คลินิกรัก(ษ์) บำบัด(ไข้)ใคร่ 18+ by llมว_น้oe ห้องตรวจที่๕. น.พ กวินทร์
ห้องตรวจที่๕. น.พ กวินทร์มนุษย์เรามักจะมองหาสิ่งที่ตัวเองต้องการเสมอ และเพราะเราเอาแต่มองจึงไม่เคยเห็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ผมชื่อสองเป็นน้องชายของพี่สามและมีน้องสาวอีกหนึ่งคน น้องสาวผมเธอชื่อหนึ่งส่วนใหญ่เธอจะไม่ค่อยออกไปไหนมาไหนคนเดียว แต่ช่วงนี้ผมเห็นว่า น้องหนึ่งมักจะไปหาเด็ดข้างบ้านเสมอ แถมพี่ชายตัวดีของผมเองก็ไปกับน้องด้วยผมได้แต่แปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทำไมเขาทั้งสองไม่บอกผมไม่ชวนผมไปบ้าง ผมจึงแอบตามเขาไปเพื่ออยากจะรู้ว่าเด็กคนนั้นที่แย่งพี่ชายและน้องสาวผมไป หน้าตาจะเป็นอย่างไร
“พี่ฉามมาแย๊วววววว!!!”ร่างเล็กๆของเด็กตัวน้อยที่แก้มแดงปลั่งกับตากลมโตและปากจิ้มลิ้มที่ฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจนั้น สะกดสายตาของผมที่แอบมองอยู่หลังต้นไม้จนเผลอใจเต้น เด็กอายุเพียงสามขวบตรงหน้าดูจะมีอิทธิพลกับหัวใจของผมเสียเหลือเกินใครกัน นั่นคือคำถามที่เกิดขึ้นในใจของผม
“อ้าวสาม!! มีอะไรหรือเปล่า” ผมไม่รู้ว่ารอยยิ้มนั้นทำให้ขาทั้งสองข้างก้าวเข้ามาเมื่อไหร่ รู้แค่ว่ารอยยิ้มเมื่อครู่หายไปแล้ว มีเพียงสีหน้าสงสัยเท่านั้น
“เอ่อปละ เปล่า นี่ใครครับพี่ ใครอ่ะหนึ่ง”
“นี่พี่บ๊าดพี่บ๊าดใจดี ให้หนึ่งกินหนมด้วย” เจ้าหนึ่งยิ้มจนแก้มปริดูปลื้มกับเพื่อนใหม่สุดๆ
“งื้อพี่ฉาม ใคร ใครอ่ะ” คนตัวเล็กหลบหลังพี่สามเอ่ยถามอย่างสงสัย
“นี่สองครับ สองเป็นน้องชายของพี่เอง สองนี่น้องบาส” ผมกวาดตามองใบหน้าจิ้มลิ้มด้วยความสนใจ ใบหน้าเล็กยิ้มกว้างเมื่อมือของพี่สามลูบศีรษะด้วยความเอ็นดู
“น้องฉองน้องฉอง นี่พี่บ๊าดน๊า” ผมได้แต่ขำในความน่าเอ็นดูของบาส มีแต่พี่สามที่ส่ายหัวน้อยๆ
“ไม่ใช่นะตัวแสบเราน่ะต้องเรียกพี่เขาว่า พี่สอง ส่วนบาสน่ะเป็นน้อง”
“อ๋อๆน้องบ๊าด พี่ฉอง ป๋มจำได้ฮับ”
“ดีแล้วครับ.....”
ตั้งแต่วันนั้นผมและพวกพี่น้องก็มักจะไปเล่นด้วยกันบ่อยๆ พี่สามเอ็นดูและดูแลน้องบาสดีจนไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าผมหรือน้องบาสกันแน่ที่เป็นพี่น้องคลานตามกันมา ทุกวันที่ไปเรียนผมมักจะเห็นพี่ชายตัวเองซื้อขนมเจ้าอร่อยมาเก็บเอาไว้ ถามทีไรก็ไม่ยอมให้ผมกิน จนพอเลิกเรียนกลับบ้าน ผมจึงได้รู้ว่าที่แท้ ขนมที่พี่สามซื้อมาก็เพื่อเอามาฝากน้องบาสนั่นเอง เจ้าตัวแสบที่ได้รับขนมยิ้มแก้มปริแถมกระโดดกอดพี่สามเสียแน่นจนผมนึกอิจฉา ร่างกายเล็กๆนั่น ถ้าได้กอดบ้างก็คงดี น้องบาสชอบขนมสินะ ดีล่ะ ผมจะซื้อมาฝากน้องบ้าง
“บาสครับ”น้องหันมามองผมพร้อมกับยิ้มหวานก่อนจะวิ่งตรงมาหาผมทันที
“คร๊าบบบบบ”
“พี่ซื้อขนมมาฝากอยากได้ไหมครับ หืออออ” ผมเก็บความตื่นเต้นเอาไว้แทบไม่ไหว เมื่อเห็นแววตาตื่นเต้นของน้อง
“อยากครับๆบาสชอบขนมที่สุดเลย” พี่ก็ชอบครับ.......ชอบน้องบาสน่ะ
“ถ้างั้น.......ทำไงก่อน”ผมย่อตัวลงเพื่อรอการตอบแทนจากน้องแต่กลับได้สิ่งที่ผมไม่คาดคิดมาก่อน
“ขอบคุณคร๊าบ”น้องยกมือไหว้ผมที่ยิ้มค้างอยู่ที่เดิมฮ่าๆ น่ารักจริงๆ
“ไม่ใช่สิครับมาๆ มากอดพี่สองก่อนนะ”
“ทำไมอ่ะ”เอ่อทำไมเหรอ เพราะ เพราะอะไรดีวะ
“เพราะว่า......พี่เดินไปซื้อมาเหนื่อยมากไงครับเลยอยากได้อ้อมกอดจากน้องบาส”
“โอเคคร๊าบกอดน๊า” น้องโผเข้ากอดผมจนเต็มอ้อมแขนกลิ่นหอมๆของน้องแตะจมูกจนผมเผลอสูดดมมันเข้าไปจนสุดปอด หอม น้องตัวหอมมาก
“คิกๆพี่สองอย่าจิ บาสจั๊กจี้”
“อ่า ขอโทษครับ นี่ขนมนะครับ” ผมเผลอ เผลอกดจมูกลงไปที่ซอกคอหอมๆนั่น ยังได้กลิ่นไม่พอเลย กลิ่นหอมของเด็กอายุ8ขวบ มันทำให้ร่างกายที่เริ่มโตของผมเกิดปฏิกิริยาขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ทั้งๆที่อยากคุยกับน้องต่อแท้ๆ
“ขอบคุณมากครับบาสจะกินๆ กินให้หมดเลย เย้” น้องรับขนมแล้ววิ่งออกไปไกลจากผมดีแล้วล่ะ ดีแล้ว ผมกลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะเผลอ ทำน้องบอบช้ำ
กลิ่นหอมยังติดอยู่สินะ
ผมยกเสื้อที่มีกลิ่นตัวของน้องติดอยู่ขึ้นมาสูดดมอีกครั้ง หอม หอมจริงๆ กลิ่นน้องมันช่างยั่วยวนอารมณ์ผมจริงๆ ผมพาตัวเองเดินเข้าห้องน้ำในห้องนอนของตัวเอง จัดการปลดกางเกงออกเล็กน้อยให้สามารถพาลูกชายที่พองตัวของผมออกมาได้
“อื้อน้อง อา”
ผมจินตนาการถึงหน้าน้อง กลิ่นที่ติดอยู่กับเสื้อช่วยให้ผมนึกมันออกได้ไม่ยากเลย มือเร่งสาวในขณะที่ภาพในหัวผมกลับเห็นน้องกำลังกินตัวของผมเข้าไปในปาก อมมันเข้าไปจนสุด
“อาซี๊ด บาสครับ อื้อ อ๊า”
ผมมองคราบขาวที่ล้นทะลักออกมาจากรอยหยักของตัวเองด้วยแววตาว่างเปล่า อยากกอดน้องจัง อยากจะจับน้องนอนลงบนเตียง อยากถอดเสื้อผ้าน้องออกแล้วดอมดมไปทั่วทั้งตัวอยากได้กลิ่นมากกว่านี้ ผม.....อยากรักน้องแรงๆ
ผมเรียนอยู่ม.5ตอนที่พี่สามเข้ามหา’ลัย แม่กับพ่อดีใจมากตอนที่รู้ว่าพี่สามสอบติดหมอและเป็นครั้งแรกที่ผมคิดว่า ไม่มีวันสอบหมอแน่ๆเพราะพี่ผมเรียนหนักมา แถม.....มันทำให้น้องเหงาที่ไม่ได้เจอมันอีก จนวันหนึ่งที่ผมกำลังอยู่ในห้องตัวเอง เสียงครางของคนสองคนดังออกมาจากห้องของพี่สาม มันจะไม่มีปัญหาอะไรเลยถ้าเสียงที่ว่า ไม่ใช่ของผู้ชายสองคน ผมเดินไปที่ประตูห้อง แง้มมันออกเพื่อจะดูให้เห็นกับตาว่าพี่สามพาใครเข้ามาในห้องกันแน่ แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้ผมช็อคพี่สามกับน้องกำลังบรรเลงบทเพลงรักกันอยู่ ถึงแม้ที่ผมเห็นจะเป็นเพียงแค่การออรัลให้น้องก็ตาม ผมถอยห่างจากประตูอย่างอึ้งๆ บอกตัวเองว่ามันไม่จริงผมเพียงแค่ตาฝาดไป แต่เสียงที่ยังคงดังออกมามันทำให้ผมปฏิเสธไม่ได้ ผมรู้ดีว่าพี่สามรักน้องขนาดไหน พี่สามก็รู้ดีว่าผมรักน้องแค่ไหน เราสองคนต่างรู้กันและกัน แต่สิ่ฃที่ผมไม่รู้คือ ใจของน้อง แต่วันนี้ผมรู้แล้ว การที่น้องยอมให้ทำแบบนั้น น้องต้องมีใจให้พี่สาม
ไม่!!!!มันต้องไม่เป็นแบบนั้น
ในใจผมขัดแย้งกัน สมองสั่งการให้พิสูจน์นั่นคือทุกอย่างที่สอนผมให้รู้ว่าอันไหนคือความจริง ใช่ ถ้าไม่พิสูจน์ผมไม่มีวันยอมรับ บางทีพี่สามอาจจะแค่ล่อลวงน้องมา น้องยังเด็ก อาจจะไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ มันต้องเป็นแบบนั้น พี่สามเดินออกมาจากห้องมองผมอย่างตกใจ หึ!! คงไม่คิดละสิว่าผมจะยืนอยู่ตรงนี้
“พี่ทำอะไรวะ”พี่สามหลบตาผมไม่ยอมมองหน้าผมสักนิด
“สองมีอะไร”
“ผมถามว่าพี่ทำอะไรน้อง!!”ผมได้รับเพียงแค่เสียงถอนหายใจก่อนที่สายตาคมของพี่สามที่ฉายชัดความแน่วแน่จะหันมามองผม
“พี่จริงจัง!!พี่ชอบบาส และพี่จะไม่ยอมถอย” ผมกำหมัดแน่นใจจริงอยากจะชกพี่สามสักครั้งให้สาสมกับที่ทำให้ใจผมเจ็บ แต่ผมก็ทำไม่ได้
“มันไม่แฟร์พี่แม่ง.....ไม่แฟร์เลย” ผมเจ็บ จนไม่อยากจะยอมรับ พี่สามขี้โกงผมเองก็จริงจังกับน้อง
“เฮ้อ......แล้วสองจะเอายังไง”
“ผมไม่ยอมรับไม่เชื่อหรอกว่าน้องจะรักพี่สาม น้องต้องรักผมแน่ถ้าน้องได้อยู่ใกล้ๆผมมากกว่าพี่!”มันต้องเป็นแบบนั้นผมมั่นใจ
“ถ้าสองคิดแบบนั้นก็เอาสิ” ผมมองหน้าพี่สามอย่างไม่แน่ใจว่าจะเชื่อได้ไหมพี่สามนะเหรอจะยอมให้ผมอยู่ใกล้ๆน้อง
“นี่พี่....”
“ครับพี่จะถอยออกมาให้ แต่......” เมื่อเห็นว่าผมแสดงความดีใจออกมาพี่สามก็ขัดขึ้นมา
“แต่อะไรครับ”นาทีนี้จะอะไรผมก็ยอมทั้งนั้น
“พี่จะยอมถอยออกมาแค่ช่วงเวลาที่พี่เรียนอยู่เท่านั้น แต่จากนั้น......มันเป็นเวลาของพี่!!” ผมไม่สนใจหรอกว่า จากนั้นมันจะเป็นเวลาของพี่สามหรือเปล่า เพราะผมมั่นใจเลยว่า น้องจะต้องยอมรับผมเข้าไปในหัวใจแน่นอน
“หึ.....ได้เลย”
ทุกอย่างมันเหมือนจะดี พี่สามเดินกลับเข้าไปด้านในด้วยแววตาว่างเปล่า แต่ผมไม่ได้สนใจหรอก เพราะตอนนี้ มันจะเป็นเวลาของผมที่จะอยู่กับน้องสายตาของผมเห็นพี่สามที่กำลังแต่งตัวให้น้อง จูบซับไรผมอย่างหวงแหน ใบหน้าที่หลับพริ้มช่างน่ารักแต่แค่ไม่นานพี่สามก็อุ้มน้องขึ้น ผมรู้ดีว่าเห็นแก่ตัวแต่ผมจะไม่ยอมปล่อยน้องไปโดยไม่พยายามอะไรเด็ดขาด น้องต้องรักผมแน่พี่คอยดูได้เลย พี่สาม!!!!!
แต่ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่ผมหวังพอพี่สามเอาแต่เรียนจนไม่มีเวลา น้องก็ยิ่งเงียบแววตาฉายชัดถึงความเศร้าใจตอนแรกน้องเพียงถามหา พอนานวันเข้าน้องแทบไม่อยากจะคุยกับใครเลยผมรู้สึกเหมือนตัวเองผิด เหมือนความรักของผมทำให้น้องต้องเจ็บปวด แม้ผมจะซื้อขนมมาให้เท่าไหร่น้องก็ไม่เคยยิ้มรับด้วยความดีใจเลยสักครั้ง ตะมีเพียงรอยยิ้มตามมารยาทและคำขอบคุณที่ออกมาจากปากเล็กๆเท่านั้น ใจผมปวดร้าวไปหมด ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเลือกมันจะทำให้น้องต้องทรมานขนาดนี้ ผมเคยแวะไปหาพี่สามครั้งนึง ตัวพี่สามเองก็โทรมจนผมแทบไม่เชื่อสายตา ข่าวจากเพื่อนๆพี่สามเขาว่า พี่สามไม่ไปไหน ไม่เที่ยวที่ไหน ไม่สนใจใครเอาแต่หมดตัวอ่านหนังสือทั้งคืน วันไหนว่างก็เพียงแค่มานั่งคุยกับเพื่อนๆเท่านั้น ทั้งๆที่สาวสวยเยอะแยะมากมายมาชอบพอ แต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจจะสานสัมพันธ์กับใครราวกับว่า กำลังอดทนรอบางสิ่งอยู่เพียงแค่ได้ยินใจผมก็หายวาบ อาการของพี่สาม มันช่างเหมือนกับน้องเสียจริงผมเดินกลับบ้านทั้งๆที่เหม่อลอย คิดวนเวียนไปแต่เรื่องเดิมๆ
ถ้าหากว่า......วันนั้นผมไม่เรียกร้องออกไป
ถ้าหากว่า......ผมตัดใจตั้งแต่เห็นภาพนั้น
ถ้าหากว่า......ผมยอมรับความจริง พี่สามกับน้องในวันนี้ ก็คงจะรักกัน
ทุกอย่าง มันเป็นเพราะความเห็แก่ตัวของผม
ปี๊น!!!!!!!
“ระวัง!!!”เสียงและแรงดึงผมให้รอดพ้นจากรถคันใหญ่คือใครผมไม่ได้มองหรอก เพราะแค่พอรู้สึกตัว ตัวผมก็สั่นไปหมด กลัว ใช่อาจจะใช่ แต่เพราะอ้อมกอดที่อบอุ่นของเขาต่างหากที่ทำให้ผมอ่อนแอจนปล่อยให้น้ำตารินไหล มือของคนที่เพิ่งช่วยชีวิตผมไว้ลูบประโลมศีรษะของผมอย่างแผ่วเบา เขาปล่อยให้ผมร้องไห้อยู่อย่างนั้นเขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าใครจะมองเขาแบบไหน
“ฮึกฮืออออ”
ยิ่งผมร้องไห้มากเท่าไหร่ อ้อมแขนที่กอดรัดเอาไว้ก็ยิ่งแน่นขึ้น ความอบอุ่นของเขาแผ่ซ่านไปจนทั่วทั้งตัวหัวใจของผมปล่อยแล้วทุกอย่าง ความอัดอั้นที่กักเก็บมานานละลายจนกลายเป็นสายธารที่รินไหลพี่สามครับ น้องบาสครับ สองของโทษ
“โอเคแล้วใช่ไหม”
ฟืดดดดด!
“ครับขอโทษนะครับ ขอบคุณมากครับพี่วิน” ผมพูดเสียงอู้อี้อยู่กับผ้าเช็ดหน้าของพี่วินที่เขาส่งมาให้ผมเช็ดน้ำตา
“ไม่เป็นไร......แล้วนี่ ตกใจขนาดไหนถึงร้องไห้หนักแบบนี้” ผมมองพี่วินเพื่อนพี่สามก่อนจะหลบสายตาไปไม่กล้าบอกความจริงว่า ผม......เป็นคนทำให้พี่ชายกลายเป็นคนไร้หัวใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดตัวเองเหลือเกินทำไมผมถึงทำเรื่องเลวร้ายได้ขนาดนี้ เพราะผมดึงดันเพราะผมมันดื้อด้าน ทั้งหมดมันเป็นเพราะผม
โอ๊ยเจ็บชะมัด
“กัดปากตัวเองทำไม มีอะไรพูดกับพี่ก็ได้นะ” ผมสบตาที่ทอดมองมาด้วยแววตาห่วงใย ผมซาบซึ้งใจ ที่พี่วินเป็นห่วงแต่เรื่องนี้ จะให้พูดไป มันก็คงไม่ได้
“เปล่าครับผมสบายดี” เก็บเอาไว้ในใจคนเดียวคงดีกว่า ถ้าผมพูดไป พี่คงจะเกลียดผม
“อย่าคิดมาสิ ไม่ว่าเรื่องอะไร แค่สองเล่า พี่ก็พร้อมจะฟัง” พี่วินกุมมือผมเอาไว้ สายตาของเขามันเต็มไปด้วยความห่วงใยจริงๆ ผมเคยได้รับสายตาแบบนี้ ตอนที่พี่สามยังอยู่บ้าน ตอนที่พี่สาม ไม่ได้ยกน้องให้ผม
“ผมทำเรื่องเลวร้าย มันเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของผม ถึงทำให้เขาทั้งสองคนเจ็บ” ผมกลืนก้อนสะอื้นลงคอพยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมาอีก ทั้งๆที่ขอบตาร้อนผ่าว
“เล่ามาเถอะ ถือว่าระบายมันออกมาบ้าง ต่อให้มันร้ายแรง พี่จะช่วยหาทางแก้” ยิ่งพี่วินดีกับผมเท่าไหร่อาการจุกอกมันก็มีมากขึ้น ความผิดของคนเห็นแก่ตัวมันช่างทรมานเหลือเกิน
“ผม......ชอบน้องข้างบ้านของตัวเอง”
“ครับ.......แล้ว”เสียงพี่วินเบาลงแต่ผมกลับไม่ได้สังเกต
“พี่สามเองก็ชอบน้องเขาเหมือนกัน” ผมกัดปากระงับอาการสั่นของตัวเอง แค่พูด น้ำตามันก็รื้อขึ้นมาแล้ว
“.....”
“แต่ผมมันเหี้ยผมมันเห็นแก่ตัว ผม.....ทำให้พี่สามต้องถอยห่างจากน้อง”
“หมายความว่าไวครับทำไมสามถึงถอยห่างจากน้อง”
“เพราะผม......บอกพี่สามว่ามันไม่แฟร์”
“.....”
“ผมนึกว่า ผมจะสามารถเปลี่ยนใจน้องได้ ผมนึกว่าแค่ไม่มีพี่สามน้องจะหันมารักผม”ทุกอย่างตรงหน้ามันพร่าเลือนผมรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่ผิวแก้ม รสชาติของมันเค็มจนขม
“แล้วเป็นยังไงครับน้องเขารักสองหรือเปล่า”
“ไม่ ไม่เลยครับ น้องแทบไม่พูดกับใคร น้องเอาแต่เงียบ เก็บตัวอยู่แต่ในห้องผม ผมมันเป็นคนเห็นแก่ตัวผมทำให้น้องกับพี่สามต้องเจ็บ” มือของพี่วินค่อยปาดไล่หยาดน้ำตาให้ออกจากแก้มของผมอย่างแผ่วเบา รอยยิ้มของเขาเหมือนยาที่บรรเทาความเจ็บปวดของผม
“คิดเสียว่ามันเป็นบทพิสูจน์ความรักของน้องกับไอสามมันก็แล้วกันนะครับแค่สองคอยดูแลน้องห่างๆก็พอ”
“.....” มันจะพอจริงๆนะหรือ ผมมองพี่วินอย่างไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก
“แต่ยังไงก็ต้องบอกไอสามมันนะครับและเรื่องนี้ องต้องเป็นคนบอกมันเอง”
“ครับผมจะบอกพี่สองเอง” ผมสูดลมหายใจลึกๆ ดีแล้ว ผมตัดสินใจถูกแล้วผมสมควรจะทำให้มันถูกต้องเสียที พี่วินไปส่งผมที่บ้านผมตัดสินใจได้แล้วว่าตัวเองจะทำให้มันถูกต้องซะที ความรู้สึกผิดในตัวผมจะได้หมดๆไปแม้ว่าจะเจ็บที่เห็นน้องเป็นของพี่สาม แต่ก็ยังดีกว่าที่จะต้องเห็นคนที่ผมรักสองคนเจ็บเพราะผมคนเดียว แต่แค่ผมคิดจะทำ มันก็เป็นได้แค่สิ่งที่ผมคิดเท่านั้น
“คนนั้นเหรอครับที่สองกับไอสามชอบ”สายตาของพี่วินมองตรงไปยังเก็กชายหัวเกรียนในชุดนักเรียนที่ตอนนี้เดินเคียงข้างมากับสาวสวย
“ใข่ครับ.....สงสัยเขาจะมากับเพื่อน”ผมขมวดคิ้วทำไมผมไม่เคยเห็นเพื่อนน้องคนนี้กันนะ แต่พี่วินกลับยกยิ้มราวกับมันเป็นเรื่องตลก
“หึ!!พี่ว่าคงไม่ใช่เพื่อนหรอกครับ ถ้าเป็นเพื่อนคงเป็นแค่ในห้องนอนแล้วล่ะ”
“ไม่จริง น้องไม่ใช่คนแบบนั้น” ถึงแม้ผมจะรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นธรรมดาของเด็กผู้ชายก็ตาม ภาพที่น้องโอบเอวสาวน้อยคนนั้นเข้าไปในบ้านยังติดตาตรึงใจผมมันน่าใจหาย แบบนี้แย่แน่ๆแบบนี้.....มันจะมีทำให้พี่สามและตัวน้องเองเสียใจ
“ผมจะไปคุยกับน้อง!!”แต่ตัวผมกลับถูกพี่วินรั้งเอาไว้ก่อนจะส่ายหน้าให้ผมราวกับว่ามันเปล่าประโยชน์
“ไม่มีประโยชน์แล้วครับสอง ปล่อยให้น้องเรียนรู้โลกไปดีกว่าสองเข้าไปตอนนี้ก็รังแต่จะทำให้น้องโกรธ เชื่อพี่สิให้ไอสามมันจัดการเองดีกว่า อย่างน้อยๆ เขาสองคนก็รักกัน”
อึก!!
เหมือนถูกเข็มพันเล่มทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจ คำพูดที่พี่วินพูดมันจริงทุกอย่าง ผมมันคนนอกพูดไปน้องก็คงไม่ฟัง รังแต่จะทำให้น้องเกลียดผม แต่กับพี่สาม ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่น้องคงจะฟังพี่สามมากกว่า เจ็บจนแทบไม่อยากหายใจ ผมหมดแรง แค่จะลงจากรถแล้วเข้าไปในบ้านผมยังทำไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าแสดงสีหน้าแบบไหนออกมาพี่วินถึงได้เอาแต่ลูบแก้มผมแบบนี้
“ให้พี่อุ้มไปส่งไหม”
หะ????
“อะอะไรนะ” ผมแทบกัดลิ้นตัวเองตาย ไม่แน่ใจว่าตัวเองหูฝาดไปหรือเปล่าแต่พอสบตาหวานของพี่วิน มันก็ทำให้ผมทำตัวไม่ถูก
“ให้พี่......อุ้มสองไปส่งดีไหมครับ”
“อะเอ่อ เอ่อ”
“สัญญาเลยครับว่าจะส่งให้ถึงเตียง” บะ บะ บ้าไปแล้ว ผมขยับตัวด้วยความรู้สึกแปลกๆ ทำไมหน้าผมร้อนแบบนี้ละ
“ผะผม ผมไปเองได้ครับ ขอบคุณครับที่มาส่ง”
ผมรีบวิ่งลงจากรถไปในบ้านวิ่งขึ้นไปบนห้องนอนตัวเองอย่างรวดเร็ว ไอพี่วินบ้า เล่นอะไรบ้าๆ
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ไอหัวใจไม่รักดี แค่เห็นเขาอ่อยก็เต้นซะแรงเลยนะ ใช้ได้ที่ไหน อย่าหวั่นไหวสิวะไอสอง แกชอบน้องไม่ใช่เหรอ อย่าถูกชักจูงง่ายๆสิ แต่ทำไมเตือนเท่าไหร่หัวใจก็ไม่ยอมฟังสมองยังคงนึกแต่ภาพของพี่วิน ยิ่งสัมผัสแผ่วเบาที่แก้มแค่นึกถึงผิวแก้มก็ร้อนแทบไหม้แล้ว
โหดร้าย.........มาทำให้ผมหัวใจจะวายแบบนี้ได้ยังไง
จากนั้นผมก็ไม่ได้คุยกับน้องอีกเลย น้องดูเฮฮาไม่เก็บตัวเหมือนเก่าจนผมแปลกใจ น้องเปลี่ยนไปมากแต่ก็ใช่ว่าจะไม่คุยกับผมน้องยังไปมาหาสู่ผมเสมอ เพียงแต่ไม่เคยเหยียบย่างเข้ามาในบ้านผมอีกเลยแค่นั้น พี่วินเป็นตัวกลางคุยให้ผม ผมขอโทษและยอมรับผิดกับพี่สามไป แต่แทนที่พี่สามจะโกรธกลับเอาแต่ลูบหัวผมเหมือนจะปลอบใจ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิด ผมเล่าพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของน้องให้พี่สามฟัง พี่สามเพียงแค่ส่งเสียงรับในบำคอไม่พูดอะไรออกมาอีก สีหน้าที่เคยเศร้าหมองตอนนี้มีเพียงความครุ่นคิดที่ชวนให้สงสัยว่าอะไรที่พี่สามกำลังคิดอยู่ ทุกอย่างมันเหมือนจะดีแต่ก็ไม่สุด พี่สามยังคงเก็บตัวอ่านหนังสือเหมือนเดิมแต่ดีหน่อยที่ยังกลับบ้านบ้าง ทุกครั้งที่พี่สามกลับมา สายตามักจะมองไปที่ข้างบ้านเสมอ ผมเคยคิดว่าตัวเองรักน้องมากกว่า แต่พอได้ปล่อยน้องไป ยอมรับความจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผมกลับไม่ได้เจ็บอย่างที่กลัว พอลองมองย้อนดูแล้ว ถ้าผมกล้าในวันนั้นที่จะยอมรับความจริง พี่สามกับน้องก็คงจะรักกันไปแล้ว
แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือ......
“พี่จะพกพี่วินมาทำไมวะ”ผมกระซิบถามพี่ชายตัวดีที่นั่งอยู่ข้างๆ
“เอ้า......ก็มันอยากมา”
อยากมาก็มาบ้านกูเป็นสวนสัตว์เหรอวะ
“แล้วจำเป็นต้องให้มาไหมพี่”
“ชู่!!อย่าเสียงดังดิ เดี๋ยวมันได้ยินจะเสียใจเอานะ” ทำไมผมต้องไปกลัวด้วย
“ไม่เห็นจะกลัวเลย”
“หึ.....แล้วสองปิดปากทำไม”ผมชะงักไม่ได้ตั้งใจจะปิดปากซะหน่อย แค่เผลอไปเองเท่านั้น ผมได้แต่ขมุบขมิบปากบ่นไร้เสียงจนพี่สามต้องยกมือขึ้นเขกหัวผมด้วยความหมั่นใส้
“สองสบายดีนะ”ผมเหลือบมองใบหน้าหล่อของพี่วินที่มีรอยยิ้มประดับอยู่
“ครับก็.....สบายดี” จะไม่ดีก็ตรงที่พี่แม่งมานี่แหละ
“ดีแล้วพี่เป็นห่วงมาตลอดเลย”
“หึหึ”พี่สามแม่งจะหัวเราะทำไมวะเนี่ยใช่เรื่องตลกเหรอ
“ไม่ต้องก็ได้มั้งครับพี่ผมไม่ได้เป็นอะไร” รู้สึกร้อนๆที่ก้นจนอยากลุกหนียังไงไม่รู้สิ
“นี่ถ้าไม่ติดว่าเกรงใจพี่จะอุ้มไปดูแลที่บ้านแล้วนะเนี่ย”
กะ กะ กรี๊ดดดดดดดดดดด อยากจะร้องให้บ้านแตก พี่วินมันบ้าไปแล้วแน่ๆ
“โอ๊ะๆเหมือนกูจะไม่ควรอยู่ตรงนี้ มดแม่งเยอะฉิบหาย” ไหนมดพี่สามวะทำไมผมไม่เห็นสักตัว
“อย่าลุกเชียวนะไม่งั้นผมจะหาบาส” ได้แต่กัดฟันบอกพี่ชายตัวเองเบาๆ จับเสื้อของพี่มันไว้ไม่ให้ไปไหน
“อ๋อ.....ลืมไปว่ากูฉีดไบกอนไว้แล้ว”กลับลำเชียวนะไอพี่เวรก็นึกภาพตามแล้วกันนะครับ ถ้าพี่สามลุกไป โซฟาก็จะเหลือแค่ผมกับไอพี่วิน และผมเอาหัวเป็นประกันเลยว่าพี่มันต้องขยับมาแน่ๆ
“แล้วสองเรียนเป็นไงบ้างครับให้พี่สอนพิเศษให้ไหม ยังไงพี่ก็เรียนหมอ” เกี่ยวอะไรกับเรียนหมอวะ
“ไม่เป็นไรพี่ครูที่โรงเรียนมีเยอะแยะ เดี๋ยวผมจ้างเอาก็ได้ จะไม่ได้ไม่ลำบากพี่ด้วย”
“เฮ้ย......พี่เต็มใจเรียนกับพี่ครบสูตร ในตำราก็ดี นอกตำราพี่ก็เก่ง”
เดี๋ยวๆกูคิดไปเองหรือเปล่าว่าประโยคมันแปลกๆ
“จริง!!ไม่เชื่อลองถามสาวๆในมหา’ลัยได้ เมียมันทั้งนั้น”
ป๊าบ!!!
“ไอสัสสาม!!!”ผมสะดุ้งกับเสียงฟาดฝ่ามือลงมาที่ไหล่พี่ชายผม แต่เหมือนหนังพี่สามจะหนาเกินมนุษย์เพราะนอกจากจะไม่ร้องโอเครวญแล้วยังหัวเราะอีก
“ฮะๆ”ตอบอะไรไม่ได้ก็หัวเราะแม่ง
“อย่าไปเชื่อมันนะสองพี่เป็นคนรักใครแล้วรักคนนั้นแค่คนเดียว”
“อ่า ครับ ก็.....มันเป็นชีวิตพี่อ่ะ ไม่ต้องบอกผมก็ได้ครับ ฟันหญิงเป็นเรื่องปกติ ผมก็ทำ” อันนี้ผมพูดจริงหน้าตาผมก็ใช่ว่าจะไม่หล่อ พอไม่มีไอพี่สามอยู่ในโรงเรียน สาวๆในโรงเรียนจึงหันเหถ่ายเทใจมาทางผมซะส่วนใหญ่ไป
“แล้วอย่างพี่มีสิทธิ์ฟันน้องไหมครับ”
“อุแค่กๆๆๆ” ผมถึงกับสำลักน้ำลายตัวเองจนแสบจมูกไปหมด ลำบากพี่สามมันต้องช่วยลูบหลังให้ทั้งๆที่ยังกลั้นขำเอาไว้
“ฮ่าๆไอสัส มุขมึงได้ กูชอบ” ไม่ถงไม่ถามกูเลย ไอพี่เลว
“มึงชอบแล้ว........”
“...???”
“น้องมึงจะชอบกูไหม”
เกลียด พี่แม่งกล้าและหน้าด้านมาก เกลียดความอ่อย เกลียดคำพูด เกลียดน้ำเสียง เกลียดพี่มันที่ทำให้ผมหน้าแดง เกลียดที่ทำให้ใจเต้นแรงทั้งๆที่ไม่ควร
“วินลองทานนี้นะลูกแม่ลงมือเข้าครัวเองเลย” ผมนั่งเขี่ยข้าวในจานเล่นมองดูภาพแม่ผมที่กำลังเห่อลูกชายคนใหม่จนออกนอกหน้า
“นั่นสิเจ้าวินวันหลังมาบ่อยๆสิ พ่อกับแม่ค่อยจะอยู่บ้าน ถ้าว่างๆก็มานั่งเล่นนั่งคุยกับเจ้าสองมัน”
หะ???
“ไม่ต้องหรอกพ่อ แม่ ผมมีเพื่อนเยอะแย๊ะ!!!!!” เสียงสูงไว้ก่อนปลอดภัยดี แต่สายตาของพวหท่านที่มองมายังไม่เท่ากับสายตาไอพี่วินที่มองอย่างรู้ทัน
“ถ้าไม่รบกวนน้องผมก็อยากจะมาอีกครับ คิดเอาไว้ว่าจะมาช่วยติวให้อะไรแบบนี้”
“จริงเหรอลูกแหม.....เป็นคนดีอะไรแบบนี้คะ ขนาดตัวเองเรียนหนักยังนึกถึงน้อง” เออเอาเถอะครับ เอาเข้าไป
“เบ้หน้าทำไมเจ้าสองพ่อเห็นนะ” ก็ตาดีเกิ๊น แต่ผมก็ทำได้แค่ก้มหน้าก้มตากิน อยากปฏิเสธใจแทบขาดแต่สมองเล็กๆกำลังหาวิธีอยู่
จริงด้วย!!!
“ไม่ได้หรอกแม่พี่วินต้องสับรางรถไฟ ไม่ค่อยจะว่างเท่าไหร่ ไม่เชื่อถามพี่สามสิครับ ใช่ไหมพี่”
“เกี่ยวไรกับกูวะอุก!” ผมศอกใส่ท้องที่เต็มไปด้วยอาหารอย่างแรง
“ใช่ไหมพี่สาม!!!”
“เออๆใช่ก็ได้วะ”
“สับรางอะไรกันเราทำงานพิเศษด้วยเหรอวิน” พี่วินมองผมตาวาววับก่อนจะหันไปส่งยิ้มบางๆให้แม่ของผม
“เปล่าครับไม่ได้ทำ”
“หือว่าเราติดแฟนจริงสินะ เวลาก็ไม่คอยจะมี เราต้องไปอยู่กับแฟนสิ จะมาสอนเจ้าสองได้ไง ขอโทษทีนะแม่ไม่รู้” หึ!! เข้าทางผมล่ะ
“ฮ่าๆมีที่ไหนครับ มีแต่จีบๆอยู่นั่นแหละครับ” พี่วินหันมาสบตาผมอย่างสื่อความหมายแต่ผมเลือกจะเบนสายตาไปที่อื่นมากกว่า
“ใครล่ะอย่างเราต้องจีบด้วยเหรอ ถ้าเป็นแม่นะ แค่วินบอกว่าชอบแม่ก็ยอมเป็นแฟนด้วยแล้ว”
อึก! เหมือนถูกสะกิดด้วยคำพูด แต่คำพูดไม่เท่าสายตาพี่วินที่มองมาอย่างสื่อความหมาย แต่ผมมันไม่อยากตีความหมายนั้นไง เลยได้แต่เหล่มองแจกันข้างๆตัวแทน
“ไม่เป็นไรครับกับคนนี้.......ให้รอทั้งชีวิต ผมก็ยอม” เกลียดความอ่อยของพี่วินมาก
“กรี๊ดดดดดดดคุณคะ เราหย่ากันเถอะ” เวร แม่ผมแย่แล้ว
“จะบ้าเหรอคุณ!! ห่ามนะวิน นี่เมียพ่อ” เอากับบ้านผมสิ ยังไงดีล่ะ จากที่เริ่มหน้าร้อนๆตอนนี้ผมได้แต่หัวเราะกับท่าทางของพ่อกับแม่มากกว่า พี่สามไม่พูดไม่จาอะไร เอาแต่มองออกไปทางหน้าต่างที่สะท้อนให้เห็นบ้านหลังสวยของใครบางคน แววตาที่หลากหลายอารมณ์ดูปะปนกันจนผมที่เห็นแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่ามันฉายสิ่งใดชัดเจนที่สุด ครั้นผมจะถามออกไปก็ไม่ได้ กลัวจะทำให้พี่สามเจ็บกว่าที่เป็นอยู่ ทุกวันนี้เวลาจะพูดถึงน้องผมต้องกรองแล้วกรองอีกว่าควรไหม ว่าอันไหนต้องเงียบไว้ สถานการณ์ของพี่สามกับน้องดูย่ำแย่ ทุกวันนี้แค่เดินผ่านน้องยังไม่มองพี่สามมันเลยด้วยซ้ำ ขนาดว่าพี่สามยืนอยู่ข้างๆผมแท้ๆ น้องยังเลือกทักแค่ผมเท่านั้น
“แม่ครับ....”
“ว่าไงคะลูกสาม”
“สัญญาของแม่กับน้าฉายมันยังอยู่ไหมครับ” ผมชะงัก สัญญาอะไรกัน??
“สัญญาอะไรอ่ะแม่”
“สัญญาที่ว่าจะให้น้องบาสแต่งกับพี่สามไงคะลูก”ทะทำไมผมไม่เห็นเคยรู้เรื่อง ผมได้แต่นั่งอ้าปากพะงาบๆอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีใครสนใจ
“ยังอยู่ไหมครับ”
“เอ.......”
“.........” แม่คิดอยู่สักพักใหญ่ โดยที่พวกผมนั่งรอฟังคำตอบนั้น
“อืมมม เหมือนว่าแม่กับน้าฉายจะพับมันเก็บไว้ชั่วคราวนะคะ ทำไมเหรอลูก”พี่สามยกยิ้มที่มันอาจจะดูหล่อแต่ผมร็ดีว่ามันแฝงตวามชั่วร้ายเอาไว้
“ผมแค่ถามเอาไว้...”
“......”
“เพราะถ้าหากเกิดอะไรขึ้น”
“.....”
“แม่จะได้ไปขอน้องให้ผมได้”
ทุกคนมองตามร่างของพี่สามที่เดินขึ้นห้องไปโดยไม่สนใจจะอธิบายใดๆเพิ่ม ปล่อยให้ต่างคนต่างคิดไปกันเอง ผมหันไปมองหน้าแม่ที่นั่งเหวออยู่ก่อนจะระบายยิ้มออกมาอย่างไม่ถือสา เดี๋ยวนะแม่ พี่มันอาจจะไปฉุดคร่าน้องมาก็ได้ ไม่คิดห้ามหน่อยเหรอ ส่วนพ่อเอาแต่นั่งจ้องกับข้าวที่ยังเหลืออยู่บนโต๊ะราวกับชั่งใจว่าจะกินจานไหนดี พ่อครับ พ่อกินไปเลยครับ ทุกจานเลยก็ได้ครับ พอผมเบนสายตาก็ไปปะทะกับพี่วินเข้าพอดี ทำไมทุกครั้งที่ผมสบตาพี่เขาจะต้องแฝงไปด้วยความวับวาวอยู่เรื่อยเลย
“คุณแม่ครับ”
“ว่าไงจ๊ะลูกวิน”พี่วินยกยิ้มเอาใจแม่ผม
“ถ้ามีคนมาขอสองแม่จะทำยังไงครับ” แม่ผมปล่อยเสียงหัวเราะราวกับมันคือเรื่องตลก เหรอ???
“แม่คงยกให้ฟรีๆแถมรถให้หนึ่งคันด้วยมั้งคะ”
“แม่!!!!”ผมร้องออกมาอย่างตกใจทำไมแม่ไม่หวงผมเลย น้อยใจ~
“จริงเหรอครับ แล้วแบบนี้ ค่าสินสอดน้องจะเท่าไหร่ครับ” แม่ผมยังคงไม่รู้ตัว ยังสนุกราวกับว่าพี่วินพูดล้อเล่น ส่วนพ่อผมนั่งหรี่ตามองไปที่พี่วินอย่างต้องการวิเคราะห์
“ฮ่าๆอย่างสอง ขอแค่มาขอ แม่เอาแค่สองล้านก็พอค่ะ” พี่วินยิ้มกว้างอย่างพอใจมองผมด้วยสายตาโลมเลียอย่างเปิดเผย
“ถ้าอย่างนั้นแล้วผมจะมาใหม่นะครับ วันนี้คงต้องกลับไปคุยกับแม่ผมแล้ว”
“จ้าแล้วแวะมาอีกนะคะลูก” พี่วินยกมือไหว้แม่กับพ่อผม ก่อนจะหันมายกยิ้มให้ผม
“พี่ไปนะครับ แล้วจะมาให้เร็วที่สุด” ผมนั่งก้มหน้ากัดปากตังเองเอาไว้ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบสายตาคู่นั้น กลัวจะแสดงสีหน้าน่าอายออกไปจนพี่วินเดินออกไปแล้วผมถึงกล้าเงยหน้าขึ้น พ่อมองผมด้วยแววตาอ่านไม่ออกแต่รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของพ่อ ทำให้ผมร้อนรนแปลกๆ
“ผะผม ขึ้นห้องไปอ่านหนังสือก่อนนะครับ” ผมรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องด้วยความอายใบหน้าเห่อร้อนจนไม่ต้องแตะก็รู้ดี
“คุณคะวินถามเราแปลกๆหรือเปล่าคะ”
“ยังไงครับ”
“ก็....ลูกเราต้องไปขอสาวไม่ใช่เหรอคะทำไมวินถามเหมือนลูกเราจะแต่งออกไป”
“หึหึอาจจะใช่ล่ะมั้งคุณ.....”
“.....” แม่สบตาด้วยความงุนงง
“บางที.....เราอาจจะได้ลูกเขยแทนก็ได้นะ ใครจะไปรู้” แค่ได้ยินเสียงพ่อกับแม่คุยกันไล่หลังมาผมก็ยิ่งอายจนแทบมุดดินหนี พี่วินบ้า!! มาพูดอะไรบ้าๆแบบนี้ได้ไง
หลังจากวันนั้นมา ผมก็ไม่ค่อยได้เจอน้องบาสเท่าไหร่ แต่คนที่ผมเจอบ่อยที่สุดก็คือพี่หมอวิน เพราะตั้งแต่วันนั้น พี่หมอวินก็แวะมาหาผม พาผมออกไปข้างนอกบ่อยๆ สาวนใหญ่ก็จะไปกินข้าว ดูหนังกัน แต่มันไม่ใช่การเดทนะ พี่เขาก็แค่ว่างแล้วบังเอิญผมก็ว่างเหมือนกันเลยไปกับพี่เขาหน่อย มันก็บ่อยนะ ถ้าถามผม จะเรียกได้ว่า ถ้าพี่หมอวินไม่ติดเรียนก็มาอยู่กับผมมากกว่า ผมกับพี่หมอวินก็เป็นแบบนี้จนพี่หมอวินเรียนจบหมอแล้วตัดสินใจร่วมกันเปิดคลินิกกับพวกพี่สามนั่นล่ะ ผมรู้สึกห่างๆกับพี่หมอวินออกมา อาจจะด้วยว่าผมเองก็ต้องไปมหา’ลัย ชีวิตของผมมีเวลาน้อยลง ทำอะไรกับเพื่อนมากขึ้น มีรุ่นพี่รุ่นน้องแทนการมีพี่หมอวินถามว่าผมรู้สึกยังไง มันก็โหวงๆเนอะ คนเคยเจอกันมาก่อนมาวันนี้ไม่ค่อยได้เจอกันมันก็เลย วูบๆโหวงๆแปลกๆ สายตาผมมันก็มักจะมองหาร่างของพี่หมอวินแบบไม่รู้ตัว จนผมยังเคยถูกทักถามเลยว่า รอใคร
หึหึ.......นั่นสินะผมรอใครกัน
ขนาดผมที่นั่งรอยังไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังรออยู่ แล้วเขาจะรู้ไหม ความเคยชินกลายเป็นความไม่ชิน พี่หมอวินแค่เดินเข้ามาแล้วหายไปมันไม่เห็นมีอะไรยาก แต่ทำไมกับผมมันถึงยากจังแค่การจดจ่อกับสิ่งอื่นๆแค่นี้ ทำไมพี่หมอวินทำมันง่ายๆแต่กลายเป็นผมทำมันไม่ได้ก็ไม่รู้ ตื่นมาทุกเช้ามองจอเผื่อจะมีเมสเสจอะไรเข้ามาให้เห็นบ้าง แต่มันก็แค่หน้าจอที่ว่างเปล่ามีเพียงแค่รูปของผมที่ยิ้มแย้มอยู่บนหน้าจอ
เขาคงไม่มาอีกแล้วล่ะ
ผมคิดแบบนั้นจริงๆ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ผมก็พอจะชินกับการไม่มีพี่หมอวินเข้ามาในชีวิตบ้างแล้ว ตอนนี้ผมเองก็จบออกมาทำงานของตัวเอง ฝากเตือนน้องๆที่คิดจะรัก อย่ารักจนลืมดูแลตัวเอง เรื่องหัวใจมันห้ามไม่ได้ แต่อย่าทำเรื่องที่วันพรุ่งนี้ต้องมานั่งเสียใจ ความรักของเราจะต้องไม่ทำร้ายใครเพราะถ้ามันทำร้ายคนอื่นเมื่อไหร่ มันไม่ได้เรียกว่าความรักมันจะกลายเป็นความเห็นแก่ตัวทันที ผมพูดจริง! ถ้าให้พูดมันก็คงยาวและคิดว่าน้องๆจะเกลียดผมเสียเปล่าๆ
พี่สามกลับมาบ้านเสมอ แต่ผมจะเห็นสายตาที่ยังคงทอดมองออกไปยังบ้านหลังข้างๆไม่แปรเปลี่ยน ทุกครั้งที่เห็น ความรู้สึกผิดมันก็จุกอกผม น้ำตาแทบจะไหลอยู่รอมร่อ ผมเป็นห่วงเรื่องของพี่สามและน้องมากบางครั้งยังคิดเลยว่าจะทำอะไรไถ่โทษ แต่ทุกครั้งที่คิดภาพของพี่หมอวินก็มักจะผุดขึ้นมาในหัว คำพูดของพี่หมอวินเองก็ก้องดังอยู่ในใจปล่อยให้พี่สองจัดการเองดีกว่า ผมมันคนนอกรังแต่จะทำให้น้องไม่พอใจเปล่าๆ เผลอๆเรื่องมันอาจจะยุ่งมากขึ้นก็ได้ ช่วงนี้ไปทำงานผมได้ยินแต่คนพูดถึงเรื่องของคลินิกมารักษ์ ซึ่งผมจำได้ดีว่ามันเป็นคลินิกของพี่สามและเพื่อนๆที่เปิดด้วยกัน แต่คำพูดแต่ละคนนี่สิ ทำผมสงสัยว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่
“ได้ยินว่าคลินิกมารักษ์เปิดรับรักษาเฉพาะโรคทางเพศล่ะ”
“ใช่ๆที่เด็ดกว่านั้นนะแก......”
“ทำไมย่ะ”
“หมอหล่อและอร่อยมาก”ผมเบิกตากว้างแทบไม่เชื่อหูว่านี่คือการสนทนากันของสองสาวในชุดนักศึกษา
“ต๊ายพูดแบบนี้ แกได้กินแล้วเหรอ!!” สาวอีกหนึ่งคนเพียงยิ้ม สายตาเพ้อฝันไปไกล
“ฉันยังไม่ลืมเรื่องวันนั้นเลยล่ะหมอไม่ใช่แค่หล่อนะคะ เก่งด้วย”
“จริงเหรอ!!!โอ้ยฉันอยากไปบ้าง!! ใครรักษาแกย่ะ”
“หมอกวินทร์หล่อและอร่อยสุดๆ รับรองเลย”
!!!!
พะพี่หมอวิน เหรอ มะ เมื่อกี้ เธอบอกว่า พี่หมอวิน เป็นคนรักษาเธอ
ผมเผลอกำมือตัวจนแน่น ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เพียงแต่จู่ๆความไม่พอใจก็แล่นขึ้นมาก่อนที่จะถูกแทรกด้วยความผิดหวังที่จุกอยู่ภายในอก หึหึ.....ผมนึกแล้วเชียวนึกแล้วว่าอย่างพวกพี่ๆเจาจะเปิดคลินิกแบบนี้ทำไม สุดท้ายก็แค่แอ้มสาวก็แค่ได้นอนกับใครก็ได้โดยที่ไม่ผิด นี่สินะงานที่ยุ่งของพี่หมอวินนี่สินะสิ่งที่ดึงไว้ไม่มห้มาหาผม ตอนนี้ทุกอย่างมันกระจ่างแล้วผมเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งเลยล่ะ ผมผิดหวังในตัวพี่หมอวินมากและมันก็คงกลับมารู้สึกดีแบบเดิมไม่ได้ ผมมั่นใจ!!กลับมาแล้วเหรอพี่สามเป็นไงบ้าง” ผมมองพี่ชายที่กลับเข้ามาด้วยท่าทางอ่อนแรง
“เหนื่อยมากไม่ไหววะ พี่อยากพัก” เอาไงดี คาใจจัง เอาวะ ถามก็ถาม
“พี่สามผมมีเรื่องอยากจะถามครับ”สายตาของพืสามฉายแววสงสัยเพราะปกติแล้วผมไม่มาถามอะไรพี่สามแบบนี้หรอก
“ผมได้ยินจากเพื่อนที่ทำงานมาว่า....”
“......”
“คลินิกพี่เอ่อแบบ ยังไงดีล่ะ เอาใหม่..”
“.......”
“พี่สามนอนกับคนไข้จริงหรือเปล่าครับ!!”ความนิ่งเงียบทำให้ผมเดาทางไม่ออกโกรธ เสียใจ หรือผิดหวัง ผมไม่รู้
“จริง...”
“พะพี่ นี่พี่!!!”
“เฮ้ออ.......มันเป็นธรรมดานะสองคนไข้ก็คือมนุษย์ มีเนื้อมีหนัง และพี่ก็เป็นปตุชน มีความต้องการเหมือนคนอื่นๆ”
“คนอื่นๆทึ่ว่า ใช่พวกเพื่อนๆ พี่ที่ร่วมกันเปิดคลินิกหรือเปล่า” ผมยิ้มเยาะตัวเอง
“สองถามพี่ว่า เหมือนไอวินหรือเปล่าน่าจะตรงกว่านะ” ผมหน้าชา เมื่อพี่ชายตัวดีจับได้ว่าผมอยากจะสื่ออะไร แต่คนอย่างผมไม่มีวันยอมรับอยู่แล้ว
“ผมไม่ได้อยากจะเจาะจงใครครับ ที่ถามเพราะเป็นห่วงเรื่องพี่กับบาสเท่านั้น แต่ดูท่าทาง คงไม่ต้องห่วงแล้วมั้ง พี่ก็มีบรรดาสาวสวยหนุ่งน้อยน่าตาดีๆ มาให้เลือกเยอะแล้ว”
“.......”
“พี่คงไม่สนใจบาสแล้วล่ะ จริงไหม!” ไม่เคยสักครั้งที่จะอยากกระแนะกระแหนหรือจิกกัดพี่ชายตัวเอง แต่มันทนไม่ได้ สายตาและท่าทางบ่งบอกได้ชัดว่ารักน้องมาก แต่การกระทำกลับ.......
“เรื่องพี่กับบาสเป็นเรื่องของเราสองคน สองไม่ต้องมายุ่งหรอก”
“แต่น้องก็เป็นน้องของผมเหมือนกันนะ!! ถ้าพี่ไม่จริงใจ ก็ปล่อยน้องมันไป ทุกวันนี้ ไม่มีพี่สามน้องมันก็ไม่เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว พี่เองก็มีคนไข้ตั้งมากมายให้เลือก คงไม่จำเป็นต้องมีน้องหรอก”สาบานได้ว่าผมพูดไปเพียงแค่เพราะโมโหเท่านั้นแค่หงุดหงิดผมจึงพูดไม่คิด
“พี่ไม่ได้เห็นน้องเป็นที่ระบายนะสองสองต้องแยกแยะคนที่รักกับของข้างทางด้วย” ของข้างทาง
“ก็รู้ว่ามันเป็นของข้างทางพี่จะเก็บมากินทำไมวะ!!” พี่สามส่ายหัวกับคำพูดของผม หึ มันจริงใช่ไหมล่ะ
“พี่ว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะพี่ว่าสองไปคุยกับไอวินมันตรงๆ ดีกว่า” ผมสะอึก ชะงักไปวูบหนึ่ง
“ไม่มีอะไรที่จะต้องคุยหรอกครับผมไม่ได้เป็นอะไรกับเขา แต่ที่ผมมาคุยกับพี่ เพราะพี่เป็นพี่ผม”
“สอง.......อย่าใช้อารมณ์รอฟังมันก่อน”
“อย่างที่ผมบอกมันไม่มีอะไรที่จะต้องคุย เพราะงั้น ผมก็จะไม่คุย”
ผมเลือกที่จะเดินหนีเสียเอง ไม่อยากได้ยินคำพูดใดๆ ต่อจากนี้ ยอมรับว่าพี่สามมองผมทะลุจนต้องใช้อารมณ์โกรธมากลบเกลื่อนแต่ผมพูดจริง ที่บอกพี่สามไปว่า เราไม่ได้เป็นอะไรกันไม่จำเป็นต้องคุยกันอีก ถึงผมจะรู้สึกแย่แต่ไม่มีวันยอมแพ้หรอกครับ ผมจะสู้ สู้กับหัวใจตัวเอง ผมไม่เชื่อหรอกว่าผมจะเอาชนะหัวใจของผมเองไม่ได้ ผมไม่เชื่อว่าจะเอาชนะความเจ็บที่เกิดขึ้นไม่ได้ ผมไม่เชื่อ!!
ผมเอาเวลาไปทุ่มเทกับงานของตัวเองทั้งหมดเพื่อที่สมองจะได้ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่าน ไม่ยอมให้ตัวเองมีเวลาว่างมานั่งเพ้อเจ้ออะไร สายโทรเข้ามากว่าสิบสายจากชื่อของคนๆเดียว ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าพี่สามคงไปพูดกับพี่หมอวินแล้ว ผมทำเพียงแค่ยกมันขึ้นมาดูบ้างเป็นครั้งคราวก่อนจะว่างมันเอาไว้ที่เดิมโดยไม่สนใจอีก บอกแล้วว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน และผมไม่มีอะไรจะคุย ก็ดีครับ ทุกอย่างมันก็เรียบง่ายเลยล่ะ ถ้าไม่ติดว่า คืนนั้นพี่สามโทรเข้ามาหาผมให้ผมรีบไปหา แต่พอไปถึง.......คนที่รอผมอยู่หน้าคลินิก กลับเป็นพี่หมอวิน ซึ่งผม.......ไม่อยากจะเจอเขาเลยสักนิด
“สอง.....”
ผมมองอีกฝ่ายด้วยหางตา ให้เขารู้ว่าผมไม่อยากจะเสียเวลามองเขาด้วยซ้ำ ผมเดินผ่านตัวเขาไปด้วยความมั่นใจไม่เคยมั่นใจอะไรขนาดนี้มาก่อน แต่ถ้าหากใครมานั่งเล่นในร่างกายผม คงต้องได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นดังและแรงบีบของหัวใจที่มันทำให้รู่สึกเจ็บ กระนั้น.....มือของพี่หมอวินก็คว้าแขนผมเอาไว้ ไม่ยอมให้ผมเดินเข้าไปข้างในง่ายๆ
“สอง......พี่อยากคุยด้วย”ผมไม่รู้ว่าตอนนี้แววตาของเขาสื่อความหมายอะไร เพราะผมไม่สนใจจะมองและรับรู้มัน เพียงแค่ความอบอุ่นจากฝ่ามือที่สัมผัสแขนผมอยู่ตอนนี้ก็ทำให้ขอบตาแทบจะร้อนผ่าว
“ขอโทษนะครับ.......ผมรีบ”ทั้งที่ผมคิดว่าสะบัดออกอย่างแรงแล้วนะแต่มันก็ไม่หลุดออกจากมือของพี่หมอวินอยู่ดี
“แต่พี่อยากคุยกับเรา”ผมถอนหายใจก่อนจะทำสีหน้าเรียบตึงมองอีกคนที่มีแววตาตัดพ้อส่งมาให้ผม เหอะ! ตลกน่า คนที่ต้องมีสีหน้าแบบนั้นมันต้องเป็นผมไม่ใช่เหรอ
“ผมว่าพี่คงไม่ได้ยินผมบอกว่าผมรีบ......ครับ”
“แค่แป๊บเดียวก็ได้พี่อยากอธิบาย” ผมขมวดคิ้วทั้งๆ ที่ริมฝีปากเผลอยกยิ้มเยาะออกไป
“ขอโทษด้วยครับ ผมไม่เข้าใจว่าพี่ต้องการจะอธิบายอะไร” พี่หมอวินยืนนิ่ง อาจจะเพราะคิดไม่ถึงว่าผมจะแสดงออกไปแบบนั้น แน่ล่ะ.......ปกติผมทำหน้าแบบนี้ที่ไหนการขมวดคิ้ว บ่งบอกถึงความไม่เข้าใจ แต่รอยยิ้มบนใบหน้ามันสวนทางกันไง มันเลยดูขัดแย้งกันจนไม่รู้ว่าควรจะคิดว่าผมรู้สึกแบบไหนอยู่ พอเห็นว่ามือของเขาผ่อนแรงลงไป ผมจึงดึงออกมาอย่างรวดเร็วและหันหลังเดินไปโดยไม่สนใจพี่หมอวินอีก ยอมรับว่าเจ็บ ยอมรับว่าที่เดินออกมามีแค่ฝีเท้าและตัวเปล่าๆ โดยที่หัวใจของผม.......ยังจดจ่ออยู่กับเขาไม่ห่างไปไหน มันไม่ยอมเดินตามผมมาเลยครับ นี่แหละหนา หัวใจไม่ยอมเชื่อฟัง
“พี่สาม!เกิดอะไรขึ้นครับ” พี่สามปรายตาไปยังร่างเล็กๆ ที่นอนสลบอยู่บนเตียง น้องบาส!!
“สอง....”
“พี่ทำอะไรน้อง!!!!”ผมแทบจะผวาเข้าไปหาน้องแต่ก็ถูกพี่สามขวางเอาไว้
“พี่.......”ผมฟังพี่สามเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด แต่มันไม่ได้ช่วยให้ความคุกรุ่นที่ระอุอยู่ในใจของผมลดลงแม้แต่น้อย พวกพี่สามเห็นเขากับน้องเป็นอะไร ของเล่นงั้นเหรอ จะมาเล่นเมื่อไหร่ก็ได้งั้นเหรอ คิดว่าเขากับน้องไม่มีหัวใจเลยใช่ไหม ผมกัดปากที่สั่นระริกเอาไว้ น้ำตาปริ่มๆ จะไหลแต่ผมก็พยายามจะฝืน ทุกคำบอกเล่ามันล้วนแต่ทรมานแชะหดหู่หัวใจผมเหลือเกิน
“พี่สามทำแบบนี้ได้ไงสองผิดหวังมาก”
“มันเป็นของพี่ สองก็รู้ดี” ผมสบตาที่จริงจังของพี่สาม รู้ดี รู้ทุกอย่างว่าพี่สามมั่นคงกับน้องมาตลอด จริงใจกับน้องมาตลอดแต่ผมคิดว่า แผนที่พี่สามทำมันขึ้นมา มันดูจะเห็นแก่ตัวเกินไป มันดูไม่ยุติธรรมกับน้องเลย ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนเริ่มปัญหาทั้งหมด แต่ก็ไม่อยากให้มันจบแบบนี้
หางตาของผมเห็นน้องขยับตัวตื่น ผมรีบขยับดันร่างของพี่สามออกให้ห่างไม่ยอมให้มาขวางผมได้อีก น้องบาสใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บจากเบื้องล่าง
“โอ้ย!!!”
“เป็นไงบ้าง อย่าเพิ่งรีบลุกสิ” พี่สามถลารีบไปพยุงน้องขึ้นมานั่งด้วยความเป็นห่วง เห็นแววตาผมก็พอจะรู้แล้ว แต่น้องกลับตวัดสายตาเขียวปั๊ดมามองด้วยความไม่พอใจ ไหนจะแรงสะบัดตัวออกจากความช่วยเหลือของพี่สามอีก เล่นเอาคนเป็นพี่ของเชาชะงักไปเลย
“ปล่อย!!อย่ามาจับ!!”
“อย่าดิ้นมากสิครับ เดี๋ยวก็เจ็บกว่าเดิมหรอก” ยังเนียนไม่รู้สึกรู้สาอะไรได้อีก ผมจึฃต้องแทรกเข้าไปกลางวงเพราะเป็นห่วงน้องเหลือเกิน
“พี่สามถอยไป!!สองจะพาน้องกลับบ้าน” พี่สามตวัดสายตามองผมด้วยความไม่พอใจ
“ไม่ต้อง สองกลับบ้านไป พี่จะพาน้องกลับเอง” ผมได้แต่มองแววตาขุ่นเคืองของพี่สามด้วยความหนักใจ นี่ไม่รู้เลยเหรอว่าทำน้องมันกลัวจนตัวสั่นไปหมดแล้ว แววตาของน้องที่ส่งมาให้ผม มันราวกับกำลังขอร้องและ อ้อนวอนให้ผมพาเขาออกไปจากที่นี่เสียที
“แต่น้องกำลังเจ็บสองจะพากลับเอง!!”
“ครับๆ เข้าใจแล้วครับ” เหมือนพี่สามผู้แสนจะฉลาดของผมจะคิดอะไรได้ ถึงทำทีท่าว่ายอมแพ้ให้ผมพาน้องกลับไปได้ มันตะหงิดๆ คันยุบๆ ยิบๆ ในหัวใจยังไงไม่รู้สิ มันต้องมีอะไรแน่ๆ
หมับ!!
“พี่สอง ผมอยากกลับบ้าน พาผมกลับบ้านนะครับ” เสียงน้องอู้อี้อยู่กับแผ่นหลังของผม แขนทั้งสองยังคงโอบกอดผมเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าผมจะหายไปตัวเล็กๆ ที่สั่นระริกทำให้ผมต้องหันไปลูบหัวเขาอย่างปลอบประโลม
“ครับเดี๋ยวพี่จะพาเรากลับบ้านนะ”
ผมค่อยๆ ดึงน้องขึ้นและพยุงน้องให้เดินออกจากห้องตรวจของพี่สามออกมา น้องเจ็บถึงได้เดินช้า และผมไม่เร่งรีบอะไร แม้ว่าจะมีสายตาคู่นั้นของพี่หมอวินจับจ้องไม่วางตาก็ตามที ผมพาน้องขึ้นรถขับออกไปจุดหมายปลายทางของเราคือ บ้านของบาส ตลอดทางน้องตาแดงก่ำ จมูกเองก็แดงจนน่าสงสาร ผมรู้เวลาอยากร้องไห้ มันก็ต้องร้องออกมา ผมเหลือบมองน้องเป็นพักๆ ขยับมือไปลูบหัวทุยๆ เบาๆ เพียงแค่ผมสัมผัสน้อง น้องก็ร้องไห้โฮอย่างสุดกลั้น นานแล้วที่น้องไม่ได้ร้องไห้ขนาดนี้ผมจำได้ดีวันนั้นที่น้องถูกเพื่อนรังแก เดือดร้อนผมต้องไปจัดการให้น้องบาสตัวนิดเดียว อีกคนตัวใหญ่กว่าแต่มารังแกน้องแบบนี้ผมยอมไม่ได้
ผมค่อยๆ ชะลอรถจนมันจอดสนิทอยู่หน้าบ้านน้อง แต่น้องยังคงเหม่อลอยพร้อมกับคราบน้ำตาที่เปื้อนแก้มใสๆ ผมอยากรู้ว่าน้องคิดอะไร แต่มันคงเป็นไปไม่ได้น้องคงไม่มีทางบอกผมแน่ๆ
“ถึงบ้านแล้วล่ะ”น้องหันมามองผมก่อนจะหันออกไปมองบ้านตัวเอง
“นั่นสินะครับ”ไม่อยากกลับบ้ายเหรอทำไมผมรู้สึกว่าน้องไม่ดีใจเลย เหมือนน้องคาใจอะไรสักอย่างแต่ไม่พูดออกมา
“พี่สอง....”น้องเรียกผมด้วยเสียงเรียบๆ
“ครับว่าไง” น้องกัดปากตัวเองแน่น ราวกับกำลังชั่งใจว่าจะพูดดีไหม
“อย่าเพิ่งบอกพ่อกับแม่ผม ได้ไหมครับ” ผมนิ่งเมื่อได้ยินคำขอร้องของน้องไม่ใช่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่มันอดไม่ได้ที่จะถามจึงถอนหายใจออกไป
“ถ้างั้น.....เราบอกพี่มาสิว่าทำไมไม่ให้พี่บอกท่านทั้งสอง”
“ผมไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่ตัวผมเองก็เป็นผู้ชาย ไม่เสียหายอะไรขนาดนั้น ให้เรื่องมันจบๆ ไปเถอะครับ”
ผมพยายามจับอาการน้อง แต่น้องมีแต่ความไม่เข้าใจและไม่แน่ใจ กับความรู้สึกที่บ่งบอกว่า มันคงจบแล้วเหมือนการเยาะเย้ยตัวเองที่แผ่ออกมานี่แหละที่ผมไม่เข้าใจ เพราะดูยังไงๆ พี่สามคงไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆ แน่
“กลับมาแล้วเหรอคะลูก อ้าว!! หนูสอง ทำไมมาด้วยกันได้ละคะ” ผมเดินลงมาส่งน้องให้แน่ใจว่าปลอดภัยจนมาเจอคุณแม่ของน้องเข้า น้องมองผมด้วยแววตาขอร้องแกมบังคับไม่ให้ผมบอกความจริงออกไปผมขึงยิ้มบางๆ ก่อนจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“สวัสดีครับน้าฉาย พอดีผมไปเจอน้องที่คลินิกพี่สามน่ะครับ เลยรับกลับมาพร้อมกัน” ผมพยายามเลี่ยงรายละเอียดที่เหลือ ผมช่วยน้องได้แค่นี้ที่เหลือน้องคงต้องข่วยเหลือตัวเอง
“แล้วเราไปทำอะไรที่คลินิกพี่สามเขาละลูก กลับไปมนิทกันแล้วเหรอ” คุณแม่น้องถามออกมาด้วยความสงสัย ก็แปลกหรอกครับ น้องไม่คุยกับพี่สามมานานหลายปี อยู่ๆ มีคนบอกไปเจอที่คลินิกพี่สามใครบ้างจะไม่สงสัย
“เปล่าครับแม่ พอดีเพื่อนผมมันแกล้งเอาผมไปทิ้งไว้ที่คลินิกพี่สาม ผมเลยติดรถพี่สองกลับบ้านมาด้วย” เหมือนน้าฉายจะเชื่อ เพราะเห็นคุณแม่ตัวเองวางใจไม่สงสัยอะไรอีก น้องบาสถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ถ้างั้นคุณน้าฉายครับผมลากลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ” ผมยกมือขึ้นไหว้ลาน้าฉายอย่าฃนอบน้อม
“อ๊ะ สวัสดีจ้ะ ว่างๆ ก็มาเล่นที่บ้านน้าบ้างนะคะ น้าคิดถึ๊งคิดถึง”ผมอดยิ้มกว้างออกมาไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ความรักและความเอ็นดูที่น้าฉายมีให้ครอบครัวผมก็เคยเปลี่ยนแปลง
“ครับน้าฉาย”
“พี่ไปก่อนนะบาส”น้องพยักหน้าส่งยิ้มให้ผมบางๆเหมือนทุกครั้ง แววตาที่มองมาเหมือนจะเอ่ยขอบคุณทุกๆ อย่าง
“ครับพี่สอง ขับรถดีๆ นะครับพี่” ผมถึงกับหัวเราะเสียงดังกับคำกล่าวลาของน้อง สงสัยเจ้าน้องชายผมคนนี้จะลืมไปว่าบ้านอยู่อยู่ติดกับบ้านของตัวเอง
“ฮ่าๆ แค่บ้านข้างๆ พี่คงไม่ต้องขับดีๆ ก็ได้มั้ง” น้องหน้าแดงซ่านเมื่อนึกขึ้นได้ น้องในวันนั้นน่ารักยังไงก็ยังน่ารักเหมือนเคย แค่ตอนนี้สายตาที่ผมมองน้องมันต่างออกไปดีแล้วล่ะ ดีแล้วที่พี่ไม่ได้รักบาสแบบนั้นอีกแล้ว
“ทุกคนแกล้งผม!!”ผมละไม่เข้าใจจริงๆวันก่อนน้องบอกผมว่าอย่าบอกพ่อกับแม่ พอวันนี้กลับคืนดีกับพี่สามง่ายๆ ซะงั้นอะไรเนี่ย!! ผมงงกับน้องจริงๆ แต่ถึงจะสงสัยอะไรมากมาย แต่ผมก็ได้แต่ยิ้มให้กับทั้งคู่อย่างจริงใจเฮ้อ.......ลงเอยกันสักที นี่แม่ผมยิ้มหน้าบานมากเมื่อรู้ว่าจะได้น้องมาเป็นสะใภ้ทั้งกอดทั้งโอ๋ มีหันไปดุพี่สามที่ไม่ยอมปล่อยให้น้องมานั่งข้างแม่ด้วย น้องก็แสนจะน่าเอ็นดูส่งยิ้มเขินๆ ให้กับสายตาล้อเลียนของพ่อที่มองมาจนคนขี้หวงอย่างพี่สามกอดน้องจนจมหายไปกับอกอะไรมันจะหวงขนาดนั้น
พอคุยเรื่องสินสอดงานต่งงานแต่งกันเสร็จ พี่สามก็ไปส่งน้องที่บ้าน กว่าจะส่งกันเรียบร้อยผมเห็นพี่สามมันล่ำลาเหมือนจะจากกันไปอีกสักสิบยี่สิบปีอ้อยอิ่งเหลือเกินจริงๆ หมั่นใส้มากครับ
“ไงพี่สาม พร้อมไปรบยังครับ”
“รบอะไร พี่ไม่ได้ไปรบสักหน่อย” ผมเบ้ปากด้วยความหมั่นใส้
“เห็นอ้อยอิ่งลาน้องเหมือนจะไปออกรบสักยี่สิบปี” พี่สามได้แต่ยิ้มมองผมด้วยแววตาล้อเลียน
“หึหึ......อิจฉา?”
“จะบ้าเหรอพี่สาม!!! ผมจะไปอิจฉาพี่ทำไม” โว๊ะผมเหมือนอิจฉาตรงไหนเนี่ย
“เออๆ ไม่อิจฉาก็ไม่อิจฉา วันนี้ไปคลินิกกับพี่หน่อยสิ” ผมรีบหันขวับไปมองหน้าพี่สามด้วยแววตาขุ่นเคือง
“ไปทำไม!!” ผมไม่ธุระอะไรที่นั่นด้วยซ้ำคงไม่ได้คิดจะหลอกผมให้ไปเจอพี่หมอวินหรอกนะ
“ก็รู้ใช่ไหมว่าคนไข้ของพี่ แต่ละคนจ้องแต่จะ.......กับพี่ทั้งนั้น”ผมชะงักมองสบสายตาของพี่ชายที่เต็มไปด้วยความจริงจัง
“ก็รู้ครับ” ผมถอนหายใจเมื่อนึกถึงสภาพพี่สามที่จะต้องบริการทางเพศให้คนพวกนั้นสรุปนี่หรือคลินิกหรือซ่องของผู้ชายขายน้ำเนี่ย!
“นั่นล่ะ........พี่เลยอยากให้สองไปช่วยกันคนไข้แบบนั้น ให้พี่หน่อย”
“......” ไม่อยากไปอ่ะ ปฏิเสธได้ไหมเนี่ย
“หรือเรากลัวว่าจะเจอไอวิน”
“ผมไม่ได้กลัว”
“ไม่ได้กลัวแล้ว..........”
“เออ!! ผมไปก็ได้ ไม่เห็นจะกลัวตรงไหนเลย!” ผมเดินปั้นปึ่งขึ้นไปนั่งรอพี่สามบนรถอารมณ์ไม่ดี ไม่อยากขับรถ กลัวชนใครเขาตาย เพราะงั้น ให้พี่สามขับไปแล้วผมนั่งไปด้วยคือวิธีแก้ที่ดีที่สุดแต่พี่สามนะพี่สาม พูดมาได้ไงว่าผมกลัวพี่หมอวิน คนแบบนั้นน่ากลัวตรงไหนไอสองคนนี้ ไม่มีทางกลัวอยู่แล้ว!!!! เดี๋ยวจะเดินชิวๆ ผ่านหน้าให้ดูเลยก็ได้
พอตัวรถจอดลงหน้าคลินิก ผมก็ลงจากรถแล้วเดินไปพร้อมพี่สาม
“คุณหมอสาม สวัสดีค่ะ มาแต่เช้าเลยนะคะ” ใครอ่ะสวยจัง
“ดีครับคุณสาว สวยทุกวันเลยนะครับเนี่ย” ว้าวไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณสาวจะสวยได้ขนาดนี้ แฟนเพื่อนพี่สามคนไหนหรือเปล่าน๊า~พอเผลอคิดแบบนั้น หน้าของพี่วินก็ลอยเข้ามาหรือเธอคนนี้จะเป็นผู้หญิงของพี่หมอวินอีกคน ผมเผลอกลั้นหายใจไปชั่วขณะ มองใบหน้าสวยของคุณสาวที่ยังคงส่งรอยยิ้มให้พี่ชายผมก่อนจะหันมายิ้มให้ผมอีกคน
“สวัสดีค่ะ น้องชายของคุณหมอสามใช่ไหมคะเนี่ย” ผมฝืนยิ้มส่งกลับไปให้เธอ
“ครับ สวัสดีครับ พี่สาว” ผมควรจะเรียกแบบนี้สินะเพราะดูเธอเองก็ชอบดูจากใบหน้าที่ฉายแววเอ็นดูผมออกมา
“จะมานั่งกับพี่ไหมคะ ยังไงก็คงเข้่ไปร่วมตรวจกับคุณหมอไม่ได้อยู่แล้วดีไหมคะ จะได้ไม่เบื่อ” ผมเลิกคิ้วถามด้วยสวยตาขุ่นเคืองเมื่อรู้ตัวแล้วว่าถูกหลอกให้มาที่นี่ แถมถูกพี่สาวดึงไว้แบบนี้ผมจะกลับมันก็ดูจะน่าเกลียดจึงได้แต่แยกเขี้ยวให้ตัวการที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่ผม
“ครับ เอาแบบนั้นก็ได้ครับ พี่สาว”
“ดีเลยค่ะ มีน้องชายน่ารักๆ อยู่ด้วยแบบนี้ พี่คงไม่เหงาแล้ว”
สรุปแล้วผมอยู่กับพี่สาวครับ ส่วนพี่สามก็กลับเข้าไปยังห้องตรวจตัวเองผมเห็นพี่หมอแต่ละคนเดินเข้ามา รัศมีความหล่อนี่ฉายมาตั้งแต่ก้าวเข้ามาเลยอิจฉาจริงๆ นะ ผมอยากจะตัวสูงให้ได้ครึ่งหนึ่งของพี่ภพ สมาร์ทให้ได้เหมือนพี่เสือ และยิ้มจนสาวๆละลายได้อย่างพี่เดล โอ้ยยยย ผมอยากได้!!!!!!!
“สอง........” ผมหลุดออกจากความเพ้อฝันก่อนจะหันไปมองตามเสียงคุ้นเคยที่เรียกชื่อผม
พี่หมอวิน
“ครับ” ผมแค่ตอบรับเสียงเรียกเท่านั้นไม่ได้ให้ความสนใจพี่หมอวินมากไปกว่านั้น ดูจากสีหน้าก็รู้ คงตกใจที่ผมอยู่ที่นี่ หรือตกใจที่ผมอยู่ข้างผู้หญิงของเขากันแน่นะผมเองก็เดาไม่ออก
“เอ่อ......คุณหมอมีอะไรให้สาวช่วยหรือเปล่าคะ” หือ?? ทำไมพี่สาวพูดกับแฟนตัวเองแบบนี้อ่ะ
“ไม่ครับ ผมเพียงสงสัย ว่าทำไมสองถึงมาอยู่ที่นี่” คิ้วผมกระตุกกับคำถามที่ออกมาจากปากพี่หมอวินนี่คือจะสื่อว่าผมไม่ควรจะมาสินะ
“เดี๋ยวอีกสักพักผมคงกลับอ่ะครับ ไม่ได้คิดจะอยู่นาน” ผมปรายตามองสื่อความหมายให้รู้ว่าผมไม่ได้อยากจะมาอยู่ที่นี่จริงๆ ความไม่พอใจเกิดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ผมรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าด้วยรองเท้าจนหน้าชา อับอายขายขี้หน้ามาก
“เปล่า......พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” หึ......แก้ตัวไปมันก็เท่านั้น
“อ่า.....ครับ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกเฉยๆ ว่า ผมคงไม่อยู่นาน”พี่สาวข้างๆ ผมเธอลุกลี้ลุกลนราวกับว่าการที่ผมสองคนเถียงกันมันเป็นหายนะที่จะมาถล่มคลินิกผมเห็นพี่หมอวินถอนหายใจพยายามจะมองตาผม แต่ผมไม่อยากมองแววตาคู่นั้น กลัวใจตัวเองจะสั่นไหวเพราะมันอีก
“พี่ขอโทษครับ ถ้าทำให้สองเข้าใจผิด”
“......”
“แต่พี่ดีใจที่เห็นสองที่นี่ จะดีใจมากกว่านี้ ถ้าเห็นสองทุกวัน”
ผมเม้มริมฝีปากแน่น กลัวว่าจะเผลอยิ้มออกมาจนอีกฝ่ายได้ใจ พี่สาวมองผมสลับกับพี่หมอวินด้วยแววตาพราวระยับจนพี่หมอวินเดินไปเข้าประจำห้องตรวจของตัวเอง
“อะไรครับพี่สาว” ผมถามเพราะเห็นแววตาที่พราวระยับมองผมไม่วางตาเขินนะ เจอคนสวยๆ มองแบบนี้
“ยังไงเอ่ย.......กับหมอวินนี่ยังไงคะน้องสอง” ผมหลบสายตาของพี่สาวด้วยความเคอะเขิน
“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ พี่หมอวินเป็นเพื่อนพี่ชายผม แค่นั้น”
“แค่นั้น???”
“แค่นั้นสิครับ” พี่สาวไม่ได้ถามอะไรต่อแค่เพียงยิ้มล้อเลียนเท่านั้นผมได้แต่อายจนหน้าแดง ทำทีมองไปนอกคลินิกที่คนไข้ทยอยเข้ามา
โอ้แม้เจ้า!!!!!
แต่ละคนที่เดินเฉิดฉายเข้ามานี่ เหมือนมาหาผัว ไม่ได้มารักษาไม่แปลกใจเลยที่พี่ชายผมจะเคยนอนกับคนไข้ เป็นผมนะ แต่งตัวมาขนาดนี้ผมฉุดเข้าข้างทางตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วครับ ยั่วเสียเหลือเกินแต่ละคนกางเกงถ้าจะสั้นขนาดนั้น ถอดออกแล้วแก้ผ้าเถอะ บางคนแค่สั้นไม่พอ รัดจนนูนออกมาหือ ก็ผู้ชายไงครับ คิดว่าผู้หญิงเหรอ โน้นเลยครับ ผู้หญิงเธอนุ่งสั้นขนาดที่อย่าให้เธอก้มเพราะมันก็คงไม่เหลือ ผมถึงบอกไงครับแต่ละคนเหมือนแต่งตัวมาเพื่อหาผัว ไม่ใช่มารักษาโรค
“เอ่อ ขอโทษนะครับ ผมอยากจะฝากขนมให้คุณหมอสพลหน่อยได้ไหมครับ”หือ?? ให้พี่สามเหรอผมเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่น่าเอ็นดู แต่การแต่งตัวไม่ต่างจากพวกนั้นพี่สาวเอื้อมมือไปรับมาแทนผม
“ค่ะ จะบอกคุณหมอให้นะคะ” อีกฝ่ายยิ้มให้พอเป็นพิธีผมไม่เข้าใจเลย ในเมื่อเอามาให้พี่สามแล้วทำไมไม่ให้เองล่ะ
“ทำไมเขาต้องมาฝากไว้ด้วยละครับ ให้เองง่ายกว่าอีก” ผมไม่เข้าใจเลย
“เพราะมันเป็นกฎค่ะ ที่นี่มีกฎอยู่นะคะถึงจะรักษากับหมอตอดนิดตอดหน่อยได้ แต่ก็มีกฎที่ต้องทำตามอยู่” ผมพยักหน้าเข้าใจกฎสินะ ของแบบนี้ก็มีด้วยแหะ
ผมมองขนมสีสวยในกล่องใสที่เขาเอามาฝากไว้ ทำไมท้องผมร้องก็ไม่รู้แต่สีของมาการองทำให้กระเพาะผมทำงานอย่างหนัก ข้าวที่กินมาก่อนหน้านี้ย่อยหมดแล้วครับน้ำลายแทบจะไหล เอาน่า ของพี่ชายผมเอง คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
ง่ำๆ หูย อร่อย นุ่มลิ้น หวานกำลังดี
“ตายแล้ว!!!! น้องสอง!!! ทานไม่ได้นะคะ!!” ผมถูกกระชากเอาขนมออกไปไกลจนหน้าเหวอ
“ตะ แต่ เขาเอามาให้พี่สามนี่ครับ ผมกินนิดหน่อยพี่สามไม่ว่าหรอก”
“ไม่ได้ค่ะๆ ที่พี่ไม่ให้ทานไม่ใช่เพราะกลัวหมอสามจะมาว่าน้องสองนะคะแต่เพราะ.......” พี่สาวทำหน้าลำบากใจก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปยังห้องตรวจของพี่สาม
“อะไรอ่ะ นิดหน่อยเอง” ผมได้แต่บ่นกระปริบกระปอยนั่งอยู่คนเดียว ตากแอร์เล่นมองสาวๆ และหนุ่มๆ แต่ฃตัวเตรียมเข้าตรวจกับหมอหน้าห้องตรวจต่างๆ
ทำไมร้อนอย่างนี้วะ หรือแอร์จะเสีย
เหงื่อค่อยๆ ผุด ร่างกายเริ่มร้อนจากข้างใน เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ผมกระสับกระส่ายนั่งไม่ติดเก้าอี้เห็นพี่สาวและพี่สามรีบเดอนมาทางผม
“สอง เป็นไงบ้าง!!” ผมรู้สึกตาพร่าเลือนไปหมดพยายามดึงสติกลับมาให้มากที่สุด ทรมาน ร้อน ผมอย่กถอดเสื้ออ่ะ
“อื้อ สองร้อน พี่สาม ทำไมร้อนอ่ะ แอร์เสียเหรอ” มือของผมป่ายไปตามตัวเพื่อจะปลดกระดุมเสื้อออกแต่มือของพี่สามจับผมไว้แน่น
“สองอย่า หยุดก่อน อย่าถอด ตรงนี้ไม่ได้!!” ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรมันร้อนจนพยายามจะถอดออกให้หมด เผื่อมันจะคลายร้อนได้บ้าง
“คุณสาว รบกวนเรียกไอวินให้ผมหน่อย” อื้อเรียกทำไมอ่ะ ผมไม่อยากเจอ
“ไม่เอา พี่สาม สองไม่อยากเจอเขา สองร้อน สองอยากถอดเสื้อ”
“เกิดอะไรขึ้นวะไอสาม สองเป็นอะไร” มาทำไมไม่อยากเห็นหน้า
“กลับ กลับบ้าน สองอยากกลับบ้าน”
“สงสัยโดนวางยา เห็นคุณสาวบอกว่ามีคนฝากขนมให้กูแล้วสองมันเอาไปกินมึงไปเคลียร์ห้อง เคลียร์คนไข้ให้เรียบร้อย”
“ได้ๆ เดี๋ยวกูมา”
ในหัวผมมันเบลอไปหมด รู้แค่ตัวผมเองดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของพี่สามด้วยความทรมานไม่ไหวแล้ว ทำไมลูกชายผมตั้งขึ้นมา มันปวดจนแทบจะนะเบิดอยู่แล้ว
อยากปลดปล่อย
“เรียบร้อยแล้ว ส่งน้องมา กูอุ้มเอง”
ร่างผมลอยขึ้นจากพื้น ถ้าเป็นปกติผมคงลงไม้ลงมือกับพี่หมอวินไปแล้ว แต่ตอนนี้ผมร้อนไปทั้งตัวอยากปลดปล่อย อยากจะถอดเสื้อผ้าออกให้ผม รู้สึกแปลกจน.........อยากร่วมรักกับคนตรงหน้าผมหอบหายใจยิ่งขึ้นเมื่อได้กลิ่นหอมจากคนที่โอบอุ้มร่างของผมอยู่ ฝีเท้าของพี่หมอวินเร่งมากขึ้นเหมือนพี่หมอจะรู้ว่าผมเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว ตัวตนใต้กางเกงของผมดันจนคับแน่นไปหมดเสียววูบไปทั่วทั้งท้องน้อย
“กูฝากน้องด้วย หวังว่ามึง......จะไม่ทำให้กูผิดหวัง”
“กูสัญญา!” หูผมได้ยินเสียงของพี่สามและหมอวินอย่างชัดเจนแต่ทุกอย่างเลื้อหน้าเบลอไปหมด เพียงแต่หูผมยังได้ยินเสียงปิดและลงกลอนประตูพี่หมอวินทำอะไร ถึงแม้จะเกิดคำถามแต่ความทุรนทุรายที่เกิดขึ้นกับร่างกายทำให้ผมเลิกสนใจ มือป่ายไปทั่วปลดกระดุมออกจนหมดแต่ก็ไม่หายร้อน ความต้องการพวยพุ่งขึ้นมาจนผมต้องปลดเข็มขัดกางเกงออกพร้อมชั้นในใช้มือทั้งสองข้างกอบกุมตัวตนของตัวเองเอาไว้รูดรั้งมันเป็นจังหวะ
“อ๊ะ อื้ม”
“สอง.......” ผมไม่สนใจนาทีนี้ต่อให้คนอยู่ในห้องเป็นสิบ ผมก็คงจะยั้งตัวเองไม่ได้อีกแล้ว
“สองครับ อย่ายั่วพี่”
อยากจะลืมตาขึ้นมองแต่ที่ทำได้คือแค่ปรือตาเท่านั้น ความร้อนแผ่กระจายไปทั้งร่างทรมานเหลือเกิน ยิ่งความรู้สึกมีมากขึ้นเท่าไหร่ ความเร็วที่ขยับมืออยู่ยิ่งเร่งมากขึ้น
“อื้อ อย่า ทำอะไร!!”
พี่หมอวินปัดมือผมออกก่อนจะรวบเจ้าหนูน้อยที่ตื่นขึ้นมาผงกหัวทักทายเข้ามาไว้ในมือแทนผมว่าทำเองเสียวแล้วนะ พี่หมอวินทำให้ยิ่งโคตรเสียว
“พี่ทำให้นะ ให้พี่ช่วยสองนะครับ”
ไม่!!
เสียงในหัวใจสั่งให้พูดออกไป แต่ร่างกายกลับขยับตอบรับอย่างพอใจ มือทั้งสองของผมกำแขนเสื้อพี่หมอวินแน่นกัดปิดฝีปากระงับเสียงครางที่น่าอายเอาไว้ จนพี่หมอวินต้องก้มลงมาดูดดึงมันเอาไว้เองเพราะกลัวว่าผมจะเผลอกัดจนเลือดไหล
“อื้อๆ อ๊ะ เร็วอีก จะไปแล้ว อ๊า”
“สอง.....พี่รักสองนะครับ รักมาก”
ผมหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนเมื่อปลดปล่อยออกไปจนเลอะมือใหญ่ของพี่หมอวินถามว่าผมได้ยินไหม แน่นอนครับ ผมได้ยินอย่างชัดเจน แต่ที่ไม่ยอมตอบกลับไปเพราะผมเบลอจนคิดไม่ออกเลยว่าพี่หมอวินพูดมันจริงๆ หรือยังไงกันแน่ แต่จู่ๆ ปลายนิ้วก็ล่วงล้ำเข้ามาในร่างของผมจนผมเกร็งด้วยความตกใจ
“ทะ ทำอะไร อย่านะ!! อ๊ะ อ๊า”
มันมาอีกแล้ว
ความรู้สึกร้อนวูบวาบที่แสนทรมานอย่างเมื่อครู่จู่โจมผมอีกแล้วจากดิ้นรนจึงกลายเป็นตอบรับ ขยับสะโพกเป็นจังหวะตามที่ปลายนิ้วชักนำ
“ยังเปียกไม่พอ แบบนี้พี่เข้าไม่ได้แน่ๆ” เข้า??เข้าอะไร
“อ๊ะ หยุดนะ ทำอะไร ไม่!!!”
ความชื้นและความสากจากปลายลิ้นของพี่หมอวินทำให้ผมสะดุ้งเผลอแอ่นตัวขึ้นด้วยคสามรู้สึกแปลกใหม่พี่หมอวินกำลังเลียที่นั้น ไม่จริง มันสกปรกนะ ผมอยากจะขยับหนี แต่ทำได้แค่ส่ายสะโพกหนีปลายลิ้นที่ช่างตื้อนั่นมันไม่ช่วยเลย สุดท้ายจากที่ไล่เลียเพียงด้านนอกกลายเป็นสอดแทรกลิ้นร้อนเข้ามาข้างในจนผมต้องจิกทึ้งผ้าปูด้วยความเสียวซ่าน
ปากหอบหายใจและเปล่งเสียงครางหวานไม่หยุด สะโพกยังคงทำหน้าที่ตอบรับทั้งปากและลิ้นของคนตรงหน้าขนาดตัวตนของผมยังชูชันขึ้นอีกครั้งทั้งที่เพิ่งปลดปล่อยไปไม่นาน ใกล้แล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะปลดปล่อยเต็มที
“อา หวาน อร่อยไปหมด แบบนี้ก็คงได้ที่แล้วล่ะ”
“อื้อ อ๊า!!!!”
บางอย่างที่ใหญ่โต บุกรุกเข้ามาในร่างผมทีละน้อย แต่มันก็เจ็บอยู่ดีฤทธิ์ยามันกลับทำให้ผมเลิกสนใจความเจ็บและส่งเสียงครางหวานราวกับถูกใจ ยิ่งสะโพกของผมที่ยกขึ้นเหมือนต้องการให้พี่หมอวินเข้ามาลึกกว่านี้ทั้งที่มันสั่นไปเวยความเจ็บพี่หมอวินปาดน้ำตาผมที่ไหลรินจากหางตาออกอย่างเบามือ เจายังคงปล่อยความใหญ่โตนั้นเอาไว้นิ่งเพื่อให้ผมชินกับมัน
“ไม่ร้องนะครับ พี่จะทำเบาๆ ฮึ่ม ซี๊ด สองจ๋า อย่ารัดพี่สิคนดี”ผมไม่ได้ทำนะ ผมไม่รู้ตัวว่าทำแบบนั้นเมื่อไหร่ แต่ที่รู้สึกได้ตอนนี้คือความอึดอัดจนแทบจะระเบิดทำไมช้า ทำไมทรมานผม ผมตัดสินใจผลักพี่หมอวินให้นอนลงกับเตียงโดยที่มีผมคล่อมอยู่บนตัวและตัวตนของเขากับช่องทางของผมยังคงเชื่อมต่อกัน
“ซี๊ด ทำอะไรครับ อยากออนท็อปให้พี่เหรอ หืม”
“อ๊ะ ช้า ผะ ผมจะทำเอง”
ผมกัดริมฝีปากขามความเจ็บแล้วกดตัวลงไปจนสุดความยาว ตัวผมสั่นไปหมดเผลอสะอื้นออกมาอย่างไม่รู้ตัวพี่หมอวินลูบหลังอย่างปลอบประโลมก่อนจะวนมาจับสองน้อยที่อยู่เบื้องหน้าขยับชักนำให้ความเสียวซ่านทำให้ผมลืมเลือนความเจ็บมันได้ผล และที่ได้ผลกว่าคือมันทำให้ผมต้องขยับกายขึ้นลงเพื่อให้ช่องทางเสียดสีกับความใหญ่โตด้านใน
“ซี๊ด อา สอง”
พี่หมอวินร้องครางอย่างถูกใจทำให้ผมที่อยู่ในฤทธิ์ยายิ่งหยัดกายขึ้นลงอย่างแรงแม้ว่าจะรู้สึกจุก แต่แรงปรารถนาเรียกร้องให้ตัวเองขยับสะโพกมากขึ้น แท่งรักที่ขยายตัวจนพอคับช่องทางของผมเสียดสีเข้ากับจุดเร้าจนผมต้องแหงนหน้าขึ้นปากก็พร่ำร้องคราง สายตาเบลอไปหมด หูแทบฟังสิ่งใดไม่รู้เรื่อง ได้แต่ปล่อยกายและใจไปตามกามอารมณ์
“ไม่ไหว จะ อื้อ แรงๆ”
“สอง อา สองของพี่ ซี๊ด”
มือทั้งสองข้างของพี่หมอวินจับเอวผมเอาไว้ก่อนที่พี่หมอวินจะสวนสะโพกขึ้นมาอย่างแรงและเร็วจนผมร้องครางไม่เป็นภาษา ใช้มือยันอกแกร่งด้านล่างเอาไว้ยิ่งพี่หมอวินสวนสะโพกขึ้นมาเร็วเท่าไหร่ความเสียวซ่านที่ผมได้รับก็จะถูกระบายด้วยการจิกเล็บลงบนแผ่นอกนั้นจนเกิดรอย
“อ๊า.....แล้ว อื้อ ออกแล้ว อ๊า!!”
“สอง ขอสองเสร็จบ้าง อื้อๆ ๆ”
พี่หมอวินรูดรั้งตัวตนของผมด้วยความเร็ว หวังให้ผมและเขาปลดปล่อยออกมาพร้อมๆกัน สะโพกหนายังไม่หยุดกระแทกขึ้นมา เสียงดังจากการกระทบกันดังระงมจนน่าอาย ความเฉอะแฉะเกิดขึ้นเมื่อพี่หมอวินปลดปล่อยเข้ามาในร่างของผมและผมเองก็ปลดปล่อยออกไปจนแทบจะเวลาเดียวกัน แต่ความต้องการมันยังไม่หมด เมื่อร่างกายผมร้อนขึ้นเรื่อยๆหลังจากปลดปล่อยไปเพียงไม่นาน ทำให้ผมและพี่หมอวินต้องใช้เวลารักษากัรอยู่นานแสนนานจนผมหลับไปด้วยความอ่อนเพลียเมื่อยาหมดฤทธิ์ สัมผัสแผ่วเบาบริเวณผิวแก้มทำให้ผมขมวดคิ้วแต่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาสนใจตอนนี้ แค่นอนพักเท่านั้นคือสิ่งที่ผมต้องการ
“อื้อ!”
ความเย็นจากบางสิ่งที่ถูกนำมาสัมผัสกับผิวกายของผมมันช่างรบกวนการนอนเสียจริงทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมามอง
เพดานห้องผมทำไมแปลกๆ
ผมพยายามนึกย้อนเหตุการณ์ กระพริบตาถี่ๆเมื่อทุกสิ่งเริ่มกลับเข้ามาในสมอง ภาพเหตุการณ์นั้นไม่ใช่ฝันไปผมกับพี่หมอวินมีอะไรกัน แถมผมขึ้นให้ด้วย!!!
ตายๆ ตายแน่ๆ ไอสอง อับอายขายขี้หน้าจริงๆ
“สอง โอเคไหม” คนที่ผมไม่อยากจะเจอที่สุดนั่งลงข้างๆผมพร้อมกับผ้าขนหนูที่เปียกน้ำ สิ่งนี้สินะที่ปลุกผม ผมดึงแขนออกจากการเกาะกุมจนอีกฝ่ายชะงักมองสบตากับผมอย่างไม่เข้าใจ
“เป็นอะไรครับ โกรธอะไรพี่ ถ้าเรื่องนั้นพี่แค่ต้องการจะ.....”
“ช่างมันเถอะครับเรื่องนั้น...” พี่หมอวินยิ้มบางๆอย่างดีใจ
“หมายความว่า”
“หมายความว่า ผมไม่ติดใจอะไร มันก็แค่เซ็กส์เท่านั้นผมไม่คิดอะไรมาก” สีหน้าพี่หมอวินดูขรึมขึ้นทันตา รอยยิ้มที่เคยมีอยู่บนใบหน้าหายไปจนไม่มีเหลือ
“ทำไมพูดแบบนี้ พี่รักสองนะ”
“หึ......ง่ายดีนะครับคำว่ารักที่ออกมาจากปากพี่หมอเนี่ย”
“ง่ายเหรอ.......กี่ปีที่พี่เก็บมันเอาไว้กี่ครั้งที่พี่พยายามจะจีบเรา สองไม่เคยเห็นมันเลยเหรอ” พี่หมอวินมองผมด้วยแววตาตัดพ้อ
“เห็นสิครับ......”
“......”
“ทำไมผมจะไม่เห็นละ การกระทำที่พี่ทำให้ผมคิดแล้วเฉดหัวผมทิ้งเอาไว้กลางทางน่ะผมโคตรจะรับรู้ได้เลย โทรหาสักนิดก็ไม่มี มาหาสักนิดก็ไม่ ไหนจะข่าวที่ว่าพี่หมอวินนอนกับคนไข้ตัวเองแหม......แบบนี้เรียกว่าจีบผมสินะครับ ผมนี่ตื้นตันใจจริงๆ” พี่หมอวินหน้าเสียสายตากำลังสับสน ผมรู้ดีเลยล่ะเรื่องต่างๆ ของพี่หมอน่ะ เพราะเพื่อนๆผมมันเอามาเล่ามาเม้าท์กันไม่หยุด ไอผมแม้จะไม่ได้ร่วมโต๊ะด้วย แต่ก็ได้ยินมาจนแทบจะท่องให้ฟังหรือเอาไปเขียนนิยายได้เลยนะเรื่องคลินิกเวชกามน่ะ
“สอง พี่อยากให้สองฟังพี่สักนิด”
“เอาสิครับ พูดเลยครับ ถ้าคิดว่ามันทำให้อะไรๆ มันเปลี่ยน” พี่หมอได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะขยับมานั่งจ้างๆ ผมบนเตียง
“สองอาจจะคิดว่าพี่มาให้ความหวังแล้วทิ้งขว้างสองไป แต่จริงๆแล้วพี่แค่อยากให้เวลาสองได้ลองคิด ลองเจอผู้คน ลองอะไรใหม่ๆ”
“เหมือนที่ให้กับตัวเอง” พี่หมอวินสะอึกเมื่อเจอผมสวนกลับทันควันด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย
“ไม่ใช่!!” ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างต่องการจะถามว่าแล้วใส่อารมณ์ทำไม ผมคิดว่าคำพูดผมคงไปสะกิดอะไรเข้าถึงทำให้โกรธจนหน้าแดงแบบนี้
“สองจะเอาไง อยากคุยเรื่องนี้จริงๆ ใช่ไหม!! ก็ได้!!”
“.......”
“ที่พี่ห่างไป พี่อยากให้สองเรียน จริง!แต่เหตุผลหลักเพราะพี่ควบคุมตัวเองไม่ได้!!”
“หะ??” ผมหน้าเหวอ งงกับสิ่งที่พี่หมอกำลังบอกควบคุมตัวเองอะไร เกี่ยวอะไรกับผม
“ที่พี่นอนกับคนอื่น ก็เพราะไม่ต้องการทำร้ายสอง”
“อันนี้คงไม่ใช่หรอก ความต้องการของพี่ อย่ามาโยนขี้ให้ผม” ผมเริ่มไม่พอใจขึ้นมาบ้างเมื่อพี่หมอเอาแต่โทษว่าผมผิด มันเป็นเพราะผม เขาทำเพราะผมนอนกับคนอื่นมันจะเพื่อผมได้ยังไง โกหกไม่เนียนเลยสักนิด
“ทำไมจะเกี่ยวกับสอง!! สองจะให้พี่บอกเหรอ!!” พี่หมอจับแขนของผมเอาไว้แน่นในตาสีดำวาววับจนผมหวาดหวั่น
“อะ อะไร บอกอะไร ปล่อยผมนะ!”
“จะให้พี่ไปเจอทุกวัน แล้วหักเลี้ยวรถเข้าโรงแรมแบบนั้นใช่ไหมที่สองต้องการ!!”
“...!!!!” บะ บ้าไปแล้ว พี่หมอวินบ้าไปแล้ว!!!!
“หรือจะให้บอกว่า สองครับ.....พี่อยากจะถอดเสื้อผ้า อยากเอาของๆ พี่ยัดเข้าไปในตัวสองให้ลึกที่สุดอยากทำรอยรักเอาไว้ให้ใครๆ ได้เห็น เอาแบบนี้ใช่ไหม!!!” ตาผมเบิกกว้างเผลอส่ายหัวอย่างรวดเร็วด้วยความหวาดกลัว พี่หมอวินแบบนี้ผมไม่รู้จัก แววตาที่เต็มไปด้วยราคะมันทำให้ผมสั่นไปทั้งตัว
“มะ ไม่ๆ” ผมถูกคนตัวโตรวบตัวเข้าไปกอดเอาไว้ แม้ว่าผมจะขืนตัวและเกร็งเอาไว้ก็ไม่เป็นผลฝ่ามืออุ่นๆ ของพี่หมอวินลูบศีรษะผมเบาๆ ราวกับปลอบขวัญ ผมได่ยินเสียงพี่หมอวินถอนหายใจอยู่หลายครั้งแม้กระทั่งสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ก็ได้ยิน ผมคิดว่าพี่หมอคงกำลังควบคุมอารมณ์ตัวเองอยู่แน่ๆ
“ไม่เป็นไร สองอาจจะไม่พอใจพี่คนเก่าก็ไม่เป็นไร”
“......” ผมผละออกมองสบสายตาที่ทอดมองมาที่ผมด้วยความรักใคร่
“แค่ตอนนี้ สองเข้าใจพี่แล้วใช่ไหมครับ” หืออะ เอ่อ ควรเข้าใจไหมอ่ะ แต่ดูรูปการณ์แล้ว ถ้าผมบอกว่าไม่เข้าใจ คงโดนกดลงบนเตียงแล้วแสดงให้ดูมากกว่าพูดแน่ไเอาเป็นว่าเข้าใจก่อนก็ได้
“คะ ครับ เข้าใจ (ก็ได้) ครับ” ปลายนิ้วของพี่หมอเกลี่ยลงบนแก้มของผมเบาๆริมฝีปากจรดลงบนหน้าผากอย่างรักใคร่ ไม่ใช่ไม่ขัดขืน แต่มันอึ้งจนขยับไม่ได้ผมแพ้รอยยิ้มนี้ แพ้สายตาคู่นี้ แพ้สัมผัสของคนๆ นี้
“ถ้างั้นจากนี้ไป......”
“.......” ผมเผลอกลั้นหายใจเพื่อรอฟังคำพูดของพี่หมอวิน
“พี่ขออนุญาต......จีบสองใหม่อีกครั้งนะครับ” ผมละลายกับรอยยิ้มเทพบุตรที่ถูกพี่หมอวินส่งมาให้ตรงหน้าแข้งขาอ่อนไปหมด (แต่อยู่บนเตียง) มือไม้สั่น(ถูกพี่หมอจับเอาไว้) ตัวผมทั้งร่างแทบจะละลายกลายเป็นน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ไม่ต้องส่องก็เห็น ใบหน้าของผมมันคงแดงก่ำไปถึงใบหูแน่ ทำไมนะ ทำไมชอบยิ้มแบบนี้ทุกทีตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว แล้วไงล่ะ........มันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่ใช่ว่าผม
“ครับ” ผมตอบรับเสียงเบาไม่กล้าสบตาของพี่หมอวินสักนิด ไม่อยากรู้ว่ามันพราวระยับขนาดไหน เอาเถอะแค่จีบเอง ผมจะลองพิสูจน์ความจริงใจจากพี่หมออีกครั้ง และผมหวังว่า ครั้งนี้ พี่หมอคงไม่ทำให้ผมผิดหวังคงไม่ทิ้งๆ ขว้างๆ หัวใจผมเล่นเหมือนหนก่อน อวยพรผมด้วยนะครับ ให้พี่หมอวิน รีบๆจีบผมให้ติดในเร็ววัน เฮ้ออ แพ้อีกแล้วสิเรา
แพ้ความหล่อของเขาจนต้องยกให้ทั้งหัวใจ
The Endวันนี้จะลองดูครบว่ามีคนตามไหมหากไม่มีผมก้อจะหยุดลง
Happy ending อีกหนึ่งคู่ครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณนะครับ ขอบคุงมากมายคค้าบ ขอบคุณมากครับ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกดีนะครับ ตามมาเรื่อยๆเลย อยากให้มาต่ออีก
ขอบคุณครับ ขอบคุณค้าบ เหลือท่านไหนนะ รอตอนต่อไปครับ กว่าจะลงตัวใช้เวลานานเลย อยากอ่านต่อน่ะ อย่าหายไป เนื้อเรื่องน่าติดตาม ขอบคุณครับ ขอบคุณ ซีรี่ย์หมอทำใจละลายทุกห้องตรวจเลย ขอบคุณครับ