คลินิกรัก(ษ์) บำบัด(ไข้)ใคร่ 18+ ห้องตรวจที่๒. น.พ สพล
ห้องตรวจที่๒.น.พ สพล ๕๐%“แกรู้ไหม คลินิกมารักษ์เนี่ย เขาว่าหมอหล่อและแซ่บมาก”เสียงเจื้อยแจ้วดังมาจากโต๊ะข้างๆของผมที่กำลังทานข้าวอย่างอร่อย และจดจ่ออยู่กับอาหารเท่านั้น
“จริงเหรอแก!! ฉันอยากป่วยแล้วสิ” สาวเสื้อขาวพูดขึ้นด้วยสีหน้าเพ้อฝัน
“โอ้ย!!! ป่วยธรรมดาไม่ได้กินหรอกนะยะ!!” ชายร่างน้อยที่มีท่าทางสะดีดสะดิ้งพูดพร้อมกับจิกตาใส่เพื่อนตัวเอง สาบานนะว่าพวกคุณเป็นเพื่อนกัน
“อ้าว!! แล้วฉันต้องตีลังกาป่วยเหรอ”
พรวด!!
“อุ แค่กๆ” ผมสำลักน้ำที่ดื่มเข้าไปจนหน้าแดงก่ำ ให้ตายเถอะนี่เขาถึงขั้นต้องตีลังกาป่วยกันแล้วเหรอครับ หมอมันจะหล่อลากตีนขนาดไหนนะ
“จะบ้าเหรอยะ!! ฉันหมายถึงโรคน่ะโรค!” หญิงสาวเสื้อขาวเอียงคอมองด้วยความสงสัยน่ารักดีแหะ
“ยังไง??”
“คลินิกมารักษ์จะรักษาเฉพาะโรค.......ทางเพศ”
หา!!!!!
“หา!!!!!” อ้าว นึกว่าจะมีแต่ผมที่หาอยู่คนเดียวแบบนี้ก็แสดงว่าผมได้ยินไม่ผิดสินะ คลินิกบ้าอะไรรักษาแค่โรคเพศวะ
“จริงๆย่ะ ฉันน่ะ ไปมาแล้วด้วย กรี๊ด!!” อ้าวพูดจบปุ๊บผีเข้าทันที เดี๋ยวนะ ไปมาแล้ว หืม???
“แกไปมาแล้วเหรอ!! หรือแกเป็นเอดส์!!!”
พรึบ!!
ทุกสายตาหันมามองเสียงของสาวน้อยที่ตะโกนออกมาอย่างตกใจ จากที่นั่งข้างๆกันอย่างปกตินี่กระโดดหนีกันแทบไม่ทันจนเพื่อนของเธอแทบจะกระโดดตบปาก
“จะบ้าหรือยะ!!! อย่างฉันจะเป็นโรคแบบนั้นได้ยังไง” เธอยิ้มแหยๆให้เพื่อนเธอ
“ขอโทษที ก็ฉันไม่รู้นี่ ก็แกบอกว่าโรคทางเพศแถมไปมาแล้วด้วยฉันก็นึกว่า....” อย่าว่าแต่เธอนึกเลยครับ ผมเองก็นึกเหมือนกัน
“ฉันหมายถึงอาการทางเพศย่ะยัยกวาง เข้าใจไหมเนี่ย”
“อ๋อ....พวกอาการจำพวก กามตายด้านอะไรพวกนี้นะเหรอ” ผมมองทั้งคู่ที่คุยกันอย่างออกรส
“ใช่ย่ะ แต่ถึงจะตายด้านยังไง ถ้าไปเจอหมอสามนะ โอ้ย!!!ขี้คร้านจะตั้งขึ้นมา” หมอสาม หรือว่า....
“หมอสาม?”
“ใช่แล้ว คุณหมอสพล คนที่ฉันไปรักษาไงล่ะ”
ว่าแล้วเชียว พี่หมอสามจริงๆด้วยถึงว่าสิสาวแท้สาวเทียมพูดถึงไม่ขาดปาก พี่หมอสามคือพี่ชายที่อยู่ข้างบ้านผมเองตอนเด็กๆเราเคยเล่นด้วยกันบ่อยๆ พี่หมออยากเป็นหมอมาตั้งแต่เด็กเคยจับกบมาทดลองผ่าท้องเอง จับสัตว์ต่างๆมาดูแลบ้างล่ะแต่ที่น่าเจ็บใจที่สุด! คือเมื่อ 9 ปีก่อน ตอนผมอายุ12ขวบ
“พี่สามมมมมมม” เจ้าของชื่อหันมามองผมด้วยรอยยิ้มเทวดา
“ครับบาสกลับมาจากโรงเรียนแล้วเหรอครับเนี่ย”
“ครับ!!” ผมยิ้มให้พี่สามอย่างดีใจพี่สามทั้งใจดี ชอบซื้อขนมอร่อยๆมาฝากผม บางครั้งก็พาไปกินไอศกรีมด้วยพี่สามลูบหัวผมอย่างเอ็นดู ก่อนจะจูงมือผมให้เดินตามไป
“พี่สามเราจะไปไหนกันเหรอครับ”
“พี่กำลังเรียนหมอบาสรู้ใช่ไหมครับ” ผมพยักหน้า
“ครับพี่”
“งั้นบาสช่วยทดลองเป็นคนไข้ให้พี่ได้ไหมครับแล้วพี่จะซื้อขนมจากมหา’ลัยมาฝากอีกนะ” ผมตาโตเมื่อพี่สามพูดถึงขนมอร่อยจากครั้งก่อน
“จริงเหรอครับ!!ได้เลยครับพี่!!”
“หึหึงั้นไปห้องพี่นะครับ วันนี้พ่อกับแม่พี่ไปข้างนอก พี่ต้องอยู่คนเดียว” พี่สามพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยสงสัยพี่สามจะเหงาแน่ๆเลย
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะอยู่เป็นเพื่อนพี่สามเองนะ” ผมกุมมือพี่สามเอาไว้ ส่งยิ้มให้พี่สามรู้ว่าผมจะไม่ไปไหนอย่างแน่นอน พี่สามกระชับมือผมแน่นขึ้นก่อนจะพาผมเข้าไปในห้องตัวเองมันหอมมากเลยครับ หอมแบบที่พอได้กลิ่นแล้วใจมันจะสั่นแปลกๆผมไม่รู้จักความรู้สึกแบบนี้เลย พี่สามดันร่างผมให้นั่งลงบนเตียงที่ถูกปูด้วยผ้าสีดำก่อนจะมานั่งข้างๆผม
“ผมต้องทำอะไรบ้างครับพี่”
“ช่วยถอดเสื้อผ้าหน่อยได้ไหมครับ พี่ต้องฝึกตรวจร่างกาย” เอ๊ะถอดเสื้อผ้าเหรอ ถึงแม้จะอาย แต่ขนมก็ลอยมากลบความอายจนหมดสิ้น ขนม ขนมจ๋า พี่บาสพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อขนม~ผมถอดเสื้อผ้าออกจนหมดนั่งรอพี่สามอยู่บนเตียง พี่สามดูเหมือนจะหาอะไรบางอย่างอยู่ที่ตู้ตรงข้างเตียง ผมได้แต่มองด้วยความไม่เข้าใจเมื่อพี่สามเดินกลับมาพร้อมกับหลอดอะไรสักอย่าง
“มันคืออะไรเหรอครับพี่” ผมชี้นิ้วไปที่หลอดแปลกๆในมือของพี่สาม
“อ๋อ.....อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการตรวจร่างกายของเราไงครับยังไงก็นอนลงเถอะ พี่จะได้เริ่มสักที”ผมค่อยๆล้มตัวลงไปนอนบนเตียงมองพี่สามที่เข้ามาใกล้ๆผมด้วยความสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ พี่สามวางหลอดนั่นไว้บนหัวเตียงก่อนโน้มตัวมาทาบทับบนตัวผมหนักอ่ะ
“พี่สามผมหนัก”
“ครับๆ” พี่สามจัดการดึงขาผมออกก่อนจะสอดตัวเข้าไปตรงกลางระหว่างขาผมแทน มือของพี่สามลูบไปตามตัวของผมก่อนจะหยุดอยู่ที่อกของผม พี่สามลูบไล้ไล่วนมันจนผมกำมือตัวเองไว้ข้างตัวแน่นมันรู้สึกแปลกๆ
“อือออ”
“อย่ากลั้นเสียงสิครับบาสเดี๋ยวพี่ตรวจผิดนะ”
“ขอโทษอ๊ะ อือ ครับพี่สะ สาม”
“ดีครับร้องออกมาดังๆเลย”ผมสะดุ้งเมื่อพี่สามดึงปลายยอดอกผมขึ้นอีกข้างก็ถูกมือหนาเขี่ยมันจนผมกระตุกร่างตามจังหวะ ความรู้สึกแบบนี้คืออะไรนะ
“อ๊าอื้อ มันแปลก อ๊ะ พี่สาม”ผมได้แต่กำมือลงบนไหล่หนาที่มีเสื้อสีขาวสวมอยู่จนยับ มันเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ผมเพิ่งจะเคยรู้สึก ผมไม่รู้ว่าคนอื่นๆเขารู้สึกเหมือนผมกันไหมไม่กล้าจะถามออกไป หรือว่า.....ผมจะป่วย
“พี่สามผมรู้สึก อื้อ แปลกๆ แฮกๆ ผมป่วย อ๊ะ เหรอครับ”
“ใช่แล้วบาสกำลังป่วย แต่ไม่ต้องห่วง พี่จะรักษาให้เองนะครับ”ว่าแล้วพี่สามก็ก้มลงมาบดจูบกับผมอย่างแรง ลิ้นถูกสอดแทรกเข้ามากวาดชิมไปทั่วทั้งปากผมเรียกร้องให้ผมตวัดลิ้นโต้ตอบกลับไป ผมได้แต่สั่นกับรสจูบที่ซ่าบซ่าน ยิ่งเมื่อปลายนิ้วบีบบี้อยู่ที่ยอดอกของผมก็ยิ่งสั่นไปทั้งร่าง ขาเล็กๆทั้งสองข้างของผมกางออกกว้างยิ่งขึ้นอย่างลืมตัว
“อืมอ๊ะ!”
“มันแข็งแบบนี้พี่ต้องลองชิมดูนะ ไม่อย่างนั้นมันอาจจะเกิดปัญหาทีหลังได้” พี่สามก้มหน้าลงจนริมฝีปากสัมผัสกับเม็ดเล็กๆสีชมพูที่ชูชันขึ้นมาท้าทาย ปลายลิ้นตวัดมันเข้าใฃไปในปากดูดดึนจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบ ผมได้แต่แอ่นอกรับปากร้อน มือทั้งสองข้างสอดเข้าไปในกลุ่มผมสีดำสลวยของคนบนร่าง เสียงหอบหายใจดังสลับกับเสียงครางเล็กๆของผมมันก้องอยู่ทั่วทั้งห้อง ผมรู้สึกได้ว่าเม็ดเล็กๆที่ประดับอยู่แผ่นอกมันร้อนมาก ปลายลิ้นยังคงทำหน้าที่เลียไปรอบๆสลับกับริมฝีปากที่ยังคงทำหน้าที่ดูดกลืนมันจนหายเข้าไปในปาก
“ยะ อ๊า” ฟันขาวขบเม้นและดึงเม็ดเล็กขึ้นจนสุดความยืดหยุ่นของร่างกายก่อนจะปล่อยมัน ผมดิ้นพล่านรับรู้ถึงบางอย่างเบื้องล่างที่เกิดการผิดปกติแย่แล้ว ผมป่วยแน่ๆเลย
“พะพี่อ๊ะ พี่สาม ผะ ผมเป็นอะไร อื้ออ ข้างล่างมัน อ๊า”
“เดี๋ยวพี่ดูให้นะครับ”สายตาคมเลื่อนลงไปมองกลางร่างของผมที่มีบางอย่างตั้งชันขึ้นมา คนตัวโตเลียปากราวกับว่ากระหายอย่างหนัก ความร้อนจากฝ่ามือที่สัมผัสตัวตนของผมทำให้ผมสะดุ้ง
“อ๊าอื้อ มัน อ๊ะ แปลก”มือของพี่สามขยับอยู่ที่ของผมมันเสียววาบจนผมต้องบิดตัว เสียงครางดังไม่ขาดปากน้ำใสๆเริ่มปริ่มออกมากจากส่วนปลาย
“มันพองขึ้นมาแบบนี้สงสัยจะมีอะไรไปอุดหรือเปล่า พี่คงดูดออกแล้วล่ะ”
“อะอะไรนะ อ๊า!!” ริมฝีปากพี่สามอ้ากว้างก่อนจะครอบครองของผมจนจมหายไปในปากร้อน ความร้อนกับความนุ่มที่มาพร้อมกับความคับแน่นทำให้ผมเผลอแอ่นสะโพกส่งตัวเองเข้าสู่ปากของพี่สามอย่างลืมตัว สะโพกผมขยับตามจังหวะการดูดกลืนตามความยาวของผมที่พี่สามเป็นคนชักนำ ในหัวของผมขาวโพลนรับรู้เพียงเสียงหอบหายใจกับเสียงครางของตัวเองและเสียงจากการดูดเลียสิ่งนั้นของผมที่ตอนนี้อยู่ในปากของพี่สาม พี่สามยังคงใช้ปากดูดกินมันอย่างไม่หยุดหย่นจนผมรู้สึกว่าบางสิ่งมันกำลังจะออกมา
“ไม่ไหวอื้อ ผม พี่สาม อ๊ะ ผมจะ”
“ปล่อยมันออกมาไม่งั้นจะไม่หายนะ”พี่สามละปากออกมาพูดกับผมก่อนที่จะกลืนกินมันอีกครั้ง พี่สามเร่งจังหวะของริมฝีปากราวกับต้องการในสิ่งที่มันกำลังรวมอยู่ที่ส่วนปลาย ผมเร่งสะโพกให้เร็วขึ้นก่อนจะปลดปล่อยออกมา
“อา......อร่อยจัง”ผมหอบหายใจก่อนจะหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้จำได้เพียงแต่ว่าตื่นมาอีกทีผมก็สวมเสื้อผ้ากลับถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว
ผมกำมือแน่นเมื่อนึกถึงสิ่งที่พี่สามมันหลอกทำกับผมที่อายุเพียง12ปีโดยที่ตัวพี่สามในตอนนั้นอายุ19ปี ไม่มีทางที่จะไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังทำคืออะไร เกลียด เกลียดมาก เมื่อผมอายุ14ปี เพื่อนๆผมก็พากันไปลองเรื่องแบบนี้ และผมเพิ่งจะได้รู้ในตอนนั้นว่าสิ่งที่มันทำกับผมนั้น มันวิปริต แต่ผมไม่สามารถบอกใครได้ แม้แต่พ่อแม่ของผมก็ตามท่านจะเชื่อหรือครับว่าคุณหมอสพลจะมาหลอกออรัลเด็กที่พ่อแม่ไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีอย่างผม เป็นไปไม่ได้ พูดไปก็มีแต่จะเข้าตัวหาว่าผมโกหกเสียมากกว่า เพราะงั้น ผมถึงปล่อยให้มันตายไปกับผม เพราะหลังจากที่ผมรู้ความจริง พี่หมอสามเองก็หายไปจากชีวิตผมไม่รู้ว่าเพราะเรียนหนักหรือละอายใจกันแน่ ตัวผมเองก็ไม่สนใจคนแบบนั้นอีกเหลือเพียงแค่สิ่งที่มันยังฝังใจเท่านั้น
ผมขับรถไปตามทางด้วยความสบายอารมณ์ วันนี้นัดกันไปกินเหล้ายังไงๆซะพวกมันก็ไม่กินเหล้าอย่างเดียวอย่างปากว่าแน่นอน หึหึ นิสัยพวกมันน่ะผมรู้ดี เพราะทุกครั้งที่พวกมันชวนผมออกไปพอขากลับก็หิ้วสาวกันกลับไปด้วยคนสองคน
“มาช้านะมึง!!” ผมเดินเข้าไปหาพวกมันที่โต๊ะด้วยท่าทางสบายๆ
“ทำไงได้ กูหล่อก็ต้องแต่งนานหน่อย”
“กูได้ข่าวว่าที่ต้องแต่งนานเพราะไม่หล่อไม่ใช่เหรอวะ”
ป๊าบ!!
“โอ้ย สัสบาส!!” ผมโบกหัวไอเกมส์ที่ปากหมาหาว่าผมไม่หล่อ
“มึงก็ไปแหย่มันไอเกมส์ ก็รู้อยู่ว่ามันไม่อยากได้ยินความจริง”
โป๊ก!!
“อ๊าก ไอเหี้ย!!” ผมตบหัวไอไวท์เต็มแรง ดิ้นไปเถอะมึงปากดีใส่กูกันจริง
“พูดถึงกูแบบนี้ คืนนี้ล้างแก้วแล้วกันน่ะครับเพื่อน” พวกมันพอได้ยินว่าผมงอนก็รีบประเคนเหล้าแทบเข้าปากผมเลยทีเดียว
“เชิญครับท่าน เชิญๆ อ๊ะเดี๋ยวครับท่าน เก้าอี้เปื้อนฝุ่นนั่งได้แล้วครับผมปัดแล้ว”
“มึงนี่ขี้ประจบฉิบหาย ท่านครับนี่เหล้าครับท่าน” ผมได้แต่ส่ายหน้ากับสิ่งที่มันทำ ดูไม่ออกเลยครับว่ามันแดกดันผมสีหน้าแม่งอย่างกับใส่ยาพิษให้กูแดกแบบนั้น
“เออๆ กูเลี้ยงอยู่แล้วน่า”
“ต้องงั้นสิวะ มึงไม่เลี้ยงกูก็จะจิกเงินในกระเป๋ามึงมาจ่ายอยู่ดี”ไอเลว
“แล้วนี่เป็นไงวะ จะแดกเหล้าอย่างเดียว?”ผมถามเพราะเห็นว่ารอบข้างมันไม่มีสาวๆสักคน มันสองคนยักไหล่ช้าๆ จิบเหล้าก่อนจะหันหน้าไปมองทางห้องน้ำ
“อ๊ะ มาแล้วๆ น้องหญิง น้องฟ้า น้องกวาง ทางนี้เลยค่ะ” ไอเกมส์โบกมือเรียกสามสาวที่ดูฮ็อตมาก!ผิวขาวตัวเล็กนมโตนี่สเป็กผมเลยครับ
“แหมฟ้าไปแป๊บเดียว พี่เกมส์คิดถึงฟ้าแล้วเหรอคะ”น้องฟ้าในชุดเดรสรัดรูปสีดำโชว์เรียวขาขาวนั่งบนตักของไอเกมส์ด้วยท่าทางยั่วยวนโดยมีมือไอเกมส์ลูบไล้ไปตามเรียวขาของเธอ
“ก็ต้องคิดถึงสิคะ เกิดมีใครฉุดน้องฟ้าไปพี่คงทนไม่ได้” ไอตอแหล!!!ผมล่ะอยากจะด่ามันเสียงดังๆแต่ติดว่าเกรงใจน้องๆสาวๆเนี่ยสิ
“มาครับหญิงมานั่งกับพี่ น้องกวางด้วยนะมานั่งกับเพื่อนพี่สิ นี่เพื่อนพี่ชื่อบาส” น้องหญิงมองผมยกยิ้มหว่านเสน่ห์ให้ผมโดยมีน้องกวางที่เห็นท่าทางเพื่อนตัวเองที่สนใจผมจึงชิงเดินมาข้างๆผมเสียก่อน น้องหญิงเลยได้แต่ปรับสีหน้าให้เป็นปกติทั้งๆที่สายตาส่งความโกรธไปให้กวางเต็มๆ เฮ้อ.....สาวๆก็คือสาวๆ
“เอาล่ะกินกันเต็มที่เลย ชน!!”
“ชน!!!”
พวกผมทั้งสามกับสาวๆอีกสามคนดื่มกันจนเมามาย ผมเห็นไอเกมส์กับน้องฟ้านัวเนียกันอยู่ที่โต๊ะก่อนจะขอตัวพากันไปเข้าห้องน้ำ ไอไวท์ก็นั่งมองตามไอเกมส์ไปไม่วางตาแต่ไม่ยอมลุกไปไหนแม้ว่าน้องหญิงจะยั่วแค่ไหมก็ตาม ส่วนผมพอดื่มเข้าไปหลายแก้วก็เริ่มรู้สึกมึนๆหนักๆที่ตาก่อนที่ความมืดจะบดบังทุกสิ่ง สติผมก็ดับไป
“มึงคิดว่าเราทำผิดหรือเปล่าวะไอไวท์” เสียงไอเกมส์นี่
“ไม่หรอก มึงอย่าไปคิดมากดิวะคิดซะว่าเร่งเวลาให้อะไรๆมันเกิดเร็วขึ้น”พวกมันคุยอะไรกันนะผมอยากจะลืมตาขึ้นมองเหลือเกิน แต่ความง่วงมันไม่ยอมให้ผมลืมตาเลย ง่วงเหลือเกิน
“อื้ออออ~” ผมบิดตัวไปมากับที่นอนนุ่มๆ เอ๊ะ! ที่นอนเหรอ
พรึบ!!
“พี่บาสตื่นแล้วเหรอคะ” ผมมองร่างขาวนวลที่นอนอยู่ข้างๆโดยที่เจ้าตัวไม่ได้ใส่อะไรเลยเชี้ย!! ขาวขนาดนี้ทำไมกูจำไม่ได้วะ
“เอ่อ น้องกวางเมื่อคืนเรา...” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ
“อ๋อเปล่าค่ะ เมื่อคืนเราไม่ได้มีอะไรกัน”
“หะ??” เป็นไปได้ไงวะ สวย ขาวขนาดนี้กูกลับไม่ลงมือ
“ไม่ต้องหะหรอกค่ะ ก็เมื่อคืนน่ะหนูทั้งใช้ปากใช้มือ ทั้งยั้วก็แล้วขึ้นให้ก็แล้ว ของพี่มันก็ไม่ยอมทำงานถามจริงๆเถอะค่ะ....พี่มีปัญหาทางเพศหรือเปล่าคะ” น้องกวางพูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด แววตาที่มองผมดูแคลนผมมากจนผมแทบกระอักเลือดตาย เป็นไปไม่ได้ ปกติมันก็พร้อมรบตลอดนี่หว่า ไม่เข้าใจเลย
“เป็นไปไม่ได้อ่ะ พี่ใช้งานมาปกติตลอดไม่เคยมีปัญหา”กวางได้แต่นักไหล่ราวกับว่าไม่ใช่ปัญหาของหนูผมกลัวว่ามันจะเป็นแบบนั่น อ๊ะผมคิดอะไรออกแล้ว!!
“น้องกวางลองกับพี่อีกสักครั้งไหม บางทีเมื่อคืนพี่อาจจะเมามากเกินไปก็ได้”กวางมองหน้าผมก่อนจะเลียริมฝีปากตัวเองอย่างยั่วยวน ผมดึงร่างขาวตรงหน้ามาประกบจูบสอดลิ้นเข้าไปชิมความหวาน กวาดต้อนกับลิ้นเล็กๆที่ตอบรับผมอย่างรู้งานกวางครางเสียงหวานอย่างพอใจ มือของผมป่ายไปตามเอวคอดลูบไล้ขึ้นมาจนถึงอกสวยที่มีขนาดล้นมือบีบเค้นมันเล่นอย่างสนุกสนาน
“ฮ๊า อืม อย่าเอาแต่บีบสิคะ”
ผมจูบไล่จากลำคอสวยลงไปจนถึงปลายยอดสีชมพูที่ล่อตาล่อใจจนผมต้องตวัดลิ้นเลียและดูดกลืนมันเข้าปากเรียกเสียงครางหวานๆจากกวางได้เป็นอย่างดี มือผมเลื่อนลงไปที่กลางตัวพยายามชอนไชนิ้วมือเข้าไปทักทางกับกลีบดอกไม้เล่น นิ้วผมขยับเข้าออกช้าๆจนรับรู้ถึงความเปียกแฉะบริเวณนั้นกับสะโพกเล็กๆที่ขยับตามจังหวะอย่างยั่วยวน ปากบางขบเม้มเข้าหากันก่อนที่เธอจะผลักตัวผมลงกับเตียงแล้วขึ้นมาคล่อมอยู่บนตัวผมแทน
“ให้กวางทำให้นะ”
กวางไล่จูบไปตามลำคอ แผ่นอกต่ำลงจนถึงสะดือลิ้นเล็กเลียไปมาในขณะที่มือเล็กพยายามรูดรั้งแท่งรักของผมให้พร้อมใช้งาน แปลก...ทำไมผมถึงไม่รู้สึกอะไรเลย นี่มันแปลกมาก!!
“คิกๆ ดื้อจัง สงสัยต้องใช้อย่างอื่น”
กวางอ้าปากรับแท่งรักเข้าไปจนสุด ขยับปากขึ้นลงขณะที่ตาของเธอลอบมองปฏิกิริยาของผม ผมมองความยาวที่ผลุบหายเข้าออกภายในปากเล็กโดยปกติแล้วผมต้องรู้สึกอะไรบ้าง แต่นี่ไม่เลย มันไร้ความรู้สึกมาก นี่ผมเป็นอะไร
“กวาง ขอโทษนะ พี่นึกได้ว่ามีธุระ”ผมดันเธอที่มองหน้าผมงงออกห่างหยิบเสื้อกับกางเกงมาใส่ลวกๆโดยไม่สนใจความเรียบร้อย ผมวางเงินเอาไว้ให้ค่าโรงแรมและให้เธอไว้กินขนมเล็กน้อย ผมมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องจัดการหาคำตอบ มันเกิดอะไรจึ้นกับผม ทำไมผมไม่รู้สึกถึงมัน ผมคงไม่ได้ตายด้านหรอกนะ“ว่าไงนะ!!!”ไอเกมส์กับไอไวท์ตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ๆผมก็เรียกพวกมันออกมาที่ร้านอาหารแล้วตัดสินใจบอกมันไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นของผมกับน้องกวาง
“มึงแน่ใจเหรอ มันอาจจะไม่ได้ร้ายแรงแบบนั่นก็ได้” ผมถอนหายใจเสียงดังจนพวกมันเองก็ขมวดคิ้วใส่
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆคือขนาดน้องกวางขาวสวยขนาดนั้นกูเห็นแล้วยังไม่ตั้ง นี่กูก็ลองให้น้องเขาใช้ปากให้ กูยังไม่รู้สึกเลย กูว่า....” ผมหลุบตาลงมองพื้นไม่อยากสบตาเพื่อนรักทั้งสองคน
“งั้น....มึงลองไปปรึกษาพี่ข้างบ้านมึงดูดิวะเปิดคลินิกรักษาทางนี้ไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่!!! กูรักษากับใครก็ได้ ต้องไม่ใช่มัน!” ผมขบกรามแน่นเมื่อภาพวันเก่าๆย้อนเข้ามาในหัวไม่หยุด ไอเกมส์กับไม่ไวท์มองหน้ากันอย่างชั่วร้ายก่อนที่ผมจะถูกหิ้วปีกขึ้น
“เฮ้ย!! ทำอะไรวะ ปล่อยกูนะเว้ยไอเพื่อนเวร!!!”
“อย่าดิ้นดิวะ กูจะพามึงไปรักษาไง”
พ่อมึงดิ ไปก็ใช่ว่าจะหาย แต่ไอพวกเพื่อนเลวของผมสองตัวมันไม่สนใจเอาแต่หิ้วผมขึ้นรถขับตรงไปยังคลินิกของพี่หมอ ผมทั้งดิ้นทั้งถีบแต่พวกมันก็ทนมือทนตีนสุดๆไม่ยอมปล่อยให้ผมมีโอกาสรอดเลย ไม่นานตัวรถก็เลี้ยวเข้าจอดหน้าคลินิกที่ใหญ่โตจนแทบจะเป็นโรงพยาบาลได้
“ไอเกมส์จับมันไว้....เดี๋ยวกูลงไปช่วย”
“ไอพวกเหี้ย ปล่อยกู!!!” ผมพยายามดิ้นหนีสารพัดวิธีแต่ก็ไม่ได้ผล ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาไม่เคยรู้เลยว่าพวกมันแรงเยอะกว่าผม
“มา! ไปข้างในกัน”
ผมถูกหิ้วเข้าไปทั้งๆที่ยังคงพยายามฝืนตัวไม่ตามมันไปแต่แรงผมคนเดียวหรือจะสู้ควายถึกสองตัวนี้ได้ บ้าชิบ!! ผมไม่อยากเจอหน้ามันเลย ให้ตาย ไอเหี้ยเกมส์! ไอเหี้ยไวท์! ถ้ากูหลุดไปได้ พวกมึงตาย!!!!
“คลินิกมารักษ์สวัสดีค่ะ” พี่สาวหน้าเคาท์เตอร์ส่งยิ้มเป็นทางการให้พวกผมทั้งสามคน
“เอ่อ หวัดดีครับพี่ พอดีผมอยากพาเพื่อนมารักษาครับ”พี่สาวคนเดิมส่งเอกสารที่หนิบจากโต๊ะให้พวกผม ไอเกมส์ถือไว้ก่อนจะเอามาอ่านดู ผมส่งสัยนิดหน่อยเลยชะเง้อคอมองว่ามันคืออะไรกฎของคลินิกมารักษ์ คืออะไรวะ
“ห้ามหึงหวงหมอ ห้ามเป็นเจ้าของหมอบ้าอะไรวะเนี่ย!!” ผมแหกปากลั่นจนคนทั้งคลินิกหันมามองผมอย่างสนใจจะไม่ให้เสียงดังได้ไงครับ กฎแบบนี้มันของพวกโฮสคลับมากกว่านี่มันคลินิกจริงกรือเปล่าวะ
“ไม่บ้าหรอกค่ะคุณน้องขา เดี๋ยวคุณน้องอยู่ๆไปก็จะเข้าใจค่ะว่าแต่นี่เลือกห้องตรวจไว้หรือยังคะ”
“ห้อง....”ผมกำลังจะอ้าปากบอกเลยว่าห้องไหนก็ได้ที่ไม่ใช่หมอสพลแต่ไอเพื่อนผมสองตัวดันแหกปากขึ้นมาก่อน
“หมอสพลครับ พอดีไอเพื่อนผมมันรู้จักกับหมออยู่แล้วน่ะครับ” ผมหันขวับไปมองไอไวทด้วยสายคาดโทษมัน ผมส่งกระแสจิตที่เรียกได้ว่าแทบจะแดกหัวมันอยู่รอมร่อ
“อ้าว!! จริงเหรอคะ งั้นเดี๋ยวพี่เรียกหมอสามให้ รอตรงนี้ก่อนนะคะ”
“ไม่ต้องครับ//ดีเลยครับ!!!”เสียงของผมดูไร้ประโยชน์มากเมื่อเทียบกับมันสองตัวกลบเสียงกูมิดเลยนะ ผมดิ้นหนีระหว่างที่พี่สาวคนนั้นเดินไปที่ห้องหมอ พี่หมอหันมามองทางพวกผมก่อนจะปิดประตูแล้วเดินตามพี่สาวคนนั้นมา
“สวัสดีครับบาส” ผมเมินหน้าหนีไม่สนใจ
ผลั๊วะ!! สัส ตบซะหัวจะทิ่ม
“มารยาทไอเหี้ยบาส พี่เขาทักมึงครับเพื่อน” ผมพึมพำปากให้มันอ่านพ่อ-มึง
“หวัดดี......ครับ” ไม่อยากต่อคำหลังเลย หยะแหยงปากมาก เกลียดมันขนาดรู้ว่าผมไม่เต็มใจจะทักมันก็ยังหน้าบานรับคำทักทายได้อีก
“งั้นผมฝากมันด้วยนะพี่ มันบอกว่ารู้สึกเหมือนจะตายด้าน” เชี้ย!!มึงไปบอกมันทำไมวะ ไอเพื่อนทรยศ
“กูหายแล้ว!! ปล่อยเลยพวกมึง!!” ผมดิ้นๆพยายามให้หลุดออกจากการถูกเพื่อนตัวเองจับไว้
“ถ้างั้นเชิญคนไข้ที่ห้องตรวจที่๒.เลยครับ” พี่หมอมันผายมือเชื้อเชิญให้ผมเดินตามไปที่ห้องอยากจะบอกเหลือเกินว่า ต่อให้เอาพยาบาลสวยๆมาลากกูก็ไม่ไปหรอกโว้ย!!
“ไปครับพี่!”
“เฮ้ย!! อะไร!! กูไม่ไปเว้ย!!”
ผมร้องลั่นคลินิก ผมไม่สนใจหรอกว่าใครจะมองหรืออะไรยังไง ขอแค่ผมไม่ต้องเข้าไปอยู่ในห้องสองต่อสองกับไอพี่สามก็พอ แต่แรงผมบอกแล้วว่าสู้ไอสองตัวนั้นไม่ได้ มันลากผมที่พยายามฝืนไว้ไม่ยอมให้มันลากผมเขไปในห้องง่ายๆ แต่สุดท้ายตัวผมก็ถูกโยนไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงใหญ่อยู่ดี คลินิกเหี้ยอะไรวะ แม่งมีเตียงใหญ่ขนาดนี้ ถ้าบอกว่าเป็นโรงแรมกูก็ไม่สงสัยเลย
“ฝากมันด้วยนะพี่!!”
“รักษามันให้หายนะเว้ยพี่สาม!” พูดจบพวกมันก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่สนใจหันกลับมามองผมอีก นี่พวกมันเป็นเพื่อนผมใช่ไหมครับ พี่หมอกับพี่สาวคนสวยหน้าเคาท์เตอร์มองผมยิ้มๆกับท่าทางของผมที่จะออกไปก็ไม่กล้าจะอยู่ก็ไม่อยากจะอยู่ผมที่ทำอะไรไม่ถูกคงแสดงท่าทางตลกๆอะไรออกไป เขาถึงมองผมกันแบบนั้น
“แล้วสัญญาละคะหมอสาม”
“ไม่เป็นไรครับ คนนี้เดี๋ยวผมดูแลเป็นกรณีพิเศษเอง”
พี่สาวคนสวยพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันมามองหน้าผมพร้อมส่งยิ้มมาให้ ผมได้แต่ยิ้มตอบกลับไปแบบไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ สถานการณ์ผมตอนนี้ไม่เหมาะจะยิ้มให้ใครหรอกครับ ชีวิตกำลังจะอยู่ในมือของปีศาจในคราบนักบุญ
แอดดดด ปัง!! กึก!!
ผมสะดุ้งกับเสียงปิดประตูของไอพี่หมอ แต่ที่ตกใจกว่าคือประตูคลินิกแม่งมีสองชั้นมันเป็นไปได้ครับเนี่ย พี่หมอล็อคประตูก่อนจะเดินมาหาผมที่นั่งอยู่บนเตียงกว้างด้วยใบหน้าอ่อนโยน เหอะ!!กูคงเชื่อถ้าไม่เคยเห็นว่าภายใต้ใบหน้านั้นมีอะไรเหี้ยๆซ่อนอยู่
“ไม่เจอกันนานเลย สบายดีไหมเรา”
“ก็ดี” พี่หมอส่ายหัวเมื่อผมตั้งท่าไม่อยากจะพูดด้วยกับเขา
“เรียนเป็นไงบ้างล่ะ” ผมยกยิ้มเย้ยหยันใส่พี่หมอสามก่อนจะแดกดันกลับไป
“หึ....ดีมากเลยครับ สอนให้ผมรู้อะไรหลายๆอย่างรวมถึงเรื่องนอกตำรา” พี่หมอสามยิ้มให้ผมอย่างไม่สนใจอะไรในสิ่งที่ผมพูด แถมยังพิงผนังเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์ ในห้องเงียบผมกับพี่สามไม่มีใครพูดอะไรออกมา สายตาผมกวาดตามองไปทั่วห้องส่วนพี่สามก็เอาแต่มองหน้าผมจนผมรู้สึกอึดอัดจนแทบอยากจะหายตัวไป แปลก...ความรู้สึกที่อยู่ห้องนี้มันไม่เหมือนเวลาที่ผมไปคลินิกแถวๆบ้านเลย มันให้ความรู้สึกเหมือน....เหมือนอยู่บ้าน เหมือนห้องนอนพี่สามวันนั้น ชิท! ดันนึกถึงมันขึ้นมาซะได้
“เอาล่ะ ไหนขอพี่ตรวจหน่อย”
“ตรวจ? ตรวจอะไร?” พี่สามไล่สายตาจนลงมาถึงเป้ากางเกงของผมจนผมต้องขยับตัวหนีสายตาคมคู่นั้น
“ก็.....ไม่รู้สึกตรงไหน พี่ก็ต้องตรวจตรงนั้น” อะ ไอโรคจิตพูดแค่นี้ทำไมต้องเลียปากด้วยวะ ฮืออออ ผมอยากกลับบ้านนนนน
“เอาล่ะครับ ถอดกางเกงออกแล้วลองช่วยตัวเองให้พี่ดูหน่อย”
“ห้ะ!!!!”
ผมร้องออกมาอย่างตกใจ พี่มันบ้าหรือเปล่าครับให้ผมช่วยตัวเองให้ดูเนี่ยนะ มันใช้อะไรคิด แต่ไม่ทันที่ผมจะได้ด่าอะไรพี่สามมันก็เหมือนจะล่วงรู้ความคิดจึงได้ยกมือขึ้นห้ามผมเอาไว้
“ไม่ใช่อย่างที่คิด พี่แค่ต้องดูปฏิกิริยาของอวัยวะเพศ ต้องตรวจสอบก่อน”
“ทะ ทะ ทีหลังก็บอกดิ!!”
ผมจัดการปลดเข็มขัดแล้วดึงกางเกงลงเล็กน้อยเพื่อจะได้ดึงแก่นกายของตัวเองออกมา ผมพยายามลูบไล้มันให้พองตัว แต่ไม่ว่าผมจะลูบไล้หรือชักมันแค่ไหนมันก็ไม่มีปฏิกิริยาเกิดขึ้นเลย พี่สามยังคงจับจ้องมาไม่ยอมหยุด ผมรู้ดีว่ามันเป็นงานเขาพยายามทำใจยอมรับแต่เรื่องในอดีตมันก็ทำให้ผมมองเขาในแง่ดีไม่ได้เลย พี่สามเดินเข้ามาใกล้ๆย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้าตัวเองเพื่อให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกับความเป็นชายของผม
“เฮ้ย!! ทำไรวะ!!” ผมร้องขึ้นเมื่อจู่ๆพี่สามก็เอื้อมมือหวมายจะมาจับเจ้าหนูที่นอนหลับอย่างสงบเงียบของผมจนผมต้องปัดมือใหญ่ออก
“พี่ต้องจับดูนะ ไม่งั้นพี่จะเช็คดูได้ยังไงตกลงอยากหายไหมเนี่ย” ผมลังเลก่อนจะยินยอมให้พี่มันจับ พี่สามพยายามลูบไล้ทำทุกๆอย่างเหมือนที่ผมทำ แต่อย่างที่บอกผมไม่มีความรู้สึกเลย ผมเริ่มกังวลกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ หรือผมจะตายด้านไปแล้วจริงๆ
“รู้สึกไหมว่าพี่จับอยู่”
“อืม แต่มันเบาๆ”
“งั้นต้องตรวจสอบทางอื่นแล้วล่ะ” พี่สามยืดตัวขึ้นยืนจนเต็มความสูง สายตาคมมองมาที่ผมด้วยแววตาจริงจังจนผมไม่กล้าขยับตัวไปไหนได้แต่รอพี่มันสั่ง
“บาสถอดกางเกงออกแล้วนอนคว่ำหน้าหันหลังยกสะโพกขึ้นสูงๆมาทางพี่ด้วยล่ะ”
ผมช็อคตาค้างกับสิ่งที่มันสั่งออกมา นี่จะให้ผมหันตูดใส่หน้ามันเนี่ยนะ ฝันเถอะ!! คนอย่างไอบาสไม่โง่รอบสองหรอกเว้ย!!กูไม่ได้อายุ12แล้วนะ
“เรื่องไรวะ!! ไม่ทำเว้ย!!”
“ถ้าไม่ทำ พี่ก็รักษาอาการไม่แข็งตัวของบาสไม่ได้นะ”ชิท!!ทำไงดีวะ ถ้าไม่เชื่อพี่มันผมก็กลัวว่าพี่มันอาจจะหลอกผมแต่ถ้าผมไม่ทำ ผมก็จะไม่หาย โว้ยยยยยหงุดหงิดๆๆๆ เอาวะ จบแล้วค่อยไปหาสาวๆมาลบภาพเอาก็ได้
“เออ! ก็ได้วะแม่ง”
พี่สามยิ้มให้ผมราวกับว่าผมตัดสินใจถูกแล้ว ผมหันหลังนอนคว่ำหน้าลงพร้อมยกสะโพกขึ้นสูง ผมกังวลได้แต่หลับตาปี๋ไม่กล้ามองอะไร แต่ผมลืมไปว่า ยิ่มหลับตา ประสาทสัมผัสอื่นๆก็ยิ่งทำงานได้ดียิ่งขึ้น
“อ๊ะ! อะไรวะ!!” ผมร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ทั้งเปียกและเย็นจนผมต้องส่ายก้นหนี
“อ่า....เจลน่ะ มันจะทำให้พี่ตรวจง่ายขึ้น”ผมคลายอาการเกร็งของตัวเองลงเมื่อรู้ว่ามันคืออะไร พี่สามยังคงป้ายเจลที่ช่องสีสวยก่อนผมจะรู้สึกว่านิ้วของพี่สามค่อยๆกดเข้ามา
“อะ เอาเข้ามาทำไม ผมอึดอัด” มันจุกๆแน่นๆจนผมต้องร้องถามพี่สามออกไป
“พี่ต้องตรวจภายใน ต้องตรวจให้หมดจะได้รู้สาเหตุที่ทำให้เราเป็นแบบนี้”นิ้วเรียวยังคงถูกกดเข้ามาจนผมรู้สึกได้ว่ามันลึกมาก พี่สามหมุนนิ้วไปมาราวกับหาอะไรสักอย่างก่อนที่มันจะถูกงอลง
“อื้อ พี่ทำอะไรกันแน่! ผมไม่ อื้อ ไม่ชอบ”
“เดี๋ยวสิ ขอพี่หาก่อน”
พี่สามยังคงควานนิ้วเข้ามาภายใน ดึงเข้าออกอย่างช้าๆแต่ยังไงมันก็อึดอัดอยู่ดี ผมไม่รู้ว่าการที่พี่สามทำแบบนี้มันจะช่วยให้รู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่ผมเป็นอยู่คืออะไร แต่เมื่อพี่สามเป็นหมอ(ที่ไม่น่าไว้ใจ)ผมก็คงต้องให้เขาตรวจผมให้ละเอียด
“อ๊ะ!!”
อะ อะไรกัน มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆผมรู้สึกว่าเหมือนถูกไฟช็อต ผมเผลอจิกนิ้วตัวเองลงบนเตียงใหญ่เมื่อนิ้วที่ถูกงอของพี่สามแตะโดนบางอย่างที่ช่องทางด้านหลังของผม พี่สามยกยิ้มอย่างพอใจกับมัน ราวกับว่าสิ่งที่กำลังหาเขาพบมันแล้ว
“ตรงนี้เอง”
“อือ อ๊ะ”
ผมร้อนวูบไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ความรู้สึกที่มวนๆที่ท้องเล่นงานผมจนหัวตื้อไปหมด นิ้วพี่สามเร่งเร้าเข้าออกเร็วขึ้นจนสะโพกของผมต้องขยับตาม ผนังร้อนๆกับนิ้วที่ยาวเสียดสีกันจนผมร้องครางออกมาอย่างสุดกลั้น ระหว่างที่ตัวผมเองกำลังมัวเมาอยู่ในความรู้สึกแปลกใหม่ จู่ๆตัวตนของผมก็ถูกบางอย่างที่ร้อนมากๆครอบครอง
“พะ พี่สาม!! หยะ หยุดนะ อ๊ะ”
จุ้บ จ๊วบ
เสียงการขยับปากที่กำลังดูดความแข็งแกร่งกลางร่างดังกระทบโสตประสาท แต่ผมก็ขัดขืนอะไรไม่ได้เมื่อนิ้วมือของพี่สามก็ยังคงชักนำความเสียวซ่านให้ผมได้เพลิดเพลินไปกับมัน พี่สามเร่งส่งนิ้วเรียวเข้าไปในตัวผมเพิ่มจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสามจนผมแทบไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองร้องครางมานานแค่ไหนแล้ว ปลายลิ้นตวัดไปตามรอยจีบที่ถูกนิ้วทั้งสามสอดแทรกอยู่ภายใน
“อย่าเลีย อ๊ะ มันนะ อื้อ มันสกปรก อ๊า”
แต่พี่สามไม่เคยฟัง ลิ้นร้อนยังคงสอดแทรกเพิ่มเข้าไปกับปรายนิ้ว ผมได้แต่เกรงร่างกายจนช่องทางก็ถูกบีบรัดให้เล็กลงไปด้วย แต่ไม่นานผมก็ลืมเลือนมันเพราะความเสียวซ่านที่ถูกปลายลิ้นปรนเปรอ พี่สามยังคงเอร็ดอร่อยกับการดูดเลียรูสีสวยที่เปิดกว้างแม้ไม่มีนิ้วสอดเข้าไปแล้ว แต่ก็ยังมีปลายลิ้นที่ทำหน้าที่แทน
แจะ แจะ จ๊วบ
ผมบิดร่างไปมาบนเตียงเผลอยกสะโพกขึ้นให้สะดวกแก่ตัวพี่สามที่กำลังดูดเลียมันอยู่ พี่สามดูจะพอใจกับการตอบสนองของผมมาก มือทั้งสองข้างของเขาจับยกก้นงอนของผมขึ้นมาแนบใบหน้าจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจที่เป่าโดนจุดอ่อนไหว ผมแทบไม่เชื่อเมื่อเห็นมันตั้งตระหง่านท้าทายสายตาทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่ยอมตื่นเลย แต่นี่แค่โดนพี่สามตรวจถึงกับตื่นขึ้นมาดูโลกเลยหรือพี่สามเก่งเกินไปแล้ว
“แฮ่กๆ”
“บาส.....พี่รอไม่ไหวแล้ว” หือ อะไร?? รออะไร??ผมไม่เข้าใจสักนิดว่าพี่สามพูดถึงเรื่องอะไร เพราะตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองล่องลอยอยู่บนอากาศ ถามว่าอยากจะรู้ไหม บอกเลยครับว่าไม่ ตัวผมในตอนนี้ลุ่มหลงกับความเสียวซ่านที่ได้รับมาก่อนหน้านี้อย่างมัวเมาจนไม่คิดจะสนใจอะไรใครอีก
หูของผมได้ยินเสียงปลดเข็มขัดของคนตัวสูงก่อนที่ผมจะรู้สึกว่าบนเตียงไม่ได้มีแต่ผมอีกต่อไป น้ำหนักที่ถูกกดลงมาทางด้านบนตัวของผม พี่สามซุกไซร้ไปตามลำคอของผม ลากไล้ปลายลิ้นสากลงจนถึงยอดอกสีสวย พี่สามมัวเมากับการดูดเลียยอดสีสวยที่ทำให้ผมต้องแอ่นอกรับริมฝีปากที่สัมผัสลงมา มือหนาของพี่สามจับขาของผมแยกออกจากกัน ผมรู้สึกถึงบางอย่างที่จ่อมาตรงจีบทางด้านหลัง
“บาส จุ๊บ บาสครับ พี่รอวันนี้มานานมากแล้วรู้ไหม”
“อื้อ อา”ผมได้แต่ส่งเสียงอืออาตอบพี่สามที่ยังมัวเมาอยู่กับยอดอกของผม
“อึก! โอ้ย!!!!”
ผมร้องลั่นเมื่อบางอย่างที่แข็งและร้อนถูกสอดแทรกเข้ามายังรูรักของผม แม้ว่าก่อนหน้านี้จะถูกสอดนิ้วเข้ามาถึงสามนิ้วก็ตาม แต่สิ่งที่ถูกสอดเข้ามาใหม่นั้นมีขนาดใหญ่กว่านิ้วทั้งสามมากจนผมรู้สึกถึงรูรักที่ฉีกขาด กลิ่นคาวของเลือดลอยแตะจมูกของผมจนต้องส่ายหน้าไปมา
“กรอด!! บาสอย่าดิ้นสิครับ”
“ฮือ ผมเจ็บ ปละ ปล่อยผม”
แม้ว่าน้ำเสียงของพี่บาสจะบ่งบอกถึงความอดทนทีใกล้จะหมดก็ตามทีแต่ผมที่เพิ่งพบเจอกับความเจ็บปวดราวกับถูกฉีกร่าง มันเจ็บจนร้าวไปถึงกระดูกสันหลัง ผมยังคงผลักไสดิ้นรนหนีจากแท่งร้อนๆที่ใหญ่คับรูรัก พี่สามคงรำคาญหรืออย่างไรไม่ทราบ เขาบดจูบลงบนริมฝีปากของผมสอดแทรกปลายลิ้นมาเกี่ยวกระหวัดชักจูงให้ล่องลอยไปตามเขา มือหนากุมแก่นกายของผมรูดรั้งมันเบาๆตามจังหวะจนแก่นกายที่อ่อนตัวจากความเจ็บปวดของผมกลับมาแข็งตัวอีกครั้ง
“อืม อ๊ะ”
พี่สามยกยิ้มเมื่อเห็นว่าผมเริ่มเคลิบเคลิ้มไปกับมันอีกครั้ง ความแข็งแกร่งที่ถูกสอดมาเพียงครึ่งเดียวเมื่อคราแรกถูกดันเข้ามาจนมิดจนผมสะดุ้งสุดตัว หลุดออกจากฝันหวานที่ถูกป้อนให้ อยากจะกรีดร้องแต่ก็ถูกริมฝีปากร้อนบดเบียดอยู่จึงไม่อาจจะส่งเสียได้ พี่สามขยับกายดึงแท่งที่ขยายใหญ่ของตัวเองเข้าออกรูรักของผม การเสียดสีของผนังอุ่นๆกับแก่นกายร้อนๆที่บดเบียดเข้าไปโดนบางอย่างที่อยู่ภายในซึ่งมันทำให้ร่างกายของผมร้อนรุ่มขึ้น ผมบิดกายอยู่บนเตียงที่มีคนตัวโตขยับโยกไปมาบนร่างของผม อารมณ์ที่ดับไปเพราะความเจ็บถูกจุดขึ้นมาใหม่เพียงเพราะความใหญ่โตที่อยู่ในร่างของผมสัมผัสกับจุดเร้า
“ซี๊ด รัดพี่ดีจังเลย” ช่องทางของผมบีบรัดจนพี่สามเงยหน้าขึ้นครางอย่างพอใจ ผมได้แต่หอบหายใจและส่งเสียงครางมือไม้อ่อนปวกเปียกจนไม่สามารถยกขึ้นมาได้ ทำได้เพียงจิกทึ้งผ้าปูเตียงระบายความเสียวซ่านที่รู้สึก
พี่สามเร่งจังหวะการขยับสอดแทรกให้เร็วขึ้นจนผมที่นอนอยู่ใต้ร่างดึงรั้งผ้าปูขึ้นมาตามแรงกระแทก
“อ๊ะ อื้อ อ๊ะๆๆ”
“ซี๊ด อา ดีไหมบาส”
ผมไม่ได้ตอบได้แต่ส่งเสียงครางกับจังหวะรักที่พี่สามเป็นคนชักจูง เมาอเห็นว่าผมไม่ยอมตอบพี่สามจึงสอดมือเข้าไปใต้เข้า ช้อนสะโพกของผมขึ้นมาจนผมผวาใช้มือทั้งสองกอดคอพี่สามเอาไว้ ตอนนี้กลายเป็นพี่สามยืนขึ้นเต็มความสูงโดยมีผมที่ถูกมือของพี่สามยกเอวขึ้นสูงทั้งที่ร่างของผมและพี่สามยังคงเชื่อมกันอยู่ก่อนที่พี่สามจะปล่อยให้สะโพกของผมลงมาจนสุดความยาว รูของผมดูดกลืนแท่งร้อนของพี่สามจนหมดสิ้น
“อ๊าๆ จุก อ๊า ผมจุก” พี่สามพาร่างที่ยังเชื่อมต่อกันของผมเดินไปทำให้แท่งร้อนถูกดึงเข้าออกภายในรูรักตามจังหวะการก้าวเท้าของพี่สาม ผมทั้งจุกทั้งเสียวซ่านจนต้องจิกเล็บลงบนแผ่นหลังของพี่สามอย่างแรง
“ซี๊ด อย่ารัดพี่แน่นสิครับบาส เดี๋ยวพี่ก็ทนไม่ไหวหรอก อ๊ะ อา”
ทันทีที่แผ่นหลังของผมสัมผัสกับความเย็นของผนังพี่สามก็กระแทกเข้าออกร่างผมอย่างแรงจนผมแกร็งร่างเงยหน้าขึ้นครางจนเสียงดัง แท่งร้อนยังคงถูกขยับเข้าออกด้วยความเร็ว ผมขมิบรัดตัวตนที่ใหญ่โตของพี่สามอย่างแรง
“อา ไม่ไหวแล้ว พี่ใกล้แล้วบาส”
“อื้อ อ๊าๆๆ ผม ผม ไม่ ไหว”
ผมถูกกระแทกกระทั่นจนหัวสั่นคลอน ส่งเสียงร้องครางอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่พี่สามยึดสะโพกผมแล้วโถมกายเร่งจังหวะที่กระแทกเร็วขึ้น ริมฝีปากของเราทั้งสองก็ดูดดึงกันและกันส่งปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันจนเกิดเสียง ผมขยับสะโพกตัวเองรับการกระแทกครั้งสุดท้ายรัดความใหญ่โตแน่นก่อนจะปลดปล่อยหยาดรักสีขาวขุ่นออกมาพี่สามกระตุกสองสามครั้งก่อนที่ความอุ่นซ่านจะถูกฉีดพ่นเข้ามาในตัวผมจนหมด พี่สามซบหน้าลงบนไหล่ของผมเราสองคนหอบหายใจกันอย่างแรงอย่างเหนื่อยอ่อน ช่องทางของผมขมิบถี่จนความใหญ่โตที่อ่อนตัวไปนั้นถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
“อา บาส ทำแบบนี้อยากได้รอบสองเหรอครับ” ผมตกใจเมื่อได้สติผมก็ใช้แรงผลักร่างของพี่สามออกอย่างแรง
“ปล่อยผมนะ!! พี่ทำบ้าอะไรวะ!!”
แม้ว่าจะใช้แรงมากแค่ไหนแต่หลังที่ชนผนังกับร่างใหญ่โตที่สอดแทรกอยู่ภายในทำให้ผมไม่สามารถหนีไปไหนได้ และมันกลายเป็นว่าตัวผมเองที่ขยับสะโพกเป็นจังหวะจนอีกคนครางอย่างพอใจ
“ซี๊ด ยั่วพี่เหรอครับ อา”
“ปละ เปล่านะ อย่านะ หยุด!!”
แต่ก็มีเพียงแค่เสียงห้ามเท่านั้น เมื่อร่างสูงขยับสอดแทรกความใหญ่โตเข้ามาจนลึกสุดความยาวสะโพกหนาหมุนคว้างอยู่ภายในร่างของผม จากที่ผมดิ้นรนหนีกลับกลายเป็นต้องขยับสะโพกส่ายรับอีกคนแทน เสียงครวญครางของผมและพี่สามยังคงดังอย่างต่อเนื่องรอบแล้วรอบเล่าราวกับว่าพี่สามเก็บกดและอัดอั้นมานาน ผมไม่รู้ว่าสลบไปตอนไหน รู้เพียงแค่ว่าผมตื่นมาอีกคนก็ยังไม่ยอมหยุดจนผมที่เหนื่อยอ่อนหลับไปอีกครั้ง เสียงดังแว่วของคนคุยกันมันทำให้ผมต้องหยีตาพยายามเปิดรับแสงที่ส่องใบหน้า ความเมื่อยล้าทำให้ผมไม่อยากจะตื่นขึ้นมา ผมยังอยากจะนอนต่อแต่เสียงที่น่ารำคาญทำให้ผมทนข่มตาต่ออีกไม่ไหว จะอะไรกันนักกันหนานะคนจะหลับจะนอนเสียงดังกันอยู่ได้
“พี่ทำแบบนี้ได้ไง สองผิดหวังกับพี่มาเลยนะ!”
“มันเป็นของพี่ สองก็รู้ดี” ผมลืมตาขึ้นมองไปยังร่างของพี่สามและพี่สอฃที่ยืนเถียงกันอยู่หน้าประตู
หืม?? ประตู??
ทุกๆเหตุการณ์ค่อยๆไหลกลับมารวมอยู่ในหัวผมอย่างรวดเร็ว นี่ผม ผมมีอะไรกับพี่สามมันไปแล้วเหรอ!! ให้ตายเถอะ ทั้งๆที่ควรจะรู้อยู่แล้วแท้ๆว่ายังไงๆพี่สามมันก็ต้องทำกับผมแบบนี้!!ผมลุ สกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วอย่างหัวเสียจนลืมไปว่าตัวเองเพิ่งจะเจ็บตัวมา
“โอ้ย!!!” เสียงร้องที่ดังออกมาจากปากผมทำให้พี่สามและพี่สองหันมามองก่อนจะถลาร่างเข้ามาหาผม
“เป็นไงบ้าง อย่างเพิ่งรีบลุกสิ” พี่สามพยุงผมขึ้นนั่งแต่ด้วยความโกรธจากเรื่องที่เจาทำมันทำให้ผมสะบัดตัวออกอย่างแรง
“ปล่อย!! อย่ามาจับ!!” พี่สามชะงักไปแต่ก็ส่งยิ้มให้ผมราวกับว่าไม่ได้ยินสิ่งใด
“อย่าดิ้นมากสิครับ เดี๋ยวก็เจ็บกว่าเดิมหรอก”
“พี่สามถอยไป!! สองจะพาน้องกลับบ้าน”ผมแทบจะกระโดดโผเข้ากอดพี่สองถ้าไม่ติดว่าผมเจ็บก้นก็คงทำไปแล้ว อยู่กับพี่สองดีกว่าเป็นไหนๆ พี่สองมักจะคอยดูแลผมเสมอ ทุกครั้งที่ผมถูกเพื่อนรังแก พี่สองจะวิ่งมาหาและปกป้องผม ผมยังจำได้ดี ทุกครั้งที่ผมมองพี่สองผมจะเห็นความสดใสที่มันเปล่งประกายออกมาจากตาคู่นั้น เมื่อไหร่ที่ผมได้มองแสงอบอุ่นมักจะถูกแผ่มาปกคลุมหัวใจของผมด้วย มันต่างจากพี่สาม แววตาของพี่สามเย็นชา ผมเห็นเวลาที่พี่สามคุยกับสาวๆถึงแม้จะมีรอยยิ้มบนใบหน้าแต่กวงตาที่มองพงกเธอกลับว่างเปล่า แต่.....เมื่อเขามองมาที่ผม สายตาของนักล่ามักจะปรากฏขึ้นมา มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกต้อน เหมือนเป็นกระต่ายที่กำลังถูกราชสีห์จับมาอยู่ในขอบเขตที่ไม่ว่าจะวิ่งไปที่ไหนก็ถูกตามเจอ ผมกลัวพี่สาม ใช่ กับพี่สามผมมักจะกลัวสิ่งที่แสดงออกมาทางสายตา
“ไม่ต้อง สองกลับบ้านไป พี่จะพาบาสกลับเอง” พี่สามยืนพิงประตูบอกกับพี่สองที่กางแขนออกปกป้องผมไม่ให้เข้ามาใกล้
“แต่น้องกำลังเจ็บ สองจะพากลับเอง!!”พี่สองสบตาคมของอีกคนอย่างไม่ยอมแพ้ ในขณะที่อีกฝ่ายได้แต่ยกยิ้มบางๆกับสองมือที่ถูกยกขึ้นมาอย่างยอมแพ้ ทำไมมันดูง่ายอย่างเหลือเชื่อ มันแปลก.......แปลกที่ใจของผมกระตุก เพียงแค่ท่าทีที่ไม่สนใจจะยื้อเอาไว้ของพี่สาม
“ครับๆ เข้าใจแล้วครับ”
ผมกำมือแน่นไม่เข้าใจกับอารมณ์ของตัวเอง โกรธ? เสียใจ?น้อยใจ?มันปะปนกันจนผมแยกไม่ออกว่าความรู้สึกไหนที่มันเด่นชัด แต่ที่ผมรู้แน่ๆตอนนี้คือผมไม่อยากอยู่ตรงนี้สักวินาทีเดียว
หมับ!
“พี่สอง ผมอยากกลับบ้าน พาผมกลับบ้านนะครับ” ผมกอดเอวพี่สองจากทางด้านหลังจนแน่น มือกำเสื้อของพี่สองเอาไว้อย่างสะกดอารมณ์ที่กำลังตีรวนขึ้นมาผมต้องการให้พี่สองพาผมกลับบ้านเพราะผมรู้ดีว่าตอนนี้ผมเดินไม่ไหว พี่สองหันมากอดผมเอาไว้ลูบหัวผมอย่างปลอบประโลม
“ครับ เดี๋ยวพี่จะพาเรากลับบ้านนะ” พี่สองขยับรั้งร่างผมให้ลุกขึ้นยืน ผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดที่ทางด้านหลังจนเซ ดีที่พี่สองรับผมไว้ได้ทันก่อนจะลัมลง ผมค่อยๆเดินไปพร้อมๆกับพี่สองผ่านหน้าพี่สามที่ยืนมองอยู่ ผมไม่สบตาอะไรพี่สามไม่อยากจะมองหน้าพี่มัน ไม่อยากเห็นสิ่งที่จะสะท้อนออกมาจากสายตาคู่นั้น พี่สามมองพวกเราที่เดินออกไปจากห้องโดยไม่พูดอะไรสักอย่าง
ผมกับพี่สองเดินออกมาจนพ้นตัวคลินิกพี่สองคอยพยุงให้ผมถ่ายน้ำหนักมาทางพี่สองเสียมากกว่า ดูแล้วพี่สองคงกลัวว่าผมจะเจ็บจนเดินไม่ไหวซึ่งตัวพี่สองเองก็กลัวจะอุ้มผมไม่ไหวเช่นกัน ทันทีที่พี่สองขับรถพาผมกลับบ้านน้ำตาที่กลั้นมาก็ไหลผมตัวสั่นสะอื้นไห้กับความรู้สึกที่ตีขึ้นมา พี่สองหันมามองผมเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองถนนอีกครั้งจะมีก็เพียงแค่มืออุ่นๆที่ลูบหัวผมเบาๆ ความอบอุ่นที่ได้รับมันยิ่งทำให้ผมปล่อยโฮ นานแค่ไหนแล้วนะที่ตัวผมไม่ได้ร้องไห้หนักขนาดนี้ มันนานมากแล้วสินะที่พี่ชายคนนี้ไม่ได้มาปกป้องผม แต่ตอนนี้พี่สองก็ปกป้องผมเหมือนเดิมทุกอย่างยังคงเหมือนเมื่อก่อนผมยังคงต้องพึ่งความอบอุ่นจากพี่สองอยู่ดี ตลอดทางจนถึงบ้านพี่สองไม่พูดหรือถามอะไรผม ผมคิดว่าพี่สองน่าจะรู้ว่าผมไม่พร้อมจะพูดอะไรตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าควรจะทำยังไง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมร้องไห้ทำไม จะถามว่าเสียใจเรื่องที่โดนพี่สามทำแบบนั้นไหมใช่ครับ แน่นอนอยู่แล้ว แต่มันไม่มากพอที่ผมจะร้องไห้ออกมาแบบนี้บางทีผมอาจจะต้องใช้เวลาเพื่อคิด ว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้ผมเสียใจ
“ถึงบ้านแล้วล่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นสบตาพี่สองก่อนจะหันไปมองบ้านของตัวเอง
“นั่นสินะครับ” ผมกำมือบนตักแน่นเหลือบตามองพี่สองที่นั่งนิ่งไม่พูดอะไรอีกผมเดาอารมณ์ของพี่สองไม่ถูกแต่รู้ว่าพี่เขากำลังคิดอะไร
“พี่สอง....”
“ครับ ว่าไง” ผมเม้มปากแน่นก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป
“อย่าเพิ่งบอกพ่อกับแม่ผม ได้ไหมครับ” พี่สองนิ่งไม่ยอมตอบอะไร ผมได้ยินเพียงเสียงถอนหายใจของพี่สองเท่านั้น
“ถ้างั้น.....เราบอกพี่มาสิว่า ทำไมไม่ให้พี่บอกท่านทั้งสองคน”
“ผมไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่ ตัวผมเองก็เป็นผู้ชายไม่เสียหายอะไรขนาดนั้น ให้เรื่องมันจบๆไปเถอะครับ” ผมสูดหายใจยืดอกขึ้นบอกพี่สองให้ได้เห็นว่าเรื่องแค่นี้ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่อะไรขนาดนั้น พี่สองมองผมกาอนจะลอบถอนหายใจอีกครั้งด้วยความหน่ายใจ ผมรู้ตัวว่าทำให้พี่สองลำบากกับเรื่องของผมแต่ผมเองก็ไม่อยากให้เรื่องมันบ่นปลายกว่านี้ ถ้ามันจบลงแค่นี้ได้ก็ดี อีกอย่าง.....พี่สามเองเขาก็ได้สิ่งที่ต้องการไปแล้ว คงไม่มานุ่งวุ่นวายอะไรกับผมอีก ให้มันจบไปก็ดีแล้ว
“กลับมาแล้วเหรอลูก อ้าว!! หนูสองทำไมมาด้วยกันได้ละคะ” คุณแม่ส่งยิ้มให้พี่สองที่เดินตามหลังผมเข้ามา ผมสบตาพี่สองเพื่อบอกเป็นนัยๆว่าห้ามลืมเด็ดขาด
“สวัสดีครับน้าฉาย พอดีผมไปเจอน้องที่คลินิกพี่สามน่ะครับเลยรับกลับมาพร้อมกัน” คุณแม่มีสีหน้าสงสัยเล็กน้อยกับคำบอกเล่าของพี่สอง
“แล้วเราไปทำอะไรที่คลินิกพี่สามเขาละลูก กลับไปสนิทกันแล้วเหรอ”
“เปล่าครับแม่ พอดีเพื่อนผมมันแกล้งเอาผมไปทิ้งไว้ที่คลินิกพี่สาม ผมเลยติดรถพี่สองกลับบ้านมาด้วย” คุณแม่พยักหน้าเข้าใจที่ผมพูด ผมจึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ถ้างั้นคุณน้าฉายครับ ผมลากลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ”
“อ๊ะ สวัสดีจ้ะ ว่างๆก็มาเล่นที่บ้านน้าบ้างนะคะ น้าคิดถึ๊งคิดถึง”
“ครับน้าฉาย” พี่สองส่งยิ้มสดใสให้แม่ผมก่อนจะหันมาสบตากับผมอีกครั้ง
“พี่ไปก่อนนะบาส”
“ครับพี่สอง ขับรถดีๆนะครับพี่” พี่สองขำกับคำพูดผมที่บอกออกไปแบบนั้น
“ฮ่าๆ แค่บ้านข้างๆพี่คงไม่ต้องขับดีๆก็ได้มั้ง”เออจริงด้วยแหะ บ้านพี่สองอยู่ข้างๆนี่หว่า ดันลืมเสียสนิท ผมหน้าแดงอับอายกับความขี้ลืมของตัวเองยิ่งได้ยินแม่ผมร่วมหัวเราะกับเขาด้วยผมยิ่งอายเข้าไปใหญ่
“ทุกคนแกล้งผม!!”
“ฮ่าๆ โอเคพี่ไปแล้ว วันหลังจะมาหาบ่อยๆ”
พี่สองโบกมือให้ผมก่อนจะเดินหันหลังกชับไปที่รถ วันนี้เจออะไรมาเยอะมากมายยิ้มได้แบบนี้ก็ดีแล้วสำหรับผม ผมอยากให้เวลาที่ผ่านมาในวันนี้กลายเป็นเพียงแค่ความฝัน เพราะถ้าหากว่ามันเป็นแบบนั้นได้ ทุกสิ่งทุกอย่างคงจะดีกว่านี้มาก ผมคงจะมองหน้าพี่สองได้อย่างเต็มตา พูดจากับพี่สามได้เต็มคำ ไม่ใช่อาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่รู้สึกอยู่ตอนนี้ ผมไม่อาจจะรู้ได้เลยว่า สิ่ฃที่พี่สามทำลงไปมันเป็นเพราะอะไร แต่เซ็กส์โดยทั่วไปมันไม่จำเป็นต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่าความรักเลย เพราะแค่อารมณ์ชั่ววูบมันก็เกิดขึ้นได้ไม่ยาก และกรณีของผมก็คงเป็นเช่นนั้น ผมลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดไปทั้งร่างเจ็บร้าวที่ด้านหลังจนแทบจะตะโกนออกมาดีหน่อยที่สำนึกทันว่าตอนนี้อยู่ที่บ้าน ขืนผมแหกปากร้องออกไปแม่กับพ่อผมได้เข้ามาถามกันยกใหญ่แน่ๆในเมาอเลือกที่จะจบมันผมก็ต้องทนกับมันให้ได้ แต่ว่านะครับ ลุกยากชะมัดเลย เจ็บจนแทบจะเดินไม่ไหวแถมรู้สึกว่าตัวจะร้อนๆเหมือนจะเป็นไข้ยังไงไม่รู้สิ อาการตกค้าฃจากเซ็ส์เมื่อวานหรือเปล่านะเฮ้อออ ชีวิตผมนี่มันซวยบัดซบจริงๆให้ตายสิ ผมจัดการตัวเองในห้องน้ำสักพัก แต่งตัวจนเรียบร้อยผมถึงได้เดินลงมาชั้นล่าง
“คุณแม่เองก็คิดถึงน้าฉายเหมือนกันครับ”
“แหม.....น้าเองก็ไม่คิดเลยว่า สามจะหล่อเหลาขนาดนี้”
พี่สามเหรอ??
ผมไม่รอช้าเพราะเพียงแค่ได้ยินชื่อพี่สามผมก็เลือกที่จะเดินลงบันไดมาอย่างเร่งรีบที่สุดแม้ว่าจะเจ็บมากเท่าไหร่ก็ตามที ตอนนี้ความเจ็บปวดไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ตัวปัญหาที่กำลังนั่งคุยกับแม่ผมต่างหากล่ะที่ใหญ่กว่า
“พี่มาทำอะไร!!” ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แทบจะตะคอกกลัว.....ว่าพี่มันจะพูดอะไรบ้าๆออกไป ถึงผมจะห้ามพี่สองไม่ให้พูดได้ แต่กับพี่สามมันคงไม่ง่ายแน่ พี่สามและแม่ของผมหันมามองผมทันที สายตาของแม่กำลังตำหนิที่ผมไร้มารยาทแบบนี้
“มาเยี่ยมน้าฉายครับ แล้วก็แวะมาดูอาการของบาสด้วย” ผมเกลียดรอยยิ้มบนใบหน้าพี่สามมาก เพราะสำหรับผมมันคือหน้ากากของคนๆนี้
“เอ๊ะ น้องบาสเป็นอะไรเหรอคะ ทำไมไม่เห็นบอกแม่เลย” ผมได้แต่กัดปากด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ผมอาจจะกระล่อนอาจจะดูเกเรแต่ผมไม่เคยโกหกแม่เลยสักครั้งเพราะแบบนั้นการจะโกหกแม่มันจึงเป็นเรื่องยากมาก
“ผะ ผมไม่ได้..”
“เรื่องนี้ผมผิดเองครับ!”
ขวับ!
ให้ตายเถอะๆ พี่มันพูดบ้าอะไรออกมาผมพยายามจะหาทางพูดไปเรื่องอื่นแล้ว การที่พี่สามพูดแบบนี้ยิ่งทำให้แม่ผมมีสีหน้าสงสัยเข้าไปอีกความเครียดและความกดดันมันทำให้ฟันที่ขบอยู่บนริมฝีปากถูกกดแน่นขึ้นจนได้กลิ่นคาวของเลือด
“หมายความว่าไงคะ น้าไม่เข้าใจ” พี่สามยืนขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะนั่งลงคุกเข่าตรงหน้าแม่ของผม
“ผมมีอะไรกับน้องไปแล้วครับ!!”
“หา!!!”
“ไม่จริงนะครับแม่!!!” ผมพยายามจะอธิบายว่ามันไม่จริงสักนิดแต่แม่ได้แต่หันไปมองหน้าพี่สามทีหน้าของผมที สายตาของแม่ไล่จากเส้นผมมาหยึดตรงที่คอของผมแม่ผมกุมขมับแน่นโดยที่ผมไม่รู้เลยว่าทำไม ตอนนี้ในหัวของผมพยายามจินตนาการเรื่องราวที่พอจะบ่ายเบี่ยงไปได้แต่ก็ไม่มีเลยมันดูจะมีความเป็นไปได้ที่เท่ากับศูนย์
“ตายจริง.......แบบนี้ น้าก็..” ผมรีบไปนั่งข้างแม่กอดแม่จนแน่นผมกลัวว่าแม่จะช็อค ผมไม่อยากให้แม่เสียใจที่ลูกชายคนนี้ตกเป็นของผู้ชาย ทั้งที่ผมคิดจะมีลูกมีหลานให้แม่แท้ๆ
“แม่ครับ มันไม่จริง..”
“ทำไมบาสพูดแบบนี้ละครับ พี่ทำผิดพี่ก็ต้องยอมรับผิด ในเมื่อพี่ล่วงเกินเราไปแล้วพี่ก็จะรับผิดชอบ คุณน้าฉายว่ามาได้เลยครับ ผมยินดีทำทุกอย่าง” ผมได้แต่มองหน้าพี่สามอย่าคาดโทษ ทำไมเขาจะต้องคอยมาจองล้างจองผลาญกับผมแบบนี้ด้วยนะผมไปทำอะไรให้พี่มันนักเหรอถึงไม่ยอมปล่อยผมไป
“ผมพูดความจริง มันไม่มีอะไรทั้งนั้นเลยนะครับแม่ผมไม่เคยมีอะไรกับพี่สาม!” แม่หันมามองผมเล็กน้อยเลิกคิ้วขึ้นราวกับจะถามหาความแน่ใจ
“ผมทำไปแล้วจริงๆครับ ผมผิดที่หักห้ามใจไม่ได้คุณน้าฉายว่ามาเลยครับว่าจะให้ผมทำยังไง”
“ถ้าอย่างนั้น.......”
“แม่ครับ”
“สามคงต้องไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่แล้วล่ะ ว่างานแต่งงานที่เราเคยตกลงกันไว้คงต้องกลับมาจัดอีกครั้ง” ผมไม่อาจจะคัดค้านหรือโต้แย้งอะไรได้เลยเมื่อแม่ของผมสรุปออกมาแบบนั้นผมมองหน้าของแม่ที่แม้จะปรากฏสีหน้ายินดีขึ้นมาแต่ก็มีแววตาที่เคร่งเครียดอยู่ไม่น้อยผมไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าแม่เองก็ลำบากใจ ไม่อยากให้ผมลงเอยแบบนี้ แต่ดูจากรอยยิ้มที่ไม่ได้มาจากการเสแสร้งแล้วผมคิดไม่ลงจริงๆจะว่าไปการแต่งงานที่เคยตกลงกันมันคืออะไรกันนะ
“ได้ครับน้าฉายผมคิดว่าแม่คงยินดีที่จะมาคุยเรื่องนี้แน่นอนครับ”
“แม่!! ผมไม่อยากแต่งกับพี่สามนะ ผมเป็นผู้ชายจะแต่งกับผู้ชายได้ยังไงกัน!!” คิดแล้วก็แค้นพี่สามมันกล้าดียังไงเอาเรื่องนี้มาบอกแม่ผม ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สามผมก็คงไม่เป็นแบบนี้
“ได้ยังไงกันล่ะเรา!! นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ ไม่เอาล่ะๆยังไงเรื่องนี้แม่จะจัดการเอง!”
“แต่ว่า....”
“หยุดเลย แม่ไม่อยากฟังแล้ว ยังไงซะ!! ลูกก็ต้องแต่ง” แม่ไม่สนใจว่าผมจะพูดอะไรเลย เพราะเพียงแค่พูดจบแม่ก็เดินหนีขึ้นไปข้างบนเสียแล้วตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่ผมกับพี่สามเท่านั้น ผมหันไปมองตัวต้นเหตุที่นั่งอมยิ้มอย่างสบายใจอยู่บนโซฟา
“ยิ้มบ้าอะไร!!” ผมถามด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“พี่มีความสุข ทำไมจะยิ้มไม่ได้ล่ะครับ” ผมกำมือแน่นกับสีหน้ายียวนของพี่สาม
“เชิญมีความสุขไปคนเดียวเถอะ!!” ผมเดินหนีขึ้นห้องไม่อยากอยู่คุยกับพี่สามอีกบอกเลยอารมณ์ผมตอนนี้คุยต่อไม่ไหวจริงๆไม่งั้นผมคงได้ต่อยพี่มันตรงนั้นแน่ผมเดอนฟึดฟัดปึงปังขึ้นบันไดมาจนถึงห้องตัวเอง แต่เมื่อผมสัมผัสประตูห้องกลับถูกใครอีกคนดันร่างเข้าไปพร้อมกับปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนาผมถอยหลังอย่างระแวงเมื่อพี่สามก้าวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น
“พี่เข้ามาทำไม!! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!”
“ก็บาสบอกให้พี่ไปมีความสุข”
“..!!” ยิ่งพี่สามก้าวมาใกล้เท่าไหร่ ผมก็ยิ่งถอยมาเท่านั้น
“แล้วพี่จะมีความสุขได้ยังไง ถ้าขาดบาส”
ตุบ!
ผมเสียหลักชนขอบเตียงจนล้มลงไป ร่างของพี่สามก้าวเข้ามาจนหยุดอยู่ตรงหน้ามือหนาลูบไล้จากข้อเท้าขึ้นมาเรื่อยๆจนผมต้องชักเท้าหนี พี่สามหัวเราะในลำคอเบาๆในขณะที่ร่างสูงค่อยๆแนบชิดลงมามากขึ้นและมากขึ้นจนทุกส่วนของร่างกายสัมผัสกันและกันผมหน้าแดงซ่านเมื่อเบื้องล่างของสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ตื่นตัวอยู่ใต้กางเกงสีดำของพี่สามยิ่งผมดิ้นรนหนีออกจากเรือนร่างใหญ่ผมยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไปกระตุ้นความต้องการของพี่สามมากขึ้น
“ปะ ปล่อยนะ!! นี่บ้านผมนะ!! อย่าทำอะไรบ้างๆ” ผมใช้เสียงดังข่มอีกฝ่ายเมื่อคิดว่าที่นี่บ้านของผม ผมจึงไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรเพราะเพียงผมร้องขอความช่วยเหลือทุกคนก็ต้องมาช่วยอย่างแน่นอน แต่อีกคนกลับยิ้มขำ
“หึหึ บาสกำลังคิดสินะ ว่าแค่ร้องให้ช่วยใครๆก็ต้องมาช่วยแน่นอน”
“..!!” มือใหญ่ไล้ปลดกระดุมเสื้อผมออกอย่างช้าๆ
“บาสอาจจะลืมไปว่า ถ้าร้องไม่ได้ ก็ไม่มีใครมาช่วย”
“ชะ ช่วย อุ๊บ!”
ผมเบิกตากว้างเมื่อริมฝีปากของคนเบื้องบนบดเบียดลงมาอย่างรวดเร็วราวกับรู้ว่าอย่างไรผมก็ต้องร้องขอความช่วยเหลือผมยกมือขึ้นทุบตีพยายามผลักร่างหนาที่แข็งแรงออกให้พ้นตัวแต่เขากลับไม่ขยับเลยสักนิดใบหน้าผมส่ายไปมาเพื่อหลบหนีให้พ้นจากปากร้อน แต่พี่สามก็ตามมาดูดดึงมันได้ตลอดไม่ปล่อยให้ผมได้ส่งเสียงร้องใดๆ
“อื้อๆ อ๊ะ”
พี่สามกัดลงบนริมฝีปากล่างของผมจนผมสะดุ้งและอุทานด้วยความเจ็บทันทีที่ผมเผยอปากออกลิ้นร้อนก็ถูกส่งเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กๆของผมผมถูกชักจูงให้ตอบรับจูบที่แสนหวานกลับไปอาการมึนงงเกิดขึ้นทุกครั้งที่ได้จูบกับคนๆนี้ พี่สามมักทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเองมือใหญ่แหวกสาบเสื้อออกลูบไล้แผ่นอกอย่างหลงใหล นิ้วมือสะกิดปุ่มเล็กๆไปมาบีบและดึงเล่นจนสนุกมือผมแอ่นอกด้วยความเสียวซ่านอดคิดไม่ได้ว่าพี่สามเก่งเรื่แงนี้จริงๆ
จุ้บ จ๊วบ
“แข็งสู้มือดีจังนะ มีแค่พี่หรือเปล่านะที่ได้ทำแบบนี้”ฝ่ามือใหญ่จับความแข็งแกร่งผ่านเนื้อกางเกงที่ผมสวมใส่ การตื่นตัวของผมมันรวดเร็วจนผมเองก็ตกใจเพราะเพียงแค่จูบผมก็แข็งขนาดนี้แล้วหรือ
“นะ แน่นอนว่าไม่ใช่!!” ต่อให้มันเป็นเรื่องจริงอย่างที่พี่สามว่าคนอย่างผมย่อมไม่มีวันพูดออกไปแน่นอน ผมขนลุกซู่เมื่อความดุดันที่ส่งผ่านสายตาคู่นั้นสะกดผมเอาไว้จนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจพี่สามกำลังโกรธ น้อยครั้งที่ผมจะเห็นสายตาคู่นี้แสดงอารมณ์และมันมักจะทำให้ผมกลัว
“พี่จะบอกเรื่องดีๆให้นะบาส”
“อึก อื้อ” ผมกัดริมฝีปากพยายามห้ามเสียงครางตัวเองเอาไว้เมื่อถูกบีบยอดอกที่ชูชันท้าทายสายตา
“ที่บาสไม่รู้สึกอะไรเลยจนต้องมาให้พี่รักษาให้ จริงๆแล้วเจ้าหนูของบาสน่ะแค่โดนยาชาเท่านั้น”อะไรนะ!! แค่ยาชา!! ผมตัวชาวาบเมื่อความจริงที่รู้มันทำให้ผมนึกไปถึงเหตุการณ์ต่อมาที่ผมต้องเสียประตูหลังให้พี่สามมันไป
“ไม่จริงน่า!!”
“หึหึ จริงสิ!! ก็พี่.......”
“...” ปลายนิ้วไล่ไปทั่วใบหน้าของผมพร้อมกับสายตาคมที่หยุดลงตรงริมฝีปาก
“เป็นคนให้เพื่อนบาส ฉีดให้บาสเอง”
“ไอเหี้ย!!! ไอเลว!! ปล่อยกูเดี๋ยวนี้!!!” ผมดิ้นรนหนีออกจากอ้อมแขนของผู้ชายตรงหน้าอย่างเหลืออด มันสุดจะทนเมื่อได้ยินเรื่องนี้ที่ออกมาจากปากพี่สามว่าเป็นพี่มันที่วางแผนทุกอย่างแต่ที่ทำให้ผมสติแตกที่สุดคือ การที่เพื่อนรักของผมสองคนร่วมมือกับมันด้วย!!
“จะดิ้นไปทำไมละครับเมีย ในเมื่อยังไงๆพี่ก็ไม่ปล่อยเมียไปอยู่แล้ว” ผมได้แต่กัดปากแน่นอย่างโกรธเคืองสองแขนถูกพี่สามยึดไว้แน่นกับที่นอน อิสระหายไปทุกอย่างมันดูเลวร้ายไปหมด ผมสะบัดหน้าหนีไม่อยากมองหน้าของพี่สามหยาดน้ำตาไหลรินจนเปื้อนหมอนผมไม่อาจจะกลั้นได้ไหวเมื่อได้รับรู้เรื่องราวที่สะเทือนใจแบบนี้
“จุ๊ๆ อย่าร้องไห้สิครับ ร้องไห้ทำไมล่ะ หืม?” คำถามที่คล้ายว่าจะห่วงใยแต่น้ำเสียงสดใสมันกลับไม่ใช่ความรู้สึกแบบนั้น เจ็บใจคำๆนี้วนเวียนอยู่ในสมองของผมกลั่นกรองจนมันแทบจะออกมาเป็นตัวอักษร
“ผมไปทำอัไรให้พี่นักหนา ทำไมพี่ต้องทำกับผมแบบนี้ด้วย!!!”
“ไม่เลย บาสไม่เคยทำอะไรพี่เลย”
“ถ้างั้นก็ปล่อย..”
“แต่บาสคือคนที่พี่รัก รักมาตลอด”
“..!!!”
“ตั้งแต่ที่พี่เห็นเราตอนเด็กๆ พี่ไม่เคยลืมรอยยิ้มที่บาสมักจะส่งมาให้พี่เสียงที่เรีกยพี่ด้วยความดีใจเมื่อพี่กลับมาจากโรงเรียน กลิ่นหอมที่ลอยมาแตะจมูกพี่เมื่อตอนที่บาสกอดพี่ทุกอย่างมันไม่เคยเลือนหาย”
“...” ผมตะลึงค้างกับสีหน้าและคำพูดของพี่สามที่พรั่งพรูออกมาไม่หยุด
“ยิ่งได้อยู่ใกล้ๆ พี่ยิ่งรัก ยิ่งพี่รักความต้องการมันก็ยิ่งชัดขึ้น จนวันนั้นที่พี่ทนไม่ไหวทำอะไรเราไปทั้งๆที่เรายังเด็ก”
“...”
“แต่พี่จะไม่ขอโทษ เรื่องที่เกิดขึ้น”
“เลว!!”
“ใช่ครับ เลว พี่ยอมเลว อย่างที่พี่บอกไปเรื่องที่เกิดขึ้นพี่ไม่ขอโทษ”
“ฮึก”
“แต่พี่ขอโทษ ที่หายไป”
“...!!” ผมอึ้งกับคำพูดของพี่สามที่อยู่ๆก็ขอโทษผมออกมาง่ายๆใบหน้าคมโน้มลงมาจนชิดใบหูของผม
“ขอโทษครับคนดี พี่ขอโทษ”
“ฮึก ฮือๆๆๆ”
แค่คำง่ายๆเพียงประโยคสั้นๆก็ทำให้น้ำตาผมไหลจนตัวเองคุมไม่อยู่ ผมสะอื้นจนตัวโยนร้องไห้ฟูมฟายเหมือนเด็กๆไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แค่คำว่าขอโทษทำไมผมต้องอ่อนไหวไปกับมัน แต่ผมรู้สึกได้หลังจากที่มองใบหน้าและคำพูดของพี่สามนั้นมันบอกผมได้ชัดเลยว่า ผมเฝ้ารอให้เขาพูดคำนี้มานาน กำแพงที่ตั้งสูงในหัวใจมันได้พังทลายลงจนหมดสิ้นผมคว้าร่างสูงเข้ามากอดจนแน่น พี่สามดูตกใจกับปฏิกิริยาของผมก่อนจะรวมผมเข้าไปกอดไว้เช่นกันผมใช้อกกว้างเป็นที่พักพิงแม้จะร้องไห้แต่ริมฝีปากของผมกลับมีรอยยิ้มปรากฎขึ้นมา หัวใจของพี่สามเต้นแรงจนผมรู้สึกได้มันน่าแปลกจริงๆที่เสียงหัวใจของเราทั้งสองคนเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน
“พี่หายไปไหนมา ฮึก พี่ทิ้งผมทำไม”
“พี่เรียนหนักมาก กว่าจะมีเวลามันก็สายไปแล้วบาสโตขึ้นจนพี่ไม่รู้ว่าจะเข้าไปหายังไง” ผมซุกใบหน้าลงไปสูดกลิ่นหอมของพี่สามด้วยความคิดถึง
“ผมรอขนมจากพี่มาตลอดเลยนะ นึกว่าพี่แค่สนุกๆกับผมผมนคกว่าพี่มีแฟนไปแล้ว” ฝ่ามือใหญ่ลูบศีรษะผมเบาๆ มันรู้สึกเหมือนพี่สามไม่กล้าแตะผมแรงๆกลัวผมจะแตกสลายไป
“พี่จะชดเชยให้ จะซื้อให้เรากินทุกวันเลยดีไหม” ผมพยักหน้าอยู่กับอกกว้าง เงยหย้าขึ้นส่งรอยยิ้มกว้างให้พี่สามจนตาหยี
“ครับ!!” มืออุ่นสัมผัสแก้มนุ่มของผมสายตาคู่นั้นของพี่สามดูหวานเยิ้มเมื่อมองผม
“จูบได้ไหม พี่จูบบาสได้ไหม” ผมจับมือใหญ่ที่แนบแก้มตังเองอยู่สบตาคมของพี่สามด้วยรอยยิ้ม
“ครับ”
ผมเงยหน้าหลับตาพริ้มรับจูบแสนหวานจากพี่สามอย่างเต็มใจ ริมฝีปากหนาดูดดึงกลีบปากผมให้เผยออ้ารับปลายลิ้นที่สอดแทรกเข้ามาพี่สามกวาดลิ้นไปทั่วทั้งปากลิ้มชิมความหวานทุกซอกทุกมุม ผมเกี่ยวกระหวัดตอบรับลิ้นหนาที่รุกไล้มาอย่างดุเดือดจนเรียกเสียงครางจากพี่สามได้ผมแอ่นอกขึ้นเมื่อปลายนิ้วเรียวสะกิดยอดเล็กๆมันเสียวจนความแข็งแกร่งเบื้องล่างของผมตื่นตัว
“อ๊ะ อืม”
พี่สามซุกไซร้ซอกคอพรมจูบและขบเม้นจนเกิดรอย ลิ้นร้อนเลียไปตามไหล่ลาดลงไปจนพบยอดเล็กสีชมพูพี่สามอ้าปากดูดกลืนมันเข้าปากอย่างหิวกระหายจนแผ่นหลังผมต้องยกขึ้นเพื่อส่งยอดเล็กเข้าปากหนาผมเสียวจนจิกผมพี่สามเพื่อระบายความเสียวซ่าน
“จุ๊บ อา หวานจังเลย เหมือนจะมีน้ำนมออกมาเลย จ๊วบ”
“อ๊า อย่า ดูด อื้อ แบบนั้น!”
ผมครางกระเส่ากับแรงดูดดึงที่ยอดอกสะโพกที่บัดนี้เหลือเพียงชั้นในตัวน้อยส่ายไปมาเสียดสีกับกายแกร่งที่ใหญ่โตพี่สามลูบไล้มือผ่านหน้าท้องของผมไต่ลงไปจนเจอความตื่นตัวฝ่ามือร้อนขยับรูดรั้งตัวตนของผมที่แข็งสู้มือจนมันขยายใหญ่ยิ่งขึ้นลากไล้ริมฝีปากลงมาขบเม้นสะดือสวยก่อนที่พี่สามจะอ้าปากครอบครองตัวตนของผม
“อ๊า อ๊ะๆๆ”
ผมร้องตามจังหวะการครอบปากขยับให้แก่นกายผมผลุบเข้าออกในปากใหญ่น้ำใสๆไหลออกมาจากมุมปากที่แลบลิ้นเลียไปมาที่แท่งร้อน พี่สามดูดส่วนหัวอย่างแรงเสียงดูดดังก้องจนผมนึกอายแก่นกายถูกครอบครองจนสุดความยาวอีกครั้ง ผมเด้งสะโพกขึ้นสวนกับปากร้อนที่อมมันไว้ผมจับศีรษะพี่สามกดลงมาให้ตัวตนผมเข้าไปอย่างแรงผมควบคุมความต้องการไม่ไหวพี่สามเก่งจนผมเร่งพาแท่งร้อนเข้าออกปากพี่สามด้วยความเร็วจนปลดปล่อยหยาดรักออกมาเต็มปาก
“อ๊า!!! แฮ่กๆ”
“หวาน หวานไปหมดทั้งตัวจริงๆ” ผมนอนหอบหายใจหมดแรงอยู่บนเตียงพี่สามปลดกางเกงออกดึงแก่นกายที่ขยายใหญ่จนแทบระเบิดมาตรงหน้าผม ผมมองพี่สามที่เลียริมฝีปากตัวเองก่อนจะหยุดมองความใหญ่โตที่ชี้หน้าผมอยู่ในตอนนี้อย่างตกตะลึงนี่นะหรือ ที่เข้ามาในตัวผมเมื่อคราวก่อน ใหญ่จัง
“ทำให้พี่หน่อยสิครับ พี่ไม่อยากทำร้ายบาสเลยพี่รู้ว่าบาสยังไม่หายดี เพราะงั้น อมให้พี่หน่อยนะครับ”
ผมเมื้อมมือไปจับมันอย่างกล้าๆกลัวๆมันผงกขึ้นทักทายเมื่อถูกผมรวบเอาไว้ต้องทำยังไงนะ ผมไม่มีปรพสบการณ์ร่วมรักกับผู้ชายมาก่อนซะด้วย เพราะแบบนั้นผมจึงทำได้แค่รูดมือขึ้นลงเป็นจังหวะ
“อา....เลียหน่อยที่รัก รักมันหน่อย”
ผมแลบลิ้นออกมาเลียบริเวณยอดปลายอย่างกลัวๆ กลิ่นคาวกับรสชาติที่หวานปะแล่มๆมันไม่ได้แย่อย่างที่ผมคิดผมจึงเลียมันอีกครั้งและคราวนี้ผมไม่กลัวอีก รสชาติมันหวานติดลิ้นมันชวนให้ลิ้มลองอีกครั้ง
“ซี๊ดดด อ้าปากหน่อยครับบาส” ทันทีที่ผมอ้าปากพี่สามก็ยัดสิ่งนั้นเข้ามาจนเต็มปากผม
“อ๊า เยี่ยม ห่อปากครับ ดูดมันแรงๆ ซี๊ดด แบบนั้นล่ะ”
“อุ อุ อั๊ก!!” ผมแทบสำลักเมื่อความใหญ่โตคับปากถูกกระแทกเข้ามาอย่างแรง
“ซี๊ด โอ้ว.....บาส เก่งจังเลยเมียพี่”
ตอนนี้ผมหูอื้อตาลายจนฟังอะไรไม่รู้เรื่องอีกแล้ว สิ่งที่ถูกกระแทกเข้าออกภายในปากผมมันทำให้ผมมึนงงรสชาติหว่นๆกับกลิ่นคาวๆและขนาดของพี่สามมันทำให้หายใจไม่ออก
“อ๊า พี่จะเร่งแล้วนะ ดูดไว้นะครับ อ๊า ซี๊ด โอ้ว”
“อุ อึก อ๊ะ จ๊วบ จ๊วบ”
ผมห่อป้าดูดแท่งร้อนในปากอย่างแรงพี่สามขยับสะโพกพาแท่งใหญ่เข้าออกปากผมอย่างรวดเร็วและรุนแรงน้ำตาผมไหลออกมาอย่างไม่อาจจะห้ามได้ พี่สามครางอย่างพอใจและเร่งจังหวะเข้าออกแรงขึ้นๆจนน้ำใสๆไหลออกมาจากปากผม
“อ๊า จะออกแล้ว อ๊า!!”
พรวด!!
หยาดรักรสหวานถูกปลดปล่อยมาล้นเต็มปากผมกลืนมันลงคอจนหมดเลียหยาดรักที่ไหลออกมาด้วยความเสียดายพี่สามดึงผมไปรับจูบดูดดื่มร้อนแรง สอดปลายลิ้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับผมอย่างรุนแรงจนเมื่อถอนริมฝีปากน้ำลายใสๆไหลเชื่อมกันอยู่
“แฮ่กๆ พี่สาม”
“อย่าทำเสียงแบบนี้สิครับ เดี๋ยวพี่ทนไม่ไหวขึ้นมาจะยุ่งนะ”
แม้จะพูดแบบนั้นแต่พี่สามกลับสอดปลายนิ้วร้อนเข้ามาภายในช่องทางของผมผมส่ายสะโพกยั่วยวนขมิบรัดนิ้วเรียวอย่างเชิญชวน ผมเห็นแก่นกายของพี่สามพองตัวขึ้นอีกครั้งผมใช้ปากรับความใหญ่โตนั้นเข้ามาอีกเงยหน้าขึ้นสบตาดูดความใหญ่โตโชว์จนพี่สามร้องครางนิ้วเรียวถูกดึงเข้าออกอย่างแรงโดยมีผมขยับสะโพกตามจังหวะ
“ฮึม!! พอแล้วครับ ถ้ายังยั่วแบบนี้พี่จะทนไม่ไหวเอานะ”ผมยอมคายแก่นกายของพี่สามออกมาอย่างเสียดายพี่สามเองก็ดึงนิ้วเรียวออกจากรูรักของผมเช่นกันผมหลุบตามองแก่นกายที่ยังพองตัวอยู่ด้วยรอยยิ้ม
“แล้วเจ้านี้ พี่สามจะทำยังไงครับ”
“งั้นเมียพี่ก็อ้าปากรับน้ำหวานพี่สิครับ เดี๋ยวพี่จะทำให้กิน”
ผมตาวาววับกับคำพูดของเขา นั่งอ้าปากรอตามที่พี่สามบอกอย่างเต็มใจพี่สามพาแก่นกายมาใกล้ๆปากผมแต่กลับมายอมให้ผมได้กิน พี่เขาเพียงแค่ใช้มือรูดรั้งอย่างแรงทั้งที่สายตายังมองปากของผมที่อ้าอยู่
“อ้าปากนะครับ ซี๊ด อา มันจะมาแล้ว โอ้ว”
ไม่นานหยาดนักก็พุ่งเข้าปากผมบ้างเลอะหน้าผมบ้างเต็มไปหมด ผมใช้นิ้วปาดเอาน้ำรักเข้าปากจนหมดพี่สามเห็นผมกินมันจนไม่เหลือก็ก้มลงมากอมแก้มผมอย่างเอ็นดู ผมกับพี่สามแต่งตัวกันจนเรียบร้อยจริงๆมันก็มีแค่ผมเสียมากกว่าที่ไม่เหลืออะไรบนตัวเลย ในขณะที่พี่สามยังอยู่ครบ
“จากนี้พี่จะไม่ปล่อยบาสไปอีกแล้วนะ” พี่สามดึงผมเข้ามากอดลูบหัวผมเบาๆ
“ครับ พี่เองก็คงไม่หายไปใช่ไหมครับ”
“แน่นอน!! พี่จะไม่มีวันหายไปอีก” ผมยิ้มกระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งขึ้นกลิ่นนี้ ความรู้สึกนี้ น้ำเสียงนี้ ไม่มีอะไรมาทดแทนได้เลย คนๆนี้คือคนที่ผมรอคอย
“หึหึ”
“อะไรเหรอครับ?” ผมถามเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะจากพี่สาม
“เปล่าครับ.....แค่หัวใจเราเต้นพร้อมกันเลย”
“อื้อ!! ก็ผมรักพี่นี่นา” ผมเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มหวานให้พี่สาม
“พี่ก็รักบาส รักมาตลอดและจะรักตลอดไป”
เรากอดกันอยู่อย่างนั้น สบายใจที่ได้อยู่ด้วยกันจากนี้ไปไม่ว่าอะไรก็พรากเราไปตากกันไม่ได้ผมเป็นของเขาและเขาก็เป็นของผม การยอมรับหัวใจตัวเองมันมีความสุขแบบนี้นี่เองรู้งี้ผมตามพี่สามไปนานแล้ว
The End
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ เรื่องน่ารักมากครับ ห้ามคนไข้หวง แต่คุณหมอหวงซะเอง เพื่อนสนิทก็ช่วยเหลือหมออย่างดีเลยนะ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ตาวจภายใน {:5_119:}สนุกมากๆครับ{:5_119:} ขอบคุณมากเลยครับ ขอบคุณครับ หมอคงไม่หลอกน้องนะ เดี๋ยวน้องจะเจ็บหนักกว่าเก่า ขอบคุณครับ ขอยคุณ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากนะครับ{:5_130:} ขอบคุณครับ อยากเจอหมออย่างนี้บ้าง จะยอมศิโรราบเลย