-เจ้าของคนโปรด-(6P/พีเรียด)บทที่สาม
#บทที่ ๓(คุณชาย เจ้าจอม วรินทร)
(คุณชายกลาง)
*คำเตือน Pedo femboy*
.
.
.
.
.
เจ้าจอม ยืนทอดสายตามองเด็กน้อยตัวขาวแก้มป่องวัยสี่ขวบที่กำลังนั่งเล่นคนเดียวอยู่ใต้ต้นลั่นทม เด็กชายวัยสิบสองกำลังขบคิดว่าทำไมพี่ชายใหญ่แลชายรองถึงได้เอ็นดูเด็กคนนี้หนักหนา
โดยเฉพาะพี่ชายใหญ่ทำไมถึงได้เอ็นดูเด็กอ้วนนั่นมากกว่าเขาผู้เป็นน้องร่วมมารดาเดียวกัน!
ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกมิชอบใจ
เขาเป็นน้องแท้ ๆ พี่ชายยังมิตั้งชื่อให้เลย
มันน่านัก!
เจ้าจอมสาวเท้าเดินเข้าไปหาเด็กน้อยที่พี่ชายใหญ่ตั้งชื่อให้ว่าคนโปรด ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าร่างอวบที่แหงนหน้าขึ้นมามองผู้มาใหม่
สองมือน้อยยกขึ้นไหว้อีกฝ่ายอย่างอ่อนน้อมแม้ว่าอีกฝ่ายจะตีหน้าบึ้งใส่ไหนจะเท้าที่เหยียบจานของเล่นของตนเองอยู่ก็ตาม
มิเห็นจะน่ารักเลย!
ดูแก้มนั่นปะไร..
"รู้จักฉันหรือถึงได้ยกมือไหว้"เอ่ยถามพลางยกแขนขึ้นมากอดอกใบหน้าเชิดขึ้นอย่างคนถือตัว
คนโปรดมิได้ตอบแต่พอจะเข้าใจที่อีกฝ่ายถามจึงพยักหน้ารับพลางคลี่ยิ้มหวานให้เด็กชาย
"ทำไมมาเล่นคนเดียว?"
'แม่..ไปงานค่ะ'
"แล้วเพื่อนเล่าไปไหนหมด?"เอ่ยถามออกไปเพราะเด็กชายไม่เห็นเด็ก ๆ คนอื่นอยู่แถวนี้เลย
ช่างกล้าปล่อยเด็กนี่ไว้เพียงลำพัง
มันน่าไปฟ้องพี่ชายใหญ่จริง ๆ
'ไม่มีค่ะ'คนโปรดเอ่ยบอกเสียงแผ่วนัยน์ตากลมหม่นลงจนคนแอบมองใจหล่นวูบอย่างมิรู้ตัว "เพราะแกชอบร้องงอแงล่ะสิ จึงมิมีใครเล่นด้วย"
'หนูเปล่า..'
"จริงหรือ แกมิงอแงจริง ๆ หรือ"
เจ้าจอมย่อกายลงจนทัดเทียมกับคนโปรดมือเล็กของเด็กชายวัยสิบสองยื่นออกไปจับแก้มนุ่มของคนโปรดทั้งสองข้างก่อนจะใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ดึงแก้มของคนโปรด เด็กน้อยวัยสี่ขวบแม้เจ็บแต่ก็ยอมทนมิได้ร้องไห้งอแง คนโปรดทำเพียงเม้นปากแน่นพลางช้อนตาขึ้นมองเจ้าจอม
ตากลมเอ่อคลอไปด้วยหยดน้ำตาเจ้าจอมจำยอมปล่อยมือออกจากแก้มนุ่มของคนโปรดที่ขึ้นสีจากการโดนดึง ฝ่ามือเล็กประคองใบหน้าของเด็กน้อยเอาไว้นิ้วโป้งเรียวเกลี่ยเช็ดหยดน้ำตาออกจากแก้มนุ่ม
"หยุดร้องเสีย..มันน่าเกลียด"
"หากหยุดร้องเราจะยอมลดตัวลงมาเล่นด้วย"
คนโปรดพยักหน้ารับพลางดึงชายเสื้อขึ้นมาปาดเช็ดน้ำตา เจ้าจอมมองเด็กน้อยตรงหน้าพลางส่ายหัวก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนเองยื่นส่งให้คนโปรด"ฉันให้"
เพราะอ่อนแออย่างนั้นหรือ
พี่ชายใหญ่แลชายรองถึงได้เอ็นดูและคอยปกป้อง
งั้น
ฉันก็ด้วย..ฉันจะคอยปกป้องแกอีกคน
สำนึกบุญคุณไว้เสียล่ะ
คนโปรด
.....
เจ้าจอมเดินหาคนโปรดอยู่นานสองนานเด็กชายอุตส่าห์ ซื้อขนมฝรั่งกลับมาฝากเด็กน้อยเพราะอยากเห็นรอยยิ้มหวานเหมือนตอนที่พี่ชายใหญ่ซื้อลูกชุบมาให้บ้าง
'สนเห็นคนโปรดหรือไม่?'เจ้าจอมเอ่ยถามลูกบ่าวคนหนึ่งที่คอยดูแลเด็ก ๆ คนอื่นในวังหากแต่สนเองก็มิทราบเพราะเขาพึ่งกลับมาจากโรงเรียน
'หากเห็นคนโปรดก็เรียกให้ไปหาเราที่ศาลาฝั่งซ้ายด้วย'
"ครับ คุณชายกลาง"
หากแต่เมื่อเจ้าจอมเดินออกมาไม่นานก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของใครบางคนดังแว่วมาจากเรือนคนใช้ในวัง สองขาก้าวเดินไปตามเสียงร้องนั่นโดยไม่คิดไตร่ตรองภายในใจของเจ้าจอมร้อนรุ่มเมื่อคิดว่าเจ้าของเสียงร้องเป็นคนที่ตนเองกำลังตามหา
เพียงแค่คิดเขาก็โกรธจนกำมือแน่นเสียแล้ว
ตาคมทอดมองกลุ่มเด็กเกือบสิบคนที่ยืนล้อมวงกันอยู่ เมื่อกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วมิเจอร่างอวบขาวราวกับหมั่นโถวเจ้าจอมจึงสาวเท้าเดินเข้าไปกลางวงล้อม เด็กทั้งหลายเมื่อเห็นผู้เป็นนายก็รีบคุกเข่าลงพลางก้มหน้าไม่ยอมเงยหน้ามองสบตาคนมาใหม่
คนโปรดนั่งกอดตุ๊กตาเด็กหญิงใส่ชุดกระโปรงสีชมพูที่บัดนี้หัวของตุ๊กตาหลุดกระเด็นอยู่ข้างกายเอาไว้แน่นพลางสะอื้นไห้จนตัวโย
'ใครทำ!'เจ้าจอมเอ่ยถามเสียงดังพลางกดสายตากวาดมองไปที่เด็ก ๆ นัยน์ตาคมเรียวฉายแววโกรธาออกมาอย่างมิคิดปิดบัง'เราถามมิได้ยินหรือ? หรือว่ามิมีปากถึงได้ยังนั่งเฉย'
'หากมิมีผู้ใดตอบ เราก็จะมิคาดคั้นเอาคำตอบ'เด็กน้อยทั้งหลายต่างโล่งใจเมื่อผู้เป็นนายบอกจะมิเอาความหากแต่ประโยคต่อมาก็ทำเอาเด็กทุกคนต่างร่ำไห้ออกมาพร้อม ๆ กัน
'สน! ไปตามมิ่งมาให้เราพร้อมกับหวาย!'
'มิอยากตอบก็ไม่ต้องตอบ แต่'
'เราจะไม่ยอมปล่อยให้คนที่มันอาจหาญมารังแกคนของเราลอยนวลหรอกนะ!'
'ใครผู้ใดที่มันทำให้คนโปรดร้องไห้ เราจะทำให้มันเจ็บเสียยิ่งกว่าที่คนโปรดเจ็บ จำใส่สมองเอาไว้เสียด้วย!'
มันเป็นใครถึงได้กล้าทำให้คนโปรดร้องไห้
คนโปรดที่โดนเราหยิกจนแก้มช้ำ
ก็ยังมิปริปากร่ำไห้แบบนี้
แต่
นี่มันต้องทำแรงถึงเพียงไหน
คนโปรดถึงได้ร้องไห้เสียงดังแบบนี้..
นับตั้งแต่วันนั้นวันที่เจ้าจอมได้ประกาศว่าคนโปรดเป็นคนในปกครองของตนเองก็ผ่านมาได้หกปีแล้วจากเด็กน้อยตัวขาวอวบเป็นหมั่นโถวในสายตาของเจ้าจอมกลายเป็นเด็กชายที่มีรอยยิ้มหวานกว่าผู้ใดในสายตาของเขา
โดยเฉพาะในเวลานี้
'ไยจึงทำหน้าราวกับว่าจะร้องไห้เสียล่ะ'
"โปรดเปล่าร้องนะครับ"
'เราเห็นอยู่ว่าแกตาแดง'
"ฝุ่นมันเข้าตาน่ะครับ.."
'งั้นเราจะเอาออกให้เองดีไหม?'
"ม..มิดีครับ โธ่คุณชายกลางอย่าแกล้งโปรดสิครับ"
'เราแกล้งตรงไหน?'เจ้าจอมเอ่ยถามพลางจุดยิ้มมุมปากในขณะที่เด็กชายวัยสิบขวบที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นมีสีหน้าราวกับจะร้องไห้ก็มิปาน
จะไม่ให้คนโปรดทำหน้าแบบนั้นได้อย่างไรก็ไหนเมื่อเขากำลังอยู่ในชุดกระโปรงลายตารางสีแดงที่มีระบายลูกไม้สีขาวตรงชายกระโปรง
คุณชายกลางแกล้งโปรดอีกแล้ว!
'คนโปรดของเราไหนลองยิ้มหวานให้เราดูหน่อยได้หรือไม่?'
คนโปรดคลี่ยิ้มหวานตามที่ผู้เป็นนายร้องขอแต่เขารู้ว่ามันคือคำสั่งต่างหากแต่ถึงจะรู้คนโปรดก็ยังคงยิ้มหวานให้เจ้าจอมดูอยู่ดี
เจ้าจอมทอดมองรอยยิ้มนั้นอย่างไม่คาดสายตาเขากำลังเก็บเกี่ยวความทรงจำของมันเอาไว้บันทึกเอาไว้ในหัวใจ ชายหนุ่มวัยสิบแปดปีเอื้อมมือไปวางบนศีรษะของคนโปรดก่อนจะลูบมันอย่างเบามือ
'โปรดจะลืมเราไหม?'
"โปรดจะมิมีวันลืมคุณชายกลางครับ"
'เด็กดี'
อย่าลืมเรา
เพราะเราเองก็จะมิมีวันลืมโปรดเช่นกัน
จะลืมได้อย่างไร
ในเมื่อบนโลกนี้มิมีใครยิ้มได้หวานจับใจเราได้เท่าโปรดอีกแล้ว
.
.
.
.
-๖ ปีต่อมา-
หอมกว่าใคร ในหล้า ดอกฟ้าพี่
ขออย่ามี ภมรภู่ มาสู่สันต์
หากแม้นมี พี่นี้ จะปกกัน
กลีบบางอัน อ่อนหวาน จะอยู่คง
พิกุลเอ๋ย พิกุลเจ้า เย้ายวนนัก
หิ่งห้อยรัก แต่มิอาจ จะเอื้อมส่ง
ได้แต่ชม กลิ่นหอม ในกลางดง
รอคอยลง เก็บเจ้า บนพื้นดิน
คนโปรดเอ่ยร้องบทกลอนยามเมื่อสนที่เล่นเพลง"คำหวาน"จบในขณะที่สองมือกำลังกรองมาลัยไว้รับคนที่จากบ้านไปไกลแสนไกลพึ่งจะได้หวนกลับมาสู่วังวรินทรอันเป็นบ้านเกิดขอตน
ยามเมื่อคนโปรดเอ่ยบทกลอนจบเด็กหนุ่มวัยสิบหกก็คลี่ยิ้มหวานพลางยกพวงมาลัยของตนขึ้นมาดู
คุณชายกลางจะชอบไหมนะ?
'พี่สนจ๊ะ มิเล่นอีกรอบหรือจ๊ะ'
"โธ่ โปรดเอ็งให้พี่เล่นมาสามรอบแล้วหนา"
'โธ่ พี่สนจ๊ะก็ในวังนี้มิมีใครสีซอได้เพราะเท่ากับพี่สนเลยหนิจ๊ะ'คนโปรดเอ่ยบอกเสียงออดอ้อนเสียจนคนเป็นพี่อดที่จะตามใจมิได้แต่มิวายกวาดตามองไปรอบ ๆ กายเกรงว่าจะมีใครมาได้ยินคนโปรดเอ่ยอ้อนตนแล้วจะพาลโดนตำหนิ
ก็คนโปรดน่ะเป็นคนโปรดสมชื่อ
หากยังอยากมีที่ซุกหัวนอนก็อย่าได้อาจหาญ
ไปแตะต้องคนโปรดของคุณชายวังวรินทร
เมื่อสนยอมเล่นเพลงให้ฟังอีกครั้งตามคำขอคนโปรดก็จุดยิ้มหวานพลางหลับตาพริ้มปล่อยอารมณ์ไปตามเสียงบรรเลงเพลงจากซอ
คนโปรดขยับกายเหยียดขาตรงแทนการนั่งพับเพียบอยู่นานสองนานพลางเอนกายไปข้างหลังในขณะที่ใช้มือหยัดพื้นเอาไว้ คนโปรดเชิดหน้าขึ้นรับสายพระพายที่พัดโชยมารอยยิ้มหวานจุดขึ้นเมื่อได้กลิ่นหอมของดอกมะลิที่ลอยมาตามพระพาย
คนโปรดมิรู้ตัวเลยว่าการกระทำทั้งหมดของตนเองตกอยู่ในสายตาของผู้มาใหม่ที่กลับมาถึงยังไม่ทันหายเหนื่อยก็ออกมาเดินหาตัวเองเสียแล้ว
เจ้าจอมทอดมองภาพตรงหน้าอยู่นานโดยที่ไม่ละสายตาไปมองที่อื่นราวกับว่าเขากำลังตกอยู่ในภวังค์ ภาพของเด็กหนุ่มที่มีรอยยิ้มหวานเป็นรอยยิ้มที่ติดตรึงใจของเขามาตลอดสิบสองปี
จากเด็กน้อยตัวขาวอวบราวกับหมั่นโถวก่อนจะเปลี่ยนเป็นเด็กชายตัวขาวผอมบางที่มักมีรอยยิ้มหวานให้เขาเสมอและในตอนนี้ก็กลายเป็นเด็กหนุ่มหน้ามนที่กำลังทอดกายปล่อยอารมณ์ไปกับเสียงเพลงที่ไม่คุ้นหูเขาแต่ทว่าเมื่อประกอบรวมกับภาพตรงหน้ามันช่าง
งดงาม
คนโปรดที่มีรอยยิ้มหวานที่หูทัดดอกชบาสีแดงสดอยู่แม้คนโปรดจะเป็นผู้ชายไม่ควรเอาดอกไม้มาทัดหูเล่นแบบนี้แต่ในสายตาของเจ้าจอมนั้น
เหมาะสม
ดวงหน้ามนที่มีรอยยิ้มหวานประดับอยู่
ไหนจะดอกชบาสีแดงที่ทัดหู
คนโปรดของเราสวยมากจริง ๆ
มิรู้เลยว่า..
คนโปรดของเราโตขึ้นมาสวยขนาดนี้
หากรู้อย่างนี้เราจะรีบกลับมาให้เร็วกว่านี้
กลับมาอยู่ในที่ที่มองเห็นคนโปรด
เจ้าจอมเดินเข้าไปหาคนโปรดที่นั่งทอดกายอยู่ในศาลายามเมื่อก้าวเดินเข้าไปใกล้หัวใจของเจ้าจอมยิ่งสั่นระรัว เขากำลังตื่นเต้นในหัวครุ่นคิดไปถึงคำทักทายที่ควรพูด
บ้าจริงเจ้าจอม!
ทำไมแกถึงทำตัวราวกับชายหนุ่มวัยแรกรุ่นเช่นนี้!
'คนโปรด..'
น้ำเสียงที่เอ่ยเรียกชื่อของเขาที่ไม่ได้ยินนานทำให้เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นมองเจ้าของเสียง คนโปรดคลี่ยิ้มหวานพลางขานรับ"ครับ คุณชายกลาง"
มาลัยช่องามถูกยื่นส่งให้ผู้มาใหม่ในขณะที่อีกฝ่ายก็ย่อกายลงมานั่งเคียงข้างคนโปรดก่อนจะเอื้อมมือไปรับพวงมาลับดอกมะลิที่อีกฝ่ายบรรจงทำให้ตนเอง
หากแต่เจ้าจอมไม่ได้รับมันมาถือไว้เองชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงก่อนจะสูดดมกลิ่มหอมของมัน ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองผู้ให้ นัยน์ตาคมเรียวทอประกายวาววับยามเมื่อมองสบตากลมคู่สวยของคนโปรด
'หอม..เหมือนเจ้าของมัน'
คนโปรดได้แต่ก้มหน้าซ่อนพวงแก้มที่ขึ้นสีหากแต่ก็ไม่อาจหลุดลอดสายตาคมของเจ้าจอมไปได้ 'คนโปรดไยมิมองหน้ากัน มิคิดถึงฉันหรือ?'
โธ่ ทำไมคุณชายกลางถึงขี้แกล้งมิเปลี่ยนนะ
"..คิดถึงครับ"
'หากคิดถึงก็เงยหน้าขึ้นมาให้เราดูหน่อย'
'มิได้เจอโปรดเสียนาน เราอยากจะมองหน้าโปรดให้ชัด ๆ ได้หรือไม่'
คนโปรดค่อย ๆ เงยหน้าให้ผู้เป็นนายได้มองดูตามคำขอหากทว่ายามเมื่อเงยหน้าขึ้นดอกชบาที่ทัดหูอยู่นานก็พลันร่วงหล่นลงมาบนหน้าตักของคนโปรด เจ้าจอมเห็นเช่นนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาก่อนจะจรดจมูกลงดอมดมความหอมจากมัน
'หอม' เอ่ยชมก่อนจะเก็บมันลงในกระเป๋าเสื้อของตน
หากแต่คนฟังกับทำสีหน้าฉนงจะมีก็แต่สนที่นั่งก้มหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแต่ก็เดาได้ว่าเจ้าจอมเอ่ยชมสิ่งใด
ก็ดอกชบานั้นไม่มีกลิ่น
เพราะฉะนั้นกลิ่นหอมที่เจ้าจอมบอกคงจะเป็น
กลิ่นกายของคนโปรด
......
-ปัจจุบัน-
'เราคิดเอาไว้แล้วว่ามันต้องเหมาะกับโปรด'
'โปรดของเราสวยมากจริง ๆ '
'มาหาเราสิเดี๋ยวเราจะรูดซิบให้'
'เด็กดี'
'โปรดสวยมากเสียจนเราเริ่มกังวลแล้วสิ'
.....
.
.
.
-ขอบคุณที่สละเวลาเข้ามาอ่านนะคะ-
ขอบคุณครับ ขอบคุนครับ ขอบคุณครับ {:5_119:}ขอบคุณครับ{:5_119:} ขอบคุณมากนะครับ{:5_130:} สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณนะครับ {:5_146:} ขอบคุณครับบ รออ่านครับ ขอบคุณ ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณมาก ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]