คลินิกรัก(ษ์) บำบัด(ไข้)ใคร่ 18+ by llมว_น้oe ห้องตรวจที่๔. น.พ อธิป
ห้องตรวจที่๔. น.พ อธิปท้องฟ้าสดใสกับบรรยากาศอันชุลมุลวุ่นวายของกรุงเทพฯมันช่างเป็นภาพที่ดูเร่งรีบและดูธรรมดากับสายตาใครๆ แต่ไม่ใช่กับโอบอุ้ม เมื่อคืนเขาได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนนักข่าวด้วยกันที่โทรมาเล่าเรื่องของคลินิกมารงมารักษ์อะไรนี่แหละ บอกว่าเป็นคลินิกแปลกๆที่เปิดรับรักษาแค่โรคทางเพศ ตอนได้ยินครั้งแรกเขาเองยังขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ว่าไอคลินิกพิลึกพิลั่นนี่มันเปิดบริการได้ยังไงไม่ผิดกฎหมายหรืออะไรเลยเหรอ แถมไอเพื่อนตัวดียังชมนักชมหนาว่าหมอหล่ออย่างนั้นหมอหล่ออย่างนี้ คนไข้ส่วนใหญ่เข้าไปกลับมาหายหมดทุกคน จนโอบอุ้มแอบสงสัยถึงวิธีการรักษาของที่นั่นและด้วยประการนี้เอง จึงทำให้โอบอุ้มคิดหนักยืนนิ่งอยู่ที่หน้าห้องของคุณอิ่มผู้เป็นบรรณาธิการหนังสือที่โอบอุ้มได้ทำงานอยู่ โอบอุ้มเป็นเด็กกำพร้ามีแค่น้าอิ่มเท่านั้นที่เลี้ยงโอบอุ้มมา ที่ทำงานโอบอุ้มต้องเรียกน้าอิ่มว่าคุณอิ่มเพราะเดี๋ยวเขาจะถูกเขม่นเอา หน้าตาโอบอุ้มไม่ได้ดี กระเดียดมาทางธรรมดามองแล้วไร้ความรู้สึกที่เรียกว่าหล่อหรือน่ารัก ตอนสมัยเรียนโอบอุ้มมักจะถูกเพื่อนๆรังแก เรียกโอบอุ้มว่าตุ๊ดบ้าง เรียกว่าลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่บ้าง ทุกครั้งที่ได้ยินโอบอุ้มได้ยินก็มักจะร้องไห้กลับบ้านทุกครั้ง พอน้าอิ่มเห็นก็จะถูกดุว่าไม่ยอมสู้เขา ปากมีก็ด่าเขาไป แต่โอบอุ้มไม่ชอบว่าคนอื่นน้าอิ่มไม่เคยเข้าใจจุดนี้ โอบอุ้มจึงได้แต่เก็บความเจ็บปวดเอาไว้ พอเข้ามัธยมจากที่หน้าตาธรรมดามอมแมมก็ถูกฮอร์โมนหนุ่มทำให้ผิวผ่องขึ้นตาโตขึ้นปากแดงขึ้นแก้มเองก็เช่นกัน ผิวค่อนข้างขาวขึ้นเมื่อมาอยู่ในเมืองกรุงแต่ตัวโอบอุ้มก็ยังคงเล็กเช่นเดิม ดีหน่อยที่พอจะหาเพื่อนได้ไม่อย่างนั้นคงทรมานกับการไปโรงเรียนน่าดู พิมพ์พาเป็นเพื่อนที่ยอมคบโอบอุ้มทั้งๆที่ไม่มีอะไรดีเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่โอบอุ้มพูดคุยได้ทุกเรื่อง แม้ว่าตอนนี้พิมพ์พาจะแต่งงานไปแล้วก็ตามที แต่กระแสดังๆเรื่องแปลกๆที่โอบอุ้มทำสกรู๊ปก็ได้พิมพ์พาเป็นสายเสาะแสวงหามาให้จนแทบจะบูชาพิมพ์พาขึ้นหิ้ง พอจบมัธยมพิมพ์กับเขาก็สอบติดคณะเดียวกันที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ทำให้โอบอุ้มใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานได้เมื่อมีเพื่อนที่สนิทกันมาเรียนด้วย พิมพ์พาเป็นสาวป๊อบจนโอบอุ้มเองบางครั้งก็ถูกมองด้วยแววตาเกลียดชังจากหนุ่มที่มาขายขนมจีบให้พิมพ์พา แต่พวกนั้นไม่รู้เลยว่าพิมพ์พาคนนี้มีคนที่ชอบอยู่แล้ว แฟนของพิมพ์พาเป็นหนุ่มหล่อดีกรีเดือนคณะวิศวะที่คบกันมาจนแต่งงานแต่งการ ดีหน่อยที่พิมพ์พาเปิดตัวพี่เขาเพราะทนไม่ได้ที่โอบอุ้มโดนรังแก พิมพ์พาคือที่สุดของคำว่าเพื่อ คือที่สุดของคำว่าครอบครัว และคือที่สุดของคำว่า ‘รัก’ แม้จะไม่มีหวังแล้วก็ตาม โอบอุ้มยินดียืนอยู่ในเฟรนด์โซนยินดีที่เป็นอยู่ตอนนี้แม้จะไม่ใช่ที่รักก็ตาม
ก๊อกก๊อก ก๊อก
“เข้ามา”โอบอุ้มสูดหายใจลึกๆก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตู
“คุณอิ่มครับ....”แม้จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวันแต่เขาก็เกรงใจอยู่ดี
“อ้าว! ว่าไงเรา มีอะไรหรือเปล่า” โอบอุ้มหลบสายตาไม่กล้ามองหน้าคุณอิ่มด้วยความลังเล แม้จะรู้ว่าข่าวที่พิมพ์พาให้มาไม่เคยพลาดก็เถอะ
“คุณอิ่มครับ....ผมได้ยินข่าวเรื่องคลินิกมารักษ์มาคุณอิ่มเคยได้ยินชื่อบ้างไหมครับ” คุณอิ่มกรอกตาขึ้นพยายามนึกว่าเคยได้ยินมาไหม
“อืม......เหมือนจะมีเพื่อนน้าเคยพูดถึงอยู่ เห็นว่าเป็นคลินิกที่เปิดรักษาโรคทางเพศโดยเฉพาะ........แถมหมอล่อมาก”เดี๋ยวนะทำไมอันหลังตาน้าอิ่มต้องเป็นประกาย
“ครับเอ่อ ผมเลยอยากจะทำสกรู๊ปเรื่องนี้อยากนำเสนอวิธีการรักษาของที่นั่น ได้ยินเพื่อนบอกมาว่าที่นั่นรักษาใครก็หาย”น้าอิ่มจ้องผมพร้อมกับพิงเก้าอี้จนผมเริ่มทำตัวไม่ถูก
“เอาสิแน่ใจนะว่าไหว” ไหวครับ อยากจะตอบแบบนี้ แต่สิ่งที่ทำได้คือยืนนิ่งๆไม่พูดอะไรคนแบบผมไม่มีความมั่นใจขนาดนั้นหรอกครับ
“ถ้าไหวก็ลองทำดู น้าไม่เคยบอกเหรอว่าให้มั้นใจในตัวเองเอาไว้ ยังไงเราก็คือหลายน้า ถ้าน้าทำมันได้ เราก็ทำมันได้เหมือนกัน มั่นใจในตัวเองหน่อย”
หัวใจของเขาฟูจนแทบจะคับอก เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกดีแบบนี้ น้าอิ่มแม้จะดุเขาบ่อยๆกับบุคลิท่าทางแต่ไม่มีสักครั้งที่จะดุด่าด้วยเรื่องไร้สาระ น้าอิ่มรักเขาเหมือนลูก เพราะน้าอิ่มไม่มีลูกเป็นของตัวเองแถมเขายังเป็นลูกแม่เอิบที่เป็นพี่สาวน้าอิ่มด้วย แม้ว่าท่านจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตามที
เขาส่งยิ้มอ่อนๆให้น้าอิ่ม มีความสุขจนเผลอยืดตัวขึ้นอย่างดีใจ น้าอิ่มมองผมด้วยสายตาวาววับ จับจ้องผมทุกส่วนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"พอยืนดีๆแล้วเราดูดีมานะโอบอุ้ม ต่อไปก็ยืนแบบนี้ล่ะจะได้มีแฟนกับเขาสักที” เขาเขินอายใบหน้าแดงก่ำเพราะเห็นมาตลอดกับสายตาแบบนี้ น้าอิ่มจะมองด้วยสายตาแบบนี้กับคนที่ดูดีถูกใจ แต่นี้เป็นครั้งแรกที่น้าอิ่มมองเขาและแน่นอนว่าโอบอุ้ม ชอบมาก!!
‘สรุปแล้วมึงจะไปขอสัมภาษณ์หมอที่คลินิกมารักษ์?’
“ใช่ ว่าจะทำสกรู๊ปเรื่องนี้ ก็มึงบอกว่าเขารักษาหายทุกคนไม่ใช่เหรอวะ เรื่องแบบนี้มันก็ต้องเผยแพร่ให้โลกรู้ดิ” โอบอุ้มส่งเสียงผ่านโทรศัพท์เครื่องสวยบอกเพื่อนด้วยความมั่นใจ
‘เฮ้อออ......ไอโอบมึงไม่รู้ใช่ไหมว่า คลินิกนี้เขามีกฎห้ามเปิดเผยข้อมูลการรักษา’ โอบอุ้มขมวดคิ้วนึกสงสัยทำไมจะต้องหวงวิธีขนาดนั้น
“กูจะลองคุยกับหมอดู เผื่อว่าเขาจะยอมให้กูสัมภาษณ์ลงหนังสือ” แม้เขาจะไม่มั่นใจเท่าไหร่ แต่เท่าที่พบเจอมาหลายๆคนที่ยืนกรานไม่ยอมเปิดเผยพอได้รู้ว่าเขาจะเอาไปลงหนังสือก็ยอมกันทั้งนั้น ชื่อเสียง.....ใครเล่าจะไม่ต้องการ
‘เอาเถอะ แต่อย่าไปมีเรื่องอะไรล่ะ’ เขาเผลอยิ้มออกมาเมื่อปลายสายพูดออกมาอย่างห่วงใยพิมพ์พาก็ยังเป็นพิมพ์พา น่ารักเสมอไม่เคยเปลี่ยน
“คร๊าบๆ”โอบอุ้มยิ้มออกมาเหมือนคนบ้า
‘พิมพ์ครับไปกันเลยไหม / ค่า ไปเดี๋ยวนี้แล้วค่า’เขาชะงักรอยยิ้มที่ค้างอยู่บนใบหน้าเมื่อได้ยินเสียงทุ้มเรียกชื่อเพื่อนตัวเอง
‘ไอโอบกูไปก่อนนะ ไว้กูจะโทรหาไหม’
“อ้าว!!มึงไม่ได้จะไปคลินิกกับกูเหรอ” อะไรกันแล้วเขาจะกล้าไปที่แบบนั้นคนเดียวได้ยังไง
‘โทษทีวะกูต้องบินไปแอลเอกับพี่คีย์วันนี้ ไว้กลับมากูจะชดเชยให้นะ’ แม้จะอยากห้ามแต่สิ่งที่ทำได้ก็แค่ส่งเสียงสดใสกลับไป
“เฮ้ย!! ไม่เป็นไร มึงไปเถอะ เดี๋ยวกูจะลองไปคุยกับทางคลินิกดูเอง สบายมาก”เจ็บจี๊ดทั้งๆที่รู้อยู่แล้วแต่ใจมันไม่รักดี เจ็บทุกทีที่เขาอยู่ด้วยกัน
‘ถ้างั้นเดี๋ยวไว้กูซื้อของมาฝาก แค่นี้ก่อนนะมึง บาย’
“บาย รีบกลับมานะ กูคิดถึง” มันก็แค่เสียงของเขาที่แผ่วเบาไปตามสายลม ไม่มีวันที่อีกฝ่ายจะได้ยิน พิมพ์พาวางไปแล้ว เขาเองต่างหากที่ยังยืนถือโทรศัพท์แนบไว้ที่หูไม่ยอมเลิกรา สายตาทอดยาวไร้จุดหมาย หวนนึกถึงวันเก่าๆที่เราเคยมีด้วยกัน
“หยุดๆไอโอบอุ้มต้องทำงานๆ” มือของเขาถูกใช้ตบแก้มเรียกสติอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บๆชาๆที่บริเวณผิวแก้มซึ่งป่านนี้คงแดงเป็นปื้นไปแล้ว
เขาเดินไปตามทางที่มีป้ายบอกระยะทางเพื่อเข้าไปหาตัวคลินิก รอบด้านเต็มไปด้วยบ้านเรือน ผู้คนทำมาหากินเรียงรายไปตามฟุตบาท เขามองแล้วก็ดูไม่แปลกไปจากที่อื่นๆรถราก็เข้าออกอย่างง่ายดายไม่ลำบากอะไร พอเดินมาถึงคลินิกสิ่งแรงที่โอบอุ้มเห็นคือลานจอดรถขนาดใหญ่ จนโอบอุ้มต้องหันมองป้ายอีกครั้งว่ามันไม่ใช่ห้างสรรพสินค้าใช่ไหม กลัวเหลือเกินว่าตนเองจะเดินหลงมาไกล แต่ป้ายก็ยืนยันได้ดีว่าที่นี่คือคลินิกมารักษ์ เป็นคลินิกจำเป็นต้องมีลานจอดรถใหญ่ขนาดนี้เลยหรือ โอบอุ้มตัดสินใจเดินเข้าไปข้างใน
โอ้แม่ เจ้า!!!!!
ลานจอดที่ว่าใหญ่ยังไม่เท่ากับจำนวนคนที่มานั่งรออยู่ที่หน้าห้องตรวจเลย แถมแต่ละคนก็ใช่ว่าจะป่วยหนักหนาอะไร ส่วนใหญ่ก็นั่งแต่งหน้าทาปากจัดทรงผมให้ดูดีเพื่ออะไร อย่าถามเขาเลย เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ให้ช่วยอะไรไหมคะ”อาจจะเพราะเขายืนอึ้งอยู่นานพอถูกทักก็ตกใจสะดุ้งโหยงจนคนทักหัวเราะน้อยๆ
“เอ่อคือผมมา เอ่อ ติดต่อ อ่า..” พูดสิวะไอโอบ พูดสิ ลืมที่น้าอิ่มบอกมึงเหรอมึงต้องทำได้
“คะ??”คนสวยตรงหน้ามองเขาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจกับอาการอึกอักพูดไม่ออกของเขา
“คือเอ่อ คือผม อยากจะขอพบ คุณหมอเจ้าของคบินิกนี้น่ะครับ” เธอทำหน้าไม่เข้าใจในคำพูดโอบอุ้มหรือว่าเขาพูดอะไรผิด
“ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ”อานั้นสินะ การขอพบแพทย์ซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกถ้าหากไม่มีเรื่องอะไรคนทั่วไปก็คงไม่ขอพบสินะ
“เอ่อ ครับ ผมมีเรื่องที่จะต้องคุยกับคุณหมอเจ้าของคลินิกโดยตรงครับ เอ่อนี่ นามบัตรของผมครับ” เธอรับนามบัตรที่เขาส่งให้ไปดู ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นราวกับถามว่า เอาจริงหรือ
“ค่ะถ้างั้นรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวขอดิฉันโทรถามคุณหมอก่อนนะคะ”
“ครับ ขอบคุณมากนะครับ” เธอยิ้มรับก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นต่อสายไปยังคุณหมอ โอบอุ้มกวาดสายตามองไปรอบๆตัวคลินิกอย่างชื่นชม ความสะดวกสบายดีเยี่ยม รสนิยมการตกแต่งก็สุดยอด เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าคลินิกที่รักษาคนไข้จะมีลักษณะแบบนี้ โอบอุ้มจับจ้องไปยังห้องตรวจต่างๆซึ่งมีเหล่าผู้ป่วยนั่งรอคิวกันอยู่มากมาย ทั้งสาวน้อยและหนุ่มน้อยต่างก็ไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อ แต่แปลก........บรรยากาศหน้าห้องกลับดูไม่ชวนเดินไปใกล้เลยสักนิด ราวกับบรรยากาศก่อนจะเกิดสงคราม ให้ตายเขาก็ไม่มีทางเดินไปตรงนั้นแน่ๆ
“เอ่อคุณคะ คุณ”
“อ๊ะ!!ครับ!! ขอโทษนะครับผมมัวแต่เหม่อไปหน่อย” เขาเกาหัวด้วยความเขินอายจนเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนตรงหน้าได้
“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวคุณหมออธิปจะออกมาพบคุณนะคะเพราะคุณหมอท่านอื่นไม่ว่างเลย” โอบอุ้มพยักหน้าตาวาวด้วยความดีใจ
“ไม่เป็นไรครับ ขอแค่ได้คุยกับคุณหมอ ท่านไหนผมก็ไม่มีปัญหาครับ” เขาชวนเธอคุยอีกเล็กน้อยระหว่างที่ยืนรอคุณหมออธิปของเธอออกมาพบ เธอเป็นคนสวย ชื่อสาวและดูเธอเอ็นดูเขาอย่างไม่น่าเชื่อ โอบอุ้มชอบใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของคุณสาวเพราะมันทำให้โลกสดใสไปทันตา แค่เธอยิ้มทุกๆอย่างรอบๆตัวก็น่าดูไปหมด โอบอุ้มเชื่อเลยว่าถ้าหากน้าอิ่มเห็นคุณสาว น้าอิ่มต้องมองด้วยสายตาชื่นชมแน่ๆ
“อ้าว!!......คุณหมอ มาแล้วเหรอคะ” โอบอุ้มหันไปมองข้างหลังตามสายตาของคุณสาวที่มองไปและเอ่ยทัก แล้วโอบอุ้มก็ต้องตะลึง เมื่อบุรุษที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้ช่างดูหล่อเหลาจนตัวโอบอุ้มเองสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า ไม่เคยเห็นใครหล่อเท่าเขาคนนี้มาก่อน
“สวัสดีครับ ได้ยินว่าคุณต้องการพบหมอเจ้าของคลินิก ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”โอบอุ้มได้สติเมื่อเสียงทุ้มเอ่ยทักทายขึ้นมา ใบหน้าต้องแดงซ่านเมื่อรู้สึกว่าตัวเองจ้องอีกฝ่ายนานเกินไป
“ครับ คือผมอยากรบกวนขอ เอ่อ สัมภาษณ์คุณหมอหน่อยได้ไหมครับ” หมอเลิกคิ้วมองหน้าผมไม่รู้ทำไม แต่เขาแทบจะถอยหลังเมื่อสบสายตาคู่นั้น อะไรกันทำไมถึงมองเขาแบบนั้น ทั้งชีวิตไม่เคยถูกใครมองแบบนี้มาก่อน มันทำให้เขา......กลัวโอบอุ้มจึงไม่กล้าแม้แต่จะสบตาของหมอ
“สัมภาษณ์ผมเรื่องอะไรครับ?”
“เอ่อ....เกี่ยวกับ เรื่องการรัษาของที่นี่ หรือวิธีรักษาให้คนไข้ส่วนใหญ่ของพวกคุณ เอ่อ หายดี” นี่เขาคิดไปเองหรือเปล่าว่ารอยยิ้มเทพบุตรบนใบหน้าของคุณหมออธิป มันดูแปลกๆชอบกล
“หือ??คงไม่ได้หรอกครับที่นี่มีกฎห้ามให้ข้อมูลการรักษากับคนภายนอก”
ให้ข้อมูลกับคนภายนอกไม่ได้หมายความว่า.....
“งั้นถ้าผมเป็นคนไข้ที่นี่ ก็จะสามารถรู้ข้อมูลการรักษาได้ใช่ไหมครับ” โอบอุ้มพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นจนถูกอีกคนมองด้วยแววตาเอ็นดู
“ก็.........คงใช่..........ครับ”หมอยกยิ้มอย่างถูกใจเมื่อได้ยินโอบอุ้มพูดเช่นนั้น สาวมองการสนทนาของโอบอุ้มกับหมอด้วยรอยยิ้ม โอบอุ้มจะรู้ไหมหนอว่ากำลังติดกับดักของหมอเสือเข้าอย่างจังโอบอุ้มเอ้ย จะน่าเอ็นดูอะไรขนาดนี้นะ
“ยังไงผมว่าคุณ.....”หมออธิปลากเสียงเพื่อจะถามชื่อโอบอุ้มแทบจะตบหัวตัวเองที่ลืมแนะนำตัวก่อนการสนทนาจะเริ่มขึ้น
“ขอโทษครับ ผมลืมแนะนำตัว ผมชื่อโอบอุ้มครับ มาจากหนังสือ......ครับ” รอยยิ้มของหมอยังไม่จางหายไปจากใบหน้า ยิ่งแนะนำตัวอย่างเป็นทางการกับหมอแบบนี้ โอบอุ้มยิ่งรับรู้ถึงอันตรายที่สัญชาตญาณร้องเตือนทำไมหมอมองเขาแบบนั้นนะ มองแบบนั้นโอบอุ้มกลัว
“เอ่อ......ถ้ายังไง.....วันนี้ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”วันนี้ขอตัวกลับก่อน แค่ได้ยินมันก็ทำให้เขาเผลอตัวกระตุกริมฝีปากขึ้นกับท่าทางหวาดกลัวราวกับลูกแมวแบบนั้น ก็ได้ ในเมื่อวันนี้กลับก่อน เขาก็จะปล่อยให้ออกไปก่อน
“ครับผม.......แต่ถ้าอยากเป็นคนไข้.......ผมประจำห้องตรวจที่สี่นะครับ”
“อะ เอ่อ ครับ งะ งั้นผมลาก่อนนะครับ สวัสดีครับคุณสาว สวัสดีครับคุณหมอ”โอบอุ้มยกมือขึ้นไหว้ลาทั้งสองก่อนที่จะสาวท้าวออกจากคลินิกอย่างเร่งรีบจนเรียกเสียงหัวเราะจากสาวได้อย่างดี กลัวจนลนลานแบบนั้น จะไหวไหมนั่น แต่อย่างว่าล่ะใครเห็นสายตาจ้องจะจับตัวเองกินก็คงลนลานเหมือนกัน แสดงออกมานอกหน้า เหยื่อจะยอมให้กินเหรอคะคุณหมอ
“คุณสาวครับ”
“คะหมอ”แม้เขาจะเรียกอีกคนแจ่สายตาของหมออธิปไม่ได้ละออกจากประตูที่โอบอุ้มเพิ่งจะเดินออกไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มกับแววตาของเขามันมักจะปิดไม่มิดเมื่อเจอคนที่ถูกใจ
“ถ้าเขามาในฐานะคนไข้เมื่อไหร่......ให้ประจำห้องสี่นะครับ”สาวได้แต่ยิ้มล้อเลียนพลันเอ่ยถามอย่างที่ใจคิด
“เขาจะมาอีกเหรอคะหมอ ก็หมอเล่นจะจับเขากินจนออกนอกหน้าแบบนั้น” เห็นไหมบอกแล้วว่าเขามีปัญหา เก็บอาการทางสีหน้าและแววตาไม่ค่อยได้เวลาเจอคนถูกใจ และบังเอิญว่า.....โอบอุ้มดันถูกใจเขาสุดๆเสียด้วยสิ
“มาสิครับ.......เขาอยากได้ข้อมูลจากที่นี่.......เขาต้องมาแน่ครับ”หมออธิปพูดอย่ามั่นใจต้องมาแน่ อย่างโอบอุ้ม......ต้องมาอีกแน่ๆ
โอบอุ้มเดินไปเดินมาอย่างคิดหนัก ไม่รู้ว่าตัวเองควรไปที่นั่นอีกครั้งดีไหมข้อมูลโอบอุ้มก็อยากได้อยู่หรอก แต่ปัญหาคือเขากลัวหมออธิปนี่สิขนาดยืนเผชิญหน้ากันวันก่อน ตัวโอบอุ้มยังสั่นไปด้วยความกลัวถ้าหากไปเจออีกครั้ง เขาได้ร้องไห้ออกมาเป็นเด็กแน่ๆ ทำไงดีนะไม่อยากไปเลยสักนิด ถ้ามีวิธีอื่นก็คงดีวิธีที่คิดออกคือลองสอบถามจากคนไข้ของคลินิกมารักษ์ แต่ผลปรากฏว่าทุกคนไม่ยอมเอ่ยถึง ไม่ยอมเปิดเผยวิธีการรักษาเลยสักคน มันทำให้เขาต้องมากุมขมับเคร่งเครียดและอับจนหนทาง
“เหมออะไรของเราน่ะโอบ”โอบอุ้มหันไปมองน้าอิ่มที่เดินเข้ามาในตัวห้องนอนของเขาโดยที้ขาไม่รู้ตัวเลยสงสัยจะเหม่อลอยจนลืมสังเกต
“ผมไปลองสัมภาษณ์คนไข้ของคลินิกมาน่ะครับ”
“เหรอ.....แล้วเป็นไงบ้างได้ข้อมูลไหม” เขาได้แต่ถอนหายใจ
“ไม่เลยครับน้าอิ่ม ทุกคนไม่มีใครยอมพูดสักคน” เขาแปลกใจมากเมื่อเล่าไปแล้วสีหน้าของน้าอิ่มกลับไม่มีแววตาหรือความแปลกใจที่ฉายบนสีหน้าสักนิด
“อ่า.......จริงๆน้าก็เคยได้ยินมาว่าถ้าเซ็นสัญญาทางคลินิกแล้วเกิดเอาเรื่องการรักษาไปพูด จะต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวนสิบล้านบาท”
“...!!!” มิน่าล่ะ ถึงไม่มีใครยอมพูดอะไรเลย
“แต่น้าคิดว่า.......ที่ไม่ยอมพูดอะไรกันเพราะกลัวจะไม่ได้ไปเจอหมออีกมากกว่า”
“ทำไมล่ะครับ”ทำไมถึงอยากเจอกันขนาดนั้นทั้งที่หมอก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากคนอื่น โอเค......หมออาจจะหล่อกว่าคนอื่นแต่ก็แค่นั้น
“หึหึ.......ไม่รู้สิ แต่ก็คงไม่มีใครอยากทำให้ตัวเองถูกตัดออกจากการได้พบบรรดาหมอหล่อๆจากที่นั่นหรอก แต่ถ้าอยากจะรู้ชัดๆ มันก็ต้องลองด้วยตัวเอง” ลองด้วยตัวเองเหรอ น้าอิ่มทิ้งท้ายเอาไว้ให้เขาคิดและเขาเองก็จบอยู่กับความคิดโดยที่ไม่รู้เลยว่าน้าอิ่มเดินกลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ กว่าโอบอุ้มจะรู้สึกตัวน้าอิ่มก็หายไปจากข้างๆตัวเองเสียแล้ว
โอมอุ้มพยายามเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยายามบลในอินเตอร์เน็ต แต่ก็ไม่พบสิ่งเกี่ยวข้อนอกจากกระทู้จากพื้นที่สีน้ำเงินที่มีหลายๆคนตั้งขึ้นเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความหล่อเหลาของหมอทุกท่าน ซึ่งโอบอุ้มเองยังแปลกใจที่บางกระทู้เป็นผู้ชายเหมือนกับเขาที่ตั้งมันขึ้นมา โดยหัวกระทู้จั่วขึ้นว่า บรรดาเทพบุตรสุดหล่อแห่งคฤหาสน์มารักษ์ บอกเล่าถึงความหล่อวัวหายควายล้ม หล่อจนกระชากมดลูกทิ้งแทบจะแดดิ้นไปแห_ขาให้ พระเจ้าอ่านเองยังขนลุกเลย นี่ถ้าบรรดาหมอๆมาอ่าน ไม่รีบปิดคลินิกหนีหรือ โอบอุ้มได้แต่ส่ายหน้ากับความเลอะเทอะของคนพวกนี้ ไม่ไหว วันๆคุยแต่กับเรื่องผู้ชาย โอบอุ้มกดย้อนกลับไปยังหน้าค้นหาเพื่อเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เจาพยายามนึกว่าจะค้นอะไรเกี่ยวกับคลินิกมารักษ์ดี สมองนึกคิด แต่มือเจ้ากรรมกลับกดแป้นพิมพ์ไปเอง
น.พ อธิป แห่งคลินิกมากรัษ์ เสิร์ช!!
บ้าจริง!! พอรู้ตัวอีกทีมือเจ้ากรรมกลับกดEnterไปเสียแล้ว มันเป็นเพียงความคิดชั่ววูบเท่านั้น โอบอุ้มได้แต่บอกตัวเองไปแบบนั้น ใครจะบ้าคนหาชื่อผู้ชายคนนี้กัน ไม่สิ!! มันต้องเป็นเพราะเขาเป็นหมอของที่นั่นใช่!! ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ พอคิดได้แบบนั้นโอบอุ้มก็เบาใจตัดสินใจดูผลจากการค้นหา ซึ่งมีเพียงแค่รูปหมอเสียส่วนใหญ่ สุดท้ายเลื่อนไปเท่าไหร่ก็ไม่มีอะไรเพิ่มเติมเลยสักนิด โอบอุ้มได้แต่ถอนหายใจ มันคงหนีไม่พ้นการที่เขาต้องเข้าไปเป็นคนไข้ของที่นั่นแล้วล่ะ
แล้วเขาก็มาที่นี่อีกครั้งจนได้..........ทั้งๆที่คิดเอาไว้แล้วเชียวว่าจะไม่กลับมา แต่สุดท้ายความอยากรู้มันก็ทำให้เขาอดทนไม่ไหวต้องกล้ำกลืนฝืนใจกลับมาอีก แต่พอโอบอุ้มได้มายืนอยู่หน้าคลินิกขามันก็สั่น ร่างกายก็อ่อนแรงไปเสียดื้อๆ จะก้าวขาเข้าไปก็ชะงักไอขาไม่รักดีก็ดันถอยห่างเสียอย่างนั้นแทนที่จะเดินเข้าไป เขาได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก สูดลมหายใจลึกๆเพื่อเรียกกำลังใจของตัวเองเอาวะ มาถึงนี่แล้ว ต้องลองสักตั้ง!!
โอบอุ้มตัดสินใจก้าวเท้าเข้าไป มือบางผลักประตูออกให้เปิดกว้างสอดส่องสายตาไปจนพบร่างของคุณสาวยืนยิ้มรับอยู่ที่จุดเดิมเหมือนคราวก่อน โอบอุ้มยิ้มให้คุณสาวก่อนจะเดินเข้าไปใหล้ร่างของเธออย่างช้าๆ เธอยังคงยิ้มสดใสและฉายแววความสวยออกมาเช่นเคย น่าหลงใหลจริงๆ
“สวัสดีค่ะคุณโอบอุ้ม วันนี้มาทำอะไรคะเนี่ย” คำทักทายธรรมดาแท้ๆ แต่โอบอุ้มกลับรู้สึกแพ้รอยยิ้มของเธอจนหน้าร้อนผ่าวและยกมือขึ้นเกาศีรษะแก้เก้อ
“เอ่อ ผมว่าจะมา ขอเป็นคนไข้ของที่นี่ครับ” บ้าจริง โอบอุ้มรู้สึกอยากจะตบปากตัวเองที่ดันพูดอะไรแบบนั้นออกไปมาขอเป็นคนไข้ คนสติดีที่ไหนเขาทำกัน
“คิกๆอย่างนี้เอง จะมาทดลองเป็นคนไข้สินะคะ แล้วจะลงห้องไหนละคะ” เอ.....ห้องไหนนะ
‘ครับผม.......แต่ถ้าอยากเป็นคนไข้.......ผมประจำห้องตรวจที่สี่นะครับ’
“เอาห้องที่หนึ่งครับ!!”น้ำเสียงที่ตอบออกไปอย่างมั่นใจทำให้คุณสาวถึงกับต้องกลั้นขำ
“ไม่ได้หรอกค่ะคิวห้องหนึ่งยาวไปจนถึงปีหน้าโน้นนนนนนนนนเลยนะคะ” ครับ ยาวจริงๆเสียงของคุณสาวนี่แหละครับที่ยาว
“งั้นห้องสอง”
“ติดเมียค่ะหมอไม่ค่อยเข้า”
“เอ่อห้อง ห้องสาม” เขาต่อรอง
“หมอลาไปฮันนีมูลค่ะ”
“เอ่อห้องห้า”
“ปิดค่ะกำลังตามจีบแฟน” อะไรอ่ะ ไม่ว่างเลยสักห้อง
“โอ้ย!!! แล้วมีห้องไหนว่างละครับเนี่ย” โอบอุ้มยืนขยี้หัวตัวเองอย่างแรงดเวยความหวุดหงิดเดี๋ยวห้องโน้นก็เต็ม ห้องนี้ก็ไม่ว่าง ห้องนั่นก็ปิด แล้วจะเปิดคลินอกกันไว้ทำไมครับ!!!
“ห้องที่ว่างเหรอคะ เอ....... อ๋อ ห้องสี่ค่ะ!! ว่างพอดี ว่างย๊าวยาว” รอยยิ้มหวานกับน้ำเสียงที่สูงเกินปกติทำเอาโอบอุ้มคิ้วกระตุกเตือน คงไม่ใช่วางแผนกันไว้หรอกนะ โอบอุ้มถึงจะโง่ แต่ก็เชื่อนะครับ เมื่อเห็นท่าทางสงสัยของโอบอุ้ม คุณสาวจึงหยิบสมุดตารางเวลาให้เขาดู
“เช็คได้นะคะ ถ้าไม่เชื่อใจ” น้ำเสียงอ่อนๆกับสายตาเว้าวอนคืออะไร คนอย่างโอบอุ้มกล้าดูไหม!! ก็ไม่กล้า!! ได้แต่ทำหน้ารู้สึกผิดที่ไม่เชื่อใจเธอแกมันเลวจริงๆเลยโอบอุ้ม สงสัยผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนี้ได้ยังไงกัน
“ไม่ครับผมเชื่อคุณสาว ขอโทษด้วยนะครับถ้าแสดงท่าทีให้เข้าใจผิดว่าไม่เชื่อใจ”
“ไม่หรอกค่า แล้วคุณโอบจะเข้าไปพบหมอวันนี้เลยไหมคะ หมอว่างพอดี จะได้คุยเรื่องการตรวจด้วย” หือ.....หูผมกระดิกพยักหน้ารับแทบจะทันทีที่ได้ยินว่าคัยเรื่องการตรวจ คุยเรื่องการตรวจ=ข้อมูล เยี่ยม!!คิดถูกจริงๆที่ยอมมาเป็นคนไข้ของที่นี่
“ถ้างั้น......เชิญทางนี้เลยค่ะเดี๋ยวสาวจะพาไปห้องตรวจที่สี่เองนะคะ”
ผมเดินตามหลังคุณสาว เราสองคนเดินผ่านห้องต่างๆที่สลับฝั่งกันไปมา ยิ่งเดินผ่านคนยิ่งมากเหลือเกิน แต่ทุกคนที่มานั่งรอกลับไม่มีท่าทีเบื่อหน่าย แถมยังแต่งองทรงเครื่องมาพร้อมจนผมไม่แน่ใจว่าคนพวกนี้มารักษาจริงๆหรือเปล่า พอเห็นการแต่งตัวของคนอื่นๆแล้ว ผมอดก้มลงมองสภาพตัวเองไม่ได้ กางเกงแสลคดำกับเสื้อยืดเก่าๆที่ผ่านการใช้งานมาหลายปี ก็แหม....นี่มันเสื้อตัวโปรดของเขานี่ แม้ว่าตอนนี้มันจะหดลงจนเล็กและคับแนบตัวก็ตามทีแต่เขาไม่ทิ้งหรอก ก็เป็นเสื้อที่พิมพ์พาพาเขาไปซื้อทั้งที คุณสาวหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องตรวจหมายเลขสี่ ไม่ยอมเคาะประตูจนเขาคิดจะไปนั่งรอคิวเหมือนคนอื่นๆ ถ้าไม่มีเสียงดังลอดออกมา..... “อ๊ะ หมอขาตรงนั้น จีจี้ชอบ”
เสียงอะไร??นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นในใจจนชะงักขาที่กำลังก้าวเดิน
“ซี๊ดหมอ หมอดูดเก่งจัง อูย จี้จะเสร็จแล้ว โอ๊ย หมอออ อ๊ายยย”
เดี๋ยวๆๆๆๆๆดูด ดูดอะไร!! แล้วเสียงเมื่อกี้มันผู้ ผู้ชายไม่ใช่เหรอ!!!
คุณสาวหันมานิ้มแหยๆให้เขา ที่ตอนนี้ยืนตัวสั่นเหมือนลูกนกอยู่ ซึ่งตัวเขาเองมั่นใจเลยว่า ไม่ใช่สั่นสู้แน่ๆ อยากกลับบ้าน น้าอิ่ม โอบอยากกลับบ้าน ฮืออออออ
แกรก........
ไม่ต้องเคาะให้เสียเวลาเมื่อตอนนี้ประตูถูกมือหนาของหมอเสือเปิดอ้าออกจนเห็นภายใน ผู้ชายคนนั้น คนที่ส่งเสียงร้อง นะ นะ น่ารักอ่ะ!! ให้ตายเถอะ เขาไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนหน้าหวานเหมือนผู้หญิงขนาดนี้ เรียวขาขาวยาวสูง ผมสีน้ำตาลทองเป็นประกายเมื่อต้องแสงไฟริมฝีปากแดงเจ่อ กับแก้มแดงๆนั่น มันดูลงตัวเมื่อมีดวงตากลมโตประดับอยู่บนใบหน้าด้วยโอ้ย!! โอบอุ้มใจเต้นกับผู้ชาย!!
“อ้าว....คุณสาวว่าไงครับ” เขากำลังจะเดินออกมา ทำไงดี ทำตัวยังไงดี
“คนไข้คนใหม่ของคัณหมอค่ะสาวพามาให้แล้ว” อื้อหือ เลียปสกแบบนั้น โอบอุ้มจะละลายแล้ว
“อ่า ครับ ผมเสร็จพอดี คุณโอบอุ้มเชิญด้านในครับ” สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างผอมบางภายในใจเต้นดังจนแทบจะทะลุออกมา อยากเดินเข้าไปหาแล้วทำความรู้จักถ้าไม่ติดว่า.......
“งั้นจี้ไปก่อนนะครับแล้วจะมาตรวจใหม่”
จุ้บ!!
อิจฉา!!! ริมฝีปากแดงๆเจ่อๆนั่นกดลงบนแก้มหมอต่อหน้าต่อตาเขา อยากได้บ้าง คนอะไรน่ารักขนาดนี้ ขนาดตอนเดินผ่านยังอุส่าส่งยิ้มหวานให้เขาด้วย น่ารัก!!! จะน่ารักเกินไปแล้ว!!!!
“อะแฮ่มๆ”
“อ๊ะเอ่อ ขอ ขอโทษครับ” โอบอุ้มก้มหน้าหลบสายตาอย่างเขินอายเมื่อเขาเอาแต่มองคนที่จากไปไม่วางตา
“ครับ เชิญ” หมะ หมอโกรธล่ะ เขาทำให้หมอโกรธ โอบอุ้มเดินตามคนที่ทำหน้าบึ้งเข้าไปข้างในโดยมีอีกฝ่ายยืนรอเพื่อปิดประตูห้อง ภายในมีโต๊ะ เก้าอี้ และเตียงเตียงที่ใหญ่มาก!!!ผ้าปูดูยับยู่ยี่จนไม่ต้องถามเลยว่าเป็นเพราะอะไร
“เชิญนั่งครับ”
นั่งเหรอตรงไหนล่ะ เขาหันซ้ายหันขวาหาเก้าอี้แต่ไม่เจอเลยสักตัว
“นั่งเถอะครับ บนเตียงนั่นล่ะ” โอบอุ้มสะดุ้งโหยง แอบตกใจเบาๆเมื่อได้ยินเหมือนหมอจะเน้นคำว่าบนเตียงเกินจำเป็น ยิ่งวันนี้หมอดูแผ่รังสีฆ่าฟันออกมา โอบอุ้มไม่อยากอยู่ใกล้ๆเลย
“คะครับ” หรือหมอจะโกรธที่โอบอุ้มแอบมองแฟนหมอนานเกินไป แน่เลย ไอโอบนะไอโอบไม่น่าเลยมึง
“หมอครับคือผม....// คุณมาทำอะไร....”
“เอ่อหมะ หมอพูดก่อนเลยครับ” หมอเสือพยักหน้าเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีสบายๆ
“คุณมาทำอะไรครับคุณโอบอุ้ม”
“มาเอ่อ มาเป็นคนไข้ครับ” โอบอุ้มเห็นหมอแอบยกยิ้มเล็กน้อยจนนึกสงสัยว่ามีอะไรน่าขำกันนะ
“ตัดสินใจดีแล้วสินะครับ......ตอนนี้”เอ่อตัดสินใจดีหรือยังไม่รู้ แต่ตอนนี้อยากเปลี่ยนใจแล้วอ่ะ หมอหน้าตาไม่น่าไว้ใจเลยงื้อออออ
“ปะเปลี่ยนใจ ทะ ทันไหมครับ” ปากหนอปาก อยากจะได้ข้อมูลแต่ใจมันดันไม่กล้า
“คงไม่ทันแล้วครับ เมื่อก้าวเข้าห้องตรวจมา หมายความว่าคุณโอบอุ้มเป็นคนไข้ของผม”ว่าแล้วเชียวโอบอุ้มได้แต่ถอนหายใจ แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเขาเลือกที่จะมาเองเอาวะ ท่องไว้ เพื่อโลก!! เพื่อโลก!!เพื่อโลก!!!!!
“คุณโอบอุ้มเคยทราบข่าวเรื่องที่นี่จากที่ไหนมาบ้างครับ”เอ๊ะถามแบบนี้ เขาจะตอบยังไงละเนี่ย
“เอ่ออิน อินเตอร์เน็ตครับ ละ แล้ว แล้วก็ เพื่อนผมเขาเล่าให้ฟัง” ถึงส่วนใหญ่มันจะแค่กรี๊ดหมอและบอกแค่ว่าหมอหล่อก็เถอะ
“อ๋อ.......ทราบจากบุคคลที่สาม”
“ครับ”เขาพยักหน้ารับมองหมอด้วยแววตาซื่อๆ
“แล้วทราบไหมครับว่าที่นี่มีการเซ็นสัญญาก่อนการรักษา”
กึก!! เขาชะงักเลย ไม่ใช่ไม่รู้แต่เพราะรู้อยู่แล้วเลยทำได้เพียงแค่หลบสายตาคม ไม่อยากเซ็นสัญญาเพราะในสัญญาระบุว่าห้ามเผยแพร่การรักษา แล้วแบบนี้โอบอุ้มต้องทำยังไงเสียค่ารักษา ยอมมาเป็นคนไข้ เพื่อให้ได้ข้อมูลไปทำสกรู๊ปแต่ถ้าเป็นแบบนี้ เขาก็เสียเวลาเปล่านะสิ โอบอุ้มได้แต่โอดครวญอยู่ในใจ แต่หมอเสือกลับยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นท่าทีที่แสดงออกมาทางใบหน้าขอโอบอุ้ม ไม่อยากเซ็นสัญญาสินะ ได้สิครับ เดี๋ยวพี่เสือจะช่วยน้องโอบเอง
“แต่เราก็มีวิธีเลี่ยงการเซ็นสัญญาอยู่นะครับ”
พรึบ!! ใบหน้าของโอบอุ้มเงยขึ้นมาแทบจะทันทีที่ได้ยินเสียงสวรรค์ รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าเล็กจนทำให้หมอเสือชะงักค้างไปเล็กน้อย จู่โจมกันด้วยรอยยิ้มแบบนี้ อัตรายเกินไปแล้ว เกือบไปแล้วไอเสือ เกือบขยับเข้าไปจับน้องกินแล้วไหมล่ะ
“เอายังไงครับจะเซ็นสัญญา หรือว่าจะเลี่ยงดี”
“เลี่ยงครับ!!”โอบอุ้มตอบโดยที่ไม่ต้องคิดให้มากมายอะไร อย่างหลังมันเอื้อประโยชน์กับเขาเห็นๆ ในใจของโอบอุ้มตื่นเต้นจนลิงโลดโดยไม่รู้เลยว่า แววตาของหมอนั้น.......ซ่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เอาไว้
“โอเคครับถ้าอย่างนั้น หมอขอเบอร์โทรของคัณโอบด้วยนะครับ”
“ครับหมอ ได้เลยครับ” เพราะมีความสุข จะขออะไรโอบอุ้มก็ให้ทั้งนั้น หมอยื่นโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดมาตรงหน้าของเขา และเขาก็รับมันมา
“เอ่อหมอครับ ช่วยปลดล็อคให้ผมหน่อยครับ”
“รหัส090632 ครับ” อ่ะ อ่า ปกติเขาให้รหัสผ่านกับคนแปลกหน้าด้วยเหรอ แต่โอบอุ้มก็คือโอบอุ้ม ผู้ไม่คิดมากอะไรกับเรื่องพวกนี้ มือบางจิ้มหมายเลขตามที่หมอบอก หย้าจอถูกปลดล็อคจนทำให้สามารถกดเข้าไปที่การโทรได้ เขาใส่หมายเลขโทรศัพท์ของตัวเองลงไปก่อนจะยืนมันคืนให้หมอ
“เรียบร้อยแล้วครับ ถ้าอย่างนั้น วันนี้คุณโอบอุ้มกลับได้เลยครับ ยังไงผมจะติดต่อไปอีกที ว่าจะรัดกันที่ไหน” หือ.....นัดไปไหนกันโอบอุ้มขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ หมอจะไปไหนทำไมต้องนัดเขา
“ไปไหนอะไรครับ??”
“ก็การตรวจไงครับจะเลี่ยงสัญญา คุณต้องตรวจกับผมนอกสถานที่เท่านั้นนะครับ” อะ อ้าวอย่างนี้นี่เอง งั้นก็ช่วยไม่ได้สินะ
“อ๋อโอเคครับ ถ้างั้น หมอโทรมานัดผมล่วงหน้านะครับ ผมจะได้เคลียร์งานไว้” หมอเสือส่งยิ้มใจดีให้ทำให้เขาเบาใจไปได้หน่อย
“งั้น......ผมกลับก่อนนะครับหมอสวัสดีครับ”
“ครับแล้วเจอกันนะครับ”
ผมยิ้มให้แล้วเดินออกจากห้องไป เมื่อกี้เหมือนเห็นหมอทำตาวิบวับ หรือเจาจะคิดไปเอง ช่างเถอะ โอบอุ้มเลิกสนใจในเรื่องนั้น เขาเดินผ่านคุณสาวกล่าวลาเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากคลินิกไป ในที่สุดก็สำเร็จ อีกนิดเดียวก็จะได้เขียนสกรู๊ปเรื่องนี้แล้ว ไม่ต้องเซ็นสัญญา ก็หมายความว่าเขาไม่ผิด ใครว่าหมอของคลินิกมารักษ์เจ้าเล่ห์กันหมอเสือออกจะใจดี เข้าใจหัวอกของคนที่ทำงานถึงขนาดหาวิธีให้เขาไม่ต้องเซ็นสัญญานั่น หึหึ โลกเอ๋ยต่อจากนี้จะต้องจดจำชื่อของโอบอุ้มเอาไว้ให้ดีๆล่ะ
โอบอุ้มนั่งเซ็งอยู่นอกบ้าน นี่ก็สามวันแล้วนะ ทำไมหมอยังไม่โทรมาอีกล่ะคอยแล้วคอยเล่า คอยจนเผลอหลับไปทุกคืน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าหมอจะติดต่อมาหรือหมอจะลืม โธ่......รู้แบบนี้เขาขอเบอร์หมอไว้ก็ดีหรอกยิ่งเวลาผ่านไปเขาก็ยิ่งเซ็ง ได้แต่มองโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น มือก็กดปลดล็อคสลับกับล็อคไปมาอย่างเบื่อหน่าย
~ ฮู ฮู้ว ฮา ฮ๊าฮืมมม ~
“ฮะฮัลโหล”
‘สวัสดีครับโอบอุ้มใช่ไหม’
“อ๊ะใช่ครับ” เสียงคุ้นจัง
‘ผมเองนะหมอเสือ’ หมอเสือ!!!
“คะครับๆ” ทำตัวไม่ถูกเลย เขาตื่นเต้นมากๆ ทั้งๆที่ตัวเองรออยู่แท้ๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆกลับตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก
‘ผมมีปัญหานิดหน่อยที่อยากจะถามคุณให้เคลียร์’ ถามเหรอ? โอบอุ้มได้แต่สงสัย อะไรกันนะที่หมออยากจะถาม
“ครับหมอถามได้เลยครับ”
‘อา.....คุณพร้อมและต้องการที่จะรับรู้การตรวจและการรักษาของคลินิกเราใช่ไหมครับ’
“ครับผม”นึกว่าหมอจะถามอะไรเสียอีก
‘แน่ใจนะครับเพราะมันมีบางอย่าที่คุณต้องทำก่อนจะมาตรวจและรักษากับผม’
“มันคืออะไรเหรอครับ”เสียงถอนหายใจจากปลายสายเริ่มทำให้เขารู้สึกกังวล
‘ถ้าคุณมั่นใจก็......’
ก็???ก็อะไรล่ะโอบอุ้มนึกรอคำตอบจากอีกฝ่ายอย่างใจจดใจจ่อ ลุ้นจนแทบจะวิ่งเข้าห้องน้ำไปหลายรอบแล้วด้วย
‘เอ่อเอาเป็นว่า วันพรุ่งนี้ รบกวนคุณมาหาผมที่บ้านนะครับ เดี๋ยวผมจะส่งที่อยู่ไปให้ทางSMS’
“ได้ครับพรุ่งนี้กี่โมงดีครับ ผมจะได้เตรียมตัวถูก”
‘สักช่วงค่ำๆแล้วกันนะครับช่วงเช้ากับเย็นผมอยู่คลินิก’
“ได้ครับๆงั้นพบกันหนึ่งทุ่มนะครับ”
‘อีกเรื่องหนึ่ง......’ ยังมีอีกงั้นเหรอ? โอบอุ้มเลิกคิ้วสงสัย
“ครับ?”
‘เอ่อ เปล่าครับ’
“......”
‘คืนนี้.......ฝันดีนะครับโอบอุ้ม’
“ชะเช่นกัน คะครับ”
แก้มเขาเห่อร้อนขึ้นมาจนต้องยกมือขึ้นมาจับแก้มตัวเองไว้ สายตาเหลือบไปมองกระจกแล้วก็ต้องตกใจ เขายิ้ม!! เป็นไปได้ไง ทำไมเขาถึงกำลังยิ้มล่ะ หรือมีอะไรไม่ปกติเกิดขึ้นกับเขา มือเลื่อนขึ้นมาจนถึงหน้าอก รับรู้ได้ถึงจังหวะการเต้นที่รุนแรงจนตัวเองได้ยิน แค่นึกถึงเสียงทุ้มที่เอ่ยบอกฝันดี หัวใจเจ้ากรรมก็แทบจะทะลุออกมา บ้าจริงโอบอุ้ม ก็แค่เขาบอกฝันดี จะใจเต้นไปทำไม มาถึงตอนนี้ เขาไม่เข้าใจตัวเองเลย............
ในที่สุดก็มาถึง โอบอุ้มยืนมองบ้านหลังใหญ่โตเบื้องหน้าอย่างตกตะลึง ไม่คิดเลยว่าหมอจะมีบ้านหลังใหญ่จนแทบจะเรียกว่าวังก็ได้ สองขาของเขาแข็งจนก้าวไม่ออก ไม่รู้ตื่นเต้นหรือกลัวกันแน่ แต่ที่รู้ๆคือโอบอุ้มทำตัวไม่ถูก ประตูหน้าถูกเปิดออกนั่นเท่ากับเชิญให้เข้าไปใช่ไหม ขาทั้งสองก้าวเข้าไปในตัวบ้านที่ด้านข้างเป็นสวนที่มีน้ำพุประดับอยู่กลางสวน ถ้าเขาได้มาเห็นตอนกลางวันมันคงจะสวยน่าดู หมอเสือยืนส่งยิ้มรอผมอยู่ที่ประตู ความกังวลทำให้โอบอุ้มกระชับกระเป๋าของตัวเองมากยิ่งขึ้น รู้สึกหายใจไม่ทั้วท้องเลย
“มาแล้วเหรอครับ”
“ครับหมอ”โอ่อ่าดีจังทั้งงานศิลป์และของตกแต่งในตัวบ้าน ราคาคงไม่น้อยเลย
“ทานอะไรมาหรือยังครับ”
“อ่าผมเรียบร้อยแล้วครับ แล้วเอ่อ เราจะเริ่มกันที่ไหนดี”
“งั้น......ไปที่บนห้องผมดีกว่า”หมอใช้มือโอบเอวเขาให้เดินไปคู่กัน โอบอุ้มที่มัวแต่สนใจรอบข้างจึงไม่ทันสังเกตว่าตนถูกมือหนาลูบไล้เอวบางอย่างสนุกมือ
“ไม่ตรวจที่คลินิกแบบนี้หมอมีอุปกรณ์พร้อมหรือครับ”ด้วยความสงสัยทำให้เขาต้องถามออกไป ในคลินิกย่อมมีเครื่องมือครบถ้วนอยู่แล้ว การมาตรวจส่วนตัวแบบนี้เขาไม่คิดว่าหมอจะมีอุปกรณ์พร้อม ใบหน้าหล่อเพียงส่งยิ้มหวานให้เท่านั้น
“อย่าห่วงเลยครับ.....”
“......”
“อุปกรณ์ของผม........พร้อมใช้งานอยู่แล้ว”โอบอุ้มพยักหน้าพร้อมเดินตามร่างสูงไปเอาน่า หมอบอกว่าพร้อมก็พร้อมนั่นล่ะ คงไม่มีทางโกหกหรอก หมอเปิดประตูห้องในสุดชั้นสองให้เขาเข้าไป ภายในห้องดูเรียบง่าย เตียงใหญ่ที่มีผ้าปูสีเลือดนกกับผ้าห่มชุดเดียวกัน ห้องเกือบจะว่างเปล่ามีเพียงตู้เสื้อผ้า เตียงนอน และชั้นหนังสือ ซึ่งเขาไม่เห็นว่าจะมีอุปกรณ์การตรวจอยู่ตรงไหนเลย นี่เขาสอดส่องสายตาไปจนทั้วทั้งห้องแล้วนะ
ปังแกร็ก.....
โอบอุ้มสะดุ้งเฮือกเมื่อความเงียบภายในบ้านทำให้หูของเขาได้ยินเสียงปิดประตูลงกลอนของหมออย่างชัดเจน ทำไมเขาเพิ่งสังเกตนะว่าหมอแต่งตัวไม่เรียบร้อย มันดูยั่วยุอารมณ์ปราถนาแปลกๆยิ่งแผ่นอกที่โผล่พ้นเสื้อออกมาล่อสายตานั้น ยิ่งทำให้โอบอุ้มทำตัวไม่ถูก หมอเดินเข้ามาใกล้จนแผงอกห่างจากสายตาเพียงคืบเดียว กลิ่นโคโลญจ์นแตะจมูกจนเขาเผลอสูดดมมันเข้าไปเต็มปอด
หอมตัวหมอหอมจัง
โอบอุ้มตาลอยมัวเมาอยู่กับกลิ่นกายของอีกฝ่ายอย่างไม่อาจต้านทานไม่รู้ตัวเวยซ้ำว่าถูกมือหนาช้อนใบหน้าขึ้นมารับจุมพิศเมื่อไหร่
“อืม..”
โอบอุ้มส่งเสียงครางอย่างแผ่วเบากับสัมผัสที่ประทับบนริมฝีปาก มันหวานและอุ่น จนทำให้ตัวของโอบอุ้มล่องลอยราวกับอยู่ในความฝัน รสสัมผัสแบบนี้เขาไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน นี่หรือที่เรียกว่าจูบจูบเหรอ
จูบ!!!!
โอบอุ้มเบิกตากว้างเมื่อสติกลับมาจนครบถ้วน นี่เขาเผลอตัวจูบกับหมอได้ยังไงกัน มือทั้งสองทั้งผลักทั้งดันให้คนตัวโตปล่อยริมฝีปากบางที่ดูดดึง หมออธิปผละออกมองใบหน้าหวานอย่างไม่เข้าใจ นี่เขานึกว่าโอบอุ้มยินยอมพร้อมใจเสียอีกสงสัยจะหลงตัวเองมากไป แต่ไม่เป็นไร........ตะล่อมเอาทีหลังก็ได้ หึหึ......โอบอุ้มตัวน้อยที่สั่นอยู่ในอ้อมแขนเขาไม่มีทางรอดไปจากเสืออย่างเขาได้หรอก“หมะ หมอจูบผมทำไม” หมออธิปไม่ตอบทำเพียงแค่กอดเอวเขาไว้ไม่ขยับไปไหนกับสายตาคมที่จับจ้องผมจนแทบจะกลั้นหายใจ
“คุณไม่รู้เหรอ”นี่เขาควรจะรู้เหรอ
“มะไม่” หมอยิ้มมุมปากพร้อมกับใบหน้าที่โน้มลงมาใกล้
“ผมกำลังตรวจ......ด้วยปากของผมไงครับ”
“...!!!!” บะ บ้าไปแล้ว!! ตรวจด้วยปากนี่นะ เขาตาค้างกับคำพูดที่ออกมาจากปากของหมดจนลืมดิ้นรน กว่าจะรู้ตัวร่าของเขาก็สัมผัสกับความเย็นและนุ่มของเตียงเสียแล้ว โอบอุ้มพยายามกระถดกายหนีคนด้านบน แต่กลับถูกหมอทาบทับเอาไว้แทนจนตอนนี้เขาไม่สามารถขยับไปที่ไหนได้เลย โอบอุ้มมองหน้าหมออย่างหวาดๆ พยายามหาทางเอาตัวรอดอย่างรนราน
“หมอหมอครับ ผะ ผมว่าเราไปตรวจที่คลินิกดีกว่า” หมออธิปเลิกคิ้วขึ้นเมื่อโอบอุ้มที่แทบไม่อยากจะจะเซ็นสัญญาเกิดอยากกลับไปตลินิกแทน
“ทำไมละครับ”
“ผมว่าเอ่อ อุปกรณ์การตรวจอะไรที่โน้นน่าจะมีครบกว่านะครับ” น้ำเสียงร้อนรนของโอบอุ้มทำให้หมออธิปอดขำไม่ได้
“อุปกรณ์ที่นี่ก็มีนะครับ ใหญ่ดีด้วยนะ อีกอย่าง......ไปที่นั่นต้องเซ็นสัญญานะครับ” คำพูดดูปกติแต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงต้องหน้าแดงกับคำพูดนั้นด้วย
“ไม่ ไม่เป็นไรครับ ผมยอมเซ็น งั้นเราไปคลินิกกันเถอะครับ หรือ หรือให้ผมกลับบ้านแล้วไปพบหมอที่คลินิกพรุ่งนี้ก็ได้” อะไรก็ได้ทั้งนั้น แค่ให้เขาไปให้พ้นจากสถานะการณ์ตอนนี้เป็นพอแต่หมออธิปดูเหมือนจะไม่เข้าใจ เพราะหมอเอาแต่ลูบไล้ผิวหน้าของเขาเล่นอย่างสนุกมือ โอบอุ้มตัวสั่นด้วยความกลัวเมื่อรู้ว่าอีกไม่ช้าตัวเขาจะเจอกับเรื่องใด เขานึกโทษตัวเองที่โง่เอาตัวเองมาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ ไม่น่าเลย เขาไม่น่ามาที่นี่เลย
“แต่ผมไม่อยากให้คุณเซ็นนี่ครับ......”
“.....” โอบอุ้มเบี่ยงหน้าหนีสัมผัสจากปลายนิ้วร้อนที่เกลี่ยไปบนแก้มใส
“ผมอยากให้คัณหึงหวงผมอยากให้คุณเป็นของผม อยากให้คุณ ‘รัก’ ผม”
“ไม่ ไม่ ไม่มีทาง ผม ผมไม่ได้รักคุณ” คำพูดที่ออกมาจากปากของเขาทำให้หมออธิปไม่พอใจอย่างมาก จากการลูบไล้จึงกลายเป็นตรึงใบหน้าให้หันมารับริมฝีปากร้อนที่กดลงมาแทน
“อื้อ!!! อ่อย!!!” แม้จะพยายามสะบัดหน้าหนีเพียงใด กลีบปากบางก็ยังถูกดูดดึงจนช้ำอยู่ดี มือทั้งสองคอยทุบตีให้คนตัวใหญ่เจ็บปวด แต่หมออธิปกลับไม่สะทกสะท้าน เขายิ่งชอบใจกับการขัดขืนที่ดูน่าเอ็นดูนี่เสียอีกยิ่งโอบอุ้มขยับเท่าไหร่ ร่างกายของทั้งสองก็ยิ่งเสียดสีกันมากเท่านั้น และนั่น.......ก็ทำให้บางอย่างเบื้องล่างตื่นตัวขึ้นมา
“อย่าห่วงเลยครับ.....”หมออธิปยิ้มอย่างอ่อนโยนแต่แววตากลับดุดันจนน่ากลัว
“......”
“คุณจะไม่ได้ลงจากเตียงจนกว่าจะรับความรักจากผมจนอิ่มเลยล่ะ”โอยอุ้มเบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัวพยายามจะตะโกนร้องให้คนช่วย แต่กลับถูกปิดปากด้วยจุมพิศร้อนแรง เขาเม้มปากแน่นไม่ยินยอมให้อีกคนสอดแทรกปลายลิ้นเข้ามา
“อ๊ะอื้ออ!! อ่า!!!!!” แต่เมื่อเป็นสิ่งที่หมอเสือต้องการมีหรือที่โอบอุ้มจะขัดขืนได้นาน ปลายคางมนถูกบีบด้วยมือใหญ่อย่างแรงจนต้องยอมเปิดปากออก ทันทีที่ริมฝีปากเล็กแยกออกจากกันหมอเสือก็สอดลิ้นมาเกี่ยวกระหวัดแทบจะทันที โอบอุ้มอยากจะกัดลิ้นอีกคนให้ขาดแต่ก็ติดที่ถูกมือใหญ่ที่ยังคงบีบปลายคางเอาไว้ อกกว้างถูกกำปั้นน้อยๆทุบตีอย่างแรงแต่คนตัวใหญ่กลับไม่รู้สึกอะไรราวกับแรงที่กำลังทุบตนนั้น เป็นเพียงมดตัวเล็กๆที่คอยกัดให้รู้สึกรำคาญใจเท่านั้น เสียงจุมพิตดังไปทั้วทั้งห้อง สมองของเขามึนงงจนแรงดิ้นรนค่อยๆหายไป เมื่อเห็นว่าโอบอุ้มเลิกดิ้นรนมือที่ยึกปลายคางเล็กเอาไว้ก็เปลี่ยนมาดึงเสื้อตัวน้อยให้ออกจากคนตัวเล็กแทน ผิวขาวผุดผ่องปรากฎสู่สายตาคมจนทำให้หมออธิปต้องถอนริมฝีปากออกมาชื่นชม หมออธิปเลียปากของตนเองอย่างกระหายในตัวโอบอุ้มที่บัดนี้ นอนหอบหายใจถี่ด้วยความมึนงง
“อ๊ะ!”
ยอดอกสีสวยถูกดูดดึงและขบเม้นจนชุ่มไปด้วยน้ำลาย เสียงดูดดึงดังจนน่าอายแต่โอบอุ้มกลับทำได้เพียงกดศีรษะของหมอเอาไว้พร้อมกับแอ่นอกขึ้นอำนวยความสะดวกให้กับคนตัวสูง ปลายลิ้นฉกชิมความหวานอยากตะกละตะกลามมืออีกข้างก็บีบบี้ยอดอกที่ว่างอยู่ โอบอุ้มแหงนหน้าขึ้นด้วยความเสียวซ่านเสียงครวญครางดังออกมาจนหวานหู หมอละมือจากยอดสวยลูบไล้ลงไปจนถึงกลางกาย
จุ้บ จ๊วบ
ระหว่างที่ปากยังคงดูดดึง มือก็ทำหน้าที่ปลดเปลื้องกางเกงออกจากคนใต้ร่างจนโอบอุ้มเปลือยเปล่า ตัวตนของโอบอุ้มตั้งชันท้าทายฝ่ามือร้อนที่จับและรูดรั้งมันจนขยายพองแทบระเบิด ความเสียวซ่านทำให้โอบอุ้มบิดกายไปมา นั่นยิ่งเพิ่มการเสียดสีระหว่างแกร่นกายของตนกับมือของหมอ
“อื้อหมอ อย่าจับแบบนั้น” ทั้งๆที่ปากร้องห้าม แต่สะโพกเล็กกลับขยับตามแรงชักนำของหมอ อธิปอย่าไม่อาจจะห้ามได้สุขก็สุข แต่อีกด้านของจิตใจกลับร้องให้เขาหยุดสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ มือเล็กจึงดันอกกว้างทั้งๆที่มันสั่น
“อย่ะอย่า อื้อ!!”
ใบหน้างามถูกช้อนให้รับจูบเร่าร้อนจากหมออธิป ขาทั้งสองข้างถูกแยกออกจนเผยให้เห็นช่องสีสวยที่ปิดสนิทก่อนที่ร่างใหญ่โตจะแทรกเข้าไปอยู่ตรงกลาง
“อื้อจะทำอะไร อย่านะ”
“สีชมพูน่ากินจังขอผมชิมสักคำเถอะ”
หมอมองแก่นกายเล็ดด้วยสายตาพราวระยับราวกับถูกอกถูกใจอย่างมาก ลิ้นร้อนไล้เลียไปตามตวามยาวก่อนจะวนตรงส่วนปลายจนเจ้าของถึงกับดิ้นพล่าน หมออธิปก้มลงครอบครองดูดแท่งรักเข้าปากจนแก้มตอบขยับปากครอบครองจนมันผลุบเข้าออกจนสุด ยิ่งได้ลิ้มลองมากเท่าไหร่มันยิ่งทำให้รู้สึกเสพติดจนห้ามใจไม่อยู่ อยากจะดื่มดำ กลืนกินร่างเล็กตรงหน้าไปทั้งตัว หว่นยิ่งกว่าน้ำตาล หอมยิ่ฃกว่าน้ำผึ้ง รสสัมผัสช่างนุ่มลิ้นชวนให้ลิ้มลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสียงครวญครางที่ดังเข้าหู มันช่างไพเราะกว่าฟังบทเพลงใดๆ ความหวานพวยพุ่งออกมาจนล้นปากทำให้หมออธิปถอนปากร้อนออกจากแกร่นกายของโอบอุ้มทั้งที่ในปากยังเต็มไปด้วยน้ำรัก
“แฮ่กพอ แฮ่กๆ แล้ว”
หมอไม่ตอบกลับคายน้ำรักลงใส่มือตัวเอง โอบอุ้มมองการกระทำนั้นด้วยความเหม่อลอย สมองมึนงงได้แต่พูดพร่ำคำเดิมซ้ำๆทั้งที่สติยังไม่กลับมาครบถ้วน
“อย่าห่วงไปเลยผมจะเอ็นดูคุณอย่างดี บอกแล้วว่าผมจะรักคุณจนอิ่มเชียวล่ะ”
“อ๊าเจ็บ!!!”
ทันทีที่ปลายนิ้วที่ถูกน้ำรักชโลมจนชุ่ม หมออธิปก็สอดแทรกเข้าไปยังช่องทางที่ปิดสนิท ค่อยๆกดนิ้วเข้าไปจนสุด แต่โอบอุ้มที่รับรู้ถึงความเจ็บแปลบเริ่มดิ้นรนหนีนิ้วร้อนที่รุกราน
“อย่าดิ้นสิเดี๋ยวก็มีความสุขแล้วล่ะ”
“ไม่อื้อ เจ็บ อย่า อ๊ะๆ”
แต่จู่ๆความเจ็บปวดกลับแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านจนร่างเล็กแอ่นกายขึ้นอย่างลืมตัว ช่องทางสั่นระริกขมิบตอดรัดจนคนตัวโตยิ้มอย่างถูกใจ ตรงนี้สินะ
“อะไรน่ะอ๊ะ อื้อ ทำไมร้อนแบบนี้”
ความต้องการของโอบอุ้มถูกนิ้วร้อนกระตุ้นจนแทบจะทนไม่ไหวแกร่นกายที่ถูกรีดน้ำรักไปก่อนหน้ากลับมาชูชันท้าทายสายตาอีกครั้ง
“ชี้หน้าแบบนี้อยากโดนกินอีกหรือครับ หืม?”
“มะไม่ ไม่นะ”
แม้จะปฏิเสธเท่าไหร่ แต่ก็ถูกกลืนกินอีกครั้งอย่างปากหมออธิปว่าอยู่ดี โอบอุ้มที่ไร้เรียวแรงจะตอบโต้เพราะถูกความเสียวซ่านเล่นงานได้แต่นอนหอบหายใจส่งเสียงครวญครางกับสิ่งที่หมอธิปปรนเปรอให้ สมองขาวโพลนรับรู้เพียงว่าร่างกายของตนล่องลอยขึ้นไปสูงจนมือบางเผลอกำผ้าปูเตียงแน่น
“หึหึ หวานจริงๆ จะกินสักกี่ครั้งก็ยังหวาน ตรงนี้เองก็ดูจะพร้อมแล้วได้เวลา กิน จริงๆเสียที” โอบอุ้ทผวาตามนิ้วที่ถูกถอนออก เพราะหมออธิปที่ผละออกมาจัดการกับเสื้อผ้าตนเองก่อนที่ร่างเปลือยเปล่าของหมอจะทาบทับมาบนร่างกายเปลือยเปล่าของเขา
“เอาล่ะนะ....”บางสิ่งที่ใหญ่โตและร้อนถูกจับมาจ่อที่ปากทางรักก่อนจะถูกเจ้าสิ่งนั้นสอดใส่เข้าไป
“โอะโอ๊ย!! เจ็บ!!”
ยิ่งถูกความเจ็บปวดเล่นงานมือบางก็ยิ่งทุบตีจนแผ่นอกแดง แต่คนด้านบนกลับไม่ตอบโต ได้แต่หยุดแน่นิ่งกัดฟันระงับความเจ็บปวดรอให้ร่างเล็กได้เคยชินกับความใหญ่โตของเขา แต่การรัดแน่นของช่องทางรักทำให้ยากเหลือเกินที่จะอดทนต่อความเย้ายวนนี้
“อื้ออยะ อย่าขยับนะ อ๊า”
เสียงหวานเผลอส่งเสียงครางออกมาอย่างลืมตัว เมื่อความใหญ่โตค่อยสอดลึกเข้ามามากกว่าเดิม แต่ความเจ็บกลับมีความรู้สึกอื่นปะปนมาด้วยหมออธิปที่อดทนไม่ไหว หยัดกายเข้าไปจนสุดความยาว
“แน่นเหลือเกินอา คุณทำให้ผมแทบคลั่ง”
“อื้อไม่เอา อ๊า มัน อี๊ จุก”
ยิ่งหมออธิปขยับเขายิ่งทั้งจุกและเสียววาบจนส่งเสียงครางออกมาไม่เป็นภาษา ยิ่งเขาหยัดกายเข้ามาลึกเท่าไหร่ โอบอุ้มยิ่งร้อนรุ่มจนดิ้นพล่านไปด้วยไฟปรารถนา ความรู้สึกล่องลอยกลับมาอีกครั้งและทุกครั้งที่หมออธิปดันเช้ามาจนสุดมันมักจะทำให้โอบอุ้มร้องครางเสียงหวาน แผ่นอกที่เคลื่อนไหวเพราะแรงกระแทกจากร่างใหญ่มันช่างยั่วยวนใจจนหมออธิปอดไม่ได้ต้องก้มลงไปดูดดึงเม็ดทับทิมมาไว้ในปากร้อน
“อื้ออ๊า อื้ม”
เสียงหวานร้องตามจังหวะการกระแทกเข้ามาของหมอยิ่งเขาเร่งจังหวะมากเท่าไหร่ โอบอุ้มยิ่งส่งเสียงร้องจนแทบจะหมดแรง สายตาคมพลันเห็นยอดทับทิมที่แดงก่ำจากแรงดูดของตน กับลำคอขาวผ่องที่เนียนจนเกิดความหมั่นเขี้ยว หมออธิปอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปขบเม้นให้มันเกิดร่องรอยที่บ่งบอกว่าคนตรงหน้านี้เป็นของเขา เหล่าแมลงและพวกมดปลวกทั้งหลาย อย่าได้หวังจะเข้ามายุ่งย่ามกับเมียเขา ยิ่งคิดแรงกระแทกก็ยิ่งเร่งจังหวะจนคนตัวเล็กสั่นไปตามแรง
“อ๊าไม่ อื้อ ไม่ไหวแล้ว อ๊าๆ”
“อาอีกนิดเดียว ซี๊ด ใกล้แล้วครับ”
หมออธิปยิ่งเร่งโหมแรงขยับเข้าออกจนโอบอุ้มแทบจะลอยขึ้น ยังดีที่แขนเล็กโอบรอบคอของหมออธิปเอาไว้ ไม่อย่างนั้นศีรษะคงได้กระแทกกับหัวเตียงเป็นแน่ ความเสียวซ่านถูกดันมารวมอยู่ตรงส่วนปลายเป็นสัญญาณบอกให้หมออธิปเร่งจังหวะขึ้น ไม่นานร่างทั้งสองก็ปลดปล่อยเสียงและสายธารแห่งความสุขออกมา
ทั้งสองหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน มือใหญ่ลูบไล้ไปตามไรผม สายตาคมหวานหยาดเยิ้มมองคนใต้ร่างอย่างเอ็นดู โอบอุ้มยังคงตาลอยสติยังไม่กลับมาครบถ้วน อีกทั้งช่องทางรักเองก็เต้นตุบๆไม่ยอมหยุดหมออธิปถอดถอนกายออกจนเกิดเสียง หยาดน้ำที่อยู่ภายในค่อยๆไหลออกมาจนเปรอะที่นอน ขาของโอบอุ้มสั่นไม่สามารถเอามันเข้ามาแนบชิดกันได้
เจ็บเหลือเกิน
นั้นคือสิ่งที่โอบอุ้มคิดเป็นสิ่งสุกท้ายก่อนจะสิ้นสติไป หมออธิปนอนลงข้างกายคนตัวเล็กมองแล้วนึกถึงวันที่เขาได้เห็นใบหน้าหวานนี้ ต้องใจหรือต้องมนต์ใดไม่อาจจะรู้ แต่ที่เขามั่นใจคือเขาไม่สามารถลบเรื่องของโอบอุ้มไปจากหัวได้ นิ้วมือเกลี่ยหยาดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าสวยออก ก่อนจะลุกขึ้นไปเตรียมผ้าและน้ำอุ่นมาเช็ดตัวและทำความสะอาดให้ อีกทั้งยังใช้นิ้วนำสิ่งที่เขาปชดปล่อยไว้ภายในออกมา พอมาเห็นตอนนี้เขาถึงได้รู้ว่า มันทั้งบมและช้ำอย่างหนัก อีกทั้งน้ำสีขุนที่ถูดนำออกมายังมีเลือดผสมอยู่ด้วย แย่แน่ๆ แบบนี้ ดีไม่ดีนอนซมเพราะพิษไข้แน่ๆ
หมอได้แต่ถอนหายใจ การรวมรัดให้โอบอุ้มเป็นของเขามันก็ดีอยู่หรอก แต่การที่เขายั้งตัวเองเอาไว้ไม่ได้จนทำให้อีกคนเจ็บนี่เป็นความผิดเขาจริงๆ ไม่เป็นไร.......ก็เขาเป็นหมอนี่ เมียเจ็บแค่นี้เขาดูแลได้สบายอยู่แล้ว หมออธิปยกยิ้มก่อนจะเช็ดตัวให้โอบอุ้มต่อไป เสียงนกร้องและแสงแดดที่สาดส่องเข้ามากระทบใบหน้าทำให้โอบอุ้มย่นคิ้วด้วยความหงุดหงิด อาการปวดเมื่อยตามตัวทำให้ไม่อยากจะตื่นลืมตาขึ้นมาแต่เมื่อขยับตัวความเจ็บแปลบเบื้องล่างก็ปลุกเขาตื่นเต็มตา โอบอุ้มกระพริบตาให้ชินกับแสงสมองประมวลผลถึงเรื่องก่อนหน้านี้ เพดานสีขาว กับเตียงนอนสีเลือดนกมันไม่ใช่ห้องของเขานี่ พลันสมองน้อยๆก็นึกขึ้นมาได้ บ้าจริง!!นี่เขานอนกับหมอเสืองั้นเหรอ แม้จะเกิดความเศร้าสร้อยแต่หัวใจกลับเต้นระรัวโดยไม่ฟังที่สมองสั่งการเขาไม่ควรที่จะมาดีใจกับเรื่องนี้ เขาควรจะเสียใจ ควรจะผิดหวัง ควรจะโทษหมอสิไม่ใช่กลั้นยิ้มทั้งที่ความเจ็บเบื้องล่างยังไม่หายไป
“อ้าว.....อรุณสวัสดิ์ครับ” หมอเสือเอ่ยคำทักทายด้วยรอยยิ้มในมือของร่างสูงถือชามใบพอดีที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคืออะไร กลิ่นลอยมาจนน้ำย่อยในกระเพาะร้องเรียกหาแบบนี้ข้าวเช้าแน่ๆ แต่......ของใครล่ะ
“ครับ.....”
“มาครับ ตื่นแล้วก็มาทานข้าวเช้ากัน จะได้ทานยาต่อ” หมอยิ้มอย่างใจดี ราวกับเรื่องก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น โอบอุ้มพยุงตัวขึ้นนั่งแม้มันจะลำบากแต่เขาก็ไม่ปริปากบ่นอย่างที่น้าอิ่มสอนเอาไว้.....เป็นลูกผู้ชาย ต้องไม่แสดงความอ่อนแอให้ใครได้เห็น
หมอเสือนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง ก่อนจะวางข้าวต้มลงบนโต๊ะใกล้ๆ มือหนาจับช้อนขึ้นตักข้าวในชามมาเป่าก่ออนที่มันจะถูกจ่อที่ปากของเขาซึ่งโอบอุ้มมองด้วยความไม่เข้าใจ
“ทานสิครับ ผมให้แม่บ้านทำให้เป็นพิเศษเลยนะ”
“เอ่อ ผม ผมทานเองดีกว่าครับ” มือเล็กๆพยายามจะแย่งชิงช้อนในมือหมอแต่หมอที่รู้ตัวดึงช้อนหลบและนำมาจ่อที่ปากเขาเช่นเดิม โอบอุ้มจำใจต้องอ้ารับมันเข้าปากอย่างไม่อาจจะเลี่ยงหมอเสือคอยป้อนเขาอยู่เรื่อยๆ ไม่มีครั้งไหนเลยที่มันจะร้อนจนเกินไป ทุคำที่หมอป้อนมันมักจะอุ่นพอดีๆ ไม่เย็นจนเกินไป จนโอบอุ้มต้องเหลือบมองอย่างสงสัยนี่หมอใช้ปรอทวัดอุณหภูมิหรือเปล่า ปากเล็กเคี้ยวไปสมองก็นึกไปตาม จนท้องเริ่มตึงศีรษะเล็กๆจึงได้ส่ายหน้าปฏิเสธ
“อิ่มแล้วครับ”
“โอเคครับ ถ้าอย่างนั้น.....น้องโอบทานยานะครับ พี่เสือจัดยาให้แล้ว”
อะ อะ อะไรนะ!! นะ น้องโอบ!! พะ พี่เสือ!!นี่มันวันโลกาวินาศหรือยังไง สรรพนามที่ไม่คุ้นหูถึงหลุดออกมาจากปากหมอง่ายๆแบบนี้โอบอุ้มนิ่งค้างจนแข็งทื่อ ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินมา คนที่ไม่เคยได้ยินคำเช่นนี้ถึงกับขนลุกซู่ราวกับจะบอกว่าอันตรายเกินไป โอบอุ้มรีบส่ายหน้าหวือพยายามจะลุกจากเตียงเพื่อเดินออกไป
“น้องโอบจะไปไหนครับ?” น้องโอบอีกแล้ว
“ผม ผมจะกลับบ้านเลยน่ะครับ ปะ ปะ ป่านนี้ที่บ้านคงเป็นห่วงผมแย่แล้ว” ผมเงยหน้าขึ้นสบสายตาคมที่ตอนนี้ฉายความไม่พอใจออกมาจนเด่นชัดมันทำให้เขาสั่น ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขาถอยหลังหนีหมอด้วยซ้ำ
“ใครรออยู่ที่บ้านหรือครับ สำคัญขนาดที่อยู่กับพี่ไม่ได้เลยหรือ”
“....” หมอเสือค่อยก้าวเข้ามาช้าๆโดยที่เขาได้แต่ยืนยิ่งอยู่ที่เดิม
“ว่าไงครับ แฟน หรือคนรักครับ ที่รอน้องโอบอยู่ เขารู้ไหมครับว่าเมื่อคืนน้องโอบโดนพี่เสือรักไปหนักแค่ไหน”
“....” ยิ่งได้ยินแก้มทั้งสองข้างของโอบอุ้มก็แดงปลั่งภาพการร่วมรักกันอย่างเร่าร้อนของเขาและหมอก็ฉายขึ้นมาในหัว
“เขาเคยได้ยินเสียงครางของน้องโอบไหม เคยพาน้องโอบให้ปลดปล่อยทั้งๆที่แค่สอดใส่ไหมครับ”
“พะ พอ” เขาได้แต่ยกมือขึ่นปิดหูแน่นไม่อยากฟังเรื่องลามกแบบนี้
“ทำไมล่ะ ไหนจะรสชาติหวานๆจากตรงนั้นยอดเล็กนี่ที่โดนพี่ดูดกินจนมันแดงช้ำ เขาเคยได้ทำแบบพี่ไหม”
“นะ น้าอิ่มไม่ทำแบบนั้น!!!” เมื่อมันเรื่องมันเริ่มบานปลายโอบอุ้มก็ทนไม่ได้จนต่องตะโกนออกมา
“หืม......น้าอิ่ม?” หมอเสือเลิกคิ้วมองโอบอุ้มที่ยืนตัวสั่นแก้มแดงทั้งที่มีมือปิดหูเอาไว้น่สเอ็นดูจนอยากจะรักให้หนักๆ
“ชะ ใช่ นะ น้าอิ่ม”
“ใครครับ.....แฟน หรือว่า....” ความคลางแคลงใจยังคงทำให้หมอเอ่ยถามต่อ
“นะ น้า!! น้าอิ่มเป็น น้าของผม” หากไม่ยอมพูดความจริงออกไปมีหวังได้ยืนฟังเรื่องลามกต่อทั้งวันแน่ๆ แค่นี้ เจ้าตัวน้อยใต้กางเกงก็แทบจะตื่นขึ้นมาแล้ว
“หึหึ แล้วแฟนละครับ”
“มะ ไม่มีครับ” แก้มใสถูกปลายนิ้วเกลี่ยเล่นอย่างเอ็นดูเมื่อได้ฟังคำตอบที่พอใจ
“แบบนั้นก็ดีแล้วล่ะครับ เพราะน้องโอบเป็นเมียพี่และพี่คงไม่ยิ้มใจดีถ้าเมียพี่บอกว่ามีแฟน”
อึก!!
น้ำเสียงของหมอเสือไม่ได้ล้อเล่นแม้แต่น้อย ทั้งบรรยากาศและหลายๆอย่างบอกให้เขารู้ว่าหมอพูดจริง แม้ว่าสีหน้าที่แสดงออกมาจะยิ้มตามแบบฉบับของหมอแต่แววตาที่ใช้มองเขานั้นเล่นเอาเขาหนาวไปถึงกระดูก
“เอ่อ แต่......ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้วนะครับ” มันคือความจริงเรื่องนี้......ผมคง ต้องพูดออกไป
“ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ ใช่ว่าเขาจะชอบน้องโอบด้วยเสียหน่อย”
ฉึก!!
เจ็บจนจุก...ใครสั่งสอนให้หมอพูดกับคนแอบรักแบบนี้กัน คำพูดคมดั่งใบมีดคำพูดหมอคงเป็นเลื่อยไฟฟ้า ที่หั่นใจเขาจนแหลกสลาย อยากมุดดินหนี อยากบินหายไปวันนี้เขารู้ซึ้งแล้วว่า อย่ารออาจพูดถึงคนอื่นให้หมอฟังเพราะนอกจากจะไม่ยอมรับง่ายๆแล้ว ลูกศรที่ยิงไปมันดันเลีเยวกลับมาแทงตัวจนตายได้เลยหมอนะหมอ เขาอยากจะร้องไห้ชะมัด
“ยังไงเสีย น้องโอบก็ต้องอยู่บ้านพี่อยู่แล้วพี่มีเวลาทำให้น้องโอบรักพี่เสืออีกนาน” ก็จริงนะ
แต่เดี๋ยว!!! ใครจะอยู่ที่นี่นะ
“ผม ผมเหรอ”
“ครับ จะใครล่ะครับ” โอบอุ้มส่ายหน้าหวือจนหมอเสือขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
“ไม่ๆๆ ผมต้องกลับบ้านผมสิครับ ผมจะอยู่ที่นี่กับหมอได้ไงกัน!!”ต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่ๆ
“ทำไมจะอยู่ไม่ได้ละครับ นี่บ้านพี่เสือ พี่เสือเป็นผัวน้องโอบน้องโอบอยู่บ้านผัว ไม่ถูกตรงไหน”
พูดมีเหตุผล นี่บ้านผัว ทำไมจะอยู่ไม่ดะ ดะ ได้ที่ไหนเล่า!!!!!สมองไอโอบมันช้า คิดอะไรไม่ค่อยจะทันแต่ก็ไม่ได้โง่ขนาดที่เออออห่อหมกไปกับหมอแบบนี้แน่ๆ
“ไม่ใช่ๆๆๆๆ ไม่ช๊ายยยยยยยยย”
“ทำไมไม่ใช่”
“ผะ ผม เอ่อ ใช่คือ ผมต้องกลับไปเขียนสกรู๊ปของหมอด้วยนะผะผมต้องรีบกลับแล้ว” แต่ยังไม่ทันที่โอบอุ้มจะได้ก้าวขามือหนาก็ยึดแขนเล็กๆเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“หมะ หมอ”
“น้องโอบจะเขียนยังไงครับ....”
“เอ่อ....”
“จะบอกเขาเหรอครับว่าพี่รักษาน้องโอบยังไง” หะ!!มะ ไม่ได้ๆ
“หรือจะอ้างอิงจากแหล่งที่มาว่าไงครับ ในเมื่อพี่ไม่ได้พูด....”
“....”
“ก็พี่ลงมือทำให้ดูน้องโอบจะบอกว่ามาจากประสบการณ์โดยตรง......อย่างนั้นเหรอครับ”
“!!!” จะ จริงด้วย!! งะงั้นก็เขียนไม่ได้นะสิ!! แล้วที่เขาเสียเวลามาที่นี่ทำทุกๆอย่างมันก็ไม่มีความหมายนะสิ เมื่อเห็นว่าโอบอุ้มช็อคและมีสีหน้าราวกับจะร้องไห้ออกมาหมอเสือก็โอบกอดคนตัวเล็กเอาไว้
“ไม่เป็นไรๆ ถ้าน้องโอบถูกไล่ออก พี่เสือยินดีเลี้ยงดูทั้งชีวิตเลยแค่เมียคนเดียวพี่เลี้ยงไหว”
เขาที่ยังอึ้งอยู่เบลอจนคิดอะไรไม่ออก จนสัมผัสอุ่นๆปัดผ่านผิวแก้มไปที่นิ่งช็อคจากข้อมูลที่ได้มาแต่เขียนไม่ได้กลับมาตกใจเพราะโดนหมออธิปขโมยหอมแก้มหน้าตาเฉยสายตาคมที่มีรอยหวานอยู่ในนั้นสะกดโอบอุ้มให้นิ่งเฉย ยอมรับริมฝีปากร้อนที่ประทับลงมาตัวของโอบอุ้มสั่งระริก แม้คิดจะดิ้นรนหลีกหนีจากสัมผัสอุนหวาบหวามนี้ หลีกหนีจากคนตรงหน้านี้แค่ไหนแต่ร่างกายก็ไม่ยอมเชื่อฟัง เสียงร้องห้ามดังขึ้นไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางหวานหูที่แทบจะฟังไม่เป็นภาษาโอบอุ้มถูกมอบความรักให้ครั้งแล้วครั้งเล่าจนท้วมทนไปทั้งตัวโดยที่หมอปล่อยให้คนใต้ร่างได้นอนพักทานข้าวเท่านั้น ทุกที่ภายในห้องนี้ถูกใช้เป็นจุดแสดงความรักของทั้งคู่จนแทบไม่เหลือที่ว่างขนาดในห้องน้ำโอบอุ้มก็ถูกรักจนแทบจะครบทุกท่าเลยก็ว่าได้ หมออธิปหลงมัวเมากับร่างกายหอมหวานจนไม่สามารถปล่อยให้เมียของตนได้ออกไปไหนจากบริเวณบ้านหากจะว่ากันตามจริง ไม่ยอมให้โอบอุ้มได้ออกจากห้องเลยมากกว่า เจอขนาดนี้โอบอุ้มเองคงต้องยอมรับแล้วล่ะว่า‘รัก’ ที่หมอมีให้เขานั้น นับไม่ถ้วนจริงๆรวมถึงจำนวนครั้งของการแสดงความรักด้วย
มือถือเครื่องสวยถูกส่งคืนเจ้าของหลังจากถูกยึดมานานทัเงสัปดาห์โอบอุ้มรีบรับและกดเปิดเครื่องเพื่อนเช็คดูสายโทรเข้าและข้อความต่างๆ นี่เขายังเคืองไม่หายที่วันก่อนตัวเขาโทรไปหาน้าโอบเพื่อจะบอกว่าไม่ค้องเป็นห่วงแต่หมอตัวดีดันคว้าเอาไปคุยเองเสียอย่างนั้น พอเขาถามว่าคุยอะไร กลับได้รับเสียงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกลับมาเฉยๆน่าโมโหๆ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งโมโห หมอที่แสนดีและสุภาพหายไปไหน คนที่เขาเจออยู่ตอนนี้คือหมอบ้าตันหาที่ไม่รู้จักอิ่มเอมตักตวงจากเขาราวกับไม่เคยลิ้มลอง เขาสิที่ตื่นมาทุกครั้งปวดเมื่อยตัวจนแทบจะขยับไปไหนไม่ได้แล้วรู้ไหมว่าหมอเสือพูดกับเขาว่ายังไง เจ้าหใอบ้าตันหานั่นบอกเขาว่า พี่เป็นหมอนะครับรู้ดีว่าน้องโอบรับพี่ได้แค่ไหน อย่ากลัวไป พี่ไม่ทำให้เมียช้ำหรอก ดูสิแทนที่จะสำนึก ไม่มีหรอก
“ฮัลโหล.....”
‘โอบหรือลูก’ เสียงของสาววัย40ปลายๆเรียกรอยยิ้มจากเขาได้เป็นอย่างดี
“น้าอิ่ม ผมคิดถึงน้าอิ่มครับ” ไม่ได้เสเสร้งหรือพูดเอาอกเอาใจใดๆเลยพอลองห่างจากน้าอิ่มมาแบบนี้ เขาก็อดคิดถึงไม่ได้จริงๆ
‘หึๆ นึกว่าอยู่กับแฟนจนลืมน้าไปแล้วเสียอีก’ แฟน....แฟนที่ไหน?
“ใครครับแฟนผม”
‘นี่เราหลงๆจนลืมแฟนตัวเองแล้วเหรอ ก็ตาเสือไงล่ะวันก่อนยังบอกน้าอยู่เลยนะว่าจะมาสู่ขอเราให้เป็นเรื่องเป็นราว’ เขาอ้าปากค้าง นี่ไอหมอบ้ามันไปพูดอะไรไว้กันแน่
“ไม่ใช่ๆ น้าอิ่มไม่ใช่นะครับ” แทนที่เขาจะแก้ตัวแล้วน้าอิ่มจะชะงักกลับหัวเราะใส่เขายกใหญ่
‘จะไม่ใช่ได้ยังไง เด็กสมัยนี้นี่แปลกอดเปร้ยวกันไม่เป็นหรือยังไงนะ ถึงไวไฟกันแบบนี้’
“.....” ยิ่งได้ยินน้าอิ่มพูดเขาก็ยิ่งช็อค ไอหมอบ้ากามนั่นมันไปเป้าหูอะไรน้าอิ่มของเขา!!!!!
‘เอาเถอะๆ ต่อไปโอบก็ไม่ต้องเข้ามาทำงานกับน้าแล้วล่ะ’
“ทะ ทำไมละครับ” หรือจะเป็นเพราะเขาเอาข้อมูลไปเขียนไม่ได้
‘อ้าว......เป็นถึงคุณนายหมอแล้วนี่ จะมาทำงานนั่งโต๊ะอยู่ทำไมล่ะจ๊ะ’ใบหน้าขาวนวลแดงซ่านเมื่อถูกแซวเรื่องสถานะ แม้จะยังไม่ยอมรับก็ตาม
“แต่ แต่ผมอยากทำนะครับน้าอิ่ม”
‘น้าว่าเราไปคุมแฟนเราจะดีกว่านะ เพราะเท่าที่น้าได้ยินมาเนี่ยหมอของคลินิกมารักษ์ ขึ้นชื่อเรื่องเสน่ห์ไม่ใช่เหรอ’
“.....” มันก็ใช่ ตอนที่ฟังคำเล่าจากปากเพื่อนตัวเองเขาก็ไก้ยินแต่คำป้อยอถึงความหล่อน่าซั่มของหมอ
‘เห็นว่า สาวๆสวยๆหนุ่มใหญ่หนุ่มน้อยหน้าตาดีๆพากันไปรักษาทั้งๆที่ไม่ได้ป่วย ขนาดยอมจ่ายแพงเสียด้วยนะไม่รู้ว่าอย่างหมอจะทนไหวหรือเปล่านี่สิ’ เขากำโทรศัพท์แน่นในหัวจินตนาการไปต่างๆนาๆ ทุกๆบทรักถ้าหากคนใต้ร่างของหมอไม่ใช่เขาล่ะ ถ้าเป็นคนอื่นหมอจะทำไหมถ้าเป็นคนอื่นหมอจะ..... ฮึ่ม!!!! ไม่ได้ เขาจะยอมให้คนอื่นมาชุบมือแย่งหมอของเขาไปไม่ได้เขาต้องไปดูด้วยตาตัวเอง!!!
คิดได้ดังนั้น โอบอุ้มก็อาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดที่หมออธิปเป็นคนไปเลือกซื้อมาให้เขาแถมยังจัดเอาไว้เป็นชุดๆให้ได้รู้ว่าควรใส่ตัวไหนโอบอุ้มรีบแต่งตัวด้วยความร้อนใจก่อนจะวิ่งลงมายังชั้นล่าง
“คุณหนูโอบคะ คุณหนูโอบจะไปไหนคะคุณหมอสั่งไว้ว่าจะไปไหนให้โทรไปบอกคุณหมอก่อน” ป้านิ่มถามด้วยความตกใจเมื่อไม่เคยเห็นเขารีบร้อนขนาดนี้
“ไปคลินิกของหมอเสือครับป้านิ่ม”
“ไปคลินิกหมอ ไปทำไมคะ หรือว่าคุณหนูโอบไม่สบาย” ป้านิ่มดูร้อนใจมาก แต่เขาไม่มีเวลาแล้วสัญญาณบางอย่างเตือนให้เขาไปจัดการที่นั่น
“อย่าเรียกคุณหนูสิครับป้า เรียกโอบเฉยก็ได้ ผมฟังแล้วมันแปลกๆ”
“ค่ะๆ แล้วตกลงหนูโอบจะไปทำไมคะ”
“ไปจัดการแมวที่ชอบแอบไปกินข้างนอกครับ!!”
เขาตอบอย่างมั่นใจโอบอุ้มกับสาวเท้าวิ่งไปที่รถแทกซี่ที่เขาเรียกบริการเอาไว้ หึหึ!!เดี๋ยวเจอโอบอุ้มแน่หมอ เดี๋ยวเจอกันแน่!!!!!
ทันทีที่รถจอดหน้าคลินิก โอบอุ้มก็รีบลงจากรถโดยเร็วเท้าทั้งสองแทบจะวิ่งเข้าไปข้างในจนคัณสาวที่นั่งอยู่ด้านหน้าตกใจที่เห็นผม
“คุณโอบอุ้มสวัสดีค่ะ วันนี้มาทำอะไรคะเนี่ย” โอบอุ้มยิ้มให้เธอทั้งที่ใบหน้าและสายตายังชะเง้อมองไปยังห้องของหมอเสือ
“จุ๊ๆ อย่าเสียงดังนะครับคุณสาว เดี๋ยวผมจะจับแมวไม่ได้” เธอมองเขาด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
“แมว?? แมวที่ไหนคะในนี้มีแมวด้วยเหรอคะคุณโอบ” เขายิ้มจนตาปิดในใจร้อนลุ่มอยากจะถลาไปยังจุดหมาย แต่เขาต้องการให้คุณสาวไปด้วย
“มีสิครับ ไปไหมครับผมจะพาไปดูแมวที่ชอบแอบมากินข้างนอก”
“ไปค่ะๆ ดิฉันชอบแมวมากๆเลย” โอบอุ้มและคุณสาวเดินตางไปยังห้องตรวจหมายเลข4อย้างไม่รอช้า และเมื่อมายืนอยู่เบื้องหน้าห้องตรวจคุณสาวเองก็เริ่มตั้งคำถามขึ้นมา
“คุณโอบคะ แมวอยู่ในนี้เหรอคะ”
“ใช่ครับ อยู่ในนี้แหละครับเดี๋ยวคุณสาวรอฟังเสียงนะครับอย่าเพิ่งเข้าไป” เขาบอกและยืนรออยู่หน้าห้องตรวจอยู่พักนึงและแล้วเสียงก็ดังขึ้นจริงๆ
“หมอ อูย ดีจังครับ อ๊ะ อ๊า” เขาเหลือบมองใบหน้าสวยที่เริ่มซีดเดาว่าตอนนี้คุณสาวคงรู้แล้วว่าแมวที่เขาหมายถึงคือใคร
“ลึกๆครับ อื้อ ลึกเลยครับ อ๊า อย่างนั้นแหละครับ!! ซี๊ดดด”
ทนฟังไม่ไหวแล้วโว๊ย!!!!!!!!!!!!
ปัง!!!!!!!
“นะ น้องโอบ มะ มาได้ยังไงครับ” โอบอุ้มกวาดสายตาไปจนทั่วบนเตียงมีหนุ่มร่างเล็กอยู่ในท่าที่ยกก้นหันมาทางหมอเสือ ส่วนมือของหมอเสือก็กำลังคว้านอยู่ในรูของคนตรงหน้าภาพที่น่ารังเกียจแบบนี้มัน มัน มันทำให้โอบอุ้มทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
พรึบ........สวบ!
“โอ้ยย!!! เจ็บๆๆ อย่า อ๊า!!!”
“ลึกๆใช่ไหม ห้ะ!!! แบบนี้ลึกพอไหม นี่แหน่ะๆๆๆๆ” เสียงร้องโหยหวนของร่างเล็กบนเตียงดังลั่นห้อง หมอและคุณสาวยืนอึ้งมองเขาที่หยิบเอาปากกาบนโต๊ะหมอมาสามด้านก่อนจะยัดมันเข้าไปแทนที่นิ้วของหมอ
“น้องโอบๆๆ ไม่เอาแล้วพอแล้วครับ พอแล้วๆๆ” โอบอุ้มถูกคนตัวใหญ่รวบไว้ในอ้อมแขนส่วนคุณสาวช่วยดึงปากกาออกจากรูเล็กๆของคนๆนั้น
“ปล่อยเลยนะ ปล่อยๆๆๆๆๆ”
“ฮื่อออ เจ็บอ่ะ หมอครับ ผมเจ็บจังเลย ดูสิครับ มันบวมเลย” ยัง ยังไม่เลิกร่านใช่ไหม
“แค่ปากกามันไม่แหกหรอก ลองให้ผมยัดขาตัวเองเข้าไปให้ไหมครับจะได้เช็คได้ว่าหลวมหรือเปล่า” ขนาดโดนเขาทำขนาดนี้คนๆนั้นก็ยังคงส่ายก้นยั่วยวนตาให้หมอเสืออยู่ดี
“ไม่ต้อง!!!เดี๋ยวผมให้หมอยัดของหมอเข้ามาก็รู้แล้วว่าหลวมหรือคับ!!”
“เฮ้ย!!!” หมอเสือร้องอุทานลั่นเมื่อคนไข้ตัวดีของตัวเองพูดออกมาหน้าตาเฉยแบบนั้น
“หมอลองใส่มาสิครับ”
“ไม่ๆๆ น้องโอบอย่าฟัง พี่ไม่เคยทำแบบนั้น ไม่คิดทำด้วย โอ๊ย!!!!!”ใบหูของหมอถูกใอบางดึงจนแทบจะหลุดติดมืออกมา ใบหน้าหล่อเหลาเหยเกด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ไม่ตอบโต้ใดๆให้โอบอุ้มต้องเจ็บ
“หนอย!!!! ถ้าไม่เคยมันจะพูดออกมาไหม หา!!!!”
“ไม่ๆๆ ไม่เคยเลยจ้าเมียจ๋า พี่ไม่เค๊ยไม่เคยยุ่งกับเขาเลยนะ”เสียงสูง มีการเสียงสูงตอบแบบนี้ ไว้ใจไม่ได้
“แน่ใจ........” มือบางบิดหูแรงขึ้นเพื่อเค้นความจริงออกมา
“โอ๊ยๆๆๆ สองจ้าสองครั้ง แค่ใช้ปากไม่เคยเข้าไปจ้า” ความรู้สึกจุกและเสียใจมันตีขึ้นมาจนมือไม้อ่อนแรง ใบหูถูกปล่อยจนหมอเสือร้อนใจรีบดึงร่างเล็กๆเขเมากอดไว้ในขณะที่คุณสาวลากพาอีกคนออกไปขากห้องพร้อมปิดประตูให้
“โอบ โอบจ๋า พี่ไม่เคยนอกใจโอบนะ กันคนนั้นอาจจะเคยเกิดขึ้นจริงแต่นั่นก็ก่อนพี่จะเจอโอบ”
“......” โอบอุ้มยืนนิ่งไม่เครื่อนไหวมีเพียงลมหายใจและน้ำตาที่ไหลรินออกมา
“พี่มีแค่โอบอุ้มคนนี้คนเดียวนะครับ มีแค่เมียคนเดียวที่น้องโอบเห็นพี่กำลังตรวจเขา”
“แล้วทำไมต้องครางจนดังลั่นห้องขนาดนั้น” ถ้าเขาได้ยินคนอื่นหรือจะไม่ได้ยิน
“ไม่รู้สิ เขาคงต้องการยั่วพี่ล่ะมั้ง”
“....” โอบอุ้มเม้นปากแน่น นึกขุ่นเคืองในใจกับเรื่องแบบนี้
“แต่ไม่มีใครน่ารักน่ากอดเท่าน้องโอบแลเวล่ะ”
ฟอด!!!!
“ไม่มีใครหอมเท่าเมียพี่ด้วย ไม่เชื่อลองจับดูสิ” เขาถูกหมอเสือคว้าข้อมมือไปจับกลางลำตัวที่กำลังโป่งพอง ก่อนหน้านี้ที่ลำตัวเขาสัมผัสไม่เห็นรู้เลยว่ามันตื่น
“เห็นไหม.......มันตื่นก็เพราะโอบนะครับ”
“อย่ามาพูดดี หมออาจจะขึ้นเพราะเขาแต่มาโบ้ยให้ผมก็ได้ใครจะไปรู้”ของแบบนี้มันเชื่อยากจะตาย
“งั้นให้พี่ทำไหมจะได้รู้ว่าพี่เรียกชื่อใครเวลาคราง”
“ไม่ อื้อ!!!!”
คุยกันทีไรทำไมชอบงกมาจบที่เรื่องนี้ทุกที เขาไม่เข้าใจเลย สรุปแล้วหใอก็ทำให้ผมเห็นว่า ปากหมอไม่ว่าง และเวลาครางก็มักจะครางชื่อเขา แล้วไงล่ะ เจาก็เสียพลังงานต้องให้หมอเสืออุ้มกลับแถมตลอดทางยังโดนเพื่อนๆหใอแซวอีกชีวิตอันสุขสงบของโอบอุ้มไปไหน ฮื่อ....อยากกลับไปตอนยังไม่เจอหมอจัง ผมจะได้นอนพักอย่างสบายใจบ้างไม่ใช่แบบนี้
“อ๊า หมอ พอ อื้อ แล้ว อ๊ะ!”
“อีกรอบเดียวนะครับ อีกรอบเดียว ซี๊ด เมียพี่รัดแน่นจังเลย อ๊า”ผมก็ยังคงไม่ได้พัก เช่นเดิม
แถมท้ายเรื่อง
พิมพ์พากดโทรออกหาเบอร์ที่คุ้นเคยแต่กลับต้องขมวดคิ้วเมื่อเสียงสัญญาณตอบกลับมาว่าอีกฝ่ายปิดเครื่องนี่มันก็ตั้งหลายวันแล้วนะ ทำไมถึงยังติดต่อไม่ได้อีกล่ะ ความกังวลใจและเป็นห่วงเริ่มทำให้สมองของเธอคิดไปต่างๆนาๆหรือโอบจะเกิดอุบัติเหตุ หรือโอบจะมีปัญหา เมื่อเริ่มคิดไปไกลมือบางยิ่งพนายามติดต่อหาโอบอุ้มอีกครั้งจนในที่สุดก็ติดเสียที
‘ฮัลโหล....’
“ไอโอบ!! เกิดอะไรขึ้นวะ มึงอยู่ไหน ทำไมปิดเครื่อง!!” คำถามดังขึ้นจากปากเล็กๆไม่หยุดหย่อน
‘เอ่อ.....พิมพ์ โทษทีนะที่ทำให้เป็นห่วงพอดีกูมีปัญหานิดหน่อยน่ะ’
“ปัญหาอะไรวะ ให้กูช่วยไหม” เธอเองพอกลับจากแอลเอก็รีบติดต่อไปทันทีแต่กลับได้ยินแค่เสียงฝากข้อความเท่านั้น ยิ่งข่าวลือที่ว่ากันว่าคลินิกมารักษ์จะไม่ยอมให้ข้อมูลรั่วไหลเพราะภ้าหากว่ามีคนยำเรื่องไปเผยแพร่จะถูกฟ้องร้องเป็นเงิน10ล้านบาท
‘ไม่ๆ ไม่มีอะไรแล้วตอนนี้ อ๊ะ!!’
“อะไร!! เกิดอะไรขึ้น” เสียงแปลกๆทำให้พิมพ์พาร้อนใจ
‘ปะ เปล่า อื้อ // ก็บอกเพื่อนไปสิครับว่าอยู่กับแฟน’ พิมพ์ที่ได้ยินนิ่งจนตาค้าง โทรศัพท์เครื่องแพงเกือบหลุดจากมือใบหน้าหวานแดงซ่าน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร
“มึงมีแฟนแล้วเหรอวะ ไอโอบ ใครวะแฟนมึง” แม้จะรู้ว่าไม่ใช่เวลาแต่ตวามอยากรู้สั่งให้ปากเอ่ยถามออกไป
‘พี่เขาเป็นหมอ อื้อ หมอ หยุดก่อน’
“หมอที่ไหน กูรู้จักไหม เดี๋ยวนะ หระ หรือว่า.......”
‘ชะใช่ อ๊า หมอ อยะ เพิ่งสิ อ๊ะ ติ๊ด’ สายถูกตัดไปแต่สิ่คำถามในใจของเธอถูกตอบจนหมดแล้ว
“กะ กรี๊ด!!!!!!!! ไอโอบมีผัวแล้ว กรี๊ด!!!!!!”
“อะไรไ เกิดอะไรขึ้น” สามีของเธอเดินออกมาอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของภรรยาตัวเอง
“พี่คีย์ ไอโอบมันมีผัวแล้วพี่!!!”
“หา!!!” คีย์อ้าปากค้างก็รู้อยู่หรอกว่าทำไมต้องดีใจขนาดนั้น ก็แม่ภรรยาตัวดีของเขาดันเอาเพื่อนตัวเองไปจิ้นกับหนุ่มหลายๆคนตอนที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแต่ใครจะไปคิดว่า จะเป็นแบบนั้นจริงๆ
“โอ๊ย!!! แบบนี้ต้องเอาไปเขียนนิยายต่อ หึหึ พวกรีดเดอร์ต้องชอบแน่ๆน้องโอบอุ้มกับคุณหมอ ฟินค่า!!!” เอวังคีย์ได้แต่ยืนไว้อาลัยให้กับชีวิต หวังเพียงว่าแม่ตัวดีของเขาคงไม่เอาเขาไปติ้นกับใครนะกลัวเหลือเกินว่าสักวันจะกลายเป็นเขาอีกคนที่มีแฟนเป็นผู้ชาย
The End
ขอบคุณครับ. ขอบคุณมากนะครับ{:5_130:} ขอบคุณครับ สนุก
ขอบคุณครับ
ดีใจด้วยครับ ได้หมอเป็นผัว ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุก ชอบๆๆ ขอบคุณครับ
ขอบคุณนะครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ{:5_119:} ขอบคุณคับ {:5_136:}ขอบคุณครับ{:5_136:} อ่านแล้วเสียวตามเลย ขอบคุณครับ เพื่อนน่ารักเด้อ