เกิดขึ้นได้ไง 3
ผมกับกี๊เดินลงมาข้างล่างเงียบๆ “ไปเอารองเท้ามาหน่อยสิ” กี๊พูดขึ้นมา “เอาไปไหน จะไปเดินทะเลไม่ใช่หรอ” ผมถาม เพราะไม่รู้ว่าจะให้เอามาทำไม ถ้าจะใส่ ก็ใส่แล้วเดินออกไปเลยสิ “ก็กะว่าจะแวะห้องก่อนแล้วค่อยออกไปทางระเบียงเลย” กี๊ตอบ ระเบียงห้องนอนของผมกับกี๊ไม่ได้หันหน้าออกทะเลครับ ถ้าจะเดินไปทะเลต้องเดินผ่านป่านิดนึง แต่ดูไม่น่ากลัวนะครับ ผมก็ทำตามโดยการเดินไปหน้าบ้านเพื่อเอารองเท้าของเราสองคนมา กี๊เดินเข้าไปในห้อง พอผมได้รองเท้าแล้วก็ตามเข้าไป จังหวะเดียวกัน กี๊ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ “ปะ” กี๊ชวนพร้อมกับเดินนำไปที่ระเบียงผมกับกี๊ใส่รองเท้าแล้วเดินผ่านป่าออกไป ตอนจะออกมาต้องแหวกหญ้า หรือต้นอะไรซักอย่างที่ทางบ้านพักน่าจะปลูกไว้เพื่อกั้นไม่ให้ลูกค้าใช้ทางนี้เป็นทางลัดไปทะเล มันสูงประมาณอกได้ครับ คือถ้ายืนก็พ้นแค่หัวเลยครับ บ้านพักพวกผมเป็นหลังริมสุด คิดว่าถ้าเป็นหลังอื่น หญ้านี้น่าจะใช้บังตามากกว่าครับ พอเราแหวกทางออกมาได้ เราก็มุ่งหน้าไปทะเลกัน “เธอ เราดูดุมากเลยหรอ” กี๊ถามขึ้นมาดื้อๆ “ดุอะไร เรื่องไหนละ” ผมถามกลับ “ก็ เธอไม่กล้าจะพูดกับเราตรงๆทุกเรื่องนี้” กี๊เสริม “อ้อ เรื่องอย่างว่าหรอ” ผมตอบแบบใสๆครับ “ก็ เธอดูไม่ชอบเรื่องแบบนี้อะ เราแค่เกริ่นหรือพูดถึงขึ้นมาทีไร เธอจะทำหน้านิ่งๆใส่เราอะ” ผมเสริม “เค้าทำงั้นหรอ” กี๊ตอบเบาๆ ตอนนี้เท้าเรากำลังย้ำไปบนหาดทราบครับ บอกตรงๆ รองเท้าแตะกับหาดทรายละเอียดๆ ไม่ใช้ของคู่กันเลยครับ “ถอดดีกว่ามั้ยเนี่ย” กี๊พูดขึ้น “ก็ดีนะ จะได้เดินง่ายๆหน่อย” ผมก็ตอบไปตามที่คิดแล้วมองซ้ายมองขวาหาที่วางรองเท้า ก่อนจะเดินตรงไปที่หินที่อยู่ริมป่า เพราะดูน่าจะเป็นจุดสังเกตที่ดี “ไปไหนละ” กี๊ทัก ผมจึงหันกลับไปมอง กี๊ยืนอยู่ที่เดิน ห่างจากผม 2 3 ก้าว “ก็มาถอดร้องเท่าไง” ผมตอบกลับ “อ้อ รองเท้าหรอ” กี๊ตอบแล้วเดินเข้ามาหา ผมลืมไปครับว่าเธอใส่รองเท้าสานที่จะกระชับเท้ากว่าผม เธอคนไม่มีปัญหากับการเดิน “จริงๆเราหมายถึง เสื้อคุ้มเนี่ย ตอนแรกนึกว่าจะมีน้ำค้าง เลยใส่มา” กี๊เสริม ผมรู้สึกว่าเธอเฟลนิดๆที่ผมไม่เข้าใจที่เธอพูด แต่เธอก็ถอดรองเท้าไว้ข้างๆผม ก่อนจะวางเสื้อไว้บนหิน “เอาไปด้วยดีกว่ามั่ง” ผมพูดหลังจากเห็นเธอใส่เสื้อเปิดไหล่กว้าง แบบที่เรียกได้ว่าสามารถรูดถอดออกจากตัวได้เลย “มันร้อนๆหนะ” กี๊บอก “งั้นเดียวเราถือไปให้ละกัน เอาวางไว้ เดียวปลิวเข้าป่าไป” ผมบอก “ดีเหมือนกัน ถือให้หน่อยนะ” กี๊วานผม เสื้อกี๊เป็นผ้ายีนหนาๆครับ เอาจริงๆ มันไม่น่าจะปลิวหรอก แต่ผมรู้สึกหวงๆกี๊เลยอยากจะเอามาปิดไว้ เพราะเสื้อกี้ดูบางมา สังเกตจากการที่มันพลิ้วไปตามลม
ผมกับกี๊เดินต่อไปเรื่อยๆจนแทบมองไม่เห็นบ้านพัก พื้นหาดดูรกขึ้น มีใบไม้เศษหินเยอะขึ้นจนรู้สึกคิดถึงรองเท้าเลยครับ คิดว่าน่าจะเป็นส่วนที่ไม่ค่อยมีคนเดินมา แต่แสงจันทร์ก็ช่วยให้เราเดินได้โดนไม่เหยียบอะไรเจ็บๆครับ “ไปนั่งกันตรงนั้นมั้ย” ผมถามพร้อมชี้ไปทางโขดหินริมทะเล “เอาสิ ดีเหมือนกัน จะได้มีสติตอนตั้งคำถามใส่เธอ” กี๊พูดเรียบๆ เพราะตลอดทางเธอซักไซ้เรื่องมิ้ลจากผมมาตลอด พอเราไปถึงโขดหินที่มีหินระเกะระกะมากมาย ผมเลือกไปนั่งตรงหินแบนๆที่อยู่หลังหินก้อนใหญ่ครับ “เคยจูบกันรึยัง” กี๊ถามแบบไม่ทันตั้งตัว และดูตั้งใจจะรอฟังคำตอบมากๆ “ยังไม่เคยแบบดูดดื่มนะ แค่จุ๊บเบาๆ” ผมตอบตามความจริง “ไม่ดูดดื่มคือยังไง ไม่แลกลิ้น งี้หรอ” กี๊ถาม ผมแอบสงสัยเบาๆ แหม เธอเคยจูบใครรึไง ถามถึงเรื่องแลกลิ้นเนี่ย “ก็งั้นแหละ” ผมตอบ ตัวเริ่มสั่นด้วยความกังวน “แล้ว น้องเค้า นมใหญ่มั้ย” กี๊ถามแล้วหลบตา ก็เข้าใจนะครับว่ากี๊ไม่ได้มีมากมายแบบคนอื่นเค้า ส่วนน้องมิ้ลก็ตามชื่อเลยครับ แม่ให้มาเยอะ แต่เอาจริงๆ ผมไม่เคยเห็นนะครับ อย่างมากก็ชุดวายน้ำแหละครับ “ก็ตามที่เห็นแหละ เราก็ไม่เคยเห็นมากกว่านั้นหรอก” ผมตอบ “จริงอะ เคยให้เค้าโมกเนี่ยนะ จะยังไม่เห็นนม” กี๊เค้น “ไม่เคยสิ จะไปเห็นได้ไง” ผมตอบหนักแน่น “แล้วไปให้เค้าโมกไปได้ ที่ไหน” กี๊ถาม “ก็ในห้องน้ำไง ห้องน้ำอาคาร 7 อะ” ผมตอบ อาคาร 7 จะอยู่ริมสุดของโรงเรียน ส่วนใหญ่ไม่มีคนไปเข้าห้องน้ำที่นั้นครับ เพราะไม่ค่อยมีคนไปเรียน “อ้อ งี้นี้เอง ถึงว่าชอบไปนั่งอาคาร 7 ไปนั่งรอเค้ามาโมกสินะ” กี๊ตัดพ้อเบาๆ “ป่าวหรอก ตรงนั้นลมเย็นดี แล้วก็เงียบด้วย แถมมีปลั๊กไฟอีก เราแค่ชอบไปนั่งเล่นเกมตรงนั้นเฉยๆ” ผมก็ตอบตามตรง “แล้วครั้งแรกละ โดนเค้าโมกได้ไง” กี๊ถามต่อ “ครั้งแรกไม่ใช้อาคาร 7 หรอก” ผมตอบ “แล้วที่ไหนยังไง เล่ามาละเอียดๆนะ” กี๊ดูสนใจจริงจังมากครับ “ตรงอาคารเกษตร” ผมตอบ อาคารเกษตรจะอยู่คนละฝากกับอาคาร 7 เลยครับ ต้องเดินผ่านสนามบอลและอาคารพักของอาจารย์ไป ส่วนใหญ่จะมีแต่เด็กที่อยู่ชมรมเกษตรเท่านั้น ที่จะไป เพราะเค้าล้อมรั้วกันไม่ให้หมาแมวเข้าไปยุ่งกับแปลงผัก แถมล็อคกุญแจไว้ด้วย ผมเป็น 1 ในไม่กี่คนที่มีกุญแจ “วันนั้นเราก็ไปดูผักตามปกติแหละ” ผมเสริม ปกติเวลาผมไปดูผักก็จะเป็นเวลาเย็นๆ ซึ่งผมจะเตรียมชุดไปเปลี่ยนด้วยครับ เพราะเหงื่อจะออกเยอะ แม่จะชอบบ่นครับ “เราก็ทำนู้นทำนี้จะเสร็จแล้ว แล้วมิ้ลก็โพล่มา” ผมเล่าต่อ “มิ้ลไปทำไรที่นั้น มิ้ลอยู่ชมรมเกษตรหรอ” กี๊ถาม “เปล่า มิ้ลแค่มาหาเราอะแหละ” ผมตอบ “แล้วเนอยู่กับใครบ้าง” กี๊ลงรายละเอียด “ไม่มี อยู่คนเดียว วันนั้นเวรเราลดน้ำต้นไม้ ปกติก็จะมีธีมาด้วย แต่วันนั้นธีไม่มาเรียน” ผมตอบกลับ ธีเป็นเพื่อนที่ผมสนิทที่สุดครับ ทุกวันนี้ยังสนิทกันเหมือนเดิม ตอนนี้เราอยู่หอในด้วยกันด้วยครับ “แหม จังหวะดี เหมือนมิ้ลเข้ารู้เลยเน้อ” กี๊เหน็บผมเบาๆ “อา.. เค้าคงรู้แหละมั้ง” ผมตอบ “แล้วไงต่อ เล่ามา” กี๊ถาม “ก็ วันนั้นมีอุบัติเหตุนิดหน่อย เราลื้นขาตกลงไปในคูน้ำ เปียกไปครึ่งตัว ตอนนั้นกำลังล้างตัวอยู่ข้างหลังห้องเก็บอุปกรณ์” ผมเล่า ด้านหลังห้องเก็บอุปกรณ์จะลับตาคนครั้ง ฝั่งนึงจะเป็นห้องเก็บของ อีก 2 ด้านเป็นกำแพงสูง ทางเข้าทางเดียวก็มีต้นไม้ที่ใช้สอนว่างทิ้งๆไว้ค่อนข้างแน่น ผมกับธีจะเปลี่ยนเสื้อผ้ากันตรงนี้แหละครับ “แล้วไง มิ้ลตามเข้าไปหรอ เรายังไม่รู้เลยว่ามีที่แบบนั้นอะ” กี๊ถามดูสงสัยมากๆ “เปล่าๆ เราเจอมิ้ลตอนเราเดินออกมาเอาชุดนักเรียนอะ คือ ชุดนั้นมันเปียกไป ถึงจะล้างแล้วก็ใส่กลับไม่ไหวหรอก” ผมเล่าต่อ “พอเจอมมิ้ล ก็ทักทายกัน คุยกันพักนึง ก่อนจะขอตัวไปเปลี่ยนชุด” ผมเล่าต่อ “แล้วไง น้องเค้าแอบตามไปหรอ” กี๊เสริม “ใช้ แอบตามมา คือเราก็บอกให้เค้ารอตรงนี้ เพราะทางเข้าไปมันรกๆ แต่น้องเค้าแอบตามมา” ผมพูด “มองไม่เห็นเลยรึไงว่ามีคนแอบดู” กี๊ประชด “ตอนจะเปลี่ยนมองไม่เห็นนะ เพราะหันหลังให้ทางเข้า” ผมตอบ เป็นไปตามนั้นครับ เพราะผมเอากระเป๋าแหวนกับกำแพงแล้วกันหน้าเข้ากำแพง “แล้วรู้ตัวตอนไหน” กี๊ถาม ผมหายใจเข้ายาวๆ เพราะไม่รู้ว่ากี๊จะว่าไงถ้ารู้ความจริงเรื่องนี้ “ก็.. ตอนที่เรากำลังถอดกางเกงออกแล้ว เหลือแต่กางเกงใน เรากำลังยืนคิดอยู่ว่า จะถอดกางเกงในดีมั้ย เพราะมันเปียกมาก น้องเค้าก็พูดขึ้นมาว่า เปียกขนาดนี้ ใส่กลับบ้านระวังเน่านะ” ผมเล่า กี๊หน้านิ่งมากครับ ก่อนจะทำสายตาให้ผมเล่าต่อ “เค้าก็ตกใจ รีบหันไปดูก็เห็นมิ้ลยืนประชิดแล้ว” ผมเล่าแล้วเงียบไปนิดนึง “อะไรต่อ ว่ามา” กี๊พูดเสียงเย็นเฉียบ “อย่าว่าเค้านะ เรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว เค้าแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว” ผมอ้อนเบาๆ “ไม่ว่าๆ เล่ามาให้ครบ” กี๊ตอบผม “ได้ๆ ก็ผมก็บอกมิ้ลว่า เข้ามาทำไมเนี่ย” ผมเล่า ตอนนั้นผมควยค่อยๆแข็งครับคงเพราะตื่นเต้นที่มิ้ลเข้ามาเห็นผมตอนนี้ “เรารีบหันไปเอาเอากางเกงที่เปียกอยู่มาปิดเป้าอะ แต่รีบไปหน่อยเราเลยลื้นเพราะน้ำที่เราล้างตัวตอนแรกอะ” ผมเล่าต่อ “แหม ลิ้นไปซบน้องเค้า ว่างั้นสิ” กี๊เหน็บอีกที “ป่าว ลื้นล้มลงไปกับพื้น พื้นมันเป็นโคลนๆนิดนึง แล้วมิ้ลก็หัวเราะ ก่อนที่จะพูดว่า..” ผมเล่า “น้องเค้าพูดอะไร” กี๊ขัดขึ้นมา แสดงว่าคงอยากรู้มากๆ “น้องพูดว่า นั้นไง เห็นมั้ย ต้องถอดแล้วละ จะใส่กางเกงในเลาะโคลนกลับบ้านหรอ” ผมตอบ “แล้วเราก็บอกให้น้องออกไปจะล้างตัวใหม่ น้องก็บอกว่า เดียวหนูช่วย แล้วก็ไปเปิดน้ำ เอาสายยางมาล้างตัวเราเบาๆ” ผมเล่าต่อ “ฟินเลยดิ มือเล็กๆขาวๆมาลูบไล้เนี่ย” กี๊ประชดแล้วหลบตา “ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก” ผมตอบ แต่ตอนนั้นมันก็ฟินแหละครับ น้องเค้าค่อยๆล้างไล่จากหลังผม ลงมาหน้าท้อง ซึ่งไม่เลาะอะไรแต่แรกละ น้องเค้ากรีดมือผ่านน้องชายผมเฉียวลงไปล้างขา น้องเค้านั่งยองๆ ตอนนี้หน้าน้องเค้าอยู่ระดับเดียวกับน้องชายผมเลยครับ “น้องเค้าฉีดน้ำล้างไปเรื่อยๆแหละ” ผมเล่าต่อ “แล้วไง ทำไมอยู่ๆควยเธอถึงเข้าไปอยู่ในปากน้องเค้าละ” กี๊ถามตรง ตรงมากอีกแล้วครับ “ก็ น้องเค้าบอกให้ถอดกางเกงในออก เพราะมันเลาะมาก ล้างไม่ออก” ผมตอบ ไม่จริงหรอกครับ เพราะตามจริง น้องเค้าค่อยๆรูดกางเกงในผมลงไปเอง ไม่ได้พูดอะไร “หรอ ก็เลยถอด ว่าง่ายเน้อ” กี๊ประชด “ก็ไม่ได้ง่ายแบบนั้น เราก็หันหลังแล้วถอดออก ก่อนจะหันไปขอสายยางจากน้องเค้ามาซักกางเกงในไง” ผมตอบ จริงๆก็ง่ายๆตามที่กี๊ว่าแหละ ง่ายกว่านั้นด้วยซ้ำ “เราก็ยืนซักกางเกงในอยู่น้องเค้าก็เอื้อมมือมาคว้าควยเราอะ” ผมเล่าต่อ ซึ่งจริงแค่ 1 ใน 3 เองมั้งครับ เพราะของจริงพอน้องเค้ารูดกางเกงในผมลง น้องเค้าก็จู่โจมน้องชายผมทันที “แข็งมั้ยตอนนั้น” กี๊ถาม “แข็งโปกเลยแหละ” ผมตอบในใจ “ไม่นะ ก็แบบ กึ่งๆ มันหนาวไง” ผมโม้ไป “แล้วพอน้องเค้าจับละ แข็งเลยดิ” กี๊พูด “อืม.. ก็ ค่อยๆแข็งขึ้นมาอะ” ผมพยายามเล่าให้ดูสมจริง “แล้วไงต่อ เล่ามา ชัดๆ” กี๊เร่งให้ผมเล่าไวๆ มันก็ยากนะครับ เพราะความจริงระยะเวลาตั้งแต่รูดกางเกงในลงจนเข้าปากนี้ น่าจะไม่กี่วินาที แต่ผมต้องแต่งเรื่องเพิ่มเยอะเลยครับ “ก็ เราก็บอกว่า จะทำอะไรพี่มิ้ล น้องเค้าก็บอกว่า จับเล่นเฉยๆ” ผมแต่งเรื่องใส่ไข่ใส่น้ำไปเรื่อย “เราเลยบอกว่า อย่าเล่นแบบนี้ เดียวมันตื่นขึ้นมา จะรับผิดชอบยังไง” ผมเล่าต่อตอนนี้เรียกได้ว่าเทน้ำลงไปเพิ่มเลยครับ กี๊นิ่งฟังดูตั้งใจ “มิ้ลก็ตอบว่า ก็ ถ้ามันตื่น เดียวเราก็กล่อมมันนอนเองแหละ ผมก็ถามว่า ยังไงละ” ผมเต่งเรื่องเพิ่มไปเรื่อย เรื่องจริงน้องเค้าโมกจนผมครางละครับ “เราถามมิ้ลว่า กล่อมยังไง ชักว่าวหรอ ทำเป็นหรอ มิ้ลก็ตอบว่า ชักไม่เป็นนะ แต่ทำแบบนี้เป็น พอน้องเค้าพูดจบน้องก็ย้ายมาอยู่ข้างหน้าเราแล้วเอาเข้าปากเลยอะ” ผมตัดบทจบดื้อๆครับ กี๊นิ่งไปเลย “หรอ ดีเน้อ ชักไม่เป็น โมกเป็น” กี๊ดูประชดมากครับ “เอาจริงๆ ไม่เป็นหรอกเธอ โดนฟันบ้างเจ็บบ้างอยู่เป็นพักๆ” ผมพูดจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง ครึ่งที่จริงคือน้องเค้าก็ไม่ค่อยเป็นหรอกครับ ฟันโดนบ้างอะไรบ้าง แต่ลิ้นน้องเค้าไม่ธรรมดาเลยครับ พูดง่ายๆว่าชดเชยกันได้ “แล้วก็ยอมให้เค้าโมกรึไง เธออะ” กี๊ถามไปหลบตาปมไป “ก็ตอนนั้นเราคบกับน้องเค้านิ ก็คิดว่าไม่เห็นจะเป็นไร เลยยอมๆ” ผมตอบไปตามความจริงครับอันนี้ สีหน้ากี๊ดูเหมือนจะเข้าใจแต่ก็หึงแหละครับ “แล้วไง ทำนานมั้ย เสร็จมั้ย” กี๊ถาม “บ้า ไม่เสร็จหรอก ชักเข้าชักออก 3 4 ทีเราก็บอกให้พอแล้ว” ผมรีบโกหก ของจริงน้องเค้าทำจนผมเซลงไปนั่งบนม้าหินเก่าๆ น้องเค้าตามมาโมก เลียซ้ายทีขวาที เลียยังไข่เลยครับแถมชักไปเลียไป เสียวจนผมต้องหลับตากั้นเสียงครางเลยครับ “แล้วไง น้องเค้าก็หยุดหรอ” กี๊ถาม “เอ้า เจ้าของเค้าดึกออกจากปาก น้องเค้าจะทำอะไรได้ละ” ผมมั่วต่อ “พอหลุดจากปากน้องเค้า น้องเค้าก็อึ่งๆไปนิดนึง ก่อนที่จะรีบวิ่งออกไป” ผมมั่วเพิ่มไปอีก ของจริงน้องเค้าดูดๆชักๆจนผมใกล้จะเสร็จแล้วก็หยุด หยุดแล้วก็ทำใหม่อยู่เกือบครึ่งชม เอาจริงๆก็จนฟ้าเริ่มมืดนั้นแหละครับ สุดท้ายที่น้องเค้าหยุดเพราะผมกั้นไว้ไม่แสดงอาการว่าจะเสร็จแล้วเสร็จใส่ปากน้องเค้าเลย ตอนแตกใส่ปากน้องเค้า มิ้ลดูตกใจเบาๆ ก่อนจะคายทิ้งแล้วรีบล้างปากเลยครับ “เราเลยรีบแต่งตัวแล้วเดินตามออกไป” ผมมั่วจนจบ กี๊นั่งนิ่งเหมือนกำลังประมวลผลเรื่องที่ผมเล่า “เออ แล้วไงต่อ” กี๊ถาม “ก็ไม่อะไร ก็กลับบ้านกัน แค่นั้นแหละ” ผมเล่าส่วนที่เหลือซึ่งจริงๆก็ประมาณนั้นแหละครับ
พอเรื่องของผมจบ ควยผมก็แข็ง
ขอบคุณครับ. สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณ ขอบคุณมากนะครับ{:5_130:} ข อ บ คุ ณ ค รั บ ขอบคุณครับ
ขอบคุณคับ ขอบคุนน่ะ ขอบคุนครับ {:5_146:} ขอบคุณครับ เงี่ยนตาม {:5_136:}{:5_136:} ขอบคุณครับ จัดหนักกี้เลย เน เอ้ยยย ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับบบบ
หน้า:
[1]
2