากเป็นแบบนี้ไง (ไม่จัดนะ ก็ไม่ได้ด่าใครหนิ) ผมด่าใครไม่เป็นจริงๆนะจะบอกให้ ไม่เคยด่าใครเสียๆหายๆ ไม่เคยด่าพ่อล้อแม่ ไม่เคยด่าใครหยาบคายนะเว้ยยยไอ้ทีก็มีจรรยาบรรณอยู่(จะมีก็กับไอ้ปอนี่แหละที่รุนแรงขึ้นมาหน่อย)
ตอน 33ไอ้ลูกแมวเอ้ย!!!
ถึงไหนแล้วล่ะ นานจนคนเขียนเริ่มจำไม่ได้แล้ว...(นั่งคิดย้อนไป ลำดับเหตุการณ์)....
ขณะที่ขี่รถกลับจากตลาดหน้าศาล
“ไปขี่รถเล่นไหม”ไอ้ปอหันหน้ามาถามทั้งๆที่มันขับรถอยู่
“แหมมมสิ้นเดือนปุ๊บ ใช้หนี้อนาคตเสร็จหาเรื่องเสียตังค์เลยนะ” ผมรู้ดีว่าไปขี่รถเล่นมันไม่เสียค่าน้ำมันอย่างเดียวจอดที่ไหนมีเป็นต้องซื้อของกินที่นั้น
“ไม่กินไรแล้วสัญญาจริงๆด้วยเกียรติของลูกเสือรุ่นพี่เลยอ่ะ” มันชะลอรถเหมือนกำลังจะเลี้ยวโดยที่ผมยังไม่ได้ตอบตกลง
“พูดใหม่สิ ใครเป็นลูกเสือรุ่นพี่ กูต้องลูกเสือรุ่นพี่ ส่วนมึงเป็นแมวก็พอ 55+ ไอ้ลูกแมวเอ้ย!” ผมแซวมันเล่น
“กูเป็นลูกแมว มึงก็ต้องเป็นลูกหนูล่ะว่ะ” มันพูดเบาๆยิ้มๆเห็นไหมล่ะครับมันจะไม่ยอมให้ผมเกินมันไปได้เลย(กูก็ต้องไม่เป็นรองมึงเหมือนกัน)
“ปอพูดเบาๆกว่านี้หน่อยก็ได้กูได้ยิน” ผมกระซิบข้างหูมัน
“อ้าวได้ยินเหรอ 55+...งั้นกูเป็นพ่อเสือ มึงเป็นแม่เสือ ดีไหม”
“กวนส้นตีนกูลงไปเดี๋ยวมึงก็ได้กลับบ้าน”
“555+” มันหัวเราะสะใจเหมือนเอาชนะผมได้(ทั้งๆที่ยังไม่สิ้นสุด......สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร...ไอ้ปออออเอ๋ย..)ผมกับไอ้ปออยู่ด้วยกันเหมือนออกรบ(ด้วยคำพูด)ยังไงไม่รู้ ไม่มีหรอกที่เจอหน้ามันแล้วผมจะได้อยู่อย่างสบายปาก
“อะ........” ผมรีบเอามือปิดปากมัน ไม่ให้มันพูดต่อ
“เงียบไปก่อน ให้กูนั่งเฉยๆ พักสมองหน่อยกูขี้เกียจคิดคำพูด มาพูดกะมึง”
“มึงพูดกับกูใช้สมองขนาดนั้นเลยเหรอวะ55+”
“เออ กูคิดก่อนพูดไม่เหมือนมึง พูดก่อนไม่คิด”
“กูว่าแล้วเข้าตัวกูจนได้ไม่น่าถามเลย”
จริงๆแล้วไม่ได้ขี้เกียจพูดหรอกครับแต่มันขี่รถไปด้วย บางทีก็หันมาคุยกับผม มันเสี่ยงกว่าคุยโทรศัพท์อีกนะเว้ยย
มันก็ขี่ไปเรื่อยๆจนมาจอดที่แหลมแท่น บางแสน จอดบุ๊ปมันก็มองหาอะไรสักอย่าง (แน่นอนมันมองหาของกิน...ถ้าครั้งนี้เดาผิดให้แตะแรงๆเลยอ่ะ)
“ปอ ไอ้ลูกแมว มึงเพิ่งจะพูดว่าไม่กินอะไร ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยนะ” ผมพูดเบาๆมองหน้ามัน
“ลูกเสือรุ่นพี่กูขอกล่องนึงดิ” (กูว่าแล้ว...อ้อนวอนกูเรียกกูรุ่นพี่เลยนะ)
“โอ้ยยย ไอ้ลูกหมา มึงจะกินอีกแล้วเหรอวะ” (จากแมวมึงเป็นหมาแล้วนะ)
“โฮ้ยี่สิบบาทเองลูกเสือรุ่นพี่”
“โอ้ยยยย อีกแล้ววววเออ ไปไป กล่องเดียวพอเอากุ้งไม่ต้องเอาหมึก” มันเป็นเรื่องปกติครับที่มันมาจะกินกุ้งเต้นกะหมึกย่าง
“คร๊าบบบบพูดให้มันง่ายๆอย่างนี้สิว่ะไอ้น้อง 55+” พลางเอามือมาลูบหัวผม แล้วรีบวิ่งออกไป (ให้มันได้ยังงี้สิว่ะ ถ้ามึงไม่วิ่งมึงโดนเตะแน่)
หลังจากที่มันไปซื้อกลับมา ผมกับไอ้ปอเดินไปนั่งแหลม (ที่เป็นสะพานยื่นไปในทะเล)
“มึงชอบกิน มึงรู้ไหมกุ้งฝอยน้ำจืดนี่แหละ ตัวเพาะพันธุ์ไข่พยาธิเลยนะเว้ย”
“หยุดๆกูกินเสร็จแล้วมึงค่อยพูด”
“ช่างมึงเหอะ ท้องมึง พยาธิเต็มท้องแล้วมั้งเฮ้ย! พูดมาแล้วขนลุก” ผมทำหน้าเบือนๆ
“กูว่าแล้วรู้มากก็ลำบากตัวเองป่าวๆมองอะไรไปก็มีแต่เป็นพิษเป็นภัยไม่รู้อย่างกูดีกว่า กินได้ไม่ยั้ง” ไอ้ปอพูดทำหน้าตาเฉย
“เออ ตอนนี้มึงยังกินอร่อย ต่อไปก็คงนอนกินน้ำข้าวต้ม” (กินไม่เลือกเจ็บป่วยมาแล้วมึงจะรู้สึก)
“ป้อนกูไหมล่ะ มึงป้อน กูก็กิน” มันพูดพลางตักกุ้งที่เต้นๆเข้าปาก
“เออรีบกินเหอะกูว่ามึงคงอยู่ได้กินอีกไม่นานหรอก”
“ปากดีเสมอต้นเสมอปลายเลยจริงๆ แฟนกู ฝนจะตกน้ำจะท่วมไม่เคยเปลี่ยนแปลง”(มึงเปรียบเทียบซะ...กูยังเป็นคนอยู่รึป่าวว่ะ)
“ว่าแต่กูมึงก็ใช่ย่อยไอ้ปอมีบ้างมั้ยที่กูพูดไปแล้วมึงเงียบฟังเฉยๆ”
“ทีกูรู้แล้วว่าเคยมีครั้งนึงที่มึงเงียบไป ตอนที่มึงไม่สบายจำได้ป่าว มึงป่วยกับไม่ป่วยมันเป็นคนละคนกันเลยเว้ย55+”
“อ้าว ไอ้นี่ คนป่วยมึงจะให้แรงที่ไหนมาพูดวะ”
“โห้ที ขนาดมึงพูดน้อยแล้วนะ มันยังไปเท่ากับคนปากมากที่สุดในห้องกูเลยยยยนะเว้ย”
“เออ กูถือว่าเป็นคำชมแล้วกัน”
.......................................คุยไปมันก็นั่งกินกุ้งเต้นมันไป
“ว่าแต่บรรยากาศดีๆแบบนี้ มีกับแกล้มอร่อยๆ น่าจะมีเบียร์วุ้นๆสักขวด” มันพูดยิ้มๆ (ไอ้ปอออมากไปแล้วนะมึง)
“เอาดิสองขวดเลย กูกะมึงคนละขวด” ผมพูดมองหน้ามัน
“หน่ะๆ ไม่ได้มึงไม่ต้องกิน” มันรีบปฎิเสธก็ไอ้ที่ผมพูดไป ผมก็รู้คำตอบแล้วล่ะ มันไม่ชอบให้ผมกิน ที่ไปกินที่น้ำตก(ไปเที่ยวกับไอ้กบ)วันนั้นบนรถไอ้ปอก็สวดผมยับไปเหมือนกัน
“มึงจะกินแล้วยังอยากจะมาห้ามกูอีก”
“อ้าวก็มึงกินคออ่อนเมาแล้วไม่รู้เรื่อง”
“มึงน่ะคอแข็งตายล่ะกูเห็นเมาทีไรกูก็มาลากศพมึงกลับทุกที”
“กูไม่ได้เมามานานแล้วนะเว้ย”
“พูดเหมือนจะดูดีเลยเนอะ”
“กูก็ดีอยู่นะที กูคนดีนะเว้ยย”
“มากน่ะปอ มึงป็นคนดีมากกกกกกก กูไม่โทษมึงหรอกปอ สงสัย หลักสูตร สปช. สมัยเด็กมึงกับกูเรียนกลับกัน” (เด็กเอ๋ย เด็กดีต้องมีหน้าที่10อย่างด้วยกัน....สงสัยมันไม่เคยร้องเพลงนี้)
“555+ประชดกูหนิที่หนึ่ง” ไอ้ปอส่ายหัว หัวเราะเสียงดัง
“ว่าแต่อาทิตย์หน้าก็สอบ มึงอ่านหนังสือไปถึงไหนแล้ว” พูดถึงหลักสูตรคิดได้ เด็กในกรุงเทพมันก็เริ่มสอบแล้วหนิ
“กูว่าแล้ว กูพยายามพูดนอกเรื่อง มึงยังคิดได้อีกเนอะ”
“ทำตามที่กูเคยพามึงทำรึป่าวเกรดตกมามึงไม่อายเค้าเหรอ” (ออกตัวแรงเชียวนะมึงเทอมที่แล้ว 3.74)
“ยังไม่ได้อ่านซักกะตัว”
“ไอ้ปออออกูไม่มีเวลามานั่งติวมึงนะ”
“ไม่ต้องห่วงกูจบออกไปได้อยู่แล้ว”
“………….” ไอ้ปอโดนสวดยับ
“มึงพอจะมีเวลาว่างไหม” ไอ้ปอถามหน้านิ่งเหมือนเอาจริงเอาจัง
“ทำไม” (จะให้กูมานั่งติวเหมือนเมื่อก่อนเหรอ ฝันไปเถอะมึงงานกูก็ยุ่งอยู่แล้ว)
“กูจะจ้างมึงไปบรรยายให้ไอ้พวกเด็กเทคนิคฟัง” (ดูมันพูด ยังมาล้อเล่นอีก)
“เดือนหน้าก็จะยี่สิบแล้วนะปอ เลขสองนำหน้าแล้ว ใช้หัวคิดได้แล้วกระโหลกหนาๆมีไว้เก็บสมองไม่ใช่กระบอกสูญญากาศ”
“กูตื่นเต้นจังเลยวะยี่สิบครั้งแรกของกู55+” (เรื่องประชดกูหนิ ได้โล่เลยทีเดียว)
“บ้านมึงนะสิ มียี่สิบสองครั้ง”
“อ้าวเหรอมีครั้งเดียวเองเหรอ”
“มึงไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง”
“เออ เอาน่า ที กูไม่ให้เสียชื่อมึงหรอก กูเป็นลูกศิษย์อาจารย์ที ทั้งที มึงคอยดูเกรดกูไม่ตกชัวร์”
“เอาให้มันได้อย่าที่ปากมึงพูดเหอะ”
“ได้แน่นนอนแต่ตอนนี้กูขออนุญาติเปลี่ยนเรื่องคุย”
ที่ผมคาดคั้นมันเอาเป็นเอาตาย ผมก็ประเมินมันอยู่นะ ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้า สุ่มหกสุ่มเจ็ดและสุ่มแปด ไอ้ปอมันเป็นคนฉลาดและเก่งเลยทีเดียว(ก็ดูมันพูด มันคิดสิ) แค่จัดสรรความคิดให้มันเข้าระบบหน่อย(อย่าเพ้อเจ้อตามมันมากนัก) มันก็ทำได้และไปได้ดีเลยทีเดียว หลายเรื่องที่มันคิดได้(ทั้งๆที่ผมคิดไม่ได้)ถ้ามันโง่ เข็นยังไงก็เท่าเดิมผมคงไม่คาดคั้นมันขนาดนี้(โตขึ้นไปมึงจะเสียใจเองหรอก ที่มึงไม่ตั้งใจเรียนให้เต็มที่...เหมือนกูสมัยมัธยมถ้าตั้งใจมากกว่านั้น คงได้เรียนในคณะที่ชอบกว่านี้)
“ปออาทิตย์หน้ากูจะไปออกหน่วยอ่ะ”
“ไปที่ไหน”
“xxxx”
“โห้ ไปไกลจังอ่ะ”
“มึงจะให้มาตั้งอยู่แยกเฉลิมไทยไหมล่ะ” (แยกเฉลิมไทย คือแยกกลางกรุงมหานครชลบุรีเทียบเท่ากรุงวอชิงตันดี.ซี.เลยนะเว้ย55+)
“ไปกี่วัน”
“สองอาทิตย์”
“สองเลยเหรอโห้ อาทิตย์หน้ามึงก็ไม่ได้กลับอ่ะดิ”
“อืมมมันคืองานเข้าใจไหม”
“ม่ายยเข้าจายยย”มันพูดช้าๆส่ายหัวไปด้วย
“ไม่มีงาน ก็ไม่มีเงินมึงยิ่งกินเก่งอยู่ด้วย” พูดเอาใจมันหน่อย จะได้ไม่ทะเลาะกัน
“พูดซะมึงหาเลี้ยงกูเลยเนอะเงินกูก็กินเหลือใช้แล้ว มึงไม่ต้องทำงานก็ได้”
“โอ้โห้ เหลือกินเหลือใช้เลยเหรอเงินเดือนสามสี่พัน ...งั้นคนอื่นๆคงเอาทองไปถมที่เล่นแล้วมั้ง”
“สามสี่พันก็เงินนะเว้ยมีน้อยก็กินน้อยสิวะ”
“บอกมึงเองเถอะไอ้ปอ นั่งกินอยู่เนี้ย เงินทั้งนั้น”
“เงินเดือนมึงเยอะก็จริง แต่........เห้ย กูเบื่องานมึงว่ะ” (อ้าว มึงเบื่อแต่กูเป็นคนทำหนิ)
“เอาน๊าอย่าเครียดเอาเวลาไปเครียดที่มึงจะสอบดีกว่า”
“จะเอาไงดีล่ะกูต้องการกำลังใจในการอ่านหนังสือมึงไปแล้วกูจะสอบได้ไหมเนี้ย”
“มึงอย่ามาอ้างหาช่องทางออกตัวน่ะสิมึง”
“55+ รู้ทันกูดีฉิบหาย”
“อ้าวแน่นอน ไม่งั้นกูจะเป็นพ่อมึงได้เหรอ”
“อ้าวจากพี่ มันจะเป็นพ่อเว้ย...เดี่ยวกูจับทำเมียตรงนี้เลย จะได้เป็นทั้งพ่อ ทั้งพี่ ทั้งเมีย” ดูมันพูด
“อ้าวววววกูเพื่อนเล่นมึงเหรอเล่นด้วยหน่อยเดียวทำเป็นเลียปาก” ผมพูดมันยิ้มยักคิ้ว ทำหน้ามึนใส่ผมอีก....ไอ้ปอถอดเสื้อแขนยาวที่มันใส่มาให้ผม ก็ลมที่ทะเลดึกมันแรงจริงๆ
“ไม่ต้องมาสุภาพบุรุษ เพราะกูไม่ใช่สุภาพสตรี ลมทะเลไม่ใช่หิมะตก”
“อ้าว ไอ้นี่เดี๋ยวกูจับโยนลงทะเลเลยยิ่งว่ายน้ำไม่เป็นอยู่ด้วย ลูกทะเลอะไรวะ ว่ายน้ำไม่เป็น”
“มึงพูดยังงี้มันก็ไม่ถูก กูเกิดบนบกไม่ได้เกิดในน้ำไม่เหมือนมึงหนิครึ่งบกครึ่งน้ำสงสัยตอนเล็กๆอยู่ในน้ำแน่เลย55+”
“ไอ้บ้า กูไม่ใช่จระเข้นะเว้ย”
“ใครว่ามึงเป็นจระเข้ล่ะกูว่ามึงเป็นคางคก55+” ผมพูดและหัวเราะ ในขณะที่หัวเราะ
“จุ๊บ” มันประกบปากผมเบาๆ แล้วถอยหน้าออกไป ผมอึ้งสิ ไม่คิดว่ามันจะกล้า(ส่วนใหญ่ก็แค่ขู่ๆกันเล่น) ตาผมจ้องค้างค่อยๆมองไปหาหน้าไอ้ปอ
“ปากดีนักใช่ไหมวอนโดนมาหลายรอบแล้ววันนี้” มันพูดแล้วแลบลิ้นทำท่าจะมาเลียปากผมทำตาโตล้อเลียนผมอีก ผมเลยเอามือไปแปะที่ปากมัน
“เป็นไงล่ะรสชาติมือกูเค็มได้ที่ไหม...ไปกลับบ้าน”(กูไม่สามารถอยู่ตรงนี้ได้อีกแล้วกูอายยย...มีใครมองเห็นรึป่าววะ)
“เดี๋ยวสิจะรีบกลับไปไหนเมื่อกี้ยังปากดี เสียงแผ้วๆอยู่เลยไม่ใช่เหรอ” ไอ้ปอพูดยิ้ม มันรู้ว่าผมอาย มันเลยจะพยายามทำให้ผมอายต่อไป (รอให้ถึงทีมึงอายบ้างเหอะ)
“ไปกลับบ้าน” ผมสั่ง
“อายเหรอทีอายเหรอออ” มันก็ยิ่งพูด
“เออกูอาย แล้วทำไม” ยิ่งแสดงความอายมันยิ่งล้อ ยอมรับซึ่งหน้าเลยดีกว่า
“อ้าว ครั้งนี้ มัยยอมรับง่ายจังวะ”
“จะกลับรึไม่กลับ ไม่กลับก็ได้นะแต่พรุ่งนี้กูจะทำแบบทดสอบตามหนังสือมึง ถ้ามึงไม่กลับไปอ่านหนังสือแล้วทำไม่ได้มึงโดนแน่” (ไม่มีทางออกออกทางนี้แหละกู เอาเรื่องเรียนอ้างเข้าไว้)พูดกลบความอาย
“อ้างไปเรื่อย” (อ้าวรู้อีก)
“ไม่ได้อ้าง จริงๆ มึงลองดูดิ ถ้าพรุ่งนี้กูไม่ออกข้อสอบให้มึงมาเหยียบหน้ากูได้เลย” (กูก็พูดข้างๆคูๆเหมือนกันเว้ย....)
“เปลี่ยนจากเหยียบเป็นจูบอีกครั้งได้ป่าว55+” (มึงรู้ว่ากูอายยังมาเล่นอีก)
“เดี๋ยวมึงก็รู้ความปราณีไม่มีในโลกอีกแล้ว” ผมยิ้มกัดฟันพูด
“เอาล่ะๆกลับก็กลับ คืนนี้กูไม่อ่านนะ กูเหนื่อยพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องออกสอบ เพราะกูจะอ่าน” (ข้ออ้างมึงก็สารพัดใช่ย่อย)
หลังจากนั้นก็กลับบ้านกัน อาบน้ำ นอน ไม่มีไรเกิดขึ้น(มั้ง)
ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากนะครับ{:5_130:} ขอบคุณมากคับ ขอบคุณ ขอบคุณครับ ชอบ ตามต่อ ขอบคุณครับ
ขอบคุงคราฟ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เกิดอะไขึ้นบ้างน้าาาาา ขอบคุณคับ สนุกมากเลยคับ ฟินเรื่อยๆ ไม่เอาแบบเคล้าน้ำตาแล้วเด้อ ชอบน่ารักๆ แบบนี้แหละคับ {:sm-38:} มั่ง ใครจะยอม {:5_135:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]